ReadyPlanet.com


ขอเชิญร่วมบุญด่วน บุญธรรมทานใหญ่ :กราบท่านอาจารย์อุบลหรือรูปถ่ายท่านอาจารย์อุบล แล้วชีวิตดียังไง


ของดีๆแบบนี้ อย่าเก็บไว้คนเดียวครับ ขอเชิญพี่น้องทุกท่านร่วมสร้างบุญธรรมทานใหญ่ ที่ปลดเปลื้องทุกปัญหาในชีวิตของท่าน ไม่ว่าปัญหาหน้าที่การงาน เจ็บป่วย ครอบครัว ความรัก ฯลฯ

ในหัวข้อเรื่อง

"กราบ

ท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือ

รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด 

แล้วชีวิตดียังไง"

อันนี้เป็นประสบการณ์ตรงของผมเลยครับ เพราะผมกราบรูปท่านอาจารย์อุบลแล้ว อุปสรรคในการงานก็ราบรื่น เวลามีปัญหาจู่ๆก็มีคนมาช่วยแก้ปัญหาอย่างไม่น่าเชื่อ และอื่นๆอีกมากมาย ก็อยากให้ทุกท่านได้รับอานิสงค์ผลบุญจากธรรมทานใหญ่นี้เพื่อเตรียมเสบียงบุญสู่ยุคศิวิไลซ์กันเด้อพี่น้อง

ท่านใดที่เคยกราบรูปท่านอาจารย์อุบลไม่ว่าที่บ้าน ที่ทำงาน หรืออื่นๆ แล้วท่านได้อานิสงค์อย่างไร เช่น หายป่วยทันที หรือมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีในชีวิตอย่างไร

หรือบางท่านอาจเคยเห็น รับรู้ ได้ยินว่าบุคคลที่เรารู้จักได้กราบรูปท่านอาจารย์แล้วได้ผลอย่างไร ก็ขอเรียนเชิญทุกท่านเขียนธรรมทานได้อย่างเต็มที่เลยครับ

เพราะของดีๆแบบนี้ เราต้องเผยแพร่ด้วยความภาคภูมิใจครับ เพราะทำให้ตนเองและคนอื่นพ้นทุกข์อย่างฉับพลันทันที เราอย่างกเก็บไว้คนเดียวเลยนะครับ เรามาช่วยกันสร้างความสุขแก่คนอื่นกันเน้ออ

ใครอยากสร้างบุญใหญ่ก็รีบเข้ามาเขียนเลยเน้อ จะรีบรวบรวมแล้วทำเป็นเล่มแจกเป็นธรรมทานทันทีเลย พวกมัวแต่ชักช้า ลีลาเยอะ ก็พ้นทุกข์ช้าเด้อพี่น้อง สิบอกให้...

เช่นกันนะครับ ก่อนเขียนขอให้ทุกท่านแนะนำตัวเอง พร้อมการศึกษา จบสาขาอะไร ที่ไหน ระดับไหน เช่น ปริญญาเอก สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยดงโดก เป็นต้น

พร้อมทั้งระบุ ตำแหน่ง หน้าที่การงาน ชื่อองค์กรของท่าน และจังหวัดที่ท่านอยู่อาศัยให้ชัดเจนนะครับ

ท่านใดเขียนไม่ชัดเจน ก็ขออนุญาติไม่พิจารณานำมารวมเล่มให้นะครับ คนยุคใหม่ ทำความดี ต้องกล้า และจริงใจ...

ขออนุโมทนาบุญล่วงหน้ากับทุกๆท่านด้วยครับ สาธุ



ผู้ตั้งกระทู้ ธนา อรุณภิญโญพล กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2012-11-13 00:54:54


[1] 2 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 1 (1640018)

 ชื่อ - น.ส.ภวยา  เส็งพานิช

ชื่อเล่น - นกกระเต็น

การศึกษา - จบปริญญาตรี  คณะสังคมศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

หน้าที่การงาน ตำแหน่งหัวหน้าส่วนสนับสนุนสินเชื่อแฟลตและสินเชื่อพัฒนาโครงการ  ฝ่ายสนับสนุนสินเชื่อ ธนาคารอาคารสงเคราะห์

จังหวัดที่พักอาศัย - กรุงเทพมหานคร

 ...........................................

 ในหัวข้อเรื่อง

"กราบ

ท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือ

รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด 

แล้วชีวิตดียังไง"

  ........................................

1.ลูกได้กราบท่านอาจารย์อุบลทุกครั้ง เมื่อไปบ้านสวนพีระมิด

 

 อานิสงค์ที่ได้รับ

- ประการแรก คือทุกครั้งที่ก้มลงกราบท่านอาจารย์อุบล รู้สึกเหมือนเราได้กราบพ่อแม่เพราะรู้สึกตื้นตันใจ รู้สึกว่าเราได้แสดงความกตัญญูต่อท่าน ที่รู้สึกพิเศษยิ่งกว่านั้นคือเรากำลังก้มกราบอริยะบุคคลที่เคารพรักและบูชาสุดประมาณ ท่านเป็นทั้งครูอาจารย์ เป็นทั้งผู้ประเสริฐเปี่ยมล้นด้วยบารมี ความดีที่บริสุทธิ์และความเมตตาที่ยิ่งใหญ่ (ลูกพูดจากความรู้สึกจากใจจริงๆ ความรักความเคารพเป็นเช่นนั้นจริงๆ) ดังนั้นทุกครั้งที่ได้ก้มกราบท่านอาจารย์อุบล ลูกรู้สึกได้ทันทีว่าจิตเปิดรับความเป็นสิริมงคลทุกประการเข้ามาสู่ชีวิต

 - ประการที่ 2 คือการได้พบท่านอาจารย์ และได้กราบท่านทุกครั้ง สิ่งที่เปลี่ยนแปลงในชีวิตคือ รู้ว่าตัวเองได้พบความสุขความสงบขึ้นเรื่อยๆ  ทั้งหน้าที่การงานและการเงินก็ราบรื่นขึ้น มีสติมีสมาธิจัดการและแก้ไขปัญหาอุปสรรคทุกเรื่อง

 

2.ลูกได้กราบรูปท่านอาจารย์อุบลทุกวัน เพราะตั้งรูปท่านไว้ที่โต๊ะหมู่บูชาพระ และโต๊ะทำงาน ตลอดจนในรถยนต์ 

อานิสงค์ที่ได้รับ

- ประการแรก คือ เกิดความรู้สึกอบอุ่นใจ มั่นใจ ทุกครั้งที่มองรูปท่านอาจารย์ จิตสั่งการทันทีให้ระลึกถึงคำสอนและธรรมทานของท่าน จงทำความดี เต็มที่เต็มกำลัง ทำบ่อยๆ ทำตลอดเวลา และทำต่อเนื่อง ... จิตกำกับดังก้องว่าต้องไม่ทำความชั่วไม่ทำบาปตามที่เคยประกาศที่บ้านสวนและเคยสัญญากับท่านอาจารย์ .. นี่ถือเป็นเครื่องกำกับใจให้ยึดมั่นทำความดี เคารพและเชื่อฟังคำสอนของพระพุึทธองค์และท่านอาจารย์ ... ทำให้ลูกไม่กล้าทำชั่วทำบาปอีกเลยตลอดชีิวิต

- ประการที่ 2 คือ ขับไปไหนมาไหน แคล้วคลาดจากอุบัติเหตุเสมอ และไม่เคยต้องพบเจอสิ่งเลวร้ายบนท้องถนนอีกเลย

 - ประการที่ 3  คือ หน้าที่การงานราบรื่น ปัีญหาอุปสรรคในการทำงานค่อยๆ ลดน้อยลง หรือหากต้องประสบบ้างก็สามารถแก้ไขปัญหาและจัดการได้สำเร็จโดยง่าย ไม่เหนื่อยหนักใจเหมือนแต่ก่อน เพื่อนร่วมงาน ผู้บังคับบัญชา และลูกน้องก็ให้ความร่วมมือในการทำงาน  ผู้บังคับบัญชาให้ความเมตตามากขึ้น ลูกน้องก็ไม่ดื้อดึงอีกแล้ว

 

 ขออนุญาตเพิ่มอีก 1 ข้อ ค่ะ - การพกรูปท่านอาจารย์อุบลติดตัวเสมอ ทั้งในกระเป๋าทำงาน กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ

อานิสงค์ที่ได้รับ

- ประการที่ 1 คือ เคยทำกระเป๋าสตางค์หล่นหาย 2 ครั้ง (ครั้งแรกทำหล่นที่เก้าอี้สนามหน้าอาคารที่ทำงาน ซึ่งมีลูกค้าและพนักงานเดินผ่านไปมามากมายตลอดทั้งวัน  และครั้งที่ 2 ทำหล่นที่พื้นถนนสุขุมวิท 71 ขณะกำลังก้าวลงจากรถยนต์) แต่มีผู้นำกระเป๋าสตางค์มาส่งคืนทุกครั้ง ... มหัศจรรย์เหลือเกิน!

- ประการที่ 2 คือ การไปสำรวจกิจการอพาร์ทเม้นต์ของลูกค้า บางสถานที่ก็ดูไม่ปลอดภัย เช่น รกร้าง / มีคนบุกรุกอยู่อาศัย/มีสุนัขดุคอยขวางไม่ให้เข้าในอาคาร /มีผู้ดูแลกิจการที่ไม่เป็นมิตร ไม่ให้ความร่วมมือในการเข้าำสำรวจภายในกิจการ อุปสรรคเหล่านี้ ลูกสามารถฝ่าฟันปัญหาต่างๆ จนสำเร็จ อานุภาพแห่งรหัส อ.อุึบล ช่วยด้วย และรูปท่านอาจารย์ที่พกติดตัวไว้เสมอ

เช่น - โชว์รูปท่านอาจารย์ยื่นไปข้างหน้าปุ๊บ สุนัขมองๆ แล้วก็เดินหลบไป ไม่เห่า ไม่แง่งๆ ใส่เหมือนตอนแรก

       - เวลาเจอสถานการณ์คับขัน หรือสถานที่รกร้าง ดูแล้วไม่ปลอดภัย หรือเจอผู้เร่ร่อนที่พักอาศัยในอาคารร้าง  มือจะจับรูปท่าน อ.อุบล ที่พกติดกับกระเป๋าทำงาน  ขณะนั้นลูกจะเกิดความกล้า รู้สึกว่าตนเองเข้มแข็ง กล้าเผชิญกับทุกสิ่งทุกปัญหาที่อยู่ตรงหน้า พร้อมที่จะเข้าไปเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงภายในอาคาร พร้อมที่จะพูดคุยกับทุกคนเืพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องเป็นความจริง เพื่อกลับมาทำรายงานเสนอผู้บังคับบัญชา

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 08:11:30


ความคิดเห็นที่ 2 (1640031)

อนุโมทนากับพ่อใหญ่ธนา ด้วยนะคะ ช่วงนี้ลูกบ้านสวนฯต้องสร้างบุญบารมีกันอย่างเข้มข้นและแข่งกับเวลาจริงๆ

 

และยิ่งได้รับฟีดแบคการตอบรับที่ดี จนมีแฟนคลับมาขอรับ"ธรรมทานชุดรวมเล่ม"ที่เข้าข่ายเรทติ้งกระฉูดให้เห็นกันจะๆ ในงานพระราชทานเพลิงศพคุณตาสำเภา แล้ว ยิ่งทำให้รู้ว่า พวกเรามาถูกทางและสามารถสร้างโลกใบใหม่ให้คนหันมาสนใจและเข้าใจใน"ธรรม" ยิ่งๆขึ้น ได้แน่ๆ สาธุ 

(จะพยายามให้ได้ความยาวหนึ่งหน้านะค๊า แบบว่า แต่ละครั้งที่เขียน ก็เขียนไปตามความรู้สึกที่สะท้อนขึ้นมาในจิตอ่ะ ก็พยายามถ่ายทอดไปตามสิ่งที่รู้สึกในขณะที่เขียนจริงๆ ก็เลยแบบว่า บางที ก็ควบคุม ความยาวได้ยากจ๊า)

...............................................

 

ชื่อ นางสาว ชนิดา เชิงสะอาด  ชื่อเล่น โหน่ง อายุ 40 ปี

จบการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาศิลปศาสตร์ ด้านการผลิตสารคดี จาก Middlesex University ลอนดอน ประเทศอังกฤษ

อาชีพ ธุรกิจส่วนตัว(ร้านขายยา Apteka Nova)

อาศัยอยู่ที่เมือง โตรุน ประเทศ โปแลนด์

 

 

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะคะว่า สำหรับชนิดาแล้วท่านอาจารย์อุบล ก็เปรียบเสมือนผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ในชีวิตท่านหนึ่ง เพราะเป็นครูบาอาจารย์ ท่านแรก ที่ทำให้ชนิดาเข้าใจเรื่องการทำบุญทุกระดับได้อย่างถูกต้องและละเอียดยิ่งขึ้น และท่านเองก็ทำตัวเป็นต้นแบบที่ดี ให้พวกเราได้เห็นและเป็นแรงผลักดันชั้นดี ที่ส่งผลให้พวกเราทุกคน มุ่งมั่น และตั้งใจที่จะปฏิบัติตามกันอย่างเคร่งครัดที่สุด เท่าที่จะทำได้

 

ฉะนั้น การกราบท่านอาจารย์ทุกครั้ง จึงรู้สึกไม่แตกต่างกับการกราบพระอริยสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เลยแม้แต่น้อย  

 

ในครั้งที่ได้กลับไปเยี่ยมเมืองไทย และมีโอกาสได้ไปสร้างบุญที่บ้านสวนฯ 11วัน ตั้งแต่วันแรกที่ไปถึงบ้านสวนฯ ก็มีโอกาสได้กราบท่านอาจารย์เป็นครั้งแรก มันเป็นความรู้สึกที่ปลาบปลื้มและสุขใจเป็นอย่างยิ่ง เหมือนการกราบนั้น ได้เสริมความมงคลให้กับชีวิตตัวเองเลยค่ะ (เหมือนรถที่ถูกเจิม เลย)หลังจากนั้นก็กราบอีกเรื่อยๆ ที่สบโอกาส ก็เหมือนได้รับพลังบุญ เสริมความมงคลในทุกครั้งที่กราบเลย

 

ถึงแม้จะไม่มีประสบการณ์กราบแล้วหายทุกโรค เหมือนบางท่าน แต่ทุกครั้งที่กราบท่านอาจารย์แล้ว มันเหมือนทำให้ความทุกข์กายทุกข์ใจที่มี กระเด็นหลุดออกจากกาย จากใจไปเลยในช่วงเวลานั้น  คงเหลือแต่ความซาบซึ้งใจ และรู้สึกสำนึกในบุญคุณของท่านทุกๆครั้งที่กราบ

เพราะคำสั่งและคำสอนที่อาจารย์เมตตาถ่ายทอดมาโดยตลอดนั้น คือ"ปัญญา" อันล้ำค่าที่สุดในชีวิต ที่ทำให้เรา รู้หนทางที่จะสู้กับกิเลส และเอาชนะปัญหา และอุปสรรคต่างๆในชีวิตได้ โดยไม่ปล่อยให้ตัวเองจมกับความทุกข์และปัญหาอีกต่อไป

 

ตอนนี้ถึงแม้จะอยู่ไกลท่านอาจารย์ ไกลบ้านสวนฯ แต่ก็ไม่เป็นปัญหาค่ะ เพราะแค่เพียงนึกถึงท่าน หรือกราบรูปท่านอาจารย์ทุกๆครั้ง ก็ยังรู้สึกสุข สงบ และเหมือนมีพลังอันศักดิ์สิทธิ์มาคุ้มครองตัวเองอยู่ตลอดเวลา  และคิดว่าทุกๆสิ่งทุกๆอย่างดีๆในชีวิตที่ได้รับมาโดยตลอดนั้น เป็นอานิสงค์หลักที่ได้จากการเคารพ และรักท่านอาจารย์ด้วยใจจริง...และกราบด้วยความจริงใจทุกครั้ง นั่นเอง

 

ชนิดารับรองได้ว่า ถ้าทุกท่านทำได้เช่นนี้ ชีวิตที่เหลืออยู่ของท่านจะพบกับทางสว่าง ธุรกิจการงานจะเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น การเงินก็คล่องตัว ไม่มีหนี้สิน และชีวิตจะมีความสุขยิ่งขึ้น แน่นอน

 

เพราะชนิดาได้รับมาแล้วด้วยตัวเองในทุกๆเรื่อง โดยเฉพาะธุรกิจนั้นเห็นได้ชัดที่สุด ทั้งๆที่หลายคนประเมินไว้แล้วว่า ปีนี้ต้องแย่แน่ๆ เพราะกฏหมายเปลี่ยนไป(รัฐบาลจ่ายค่ายาให้ถูกลงมาก) แถมธุรกิจขนาดยักษ์ใหญ่ก็ลด แลก แจก แถม แข่งขันกันสูง เพื่อแย่งลูกค้ากันสุดฤทธิ์ แต่ธุรกิจขนาดครอบครัวอย่างเรา ที่ขายยาในราคาค่อนข้างสูง ก็ยังมีลูกค้ามาอุดหนุนเท่าๆเดิม และยอดขายโดยรวมก็ไม่ตกลงเลย หรือ บางเดือนก็ดีกว่าเดิมซะด้วยซ้ำ

 

ฉะนั้น กราบท่านแล้ว ก็ต้องน้อมนำคำสอนของท่านไปปฏิบัติด้วยนะคะ จึงจะเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม ชัวร์ๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 09:15:58


ความคิดเห็นที่ 3 (1640033)

ชื่อ - น.ส.ภวยา  เส็งพานิช

การศึกษา - จบปริญญาตรี  คณะสังคมศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

หน้าที่การงาน ตำแหน่งหัวหน้าส่วนสนับสนุนสินเชื่อแฟลตและสินเชื่อพัฒนาโครงการ  ฝ่ายสนับสนุนสินเชื่อ ธนาคารอาคารสงเคราะห์

จังหวัดที่พักอาศัย - กรุงเทพมหานคร

 

 

กราบอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือ

รูปอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด 

แล้วได้อานิสงค์อย่างไร 

 

- ประการที่ 3 คือ หน้าที่การงานราบรื่น ปัีญหาอุปสรรคในการทำงานค่อยๆ ลดน้อยลง หรือหากต้องประสบบ้างก็สามารถแก้ไขปัญหาและจัดการได้สำเร็จโดยง่าย ไม่เหนื่อยหนักใจเหมือนแต่ก่อน เพื่อนร่วมงาน ผู้บังคับบัญชา และลูกน้องก็ให้ความร่วมมือในการทำงาน  ผู้บังคับบัญชาให้ความเมตตามากขึ้น

 

3. ขออนุญาตเพิ่มอีก 1 ข้อ ค่ะ - การพกรูปท่านอาจารย์อุบล   ติดตัวเสมอ ทั้งในกระเป๋าทำงาน กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ

อานิสงค์ที่ได้รับ

- ประการที่ 1 คือ เคยทำกระเป๋าสตางค์หล่นหาย 2 ครั้ง แต่ได้รับกระเป๋าสตางค์คืนทุกครั้ง

- ประการที่ 2 คือ การไปสำรวจกิจการอพาร์ทเม้นต์ของลูกค้า บางสถานที่ก็ดูไม่ปลอดภัย เช่น รกร้าง / มีคนบุกรุกอยู่อาศัย/มีสุนัขดุคอยขวางไม่ให้เข้าในอาคาร /มีผู้ดูแลกิจการที่ไม่เป็นมิตร ไม่ให้ความร่วมมือในการเข้าำสำรวจภายในกิจการ อุปสรรคเหล่านี้ ลูกสามารถฝ่าฟันปัญหาต่างๆ จนสำเร็จ อานุภาพแห่งรหัส อ.อุึบล ช่วยด้วย และรูปท่านอาจารย์ที่พกติดตัวไว้เสมอ

เช่น - โชว์รูปท่านอาจารย์ยืนไปข้างหน้าปุ๊บ สุนัขมองๆ แล้วก็เดินหลบไป ไม่เห่า ไม่แง่งๆ ใส่เหมือนตอนแรก

       - เวลาเจอสถานการณ์คับขัน หรือสถานที่รกร้าง ดูแล้วไม่ปลอดภัย หรือเจอผู้เร่ร่อนที่พักอาศัยในอาคารร้าง  มือจะจับรูปท่าน อ.อุบล ที่พกติดกับกระเป๋าทำงาน  ขณะนั้นลูกจะเกิดความกล้า รู้สึกว่าตนเองเข้มแข็ง กล้าเผชิญกับทุกสิ่งทุกปัญหาที่อยู่ตรงหน้า พร้อมที่จะเข้าไปเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงภายในอาคาร พร้อมที่จะพูดคุยกับทุกคนเืพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องเป็นความจริง เพื่อกลับมาทำรายงานเสนอผู้บังคับบัญชา

ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 09:22:12


ความคิดเห็นที่ 4 (1640035)

" กราบรูปท่านอาจารย์อุบล  บ้านสวนพีระมิด  แล้วชีวิตดีอย่างไง"

ชื่อนางบุญภิบาล  คงเขียว  ( ตุ๊ก ) อายุ  49  ปี 

เกิดที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จบการศึกษาปกศ.สูง เอกการดนตรีสากล   จบปริญญาตรี   เอกการบริหารการศึกษา  มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์  อดีตทำงานองค์การเภสัชกรรม 

ปัจจุปันเป็นแม่บ้าน ทำกล้วยไม้ และปลูกพืชผักสวนครัว   ที่อยู่ปัจจุบันจังหวัดปทุมธานีค่ะ

ฉันเองเป็นคนหนึ่งที่มีรูปท่านอาจารย์อุบล  ติดไว้ประตูบ้าน ห้องนอน  ในรถยนต์   ฉันกราบรูปท่านอาจารย์อุบลอาการผื่นคันก็หายทันทีค่ะ ที่บ้านเวลาฉันเบื่อฉันก็มองรูปท่านอาจารย์อุบลที่ติดไว้ประตูบ้าน  ในรถที่ขับขี่ทุกวันเรียกว่าจะมองตรงไหนก็มีแต่รูปท่านอาจารย์อุบล       เพราะท่านอาจราย์อุบลเป็นต้นแบบที่ดีทุกๆ ด้าน  เช่น  ครอบครัวอบอุ่น  พูดจาไพเราะ  คือ คุณท้อปเรียกอาจารย์อุบลว่า "คุณแม่ " ทุกคำ   ฟังแล้วระรื่นหูผิดกับบ้านของฉันเองพูดจาไม่เพราะเลยค่ะใช้ภาษาพ่อขุนรามยิ่งเวลาโกรธ ภาษาพ่อขุนรามฟังแล้วไม่เพราะ ไม่เป็นมงคลกับชีวิตเราเลยค่ะ เราด่าใคร เขาก็ไม่ได้ยินว่าเราด่า เราคิด กับเขาอย่างไร  ผลกรรมนั้นจึงเข้าตัวเราเอง ฉันจึงนำตัวอย่างที่ดีของครอบครัวท่านอาจารย์อุบลมาเป็นตัวอย่างและฝึกทำตามทุกอย่างค่ะ เพราะปกติคนนครพูดจาขวานผ่าซากจริงจังทั้งสีหน้าและท่าทาง ดูแล้วมันแข็งไป ไม่น่ารัก  พอได้ฟังเสียงเสียงท่านอาจารย์อุบลพูดเพราะอยู่ใกล้แล้วอบอุ่น  ยิ่งกราบท่านอาจารย์อุบลโรคก็หาย แล้วถ้าได้อยู่กล้ๆจะมีความสุข  ยิ่งท่านอาจารย์ อุบลสอนธรรมะแบบ  ถูกต้อง    ตรง   ชัดเจน และท่านอาจารย์ได้พูดถึงพระไตรปิฏกแล้วให้ลูกบ้านสวนฯ  อ่านให้ฟัง แล้วอาจารย์อุบลสอนโดยไม่ใช้หนังสือพระไตรปิฏกเลยแต่มันอยู่ในตัวท่านอาจารย์อุบล  เรียกว่าตู้พระไตรปิฏกอยู่ที่ท่านอาจารย์อุบลทั้งนั้น ก่อนเราเปิดดูในทีวีตามเราอยู่ที่บ้านเราก็เรียนรู้พระไตรปิฏกตามไปได้เลยค่ะ ผลเป็นจริงอย่างที่ท่านอาจารย์อุบลสอนค่ะ และสามารถนำไปใช้ได้กับชีวิตประจำวันเห็นผลได้ชัดเจน  คือ   ทำให้ตัวฉันเอง และครอบครัวเปลี่ยนแปลงทุกๆ  ด้าน    สุขภาพดีขึ้น  และบางโรคก็หายฉับพลันทันที โรคไหลย้อน  และอนิสงค์นี้ได้กับครอบครัวฉันด้วยค่ะแค่อธิฐานให้อาจารย์อุบล ช่วยด้วยให้สามีได้ย้ายที่ทำงานมาอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี ส่วนที่ลูกดื้อ ก็ดื้อน้อยลง จากการที่ไม่ค่อยงานบ้าน ตอนนี้ช่วยงานบ้านได้เยอะเลย เช่น รดน้ำต้นไม้ ไปเรียนไปเราไปส่งเช้าเย็นนั่งรถกลับบ้านเองฟังเราสอนมากขึ้นปกติเราจะพูดหนึ่งคำลูกพูด 2 - 3  คำ หรือพูดสวนเราตลอด นี่คือผลที่ฉันเองเปลี่ยนแปลงตัวเอง จากการนำคำสอนของท่านอาจารย์อุบล และครอบครัวท่านอาจารย์อุบลก็เป็นต้นแบบที่ดี  คือไม่พูดมากทำให้ดูเป็นตัวอย่าง  ( การกระทำที่ดีมีค่าดว่าคำสอน ) ถึงแม้นว่าจะมีปัญหาแต่เราก็มีทางแก้ปัญหาได้ โดยหาเหตุที่เกิด เราก็แก้ไขให้ตรงจุด หรือเกาถูกที่คันนั้นเอง ผลก็ดับทันที ปัญหามีทุกวัน แต่ถ้าเอาศีล 5 ไปจับ และ ศีล 5 จึงเป็นวัคซีนคุ้มกันที่ดี ได้ทุกอย่าง คำว่า  " ศีล " แปลว่า  ปกติ   แต่ถ้าเราผิดศีลปัญหาจึงได้เกิดกับเรา  และการคบกับใครก็ตามถ้าเราเอาศีล 5 ไปจับแล้วไม่ใช่ ก็จงเตือนตัวเองได้เลยว่ากำลัง คบคนชั่วมิตร นี่คือคำสอนของท่านอาจารย์อุบลทั้งนั้นความดีของท่านอาจารย์อุบลมีมากเขียนเท่าไรก็ไม่หมด  จึงฝากเป็นบทกลอนที่ว่า

"ความดีไม่มีขาย    อยากได้ต้องทำเอง"

                            อยากได้ดี   ไม่ทำดี   นั้นมีมาก

                           ดีแต่อยาก    หากไม่ทำ    น่าขำหนอ;

                           อยากได้ดี    ต้องทำดี     อย่ารีรอ

                           มัวแต่ขอ   รอแต่ดี        ไม่ดีเลย

ถูกผิดอย่างไรคุณธนาช่วยข้อยแน่ขอบคุณค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 09:35:10


ความคิดเห็นที่ 5 (1640055)

ผมนายธนา(ถัง) อรุณภิญโญพล อายุ38ปี จ.สมุทรปราการ

จบการศึกษา ปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์

สาขา Electronics&Telecommunication มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

ปัจจุบันทำงานเป็น วิศวกร ตำแหน่ง: ผู้จัดการแผนกบริหารคุณภาพประจำประเทศไทย เวียดนาม กัมพูชา บริษัท : Alcatel Lucent (Thailand) บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคม

สำหรับผม ท่านอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ บ้านสวนพีระมิดคือบุคคลที่ให้ชีวิตใหม่แก่ผม ทำให้ผมหายขาเป๋ซึ่งเป็นมากว่า 30 ปี ซึ่งหายได้ภายในไม่ถึง1นาทีเท่านั้น และธรรมะที่ได้รับจากท่าน ล้วนเป็นพระธรรมอันงดงามของพระพุทธเจ้าที่ทำง่าย ทำแล้วเห็นผลทันที พ้นทุกข์ทันที พิสูจน์ได้ทุกอย่าง ของแท้ และผมไม่เคยเห็นใครในโลกนี้ที่รักษาคนพิการอย่างผมได้ในทันทีเช่นนี้

จิตผมเปิดและเคารพท่านอาจารย์อุบลอย่างเต็มที่ ทุกครั้งที่มีปัญหาก็จะใช้รหัสจักรวาล "อาจารย์อุบล ช่วยด้วย" และวัตถุมงคลของบ้านสวนพีระมิด เช่น จี้องค์เทพสฟิงซ์ จี้ฯบารมี3ร่มโพธิ์ศรี พีระมิดจำลอง เป็นต้น

แต่ที่ผ่านมาหลายๆครั้งผมมักได้พบเหตุอัศจรรย์แบบที่อธิบายไม่ได้ เวลามาบ้านสวนพีระมิดผมก็มักจะกราบท่านอาจารย์อุบล เพราะใจเราอยากกราบ แม้ท่านจะไม่ชอบ แต่เราก็อยากจะกราบ ทุกครั้งที่กราบเราจะรู้สึกได้ทันทีว่ามีพลัง สิ่งดีๆบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ไหลเข้ามาสู่ตัวเรา ทำให้เรามีความสุข มั่นใจ

ตัวอย่างล่าสุดเมื่อวันที่10พฤศจิกายน ผมได้รับอุบัติเหตุขาพลิกเจ็บขามาก ซึ่งได้รักษาตนเองและเพื่อนๆก็ได้ช่วยกันอีกแรงจนอาการดีขึ้น แต่พอได้กราบท่านอาจารย์อุบลเพื่อขอบพระคุณเท่านั้นล่ะ อาการต่างๆดีจนเกือบหายเป็นปกติ100%ในทันที น่าอัศจรรย์ใจสุดๆ ขาเหยียบถึงพื้นได้โดยไม่เจ็บเหมือนก่อนหน้านี้ สัมผัสความสุขได้ทันที ซึ่งดูจากอาการที่ขาบวมและเจ็บมากขนาดนี้ ปกติที่เคยเป็นต้องรักษาขาพลิกขาแพลงไม่ต่ำกว่า1-2สัปดาห์อย่างแน่นอน

และที่ยิ่งอัศจรรย์ไปมากกว่านี้ก็คือ เวลาอยู่บ้านผมได้กราบรูปท่านอาจารย์อุบลซึ่งติดอยู่บนฝาผนังในห้องนอน ก็พบว่าปัญญาหนักๆในขณะนั้นถูกคลี่คลายในทันที

ตัวอย่างเช่น ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานี้ผมมีปัญหาการงานซึ่งต้องติดต่อกับผู้บริหารของหน่วยงานรัฐบาล และไม่ได้รับความร่วมมือเลย และเป็นสิ่งที่ยากสุดๆ พอกราบรูปท่านอาจารย์อุบลเท่านั้นล่ะก็รู้สึกขึ้นมาว่าปัญหาต้องมีทางออกแน่นอน

รุ่งเช้าขึ้นจู่ๆก็มีผู้บริหารท่านอื่นๆในบริษัทยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือทันทีโดยที่ผมยังไม่ได้เอ่ยอะไรเลย และในวันนั้นปัญหาทั้งหลายก็คลี่คลายอย่างรวดเร็ว สวดดยอดด

ทุกครั้งที่กราบรูปท่านอาจารย์ก็สัมผัสและรู้สึกได้ถึงพลังงานความรัก ความอบอุ่น ปิติใจ ได้อย่างน่าอัศจรรย์ จนอดคิดไม่ได้ว่า ท่านอาจารย์อุบล เป็นใครกันนะทำไมถึงแค่กราบรูปท่านก็โชคดี พ้นทุกข์ทันที และรู้สึกมีความสุขได้มากขนาดนี้

เอาล่ะ ท่านจะเป็นใครก็ช่าง ผมรู้แต่ว่าแค่กราบรูปท่านก็พ้นทุกข์ ผมก็จะกราบอย่างนี้ไปตลอดล่ะครับ

กราบขอบพระคุณพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระศรีอาริย์ และเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกๆพระองค์ ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว ที่มอบสิ่งสุดวิเศษที่ช่วยคนโง่ บาปหนาอย่างผมให้พ้นทุกข์ มีกาย วาจาใจที่สงบ ยึดมั่นแต่ความดี

ที่สำคัญไปที่ไหนก็เหมือนมีอาจารย์อุบลไปด้วยตลอด เพราะในกระเป๋าสตางค์พกรูปท่านอาจารย์อุบลไปด้วยตลอด แค่กราบก็พ้นทุกข์ทันที ใครจะว่าผมบ้า ผมก็ยอมบ้า เพราะบ้าแล้วรวย มีเงิน หายโรค พ้นทุกข์ทันที สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 11:17:28


ความคิดเห็นที่ 6 (1640061)

 

กราบรูปอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด 

แล้วชีวิตดีขึ้นอย่างไร
ชื่อ นาย พรพุทธ ศรีคุ้ม

จบการศึกษา ปริญญาตรี นิเทศศาสตร์ ม.ศรีปทุม

ปัจจุบัน เปิดกิจการ ค้า อะไหล่เก่ารถยนต์

ผมเป็นคนนึงที่โชคดี ได้รูปท่านอาจารย์ ขนาดใหญ่

มาไว้กราบไหว้ในห้องนอน ตั้งแต่ได้มาก็รู้สึกอบอุ่น

หัวถึงหมอนเป็นหลับ ไม่เคยนอนหลับฝันร้าย

ไม่เคยป่วยไข้ไม่สบายเลย แต่ที่น่าแปลกใจ

คือ ลูกชายผมจะดื้อมากเป็นความสามารถพิเศษ ฮ่าๆๆ

แต่พอได้มาอยู่ในห้องที่มีรูปท่านอาจารย์ อุบล

จะดื้อน้อยลงมาเหมือนคนละคนและเค้ามักจะชอบอยู่

แต่ในห้องนี้ไม่ค่อยออกไปไหนในส่วนต่างๆของบ้าน

และปกติลูกชาย จะมีอาการเป็นหวัดบ่อย แต่พอนำรูปท่านอาจารย์ให้เค้าไหว้ในห้องนอนเป็นประจำ ก็ไม่เคยป่วยเลยครับ

ซึ่งถ้าเทียบกับลูกพี่ลูกน้องกับลูกชายที่เกิดห่าง

กันแค่20วัน เข้าโรงพยาบาล แอดมิดมา5-6ครั้งแล้วครับ

ตั้งแต่เกิด น่าสงสารจริงๆเดวถ้าป่วยอีกครั้งว่าจะเอา

รูปท่านอาจารย์ ให้หลานกราบไหว้สักใบ

ของเค้าดีจริงๆ  ว่ามัยครับ  อิอิ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พรพุทธ ศรีคุ้ม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 11:41:34


ความคิดเห็นที่ 7 (1640065)

กราบรูปท่านอาจารย์อุบลแล้วหายอัมพาต

เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนค่าย13 ได้มีชาวบ้านจากจังหวัดโคราช มาเยี่ยมและร่วมกิจกรรมบุญกับบ้านสวนพีระมิด

คุณยายท่านหนึ่งเป็นอัมพาต ทุกข์ทรมานแสนสาหัส วันนั้นคุณยายได้กราบรูปท่านอาจารย์อุบล แล้วปาฏิหาริย์ที่ทุกคนได้เห็นพร้อมๆกันก็คือ

"ยายหายแล้วค่ะ"

ซึ่งคุณยายได้บอกเองว่าตนเองนั้นเป็นอัมพาต แต่พอแค่กราบรูปท่านอาจารย์อุบล เท่านั้น หายทันที

กรณีหนักๆขนาดนี้ ยังเกิดสิ่งอัศจรรย์จนคนตาค้างได้ขนาดนี้ เจ็บป่วยทั่วๆไปจึงกลายเป็นเรื่องปกติไปเลยเมื่อกราบรูปท่านอาจารย์อุบลแล้วหายทันที สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 12:18:03


ความคิดเห็นที่ 8 (1640067)

 ชื่อ    น.ส.  จิตจุฑา  จิรนิธิ

 การศึกษา  ปริญญาตรี    สาขาหนังสือพิมพ์  มหาวิทยาลัยรังสิต

 หน้าที่การงาน     ผู้จัดการร้านทวีเฟอร์นิเจอร์

 จังหวัดที่อยู่    กรุงเทพมหานคร

                  _________________________________________________

                                         กราบอาจารย์อุบล  บ้านสวนพีระมิด

                                                             หรือ

                                           รูปอาจารย์อุบล   บ้านสวนพีระมิด

                                                  แล้วชีวิตดีขึ้นอย่างไร

       เมื่อสองปีก่อนเผอิญเปิด ทีวีเจอรายการคุยไปแจกไป  นั่งดูไปเรื่อยๆ  ฟังและคิดตามคำ

สอนต่างๆที่ท่าน อ.อุบลได้เมตตาสอนไว้ในทุกเรื่องของกฎแห่งกรรม  ฟังง่ายๆ  เข้าใจง่าย  

และสามารถปฎิบัติตามได้ง่าย  ยิ่งดูยิ่งซาบซึ้ง  ตนเองนับถือ อ.อุบลมาก  ด้วยความที่ศรัทธา

ท่าน  จึงรู้สึกว่าในหลายครั้งจิตจะนึกระลึกถึงท่านเข้ามาในความคิดเสมอ  เหมือนเป็นการย้ำ

เตือนคำสอนไม่ให้ทำบาปทำกรรมเพิ่มอีก

      ในช่วงแรกที่ติดตามเห็นว่าตนเองยังไม่มีโอกาสได้ไปพบท่าน จึงกราบท่าน อ.อุบล หน้า

จอโทรทัศน์   ปรากฏว่า  ในขณะนั้นมีอาการปวดเอว   เมื่อได้กราบปุ๊ป  น่าอัศจรรย์ !   อาการ

ปวดเอวหายเป็นปลิดทิ้งรีบเรียกลูกสาวให้กราบอ.อุบล หน้าจอบ้าง   และหลังจากนั้นความ

ทุกข์ในใจต่างๆ  ไม่ว่่าจะเรื่องญาติ  เรื่องการงานติดขัด เรื่องการเงินก็เริ่มได้รับการคลี่คลาย

