ReadyPlanet.com


10-11 พ.ย.55 เตรียมพร้อม"ชุบกาย"เพื่ออยู่ในยุคใหม่ ยุคพระศรีอาริย์


เสาร์+อาทิตย์

ที่ 10-11 พ.ย.55 นี้

เราจะมีกิจกรรม เตรียมพร้อม

การชุบกาย เพื่ออยู่ในยุคใหม่

ยุคพระศรีอาริย์

ด้วยกิจกรรม 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

 

ผู้เข้าร่วมกิจกรรม

Workshop

ทำบุญแรงกาย

(บางคนมีปัจจัย+สิ่งของด้วย)

 

พวกเรา

มีรูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณ

ที่ผุดผ่อง ผุดผาด

จนประหลาดใจ

 

ฝ้า กระ สิว

ผิวไม่มี มีปัญหา

ที่เคยเป็นมาช้านาน

มันหายได้ ดีขึ้นได้มากมาย

รวดเร็ว จนฉงนฉงาย

ว่า

นี่บุญแรงกาย

ที่พวกเรา ทำตามแผน

ของเบื้องบน

ต้อง

ไม่ธรรมดาแน่นอน

 

คนที่ป่วยโรคร้ายๆ

ที่ทุกข์ทรมานมายาวนาน

ก็ส่งสัญญานว่า

จะหายแล้ว

 

ส่วนบางคน

หาย 100 เปอร์เซ็นต์

ในเวลาอันสั้น

 

นี่แสดงว่า

ที่เราเคยอ่าน จ.ม.

เรื่องการชุบกาย ในยุค

พระศรีอาริย์ นั้น

ไม่ใช่เรื่อง งมงาย อีกต่อไป

 

แต่มันเป็นเรื่องจริง

ที่เป็นไปแล้วจริงๆ

 

ไม่ใช่ว่า คิดเอาเอง

หรือคาดเดา ว่าจะจริง

แต่เราเห็นกันจะจะ

ต่อหน้าต่อตา

 

หลังจากที่พวกเรา

ไม่ดื้อ

ทำตามพระบัญชาของพระองค์

ที่ทรงประสงค์ให้ลูกหลาน

พ้นทุกข์ ปลดล๊อกกรรม

 

พวกเราทำกัน

เกือบดี แล้ว แต่ต้องปรับ

เรื่องยกจิตให้สูง

ระดับ

จิตเหนือสำนึก

ให้ได้

 

เพื่อที่จะได้รับโอกาส

เข้าสู่กิจกรรม

ใหม่

"การชุบกาย"

เข้าสู่ยุคพระศรีอาริย์

 

วันเวลา

เร่ง และ ใกล้ เข้ามาแล้ว

 

สัปดาห์ที่ผ่านมา

กิจกรรมสำคัญคือ

1.ปลดล๊อกกรรม ตามแผน

ของเบื้องบน

 

2.บอกสัญญาณภัยพิบัติ

ว่าวันเวลาที่จะเกิด ท่านจะได้รับ

การติดต่อสื่อสารว่า

ให้ไปบ้านสวน ด้วยตัวท่านเอง

เมื่อได้รับสารตอนไหน

ให้ไปตอนนั้น

3.แจกทุน สำหรับ ผู้ที่ยังมี

อุปสรรคทางการงาน การเงิน

เป็นทุนจาก

พระบัญชาพระศรีอาริย์

สำหรับทุกท่านที่ไปบ้านสวน

แล้วมีจิตเมตตา ปรารถนาจะให้

คนอื่น + ตัวเองพ้นทุกข์

 

ต่อมาภายหลัง

ท่านบอกว่า ทุนนี้ ไม่เฉพาะ

คนจนเท่านั้นนะ คนรวย

ท่านก็แจก เพราะ แม้จะรวย

แต่ว่า ยังไม่เคย มีเงิน

จากพระบารมีพระศรีอาริย์

 

เงินของท่าน กับเงินของเรา

การได้มาไม่เหมือนกัน

 

เงินของท่าน

ได้มาจาก การให้ความสุขผู้อื่น

ล้วนๆ ไม่มีกิเลสเจือปน

ได้มาจาก การช่วยเหลือ ปลดเปลื้อง

ทุกข์ให้ผู้คน ดังนั้น

พระองค์ท่านต้องการให้

ลูกหลานทุกคน

ที่ได้มาบ้านสวนพีระมิด

ด้วยตัวเอง

 

ได้รับทุนนี้โดยทั่วกัน

แล้วเงินนี้ บริสุทธิ์ ชอบธรรม

เอาไปกิน เอาไปใช้

ได้ตามอัธยาศัย

ใครตกงาน ใครว่างงาน

ใครรายได้ไม่พอกินไม่พอใช้

ท่านแจกให้ไม่อั้นทุกคน

จนกว่าจะหายจน

จนกว่าจะเบื่อ จะอิ่ม จะพอ

 

แจกตั้งแต่เด็ก ยันคนแก่

แต่มีข้อแม้ว่า

สำหรับคนที่ไปทำบุญ

ไม่ว่า ปัจจัย แรงกาย สิ่งของ

ด้วยตัวเองเท่านั้นนะ

 

จะแจกต่อไปเรื่อยๆ

จนกว่าจะมีบัญชาให้เลิกแจก

 

สัปดาห์นี้

ก็จะแจกอีก สำหรับผู้ได้รับทุน

ไปแล้ว สัปดาห์ที่ผ่านมา

ก็ยังรับได้อีก รับไปเรื่อยๆ

ไม่จำกัด ยกเว้น

ทุนหมด

(แต่ดูแล้วพระศรีอาริย์ท่านรวย

แถมมีท้าวเวสสุวรรณ

ผู้เป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย

เป็นกองหนุน เป็นขุนคลังแก้วอีก)

 

ดังนั้น

ท่านบอกจะให้ลูกหลานท่าน

ที่ทำตามคำสั่งได้

ไม่ดื้อรั้น

"รวยกันให้เข็ด"

 

ดังนั้น

สัปดาห์นี้

ก็จะมี

1.กิจกรรมบุญแรงกาย

(ใครจะร่วมปัจจัย+สิ่งของด้วยก็ทำได้)

 

2.ซ้อมจริง หนีน้ำ ขึ้นที่สูง

 

3.ทำบ้านพักแบบเคลื่อนที่ได้

(วันนี้ ทำบ้านตัวอย่างแล้ว)

 

4.แจกธรรมทาน เอกสาร

เรื่องของตัวเอง และกรุณา

ใส่ชื่อ-สกุลจริง

บอกว่า นำมากี่ชุด ใสชื่อเวปไซด์

บ้านสวน แต่อย่า

สาระแนใส่เบอร์คนอื่น

จะดิ่งนรก

เรื่องของตัวเอง บางคน

ดันให้เบอร์คนอื่นให้คนโทรถาม

นี่มันธรรมทาน หรือ กรรมทาน

ไอ้ที่บอกไม่ทำ ที่ห้าม ที่ไม่บอก

ดันฉลาดทำ

 

ถ้าแน่จริง

ก็ใส่เบอร์ตัวเองสิ

 

(ซึ่งอยู่ในแผนปลดล๊อก+ชุบกาย)

 

5.แจกทุน

ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว

 

6.รวมทุกบุญ อุทิศให้เจ้ากรรม

ถวายเทวดา+พระพุทธเจ้า

ทุกพระองค์

 

7.ขอบารมี 3 ร่มโพธิ์ศรี

ขอมอบกายถวายชีวิตให้

พระศรีอาริย์

พระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 5

ขอชุบกายา

เพื่อความแข็งแรง

ต่อสู้กับทุกสภาวะที่มาเสียดทาน

รวมทั้งภัยพิบัติที่กำลัง

ใกล้เข้ามา ให้ลูกหลานมีกายา

ที่แข็งแรง อดทน

ต่อทุกแรงเสียดทานได้

ให้มีจิตสะอาด สว่างใส

ได้กลับบ้านนิพพานในชาตินี้

 

8.สัปดาห์นี้

จะบอกว่า วันเวลา

ที่จะเกิดภัยพิบัติ การสื่อสาร

ใช้การไม่ได้ เวปใช้ไม่ได้

มือถือใช้ไม่ได้

 

ท่านจะได้รับการสื่อสาร

ด้วยวิธีใด ว่ากำลังมีภัยมา

และจะต้องไปที่ไหน

สัปดาห์นี้

จะบอกให้ละเอียด

(อย่าลืมเตือนนะ)

แต่

นี่เป็นความลับ

ห้ามนำมาเขียนในเวป

 

ใครอย่าเผลอ

สละชีวิตล่ะ

 

 

ใครจะร่วมกิจกรรม

ก็เชิญ

ใครอยู่ไกล มาไม่ได้

ไม่ต้องเสียใจ

 

อ.อุบล

จะขอพระเมตตา

ผู้มีจิตศรัทธา 100 %

ไม่เคลือบแคลงสงสัยในพระองค์

ส่งบุญไปให้ผ่านจิตผ่านใจ

ของทุกท่าน

 

ส่วนท่านที่มี

วัตถุมงคลของบ้านสวน

ได้มาโดยชอบธรรม

จะได้รับการปรับพลังงานบุญ

ใหญ่นี้ ด้วยเช่นกัน

 

ดังนั้น

ท่านไม่ต้องดิ้นรน

ไปบ้านสวนพีระมิด ถ้าอยู่ใกล

 

ยกเว้นไว้

แต่คนที่ไปได้ ไม่เดือดร้อน

และคนที่มีหน้าที่จริงๆ

ถ้าไม่ไป จะเจ็บปวด ร่างกาย

อันนี้ อย่าฝืนบัญชา

 

และคนที่

ต้องรับทุนพระศรีอาริย์

อันนี้ ก็ต้องไปรับเอง

 

เชิญค่ะ

เชิญมาร่วมลงชื่อ

ร่วมกิจกรรม

"ชุบกาย"



ผู้ตั้งกระทู้ อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2012-11-06 11:51:40


<< ก่อนหน้า 1 [2] 3 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 101 (1639457)

 (อาการปวดฟัน)

วันพฤหัสบดีตอนเย็นน้อยกลับจากที่ทำงานแม่บอกว่าแม่

ปวดฟันมากไม่สบายตัวอึดอัดตัวมาก

เดิมทีแม่ไม่กล้าสารภาพบาป

เช่นเคยปวดเอว ตัวบวม น้อยอยากให้แม่บอกว่าเคยทำแท้ง

แต่แม่ยังไปบอกไม่ถูกถึงเหตุที่แท้จริง

แม่กลับตอบว่าเพราะหกล้มที่ห้องน้ำ

น้อยจะช่วยยังงัยดีหนอ

น้อยก็เล้ยบอกแม่ว่าแม่ต้องกล้าสารภาพบาปน่ะเพราะขนาด

ป่วยหนักๆเป็นไข้ทับประจำเดือนยังหาดขาดได้ทันที

น้อยเล้ยให้แม่จ้องมองที่จี้พร้อมเรียกท่านอ.อุบลช่วยด้วย

โปรดช่วยให้หายปวดฟันด้วยเทอญ

แต่อาการของแม่ยังอยู่เฉยๆ

น้อยเล้ยนำรูปภาพท่านอ.อุบลที่อยู่ในกระเป๋าตังค์ออกมา

ให้แม่กราบ 3 ครั้ง แล้วพร้อมเรียกท่านอ.อุบลช่วยด้วย

ให้หายปวดฟันด้วยเทอญ

แม่บอกแม่มีอาการดีขึ้น 30% น่าจะได้

แล้วน้อยก็เล้ยให้แม่สารภาพบาปกับจี้ของน้อยที่ห้อยที่คอ

แต่แม่ก็พูดไปไม่เป็นว่าจะสารภาพบาปยังงั้ย

น้อยก็เล้ยได้กล่าวนำ

ว่าเคยด่าสามี ด่าลูก ด่าหลาน พูดไร้สาระ พูดเพ้อเจอ

ผลปรากฎว่า

อาการปวดฟันดีขึ้นและก็สบายตัวขึ้นมาก

แต่ที่แม่ยังไม่ได้ 100% น้อยก็เล้ยบอกแม่ว่า

เพราะแม่ไม่ได้สำนึกถึงบาปกรรมที่แม่ทำผิดพลาดได้เอง

เพราะน้อยให้แม่สารภาพบาปแม่พูดไม่ได้เล้ย

แต่กลับเป็นน้อยนึกบาปให้แม่พูดตามเองเหมือนไม่ได้สำนึก

จริงๆแต่ว่าแม่ก็รู้สึกหายปวดสบายตัวขึ้นมากแล้ว

เอาแค่นี้ก่อนเนาะแม่เนาะ

แม่ก็เล้ยOK

สบายตัวดูทีวีต่อได้อย่างสบาย

น้อยขอกราบขอบพระคุณพระบารมีท่านอ.อุบล ท่านอ.มงคล

คุณท๊อปและพระบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในบ้านสวนพีระมิดค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-09 04:37:00


ความคิดเห็นที่ 102 (1639458)

ชีวิตก่อนรู้จักบ้านสวนพีระมิด

ชื่อเข้าโรงเรียนนางยุวรัตน์  พันธุวงษ์ ชื่อเล่น น้อย

เป็นชาวจังหวัดอุดรธานีชีวิตก่อนหน้าที่รู้จักบ้านสวนพีระมิดนั้น

ได้ก่อกรรมทำเข็ญไว้มากมายหลายอย่างได้ทำผิดศีลมาทุกข้อ

จนชีวิตย่ำแย่มีปัญหาครอบครัว การงาน การเงิน สุขภาพ

ปัญหาที่ทำงาน ปัญหากับเพื่อนร่วมงาน

เจ็บป่วยเป็นภูมิแพ้(ต้องได้กินยาภูมิแพ้เม็ดสีเหลืองๆเกือบทุกวัน)

แล้วเวลาไปทำงานจะมีอาการเบลอง่วงนอนอยู่บ่อยๆ

เป็นอาการคล้ายๆกับเราไปทำแท้ง

กินยาภูมิแพ้เข้าไปทีไรก็นึกถึงตอนไปทำแท้งทุกที

ว่าลูกก็คงจะทุกข์ทรมานมากกว่าเราอีกหลายร้อยเท่า

มิหน่าเพราะเราชั่ว โง่

ถึงฆ่าลูกตัวเองได้ลงคอ

บาปกรรมถึงได้หนักขนาดนี้

พ่อก็ป่วยหนัก แม่ก็ป่วย น้อยก็ทุกข์ใจม๊ากมานั่งที่ห้องพระชั้นบน

ของบ้านได้นั่งชมรูปหลวงปูุ่ฤาษีลิงดำที่ก่อนหน้าน้อยนึกขึ้น

ในใจเองว่าหลวงปู่ฤาษีลิงดำคือใคร

ก็เล้ยไปค้นหาใน internet ได้รูปหลวงปู่ฤาษีลิงดำมาติดไว้ที่

ห้องพระทันใดนั้นก็มองไปที่รูปเหมือนเห็นหลวงปู่กำลังเทศน์

อยู่ในรูปปากก็ขมุบขมิบแต่น้อยไม่รู้ว่าหลวงปู่พูดอะไร

แต่ชมรูปภาพหลวงปู่แล้วสบายใจ อบอุ่น เหมือนมีคนให้กำลัง

ในความทุกข์ที่น้อยกำลังเผชิญอยู่นี่

วันหยุดน้อยก็เปิดทีวีค้นหารายการไปเรื่อยๆไปเจอรายการคุย

ไปแจกคุยโดยมีท่านอ.อุบลเป็นผู้ดำเนินรายการ

น้อยเห็นครั้งแรกเกิดความศรัทธาทันที

ท่านอ.อุบลพูดอะไรก็น่าฟัง น่าติดตามไปหม๊ด

ความทุกข์ที่น้อยมีเมื่อได้มาดูรายการท่านอ.อุบลแล้ว

มีกำลังใจขึ้นมาต่อสู้กับชีวิต มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก

เหมือนเราได้ชาร์ตแบตเตอรี่มีพลังงานมาที่ตัวเอง

ความทุกข์ที่มีเหมือนเบาบางลง

ท่านอ.อุบลไม่ใช่พระแต่ทำไม

ถึงพูดธรรมะของพุทธเจ้า

ได้เข้าใจง่ายใช้ภาษาง่ายๆ คนบ้านๆ ลูกอีสานอย่างน้อย

ฟังแล้วรู้สึกเข้าใจได้ทันที

ทำให้น้อยได้เข้าใจถึงการรักษาศีล

และธรรมะอย่างอื่นที่ท่านอ.อุบล

ได้กล่าวถึงมีความเข้าใจมากขึ้นชวนติดตามเรื่อยๆ

อาทิตย์ไหนไม่ได้ดูรายการเหมือนชีวิตแย่มาก

อาทิตย์ไหนได้ดูรายการอาจารย์เหมือนมีกำลังใจ

ต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆที่ตัวเองต้องเจอ

น้อยก็ตั้งใจฝึกหัดปฏิบัติตามท่านอ.อุบลค่ะว่า

1.ให้ตั้งใจรักษาศีลห้าตลอดชีวิต

2. ตั้งใจทานมังสวิรัติตลอดชีวิต

ฝึกกินใหม่ๆก็เก๋ๆ กังๆ กินอะไรดีละเรา

มีมะเขือต้นหนึ่งที่ปลูกไว้ที่บ้านมีลูกให้กินได้ตลอดก็เลย

ได้นำมาดัดแปลงเป็นเมนูอาหารตลอดเวลา

แต่แปลกตรงที่มะเขือต้นนี้เลี้ยงคนในบ้านมานานลูกยังดก

และรสชาติอร่อยมาพักหลังเมนูจากมะเขือต้นนี้ก็เล้ยกลายเป็น

เมนูเด็ดประจำบ้านไปแล้วไม่ว่าจะนำมาป่น นำมาผัด

นำมาอ่อม    ก็สุดย๊อดค่ะ

น้อยขอกราบขอบพระคุณท่านอ.อุบล อ.มงคล

คุณท๊อป สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ในบ้านสวนพีระมิดค่ะ

ที่น้อยมีวันนี้ได้ก็เพราะบารมีทุกท่านจริงๆค่ะ

กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-09 04:46:17


ความคิดเห็นที่ 103 (1639460)

 ผลที่ได้รับในปัจจุบัน

ชีวิตเห็นข้อแตกต่างจากเมื่อก่อนมากค่ะไม่ต้องได้กินยาภูมิแพ้

แล้วค่ะไปทำงานก็ไม่ได้ไปนั่งเบลอแล้วแอบไปนอนแล้วค่ะ

ร่างกายถึงแม้ได้นอนไม่มากก็รู้สึกสดชื่น ร่างการแข็งแรงขึ้น

ถึงงานที่ทำงานจะมากหรือยาก

ในจิตของเราก็พร้อมที่จะทำ

ซึ่งเห็นข้อแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก

เมื่อก่อนถ้าเจองานเยอะหรืออยากจะท้อแท้

ที่เห็นชัดๆร่างกายจะสู้ไม่ไหวจะเหนื่อยง่าย

มีปัญญามากขึ้น ความโกรธลดน้อยลง

มีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้นค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-09 05:12:52


ความคิดเห็นที่ 104 (1639461)

บ่อชุบกาย

ของบ้านสวนพีระมิด

น้อยคิดว่าจากที่ร่างกายเราแข็งแรงขึ้น มีจิตใจที่เข้มแข็งขึ้น

เพราะการที่เราได้มาชุบกาย

ที่บ้านสวนพีระมิด

นี่เป็นแน่แท้

โอโห้

น้อยว่าพื้นที่ให้ชุบกาย

ก็คือพื้นที่ทั้งหมดของบ้านสวนพีระมิดนั้นแหละค่ะ

ไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้าง งานทำความสะอาดตกแต่งทุกที

งานเก็บใบ้ไม้ งานเกษตร งานถอนหญ้า ดายหญ้า ขุดคลอง

งานทำความสะอาดห้องครัว งานซ่อมแซมรั้ว

น้อยว่านี่แหละคือบ่อชุบกายเป็นแน่แท้

ฮิ ฮิ ฮิ เดาเอาค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-09 05:18:59


ความคิดเห็นที่ 105 (1639462)

คุณก๊อต คุณพจน์

คุณแมว

น้องจตุพล ไปทุกวันเลยค่ะ

 

ช่วยทุกอย่าง

ไม่เลือกงาน ทั้งจัดเก้าอี้

เสริฟน้ำ เสริฟอาหารว่าง

 

ส่วนแม่ครัวอัม

ก็ทำอาหารมังให้คน

ติดอกติดใจ

กันไปแล้ว

 

อนุโมทนา

ขอคุณความดีนี้

ส่งผล

ให้ทุกคนมีแต่ความสุข

ตราบเข้านิพพานนะคะ

...........................

อนุโมทนากับทุกๆท่านด้วยเช่นกันค่ะ

คงจะเป็นเพราะพวกเรา

มีต้นแบบที่ดีอย่างท่านอาจารย์

 

เพราะท่านอาจารย์ทำให้เห็น

และเป็นให้"ดู"อยู่เป็นประจำ

 

ฉะนั้น  ลูกศิษย์ทุกคน

จึงทำทุกอย่างที่เป็นความดีได้

ด้วยใจที่บริสุทธิ์

และอย่างเป็นอัตโนมัติเช่นนี้ นี่เอง

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-09 05:21:43


ความคิดเห็นที่ 106 (1639464)

 คุณก๊อต คุณพจน์

คุณแมว

น้องจตุพล ไปทุกวันเลยค่ะ 

ช่วยทุกอย่าง

ไม่เลือกงาน ทั้งจัดเก้าอี้

เสริฟน้ำ เสริฟอาหารว่าง 

ส่วนแม่ครัวอัม

ก็ทำอาหารมังให้คน

ติดอกติดใจ

กันไปแล้ว 

อนุโมทนา

ขอคุณความดีนี้

ส่งผล

ให้ทุกคนมีแต่ความสุข

ตราบเข้านิพพานนะคะ

...........................

น้อยเองก็ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ได้เสียสละ

แรงกาย แรงทรัพย์ กำลังใจ ช่วยงานท่านอ.อุบล

ในครั้งนี้เช่นกันนะค่ะ

เลือดนักบุญก็คงเข้าในเส้นเลือดกันทุกท่านแล้ว

น้อยก็ขอส่งกำลังแรงใจไปช่วยอีกแรงค่ะ

ผลบุญใดที่น้อยทำมาขออุทิศให้เทวดารักษาท่านอ.อุบล

และเทวดารักษาทุกๆท่านที่ได้ไปช่วยงานท่านอาจารย์

ขอให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงช่วยงานท่านอาจารย์

จนงานแล้วเสร็จสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีนะค่ะ

และน้อยขอส่งคุณตาสำเภาไปพระนิพพานด้วยคนค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-09 05:27:01


ความคิดเห็นที่ 107 (1639466)

 ท่านอ.อุบลได้เมตตาให้ธรรมทานไว้หลายเรื่อง

แต่สิ่งสำคัญที่ทุกคน

ต้องฝึกฝนตนเอง

เพื่อให้ปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้ด้วยคือ

การให้ทาน รักษาศีล 5 เจริญภาวนา

ต้องทำอย่างตั้งใจและทำดียิ่งๆขึ้นไป

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-09 05:33:41


ความคิดเห็นที่ 108 (1639468)

 ที่ท่านอ.อุบลเมตตากล่าวบอกว่า

จี้องค์เทพสฟิงซ์เป็นอุปกรณ์ช่วยให้เรา

  รักษาศีล 5 ได้บริสุทธิ์

ทำให้เราเกรงกลัวต่อบาปกรรม

ไม่กล้าทำผิดศีล

น้อยเจอกับตัวเองเต็มๆเล้ยค่ะ

เรื่องมีอยู่ว่าน้อยขับรถเข้าในเมืองกับเพื่อนเพื่อนก็ทุกข์

ใจจากหัวหน้างานบ้าง ผู้บริหารบ้าง ลูกน้องบ้าง

เขาก็ระบายเต็มที

เราก็เม้าท์กับเขาเต็มทีเช่นกัน

แต่ในใจเราน่าจะบอกเพื่อนให้หยุดพูดน่ะ

แต่เราก็ไม่กล้าบอกเพื่อนกลับร่วมเม้าท์

ค่ะน้อยกลับถึงบ้านโดนจัดให้เต็มๆเล้ยค่ะ

เหมือนมีใครมาเผาพริกเม็ดเล็กๆ

แล้วกลิ่นเผาพริกเข้าไปที่คอ

อึดอัดคอไม่สบายม๊ากค่ะ

ทำให้น้อยกลัวม๊าก

นึกได้ว่า

เอ้าอีกแล้วไปกับเพื่อนคนนี้ทีไรได้เรื่องทุกที

น้อยก็เล้ยขอขมาพระพุทธเจ้าน้อย

น้อยพลาดไม่เท่าทันกิเลสอีกแล้วเจ้าค่ะ

ทันใดนั้น

อาการเหมือนกลิ่นพริกเผาก็หายไปทันที

และทำให้มีความกลัวที่ต้องโดนพริกมาเผาทีคอ

อีกแล้วค่ะ

กิเลสหนาอย่างน้อยท่านก็จัดหนักอย่างนี้แหละ

ถ้างั้นก็ไม่เข็ดก็เพราะพระเมตตาจริงๆค่ะ

น้อยขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ท่าน

กราบขอบพระคุณท่านอ.อุบลเจ้าค่ะ

กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-09 05:45:08


ความคิดเห็นที่ 109 (1639469)

 ขอเชิญชวนทุกท่านมาฝึกทาน

มังสวิรัตนะค่ะ

ถ้ามาฝึกทานจริงๆแล้วจะอร่อยมากเลยค่ะ

อาหารเหล่านั้นจะซึมซาบเข้าไปในจิตใจ ในกาย เราเล้ยค่ะ

เพราะสังเกตุจากการที่น้อยเข้าไปในตลาด

เดินผ่านร้านเนื้อวัว ร้านขายปลา

จะคาวมากจนไม่อยากเข้าใกล้

จนบอกตัวเองว่าอะไรจะเปลี่ยนได้ขนาดนี้

ที่นี่เราเล้ยไม่นึกอยากกินอาหารเหล่านั้นค่ะ

เพราะมันคาวมาก

ขนาดก่อนหน้ากินแสนจะอร่อย

พอนึกถึงมะเขือต้นที่บ้านโอ้ยค่อยยังชัวหน่อย

ป่น อ่อม ผัด แกงเผ็ด อร่อยสุดย๊อดจนต้องบอกใครๆค่ะ

อาหารมังสวิรัติ

เป็นอาหารที่เราไม่ต้องไปเบียดเบียน

ชีวิตสัตว์อื่น

ใครที่ยังทานเนื้อสัตว์อยู่ต้องรีบตั้งใจเลิกทันทีนะค่ะเพราะ

เวลาเหลือน้อยแล้วถ้ายังไม่เลิกทานเนื้อสัตว์

เมื่อถึงวันที่ภัยพิบัติใหญ่มาถึง

สัตว์เหล่านั้นก็จะมาทวงหนี้กับเรา

และก็สายเกินไปนะค่ะ

มะละกอ ส้ม กล้วย กล้วย ๆๆๆๆๆๆ

รับรองอร่อยทุกอย่างค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-09 05:56:33


ความคิดเห็นที่ 110 (1639470)

สรุปวิธีปฏิบัติของท่านอ.อุบล

เมื่อตื่นนอนอย่าเพิ่งลุกจากเตียงนอนให้สวดมนต์ก่อน

1.นะโมตัสสะ3จบ 2.คาถาปะโตเมตัง 3.คาถาบูชาพระศรีอาริย์

4.คาถาบูชาท่านท้าวเวสสุวรรณ 5.คาถาเงินล้าน

จากนั้นให้วางแผนว่าในวันนี้เราจะทำอะไรบ้าง

วางแผนการทำงานให้เป็นระเบียบ

ทำงานอย่างเต็มที่

ด้วยความสุข

นำมาฝากทุกคนจ๋า

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-09 06:09:13


ความคิดเห็นที่ 111 (1639503)

ขอลงชื่อชุบกายด้วย 1 คน ค่ะ

1.น.ส.วีรดา  อยู่นวล

ผู้แสดงความคิดเห็น วีรดา อยู่นวล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-09 11:09:27


ความคิดเห็นที่ 112 (1639525)

คุณก๊อต คุณพจน์

คุณแมว

น้องจตุพล ไปทุกวันเลยค่ะ 

ช่วยทุกอย่าง

ไม่เลือกงาน ทั้งจัดเก้าอี้

เสริฟน้ำ เสริฟอาหารว่าง 

ส่วนแม่ครัวอัม

ก็ทำอาหารมังให้คน

ติดอกติดใจ

กันไปแล้ว 

อนุโมทนา

ขอคุณความดีนี้

ส่งผล

ให้ทุกคนมีแต่ความสุข

ตราบเข้านิพพานนะคะ

...........................

ลูกขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ได้ไป ช่วยงาน

เพื่อตอบแทนผู้มีพระคุณ ผู้ให้กำเหนิด ท่าน อ.อุบล ในครั้งนี้  

เพราะนี้คือสิ่งที่แสดงถึงความรัก ความกตัญญูที่มีต่อครูบาอาจารย์

ผู้มีพระคุณได้ดีที่สุด ซึ่งมาจากใจ  

 ซึ่งหากไม่มีคุณพ่อก็คงไม่มี อ.อุบล ในวันนี้ 

ซึ่งเป็นผู้ที่ให้ธรรมมะ ให้ชีวิตใหม่ 

ทำให้ลูกบ้านสวน เหมือนเกิดใหม่ มีชีวิตใหม่ที่เบิกบานสดใส เหมือนดอกบัว

  ชีวิตที่เต็มไปด้วยความรัก ความเมตตา ความเสียสละ

ความเห็นอกเห็นใจ  ได้ดวงตาเห็นธรรม

ได้รู้คุณค่าชีวิต สัจจธรรมชีวิต

ได้รู้ว่าศีล 5 ไม่ได้มีแค่ตัวอักษร แค่ 5 บรรทัด

แต่มีรายละเอียดปลีกย่อยที่ละเอียดอ่อน ที่ตัวเองไม่เคยรู้มาก่อน

ที่ทำให้ให้เพลินรู้จักศีล 5 ได้ละเอียดที่สุด

เข้าใจง่าย ทำให้มีกำลังใจ ที่จะทำความดี

เพื่อตอบแทนในความเมตตาของท่านอาจารย์ 

และตั้งใจว่าจะรักษาศีล 5 ให้ได้ตลอดชีวิต

*********

แม้จะมีอุปสรรคในอีกหลาย ๆ ด้าน ทั้งระยะทาง ปัจจัยต่าง ๆ ครอบครัว 

หนูเพลิน ขอส่งกำลังใจไปร่วมงานของคุณตาสำเภาอีกแรงน่ะค่ะ

และขอส่งปัจจัยร่วมทำบุญในบัญชีบุญบ้านสวนด้วยค่ะ

 สาธุ สาธุ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น จิรนันท์ เดิมหมวก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-09 13:04:02


ความคิดเห็นที่ 113 (1639530)

คุณก๊อต คุณพจน์

คุณแมว

น้องจตุพล ไปทุกวันเลยค่ะ 

ช่วยทุกอย่าง

ไม่เลือกงาน ทั้งจัดเก้าอี้

เสริฟน้ำ เสริฟอาหารว่าง 

ส่วนแม่ครัวอัม

ก็ทำอาหารมังให้คน

ติดอกติดใจ

กันไปแล้ว 

อนุโมทนา

ขอคุณความดีนี้

ส่งผล

ให้ทุกคนมีแต่ความสุข

ตราบเข้านิพพานนะคะ

...........................

ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ช่วยงาน

คุณตา ผู้มีพระคุณยิ่ง ผู้ให้กำเหนิดท่านอาจารย์อุบล

อย่างเต็มกำลังค่ะ สาธุ สาธุ ค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-09 13:51:12


ความคิดเห็นที่ 114 (1639559)

คุณก๊อต คุณพจน์

คุณแมว

น้องจตุพล ไปทุกวันเลยค่ะ

ช่วยทุกอย่าง

ไม่เลือกงาน ทั้งจัดเก้าอี้

เสริฟน้ำ เสริฟอาหารว่าง

ส่วนแม่ครัวอัม

ก็ทำอาหารมังให้คน

ติดอกติดใจ

กันไปแล้ว

อนุโมทนา

ขอคุณความดีนี้

ส่งผล

ให้ทุกคนมีแต่ความสุข

ตราบเข้านิพพานนะคะ

...........................

ขอน้อมกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ค่ะ

จริงๆแล้วหนูอยากทำอะไรให้ได้มากกว่านี้

 เพราะที่ผ่านมาหนูเป็นผู้รับความสุข

จากท่านอาจารย์มาโดยตลอด

จนไม่รู้ว่าจะตอบแทนพระคุณของท่านอาจารย์

ได้อย่างไร ครั้งนี้มีโอกาส หนูขอมีส่วนร่วม

ช่วยงานท่านอาจารย์ทุกอย่างเท่าที่จะทำได้

อย่างเต็มกำลังความสามารถเจ้าค่ะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น พรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-09 15:50:37


ความคิดเห็นที่ 115 (1639577)

ขอร่วมไว้อาลัยคุณตาสำเภา แม้ว่าดิฉันจะไม่รู้จักท่านและไม่มีโอกาสไปร่วมในงานของท่าน ก็ขอร่วมน้อมจิตส่งคุณตาสำเภาขึ้นสู่พระนิพพาน  ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ไปร่วมงานและช่วยงานค่ะ

ดิฉันไม่มีโอกาสไปร่วมในงานชุบกาย ในวันเสาร์อาทิตย์นี้ จึงขอน้อมจิตรับบุญกุศลจากอาจารย์อุบล ด้วยค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น จุฑามาส สุขุมวาท ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-09 16:51:33


ความคิดเห็นที่ 116 (1639583)

ขอย้ำนะครับ สำหรับท่านที่จะเข้าร่วมกิจกรรมในสัปดาห์นี้

หากท่านใดที่ประสงค์ที่จะไปร่วมงานพระราชทานเพลิงศพคุณตาสำเภาในวันอาทิตย์ ก็ขอให้เตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสม โดยข้าราชการใส่ชุดขาว บุคคลทั่วไปก็ใส่ชุดสูท หรือชุดสุภาพนะครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-09 17:56:41


ความคิดเห็นที่ 117 (1639605)

 กราบขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับท่านอาจารย์อุบล อ.มงคลและคุณทอปจากการจากไปของคุณตาสำเภาคะ

บุญกุศลที่แนนและนุ๊กได้ทำมาตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาตินี้ขอมอบให้คุณตาสำเภาคะ

แนนและนุ๊กขออนุโมทนาบุญทุกบุญกับทุกท่านที่ได้มีโอกาศช่วยงานของคุณตาคะ

และขอโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ร่วมพิธีชุบกายคะ

สาธุ สาธุ สาธุ คะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปวันรัตน์ ปณัตถ์บุณย์ภวัต ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-09 21:57:30


ความคิดเห็นที่ 118 (1639618)

 

ขอกราบแสดงความเสียใจกับท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว

 

 

ในการจากไปของคุณตาสำเภาอันเป็นที่รักของลูกหลานด้วยค่ะ

..............................

พอดีคุณพ่อป่วยและเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย.ต้องไปดูแลท่านสลับกับทำงาน  เลยไม่ได้ไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพคุณตาสำเภา  ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ไปร่วมงานและร่วมกิจกรรมบุญในวันที่ 10-11 พ.ย.นี้ด้วยค่ะ 

ตั้งใจไว้จะไปร่วมงานพระราชทานเพลิงศพคุณตาสำเภาในวันอาทิตย์นี้ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนกพร เอี่ยมชัย(แป้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-09 23:32:20


ความคิดเห็นที่ 119 (1639636)

โมทนาบุญกับคุณอัม แม่ครัวอาหารมังสาวิรัติ และทีมงาน  น้องก๊อต  +  น้องพจน์ คุณจตุพลค่ะ  และทุกท่านค่ะ   สาธุอนุโทมิ สาธุๆๆ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-10 05:52:30


ความคิดเห็นที่ 120 (1639670)

 ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ช่วยงานคุณตา

ผู้ที่ให้กำเนิดท่านอ.อุบล ผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ๋ของลูกหลานค่ะ

และร่วมโมทนาบุญกับทุกท่านทีได้ร่วมพิธีชุบกายด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันทนา ชูนุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-10 11:59:10


ความคิดเห็นที่ 121 (1639703)

อยากไปใจแทบขาด แต่ก็ไปไม่ได้  พูดไปแล้วเหมือนเป็นการแก้ตัว  เห็นข้อความของท่านอ.อุบลแล้ว ซึ้งในความเมตตานักหนา  ขนาดไปไม่ได้ท่านก็ยังจะแผ่บุญไปให้  ศรัทธาพระพุทธเจ้าเกิน 100 และทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นบ้านสวนพีระมิด และศรัทธาในตัวท่านอ.อุบลเป็นที่สุด  ลูกขอน้อมรับบุญกุศลที่ท่านอาจารย์จะแผ่มาให้ด้วยด้วยความเคารพยิ่ง  และหนูขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์เป็นอย่างสูงค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น กุหลาบ รักสนิท ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-10 16:22:07


ความคิดเห็นที่ 122 (1639737)

อนุโมทนากับทุกท่านที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมชุบกายที่บ้านสวนพีระมิดค่ะ

และอนุโมทนากับทุกท่านที่ได้ช่วยแบ่งเบาภาระของท่านอาจารย์อุบล

ด้วยการไปช่วยงานศพคุณตาสำเภา คุณพ่อของท่านอาจารย์อุบล

ไม่ว่าจะด้วยแรงกาย แรงใจ หรือปัจจัยก็ตามค่ะ

ลูกเชื่อว่าแม้คุณตาท่านจะจากไปแล้วแต่ท่านยังอยู่ในใจลูกบ้านสวนพีระมิดทุกคน

ลูกขอเป็นคนหนึ่งที่ให้กำลังใจท่านอาจารย์อุบลทำสิ่งที่ท่านตั้งใจให้สำเร็จในทุก ๆ เรื่อง ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ถนอมขวัญ ขวัญชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-10 23:04:17


ความคิดเห็นที่ 123 (1639754)

ขออนุโมทนากับเพื่อนๆทุกท่าน

ที่ได้ช่วยแบ่งเบาภาระของท่านอาจารย์

ทุกอย่าง

ทั้งแจ้งข่าวสาร จัดทำอาหารมังฯ จัดเก้าอี้ เสิร์ฟน้ำและอาหาร

ฯลฯ

และ

ทุกท่านที่เข้าร่วมงานพิธีพระราชทานเพลิงศพ

"คุณตาสำเภา วาระนุ่น"

เพื่อส่งคุณตากลับบ้านแดนนิพพานด้วยค่ะ

 

สาธุ

 

**********

 

ที่จะขาดเสียไม่ได้

ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ได้เตรียมพร้อม

เข้าร่วมกิจกรรม "ชุบกาย"

 

ชาวเกาะแดนไกล

ขอส่งใจมาร่วมกิจกรรมด้วยคนค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธัญญาภรณ์ พุกภัย พิสมัย (ฝรั่งเศส) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-11 08:41:20


ความคิดเห็นที่ 124 (1639791)

ขออนุโมทนาบุญกับพี่น้องบ้านสวนทุกท่านค่ะ ที่ได้ช่วยงานท่านอาจารย์ น้อมนำส่งคุณตาสำเภา กลับบ้านพระนิพพาน

ขอร่วมส่งใจมาช่วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-11 17:43:21


ความคิดเห็นที่ 125 (1639815)
image

 ตัวอย่างกิจกรรมสัญจร...เอามาเรียกน้ำจิ้มก่อนนะคะ

(แม้แต่หลวงพี่ยังสงสัย จึงได้สอบถามอ.อภิชัย เกี่ยวกับจี้และองค์เทพสฟิงซ์)

********************

 เนื่องจากกิจกรรมคราวนี้ตรงกับงานพระราชพิธีเพลิงศพของคุณตาสำเภา รูปแบบกิจกรรมงานนี้จึงเป็นกิจกรรมสัญจร ที่เต็มไปด้วยสีสัน มีทั้งความท้าทาย และบททดสอบของจริงที่หลากหลายรูปแบบให้เราได้ใช้ปัญญาและแสดงพลังสามัคคีกันอย่างเต็มที่ และได้เปิดโอกาสให้ลูกบ้านสวนได้ลงพื้นที่บำบัดชาวบ้านหรือแม้แต่พระให้หายเจ็บหายป่วยแบบเห็นผลฉับพลันทันที

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-11 23:35:29


ความคิดเห็นที่ 126 (1639816)
image

ธรรมะบำบัดสัญจรนอกพื้นที่ของลูกบ้านสวน

โดยแม่หมอเหมียว บ้านสวนพีระมิด

จากเดิมที่หลวงพี่มีอาการเจ็บมือด้านขวา (กำมือไม่ได้)

หายได้ หายจริงต่อหน้าพยาน ทำให้เกิดกระแสปากต่อปาก

"^___^"

จนทำให้ชาวบ้านที่ผ่านไปมาหรือแม้แต่พ่อค้าแม่ค้า แถวนั้นแห่กันมาขอ

เอกสารมุทิตาจิตงานคุณตาและรับการบำบัดจากลูกบ้านสวน

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-11 23:37:12


ความคิดเห็นที่ 127 (1639817)
image

ลูกบ้านสวน ตัวจริงเสียงจริงลงพื้นที่ยิ่งกว่าหาเสียง

ทั้งคุณหมอโฆษิต คุณหมออาจารย์พันธ์ คุณหมอชิม แม่หมอวิ...

ถ้าบรรดาผู้หาเสียงมาเห็นภาพ...คงจะมีอายแน่ๆ

สาธุ สาธุ สาธุ กับทุกบุญนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-11 23:43:44


ความคิดเห็นที่ 128 (1639832)

โอ้วววว แค่ได้เห็นภาพงานก็ชื่นใจแล้วค่ะ

ขอบคุณพี่หนึ่งมากๆนะคะ

และงานนี้ก็คงจะเป็นแผนมาจากเบื้องบนแน่ๆเลยค่ะ

ไม่ว่าลูกบ้านสวนจะไปไหน จะอยู่ในสถานณการณ์แบบใด

แต่เราก็จะต้องเป็น "ผู้ให้" ให้ได้ตลอดเวลา

ได้เห็นรูปพี่ๆออกช่วยผู้คนเหมือนท่านอ.แม่แต่ก่อน

แล้วมีความสุขจังค่ะ

งานนี้คุณตาคงยิ้มแก้มปริแน่ๆเลยค่ะ

ที่ลูกหลานของท่านไม่ได้มาเพราะแค่เป็น "งานฌาปณกิจ"

แต่มาพร้อมกับความเป็น "ผู้ให้ และใจที่เกินร้อย"

น่าภูมิอกภูมิใจจริงๆค่ะ อิอิ 

อนุโมทนากับพี่ๆน้องๆทุกๆท่านด้วยนะคะ

 

ปล. ท่าทางคนจะเยอะนะคะ

ดูจากเก้าอี้น่ะค่ะ อิอิ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 04:39:17


ความคิดเห็นที่ 129 (1639836)

ขอบคุณทุกๆภาพแห่งบุญ

ที่คุณหนึ่งนำมาฝากด้วยนะค๊า

 

ว่าแต่ เวลาทุกคนใส่ชุดดำ

แล้วห้อยจี้หลายๆองค์แบบนี้

ดูเท่ห์ๆ ภูมิฐาน

และออกแนวจอมขมังเวทย์จริงๆแหล่ะ

 

ลืมภาพเดิมไปเลยว่า เป็นหนุ่มวิดวะ

เป็นอาจารย์มหา"ลัย

หรือเป็นอะไรๆทางโลกก็แล้วแต่

ไม่เหลือเคล้าเดิมเลย อิอิ

 

อนุโมทนากับพี่น้องทุกๆท่านด้วยนะคะ

เพราะเป็นภาพที่สุดแสนประทับใจจริงๆค่ะ

 

ที่เห็นทุกคนทำหน้าที่ของตนอย่างตั้งใจ

และร่วมแรงร่วมใจกันเต็มที่เลย

 

ทั้งๆที่เป็นงานพระราชทานเพลิงศพ

แต่ผู้ที่ไปร่วมงาน กลับได้รับความสุข

และพ้นทุกข์กันมากมายเลย ... สาธุ

 

คุณตาสำเภา คงจะภาคภูมิใจและชื่นชม

ในคุณความดีของทุกๆคน

แน่ๆเลยค่ะ


ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 06:14:45


ความคิดเห็นที่ 130 (1639841)

ได้ไปร่วมกิจกรรมในอาทิตย์นี้

รู้สึกว่าไม่ได้มาบ้านสวนประมาณ 3 อาทิตย์ค่ะ

พอมาอีกครั้งพี่น้องบ้านวนแทบทุกคน

หน้าตาสวยใสทุกคนเลยค่ะ

พลังบุญบ้านสวนทำให้คนสวยหล่อได้จริง ๆ เลยค่ะ

สำหรับวันเสาร์ มาถึงเกือบ  9 โมง

ก็วิ่งเข้ากลุ่ม ทำความสะอาดพีระมิดองค์เล็ก

ได้พาลูก ๆ น้องบิ๊กซัน และจี้จ้า

แคะปลวกออกจากพีระมิดและก็เก็บกวาดให้เรียบร้อย

เวลา 45 นาที ทำได้ 2 หลัง

 ก่อนทำมีอาการเพลี่ยเพราะนอนดึกและตื่นเช้า

ร่วมกิจกรรมไป 1 ชั่วโมงรู้สึกกระปรี้กระเป่าขึ้นไม่เพลีย

พอหมดเวลาก็ย้ายฐาน ไปเกลี่ยดินและขนดินที่เตรียมสร้างวิหาร

รู้สึกช่วงนี้แดดร้อนมาก เราก็ไม่หวั่นแสงแดดจะแผดเผาแค่ไหน

รู้สึกมันร้อนจริง ๆ ค่ะ ในนรกจะร้อนกว่่านี้เป็นร้อยเท่าพันทวี

เหงื่อออกเยอะมาก ดื่มน้ำไปเป็นลิตรเลยค่ะ

พอเหงื่อออกเยอะ ก็รู้สึกดีเหมือนกันค่ะ

และได้ยกเสา 3 ต้น ช่วยกันยกไปสาธุ สาธุไป

คุณพี่ท่านหนึ่งบอกว่าดีใจจังได้ยกเสาชีวิตจะได้มั่นคง

และก็ได้ปรับดินด้านหน้าให้เสมอกัน  สักครู่

หัวหน้ากลุ่มก็บอกให้หยุดครบ 1 ฃั่วโมง

และให้อาบน้ำเตรียมตัวไปวัด ช่วยงานคุณตา

พวกเราก็ได้ออกเดินทางขับรถตาม ๆ กัน

แวะเติมน้ำมัน ประมาณ 3 นาที

คราวนี้มองไม่เห็นรถลูกบ้านสวนเลยค่ะ

ถามสมาชิกในกลุ่ม ไม่มีใครรู้ทาง

เอาเป็นว่าพวกเราหลงทางคับ

สอบถามชาวบ้านมาเรื่อย ก็มาถึงจนได้แต่ถึงช้ามากๆ ค่ะ

จากเหตุการณ์ครั้งนี้

ได้บทเรียนค่ะว่าเราจะไปไหนจะทำอะไรคควรจะศึกษาข้อมูลให้ดี

ไม่ใช่คิดแต่จะคอยพึ่งคนอื่น คอยตามคนอื่่น ค่ะ

 และสามาชิกในรถ เราก็พากันคิดว่าสงสัยเราเป็นลูกควายลงฝูง เราจะต้องรีบเข้าฝูง

พวกเราได้ช่วยกันคนละไม้ละมือ ตัวเองก็ได้ล้างห้องน้ำ กวาดลานวัด

และก็ได้ทานบะหมี่แสนอร่อยฝีมือคุณอัม ค่ะ

พอฟังสวด พวกเราทุกคนก็ได้ถ่ายรูปหมู่ และเดินทางกลับบ้านสวน

คราวนี้ เห็นคุณพี่ตุ๊กบุญภิบาลตาม

เราก็ตามติดรถคุณพี่ตุ๊กบุญภิบาล สนุกค่ะ สมาชิกในรถก็ลุ้นกันใหญ่

เพราะปกติสามีจะขับรถไม่เกิน 90 คราวนี้เหยีบ 120 ค่ะ

เพราะรถเราเป็นกระบะยกสูงจะไม่ขับเร็ว เหมือนรถเก๋ง

ก็ถึงบ้านสวนอย่างปลอดภัยค่ะ

วันอาทิตย์ พวกเราก็ได้ออกจากบ้านสวนตอนเช้า มุ่งหน้าไปวัด

พวกเราไปถึงวัดก็ช่วยกันคนละไม้ละมือ

ส่วนตัวเองก็เช็ดเก้าอี้ ทำความสะอาด

รู้สึกชาวบ้านเค้าจะแปลกใจกับพวกเรามากค่ะว่า ทำงาน เก็บกวาด

กินข้าวก็ล้างจานกันเอง

คุณป้าท่านหนึ่งบอกว่าไม่ต้องล้างจานหรอกเดี๋ยวป้าล้างเอง

ก็บอกว่าป้า ช่วยกันคนละไม้ละมือป้าจะได้ไม่ต้องล้างเยอะ

และพวกหนูถูกฝึกมากอย่างนี้

ค่ะลูกบ้านสวนจะทำอย่างนี้ทุกคน

พอช่วงบ่าย พวกเราก็ได้บำบัดสรรจร ค่ะ ตัวเองก็ได้ช่วยคุณยายท่านหนึ่ง

อายุ 80 เพลียไม่มีแรง พอบำบัดแล้วคุณยายประทับใจมาก

และก็ช่วงแห่ร่างคุณตารอบ ๆ เมรุ 3 รอบ

ท่านอาจารย์อุบลได้ถือรูปคุณตานำหน้าขบวน

ส่วนสามีบอกว่าเดินตามหลังท่านอาจารย์

รู้สึกเหมือน ได้รับพลังจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เกิดอาการปิติ

และพอเสร็จพิธีพระราชทานเพลิงศพคุณตา

ก็ได้กราบลาท่านอาจารย์กลับบ้าน

ใจจริงก็ยังไม่อยากกลับค่ะอยากอยู่จนเสร็จงาน

แต่เด็ก ๆเริ่มมอมแมม เหงื่อไหลไคลย้อย

ตอนออกจากวัด ลูกชายน้องบิ๊กซันบอกว่า แม่เมื่อเช้านี้ตอนช่้วงเช้า ๆ

ประมาณ 6 โมงเช้า หนูเห็นคุณตาที่บ้านสวนท่านยืนยิ้มให้พวกเราก่อนออกมา

หนูคิดว่าคุณตาท่านอยู่พระนิพพาน

และท่านจะมาสถิตที่บ้านสวนคอยเป็นกำลังใจ

ให้ลูกหลานที่มาปฏิบัติธรรมค่ะ

 

หนูรู้สึกตัวเองว่าหลังจากได้เข้ากิจกรรมครั้งนี้แล้ว

เบาสบายตัว ได้เห็นพลังความรัก

ความสามัคคีของพวกเราลูกบ้านสวน

ไม่ว่าจะในหรือนอกบ้านสวนพวกเราก็รักและสามัคคี

และพร้อมจะแบ่งปันให้คนอืน ๆ และคนทั่วไปที่พวกเราพบเจอค่ะ

กราบขอบพระคุณคุณตาสำเภา

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล

และคุณท็อปค่ะ

ที่ได้เมตตาให้ลูกและครอบครัวได้มาเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 07:02:36


ความคิดเห็นที่ 131 (1639844)

โมทนาบุญกับน้องหนึ่ง ที่ได้นำภาพธรรมมะสัญจร  ที่ลูกหลานบ้านสวนฯ ได้บำบัดพระ  และคนที่ป่วยในขณะรวมทั้งจิตของคนนั้เปิดและพร้อมที่จะให้เราบำบัด น้องตุ๊ก   ด้วยนะค่ะ สำหรับพี่สลบเพราะไม่เคยขับรถทางไกลขนาดแต่ก็ทำได้

ออ  น้องวิเราก้ไม่ย่อยนะเป็นแม่หมอกันทุกคน

และกิจกรรมที่ทำวันที่ 10 พ.ย. 2555  พวกเราได้รับการอาคารสถานที่ เช่น  แซะดิน  ปลวก กวาดใบไม้ที่องค์พีระมิด  ก่อนจะร่วมกิจกรรมพวกเราจะขอบารมีพระศรีอาริย์  พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่  ท้าวเวสสุวรรณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนฯ   และสิ่งศักดิ์ทั่วทั้งอนันตตจักวาล อุทิศบุญนี้ให้กับสัตว์ที่เราทำความสะอาดแล้วต้อง  เช่น ปลวก  มด ฯลฯ  ภูมิเทวดา รุขเทวดา ให้ย้ายวิมานไปอยู่ที่อื่นก่อนให้เราทำความสะอาดให้เสร็จก่อน  และให้อยู่ตรงไหนๆที่บ้านสวนฯ  ให้อยู่ที่บ้านสวนฯ จัดไว้ให้ด้วยเถิด  ทำความสะอาดไปให้ท่องอ.อุบล ช่วยด้วยให้โรคที่เราหายด้วยเถิด  สาธุๆๆ  หนูบำบัดสายตายาวเวลาขับรถเจอแดด ขับรถทางไกลมองไม่ชัด แต่พอได้บำบัดตอนนี้ได้ 80% และสามารถอ่านแผ่นผับได้โดยไม่ต้องใช้แว่นตา   บ่าสองข้าง ได้ 80%   ผื่นคันได้ 50%  สภาพการเงินไม่คล่องต้องรอการติดตามผลอีกต่อไปค่ะ  ปัญญาต้องปรับปรุงและต้องปิดวาจาให้มากๆ

หนูเบิกบุญศีล ทาน ภาวนา  ที่ได้สั่งสมมาทุกภพทุกชาติ บวกกับบุญที่ได้ทำกับบ้านสวนฯ  ทุกบุญขอให้บุญรวมตัวกันอุทิศบุญให้กับเทวดาที่รักษาตัวอ.อุบล  อ.มงคล  และคุณท้อป

กราบขอบพระคุณในความเมตตาพระพุทธค่ะ

สาธุๆๆ  กราบ  กราบ  กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 07:54:46


ความคิดเห็นที่ 132 (1639860)
image

  ปล. ท่าทางคนจะเยอะนะคะ

ดูจากเก้าอี้น่ะค่ะ อิอิ

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี 

 *************

น้องหญิงจ๊ะ : เก้าอี้ประมาณ 500 ตัวจ้า

แต่งานนี้นะ มองไปทางไหนก็เห็นแต่คนสวมสร้อยห้อยจี้องค์เทพสฟิงซ์

จนเป็นกระแสให้แขกที่เดินทางมาร่วมงานและชาวบ้านแถวนั้นแปลกใจ

 นึกว่าเป็นแฟชั่นยุคใหม่จนต้องเดินมาถามว่าแขวนอะไรกันเลยล่ะ

งานนี้กระแสตอบรับของบ้านสวนดีมากๆๆ

เอกสารมุฑิตาจิต  ที่เตรียมแจก 500 ชุด 

และยังไม่รวมธรรมทานของลูกบ้านสวนอีกเพียบ 

หมดไปภายในพริบตา

งานนี้มีแขกมาขอจองเอกสารกันเลยทีเดียว แม้แต่เด็กๆก็ให้ความสนใจนะ

(ฟ้องด้วยภาพ)

-------------------------------------------------------------

 ลืมภาพเดิมไปเลยว่า เป็นหนุ่มวิดวะ

เป็นอาจารย์มหา"ลัย

หรือเป็นอะไรๆทางโลกก็แล้วแต่

ไม่เหลือเคล้าเดิมเลย อิอิ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด

*************   

งานนี้ลูกบ้านสวนลงพื้นที่ทำกิจกรรมทุกๆอย่าง เหมือนกับยกบ้านสวนพีระมิดมาอยู่ที่วัดกันเลยทีเดียว

ชาวบ้าน เขาก็คงจะงง ว่าเรามาเป็นแขกจริงหรือเปล่า

ยิ่งตอนที่ชาวบ้านเขารู้ว่าแต่ละคนเป็นใคร...

คุณอัมนางก้นครัวผู้เป็นเจ้าภาพอาหาร : ที่แท้คือคุณนายเมืองสุพรรณ

ดร.พี่จุ๋ม-พี่จิ๋ม : เดินแบกกล่องแจกเอกสารธรรมทานและมุฑิตาจิต อยู่ดีๆก็เป็นดร.แถมมีตำแหน่งทางวิชาการระดับ ผศ ก็ยิ่ง งงกันเป็นแถบๆ

อ.อภิชัย : ผู้ช่วยแม่ครัวเตรียมทำน้ำซุปอาหารเดินเหงื่อแตกท่วมตัว ที่แท้ก็เป็นอาจารย์สอนมหาวิทยาลัยศิลปกร

ที่ไหนได้แต่ละคนธรรมดาซะที่ไหน..."ผ้าขี้ริ้วห่อทอง" กันทั้งนั้น ฮิฮิฮิ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 09:28:35


ความคิดเห็นที่ 133 (1639867)

ธรรมสัญจรวัดพัฒนาราม

ในรูปแบบใหม่

โดยลูกหลานบ้านสวนล้วน ๆ

ซึ่งปฏิบัติหน้าที่แทนท่านอาจารย์

โดยท่านอาจารย์ได้เคยบอกไว้แล้วว่า

ต่อไปลูกหลานบ้านสวนจะหน้าที่

แทนท่านอาจารย์ได้

ตัวเองยังนึกสงสัยว่าลูกหลานบ้านสวน

จะทำได้อย่างไรเพราะพวกเราไม่สามารถ

สื่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้โดยตรง

แต่ตอนนี้ประจักษ์แล้ววิธีการอันแยบคาย

ของพระพุทธองค์และความตั้งใจ

อันเป็นกุศลของท่านอาจารย์อุบล

ที่ต้องการช่วยผู้ที่ยังทุกข์ยาก เจ็บป่วย

ให้ได้จำนวนมาก ๆ เพราะเวลาที่เหลือน้อย

ทำให้พระบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่ว

อนันตจักรวาล  และอัสนีปาฏิหารย์

ฉัพพรรณรังสีของพระพุทธองค์

ผสานกับพระบารมีของ

สมเด็จพระศรีอริยเมตไตย

จึงทำเกิดสิ่งมหัศจรรย์ผู้คนที่เจ็บป่วย

หายจากอาการเจ็บป่วย ดีขึ้น ทุเลาลง

หลังจากตั้งจิตอธิษฐานพร้อมมองรับพลัง

จากจี้สามร่มโพธิ์ศรี

หลังจากนั้นแสดงความกตัญญูด้วยการ

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล

ผู้อาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์มา

กราบ กราบ กราบ ค่ะ

กราบน้อมบุญที่พวกเราลูกบ้านสวน

ได้กระทำมาทั้งในวัดพัฒนารามและที่

บ้านสวนพีระมิด แด่ดวงจิต

คุณตาสำเภา  วาระนุช

ขอเป็นพลังแห่งรัศมีกายของ

คุณตาตลอดนานแสนนาน ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น วัชรินทร์ เกษมณี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 10:39:28


ความคิดเห็นที่ 134 (1639876)

    อนุโมทนาบุญกับทุกธรรมทานด้วยนะคะ

ยิ่งมีภาพประกอบจากคุณหนึ่ง  ทำให้เราเห็นภาพการทำงาน

ของลูกบ้านสวนได้ชัดเจนขึ้น  และแล้วทุกคนก็สามารถ

เป็นผู้ช่วยท่าน อ. อุบล ได้อย่างสง่างาม

เหมือนที่ท่าน ดร. อาจอง ได้พูดไว้ว่า

ต่อไป ท่าน อ. อุบล จะมีผู้ช่วยเอง

คราวนี้ได้เห็นแล้วค่ะว่า ท่าน อ. อุบล มีผู้ช่วยแล้วจริง ๆ

      จะมีงานไหนเป็นแบบนี้บ้างน้อ

"จนทำให้ชาวบ้านที่ผ่านไปมาหรือแม้แต่พ่อค้าแม่ค้า แถวนั้นแห่กันมาขอ

เอกสารมุทิตาจิตงานคุณตาและรับการบำบัดจากลูกบ้านสวน"

     อ่านแล้วปลื้มปิติไปด้วยค่ะ สาธุ กับทุกท่านทั้งผู้ให้

และผู้รับด้วยค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 11:28:13


ความคิดเห็นที่ 135 (1639884)

     ขอมาเหลา กิจกรรม ธรรมสัญจร เนื่องในงานฌาปนกิจ คุณตา่่สำเภา ด้วยครับ เห็นบรรยากาศ หลายๆคน ได้ช่วยบำบัด ให้กับแขกในงาน งานนี้ไม่มีใครยอมใครเลย แต่ล่ะึคนได้ทำหน้าที่กันอย่างครึกครื้น เพราะแต่ละคนก็มีจี้กันหมด บางส่วนก็จัดเตรียมของชำร่วย แต่ละคนมีจิตอาสาสูงจริงๆ

     การบำบัดในงานก็มีทั้งคนที่ หาย ดีขึ้น หรือ ไม่หาย ก็มี อีกภาพที่น่าประทับใจก็ึคือลูกบ้านสวน ช่วยบำบัดกันเอง หลายๆคนเลย แต่ล่ะคนก็ส่งเสียงเชียร์ นับเลข ยกตัวอย่างพี่ธนา มีอาการขาแพลง แต่ก็ได้หมอเหมี่ยว เป็นคนบำบัดจนหาย 100 เปอร์เซนต์ มีอีกหลายเคสเลยครับ เป็นภาพที่น่ารักจริงๆ แถม

    อีกภาพที่เห็นได้ถึงความแตกต่าง หลังจากที่พวกเราได้ มาบ้านสวนทำให้ อย่างเรื่องบางเรื่องที่ คนทั่วไปมองข้าม อย่าง แก้วน้ำ ขยะ ที่แขกผู้มาร่วมงาน วางทิ้งไว้ ไม่นำไปทิ้งถึงขยะ ลูกบ้านสวนเราก็ มีจิตอาสา ช่วยกันเดินเก็บ ทำให้พื้นที่วัดสะอาด เห็นได้เลยว่า หลายๆคนที่ไม่ได้มาบ้านสวน มองข้าม สิ่งเล็กๆ แต่ไม่เล็ก แต่เป็น"กรรมหนักเลยที่มาทำให้เขตบุญสกปรก"

     มานั่งคิดถึงคำว่า "ชุบกาย" คงเป็นหลายๆสิ่งที่พวกเราได้ถูกขัดเกลา จากก้อนกรวด จนบริสุทธิ์ เป็น พลอย เป็น เพชร ถว่าจะมาได้ขนาดนี้ เีัรียกได้ว่า ท่านอาจารย์อุบล ทั้งเข็น ทั้งขัด ทั้งเจียระนัย จนหลายๆคน มีจิตที่พัฒนามากขึ้น ละเอียดขึ้น ด้วยการขัดเกลา สิ่งสกปรก คือบาป กิเลส ความชั่วต่าง ให้มีจิตที่สะอาดและเข็มแข็ง ต่อสู้กับความชั่ว ทั้งในใจตัวเองต่าง ๆ และสิ่งรอบด้าน

     ผมคิดว่า กายนอก ชุบยังไงก็ยังเป็นแค่เปลือกจริงๆ ส่วนกายใน ผ่านงานนี้ไป หลายๆคน จะมีกายในที่ สว่าง มากขึ้นด้วยความดีที่ทุกๆคนทำแหม แบบนี้เขาต้องเรียก สวยจากภายใน

     ผมคิดว่าคนที่สอบผ่านการชุบกาย (ใน) ต้องเป็นคนที่ สะอาดและ แกร่ง เหมือนเพชรแน่ๆเพราะแต่ละคนที่ได้พบเจอความทุกข์ในชีวิต มันก็เป็นบททดสอบให้เราแกร่ง เข้า Concept บอบบาง หนังหนา หน้าด้าน

    และสุดท้ายพวกเราก็ร่วมส่งคุณตาเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อแสดงความกตัญญูและขอผลบุญที่ได้มาร่วมงานในครั้งนี้ ให้ผลบุญนี้ ส่งถึงคุณตาสำเภาด้วยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 12:00:02


ความคิดเห็นที่ 136 (1639889)

อนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่มาเหลาบรรยากาศร่วมงาน

พระราชทานเพลิงศพ

คุณตา สำเภา วาระนุช

โดยเฉพาะคุณหนึ่งที่นำภาพกิจกรรม

ของลูกบ้านสวนฯมาลง

กิจกรรมชุบกายสัญจร ของพวกเราในครั้งนี้

อ้อยได้เห็นพัฒนาการ

ของลูกๆบ้านสวนฯได้ชัดเจน

เหมือนเป็นภาคปฎิบัติ

หลังจากที่เราเรียนรู้ทฤษฎีในบ้านสวนฯ

จริงๆก็ไม่เชิงทฤษฎีหรอก

เพราะเราก็ลงมือทำงานทุกอย่างด้วยจิตอาสา

แต่เรายังไม่แน่ใจว่า

พวกเราจะขยันขันแข็ง มีจิตอาสา

เวลาอยู่นอกบ้านสวนฯ

รึเปล่า

หรือเราจะทำดีแค่

ในบ้านสวนฯเท่านั้น

แต่ภาพที่เห็นคือทุกคนมีความสามัคคี

แยกกระจายงานออกไป

เช่นทำความสะอาดบริเวณ ดูแลของชำร่วย

ก็คือธรรมทานต่างๆ ซีดี 

ช่วยคุณอัมทำอาหาร 

คอยเสิร์ฟอาหาร 

อีกส่วนอยู่ใกล้ๆท่าน อาจารย์ 

อีกส่วนออกบำบัดผู้คน

เท่าที่สังเกตุ

กลุ่มแฟนคลับพวกเรา

ที่ดูสนใจจี้องค์เทพสฟริงซ์

และสนใจการบำบัดมากเป็นพิเศษ 

จะเป็นพระสงฆ์ทั้งนั้น

อ้อยเห็นพี่เหมี่ยวกำลังบำบัดพระรูปหนึ่ง

ตอนเข้าไปทุกคนกำลังเฮ

ตื่นเต้น

 ถามดูพบว่าท่านกำมือขวาไม่ได้

ใส่จีวรเองแทบไม่ได้ 

แต่พอพี่เหมี่ยวช่วยบำบัด

ท่านสามารถกำมือได้

สาเหตุที่ระลึกได้คือ

ท่านเคยใช้มือขวาใช้มีดแทงคนตาย 

ท่านได้แต่นั่งพูดว่า 

เป็นไปได้ยังไงๆๆๆๆๆ

พระอีกรูปที่นั่งข้างๆดูเป็นพระนักปฎิบัติ

ก็สงสัยในปรากฎการณ์นี้ 

และพยายามถามพวกเราว่า 

พวกเราปฎิบัติได้อะไรกันบ้างรึเปล่า  

หรือสัมผัสอะไรได้รึเปล่า 

คงอยากรู้ว่า

ปฎิบัติได้ขั้นไหน

ถึงทำเรื่องมหัศจรรย์ได้ขนาดนี้ 

เพราะพวกเราแต่ละคนก็ดูธรรมดา 

ไม่ได้ดูเป็นนักปฎิบัติ  ไม่มีพิธีกรรมอะไรเลย

พวกเราก็บอกว่า

ที่เกิดปรากฎการณ์นี้เนื่องจาก

ท่าน อ.อุบล

ซึ่งเป็นผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ 

ท่านสามารถสื่อสารกับพระพุทธองค์

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในอนัตจักรวาล

  แล้วทุกๆพระองค์ก็เมตตาคอยช่วยเหลือท่าน อ.อุบลในการช่วยคนให้พ้นทุกข์  

ตอนนี้เชข้าสู่ยุคพระศรีอาริย์แล้ว 

เป็นยุคอภิญญาใหญ่  

พวกเราสามารถสื่อถึงทุกๆพระองค์

ได้โดยผ่านญาณท่าน อ.อุบล 

โดย รหัส อ.อุบลช่วยด้วย 

หรือวัตถุมงคลทุกอย่างของบ้านสวนพีระมิด

พระท่านก็บอกว่า

  จะได้อภิญญาใหญ่มันต้อง

ใช้เวลาฝึกนานมากนะ 

เหมือนครูบาอาจารย์ของท่าน 

  พวกเราเลยบอกว่า

ยุคพระศรีอาริย์ไม่ต้องใช้เวลานานแล้ว

กราบขอบพระคุณท่าน อ.อุบล

และเทวดาที่ดูแลรักษาท่าน อ.อุบล

ที่เมตตาพาลูกหลานเข้าสู่ยุคอภิญญาใหญ่

ยุคพระศรีอาริย์

ยุคที่มีแต่ความสุข ไม่มีคนจน คนเจ็บ

กราบขอบพระคุณ

คุณตาสำเภา วาระนุช 

ถ้าไม่มีคุณตา ก็ไม่มีท่าน อ.อุบล

คุณตาคงภาคภูมิใจกับลูกสาวของท่านมาก

  ที่เกิดมาเพื่อทำภารกิจที่ยิ่งใหญ่มาก

กอบกู้ ชาติ ศาสานา พระมหากษัตริย์

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 13:10:24


ความคิดเห็นที่ 137 (1639892)

สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ลูกบ้านสวนฯได้ร่วมกิจกรรม "ชุบกาย" กันอย่างเข้มข้น เรียกว่านี่แหละ "คนยุคศิวิไลซ์"ตัวจริง

วันเสาร์ 10พฤศจิกายน2555

วันนี้ตื่นเช้ามา พี่น้องที่มาจากทั่วสารทิศก็เริ่มทะยอยมาถึงและลงทะเบียนกันอย่างคึกครื้น

บางส่วนที่มาตั้งแต่วันศุกร์ก็เริ่มบุญแรงกายกันแบบไม่ปล่อยให้เวลาเสียไปเลยแม้แต่นาทีเดียว

เราเริ่มปฐมนิเทศและแบ่งกลุ่มกันทำกิจกรรม ซึ่งสัปดาห์นี้มีสองฐานใหญ่ๆ คือ วิหารทาน เช่น ก่อสร้างวิหาร3ชั้น สร้างบ้านเคลื่อนที่ และอีกกลุ่มคือซ่อมอุปกรณ์ ทำความสะอาดตกแต่งสถานที่

ก็เริ่มลุยงานไปก่อนสักพัก พอได้ยินสัญญาณนกหวีดเชิญทานอาหาร ก็มาพร้อมหน้าพร้อมตากัน อาหย่อยย..หม่ำๆๆ

ลุยยยย....ม่วนหลาย พี่น้องทานอาหารเช้าเสร็จ ก็โกยบุญไม่ยั้งเยยย

นี่แหละลูกบ้านสวนฯตัวจริง

กิจกรรมบุญแรงกายช่วงเช้าเสร็จ ทุกคนก็ได้รับความเมตตาจากท่านอาจารย์ที่อนุญาติให้ทุกท่านที่ตั้งใจจะมาร่วมงานพิธีพระราชทานเพลิงศพคุณตา ไปร่วมงานที่วัดพัฒนารามกัน

ทุกคนตั้งใจมาอย่างดีจากบ้านแล้ว พากันรีบอาบน้ำแต่งตัว ทานอาหารกลางวันกัน บ่ายโมงก็เคลื่อนทัพสู่วัดพัฒนารามกันทันที

พอผมไปถึงก็ต้องตะลึงกับสิ่งที่เห็น เพราะนี่คือการ "ชุบกาย" ของแท้ เป็นภาคสนาม ภาคปฏิบัติการที่ไม่ต้องรอให้มีใครบอก แต่เป็นสนามสอบของลูกบ้านสวนฯตัวจริง

ลูกบ้านสวนฯทุกคน ไม่ได้มาในฐานะแขกร่วมงาน แต่ทุกคนกลับช่วยกันทำความสะอาดวัด สถานที่ จัดแจง ตกแต่ง เป็นภาพที่หลายๆคนเห็นแล้วเขาคงอึ้ง สงสัยเหมือนกันว่า คนเหล่านี้มาจากไหนกันนะ ทำไมพากันทำความดีขนาดนี้ ไม่นิ่งดูดาย

บ้างก็แบ่งทีม ช่วยกันบริการแขกเหรื่อท่านอื่นๆ บ้างก็ไปช่วยงานในครัว ช่วยคุณอัมสาวสวย รวยบุญ ที่มาทำอาหารมังฯทุกวัน

ที่สำคัญเด็ดสุดๆก็คือ พี่น้องเราก็เริ่มออกทำงานของชอบ ของมั่กก ฮ่าๆๆ ใครที่มีปัญหาเจ็บป่วย ก็ไม่รั้งรอ หาโอกาสเข้าช่วยเหลือทันที ว้าววว 

ทุกคนตั้งใจร่วมงานพิธีสวดศพคุณตาสำเภา โดยทำตัวเป็นลูกหลานที่ดี สร้างบุญใหญ่อยู่ตลอดเวลาเพื่ออุทิศบุญแด่คุณตาที่นั่งดูลูกหลานอยู่บนพระนิพพานแล้ว

ไฮไลท์ของงานในคืนนี้ก็คือ การเปิดวีซีดีภาพยนต์ชื่อชุดว่า "คิดถึงพ่อ ก็มาดูพ่อที่นี่นะลูก"

เป็นภาพความทรงจำ ที่สะกดสายตาแขกเหรื่อในงานได้สุดๆ เพราะหลายๆท่านไม่เคยรู้มาก่อนว่า คุณตาสำเภาเคยมาพักที่บ้านสวนฯ และไม่รู้ว่า บ้านสวนพีระมิดคือที่ไหน ใครเป็นเจ้าของ และคุณตาไปทำอารายยง่ะ

แขกเหรื่อที่นั่งดู ผมสังเกตเห็นว่านั่งดูกันแบบไม่จบไม่กลับ หลายคนในพื้นที่ที่รู้จักคุณตา คงต้องอมยิ้ม คิดถึงอย่างแน่นอน เพราะภาพที่เห็นนั้น คุณตามีความสุขมากกที่สุด ท่านยิ้มกว้าง พูดจาฉะฉาน ความจำดีเลิศ คุณตาแข็งแรงสุดยอด สวดมนต์ยาวๆได้แบบพวกเราอายม้วนกันไปเลย

ในภาพยนต์นั้น คุณตาบอกว่า

"มีความสุขมาก"

"อากาศดีมาก"

"90%แล้วผมจะมาอยู่ที่นี่"

บางคนก็ถามว่า "คุณตามาอยู่นี่ตลอดเลยนะ" ท่านก็ตอบว่า "ครับๆ" สุดท้ายคุณตาก็สรุปว่า "ไว้เจอกันปีหน้า" 5555 เล่นเอาพวกเราฮาตรึมกันเลย

ทุกภาพล้วนแสดงให้เห็นว่า บ้านสวนฯคือสถานที่ทำให้คุณตามีความสุขที่สุด จึงเป็นบทสรุปที่สมบูรณ์ตามชื่อเรื่องที่ว่า "คิดถึงพ่อ ก็มาดูพ่อที่นี่นะลูก"

งานวันเสาร์นั้นเสร็จก็ประมาณ 3ทุ่มครึ่งโดยประมาณ จากนั้นพวกเราก็พากันกลับบ้านสวนฯกัน

อะจ๊ากกก พวกเรามีงานบุญใหญ่รอกันอยู่นี่ ยังหลับบ่ได้เด้อ กลับไปถึงบ้านสวนฯก็ประมาณน่าจะเกือบๆเที่ยงคืนได้ ก็พากันลุยเข้ารูปเล่มธรรมทาน บุญใหญ่ซึ่งเป็นไฮไลท์ของงาน ซึ่งมีหลากหลาย เช่น หนังสือรวมธรรมทานของลูกบ้านสวนฯ หนังสือแสดงความอาลัยรักต่อคุณตาสำเภา และมีที่เด็ดสุดๆที่จะทำให้ทุกคนคิดถึงคุณตาก็คือ วีซีดีภาพยนต์รำลึกความหลังตอนที่คุณตามาพักที่บ้านสวนฯซึ่งจะแจกในวันอาทิตย์ เรียกว่า งานนี้ท่านอาจารย์อุบลพาลูกหลานทำบุญใหญ่ ไม่อั้น ทำง่ายๆแต่ดูดี จนลูกบ้านสวนฯจ้องตาเป็นมัน อยากได้ อยากได้ 5555

ไชโย ช่วยกันจนเสร็จแว้วว รีบไปนอนเด้อพี่น้อง พรุ่งนี้เราต้องเดินทางกันแต่เช้าเพื่อไปร่วมงานพิธีพระราชทานเพลิงศพกัลล์ วันเสาร์นี้ขอราตรีสลบก่อนน คร่อกกก...