 รู้สึกได้ถึงความสุข  จิตสงบขึ้น ให้อภัยทุกคน

        และตนเองกับสามีได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมที่จัดธรรมบำบัดสัญจรที่กรุงเทพฯ  ทั้ง 2

 ครั้งได้กราบท่าน อ.อุบล  ตัวจริงเลย รู้สึกได้เลยว่าตื่นเต้นดีใจ  ปลาบปลื้มมาก  มีความสุข

 เหมือนตัวมันเบาๆ  สบาย โล่ง  ยิ่งท่านอ.อุบลคุยด้วย  ยิ้มให้ถามว่าเป็นใครมาจากไหนเข้า

ร่วมบำบัดแล้วหายไหม ท่านอ.อุบลจำสามีได้  ว่าเคยคิดเตะลูกน้องจึงทำให้ปวดขาตลอด

หลายปี   ได้รับการบำบัดในงานที่จัดที่กรุงเทพฯ แล้วหายทันที  หลังจากนั้นกิจการงาน

ราบรื่น  ลูกค้าที่คุยยากก็ติดต่อมาเอง  งานเดินดี การเงินฏ้ดี   ทั้งๆที่งานก่อนหน้านี้ดูเงียบ

        แล้วครอบครัวเราก็ไดัรับความเมตตาจากท่านอ.อุบล ให้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งที่ 13  

ครั้งนี้เราลงไปกราบท่านอ.อุบล กันอย่างพร้อมเพรียงเกิดความสุขกันถ้วนหน้า  สุขภาพ

แข็งแรง  ขนาดปัญหาของลูกที่โรงเรียนเรื่องเพื่อนก็ได้เพื่อนดี  เข้าใจกันดี ทำให้ลูกมี

ความสุขเมื่อไปโรงเรียน  ผลเกรดออกมาเรียนเก่งขึ้น  ดีใจมากค่ะ 


ผู้แสดงความคิดเห็น จิตจุฑา จิรนิธิ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 12:31:54


ความคิดเห็นที่ 9 (1640069)

 น.ส. ศิริพร โฉมจันทร์ (ตุ้ย) อายุ 34 ปี

จบปริญญาตรี สาขาวิทยาการจัดการ
เอกบริหารธุรกิจ  มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร
ทำงานบริษัท จ๊อบเซิร์ฟ (ประเทศไทย) จำกัด
 ตำแหน่ง พนักงานบริษัท  จ.นนทบุรี
 
------------------
อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์  บ้านสวนพีระมิด
 
 
ตุ้ยเองก็เคยกราบรูปท่าน อ.อุบลค่ะ
และตอนนี้กำลังดำเนินการ
ที่จะนำรูปท่านขยายให้ใหญ่ขึ้นใส่กรอบ
โดยได้แรงบันดาลใจจากพี่เหมี่ยว พี่อมรค่ะ
แล้วแขวนไว้ที่บ้าน เพื่อให้ผู้คนที่ผ่านไปมา ได้เห็นท่าน
 แล้วเขาถาม เข้ามากราบเหมือนเรา
และหายเจ็บหายจนได้เหมือนเรา

ช่วงแรกเลยตุ้ยก็จะปริ๊นรูปคู่ท่าน อ.อุบล
กับท่าน อ.มงคล มาก่อนค่ะ
แล้วก็ไว้ที่หิ้งพระ เวลาเราสวดมนต์
ก็ระลึกถึงท่าน เห็นท่าน
น้อมจิตกราบที่เท้าท่าน มันทำให้มีกำลังใจ
และรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาได้จริงๆค่ะ

แต่เดี๋ยวนี้มีรูปท่าน อ.อุบลยกมือสองมือแล้วยิ้ม
รูปนี้ทำให้เวลาสวดมนต์ ไหว้พระ
ก็จะนึกถึงหน้าท่านได้ง่ายขึ้นอีก  
มีรูปท่านทั้งในกระเป๋าสตางค์ ที่บ้าน หัวเตียง ที่ทำงาน
เวลาจะทำงาน ก็กราบท่าน ขอกำลัง
ขอให้ขายได้ แล้วก็ได้จริงๆ ค่ะ
มีน้อยครั้งที่จะไม่ได้ผลนะคะ  ยิ่งเวลาเราสวดมนต์
จะนึกภาพท่าน อาจารย์ขึ้นมาแบบอัตโนมัตเลยค่ะ
ภาพที่ท่านยิ้มนี่แหล่ะค่ะ มีพลังมาก 

แล้วเวลาเราไปบำบัดใคร เราก็จะเอารูป
ท่านอาจารย์ให้เขาดู
เพราะแค่เขาเห็นอาการเขาก็จะดีขึ้น
ให้เขากราบ ไหว้ อาการที่ยังหลงเหลือก็ดีขึ้น
บางรายก็หาย 100% เลยค่ะ
อีกเรื่องคือเวลาเรามีความทุกข์
อัดอั้นตันใจ เราลอง
 พูดคุยปัญหากับรูปท่าน มองไปที่หน้าท่าน
มันจะเกิดปัญญาแก้ไข
เกิดความรู้สึกมีพลังและกำลังใจขึ้นมาได้จริงๆ
อันนี้ลองพิสูจน์ดูได้นะคะ
ปัญหานั้นจะคลี่คลายค่ะ แล้วตุ้ยก็เชื่อของตุ้ยว่
 
 
สิ่งที่เราพูดท่านรับรู้ได้
ขอเพียงเรามีศรัทธา เคารพรัก
และกตัญญูต่อครูบาอาจารย์ของเรา
ปาฏิหารย์และเรื่องอัศจรรย์ต่างๆ
จะเกิดขึ้นได้อีกมากมายค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 13:12:38


ความคิดเห็นที่ 10 (1640070)

อนัญญา (อัญ) สุขถาวร อายุ 33 ปี จ.ชลบุรี

จบการศึกษา ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง เทคโนโลยีชลบุรี

อาชีพ พนักงานฝ่ายการตลาด

ที่ทำงาน Siam Samsung Life Insurance นครแหลมฉบัง

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 ท่าน อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ คือ

แม่ผู้ให้ชีวิตใหม่กับอัญค่ะ

ชีวิตที่ผ่านมาในอดีต มีแต่เรื่องทุกข์ใจ

มีปัญหาในชีวิตมากมายหาทางออกไม่ได้

ยังพอมีบุญอยู่บ้างก็ตรงที่ได้มาพบ กับ ท่าน อ.อุบล

ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ  ซึ่งภายนอกท่านดูเหมือนคนธรรมดาทั่วไป

แต่จิตของท่านบริสุทธิ์ ยิ่งใหญ่งดงาม 

ท่านสามารถนำธรรมมะของพระพุทธองค์

และรวมทุกศาสตร์ ในจักรวาล

มารวมไว้ที่ "บ้านสวนพีระมิด" โดยไม่มีแบ่งแยก

เพื่อช่วยให้พวกเราพ้นทุกข์ได้อย่างรวดเร็ว

ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็น ที่บ้าน ในรถ ที่ทำงาน

จึงมีรูปของท่าน อ.อุบล ทุก ๆ ที่ 

เมื่อมีปัญหา หรือ ทุกข์ใจ พอได้กราบรูปท่าน

จิตใจก็โล่งเบา และ คิดแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้

มีครั้งหนึ่งขับรถด้วยความเร็วสูง แล้วเบรครถหลุด

ตอนแรกยังไม่รู้ ก็ลดความเร็วลงและขับต่อไปเรื่อย ๆ

พอเจอร้านซ่อมถึงหน้าร้านเบรคหลุดลงมาทั้งยวง

ช่างเห็นยังตกใจว่าเราขับมาได้ยังงัย ได้แต่ยิ้มแล้ว

จึงบอกไปว่า ก็เพราะ รหัส จักรวาล "อ.อุบลช่วยด้วย"

และท่าน อ.อุบล  อีกทั้งยังได้เห็นคนอื่น ๆ อีกมากมาย

ที่ต้องทุกข์กับความเจ็บป่วย ด้วยโรคต่าง ๆ บ้าง

เป็นอัมพาตบ้าง กราบรูปท่าน อ.อุบล

ด้วยความศรัทธาและเชื่อมั่นก็หายทันที

เห็นแล้วก็มีความสุข และดีใจ

กับทุกคนที่พ้นทุกข์หายเจ็บหายจนจริงค่ะ สาธุ


 

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 13:15:41


ความคิดเห็นที่ 11 (1640084)

 

ชื่อ  นางฉวีวรรณ  นภาพรรณราย  ชื่อเล่น ตาล  อายุ  47  ปี จ.สระบุรี

จบการศึกษา ปริญญาตรี พบาบาลศาสตร์  วิทยาลัยพยาบาลนครราชสีมา

อาชีพปัจจุบัน  ข้าราชการบำนาญ  (อดีตเป็นพยาบาล

โรงพยาบาลรัฐบาล และ เป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่ง

ชาติ  เขต 4 สระบุรี)

................................................................

    ชีวิตนี้เกิดมาแล้วได้มาพบ  ท่านอาจารย์อุบล  ศุภาเดชาภรณ์

นับว่าโชคดีอย่างยิ่ง  ที่ได้มาพบผู้ที่ชี้ทางสว่างให้กับชีวิต

ไม่เช่นนั้น  คงไม่รู้ว่าศีล  5  คืออะไร 

 ทำผิดศีลแต่ละข้อแล้ว  ผลที่เราได้รับ  คืออะไรบ้าง 

ที่ผ่านมาท่องได้อย่างเดียว  รู้แต่ว่าผิดศีล 

แต่ไม่รู้ว่าส่งผลต่อชีวิตเราอย่างไร 

กราบรูปอาจารย์อุบล  ผลเป็นอย่างไร      

     ได้ดูรายการคุยไปแจกไป  และอ่านจากธรรมทานในเวป

บ้านสวนพีระมิด  ได้เห็นคุณเหมี่ยว  คุณพี่อมร  ช่วยเหลือคน

ที่เดินแบบขาติด ๆ ก้าวขาไม่ออก  โดยการให้กราบรูปอาจารย์อุบล

ที่อยู่ในร้านถ่ายรูปของพี่เขา  และให้สารภาพบาปกับรูปอาจารย์อุบล

แล้วคุณลุงสามารถเดินได้เป็นปกติ  ก็เลยนำมาลองใช้บ้าง

โดยใช้กับคุณแม่  (นางเอมอร  ศรีสวัสดิ์)  ซึ่งเป็นโรคหัวใจเต้นช้า

ผิดปกติ  หมอบอกต้องรักษาโดยใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจเท่านั้น

ใช้จี้ช่วยบำบัดอาการดีขึ้นประมาณ 30 %

(จิตยังไม่เปิด  ไม่กล้าสารภาพ)  จึงเปิดรายการคุยไปแจกไป

ตอนที่มีคุณเหมี่ยวมาพูดธรรมทานเรื่องช่วยลุงเดินเหมือนนกเพนกวิน

โดยให้กราบรูปอาจารย์อุบล และสารภาพแล้วหาย  ดูเสร็จ

ให้คุณแม่กราบรูปอาจารย์อุบล (รูปเล็ก) และให้สารภาพบาป

เหมือนที่ดูในรายการ    คุณแม่ทำตามและสารภาพบาปกรรมที่ทำมา

พร้อมขอขมาและอุทิศบุญ  พออุทิศบุญเสร็จ  คุณแม่บอกว่า

มันเหมือนมีอะไรวิ่งออกจากหูทั้งสองข้าง  แล้วรู้สึกโล่งหัวเลย

จากที่มึนหัว  เวียนหัว  หันซ้าย  ขวา  ไม่ได้  ให้คุณแม่เช็คดูตัวเอง

คุณแม่หันซ้าย ขวา แรง ๆ เร็ว ๆ ได้โดยไม่เวียนหัว

คุณแม่ขอบคุณเทวดาประจำตัวอาจารย์อุบล

และให้คุณแม่คล้องรูปอาจารย์อุบลไว้ติดตัว

กลางคืนก็ให้นำรูปวางใต้หมอน  และได้ไปตรวจเช็ค

คลื่นหัวใจอีกครั้ง  จากที่หัวใจเต้น  43  ครั้ง/นาที

ขึ้นมาเป็น  58  ครั้ง/นาที (ปกติ  60-100 ครั้ง/นาที)

โดยที่ไม่ได้กินยา  ตอนนี้คุณแม่เชื่อและศรัทธาอาจารย์อุบล 

เกิน 100 %แต่ก่อนคิดว่าลูกคงจะเป็นโรค

อาจารย์อุบลขึ้นสมอง  แต่เดี๋ยวนี้ช่วยเรา

เล่าเรื่องของตัวเองให้คนอื่นฟังด้วย  

นี่คุณแม่กราบรูปอาจารย์อุบล  ที่เป็นรูปเล็ก 

แต่ได้ผลเหมือนรูปใหญ่ที่ร้านคุณเหมี่ยวเลย 

หนูขอกราบอาจารย์อุบลด้วยเช่นกันค่ะ 

ซึ่งปกติก็กราบอยู่ทุกวันแล้ว

 กราบ  กราบ  กราบ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 15:02:41


ความคิดเห็นที่ 12 (1640094)

ทำไมนะ

พระปฐมบรมธรรมบิดา

จึงให้คนทั้งหลาย ต้องทำในสิ่งที่

ข้าพระพุทธเจ้า

ไม่ชอบมากที่สุดในชีวิตเลย

 

เข้าใจไหมว่า

เวลาคนมากราบนี่นะ

มันอาย มันอึดอัด มันบอกไม่ถูก

เลยนะ จะบอกให้

 

และ

เคยขอความเมตตา

จากพระปฐมบรมธรรมบิดาแล้ว

ว่า

เรื่องกราบแล้วหายนี่

ลูกขอไม่รับได้หรือไม่พระพุทธเจ้าค่ะ

 

ถ้าเธอยังละอัตตาไม่ได้

และ

ไม่ปรารถนาให้ผู้ใดหายเจ็บป่วยไข้

หายยากจน หายพ้นทุกข์

ก็ไม่เป็นไร

 

แต่ถ้าเธอ

ยกจิตใจให้สูงขึ้น

ยอมรับในสิ่งที่เธอไม่ชอบบ้าง

แต่

สิ่งนั้น จะทำให้

คนจำนวนมากมายมหาศาล

พ้นทุกข์ได้ เธอจะทำไหม

 

แล้วทำไม

พระองค์ไม่ทรงเลือก

ให้กราบคนอื่น พระพุทธเจ้าค่ะ

 

ดูเหมือนเธอจะเคยถาม

คำถามนี้ กับเสด็จพ่อของเธอบ่อยมาก

แล้วเสด็จพ่อของเธอ ท้าวเวสสุวรรณ

ก็เคยตอบเธอไปแล้ว จำได้ไหม

 

จำได้พระพุทธเจ้าค่ะ

 

จำได้ว่าอย่างไร

 

เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ

ทรงรับสั่งว่า ข้าพระพุทธเจ้า

ไม่มีหน้าที่สงสัย มีแต่หน้าที่ทำตาม

บัญชาสวรรค์ พระพุทธเจ้าค่ะ

 

แล้วมีเหตุผลอีกไหม

 

เสด็จพ่อรับสั่งว่า

นี่เป็นมติของสวรรค์ทุกชั้นฟ้าแล้ว

พระพุทธเจ้าค่ะ แต่ข้าพระพุทธเจ้า

ก็ไม่ชอบพระพุทธเจ้าค่ะ

 

แล้วเสด็จพ่อของเธอ

รับสั่งอย่างไรอีกเรื่องที่เธอไม่ชอบ

 

เสด็จพ่อบอกว่า

เพราะข้าพระพุทธเจ้าไม่ชอบ

เบื้องบนจึงทรงเลือก พระพุทธเจ้าค่ะ

แต่ถ้าข้าพระพุทธเจ้าชอบ

และปรารถนา

เบื้องบนจะไม่ทรงเลือกผู้นั้น

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

แต่ข้าพระพุทธเจ้า

ก็ยังไม่กระจ่างในคำตอบ

ของเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ

เพราะ

เสด็จพ่อไม่ได้ให้เหตุผล

อันกระจ่าง กับข้าพระพุทธเจ้า

เพียงแต่บอกว่า

ข้าพระพุทธเจ้า ไม่มีหน้าที่สงสัย

มีแต่หน้าที่ทำตาม

 

ซึ่งคำตอบของเสด็จพ่อ

ไม่ได้ทำให้ข้าพระพุทธเจ้าหายสงสัย

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

แล้วเธอจำคำสอน

ของหลวงพ่อเธอได้ไหม

เรื่องความสงสัย

 

จำได้แต่ว่า

ไม่ให้สงสัยในคำสอน

ของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าค่ะ

 

เธอคิดว่า

คำสอน กับ คำสั่ง

มันต่างกัน ใช่หรือไม่

 

ไม่ได้คิดว่าต่างกัน

พระพุทธเจ้าค่ะ แต่คิดว่า

ข้าพระพุทธเจ้า

ควรจะได้มีโอกาสรับทราบ

เหตุผล ในการที่เบื้องบนเลือกให้

ผู้คนกราบข้าพระพุทธเจ้า

 

และ

จะต้องตอบสังคมอย่างไร

ถ้ามีคนสงสัย ว่าทำไม ต้องกราบ

ข้าพระพุทธเจ้า ทำไมไม่กราบ

พระ หรือ พระพุทธเจ้า

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

แล้วทำไมเธอไม่หาคำตอบ

ด้วยปัญญาเล่า

 

ข้าพระพุทธเจ้าโง่เขลา

เกินกว่าจะ มีปัญญา หยั่งรู้เรื่องนี้

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

ก็คนที่เขากราบเธอ

และกราบรูปเธอ

เขาย่อมเคยกราบพระ

กราบพระพุทธเจ้ามาแล้วทั้งนั้น

เธอลองถามเขาหรือไม่

ว่ากราบแล้วหายป่วย หายจนหรือไม่

 

ไม่เคยถามเจ้าค่ะ

 

ทำไมเธอไม่ถาม

 

ไม่กล้าพระพุทธเจ้าค่ะ

 

เธอกลัวอะไร

 

กลัวเป็นอนันตริยกรรม

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

ทำไมจึงจะเป็น

อนันตริยกรรมในเมื่อ

เธอไม่ได้ฆ่าพ่อแม่ ไม่ได้ฆ่าพระ

ไม่ได้ทำสงฆ์ให้แตกกัน

ไม่ได้ทำร้ายพระพุทธเจ้า

 

ก็การนำไปเปรียบเทียบ

ตนเองว่า กราบพระไม่หาย

กราบพระพุทธเจ้าไม่หาย

แต่กราบ อ.อุบล หาย

นั่นแหละพระพุทธเจ้าค่ะ

คือ

ความไม่บังควรที่สุดในชีวิต

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

ตราบใด

ที่ข้าพระพุทธเจ้า

ไม่ได้รับความกระจ่าง

จากพระองค์

ข้าพระพุทธเจ้าก็จะยัง

ไม่ยอมรับการกราบ อย่างแน่นอน

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

เธอไม่ยอมรับ

แล้วคนกราบเขาหยุดกราบไหม

 

ไม่หยุดพระพุทธเจ้าค่ะ

 

แล้วเธอจะทำอย่างไร

 

ทำอะไรก็ไม่ได้

พระพุทธเจ้าค่ะ นอกจาก

ขอความเมตตา จากสมเด็จพ่อ

อย่างเดียวเท่านั้น

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

ถ้าตถาคต

จะบอกเธอว่า ตถาคต

จะยังไม่บอกเธอในเวลานี้

เธอจะว่าอย่างไร

 

สุดแต่พระองค์

จะเห็นสมควร ลูกจะยอมรับ

ในพุทธญาณ ของสมเด็จพ่อ

ด้วยจิตที่นอบน้อมเต็มใจ

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

ถ้าเช่นนั้น

เธอจงคิดถึงความทุกข์

อุปสรรคในชีวิตของผู้คนทั้งหลาย

ที่จะหลั่งไหลกันมากราบเธอ

แล้วหาย

จากทุกข์โศกโรคภัย

อย่างง่ายดาย

ได้หรือไม่

 

ขอให้กราบรูปภาพ

อย่างเดียว

ไม่ได้หรือพระพุทธเจ้าค่ะ

 

การกราบรูป

ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

 

แต่ในเมื่อ

เธอยังมีชีวิตอยู่

ใยเธอต้องหวงห้าม

การที่ผู้คน เขาอยากกราบเธอ

 

ไม่ได้หวงห้าม

แต่อาย พระพุทธเจ้าค่ะ

 

เธอยังละอัตตา

ตัวอาย ไม่ได้จริงๆ

 

ถ้าอย่างอื่นไม่อาย

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

แล้วถ้าเธอได้รู้ว่า

คนที่ได้กราบเธอ นอกจาก

จะหายจากทุกข์โศกโรคภัย

หรือบันเทาเบาบางได้

ในทันทีแล้ว

 

ผู้ที่กราบเธอ

ยังจะรอดพ้นจาก

ภัยพิบัติใหญ่น้อยทั้งปวง

เธอจะยอมไหม

หรือว่า

เธอจะปล่อยให้ผู้คนทั้งหลาย

ล้มตายกันเป็นเบือ

เพราะเธออาย

 

ถ้าเช่นนั้น

ข้าพระพุทธเจ้า

ขอความเมตตา สมเด็จพ่อ

โปรดแนะนำ ว่าลูกควร

ทำใจอย่างไร เมื่อมีคนกราบ

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

ทุกครั้งที่มีคนกราบเธอ

เธอต้องคิดว่า

บัดนี้ เราได้ช่วยชีวิตคน

ให้พ้นทุกข์ พ้นภัยพิบัติอีกแล้ว

 

ยิ่งมีคนมากราบเธอมาก

เธอก็ต้องคิดว่า

บัดนี้ เราได้ช่วยคนให้รอดพ้น

จากทุกข์  โศก โรค ภัย

ได้มากมายหลายคนเหลือเกิน

เธอควรคิดเช่นนี้

และ

ควรยินดีที่เธอช่วยเขาได้

 

แล้วถ้ามีคนที่เขามอง

แล้วสงสัย ไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่อง

ลูกจะทำอย่างไรเจ้าคะ

 

เธอก็ไม่เห็นต้องทำอะไร

เพราะ

ในที่สุด คนเหล่านั้น

ก็จะพยายามหาคำตอบเอง

โดยที่เธอไม่ต้องตอบ

 

ตถาคต

ให้เธอทำสิ่งใด

ย่อมมีเหตุผลสำคัญ

ย่อมมีหลักฐานรองรับเสมอ

เธอจำไม่ได้หรือ

 

จำได้พระพุทธเจ้าค่ะ

 

ลูกขอกราบพระบาท

ในความเมตตา หาที่สุดมิได้

ลูกจะละอัตตา จะใช้ปัญญา

จะน้อมรับบัญชา

และ

ทำตามแม้ว่า

จะยังไม่ทราบเหตุผลทั้งหมด

ก็ตามพระพุทธเจ้าค่ะ

 

เพราะ

ลูกเชื่อมั่นว่า

ทางที่สมเด็จพ่อให้ลูกเดินนั้น

ต้องเป็นทางที่ประเสริฐสุดแล้ว

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

เจริญพร

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 16:07:52


ความคิดเห็นที่ 13 (1640102)

 

 

"กราบท่านอาจารย์อุบล หรือรูปถ่ายท่านอาจารย์อุบล

 

 

   บ้านสวนพีระมิดแล้วชีวิตดียังไง"

 

 

ผมนายสิงห์เงิน อุดมศิริ(ตาโต๊ะ) อายุ  48 ปี จ.นครราชสีมา

การศึกษา ป.ตรี วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่ สาขาสารสนเทศธุรกิจ มสธ.

ตำแหน่ง หัวหน้าแผนกเครื่องมือวัด

หน้าที่ ดูแลอุปกรณ์วัด-คุม ในกระบวนการผลิต

ที่ทำงาน บ.อุตสาหกรรมอ่างเวียน จำกัด นครราชสีมา กลุ่มน้ำตาลวังขนาย

        ที่บ้านสวนตอนแรกผมเห็นผู้คนเขาขอกราบท่านอาจารย์ ท่านก็บอกว่าไม่ให้กราบ ท่านไม่ชอบ ก็เมื่อแต่ละคนเขากราบแล้วสิ่งที่เขาเป็นทุกข์อยู่ ไม่ว่าทุกข์เพราะเจ็บป่วยทางกาย ทุกข์ทางใจ เขาหายกันเจอกันตอนไหนก็จะขอกราบ กราบ กราบ

        และคนไหนที่เคยปรามาส คิดไม่ดี ทำไม่ดี กับท่านอาจารย์ กราบขอขมากับท่านก็หายกัน แต่เบื้องบนเคยมีบัญชามาพวกที่คิดไม่ดี ทำไม่ดีกับท่านอาจารย์อุบล ต้องมากราบขอขมากับท่าน

       ท่านอาจารย์เคยบอกทุกครั้งว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่รอบตัว ท่านอาจารย์ และผู้ที่ฝึกสมาธิได้มโนมยิทธิ มองเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ครอบตัว ซ้อนตัว ฝังกายในตัวท่านอาจารย์ อย่างเมื่อตอนท่านอาจารย์อัญเชิญบารมีพระศรีอาริย์ ก็มีผู้เห็นกายพระศรีอาริย์ซ้อนกายสถิตในตัวท่านอาจารย์

        การที่เรากราบรูปท่านอาจารย์อุบล เปรียบเสมือนว่าเราได้กราบพระพุทธเจ้า กราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ที่อยู่ในกายท่านอาจารย์อุบล ก่อนหน้าได้รูปมานั้นเข้าเวบเจอภาพท่านอาจารย์อุบลก็จะต้องยกมือขึ้นกราบแบบอัตโนมัติ ขอให้อ่านครั้งเดียวจำได้ตีโจทย์แตกข้อธรรมทาน หรือข้อชี้แนะนำต่างๆ ก็จำได้ทันที

         ผมเองได้บูชารูปท่านอาจารย์อุบลไว้ใส่กรอบแขวนที่บ้าน กราบทุกวันก่อนไปทำงานเหตุการณ์ในการทำงานไม่มีอุปสรรค และกับลูกน้องทำงานกันเสร็จก่อนเวลา ซึ่งในเวลาเดียวกันของปีก่อน จะมีแต่ปัญหารุมเร้า เพราะเป็นช่วงเวลาซ่อมเครื่องจักรให้ทันต่อการผลิตต่อไป หรือในบางครั้งวันนั้นปวดหัวมากไม่เกี่ยวกับงาน แบบว่าอากาศร้อนมากเลยปวดหัวกลับถึงบ้านก้มลงกราบรูปท่านอาจารย์หายแบบฉับพลัน ผมนี้งงมาก ทุกวันนี้เดินผ่านท่านต้องขอกราบก่อนไปทำภารกิจนอกบ้าน ถ้าลืมกราบไม่ทันก็อธิฐานจิตว่าตัวก้มลงกราบแทน เวลาจะทำกิจอะไรก็จะนึกหน้าท่านอาจารย์ให้คิดออกและทำสำเร็จด้วย

         ผมนั้นมีรูปถ่ายรูปเล็กท่านอาจารย์อุบลแขวนหน้ารถ ก่อนออกรถก็ยกมือไหว้รูปท่านการเดินทางก็ราบรื่นปรกติไม่มีอะไรติดขัด แม้แต่ผ่านด่านตรวจจารจรคุณตำรวจเห็นรูปถ่ายก็โบกรถไห้ไปได้เลยไม่ต้องหยุดตรวจ ซึ่งเขาจะตรวจทุกคันรถทุกวันนี้การเดินทางไปใหนมาไหนกะว่าเวลาไม่พอ ไม่ทันบ้างก็ถึงทันเวลาทุกที

        กราบขอบพระคุณพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระศรีอาริย์ และเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกๆพระองค์ ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว ให้ผมพ้นทุกข์ มีกาย วาจาใจที่สงบ ยึดมั่นแต่ความดี


ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ (ตาโต๊ะ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 16:59:07


ความคิดเห็นที่ 14 (1640111)

ขอให้กราบรูปภาพ

อย่างเดียว

ไม่ได้หรือพระพุทธเจ้าค่ะ

 

การกราบรูป

ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

 

แต่ในเมื่อ

เธอยังมีชีวิตอยู่

ใยเธอต้องหวงห้าม

การที่ผู้คน เขาอยากกราบเธอ

ผมขออนุญาติเพิ่มหัวข้อเรื่องเป็น

"กราบ

ท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือ

รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

แล้วชีวิตดียังไง"

จัดเต็มที่เลยครับพี่น้อง บางท่านอาจเคยกราบท่านที่บ้านสวนฯ หรือนอกสถานที่ บางท่านกราบรูปที่บ้าน บางท่านกราบผ่านหน้าจอรายการคุยไปแจกไปก็มี บางท่านอาจตั้งจิตกราบในสมาธิก็มี ล้วนเกิดเหตุอัศจรรย์ทั้งสิ้น

หรือบางคนอาจเคยเห็นคนอื่นกราบ แล้วเขาหายจากโรคเลยทันทีก็มีเยอะแยะ จัดไป...พี่น้อง

เชิญทุกท่านแล๋งกันให้เต็มที่ โกยบุญเต็มพิกัดเลยครับ สาธุ

อย่าลืมนะครับ หลายๆท่านที่ไม่ยอมเขียนรายละเอียดส่วนตัว หรือเขียนแบบคลุมเครือ ก็ต้องขออนุญาติคัดแยกออกและไม่นำมารวมเล่มให้นะครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 17:22:33


ความคิดเห็นที่ 15 (1640118)
ชื่อเล่น: ก้อย
อายุ: 32 ปี
การศึกษา: ประกาศนียบีตรวิชาชีพชั้นสูง
สาขา: การตลาด จากกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย
อาชีพ: พนักงานบริษัทเอกชน
ตำแหน่ง: พนักงานขาย / บริษัท จ๊อบเซิร์ฟ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร: 085-484-9725, 088-227-5299

"กราบรูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด แล้วชีวิตดียังไง"

ที่จริงชีวิตดีขึ้นตั้งแต่ได้รู้จักท่านอาจารย์อุบล ศุภเดชาภรณ์ บ้านสวนพีระมิดแล้ว

มีความสุขแทบทุกด้าน จากเมื่อก่อนมีปัญหาการเงิน หนี้สินมากมาย ปัญหาครอบครัว ปัญหาสายตาสั้น คุณแม่ก็สุขภาพดีขึ้นมาก จากที่เมื่อก่อนต้องเข้าโรงพยาบาลเดือนละหลาย ๆ ครั้ง ด้วยปัญหาหลาย ๆ อย่างรวมกัน ทำให้ชีวิตเต็มไปด้วยทุกข์ ทุกข์ แล้วก็ทุกข์ แทบจะหาความสุขไม่ได้เลย

รูปท่านอาจารย์ ยังช่วยคนอื่น ๆ ทั้งที่ไม่รู้จักให้หายเจ็บหายป่วยได้ เช่น คุณแม่ของก้อยที่มีอาการปวดแขน เมื่อกราบรูปก็ดีขึ้นมาก,  เพื่อนที่ทำงานปวดท้องประจำเดือน ก้อยแนะนำให้เขามากราบรูปท่านอาจารย์ที่โต๊ะ อาการปวดก็หายทันที 
 
ทุกครั้งที่มาบ้านสวนฯ ทุกครั้งได้กราบท่านอาจารย์ จะรู้สึกเหมือนได้รับพลังจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งปิติ และมีความสุข บางครั้งมีอาการเหนื่อยล้า ก็จะหายทันที

ก้อยได้นำรูปท่านไว้ที่บ้าน ที่โต๊ะทำงาน และพกติดตัว อันดับแรกที่ได้คือ ความรู้สึกมั่นใจและปลอดภัยในการใช้ชีวิต ทุกเช้าก้อยจะนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างออกจากบ้านไปรอรถเมล์ ทุกครั้งที่นั่งก็จะกลัวมาก แต่พอมีรูปท่านอาจารย์พกติดตัวไปด้วย ทำให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดอุบัติเหตุกับเราแน่นอน หรือเวลาจะทำชั่ว พอเห็นหน้าท่านอาจารย์ก็รู้สึกทั้งเกรงกลัว และเกรงใจ ไม่กล้าทำชั่วอีก เหมือนเราไปไหน ก็จะมีท่านอาจารย์ และเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์ คอยคุ้มครองปกป้องเราตลอดเวลาค่ะ
emotion

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อย วินิตา สุทธิวรา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 17:51:08


ความคิดเห็นที่ 16 (1640121)

อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์  บ้านสวนพีระมิด
กราบ กราบ กราบ
ลูกชื่อ นาง อร อุ่นศรี อายุ 43 ปี
การศึกษา   จบการศึกษา ป.6
อาชีพ ผลิตและจําหน่ายเสื้อผ้าสําเร็จรูป
ที่อยู่ จ.กรุงเทพฯ
ตําแหน่ง เจ้าของกิจการ
ก่อนนอน  และ หลังจากตื่นนอน
อรจะกําหนดจิตกราบท่านอาจารย์อุบลทุกวัน
สิ่งที่เห็นทุกครั้งคือไม่ได้มี ท่านอาจารย์คนเดียว
แต่มี
สมเด็จองค์พระปฐม พระศรีอาริย์ คลุมกายท่านอาจารย์ทั้งหมดแต่ใบหน้าเป็นท่านอาจารย์ และเสด็จพ่อท้าวเวสุสุวรรณ หลวงพ่อฤาษี สิ่งศักดิสิทธิ์
อยู่เต็มไปหมด
 
ท่องคาถาพระศรีอาริย์คาถาประเมตัง
คาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ คาถาเงินล้าน
ก่อนออกจากบ้าน ก็ กราบรูป ท่านอาจารย์ทุกวัน
ไปขายของ ที่ร้านจะมีรูปนี้ใส่กรอบบูชา อยู่บนหิ้ง
ก็ไหว้และกําหนดจิตกราบอีกครั้ง ทําอย่างนี้มาพักใหญ่ๆแล้วค่ะ
ท่านอาจารย์อุบล เข้าไปอยู่ในจิตใจของลูกเต็มพื้นที่หมดแล้ว ไม่ว่า จะกิน จะเดิน ยืน นั่ง หรือนอน
จิตใจมีแต่ท่านอาจารย์อุบล แล้วก็มีความสุขมากๆๆ
บางครั้งชีวิตก็ไม่ต้องการอะไร ไม่อยากขออะไรทั้งๆที่ชีวิตยังมีอุปสรรคและความทุกข์อยู่มากมาย
หรือถ้าขอ ก็ได้สมปรารถนาทุกครั้ง ทุกประการ
เพราะ
ความสุขที่ได้ มันเหนือสิ่งอื่นใด ไปแล้ว
ต้องขอขอบคุณ และอนุโมทนาบุญกับคุณธนาที่ช่วยเปิดกระทู้นี้ขึ้นมาด้วยนะคะ
อันที่จริงตั้งใจไว้ว่าจะเขียนเล่า ให้ญาติธรรมฟังอยู่พอดี ได้โอกาสนี้
กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล 
สิ่งศักดิสิทธิ์ที่รักษาท่านอาจารย์ทุกพระองค์
ที่มอบความสุขให้กับลูก
และชาวโลกทั้งหลาย
กราบแล้ว มีความสุข หายโรค โชคดี พ้นทุกข์ทั้งปวงตลอดกาล
 
กราบ กราบ กราบ
 
 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น อร อุ่นศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 18:05:24


ความคิดเห็นที่ 17 (1640143)

ผมยังไม่ได้มีโอกาสได้กราบทั้งตัวจริงและรูป

แต่หลังๆ มานี้ก็แปลกอยู่เหมือนกันอยากได้รูป

ท่านอาจารย์ ก็เลย PRINT ขยายออกมา A4

เพื่อนำไปแจกพร้อมกับรหัส

แล้วรู้สึกอยากได้จี้ที่เป็นรูปท่านอาจารย์ด้วย

ตอนนี้ก็ได้บูชามาแล้ว 11 องค์

มาเจอกระทู้นี้พอดี

ช่างเหมาะเจาะพอดีจะได้ถือโอกาสสัมผัสการกราบ

แบบลูกๆ บ้านสวนบ้าง

ขอเดินตามหลังไปติดๆ แล้วกันนะครับ

ให้มีรูปอาจารย์อยู่ทุกที่ ติดตัว ในรถ ในบ้าน ที่ทำงาน

จะพยายามบอกสิ่งดีเช่นนี้กับทุกคน

ที่เขาทุกข์ต้องการความช่วยเหลือ

เพราะเขาจะได้รอดพ้นภัยพิบัติกันทั่วหน้า

ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่าน

ที่ได้ประสบพอเจอกับตัวเองด้วยนะครับ

กราบ กราบ กราบ

ทุกๆ พระองค์

ที่ทรงพระเมตตาลูกหลาน

ให้ได้พบกับความสุข

แบบง่ายๆ

ไร้อัตตา

สาธุ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 20:13:14


ความคิดเห็นที่ 18 (1640144)

ชื่อ นางมยุรฉัตร สุดจิตต์  อายุ 35 ปี

การศึกษา ปริญญาตรี บริหารธุรกิจ(การบัญชี) มหาวิทยาลัย

ศรีนครินทรวิโรฒ

หน้าที่การงาน นักตรวจสอบภาษีชำนาญการ สำนักงานสรรพากรพื้นที่กาญจนบุรี

จังหวัดที่อยู่ กาญจนบุรี

"กราบ ท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือ

รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด แล้วชีวิตดียังไง"

ดิฉัน เคยกราบท่านอาจารย์อุบล ที่ได้มาบ้านสวนพีระมิด

ทุกครั้งที่ได้กราบรู้สึกปิติ มีความสุข เบาสบายตัว

เหมือนได้ปลดปล่อย สิ่งไม่ดีออกจากตัวเอง

  รู้สึกทำอะไรก็คล่อง ไม่ติดไม่ขัด หน้าที่การงาน การเงิน

สุขภาพร่างกายแข็งแรง ปกติเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากันมีอาการเวียนหัวเป็นประจำ และปวดหัวบ่อยมาก พอได้กราบแล้วอาการดังกล่าวหายไป ไม่ปวดหัว ไม่เวียนหัว มีความสุข ทั้งทางกายและทางใจ ค่ะ     เคยกราบรูปท่านอาจารย์  และพกพารูปท่านอาจารย์ติดตัวเสมอ

ไม่ว่าจะไปไปไหน ออกทำงานนอกสำนักงาน

หรือเดินทางใกล้ ไกล รู้สึกอุ่นใจ

 แม้ยามนอน ก็จะเอารูปท่านอาจารย์อุบลไว้ที่หัวนอน

และกราบก่อนนอนทุกวัน และจะกำหนดจิต

มากราบท่านอาจารย์อุบล ที่บ้านสวนพีระมิดก่อนนอนทุกวัน

พอทำอย่างนี้แล้ว รู้สึกมีความสุข สบายใจ สุขภาพดี

และนอนหลับฝันดีค่ะ  แต่ถ้าคืนไหนไม่ได้กราบท่านอาจารย์อุบล

ก่อนนอน จะนอนไม่หลับ หรือไม่ก็นอนฝันร้าย จะต้องลุกขึ้นมากกราบ

และกำหนดจิตกราบกลางดึก ก็จะหลับสนิททุกครั้ง

และทำเช่นนี้ทุกวันชีวิตมีความสุขกาย สุขใจ มีสติ มีสมาธิ

และตื่นเช้ามาจะสดชื่นพร้อมจะต่อสู้กับวันใหม่

และทุกครั้งที่มีปัญหา ไม่สบายใจก็จะคิดถึงท่านอาจารย์อุบล

มองรูปท่านอาจารย์อุบล และกราบรูปท่านอาจารย์อุบล

รู้สึกมีกำลังใจเข้มแข็งขึ้น  และก็คิดหาทางแก้ไขปัญหาได้

หรือปัญหาต่างก็คลี่คลายในทางที่ดีขึ้นทุกครั้งค่ะ

ลูกขอกราบขอบพระคุณเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบล

ท่านอาจารย์อุบล และครอบครัวค่ะ

ที่ได้เมตตาให้ลูกพบท่านอาจารย์อุบล ได้พบแสงสว่างนำทางชีวิต

และที่สำคัญ ได้กราบท่านอาจารย์อุบลแล้ว

สุขกาย สุขใจ โชคดี รอดพ้นจากภัยอันตรายทั้งปวงค่ะ

 

"ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

แล้วจะได้รับผลกรรมอย่างไร"

 

  

 

          ดิฉันเป็นคนที่ชอบมีจิตแวบ ชอบมีจิตต่อต้าน จิตใจข้างในมักจะต่อสู้กันเองกับจิตอันชั่วร้าย  บางครั้งเวลาท่านอาจารย์อุบลบอกสอนอะไรมักจะจิตอันชั่วร้ายผุดขึ้นมาในใจว่า จริงหรือ ใช่เหรอทั้งที่         ไม่อยากจะคิดจะต้องคอยข่มมันไว้เสมอ  ดิฉันเคยดูรายการคุยไปแจกไปแล้วไปมองเป้ากางเกงอาจารย์อุบล แล้วความคิดลามกมันก็ผุดขึ้นมาคราวนี้ความคิดชั่วๆ มันก้องอยู่ในหัวตลอดเวลา สวดมนต์ก็ไม่หาย แผ่เมตตาก็ไม่หาย ท่องนะโมก็ไม่หาย  คราวนี้มันไม่ยอมหยุดเลยค่ะ

ผลกรรมที่ได้รับ  จิตใจเร่าร้อน อกแทบระเบิด จิตใจมันต่อสู้กันเอง มันเครียดมาก นอนก็ไม่หลับเหมือน จิตชั่วมันคอยหลอกหลอนตลอดเวลาเหมือนคนเป็นโรคประสาท เป็นโรคจิต  ทำอะไรก็ไม่ดี มีปัญหาตลอด มีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน กับผู้บังคับบัญชา ทำอะไรก็ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือ ทำอะไรก็ไม่ประสบผลสำเร็จ

สำนึกผิดได้เมื่อได้รับทุกข์หนักโดยเฉพาะทุกทางใจ  พอได้ดูรายการคุยไปแจกไปจำได้ว่าท่านอาจารย์สอนเรื่องศาสดาที่ใครๆ ก็ทักท้วง ไม่ได้ใครปรามาสจะได้รับเคราะห์กรรม และท่านอาจารย์อุบลคือก็ครูอาจารย์ที่ใครๆ ก็ทักท้วงไม่ได้เหมือนกัน และตัวเองปรามาสเองก็เจอกับตัวเองได้รับเคราะห์กรรมเอง

แนวทางแก้ไข มาที่บ้านสวนพีระมิด กราบขอขมาท่านอาจารย์อุบล และได้รับความเมตาจากท่านอาจารย์อุบล ได้สอนว่าเคยเป็นสาวกพระเทวทัต และคนที่จิตคิดลามก หมกหมุ้น ให้อุทิศบุญให้พระเทวทัตและขอลาออกจากการเป็นสาวกพระเทวทัต 

เมื่อได้กราบขอขมาท่านอาจารย์อุบล และทำตามคำสอนท่านอาจารย์

รู้สึกโล่งเบาสบาย และจิตแวบจิตไม่ดีก็หายไป นอนหลับสบาย ทำอะไรก็ง่ายขึ้นไม่ติดขุัด ผู้บังคับบัญชาเพื่อนร่วมงานก็มองในแง่ที่ดีขึ้น และไดรับความร่วมมือเป็นอย่างดี การเงินที่เคยติดขัดก็เริ่มดีขึ้น ชีวิตมีความสุขขึ้นมาก      

 

                 เคยปรามาสท่านอาจารย์อุบล  ปรามาสเรื่องเครื่องสบู่พาเมล่า และเครื่องสำอางค์พาเมลา ดูรายการคุยแจกไปครั้งแรกก็รีบไปซื้อสบู่มาใช้ อยากให้สิวหาย แต่ไม่ได้ศึกษาคู่มือหนีกรรมผิวพรรณเลย พอใช้ครั้งแรกก็รู้สึกดีหน้านุ่ม แต่สิวก็ไม่ยุบ ก็ยังมีสิวขึ้นก็คิดในใจว่าสบู่ของอาจารย์ดีจริงหรือปล่าวนะ

ผลกรรมที่ได้รับ หน้ามีสิวอักเสบเฮ่อขึ้นเต็มหน้าและเม็ดใหญ่กว่าเดิม 

มาสำนึกผิดได้ เมื่อมารู้ภายหลังว่าคนจะใช้เครื่องสำอางค์พาเมลา ต้องอ่านคู่มือหนีกรรม 9    จบถึงใช้เครื่องสำอางค์นี้ได้

แนวทางแก้ไข มาอ่านคู่มือหนีกรรมให้ครบ 9 จบ ได้คราวนี้ก็ทำให้ถูกต้อง รู้สึกสิวอักเสบเม็ดใหญ่ ๆ ยุบอย่างรวดเร็วค่ะ

         หนูขอกราบขอขมาท่านอาจารย์อุบลอีกครั้งค่ะ ที่โง่เขลาเบาปัญญา     ปรามาสท่านอาจารย์ค่ะ และหนูขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล และครอบครัวค่ะ ที่ได้เมตตาให้อภัยลูกหลานเสมอ              และเมตตาชี้ทางสว่างนำทางชีวิตหนูและครอบครัวของหนูค่ะ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 20:19:28


ความคิดเห็นที่ 19 (1640146)

ชื่อ นายผดุง สุดจิตต์  อายุ 50 ปี

การศึกษา ปริญญาตรี สาธารณสุขศาสตร์บันฑิต มหาวิทยาณเรศวร

หน้าที่การงาน  เจ้าหน้าที่สาธารณสุขชุมชน สำนักงานเทศบาลตำบลวังโพธิ์ 

จังหวัดที่อยู่ กาญจนบุรี

"กราบ ท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือ

รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด แล้วชีวิตดียังไง"

 

ผมรู้สึกเหมือนคนไม่แข็งแรง ทั้งกายและใจ

พอได้กราบท่านอาจารย์อุบลแล้ว

ไม่ว่าจะกราบท่านอาจารย์ หรือกำหนดจิตกราบ

ผมรู้สึกมีกำลังใจ รู้สึกอบอุ่น รู้สึกปลอดภัย

 เหมือนท่านคอยช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา

ทำให้ผมไม่กลัวอะไร กล้าที่จะทำในสิ่งดี ๆ

กล้าที่จะต่อสู้กับสิ่งไม่ดี

และที่สำคัญทำให้สุขภาพแข็งแรง

การเงินคล่องขึ้น สุขภาพจิตดีขึ้นมากครับ

สภาพครอบครัวดีขึ้นมาก ชีวิตดีขึ้นทุกด้าน

และตั้งแต่ผมรู้จักบ้านสวน รู้จักท่านอาจารย์อุบล

ได้กราบท่านอาจารย์อุบล ชีวิตของผมไม่เคยเจอทางตันเลยครับ

จะมีทางออกสำหรับปัญหาที่ผมเจอเสมอ

กระผมขอกราบขอบพระคุณพระพุทธองค์

พระศรีอารีย์ เสด็จตาท่านท้าวเวสสุวรรณ

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์

ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวครับ

ที่ได้เมตตากระผมครับ สาธุ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 20:39:26


ความคิดเห็นที่ 20 (1640148)

ชื่อ เด็กชายพอเจตน์  สุดจิตต์  อายุ 10 ปี (บิ๊กซัน)

การศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนชัยจิตต์วิทยา

หน้าที่การงาน -

จังหวัดที่อยู่ กาญจนบุรี

"กราบ ท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือ

รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด แล้วชีวิตดียังไง"

เวลาผมได้กราบท่านอาจารย์อุบล ผมรู้สึกตื้นตันใจมาก กราบแล้วรู้สึกจิตแวบหาย มีความสุข หายใจโล่ง โรคไซนัสหายใจไม่ออกของผมจะหายไป

และทุกวันก่อนนอนแม่จะพาสวดมนต์และกำหนดจิตมากราบท่านอาจารย์อุบลที่บ้านสวนพีระมิด

พอกราบแล้วรู้สึกนอนหลับฝันดีครับ

 

 

"ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

แล้วจะได้รับผลกรรมอย่างไร"

ผมเคยปรามาสท่านอาจารย์อุบลครับ

ผมเคยคิดว่าทำไมท่านอาจารย์อุบลต้องกางร่ม

และผมเป็นคนชอบมีจิตแวบครับ

ผลกรรมที่ผมได้รับครับ

ผมปวดหัวมากและปวดอย่างไม่มีสาเหตุครับ

ปวดจนต้องนอนเกลือกกลิ้งไปมาครับ

และแม่ก็ได้มาช่วยผมให้ผมสารภาพปาบ

และแม่ได้เขียนธรรมทานให้ผม ผมก็ดีขึ้นครับ

พอได้มากราบท่านอาจารย์อุบลก็หายสนิทครับ

และผมก็เคยปรามาสป้าแมวว่าป้าแมวดุ

(ในความเป็นจริงป้าแมวเตือนด้วยความหวังดีครับ)

และสงสัยพี่ธนาว่าชอบเป็นพิธีกรครับ

ผลกรรมที่ได้รับครับ ตัวร้อนเป็นไข้แม่บอกว่าไข้ขึ้น

40 องศาครับ ปวดหัวมากครับ

ผมได้สารภาพปาบให้แม่ฟัง แม่เขียนธรรมทานให้

ผมก็ดีขึ้นครับ และได้มีโอกาสขอขมาป้าแมวกับพี่ธนา

ก็รู้สึกดีขึ้นมากครับ

 

ผมขอกราบขอขมาท่านอาจารย์อุบล และครอบครัว

ป้าแมว พี่ธนาครับ

 

 ผมขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล

ท่านอาจารย์มงคล คุณพี่ท็อปครับ

ขอบคุณป้าแมว และพี่ธนาครับ

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 20:46:47


ความคิดเห็นที่ 21 (1640149)

ชื่อ เด็กหญิงสุพิชชา สุดจิตต์ อายุ 5 ปี (น้องจีจ้า)

การศึกษา ชั้นอนุบาล 2  โรงเรียนชัยจิตต์วิทยา

หน้าที่การงาน -

 

จังหวัดที่อยู่ กาญจนบุรี

 

"กราบ ท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือ

 

รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด แล้วชีวิตดียังไง"

หนูได้มากราบท่านอาจารย์อุบลที่บ้านสวนพีระมิดค่ะ

ตอนหนูกราบท่านอาจารย์อุบล

หนูรู้สึกขนลุก อยากร้องให้ มีความสุขค่ะ

ทุกครั้งที่ท่านอาจารย์อุบลกอดหนู หนูมีความสุขที่สุดค่ะ

 หนูรู้สึกว่าพอหนูได้กราบท่านอาจารย์อุบล

หนูไม่ปวดท้องอีกเลยค่ะ 

เพื่อน ๆ ก็ไม่รังเกหนูค่ะ เพื่อนๆ และคุณครูรักหนู

แม่จะสอนให้หนูสวดมนต์

และคิดถึงท่านอาจารย์อุบลและ

คิดว่ามากราบท่านอาจารย์อุบลที่บ้านสวนพีระมิดทุกวัน

และหนูก็จะนอนหลับฝันดี

หนูคิดถึงท่านอาจารย์อุบลทุกวันค่ะ

หนูรักอาจารย์อุบลมากที่สุดค่ะ

 

 

 

หนูขอกราบขอบพระคุณเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์

ท่านอาจารย์มงคล ท่านอาจารย์มงคล และพี่ท็อป

ทำให้หนูมีความสุข ไม่ปวดท้อง เพื่อน ๆ รักหนู

(หนูขอให้แม่เขียนธรรมทานให้ค่ะ)

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 20:57:04


ความคิดเห็นที่ 22 (1640151)

ข้าพเจ้านายกฤษณะ สิงห์ป้อม อายุ 34 ปี การศึกษาจบปริญญาตรีวิศวกรรม จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปัจจุบันทำงานอยู่ที่บริษัทโซนี่ ประเทศไทยจำกัด ตำแหน่งรองผู้จัดการฝ่ายผลิต

ผมขอเล่าประสบการณ์ตรงของผม ซึ่งเกี่ยวกับการกราบท่านอาจารย์อุบล ครับ สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคุณแม่ของผมครับ และตอนกราบท่านอาจารย์อุบล นั้น ผมก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นโดยตลอดครับ
แม่ของผมชื่อนางกฤษณา สิงห์ป้อม อายุ 54 ปี ไม่ได้ทำงาน เป็นแม่บ้านครับ แม่ของผมอยู่กรุงเทพฯครับ ปรกติ เวลาไปไหนมาไหน ก็มักจะขึ้นรถเมล์ อยู่เป็นประจำ อยู่มาวันนึง แม่ขึ้นรถเมล์ วันนั้นแกยืนโหนรถเมล์ แล้วบังเอิญรถเบรกกะทันหัน ทำให้บริเวณต้นแขนของแม่ผมเส้นยึด อักเสบครับ แม่ไปหาหมอที่โรงพยาบาลภูมิพล เพื่อรักษาอาการปวดแขนอยู่หลายเดือน แต่ไม่หาย หมอให้แต่ยาคลายเส้น ยาแก้อักเสบ สรุปก็คือไม่หาย แม่ทรมานครับ โดยเฉพาะเวลานอนจะปวดแขน ตอนเอายาหม่องนวดทุกวัน แต่ไม่หาย แค่บรรเทาไปเท่านั้น
อยู่มาวันนึง แม่ได้มีโอกาสมาทำบุญที่บ้านสวนพีระมิด และได้พบท่านอาจารย์อุบล เชื่อหรือไม่ครับ แม่ผมก้มลงกราบท่านอาจารย์อุบล เมื่อกราบเสร็จ พอแม่เงยหน้าขึ้นมา แม่จับที่แขน พร้อมกับรอยยิ้ม แม่บอกว่าหายแล้ว ไม่เจ็บไม่ปวดแล้ว ผมดีใจไปกับแม่ด้วยจริงๆครับ
กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ครอบครัว และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์แห่งบ้านสวนพีระมิดครับ กราบ กราบ กราบ  
ผู้แสดงความคิดเห็น กฤษณะ สิงห์ป้อม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 21:14:36


ความคิดเห็นที่ 23 (1640153)

ดิฉัน นางสาวชัชวลี กะลัมพะเหติ จบปริญญาเอกเคมี เป็นนักวิจัยที่ ปตท. ขอร่วมแสดงความคิดเห็นดังนี้

การกราบท่านอาจารย์อุบล   เป็นสิ่งที่ดี และควรปฏิบัติ  เพราะท่านเป็นผู้มีพระคุณกับเรา ช่วยให้เราหายจากโรคทางกายและทางใจ  เรื่องอานิสงค์ในการกราบนั้น  มีขึ้นมาอัติโนมัติอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะการกตัญญู เป็นเครื่องหมายของคนดี เมื่อเราทำดีจะได้ผลตอบแทน

ได้ซื้อรูปท่านอาจารย์จากป้าเหมี่ยว แม่หมอประจำบ้านสวนฯ นำไปใส่กรอบไว้ และนำมาติดที่หัวนอน ก็กราบทุกวันก่อนนอน  ไม่รู้สึกเหมือนกราบรูปคนธรรมดา แต่รู้สึกเหมือนตนเองกราบพระ และต้องกราบ 

ปัจจุบันได้นำรูปอาจารยแขวนร่วมกับบัตรพนักงาน โดยใส่ไว้อีกด้านนึงของบัตรตัวเอง รู้สึกอุ่นใจ และเหมือนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ป้องกันตัว  คนเขาก็ทักว่าเอารูปใครมา เราก็บอกว่ารูปครูบาอาจารย์ของเรา

นอกจากนี้แล้วในรถยนต์ที่ขับอยู่ทุกวัน ก็จะมีรูปท่านอาจารย์อุบลที่ยิ้ม และยกมือเหมือนแผ่ฉัพพรรณรังสี ออกไปด้วย อาจารย์ยิ้มและหัวเราะ เราดูทีไรก็รู้สึกสดชื่นไปด้วย และได้รับสัมผัสถึงความเมตตาที่ท่านส่งมาให้ลูกหลานจริง  ๆ  ที่บ้านจิ๋มมีรถหลายคันก็จริง แต่รถขาว โตโยต้า ที่ซื้อมาใหม่นี้ มีรูปอาจารย์ มีพีระมิด มีรูปองค์เทพสฟิงซ์อยู่หลังรถ ขึ้นขับทีไรก็รู้สึกอบอุ่น ปลอดภัยดีจริง ๆ

เคยกราบอาจารย์บ่อย ๆ พอกราบแล้วจะมีความรู้สึกมีตัว เบา สบายขึ้นทุกครั้ง ดังนั้น ก็คงเป็นอานิสงค์ที่ทางเบื้องบนได้กำหนดมาว่าท่านเป็นสิ่งที่ควรบูชาอย่างยิ่ง

ขอกราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญกับท่านอาจารย์อุบล ที่ยอมให้พวกเรากราบค่ะ

ชัชวลี

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 21:22:58


ความคิดเห็นที่ 24 (1640156)

"กราบท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือรูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด 

แล้วชีวิตดียังไง"

นายคมกริช  นามมงคุณ  อายุ  20  ปี  

เป็นคนกาฬสินธุ์  

ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี

 เรียนคณะพยาบาลศาสตรบัณฑิต  ชั้นปีที่  3

วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี  สุราษฎร์ธานี

ผมกราบอาจารย์อุบลครั้งแรกที่บ้านสวนพีระมิดทำให้ผมขนลุก  น้ำตาไหล  เหมือนเราได้กลับมาพบญาติผู้ใหญ่อีกท่านหนึ่ง  

กราบท่านอาจารย์ด้วยกายคือการกราบทางกายกราบสามครั้งเหมือนเรากราบพระเพราะเชื่อในคุณงามความดีของอาจารย์

กราบท่านอาจารย์ด้วยจิตใจด้วยการกำหนดจิตไปน้อมกราบอาจารย์ทุกครั้งที่ต้องการ  ทำให้จิตแช่มชื่นเบิกบานเหมือนเรากลับไปหาแหล่งกำเนิดเดิมที่เราจากมา

กราบท่านอาจารย์อุบลด้วยวาจาคือการกล่าวสรรเสริญคุณงามความดีของท่านและบอกเล่าเรื่องราวที่ท่านทำทำให้เรามีความสุขทุกครั้งที่ได้พูด

เมื่อลูกได้กราบท่านอาจารย์อุบลแล้ว  ทำให้ลูกสัมผัสได้ถึง  ความปีติยินดี  ได้รับพลังงานดีๆ  หลั่งไหลสู่จิตใจ  และร่างกาย  ทำให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้น  

ทำให้จิตใจเป็นสุข  และรู้สึกอบอุ่น  ปลอดภัย  แม้นในความฝัน  หากฝันถึงท่านอาจารย์อุบล  ผมก็จะดีใจมากๆ  และตอนที่ฝันเห็นท่านอาจารย์  ผมสังเกตว่าวันนั้น  ผมมีจิตใจใสสะอาดกว่าทุกๆวัน  เพราะเราตั้งใจทำความดี  รักษาศีล  และให้ทาน

บุคคลใดที่น้อมกราบท่านอาจารย์ด้วยจิตที่เคารพและศรัทธา  จิตเปิด  ย่อมเป็นการน้อมรับเอาสิ่งดีๆ  เข้ามาสู่ตัวเอง  เป็นการบูชาบุคคลที่ควรค่าแก่การบูชา  และคนที่กราบท่านอาจารย์ทุกๆคนที่จิตเปิด  ล้วนได้พบกับปาฏิหาริย์  ทั้งสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น  หายจากการเจ็บป่วย  หายจากความทุกข์ทั้งปวง  เกิดมาชาตินี้  ได้กราบท่านอาจารย์อุบล  และน้อมรับเอาความดีของท่านมาเป็นแบบอย่าง  ก็ได้ชื่อว่าเราได้บูชาบุคคลที่ควรบูชา  สาธุ  ลูกกราบขอบพระคุณท่านอาจารยอุบล  และเทพเทวดาที่คุ้มครองท่านอาจารย์  ที่ได้มาโปรดลุกๆหลานๆ  ให้เป็นสุข  พ้นทุกข์ทั้งปวง

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 21:32:01


ความคิดเห็นที่ 25 (1640168)

 

ผมชื่อ นาย อดิศักดิ์ โพธิสาร(ศักดิ์) อายุ 33 ปี

การศึกษา ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง

สาขา ช่างอุตสาหกรรม อิเล็กทรอนิกส์

เทคโนโลยีช่างกล พณิชยการนครราชสีมา

ตำแหน่ง Technician Supervisor

สถานที่ทำงาน Natural Ville Managed By ACCOR

จังหวัด กรุงเทพฯ

.............................................

 

ในหัวข้อเรื่อง

"กราบ

ท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือ

รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด 

แล้วชีวิตดียังไง"

 

 

 

...........................

แต่ก่อนมีคนเคยบอกผมว่าก็เป็นคนที่มือหนัก กว่าจะยกมือไหว้

คนอื่นเป็นเรื่องที่ยากลำบาก จะไม่ยอมยกมือไหว้ใครง่ายๆ

ถ้าคนนนั้นผมไม่นับถือจริงๆ  การที่จะกราบใครยิ่งยากกว่า

ไปวัดกราบพระ ก็กราบตามๆเขาไป แต่ในใจไม่ได้กราบด้วย

ซึ่งก็มีไม่กี่คน ที่ผมกราบได้อย่างสนิทใจ

ท่านอาจารย์ อุบล ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ผมมีความรู้สึกอิ่มเอมใจ

ทุกครั้งที่ได้ก้มลงกราบท่าน  กราบโดยไม่ได้เสแสร้ง

หรือกราบตามคนอื่นเขา แต่การกราบแต่ละครั้งมันมีความสุข

อย่างบอกไม่ถูก ถ้าอาจารย์ให้กราบทั้งวันคงจะดี

ผมคนหนึ่งที่จะยอมกราบให้ได้มากที่สุด

กราบแล้วเป็นยังงัย ..?

-.สิ่งแรกขณะที่ก้มลงกราบท่านคือ ความ อิ่มเอมในใจ

มีความสุขเหมือนอยากจะร้องไห้ เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก 

-.จิตใจมั่นคง มีสติมากขึ้น  ทำให้ดำเนินชีวิตในแต่ละวัน

อย่างมีความสุข โกรธน้อยลง จนในที่สุดนานฯจะโกรธที

ทำงานก็ดีขึ้น เก็บเงินอยู่ไม่มีเรื่องต้องใช้จ่ายอย่างอื่น

เพราะเลิกกินเหล้า เลิกซื้อหวย เลิกเที่ยว

เลิกเอาเงินไปเลี้ยงกิ๊ก แล้วเงินมันจะไปไหน

ทีนี้ก็ไม่ต้องโกหกภรรยา ชีวิตครอบครัวก็มีความสุข

...............................................

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อดิศักดิ์ โพธิสาร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 21:58:09


ความคิดเห็นที่ 26 (1640174)

ชื่อ  น.ส.เพชรดา  วรรณรักษ์ (เจี๊ยบ) อายุ 51 ปี

การศึกษา ปริญญาตรีบริหารธุรกิจ สาขาการบัญชี

อาชีพพนักงานบริษัท  ตำแหน่งสมุห์บัญชี

จังหวัด   นนทบุรี

เจี๊ยบเองก็เป็นคนนึงที่มือไม้แข็ง ไม่ค่อยจะกราบใครง่ายๆนอกจากกราบพระ และพ่อแม่ มีแต่ท่านอาจารย์นี้แหละค่ะ ที่เจี๊ยบกราบได้อย่างสนิทใจ ไม่ตะขิดตะขวงใจ

กราบแล้วมีความรู้สึกอิ่มเอมใจ มีความรู้สึกปลาบปลื้มใจ เป็นมงคลชีวิต เหมือนตัวเองได้กลับมาบ้านเดิมทุกครั้งที่กราบ และมีความสุขทกครั้งที่ได้กราบเช่นกัน

ชีวิตของตัวเองก็ดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ กิจการงานที่บริษัทก็ดีขึ้น ครอบครัวก็มีความรักความสามัคคี ความผูกพันกันมากขึ้น ความโกรธ ความขี้โมโหก็ลดลง

กราบขอบพระคุณในความเมตตาของท่านอาจารย์ ที่เปิดบ้านให้เจี๊ยบคนชั่วได้สร้างจิตสำนึกใหม่ ละ ลด เลิก กับกรรมชั่วค่ะ

ปรามาสท่านอาจารย์ผลที่ได้รับจะเป็นอย่างไร 

เจี๊ยบก็เป็นคนนึงที่เคยปรามาสท่านอาจารย์อยู่ในใจเช่นกัน

ตอนที่รู้จักบ้านสวนใหม่ๆ ก็ไม่เคยมีจิตคิดปรามาสท่านอาจารย์เลย ไม่เคยมีคำถามเรื่องการแต่งตัวของท่านอาจารย์ หรือเรื่องคิดว่าจะขายเครื่องสำอางเลย

แต่พอมาบ้านสวนได้สักระยะนึง จิตมันแวปคิดปรามาสท่านอาจารย์ขึ้นมาในขณะที่ท่านอาจารย์สอนธรรมมะอยู่นั้น จะมีจิตมารเข้ามาแทรก แล้วบอกเราว่าไม่จริง อย่าไปเชื่อเรื่องที่อาจารย์กำลังสอนอยู่นั้น หรือตอนที่ท่านอาจารย์ให้ไปใช้แรงกายสร้างบุญนั้น ขณะที่กำลังทำงานอยู่นั้น ในจิตก็จะบอกว่า นี่ฉันกำลังมาทำอะไรอยู่ที่นี่ ฉันบ้าหรือเปล่า

และเจี๊ยบเองก็ยังไม่ได้สารภาพบาปมโนกรรมที่เจี๊ยบคิดไม่ดีกับท่านอาจารย์เลย เพราะท่านอาจารย์ให้เลิกขอขมาแล้ว ให้ไปประกาศทางหนังสือพิมพ์ หรือเขียนทางแวปไซด์แทน พอดีกับที่ว่ามีมีจี้องค์สฟริงซ์ที่สามารถสารภาพบาปได้ เจี๊ยบก็เลยสารภาพบาปในจี้นั้นแทน

ผลกรรมที่เจี๊ยบได้รับจากการที่จิตคิดปรามาสท่านอาจารย์ ทำให้เจี๊ยบไม่เจริญในธรรม ผิวหนังก็ยังคันอยู่ สายตาก็ยังสั้นอยู่ ยังไม่สามารถปลดล๊อคกรรมได้ เพราะตัวเองยังมีบาปหนักนี้กั้นอยู่แน่นอน โล่งใจแล้วค่ะที่ได้สารภาพบาปของตัวเองแล้ว

เจี๊ยบกราบขอขมาท่านอาจารย์อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธ์ ที่คุ้มครองท่านอาจารย์อุบล ในสิ่งที่เจี๊ยบเคยล่วงเกินทั้งทาง กาย วาจา และทางใจค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 22:16:11


ความคิดเห็นที่ 27 (1640176)

ดิฉันชื่อ น.ส.ปาริชาต ชมภู  ชื่อเล่น อ้อย  อายุ 40 ปี

การศึกษาปริญญาตรี พยาบาลศาสตร์  มหาวิทยาลัยขอนแก่น

              ปริญญาโท การตลาด   มหาวิทยาลัยรามคำแหง

อาชีพ  ขายเครื่องมือแพทย์

ตำแหน่ง  Senior Sales Executive

จังหวัด  นนทบุรี

        ดิฉันเป็นคนที่ไหว้คนยากมาก  อย่าพูดถึงเรื่องกราบเลย  ถ้าไม่ชอบใครแล้ว ต่อให้เป็นผู้ใหญ่ก็ไม่สน  แต่ถ้ากับลูกค้าดิฉันสามารถฝืนตัวเองยกมือไหว้ได้  ทั้งๆที่ไม่ชอบเค้าเพราะเห็นแก่ประโยชน์เรื่องงานนั่นเอง

        ถ้าพูดถึงเรื่องกราบนึกถึงแต่การกราบพระ  ขนาดกับพ่อบังเกิดเกล้ายังได้กราบท่านตอนท่านบวชเป็นพระ กับตอนท่านเสีย   กับแม่ยิ่งแล้วใหญ่  พึ่งเคยกราบท่านเมื่อซัก 2-3 ปีมานี้ตอนเอาธูปเทียนแพ ไปขอขมาท่าน  ก่อนหน้านั้นไม่เคยเลย  ไหว้อย่างเดียว

        เมื่อดิฉันมาทำบุญที่บ้านสวนพีระมิด  เพราะรู้สึกศรัทธาและชอบวิธีการสอนธรรมะท่านอาจารย์อุบล  จากครั้งแรกประมาณมีนาคม 2554 จนปัจจุบันดิฉันมาบ้านสวนฯแทบทุกอาทิตย์ ยกเว้นเดินทางไปต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ  ได้เห็นพัฒนาการการช่วยเหลือคนของท่านอาจารย์อุบล  จากเน้นใช้แรงกาย อนุโมทนาบุญหน้าจอหาย  เริ่มมีรหัสจักรวาล อ.อุบลช่วยด้วย  มีองค์พีระมิดจำลอง แหวนสฟริงซ์ มีจี้องค์เทพสฟริงซ์สามารถสารภาพบาปได้  ช่วยคนอื่นได้อีกต่างหาก  แล้วก็มีกราบท่านอาจารย์แล้วหายเจ็บป่วย หายจน  ช่วงนั้นยังเฉยๆ  แต่พอมาซักพัก  พอมาถึงบ้านสวนฯเห็นท่านอาจารย์  เป็นไงไม่รู้มือเราคอยแต่อยากจะยกกราบท่าน   มันออกมาจากใจ อธิบายไม่ถูก  ยังทึ่งตัวเองเหมือนกัน  คำว่าความรู้สึกมันล้นออกมาจนรู้สึกอยากกราบท่านตลอด  สามารถกราบท่านได้อย่างจริงใจ ไม่มีอาการเคลือบแคลงใจ

         รู้สึกว่าตั้งแต่กราบท่านอาจารย์อย่างจริงใจ  เหมือนชีวิตมันปลดล็อคกรรมต่างๆได้  เปรียบเทียบเหมือนกับเราทำดีมามากมาย  แต่ทำไมบุญไม่ส่งผล  คิดว่ากรรมที่ขวางอยู่เป็นก้อนหินก้อนใหญ่ที่ปิดปากถ้ำอยู่  จู่ๆพอหินก้อนนี้หลุดไม่มาขวางทาง  บุญกุศลหรือความดีที่สร้างไว้ก็สามารถมาส่งผลได้เต็มที่  ไม่ว่าจะเรื่องงานจากที่ขายของไม่ดี  ทำยอดขายไม่ถึงเป้ามา 3 ปี ซึ่งถือว่าผิดปกติ  และเลวร้ายมากในงานขาย   พอมาบ้านสวนพีระมิด และได้กราบท่านอาจารย์  งานขายดิบขายดี  พอถึงเวลายอดขายก็มา สามารถขายได้เกิน 100% มาตลอดระยะ ปีกว่าที่มาบ้านสวนฯ   แถมเจ้านายที่เป็นต่างชาติก็กลับมารัก มาเมตตาและเชื่อมั่นในตัวเรา  ส่งเสริมให้เราก้าวหน้าอีก  การเงินก็ดีขึ้น  มีเงินใช้คล่องสะดวก  ไม่เคยคิดเลยว่า อานิสงส์บุญที่มาทำที่บ้านสวนและกราบท่านอาจารย์  จะส่งผลให้เห็นได้ในชาตินี้  แถมเร็วมาก ไม่เกิน 2 เดือนที่มาบ้านสวนฯ  เพราะตัวเองทำบุญมาตลอด ทั้งสังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน (แจกหนังสือ) แต่แค่รู้สึกมีความสุขตอนทำ  แต่ผลบุญแบบเป็นรูปธรรมทั้งงาน เงิน ไม่เคยเห็นชัดเหมือนที่บ้านสวนฯเลย

         จากเรื่องกราบท่านอาจารย์อุบล  ด้วยความเคารพจริงใจ ได้ปลดล็อคกรรมที่มีอยู่ ทีนี้มาถึงเรื่องปรามาสท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวผลกรรมเป็นเช่นไร

        ตอนที่ดูรายการคุยไปแจกไปครั้งแรก  เห็นท่าน อ.อุบลแต่งตัวสวย ดูเซ็กซี่ นึกในใจว่าทำไมคนสอนธรรมะ ต้องแต่งตัวอย่างนี้  ไม่นุ่งขาวห่มขาวยังโอเคพอรับได้  แต่นี่แต่งตัวสวยงามออกทางเซ็กซี่ต่างหาก  แต่ก็ฟังธรรมะอาจารย์ไปเรื่อยๆ  พอได้มาทำบุญที่บ้านสวนฯ  เห็นตัวจริงก็ยังคิดๆอยู่  รู้สึกตัวเองมีอาการปวดและมึนๆหัว  เวลาท่านอาจารย์แต่งตัวรัดรูป บางครั้งก็เผลอมองหน้าอก และสะโพก  ที่มองเพราะอิจฉาว่า  ทำไมอาจารย์เกิดมาเพียบพร้อมจัง ไอ้เราหุ่นเหมือนไม้กระดาน  หน้าหลังไม่แตกต่าง   บางครั้งมีคนมาสารภาพเรื่องคิดถึงท่านอ.มงคล และอ.อุบล ว่ามีอะไรกันหรือเปล่า  ดิฉันก็คิดตาม เอ้อจริงด้วย สงสัยด้วย  แทนที่จะคิดว่า  นี่คนคิดและตัวเรามันช่างสาระแนเรื่องส่วนตัวคนอื่น  แทนที่จะดูใจตัวเอง  หาเรื่องให้ขี้กลากขึ้นหัวซะแล้ว   ที่สำคัญกับคุณท็อป  ก็ไม่เว้น  ทั้งๆที่แกก็เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน  อยู่อย่างสงบ  แต่เนื่องจากธรรมชาติดิฉันเห็นใครดีไม่ได้  เห็นใครมีความสุขไม่ได้  ดิฉันต้องมองหาข้อเสียเค้าให้เจอ  เพื่อที่ดิฉันจะได้สบายใจว่า  คุณก็ไม่ได้เพอร์เฟคนะ  ยังมีความทุกข์เหมือนกัน  มันจะทำให้ดิฉันค่อยมีความสุขหน่อย   รู้สึกมีเพื่อนทุกข์ด้วย  สำหรับคุณท็อป หลังจากพยายามมองหาข้อเสียตั้งนาน กว่าจะพบในที่สุดก็เจอ 555 คุณท็อปหน้ามีสิว   ผิวหน้าไม่ค่อยเรียบ แต่ตอนนี้คุณท็อปหน้าตาดีขึ้นมากนะคะ  ขอบอก สงสัยจะเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้ว   

          สังเกตุว่าถ้าคิดเกี่ยวกับสัญลักษณ์ทางเพศกับท่าน อ.อุบล หรือ อ.มงคล จะมีอาการคันตามตัว บางครั้งก็มีตกขาว คือน่าจะมีปัญหาที่สัญลักษณ์ทางเพศของเราเหมือนกัน

         ตอนที่มีสติคิดได้ว่า  เรากำลังคิดไม่ดี ปรามาสทั้ง อ.อุบล อ.มงคล คุณท็อป ก็ระลึกได้ว่า เรานี่มันช่างยึดติดกับเปลือก หรือรูปลักษณ์ภายนอกของคนจริงๆ  ไม่มองเข้าไปถึงเบื้องลึกจิตใจของทั้ง 3 ท่านเลยว่า  ถ้าท่านไม่เสียสละบ้านของตัวเองให้เป็นที่ปฎิบัติธรรม  ให้ใครๆที่ไม่ค่อยมีมารยาทเข้ามาบ้านเรา  มาทำบ้านเรารก สกปรก ไม่เป็นระเบียน  เปลืองค่าน้ำค่าไฟ ค่าอาหาร  พวกเราก็จะไม่มีโอกาส ได้ดวงตาเห็นกรรม  และตามมาด้วยเห็นธรรม  คนที่จะทำอย่างนี้ได้เค้าต้องมีจิตใจสูงส่ง  สามารถรักคนได้อย่างไม่มีเงื่อนไขจริงๆ   พอคิดได้ก็จะขอขอมาท่าน  ซึ่งอาการปวดหัว มึนหัวจะหายไป 

         ตอนนี้ดิฉันไม่ต้องคิดอะไรมาก  แค่ทำตามอาจารย์อุบลบอกก็พอ  ท่านให้ทำอะไรก็ทำให้เต็มที่ เช่นทำสังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน อภัยทาน  (อันนี้ยากมาก  แต่กำลังพยายามอยู่)  แล้วชีวิตคุณจะมีแต่สิ่งดีๆเข้ามา

         กราบขอขมาท่านอาจาร์อุบล  อาจารย์มงคลและคุณท็อป ที่ดิฉันได้คิดล่วงเกินปรามาศ  เพ่งมองแต่รูปลักษณ์ภายนอก  ไม่สัมผัสเข้าไปถึงแก่นแท้ภายในจิตใจของท่านทั้ง 3 คน  ดิฉันสำนึกผิดแล้ว ว่าตัวเองช่างโง่เขลา เบาปัญญา และสัญญาว่าดิฉันจะไม่ทำผิดบาปนี้อีกค่ะ  กราบ กราบ กราบ

         กราบขอบพระคุณท่าน อ.อุบล และเทวดาที่ดูแลรักษาท่านอ.อุบล ที่ีเมตตามาช่วยลูกหลานให้พ้นทุกข์ และสามารถปลดล็อคกรรมได้ สาธุ สาธุ  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 22:20:54


ความคิดเห็นที่ 28 (1640182)

ดิฉันชื่อ นางสาววรางคณา  พุฒศรี  อายุ 23 ปี  จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์  จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี  ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระบบงานคอมพิวเตอร์  อยู่ที่จังหวัดกรุงเทพค่ะ

เหมียวเป็นคนหนึ่งที่มือแข็งมาก จะยกมือไหว้ใครแต่ละที ก็ยากมากมาย ยิ่งกราบแล้วยิ่งแล้วไปใหญ่จะอายมากมาย แต่แปลกมาก พอมากราบท่านอาจารย์อุบลไม่รู้สึกเขินอาย ไม่รู้สึกเลยว่าการกราบเท้าทำให้เราลดตัวลงแต่อย่างใด ไม่เคยคิดเรื่องนี้เลยค่ะ พอได้กราบท่านรู้สึกสบายใจ รู้สึกว่าปลื้มมากค่ะ รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ รับรู้ถึงความรักความเมตตาของท่านอาจารย์อุบลที่มีต่อพวกเราลูกๆบ้านสวนอย่าหาที่สุดไม่ได้จริงๆค่ะ ทำให้มีความสุขทุกๆครั้ง

ตอนนี้ตัวเองเริ่มละวางความโกรธได้เยอะ อารมณ์ใจร้อนยังมีอยู่บ้างแต่น้อยลงกว่าเดิม  อาการหงุดหงิดก็ดีขึ้นมาก แต่ยังหลงเหลืออยู่บ้างกับคนใกล้ตัวเช่นพ่อแม่ อันนี้ยอมรับเลยค่ะว่าบาปมาก แต่พยายามกดไว้ แต่กับเพื่อนร่วมงานกับหัวหน้า ตอนนี้เริ่มปล่อยวางเฉยๆสบายๆเวลาเค้าโกรธ ก็ถือว่าไม่เกิดอะไรขึ้นค่ะ  ตอนนี้ชีวิตของตัวเองเริ่มดีขึ้น คนที่เข้ามายุ่งกับเราในเชิงชู้สาวตีตัวออกห่างมากขึ้นกว่าเดิมเยอะค่ะ การงานก็ราบรื่น ปัญหาสุขภาพก็ดีขึ้นค่ะ และก็มีความสุขกับชีวิตปัจจุบันค่ะ

ขอกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ ท่านอาจารย์อุบล อาจารย์มงคลและคุณท๊อปค่ะ   กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น วรางคณา พุฒศรี(มะเหมียว) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 23:07:59


ความคิดเห็นที่ 29 (1640189)

ยิ่งอ่านยิ่งม่วนซื่นโฮแซวเด้อพี่น้อง...