ค่อยมาเหลาต่อเน้ออ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 13:28:33


ความคิดเห็นที่ 138 (1639893)

ขอขอบคุณน้องหนึ่งที่นำภาพบรรยากาศในงาน คุณตามาฝาก

รู้สึกปลื้ม ยินดีกับทุกท่านที่ใด้ช่วยงาน อย่างเต็มกำลัง  และช่วยเหลือผู้คนให้หายเจ็บ หายไข้

โดยเฉพาะพี่เหมี่ยวเรานี่สุดยอดเลยนะค่ะ ช่วยบำบัดพระสงฆ์ ให้หายจากอาการกำมือขวาไม่ใด้ ด้วยกรรมที่เคยแทงคนตายมาก่อน

ขอโมทนากับทุกๆๆธรรมทานนะค่ะ สาธุ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น รุ่งสุภารัตน์ รุ่งเรือง(ภา) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 13:36:26


ความคิดเห็นที่ 139 (1639906)

ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่าน ที่ได้ร่วมกันแสดงมุทิตาจิต

แสดงความกตัญญูกับคุณตา สำเภา วาระนุช 

เพื่ออุทิศบุญทั้งหมด ส่งคุณตา กลับบ้านนิพพาน

กิจกรรมชุบกายสัปดาห์ที่ผ่านมา

ต้องขอยกนิ้วให้พวกเราลูกบ้านสวน ฯ ทุกๆ คนจริง ๆ 

ที่ได้ทำให้ชาวบ้านและคนทั่ว ๆ ที่อยู่ในงาน ของคุณตา

ได้รับรู้ว่า พวกเราลูกบ้านสวน  คือ

กลุ่มคนยุคใหม่ ที่ทุกคนมีจิตอาสา

พร้อมเพรียงกัน ช่วยกันทำงานต่าง ๆ ภายในวัด

โดยไม่ยอมนิ่งดูดาย มีความรักสามัคคี  กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง 

ขนาดพวกเราเป็นเพียงกลุ่มเล็ก ๆ

ยังสร้างปรากฏการณ์ได้มากขนาดนี้

ถ้าคนทั้งประเทศเป็นอย่างพวกเรา

สังคมจะน่าอยู่ขนาดไหน ทำให้เห็นภาพ

ของการกอบกู้ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

ได้อย่างเป็นรูปธรรม ขอเพียงมีใจกล้าทำสิ่งที่ถูกต้อง

ออกมาต่อสู้กับมาร กับ ความอยุติธรรม ต่าง ๆ 

ส่วนตัวแล้วคิดว่า "การชุบกาย" สำหรับพวกเรา

ก็คงไม่สำคัญ เท่ากับการที่พวกเรา ๆ ทุกคน

ได้ ถูก ท่าน อ.อุบล  "ชุมจิต"

สร้างให้เรามี "จิตเหนือสำนึก" ของความเป็นมนุษย์

อย่างเต็มภาคภูมิ เรียกว่า ไม่เสียชาติเกิด

และภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้อยู่ในยุคของพระศรีอาริย์

อนุโมทนากับภาพสวย ๆ จากคุณหนึ่งด้วยนะคะ


 

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 14:14:47


ความคิดเห็นที่ 140 (1639907)

ต่อนะครับ

วันอาทิตย์ที่11พฤศจิกายน2555

พวกเราตื่นกันแต่เช้ามืด เรียกว่าทุกคนสวดดยอดด มีวินัยในตนเองสูงมาก รีบทานอาหารเช้า เป็นข้าวผัดไข่โดยแม่ครัวใจบุญคนเก่งอย่างพี่แมวเจ้าเก่า แซ่บเวอร์ ขอบอก

จากนั้นทีมที่พร้อมแล้วก็เริ่มออกเดินทางล่วงหน้าไปที่วัดทันที วันนี้ทุกคนรู้หน้าที่ตนเอง โดยถือว่าวันนี้เป็นการสอบวันที่2

มีอีกไหม เอาอีก เอาอีก

ป๊าดดด นี่มันเกิดอารายขึ้น แฟนคลับใครมาเรียกร้องไรเนี่ยย

อ๋อ ที่แท้ก็เกิดปรากฏการณ์บุญใหญ่ ที่ลูกบ้านสวนฯพากันแจกธรรมทานหนังสือ

1.ธรรมทานชีวิตจริงลูกบ้านสวนฯ

2.ด้วยรัก...อาลัย แด่คุณตาสำเภา

3.วีซีดีภาพยนต์ "คิดถึงพ่อ ก็มาดูพ่อที่นี่นะลูก"

4.ชีทเอกสารธรรมทานของลูกบ้านสวนฯอีกจำนวนมากที่นำมาสมทบ

ผู้ที่มาร่วมงานก็ต่างพากันเดินมาหาที่โต๊ะแจกธรรมทานไม่ขาดสาย ตั้งแต่ช่วงเช้าเลย แจกไปแจกมาเกิดอาการ "ธรรมทานบ้านสวนฯฟีเวอร์" แขกเหรื่อต่างกรูกันเข้ามาสอบถามขอธรรมทานกันเองก็มี เราเดินแจกก็มี จนเรียกว่า ธรรมทานที่เตรียมมามากมายหมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว

ป๊าดดด ป๊าดดดด บอกแล้วเรื่องจริงที่อ่านแล้พ้นทุกข์ มีแต่ความสุข ใครๆก็อยากอ่าน นี่แหละสุดยอดของสิ่งที่ท่านอาจารย์อุบล เน้นบอกพวกเรามาตลอด เรียกว่ายกแรกทุกคนก็ยิ้มแก้มปริ อิ่มบุญกันไปถ้วนหน้า สาธุ

นี่มันพระเครื่องอะไรหรือโยม

5555 บักจ่อยวันนี้โชว์จี้ฯ 3ร่มโพธิ์ศรีภายนอกแค่3องค์ ส่วนอีกจำนวนมากโขอยู่ข้างใน แต่กระนั้นเวลาเดินไปไหนมาไหน ก็มีแต่คนมอง จนเราอดหวั่นไหวไม่ได้ว่า "เขามองเพราะเราหน้าตาดี หรือว่ามองจี้กันแน่" 5555

มาได้คำตอบตอนที่ ถวายเครื่องดื่มพระสงฆ์ที่มาสวดตอนบ่ายนี่แหละ

ท่านจ้องเขม็งมาที่คอผมทันที ระหว่างที่ผมกำลังประเคนถวายท่าน ท่านก็ถามทันทีว่า

"โยม นี่มันพระเครื่องวัดไหนนี่ เรียกว่าอะไรเหรอ"

"นี่เป็นจี้ของอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิดครับ"

"อยู่ที่ไหนละ"

"อยู่ที่นครนายกครับ จี้นี้สามารถช่วยคนได้แค่จ้องมองที่จี้ อาการเจ็บป่วยต่างๆก็หายในทันทีครับ"

"อ๋อ เห็นห้อยๆกัน ดูดีเลยนะ"

ท่านก็ยังคงจ้องมองไม่ละสายตาเช่นเดิม เพราะดูแล้วท่านสนใจมาก แต่ด้วยช่วงเวลาประมาณถึงหนึ่งนาทีระหว่างที่ถวายเครื่องดื่ม ทำให้รู้เลยว่า แม้แต่พระก็อดสงสัย สนใจจนต้องถามผู้สวมใส่ไม่ได้ นี่คือวิธีการช่วยคนอย่างสบายๆ ไม่ต้องบ่นว่าไม่รู้จะบอกใครดีให้เมื่อยเหมือนเมื่อก่อน ชอบมั่กก กดไลค์1000ครั้งเลยฮั๊บ

อาตมาหายแล้วโยมม...

เมื่ออยู่กับพี่น้องบริเวณลานพิธีฯ มีพี่น้องชี้ให้ดูว่าพระกำลังคุยกับอาจารย์อภิชัยอยู่ บักจ่อยก็ไม่รอช้าปรี่เข้าไปสมทบทันทีเลย

จนได้ความว่า หลวงพี่ท่านนี้สนใจมั่กกกกกก ไม่ใช่สนใจธรรมทาน พอยิ่งรู้ถึงอานุภาพของจี้ฯด้วย ก็ยิ่งสนใจใหญ่ อยากบูชา ขอทราบที่อยู่ที่บูชา ถามถึงเวปไซต์เพื่อท่านจะได้ศึกษาเพิ่ม เลยมอบหนังสือรวมธรรมทานท่านไปหนึ่งเล่ม ซึ่งมีทั้งรูปท่านอาจารย์

พอท่านเห็นท่านก็ร้องอ๋อขึ้นมาเลยว่า เคยไปที่วัดหลวงพ่อเสงี่ยม เคยเจอท่านอาจารย์แล้ว และยังคิดๆอยู่ว่าใช่หรือเปล่าหนอ ท่านก็คงสอบถามเรื่องจี้อย่างสนอกสนใจ จนผมเรียนท่านว่า เอางี้ครับ หากหลวงพี่ตอนนี้ไม่มีอาการอะไร งั้นหลวงพี่นิมนต์พระที่มีอาการอยู่ได้ไหมครับ ผมจะพิสูจน์ให้ดูเลย

พอดีผมมองเป้าหมายไว้แล้วครับ เป็นพระรูปหนึ่งที่ผมเห็นเดินกระเผกเจ็บขา และตอนนี้เหมือนธรรมะจัดสรรค์ จู่ๆท่านก็เข้ามานั่งในเต้นท์ใกล้ๆกับที่พวกเราคุยกันพอดีเลย ว้าววว บักจ่อยไม่รอช้า

หลวงพี่ท่านนี้ก็พาพวกเราเข้าไปหาพระรูปนี้ทันที บักจ่อยก็เริ่มจัดให้ทันที ขอโอกาสได้ช่วยท่าน ซึ่งท่านก็แปลกมาก ที่ไม่ปฏิเสธแต่กลับเปิดใจกว้างลองพิสูจน์ทันที

ตอนนี้พี่น้องบางท่านก็เดินมาร่วมสมทบกับผมและอาจารย์อภิชัยบ้างแล้ว บักจ่อยรีบจกเอาจี้ฯในคอออกมาเป็นพวง จนพระก็ตะลึงตาค้าง พี่น้องเราก็อดขำไม่ได้ 555

"หลวงพี่มีอาการที่ไหนครับตอนนี้"

"อาตมาเจ็บเท้าเหลือเกิน เป็นเพราะขับรถมาหลายปี"

"เอ้าไม่เป็นไรครับ ตอนนี้ขอให้หลวงพ่อมองที่จี้ในคอผมนะครับ"

พี่น้องก็พากันนับให้จังหวะท่าน ท่านก็จ้องแบบเขม็งเลย จนต้องบอกท่านว่าเช็คอาการเป็นระยะๆนะครับ หายหรือดีขึ้นรีบบอกผมนะครับ

เมื่อนับครบ60ก็หยุด จากนั้นให้ท่านเช็คอาการใหม่ ท่านยิ้มแฉ่งเลย บอกว่าเบา ดีขึ้นแล้ว มากกว่า 50% ถามไปถามมาท่านก็บอกว่า 90% เกือบหายเลยว่างั้น โอว้วว สาธุ

อาจารย์อภิชัยเลยบอกว่า ลองเดินดูเลยครับ ท่านก็เดินไปยิ้มไป และบอกว่าเบา

อ้าว หลวงพี่ว่าตามผมนะครับ อาจารย์อุบลช่วยด้วย ขอให้อาตมาหายเจ็บที่ขาด้วยเถิดสาธุ

ท่านก็ไม่อิดออกหรือสงสัยแต่ประการใด รีบพูดตามทันที ป๊าดดด นี่แหละความหวังเรืองรองบังเกิดขึ้นแว้วว

คราวนี้ท่านก็ยิ่งยิ้มใหญ่เลย บอกว่าปวดขามาหลายปีแล้วเดินกระเผก เจ็บมาก ลงน้ำหนักไม่ได้ เมื่อกี้ลงจากบันไดมา มันตึงเจ็บๆๆ ตอนนี้เบาเลย

พอถามว่าหายหมดยัง ท่านก็ว่าเหลือนิดหน่อย โอว้วว ผมได้โอกาสทันที คิดว่าเบื้องบนคงอยากให้ท่านรู้กฏแห่งกรรม ก็เลยถามเรื่องบาปกรรมที่ใช้ขาทำบาปมา

สรุปว่า ท่านเคยใช้ขาเหยียบเหรียญ เคยใช้ขาเปิดพัดลม เขี่ยสิ่งของ เคยใช้ขาแกล้งหยอกล้อกับหมา เป็นต้น

จากนั้นก็กล่าวนำให้ท่านพูดตาม ท่านก็พนมมือพูดเพื่อขอบารมีพระพุทธเจ้าขอเบิกบุญทุกชาติ อุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวรที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด และขอบคุณพระพุทธองค์ พระศรีอาริย์ ในหลวง ท่านอาจารย์อุบล

พอเช็คอีกที ท่านก็ยิ้มแฉ่งเลย ท่านบอกว่าดีขึ้นๆ พวกเราก็ถามว่า ดีขึ้นหรือว่าหายเลยครับ ท่านก็บอกว่า หายๆๆ มันเบาไปเลย โอ๊ยย...มีความสุขหลายเด้อ ที่ท่านได้พิสูจน์กฏแห่งกรรมด้วยตนเองจะๆแบบนี้ สาธุ

ผู้ให้ตัวจริง

ลูกบ้านสวนฯไม่ใช่อุจาระ อุจาระนะพี่น้อง นอกจากจะช่วยงานที่วัดอย่างเต็มที่แล้ว ยังแบ่งกำลังกันออกไปช่วยบำบัดชาวบ้านรอบๆวัด โดยเรียกว่า ทำดีไม่ต้องกลัวใคร สมศักดิ์ศรีเป็นลูกหลานอาจารย์อุบลแท้ๆ

ได้ข่าวว่าคุณหมอชิมได้ช่วยไปเยอะมากกก และท่านอื่นๆก็ไม่น้อยหน้ากัน การบำบัดช่วยคนของลูกบ้านสวนฯในงานฯครั้งนี้จะต้องกลายเป็น Talk of the town แน่นอน

ฮิ้วว ฮิ้ววๆๆ ซวดๆๆ แหน่พี่น้อง งานนี้พวกเราได้กลายเป็นผู้ให้อย่างสมบูรณ์แบบ ภาคภูมิใจกับรอยยิ้มของคนที่หายป่วย และทำให้เขารู้เรื่องกฏแห่งกรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้า

โอ๊ยย...งานนี้เรียกว่าเป็นการ "ชุบกาย" ของแท้จริงๆเด้อพี่น้อง ข้อสอบจริงที่ออกจริง ทำจริง และพิสูจน์ว่า ลูกบ้านสวนฯภายใต้การนำของท่านอาจารย์อุบลนี่แหละ จะเป็นผู้นำ และความหวังของการช่วยโลกใบนี้ให้กลับสู่สันติสุขอย่างแท้จริง พิสูจน์ได้ ทำดีไม่กลัวใคร และ ของจริง ไม่เคยกลัวการพิสูจน์

กราบแทบพระบาทพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระศรีอาริยเมตไตรย์ ท่านท้าวเวสสุวรรณ เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์ และที่สำคัญที่สุดคือท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว ที่ได้มอบโอกาสสุดวิเศษนี้ให้แก่ผมและทุกๆคน ได้รู้ถึงความสุข ของการเป็นผู้ให้ และได้แสดงความกตัญญู มุทิตาจิต ต่อคุณตาสำเภา

หากไม่มีคุณตา ก็ไม่มีท่านอาจารย์อุบลในวันนี้ พวกผมก็คงเป็นคนที่หลอกตัวเองไปวันๆว่ารู้ธรรมะ เที่ยวไปสอนคนอื่น โดยคนที่ไม่รู้อะไรเลย สุดท้ายก็คือ ตัวเราเอง

แต่วันนี้ผมภาคภูมิใจที่สุดที่มีครูบาอาจารย์ที่ดีเลิศสุดๆเช่นท่านอาจารย์อุบล กราบ กราบ กราบ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 14:24:49


ความคิดเห็นที่ 141 (1639915)

ขออนุโมทนาบุญทุกท่านที่เขียนธรรมทาน

อ่านไปยิ้มไปที่

นี่มันพระเครื่องอะไรหรือโยม

5555 บักจ่อยวันนี้โชว์จี้ฯ 3ร่มโพธิ์ศรีภายนอกแค่3องค์ ส่วนอีกจำนวนมากโขอยู่ข้างใน แต่กระนั้นเวลาเดินไปไหนมาไหน ก็มีแต่คนมอง จนเราอดหวั่นไหวไม่ได้ว่า "เขามองเพราะเราหน้าตาดี หรือว่ามองจี้กันแน่" 5555

จงมั่นใจเถอะของเราดี สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้ เห็นบางคนคร้อง เป็น10ๆองค์ยังไม่สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้เลย

ผู้แสดงความคิดเห็น นงนภัส จารุธนยศ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 15:13:51


ความคิดเห็นที่ 142 (1639916)

ร่วมกันส่งบุญแด่... คุณตาสำเภา สู่...นิพพาน

งานพระราชทานเพลิงศพคุณตาสำเภา วาระนุช

เสาร์-อาทิตย์นี้ลูกบ้านสวนบุกโคกสำโรง ลพบุรี 

เพื่อร่วมงานบุญส่งคุณตาสำเภาสู่นิพาน

ผมและครอบครัวเดินทางไปถึงวัดพัฒนาราม

พวกเราขึ้นไปกราบคุณตา

พอกราบเสร็จ น้องบัว บอกว่าเมื่อตะกี้ดูรูปคุณตา  

แล้วคุณตายิ้มให้ด้วย

แสดงให้เห็นว่าคุณตามีความสุขมาก

ถึงแม้ร่างกายของคุณตาจะละสังขารจากโลกแล้ว

ผมเชื่อว่าจิตวิญญาณของคุณตาได้พบความสุข

ความสงบที่แท้จริง  หลุดพ้นจาก

ความวุ่นวาย การแก่งแย่ง ดิ้นรนทางโลก

ไปสู่นิพานแล้วเพราะคุณตาท่าน

เป็นผู้ให้และเป็นผู้สร้างบุญไว้มากมาย

ท่านมีทุนเป็นบุญที่สร้างไว้มากมายให้กับผู้คน ชุมชน

สังคมและศาสนสถาน

ถ้าท่านมองลงมาก็คงจะเห็นลูกหลานบ้านสวนฯ

ที่ยังอยู่นี่แหละที่ง่วนอยู่ตามโรงครัว  ตามศาลา

ตามลานวัด ช่วยงานกันอย่างกุลีกุจอ

บ้างก็ช่วยกันทำอาหาร จัดสถานที่ จัดของชำร่วย

เสริพน้ำ กวาดลานวัด  เสร็จจากงานแล้วก็ช่วยบำบัด

ผู้คนในงานให้พ้นทุกข์ไม่เว้นแม้กระทั่งพระสงฆ์องค์เจ้า 

คุณตาคงจะบอกว่า

จงหมั่นทำความดี  สร้างบุญสร้างกุศลไว้ให้มากๆ นะ

ตายไปแล้วเอาอะไรติดตัวไปไม่ได้ 

ไม่ว่าจะเป็นยศฐาบันดาศักดิ์ ตำแหน่งใหญ่โต

ข้าวของเงินทอง   มีแต่บุญและบาปที่เราสร้างไว้นี่แหละ

ที่จะติดตัวเราไป

ลูกหลานก็เลือกเอาเองแล้วกันว่าจะเอาอะไรไป

พวกเราเลือกที่จะเจริญรอยตามคุณตาผู้มีแต่ให้

และปฏิบัติตามคำแนะนำอาจารย์อุบลลูกสาวคนเดียว

ที่เป็นผู้สืบทอดวิถีปฏิบัติจากคุณตา

และได้รับพุทธธรรมเป็นพินัยกรรม

ไว้ค้ำจุนชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

และช่วยเหลือผู้คนให้พ้นจากความทุกข์ทั้งปวง

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 15:18:42


ความคิดเห็นที่ 143 (1639947)

 ก่อนอื่นขอร่วมอนุโมทนาบุญกับธรรมะบำบัด

สัญจรกับ ทุกท่านด้วยในงานศพ

ของ คุณตาสำเภา วาระนุช ลูกบ้านสวนฯทุกท่าน

ถึงแม้ว่าจะเสียใจกับการจากไปของคุณตา

แต่ทุกคนก็ดีใจที่ได้มาร่วมสร้างบุญ

กับคุณตาและส่งคุณตากลับสู่  พระนิพพาน

 จากการที่ตัวเองและเพื่อนๆ ได้ช่วยกัน

เตรียมงาน  เก็บกวาด เตรียมจัดสถานที่และ

แจกธรรมทานรหัส อ.อุบล  ช่วยด้วย

พร้อมทั้งอธิบายเน้นย้ำ

เรื่องการใช้รหัส และการถือศิล 5 ร่วมด้วย

ซึ่งพวกเขาควรกระทำ  เพื่อการรอด

ปลอดภัย

จากภัยพิบัติซึ่งใกล้จะเกิดขึ้นแล้ว

 ซึ่งทุกท่านที่ได้รับไปต่างก็ให้

                ความสนใจกันมากจริงๆ....... สาธุ.

ผู้แสดงความคิดเห็น กันต์สินี อัครวิชนนท์(นี/พันธ์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 16:50:55


ความคิดเห็นที่ 144 (1639949)

  

ชุบกาย – ชุบใจ

กิจกรรมชุบกายที่วัดพัฒนารามถือเป็น

การสอบเก็บคะแนน ของพวกเราลูกบ้านสวนพีระมิด

ไม่มีใครยอมใครหรือปล่อยเวลาให้ผ่านไปเฉยๆ

โดยไม่ทำอะไรแทบจะเรียกได้ว่า

ใบไม้สักใบหนึ่งก็อย่าให้เห็นตกอยู่ตามพื้นเชียวหละ

การฝึกฝนตนเองจากหลายๆ ด้าน

ผ่านการทดสอบมาหลายๆด่าน

จากห้องเรียนในบ้านสวน

ได้ถูกนำมาปฏิบัติและใช้จริงภาคสนาม

ในการช่วยเหลือผู้คนและสังคม

เป็นการสะสมบุญและเพิ่มพลังศรัทธา บารมี

และเสริมความมั่นใจ

พวกเรามองหางานโดยไม่ต้องมีใครมาบอก 

เป็นที่แปลกใจของผู้คนที่มาในงาน

มี จิตอาสา เป็นตัวกระตุ้นให้ กายอาสา ไปทำโน่นนี่นั่น

กวาดลานวัด จัดสถานที่  ดูแลเครื่องดื่ม 

ล้างห้องน้ำ  ทำอาหาร  ช่วยกันแจกธรรมทาน ซีดี

และใช้จี้บำบัดพ่อแม่พี่น้องชาวบ้านโคกสำโรง

ให้หมดทุกข์จากอาการต่างๆ 

แม้แต่พระสงฆ์งานนี้ก็ได้รับการบำบัดด้วยครับ

สิ่งที่ได้ฝึกฝนกันมาย่อมไม่สูญเปล่าแล้วครับ

นี่แหละ ลูกบ้านสวนฯ ตัวจริง  ต้องอย่างนี้

ในคราวนี้นอกจากจะทำกิจกรรม ชุบกาย กันแล้ว

แต่สิ่งที่ได้แถมมา คือ การชุบจิต  ด้วยครับ

จิตที่ละตัวตน  ไม่ยึดติดอยู่กับตำแหน่ง ชื่อเสียง เงินทอง

คนบางคนแม้กระทั่งโต๊ะก็ยังยึดติด

โดยที่ไม่ยอมลุกไปไหนไม่รู้อะไรจะยุ่งขนาดนั้น

แขกไปใครมาก็ไม่สนใจ 

เป็นโรคติดโต๊ะและติดกระเป๋าตุงๆอยู่ใบหนึ่ง

เป็นที่น่าสงสัยยิ่งนัก ว่าในกระเป๋ามีอะไร

ชุบตัวในโรงครัว 

สำหรับผมวันเสาร์ตอนช่วงเช้าติดจักรและปั้นมื้อ

ท่านท้าวเวสสุวรรณยังไม่ทันเสร็จ

ช่วงบ่ายก็เดินทางไปวัดพัฒนาราม

วันนี้ช่วยงานที่โรงครัวเป็นผู้ช่วยคุณอัม

แม่ครัวกิตติมาศักดิ์มาทำเมนูบะหมี่หมูแดงให้พวกเรา

มีน้องขิงเป็นพ่อครัวช่วยคุณแม่ด้วย

ต้มน้ำร้อนลวกผักกวางตุ้งแช่ในน้ำผสมน้ำแข็ง

เพื่อให้ผักกรอบและเขียวน่าทาน

ช่วยกันหั่นหมูแดงอบน้ำผึ้ง  คุณอัมลวกเส้นหมี่

และนำให้น้องบัวคลุกกระเทียมเจียวหอมกรุ่น

หลายๆคนช่วยกันนำมาแบ่งใส่ถ้วยใส่ผัก

ใส่เต้าหู้ทอด ใส่หมูแดง 

เตรียมพร้อมเสริฟพร้อมน้ำซุป

กินไปดูวีดีทัศน์คุณตาสำเภาไป 

ดูแล้วคุณตาอารมณ์ดีมีความสุข ความจำดี สายตาดี 

สวดมนต์เก่งมาก  ผมยังเรียกท่านมากินบะหมี่ด้วยเลย

อร่อยจนต้องเรียกคุณตามาชิม

ปิดท้ายด้วยน้ำเต้าหู้เข้มข้นและปาท๋องโก๋อีกคนละถ้วย

ก็อิ่มสบายท้องสำหรับมือเย็นครับ

เสร็จพิธีสวดตอนสามทุ่มกว่าขับรถกลับมาบ้านสวน

มาช่วยกันเย็บเล่มเอกสารสำหรับแจกในงานจนเที่ยงคืน

ต้องขอตัวไปนอนก่อนครับเพราะต้องขับรถ

พรุ่งนี้เช้านัดกันไว้ตอนเจ็ดโมง

เหมือนไม่ได้นอนเลยครับเอนหลังปุ๊บหลับปั๊บ  

รู้สึกตัวอีกทีเช้าแล้ว

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 16:54:57


ความคิดเห็นที่ 145 (1639954)

 

ปลา อะไรตัวใหญ่กว่า ปลาวาฬ

ปลาวาฬชุปแป้งทอด

กำลังนึกถึงปัญหาของเด็กๆ เค้าเล่นทายกัน

นึกถึงตัวเองว่า ถ้าเป็นตัวเราเอาไปชุปแป้งทอด

จะตัวใหญ่ขนาดไหนหนอ  นี่ก็ตัวใหญ่แล้ว

กิจกรรมคราวนี้เป็นการชุปกาย 

ว๊าว...จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง

ตัวจะเล็กและพุงจะยุบลงบ้างมั๊ย

หรือจะพองโตเท่าปลาวาฬ

แต่ไม่เป็นไรรูปกายภายนอก

คงจะสูงและหล่อไม่เท่าคุณธนาเป็นแน่แท้

กำลังคิดดูว่าคนเราถ้ามีความอยากอยู่

อยากได้โน่นนี่ ก็คงจะไม่สมหวัง 

ต่างจากกับการที่เราทุ่มแทแรงกายให้กับการทำงาน

โดยไม่สนใจรูปลักษณ์ภายนอกไม่สนในอิมเมจ

มีจิตที่อาสาไม่เกี่ยงงาน  มีสมาธิ

จิตเราก็ได้รับการฝึกฝนไปด้วย

กิจกรรมคราวนี้มีของแถมให้เป็นทุน

ในการสร้างบุญด้วย

เราเตรียมชุบกายให้แข็งแรง

และได้จิตที่มีความพร้อมที่จะเป็นผู้ให้

ด้วยความเต็มใจ ไม่เกี่ยงงาน ไม่ห่วงหล่อ ห่วงสวย

เราก็รวยน้ำใจ

ตราบใดที่จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว

และเรามุ่งมั่นที่จะสร้างความดีโดยไม่หวังผลตอบแทน

แค่นี้เราก็มีความสุขมากแล้วครับ

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 17:30:05


ความคิดเห็นที่ 146 (1639957)

 


กิจกรรมวันเสาร์ที่ 10 พ.ย. นี้
กว่าตุ้ยจะไปถึง ก็สายค่ะแปดโมงกว่า
แล้วก็ประเดิมด้วยการสร้างบุญ 
วันนี้เรามีเวลาไม่มาก สร้างบุญได้ถึง 11.00 น.
ตุ้ยเองอยู่กลุ่ม อ.พัน เรามีหน้าที่ขุดดิน เกลี่ยดิน
บริเวณโรงทานเก่า ให้ราบเรียบเสมอกัน
ฟังดูง่าย แต่พอทำจริงยากค่ะ ยากเพราะต้องเป๊ะ
การขุด การวางขา การโยกตัว การผ่อนจอบ
การสาวจอบ เรียกว่า อ.พัน ท่านไม่ละเลย
สอนเราทุกเม็ด แล้วพอทำตาม ก็ได้เนื้องานจริงๆ ค่ะ
พอ 10.00 โมงเราเปลี่ยนฐาน ไปอยู่ตรงพีระมิดองค์เล็กด้านหน้า
พวกเราทำความสะอาดกัน  เวลาก็ใกล้จะหมด
แล้วคนก็มีน้อย สรุปเราต้องแบ่งกันให้ทำคนละองค์
คุณก๊อตเป็นหัวหน้าทีม ให้เราทำความสะอาดนอกองค์พีระมิดก่อน
พอใกล้ 11.00 น. พวกเราทำเสร็จทุกองค์ (เฉพาะภายนอก)
แล้วมายืนประเมินผลกัน โดยคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 80-95 %
โดยรวมถือว่าสะอาดพอใช้ ถ้าเทียบกับเวลาแค่ 1 ชั่วโมงค่ะ

จากนั้นเราก็เตรียมตัวอาบน้ำอาบท่า ไปร่วมงานศพคุณตากัน
ไปถึงงาน ก็ราว 3-4 โมงเย็น พวกเราก็ไม่นิ่งเฉยค่ะ
ช่วยกัน เสริฟน้ำ เสริฟท่า ไม่ทำตัวเป็นแขกค่ะ
บ้างก็กวาดลานวัด  คอยโบกรถที่มาในงาน
บ้างก็หามุมบำบัดชาวบ้าน
ที่มางาน เห็นแล้วน่าปลื้มใจจริงๆ ค่ะ
และกระแส ทอล์คออฟ เดอะทาวน์ ที่เป็นประเด็นในงานนี้ก็คือ
ภาพลูกบ้านสวน ห้อยจี้กันเต็มแผงคอ ทั้งเด็ก สตรี คนชรา
แต่ละคนไม่ต่ำกว่า 3 องค์ (โปรดดูภาพของคุณหนึ่งประกอบ
ขอบคุณภาพของคุณหนึ่งมากๆ ค่ะ)
แล้วแต่ละคน เอาจี้ออกมานอกเสื้อ แบบว่า อย่าได้แคร์ใคร
ยิ่งมีคนมอง คนถาม เข้าทางเรา ถือว่าได้ลูกค้าอีกรายค่ะ

ตุ้ยเองก็ก้ม ๆ เงย เจอคุณลุงคนหนึ่งถามว่า 
นี่หลวงพ่ออะไร เห็นคล้องกันเต็มไปหมด
เราก็บอกไปว่านี่คือจี้องค์สฟิงซ์ ที่อาราธนาบารมีพระพุทธเจ้ามา
โดยท่าน อ.อุบล แกถามราคาก็บอกไป ดูแกสนใจ จึงเสนออุปกรณ์ให้
แกรับฟังยิ้ม ๆ แต่พอหันมาอีกที หายเข้ากลีบเมฆไปไหนไม่รู้ค่ะ อิๆ

ส่วนอีกราย คุณตาคนหนึ่ง แกก็มาถามว่า
นี่หลวงพ่อวัดปากแดงหรือเปล่า
หนูก็อธิบายไปว่าไม่ใช่ แกก็ดูงงๆ
ว่าทำไมต้องห้อยกันเป็นแผงขนาดนั้น
นี่ลูกบ้านสวนคุยกัน อย่าไปเดินแถวพันทิพย์นะ 
เดี๋ยวเขาจะขอเอากล้องส่องพระมาส่องพวกเรา
และได้บำบัดคุณตาไปด้วย เพราะปวดหัวเข่า 
อาการดีขึ้น และแถมไอติมให้แกไปหนึ่งถ้วยค่ะ

ภายในงานก็จะเห็นลูกบ้านสวนนั่งกันเป็นหย่อมๆ
กระจายกันทั่วไปหมด เรียกว่าจำนวนเยอะพอสมควร
มองไปทางไหนก็เจอแต่ลูกบ้านสวน
บางท่านตุ้ยก็จำไม่ได้ ไม่คุ้นหน้า ก็อาศัย
ดูจากจี้ที่ห้อยคอค่ะ ว่าถ้ามีจี้ พวกเดียวกัน 555
 
 
image
 
แหม ถูกใจภาพนี้ของคุณหนึ่งจังเลยค่ะ
ดูแล้วเหมือน ส.ส.ลงพื้นที่เยี่ยมชาวบ้านยังไงยังงั้นเลยค่ะ
จริงใจ เข้าถึง แก้ทุกปัญหา ต้องลูกบ้านสวน
ขอบคุณ ภาพจากคุณหนึ่ง และธรรมทานของทุกท่านด้วยค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 17:49:14