เรียกว่าแต่ละท่านล้วนได้รับประสบการณ์อัศจรรย์ ความสุข และการพ้นทุกข์แบบทันที โดยไม่ต้องตั้งท่าไรมากมายเลย

นี่ขนาดกราบท่านอาจารย์หรือรูปของท่านยังได้อานิสงค์มากมายขนาดนี้ แล้วคนที่ปรามาสท่านล่ะ....บรื๋อออ ไม่อยากจะคิดเลย

เอาเป็นว่า ทุกท่านสามารถรวมทั้งสองเรื่อง คือ กราบท่านอาจารย์/รูปท่านอาจารย์

และ

ปรามาสท่านอาจารย์อุบล จะได้ผลกรรมอย่างไร

รวมทั้งสองเรื่องนี้ไว้ในธรรมทานเดียวกันเลยนะครับ

จะได้เห็นกันจะๆไปเลยครับว่า ถ้ากราบด้วยความเคารพจะสุขขนาดไหน และหากปรามาส จะทุกข์อย่างไร

ใครที่มัวแต่ลีลา ขอบอกว่า อดบุญใหญ่ตามเคยเน้ออ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 00:06:53


ความคิดเห็นที่ 30 (1640190)

กระผม นายพงษ์เดช ชาวไทย/ตัวเล็ก

การศึกษา มัธยมศึกษาปีที่ 6

อาชีพ พนักงานบริษัท

ตำแหน่ง ซูบเปอร์ไวเซอร์

   ผมเป็นคนที่มือไม้อ่อนก็จริงก็ตามประสาอาชีพบริการ จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผม เพราะมันเป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นโดยอัติโนมัติ บางครั้งก็ไม่ได้มาจากใจหรอกครับทำไปอย่างงั้นแหละ

   ตั้งแต่ที่ได้พบคำสอนของท่านอาจารย์อุบล แห่งบ้านสวนพีระมิด ทำให้ผมได้รู็ว่า การที่เราจะไหว้ใครต้องออกมาจากใจครับ และเป็นการละอัตตาด้วย โดยเฉพาะกับท่านอาจารย์ด้วยแล้วเรียกว่าสนิทใจและทำให้ผมได้รับพลังแห่งความสุขได้ความสุข ทุกครั้งที่เข้าใกล้ได้รับความเย็น สงบแบบบอกไม่ถูกไม่ใช่เย็แแบบตู้เย็น แต่เป็นความเย็นที่ได้จากใจ ทุกครั้งที่มีปัญหาจะหยิบรูปของท่านออกมาดูทำให้นึกถึงคำสอนของท่าน ในกระเสื้อจะพกตลอด ในรถจะมีตลอด

  หลายๆครั้งที่ลูกบ้านสวนก้มลงกราบท่านๆจะบอกว่าคิดว่ากราบคำสอนของพระพุทธเจ้า แต่ขอสารภาพว่าผมไปมาหลายๆที่ไม่มีท่านผู้ใดทำให้ผมกราบได้สนิทใจนอกจากท่านอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์และพ่อกับแม่เท่านั้นจริงๆเลยนะครับ

   ขอกราบขอขพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธื์ในสากลโลกที่ทำให้ได้มาพบสถานที่แห่งนี้ ขอมอบบูญในทุกๆบุญแก่เทวดาประจำท่านอาจารย์อุบล อาจารย์มงคลและคุณท๊อป รวมทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งหมดเลย สาธุๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น พงษ์เดช ชาวไทย/ตัวเล็ก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 00:10:26


ความคิดเห็นที่ 31 (1640198)

 

ผมนายโฆษิต ควรหาเวช
อายุ 47 ปี  จบการศึกษาปริญญาโท
จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)
ปัจจุบัน ทำงานอยู่ที่ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์
และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ จ. ปทุมธานี
 
ผมรู้จักบ้านสวนฯ ครั้งแรกจากเว็ปพลังจิตครับ
บอกแล้วอาจจะไม่เชื่อว่า ก่อนที่ผมจะมาที่บ้านสวนพีระมิด
ผมแอนตี้ที่นี่มาก ว่าทำไมถึงต้องให้คนที่มาสารภาพบาป
แถมยังนำไปออกอากาศให้คนอื่น ๆ เค้ารับรู้ด้วย
 
แต่หลังจากได้มาทำบุญที่บ้านสวนฯ
ได้มีโอกาสเห็นความเสียสละความเมตตาของ
ท่านอาจารย์และครอบครัวของท่าน
 
ได้ทราบว่า การสารภาพบาปเป็นธรรมทาน
ที่มีอานิสงส์อันยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อนำไปออกอากาศ
และสามารถหยุดยั้งการประกอบกรรมของผู้รับชมรับฟังได้
 
ได้พบคำสอนของท่านที่อาจจะตรงและทำร้าย
ต่อมความเลวของตัวเองหลายครั้ง
แต่หลังจากที่ปฏิบัติตาม และผ่านไปได้แล้ว
ชีวิตมีความสุขขึ้นมาก จะไม่มีความสุขได้อย่างไร
ในเมื่อสามารถละวางอัตตา ละวางความโกรธลงได้บ้าง
แม้ไม่หมด ยังมี แต่ไม่หนาแน่นมากมายเหมือนเมื่อก่อน
 
ผมจึงชอบกราบท่านอาจารย์ ไม่ใช่กราบแล้วหายโรค
แต่กราบแล้ว หายโง่ มากกว่า และกราบท่านแล้วมีความสุขใจ
เพราะได้กราบท่านผู้มีพระคุณอย่างล้นเหลือของผม
ถ้าไม่ได้ท่าน ผมคงตกนรกขุมลึกกว่าปัจจุบันแน่นอนครับ
 
ยังจำได้ว่า ท่านอาจารย์ยังเคยบอกผมว่า
ผมน่ะไม่เคยกราบเท้าแม่ ให้ไปกราบท่านเสีย
แล้วชีวิตจะดีขึ้นกว่าเดิมซึ่งหลังจากนั้น ผมก็กราบเท้าแม่มาตลอด
 
ผมขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ทั้งสองและคุณท็อปเป็นอย่างสูง
ที่เมตตาอนุญาตให้ผมมาทำบุญที่บ้านสวนฯ และพบความสุขครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 01:24:18


ความคิดเห็นที่ 32 (1640207)

ชื่อ นางสาวประภาสิริ    ถาวร   ชื่อเล่น มิ้ม

อายุ 28 ปี     จังหวัดที่อยู่ กำแพงเพชร

การศึกษา ปริญญาตรี คณะครุศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อาชีพ รับราชการครู

"กราบรูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

แล้วชีวิตดียังไง"

      มิ้มได้รู้จักบ้านสวนพีระมิดเพราะค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับภัยพิบัติในต้นปี 54 ทุกครั้งที่เข้ามาในเว็บไซท์บ้านสวนความทุกข์ไม่สบายใจจะหายไป ใจสงบมีความสุขทุกครั้ง และชอบอ่านคำสอนที่ท่านอาจารย์อุบลสอน เพราะเป็นภาษาง่าย เข้าใจเลย เอาไปปฏิบัติก็ง่ายทำให้พ้นทุกข์  ใจของมิ้มมีความสุข มีปัญญา มีพลังทุกครั้งที่เข้ามาในเว็บ คำสอนของท่านอาจารย์สามารถมาเปลี่ยนคนบาปหนาอย่างมิ้มได้ตั้งแต่ติดตามทางเว็บไซท์ก็ตัดสินใจไม่เบียดเบียนเลิกทานเนื้อสัตว์ และพยายามหันมาตั้งใจรักษาศีล 5 ทำสมาธิ และในที่สุดก็ได้มาบ้านสวนตอนนั่งมอเตอร์ไซท์เข้ามารู้สึกปีติ มีความสุข น้ำตาไหลตื้นตันที่ในที่สุดก็ได้มาบ้านสวนแล้ว

      ทุกครั้งที่ได้พบเห็นหน้าท่านอาจารย์จะรู้สึกเบิกบานใจ มีความสุขมากๆๆ อาการเหนื่อยหายไปหมด มีแต่ความสุขสดชื่น พลังแรงกายแรงใจกลับมา มีความรู้สึกว่าแค่ได้เห็นท่านก็ได้รับพลัง มีพลังแล้ว ตอนที่กราบท่านอาจารย์ใจยิ่งรู้สึกปีติมีความสุข สดชื่น มีพลัง ความเหนื่อยล้า ง่วงนอน ความทุกข์ใจหายหมดเลย รู้สึกจิตใจสงบเย็นเหมือนได้กราบพระพุทธเจ้า ตั้งแต่นั้นมาทุกครั้งที่ได้บ้านสวนมีโอกาสก็จะกราบท่านอาจารย์ทุกครั้ง เพราะรู้สึกศรัทธารักบูชาท่าน ทุกครั้งที่กราบท่านเหมือนได้กราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งจักรวาล  กราบด้วยใจ กราบด้วยความศรัทธา มีความสุข สงบ เบิกบานมีพลัง พ้นความทุกข์ทั้งหมดจริงๆค่ะ

      ต่อมาได้บูชารูปท่านอาจารย์กลับบ้านและไว้ที่ห้องพระ เวลาจะสวดมนต์ นั่งสมาธิ จะกราบท่านอาจารย์ กราบแล้วใจสงบ เบิกบานมีความสุข หลายครั้งมากที่กราบแล้วมีอาการปีติขนลุกน้ำตาไหล เวลาทำสมาธิก็ทำสมาธิได้ดีได้นาน

      หลายครั้งที่มีเรื่องทุกข์อยู่ในใจ  หาทางออกไม่ได้ ก็จะเข้าห้องพระนั่งมองที่รูปท่านอาจารย์แล้วกราบ พอได้กราบใจเริ่มสงบ ความทุกข์คลายออกไป สติปัญญาก็เข้ามาคิดออกหาทางออกได้ พ้นจากความทุกข์พบกับความสุข ใจสบายเป็นสมาธิ ปัญหาที่เรามีแก้ได้มีทางออกทุกครั้งที่กราบรูปท่านอาจารย์อุบล สาธุ กราบขอบพระคุณบุญบารมีอันสูงยิ่งของท่านอาจารย์อุบลที่ทำให้มิ้มพ้นทุกข์เพียงแค่กราบท่านอาจารย์ด้วยจิตเคารพ ศรัทธาค่ะ สาธุ

      คนที่มิ้มได้ไปใช้จี้สามร่มโพธิ์ศรีบำบัด  อาการเจ็บป่วยจะดีขึ้นและจำนวนมากที่อาการเจ็บป่วย ความทุกข์หายไปหมดเพียงกราบรูปท่านอาจารย์อุบลด้วยความเคารพ

      คนที่ทำให้มิ้มรู้สึกทึ่งมากๆมีอยู่หลายคนค่ะ ขอเล่า 3 คน

คนที่ 1 คุณยาย ป่วยเป็นอัมพฤกษ์เพียงกราบรูปท่านอาจารย์ด้วยความเคารพก็หายจากอัมพฤกษ์ คุณยายบอกว่า “ยายหายแล้ว!!! ปีติตื้นตันไปด้วยค่ะ

คนที่ 2 พี่ป่วยเป็นกระดูกทับเส้นปวดตั้งแต่หลังไปจนถึงขา เจ็บป่วยมาเป็นแรมปี นั่งทำงานไม่ได้ คุณหมอบอกว่าถึงจะผ่าตัดก็อาจจะไม่หาย  แต่ผลปรากฏเป็นอัศจรรย์ คือ มิ้มเล่าให้พี่เค้าฟังว่าท่านเป็นครูอาจารย์ของมิ้ม สอนธรรมให้ชีวิตใหม่กับมิ้ม มีบุญบารมีมากมีคนที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์กราบด้วยใจศรัทธาแล้วหาย พี่เค้ารู้สึกจิตเปิดศรัทธามาก กราบครั้งแรกพี่เค้าบอกปีติมีความสุข ขนลุกไปทั้งตัว พอกราบครั้งที่ 2 อาการปวดที่หลังและขาหายไปหมดแล้ว เหลือเพียงจุดเดียวคือ ปวดที่ก้นกบ อัศจรรย์ทีสุดเลยค่ะ ขณะที่พี่เค้ากราบด้วยความศรัทธาเหมือนกราบพระพุทธเจ้า พี่เค้าคงได้รับพลังบุญบารมีจากรูปท่านอาจารย์ทำให้เจ้ากรรมนายเวรที่เกาะตามจุดต่างๆมาโมทนาบุญทำให้หายเจ็บหายป่วย สาธุ

คนที่ 3 ครูสมศักดิ์ ปวดแขนมานานคนนี้มิ้มนำจี้สามร่มโพธิ์ศรีบำบัด อาการดีขึ้น 50 % ที่เหลือมิ้มให้กราบรูปที่เป็นรูปกระดาษขาวดำถ่ายเอกสารขนาดเล็ก ครูสมศักดิ์บอกว่ากราบแล้วรู้สึกอาการดีขึ้น มิ้มก็ให้กราบไปเรื่อยๆ แล้วก็มีโทรศัพท์ของครูเค้าแทรกมา หลังคุยโทรศัพท์เสร็จลองยกแขน พูดกับมิ้มด้วยความดีใจว่า หายปวดทั้งหมดเลย ยกแขนได้แล้ว สุดยอด ศักดิ์สิทธิ์มากๆๆเลยภาพนี้ เดี๋ยวจะนำไปเข้ากรอบ กราบทุกวันเลยจะได้หายเจ็บหายป่วย แก้ปัญหาชีวิตได้เหมือนวันนี้ เค้าตื่นเต้น ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์และมิ้มใหญ่เลยค่ะ

          กระดาษแม้เพียงถ่ายเอกสารขาวดำ แต่มีรูปท่านอาจารย์อุบลก็เป็นรูปที่ศักดิ์สิทธิ์มีบุญบารมีมากล้น เทวดาคุ้มครองมาก เพียงแค่กราบด้วยความศรัทธาก็หายเจ็บ หายป่วย พ้นทุกข์แล้วละคะ สาธุ

      หลายๆคน รวมทั้งมิ้มด้วย ต่างตั้งคำถามว่าท่านอาจารย์อุบลเป็นใครกันนะ ทำไมท่านถึงมีบุญบารมีมากขนาดนี้  เพียงแค่กราบรูปท่านด้วยความศรัทธาก็สามารถได้รับพลังบุญบารมีของท่านได้แล้ว นี่เป็นเรื่องอัศจรรย์ที่สุดในชีวิตของมิ้มและอีกหลายคนที่ได้กราบท่าน เพราะตั้งแต่เกิดมาในชีวิตกราบอะไรก็กราบมาเยอะแล้ว กราบด้วยความศรัทธาด้วย  แต่ทำไมไม่หายเจ็บหายป่วย หายทุกข์เหมือนกราบท่านอาจารย์อุบล สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 05:12:09


ความคิดเห็นที่ 33 (1640208)

 ชื่อ นางสาวนันทนา แหกาวี 

ชื่อเล่น หญิง

อายุ 21 ปี 

การศึกษา Fornby folkhögskolan  (แต่เรียนไม่จบ เกเรออกมาซะก่อนค่ะ)

อาชีพ พนักงานบริษัท Åkerströms Björbo AB

ที่อยู่ รัฐดอลาร์น่า ประเทศสวีเดน

พูดถึงเรื่องกราบแล้วสำหรับหญิง บอกตรงๆว่าเกิดมาแทบจะไม่เคยกราบใครนอกจากพระพุทธรูป เคยกราบแม่ตัวเองอยู่ 2 ครั้งถ้าจำไม่ผิด

ครั้งแรกคือสมัยเรียนอาจารย์มาเยี่ยมบ้าน อาจารย์บอกให้เรากราบ ในใจตอนนั้นมันก็เขินๆอายๆเพราะไม่เคยกราบแม่เลย 

ก็เลยคิดแต่ว่า เอาฟร่ะ กราบก็กราบเดี๋ยวอ.ไม่ให้เราผ่านวิชานี้ทำไง ครั้งที่ 2 คือหลังจากที่กลับมาจากบ้านสวนค่ะ

ก็กราบขอขมาแม่ในเรื่องที่เคยทำตัวไม่ดี เคยทำให้แม่เสียใจ แค่นี้เอง


สำหรับหญิงแล้วก็รักและเคารพท่านอ.อุบล เปรียบเสมือนครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณมากที่สุดคนหนึ่งในชีวิตเลยก็ว่าได้

เพราะท่านอ.อุบล สอนธรรมะในแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน เพราะก่อนหน้านี้เคยเรียนรู้ศึกษาธรรมะจากวัด หรือตามสำนักธรรมต่างๆ

แต่ก็ไม่มีผลที่จะทำให้เราเปลี่ยนจิตใจ ให้คิดดี ทำดีได้ คือพูดง่ายๆว่าฟังหูซ้ายทะลุหูขวา แต่ธรรมะของพระพุทธเจ้าที่อ.อุบลถ่ายทอดมา

นำมาสอน รู้สึกว่าเป็นธรรมะที่จับต้องได้ คือสอนแล้วเห็นผลทันตา มีข้อพิสูจน์มาให้ว่าเราทำกรรมอะไรมาทำไมจึงเป็นแบบนี้

เมื่อเราสารภาพและไม่คิดจะกลับไปทำอีก เราก็สามารถหายได้ จึงทำให้รู้สึกเริ่มสนใจธรรมะอย่างละเอียดมากขึ้น 

เคยกราบท่านอ.อุบลตอนดูรายการ คุยไปแจกไป ในคอมค่ะ

หลังจากนั้นก็กราบตอนกลับไทยปีที่แล้ว (2554) ตอนกราบมันตื้นตัน น้ำตาไหล ปีติ คือรู้สึกได้ว่าเรามีความสุขมากๆที่ได้

กราบและได้เจอผู้ที่จะช่วยชี้ทางสว่าง ที่เราตามหามานานแสนนานอะไรประมาณนั้นค่ะ กราบแล้วเหมือนได้ ปลดทุกข์ ทุกๆเรื่องที่สะสมอยู่ในใจของเรามานานแสนนานค่ะ

ทุกข์ที่มีอยู่เหมือนมันหายไปในชั่วพริบตา ความทุกข์หายไปดีใจยิ่งกว่าได้เงินล้านอีกค่ะ เพราะมีเงินมากแค่ไหนเราก็ซื้อความสุขมาแทนที่ความทุกข์ไม่ได้อยู่ดี เพราะฉนั้นความทุกข์ในชีวิตถ้าอะไรมันทำให้ความทุกข์คลายไปได้ถือว่าสิ่งๆนั้นมันเป็น

สิ่งที่ประเสริฐมากๆค่ะ


เพราะฉนั้นหญิงจึงเชื่อว่า ท่านอ.อุบล จะต้องเป็นผู้ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบขั้นสูงมากๆ เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่มีปาฏิหาริย์แก่ผู้กราบเช่นนี้

และเป็นผู้ที่สมควรแก่การเคารพ กราบไหว้สำหรับหญิงจริงๆค่ะ เวลากราบความรู้สึกจึงเหมือนกราบไหว้พระที่เราเคารพเลย เพราะท่านอ.อุบล ไม่ได้สอนแต่ปาก แต่สามารถปฏิบัติได้ตามที่สอนเรามา จึงไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไมเราถึงรักและศรัทธา โดยเฉพาะเวลากราบ กราบโดยที่ไม่ต้องคิดอะไรเลย


ทุกวันนี้ก็จะไหว้พระก่อนนอนทุกวัน และรูปอ.อุบล จะอยู่ใต้ที่นอนตรงหัวเตียง และจะคิดเสมอว่าเรากราบอ.อุบลไปด้วย

ทำให้ชีวิตราบรื่นกว่าเมื่อก่อนเยอะมากๆค่ะ เพราะเมื่อก่อนจะมีทุกข์สารพัด ทั้งเรื่องเงิน เรื่องงาน และทุกข์ทางใจอีกเยอะแยะมากมาย

กราบแล้วเหมือนเราได้ปลดเปลื้องกรรมออกไป โดยเฉพาะเรื่องงานก็ดีขึ้น เพราะตอนนี้เศรษกิจที่สวีเดนค่อนข้างแย่มากๆ หลายๆบริษัทต้องล้มละลาย และบางบริษัทก็ทยอยปลดพนักงานออก แต่บริษัทที่หญิงทำงานอยู่ ก็ยังไปได้ด้วยดี แถมมีออเดอร์เข้ามาตลอดไม่ขาดสาย

เรียกได้ว่าไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในตอนนี้เลย ทุกอย่างราบรื่นไปหมด การกราบของเราไม่ได้มีอานิสงค์แค่ตัวเรา

แต่มีผลไปถึงเพื่อนร่วมงานและเจ้าของบริษัทด้วยค่ะ เพราะบริษัทไม่เจ๊ง แถมตัวเราเองเพื่อนร่วมงานก็ไม่ต้องโดนปลดอีก อานิสงค์ช่างมากมายบรรยายไม่หมดจริงๆ


กราบขอบพระคุณท่านอ.อุบล และครอบครัว และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ด้วยค่ะ

ที่เมตตาช่วยเหลือชี้ทางสว่างให้ลูกหลานได้พบทางพ้นทุกข์ มีสุข ชีวิตราบรื่นมาตลอด

สาธุ สาธุ สาธุ

****************************************

อนุโมทนากับพี่ธนาด้วยนะคะ

สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 05:34:33


ความคิดเห็นที่ 34 (1640213)

ชื่อ เนางเครือวัลย์ ทัดเที่ยง  65 ปี

การศึกษา ชั้นป.4

หน้าที่การงาน แม่บ้าน

 

จังหวัดที่อยู่ กาญจนบุรี

"กราบ

ท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือ

รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

แล้วชีวิตดียังไง"

ดิฉันไม่สบายเป็นโรครูมาตอยด์มา30ปี

ปวดทรมาณมากค่ะมือจับอะไรก็ไม่ถนัด

ครั้งแรกที่ได้มาบ้านสวนและกราบท่านอาจารย์อุบล

รู้สึกเบาสบายหายปวด มีความสุขค่ะ

และเวลามีอาการปวดมือปวดขา จะกราบรูปท่านอาจารย์

ขออาจารย์อุบลช่วยด้วย ก็จะหายปวดไม่ต้องกินยา

และเวลาเดินทางใกล้ไกลจะพกรูปอาจารย์ติดตัวและห้อยคอ

รู้สึกปลอดภัย และอบอุ่นใจ

ตอนที่ดิฉันถ่ายท้องมากและช็อค

เข้าให้ไอซียูดิฉันคิดว่าต้องตายแน่นอน

ลูกสาวบอกให้คิดถึงอาจารย์อุบล

และกราบท่านอาจารย์อุบลแล้วสวมจี้เทพสฟิ้งซ์

ดิฉันรู้สึกมีกำลังขึ้นมากหายใจโล่ง

และดีขึ้นหมอให้ออกจากไอซียูและกลับบ้าน

โดยไม่นอนโรงพยาบาลเลย

ท่านอาจารย์อุบลคอยช่วยดิฉันตลอดเวลา

และดิฉันเรียกอาจารย์อุบลตลอดเวลาค่ะ

ขอกราบขอบพระคุณเทวดา

ที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์

ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว

ที่ได้เมตตาช่วยชีวิตดิฉันค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 06:48:48


ความคิดเห็นที่ 35 (1640215)

แล้วถ้าเธอได้รู้ว่า

คนที่ได้กราบเธอ นอกจาก

จะหายจากทุกข์โศกโรคภัย

หรือบันเทาเบาบางได้

ในทันทีแล้ว

 

ผู้ที่กราบเธอ

ยังจะรอดพ้นจาก

ภัยพิบัติใหญ่น้อยทั้งปวง

เธอจะยอมไหม

หรือว่า

เธอจะปล่อยให้ผู้คนทั้งหลาย

ล้มตายกันเป็นเบือ

เพราะเธออาย

........................

กราบพระบาทสมเด็จองค์ปฐม

และกราบอนุโมทนา

กับท่านอาจารย์ด้วยค่ะ

ที่เมตตามาบอกถึง

ความลับสำคัญเกี่ยวกับ

อานิสงค์ที่ได้จาก

การกราบท่านอาจารย์อุบล

 

ให้ลูกหลานบ้านสวนฯ

ได้มีความเข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น

เพราะถึงแม้พวกเรา

จะสัมผัสได้ด้วยตัวเอง

ในขณะที่กราบแล้วก็ตาม

 

แต่ตอนนี้ได้รู้แบบชัดแจ้งยิ่งขึ้น

เมื่อได้อ่านธรรมทานนี้

 

กราบแล้วหาย

หรือบรรเทาทุกข์ทันที

 

กราบแล้ว รอดพ้นภัยพิบัติได้

สาธุ สาธุ สาธุ

 

สงสัยใกล้ถึงวันที่พระศรีอาริย์

จะมาปรากฏกายแล้วนะคะเนี่ย

..................................

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 07:05:14


ความคิดเห็นที่ 36 (1640230)

ช่วงนี้ลูกบ้านสวนฯหลายๆท่านเริ่มได้รับอานิสงค์กันมากมายและเห็นชัดเป็นรูปธรรม ตั้งแต่เริ่มทำบุญธรรมทานรูปแบบใหม่ซึ่งท่านอาจารย์อุบลได้เมตตาบอกมาเมื่อเร็วๆนี้

ตอนนี้ผมก็ขอเชิญชวนพี่น้องทุกท่าน ร่วมสร้างสุดยอดธรรมทาน เพื่อปลดล็อคปัญหา อุปสรรคต่างๆในชีวิตของทุกท่าน ในคลี่คลาย พบหนทางสว่าง ในชีวิตอย่างรวดเร็วที่สุด

ในหัวข้อ

"ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

แล้วจะได้รับผลกรรมอย่างไร"

ท่านใดที่เคยปรามาสท่านอาจารย์อุบล ทั้งความคิด การพูด การกระทำ หรือมีส่วนรู้เห็นเป็นใจ และท่านได้รับผลกรรมเช่นไร หรือว่าเราเคยพบเห็นบุคคลที่เคยปรามาสและได้รับผลกรรมเช่นไร ก็เชิญเขียนระบุข้อมูลให้ชัดเจนครับ

ธรรมทานมีค่าเหล่านี้จะถูกรวบรวมเป็นเล่มเพื่อแจกเป็นธรรมทานแก่ญาติธรรมทั้งหลายที่มาสร้างบุญที่บ้านสวนพีระมิด และผู้ที่สนใจทั่วไป

อ้อ การเขียนนั้น ขอให้ท่านเขียนชื่อ สกุล การศึกษา เช่น ปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์คอมพิวเตอร์ เป็นต้น ตำแหน่งหน้าที่การงาน จังหวัดที่ท่านอยู่ ให้ชัดเจนด้วยนะครับ

ขออนุโมทนาบุญล่วงหน้ากับทุกๆท่านด้วยครับ สาธุ

นำมาเขียนรวม

ไว้ใน

กระทู้นี้เลย

นะครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 08:52:24


ความคิดเห็นที่ 37 (1640231)

ความเห็นที่ 1 (1640038)
แจ้งลบความคิดเห็น

ชื่อ นางมยุรฉัตร สุดจิตต์

จบการศึกษา ปริญญาตรี บริหารธุรกิจการบัญชี มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ

อาชีพรับราชการ ตำแหน่งนักตรวจสอบภาษีชำนาญการ

สำนักงานสรรพากรพื้นที่กาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

 

ดิฉัน เคยปรามาสท่านอาจารย์อุบล 2 ครั้ง

ครั้งที่ 1 ปรามาสเรื่องเครื่องสบู่พาเมล่า และเครื่องสำอางค์พาเมลา

ดูรายการคุยแจกไปครั้งแรกก็รีบไปซื้อสบู่มาใช้

อยากให้สิวหาย แต่ไม่ได้ศึกษาคู่มือหนีกรรมผิวพรรณเลย

พอใช้ครั้งแรกก็รู้สึกดีหน้านุ่ม

แต่สิวก็ไม่ยุบ ก็ยังมีสิวขึ้น

ก็คิดในใจว่าสบู่ของอาจารย์ดีจริงหรือปล่าวนะ

ผลกรรมที่ได้รับค่ะ

หน้ามีสิวอักเสบเฮ่อขึ้นเต็มหน้าและเม็ดใหญ่กว่าเดิม

ด้วยความโง่เขลาเบาปัญญา

พอมารู้ภายหลังว่าคนจะใช้เครื่องสำอางค์พาเมลา

ต้องอ่านคู่มือหนีกรรม 9 จบถึงใช้ได้

คราวนี้ก็ทำให้ถูกต้อง รู้สึกสิวอักเสบเม็ดใหญ่ ๆ ยุบอย่างรวดเร็วค่ะ

 

เรื่องที่ 2 ดูรายการคุยไปแจกไป แล้วไปมองเป้ากางเกงอาจารย์อุบล

แล้วความคิดลามกมันก็ผุดขึ้นมา

คราวนี้ความคิดชั่วๆ นี้มันไม่ยอมหยุดเลยค่ะ

ผลกรรมที่ได้รับค่ะ

อกแทบระเบิด ความคิดจิตใจของตนเองมันตีกันเอง

นอนก็ไม่หลับ มันหลอกหลอน

มันรุ้นรุ่มในใจตลอดเวลา ทำอย่างไรก็ไม่หาย

นั่งสมาธิก็ไม่หาย แผ่เมตตาก็ไม่หาย

ท่องพุทธโธก็ไม่หาย อาจารย์อุบลช่วยด้วยก็ไม่หาย

อยู่ไม่ได้เลยค่ะ ไม่มีความสุข

นอนก็ไม่หลับเหมือนคนโรคจิต

แต่พอได้มาบ้านสวนพีระมิด

กราบขอขมาท่านอาจารย์อุบล

ได้รับความเมตตาจากท่านอาจารย์อุบล

เมตตาบอกว่าเคยเป็นสาวกของพระเทวทัต

และให้อุทิศบุญให้พระเทวทัต

และขอลาออกจากการเป็นสาวกพระเทวทัต

รู้สึกโล่งเบาสบายมากเลยค่ะความคิดชั่วร้ายนั้นมันก็หายไป

 

หนูขอกราบขอขมาท่านอาจารย์อุบลอีกครั้งค่ะ

ที่โง่เขลาเบาปัญญาปรามาสท่านอาจารย์ค่ะ

และหนูขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล และครอบครัวค่ะ

ที่ได้เมตตาให้อภัยลูกหลานเสมอ

และเมตตาชี้ทางสว่างนำทางชีวิตหนูและครอบครัวของหนูค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 09:46:57

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 08:52:50


ความคิดเห็นที่ 38 (1640232)

ความเห็นที่ 2 (1640041)
แจ้งลบความคิดเห็น

ข้าพเจ้า น.ส.ศิริพร โฉมจันทร์ (ตุ้ย)

ปริญญาตรี บริหารธุรกิจ
อาชีพ พนักงานบริษัท
ตำแหน่งพนักงานขาย จ.นนทบุรี
 
 

เรื่องของตุ้ยก็มีอยู่ว่า ตอนนั้นได้รู้จักบ้านสวนใหม่ๆ
ได้เข้ามาสร้างบุญ และในขณะที่ท่าน
อ.อุบลกำลังบรรยายอยู่นั้น
ตุ้ยเองก็ได้สาระแน
เอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายวีดิโอไว้
ด้วยคิดว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา เราไปที่ไหน
เห็นน่าสนใจ ก็ถ่ายเก็บเอาไว้ ทำเป็นประจำ
จนติดเป็นสันดาน สันดานอวดฉลาด
คิดว่าทำแบบนี้เราฉลาด
แต่หาได้ฉุกคิดไม่ว่า
การมาที่นี่ ซึ่งเป็นบ้านส่วนตัวของท่าน อ.อุบล
การที่จะถ่าย จะอัดอะไร
หรือทำอะไร ก็ควรต้องขออนุญาติ
ต้องถาม อย่าละเมิดผู้อื่น
โดยเอานิสัยแย่ๆ ที่เคยทำมาใช้
และเหมาเอาว่าที่นี่ก็คงจะละเมิดได้
และเมื่อตัวเองได้ถ่ายไปแล้ว ท่าน อ.อุบล เห็น
ท่านจึงได้บอกว่า ถ่ายไปน่ะ
จะเอาไปแบล็กเมล์หรือเปล่า
(ประมาณนี้นะคะ)
 
 
ตุ้ยเลยรีบบอกท่านไปว่า
อ่อ หนูเก็บไว้ดูเองค่ะ
เมื่อพูดจบตัวเองก็จิตตก
และเศร้าหมองตลอด
เฝ้าย้ำคิดย้ำทำแต่ว่า ทำไม
อาจารย์ท่านถึงคิดกับเราแบบนี้
เราไม่มีวันทำอย่างนั้นแน่
และตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
ตุ้ยก็รู้สึกปวดขา ปวดหัว
โดยเฉพาะขาซ้าย ปวดมากจนแทบทนไม่ได้
ต้องนั่งกระสับกระส่าย
อยู่อย่างนั้นตลอด ร่างกายซีกซ้าย ตั้งแต่ศีรษะลงมา
ปวดมาก เหมือนใครเอาอะไรมาทุบตลอดเวลา
ตุ้ยนั่งทนทรมานอยู่เป็นชั่วโมง อุทิศบุญเท่าไรก็ไม่หาย
และก็ไม่รู้สาเหตุว่าเพราะอะไรจึงเป็นเช่นนี้

จนกระทั่งเหตุการณ์ผ่านไป หลายเดือน
จึงมีพี่คนหนึ่งพูดเรื่องแอบถ่ายรูป
โดยไม่ได้ขออนุญาติ
ปรากฎว่ารูปเสียหมด เมมโมรี่แกพังใช้ไม่ได้เลย
เราก็เลยถึงบางอ้อเลยค่ะ
ว่าที่ตอนนั้นเราเป็น ก็คงเหตุการณ์เดียวกัน
แต่ของเราหนักหน่อย
ตรงที่คิดปรามาสท่านอาจารย์ด้วย
คิดว่าท่านทำไมคิดกับเราอย่างนี้
เราไม่มีวันแบล็คเมย์ท่านหรอก
ทำไมท่านไม่รู้ความคิดของเราเลย
คือเรียกว่าคิดตำหนิท่าน
แต่ไม่ได้ย้อนมองดูตัวเองเลยว่า
ถึงแม้คุณจะไม่ได้เอาไปเผยแพร่ที่ไหน
แต่คุณมั่นใจได้อย่างไรว่า คลิปที่ถ่ายไป
อาจรั่วไหล เล็ดลอดไป โดยเราอาจเผลอเรอเอง
อาจไปให้เพื่อนดู เพื่อนเซฟเก็บไว้ หลากหลายเหตุผล
เราคิดไม่ได้ คิดแต่จะโทษคนอื่น
ผลกรรมจึงเกิดแบบฉับพลันทัน และทุกข์ทรมานมาก
และเป็นมานานหลายเดือน เวลามาบ้านสวนที
ก็จะปวดหัว แต่อาการปวดขา
หายไปเป็นเฉพาะวันแรกที่ปรามาส

****************************

เรื่องที่สอง ได้ละเมิดในเขตหวงห้าม
คือเดินลงบันได ที่เขาเขียนห้ามผ่าน
แต่ตุ้ยก็ได้ละเมิดแบบหน้าด้านๆ เดินลง
เพราะคิดเองว่า สะดวกดี ไม่ต้องปีนป่ายบันได้ลิง
ทั้งๆ ที่มีป้ายเขียนไว้ และได้เดินลง
ซึ่งระหว่างทางที่เดินลงนั้น ก็มีทั้งพีระมิดจำลอง
สิ่งของต่างๆ ที่เป็นส่วนตัว มีค่า
ระหว่างทางที่เดินก็ฉุกคิดแล้วว่านี่เป็นที่หวงห้าม
แต่ก็ยังเดินต่อไป เมื่อลงไปก็เจอครบเลยค่ะ
ทั้งท่าน อ.อุบล อ.มงคล และพี่ธนา
อ.มงคลท่านพูดว่า ทำไมเดินลงตรงนี้
หนูเองรู้สึกเลยค่ะ ว่าเราผิดพลาดแล้ว
เรียกว่าไม่มีข้อโต้แย้ง ทำแบบนี้ได้
แสดงว่าต้องเป็นคนที่ชาชินกับการละเมิดมาก
ถึงได้ทำแบบนี้
และหลังจากเหตุการณ์นี้ผ่านไป
ตุ้ยก็เริ่มมีอาการเหมือนภูมิแพ้ผื่นสัมผัส
คืออยู่ดีๆ ก็จะคันและเกา พอเกาจะเป็นผื่นขึ้นมาน่ากลัว
พอขึ้นผื่นไม่เกิน 10 นาที ก็หายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ซึ่งปกติจะไม่เป็นแบบนี้ คือถ้าคันก็เกา แต่ไม่มีผื่นขึ้นค่ะ

ตุ้ยมาคิดได้ว่านี่คงเป็นผลจากการการละเมิด
ผู้ทรงศีล ทรงธรรม โดยเฉพาะกับท่าน อ.อุบล
ผู้บริสุทธิ์ ที่ใครก็ไม่สามารถท้วงติง หรือปรามาสได้
(ซึ่งก็มีอยู่ในพระไตรปิฏก ได้กล่าวไว้)
เพราะผลที่ได้รับ สำหรับตุ้ยนี่คือสถานเบาแล้วนะคะ
ซ้ำการล่วงเกิน ละเมิด นี้ ยังผิดศีล ข้อ 2 ลักทรัพย์ด้วย
แล้วยิ่งถ้าเราทำมากกว่านี้ ยิ่งเจตนา หรือตั้งใจทำ
มิต้องประสบเคราะห์กรรมจนปางตายเลยหรือ
แค่คิดก็ขนหัวลุกแล้วค่ะ อย่าเสี่ยงทำกันเลยนะคะ

**********************************************

รายการคุยไปแจกไป ออกอากาศ 5 มิถุนายน 2554
ตอน "ปาฏิหาริย์ 3 อย่าง และ ศาสดาอันใครๆทักท้วงไม่ได้ กับปรากฎการณ์บ้านสวนพีระมิด"

http://www.baansuanpyramid.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539168089&Ntype=2
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 10:05:38

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 08:53:36


ความคิดเห็นที่ 39 (1640233)

ความเห็นที่ 3 (1640043)
แจ้งลบความคิดเห็น

ชื่อนางบุญภิบาล คงเขียว

จบการศึกษา ปริญญาตรีการบริหารการศึกษา

อาชีพ แม่บ้าน

ดิฉันเคยปรามาสท่านอาจารย์อุบลหลายครั้ง เช่น ใส่เสื้อรัดรูปบ้าง จิตแวปไม่ดีกับท่านอาจารย์บ้างละ จู่ๆ ความคิดมันผุดขึ้นมาเองยังลามถึงครอบครัวท่านอาจารย์ห้ามใจไม่ได้ แต่ก็ดึงสติกลับมาทุกครั้งไม่ให้ถลำไปลึกมากกว่านี้ แล้วได้ขอบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระศรีอารย์ที่ท่านอาจารย์อุบลเชิญมาโปรดบังคับกระแสจิตให้ลูก คิด พูด ทำดี ด้วยเถิดพระพุทธเจ้าค่ะ

ผลกรรม คือ ตัวเองถูกรถชน รถล้ม ปวดหัว และข้าวของในบ้านเสียหาย รถเสียทั้งสองคันในเวลาเดียวกัน เช่น ก็อกน้ำพัง หลอดไฟเสีย การเงินจะออกมากกว่ารายรับ แม้แต่สุนัขที่บ้านกัดกันหูขาดทำให้ต้องเสียเงิน รวมแล้วเป็นเงินประมาณเกือบ 60,000 บาท ในเวลาเดือนเดียวเท่านั้นจึงได้นั่งทบทวนตัวเอง จึงได้ขอขมาแล้วดับเกิด

ด้วยความโง่เขลาเบาปัญญาโปรดเมตตางดโทษให้ลูกด้วยเถิดพระพุทธเจ้าค่ะ

กราบพระบาทพระพุทธเจ้าค่ะ

กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 10:08:42

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 08:53:55


ความคิดเห็นที่ 40 (1640234)

ความเห็นที่ 5 (1640050)
แจ้งลบความคิดเห็น

ชื่อ พรพุทธ ศรีคุ้ม

จบการศึกษา ปริญญาตรี นิเทศศาสตร์ ม.ศรีปทุม

เปิด กิจการ ค้าอะไหล่เก่ารถยนต์

เรื่องของผมคือความกตัญญู คือพ่อตาผมเคยไปให้ท่านอาจารย์ อุบล

บำบัตออกรายการในช่วง3-4เดือนก่อน ด้วยอาการปวดขา ปวดสะโพกเดินด้วยความลำบากต้องใช้ไม้เท้า สารภาพกับท่านอาจารย์ ว่าเคยหักขากบ และเคยมัดตะพาบแล้วโยนเข้ากองไฟเพื่อทำอาหาร

หลังจากนั้นก็มีอาการเรียกว่าแทบจะหายในทั้นที่เหลืออาการเดินไม่คล่องอยู่นิดๆแต่ไม่มีอาการปวด มีอาการดีใจเป็นการใหญ่ แต่พอกลับมาถึงที่บ้าน ในตอนเช้าของอีกวัน ก็มีคนภายในบ้านถามว่าพ่อ "ขาหายปวดแล้วหรอ" พ่อตาก็ดันพูดว่า หายแล้วเพราะยาหม่องที่ลูกสาวคนโตซื้อมาให้นวด

ซึ่งจริงๆแล้วนวดมาเป็นอาทิตย์แล้วก็ยังไม่หาย พอได้มาบ้านสวนมาบำบัตแล้วจึงหายในทันทีดันบอกว่าหายเพราะยาหม่อง พอเช้ารุ่งขึ้น อาการต่างๆก็กลับมาเป็นเหมือนเดินและดูว่าจะเป็นมากขึ้นเพราะ ความไม่กตัญญูนี้ว่ามัยครับ



 

ผู้แสดงความคิดเห็น พรพุทธ ศรีคุ้ม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 10:58:46

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 08:54:27


ความคิดเห็นที่ 41 (1640235)

ความเห็นที่ 6 (1640080)
แจ้งลบความคิดเห็น

ชื่อนางสาวกัลยาณี ทิมขาวประเสริฐ อายุ 26 ปี อยู่จังหวัดพิจิตร อาชีพ ว่างงาน

จบปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จ.พิษณุโลกคณะมนุษศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ

หนูเคยคิดปรามาสท่านอาจารย์หลายครั้งมาก มันเป็นจิตที่แว๊บเข้ามาโดยที่เราไม่ได้อยากจะคิดแต่มันมาเร็วแบบไม่ทันตั้งตัวเลย อย่างเช่น คิดว่าทำไมอาจารย์แต่งตัวเซ็กซี่จัง บางครั้งเผลอมองหน้าอกอาจารย์ ก็คิดว่าหน้าอกใหญ่จัง มองสะโพกก็สะโพกอาจารย์ใหญ่จัง คิดลามกหยาบคายบ้างหล่ะ ซึ่งก็รู้ตัวว่าเป็นเพราะเราผิดศีลข้อ 3 มามากมายจริงๆ แล้วตอนที่ได้อยู่ใกล้อาจารย์มองเห็นผมชัดเจนก็คิดว่าทำไมผมอาจารย์ไม่สวยเหมือนในทีวีเลย ในทีวีผมสลวยเงางามมีดูมีน้ำหนักมาก แต่เห็นจริงๆผมอาจารย์ก็ยังชี้ฟูอยู่ เอ..หรือว่าอาจารย์จะไดร์ผมตอนที่ออกทีวี แล้วก็ลามไปถึงใบหน้าอาจารย์ว่าอาจารย์ก็ใช้พาเมล่าแต่ว่าทำไมยังมีริ้วรอยอยู่เลย ลามไปถึงคุณท็อปอีกว่าคุณท็อปเป็นลูกอาจารย์แท้ๆ ยังไงก็ต้องใช้พาเมล่าแต่ทำไมคุณท็อปถึงยังเป็นสิวอยู่เลย รู้สึกว่ามโนกรรมของตัวเองจะเยอะมากเลยค่ะ ทั้งๆที่ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้เลย แล้วผลกรรมที่ตัวเองได้รับก็คือ ผมจะไม่สวย ผมแห้งแตกปลาย ไม่มีน้ำหนัก ชี้ฟู เป็นสิวบนใบหน้ามาตลอดรักษาไม่หาย และจะรู้สึกทุกข์ทรมานใจมากเวลาที่ตัวเองคิดไม่ดีกับท่านอาจารย์

หนูกราบขมาท่านอาจารย์อุบล และคุณท็อปที่หนูมีจิตคิดปรามาสท่าน ด้วยความโง่เขลาและการกระทำที่ผิดศึลมาทั้งหมดของหนู หนูขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์บารมีท่านอาจารย์อุบล โปรดช่วยบังคับกระแสจิตของหนู ให้หนูคิดแต่สิ่งที่ดีๆ ด้วยเถิด

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กัลยาณี ทิมขาวประเสริฐ <ตั๊ก> ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 14:21:04

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 08:54:49


ความคิดเห็นที่ 42 (1640236)

ความเห็นที่ 7 (1640085)
แจ้งลบความคิดเห็น

สวัสดีครับ ผมเองก็เคยมีประสบการณ์ และได้รับผลกรรม อันเนื่องมาจาก การปรามาสท่านอาจารย์อุบล ดังเช่นท่านอื่นๆครับ ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวก่อนน่ะครับ

ผมชื่อนายกฤษณะ สิงห์ป้อม อายุ 34 ปี จบการศึกษา ปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปัจจุบันทำงานอยู่ที่บริษัทโซนี่ ประเทศไทยจำกัด ตำแหน่งรองผู้จัดการฝ่ายผลิต
เรื่องการปรามาสต่อท่านอาจารย์อุบล ของผมนั้น มีอยู่ว่า ตอนนั้นผมเพิ่งจะรู้จักบ้านสวนพีระมิด แต่ก็ไม่ทราบรายละเอียดอะไรมาก ว่าที่บ้านสวนพีระมิดเขาทำอะไรกัน คืออยู่ในช่วงเวลาที่กำลังศึกษาข้อมูลและกำลังดูรายการของอาจารย์ได้ไม่กี่ตอนเองครับ ในตอนที่ดูรายการของอาจารย์นั้น ก็มีความคิดแว๊ปๆเข้ามาในหัว ว่าอาจารย์อุบล แต่งตัวใส่ชุดเข้ารูปจังและแถมเซ็กซี่อีกตะหากครับ ตอนนั้นคิดสงสัยว่า เอ๊ะ ท่านสอนธรรมะ แต่ทำไมแต่งตัวแบบนี้ล่ะ มันต้องใส่ชุดขาวสิ จึงจะถูก จึงจะเหมาะสม พอคิดไปแบบนั้นปุ๊ป ก็เริ่มมีอาการปวด หน่วงๆ ที่ขมับ มันเหมือนมีอะไรมาบีบๆที่ขมับ มันตึงไปหมด ทีแรกก็คิดว่า สงสัยเราคงจะเครียดกับการทำงานมั้ง แต่สังเกตุว่า ทำไมมันเป็นบ่อยจัง ทีหลังก็มาทวบทวนเหตุการณ์ต่างๆ จึงได้ทราบว่า นี่อาจเป็นเพราะว่าเราไปปรามาสและคิดไม่ดีกับอาจารย์อุบล แน่ๆเรย ผมก็เรยขอขมาท่านครับ ก็นึกและอธิฐานในใจขอขมาท่าน และต่อมา อาการที่ว่าก็หายไป นั่นมันชัวร์แล้วหละที่เราไปปรามาสท่านอาจารย์นั่นเอง แต่การปรามาสของผมนั้น ในส่วนลึกของจิตใจนั้น ไม่ได้มีเจตนาในการที่จะตั้งใจคิดแบบนั้นเรยครับ จิตมันชอบแว๊ปไปเองครับ พอผมได้เจอะตัวจริง ผมก็เข้าไปกราบขอขมาลาโทษกับท่านน่ะครับ
นี่แค่ขนาดว่าคิดในใจและ แถมไม่ได้ตั้งใจน่ะเนี่ยะ ถ้าเป็นคนประเภทที่ตั้งใจ เจตนาปรามาสท่านล่ะก็ ...ปรือ....ไม่รู้ว่า เขาจะโดนอะไรกันบ้างเนี่ยะ...คิดแล้วเสียวแทนจริงๆครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น กฤษณะ สิงห์ป้อม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 15:07:08

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 08:55:11


ความคิดเห็นที่ 43 (1640237)

ความเห็นที่ 8 (1640086)
แจ้งลบความคิดเห็น

ลูกบ้านสวนพีระมิด

มีจิตที่พัฒนาขึ้นมากขอสรรเสริญ

 

เมื่อก่อน

พวกเราจะสนใจกัน

แต่เรื่อง

การกระทำทางกาย ลงไม้ลงมือ

ตบตี ฆ่า ทำร้าย ร่างกาย

ใช้อุบายให้คนอื่นทำแทน อันนี้พวกเรารู้แล้ว

 

ต่อมาพวกเรา

ก็สนใจกันเรื่อง กรรมทางคำพูด

ใช้ปากประกอบกรรม

โกหก กะล่อน ปลิ้นปล้อน ตอแหล

ใส่ความ พูดไม่อยู่กับร่องกับรอย

ต่อหน้าอย่าง ลับหลังอย่า พูดกับคนนี้อย่าง

พอกับอีกคนพูดอีกอย่าง

พูดให้ตัวเองดูดี ให้คนอื่นเสียหาย

ปั้นน้ำเป็นตัว พูดให้ตรงกันข้ามกับความจริง

พูดสร้างภาพ พูดทำลายความดี

เรียกง่ายๆ ว่า "ตอแหล"

เป็นสันดาน

ว่างั้นเถอะ

 

แต่

คนส่วนใหญ่

จะไม่ค่อยให้ความสนใจ

กับ กรรมทางความคิด หรือ มโนกรรม

เพราะ

มันไม่มีใครเห็น

ไม่มีใครรู้ ก็คิดอยู่ในใจ จะรู้ได้ไง

คนส่วนใหญ่ของโลก

มีกรรมนี้ กันมากที่สุด และเจ้ามโนกรรม นี่แหละ

ที่มันส่งผลให้ เกิด วจีกรรม กับ กายกรรม

ถ้ามันไม่คิดก่อน ไม่วางแผนในใจก่อน

มันจะทำไม่ได้ ที่เรียกว่า

จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว นั่นแหละ

 

แล้วบ้านสวนพีระมิด

ได้พิสูจน์ มโนกรรม ที่ทำให้ปวดหลัง

เจ็บป่วยมาหลายสิบปี รักษาไม่หาย ไม่รู้สาเหตุ

พอมารู้สาเหตุ ดับเหตุที่บ้านสวนฯ

หายทันทีมาแล้ว

อย่าง พ่อน้องปอ เป็นต้น เสี่ยชิม เป็นต้น

 

ดังนั้น

การเขียนธรรมทาน

เรื่องมโนกรรมนี้ จึงเป็นบันได

ขึ้นสูงอีกขั้นหนึ่ง

ซึ่งจะนำพา

ให้ก้าวข้ามอุปสรรค ขวากหนาม

ในชีวิตสู่เส้นทางพระนิพพาน

 

สู่การชุบกาย ชุบใจ

ขึ้นมาใหม่ ให้มีความสุขสดใส

หลังจากได้ดับเหตุ

 

ด้วยเหตุที่

มีเวลาน้อยลงทุกทีแล้ว

การจะให้ใครมาขอขมา อ.อุบล

ออก ที.วี.เหมือนเมื่อก่อน

ไม่ทันแล้ว

 

พระปฐมบรมธรรมบิดา

จึงทรงเมตตา

ตัดรอนวิบากกรรม

ของผู้ที่เคยปรามาสล่วงเกิน

อ.อุบล และ ครอบครัว

ให้ได้มีโอกาส

หลุดพ้น

จากบ่วงกรรมนี้

พระองค์ท่านตรัสว่า

เป็นกรรมที่จะปิดกั้นสวรรค์

พรหม นิพพาน

ถ้าไม่ได้รับการขอขมา

 

ซึ่ง

พระองค์ทรงเมตตา

อนุโลมให้ขอขมาผ่านทาง

ธรรมทาน ในเวปไซด์นี้ได้

และถ่ายเอกสาร

เพื่อไปรวมเล่มแจกเป็นธรรมทาน

อย่างน้อย 99 สำเนา

จึงจะปลดล๊อกกรรมนี้ได้

 

ซึ่งจริงๆ

อ.อุบล ไม่เคยถือสาใคร

 

พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า

 

ท่านก็ไม่เคยโกรธ

พระเทวทัติ แต่พระเทวทัติ

แต่ พระเทวทัติก็ต้องชดใช้กรรม

 

แม้จะสำนึก ตอนใกล้ตาย

ตั้งใจจะไปขอขมาพระพุทธเจ้า

แต่ด้วยเป็นกรรมหนัก

ที่คิด พูด และ ลงมือกระทำการ

ทำลายล้าง พระพุทธเจ้ามายาวนาน

จึงเป็นอนันตริยกรรม

เกินกว่าที่ เพียงแค่ขอขมา

เพราะพระเทวทัติ

หมดหนทางแก้ไข ด้วยโรคภัยรุมเร้า

จนใกล้ตายแล้ว จึงสำนึกได้

ตอนที่แข็งแรงดี

กลับคิดไม่ได้

ใช้ความแข็งแรงของร่างกาย

ของจิตใจ ยุยงคนชั่วเหมือนตน

ร่วมกันทำร้าย ให้ร้าย ทำลายความดี

ของพระพุทธเจ้า

 

ดังนั้น

จึงไม่มีสวรรค์รองรับ

พอสาวกหามสี่ไปใกล้ถึงพระพุทธเจ้าแล้ว

เพียงขอให้สาวกที่หามมา

วางคานหามลง ขอไปสรงน้ำล้างหน้า

ก่อนแล้วจะไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า

 

ณ บัดนั้น

พระเทวทัติ ถูกธรณีสูบ

ในบัดดล

 

จะเห็นว่า ฟ้าดิน ไม่อภัย

ไม่ให้โอกาส การสำนึกวิธีนี้

 

แสดงว่า

ถ้าพระเทวทัติ

ไม่เจอเคราะห์กรรม

จน จวน เจียน ใกล้ตาย

พระเทวทัติ ก็อาจจไม่สำนึก

แต่สำนึก

เพราะอยากจะพ้นทุกข์

คือ

ทำเพื่อประโยชน์ตัวเอง

ไม่ใช่ด้วยใจบูชาพระพุทธเจ้า

 

ดังนั้น

องค์พระปฐมฯ

ทรงเห็นว่า การเสียชีวิต

ของคุณตาสำเภา

เป็นอุทาหรณ์ สอนพวกเราว่า

ความตายเป็นสิ่งเที่ยงแท้แน่นอน

 

แต่จะตายวันไหน

เป็นสิ่งไม่แน่นอน

 

คุณตาพึ่งเจอพวกเราไม่นาน

ยังแข็งแรง มีความหวังว่าจะมาอยู่

มาดูแลกันอีก ยาวนาน

แต่ในที่สุด

ความตายก็มาพรากคุณตาไปก่อน

 

พระปฐม

ท่านกลัวกว่า

ถ้าใครทำกรรมไว้กับใคร

แต่

ท่านมีพระบัญชามา

โดยเฉพาะกับคนที่เคยปรามาส

อ.อุบล และ ครอบครัว

ไม่ว่า จะทางความคิด คำพูด การกระทำ

เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้

ลูกหลานของพระองค์ได้ปลดล๊อกกรรมนี้

 

พระองค์จึงทรง

ให้มีการจัดทำ ธรรมทานนี้ขึ้นมา

 

พระองค์ตรัสว่า

ธรรมทานนี้ จะมีประโยชน์

ต่อสังคมอย่างมหาศาล

จะช่วยยกระดับจิตใจให้ผู้อ่าน

ได้สำรวมใจ สำรวมคำพูด ระวังการกระทำ

ละชั่วกลัวบาป ได้ลัด เร็ว

 

ชีวิตที่ติดขัดอยู่

หรือที่เดือดเนื้อร้อนใจอยู่

แม้จะทำบุญใหญ่อื่นๆแล้ว ยังไม่หาย

ยังไม่คลายทุกข์ ได้พ้นทุกข์

 

ได้อยู่ในยุคพระศรีอาริย์

 

ส่วน

อ.อุบล และ ครอบครัว

ขอประกาศไว้ล่วงหน้าเลยว่า

 

ไม่โกรธแค้นเคืองใคร

ให้อภัยทุกคน

ปรารถนาให้ทุกคนมีความสุข

หายเจ็บ หายจน พ้นอุปสรรคทั้งหลาย

ได้กลับบ้านนิพพานด้วยกัน

ในชาตินี้

 

อย่าให้คุณตารอนาน

หลายชาติ

 

ดังนั้น

ขอให้พวกเรา

ได้โปรดรับรู้ถึงการ

อภัย

ของ อ.อุบล ด้วย

 

แต่

ส่วนการเขียนธรรมทานนั้น

พระปฐมบรมบิดา

ท่านให้คนที่เคยปรามาส

ทำเพื่อ ตัดรอนวิบากกรรมของตนเอง

 

ส่วนการ อภัย ของ อ.อุบล

อ.อุบล ก็ได้หลุดพ้น

จากการจองเวร จองกรรม

กับท่านที่ปรามาส อ.อุบล แล้ว

และ

อยากให้ท่าน หลุดพ้นด้วย

 

เราต้องกลับบ้าน

ไปหาพ่อด้วยกันให้ได้นะ

อย่าลืม

**********************

ธรรมทานนี้

เราจะรีบทำ ให้นำมาส่ง

ในวันศุกร์ หรือ เสาร-อาทิตย์นี้

นะคะ เราจะทำแบบ

1.ทำทันที

2.ทำแบบง่ายๆ

3.ทำแบบสม่ำเสมอ

4.ทำแบบต่อเนื่อง

5.ทำให้มากขึ้น

 

ขอกุศลแห่งธรรมทานนี้

ของทุกคน

จงปลดเปลื้องทุกข์

ให้ทุกคนโดยฉับพลันทันที

ด้วยเทอญ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 15:08:49

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 08:55:58


ความคิดเห็นที่ 44 (1640238)

ความเห็นที่ 9 (1640090)
แจ้งลบความคิดเห็น

การถ่ายเอกสาร

ขอให้ถ่ายได้ ตามกำลัง

อย่าเบียดเบียนตัวเอง

 

ใครจะถ่ายมา

99 ชุดก็ได้

 

ซึ่งจำนวนเล่ม

เราจะทำไปเรื่อยๆไม่จำกัด

 

แต่สัปดาห์นี้

เราจะเริ่มก่อนเลย

ได้กี่เล่มก็ไม่เป็นไร

 

รบกวนทีมงาน

คุณอมร พ่อใหญ่ธนา

และท่านอื่นๆ ช่วยกันออกแบบปก

จัดเรียงรูปเล่มด้วยนะคะ

 

ส่วนค่าใช้จ่าย

ส่วนที่เกินจาก 99 ชุด

อ.อุบล ขอรับเป็นเจ้าภาพเองค่ะ

 

ส่วนใครจะถ่ายมาเกิน

จะ 300 - 500 ก็ไม่เป็นไร

ทำไปเรื่อยๆนะจ๊ะ

อย่าหักโหม

 

ที่สำคัญ

ทำทันที เดี๋ยวนี้เลย

นะจ๊ะ

 

ไม่ต้องคิดนาน

ไม่ต้องมีหลักการเยอะ

เอาเนื้อๆ ความจริง ล้วนๆ

สำนวนง่ายๆ ของเราเอง

นะจ๊ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 15:24:13

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 08:56:21


ความคิดเห็นที่ 45 (1640239)

ความเห็นที่ 10 (1640095)
แจ้งลบความคิดเห็น

นส. วราภรณ์ หล่าบรรเทา อายุ36ปี จบการศึกษา ปริญญาตรี สาขารัฐศาสตร์ จากม.รามคำแหง อาชีพเกษตรกร

 

ไอซ์เป็นคนนึงที่เคยปรามาสท่านอ.อุบล หลังจากที่ได้ทำการบูชา องค์พีระมิดจำลองรุ่นมวลสารบ้านสวน หลังจากได้รับองค์พีระมิด ก็เกิดปรามาสท่านโดยระหว่างที่คุยกับเพื่อนถึงบ้านสวนและกำลังพิม์ชื่อท่านอยู่ก็มีความคิดว่าแวบขึ้นว่าท่าน

หลังจากนั้นก็มีความทุกข์ใจเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เลยรีบออกไปขอขมาท่านด้านหลังห้องทำงาน ระหว่างที่อยู่ขมาอยู่นั้น รู้สึกว่าร้อนมาก ร้อนไปหมดทั้งตัวเหมือนโดนไฟเผา แต่หลังจากขอขมาเสร็จก็ปรากฏว่าเย็นสบายตัวมากเลยค่ะ ความร้อนที่เหมือนโดนไฟเผาหายไปในทันทีเลยค่ะ

ครั้งที่ 2 หลังจากมาบ้านสวนแล้วก็ยังมีความคิดปรามาสท่านอยู่ ระหว่างที่สร้างบุญด้วยแรงกายอยู่นั้น นำหญ้าไปทิ้งด้านหลัง แต่ด้วยความที่เพิ่งมาไม่รู้ว่าเขตบ้านของท่านสิ้นสุดตรงไหน กำลังหาที่ทิ้งหญ้าอยู่นั้น ก็มีความคิดแวบขึ้นมาอีก ปรา่มาสท่านอีก เกิดความทุกข์ใจมาก ทรมานใจ ทุกข์มาก และมีอาการร้อนที่แผ่นหลังเหมือนโดนพริกทาด้วย แต่หลังได้ขอขมาท่านและได้กราบเท้าท่าน อาการร้อนแผ่นหลังเหมือนโดนพริกทาก็หายไปเลยค่ะ แต่ก็ยังไม่หาย ต้องระวังจิตของตัวเองอยู่เสมอเลยค่ะ ต้องระวังเวลาที่เข้าใกล้ท่าน แต่หลังจากได้สร้างบุญไปเรื่อยๆ อาการปรามาสและความทุกข์ใจก็เริ่มเบาบางลง

แต่ไอซ์ก็ยังคงปรามาสท่านอยู่อีก คราวนี้เป็นตอนเข้าห้องน้ำ ระหว่างที่ทำธุระอยู่ก็ปรามาสท่านอีก คราวนี้ไอซ์ไม่รอเลยค่ะ ตอนค่ำท่านอาจารย์สอนธรรมะ ไอซ์ก็ขอขมาท่านทันทีเลยค่ะ ผลกรรมที่ไอซ์่ได้รับจากการปรามาสท่าน ทั้งๆที่ตัวเองนั้นไม่ได้คิดที่จะว่าเลย แต่อยู่ๆใจก็แว๊ปไป โดยที่เรายังไม่ทันรู้ตัวเลย เมื่อมันแว๊ปไปแล้วก็รู้สึกตัวว่า เกิดอะไรขึ้นมาคิดขึ้นมาได้ยังไง ผลก็คือความทุกข์ใจค่ะ ทุกข์มากที่ทำยังไงก็ไม่หาย เป็นความทุกข์ที่ทรมานมาก หลังจากที่ไอซ์ได้ขอขมาท่านอาจารย์ และได้สร้างบุญที่บ้านสวน ความทุกข์ใจนั้นก็หายไปค่ะ ลูกขอกราบขอขมาท่านอ.อุบลที่ได้เคยล่วงเกินท่านมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 16:10:48

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 08:56:48


ความคิดเห็นที่ 46 (1640240)

ความเห็นที่ 12 (1640103)
แจ้งลบความคิดเห็น

"ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิดแล้วจะได้รับผลกรรมอย่างไร"
ดร.ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ อายุ 52 ปี
สถานที่ทำงาน :คณะเวชศาสตร์เขตร้อน ม.มหิดล กทม.
ดร.ชัชวลี กะลัมพะเหติ อายุ 52 ปี
สถานที่ทำงาน สถาบันวิจัย องค์การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย อยุธยา

สองคนพี่น้องนี้ เริ่มดู รายการคุยไปแจกไปจาก ทีวีดาวเทียมพร้อมกัน เริ่มดูก็รู้สึกทึ่งว่าทำไม อจ.เขารู้กรรมคนนั้นคนนี้ไปหมด แต่ตนเองเชื่อเรื่องทำนองนี้มาก และเชื่อกฎแห่งกรรม เชื่อว่าท่านคงรู้จริง แต่พอเห็นชุดสีชมพูชีฟองที่อจ.ท่านใส่เป็นภาพนิ่ง จิตแวปไปคิดว่าทำไมชุดมันบางจัง ไม่สมควรแต่งในรายกานสอนธรรมะ ตนเองก็เริ่มรู้สึกปวดต้นคอ ต้องใช้ยาหม่องนวด อาการเป็นมาเรื่อยๆ แต่ตอนค่าย 10 อจ.เรียกไปสัมภาษณ์ จนเราทั้งคู่ยอมรับ ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่าจิ๋มเขาก็คิดตำหนิชุดนี้ของอาจารย์เหมือนกันเพราะไม่ได้คุยกัน เพิ่งมารู้ว่าคิดเหมือนกันเปี๊ยบเลย จริงๆแล้วตนเองก็เคยคิดปรามาสในบางชุดของอาจารย์ ตอนมาบ้านสวนใหม่ๆ เข่น ชุดเสื้อยืดสีดำรัดรูป จนในที่สุดได้ไปสารภาพ กราบขอขมาบนเวที ค่าย 10 คอนนั้นต้นคอ หายปวดเบาจนมาถึงปัจจุบัน

กราบขอขมา อจ.อุบล อีกครั้งที่แรกๆยึดติดกับเสื้อผ้าอาภรณ์ แถมอัตตาสูงว่าตัวเองดี มาที่นี่รู้ความเลวร้าย ของตนเองมากขึ้นหลายคดี ทั้งชอบนินทา ขี้โกรธ ขี้เกียจ
กราบขอบพระคุณเสด็จพ่อท้าวเวชสุวรรณที่ให้อภัยไม่บีบคอลูกอีก
ธารีรัตน์---จุ๋ม


 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 17:02:10

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 08:57:17


ความคิดเห็นที่ 47 (1640241)

ความเห็นที่ 13 (1640105)
แจ้งลบความคิดเห็น
"ผลการปรามาสอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด"
ผมนายสิงห์เงิน อุดมศิริ อายุ 48ปี
การศึกษา ป.ตรี วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่ สาขาสารสนเทศธุรกิจ มสธ.
ตำแหน่ง หัวหน้าแผนกเครื่องมือวัด
หน้าที่ ดูแลอุปกรณ์วัด-คุม ในกระบวนการผลิต
.อุตสาหกรรมอ่างเวียน จำกัด นครราชสีมา กลุ่มน้ำตาลวังขนาย
ผมเคยคิดปรามาสท่านอาจารย์อุบลเมื่อตอนสร้างองค์พระด้านหลัง ช่วงที่ช่างมาขึ้นแบบหล่อองค์พระวันแรกๆว่า เอ้..ท่านอาจารย์บอกว่าวันนี้จะเทปูนหล่อองค์พระแล้วทำไมไม่หล่อพระละ เขียนในเวบอย่างนึง พูดอย่างนึง อุส่าหยุดงานรีบมา ไม่ได้หล่อพระต้องกลับบ้านก่อน กลับมาถึงบ้านมานั่งอ่านกระทู้ที่ท่านอาจารย์เรียนไว้ใหม่ เราเองนะอ่านแล้วไม่ใช้ปัญญา ในการตีความทำความเข้าใจซึ่งท่านเขียนเอาไว้ชัดเจนว่ายังตั้งแบบองค์พระไม่ได้หลอก แต่ทางผู้ประสานงานกับช่างบอกว่าทันตั้งแบบแป็บเดียวเสร็จ สรุปว่าช่างหล่อองค์พระใช้เวลาตั้งแบบเลยเวลาที่จะเทปูนหล่อพระ
หลังจากที่ใช้ความคิดปรามาสท่านอาจารย์อุบล กลับมาบ้านแล้วคันไปทั้งตัว คันตรงนั้นเกาตรงนี้ เกาตรงนี้เสร็จ ไปคันตรงโน้นอีก เกาเป็นเลือดแล้วเป็นแผลเป็นไปทั้งตัว แผลหายแล้วก็คันอีกได้เลือดในแผลเดิมอีก คันอยู่อาทิตย์กว่า
ได้ขอเข้ามาบ้านสวนพระองค์พระอีก ก่อนกลับบ้านก็ขอกราบท่านอาจารย์กลับบ้าน ท่านก็ถามว่ากราบเพราะตามคนอื่นไม่ได้คิดกราบหรือเปล่า ผมบอกเปล่าไม่ได้กราบตามคนอื่น กราบเพราะอยากกราบให้หายทุกข์เดินทางกลับบ้านด้วยความปลอดภัย ทั้งที่ไม่ได้บอกท่านว่าคิดไม่ดีกับท่าน ท่านก็อนุญาตให้กราบได้ กลับมาบ้านอาการที่คันอยู่ก็หายไปหมดไม่คันอีก
กรรมความคิดกับท่านอาจารย์นี้ให้ผลร้ายแรง แบบไม่ต้องรอเวลาเลยได้รับผลของกรรมทันที
ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ (ตาโต๊ะ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 17:06:18

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 08:57:41


ความคิดเห็นที่ 48 (1640244)

ความเห็นที่ 14 (1640110)
แจ้งลบความคิดเห็น

"ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด แล้วจะได้รับผลกรรมอย่างไร"

 

ข้าพเจ้า น.ส.ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ปัจจุบันอยู่จ.สระบุรี ว่างงาน จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอกราบขอขมาท่านอ.อุบล และท่านอ.มงคล ศุภาเดชาภรณ์ ที่ตอนทำบุญแรงกายขุดฐานองค์พระปฐมบรมธรรมบิดา ในเดือนธันวาคม พ.ศ.2554 เคยปรามาสท่านทางความคิด ด้วยอารมณ์โกรธ ประมาณว่าทำไมอาจารย์ไม่ทำเอง ซึ่งเป็นความคิดที่ตลกและโง่เขลา เพราะปรามาสท่านตอนขุด หลังจากนั้นข้าพเจ้าปวดแขนซ้ายมาก (ข้างที่ถือจอบ) เจ็บทรมาน ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต

มาตอนกลางคืน ช่วงฟังธรรมะจากท่านอ.อุบล ข้าพเจ้าได้รับโอกาสออกมาสารภาพบาปเป็นธรรมทาน แต่เพราะบาปหนา จึงนึกมโนกรรมที่ทำไว้นี้ไม่ออก แขนซ้ายก็เลยไม่หายปวดค่ะ

วันนี้ ข้าพเจ้าไม่มีอาการปวดแขนซ้ายแล้ว เพราะได้สำนึกผิดในบาปกรรม และร่วมบุญกับท่านอ.อุบล บ้านสวนพีระมิดด้วยศรัทธาบริสุทธิ์ค่ะ

ขอกราบขอบพระคุณท่านอ.อุบล และครอบครัวศุภาเดชาภรณ์ ในความเมตตาค่ะ

 

 

ด้วยความเคารพอย่างสูง

ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 17:15:22

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 08:58:18


ความคิดเห็นที่ 49 (1640245)

ความเห็นที่ 15 (1640120)
แจ้งลบความคิดเห็น


"ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิดแล้วจะได้รับผลกรรมอย่างไร"

ชื่อ นายวีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี อายุ 32 ปี

การศึกษา ปริญญาตรี ม.รามคำแหง สาขา มนุษย์ศาสตร์ สื่อสารมวลชน

จังหวัด กรุงเทพฯ อาชีพ ธุรกิจของครอบครัว

ขอเล่าเหตุการณ์ย้อนไป ปีกว่าๆ ช่วงแรกๆ ที่รู้จักบ้านสวน แต่ก็ยังไม่ได้มา เคยคิดปรามาสท่านอาจารย์อุบล เรื่อง

- ขายเครื่องสำอางค์ คอนนั้นคิดว่าท่านอาจารย์อุบล ให้ธรรมะ และขายเครื่องสำอางค์ เป็นความคิดลบมากๆ มองโลกในแง่ร้าย โดยไม่คิดเลยว่า การที่คนมาทำบุญแล้วหายป่วย แถมการหายต้องออกทีวี อาจารย์ก็ต้องเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่รวมไปถึง ค่าน้ำ ค่าไฟ โดยคนที่มาไม่ต้องจ่ายเงินเลยก็ได้ ตอนนั้นที่ขอขมาท่านก็บอกว่า ลองให้เราทำบ้าง เปิดบ้านให้คนเข้ามาแบบนี้ ทำรายการ สิ่งที่อาจารย์ทำเพื่อคนอื่น แต่ใช้เงินส่วนตัวตลอด เฮ้อ ดันไม่คิด เซงตัวเอง ผมเลยเข้าใจ ชัดเจนเลยครับ