ความคิดเห็นที่ 147 (1639961)

      กิจกรรมชุบกายในอาทิตย์ที่ผ่านมานี้   ถือว่าเป็นการชุบกายที่สุดยอดมากๆ เพราะจากการที่เราได้ฝึกปฏิบัติทำกิจกรรมบุญจากบ้านสวนมานับครั้งไม่ถ้วน แต่เมื่อได้ออกไปทำกิจกรรมบุญนอกบ้านสวน ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ของจริงๆ โดยมีงานศพของคุณตาสำเภา     เป็นบททดสอบ  กาย-จิต ของพวกเราว่าได้ผ่านการขัดเกลามาจนถึงเวลาที่จะใสพอคุ้มค่าแก่การชุบตัวหรือไม่ งานนี้เรียกได้ว่าทดสอบทั้ง กาย - จิตใจ ของพวกเราเป็นอย่างมาก  ว่าจะสามารถทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อ บุคคล สถานที่ ได้อย่างไรบ้าง แก้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้อย่างไรบ้าง

     เห็นภาพแล้ว   อัญต้องขอชื่นชมกองทัพมดลูกบ้านสวน ที่มีความสามัคคีรวมพลัง ช่วยเหลือกันอย่างไม่มีกั๊ก มีเม้ม  เสร็จจากการเตรียมงานศพพอว่างปุ๊บเป็นไม่ได้     ลูกบ้านสวนก็สอดส่ายสายตาที่จะช่วยเหลือผู้คน  เห็นใครมีอาการต้องสงสัยว่าเจ็บป่วยต้องปรี่เข้าไปทีเดียว  และได้ผลซะด้วยซี   ที่ชาวบ้านต่างยอมรับดูจากกระแสแล้ว ตะลึงกันเชียวเป็นไปได้งาย    ไม่เว้นแม่แต่พระสงฆ์องค์เจ้า  คราวนี้หล่ะพี่น้องต้องเป็นที่กล่าวขานตำนานบ้านสวนพีระมิด  ให้แก่ผู้ที่สนใจ และมีบุญสัมพันธ์จะใฝ่หาไปบ้านสวน ยิ่งคนที่ได้ดูแผ่นซีดีของคุณตาสำเภาแล้ว คงอยากไปดู อยากไปสร้างบุญแน่ๆ เพราะคุณตาท่านยิ้มอย่างมีความสุข  สีหน้าอิ่มเอิบ  และเชื่อว่าหลายท่านๆ  จะสามารถสัมผัสพลังแห่งบุญผ่านแผ่นซีดีนี้ได้อย่างแน่นอน       ถึงกับอยากไปพิสูจน์ อยากไปสัมผัส ไปสร้างบุญบ้างจะได้ สวย รวย เก่ง รักษาคนได้ อย่างพวกเรา

     การที่ลูกบ้านสวนไปรวมพลังกันที่วัด    คิดว่านอกจากได้รวมพลังบริสุทธิ์แห่งรักที่ปรารถนาให้ผู้คนพ้นทุกข์แล้ว     พวกเรายังได้รับบททดสอบในเรื่องของ

     - อากาศที่ค่อนข้างร้อน  แต่ก็ไม่ทำให้พวกเราใจร้อนตามอากาศ หรือหงุดหงิดแต่อย่างใด  ยิ้มได้ทุกสถานการณ์  ยิ่งเห็นช่องทางที่จะช่วยเหลือผู้คนซึ่งเต็มไปด้วยทุกข์อยู่ตรงหน้า ต้องยิ่งคว้าโอกาสทันที

     - สายตาชาวบ้านบางกลุ่ม ที่ไม่รู้จักพวกเราที่มองมาแบบแปลกๆ   พวกเราก็ทำให้เห็นว่าพวกเราเป็นกลุ่มกองทัพมดอาสางาน  ไม่เกี่ยงงานเลย กุลีกุจอช่วยงานชาวบ้าน แถมพูดได้อย่างเต็มปากว่า พวกเราเป็นศิษย์ของท่าน อ.อุบล มาจากบ้านสวนพีระมิด

     - สุดท้ายเมื่อชาวบ้านเห็นว่าพวกเรามาช่วยงานด้วยใจ  แถมบางท่านก็สวมชุดเงาะมา  พอช่วงพระราชทานเพลิงศพคุณตา  ก็ถอดรูปจากคนธรรมดา แต่งตัวธรรมดา(เสื้อยืดบ้านสวน)   แต่ตำแหน่งหน้าที่บางท่าน ดร. / ผู้บริหาร / เจ้าของกิจการ / ผศ. ฯลฯ ซึ่งท่านเหล่านั้นต่างก็ทำตัวเป็นเด็กเสริฟน้ำ / อาหาร / แจ๋วก้นครัว  เป็นต้น ซึ่งอาจทำให้ชาวบ้านได้รู้สึกว่า พวกเราไม่ได้ติดเจ้ายศเจ้าอย่าง  พวกเราทำด้วยใจที่อยากให้ผู้คนมีความสุข  ไม่แบ่งชั้นวรรณะ  เท่าเทียมกันเป็นพี่น้องร่วมโลกที่มีความทุกข์เหมือนกัน  แต่พวกเราปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุขเหมือนกับที่เราได้รับความเมตตาจาก   พระพุทธองค์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วอนันตจักรวาล     โดยมีท่าน อ.อุบลและครอบครัวเป็นผู้นำสะพานบุญให้พวกเราได้รับอย่างไม่มีประมาณ ไม่มีเงื่อนไข

      สุดท้ายที่ขาดไม่ได้  ต้องขอกราบขอบพระคุณ คุณตาสำเภา  ที่ทำให้ลูกหลานได้มาพบกับท่าน อ.อุบล   ครูอาจารย์ที่ช่วยทำให้พวกเราได้พบหนทางสว่าง  สะอาด สงบ  ไม่หลงทางอีกต่อไป  และงานศพนี้เอง ทำให้เราได้ทำแบบทดสอบว่าที่ผ่านๆ มา   เอาวิชาความรู้ที่ท่าน อ.อุบลถ่ายทอดให้  นำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้อย่างเต็มที่หรือไม่   พร้อมที่จะออกรบสู้กับอุปสรรคต่าง ๆ หรือ อธรรมในรูปแบบต่างๆ ได้หรือไม่ จิตใจแข็งแกร่งพอหรือยัง  เราได้เป็นผู้ให้อย่างไม่มีเงื่อนไขแล้วหรือยัง  ยังให้ความเมตตาแบบโง่ๆ อยู่หรือไม่     รู้แต่ว่าตัวเองยังสอบไม่ผ่านเลยอะค่ะ  ยังต้วมเตี้ยมอยู่เลย  แต่ก็จะไม่ขอเป็นลูกควายหลงฝูงนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลา บุตรโส (อัญ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 18:39:06


ความคิดเห็นที่ 148 (1639964)

ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับลูกบ้านสวนทุกท่านด้วยครับ

ที่ช่วยกัยเผยแพร่คำสอนของพระพุทธองค์

ให้ขจรขจายไปทั่วทุกสารทิศ

ได้อ่านแล้วรู้สึกปลื้ม มันเต็มไปด้วยเมตตาบารมี

ขันติ วิริยะ ปัญญา ทาน ศีล เนกขัมมะ สัจจะ อธิษฐาน อุเบกขา

ทุกท่านเต็มครบบริบูรณ์

เป็นเส้นที่ที่ราบรื่นที่ท่านอาจารย์ได้ปูให้เดิน

อาจารย์ อุบล ทำให้โลกนี้เปลี่ยนไป

แม้แต่พงหนามก็ไม่สามารถหยุด

พลังสามัคคีธรรมได้

สุดท้ายเราจะได้ไปพบคุณตา

บนพระนิพพานอย่างแน่นอน

ขอกราบในคุณความดีและอนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 19:14:58


ความคิดเห็นที่ 149 (1639966)

 ก่อนอื่นบัวขอแสดงความเสียใจกับ ท่านอ.อุบลด้วยนะคะ ที่ต้องเสียคุณตาสำเภาอันผู้เป็นที่รักยิ่งของลูกหลาน

วันเสาร์ อาทิตย์ ที่ผ่านมาบัวก็ได้ไปร่วมงานด้วย บัวรู้สึกตื่นเต้นนิดๆ เพราะว่าไม่เคยเจอคุณตาเลยแต่บัวก็เดาดูว่าคุณตาคงจะน่ารักเหมื่อน อ.อุบล

ตอนช่วงบ่ายหลังจากที่พวกเราทำงานก่อสร้าง และทำความสะอาดพีระมิดกันเสร็จก็เที่ยงพอดีเลยตอนระหว่าง ที่ทานข้าวกันเสร็จ พี่ธนาก็ได้ชี้แจงว่า วันนี้เราจะไปธรรมมะสัญจรกัน ที่วัดพัฒนาราม อ.โคกสำโรง จังหวัด ลพบุรี จะมีงานพระราชทานเพลิงศพของคุณตา สำเภา วาระนุช ซึ่งเป็นคุณพ่อของ อ.อุบล ในวันอาทิตย์

หลังจากนั้นพวกเราก็ไปอาบน้ำกัน พอเสร็จแล้วก็ เตรียมตัวขึ้นรถ แล้วก็ออกเดินทางเป็นขบวน มุ่งหน้าไปลพบุรี ใช้เวลาประมาณ สองชั่วโมงกว่า พอไปถึงที่วัด บัวก็ขึ้นไปกราบ หลังจากกราบเสร็จแล้ว บัวก็นั่งมองรูปคุณตาอยู่สักพัก บัวก็เห็นคุณตายิ้มให้คะ   คุณตาคงเห็นว่า ยายหนูนี่มองฉันซะ นานเลยยิ้มให้หน่อยละกัน อิอิ

หลังจากนั้นบัวก็เข้าไปช่วยในครัว มีลูกบ้านสวนฯ เต็มไปหมดเลยพวกเรานี่ดีจริงๆเนอะ ว้าวววๆๆ วันนี้น้าอัมเอาอะไรมาทำหนอ โอ้โห ก๋วยเตี๋ยวหมูแดงน่ากินเชียวน้ำลายหยด แมะแมะ บัวช่วยเอาเส้นบะหมี่มาคลุกกระเทียมเจียว แล้วก็แบ่งจัดเป็นถ้วยๆ เอาไว้รับประทานตอนเย็น ระหว่างที่กำลังช่วยทำอาหารอยู่หนูก็เห็น พวกเราบางส่วนที่อยู่ข้างล่างกำลังกวาดลานวัดกันอยู่ ปลื่มใจจริงๆ กวาดเกลี้ยงเลย

ตอนช่วงค่ำๆ เราก็ฟังพระสวด และทานบะหมี่กัน แล้วก็ดูวีดีโอ คุณตาดูร่าเริงแข็งแรกมากๆ อารมณ์ดี และสวดมนต์เก่งสุดๆไปเลยเพราะคุณตาเคยบวชมาก่อน หนูไม่เคยเจอคุณตามาก่อนแต่ดูจากวีดีโอแล้วคุณตาน่ารักมาก มิน่าหละอ.อุบลถึงน่ารักเหมื่อนเลย พ่อลูกคู่นี้

ตอนหลังจากเสร็จงานครัว บัวได้มีโอกาสมาเจอเพื่อนคุณบื๊ก เป็นสุนัขที่เรียบร้อยน่ารักเหมื่อนกัน ก่อนหน้านั้นบัวเห็นคุณลุงที่เป็นพิธีกร บนศาลา ตีก้นสุนัขตัวนั้น สองครั้งดัง ตุบ เพื่อใล่ให้มันออก จากศาลา แล้วก็มีลุงอีกท่านหนึ่งมาพูดกันกับบัวว่า เนี่ยหนูหมามันไม่ยอมออกไป สักที่เนอะ ขวางทางเดินคนอื่นเขา เข้าออก บัวเลยตอบเขาไปว่า คุณลุงขา อย่าไปใล่มันเลย หมามันก็ชอบมาฟัง พระสวดเหมื่อนกันนะ แล้วคุณลุงได้ฟังก็จ๋อยไปเลย

อีกครั้งหนึ้งก็เจอสุนัขตัวเดินก่อนกลับบ้าน มันนอนอยู่ตรงขั้นบันใด บัวและแม่แหล๋นสังเกตุเห็นว่าที่ เท้ามีบาดแผลอยู่ และคิดในใจอยากจะลองบำบัด ดูเลยเข้าไปคุยกับมัน หมาพูดไม่ได้เอ บัวจะทำยังไงดีหว่าแต่บัวก็ลองให้แม่แหล๋นช่วยบำบัดโดย เอาจี้ออก มาให้เขามอง เรารู้สึกว่าเขามองนิ่งๆ ตาเยิ้มมากเลย ทันใดนั้น! มีผู้ขี้เมา เพราะได้กลิ่นเหล้าเหม็นหึ่ง และในมือก็คีบบุหรี่อยู่ด้วย บัวยังคิดอยู่ว่า กล้าเนอะ บนศาลาวัดยังยังผิดศีลได้เนอะ คนเราอยู่กับวัดแท้ๆ หลังจากนั้นชายคนนี้ก็เหยียบหางหมา ในขณะที่พวกเรากำลังบำบัดอยู่ บัวคาดว่าเขาคงรำคาญ ไม่ก็หมั่นใส้หมาที่ถูกได้รับการดูแล หมาก็เห่าใส่เค้า ดีนะที่ไม่กัดแม่แหล๋น แล้วเขาก็พูดว่า คนบ้าอะไรคุยกับหมาได้ แม่แหล๋นก้บอกว่า คนจิตละเอียดและมีเมตตาจิตไงคะที่พูดกับสัตว และเข้าใจเขาได้ แล้วเขาก็บ่นงึมงำหนูฟังไม่รู้เรื่อง แล้วป้าแมวก็พูดขึ้นมาว่า อ้าวคุณแหล๋น แล้วถ้าคนหมาหมาหละ ว่าแล้วป้าแมวก็เงยหน้าไปมองเขาแล้วเราก็เดินออกมาเลย

พอเสร็จงานสวดพวกเราก็กลับมาบ้านสวนฯ ดึกมากแล้วประมาณ ห้าทุ่มกว่า พอมาถึงก็ลงจากรถ คุณบิ๊กก็วิ่งมาต้อนรับพวกเรา พร้อมกันคาบใบไม้ และทำตาหวานและกระดิกหางด้วยความดีใจ

ยังนอนไม่ได้จ๊ะ เราต้องไปช่วยกันเย็บหนังสือสำหรับแจกในงานพรุ่งนี้นะ กว่าจะได้พักพ่อนก็เที่ยงคืนกว่าแล้ว พอเย็บหนังสือเสร็จก็ไปนอนกันแค่นี้ก่อนนะคะ ง่วงนอนจังพรุ่งนี้ต้องตื่นตีห้าเพื่อจะออกรถเจ็ดโมง ไม่ไหวแล้วค๊า ราตรีสวัสดิ์คะ เดี๋ยวมาเขียนต่อนะคะ    

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กฤตยวรรณ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 19:18:29


ความคิดเห็นที่ 150 (1639970)

ประทับใจซีดี ชุด ...คิดถึงพ่อ มาก ๆ คะ

ดูแล้ว คิดถึงคุณตามาก ๆ

ท่านน่ารัก  แข็งแรง พูดชัด

สายตาดี ความจำดี มาก ๆๆ

 

และเห็นถึงความรักที่อาจารย์อุบลแสดงต่อบุพการี

ท่านรัก คิดถึง  อยากดูแลคุณพ่อ มากแค่ไหน

หนูอ่านข้อความแต่ละข้อความ แล้ว..ซึ้งมาก ๆ

จนบางช่วง บางตอน อยากจะร้องไห้คะ

 

แต่ตอนนี้ก็ยิ่งยินดีที่คุณตาได้มาอยู่ใกล้ชิด ลูกสาวคนเล็กของท่าน

(เห็นท่านบอกย้ำกับทุกคนอย่างนั้น) ท่านคงภูมิใจในตัวลูกสาวคนนี้มาก ๆ

ตอนนี้คุณตาคงมีความสุขที่สุดเลยนะคะ...

 

 

บรรยากาศในงานขอบอกว่า พี่น้องบ้านสวนฯ แต่ละท่าน

อร่าม เรืองรอง เหลือเกิน ลูกศิษย์อ.อุบลนี่ ไม่ธรรมดานะ

ที่สำคัญ พวกเราแต่ละคนต่างใช้โอกาสนี้เผยแพร่บ้านสวน

ธรรมะ และบำบัดผู้คนได้เป็นจำนวนมาก น่ายินดีจริง ๆ คะ

และคนที่นั่น คงได้รู้จัก อ.อุบล ดีขึ้นมาก ว่าท่านมีบารมีแค่ไหน

(ตามภาพคุณหนึ่ง และคำบรรยายจากคุณธนานั่นแหละคะ ได้ฟิลจริง ๆ)

 

ขออนุโมทนากับทุก ๆ ท่านที่ร่วมแรงร่วมใจด้วยนะคะ

แม้กระทั่งพี่น้องที่อยู่ไกล ๆ

อย่างพี่ชนิดา น้องหญิง คุณธัญญาภรณ์ ก็ได้ร่วมแรงร่วมใจด้วย

ธรรมทานจากทุกท่านมีประโยชน์อย่างยิ่ง

เป็นสิ่งที่กลั่นกรองออกมาจากใจของทุกคน

ที่มีความกตัญญูต่อครูอาจารย์

และมีจิตเมตตาต่อผู้คนทั้งหลาย ให้ได้พบเจอทางพ้นทุกข์

 

คุณตาคงภูมิใจ..

และรอพวกเราอยู่ที่บ้านสวนพีระมิด แดนนิพพานแน่นอนคะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 19:52:59


ความคิดเห็นที่ 151 (1639975)

ได้มีโอกาสร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ คุณตาสำเภา วาระนุช

ส่งคุณตาขึ้นนิพพานลูกหลานที่ได้ร่วมงานนับว่ามีบุญมากๆ

ฟังประวัติคุณตาแล้วปลึ้มแทนลูกๆคุณตาที่มีคุณพ่อเป็นตันบุญต้นแบบที่สร้างบุญตั้งแต่เด็กเริ่มเป็นสัมเณร ตั้งแต่อายุ 12 ปี , เป็นอาจารย์สอนเด็ก,พัฒนาชุมชน, บริจาคทรัพย์สินที่ดินเป็นสาธารณะประโยชน์ส่วนรวม,  เงินทอง ,อุทิศตนเพื่อสังคม และประเทศชาติและอื่นๆอีกหลายอย่างที่ฟัง 16-17 ข้อ (ขอโทษถ้าจำผิด)ประวัติคนส่วนใหญ่ได้แต่มีหน้าที่การงาน แต่จะบริจาคเงินทอง ที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์สินที่หามาอยากนั้นจะหวงไว้ให้ลูกหลาน ต่างจากคุณตาสำเภาที่ท่านไม่ได้ยึดติดกับสิ่งนี้จิตใจท่านประเสริฐจริงๆ

ตอนพิธิเสร็จแล้วได้มีโอกาสได้ขึ้นไปดูคุณตาเป็นครั้งสุดท้ายคุณตาหน้าใสเหมือนคนนอนหลับพักผ่อนสบายๆท่านละสังขารจริงๆ

ท่านได้สร้างวิมานแก้วใสของท่านใว้แล้ว เบื้องบนเห็นความดีของท่านเมื่อท่านจากไปจะไม่มีใครมาสืบทอด จึงจัดท่านอาจารย์อุบลมาเป็นตัวแทนสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป

พวกเราลูกหลานทุกคนควรทำตามท่านถ้ามีลูกหลานก็ควรสอนให้เขาสะสมบุญตั้งแต่เยาว์วัยจะมีบุญเป็นเสบียงไว้ล่วงหน้าไม่ลำบาก

ขอกราบขอบพระคุณคุณตาสำเภา วาระนุช ที่ทำให้ลูกหลานหันมาดูเองว่าได้ทำความดีได้เสี่ยวหนึ่งของท่านหรือยัง

ผู้แสดงความคิดเห็น นงนภัส จารุธนยศ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 20:08:44


ความคิดเห็นที่ 152 (1639980)

กระผมผดุง สุดจิตต์

กระผมได้มาร่วมกิจกรรมชุมกาย ครั้งนี้

สำหรับกระผมคิดว่า กิจกรรมครั้งนี้

ทำให้ผมได้ฝึกความเข้มแข็งของร่างกายและจิตใจครับ

ทั้งในและนอกบ้านสวน

ในการร่วมกิจกรรม อากาศร้อนอบอ้าวมาก

แต่พวกเราทุกคนก็ยิ้มสู้ครับ

กระผมขอกราบขอบพระคุณ คุณตาสำเภา

และท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวครับ

ที่ได้เมตตาให้โอกาสผมและครอบครัวได้สร้างความดี

กระผมได้มีโอกาสบำบัดหลวงพ่อองค์หนึ่ง

ท่านอาการปวดขา ปวดเอว ปวดตามมือ

พอใช้จี้บำบัดแล้วหลวงตา ดีขึ้น 80 เปอร์เซ็นต์

และได้แนะนำรหัสอาจารย์อุบลช่วย ด้วย

หลวงพ่อท่านนี้ปลื้มใจมาก

ผมเห็นพลังความรักความสามัคคีของลูกบ้านสวน

ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นมากเลยครับ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 20:52:32


ความคิดเห็นที่ 153 (1639983)

วันนี้เข้ามาช้ากว่าคนอื่น เพราะกลับมาถึง 5 ทุ่มแล้ว แบตเตอรี่หมดตั้งแต่ยังขับรถไม่ถึงบ้าน เลยเขียนไม่ไหวค่ะ

เจี๊ยบไปงานศพคุณตาในวันศุกร์ ได้เห็นพวกเราลูกบ้านสวนมากันเต็มศาลาแล้ว อาจารย์ไม่ทิ้งพวกเรา พวกเราก็เช่นกันค่ะ ไม่ทิ้งอาจารย์         เราจะไม่ทิ้งกัน เราจะเดินไปด้วยกัน

งานศพคุณตามีพวงหรีดที่มาแสดงความเสียใจกับการการจากไปของคุณตานั้นมากมาย นั่นก็เพราะคุณงามความดีของคุณตาที่ได้สร้างสมไว้ตลอดชีวิตของคุณตา กราบขอบพระคุณคุณตาที่เป็นต้นบุญแก่ท่านอาจารย์อุบล ทำให้พวกเราได้มีวันนี้ วันที่พวกเราได้มีโอกาสได้สร้างคุณงามความดี ได้มีโอกาสช่วยเหลือคน ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ให้หายทุกข์ทรมานจากโรคภัยไข้เจ็บ รู้สึกว่าตัวเองเริ่มมีคุณค่าค่่ะ

ตอนเช้าวันเสาร์ คุณธนาเริ่มใ้ห้จัดกลุ่มทำ workshop กันค่ะ มีกลุ่ม 3 กลุ่ม คือกลุ่มทำความสะอาดบริเวณบ้านสวน กลุ่มก่อสร้าง และกลุ่มรวบรวมและเข้าเล่มธรรมทานมุทิตาจิตต่อคุณตา ซึ่งเจี๊ยบอยุ่กล่มหลังนี้ เราทุกคนต่างเร่งการทำงานของแต่ละคน   เพราะมีเวลาแค่ 2 ชั่วโมงกว่าเท่านั้น จากนั้นเราก็จะไปงานศพกันแล้ว ธรรมทานมุทิตาจิตก็หลั่งไหลมาเรื่อยๆ เพราะทุกคนต่างก็อยากจะรำลึกนึกถึงคุณตาเป็นครั้งสุดท้ายกัน คนไหนไม่ได้เอามาก็นั่งเขียนกันสดๆนี้แหละค่ะ แล้ววิ่งไปถ่ายเอกสารกัน เราก็เข้าเล่้มกันไม่หวาดไม่ไหว หนังสือธรรมทานมุทิตาจิตของลูกบ้านสวนจำนวน 500 เล่มหนาเป็นปึก ปกหน้าเป็นรูปคุณตายิ้มหวาน มีความสุข สวยงามมากค่ะ   

เมื่อเราไปถึงวัดต่างก็หางานกันทำ ทั้งกวาดลานวัด เผาขยะ ล้างห้องน้ำ เข้าครัวช่วยคุณอัม เรียงหนังสือธรรมทานและซีดี  กันจ้าละวั่น หลังจากเสร็จงานส่วนนี้ เราต่างก็มองหาเหยื่อเอ๊ยลูกค้า ที่จะให้เราได้บำบัดกัน

เจี๊ยบตักไอติมเลี้ยงแขก ปากก็บอกไป ไอติมคะทานฟรี ทานเสร็จแล้วก็มีบำบัดฟรี เจ็บป่วยอะไรรักษาได้ค่ะ เพื่อเป็นบุญกุศลให้คุณตาค่ะ เรามาช่วยวันนี้วันเดียวนะค่ะ วันหลังไม่เจอกันแล้ว

ตอนแรกๆชาวบ้านก็ไม่แน่ใจว่า พวกนี้จะมาขายของหรือเปล่า เราต้องอธิบายกันว่าไม่เสียเงินเสียเวลาแค่ 2-3 นาที เท่านั้น ชาวบ้านก็เริ่มสนใจให้เรารักษา เมื่อชาวบ้านหาย เขาก็เริ่มเปิดใจให้เรารักษากันมากขึ้น แต่ละคนก็ได้ลูกค้ากันหลายราย และเผยแพร่รหัสได้มากเลยค่ะ 

พวกเราทุกคนสะดุดตาชาวบ้านมาก บางคนเขาก็มองจี้ของพวกเราอย่างสงสัย คงคิดว่า เอ้/พวกนี้อยู่สำนักไหน ห้อยกันเป็นพวงทั้งหญิงทั้งชาย อดรนทนไม่ได้ เวลาเราเดินผ่านก็เลยถาม เสร็จโก๋ละ ตอบคำถามเคลียแล้วมีอาการเจ็บปวดที่ไหนไหมค่ะ  ได้ลูกค้าง่ายๆเลย การที่พระพุทธองค์ท่านทรงให้เราสวมจี้ไว้นอกเสื้อนั้น เพราะพระองค์ทรงมีคำตอบอยู่แล้วนั่นเอง 

เราเดินแจกหนังสือธรรมทานและซีดีให้แขกที่มาร่วมงานคุณตา ส่งยิ้มให้ทุกคน แม้อากาศจะร้อนแต่เราก็ทำงานกันอย่างมีความสุข ดีใจที่ได้ช่วยบำบัดทุกข์ ดีใจที่ได้ไห้ธรรมทานแก่คนอื่น ไม่นานนักธรรมทาน 500 เล่มของเราหมดเกลี้ยงเลยค่ะ ไม่พอแจก เพราะแขกสนใจหนังสือธรรมทานรูปแบบใหม่ของเราที่ไม่เหมือนหนังสือธรรมะทั่วๆไป ซึ่งมีแต่คาถา แต่ธรรมทานของเราเล่าความชั่วของตัวเองค่ะ สุดยอด  

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 21:28:17


ความคิดเห็นที่ 154 (1639992)

การชุบจิต  ด้วยครับ

จิตที่ละตัวตน  ไม่ยึดติดอยู่กับตำแหน่ง ชื่อเสียง เงินทอง
คนบางคนแม้กระทั่งโต๊ะก็ยังยึดติด
โดยที่ไม่ยอมลุกไปไหนไม่รู้อะไรจะยุ่งขนาดนั้น
แขกไปใครมาก็ไม่สนใจ 
เป็นโรคติดโต๊ะและติดกระเป๋าตุงๆอยู่ใบหนึ่ง
เป็นที่น่าสงสัยยิ่งนัก ว่าในกระเป๋ามีอะไร
*************
ป๊าด.ด.ด.ด.  เอี๊ยด.ด.ด.
ขอแวะมากด Like ให้ก่อนเลย
และอยากทราบว่า
อาการของโรคติดโต๊ะ
อ่ะค่ะว่ามีอาการและ
ลักษณะของโรคเป็นอย่างไรคะ
เท่าที่แมวเห็นเนี่ย
เอาขาตัวเองเกาะเกี่ยว
กับขาโต๊ะเลยนะคะ ตอนแรก
คิดว่าเป็นงูเลื้อยพันกับขาโต๊ะ
อ้อ ที่ไหนได้  ขาคน
แล้วเป็นโรคระบาดใน
เด็กทารก  หรือ เฒ่าทารก คะ ?
ก๊าก.ก.ก.ก.ก.
I Love you Baby.y.y.y. 
Baby.y.y. จริง ๆ เลยนะ ตัวเอง
 
 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 22:35:34


ความคิดเห็นที่ 155 (1640006)

ในคราวนี้นอกจากจะทำกิจกรรม ชุบกาย กันแล้ว แต่สิ่งที่ได้แถมมา คือ การชุบจิต ด้วยครับ จิตที่ละตัวตน ไม่ยึดติดอยู่กับตำแหน่ง ชื่อเสียง เงินทอง คนบางคนแม้กระทั่งโต๊ะก็ยังยึดติด โดยที่ไม่ยอมลุกไปไหนไม่รู้อะไรจะยุ่งขนาดนั้น  แขกไปใครมาก็ไม่สนใจ เป็นโรคติดโต๊ะและติดกระเป๋าตุงๆอยู่ใบหนึ่ง เป็นที่น่าสงสัยยิ่งนัก ว่าในกระเป๋ามีอะไร

ข้อความจาก อ.อภิชัย

---------------------------------------------------------

อุเหม่!!!อ่านแล้วงึ๊ดล๊ายหลายย

แสดงว่าสิ่งที่อยู่ในกระเป๋านี่ต้องสำคัญมากจริงๆเลย หรือว่าเป็นสิ่งที่อันตรายต่อคนอื่นนะ ถึงได้กลัวและเฝ้าขนาดนั้น คนที่อาจารย์อภิชัยเห็นจึงไม่ยอมลุกหนีไปไหน ไม่สนใจว่าใครจะไปจะมา แสดงพฤติกรรมเฝ้าโต๊ะ เฝ้ากระเป๋าแบบนี้ อยากบอกว่าน่าสงสารและน่าสมเพชที่สุด

ผมมั่นใจว่าไม่ใช่ลูกบ้านสวนฯแน่นอน เพราะพวกเรา100%ต่างช่วยกันทำงานแบ่งเบาภาระในงานกันอย่างเต็มที่ พวกเรามาที่นี่ เพราะต้องการแสดงความกตัญญูต่อคุณตาสำเภา ผู้ให้กำเนิดท่านอาจารย์อุบล ที่ทำให้พวกเรามีความสุขกันมากมายถึงทุกวันนี้

พฤติกรรมดังกล่าวเรียกว่า เห็นแก่ตัว ทำไมไม่ไปช่วยงานล่ะ คุณมานั่งเกาะ เกาะอะไรอยู่ ไม่มีใครคบ หรือสังคมรังเกียจหรือไง ท่าทางคนที่อาจารย์อภิชัยเห็นน่าจะเป็นเด็กมีปัญหาหรือไม่ก็เฒ่าทารกจริงๆด้วยแหละ เง้ออ

ยิ่งไม่ทำอะไรเลยทั้งวันแสดงว่าจิตใจตกต่ำมาก  ดูตัวอย่างลูกบ้านสวนฯสิเขาไม่นั่งงอมืองอเท้าแบบนี้หรอก งานเล็กงานน้อยเขาช่วยกันทำอย่างเต็มที่ เรื่องแค่นี้คุณยังไม่ช่วยเลย แล้วพ่อแม่คุณที่บ้านคุณจะดูแลท่านหรือ เพราะจิตการเป็นผู้ให้ไม่มีเลย

คนแบบนี้คงหนีไม่พ้น โดนกรรมเล่นงานทุกๆทาง มีที่ไปที่เดียวคือ "มหานรก" เท่านั้น

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 23:42:23


ความคิดเห็นที่ 156 (1640007)

มันฟ้องด้วยภาพจริงๆเรยครับ กับการปฎิบัติหน้านอกสถานที่ได้อย่างดีเยี่ยมทุกๆท่านเรยครับ นี่สิน่ะที่เรียกว่า ชุบตัว ของแท้ ผมว่านี่มัน ไม่ใช่ชุบกายอย่างเดียวครับ นี่มันชุบใจและกายจริงๆครับ เพราะแต่ละอย่าง แต่ละท่าน ที่พวกเราได้ปฎิบัติหน้าที่กันนั้น ต้องใช้กำลังสูงอย่างยิ่งครับ

เท่าที่ผมสังเกตุการณ์นั้น พวกเรามีกันหลายแผนก ปฎิบัติหน้าที่กันหลายอย่างครับเราแยกย้ายกันไปทำหน้าที่โดยไม่ต้องมีคนมาแบ่งงาน หรือมอบหน้าที่ให้ น่าปลื้มใจแทนท่านอาจารย์จริงๆครับ
ฝ่ายสถานที่ ตั้งแต่ลงจากรถ ลูกบ้านสวนฯจำนวนนึง ตรงเข้าไปจับไม้กวาด กวาดลานวัด บริเวณลานเมรุ พร้อมกับจัดเตรียมเก้าอี้ และทำความสะอาดโดยเช็ดเก้าอี้
ช่างไฟฟ้าและเครื่องเสียง อันมีคุณอดิศักดิ์และพี่สิทธิ์ ช่วยกันเตรียมเครื่องเสียงต่างๆ จัดการและเตรียมโปรเจคเตอร์ เพื่อฉายสไลด์ธรรมทานให้ผู้ร่วมงานได้ชมกันครับ
หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ทีมนี้มีหลายท่านครับ ออกเดินล่าหาผู้ป่วยกันครับ เรียกว่าไปบุกกันถึงบ้าน ถึงเรือนกันเรยครับ ทั้งน้องชิม อาจารย์พันธุ์ น้องเอิ้น และท่านอื่นๆ ทำหน้าที่กันอย่างแข็งขัน
อีกจุดนึงของวัด สาวๆบ้านสวนฯ ทั้งสาวเล็ก สาวใหญ่ สาวเหลือน้อย ก็สาระวนกับการจัด เตรียมเอกสารธรรมทาน ทั้งซีดี เพื่อจัดเป็นชุดๆ เพื่อแจกให้กับผู้ร่วมงาน กลุ่มนี้มีแต่สาวๆ แต่ไม่รู้ทำไม พี่โฆษิตไปอยู่กลุ่มนั้นล่ะ 55 พอถึงเวลา สาวๆอย่างพี่จุ๋ม พี่จิ๋ม อาจารย์ณี และท่านอื่นๆ ก็ช่วยกันแจกธรรมทานกันสนุกสนาน เนี่ยขนาดเตรียมไป 500 ชุด ยังไม่พอเรยน่ะครับ
ทีมแม่ครัวก็มีคุณอัม เป็นหัวเรือใหญ่ งานนี้รอดไปหลายมื้อ เพราะคุณอัมนี้แหละครับ
ส่วนบอดี้การ์ด ก็มีพี่แมว คุณก็อต พี่ตัวเล็ก คุณเต้ เรียกว่า อาจารย์ไปไหน หนูไปด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะท่านหลังสุดนี่ กำลังใจท่านสูงมากๆครับ เพราะต้องใช้กำลังใจในการขออนุญาติภรรยา มาช่วยงานน่ะครับ 55+ ขอแซวหน่อยน่ะ อิอิ
 ขออนุโมทนากับลูกบ้านสวนฯทุกท่านด้วยเด้อ  สาธุ           
   
ผู้แสดงความคิดเห็น กฤษณะ สิงห์ป้อม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 23:56:14


ความคิดเห็นที่ 157 (1640009)

ตื่นเช้าวันอาทิตย์เหมือนยังไม่ได้นอน

เอนหลังปุ๊บตื่นมาก็เช้าแล้ว

พวกเราออกเดินทางจากบ้านสวนฯ

ไปวัดพัฒนารามตั้งแต่เช้า ๗ โมงเช้า

พอไปถึงก็มีลูกบ้านสวนฯหลายๆคนไปถึงก่อนแล้ว 

กำลังเตรียมโต๊ะสำหรับวางเอกสาร

และซีดีสำหรับแจกในงาน

งานแรกที่ได้รับมอบหมายจากภรรยา

คือช่วยต้มน้ำสำหรับทำแกงจืดมะระ

รอคุณอัมมาถึงก็จะได้ทำได้ทันที

 

มีเพียงหนึ่งในห้าสิบ ที่จิตสัมพันธ์

ผมว่างจากงานครัวก็มาช่วยกวาดลานวัดครับ 

จัดสถานที่เตรียมเก้าอี้ สำหรับแขกที่จะมางานตอนเย็น

เตรียมพื้นที่บนศาลาสำหรับพระฉันเพล 

ตอนประเคนอาหารหลวงพ่อ หลวงพี่ท่านสนใจ

จี้ที่ใส่เมื่อฉันเสร็จท่านเดินมาถามอีกที่ข้างล่าง

“ โยมสวมพระอะไรกันเห็นใส่กันทุกคนเลย “

“ ไม่ใช่พระครับหลวงพี่ แต่เป็นจี้สามร่มโพธิ์ศรีครับ “

จึงอธิบายให้ท่านทราบว่าคืออะไร 

มีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง 

ยืนอธิบายกันกลางแดด  เลยนิมนต์หลวงพี่ไปคุยต่อ

ในเต้น  แนะนำรหัสจักรวาลให้หลวงพี่ทราบ

แนะนำอาจารย์อุบล  ท่านบอกว่าเคยเห็นอาจารย์อุบล

แล้วที่งานหลวงพ่อเสงี่ยม

และวันนี้ตอนฉันอาหารครั้งแรกท่านอยู่ด้านในแต่มีการ

ขยับขยายพื้นที่ลงมาด้านล่าง

หลวงพี่ท่านบอกว่านั่งตรงกับอาจารย์พอดี 

ผมเลยแจ้งให้ท่านทราบว่าวันนี้เป็นโอกาสดี

ท่านมีบุญสัมพันธ์กับอาจารย์อุบลและบ้านสวนพีระมิด

เนื่องด้วยวันนี้มีพระมาฉันเพลห้าสิบรูปแต่มีท่านรูปเดียว

ที่สนใจไถ่ถามเรื่องจี้และบ้านสวนพีระมิด

อย่างจริงจังถามไถ่ทุกอย่าง  ท่านจะขอเช่าจี้พีระมิดด้วย

ผมเลยแนะนำดูรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็ปไซต์

ท่านบอกว่ากลับไปจะดูเว็บไซต์ทันที

คุณธนามาและคนอื่นๆมาร่วมสมทบด้วย

พวกเราอยากให้ท่านพิสูจน์ดูโดยการใช้รหัส

แต่ท่านไม่เป็นอะไรแข็งแรงดี

คุณธนาจึงเรียนถามท่านว่ามีพระรูปใดบ้างที่อาพาธ

ไม่สบายจะได้บำบัดให้ท่าน

 

หลวงพี่เปิดจิต  ได้ผลฉับพลัน

ท่านแนะนำหลวงพี่ที่มาด้วยกันให้รูปหนึ่ง

ท่านมีปัญหาขาและสะโพกด้านซ้ายเจ็บเดินไม่สะดวก 

ท่านบอกว่าเคยเป็นคนขับรถ พอนั่งขับรถนานๆเข้า

ขาก็มีอาการอย่างที่เห็น

ผมมีจี้ร่มโพธิ์ศรีองค์เดียว  จึงต้องให้คุณธนาบำบัดแทน

คุณธนามีสองเส้น เส้นนอกรู้สึกว่าจะห้าองค์ 

แต่ในเสื้อเมื่อนำมารวมกันก็หลายสิบองค์

ทำเอาหลวงพี่องค์แรกตะลึงเหมือนกันเยอะมาก

จึงบอกหลวงพี่ว่าในการบำบัดผู้ที่มีอาการหรือ

ปัญหาหนักต้องใช้จี้หลายองค์ครับ

เป็นการเพิ่มพลังบารมีในการบำบัด

หลวงพี่ที่ท่านมีปัญหาจิตท่านเปิดมากปฏิบัติตาม

คำแนะนำทุกอย่าง

เริ่มจากมองจี้ ๖๐ วินาที อาการเจ็บของท่านลงทันที

ห้าสิบเปอร์เซ็นต์

และเมื่อให้ท่านใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย

ท่านก็หายปวดเหลืออีกเล็กน้อย

เมื่อให้ท่านสารภาพบาปตอนสมัยก่อนบวช

อาการต่างๆหายร้อยเปอร์เซ็นต์

ยังเหลือแต่อาการเดินที่ขาไม่เท่ากัน 

ท่านบอกว่าท่านไม่เจ็บแล้ว

พวกเราตื่นเต้นกันมากที่ท่านหายจากอาการเจ็บ

และเนื่องด้วยเป็นครั้งแรกที่บำบัดพระสงฆ์

ผมเห็นหลวงพี่องค์แรกท่านสนใจมากๆ 

ถามท่านว่าท่านเคยเห็นแบบนี้บ้างมั๊ย

ท่านบอกว่าไม่เคยเห็นมาก่อน 

แต่ท่านก็เห็นกับตาของท่านเองว่าพระที่มาด้วยกัน

หายจากอาการเจ็บภายในเวลาไม่ถึงสองนาที

ตอนนี้เราได้แนวร่วมสายพระสงฆ์แล้ว

อย่างน้อยสองรูปที่ท่านได้พิสูจน์

กฏแห่งกรรมด้วยสายตาตนเอง

จึงเรียนให้ท่านทราบว่าที่ท่านหาย

ก็ด้วยพระบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์

ที่ท่านอาจารย์อุบลท่านอารธนาพระบารมี

มาไว้ที่จี้สำหรับบำบัด

และหลวงพี่ด้วยที่เปิดจิตรับด้วยความบริสุทธิ์ใจ

โดยไม่มีข้อกังขา

จึงสามารถเห็นผลได้อย่างฉับพลันทันที

 

หลวงพ่อจิตไม่เปิด

หลังจากนั้นมีหลวงพ่ออีกท่านหนึ่งที่ท่านปวดหัวเข่า

อายุท่านประมาณ ๗๒ ปี

ผมชวนท่านคุยถามไถ่ความเป็นมาถึงอาการเจ็บ

ท่านบอกว่าท่านเจ็บมาหลายปีแล้ว

จึงแนะนำคุณสมบัติของจี้สามร่มโพธิ์ศรี 

ให้ท่านมองจี้ ท่านเหลือบมองนิดหนึ่ง

แล้วก็ไม่มองเมินหน้าไปทางอื่น

พยายามอยู่พักใหญ่ๆท่านก็ไม่ยอมมองจี้ 

ท่านบอกท่านรักษามาเยอะมันก็ยังเจ็บอยู่ไม่หาย

เมื่อให้ท่านลองใช้รหัสท่านก็ไม่ยอมพูด 

พูดแต่เรื่องที่ท่านเจ็บ

ผมจึงถามท่านเรื่องที่ท่านเคยทำผิดศีลอะไรบ้าง

ท่านเล่าให้ฟังว่าเคยฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อย

และเคยหักขากบสมัยหนุ่มๆ

เมื่อท่านพูดถึงตรงนี้ผมถามท่านว่าอาการเจ็บเข่าเป็น

อย่างไรบ้าง

หลวงพ่อบอกว่า

" มันหายประเดี๋ยวมันก็เป็นอีก เป็นๆหายๆ "

ผมคิดว่าท่านมีอาการดีขึ้นตอนท่านสารภาพ 

แต่ฟอร์มท่านเยอะไม่ยอมรับว่าอาการดีขึ้น

หรือท่านเห็นว่าท่านเป็นพระอายุมากแล้ว 

เรื่องแบบนี้จะรับกันง่ายๆก็คงลำบากใจ

ผมเข้าใจหลวงพ่อท่านนะครับ 

เมื่อเห็นท่านเป็นดังนั้น

ผมจึงขออนุญาตอารธนาพระบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ขอให้ช่วยให้หลวงพ่อจิตเปิดและหายจากอาการเจ็บเข่า

ตอนนั้นอาจารย์พันธ์ท่านอยู่ด้วย

จึงขออนุญาตบำบัดหลวงพ่อต่อ

ให้ผมไปทานข้าวเพราะบ่ายโมงแล้ว

ทราบจากอาจารย์พันธ์ว่าท่านคุยอยู่นาน

หลวงพ่อจึงจะเปิดจิต

และในที่สุดท่านก็สารภาพว่าสมัยหนุ่มๆ

ทำผิดศีลข้อสามมาเยอะ

ท่านก็หายเจ็บเข่าเมื่อสารภาพจดหมด

อนุโมทนา สาธุกับหลวงพ่อด้วยครับ

ในที่สุดท่านก็เปิดจิตจนได้

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-12 23:58:49


ความคิดเห็นที่ 158 (1640011)

ก่อนอื่นต้องขออนุโมทนาบุญ

กับทุกคนที่ได้ไปร่วมงานของคุณตาครับ

 

และขอขอบคุณภาพสวยๆของคุณหนึ่ง

ซึ่งเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า

งานของคุณตาครั้งนี้

ได้สร้างความสุข สร้างบุญกุศล

ให้แก่ผู้ที่มางานของท่านมากมายเพียงใด

 

ภาพพระที่มานั่งรับการบำบัดจากฆราวาส

มองดูแล้วอาจแปลก ๆ

เพราะปกติน่าจะเป็นฆราวาสที่ไป

สารภาพบาปกับพระ

 

ต้องเข้าใจนะครับว่า

เราทุกคนล้วนมีบาปติดตัว

มีกรรมเป็นของตนเองทั้งสิ้น

แต่โอกาสปลดล็อคกรรมนั้นต่างกัน

 

ชาวบ้านสวนฯ ล้วนโชคดีที่ได้มีโอกาสพบ

ท่านอาจารย์และครอบครัว มีครูบาอาจารย์

ที่ชี้นำให้สามารถปลดล็อคกรรมในชีวิต

 

ทั้งสอนให้รู้จักแบ่งปันความสุขให้แก่คนอื่น

เป็นการฝึกความรักโดยปราศจากเงื่อนไข

ซึ่งผมคิดว่าเป็นการยกระดับจิตที่สำคัญมาก

ทั้งธรรมบำบัด ธรรมทาน การสารภาพบาป

เป็นหลักฐานสำคัญที่ยืนยันในเรื่องนี้

 

หนังสือธรรมทานที่ตอนแรก

คิดว่าจะแจกไม่หมด กลับไม่พอที่จะแจก

มีเด็กนักเรียนที่สนใจมาขอหนังสือให้พระ

และของตัวเองเป็นระยะ ๆ ตลอดจนเสร็จงาน

 

ซึ่งผมคิดว่า ควันหลงจากการจัดงาน

ทั้งธรรมทาน ธรรมบำบัดที่หายฉับพลันทันที

จะถูกบอกเล่าต่อ ๆ กันไปอีกเป็นเวลานาน

โดยเฉพาะคุณงามความดีของท่านอาจารย์

ที่ทำให้เกิดปาฏิหาริย์หายเจ็บปวดทันทีแบบนี้

 

และนอกจากช่วยเปลี่ยนกรรม

ให้คนหลายคนแล้ว ยังช่วยลดกรรมรวม

ของประเทศได้อีกทางหนึ่งด้วยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 01:03:11


ความคิดเห็นที่ 159 (1640014)

 สิวอักเสบขึ้นอย่างฉับพลันทันที

เรื่องมีอยู่ว่า หลังงานพระราชทานเพลิงศพคุณตาเสร็จแล้ว

พวกเรากองทัพ ลูกบ้านสวนฯ

ได้กราบลาท่านอาจารย์ และแยกย้ายกันกลับบ้าน

เรา 3 คน รวมพี่ตุ๊ก กะน้องหนึ่ง

ก็เดินทางกลับบ้านเช่นกัน

ตอนนี้เข้าสู่ยุคพระศรีอาริย์แล้ว

คนในยุคของท่านก็ต้องเป็นคนที่มีจิตใจดีงาม

มีจิตอาสา ช่วยเหลือผู้อื่น

และพวกขี้เกียจ สันหลังยาว เห็นแก่ตัวฯลฯ

คงจะหมดไปจากโลกนี้

เช่นตัวข้าพเจ้าเอง หลังจากขึ้นรถแล้ว

ก็เอาสบายอย่างเดียว

นอนหลับในรถเลย ปล่อยให้พี่ตุ๊ก

ขับรถกลับบ้านคนเดียว จากลพบุรี-ปทุมธานี

เมื่อถึงปลายทางก็งัวเงียตื่นขึ้นมา

และรีบลงจากรถ

ลืมสิ่งของส่วนตัวไว้กับพี่ตุ๊กอีก

กลับเข้าบ้านส่องกระจก พบก้อนสิวอักเสบมหึมา

ที่บริเวณริมฝีปากด้านบน บวมปูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

(ปากเจ่อ คล้ายถูกชก)

ทั้งที่ตอนขึ้นรถยังไม่มีอาการเลย

จึงคิดว่าต้องมีเหตุอย่างแน่นอน

-----------

ลูกน.ส.เบ็ญจากาญจน์  ศุภศิริวัฒนา

กราบขอขมาเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์

ท่านอาจารย์อุบล และครอบครัวที่ ลูกมิได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่

เมื่อเห็นเพื่อนทำผิด ก็เกรงใจไม่กล้าบอกตรงๆ

ปกป้องตัวเอง กลัวว่าเขาจะโกรธ

ลูกสำนึกผิดแล้ว ต่อไปจะกล้าหาญ

ห้ามปรามเมื่อเห็นคนอื่นทำผิดค่ะ

กราบ กราบ กราบ

---------

ขอขมาพี่ตุ๊กด้วยค่ะที่ เร่งรีบจนลืม (รองเท้า,ผ้าขนหนู)

ไว้บนรถ รวมทั้งมิได้นำถุงขยะกลับมาทิ้งที่บ้าน

ทำให้เป็นภาระกับพี่ตุ๊กอีก

และยังเห็นแก่ตัว หลับมาตลอดทาง

ไม่ช่วยพี่ตุ๊กดูเส้นทาง

ขอโทษจริงๆ ต่อไปจะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น

และจะกล้าพูดในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่กลัวพี่ตุ๊กหรือใครๆโกรธ

 

น.ส.เบ็ญจากาญจน์  ศุภศิริวัฒนา

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 04:35:11


ความคิดเห็นที่ 160 (1640015)
image


 อนุโมทนากับพี่โฆษิต อ.พัน คุณชิม

และทุกท่านที่ได้ช่วยบำบัดให้คนอื่น

หายจากอาการเจ็บป่วยแบบฉับพลันทันที

อนุโมทนากับน้องหนึ่งด้วยที่นำภาพมาลง

ทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น

*****

จากภาพ คุณยายท่านที่กำลังบำบัดอยู่นั้น

มีอาการปวดเมื่อยต้นขาทั้ง 2 ข้าง, ปวดเข่า, ปวดหลัง

ด้วยบริเวณที่กำลังบำบัดนั้นมีคนนั่งหลายคน

ใจคุณยายจึงไม่ได้ จดจ่อกับจี้ อีกทั้ง

ยังห่วงไอติมที่วางอยู่ข้างๆ(กำลังละลายกลายเป็นน้ำ)

จึงได้ให้คุณยายสารภาพบาป

คุณยายเป็นหมอนวด ต้องใช้เท้าเหยียบนวดให้คนอื่นเสมอๆ

เล่นหวย(เดินไปซื้อ) รู้เห็นการทำแท้ง ตีงู ตะขาบฯลฯ

หลังสารภาพจบ คุณยายบอกว่าดีขึ้นมากเลย

เหลือเพียงนิดหน่อย สาธุ สาธุ สาธุ

จากนั้นได้ให้คุณยายขอบคุณ

สมเด็จองค์ปฐม พระศรีอาริย์ พระเจ้าอยู่หัว

ท่านท้าวเวสสุวรรณ ท้าวมหาราชทั้ง 4

เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วอนันตจักรวาล

และบอกคุณยายเพิ่มเติมว่าที่หายเพราะ

บารมีพระศรีอาริย์

หากคุณยายไปทำบาปอีก

ก็จะเป็นอีก อาจจะมีอาการหนักกว่าเดิมด้วยนะคะ

เพราะรู้แล้วว่าบาปแต่ก็ยังทำอีก

จึงไม่แน่ใจว่าคุณยายจะหายถาวรหรือเปล่า

เนื่องจากคุณยายเป็นหมอนวด ต้องใช้เท้าเหยียบนวดให้คนอื่น

*******

น.ส.เบ็ญจากาญจน์  ศุภศิริวัฒนา

12-11-55

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 04:38:30


ความคิดเห็นที่ 161 (1640016)

ก่อนอื่นชาวเกาะจากแดนไกล

ต้องกราบขอบพระคุณคุณตาสำเภา

ท่านอ.อุบลพร้อมครอบครัว

และพี่น้องบ้านสวนฯทุกๆท่านเลยนะคะ

ที่ทำให้ชนิดาได้มีส่วนร่วม

ในงานบุญที่ยิ่งใหญ่เกินประมาณนี้

 

โดยเฉพาะท่านที่เมตตา

พิมพ์ธรรมทานของชนิดา

จนมีโอกาสได้ไปรวมอยู่ในเล่มกับเค้าด้วย

ซาบซึ้งในน้ำใจของทุกๆท่านจริงๆค่ะ....

เพราะดูจากตารางบุญแล้ว

ค่อนข้างสู้กับเวลา

และกำลังกาย กำลังใจพอสมควร

 

แต่ทุกคนก็ทำทุกอย่าง

ได้ด้วยใจที่เกินร้อย จริงๆ

 

ยิ่งได้มาตามอ่านธรรมทาน

จากทุกๆท่านแล้ว มันสะท้อนภาพ

หลายๆอย่างออกมาให้เห็น

 

บางช่วงอ่านไปก็รู้สึกปลาบปลื้มดีใจ

อิ่มบุญกับทุกๆท่านไปด้วย

 

บางช่วงอ่านๆไปก็"จุก"ขึ้นมาซะเฉยๆ

โดยเฉพาะ ธรรมทานที่กล่าวถึง

คุณงามความดี ที่คุณตาสำเภา

ได้ทำมาตลอดชีวิต

เพราะมันช่างมากมายเหลือเกิน

และสะท้อนให้เห็นว่า

คุณตาเป็นบุคคลที่มีคุณค่า

สมควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง..อย่างยิ่ง

 

ไม่แปลกใจเลยค่ะ

ที่คุณตามีลูกสาวที่ประเสริฐ

มีลูกเขยที่ดีเลิศและมีหลานชาย

ที่รวมความสุดยอดไว้ทุกอย่าง

ทั้งมารยาทดี มีสัมมาคารวะ

อ่อนน้อมถ่อมตนกับทุกๆคน ...

 

 

อนุโมทนากับทุกๆท่านด้วยนะคะ

เพราะในงานนี้งานเดียว

มันสะท้อนให้เห็นเลยว่า

สิ่งที่ลูกบ้านสวนฯได้รับ

การขัดเกลามาตลอดนั้น

 

มันถึงเวลาที่ต้อง"ใช้งานจริง"แล้ว

ซึ่งทุกๆท่านก็ทำได้อย่างเป็นอัตโนมัติ

ด้วยจิตที่เป็นผู้ให้อย่างแท้จริง

 

ทำให้นึกภาพออกชัดๆจริงๆค่ะว่า

ภาระกิจกอบกู้ ชาติ ศาสนา

และพระมหากษัตริย์ นั้น

ต้องใช้"แนวร่วม" ที่มีคุณสมบัติ

อย่างลูกบ้านสวนฯ

ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชา

จากท่านอ.อุบล นี่เอง ....

 

ไม่แน่นะคะต่อไป ในวัดต่างๆ

แทนที่พระสงฆ์จะมานั่งสวด

สมาทานศีลห้าเป็นบาลี

แต่จะกลับกลายเป็นภาพ

การนั่งถกธรรมกับญาติโยม

ด้วยการให้ทุกคนสารภาพบาปหมู่

ให้พวกเราได้เห็นเร็วๆนี้ ก็ได้ ....

........................................

ว่าแล้ว ก็อยากรู้จังว่า "เจ๊ยึด..ติดโต๊ะ"

(เดาว่าน่าจะเป็นผู้หญิง

เพราะผู้ชายคงไม่ถือ

กระเป๋าใบใหญ่ๆตุงๆแน่ๆ)

ที่อ.อภิชัย เห็นนั้น เป็นใครกันหนอ..

ถ้ารู้ตัวแล้ว ก็รีบจัดงานแถลงข่าว

แฉตัวเอง โดยด่วนนะจ๊า ...

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 05:53:17


ความคิดเห็นที่ 162 (1640023)

ว่าแล้ว ก็อยากรู้จังว่า "เจ๊ยึด..ติดโต๊ะ"

(เดาว่าน่าจะเป็นผู้หญิง

เพราะผู้ชายคงไม่ถือ

กระเป๋าใบใหญ่ๆตุงๆแน่ๆ)

อ่านข้อความนี้ของมาดามโปแลนด์แล้ว คิดเตลิดจินตนาการไปไกลว่า สงสัยว่าอยู่ในวัดคงกลัว ผะ ผะ ผี....  กลัวและหลอนไม่กล้าลุกไปไหนหว่า บรื๋อออ....

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 08:53:02


ความคิดเห็นที่ 163 (1640074)

กิจกรรมชุบตัว 10-11 พย 2555  by Jum

สืบเนื่องจากการเสียชีวิตอย่างกระทันหันของคุณตาสำเภา วาระนุช ร่มโพธิ์สุดท้ายแล้ว ของ อ.อุบล พวกเราลูกศิษย์ต่างก็อยาก เข้าไปกราบลาศพ คุณตา และส่งกำลังใจเล็กๆ ไปให้ท่านอ.อุบล และครอบครัว วันแรกลูกศิษย์ 1st generation เช่นคุณแมว คุณธนา คุณสิทธฺ์ คุณอ้อย คุณอมร คุณเหมี่ยว คุณตุ้ย คุณก้อย สิงห์ป้อม และอีกจำนวนหนึ่ง ก็รวมพลไปสวดวันแรกทัน เรียกว่ามาตามนัดกันได้เร็ว พี่จุ๋ม จิ๋ม มาวันที่ 2 ได้มีโอกาสพบท่านอาจารย์ อาจอง ชุมสาย กับ คณะครูสัตยาไส

ตอนพบอาจารย์อุบล ท่านดูปกติ ไม่ได้ดูเศร้าอะไรนัก ท่านวางจิตรับความทุกข์แห่งการพลัดพรากได้ดีมาก ได้มีโอกาสพบคุณอัม เศรษฐีใจบุญ ขอเป็นเจ้าภาพทำอาหารมังสวิรัติเลี้ยงแขกทุกคืน ถึงวันพระราชทานเพลิงศพ เพื่อให้การทำบุญบริสุทธ์  ท่านอาจารย์และทุกคนต่างซาบซึ้งในรักรักความศรัทธา ที่คุณอัม มีแด่ครอบครัวอ.อุบล ขออนุโมทนาด้วยค่ะ  อย่างไก็ตามเจ้าภาพท่านอื่น เขาก็ดูไม่สนใจกับอาหารบริสุทธิ์ของพวกเรานัก ตอนกลางคืนวันเสาร์ รวมทั้งงานเลี้ยงพระ ก็มีของไม่เจ เสริฟมากมาย แต่พวกเราบ้านสวนก็รอดไปอีก 1 มื้อ ก็จากอาหารคุณอัม ที่สู้ขับรถไปกลับ สุพรรณ ลพบุรี พร้อมอาหารเต็มพิกัด

กิจกรรมชุบตัวสัญจร บรรยากาศตอนบ่ายวันเสาร์ เพื่อรองานสวดคุณตา ลูกบ้านสวนต่างก็หางานบุญ ทำความสะอาดลานวัด คุณอดิศักดิ์ กับคุณมงคล ทำอยู่ จุ๋มกะจิ๋มรีบ ไปขอแจมก่อนจะไม่มีให้ทำ มีการเผาใบไม้กองๆทันทีก็ดูเรียบร้อย ต่อจากนั้นพวกเราก็คุย ผูกมิตรกับเช้าบ้าเพื่อจะได้บำบัด แนะนำรหัส  จุ๋มก็พยายามไปหางานในครัว พบว่าน้ำดื่ม ที่ใช้ทำกับข้าวด้วย หมดเกลี้ยง เลยชวนคุณดาโต๊ะ ไปซื้อ โดยอจ อุบล ให้ไปรับเงินจากท่าน ก็มีหนุ่มหล่อจากบ้านสวน นั่งไปซื้อไปขนกันหลายท่าน ขออนุโมทนากับอาจารย์อุบล ผู้ออกตังค์ และหนุ่มๆทุกท่าน บุญคงส่งผลให้ท่านมีน้ำกินกันตลอดชาติแน่ ขออนุโมทนาค่ะ

ช่วงกลางคืนเราได้ดู VDO ตัดต่อโดย อ.มงคล เป็นเรื่องราวของคุณตา ที่พวกเรามารดน้ำดำหัวรับขวัญท่าน ในโอกาสมาเยือน บ้านสวน ในคลิปอ.อุบลยกบ้านสวนอันใหญ่โตให้ท่านแล้วท่านก็ยังผลัดไม่ยอมมา ดูแล้วเศร้าจัง ทุกคนหนีกรรมไม่พ้นจริงๆ ขนาดลูกท่านบุญบารมียิ่งใหญ่ทั่วจักรวาล เจ้ากรรมนายเวรก็ยังมาปิดกั้นความช่วยเหลือจากลูกดีๆของคุณตาได้  ตอนนั่งดู VDOจะนั่งกระซิบกระซาบกับคุณแหลนว่า ลูกหลานคุณตาบางท่าน ทำไมเขาไม่เห็นสนใจดู VDOกัน ลูกสะใภ้หันหลังนั่งพับโบ ส่วนคุณลูกชายนั่งพิมพ์ computor Macintosh เสียด้วย เห็นว่าเกษียณแล้วทำไมดู busy ที่น่าแปลก internetก็ไม่มีจะ search คุณพี่คงติดเกมส์งอมแงมแน่ๆเลย ต้องนั่งกดตลอด

ส่วนบรรยากาศงานวันเผา วันอาทิตย์ ถึงจะออกกัน 7 โมง แต่กว่าจะถึงก็ 10โมง  ช่วงฉันเพล ได้ซื้อพาย และกะหรี๋พาฟใส้ผลไม้กวน และผลไม้ไปร่วม เห็นว่าพระชอบขนม ฉันเกือบหมด พอดีอยู่ในครัวตลอด เห็นเขามีอาหารปกติไว้เยอะมาก พอคุณอัมมาเราก็มีปลาร้าเจ เต้าหู้ทอดราดซ๊อส และแกงแดงหน่อไม้มาเพิ่ม พระวันนี้นิมนต์วัดใกล้เคียงมาประมาณ 50 รูป พอพระฉันเสร็จก็จัดหาข้าว อาหารมัง ให้ครอบครัวอาจารย์ และชาวบ้านสวน สำหรับตนเองแม่ครัวเขาก็ช่วยเหลือดีมาก จะหาอะไรก็รีบหยิบให้ และถึงตอนล้างชามเราก็ยังอยู่กับเขาต่อ พอพวกเราทานเสร็จ อ่างล้างจานพวกเราก็ประจำทุกช่อง ล้างทุกชิ้นที่ขวางหน้า มีแผนกคว่ำจัดเรียง ไม่นาน หม้อ กะทะ ถาด ก็เก็บตากในเข่งเต็มหลายแข่ง หลังจากช่วยเขาทุกอย่างเขาบอกว่า ไม่ได้พวกบ้านสวนมาช่วย ป่านนี้ยังไม่เสร็จหรอก พวกเราก็พลอยอิ่มบุญกันด้วย

ช่วงเทศน์ และ มาติกาบังสุกุล พระดอกเตอร์องค์หนึ่งมาเทศน์ถึงความดีที่คุณตาท่านสะสมมา ว่าตุณตาเตรียมพร้อมมาตลอด และบุญกุศล ได้ไปรอท่านอยู่บนสวรรค์และแดนทิพย์นิพพานแล้ว ตนเองอยากฟังเรื่องคามรักที่พ่อทุกคนให้แก่ลูก และฟังเรื่องที่บุตรหลานควร กตัญญุต่อบุพการีมากกว่า ให้ผู้คนตระหนักถึงว่าพ่อแม่มีบุญคุณยิ่งใหญ่ไพศาลแค่ไหน การล่วงเกินท่านแม้แต่ปลายก้อย ก็อาจลงสู่อเวจีนรกโดยง่าย นิมนต์ หลวงพ่ออุบล ท่านหน่อยไม่ได้ ฟังอย่างแห้งแล้งจัง

ช่วงจัดสถานที่ และถวายผ้าบังสุกุลพระ พิธีกรเรียกหาลูกบ้านสวนกันใหญ่ไปจัดสถานที่ ประเคนเตรื่องดื่มพระ หนุ่มๆขึ้นไปแป๊ปเดียวเรียบร้อยต่อจากนั้นเป็นกานประเคนผ้าสบง และแผ่ส่วนบุญให้คุณตา ตนเองนั่งแถวนั้น ก็อารราธนาบารมีองค์ปฐม พระศรีอารย์ ท้าวเวชสุวรรณ และบารมีอจ.อุบล มาเป็นผู้นำบุญ ให้ถึงคุณตา เห็นแสงสว่างผ่านตัวเองแยะมาก แสดงว่าแสงแห่งบุญถึงแด่คุณตาเต็มๆ

ช่วงก่อนเผาไปช่วยคุณเหมี่ยว แจกธรรมทาน พวกผู้ใหญ่ พอดีพี่ชอบเขาหาผู้ใหญ่ ท่านสส. อะไรเถวนั้นเขาก็รับธรรมทาน ขอบคุณกันโดยดี ได้เห็น      น้องซิม บำบัด แขกที่นั่งรอได้แยะมาก น้องเขาไม่มีอัตตาเลย เขาเชื่อมั่นในบารมีพระศรีอารย์ และอจ.อุบลช่วยด้วยจริงๆ เดินตรงเข้าไปหาทุกคนที่สบตาเขาเข้าเดินเข้าประชิด และเมตตาสูงมาก ขออนุโมทนา พี่เองช่วยรักษาร่วมกับ น้องหนึ่งคนเดียวเอง เพราะที่ในครัวป้าเขาปวดหลัง จี้น้องหนึ่งหายเล็กน้อย น้องเขาขวักมือเรียก พี่ก็ขอบารมี อจ อุบลก่อน ต่อด้วยพระศรีอารย์มาช่วยรักษา เขาหายหมดเลย เขายิ้มด้วยความขอบคุณให้พวกเรา

ช่วงก่อนภัยพิบัติจะมาเยือนนี้ ตนเองจะยินดีกับผู้ที่หมดอายุขัยช่วงนี้ ท่านเหล่านี้ ไม่มีกายเนื้อให้ต้องสัมผัสกับความทุกข์ทางกาย ใจอีกต่อไป พวกเราเสียอีก ไม่รู้จะโดนหนักขนาดไหน

กราบส่งคุณตาสำเภา สู่แดนนิพพานเจ้าค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 13:49:54


ความคิดเห็นที่ 164 (1640077)

ไว้อาลัย...จากการจากไปของคุณตาสำเภา วาระนุช

สัปดาห์นี้ลูก ๆ บ้านสวนทุกคน ตั้งใจกันมาจากบ้านเพื่อเตรียมตัวไปงานของคุณตากัน เมื่อมาถึงที่วัดแล้ว ก็ไม่รีรอ ทำหน้าที่ของจิตอาสาทันที  จัดการทำความสะอาดบริเวณวัดทันที เก็บขยะ กวาดใบไม้ เผาขยะ ล้างห้องน้ำ ทำครัว เป็นภาพที่น่าประทับใจมาก ทุกคนร่วมแรงร่วมใจ แบบว่าไม่ต้องนัดหมายกันเลย ทุกคนมีจิตอาสาจริง ๆ ค่ะ

ที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือ ทุกคนได้ใช้จี้รักษาคนเจ็บป่วยกันอย่างไม่ยอมแพ้กันเลย ทั้งชาวบ้าน ทั้งพระสงฆ์ต่างก็หายป่วยกันอย่างน่าอัศจรรย์ บางคนก็พูดไม่หยุดว่า มันหายจริง ๆ นะ มันหายจริงๆ นะ เขาคงแปลกใจกันมาก เพราะไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน

บางคนถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ก็บอกว่าไม่เป็น บอกว่าเมียผมเป็น แล้วก็ถามว่าเสียค่ารักษาเท่าไหร่ บอกว่าไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย แล้วถึงบอกว่าผมเจ็บหัวไหล่ข้างขวามาจนถึงแขนและชาที่มือ ก็ได้เวลาที่เราต้องปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ที่เจ็บป่วยกัน

เป็นอันว่าการไว้อาลัยคุณตาสำเภา ก็คือพวกเราช่วยแบ่งปันความรักความเมตตาโดยการช่วยให้พวกเขาได้พ้นทุกข์ หายเจ็บป่วย แจกธรรมทาน CD ซึ่งทุกคนชอบมาก เป็นการมางานศพรูปแบบใหม่ ซึ่งน่านำไปใช้ และคิดว่าทุกคนที่มาในงานคงจะประทับใจกันถ้วนหน้า

ขอโมทนาบุญกับคุณต้น โฆสิต ด้วยนะคะ เจ้าพ่อ CD (เถื่อน) ไม่ช่าย ที่อาสาไปรับ CD ของท่านอ.อุบลที่นำไปแจกในงานคุณตาได้ทัน เพราะเป็นของชำร่วยที่ทุกคนอยากได้กันจริง ๆ มาถามหาตั้งแต่ยังจัดไม่เสร็จ

สุดท้ายขอบุญที่พวกเราได้ร่วมทำทุกบุญส่งถึงคุณตาสำเภา และพวกเราจะไม่มีวันลืมคุณตาสำเภา เพราะถ้าไม่มีคุณตา ก็ไม่มีอ.อุบล และถ้าไม่มีอ.อุบล ก็คงไม่มีพวกเราเหมือนอย่างทุกวันนี้ ขอขอบพระคุณคุณตาจากใจจริงค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วีรดา อยู่นวล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 13:57:48


ความคิดเห็นที่ 165 (1640101)

มีคนมาสั่งจอง

ของที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงศพ

ของบ้านสวนพีระมิด

ตั้งแต่ยังจัดไม่เสร็จเลย

 

บอกขอ 20 ชุดนะ

จะเอาไปให้คนที่เขามาวันฟังสวด

แต่ไม่ได้มาวันเผา

 

อ.อุบล

ก็ไปบอกไว้

แต่ดันจำไม่ได้ว่าบอกใคร

 

พองานเลิก

เขามาทวงของที่ระลึก

20 ชุด ถามใครก็บอกว่า

หมดแว้วววคร๊าบ

 

อ้าว

อ.บอกไว้แล้วนะ

 

คนสั่ง

หันมาทำหน้า ผิดหวัง

แกมต่อว่านิสสๆ

อุส่าห์สั่งจองไว้ก่อนแล้วนะเนี่ย

เพราะเดาว่า คงจะไม่พอ

 

จนกระทั่งใกล้จะกลับ

พี่โฆ

ถึงมาบอกว่า ผมเก็บไว้ให้เองครับ

20 ชุดแยกไว้แล้วคร๊าบ

 

โอ้

รอดตัวไป

ที่แท้ สว ก็บอกพี่โฆ นี่เอง

 

แล้วก็แขกอีกหลายคน

บอกว่า ยังไม่ได้เลย

แต่ตอนนั้น หมดแล้ว

ก็เลยขอยืมของลูกบ้านสวน

ขอให้แขกก่อนนะ

 

พวกเราค่อยทำใหม่นะ

 

ค่ะๆ ไม่เป็นไร

 

พอคนหนึ่งได้

อีกคนหนึ่งก็จะมาขออีก

แต่

หมดแล้วจริงๆ

 

คราวนี้แหละ

งานเข้าแล้ว ของที่ระลึกงานศพ

ที่เป็นบัญชาพระปฐม

บรมธรรมบิดา

 

จะมีแต่คนอยากอ่าน

อยากดู อ่านแล้ว ยกจิต

หยุดยั้งการประกอบกรรมได้

แม้แต่เด็กเล็กๆ

ยังสนใจอ่าน

 

ปกติ

คนไม่ค่อยอ่าน

ไม่สนใจของแจกงานศพ

ได้ไปก็กองๆไว้

(รวมทั้ง อ.อุบล เองนี่แหละด้วย)

 

ซึ่งเราก็ไม่อยากได้

อะไรของเจ้าภาพเลยนะ

เพราะเขาทุกข์อยู่แล้ว

แต่

เมื่อเป็นประเภณี

ก็รับๆกันไป มีทั้ง ยาหม่อง ยาดม

ผ้าเช็ดหน้า พวงกุญแจ

พระเครื่อง หนังสือธรรมมะ

สุดแต่งบเจ้าภาพ

 

ส่วนของพวกเรา

เป็นธรรมทานชีวิตจริงล้วนๆ

จึงเป็นสิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่

ยังเข้าไม่ค่อยถึง

ธรรมทาน

ชีวิตจริง เช่นนี้

 

ส่วนมาก

ธรรมทาน จากพระไตรปิฎก

คนอ่านไม่ค่อยชอบอ่าน

และไม่เชื่อ

 

พระพุทธองค์

จึงต้องให้ปรับให้ทันสมัย

ปรากฎว่า ได้ผลจริง

 