- หน้าตา มีอยู่วันนึงที่ได้พบท่านอาจารย์เพิ่งกำลังจะออกไปทำธุระ ก็ึคิดว่าทำไมวันนี้ หน้าโทรม ไม่เหมือนวันก่อนที่เจอกันเลย เซงตัวเองเหมือนกัน ที่เป็นคนชอบมองหาแต่ส่วนไม่ดีของคนอื่น มานั่งคิดทบทวนทีหลังเพราะท่านไม่ค่อยได้พักผ่อน

- หน้าอก ตอนนั้นที่ท่านอาจารย์อุบล ออกรายการ จะใส่เสื้อรัดรูป ก็ดันไปสังเกตุอีก ว่า ทำไม หน้าอกเหมือนจะไม่เท่ากัน สังเกตุอะไรที่แบบไม่น่าจะสังเกตุเลย

- สงสัย เวลาที่ท่านอาจารย์อุบล บรรยายอะไร เรามักจะสงสัยตลอดว่ามันจะเป็นไปได้หรือ เพราะบางเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ ชอบคิดว่า ทำไม? ใฃ้เวลาอยู่นานเป้นปีๆ เลยครับ ว่าจะเชื่อเต็มร้อย เพราะ ได้พิสูจน์ มาแล้วว่าสิ่งที่ท่านอาจารย์อุบลพูด เกิดขึ้นจริง เห็นจริงๆ กับตา

- มโนกรรมคำหยาบ ตอนนั้นที่ได้เข้าไปอ่านเฟสปลอม แล้ว เหมือนกับว่าคำหยาบต่างๆ ที่พูดถึงอาจารย์ เหมือนมันมา เป็นเสียงในความคิด อยู่ตลอดเวลา อันนี้ได้รับการเตือน โดยไ่ก่แจ้ ที่บ้านสวน วิ่งเข้ามาจิกเลยครับ พยายามข่มจิตอยู่นานเลย กว่า จะเอาชนะตรงนั้นมาก็นานพอดูครับ

- เคยคิดปรามาส รหัส อ.อุบลช่วยด้วย แบบว่ามันจะเป็นไปได้ไง บางทีก็มีแอบ หัวเราะในใจ แบบบางเรื่องก็ไม่ช่วยเหลือตัวเองก่อน เฮ้อ เซงตัวเอง (อีกรอบ)

สรุปก็คือ เป็นมโนกรรมที่เลวมากๆ แต่บางทีมันไวจริงๆ ครับและตอนนั้นก็ได้กราบขอขมาท่านอาจารย์อุบลออกทีวี ส่วนอาการคือ "คันหัว"ซึ่งท่านอาจารย์อุบลก็เคยได้เตือนไว้แล้ว ว่าคนที่จะปรามาส สถานเบา ก็คือ "ขี้กลาก" ผมยังรู้สึกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่านยังเมตตา จัดสถานเบาให้ผม ให้ได้รู้ว่าสิ่งที่ทำน่ะมาป ดีกว่า ไม่ได้รับการเตือนอะไรแล้ว ดิ่งลงนรกไปเลย ต้องขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ครับที่ยังเมตตา คนคิดลบ อย่างผม

ผมขอกราบขมา ท่านอาจารย์อุบล สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ หากผมได้ล่วงเกินทั้ง ทางกาย วาจา ใจ ที่ตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ที่นีกได้ก็ดี ไม่ได้ก็ดี

ขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว ที่ได้เมตตา คนบาปอย่างผมมาโดยตลอดครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-13 18:04:23

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 08:58:39


ความคิดเห็นที่ 50 (1640246)

ความเห็นที่ 16 (1640126)
แจ้งลบความคิดเห็น

 

ชีวิตใหม่ของ
นางวัชรินทร์เกษมณี
ที่บ้านสวนพีระมิด
ก่อนที่จะได้รู้จัก
บ้านสวนพีระมิดชีวิตกำลังตกอยู่จุดต่ำสุด
ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อหมดอาลัยตายอยาก
ร่างกายเจ็บป่วย จิตอ่อนแรง
เดินเหินไม่คล่องตัว
เมื่อได้มาฟังคำสอนจากท่านอาจารย์อุบล
ทางรายการคุยไปแจกไปแล้วโมทนาตาม
สุขภาพทางกายดีขึ้นเป็นลำดับ
อาการปวดแขน ปวดขา ปวดเข่า
และส้นเท้าดีขึ้น 50-60 %
จากที่ต้องนวด
อาทิตย์ละ 2 ครั้ง แต่ทุกข์ที่ใจ
ยังอยู่ จากที่เคยทำแท้ง
กินยาฆ่าตัวตาย อยากฆ่าผู้บริหาร
ซึ่งไม่เคยมีใครรู้
จึงอยากมาสารภาพบาปอย่างมาก
เมื่อได้ไปบ้านสวนพีระมิดก็ได้
สารภาพบาป
และบอกความจริงกับ สามี(บวชอยู่) ลูก ๆ
รู้สึกถึงความปลอดโปร่ง โล่งใจไม่มีอะไร
ต้องห่วงกังวลใจอีกแล้ว
พอได้ไปใช้แรงกายที่บ้านสวนเรื่อย ๆ
อาการป่วยภายในคือ
โรคเบาหวาน ไขมันสูง ความดัน
ก็ดีขึ้นหลังจาก
ได้ใช้ธรรมบำบัดที่บ้านสวนพีระมิด
ลูกกราบขอบพระคุณท่านอ.อุบล
ที่ได้ใช้ธรรมะของพระพุทธองค์มาสอน
ให้ลูกมีดวงตาเห็นธรรม รักษา ศีล ทาน
ภาวนา และมีดวงจิตเปิดรับธรรมะจน
ทุกวันนี้มีความสงบสุข พยายามเผยแพร่
รหัสคาถาบูชาพระศรีอริยะ
และคู่มือผิวพรรณฉบับแก้ไขการติดตาม
ชมรายการคุยไปแจกไป
และใช้จี้เทพสฟิ้งซ์ช่วยคนทั่วไป
กราบพระบาททุก ๆ พระองค์ และ
สมเด็จพระศรีอริยะที่ท่านอ.อุบลอาราธนา
มาที่บ้านสวน และเทวดาที่รักษา
อ.อุบล ที่เมตตาช่วยให้ลูกหายเจ็บ
หายป่วยทุกโรคและมีกำลังใจที่ร่วม
รักษา 3 ร่มโพธิ์ศรีต่อไป
กราบเท้าท่านอ.อุบล และเจ้าของบ้านสวน
ทุกท่านค่ะ
สิ่งที่เคยทำบาปผิดศีลมาคือ

ผิดศีลข้อ 1ทำแท้ง 1 ครั้งกินยาฆ่าตัวตาย 1 ครั้งอยากฆ่าผู้บริหาร อยากผู้คอตาย สุนัขหนีรถเครื่องมาชนรถที่ขับตายขับรถทับ กิ้งกือปิดประตูหน้าต่างหนีบจิ้งจกตายทาสีทับไข่ตุ๊กแก ยิงนกตกปลาฆ่าปลากินเต่ากินกบกินหนูนาเผามดฉีดยากำจัดปลวกฉีดยาคุมแมวทำหมันแมวจับเห็บหมัด ใส่น้ำมันฉีดยากำจัดเห็บหมัดตีเตะแมวสุนัขตีลูกตีลูกศิษย์ให้ลูกศิษย์ตีกันเองตีฝ่าเท้านักเรียนเหยียบนวดให้แม่อย่างไม่ตั้งใจทำแรงจนแม่เจ็บหลังและขาผูกมือผูกเท้าพ่อเพื่อไม่ให้ดึงสายให้อาหารเตะของที่ลูกหลานเล่นแล้วไม่เก็บเข้าที่ถีบลูกเลี้ยงหมูเพื่อขาย ปิดฝาถังส้วมขังแมลงสาป ผูกสุนัขตัวเมียไว้ ถูกตัวผู้มาโซมจนตาย ลวกหอยแมลงภู่หอยแครง ตัดก้นหอยขม หอยทรายจำนวนมาก

 

ผิดศีลข้อ 3มีความสัมพันธ์กับกิ๊ก 2 คนมีความสัมพันธ์ก่อนแต่งกับสามี มีมโนภาพว่าหลับนอนกับผู้อื่น ดูภาพ คลิป ลามก อ่านหนังสือลามกใช้สายตาตำหนิ ค้อน ดูถูก ดูแคลน ด่าคนอื่นด้วยสายตา

 


ผิดศีลข้อ2ลักเงินพ่อแม่สามีป้าจี่ลุงถมขโมยสินค้าจากร้านขายของเอาของทาง ราชการมาใช้ส่วนตัวเอาสิ้นค้าที่ใช้แล้วส่งคืนบริษัทเอวอนเพื่อเปลี่ยนสินค้าใหม่

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 08:59:19


ความคิดเห็นที่ 51 (1640286)

 

ผมชื่อ นาย อดิศักดิ์ โพธิสาร (ศักดิ์) อายุ 33 ปี

การศึกษา ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง

สาขา ช่างอุตสาหกรรม อิเล็กทรอนิกส์

เทคโนโลยีช่างกล พณิชยการนครราชสีมา

ตำแหน่ง Technician Supervisor

สถานที่ทำงาน Natural Ville Managed By ACCOR

จังหวัด กรุงเทพฯ

.............................................

 

 

ในหัวข้อ

"ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

แล้วจะได้รับผลกรรมอย่างไร"

...........................................

 

 

              ขอเล่าย้อนกลับไป ตอนที่ผมมาบ้านสวนฯ ใหม่ๆ

เวลาที่เห็นอาจารย์ แต่งตัว รัดรูป เซ็กซี่

ก็จะมีจินตนาการ คิด ไปถึงรูปร่าง สัดส่วน

คิดไปในทางลามก

ปกติ เวลาผมเห็นผู้หญิงรูปร่างดี สวย

ก็จะชอบมองแล้วก็คิดไปในทางไม่ดี

นิสัยก็เป็นอย่างนี้มา 20 ปี คือจิตถูกฝึกให้คิด

เรื่องแบบนี้มาเป็นเวลานาน

ผมก็เคยคิดกับคนอื่นมาก็มาก แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเอง

คิดแล้วก็จบๆกันไป ไม่มีใครรู้ นอกจากตัวเราเอง

ถึงเราจะคิดลวนลาม ก็ไม่ผิด เพราะยังไม่ได้ลงมือทำ

ก็คิดอย่างนี้มาหลายสิบปี

จนได้มาเจออาจารย์ หุ่นดี สวย

ความคิดมันก็ทำงานโดยอัตโนมัติ

นึกถึงรูปร่าง สัดส่วน อาจารย์

วันนั้นพอเข้าห้องน้ำ เวลาปัสสาวะจะแสบมาก

ซึ่งผมไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน

ก็รีบยกมืออธิษฐานในใจขอขมาตอนนั้นเลย

อาการแสบก็ดีขึ้น นี่แค่เผลอคิดแว๊ปเดียว

ยังเป็นมากขนาดนี้

ตอนนี้ผมรู้แล้วต้องฝึกจิตตัวเองใหม่ 

มีสติ ควบคุมจิตให้คิดแต่เรื่องที่ดีๆ

ทางกฎหมาย แค่ความคิด  ยังไม่พูด ยังไม่ได้ลงมือทำ

ถือว่าไม่ผิด แต่กฎแห่งกรรม

ความคิด ก็มีความผิดเหมือนลงมือทำ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อดิศักดิ์ โพธิสาร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 11:03:57


ความคิดเห็นที่ 52 (1640289)
ผู้แสดงความคิดเห็น ทศวรรษ ฉิมวงศ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 11:06:54


ความคิดเห็นที่ 53 (1640296)

 

 
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 11:28:29


ความคิดเห็นที่ 54 (1640297)

                                                                                                   กราบ

ท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือ

รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด 

แล้วชีวิตดียังไง"

 

ชื่อ              ทศวรรษ ฉิมวงศ์ ( ทศ ) อายุ 21 ปี

การศึกษา     นิสิต คณะศึกษาศาสตร์ เอกการสอนภาษาอังกฤษ ปี 4

                   มหาวิทยา่ลัยบูรพา

จังหวัด         ชลบุรี


ผลจากกราบ   ท่าน อ. อุบล บ้านสวนพีระมิด , กราบรูป

                        สำหรับผมแล้ว   รู้สึกไม่ได้เกิดเหตุการณ์อัศจรรย์อะไร

เท่าไหร่   เพราะหลังจากที่ รู้จัก ท่าน อ. อุบล และบ้านสวนพีระมิด มา ชีวิต

ก็ ดีขึ้นทุกด้าน    ด้านร่างกายก็แทบไม่ป่วยเลย  หลังตั้งใจรักษาศีล 5 และ

กินมังสวิรัติ  ด้านจิตใจ  ก็รู้สึกจิตใจยกสูงขึ้น  อยากทำความดีมากขึ้น

 เ้ห็นความชั่วของตนมากขึ้น   เวลากราบท่าน อ. อุบล เราก็รู้สึกเหมือนกราบ

คุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหมด ทุก ๆ พระองค์   กราบกายทิพย์

อ. อุบล  กราบในความดีท่าน  ขณะที่กราบและกราบแล้วรู้สึกเบาสบายใจ โล่ง    

เวลากราบรูป ท่าน อ. อุบล ก็กราบ เพราะรู้สึก อยากจะกราบ กราบแล้วก็รู้สึกดี

 เหมือนพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆ พระองค์ และท่าน อ. อุบล

คือ ที่สุดของชีวิตและจิตใจของเรา
ผู้แสดงความคิดเห็น ทศวรรษ ฉิมวงศ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 11:29:44


ความคิดเห็นที่ 55 (1640310)

 

   ดิฉัน ชื่อ น.ส เจนมณีรัตน์ นาคชยานันท์ อายุ 58 ปี ชื่อเล่นว่าติ๋ม

   การศึกษา ปวช ช่างสำรวจ ภาษานุสรณ์บางแค

   อาชีพ เจ้าของธุรกิจ ที่บ้านสวนหลวง ร

   จังหวัด กรุงเทพมหานครฯ

   นับเป็นสมาชิกใหม่ ของบ้านสวนพีระมิด แดนมหัศจรรย์

เนี้ยงจากตัวเองมีอี(โง้)สูงมาก่อนเจอ ท่านอาจารย์ อุบล แต่จำได้ครั้งแรกที่ได้ดูรายการคูยไปแจกไป ที่น้องชิมส่งมาให้ ตอนนั้นยังไม่เห็นรูปท่านอาจารย์ แต่เห็นองค์ปฐมบรมบิดา หลวงปูปาน หลวงพ่อฤาษี น้อมจิตกราบทุกพระองค์ พอเห็นรูปท่านอาจารย์ ก็ยกมือพนมก้มศีรษะ แต่

 จิตตัวในไปกราบที่เท้าท่านอาจารย์โดยไม่ทันตั้งตัว เห็นจิตตัวเองก็งง  เพราะเคยถือตัว ว่าเราก็ศิทธิ์มีครู (องค์ปฐม หลวงปูปาน หลวงพ่อฤาษี) อยู่เหนือกระหม่อมตลอดเวลา แต่วันนั้นกราบท่านอาจารย์ ต้อง

 มีอะไรดีกว่าที่ตาเนื้อเห็นเป็นแน่แท้ ไม่ทันตั้งตัวก็ได้เห็นด้วยตาเนื้อ     หลายๆพระองค์ที่ท่านสงเคาะห์ คนโง้เคลาเบาปํญญาอย่างดิฉันให้ได้

 รับสัมผัส เย็นนน เบากาย เบาใจ ปิติสูขบอกไม่ถูก น้ำตาซืม ขนตั้ง

 รู้ได้ด้วยตัวว่าท่านมีสี่งศักดิ์สิทธิ์คู้มครองเยอะมากกกกกกกกกก

 ดูไม่จบตอน เพราะเกิดอาการปิติลืมตาไม่ขื้น ไม่ไช่อาการงวงนอน

แต่ไม่อยากลืมตา จิตมันล่องลอยไปไกลมากไม่รู้ที่ใหน@@@@@@

   คงถึงเวลาที่จะเห็นธรรมะของพระพุทธองค์อย่างถ่องแท้เสียที

 อยากมากราบท่านด้วยตัวได้เห็นท่านด้วนตาไกล้ๆ ตั้งใจดูรายการคูย

 ไปแจกไปตามที่น้องชิมแนะนำ ตานี้ดูได้หลายตอนแต่ไม่ครบ 9 อยู่ดี

 มีเหตุที่ทำให้ตาสว่าง ว่าเราคงถูกหลอกจากความใจอ่อนขี้สงสาร

 ขาดปํญญายั้งคิด ทำให้เสียเงินไปหลายบาท ถ้าไม่ตั้งใจขอดูรายการ

 คูยไปแจกไปของท่านอ.อุบล คงยังไม่ตาสว่าง เพราะขนะดูไปก็   โมทนากับเขาไป ทำให้เกิดปัญญามานิ้ดดนึง ว่า เอ เราจะได้เงินคืน    เมื่อไหร่ ทำมัยผิดนัดบ่อยจัง หรือว่าเราถูกหลอกจริงๆ งง+งง+งง+

 ตัดสีนใจโทรหาคูณแมว ไม่อายแล้วว่าเราโง้ที่โอนเงินไปให้เค้าทุก

 ครั้งที่เค้าต้องการ โดยอ้างเหตุต่างๆนาๆ ทั้งที่ตัวก็ไม่มีเงินเหลือเฟือ

 ต้องเอาเงินที่จะจ่ายค่าเช่าสถานที่ที่ทำงานโอนไปให้เค้าจนหมด

 ปลายพฤษภาคม ถึงปลาย สิงหาคม หมดไปประมานสองแสนบาท

 ไม่เรียกว่า โง้ ก็ไม่รู้ว่าจะไช้คำใหน

       แล้วมันเกียวกับการกราบ อ.อุบล ตรงใหน ก็ตรงที่จิตหยาบแค่

 พนมมือ แต่จิตตัวในที่เป็นจิตเดิมแท้ก้มกราบแทบเท้า ทำให้เรามี

 โอกาสได้มากราบท่านตัวเป็นๆ ที่แดนมหัศจรรย์ บ้านสวนพีระมิด

 กราบโดยที่ไม่ได้คิดมาก่อนว่าเจอท่านแล้วจะกราบ มันเป็นอัตโนมัต

 ท่านขับรถกอลฟ ออกมา คุกเข่ากราบที่พื้นดินด้วยจิตที่เต็มตื้นอี่มเอ็ม

 น้ำตาซืม ปิติสูขจริงแท้ เหมือนตามหากันมานานเหลือเกินนนในที่สุด

 ก็ได้พบ เกิดอาการเ***ยไม่มีแรงลุกไม่ขื้น จนท่านบอกว่า เอ้ามาใหม่  หรอ

     เจ้าค่ะได้ยินเสียกตัวเองตอบ (ปกติเจ้าค่ะจะพุดกับพระผู้โหญ่)

  เอ้าลุกขื้นได้แล้วเข้าไปช่วยเค้าขุดหลุมทำเสารั้วด้านในโน้นนน

  แล้วจากนั้นจนถึงวันนี้ กราบทุกครั้งที่มาบ้านสวน วันใหนมาแล้ว

  ยังไม่ได้กราบ จะรู้สึกว่าตัวเองขาดอะไรไปที่ยังไม่ได้ทำ

     โดยส่วนตัวยังไม่ได้กราบรูป เลยไม่มีเรื่องเล่า เคยกราบตัวท่าน

  ทั้งที่บ้านสวนและข้างนอกบ้านสวน กราบแล้วสบายตัว เบาใจ อี่มเอม

  มันอี่มนะค่ะบอกว่างัยดีละ อี่มมๆเบาสบาย กายและใจ ก็ที่สุดแล้วละ

                ยี้งมาได้อ่าาที่ท่านเขียนลงก่อนหน้านี้

 ยี้งเพิ่มความมั้นใจว่าเรากราบท่านผู้มีศิลบริสุทธิ์

 จริงๆ แค่กราบก็สูขใจ แล้วท่านบอกว่าปลอดภัยอีก

หมดทุก หลุดพ้นจากวิบากกรรม ถ้าเราทำด้วยจิตที่เคารพ และนบน้อบจากใจจริง

      กราบขอบคูณเทวดาที่รักษาท่านอทจารย์ ท่าน

อาจารย์ และครอบครัว และสี่งศักดิ์สิทธิ์ที่บ้านสวน

 ทุกๆพระองค์ ที่เมตตาให้ลูกหลานได้มีที่พึ้ง ทั้งทางกาย และทางใจ เพื่อมีดวงจิตที่หลุดพ้นได้กลับบ้าน พิมพานเทอญๆ สาธุ สาธุ สาธุ

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เจนมณีรัตน์ นาคชยานันท์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 11:51:04


ความคิดเห็นที่ 56 (1640336)
ชื่อ: นางสาววินิตา สุทธิวรา ชื่อเล่น: ก้อย
อายุ: 32 ปี
การศึกษา: ประกาศนียบีตรวิชาชีพชั้นสูง
สาขา: การตลาด จากกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย
อาชีพ: พนักงานบริษัทเอกชน
ตำแหน่ง: พนักงานขาย / บริษัท จ๊อบเซิร์ฟ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร: 085-484-9725, 088-227-5299

ตำแหน่ง: Sales Executive / Jobserve (Thailand) Co., Ltd.

"ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิดแล้วจะได้รับผลกรรมอย่างไร"

ครั้งแรกที่ดูรายการคุยไปแจกไป ก็คิดปรามาสว่าท่านอาจารย์เอาธรรมะมาบังหน้า เพื่อขายเครื่องสำอางค์พาเมล่า  ทั้งที่ท่านไม่เคยเชิญชวนให้ซื้อเลยสักครั้งเดียว

ต่อมาหลายครั้ง ตอนสร้างบุญด้วยแรงกาย ก็แอบคิดว่าท่านอาจารย์อาจมีอุบายดึงคนเข้ามาทำงานให้บ้านท่านดูดี โดยไม่ต้องเสียเงินจ้างคนงานมาทำ (ดู๊!!...คิดไปได้) ไม่ได้คิดย้อนกลับเลยว่า ท่านอาจารย์เคยชวนให้มาสักครั้งไหม เวลามาได้ทำงานให้คุ้มค่าอาหาร น้ำดื่ม ค่าน้ำ ค่าไฟ ทำห้องน้ำสกปรก อุปกรณ์เครื่องใช้พังเสียหาย ไม่เก็บเข้าที่ บางอาทิตย์ก็ลืมของทิ้งไว้เรี่ยราด ให้ท่านเจ้าของบ้านคอยตามเก็บกวาด สร้างภาระอีกมากมายให้กับท่าน บางครั้งก็คิดว่า ท่านอาจารย์ได้แต่สั่งๆๆ ไม่เห็นลงมือทำเองบ้าง 

คิดสงสัยคุณท็อป ว่าทำไม ทั้งที่เป็นลูกท่านอาจารย์ แต่ยังต้องใส่แว่น หน้าก็ยังมีสิว แล้วยังมาขายเครื่องสำอางค์พาเมล่าอีก ดูไม่น่าเชื่อถือซะเลย 
 
เมื่อก่อนไม่กล้าบอกรหัส.อาจารย์อุบลช่วยด้วย ไม่กล้าเล่าเรื่องราวที่เกี่ยวกับบ้านสวนฯ เพราะรู้สึกอาย กลัวคนอื่นหาว่าเราบ้า งมงาย ทั้งที่มาที่นี่เราได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์หลายอย่าง เช่น ทำงานไม่ว่าจะหนักแค่ไหน ก็ไม่ปวด ไม่เมื่อย, หลายคนที่เจ็บป่วยสามารถหายได้ทันที, คนพิการหลาย ๆ ท่านกลับมามีร่างกายเป็นปกติ, รวมทั้งที่ตัวเองและครอบครัวได้รับความสุขในทุก ๆ ด้าน 

ผลกรรมที่ได้รับคือ ทุกครั้งที่คิดไม่ดี หรือไม่เชื่อมั่นในท่านอ.อุบล และบ้านสวนฯ จะรู้สึกท้อแท้ จิตใจห่อเหี่ยว สับสนในชีวิต ทำสมาธิไม่ค่อยได้ ไม่อยากเขียนธรรมทาน ชีวิตไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ทั้งที่มาสร้างบุญเท่าไหร่ ก็ยังเจออุปสรรค  โดยเฉพาะปัญหาการเงิน ทำให้คนในครอบครัวตำหนิ ที่มาสร้างบุญเกือบทุกอาทิตย์ แต่ชีวิตยิ่งแย่ลง

เมื่อวันที่ 13-14 ต.ค ที่ผ่านมา ก้อยได้กลุ่ม Workshop ในหัวข้อ "ท่านคิดว่า คนที่มีวัตถุมงคลของบ้านสวน และเคยใช้รหัสได้ผล แต่ต่อมาจิตใจไม่เชื่อมั่น ไม่มั่นคงต่อ อ.อุบล และบ้านสวนพีระมิด เขายังจะสามารถใช้วัตถุมงคลต่างๆของบ้านสวนได้อีกต่อไปหรือไม่ เพราะเหตุใด โปรดยกตัวอย่างประกอบด้วย และท่านในฐานะลูกบ้านสวน จะทำอย่างไร หรือแนะนำเขาอย่างไร" 

ในตอนนั้น ทั้งที่ควรจะตอบได้ แต่ก้อยกลับคิดอะไรไม่ออก สมองตื้อไปหมด ตอบโจทย์ข้อนี้ไม่ได้เลย มาวันนี้ถึงบางอ้อ (อีกแล้วค่ะ) คำถามของ workshop นี้ เหมือนเป็นคำถามที่ก้อยต้องตอบเอง

เมื่อไม่ศรัทธา มั่นคง กตัญญูรู้คุณต่อครูบาอาจารย์ และบ้านสวนพีระมิดด้วยใจจริง ชีวิตเราก็ยังต้องเวียนว่ายอยู่ในความทุกข์ ไม่สามารถปลดล็อคกรรมใด ๆ ได้เลย อย่างที่ก้อยเคยเป็นมาก่อน

กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆ พระองค์ ท่านอ.อุบล ท่านอ. มงคล และคุณท็อป ที่เมตตา และมีแต่คำว่า "ให้" โดยเฉพาะคำว่า "ให้อภัย" ค่ะ
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อย วินิตา สุทธิวรา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 13:20:42


ความคิดเห็นที่ 57 (1640353)

ชื่อ  นางวัชรินทร์   เกษมณี    อายุ  59  ปี

การศึกษา   ครุศาสตร์บัณฑิต  ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง  ราชบุรี

อาชีพ    ข้าราชการบำนาญ

ที่อยู่      จังหวัดราชบุรี

"ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิดแล้วจะได้รับผลกรรมอย่างไร"

ผู้แสดงความคิดเห็น วัชรินทร์ เกษมณี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 14:45:40


ความคิดเห็นที่ 58 (1640354)

ต่อไปนี้

ทุกสัปดาห์

เราจะมี

Workshop

สร้างหนังสือธรรมทาน

กันนะครับ

โดยเราจะนำธรรมทานของแต่ละท่านที่เขียนหรือนำมาส่งแต่ละสัปดาห์ มาเข้าเล่มเพื่อเตรียมแจกกันต่อไป

สัปดาห์นี้ เราจะเริ่มทำหนังสือธรรมทานชุด "กราบท่านอาจาย์อุบลฯ และ การปรามาสท่านาอาจารย์อุบลฯ"

โดยทำเป็น A5 ขนาดพ็อกเก็ตบุ๊ค ดังนั้นเราจะซีร็อกซ์มาเพื่อเตรียมให้พี่น้องได้เข้าเล่มกันในฐานของ Workshop แต่ละสัปดาห์

ไม่ต้องกังวลนะครับ ท่านเขียนธรรมทานแต่ละเรื่องได้เรื่อยๆตลอดเวลา เราจะทะยอยนำมารวมเล่มทุกๆสัปดาห์ ซึ่งจะมีเนื้อหาที่หลากหลายกันออกไปเรื่อยๆทุกสัปดาห์

ขออนุโมทนาบุญล่วงหน้ากับทุกๆท่านด้วยครับ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 14:49:24


ความคิดเห็นที่ 59 (1640370)

ขออนุโมทนากับ

พ่อใหญ่ธนา

และ

ทุกท่านที่มาเขียนธรรมทาน

สิ่งที่เบื้องบนท่านเน้นย้ำ ขอให้ทุกท่าน

ได้ทราบว่า นั่นคือ

 ลายแทง

ที่จะนำไปสู่ ความหลุดพ้น

ดังนั้น หากท่าน เพียงแต่เขียนธรรมทาน

แต่ไม่ได้สนใจรายละเอียด

ที่ต้องเขียน

ก็เหมือนท่านหาลายแทงไม่พบ

ท่านก็จะไม่ถึงจุดหมาย

เพราะท่านหลงทางเสียก่อน

 

อย่าลืมนะคะ

ต้องเขียนให้ละเอียดอย่ากั๊ก

กับ

1.ชื่อ-สกุล-ฃื่อเล่น

2.การศึกษาสูงสุด

3.คำนำหน้าชื่อ ยศ ตำแหน่ง

4.การเขียนที่ให้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน

เป็นเหตุเป็นผล ไม่ใช่แค่ความเชื่อ

แต่เป็นเรื่องที่ประจักษ์ชัดเจน

5.เขียน หรือ พิมพ์ตัวใหญ่ๆ

 

อ่านข้อแนะนำหลายๆรอบ

ถ้าไม่เข้าใจ ให้ดูตัวอย่างที่คนอื่นเขาเขียน

และควรดูตัวอย่างบุคคคลที่

น่าเอาเป็นตัวอย่าง

 

จะเห็นว่า

บางคน พอมีกระทู้บอกบุญ

ธรรมทานใด ก็จะรีบทำทันที

ทำได้ทันเวลา ถูกต้อง

ตามลายแทงได้

ซึ่งทำให้

ทำกิจกรรมบุญใหญ่ๆ

ได้ทันท่วงที แม้แต่คนอยู่เมืองนอก

ยังทำได้ทัน เช่น คุณชนิดา

น้องหญิง คุณศรีนวล

เป็นต้น

 

แต่หลายท่าน

อยู่เมืองไทย มาบ้านสวนประจำ

แต่ทำไม่ทัน หรือ ไม่ทำ

ก็ไม่ทราบ

 

จะสังเกตว่า

ท่านทั้งหลาย ที่ไม่ทำ

หรือไม่ทัน ช่วงนี้ มีปัญหาสุขภาพ

ที่ปลดล๊อกไม่ได้ หรือบางที

ก็ปัญหาความสำเร็จในธรรม

และอื่นๆ มาเยือน

ชัดเจน

 

-ใช้จี้ไม่ได้ผล

-ใช้รหัสไม่ได้ผล

-บำบัดก็ไม่ได้ผล

-ซึ่งนี่คือสัญญานความเมตตา

เตือนแล้ว

 

และ

ท่านทั้งหลายต้องเร่งแล้ว

ก่อนตกขบวน

 

บางคนเขียนธรรมทาน

ไม่ใส่กระทั่งชื่อ

ดังนั้น

ท่านอย่าเสียเวลาเหนื่อยเลยค่ะ

นอนพักผ่อนให้สบายเถอะค่ะ

เพราะธรรมทานของท่าน

จะมีไม่ผลอะไรเลย

นอกจากท่านเสียเวลาฟรีๆ

 

และ

ขอให้ทางเจ้าหน้าที่

รวมเล่ม "คัดออก" ด้วยสำหรับ

ผู้ที่ไม่ใส่รายละเอียดตาม

ที่ได้แจ้ง ซึ่งเราต้องสรุปว่า

เขาไม่ต้องการ

หลุดพ้น

และไม่ต้องการอยู่เป็นผู้

กอบกู้สถาบันทั้ง 3 ร่วมกับพวกเรา

และ

ไม่ประสงค์จะช่วยเหลือตัวเอง

ครอบครัวตัวเอง

และ

ไม่ต้องการช่วยใครอีกต่อไป

 

นอกจาก

คอยให้ อ.อุบล คอยช่วย

ซึ่งตอนนี้ เบื้องบน ท่านปิดเซิฟเวอร์

ของแต่ละท่านที่ไม่สามารถ

ทำตาม ลายแทง ได้แล้ว

 

ตั้งแต่

สัปดาห์นี้เป็นต้นไป

 

ส่วนท่านที่เขียนแล้ว

ก็ตรวจดูอีกทีนะคะว่าของเรา

ครบถ้วน สมบูรณ์ เรียบร้อยดีแล้วหรือไม่

จะได้ใช้รหัสได้ต่อไป

ใช้จี้ช่วยคนได้ต่อไป นะค๊า

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 17:15:22


ความคิดเห็นที่ 60 (1640375)

 ชื่อ            นางดวงรัตน์ จันทร์ใสย์   อายุ   44 ปี   ชื่อเล่น เตือน

การศึกษา  ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงสาธารณสุขศาสตร์ สาธารณสุขชุมชน

                  วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดขอนแก่น

อาชีพ         ลูกจ้างประจำ

ตำแหน่ง     เจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชน 

สถานที่ทำงาน  โรงพยาบาลเนินสง่า จังหวัดชัยภูมิ

 

"กราบ

ท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือ

รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

แล้วชีวิตดียังไง"

 


   ตั้งแต่ดูรายการคุยไปแจกไป ครั้งแรกๆ ราวปลายๆปี 52 ที่ทางอาจารย์ได้นำเรื่องราวการหายจากอาการเจ็บป่วยโดยไม่ต้องพึ่งยา โดยไม่ต้องรักษาจากแพทย์ของผู้คนที่มาพึ่งบุญบารมีสิ่งศักดิืสิทธิ์  พึ่งบุญบารมีของท่านอาจารย์อุบลที่บ้านสวน  หรือการช่วยชีวิต

น้องท๊อป และท่านอาจารย์มงคลมาเล่าเป็นธรรมทาน จิตก็ไม่มีข้อโต้แย้ง หรือสงสัยใดๆเลย เรื่องราวที่นำเสนอผ่านจอ TV  ก็ดูเป็นธรรมชาติ ไม่มีการเตรียมหน้าม้ามาหลอก  และส่วนตัวแล้วมีความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่ามีจริง กอรปกับเป็นคนชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับความลี้ลับของ พีระมิด ฟาโรห์ หนังสือมิติที่ 4 สัมผัสที่ 6 มาบ้าง ทำให้สนใจสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนแห่งนี้ พอมาเกิดเหตุการณ์กับตัวเองเรื่องการใบหน้าที่เป็นด่างขาวถาวร จากการใช้เครื่องสำอางโดยที่ทางแพทย์ผิวหนังยืนยันว่าไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ แต่ลูกกลับมั่นใจ และเชื่อมั่นว่าท่านอาจารย์อุบลสามารถช่วยลูกได้  และก็ลูกสมปรารถนาท่านอาจารย์และสิ่งศักดิ์

สิทธิ์บ้านสวนได้มีเมตตา  หายขาด 100% เมื่อไร่ไม่รู้สึกตัว

ใช้พาเมล่าไม่ถึงปีค่ะ  

   เห็นท่านอาจารย์( ตัวเป็นๆ) ครั้งแรกก้มีแต่ความตื่นเต้นชื่นชม ปลื้มมาก  ชอบ (แอบ)มองรูปร่างท่านอาจารย์บ่อยๆ เห็นท่านอาจารย์แต่งตัวด้วยเสื้อผ้ารัดรูป ก็รู้สึกบ้างแต่พอท่านอาจารย์มาเฉลยเรื่องรูปร่าง หน้าตา เสื้อผ้าหน้าผม ไม่ให้ไปยึดติด ให้สนใจในธรรมะ หลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ที่ท่านอาจารย์ได้นำมาพร่ำสอน และให้พวกเราได้ปฏิบัติตามจะได้หายเจ็บ หายจน สมหวังในชีวิต ก็ถึงบางอ้อค่ะเลิกสงสัยในตัวท่านอาจารย์(เริ่มฉลาดขึ้นมาบ้าง) 

  แม้ท่านอาจารย์จะพูดเสียงดัง และดุ สอนแบบตรงมากๆ แต่ก็ยินดีค่ะ ไม่อ้อมค้อม ฟังแล้วรู้สึกโล่งมาก มาก ทรงพลังเปี่ยมด้วยเมตตา มีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นอาจารย์ไม่ว่าจะเป็นทาง TV  ,  Web , ภาพถ่าย แม้นานๆจะโผล่มาทำบุญที่บ้านสวนสักครั้ง แต่จิตของลูกก็ยังเกาะติดก็ที่บ้านสวน ที่แห่งนี้ให้ชีวิตใหม่ที่มีแต่ความสุขกาย สุขใจ มาตลอด ลด ละ เลิก สิ่งไม่ดีไปจากชีวิต เหมือนกับตายแล้วเกิดใหม่ก็ว่าได้

  ครั้งแรกๆที่กราบท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์ไม่อยากให้กราบเลยค่ะ ท่านอาจารย์่จะห้าม "ไม่ต้องกราบๆ"   ทำให้ไม่กล้ากราบในช่วงแรกเพราะไม่อยากละเมิดคำขอของท่านอาจารย์ค่ะ ต่อมาท่านอาจารย์อนุญาตให้กราบได้  ดีใจมากเลยค่ะ ลูกกราบด้วยใจที่เคารพรักและศรัทธา กราบผู้มีบารมีและมีวาจาสิทธิ์ได้กราบแล้วมีความสุข มากๆ ยิ่งเดี๋ยวนี้ไม่ต้องพุดถึงบารมีของท่านอาจารย์แผ่ไพศาลยิ่งนักกว้างไกลในจักรวาลแล้ว เจ้าค่ะ สาธุ

  ขอน้อมกราบ

ขอบพระคุณ

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์

ท่านอาจารย์อุบล

ที่ทรงมีพระเมตตาบารมีต่อลูกหลานบ้านสวนมา

โดยตลอดเจ้าค่ะ กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ดวงรัตน์ จันทร์ใสย์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 17:26:20