ตั้งแต่เมื่อวาน

คือวันจันทร์ มีคนติดต่อ

ขอเข้ามาบ้านสวนพีระมิดกันมากมาย

 

งานเข้าแล้วพวกเรา

 

เขาบอกเขา

ได้หนังสือนี้มาจากงานศพ

 

มีคนหนึ่ง

เขาบอกว่า พอเขาเห็น

แฟนเขาเอามาให้ เขาหยิบเล่มที่

มีรูป อ.อุบล ก่อนเลย

ทีแรก ก็กะจะแค่เปิดๆดูว่ามีอะไร

 

แต่พอเขาเริ่มอ่าน

เขาบอกว่า เขาวางไม่ได้เลย

เขาอ่านจนจบ

 

แล้วก็โทร.มา

อยากมากราบ อ.อุบล

 จะชวนเพื่อนมา

 

ส่วนบางคน

ก็บอกว่า มีญาติ และ ตัวเอง

มีทุกข์ โน่น นี่นั่น

 

โอ้ว

สารพัดเลย

 

อานิสงส์

ของบุญธรรมทานนี้

ถึงแก่ทุกคนที่เขียนแน่นอน

ล้านเปอร์เซ็นต์

 

และ

ผู้ร่วมแรงร่วมใจ

เข้าเล่มจัดทำ รับกันไปเลยลูกเอ๋ย

ทานนี้ใหญ่สุด สูงสุดแล้ว

จะนำพาลูกแก้ว

กลับบ้าน นิพพาน ได้แน่นอน

 

แต่

อย่าทำเพียงเท่านี้

ทำให้สม่ำเสมอ ต่อเนื่อง และ มากขึ้น

อย่าหยุด เพราะตราบใด

ยังไม่ได้

 

อานิสงส์บุญนี้

จะส่งผลทันที ตั้งแต่มีชีวิต

และ บัดนี้ เดี๋ยวนี้

 

จะมีกินมีใช้ไม่ฝืดเคือง

 

โรคภัยไข้เจ็บจะบรรเทา จะหาย

 

เรื่องร้ายๆ ในชีวิต จะพ้นไป

 

เจ้ากรรม จะอภัย

 

ทำต่อไปนะลูกนะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 16:42:08


ความคิดเห็นที่ 166 (1640107)

มีคนหนึ่ง

เขาบอกว่า พอเขาเห็น

แฟนเขาเอามาให้ เขาหยิบเล่มที่

มีรูป อ.อุบล ก่อนเลย

ทีแรก ก็กะจะแค่เปิดๆดูว่ามีอะไร

 

แต่พอเขาเริ่มอ่าน

เขาบอกว่า เขาวางไม่ได้เลย

เขาอ่านจนจบ

 

แล้วก็โทร.มา

อยากมากราบ อ.อุบล

 จะชวนเพื่อนมา

 

ส่วนบางคน

ก็บอกว่า มีญาติ และ ตัวเอง

มีทุกข์ โน่น นี่นั่น

 

โอ้ว

สารพัดเลย

อ่านแล้วปลื้มเลยครับ แสดงว่าธรรมทานจากชีวิตจริง และความเลว ระยำที่พวกผมเคยสร้างไว้ จนทำให้ตนเองมีทุกข์มากมาย กำลังกลายเป็นแสงสว่างให้คนอื่นได้ฉุกคิดไม่ทำบาปเช่นเดียวกัน หรือพบทางพ้นทุกข์อย่างเร่งด่วน

มั่กล๊ายหลายครับ...ขนาดจับอ่านแล้ววางไม่ลง พากันโทรหาท่านอาจารย์ขนาดนี้ ผมว่าปกตินี่ยากมากนะครับที่คนๆหนึ่งอ่านหนังสือธรรมะแล้วอยู่ไม่ได้อยากรู้จัก อยากไปปฏิบัติธรรม อยากพ้นทุกข์ อยากไปกราบครูบาอาจารย์ขนาดนี้

แสดงว่าเขาพิจารณาแล้ว มั่นใจแล้วว่า นี่คือทางพ้นทุกข์ที่ช่วยเขาได้จริงๆ เพราะพี่น้องเราทุกคนมีที่มาที่ไป กล้าเปิดเผยความจริงทุกอย่าง ทุกข์จริง เจ็บจริง และหายจริง สุขจริง ใครๆก็อยากมีความสุขกันทั้งน้านนกั๊บบ

กราบแทบพระบาทองค์พระปฐมบรมบิดา ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกๆพระองค์ ที่ให้โอกาสลูกหลานได้สร้างมหาบุญธรรมทานอันมีกำลังบุญมหาศาลขนาดนี้ กราบ กราบ กราบ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 17:11:26


ความคิดเห็นที่ 167 (1640129)

ตถาคตไม่ได้ห้าม

ไม่ให้ทำบุญในเขตบุญอื่น

ซึ่งทุกคนต้องทำความดีทุกสถานที่

เป็นนิสัย เพื่อให้ ทุกสถานที่

เป็นเขตที่บริสุทธิ์

 

โดยเฉพาะ

บ้าน ที่ทำงาน เรือกสวน ไร่นา

ของแต่ละคน

และฝึกให้ได้จนกระทั่ง

สถานที่อื่น ที่ไม่ใช่สถานที่ของตน

ก็ต้องทำความดีเป็นสิสัย

อันนี้ กองกุศลยิ่งใหญ่กว่า กองใดทั้งปวง

เพราะคนที่ทำอย่างนี้ได้ เทวดาจะ

ติดตามตัวผู้นั้นไปตลอดเวลา

แบบห้อมล้อมจนไม่มี

ที่ว่างเลย

 

อย่างกรณีที่เธอ

ออกแสดงธรรมบำบัดนอกสถานที่ได้

เพราะกองกุศลของเธอเข้มข้นแล้ว

ทั้งในบ้านของเธอ และ ตัวเธอ

เธอจึงสามารถออกแสดง

อนุศาสนีปาฏิหาริย์ ได้ทุกสถานที่

ที่ใด ที่เธอไป ก็จะมี

ทวดาทุกชั้นฟ้าชั้นดินเสด็จ

ตามเธอไปเพื่ออนุโมทนาบุญ

และ

ช่วยเธอแสดงฤทธิ์

กราบอนุโมทนาบุญกับลูกบ้านสวนทุกท่าน ที่ทําหน้าที่เพื่อบําบัดทุกข์

บํารุงสุข ให้กับทั้งคนและสรรพสัตว์ ตามแนวทางที่ ท่านอาจารย์สอน

พวกเรามา เห็นความสําเร็จแล้ว ปลื้มปิติจริงๆค่ะ

กราบขอบพระคุณ พระพุทธองค์ พระศรีอาริย์ 

สิ่งศักดิสิทธิ์ทั้งอนันตจักรวาล ท่านอาจารย์อุบล 

ในความเมตตา หาที่สุดมิได้ ให้ปัญญาความสามารถ กับลูกหลาน

แบบฉับพลันทันที เห็นผลทันตา ปฎิบัติทันใจ

สาธุ

กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น อร อุ่นศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 18:33:16


ความคิดเห็นที่ 168 (1640138)

มีคนหนึ่ง

เขาบอกว่า พอเขาเห็น

แฟนเขาเอามาให้ เขาหยิบเล่มที่

มีรูป อ.อุบล ก่อนเลย

ทีแรก ก็กะจะแค่เปิดๆดูว่ามีอะไร

 

แต่พอเขาเริ่มอ่าน

เขาบอกว่า เขาวางไม่ได้เลย

เขาอ่านจนจบ

+++++++++++++++++++

ขออนุโมทนาในบุญธรรมทานของทุกๆท่านที่เขียนเรื่องราวของตัวเอง

และทุกๆคนที่ช่วยกันสร้างสรร จนออกมาเป็นรูปเล่มที่สวยงาม

น่าอ่านด้วยนะครับ

คิดแล้วก็ปลื้มใจเสียเหลือเกินครับ

เพราะคนที่อ่านจะได้รับรู้เรื่องราวของคนอื่น

และเขาก็คงจะหันกลับไปมองตัวเขาเองด้วยเช่นกัน

สิ่งนี้

อาจจะเป็นจุดเล็กๆ

ที่ช่วยให้ ผู้คน หันมาสนใจธรรมะ

และใช้ชีวิตอยู่ด้วยความรักกันมากขึ้นนะครับ

ในทุกๆความมืด ถ้าลองมองดีๆ...

ก็อาจจะมีแสงสว่างสอดแทรกอยู่เสมอนะครับ

ถึงคุณตาจะจากพวกเราไปแล้ว

แต่งานศพคุณตาครั้งนี้

ก็อาจเป็นแสงสว่าง...

ที่ช่วยนำทางให้ใครต่อใครอีกหลายคน

ที่ได้อ่านธรรมทานของพวกเรา

สามารถ

ค้นพบทาง
กลับบ้าน 
ก็ได้นะครับ

 

 


  

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 19:45:10


ความคิดเห็นที่ 169 (1640145)

อานิสงส์

ของบุญธรรมทานนี้

ถึงแก่ทุกคนที่เขียนแน่นอน

ล้านเปอร์เซ็นต์

*************

อยากร้องไห้จัง

กราบขอบพระคุณนะคะ

อ.อุบล

ที่ช่วยกระตุก ต่อมโง่

โอ้โห..โง่อยู่ตั้งนาน

บุญใหญ่ ๆ ทำง่าย ๆ

ไม่ทำ ต้องป้อนอีกแระ

ขอบอก แอบปลื้มตัวเองเล็ก ๆ

ที่เขียนธรรมทานออกมาได้

ก็เพราะ เป็นอะไรที่ไม่เคยทำ

ตอนนี้ก็ต้องพัฒนาสมอง

ให้คิด และ เขียน

ออกมาอย่างต่อเนื่องโดยไว

ขอบอกอีกอ่ะคะว่า

สนุก กับการสร้างบุญแบบนี้

ขอกราบขอบพระคุณ อ.อุบล

ที่สุดเลยค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 20:31:32


ความคิดเห็นที่ 170 (1640157)

 

อานิสงส์

ของบุญธรรมทานนี้

ถึงแก่ทุกคนที่เขียนแน่นอน

ล้านเปอร์เซ็นต์

******************************

กราบขอบพระคุณท่าน อ.อุบล

ที่ได้นำพาให้พวกเราได้ทำบุญใหญ่ตลอดเวลา

เป็นบุญที่อานิสงส์เป็นทางเร็ว ลัดตรง

กลับบ้านนิพพาน

ตอนนี้อ้อยไม่คิดอะไรเลยค่ะ

อาจารย์บอกให้ทำอะไร

ก็พยายามทำตาม

ตามกำลังความสามารถของตัวเอง

อาจจะยังไม่ดีที่สุด

แต่ก็จะพยายาม

ทำให้เต็มที่ค่ะ

เพราะไม่อยากทำให้ตัวเองเป็นภาระ

เป็นคนที่ทำให้อาจารย์

เหนื่อยใจ

อยากให้อาจารย์มีแต่ความสุข ความชื่นใจค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 21:35:37


ความคิดเห็นที่ 171 (1640195)

 กิจกรรมชุบกาย(เสาร์-อาทิตย์)นี้..................

          พวกเราได้เริ่มกิกรรมกันตั้งแต่เวลาประมาณ เกือบ 9.00น.

โดยแบ่งเป็น  2 กลุ่ม(กลุ่ม อ. พันธ์และกลุ่มคุณก๊อต)

โดยในวันนี้  ได้อยู่ในกลุ่ม  อ.พันธ์.งานที่ได้รับมอบหมาย 

เป็นงานก่อสร้าง  บ้านพักเคลื่อนที่   ได้รับมอบหมายให้เช็ด

และทำความสะอาดท่อนเหล็กก่อนที่จะทาสีกันสนิมกัน  

การทาสีก็ต้องมีความตั้งใจ  และทักษะอย่างมากพอสมควรทีเดียว

ไม่เช่นนั้น   ผล  ที่ตามมา  จะทำให้สีไม่เรียบกันสนิมได้ไม่ดี. พวกเรา

ช่วยกันทาสีได้  จำนวน  4  ท่อน   หลังจากนั้นก็เปลี่ยนกิจกรรมมาทำ

ที่ใต้ฐานพระจัดเก็บเครื่องมือให้เข้าที่เข้าทาง    เป็นกลุ่มชนิดของ

เครื่องมือประเภทเดียวกันหรือใกล้เคียง.   ต่อจากนั้นก็เลยมาต่อทาง

ด้านข้างทางขึ้นวิหารไม้ไผ่ ได้ช่วยกันจัดเก็บผ้าพล้าสติก หลายๆผืนใต้  

ฐานองค์พระให้เป็นระเบียบเรียบร้อยและเป็นกลุ่มรวมกัน       หลังจากนั้น

ก็ได้ช่วย  คุญ  อัญขลาฯ  จัดเก็บสถานที่วางรองเท้าบู๊ท   ใว้ใต้องค์พระเสียใหม่ 

ทำให้มองดูสวยงามเรียบร้อยขึ้นกว่าเดิน.  สุดท้ายก็หมดเวลาเตรียมจึงได้แยก

ย้ายกันไปสร้างบุญต่อที่ วัดพัฒนาราม

            โดยที่พวกเราได้มาช่วยกันเตรียมงาน  พระราชทานเพลิงศพ 

คุณตา  สำเภา  วาระนุช ซึ่งพวกเราทุกคนมีความตั้งใจที่จะเตรียมงาน 

กันอย่างเต็มที่ให้ดีและได้มากที่สุด เช่นบริเวณลานวัด   ในตอนก่อน

เตรียมงาน  ก็มีใบไม้เต็มไปหมด  หลังจากที่พวกเราได้ช่วยกันจัดการ

ทำความสะอาดกันแล้ว   ก็ทำให้ดูโล่งไปถนัดตาเลยทีเดียว 

นี่แหละ!กองทัพมดลูกบ้านสวนฯของเรา. 

             ส่วนในวันอาทิตย์ พวกเราก็ยังมาช่วยกันอีกเหมือนเดิม

กิจกรรมชุบกาย ของเราเข้มข้นขึ้นกว่าเดิม  เรียกว่าสมศักดิ์ศรีฯ 

ลูกบ้านสวนฯกันเลยจริง   จริ้ง ...............อย่าได้มีงานอะไรมาขวาง

หน้า  ลุยแหลก!  แม้แต่การบำบัดก็เหมือนกัน  คอย จ้องมองดูว่าใคร

จะเจ็บป่วยมา  ทุกคนให้ความสนใจหมด   ไม่เว้นแม้กระทั่งการ บำบัด

พระสงฆ์ที่มาในงาน   พวกเราก็ช่วยกันบำบัดจนท่านหายจากการอาพาธ       

 ไปหลายรายเลยทีเดียว  นี่แหละการ  เป็น  ผู้ให้  ที่น่านับถือ  จริง  จริ้ง..............

            ต้องขอกราบอนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยน๊ะค๊ะ!   และขอกราบขอบ

พระคุณคุณตา  สำเภา  วาระนุช  อย่างมากๆเลยค่ะ พวกเราร่วมกันส่งคุณตา

กลับ  สู่แดนนิพพาน  แล้ว ท่านยังให้พวกเราได้สร้างบุญกันอย่างมากมายอีก                                                       .......สาธุค่ะคุณตา

                 ***********************

ผู้แสดงความคิดเห็น กันต์สินี อัครวิชนนท์(นี/พันธ์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 01:00:40


ความคิดเห็นที่ 172 (1640201)

กราบขอบพระคุณอ.แม่และครอบครัว คุณตาสำเภา

และพี่ๆน้องๆบ้านสวนทุกๆท่านด้วยนะคะ

ที่สร้างโอกาสให้หนูได้มีโอกาสทำบุญใหญ่

และได้ตอบแทนคุณตาผู้ให้กำเนิดอ.อุบล

และตลอดจนพี่ๆน้องๆ

ที่ได้นำธรรมทานของหนูไปเข้าเล่มด้วย

ถึงแม้อยู่ไกล ไม่ได้มีโอกาสไปช่วยงานคุณตา

แต่รู้ว่าธรรมทานของพวกเรามีคนให้ความสนใจ

และจะเป็นสิ่งที่ทำให้คนเกรงกลัวต่อบาป

แล้วหันมาทำความดีแค่นี้ก็ดีใจที่สุดแล้วค่ะ

คุณตาท่านคงภาคภูมิใจในตัวลูกสาวท่านมากๆเลยนะคะ


ได้อ่านบรรยากาศในงานของคุณตาจากพี่ๆทุกคน

แล้วมันรู้สึก ปลื้ม ปิติ ไปกับทุกๆคนด้วยเลยค่ะ

งานนี้ทำให้มองเห็นอนาคตของพี่ๆน้องบ้านสวนเลย

เพราะก่อนหน้านี้ส่วนมากเราก็ฝึกกันแต่อยู่ในบ้านสวน

แต่เมื่อต้องออกมาทำภาคปฏิบัตินอกสถานที่

คนจริง เจ็บจริง ทุกข์จริง ล้วนหายและมีอาการดีขึ้นทั้งนั้น

ทุกอย่างที่ท่านอ.พร่ำสอนพวกเรามา

เรียกได้ว่า ไม่เหนื่อยฟรี เลยจริงๆ


กราบขอบพระคุณอ.แม่และครอบครัวจริงๆค่ะ

รู้สึกว่าบุญนี้มันยิ่งใหญ่จริงๆ 

เพราะมันรู้สึกดี สุขใจ ตั้งแต่ที่ได้รู้ว่าเราก็จะมีส่วนร่วม

ในการแบ่งปันธรรมทานของตัวเองแล้วค่ะ

กราบ กราบ กราบ

***************************************

ว่าแล้ว ก็อยากรู้จังว่า "เจ๊ยึด..ติดโต๊ะ"

(เดาว่าน่าจะเป็นผู้หญิง

เพราะผู้ชายคงไม่ถือ

กระเป๋าใบใหญ่ๆตุงๆแน่ๆ)

ที่อ.อภิชัย เห็นนั้น เป็นใครกันหนอ..

ถ้ารู้ตัวแล้ว ก็รีบจัดงานแถลงข่าว

แฉตัวเอง โดยด่วนนะจ๊า ...

ว่าแล้วชาวเกาะผู้น้องก็อยากรู้เหมือนกันค่ะ

ว่าคือใครกันหนอ อิอิ

ถ้าไม่ออกมาแฉธรรมทานของตัวเอง

เดี๋ยวชาวเกาะจะช่วยกันโหวต

ให้พี่ๆน้องบ้านสวนมาแฉแทนนะค๊าา 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 04:27:04


ความคิดเห็นที่ 173 (1640202)

 ***ทำงานแข่งกับเวลา***

กิจกรรมสัญจรครั้งนี้ลูกบ้านสวนได้ใช้ทั้งกำลังกายและกำลังใจกันอย่างเต็มที่ แต่เสียดายแทนบางคนที่ไม่ตรงต่อเวลาในการทำกิจกรรมในบ้านสวนทำให้มาไม่ทันในการแบ่งฐานทำกิจกรรม ซึ่งต้องบอกว่าเรามีเวลาให้กิจกรรมครั้งนี้ประมาณ  2 ชั่วโมงเท่านั้นเพราะต้องเดินทางไปจัดเตรียมงานที่วัดพัฒนาราม ลพบุรี

คุณธนาแบ่งฐานการทำกิจกรรมออกเป็น 2 กลุ่มคือ

1.วิหารทาน อาจารย์พันธ๋เป็นหัวหน้ากลุ่ม

2.ตกแต่งและทำความสะอาดที่พีระมิดองค์เล็ก- น้องก็อตเป็นหัวหน้ากลุ่ม ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งนำโดยพี่เหมี่ยวทำหน้าที่เข้ารูปเล่มหนังสือมุฑิตาจิตกลุ่มนี้จะไม่มีการเปลี่ยนฐาน

หลังจากจบกิจกรรมอาบน้ำทานข้าวกลางวัน ก่อนจะออกเดินทางไปวัดพัฒนาราม คุณธนาได้พูดคุยและเน้นย้ำพวกเราอีกครั้งว่า ต้องทำทุกอย่างให้เหมือนกับเราอยู่บ้านสวน

พอไปถึงก็จะเจอทีมคุณอัม แม่ครัวใหญ่ก็กำลังวุ่นวายกันอยู่การเตรียมอาหารหนึ่งแอบเห็นน้องอัญสวมวิญญานผู้ช่วยแม่ครัวทันที

พวกเราอีกส่วนหนึ่งก็พากันจับจองไม้กวาดเพื่อกวาด ลานวัด, ขัดห้องน้ำ ต่อไปสงสัยถ้ามีกิจกรรมนอกสถานที่ที่วัด ลูกบ้านสวนคงจะต้องเอาไม้กวาดส่วนตัวติดรถไปกันแน่ๆเพราะถ้าไปเผลอวางไม้กวาดเมื่อไรหายแว่บไปอยู่ในมือคนอื่นทันที

ส่วนอีกกลุ่มก็ทำหน้าที่ลงพื้นที่ผูกมิตร พูดคุยกับชาวบ้าน ดูๆไปเหมือนเราเป็นสส.เลยนะเนี่ย ท่าทางของชาวบ้านกับลูกบ้านสวนในวันเสาร์ที่เราไปถึง ดูไม่ค่อยเป็นมิตรกับเราสักเท่าไหร่และก็ดูแปลกใจว่าพวกเราเป็นใคร ยิ่งพอรู้ว่ามาเป็นแขกก็ดูจะงงก็พวกเราเล่นแย่งงานชาวบ้านเขาทำโดยเฉพาะ กลุ่มหนุ่มๆ ทั้งคุณอดิศักดิ์ น้องชิม น้องเต้ เห็นกวาดลานวัดแบบไม่ยอมปล่อยไม้กวาดให้สาวๆ แต่ดูภาพรวมแล้วยกให้น้องเต้เพราะดูทะมัดทะแมงที่สุด สงสัยโดนคนที่บ้านฝึกมาดีหุหุหุ

 ***รอแขกไปก็รวมกลุ่มบำบัดกันเอง***

ช่วงค่ำก่อนที่แขกจะทยอยเดินทางมา หลังจากเตรียมงานเสร็จพวกเราได้รวมกลุ่มนั่งบำบัดกันเองและงานนี้มีเฮเพราะลุ้นคุณธนาที่มีอาการเจ็บฝ่าเท้า นำทีมบำบัดโดยพี่เหมี่ยวคนสวยเช่นเดิมหนึ่งชอบบรรยากาศช่วงนี้มากเพราะแต่ละคนได้มีการรวมพลังจี้เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สังเกตุว่าแต่ละคนที่ได้รับการบำบัดจะมีอาการเหลือค้างอยู่ จนกระทั่งไปกราบท่านอาจารย์อุบลอาการต่างๆก็หาย 100%

สักพักแขกได้ทยอยเดินทางมา แต่ละคนรู้หน้าที่ของตนเองช่วยรับแขก ประคองคนแก่และพูดคุยกับแขก

 ***ถ้าจิตเปิดก็หายปวดเข่าได้จ้า***

ช่วงที่มีการพูดคุยกับชาวบ้านเป็นกลุ่มบนศาลาหนึ่ง, พี่แหม่ม, ป้าเตือน, ป้าพรและคนอื่นๆนั่งอยู่ใกล้ๆกัน ชาวบ้านที่นั่งอยู่กับเราก็คงจะอดแปลกใจไม่ได้กับจี้ที่พวกเราสวมใส่จึงได้สอบถามว่าคืออะไร พอคุณป้าท่านหนึ่งรู้คุณสมบัติก็ขอบำบัดอาการที่ปวดหัวเข่าทันที  พี่แหม่ม กอหญ้าของเราไม่รอช้าสวมวิญญาณแม่หมอบำบัดให้ และคุณป้าก็หายในทันทีด้วยเช่นกัน ทำเอาป้าๆทั้งหลายทึ่งแอนด์อึ่งกันเป็นเลย แต่ยังมีฟอร์มอยู่ไม่กล้าจะขอรับการบำบัดจากพวกเรา เฮ้อดูๆไปท่าทีแบบนี้มันตนเองเมื่อก่อนชัดๆๆ 

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 04:55:28


ความคิดเห็นที่ 174 (1640203)

***เริ่มต้นบำบัดได้ด้วยน้องบัว***

ขณะเดียวกันในครัวก็เริ่มจะวุ่นๆเพราะเตรียมเสริฟอาหารให้แขก ขอบคุณคุณอัมสำหรับบะหมี่เป็ดและน้ำเต้าหู้แสนอร่อยด้วยนะคะ หนึ่งเบิ้ลไป 2 แก้วเลยคะ

ระหว่างนี้เหลือบเห็นพี่แหล๋นของเรากำลังผูกมิตรกับบรรดาแม่ครัว หนึ่งว่าถ้าใครได้ฟังได้คุยกับพี่แหล๋นจะสัมผัสถึงความใจจริงของพี่แหล๋นได้ในทันที อันนี้คงเป็นไม้ตายทำให้อาจารย์อภิชัยไม่ไหนไม่รอดแน่ๆ ส่วนพี่แหล๋นก็คงจะตกหลุมเสน่ห์ปลายจวักของอ.อภิชัยเหมือนกัน เพราะอ.อภิชัยดูคล่องกับงานครัวมาก เล่นเอาหนึ่งอายเลย…555

น้องบัว (ลูกพี่แหล๋น) ของเราก็ไม่ธรรมดาเป็นคนช่างสังเกตุมาก น้องบัวจะคอยสะกิดบอกน้าหนึ่ง (เรียกพี่ได้ไหม ??)  ทันทีที่เห็นใครมีท่าทีเจ็บป่วยเพื่อให้หนึ่งไปช่วยบำบัดโดยมีน้องบัวคอยลุ้นและบอกให้น้าหนึ่งรวมพลังจี้กับน้องบัวเพื่อให้คนที่ได้รับการบำบัดหาย หลายๆเคลสที่หนึ่งได้บำบัดทั้งวันเสาร์-อาทิตย์ก็เพราะความช่างสังเกตุของน้องบัวเนี่ยล่ะ น้าหนึ่งยกความดีและบุญนี้ให้น้องบัวหมดเลยนะคะ และก็แอบลุ้นให้น้องบัวรวบรวมความกล้าอีกนิดนะคะรับร้องว่าน้องบัวจะมีโอกาสบำบัดผู้อื่นได้เยอะมาก

 ***ช่วงไฮไลท์รำลึกถึงคุณตา***

หลังจากพระสวดจบแล้วคุณธนาก็ได้เปิดหนังให้รวบรวมกิจกรรมต่างๆในช่วงที่คุณตามาพักที่บ้านสวน ซึ่งช่วงนั้นหนึ่งยังไม่ได้มาบ้านสวนแต่เห็นภาพคุณตาและรู้สึกได้ว่า คุณตาเป็นคนใจดี อารมณ์ดี สนุกสนาน หัวเราะและยิ้มร่าเริงตลอดเวลา ยิ่งช่วงที่ฉายภาพความรักความเอาใจใส่ของพ่อกับลูกแล้ว ท่านอ.อุบลของเรางดงามทั้งกาย ใจจริงๆคะ….

และดูชาวบ้านและแขกที่มาร่วมงานให้ความสนใจกับวีดิทัศน์ชุดนี้มากจริงๆ เพราะคุณตาดูแข็งแรง และมีความสุขมากๆงานนี้เรียกความสุขความอิ่มใจให้ทุกๆได้กลับบ้านไปนอนฝันดีจริงๆคะ

และอีกหนึ่งไฮไลท์คือพวกเราได้มีโอกาสถ่ายภาพหมู่รวมกับท่านอ.อุบลและได้มีโอกาสกราบท่านอ.อุบลบนศาลา ทำเอาคนอื่นๆที่อยู่บริเวณนั้นงงกันเลยทีเดียว เนี่ยถ้าเขารู้ว่าแค่กราบท่านอ.แล้วจะหายเจ็บหายป่วยล่ะก็คงจะแห่มานั่งกราบกับพวกเราแน่ๆ….

 ***ดึกแค่ไหนใจก็สู้***

คืนวันเสาร์พวกเราเดินทางกลับมานอนที่บ้านสวนมาถึงก็ 23.30 บางคนก็เกือบๆเที่ยงคืนแต่งานของพวกเรายังไม่เสร็จ นั้นคือจัดเล่มเข้าเล่มหนังสือมุฑิตาจิต 500 ชุดและเอกสารที่ลูกบ้านสวนหอบมาทีหลังอีก ถึงแม้จะไม่ได้เข้ารูปเล่มแต่ก็รับรองว่าได้นำไปแจกในงานแน่ๆ

ง่วงแค่ไหนก็ไม่มีใครบ่นเพราะเทียบไม่ได้กับความเหนื่อย ความเสียสละที่ท่านอ.อุบล ท่านอ.มงคลและคุณท็อปมีให้พวกเรา ชาตินี้ตอบแทนกันเท่าไหร่ก็ไม่หมดคะ ยิ่งท่านอ.อุบลออกมาให้กำลังใจพวกเราแล้วยิ่งต้องข่มตัวง่วงให้ได้ หลังจากเสร็จงานท่านอ.อุบลก็เมตตานั่งสนทนากับพวกเราต่อกว่าจะแยกย้ายกันไปนอนหนึ่งเหลือบดูเวลาก็ 01.30 พอดี งานนี้เสียดายแทนคนที่ไปนอนก่อนมากๆเพราะ ท่านอ.มาบอกว่างานเข้ารูปเล่มเป็นบุญใหญ่ (ตอนทำหนึ่งไม่ได้คิดอะไร คิดแต่ว่าถ้าคนอื่นเขาทำงานเราก็ต้องทำงานกับเขาด้วย )

 ***เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยข้าวผัดไข่ by พี่แมว***

หนึ่งตื่นมาตอนตี 4 กว่าๆเห็นพี่แมว ป้าเตือน พี่วิ พี่ตุ๊ก ตื่นกันมาเรียบร้อยแล้ว ไม่รู้พี่แมวไปเอาแรงมาจากไหนเดาๆว่า พี่แมวมีเวลานอนไม่เกิน 2 ชั่วโมงแน่ๆ เพื่อมาทำอาหารเช้าให้พวกเรา ขอบคุณสำหรับความเสียสละอีกครั้งคะ

เช้านี้หนึ่งก็ทำสิ่งโง่ๆ สร้างกรรมหนักให้ตนเองอีกแล้ว เพราะความง่วงทำให้ไม่มีสติและอวดรู้ของตนเอง พี่แมวให้ช่วยตอกไข่เพื่อเตรียมทำข้าวผัดไข่ แต่หนึ่งอวดรู้ทั้งตอกและตีไข่ ทำเกินคำสั่งแถมยังใช้สันดานเดิมคือไม่ยอมรับผิดแก้ตัวกับพี่แมวอีก

ปกติข้าวผัดไข่ 1 ถาดพี่แมวจะใช้ไข่ 10 ฟองแต่ถาดที่หนึ่งช่วยทำให้ต้องใช้ไข่ 15 ฟอง เป็นการสร้างกรรมหนักให้ตนเองอีกแล้ว กราบขอขมาท่านอ.อุบล, ท่านอ.มงคลและคุณท็อป รวมถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์คะ  ทั้งๆที่ทุกครั้งที่มาบ้านสวนก็กินฟรี พักฟรีอยู่แล้วแท้ๆ แต่หนึ่งกับมาทำให้ต้องสิ้นเปลืองมากขึ้น และขอขมากับพี่แมวด้วยนะคะ แทนที่จะช่วยกับสร้างงานเพิ่ม ต่อไปหนึ่งจะมีสติ ไม่ทำตามเกินหน้าที่จะไม่อวดรู้และคิดแทนพี่แมวอีกคะ

งานนี้เลยรู้ว่าการทำครัวนี้เป็นการดัดนิสัยตนเองจริงๆ เหมาะกับคนขาดปัญญา อวดรู้ อวดเก่งและชอบฝืนคำสั่ง ขาดสติในการฟังแบบหนึ่งเลย

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 05:00:04


ความคิดเห็นที่ 175 (1640204)

***ภาคสนาม-จุดเปลี่ยนจากพี่เหมี่ยว***

หลังกินอาหารเช้าเรียบร้อย 7 โมงเช้าเราทยอยออกเดินทางไปที่วัดพัฒนาราม เมื่อไปถึงแต่ละคะก็แยกย้ายไปทำหน้าที่ต่างๆ ไม่ยอมให้เวลาหมดไปโดยไม่เกิดประโยชน์อะไร กลุ่มหนึ่งช่วยงานครัวจัดเตรียมอาหารเช้าเลี้ยงพระ, กลุ่มหนึ่งจัด CD ที่คุณโฆษิณและพี่เอิบนำแต่เช้า, อีกกลุ่มหนึ่งก็ทยอยพูดคุยกับชาวบ้าน หนึ่งเหลือบเห็นอ.อภิชัยให้คำอธิบายพระเกี่ยวกับจี้โดยมีคุณธนาตามไปสบทบ

ส่วนพี่เหมียวก็เริ่มต้นบำบัดพระรูปหนึ่งที่ทำให้เกิดกระแสขึ้นมาทันทีเพราะช่วงที่พี่เหมียวบำบัดมีพระรูปอื่นๆนั่งสังเกตุการณ์และมีชาวบ้านอยู่แถวๆนั้นด้วย หลวงพี่ที่มีอาการเจ็บมือ กำมือไม่ได้แค่มองจี้ 3 ร่มโพธิ์ศรีและสารภาพบาปก็กำมือได้หายจากความเจ็บปวดทันที จนเกิดกระแสปากต่อปากก็ นอกจากจะมีชาวบ้านเดินมาขอบำบัดกับหนึ่ง รวมถึงขอเอกสารมุฑิตาจิต หนึ่งสังเกตุเห็นพ่อค้าแม่ค้าที่เขามาขายของอยู่ในบริเวณวัดก็ขอเอกสารด้วยเช่นกัน (แต่แรกกะถ้าหนังสือมุฑิตาจิตเหลือจะขอไว้สักเล่มแต่ผิดคาด...ฮือๆๆๆ) 

ที่สำคัญเมื่อชาวบ้าน รวมถึงแขกได้รับเอกสารมุฑิตาจิตแล้ว เขาไม่ได้รับไปเฉยๆแต่เปิดอ่านและนั่งอ่านเหมือนนั่งอ่านการ์ตูน หรือหนังสือนิยายอย่างไรอย่างนั้นเลย โดยเฉพาะเด็กๆเป็นภาพที่น่าปลื้มใจมาก จริงๆกระทรวงศึกษาธิการน่าจะเอาหนังสือธรรมทานของลูกบ้านสวนเป็นหนังสืออ่านนอกเวลา เพราะจะเกิดประโยชน์มากๆทำให้เด็กๆที่จะเป็นอนาคตของชาติกลัวที่จะสร้างกรรมแบบพี่ๆป้าๆน้าๆ

อกจากนี้กลุ่มน้องชิม, พี่วิ, น้องก้อย ก็ออกแวะเวียนบำบัดชาวบ้านในระแวกนั้นๆ ส่วนอ.พันธ์ก็นั่งประจำฐานอยู่ในเต้นท์เพื่อให้ชาวบ้านมาบำบัด

***กิจกรรมชุบกายคือการส่องกระจกมองตนเอง***

กิจกรรมที่จัดขึ้นในช่วงเสาร์-อาทิตย์พวกเราทำกิจกรรมภายในเวลาที่จำกัดและได้ใช้กำลังกาย กำลังใจในการต่อสู้และร่วมแรงร่วมใจ และรวมพลังความรักความสามัคคีจนนาทีสุดท้ายของกิจกรรม แม้ส่วนหนึ่งจะแยกย้ายเดินทางกลับบ้านหลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธีวางเพลิงประมาณ 16.30 แต่อีกส่วนหนึ่งอยู่ร่วมกิจกรรมกันจนดึก

หลายๆช่วงของกิจกรรม หนึ่งได้รับกำลังใจเพื่อที่จะการทำหน้าที่ของตนเองจากพี่วิ พี่แหม่ม พี่แหล๋น คุณอ้อย คุณธนา และท่านอื่นๆที่ไม่ได้เอ่ยชื่อ โดยเฉพาะคุณตุ้ย น้องก้อย  ที่เป็นแรงขับเคลื่อนอะไรบางอย่างข้างในตนเองออกมา ซึ่งต้องขอบคุณทุกๆคนมากคะ

แม้ตนเองจะยังรู้สึกว่าการทำหน้าที่ของตนเองยังไม่เต็มอิ่ม คือ ยังรู้สึกว่าไม่เพียงพอกับความเมตตาที่ได้รับจากท่านอ.อุบล ท่านอ.มงคล คุณท็อปและความเมตตาจากลูกบ้านสวน

กิจกรรมชุบกายครั้งนี้มันคือการส่องกระจกมองเห็นตัวตนของตนเองในอดีตที่ผ่านมาว่าเราเป็นคนอย่างไร ทั้งๆที่ปกติก่อนออกจากบ้านเราก็ต้องส่องกระจกดูตนเองอยู่ทุกวันแต่ก็เห็นแต่เปลือกนอกของตนเองเท่านั้น

จริงๆแล้วการชุบกายทุกๆคนอาจจะได้รับความเมตตาจากท่านอ.อุบลและเบื้องบนให้เราชุบกายมาตั้งไม่รู้กี่ครั้งแล้วที่บ้านสวนก็ได้คะ เพียงแต่เราอาจจะไม่รู้ตัวเท่านั้น แต่หนนี้ภาคสนามที่พวกเราลงมือปฏิบัติมันเปิดตัวตนของเราในอดีตของมาเพื่อให้เราหาทางแก้ไขเท่านั้นเอง

เมื่อเรา ร่วมกิจกรรมชุบกาย--->มองเห็นตัวตนของเราในอดีต---> หาทางแก้ไข--- > เท่ากับเปลี่ยนแปลงจิตใจของเราเอง

(เห็นด้วยกับน้องเอิ้นที่บอกว่าชุบกายคือชุบใจตนเองคะ)

กราบขอบพระคุณสมเด็จองค์ปฐม พระศรีอาริย์ เสด็จพ่อเวสสุวรรณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ ท่านอ.อุบล ท่านอ.มงคล คุณท็อป และคุณตาสำเภา วาระนุชผู้ซึ่งทำหน้าที่เสียสละจนวินาทีสุดท้ายของชีวิตลูกจะพยายมาปรับปรุงแก้ไขตนเองและปกป้อง 3 ร่มโพธิ์ให้สมกับความเหนื่อยยากของท่านอ.และความเสียสละ, ความเมตตาที่ได้รับคะ

ขอบารมีสมเด็จองค์ปฐม ลูกของเบิกบุญศีลทานภาวนา ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบนและทุกๆบุญที่ได้ร่วมกิจกรรมชุบกาย ขอถวายบุญนี้ให้เทวดาที่คุ้มครองท่านอ.อุบล ทั่วทั้งอนันตจักรวาลและอุทิศบุญนี้ให้กับคุณตาสำเภาของให้ทุกๆท่านมีรัศมีกายที่สว่างไสว และขออุทิศบุญนี้ให้เจ้ากรรมนายเวร ที่ตามติดข้าพเจ้า สามีและบุตร รวมถึงมารดา บิดาของข้าพเจ้าด้วยเถอะ สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 05:05:21


ความคิดเห็นที่ 176 (1640211)

กราบแทบพระบาทองค์พระปฐมบรมบิดา ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกๆพระองค์  คุณตาสำเภา ที่ให้โอกาสลูกหลานได้สร้างบุญธรรมทานอันยิ่ใหญ่ครั้งนี้ สาธุ สาธุ ค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 06:15:58


ความคิดเห็นที่ 177 (1640220)

ที่สำคัญเมื่อชาวบ้าน รวม ถึงแขกได้รับเอกสารมุฑิตาจิตแล้ว เขาไม่ได้รับไปเฉยๆแต่เปิดอ่านและนั่งอ่านเหมือนนั่งอ่านการ์ตูน หรือหนังสือนิยายอย่างไรอย่างนั้นเลย โดยเฉพาะเด็กๆเป็นภาพที่น่าปลื้มใจมาก จริงๆกระทรวงศึกษาธิการน่าจะเอาหนังสือธรรมทานของลูกบ้านสวนเป็นหนังสืออ่านนอกเวลา เพราะจะเกิดประโยชน์มากๆทำให้เด็กๆที่จะเป็นอนาคตของชาติกลัวที่จะสร้างกรรมแบบพี่ๆป้าๆน้าๆ

...................................