ความคิดเห็นที่ 61 (1640385)

 

 "ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิดแล้วจะได้รับผลกรรมอย่างไร"

ผมชื่อ พัฒนพงศ์  ปรับโตวิดโจโย (เบส) อายุ 21 ปี  กำลังศึกษาอยู่ที่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ ชั้นปีที่ 3 จังหวัด กรุงเทพมหานคร

  เรื่องการปรามาส อ.อุบลของผมนั้นจะเป็นในลักษณะของจิตแว๊บครับ โดยเรื่องที่ปรามาสก็คือทุกครั้งที่คิดถึง อ.อุบล หรือเห็นท่านก็จะมีอาการจิตแว๊บ คิดด่า ว่าท่านมากมาย เมื่อมีคนด่าว่า อ.อุบลทางเว็ปไซต์ ก็จะมีคิดหัวเราะด้วย 

โดยทุกครั้งที่เผลอ ก็จะได้ยินเหมือนคนกระซิบข้างหูให้ว่าอ.อุบล และให้ว่า ด่าด้วยคำหยาบคายมากมาย โดยผมไม่ได้มีเจตนาที่จะคิดเอง แต่เหมือนว่ามีคนคอยกระซิบ คอยควบคุมเราอยู่ ถึงต้องมีสติ มีสมาธิตลอดเวลาไม่อย่างนั้นเผลอนิดเดียว เขาก็จะมากระซิบอีก ซึ่งกรรมจากการที่คิดไม่ดีกับ อ.อุบลนี้ ทำให้จิตใจร้อนรุ่ม ไม่มีความสงบ ครับ

และเคยคิดเห็นภาพคนกระโดดถีบ อ.อุบล โดยเป็นภาพที่ติดตามาจากในหนัง โดยไม่สามารถบังคับความคิดได้ โดยผลกรรมจากการคิดนี้ ทำให้มีอาการคันที่ขามากๆ โดยจะคันเกือบทุกครั้งที่คิด ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็ต้องรับผลกรรมเช่นกันครับ โดยเกือบทุกครั้งที่คิดไม่ดีแล้ว ก็จะเสียใจ และสำนึกผิด และจะกราบขอขมา อ.อุบลในใจทุกครั้ง และในจิตจะเห็นคนคนๆหนึ่งเขาจะคอยยิ้มอย่างสะใจ แล้วหัวเราะเยาะเราเสมอ เหมือนกับจงใจให้เรารู้ว่า "ยังไงแกก็ไม่ได้ดีหรอก ฉันไม่ยอม"  โดยผมก็รู้สึกผิด และก็พยายามบังคับจิตของตัวเองตลอด แต่บางครั้งที่เผลอ ก็เสร็จเขาอีกแหล่ะครับ ที่ผมสำนึกผิดได้นั้น เพราะเป็นการละอายต่อสิ่งที่ได้ทำไป เพราะ อ.อุบลท่านทำดีมากมาย แต่เราดันไปคิดไม่ดีกับท่าน ทำให้รู้สึกเสียใจทุกครั้งที่คิดไม่ดีกับ อ.อุบลครับ และที่รู้ว่าการคิดไม่ดีกับ อ.อุบลนี้เป็นบาปหนัก เพราะว่าเราคิดไม่ดี กับ อ.อุบล แล้วคันขามาก เกาจนเลือดออกเลยครับ ซึ่งก็เป็นผลกรรมจากการที่คิดเห็นภาพที่มีคนกระโดดถีบ อ.อุบลนั่นเอง และที่ผมหายจากอาการคันที่ขานั้น ผมคิดว่าน่าจะเป็นการที่ผมกราบขอขมา อ.อุบลทุกครั้งในใจครับ

เพราะผมไม่ได้ตั้งใจ แต่ไม่สามารถบังคับกระแสจิตตัวเองได้

เรียกได้ว่า เลวมาเยอะนั่นเองครับ  

ลูกขอกราบขอขมาท่านอาจารย์อุบล และครอบครัวครับ ลูกไม่ได้มีเจตนาทีไม่ดี ไม่มีใจอยากคิดว่าร้ายท่านอ.อุบล แต่ผมไม่สามารถบังคับได้ครับ ขอกราบขอขมาเป็นอย่างสูงครับ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 18:22:29


ความคิดเห็นที่ 62 (1640387)

 

ชื่อ น.ส.ทัศนีย์ อุปถัมภกสกุล จ.กรุงเทพมหานคร

จบการศึกษา ปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัญฑิต ( พยาบาลและผดุงครรภ์)    

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ปัจจุบันทำงานที่ รพ.ทหารผ่านศึก ตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ
   เริ่มต้นดูรายการคุยไปแจกไปของท่าน อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ในอินเตอร์เนทตามคำแนะนำของคุณเบญจรัศมี เพ็ชรชินเลิศ ก็เกิดความศรัทธาท่าน อ.อุบลโดยไม่มีข้อกังขาใดๆจนถึงปัจจุบัน   อ.อุบล เป็นแม่พระ  แม่แบบที่เปี่ยมล้นไปด้วยความเมตตา ความเสียสละ ชอบวิธีการสอนธรรมะของอาจารย์ที่ใช้คำพูดง่ายๆ  กะทัดรัด  เข้าใจง่าย ไม่ต้องแปล ได้ใจความ และชี้ให้เห็นถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยและเรื่องราวทุกข์ต่างๆที่เกิดขึ้นกับชีวิตของแต่ละคนตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าว่าทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ เมื่อเหตุดับผลก็ดับ ซึ่งทุกคนก็ได้เห็น ได้สัมผัสกับเหตุการณ์ปาฎิหารย์ต่างๆมากมายในบ้านสวนพีระมิดที่ไม่สามารถอธิบายด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์หรือวงการแพทย์ได้ ปกติเป็นคนไม่ชอบดูหนัง ดูทีวี เมื่อดูรายการของอาจารย์กลับรู้สึกสนุก  ไม่ง่วงนอนและชอบตรงที่ได้ศึกษาธรรมะจากอาจารย์ ทำให้คนที่ไม่ค่อยมีภูมิธรรมอย่างตัวเองเริ่มรู้เรื่องธรรมะและกฎแห่งกรรมมากขึ้น
    ส่วนตัวยังไม่เคยมีประสบการณ์ปาฎิหารย์จากการกราบท่านอาจารย์ แต่ก็กราบด้วยความศรัทธาจากก้นบึ้งของหัวใจ  ถึงจะไม่ได้รับการสัมผัสเช่นคนอื่นๆ แต่บ่อยครั้งที่ออกไปนั่งใกล้ๆอาจารย์จะมีอาการขนลุกทั้งตัว  ในใจเรารับรู้แต่ว่าอาจารย์คือผู้ประเสริฐที่ให้ชีวิตใหม่แก่ทุกคน เป็นที่พึ่ง คอยห่วงใยความเป็นอยู่ของทุกคน เสียสละความสุขส่วนตัว คอยอบรมสั่งสอนให้ทุกคนเป็นคนดี สอนทุกเรื่องที่เห็นข้อผิดพลาดไม่มีคำว่าเหน็ดเหนื่อยเพื่อให้ทุกคนพ้นทุกข์  เวลาเห็นหน้าอาจารย์จึงรู้สึกอบอุ่นใจ ปลอดภัย มีความสุข  มีกำลังใจ   เหมือนมีคนคอยเตือนสติเรา ทำให้จิตใจเข้มแข็งขึ้น
               กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ครอบครัว
           และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์แห่งบ้านสวนพีระมิดค่ะ
                                กราบ กราบ กราบ 
ผู้แสดงความคิดเห็น ทัศนีย์ อุปถัมภกสกุล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 18:31:50


ความคิดเห็นที่ 63 (1640388)

 

"กราบท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือ

รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด 

แล้วชีวิตดียังไง" 

++++++++++++

ผมนาย พัฒนพงศ์  ปรับโตวิดโจโย (เบส) อายุ 21ปี กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ คณะมนุษยศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 เอกภาษาอังกฤษ จังหวัดกรุงเทพมหานคร

ผมขอเล่าประสบการณ์ของผมที่กราบ อ.อุบลหรือรูปของ อ.อุบลแล้ว ทำให้หายเจ็บป่วยได้ครับ โดยผมมีอาการหนักที่ใหล่และเมื่อกราบ อ.อุบลก็ทำให้หายจากอาการปวดใหล่ครับ และทุกครั้งที่กราบรูป อ.อุบลที่บ้านจะรู้สึกอบอุ่นและมีความสุข เหมือนกับว่าท่านคอยเฝ้ามองเราอยู่เสมอครับ

และก็เคยให้คุณป้าที่มีอาการปวดคอ กราบรูป อ.อุบลที่อยู่บนธนบัตรขวัญถุง

ปรากฎว่าคุณป้าบอกว่าอาการดีขึ้นมากเลยครับ คุณป้าดีใจมากๆเลยครับ และผมก็เคยเห็นคนอีกมากมายที่กราบ อ.อุบลหรือรูปของ อ.อุลแล้วหายจากโรคหรืออาการต่างๆมากมายครับ

กราบขอบพระคุณอาจารย์อุบล และครอบครัวครับ

พัฒนพงศ์  ปรับโตวิดโจโย (เบส) 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 18:34:48


ความคิดเห็นที่ 64 (1640401)

 

        ข้าพเจ้า นางเตือนใจ  ดวงมาลา (ป้าเตือน)  อายุ 65 ปี          จบการศึกษาสูงสุดชั้น   ป.4 โรงเรียนบ้านทุ่งขาม จ.ลำปาง  อาชีพแม่บ้าน อยู่ที่  อ.พาน จ.เชียงราย

        ป้าได้กราบท่าน อ.อุบล รูปภาพท่าน หรือแม้แต่เสื้อผ้าของท่าน อ.อุบล แล้วปรากฏว่า     สุขภาพ ชีวิตการงานป้าดีขึ้นมาก  เวลากราบท่าน อ.อุบลแต่ละครั้งจะรู้สึกปิติ ตื้นตันใจ และมีความสุขมากๆ  ที่สำคัญเป็นวันที่ป้ายากจะลืมในชีวิต 28 มค.54  วันที่ไปทำความสะอาดบ้านท่าน อ.อุบล    และได้มีโอกาสเก็บเสื้อผ้าให้ท่าน อ.อุบล    ป้าก็กราบเสื้อผ้าท่านอาจารย์ก่อนที่จะเก็บ และก็ได้ช่วยทำความสะอาดห้องครัวบ้านท่านอาจารย์    จนถึงเวลาเที่ยงคืน  อาการป่วยโรคที่ป้าเตือนเป็นมากว่า  40  ปี    ไม่ว่าจะเป็นปวดหลัง ปวดข้อ-แขน  ระบบลำไส้มีปัญหา เป็นก้อนเนื้อเต้านม  นั่งรถไปไหนจะต้องอาเจียนทรมานมากๆ  ฯลฯ ขณะยกตู้ยังปวดหลัง และแขน       และตัว ป.ปลาที่ปรากฏบนใหล่ที่มีอาการเจ็บแปล็บๆ  ก็มลายหายไปในเวลาเที่ยงคืน    โดยที่ป้ายังไม่ได้สารภาพบาปเลย

     มีครั้งหนึ่งจู่ๆ ป้าเกิดปวดท้องแทบขาดใจ   นั่งและนอนไม่ได้ เหงื่อแตก เหมือนคนใกล้ตายทำให้เกือบจะมาเข้าค่าย 12 ไม่ได้แล้ว แม้จะใช้รหัส "อ.อุบลช่วยด้วย"  ก็ยังไม่ดีขึ้น      จึงโทรหาท่าน อ.อุบลแนะนำว่า ให้ป้าใช้จิตมากราบท่าน แล้วท่านก็พูดว่า หายนะป้าเตือน แล้วเตรียมตัวมาเข้าค่ายนะ       เท่านั้นแหละค่ะ  ภายใน 3-5 นาที  จู่ๆ ป้าก็ลุกขึ้นนั่งได้     อาการกลับมาเป็นปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ปาฏิหาร์   และอัศจรรย์ใจมากๆ เลยค่ะ  ที่ทำให้ป้าเหมือนคนตายแล้วเกิดใหม่ และสามารถมาเข้าค่ายได้

     ทุกครั้งที่ป้าจะกราบท่าน อ.อุบล ท่านก็จะบอกว่าไม่ต้องกราบท่าน อายเขา    หลังๆ มาป้าจะกราบห่างๆ เพราะว่าถ้ากราบใกล้ ท่าน อ.อุบลก็จะจับมือป้าเตือนลุกขึ้น   แม้ท่านอาจารย์จะบอกว่าป้าอย่ากราบ   แต่จิตป้าเตือนบอกว่า   อยากกราบ  เพราะกราบท่าน อ.อุบล แล้ว

     - ป้าหายจากทุกข์โศก โรคภัยตั้ง 10 กว่าโรค  ดังกล่าวที่เป็นมากว่า 40 ปี หายไป

     - กราบแล้วมีชีวิตที่ดีขึ้นทุกด้าน  ครอบครัวมีความสุขไม่ต้องได้ทะเลาะกับพ่อบ้านอีกต่อไป  จากที่เคยทะเลาะแทบทุกวัน

     -  กราบแล้วหายเจ็บ หายจนมีสภาพคล่องขึ้น เวลาติดขัดแค่นึกถึงท่าน อ.อุบล และใช้รหัส "อ.อุบลช่วยด้วย"    ก็จะช่วยให้มีช่องทาง มีรายได้เข้ามาทันทีอย่างคาดไม่ถึง

    -  กราบท่านอาจารย์ทีไร เหมือนได้กราบพระพุทธองค์ หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านท้าวเวสสุวรรณ   ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทุกๆ   พระองค์ทั่วทั้งจักรวาล รวมทั้งองค์สฟิงซ์ และมนุษย์ต่างดาว

    -   กราบท่านแล้ว ทำให้มีจิตใจเยือกเย็น ใจเย็น    มีความหวังในชีวิตว่า   ไม่เดินหลงทางแล้ว   พบธรรมะพระพุทธเจ้าที่เข้าใจง่าย นำมาใช้ได้ทันที เห็นผลฉับพลัน จากท่าน อ.อุบล 

      ป้าเตือนต้องขอกราบขอบพระคุณในความเมตตา ของ พระพุทธองค์   พระศรีอาริย์ และเทวดาประจำตัวท่าน อ.อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆ พระองค์     และที่ขาดไม่ได้คือท่าน อ.อุบล   และครอบครัวท่าน   ที่ท่านได้มอบสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตให้กับ คนโง่ชั่วบาปหนาอย่างป้า  ได้เห็นทางพ้นทุกข์ ทำแต่ความดี     ป้าเตือนขอเอาท่าน อ.อุบลไว้ในหัวใจของป้าตลอดเวลา และตลอดไปค่ะ สาธุ    

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลา บุตรโส (อัญ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 20:01:47


ความคิดเห็นที่ 65 (1640403)

หนูน.ส.ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ชื่อเล่น ขวัญ อายุ 21 ปี ปัจจุบันอยู่จ.สระบุรี ว่างงาน จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

 

"กราบ

ท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือ

รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด 

แล้วชีวิตดียังไง"

 

เคยกราบท่านอ.อุบล ที่บ้านสวนพีระมิด ด้วยใจรักและเคารพท่าน 100% ไม่มีข้อสงสัยใดๆในธรรมะที่ท่านนำมาสอนทั้งสิ้น เพราะได้พิสูจน์ด้วยตัวเอง ปฏิบัติตามแล้วชีวิตจิตใจมีความสุขมากขึ้นเปรียบเทียบกับก่อนปฏิบัติ กราบท่านแล้วผลที่เห็นฉับพลันทันทีคือ รู้สึกเบาโล่งไปทั้งตัว บางครั้งก็น้ำตาคลอ มันตื้นตัน ดีใจค่ะ จำได้ว่าหลังจากกราบท่านทีไร ก็ไม่มีอาการเจ็บป่วยเลย ปวดหัวและปวดนิ้วเท้ามาก กราบเสร็จ อาการปวดทั้งสองอย่างก็หาย100%ค่ะ

เคยขอบารมีพระพุทธเจ้า พาอทิสมานกายไปกราบท่าน ใจจะสงบนิ่งมากค่ะ แม้แต่คิดอยากกราบท่านหรือกราบในใจ ก็มีความสุขในแบบที่ใจสงบ เงียบ นิ่ง บารมีของท่านสูงส่งจริงๆ แค่คิดจิตก็มีสมาธิมากกว่าตอนใช้สมาธิคิดเรื่องอื่น

ปกติหนูจะพกรูปท่านอ.อุบล ธนบัตรขวัญถุงที่ได้รับจากมือท่าน ไว้ในกระเป๋าสตางค์ตลอด และชอบกราบท่านในใจบ่อยๆ ทำให้หนูไปที่ไหนก็ไม่มีอุปสรรค ถึงมีก็น้อย คลี่คลายได้โดยเร็ว และได้รับความช่วยเหลือ

แล้วชีวิตก็ดีขึ้นอย่างชัดเจน สุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ จากเมื่อก่อนที่เจ็บป่วยบ้าง ไปพบแพทย์ เดี๋ยวนี้ ไม่ได้พบแพทย์เลย ด้านครอบครัว จากที่เคยทะเลาะกัน ผิดใจกันเป็นครั้งคราว ก็สงบสุขมาตลอด ไม่ขัดสนเรื่องการเงิน สะดวกสบาย โดยรวมดีขึ้นมากๆค่ะ

ล่าสุดเมื่อคืนนี้ มีความทุกข์เรื่องหนึ่ง ร้องไห้ เจ็บที่ใจมากเหมือนหัวใจถูกบีบ หยิบรูปท่านอาจารย์ออกมา ร้องไห้กับรูปและกราบท่าน อาการก็ค่อยๆดีขึ้นอย่างรวดเร็ว จนหยุดร้องไห้ในที่สุด อาการที่หัวใจก็ดีขึ้นจนเกือบหายค่ะ (เหตุแห่งกรรมส่วนหนึ่ง คือทำให้พ่อแม่ทุกข์กายทุกข์ใจค่ะ) และนอนหลับสบายมากๆ

คืนวันที่ 15/11/2555 หนูปวดท้องมาก แต่พอไหว้รูปท่านอ.อุบล หนูก็หายปวดทันทีค่ะ

นอกจากนี้ ตอนที่หนูใช้จี้บำบัดคน โดยรวม หลังจากพวกเขากราบท่านอาจารย์ในใจถึงแม้ไม่เคยเห็นท่านมาก่อน หรือไหว้/กราบรูปท่านในวีดีโอคลิป/บนเว็บไซต์บ้านสวน หรือไหว้รูปท่านจากกระดาษที่หนูถ่ายเอกสารแจก อาการเจ็บป่วยก็จะดีขึ้นทันที สัมผัสได้ว่ากายใจโล่งเบาขึ้น สำหรับทุกๆคนที่ศรัทธาค่ะ 

ขอกราบขอบพระคุณท่านอ.อุบลค่ะ แม้แต่พิมพ์ว่ากราบท่านทีไร ก็รู้สึกมีความสุขทั้งครั้งค่ะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 20:09:39


ความคิดเห็นที่ 66 (1640407)

นางเพ็ญศิริ บุตรมนต์(อ๋อย) อายุ 42 ปี

จบ กศน.ม.ปลาย

หน้าที่การงาน หัวหน้างานจ้างเหมาแรงงานรักษาความสะอาด

ที่ทำงาน บริษัทฮิตาชิคอนซูมเมอร์ประเทศไทยจำกัด

จังหวัด ปราจีนบุรี

 

 

 

 

ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิดแล้วได้รับผลกรรมอย่างไร

ครั้งแรกที่เห็นท่านอาจารย์อุบลในรายการคุยไปแจกไป มีแต่ความศรัทธาชื่นชม เชื่อทุกสิ่งที่ท่านอาจารย์พูด และเริ่มไปบ้านสวน ก็ยิ่งมีแต่ความประทับใจและความสุขกลับบ้านทุกครั้ง โดยไม่มีความคิดด้านลบต่อท่านอาจารย์เลย คิดว่าตัวเองรอดแระที่ไม่เป็นเหมือนคนอื่นที่คิดปรามาสท่าน แล้วโดนกันไปต่างๆนาๆ จู่ๆวันหนึ่ง ก็มีจิตคิดแว๊บบบไปมองเป้าอาจารย์ โดยไม่ตั้งใจอืม..รัดไปนะ มีผลทำให้ไม่สบายใจในทันทีที่คิดและมีอาการร้อนไปทั้งตัว พอรู้ตัวก็รีบขอขมาท่านในใจบอกตัวเองว่า ไม่มีความยินดีและความเต็มใจใดๆกับความคิดนี้ ขอบารมีพระพุทธเจ้าบังคับกระแสจิตของลูกไม่ให้คิดแบบนี้อีกด้วยเถิด อาการไม่สบายใจและร้อนไปทั้งตัวก็หาย

ความคิดบ้าๆต่อท่านอาจารย์ก็หายไปด้วย พอชะล่าใจ ก็หลอยมาอีก ชนจนหงายเงิบ ครานี้มองหน้าอกท่านอาจารย์ ทำงัยน้อ....เราจะดูมๆแบบท่านบ้าง นี่ขนาดท่านอายุเยอะแระยังเด้งๆอยู่เลย ผลคือ ไอ้ที่มันไม่มีอยู่แระ ก็แบนลงๆแถมเหี่ยวเข้าไปอีก โอว้.....อยากในสิ่งที่ไม่ควรอยาก เลยให้เหลือแต่หัวตะปูเหี่ยวๆไว้พอเป็นสัญลักษณ์ และต้องยื้อกันสุดฤทธิ์กับความคิดที่มีต่อหน้าอกท่านอาจารย์ ไม่รู้ไปยุ่งไรนักหนากับท่าน พอพิจจารณาแล้วคือ ก็ตัวเองไม่มีนม มันเป็นปมด้อยอาภัพ ในใจมันคิดมาตลอด ถ้ามีตังค์จะไปเสริมหน้าอก คิดทุกข์อยู่กับนมนี่แหละไม่ไปไหนเลย

ลูกกราบขอขมาต่อท่านอาจารย์อุบลด้วยเจ้าค่ะ ที่เคยคิดล่วงเกินต่อท่านอาจารย์ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจก็มีผลทำให้ ไม่สามารถปลดล็อคกรรมต่างๆได้ บัดนี้ ลูกสำนึกผิดแล้ว และเข้าใจผลของบาปที่เกิดจากมโนกรรม คิดไม่ดีกับครูบาอาจารย์ ไฟนรกมันก็เผาเราเอง ยังจะมาบ้านท่านอีกเพราะสิ่งที่คิดลบต่อท่านนั้นมันทำให้ใจมีแต่ความทุกข์ คนอื่นไม่รู้แต่เรารู้อยู่ว่าคิดอะไร แม้ไม่เห็นเป็นรูปธรรม แต่เหมือนไฟสุมอกแม้จะไม่ยินดีในสิ่งที่คิด แต่มันก็มาจากร่างกายจิตใจของลูก ซึ่งได้อาศัยอยู่ในกายนี้ ลูกขอกราบขอขมาต่อท่านอาจารย์ด้วยค่ะ

กราบท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือรูปท่านอาจารย์อุบลแล้วชีวิตดีขึ้นอย่างไร

เป็นคนมือแข็งค่ะ ไม่อยากไหว้ใครเลย อย่าว่าแต่กราบเลย ไหว้ยังไม่อยาก...ใจไม่ทำ คิดแค่ว่ามือเราเอาไว้ไหว้แต่ผู้มีพระคุณเเละคนที่เห็นว่าน่ากราบไหว้เท่านั้น สวัสดีแต่ปากก็น่าจะพอ ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้ดีมาจากไหนเลย ทำชั่วมาสารพัด ยังจองหองได้อีก ถึงได้ทุกข์ทุกด้านเช่นกัน

การหมอบกราบด้วยความเต็มใจปลาบปลื้มใจนั้นยังไม่รู้สึกกับใคร

แล้วความรู้สึกที่อยากกราบเท้าจนแทบอยากขอให้ท่านเอาเท้าเหยียบบนหัวให้ เพื่อความเป็นศิริมงคลนั้นก็เกิดขึ้น คือท่านอาจารย์อุบล ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน รู้แค่ว่า เจอท่านก็อยากกราบ ถ้าไม่ได้กราบเท้าท่านก็เหมือนมาไม่ถึงบ้านสวนฯ พอได้กราบ ความทุกข์ต่างๆมันหายไปสิ้น มีแต่ความสุขเข้ามาแทน มีพลังแรงใจให้ไปต่อสู้กับชีวิตนอกบ้านสวนฯ อยู่ที่ทำงานก็มีรูปท่านอาจารย์ กราบท่านตลอด เวลาการงานติดขัดไรก็จะพูดกับรูปท่าน ขอให้อุปสรรคคลี่คลาย ก็ได้ตามนั้นค่ะ ที่ห้องนอน ในกระเป๋าสตังค์ ในรถยนต์มีไว้แล้วอุ่นใจค่ะปลอดภัยทุกเส้นทาง หรือแค่นึกถึงหน้าท่านอาจารย์ ก็มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก อ๋อยขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวเป็นอย่างสูง ที่ให้โอกาสที่มีค่ามากที่สุดให้อ๋อยได้เข้ามาสัมผัสความสงบสุข ณ บ้านสวนพีระมิดแห่งนี้ ได้ซาบซึ้งในพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ ท่านสอนให้เข้าใจเหตุแห่งทุกข์ทั้งปวง เกิดจากการทำผิดศีล 5 ทั้งนั้น และอ๋อยก็ทำผิดศีลมาทุกข้อ จึงมีทุกข์รอบด้าน พอเข้าใจเหตุ ยอมรับผล ใจก็สบายๆเบาๆไม่หนักเหมือนเมื่อก่อน

กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์ ที่เมตตาให้ได้มาพบท่านอาจารย์อุบลเจ้าค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 20:28:53


ความคิดเห็นที่ 67 (1640411)

 

ชื่อ - น.ส.อัญมณี สีทองสุก (ส้มเช้ง) อายุ 26 ปี

การศึกษา - จบปริญญาโท  สาขาคณิตศาสตร์ประกันภัย (Actuarial Science)  มหาวิทยาลัย อิลลินอยส์ สเตท (Illinois State University) ประเทศ สหรัฐอเมริกา

หน้าที่การงาน ตำแหน่ง นักคณิตศาสตร์ประกันภัย

บ.ไทยรับประกันภัยต่อ

จังหวัดที่พักอาศัย กรุงเทพมหานคร 

 ...........................................

 ในหัวข้อเรื่อง

"กราบ

ท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือ

รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด 

แล้วชีวิตดียังไง"

  ........................................

ส้มเองมีปัญหาสุขภาพ ฮอร์โมนผิดปกติ

ทำให้ไม่มีประจำเดือน ขนหน้าแข้งดกดำเงางาม

ต้องทานฮอร์โมนตลอด

ส้มได้ไปร่วมธรรมสัญจรที่คณะเวชศาสตร์เขตร้อนเมื่อ สค ที่ผ่านมา

และได้มีโอกาสกราบอาจารย์อุบล

จากนั้นได้สังเกตว่าตนเองมีประจำเดือน

โดยไม่ต้องกินฮอร์โมนมา 3 เดือนแล้ว

ซึ่งตามปกติแล้วประจำเดือนจะมาหลังจากหยุดยาเพียงเดือนเดียว

หรือหากน้ำหนักลดก็มีสิทธิ์ที่จะมาได้

แต่นี่น้ำหนักขึ้นมาเกือบ 10 โล

เป็นไปได้ยากมากที่จะมาถึง 3 เดือนโดนไม่กินยา

แต่จริงๆแล้วจำไม่ได้ว่าไม่ได้กินยาตั้งแต่เมื่อไร 

จำได้แค่ว่า เดือนกคไม่ได้ทานยา

 

 

ลูกขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆ พระองค์

มี พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม

พระอริยเจ้าทุกๆพระองค์ พระศรีอาริย์ เป็นต้น

อาจารย์อุบล และครอบครัว ค่ะ

กราบ กราบ กราบ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญมณี สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 20:39:09


ความคิดเห็นที่ 68 (1640417)

"กราบท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือ

รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด 

แล้วชีวิตดียังไง"

...................................

ชื่อนายชวนินทร์ กฤตธกร ชื่อเล่น ก็อต  อายุ30ปี

การศึกษา ปริญญาตรี วท.บ.(เกษตรศาสตร์) ม.นเรศวร

อาชีพ ธุรกิจส่วนตัว (ขายอุปกรณ์การเกษตร)

จังหวัด ลพบุรี

ทุกครั้งที่ไปสร้างบุญที่บ้านสวน สิ่งที่ทำอย่างแรกคือผมจะเดินไปที่หน้าบ้านท่านอาจารย์อุบลแล้วน้อมจิตกราบท่านอาจารย์ทุกครั้งก่อนที่จะทำกิจกรรมอย่างอื่นครับ ด้วยเหตุผลที่ว่าท่านอาจารย์มีเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้ที่อนุญาตให้ผมได้มาสร้างบุญใหญ่ที่บ้านสวนพีระมิด และการกราบท่านอาจารย์อุบลเป็นการกราบที่ผมบริสุทธิ์ใจ มีศรัทธาเชื่อมั่นไม่สงสัยในตัวท่านอาจารย์อุบลเลยครับ และที่สำคัญคือทุกครั้งที่กราบท่านอาจารย์อุบลเสมือนว่าผมได้กราบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับ

ผลที่ได้รับในการกราบท่านอาจารย์อุบล

1.ทำให้ผมมีจิตใจที่มั่นคงต่อพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ และท่านอาจารย์อุบลครับ

2.ตั้งแต่ที่ได้กราบท่านอาจารย์ สุขภาพของผมดีขึ้นครับ ไม่เคยเจ็บป่วย รู้สึกร่างกายแข็งแรง ตัวโปร่งโล่งสบายมากครับ

3.ชีวิตมีเกราะป้องกันสิ่งชั่วร้ายและป้องกันอันตรายต่างๆได้ เหมือนมีบารมีท่านอาจารย์ติดตามตลอดเวลาครับ

4.มีปัญญามากขึ้น ฉลาดที่จะทำความดี ละชั่ว กลัวบาป

ผมเองได้บูชารูปท่านอาจารย์มาติดไว้ที่หน้าร้าน เมื่อมีลูกค้ามีอาการเจ็บป่วยหรือมีทุกข์มา ผมก็จะแนะนำลูกค้าว่าท่านอาจารย์คือครูบาอาจารย์ของผม โดยให้ลูกค้ากราบไหว้ที่รูปท่านอาจารย์และขอให้ท่านอาจารย์ช่วยให้หายป่วยหรือหายทุกข์ ก็ปรากฏว่าได้ผลทุกครั้งสำหรับผู้ที่จิตเปิดและศรัทธา ส่วนผู้ที่จิตไม่เปิดหรือมีความลังเลสงสัยขออย่างไรก็ไม่มีทางหายทุกข์ครับ

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวครับ

ชวนินทร์ กฤตธกร

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชวนินทร์ กฤตธกร (ก็อต) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 21:15:49


ความคิดเห็นที่ 69 (1640452)

ดิฉันนางพรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) อายุ 30 ปี

การศึกษาสูงสุด ปริญญาตรี วท.บ.(เกษตรศาสตร์)

จบจาก มหาวิทยาลัยนเรศวร

อาชีพ ธุรกิจส่วนตัว (ร้านขายยา) ที่อยู่ จังหวัดลพบุรี

"ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิดแล้วจะได้รับผลกรรมอย่างไร"

ดิฉันเคยมีจิตคิดปรามาสท่านอาจารย์อุบลครั้งแรก หลังจากที่มาบ้านสวนพีระมิดเป็นครั้งที่สอง โดยในขณะที่อาบน้ำอยู่ ตอนที่ก้มลงไปล้างเท้า อยู่ๆก็มีจิตแว๊ปว่าเท้าของเราไปกระทบกับหน้าท่านอาจารย์ ตอนนั้นตกใจมากและคิดว่าเราคิดไปได้อย่างไร ตอนนั้นกลัวมาก กลัวผลกรรมที่จะเกิดขึ้น แล้วยังเคยคิดว่าคนที่ออกมาพูดเป็นพวกหน้าม้า เวลาที่ท่านอาจารย์เดินผ่านก็คิดว่าท่านสะโพกใหญ่ เคยคิดสงสัยเรื่องเงินที่มาทำบุญ เคยอ่านกระทู้และดูรูปรดน้ำดำหัวท่านอาจารย์ทั้งสองช่วงสงกรานต์ ก็คิดว่าน้ำที่รดนั้นเป็นน้ำล้างเท้า และมีอยู่ครั้งหนึ่งท่านอาจารย์ถามทุกคนว่าท่านมีอาชีพอะไร ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลยแต่พอฟังคำถามอยู่ๆจิตก็แว๊ปขึ้นมาว่า อาชีพโสเภณี คิดดูแล้วกันค่ะว่าดิฉันมีจิตที่เลว ชั่วและจิตต่ำขนาดไหน ยังไม่พอนะคะ ยังคิดปรามาสองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย โดยจะเป็นในขณะที่อาบน้ำก็จะมีจิตแว๊ปถึงการร่วมเพศระหว่างตัวดิฉันกับพระพุทธองค์ ซึ่งไม่รู้ว่าคิดไปได้อย่างไร และเคยมีน้องคนหนึ่งออกมาเล่าว่าที่ตัวเองรอดตายจากอุบัติเหตุมาได้ เป็นเพราะเสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณเมตตาต่ออายุให้ ซึ่งตอนนั้นฟังแล้วจิตดันคิดอยากลองดี ทั้งที่ไม่อยากคิดแถมยังกลัวอีกต่างหาก ขนาดภาวนาช่วยในขณะทำบุญแรงกายจิตก็ยังแว๊ปคิดได้ และเคยคิดปรามาสในหลวงเรื่องเสื้อเหลืองเสื้อแดงว่าทำไมพระองค์ไม่ทรงออกมาห้ามทั้งที่ตอนนั้นพระองค์ทรงประชวรหนัก และปรามาสหลวงตามหาบัวว่าทำไมท่านถึงไปยุ่งกับเรื่องการเมืองด้วย นี่แหล่ะค่ะมโนกรรมหนักๆที่ดิฉันเคยทำมา

ผลกรรมที่ได้รับ

ตอนนั้นมีความทุกข์ใจมาก กินก็ไม่ได้ นอนหลับอยู่ดีๆพอตื่นขึ้นมาก็ผวา วันๆไม่มีกะจิตกะใจคิดอยากจะทำอะไรเลย หมดแรง ไม่มีเรี่ยวแรง อาการเหมือนคนตรอมใจ หรือพูดง่ายๆเหมือนคนที่ตายทั้งเป็น ตอนนั้นคิดแต่ว่าต้องออกไปขอขมาท่านอาจารย์อุบลให้ได้ และต้องทำให้เร็วที่สุด เพราะตอนนั้นคิดว่า สิ่งที่เราคิดไม่ดีถึงจะเป็นเพียงแค่จิตแว๊ปก็ตาม แต่มันก็ร้ายแรงมาก และเป็นบาปหนักมาก เทียบเท่ากับอนันตริยกรรม และก็คิดว่าถ้าเราไม่รีบขอขมาท่านอาจารย์ อาจจะไม่มีโอกาสอีกเลยก็ได้ เราอาจจะมีอันเป็นไปก่อนก็ได้ และคิดว่าถ้าเราตายก่อนที่จะได้ขอขมาท่านอาจารย์ เราคงไม่รอดจากนรกขุมที่ลึกที่สุดเป็นแน่แท้เพราะผลกรรมที่เรามีมโนกรรมต่อท่านอาจารย์อุบลนั่นเอง และนึกถึงพระเทวทัตที่ถูกธรณีสูบ น่าจะคล้ายๆกัน และในที่สุดก็มีโอกาสได้ออกไปสารภาพและขอขมาต่อท่านอาจารย์อุบล และทุกๆพระองค์ที่ดิฉันได้ปรามาสทั้งหมด วันนั้นขนาดพยายามข่มใจไม่ให้ร้องไห้ แต่สุดท้ายร้องตั้งแต่เริ่มพูด ร้องไห้ตลอดเวลาที่พูด เพราะว่าทั้งรู้สึกผิด เสียใจ ละอายแก่ใจ และทุกข์ใจมากจริงๆ ท่านอาจารย์เมตตาบอกว่าที่เราคิดแบบนี้เป็นเพราะเราเคยผิดศีลมาแล้วทุกข้อ โดยถ้าผิดศีลข้อไหนมามากก็จะคิดไปในทางนั้นมาก และดิฉันเป็นบุคคลที่ทักท้วงศาสดาอันใครๆทักท้วงไม่ได้ และที่เป็นเช่นนี้เพราะพระเทวทัตส่งมา แต่ตอนนั้นกลับไม่ได้ถามท่านอาจารย์ว่า ดิฉันเคยเป็นสาวกของพระเทวทัตหรือเปล่า และก็ได้กราบขอขมาท่านอาจารย์ หลังจากนั้นก็ดีขึ้น สบายใจขึ้นมากค่ะ แต่อาการจิตแว๊ปก็ยังไม่หายไป แต่ว่าน้อยลง และพอรู้ตัวว่ามีจิตแว๊ปก็จะรีบขอขมาท่านอาจารย์อุบลและทุกๆพระองค์ทันที และด้วยความที่ไม่แน่ใจว่าดิฉันเคยเป็นสาวกของพระเทวทัตหรือเปล่า เวลาที่มีจิตคิดปรามาสท่านอาจารย์อุบลหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดิฉันก็จะรีบอุทิศบุญให้กับพระเทวทัตและพระเจ้าอาชาติศัตรู และขอลาออกจากการเป็นสาวกของท่าน และขอมอบกายถวายชีวิตต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านับแต่นี้เป็นต้นไป และอาการจิตแว๊ปก็หายไป แต่พอนานๆก็จะเป็นอีก พอมีอีกก็จะทำแบบเดิมอีกไปเรื่อยๆค่ะ จนกว่าจะหายขาดจากอาการจิตแว๊ปคิดชั่วให้ได้ค่ะ  

ลูกขอน้อมกราบขอขมาต่อท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคลและคุณท๊อป ขอน้อมกราบขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่ลูกเคยมีจิตคิดปรามาสล่วงเกินไม่ว่าจะทางกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม  ทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ทั้งที่ระลึกได้ก็ดีและระลึกไม่ได้ก็ดี ลูกขอน้อมกราบขอขมาอีกครั้งเจ้าค่ะ

ลูกขอน้อมกราบแทบพระบาทขอบพระคุณสมเด็จองค์พระปฐมบรมธรรมบิดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ ขอน้อมกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคลและคุณท๊อปที่เมตตาให้โอกาส ให้อภัย กับลูกคนนี้ที่มีจิตชั่ว จิตต่ำ ให้ได้ปลดล็อกกรรมหนักในครั้งนี้เจ้าค่ะ สาธุ กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น พรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 22:46:03


ความคิดเห็นที่ 70 (1640459)

                                                                   "กราบท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

                                หรือ รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด   แล้วชีวิตดียังไง"

 

 ผมนาย เทวฤทธิ์ ท้าวคำ อายุ 43 ปี

 จบการศึกษา  ปวช. ไฟฟ้า

 อาชีพ  เปิดสำนักงานนายหน้ารับประกันภัย  อยู่ที่ จ.พิษณุโลก

 

            ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยจะเชื่อ หรืออยากจะมาบ้านสวนพีรมิดเลย แต่แม่เตือน

 ต้องบอก แกมบังคับและต้องมีคำพูดเด็ดขาด ถึงต้องตัดแม่ลูกกันเลย ถ้าไม่มาบ้าน

สวนพีรมิด เพราะผมยึดมั่นถือมั่นว่าที่ทำอบู่ ปฏิบัติอยู่ทุกวันนี้ ก็ดีแล้ว ไม่ต้องไป

แสวงหาอาจารย์ที่ใหนอีก และท่านอาจารย์ที่สอนก็ไม่ไช่พระ คิดเอาเองว่าก็คงไม่ต่าง

จาก สำนักอื่นๆ แต่เมื่อได้มาบ้านสวนหลาย ๆ ครั้งแล้ว ก็สัมผัสได้ เสมือนว่า

ท่านพลวงพ่อฤษีลิงดำ ท่านได้มานำสอนด้วยตัวท่านเอง คำสอนทีี่่อาจารย์นำมาสอน

เข้าใจง่าย นำไปฝึกปฏิบัติและเห็นผลอย่างเร็ว จิตสัมผัสได้เร็วขึ้นได้เห็นอะไร ที่เรา

ไม่เคยเห็นหรือสัมผัสได้มาก่อน  ผลการปฏิบัติก็แจ่มใสมากขึ้นเรื่อยๆ  และเมือนำรูป

อาจารย์มาตั้งที่หิ้งพระ  เมื่อสวดมนต์ไหว้พระแล้ว ก่อนจะฝึกจิตก็กราบรูปภาพของ

อาจารย์ ขอให้ผลของการฝึกจิต เข้าสู่สมาธิได้เร็วขึ้น ก็จะส่งผลให้จิตนิ่งเร็วขึ้นมาก

ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ  ช่วงหลังๆก็ใช้จิต กราบอาจารย์ตลอดเมื่อเราจะกำหนดจิตคิดอะไร

ก็จะไวมาก  ส่วนผลดี ด้านอื่นๆ งานก็คล่องตัวมากขึ้นเรื่อยๆ  ผลการเรียนลูกก็ดีขึ้น

       

                       ต้องกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลเป็นอย่างสูง ที่ท่านได้ให้คำ

สอนได้ตรงจุด  ทำให้ผลการฝึกปฎิบัติ ที่ตามมา ดีขึ้นมาก และรวมทั้งต้องขอกราบ

ขอบพระคุณแม่เตือนด้วยครับ ที่ได้ชี้ทาง ให้ได้มาพบท่านอาจารย์อุบล กราบ...