ตั้งแต่ได้อ่านธรรมทาน

จากหลายๆท่านเมื่อคืนว่า

ธรรมทานรวมชีวิตจริงลูกบ้านสวนฯ

เป็นที่ฮือฮามาก

 

ชนิดาก็เกิดไอเดียคล้ายๆคุณหนึ่งเลยว่า

ธรรมทานชุดนี้ควรจะ

ไปอยู่ในทุกๆสถานที่ที่สำคัญ

ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน กรม กองต่างๆ

หรือ แม้กระทั่งสถานที่สาธารณะทุกๆที่

น่าจะมีไว้ให้ผู้คนได้อ่าน

 

ยังแอบคิดเลยว่า  กรมการศาสนา

หรือ กระทรวงศึกษาฯ

น่าจะใช้กลยุทธใหม่แบบนี้

ที่สามารถดึงคนให้มาสนใจอ่าน

สนใจธรรมะ อย่่างจริงๆจังๆซักที

 

ยิ่งได้อ่านธรรมทาน

จากท่านอาจารย์เพิ่มเติม

ยิ่งเห็นได้ชัดเลยว่า

ธรรมทานชุดนี้ ดึงจิต เปลี่ยนใจ

ให้คนได้เข้าทางธรรม

ได้ฉับพลันทันทีจริงๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 07:54:50


ความคิดเห็นที่ 178 (1640222)

อานิสงส์

ของบุญธรรมทานนี้

ถึงแก่ทุกคนที่เขียนแน่นอน

ล้านเปอร์เซ็นต์

 

และ

ผู้ร่วมแรงร่วมใจ

เข้าเล่มจัดทำ รับกันไปเลยลูกเอ๋ย

ทานนี้ใหญ่สุด สูงสุดแล้ว

จะนำพาลูกแก้ว

กลับบ้าน นิพพาน ได้แน่นอน

...........................

กราบพระบาทสมเด็จพ่อองค์ปฐมฯ

และกราบอนุโมทนากับธรรมทาน

จากท่านอาจารย์ด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

 

จริงๆต้องบอกว่า

ได้รับอานิสงค์ตั้งแต่ตอนที่เขียนแล้วค่ะ

เพราะมันรู้สึกปลาบปลื้ม เป็นสุข

และภูมิใจม๊ากๆๆๆๆ

ที่ได้มีส่วนร่วมในงานนี้

 

บอกไม่ถูกเหมือนกันค่ะ

เพราะว่า ทั้งดีใจ และรู้สึกขอบคุณ

ท่านอาจารย์อุบลอย่างที่สุด

ที่ทำให้พวกเราได้สร้างมหาบุญ แบบง่ายๆ

แต่อานิสงค์ยิ่งใหญ่

เหนือประมาณจริงๆ

 

ถ้ามิใช่ "พระปัญญาญาณ"

อันล้ำเลิศ ของท่านอาจารย์

สาวกอย่างพวกเรา

คงจะไม่มี วันนี้ แน่ๆค่ะ

 

และยิ่งเห็น โครงการธรรมทาน

เรื่องอื่นๆตามมาอีก

ก็รีบบอกตัวเองเลยว่า

ช้าไม่ได้แล้ว...

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 08:08:21


ความคิดเห็นที่ 179 (1640283)

หนูนางบุญภิบาล คงเขียว  ขอกราบพระบาทสมเด็จพระปฐมบรมธรรมบิดา ฯ  พระพุทะเจ้าทุกๆพระองค์  ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่  ท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านพระยายมราช หลวงพ่อเสงี่ยมโอภาสี      หลวงพ่อฤาลิงดำ  มนุษย์ต่างดาวทุกดวงดาวสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนฯ   และสิ่งศักดิ์สิทธิทั่วทั้งอนัตตจักวาล

 - กิจกรรมที่เกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่วัดพัฒนาราม กับเหตุการณ์ที่หนูพูดจาไม่เหมาะสมทำให้ท่านอาจารย์อุบลเสียหาย หนูขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียวด้วยความโง่เขลาเบาปัญญาของหนูเองทำให้เสียงานใหญ่หนูสมควรตายจริงๆ

- กิจกรรมวันอาทิตย์ภาคกลางคืนที่มีคนมาถามหนูๆบอกให้ไปถามข้างในพอดีน้องอัญเดินมาห้ามพี่พูดพี่ก็ไม่ได้พูดต่ออีกค่ะพี่ขออยู่ข้างนอก พี่ด้องขอโทษน้องอัญด้วยนะค่ะ พี่รู้ว่าน้องอัญหวังดีกับพี่แต่พี่ทำท่าทางเซ็งน้องอัญยกโทษให้พี่ด้วยนะค่ะ

กราบขอขมาท่านอาจารย์อุบล  และ กราบขอขมาเทวดาที่รักษาตัวท่านอาจารย์อุบลทุกๆพระองค์กับเหตุการณ์ทั้งหมดหนูสำนึกผิดแล้วหนูจะไม่ทำอีกพระพุทธเจ้าค่ะ

กราบพระบาทพระเจ้าค่ะ

กราบ  กราบ  กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 10:57:49


ความคิดเห็นที่ 180 (1640306)

ไฟลุกพรึ่บ! ทั่วบ้านนับสิบรอบ

 ชาวบ้านเชื่ออาถรรพ์

S! News สนับสนุนเนื้อหา

 
ไฟลุกพรึ่บ! ทั่วบ้านนับสิบรอบ ชาวบ้านเชื่ออาถรรพ์

(14 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตรัง

ได้เข้าตรวจสอบ

บ้านเลขที่ 29 หมู่ 3 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง

หลังได้รับแจ้งว่า

เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้อย่างเป็นปริศนาภายในบ้าน

จำนวนหลายครั้งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

จนทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นเหตุอาถรรพ์

นายสัญญา บริมาตร อายุ 44 ปี

เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ได้เล่าว่า

เมื่อสัปดาห์ก่อนเกิดเหตุไฟลุกไหม้เอง

อย่างเป็นปริศนาหลายสิบครั้ง

เผาข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านเสียหาย

ถึงขั้นต้องนิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีทางศาสนา

ขอขมาลาโทษสิ่งศักดิ์สิทธิ์

จนเหตุดังกล่าวสงบลงไปเพียง 2-3 วัน

จู่ๆ เพลิงปริศนาก็ลุกไหม้อีกครั้ง

ล่าสุดเพลิงได้ลุกไหม้ขึ้นบนเตียงนอน

จนต้องโทรแจ้งรถดับเพลิงมาระงับเหตุ

อย่างไรก็ตาม

จากการตรวจสอบภายในบ้าน

พบคราบเขม่าที่เกิดจากเพลิงไหม้อยู่หลายจุด

ทั้งที่สิ่งของและผนังกำแพงบ้าน

เจ้าของบ้านยังเปิดเผยอีกว่า

ตอนนี้รู้สึกท้อแท้กับสิ่งที่เกิดขึ้น

เพราะทำให้คนในบ้านอยู่กันไม่ได้

ขณะที่มีกลุ่มชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์

ที่เชื่อว่าเป็นอาถรรพ์

ได้พูดท้าทาย

ขอให้เพลิงลุกไหม้โชว์สื่อมวลชน

จู่ๆ ก็เกิดเพลิงลุกไหม้ที่แปลงผักขึ้น

สร้างความประหลาดใจแก่สื่อมวลชน

และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเป็นอย่างมาก

และรีบช่วยกันดับเพลิง

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า

ขณะที่เจ้าหน้าที่ฯ กำลังระดมกันดับเพลิง

มีเจ้าหน้าที่หญิงคนหนึ่ง

เกิดอาการตัวสั่น ก่อนจะอ้างว่า

เป็นร่างทรงเจ้าแม่กวนอิม

มาสื่อสารให้เจ้าของบ้านทราบว่า

ได้ทำความผิดร้ายแรงกับเจ้าที่เจ้าทาง

จนทำให้เกิดความโกรธแค้น

ขอให้เจ้าของบ้านทำพิธี

ขอขมาอย่างเป็นทางการด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 11:44:31


ความคิดเห็นที่ 181 (1640383)

ขอบคุณ คุณแมว

สำหรับภาพและข่าวไฟไหม้บ้านคน

โดยไม่มีเชื้อไฟ แต่ติดเอง

นี่เป็นสิ่งที่คนอ่าน

ต้องใช้ปัญญาว่าเกิดได้อย่างไร

 

ทางโลก

ก็หาเหตุผลกันไป

 

แต่

 

พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้

ว่า

ถ้าใครผิดศีลข้อ 2

ข้อลักทรัพย์

 

ทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์

โดยที่เขาไม่เต็มใจ

 

ใช้เล่ห์เหลี่ยมอุบาย

ในการได้ทรัพย์มา เป็นทรัพย์บาป

ไม่ใช่บุญวาสนาของตัวที่ควรได้

แต่ทุจริตเอามาจนได้

 

พระพุทธเจ้าท่านว่า

ทรัพย์นี้

จะถูกทำลายด้วย

-ไฟไหม้

-ภัยจากน้ำ

-ภัยจากลม จากแผ่นดินไหว

-ภัยจากโจรปล้น

-ฯลฯ

 

อันนี้เข้าข่าย

คำสอนพระพุทธเจ้าแน่นอน

แต่

ไม่มีใครรู้เห็นการได้มาของทรัพย์

แต่

สิ่งศักดิ์สิทธิ์รู้เห็นตลอด

จึงสร้างปรากฎการณ์สะท้านโลก

ให้เห็นเป็นขวัญตา

เดี๋ยวจะหาว่า

คำสอน

ก็เป็นแค่คำสอน

อยู่ในตำราพระไตรปิฏก

ไม่เกิดขึ้นจริง

 

ทีนี้

ทำไมต้องให้ไหม้แบบนี้

ก็ถ้าให้ไหม้แบบมีเชื้อไฟเช่น

แก๊สระเบิด ไฟช๊อต

ก็จะไม่ฉุกคิด

ไม่ฉงน

ไม่เอะใจ ต้องให้ไหม้แบบ

ไฟลุกขึ้นได้เอง

 

ยังกะพวกฝึก กษิณไฟ เลย

 

ขลัวอีโต้

เพื่อนหลวงพ่อปาน

ท่านเคย ล่องเรือผ่านหน้าวัด

หลวงพ่อปาน

แล้วไฟลุกไหม้เรือท่าน

 

ท่านจอดเรือ

ลงมาตามหาตัวหลวงพ่อปาน

ซึ่งท่านรู้ว่าเหตุการณ์อย่างนี้

ขับเรืออยู่ดีๆไฟไหม้

ไม่มีใครทำได้ นอกจากหลวงพ่อปาน

 

ลงมาลูกศิษย์หลวงพ่อปาน

ก็ตกใจ เพราะท่านด่าหลวงพ่อปาน

แต่พอเจอกัน ที่ไหนได้

ท่านซี๊ปึ๊กกัน ด่ากันเล่นได้

 

แล้วก็

มาประกาศบารมีหลวงพ่อปาน

ให้ลูกศิษย์หลวงพ่อปานรู้

ซะงั้น ว่านี่ หลวงพ่อปานเท่านั้น

ที่ทำได้อย่างนี้ คือต้อง

ระดับ

ปฎิสัมภิทาญาน

 

ทีนี้

สำหรับคนที่บ้านไฟไหม้

โดยลุกไหม้เอง เดี๋ยวตรงนั้น

เดี๋ยวตรงนี้ เอาพระมาทำพิธีก็ไม่หาย

2-3 วัน ก็ไหม้อีก กระทั่งที่นอน

กระทั่งสวนผัก

ก็ลุกไหม้ขึ้นเองต่อหน้าคนได้

 

ข่าวนี้

ควรได้รับการ

เผยแพร่ไป

ให้มากที่สุด

 

และตอบสังคมให้ได้

ถึงสาเหตุ และ ปรากฎการณ์

อย่าให้เรื่องเงียบไป

เพียงใช้คำว่า

งมงาย

 

เพราะ

คนที่พูดที่เขียนว่า

งมงาย

เดี๋ยวจะต้องเจอเอง

ที่บ้านของตัวเอง

 

เพราะ

บัดนี้ ทั้ง 3 โลก

เปิดมิติ ทั้ง 3 ออกแล้ว

ปล่อยให้เจ้ากรรมของใคร

ตรงไปหาเป้าเอาเอง

ตามสบายแล้ว

 

วิญญาณ

คน และ สัตว์ และ ผี

ที่ถูกฆ่า ถูกทำร้าย ถูกทำให้ตาย

ด้วยประการต่างๆ

จะออกมา เอาคืน กับคู่กรณี

 

ไม่ต้องไปหาพระ

หรือหมอผีที่ไหน ไม่มีอะไรต้านอยู่

ไม่เชื่อก็ลองดู คอยดู

 

ผู้ประกอบกรรม ทำชั่ว

จะอยู่ไม่เป็นสุข

ไม่สงบสุข

จะว้าวุ่น จะวุ่นวาย

มีแต่เรื่องร้ายๆ เข้ามาในชีวิต

 

แม้จะนอน

ก็จะมี ภาพ กลิ่น เสียง

สัมผัส จากผีร้าย รบกวน

จนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย

ไปไหน ก็จะมีวิญญาณติดตาม

ทำให้เจ้าตัวรู้สึก

"หลอน"

ตลอดเวลา

จนกว่า จะสำนึก และทางเดียว

ที่จะรอดพ้นคือ.......ไม่บอกดีกว่า

ให้ค้นหาเอาเอง

ไม่อยากแทรกแซรงกรรม

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 18:12:32


ความคิดเห็นที่ 182 (1640384)

ความเห็นที่ 132 (1639860)
แจ้งลบความคิดเห็น
image

  ปล. ท่าทางคนจะเยอะนะคะ

ดูจากเก้าอี้น่ะค่ะ อิอิ

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี 

 *************

น้องหญิงจ๊ะ : เก้าอี้ประมาณ 500 ตัวจ้า

แต่งานนี้นะ มองไปทางไหนก็เห็นแต่คนสวมสร้อยห้อยจี้องค์เทพสฟิงซ์

จนเป็นกระแสให้แขกที่เดินทางมาร่วมงานและชาวบ้านแถวนั้นแปลกใจ

 นึกว่าเป็นแฟชั่นยุคใหม่จนต้องเดินมาถามว่าแขวนอะไรกันเลยล่ะ

งานนี้กระแสตอบรับของบ้านสวนดีมากๆๆ

 

 

เข้ามากด

 ไลท์ ล้านครั้ง

ให้เจ้าของภาพถ่าย

และ ผู้แสดงความเห็นค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 18:18:10


ความคิดเห็นที่ 183 (1640386)

พวกเราเคยเห็นไหม

หนังสือแจกที่ระลึกงานศพ

มีเด็กตัวเท่านี้

นั่งตั้งหน้าตั้งตาอ่านขนาดนี้

 

หรือ

เคยเห็นคนแก่

หรือผู้ใหญ่สนใจอ่าน

หรือ

วิ่งมาขอหนังสือเพิ่มกันไหม

ที่สำคัญ

ไม่ยักกะมีใครสักคนลืมของชำร่วยนี้

ไว้ตามเก้าอี้ ตามพื้น หรือที่ไหนเลยเน๊าะ

**********

 

ในฐานนะที่

ท่านเคยไปงานศพ

และ

ได้รับของแจกในงานมาแล้ว

ช่วยมาเล่ากันหน่อยว่า

ท่านสนใจ

ของแจกนั้นขนาดไหน

อ่านกันไหม

 

และ

ของแจกงานคุณตา

ท่านเห็นกิริยาผู้รับเป็นอย่างไร

กันบ้าง

 

รวมทั้งท่านที่เดินแจก

มีการตอบรับอย่างไรบ้าง

ช่วยมาเล่าที

 

การเล่านี้

ก็ถือเป็นธรรมทาน

เป็นปรากฎการณ์ใหม่

 

เป็นไปตาม

ทางที่หลวงพ่อฤาษี

ปูไว้ ให้เดิน

 

เพราะหลวงพ่อ

ท่านเขียนประวัติท่านเอง

ไว้แจกตอนตาย

ท่านบอกว่า

ท่านไม่ให้ใครเขียน

เพราะ

 

ท่านเห็นงานศพทุกงาน

เขาอ่านประวัติคนตาย

เขาเขียนให้เปรตเป็นเทวดาได้

ท่านเลยไม่เอา

 

ท่านเขียนเอง

รวมความว่า สิ่งที่ท่านเขียน

ท่านจะบอกคนอ่านว่า

ท่านเป็นพระระยำ

 

แล้วพวกเรา

ก็ได้ทำตามที่ท่านอยากให้ทำ

คือเล่าเรื่องระยำของพวกเรา

ให้คนไปงานศพอ่าน

เรื่องนี้

"ชาวบ้านชอบ"

และ

"ชอบมากที่สุด"

เพราะ

ไม่เข้าข่ายนินทา

เพราะพวกเรานินทาตัวเราเอง

เขาอ่านอย่างสบายใจ

สำรวจตัวเองไปด้วยว่าเรานี่

เป็นอย่างนี้

รึเปล่าหว่า ว่าแล้วก็

โดน

ทุกเม็ด ทุกคน

 

อันนี้

เช็คเรตติ้งได้จาก

ที่มีคนโทร.มาหา อยากมา

กราบ อ.อุบล บ้านสวน

บอกว่า

อ่านแล้ว โดน ตัวเองทั้งหมดเลย

 

คราวนี้

จะได้รู้ว่าทั้งหมดที่

พวกเราทำ

อยู่ในการเขียนบท

ของพระพุทธองค์ ทั้งสิ้น

 

โดยมีหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

เป็นผู้กำกับการแสดงทั้งหมด

 

เสด็จพ่อ

ท้าวเวสสุวรรณ

เป็นผู้จัดการส่วนตัว

คอยคุมเข้ม

ทุกสถานการณ์ตลอด

 

อ.อุบล

เป็นดารานำแสดง

 

พวกเราทุกคน

ที่ร่วมจัดทำ + ร่วมงาน

เป็นนักแสดงร่วม

ละครเวทีชีวิตจริง

 

ซึ่งแสดงซ้ำซาก

อยู่เรื่องเดียว

คือ

"ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ

เมื่อดับเหตุได้

ผลจึงจะดับ"

 

ในที่สุด

เราก็หากันจนเจอ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 18:30:23


ความคิดเห็นที่ 184 (1640393)

 

นอนหลับในรถเลย ปล่อยให้พี่ตุ๊ก

ขับรถกลับบ้านคนเดียว จากลพบุรี-ปทุมธานี

เมื่อถึงปลายทางก็งัวเงียตื่นขึ้นมา

และรีบลงจากรถ

ลืมสิ่งของส่วนตัวไว้กับพี่ตุ๊กอีก

กลับเข้าบ้านส่องกระจก

 พบก้อนสิวอักเสบ

มหึมา

ที่บริเวณริมฝีปากด้านบน

บวมปูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

(ปากเจ่อ คล้ายถูกชก)

ทั้งที่ตอนขึ้นรถยังไม่มีอาการเลย

จึงคิดว่าต้องมีเหตุอย่างแน่นอน

-----------

ลูกน.ส.เบ็ญจากาญจน์  ศุภศิริวัฒนา

 

*************************************

เบื้องบน

ท่านเมตตา ต่อผู้ที่

นิ่งดูดาย

ต่อการทำบาป ของผู้อื่น

อย่างนี้ นี่เอง

 

พวกเรา

คงคิดละซีว่า เราไม่ได้ทำ

แต่คุณบุญภิบาล

เป็นคนทำ เป็นคนพูด ไมดี

เราไม่เกี่ยว

 

แต่

ที่ไหนได้

มันเป็นการผิดศีล

อย่างแรง

 

ในข้อที่

พระพุทธเจ้าสอนเรื่อง

การผิดศีล ผิดอย่างไรได้บ้าง

 

1.ลงมือทำผิดศีล ด้วยตนเอง

2.ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นทำผิดศีล

3.ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นทำผิดศีลแล้ว

 

การไม่ห้ามปราม

จัดอยู่ในประเภทข้อ 2 และ 3

บาปหนักยิ่งไม่แพ้ทำเอง

คุณวิ

จึงได้รับผล

เสมือนหนึ่งทำผิดศีลเอง

ด้วยการ

ปากเจ่อ เหมือนถูกชก

มีสิวเม็ดมหึมา

ขึ้นที่ปาก

 

ตอนนี้

เบื้องบนเตือนแรงขึ้นแล้วนะ

ถ้าใครยังมัวดูดาย

ต่อการเดินลงนรกของคนอื่น

ต้องเจอนรกขุมเดียวกัน

กับเขา แน่นอน

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 19:14:40


ความคิดเห็นที่ 185 (1640402)

 

แม้แต่พระสงฆ์งานนี้ก็ได้รับการบำบัดด้วยครับ

สิ่งที่ได้ฝึกฝนกันมาย่อมไม่สูญเปล่าแล้วครับ

นี่แหละ ลูกบ้านสวนฯ ตัวจริง  ต้องอย่างนี้

ในคราวนี้นอกจากจะทำกิจกรรม ชุบกาย กันแล้ว

แต่สิ่งที่ได้แถมมา คือ การชุบจิต  ด้วยครับ

จิตที่ละตัวตน  ไม่ยึดติดอยู่กับตำแหน่ง ชื่อเสียง เงินทอง

คนบางคนแม้กระทั่งโต๊ะก็ยังยึดติด

โดยที่ไม่ยอมลุกไปไหนไม่รู้อะไรจะยุ่งขนาดนั้น

แขกไปใครมาก็ไม่สนใจ 

เป็นโรคติดโต๊ะและติดกระเป๋าตุงๆอยู่ใบหนึ่ง

เป็นที่น่าสงสัยยิ่งนัก ว่าในกระเป๋ามีอะไร

******************************

เข้ามา "ฮา" ด้วยคน

อันที่จริง ฮา ตั้งแต่อ่านทีแรกแล้ว

แต่ยังไม่ได้มาเขียน ฮา

 

ผศ.อภิชัย

เคยได้ยินคำว่า

ลุกแล้วเสียม้า หรือไม่

แต่สำหรับงานนี้

ยึดติดโต๊ะ + เก้าอี้ เสียหมา เลย

ฮา อีกที นะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 20:02:16


ความคิดเห็นที่ 186 (1640424)

        

      

       ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณ คุณหนึ่ง  ที่เอารูปผมที่กำลังบำบัดหลวงตามาลงให้ได้  ชมกัน    เมื่อวันอาทิตย์หลังจาก รับประทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว   ก็ได้ลงจากศาลามาพบ         อ. อภิชัย  กำลังบำบัดหลวงตาอยู่แล้วดูแล้วคงจะไม่จบง่ายๆ     จึงให้ อ.อภิชัยไปทานข้าวก่อน ผมรับมาบำบัดต่อให้เองหลวงตาเป็นโรคปวดหัวเข่า  เริ่มต้นก็ให้ใช้รหัส    อ. อุบลช่วยด้วย  ปรากฏว่าดีขึ้นเล็กน้อย  ให้นึกถึงกรรมต่อ    ก็บอกว่าเคยหักขากบ  ขาเขียด  อาการก็ไม่ดีขึ้น  ต่อมาให้มองดูจี้ ๓ร่ม โพธิ์ศรี  นับได้ถึง 60 บอกว่าไม่ดีขึ้น  แสดงว่าต้องให้สารภาพบาป  แต่หลวงตา  จิตไม่เปิด คุณพิชัยก็อยู่ข้างๆ  บอกหลวงตาให้เล่า ให้หมดเลยจะได้หายๆ  หลวงตาก็เล่าแค่  หัก  ขากบ   ขาเขียด  เวลาปวดเข่า ก็ไปโรงพยาบาลกินยาอยู่   จึงถามว่าหลวงตา อายุเท่าไร บวชตั้งแต่อายุเท่าไร    ตอบ  อายุ๗๖ปี  บวชเมื่ออายุครบ บวช  ตอนนั้นคิดว่าจะทำอย่างไรดี   หลวงตา     ก็พูดต่อไปว่า  ไม่รู้จะสึกไปทำไมลูกๆก็โตมีครอบครัวไปหมดแล้ว  ได้ยินแค่นี้ก็ดีใจ  สำเร็จแล้ว  ถามหลวงตาว่า  ตอนหนุ่มๆคงมีแฟนหลายคนใช่ไหม  หลวงตาบอกว่า  เป็นธรรมดาตอนหนุ่มๆ  จึงบอก หลวงตาว่า   กรรมปวดหัวเข่ามาจากเรื่องผู้หญิง  เจ้าชู้ มีแฟนหลายคน   ให้หลวงตาเช็คอาการปวดหัวเข่าดู  หลวงตาทำท่าดีใจกึ่งตกใจ  บอกว่าปวดหัวเข่าเบาลงไปมากเลย แต่มีเป็นเส้นวิ่งลงไปเจ็บที่น่อง   ถามว่าปวดหัวเข่าหายไปกี่เปอร์เซ็น  ตอบว่า 80%  คราวนี้หลวงตา  เล่าต่อเองเลยไม่ต้องถามแล้ว   บอกว่าเคยเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่ง  หมามากัดเป็ดเอาไม้ไล่ เควี้ยง  และเคยฆ่าหมาหลายตัว    แมวมาขโมยของ  ก็ได้เคยฆ่าแมว ไปหลายตัว   หลวงตาตอนนี้ยิมแย้มแจ่มใสอารมณ์ดี   ผมจึงได้เอามือกำจี้  ขอบารมีพระศรีอริยเมตไตรขอให้หายปวดทั้งหมดเลย  ปรากฎว่าหลวงตาก็ได้หายจริงๆ   หลังจากที่ได้สอบถามแล้วหลวงตาก็บอกว่าหายหมดแล้ว   มีกลุ่มกองเชียร์(๖-๗ คน)  สาธุ  ดีใจกันไหญ่  เพราะกรณีนี้จิตไม่เปิดทำให้การบำบัติเป็นไปไดัยากมาก   ซึ่งต่างกับการบำบัดเมื่อวานนี้   วันเสาร์ ตอนบ่ายที่ลานข้าวข้างวัดผม   ได้พูดคุยทำความรู้จักกันกับ เจ้าของนาเป็นผู้หญิง 2 คน  คนพี่ชื่อ น้อยมีอาการปวดหลัง  คนน้องชื่อ สมัย ปวดหัวเข่า ได้ถามว่า   ที่วัดมีการบำบัด  รู้ข่าวไหม   ตนน้องตอบว่า  รู้เพราะ   อ. บ. ต.  มาบอก  แต่ไม่กล้าเข้าไป  ที่วัด  ผมก็เลยถามว่าจะบำบัดให้เอาไหม  คนน้องบอกว่า   เอาโดยให้ใช้  รหัส   อ. อุบลช่วยด้วย     ดีขึ้น 10%  ให้ใช้รห้ส  อีกครั้ง ดีขึ้นอีก 20%  รวม             เป็น30%

 

 

        เนื่องจากมีเวลาน้อย ต้องรืบไปขายข้าว จึงให้ทั้งสองคนมองดูจี้ 3 ร่มโพธิศรีพร้อมกัน นับเลข    ในใจ  ได้บอกเขาว่าหายเมื่อไรหยุดนับแล้วบอกเลขด้วย    คนพี่นับถึง 100 หายปวดหลัง   คนน้องนับได้  110  หายปวดหัวเข่า จึง ให้ขอบคุณพระศรีอริยเมตไตย ขอบคุณเทวดาที่รักษา อ. อุบลและ อ.อุบล  จึงได้แนะนำจี้อุปกรณ์ บูชาไป 2 องค์  สรุปได้ช่วยบำบัดที่วัดไป      ได้3 รายครับ

                         *********

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธิพันธ์ อัครวิชชนนท์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 21:29:48


ความคิดเห็นที่ 187 (1640444)

"ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ

เมื่อดับเหตุได้

ผลจึงจะดับ"

 

ในที่สุด

เราก็หากันจนเจอ

*************

และ

แล้ว.ว.ว.เราก็หา..กันจนเจอ

แน๊ ๆๆ  อ.อุบล ขา

กำลังบอก ความนัย

ให้พวกเรา น้ำตาไหลกันอีก

**************

ของแจกงานคุณตา

ท่านเห็นกิริยาผู้รับเป็นอย่างไร

กันบ้าง

รวมทั้งท่านที่เดินแจก

มีการตอบรับอย่างไรบ้าง

ช่วยมาเล่าที

***************

เยอะมากค่ะ

ขอทั้งหนังสือ

ขอ CD...

ทั้งคืนวันสวด และวันเผา

มีคุณลุง เดินมาขอว่า

มีอะไรเพิ่มเติมอีกไหมครับ

ผมขอ ผมอยากได้ CD อีก

แต่ละแผ่นเหมือนกันไหมครับ

ถ้าไม่เหมือน ผมขอเพิ่มหน่อย

***55555***

สงสัย รูปคุณตา บนหน้าปก

คงจะเป็นแรงดึงดูดแขก

ทำให้อยากได้

หยิบมาแล้วเห็นคุณตายิ้มให้

ก็ยิ้มตอบกลับทันทีคร๊า

และประกอบกับการได้อ่าน

เรื่อง ระยำ ของลูกบ้านสวนฯ

ก็เลย..วางไม่ลง

อย่างยี้ก็มีด้วยหรือ ????

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 22:24:40


ความคิดเห็นที่ 188 (1640468)

 ในฐานนะที่

ท่านเคยไปงานศพ

และ

ได้รับของแจกในงานมาแล้ว

ช่วยมาเล่ากันหน่อยว่า

ท่านสนใจ

ของแจกนั้นขนาดไหน

อ่านกันไหม

................................................................

ไปงานศพมาก็มาก แต่ ก็ไม่เคยหรือไม่นึก

ว่าสักวันเราต้องเป็นอย่างเขา

มีแต่ร่างที่รอการเผา การฝัง

เอาอะไรติดตัวไปก็ไม่ได้

ทั้งที่เขานั้นสะสมสร้างทุกอย่างยามมีชีวิต

ตัวผมเองเวลาไปงานศพ

ก็จ้องที่เจ้าภาพมีของชำร่วยแจกอะไร

อยากได้ไปหมด ผ้าเช็ดหน้า ยาดม ยาหม่อง

หนังสือธรรมะ หรือแม้แต่ของเล็กน้อย

ทั้งที่ของเหล่านี้ราคาไม่สูง

ช่างเป็นคนที่ชอบของฟรี แบบไปแล้วไม่ขาดทุน

ต้องให้ได้ติดไม้ติดมือกลับมา

เป็นอะไรที่ไม่สร้างกุศลให้กับตัวเอง

เอาแต่สร้างกรรมชั่วติดตัว

หนังสือธรรมะได้มาอ่านจบแล้วก็ไม่แจกต่อ

เพื่อเป็นธรรมทาน

แค่นี้ก็คิดไม่ได้.

ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ (ตาโต๊ะ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 23:53:19


ความคิดเห็นที่ 189 (1640481)

 10-11 พ.ย.55 เป็นสัปดาห์แห่งการ

เตรียมพร้อม"ชุบกาย"เพื่ออยู่ยุคพระศรีอาริย์

และเป็นการชุบกายแบบสัญจร เสียด้วย

สำหรับตัวลูกเองก็ได้ลงชื่อเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ด้วย

*******

ลูกขอน้อมจิตกราบคุณตา แม้สังขารท่านจะละจากโลกนี้ไปแล้ว

แต่คุณงามความดี ที่ท่านได้สร้างไว้มีมากมาย

ชื่อของท่านก็ยังคงอยู่ ต่อไป จากรุ่นสู่รุ่น

และท่านได้โคลนนึ่งตัวท่านไว้แล้ว

โดยท่านอาจารย์อุบล ที่เป็นบุตรสาวคนเดียวของคุณตา

ได้เสียสละความสุขส่วนตัว

เพื่อช่วยเหลือผู้คนทั่วโลก ให้พ้นจากความทุกข์

รอดพ้นจากภัยทั้งปวง

หากไม่มีคุณตา ก็ไม่มีท่านอาจารย์อุบล

ดังนั้นคุณตา จึงเป็นผู้ที่มีพระคุณอย่างสูงสุดของลูกบ้านสวนพีระมิด

กราบ กราบ กราบ

******

เช้าวันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2555

ลูกได้เดินทางไปบ้านสวนพร้อมพี่ตุ๊ก น้องหนึ่ง

เช้าวันนี้ถนนโล่ง จึงใช้เวลาเดินทางไม่มาก

ถึงบ้านสวนฯ เจ็ดโมงกว่าๆ

หลังจากนั้นพี่ธนาได้ประชุมนัดหมาย

และแบ่งกลุ่มทำกิจกรรมเป็น 3 กลุ่ม

กลุ่มแรกประจำที่โรงทาน

ช่วยพี่เหมี่ยว จัดเตรียมเอกสารแจกในงานคุณตา

ส่วนกลุ่มที่ 2 และ 3

 

 

 คือทำความสะอาดพีระมิดองค์เล็กทั้งหมด

 

และโกยดิน เกลี่ยดิน ปรับพื้นวิหารหลังใหม่

ให้สลับฐานกันหลังจากครบ 1 ชม.

ฐานแรก ให้ทำความสะอาดพีระมิดองค์เล็กทั้งหมด

มีคุณก๊อต รมต.ขาดปัญญาเป็นผู้นำกลุ่ม

ก่อนลงมือทำงานก็จะ รวมกลุ่มกันก่อน

เพื่อวางแผน และมอบหมายงาน

หลังจากนั้นแต่ละคนก็แยกย้ายกันทำงาน

ระหว่างทำงานก็ตั้งใจทำงาน ท่องคาถาพระศรีอาริย์

ใช้รหัสอ.อุบล..ช่วยด้วย

และอุทิศบุญให้เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์ทุกพระองค์

เจ้ากรรมนายเวรฯ ของตัวเราเอง

หลังจากทำได้สักพักก็รู้สึกว่าผิวหน้าที่ตึงนั้นเบาขึ้น

เมื่อครบ 1 ชม.จึงได้ย้ายฐานไปบริเวณที่สร้างวิหารหลังใหม่

มีอาจารย์พันเป็นผู้นำ

พวกเราหลายคนช่วยกันขุด ขน เกลี่ยดิน

แสงแดดค่อนข้างจัด แต่ไม่มีใครยอมแพ้

ช่วยกันขุด ขน จนพื้นราบเป็นหน้ากลอง

มีทั้งเด็ก วัยกลางคน สว. ทำด้วยความตั้งใจจริง

พวกเราใช้แรงกายจนถึงเวลา 11.00 น.

หลังจากนั้นก็เตรียมตัวเดินทางไปจ.ลพบุรี

พวกเรากองทัพ ลูกบ้านสวนฯ เดินทางถึงวัด

ในช่วงบ่าย หลังจากเข้าไปกราบคุณตาแล้ว

พวกเราก็ไม่รีรอ แยกย้ายกันทำงาน เหมือนที่ทำในบ้านสวนฯ

ทำครัว กวาดเก็บใบไม้ ล้างห้องน้ำ

อีกส่วนหนึ่งดูแลแขกที่มาร่วมงาน เห็นแล้วชื่นใจ

มิเสียแรงที่ท่านอาจารย์อุบล ได้เมตตาสอนพวกเราทุกอย่าง

การทำความดีให้ทำแบบง่ายๆ และทำในทันที

 ยังมีต่อค่ะ

 โดย

 

น.ส.เบ็ญจากาญจน์  ศุภศิริวัฒนา

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 01:12:02


ความคิดเห็นที่ 190 (1640483)

 ต่อค่ะ วันเสาร์ช่วงบ่าย

หลังจากเสร็จงานสถานที่แล้ว พอมีเวลาเหลือ

ระหว่างที่นั่งรอเวลาพระสวดฯ

พวกเราลูกบ้านสวนฯ ก็มิได้ปล่อยให้เวลาผ่านไป

จะช่วยบำบัดคนที่มาร่วมงาน และลูกบ้านสวนฯด้วยกัน

สำหรับตัวลูกเองมีปัญหาเรื่องหูอื้อ

เป็นมา 4-5 ปี พบหมอที่รพ.แล้ว

หมอบอกว่า ประสาทหูเสื่อมให้ยามาทาน

แต่ก็ไม่ดีขึ้นเลย จึงเลิกทาน หากทานยาต่อไป

เพราะผลข้างเคียงของการกินยาอาจจะได้โรคมาเพิ่ม

โดยที่โรคเดิมก็ยังไม่หาย หรือดีขึ้น

จึงขอให้คุณน้อย (คุณยุวรัตน์) ช่วยบำบัด

เรื่องหูอื้อ ตัวร้อน(ปวดแสบปวดร้อน)

บริเวณสบักแขน 2 ข้าง

ทั้งที่ตัวเองก็มีจี้ห้อยเต็มคอ แต่อาการหูอื้อ

ก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม รักกันเหนียวแน่น

สงสัยเจ้าหนี้คงต้องการให้บอกเรื่องราวทั้งหมด

จริงๆแล้ว บางเหตุการณ์จำไม่ได้เลย แต่บางเรื่อง

ที่ลืมไปแล้วก็นึกได้

ชีวิตที่ผ่านมา ได้สร้างกรรมต่างๆมากมาย

กรรมที่เกี่ยวกับหู เคยฆ่าหนูโดยจับถ่วงน้ำ

ชอบร่วมวงนินทา เช่นนินทาราชวงศ์ทุกพระองค์ เพื่อน พี่น้อง เจ้านาย

ทุกคนที่เราไม่ชอบ เวลาได้ยินเสียงดังจะหงุดหงิด

คิดไม่ดีกับคนอื่น บ้านใครมีเสียงรบกวนก็จะหงุดหงิด

หรือบางครั้งคนในที่ทำงานเดียวกัน คุยโทรศัพท์เสียงดัง

ก็จะคิดไม่ดีกับเขา และหาทางระบายความโกรธด้วยวิธีอื่น

ชอบฟังวิทยุ(ละคร ) ผู้ใหญ่ห้ามไม่ฟัง

และเคยเผาพริก แช่งคนแต่จำไม่ได้ว่าเป็นใคร

และโกรธเขาเรื่องอะไร

ช่วงที่คุณน้อยช่วยบำบัดให้โดยใช้รหัส..อ.อุบล ช่วยด้วย

อาราธนาบารมีจากจี้สามร่มโพธิ์ศรี

รู้สึกโปร่ง และสบายหัวมากขึ้น

จึงเข้าไปกราบขอบคุณท่านอาจารย์ด้านในศาลา

ขอบคุณเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์ทุกพระองค์

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ที่ช่วยให้ลูกมีอาการดีขึ้น

แต่ยังเหลืออาการอีก จึงขอบคุณคุณน้อย

ที่ช่วยบำบัดให้ แต่ได้พูดให้คุณน้อยเข้าใจผิด

ว่าเสียงคุณน้อยมีพลัง ทำให้ผลการบำบัดดีขึ้น

ขณะนั้นเสียงจากเครื่องเสียง ดังอยู่จึงไม่รู้ว่า

ความซ่าของหูเป็นอย่างไร

คืนนั้นหลังจากเสร็จงาน ก็เดินทางกลับบ้านสวนฯ

เมื่อเข้ามาถึงบ้านสวนฯ ถึงได้รู้ว่าอาการหูอื้อ

หลังจากบำบัดกับคุณน้อย อาการกลับดังมากกว่าเดิม

(ก่อนให้คุณน้อยบำบัด)

ส่วนคุณป้าสำเนา ที่มาจากเพชรบูรณ์

มีอาการหูอื้อ มากว่า 20 ปี ซึ่งคุณป้าบอกว่าหายจากอาการหูอื้อ

หลังจากที่คุณน้อยบำบัดให้

เมื่อพบคุณป้าตอนเช้าวันอาทิตย์ จึงสอบถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง

คุณป้าบอกว่ากลับมาดังเหมือนเดิม

จึงคิดว่าต้องมีเหตุที่ทำให้มีอาการเหมือนเดิม และแย่กว่าเดิม

ที่แน่ๆคือ บุญกุศลยังไม่พอประกอบกับยังสร้างกรรมใหม่อีก

*****

เช้าวันจันทร์ที่ 12 พ.ย.55 ยังมีอาการหูอื้อมากเหมือนเดิม

จึงโทรหาน้องหนึ่งเพื่อสารภาพบาปเพิ่มเติม

1.ลูกเป็นเหตุให้คุณน้อยเข้าใจผิด ว่าเสียงคุณน้อยมีพลัง

ทำให้การบำบัดได้ผลดีมากขึ้น คุณน้อยจึงให้กล่าวขอบคุณคุณน้อยแต่หลังจากการบำบัด

คุณน้อยบอกว่าหมดแรง

ลูกกราบขอขมาสมเด็จองค์ปฐม

พระศรีอาริย์ พระเจ้าอยู่หัว ท่านท้าวเวสสุวรรณ

ท้าวมหาราชทั้ง 4 และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วอนันตจักรวาล

เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์

ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว

กราบ กราบ กราบ

และขอขมาคุณน้อยด้วยที่เป็นสาเหตุ

ให้คุณน้อยเข้าใจผิด เสียงคุณน้อยมีพลัง

เลยทำให้คุณน้อยหมดแรง

2.ลูกสำนึกกรรมได้เพิ่มมากขึ้นจากการไปร่วมงานฯ คุณตา

เริ่มจากเครื่องเสียงที่ได้ยินในงานนั้น

ทำให้นึกถึงว่าทำไมตัวเราไม่ชอบเสียงหวอจากรถปอเต็กตึ้ง

ที่คอยช่วยเหลือ และนำคนเจ็บส่งรพ.

ซึ่งตัวลูกเองเคยทำงานแผนกฉุกเฉิน

เวลารถปอเต็กตึ้งมาจอดแต่ละครั้ง มักจะมี

คนเจ็บที่อาการสาหัส ต้องให้การช่วยเหลือด่วนที่สุด

ต้องระดมคนมาช่วย ทำให้แผนกวุ่นวาย

ทั้งการตามหมอและเจ้าหน้าที่แต่ละแผนกมาให้พร้อม

เรียกว่าจิตหลอน บางครั้งเจอคนไข้ที่อาการหนัก

จนเกิดความประหม่า ไม่มั่นใจในตัวเองว่าจะทำได้หรือเปล่า

หลังเหตุการณ์สงบ(การกู้ชีพคนไข้) ก็ต้องคิดค่าใช้จ่าย

ในเรื่องยาและเวชภัณฑ์ที่ใช้ไป ซึ่งบางครั้ง

ก็เบิกในส่วนที่คนไข้ไม่ได้ใช้ มาทดแทนส่วนที่ขาด

ซึ่งเป็นการทำข้อมูลเท็จ

และเมื่อมองให้ถึงสาเหตุจริงๆ คือเป็นคนขี้เกียจทำงาน

ไม่มีจิตเมตตากับคนป่วย ทำงานเพียงหน้าที่เท่านั้น

การแสดงภายนอก เป็นคนขยันมากๆๆ

แต่ในใจนั้น ติดลบ ตลอดเวลา ทำไมๆๆ

ทำไมต้องมาเวลานี้ด้วย เจ็บแค่นิดเดียวต้องเอามาส่ง

อยากได้เงินละสิ ( คนนำส่งได้ 500 บาท/ ราย)

ด้วยมีมโนกรรม ที่ติดลบตลอดเวลา วันนี้จึง

ได้รับผลกรรมเช่นนี้

ข้าพเจ้ากราบขอขมาต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ที่ลูกทำงานโดยขาดความเมตตากับคนที่เจ็บปวย

เกียจคร้านในการทำงาน

และขอขมาผู้ป่วย และผู้นำคนไข้ส่งรพ.ทุกคน

ที่มีใจคิดไม่ดี ไม่เมตตา ที่เขาได้รับบาดเจ็บ

บางคนก็เสียชีวิตก่อนมาถึงรพ. บางคนก็มาเสียชีวิตที่

ห้องฉุกเฉิน บางคนก็เสียชิตหลังจากออกจากที่แผนกไปได้ไม่นาน

ลูกขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า

เบิกบุญทุกบุญที่ได้ทำมาทุกภพทุกชาติ

จนถึงวันนี้ รวมทั้งบุญทุกบุญที่บ้านสวนฯ

ขอให้บุญรวมตัว และอุทิศให้เทวดาประจำตัวของผู้ป่วย ญาติ

ผู้นำส่ง ทุกคนรวมทั้งคนไข้ที่เสียชีวิตไปแล้ว

ขอให้ร่วมอนุโมทนาในบุญของข้าพเจ้า

ท่านใดที่มีสุข ขอให้สุขยิ่งขึ้นไป

ท่านใดที่มีทุกข์ ขอให้พ้นจากทุกข์ด้วยเถิด

สาธุ สาธุ สาธุ

********

ขณะที่ข้าพเจ้าได้พิมพ์ข้อความอยู่นี้

รู้สึกว่าเสียงที่ดังอยู่ในหูนั้นอยู่ไกลออกไป

เสียงดังในหูลดลง 70%

 

 น.ส.เบ็ญจากาญจน์  ศุภศิริวัฒนา

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 01:14:51


ความคิดเห็นที่ 191 (1640503)

 ในฐานนะที่

ท่านเคยไปงานศพ

และ

ได้รับของแจกในงานมาแล้ว

ช่วยมาเล่ากันหน่อยว่า

ท่านสนใจ

ของแจกนั้นขนาดไหน

อ่านกันไหม

ขอมาตอบในฐานะที่เคยไปงานศพค่ะ

เคยไปไม่บ่อย แต่ของที่ได้ก็คือยาหม่องค่ะ

ตอนนั้นยังเด็กอยู่เลย คิดไปคนเดียวว่า

สงสัยเจ้าภาพเค้าเห็นคนมากันเยอะ

แล้วแดดก็ร้อน กลัวคนเป็นลมมั้ง

เลยแจกยาหม่อง อิอิ 

นอกจากนั้นก็เป็น

ของพวกพวงกุญแจประมาณนี้ค่ะ

แต่ตอนนั้นชอบของฟรีค่ะ

รู้สึกอยากได้แต่พอได้ไปแล้ว

ก็รู้สึกว่ามันไม่มีประโยชน์

เพราะของแบบนี้เราหาซื้อได้ทั่วไป

หายก็ไม่เป็นไร 

เลยไม่ค่อยสนใจ เก็บเข้าตู้อย่างเดียวค่ะ

 

และ

ของแจกงานคุณตา

ท่านเห็นกิริยาผู้รับเป็นอย่างไร

กันบ้าง

 

รวมทั้งท่านที่เดินแจก

มีการตอบรับอย่างไรบ้าง

ช่วยมาเล่าที

ไม่ได้ไปงานคุณตาค่ะ

แต่เท่าที่เห็นรู้สึกว่ากระแสตอบรับดีมากๆค่ะ

จากการเหลาของพี่หลายๆคนและรูปภาพ

โดยปกติทั่วไปแล้วเด็กเล็กๆเขาจะอ่านแต่พวกหนังสือนิทาน

หนังสือการ์ตูน คงไม่อยากมานั่งอ่านอะไรนอกเหนือจากนั้น

แต่นี่มันฟ้องด้วยภาพถ่ายจริงๆค่ะ

ว่าแม้กระทั่งเด็กเล็กๆ

ก็ยังหันมาสนใจประวัติดาวรุ่งอย่างพวกเรา อิอิ

คงไม่ต้องพูดถึงผู้ใหญ่เลยค่ะ ว่าจะสนใจกันมากแค่ไหน

แสดงว่าเราเดินมาถูกทางแล้วจริงๆ

ของที่ระลึกในงานคุณตาครั้งนี้

ไม่เหมือนที่หนูเคยได้มาจากงานต่างๆเลย

แต่กลับเป็นสิ่งของที่มีคุณค่าทางจิตใจ

และช่วยให้ผู้คนได้รู้จักบุญและบาปมากขึ้น

เรียกได้ว่า "แม้กระทั่งของที่ระลึก

ก็ยังเป็นการสร้างบุญสำหรับผู้ให้และผู้รับ"

งานนี้มีแต่ ได้ กับ ได้ จริงๆค่ะ

กราบขอบพระคุณเบื้องบนทุกๆพระองค์

อ.แม่+ครอบครัว และคุณตาด้วยค่ะ

ที่ทำให้พวกเราได้มีโอกาสสร้างบุญใหญ่

และเห็นผลฉับพลันทันที

กราบ กราบ กราบ

*******************

"ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ

เมื่อดับเหตุได้

ผลจึงจะดับ"

 

ในที่สุด

เราก็หากันจนเจอ

*************

กราบขอบพระคุณทุกๆความเมตตา

ที่อ.แม่มีต่อพวกเรามาตลอด

และไม่เคยทิ้งให้พวกเราต้องเผชิญทุกข์เพียงลำพัง

ซาบซึ้งจริงๆค่ะ


หนูรักอ.แม่นะคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 05:20:02


ความคิดเห็นที่ 192 (1640519)

 

เขาอ่านอย่างสบายใจ

สำรวจตัวเองไปด้วยว่าเรานี่

เป็นอย่างนี้

รึเปล่าหว่า ว่าแล้วก็

โดน

ทุกเม็ด ทุกคน

 

อันนี้

เช็คเรตติ้งได้จาก

ที่มีคนโทร.มาหา อยากมา

กราบ อ.อุบล บ้านสวน

บอกว่า

อ่านแล้ว โดน ตัวเองทั้งหมดเลย

........................

 

อันนี้ต้องยกคุณความดี

ให้กับ ท่านอาจารย์

ที่เป็นต้นตำรับตัวจริง

ในการเขียนธรรมทานได้กระแทกใจผู้อ่าน

และกระตุกต่อมกิเลส ให้สั่นครอน

 

เพราะอ่านอะไรก็"โดน"

ตัวเองหม๊ด เหมือนกัลล์

 

หลังจากที่ได้รับการถ่ายทอดวิชา

และฝึกกำลังภายในกันพอสมควร

พวกเราจึงมี"พลัง"พอ

ที่จะส่งต่อให้"ผู้ที่ได้มาอ่าน"

ธรรมทานชีวิตจริงเหล่านี้

ให้มีอาการ"โดน" เหมือนเรา ได้...

.........................

ขอบคุณภาพและข่าว เพลิงไหม้ปริศนา

ที่คุณแมวก็อปมาให้เราพิจารณาด้วยนะคะ

 

แล้วก็กราบขอบพระคุณ

กับธรรมทานที่ท่านอาจารย์

เมตตาขยายความ

ถึงสาเหตุที่แท้จริง ของเหตุการณ์นี้

 

ว่า มีที่มาจากการผิดศีลข้อสอง

แล้วยังเป็นการแสดง

ประจักษ์หลักฐานอย่างชัดเจนว่า

 

บัดนี้สามโลก ได้เปิดแล้ว

อะไรที่เราคิดว่าเป็นไปไม่ได้

ก็จะเป็นไปให้เห็น

หรือถ้าใครคิดว่า

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่มีจริง

ก็คงจะได้เห็นกันจะๆแล้ว

 

แหม่..เล่นมาท้าทายแบบนี้

คนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นทุกคน

คงจะพูดไม่ออกกันเลยทีเดียว

 

................................................

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 09:13:31


ความคิดเห็นที่ 193 (1640561)

 ของแจกงานคุณตา

ท่านเห็นกิริยาผู้รับเป็นอย่างไร

กันบ้าง

อ่านธรรมทานจากหลายท่านแล้ว กิริยาผู้รับของแจกงานคุณตา ที่เป็นธรรมทานชีวิตจริงนี้ ดีสุดๆค่ะ เป็นของแจกที่เกิดประโยชน์มากกว่าของแจกอย่างอื่น เพราะคนสนใจอ่านกันตั้งแต่เด็กถึงผู้ใหญ่ สะท้อนกรรมได้ทันที อ่านแล้วเข้าใจง่าย คนเปลี่ยนจิตกันได้รวดเร็ว เป็นวิธีที่ช่วยคนได้มากกว่า มีประสิทธิภาพกว่า และเร็วกว่าเดิมจริงๆ หากแจกธรรมทานแบบพระธรรมคำสอนล้วนๆ บางท่านอาจไม่สนใจ ไม่เข้าใจ ไม่เข้าถึง

ขอกราบพระปัญญาญาณ กราบขอบพระคุณในพระเมตตาของสมเด็จองค์ปฐมและพระศรีอาริย์ค่ะที่ทรงมีบัญชาให้ลูกหลานเขียนขึ้นมา ซึ่งยังปลดล็อคกรรมให้ผู้เขียนและผู้แจกได้จริงค่ะ สาธุ เพราะหนูได้รับอานิสงส์เป็นรูปธรรมชัดเจนแล้วในเรื่องผิวพรรณ เพราะเห็นได้ชัดจริงๆ ว่าเส้นเลือยฝอยแดงที่โหนกแก้มสองข้างหายไปเกิน 50% แล้ว รอยสิวจางลงมาก และปกติเป็นคนผิวมัน หน้าก็แทบไม่มันระหว่างวันแล้ว ผิวกายโดยรวม เนียนและขาวขึ้น กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์และท่านอ.อุบลมากค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 11:48:52


ความคิดเห็นที่ 194 (1640623)

ในฐานนะที่

ท่านเคยไปงานศพ

และ

ได้รับของแจกในงานมาแล้ว

ช่วยมาเล่ากันหน่อยว่า

ท่านสนใจ

ของแจกนั้นขนาดไหน

อ่านกันไหม

"""""""""""""""""""""""""""""

จากที่เคยได้ไปร่วมงานศพ ได้รับของแจกในการศพ ขอบอกเลยค่ะว่า บางครั้งพอขึ้นไปเผาศพแล้วก็จะเดินเรี่ยงๆ ไม่ขอรับของชำร่วย เพราะไม่อยากได้ คือเห็นของที่เขาแจกแล้วก็ไม่รู้จะเอาไปใช้อะไร เอาไปก็ทิ้ง หรือไม่ก็เก็บเข้าตู้ ดองไว้อยู่อย่างนั้น ถ้าเป็นหนังสือ บางทีก็อ่านบ้างแต่ก็จะอ่านแบบผ่านๆ เพราะบางครั้งก็จะเป็นคาถาต่างๆ อ่านแล้วก็จำไม่ได้อยู่ดี อ่านได้ไม่กี่หน้า ก็ไม่อ่านแล้ว รู้สึกว่าน่าเบื่อ ไม่สนุก ไม่ตื่นเต้น อ่านแล้วก็ลืมค่ะ

และ

ของแจกงานคุณตา

ท่านเห็นกิริยาผู้รับเป็นอย่างไร

กันบ้าง

 

รวมทั้งท่านที่เดินแจก

มีการตอบรับอย่างไรบ้าง

ช่วยมาเล่าที

..............................

พอดีว่าพจน์ได้เดินไปแจกน้ำดื่มกับพี่อัญ แล้วพี่อัญก็ได้ถือธรรมทานที่ทำมาแจกใส่ถุงไปด้วย แจกน้ำไป คนที่เขาพึ่งมาใหม่เห็นเข้าก็เอ่ยปากขอก่อนเลย บอกว่าอยากได้บ้าง พึ่งมา ยังไม่ได้เลย บางคนก็เดินเข้ามาหาเพื่อมาขอธรรมทานและซีดีที่แจก และก็มีบางคนเห็นสร้อย+จี้ที่เราสวมอยู่ก็ถามว่าเราห้อยอะไรกัน อยากรู้ สนใจ เพราะคงจะเห็นพวกเราลูกบ้านสวนฯห้อยกันเต็มไปหมด และเวลาที่เดินไปแจกน้ำก็จะเห็นแขกที่มาร่วมงานนั่งอ่านธรรมทานกันเป็นแถวเลยค่ะ และมีบางท่านมาทีหลัง มาจอดรถตรงใกล้ๆกับโต๊ะที่แจกธรมทาน มากัน 4 ท่าน พอลงมาคงมองเห็นว่าคนอื่นเขาถืออะไรกัน อ่านอะไรกัน พอหันมาเห็นที่โต๊ะธรรมทานของบ้านสวนฯก็ตรงดิ่งเข้ามาที่โต๊ะเพื่อมาขอของแจกก่อนเลยค่ะ อย่าว่าแต่แขกเลยค่ะที่อยากได้ ลูกๆบ้านสวนฯเองก็ขอกันไปคนละชุด รวมทั้งตัวพจน์เองก็ด้วยค่ะ อิอิ

ผู้แสดงความคิดเห็น พรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 16:57:39


ความคิดเห็นที่ 195 (1640660)

 ในฐานะที่

ท่านเคยไปงานศพ

และ

ได้รับของแจกในงานมาแล้ว

ช่วยมาเล่ากันหน่อยว่า

ท่านสนใจ

ของแจกนั้นขนาดไหน

อ่านกันไหม

------------------

จากการที่เจี๊ยบเคยไปงานศพมาบ้างก็จะได้รับแจกยาดม ยาหม่อง พระเครื่อง หนังสือฯ ถ้าเป็นสิ่งของอื่นที่ไม่ใช่หนังสือ เจี๊ยบรับมาแล้วก็จะมากองไว้ที่บ้าน ไม่ได้ใช้สั๊กที เพราะมีแล้ว เช่น ยาหม่องก็มีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้อันใหม่ พระเครื่องได้มาก็เอามาเก็บไม่ได้สนใจจะใส่คอ ส่วนหนังสือถ้าเป็นคาถา ก็จะไม่อ่าน เพราะจะคล้ายๆเหมือนกับเล่มที่เคยอ่านมาแล้ว แต่ถ้าไม่ใช่คาถาก็จะอ่านผ่านๆค่ะ

 

ของแจกงานคุณตา

ท่านเห็นกิริยาผู้รับเป็นอย่างไร

กันบ้าง

 

รวมทั้งท่านที่เดินแจก

มีการตอบรับอย่างไรบ้าง

ช่วยมาเล่าที

--------------------------------------------

เจี๊ยบมาช่วยเดินแจกหนังสือธรรมทานตอนหลังแล้ว ก็จะเิดินถามเขาว่า ใครยังไม่ได้รับหนังสือธรรมทานบ้างค่ะ ผู้รับก็ยิ้มให้บอกว่าได้แล้วหรือยังไม่ได้รับ เจี๊ยบก็จะยื่นให้เขา ก็จะได้รับคำขอบคุณมา มีอยู่คนนึงที่ถามเจี๊ยบว่าใส่พระอะไร ทำไมเยอะจัง เจี๊ยบบอกว่า ไว้บำบัดโรค เป็นอะไรบ้างไหมจะรักษาให้ เขาบอกปวดเข่า 2 ข้าง เลยบอกให้เขานั่ง จะได้รักษาให้ เขาบอกอายอะ คนเยอะ เจี๊ยบบอกไม่ต้องอาย เพราะคนที่จะรักษายังไม่อายเลย คนป่วยจะอายทำไม เขาก็เลยนั่งบำบัดตรงนั้น ให้เขามองจี้ ใช้เวลา 2 นาทีก็หาย 100% ค่ะ

ส่วนอีกคน เจี๊ยบก็ถามว่าได้รับหนังสือธรรมทานหรือยังค่ะ เขาสะบัดหน้าพรืด แล้วบอก "ไม่เอา เกลียด " เจี๊ยบเลยบอก เหรอค่ะ แต่ดิฉันให้ด้วยความรัก ความศรัทธาคุณตาค่ะ ว่าแล้วก็เดินไป ปล่อยให้เขา งงอยู่ตรงนั้นแหละ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 20:34:47


ความคิดเห็นที่ 196 (1640662)

 

ในฐานนะที่

ท่านเคยไปงานศพ

และ

ได้รับของแจกในงานมาแล้ว

ช่วยมาเล่ากันหน่อยว่า

ท่านสนใจ

ของแจกนั้นขนาดไหน

อ่านกันไหม

***********************

อ้อยเป็นคนหนึ่งที่ช่วงหลัง

จะไม่เอาของชำร่วยงานศพ  งานแต่งกลับเลย

เพราะว่าเอาไปใช้ประโยชน์ไม่ได้

เอาไปแล้ว 

ต้องเก็บอย่างเดียว

จะทิ้งก็ไม่ได้กลัวเจ้าภาพเสียใจ 

จะเก็บก็รกบ้าน

โดยเฉพาะที่เป็นหนังสือ

มักจะลงประวัติคนตาย 

พร้อมคำสรรเสริญเยินยอ

ตามด้วยธรรมทานพวกบทสวดมนต์ 

 อานิสงส์บุญต่างๆ

ซึ่งอ่านมา

ตั้งแต่เกิด 

รูปแบบเดิมๆ  ดูน่าเบื่อ

กลับบ้านก็เอาไปเก็บแอบๆไว้ซักที่

แต่ธรรมทานงานคุณตา

เป็นการเล่าเรื่องความชั่วของพวกเรา

ซึ่งพวกเราได้ผ่านการขัดเกลา

การเขียนธรรมทานมาระยะหนึ่งแล้ว

  จนส่วนใหญ่สามารถเขียนออกมาจากใจ

  เป็นเรื่องเล่า 

เป็นตัวหนังสือที่มีชีวิต 

อ่านแล้วสนุก

และมีสาระ

ขนาดอ้อยเข้าไปอ่านเรื่องของ

แต่ละคนยังรู้สึกน่าติดตาม

วางไม่ลงทีเดียว

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล 

ที่ได้สั่งสอน

ขัดเกลาพวกเรา

จนเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว

จากนี้ไปขอทำทุกอย่างที่อาจารย์บอกให้ทำค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 20:52:18


ความคิดเห็นที่ 197 (1640671)

เมื่อครู่นี้พึ่งไปส่ง

พ.ต.อ.(พิเศษ)พฤฒิพงษ์ พุทธชาติ

รองผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดน

ซึ่งท่านมากับ อ.ปัทมา

และน้องกระต่าย

 

ท่านมาแสดงความ

"เสียใจ"

ที่คุณตาเสีย และ ท่านไม่ทราบ

แต่

ท่านบอกว่า รู้สึกว่า อ.อุบล

ต้องมีอะไรเพราะคิดถึงมากผิดปกติ

แต่ท่านไป ตจว.

พอมาเปิดเวปดูก็รู้ข่าวคุณตา

จึงมาเยี่ยมในวันนี้

 

หลายคนคงจำท่านได้

ท่านรดน้ำดำหัวคุณตาเป็นคนแรก

และ

อ.ปัทมา จะชอบคุณตามาก

 

พอท่านเห็น

ของที่ระลึก ท่านรีบขอเลย

ซึ่งหนังสือเล่มที่ปกมีรูป อ.อุบล

มีอยู่ที่บ้านแค่เล่มเดียว

ท่านขอไป

 

ระหว่างนั้น

หยิบให้ท่านดูทั้ง 4 ชิ้น

พอท่านเห็นอันที่มีรูปคุณตาหน้าปก

กับ ดีวีดี อีก 2 แผ่น

แผ่นหนึ่งมีรูปท่านด้วย ท่านยิ้มเลย

ท่านบอกงั้นขอหมดเลยนะ

 

แล้วระหว่างนั่งคุยกัน

ท่านก็เปิดเล่มที่มีรูป อ.อุบล ดู

พออ่านได้หน่อย

ท่านบอกว่า โอ้โห อ่านแล้ว

วางไม่ลงเลย

 

แล้วท่านก็บอกเรื่อง

อยากนำพระวัดหนึ่งมาที่นี่ 30 รูป

หรือไม่ก็เชิญ อ.อุบล ไปที่วัด

เพราะพระมีปัญหากัน

ไม่ยอมดูแลวัด

ฉันข้าวเสร็จก็ไม่ทำอะไร

 

คนล้าง คนเก็บ คนกวาดวัดไม่มี

ทั้งที่พระมีตั้ง 30 รูป

มีรองเจ้าอาวาสทำอยู่คนเดียว

 

ส่วนเจ้าอาวาส

เริ่มท้อแล้ว เป็นท่านเจ้าคุณด้วย

น้ำตาไหลแล้ว พูดกับ อ.ปัทมา และ

ท่านนายก ว่าท้อแล้ว

 

ทั้งสองท่าน

เลยนึกถึง อ.อุบล

 

พอเดินเข้าไปชมโรงทาน

เห็นธรรมทานพวกเราเยอะแยะ

ท่านนายกจึงบอกว่า

โอ้ ดีเลย เอานี่แหละไปแจกก่อน

ให้อ่าน เผื่อจะได้ตื่นกันบ้าง

 

อ.ปัทมาบอก

ต้องมีพระที่ตื่นบ้างหละ

 

วันนี้

ทำให้คิดถึง

องค์พระปฐมบรมธรรมบิดา

ว่าทำไม ท่านเลือก อ.อุบล

ไม่เลือกพระกอบกู้ 3 ร่มโพธิ์ศรี

 

เริ่มจะเข้าใจบ้างแล้ว

แต่

พวกเราล่ะ

พร้อมหรือยังจ๊ะ

"งานเข้าแล้วนะ พระมาอีกแล้ว"

ลูกสาวแสนสวย

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 21:22:49


ความคิดเห็นที่ 198 (1640690)

กราบอนุโมทนาบุญกับธรรมทานทุกๆท่าน

น้อยขออนุโมทนาบุญกับท่านอ.อุบลทุกๆบุญค่ะ

กลับถึงบ้านได้หยิบธรรมทานของแต่ละท่าน

ขึ้นมาอ่านอ่านแล้ว โอโห้ทุกคนยอมเผยความชั่ว

ของตัวเองจริงๆ โดยเฉพาะได้อ่านของพี่อ้อย

อ่านแล้วโดนตัวเองเล้ย อนุโมทนากับธรรมทาน

พี่อ้อยค่ะเขียนแบบปลดล๊อกตัวเองจริงๆ

สาธุ สาธุ สาธุุ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 22:26:10


ความคิดเห็นที่ 199 (1640700)

(โดยคุณพิชัย  ภูกิ่งพลอย)

จากที่ผมได้ทำ Work shop ในวันเสาร์ อาทิตย์ ได้ไปช่วยงาน

ศพคุณตาสำเภาพอกลับถึงบ้านงานก็เริ่มมีสภาพคล่อง

อย่างวันอังคารที่ 13 พ.ย 55 ได้ใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วย

ก็มีคนสั่งของถ้าคิดเป็นมูลค่าวันเดียวคิดเป็นเงินถึง

30,000 บาท และเดี๋ยวนี้ถ้าเจอคนก็จะใช้จี้ช่วยคนทันที

และก็ช่วยได้ทุกรายถ้าจิตเขาเปิดและเรื่องที่ทำให้

ผมมีความสุขคงจะเป็นเรื่องของแม่ที่มีดวงตาเห็นธรรม

มากขึ้นเพราะ

ครั้งหนึ่งผมเคยพูดกับอ.อุบลว่ที่ผมอยากมาทำบุญ

บ้านสวนพีระมิดก็เพราะอยากจะช่วยแม่ก็ช่วยได้จริงๆ

โดยตัวเราเองต้องช่วยตัวเราเองก่อน

และผมก็อุทิศบุญให้เทวดารักษาแม่ของผม

เพราะถ้าท่านเทวดาท่านแข็งแรงมีกำลังบุญมากพอแล้ว

ท่านเทวดาก็คงไปช่วยแม่ได้จริงๆ

และแล้วปรากฎว่า

ท่านเทวดาก็ได้ไปเข้าฝันของแม่ผมพร้อมแสดงธรรม

ต่างๆให้แม่ผมฟังในความฝัน

โดยทำให้แม่ได้เกิดปัญญาคิดได้เองโดยที่ผมไม่ได้พูด

หรือสอนท่านเลยผมจึงไม่บาป

เพราะเหตุเกิดจากผมได้ทำบุญที่บ้านสวนพีระมิด

ซึ่งเป็นแดนบุญที่มหาศาลยิ่งใหญ่

อานิสงส์ของบุญกลับมาช่วยแม่ได้

ถ้าแม่ของใครมีสภาพเหมือนแม่ของผมที่พูดธรรมะไม่ได้

เป็นคนโกรธง่าย โมโหง่าย ก็ลองใช้วิธีการแบบผมดูนะครับ

โดยไม่สงวนสิทธิ์

กราบขอบพระคุณท่านอ.อุบล สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด

ในบ้านสวนพีระมิด

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 22:41:54


ความคิดเห็นที่ 200 (1640719)

 ในฐานนะที่

ท่านเคยไปงานศพ

และ

ได้รับของแจกในงานมาแล้ว

ช่วยมาเล่ากันหน่อยว่า

ท่านสนใจ

ของแจกนั้นขนาดไหน

+++++++++++++++++++

ขอตอบตามตรงว่า

ไม่สนใจเลยครับ

เขาให้ก็รับมา แล้วก็เก็บเอาไว้ที่บ้าน

บางอย่างตอนนี้ก็ยังไม่ได้แกะออกจากห่อเลยครับ

ของแจกงานคุณตา

ท่านเห็นกิริยาผู้รับเป็นอย่างไร

กันบ้าง

++++++++

เบสเห็นว่าทุกคนดูอยากได้

และเมื่อรับไปก็รักษาอย่างดี และดูกระตือรือร้นผิดปกติครับ

เพราะปกติแล้วเราได้มาก็จะรับ และวางไว้ที่บ้าน 

ยิ่งเป็นหนังสือด้วยแล้ว เปิดๆแล้วก็วางครับ

แต่ของแจกงานของคุณตานี้

มีคนสนใจอ่านมากมาย

อีกทั้งยังไม่มีตกหล่น หลงเหลือ 

ไม่มีคนลืมไว้เลยครับ

เพราะตอนงานเสร็จ

เบสได้ช่วยพี่ๆบ้านสวนเก็บแก้วน้ำ ขยะต่างๆ และเก็บเก้าอี้

ปรากฎว่าไม่มีใครลืมของแจกคุณตาเลย

อีกทั้งยังเห็นนั่งอ่านกันเยอะอีกด้วย

เรียกได้ว่า เป็นปรากฎการณ์ใหม่จริงๆครับ 

 

 


ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 23:27:39



<< ก่อนหน้า 1 [2] 3 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.