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทวฤทธิ์ ท้าวคำ (เอก ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 23:08:25


ความคิดเห็นที่ 71 (1640460)

 

ข้าพเจ้า นางอัญชลา บุตรโส   อายุ 41 ปี   จังหวัดเชียงราย
การศึกษาสูงสุด ป.ตรี คณะบริหารธุรกิจคอมพิวเตอร์
ตำแหน่ง:รองผู้จัดการธุรกิจและการตลาด บมจ.ธนาคารกรุงไทยสาขาพาน อ.พาน จ.เชียงราย
 
กราบท่านอาจารย์ / รูปท่าน อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด
แล้วชีวิตดีอย่างไร
        1.กราบท่าน อ.อุบลแล้วเสมือนได้กราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งจักรวาล เพราะตอนไปบ้านสวนใหม่ๆ ท่าน อ.ถามว่าเห็นใครอยู่ใกล้ ๆ ท่านมั๊ย จิตก็รู้สึกว่ารอบๆ ท่าน อ.อุบล  มีสมเด็จองค์พระปฐมอยู่เหนือศรีษะท่าน และข้างๆ ก็จะมีหลวงปู่ปาน    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านท้าวมหาราชทั้ง 4 และบริวารของท่านเนืองแน่นมาก ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวแต่ความรู้สึกบอกว่าตลอดเวลาว่า  ท่าน อ.อุบลจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่รายล้อมท่านตลอดเวลา  ดังนั้นกราบท่าน อ.อุบลแล้ว ได้กำไรชีวิตเห็นๆ ได้กราบอีกหลายๆ พระองค์
       2.เวลากราบท่าน อ.อุบล จะรู้สึกถึงพลังที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาที่ท่านส่งผ่านมาให้ และคำอวยพรที่ท่าน อ.กล่าว เสมือนน้ำทิพย์ชโลมใจทำให้มีความหวังที่จะได้กลับบ้านจริงๆ “ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ”     ไปถึงสถานีขนส่ง ก็จะได้ตั๋วรถที่นั่งสบายๆ ไม่ตกรถ   กลับถึงบ้านแบบปลอดภัยไร้กังวล    ยิ่งเวลาท่านกล่าวว่า “กลับบ้านนิพพานกันนะลูก”     รู้สึกเกิดมาไม่เสียชาติเกิดที่ได้มาเจอท่าน อ.อุบล ทำให้มั่นใจว่าเราได้เดินมาถูกทางแล้ว
       3.ยิ่งได้มีโอกาสกอดท่าน อ.อุบล ยิ่งรู้สึกอบอุ่นใจ ปลอดภัยจากความชั่ว ปิติ ปลาบปลื้มใจที่ท่านไม่เคยถือตัวให้ความรักแก่ลูกๆ บ้านสวนอย่างเท่าเทียมกัน โดยที่ท่านไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยของตัวเองเลย
      4.กราบแล้วทำให้รู้สึกว่า  ชีวิตเราได้อยู่ในกระแสธรรมของพระพุทธองค์     เดินทางแบบไม่หลงทาง   จะนึกถึงใบหน้าท่าน อ.อุบล และ นึกถึงคำสอนของท่าน  เวลาจะทำชั่วก็ไม่กล้า ภาพ และคำสอนของท่านจะโผล่ให้สติทันที  ว่าสิ่งที่ท่านสอนนั้นท่าน อ.อุบลได้ทำให้ดูเป็นตัวอย่างมาโดยตลอด ท่านสอนโดยใช้การปฏิบัติของตนเองให้ศิษย์ดูเป็นตัวอย่างถือว่าท่าน อ.อุบล เป็นผู้นำที่ข้าพเจ้ายอมรับนับถือด้วยใจจริง ๆ
      5. เคยเป็นไข้หวัด และไอ แค่นั่งใกล้ๆ ท่าน อ.อุบล ก็รู้สึกมีความสุขใจอาการโรคก็ดีขึ้นมาก ยิ่งได้กราบท่านอาการเจ็บไข้ก็มลายหายไปได้อย่างไร
      6.ชีวิตการงานดีขึ้น ได้เลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้นจากที่เคยติดขัดและมีอุปสรรคมานาน ก็ได้รับการพิจารณา     ได้รับรางวัลระดับประเทศ   การเงินคล่องตัวขึ้นจากแต่ก่อนมาก เมื่อก่อนมีแต่คนคอยยืมเงิน เดือนร้อนให้ช่วยเรื่องเงินมาเป็นพรวน    แต่  พอหลังๆ ไม่ค่อยมีใครมารบกวนยืมแล้วค่ะ   แม้แต่สามีบอกว่า  ถ้าจะยืมเงินอัญขอเป็นทางเลือกสุดท้ายละกัน 
       ยิ่งถ้าตั้งใจจะทำบุญอะไรกับบ้านสวน ก็จะมีช่องทางให้ได้เงินมาและมีรายได้โผล่มาแบบตัวเองยัง งงๆ ว่ามาได้งัย
 

"ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

แล้วจะได้รับผลกรรมอย่างไร"

     

             ยอมรับค่ะว่าจิตเลวๆ นี้ก็ได้เผลอแว๊บ !! คิดไม่ดีกับท่านอาจารย์อุบล เยอะเหมือนกัน ที่นึกๆ ออกตอนนี้ก็มีค่ะ

      1. ตอนไปบ้านสวนครั้งแรกๆ เห็นท่านอาจารย์    ก็แปลกใจและคิดวิจารณ์ว่าทำไม ท่าน อ.อุบลแต่งตัวเซ็กซี่ด้วย   น้ำเสียงท่านบางครั้งก็ออกดุ ๆ แถมทรงผมของท่าน อ.อุบลก็เข้าท่าดีนะ  ไม่ต้องดูแลมาก  อยากไว้ทรงแบบท่าน อ.อุบล บ้างจัง 

     2.ตอนโอนเงินเข้าบัญชีบุญบ้านสวน เคยแว๊ปว่าเราลองเช็ดดูบัญชีของท่าน อ.อุบลดูมั๊ย   ว่ามีเงินที่คนโอนเงินทำบุญเท่าไหร่แล้ว  โอ เลวจริงๆ ค่ะ คิดจะละลาบละล่วง  ละเมิดสิทธิ์   ก้าวก่ายเรื่องของท่านได้ยังไงเนี๊ยะ  โชคดีที่ยังไม่ทันลงมือ    เพราะรู้สึกว่ามีเสียงแทรกมาว่า จะอยากรู้ไปทำไม  ยังกะว่ารู้แล้วจะช่วยให้เจ้าพ้นทุกข์ได้ยังงั้นแหละ  เผลอๆ เจ้าจะคิดในทางที่ไม่ดีอีก 

     หรือตอนโอนเงินทำบุญแล้วเราเผื่อค่าขนส่งให้ท่าน อ.อุบล ก็สะเออะ ไปคิดอีกว่าแล้วเงินส่วนที่เหลือท่าน อ.อุบล  จะเอาไปทำอะไรน้า ลามปามไปถึงคุณแมว ที่ตอนหลังท่าน อ.อุบลให้สั่งของผ่านคุณแมวว่า     เอ..คุณแมวจะทำยังไงกับเงินส่วนที่เกินมูลค่าของ    หรือท่าน อ.อุบลจะทดสอบความซื่อสัตย์ของคุณแมวน้า    นี่แหละค่ะความชั่วอัญ   เรื่องความชั่วเลวตัวเองไม่สนใจมองหา   แต่สะเออะไปสนใจเรื่องคนอื่นแทน   แล้วยังงี้เมื่อไหร่จะได้กลับบ้านกับเขาเล่า เฮ้อ..ใจเลวๆ เอ้ย

    3.มีครั้งหนึ่งนั่งจัดดอกไม้ที่โรงทานอยู่     ท่าน อ.อุบลก็มานั่งตรงเก้าอี้ให้ให้กำลังพวกเรา และคุยๆ กัน  พอดีเหลือบมองท่าน อ.อุบล ซึ่งท่านนั่งท่าสบายๆ คล้ายผู้ชาย    ตาเลวๆ นี้ก็เผลอไปมองเป้าของท่าน อ.อุบลเข้า  อะจ๊าก !!  รู้ตัวรีบหลบสายตาไปดูทางอื่นแทน ก่อนนรกจะกินหัวมากไปกว่านี้ 

    4.บางครั้งชอบมองดูหุ่นท่าน อ.อุบล  แบบใช้สายตาที่ผู้ชายเจ้าชู้มองหน่ะแหละค่ะ  SCAN แทบจะทะลุทุกส่วน  แม้แต่ตอนดูรายการคุยไปแจกไปยิ่งตอนที่ท่านใส่ชุดสีชมพู รัดรูป แขนกุด  ฟังไปตาก็จ้องชุดท่าน อ.อุบลไปด้วย    สายตาก็ได้โลมเลียหุ่นท่านไปด้วย ว่าทำไมท่านช่างหุ่นดีจัง  กิริยาเรียบร้อยเป็นผู้ดีจัง   ใครได้ไปเป็นภรรยาช่างโชคดีมากๆ แล้วทำบุญด้วยอะไรหนอ    จิตเตลิดไปโน้นเลยพี่น้อง   นี่ขนาดอัญเป็นผู้หญิงยังใช้สายตา ลวนลามท่าน อ.อุบลได้ถึงเพียงนี้

     5.เคยไปดูเวปที่ล้อเลียนท่าน อ.อุบล  อ่านคำพูดไม่ดีเหล่านั้นแล้วรู้สึก ใจจะใหลลงต่ำไปด้วย แต่ก็เพิกเฉยไม่ทำอะไร แทนที่จะหาทางปกป้องท่าน อ.อุบล หรือตอบโต้กลุ่มพวกนั้น    ดันใช้วิชาจ่าเฉย  ไม่ใช่เรื่องของเรา  เราจะไปทำอะไรได้  ขนาดท่าน อ.อุบลได้ยกตัวอย่างกรณีที่ครูบาอาจารย์ท่าน  หลวงพ่อเสงี่ยมว่าท่าน อ.อุบลได้ออกปกป้องอย่างเต็มกำลัง ชนิดยอมตายแทนหลวงพ่อได้   ใจเลวๆ นี้ก็ยังไม่เก็ทว่าควรทำอย่างไร  รู้สึกว่าตัวเองช่างโง่ซ้ำโง่ซ้อนจริงๆ  ภาพลูกควายหลงฝูงก็โผล่มาเชียว

    ผลกรรมที่ได้รับ

       1. เหมือนคนมีบุญแต่กรรมบัง  เวลาที่ท่าน อ.อุบลเมตตาบำบัดอาการต่างๆ   ให้ลูกบ้านสวนไม่ได้มีโอกาสออกไป  โดยเฉพาะตอนที่  ท่าน อ.อุบล   ขออาราธนาบารมีพระศรีอาริย์มา  ขนาดน้องลินเดินขาบิดมาตั้งแต่เกิดยังเดินขาตรงได้  ป้าพรหูตึงก็กลับมาได้ยินชัดขึ้น    ส่วนตัวเองมีปัญหาเอ็นขาซ้ายขาด กระดกเท้าไม่ได้ แต่ไม่คิดลุกไปบำบัด  เจ้ากรรมนายเวรคงยังไม่ปล่อย  ต้องรับกรรมต่อไป  เพราะได้เคยคิดวิจารณ์ท่าน อ.อุบลไปต่างๆ นาๆ  จึงทำให้ไม่มีดวงตาเห็นธรรมซะที  อีกทั้งยังทำตัวจ่าเฉย ไม่ปกป้อง 3 สถาบัน รวมถึงท่าน อ.อุบล  แล้วสิ่งศักดิ์ที่ไหนจะมาช่วย

      2. ยังมีอาการสายตาสั้นอยู่    คงเพราะใช้สายตาลวนลามหุ่นท่าน อ.อุบล เป็นแน่แท้เลยค่ะ เลยต้องมารับผลกรรมนี้   ยิ่งตอนไปเผลอมองเป้าท่าน อ.อุบล กลับมามีปัญหาคันบริเวณน้องจิ๋มเลยค่ะ ตั้ง 2 วัน พอสำนึกใช้จิตกราบขอขมาท่าน อ.อุบล ที่บ้าน จึงได้หายคัน ส่วนสายตาเมื่อก่อนต้องใส่แว่นตาเวลาขับรถ ตอนนี้ไม่ต้องใส่แว่นตาแล้ว ดีขึ้นมาบ้างค่ะ

      3. ตอนที่คิดว่าท่าน อ.อุบลเสียงดุจัง    ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองทำไมเป็นคนขี้ดุนะ  โดยเฉพาะเวลาดุลูก ช่างดุจริงๆ แต่ก่อนไม่เป็นอย่างนี้นี่นา เพราะไปล่วงเกินท่าน อ.อุบล   เมื่อรู้สำนึกไม่ไปเอาจิตไปล่วงเกินท่าน อ.อุบล หมั่นรักษาศีล 5 และพรหมวิหาร 4 ก็ทำให้เป็นคนใจเย็นขึ้น  ไม่ค่อยโกรธและดุลูกแล้วค่ะ

      วิจารณ์ทรงผมท่าน อาจารย์ผลที่ได้รับ   เคยมีความทุกข์ใจเรื่องปัญหาเส้นผมตนเอง   คือเส้นผม แห้ง ชี้ ฟู แตกปลาย ดูแลยาก  เมื่อคิดสำนึกว่าอย่าไปสนใจเรื่องคนอื่น ให้สนใจแต่เรื่องตัวเอง  ตอนนี้เริ่มปล่อยวาง ไม่ทุกข์ใจกับผมตัวเองแล้วค่ะ   ดูแลได้ง่ายขึ้นไม่ยุ่งยาก

      ขอฝากเป็นอุทธาหรณ์ด้วยนะคะ         ว่ามโนกรรมนี้น่ากลัว อันตรายมากๆ ถ้าเราควบคุมไม่ได้  เกิดง่าย   และเป็นสาเหตุให้ทำชั่วต่อไปทาง กาย วาจา   หากใจเรามีความชั่วเข้าครอบงำ นี่ขนาดสายตาหยาบๆ ที่เรามองว่าท่าน อ.อุบลเป็นบุคคลธรรมดา แค่เราคิดไม่ดี ปรามาสท่าน ยังได้รับผลกรรมซะขนาดนี้  ถ้าใช้ใจเราที่บริสุทธิ์  มองท่าน อ.อุบลเข้าไปข้างใน     แล้วพบว่าท่านเป็นผู้ทรงศีล ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ    เป็นครูผู้ซึ่งนำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาเผยแพรให้เราปฏิบัติ      และเป็นคำสอนที่เราไม่สามารถทักท้วงได้  หนาวใจจริงๆ ค่ะ  ที่ไปเล่นของสูง    ไม่ต้องรอชาติหน้า  ที่ผ่านมาก็ได้รับผลกรรมทันตาเห็นซะขนาดนี้ 

     หนูต้องขอกราบขอขมา   และขออโหสิกรรม  กับท่าน อ.อุบล และครอบครัวของท่าน  อ.อุบลด้วยนะคะ ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆ พระองค์ และเทวดาประจำตัวท่าน อ.อุบล ที่หนูได้เคยล่วงเกิน และปรามาส  จะด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เจตนาหรือไม่เจตนาก็ดีขอให้ท่าน อ.อุบล และครอบครัว  ได้โปรดอดโทษให้แก่หนูด้วยตราบท้าวเข้าสู่พระนิพพานด้วยค่ะ  

      และหนูสำนีกแล้วว่า กรรมทางความคิด มโนกรรม นี้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก    เพราะเราคิดว่าไม่มีใครรับรู้ได้  แต่หนูเชื่อค่ะว่า มนุษย์คิด เทวดารู้  และ ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุจริงๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลา บุตรโส (อัญ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 23:09:34


ความคิดเห็นที่ 72 (1640465)

"ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

แล้วจะได้รับผลกรรมอย่างไร"

ดิฉันชื่อ นางสาววรางคณา  พุฒศรี (มะเหมียว) อายุ 23 ปี การศึกษาสูงสุดระดับปริญญาตรี

คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

ตอนนี้ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี  

ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระบบคอมพิวเตอร์ ของหน่วยจริยธรรมการวิจัย

จังหวัด กรุงเทพมหานคร

ขอเล่าเรื่องการปรามาสท่านอาจารย์อุบลของตัวเหมียวนะค่ะ การปรามาสของเหมียวนี้จะเป็นมโนกรรมล้วนๆและรู้ตัวเองดีเลยว่าเยอะมากๆๆ โดยส่วนมากจะเป็นจิตแวบซะส่วนใหญ่ เหมือนมีอะไรมาบังคับกระแสจิตเราให้เราต้องคิดแวบ แล้วรู้สึกว่าจะแวบเร็วมากๆเมื่อเห็นท่านอาจารย์ และก็จะแวบในช่วงที่มีคนออกมาสารภาพว่าได้คิดแบบนู๋แบบนี้กับท่านอาจารย์ พอได้ยินคนอื่นพูดแบบนั้นปุบ เอาแล้วจิตเราก็คิคคล้อยตามกับเค้าทันที บางครั้งก็สร้างภาพขึ้นมาในจิตตามไปด้วย  เรื่องจิตแวบมันเหมือนมีอะไรมากระตุ้นให้คิดอยู่ตลอด บ้างครั้งพยายามกด แต่มันเหมือนมีจิตอีกจิตนึงพยายามต่อสู้ในเราคิดให้ได้ บางครั้งเวลาทำงานทำกิจกรรมอยู่ที่บ้านสวนก็ยังแวบทั้งๆที่ท่องคาถาพระศรีอาริย์แล้วก็ตาม บางครั้งคาถาพระศรีอาริย์ยังท่องไม่ทันจบอีกจิตหนึ่งที่ไม่ดีก็แวบเข้ามาแล้ว  บ้างครั้งต้องร้องเพลงในใจเอาเพลงที่เราชอบเพื่อจะได้จิตเกาะเพลง ก็ยังไม่วาย แวบอีกแล้ว เหมือนบางครั้งเวลาเห็นท่านอาจารย์อุบลผ่านมา ในจิตกจะบอกว่าเริ่มเลยๆมาแล้ว เอาแล้วล่ะแวบคิดไม่ดีอีกแล้ว  เหมียวโมโหใจตัวเองทุกครั้งที่จิตแวบ มันทำให้เหมียวไม่มีควาวสุขในชีวิตเลยค่ะ พยายามหาวิธีต่างๆนานา ที่สามารถช่วยในเรื่องนี้ได้ แต่ก็ยังไม่สำเร็จสักที บางครั้งรู้สึกท้อเหมือนกันว่านี่เรามาสร้างบุญหรือมาสร้างบาปเพิ่มกันแน่ หรือเป็นเพราะจิตเราคอยจ้องคิดไม่ดีกับท่านอาจารย์แบบนี้จึงทำให้บางครั้งโรคบางโรคของเราจึงไม่หายสักที งั้นจะยกตัวอย่างการปรามาสของตัวเองนะค่ะ เช่น ตอนมองจี้ท่านอาจารย์ก็แวบไปมองหน้าอก เคยคิดว่าท่านไม่ทำงานคอยสั่งอย่างเดียว ชอบมองการแต่งตัวของท่านชอบมองหุ่นมองรูปร่างของท่านอาจารย์ แต่ปกติจะชอบมองรูปร่างของผู้หญิงสวยๆอยู่แล้ว เคยคิดว่าท่านอาจารย์เป็นคนแก่ๆขายเครื่องสำอางทำไมต้องรักษาศึลห้าด้วย เคยคิดสังเกตุทรงผม บ้างครั้งเหมือนมีจิตคอยล้อเลียน ซึ่งมันแปลกมากๆที่อยู่ๆทำไมถึงเป็นแบบนี้ ถามว่าทุกครั้งที่อยู่ใกล้ท่านอาจารย์อุบลมีความสุขมั้ย บอกได้เลยว่ามีความสุขมาก รู้สึกอบอุ่นมากอย่างบอกไม่ถูกในความรักความเมตตาของท่าน แต่ทำไมจิตใจเราถึงได้ต่ำเพียงนี้ โมโหตัวเองโมโหจริงๆค่ะไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ทุกครั้งที่ได้เข้าไปกราบสิ่งศักดิ์ในวิหารก็จะขอบารมีของท่านให้บังคับกระแสจิตให้คิดดีๆ ไม่อยากจิตแวบคิดไม่ดีแล้วมันทรมานเหลือเกินมันไม่มีความสุขในชีวิตเลยค่ะ อยากอยู่สบายๆอยากมีความสุขแบบคนอื่นเค้าบ้าง อยางมาสร้างบุญแบบไม่ได้สร้างมโนกรรมเพิ่มค่ะ ตอนนี้เหมียวจะปวดหัวบ่อยมาก ซึ่งเป็นผลกรรมมาจากเรื่องความคิดไม่ดีทั้งสิ้นค่ะ

หนูขอกราบขอขมาท่านอาจารย์อุบล ในความคิดของหนูทุกๆความคิดทุกๆเรื่อง หนูทราบดีว่ามโนกรรมมันหนักมากจะพยายามกดๆให้มากกว่านี้ค่ะ หนูขอขมาในทุกๆเรื่องที่เคยคิดไม่ดี เรื่องที่ว่าอาจารย์ท่านสั่งอย่างเดียว เรื่องนี้ท่านอาจารย์ทั้งสั่งทั้งลงมือมาทำเอง ท่านเหนื่อยกว่าเราหลายร้อยเท่า เราเพียงแต่ทำตามท่าน แต่ท่านต้องคิดต้องหาวิธี แถมต้องลงมาทำงานกับพวกเราอีก พวกเราก็ชอบออกนอกลู่นอกทาง สั่งนู่ก็ทำนี้ เรื่อยไป หนูขอกราบ กราบ กราบ ขอขมาท่านอาจารย์อุบลด้วยค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น วรางคณา พุฒศรี(มะเหมียว) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 23:29:00


ความคิดเห็นที่ 73 (1640469)

เห็นหลายท่านมากเลยที่เขียนข้อมูลไม่ชัดเจน ซึ่งผมต้องขออนุญาติคัดออก ไม่นำมารวมเล่มนะครับ ขอให้รีบแก้ไขด่วน เช่น

คุณอร อุ่นศรี

คุณบุญภิบาล

คุณกฤษณะ สิงห์ป้อม

คุณพรพุทธ ศรีคุ้ม และอีกหลายท่าน

ขอให้เช็คให้ดีนะครับว่าขาดอะไรบ้าง

1.ชื่อ สกุล ชื่อเล่น อายุ  จังหวัดที่อยู่

2.การศึกษาสูงสุด สาขาที่จบ มหาวิทยาลัยที่จบ

3.การงาน : ตำแหน่งงาน บริษัท

4. สำหรับท่านที่อยู่ต่างประเทศ เช่น คุณอัญมณี สีทองสุก โปรดระบุให้ชัดเจนด้วยนะครับว่าประเทศอะไร อย่าให้คนอ่านเดานะครับ เพราะคนอ่านมีทุกระดับที่จะอ่านธรรมทานของพวกเรา เช่น ลอนดอน ประเทศอังกฤษ, นิวเจอร์ซี่ สหรัฐอเมริกา ก็เขียนให้ชัดเจนเด้ออ

พรุ่งนี้ผมจะเริ่มเรียบเรียงและปริ้นท์ในช่วงบ่ายๆ หากท่านใดที่ชักช้า ก็คงต้องรอเข้าเล่มในรอบสัปดาห์หน้าเน้ออ บุญธรรมทานนี่ ใครทำเร็วก็พ้นทุกข์เร็ว งานนี้ใครทนทุกข์ได้ ก็ทนไป...

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-14 23:56:40


ความคิดเห็นที่ 74 (1640474)

ข้าพเจ้า นางสาว รุ่งสุภารัตน์ รุ่งเรือง ชื่อเล่น ภา

อายุ 40 ปี

การศึกษา ปริญญาตรี สาขารัฐศาสตร์

ตำแหน่งงาน ธุรการ บ. นิวเอร่าจิวเวอรี่จำกัด

จังหวัด กรุงเทพ

 

 

"

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด 

 

 

แล้วชีวิตดียังไง"

ครั้งแรกที่ข้าพเจ้า ขอกราบท่านอาจารญอุบล เพราะว่าข้าพเจ้านั่งฟังท่านอาจารย์บำบัดญาติธรรมที่กำลังป่วย แล้วก็โมทนาบุญ อาการนิ้วล็อกก็หาย และใด้บำบัดกับท่านอาจารย์แค่นั่งไกล้ท่าน อาการปวดหลัง ด้วยโรคหมอนรองกระดูกก็หายทันที

ครั้งที่สอง ข้าพเจ้าขอก้มลงกราบท่านอีกเพราะว่าท่านอาจารย์ ทำให้ข้าพเจ้ามีดวงตาเห็นธรรม ด้วยหลักคำสอนที่ง่ายๆๆในเรื่องของการรักษาศีล5 :ซึ่งข้าพเจ้ากลายเป็นคนกลัวบาปมาก ไม่กล้าทำบาปอีก ซึ่งในใจของข้าพเจ้าสำนึกกรรมที่เคยทำมามันผิดศีลทุกข้อ ล้วนทำให้เกิดทุกข์ ชีวิตถึงเป็นแบบนี้ การงาน การเงิน ความรัก หนี้สิน มีอุปสรรค์ทุกด้าน

หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็ขอกราบท่านอาจารย์เรื่อยมา เพราะเวลากราบเเล้วจิตมันมีความสุขมากค่ะ

ส่วนรูปท่านอาจารย์อุบล ที่บ้านและที่ทำงาน ข้าพเจ้าจะพูดกับท่านประจำ  ตอนเช้าออกจากบ้านไปทำงานต้องกราบสวัสดีท่าน แล้วใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วย ขอให้เดินทางปลอดภัย พอถึงที่ทำงานต้องไหว้รูปท่านอาจารย์ที่ใส่เสื้อสีแดงมีรหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ก่อนทุกครั้ง ขอให้ลูกทำงานราบรื่นอย่าใด้มีอุปสรรค์ใดๆเลย มีแต่คนเมตตาด้วยเทอด  สาธุ

ตั้งเเต่เอารูปท่านอาจารย์ไปติดไว้ข้างฝาที่ทำงาน  ข้าพเจ้าไม่เคยโดนหัวหน้าดุ หรือตำหนิเลย มีเเต่มีคนเมตตา เพื่อนร่วมงานรักทุกคน  การงานราบรื่น มีความสุขกับการทำงาน

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อย่างสูงค่ะ ท่านมีแต่ให้จริงๆๆค่ะ

ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

แล้วจะได้รับผลกรรมอย่างไร"

ครั้งเเรกที่เห็นท่านอาจารย์ ใส่เสื้อยืดบ้านสวนสีขาวทับในกับกางเกงยืนรัดรูป

ก็คิดในใจว่าทำไมต้องใส่แบบนี้ด้วย แล้วข้าพเจ้าก็แอบมองนมท่านอาจารย์ว่าทำไมนมของท่านยังสวยเต่งตึงขนาดนี้ ของเรายังสาวแท้ๆยังสวยไม่เท่าท่านเลย แล้วท่านอาจารย์ยังเดินกางร่มอีก

แล้วข้าพเจ้าก็เห็นญาติธรรมหลายๆคนไปขอขมาท่านอาจารย์เรื่องนี้ ข้าพเจ้าเลยพลอยแอบขอขมาท่านอาจารย์ในใจด้วย

วิบากกรรมก็เลยไม่เกิด  แต่พอมีโอกาศเลยไปขอขมาท่านอาจารย์บ้างอาจารย์ยังเมตตาถามว่าเป็นอะไรมั่งหลังจากคิดแบบนี้ ยังไม่เป็นค่ะขอขมาไว้ก่อนจะใด้ไม่เป็นค่ะ

 

 

 

หรือ

ท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

กราบ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น รุ่งสุภารัตน์ รุ่งเรือง(ภา) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 00:32:23


ความคิดเห็นที่ 75 (1640475)

ดิฉันนางพรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) อายุ 30 ปี

การศึกษาสูงสุด ปริญญาตรี วท.บ.(เกษตรศาสตร์)

จบจาก มหาวิทยาลัยนเรศวร

อาชีพ ธุรกิจส่วนตัว (ร้านขายยา) ที่อยู่ จังหวัดลพบุรี

"กราบท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิดหรือรูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด แล้วชีวิตดียังไง"

ครั้งแรกที่มีความนึกคิดว่า อยากจะกราบท่านอาจารย์อุบล ก็ตอนดูรายการคุยไปแจกไป มีอยู่ตอนหนึ่ง จิตรู้สึกทราบซึ้งในธรรมะที่ท่านอาจารย์ได้สอน ได้ถ่ายทอดออกมา และทราบซึ้งในความเมตตาที่ท่านอาจารย์มีต่อผู้ที่มาบำบัดจนน้ำตาไหล และคิดว่าถ้ามีโอกาสได้ไปบ้านสวนพีระมิด เราจะต้องไปขอกราบท่านอาจารย์อุบลให้ได้ และครั้งแรกที่ได้ไปบ้านสวนพีระมิดก็ได้มีโอกาสเข้าไปขอกราบท่านอาจารย์อุบล ตอนนั้นมันสุขใจอย่างบอกไม่ถูก น้ำตามันคลอเบ้า และก็เคยได้กราบขอขมาท่านอาจารย์ที่มีจิตแว๊ปคิดไม่ดีต่อท่าน อยู่บ้านเวลาสวดมนต์ไหว้พระ ก็จะนึกในใจว่าเราได้กราบท่านอาจารย์อุบลทุกครั้ง และถ้ามีโอกาส ไม่ว่าจะที่ไหน อย่างไร ก็จะกราบท่านอาจารย์เสมอ ท่านก็จะพูดว่าไม่ต้องกราบหรอก อายนะเนี่ย จะมากราบกันทำไม ดิฉันก็ได้แต่ตอบท่านอาจารย์ว่า ให้หนูได้กราบเถอะค่ะ หนูกราบแล้วหนูมีความสุขค่ะ และทุกครั้งที่ได้กราบท่านอาจารย์ รู้สึกว่า กราบท่านได้อย่างสนิทใจจริงๆ  ท่านเป็นบุคคลที่สมควรจะได้รับความเคารพด้วยวิธีการกราบ อย่างที่สุดจริงๆค่ะ

ตัวดิฉันเองเป็นคนที่ไม่ค่อยมีอาการเจ็บป่วยทางกาย แต่เจ็บป่วยทางใจ พูดง่ายๆว่าเป็นคนที่จิตป่วย มีแต่ความทุกข์ใจ ซึมเศร้า อมทุกข์อยู่ตลอดเวลา หลายๆครั้งมีอาการเหมือนคนเป็นบ้า เคยคิดอยากจะไปหาหมอรักษาโรคจิต เพราะรับไม่ไหวแล้วกับสิ่งที่เราเป็นอยู่ แต่ก็ไม่ได้ไป และทุกวันนี้หลังจากที่ได้รู้จักกับบ้านสวนพีระมิดและท่านอาจารย์อุบล ได้กราบท่านทุกครั้งที่มีโอกาส หรือแม้แต่นึกกราบในจิต  สิ่งที่ตัวดิฉันเองได้รับและเห็นผลมากที่สุด ก็คือความสุขทางใจ มันอิ่มเอมใจ สุขใจ มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก มันเป็นความรู้สึกในใจที่ใครๆอาจมองไม่เห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ตรวจสอบผลของมันไม่ได้ แต่ดิฉันสัมผัสได้ด้วยตัวของดิฉันเอง และดิฉันคิดว่าหลายๆคนก็เคยสัมผัสกับความสุขใจนี้มาแล้วเหมือนกัน อย่างที่ดิฉันได้เคยสัมผัส ซึ่งมันบรรยายบอกใครไม่ถูกจริงๆ และทำให้ทุกวันนี้ดิฉันกล้าพูด กล้าบอกได้เลยว่า ดิฉันหายจากอาการป่วยทางจิตได้อย่างล้านเปอร์เซ็นต์ โดยไม่ต้องไปหาหมอแล้วค่ะ สุขใดก็ไม่เท่าสุขใจอีกแล้ว จริงไหมคะ

ลูกขอน้อมกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวค่ะ ที่เสียสละทุกอย่าง เพื่อช่วยเหลือพวกเราทุกคนให้ได้พ้นจากกองทุกข์ ให้ได้พบเจอกับความสุขที่แท้จริงเจ้าค่ะ สาธุ กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น พรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 00:35:00


ความคิดเห็นที่ 76 (1640487)

ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

แล้วจะได้รับผลกรรมอย่างไร"

 ข้าพเจ้าน.ส.เบ็ญจากาญจน์ ศุภศิริวัฒนา อายุ 42 ปี ที่อยู่ ปทุมธานี

จบพยาบาลศาสตร์ จาก มหาวิทยาลัยคริสเตียน

ปัจจุบันทำงาน ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพของมูลนิธิโรคตับ

          สำหรับตัวเองนั้น รู้จักบ้านสวนฯ ตั้งแต่ต้นปี 2554 และได้เกาะติดหน้าเว็บเรื่อยมาจน และได้เข้าไปร่วมสร้างบุญที่บ้านสวนฯตั้งแต่ปลายปี2554 ถึงปัจจุบัน มโนกรรมที่ไม่ดี ติดลบอยู่ในสมองตลอดเวลา หากมีใครมาจุดประเด็น ก็จะคิดตามและคิดต่อไปอีกโดยเมื่อประมาณกลางปี ลูกได้เกิดมีจิตแว๊บคิดลามกกับท่านอาจารย์ผลการคิดไม่ดีกับท่านอาจารย์ครั้งนั้น ทำให้เกิดอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ทำให้มีความทุกข์อย่างมากเดินทางไปไหนก็ต้องระวัง และเคยมีความสงสัย คนอื่นว่าเขาคิดได้อย่างไร หรือทำชั่วได้อย่างไร ตอนนี้รับรู้แล้วค่ะเป็นอย่างไร มารอยู่ที่ใจของเรานี่เอง แล้วมารตัวนี้ก็สามารถทำได้ทุกอย่างโดยที่เราคิดไม่ถึง

          ปัจจุบันนี้ลูกก็ยังมีจิตแว็บ คิดไม่ดีกับท่านอาจารย์เกือบทุกครั้งที่พบเห็นท่านอาจารย์ ลูกพยายามแล้ว แต่มารมันก็ยังวนเวียนอยู่ในใจเป็นความรู้สึกที่ทุกข์ทรมานเหลือเกิน ลูกขอบารมีสมเด็จองค์ปฐม พระศรีอาริย์ พระเจ้าอยู่หัว ท้าวเวสสุวรรณท้าวมหาราชทั้ง 4 และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วอนันตจักรวาลเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์ ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวได้โปรดเมตตา บังคับกระแสจิตของลูกให้คิดดี ทำดี ทำใสสิ่งที่ถูกต้องด้วยเถิด

        ลูกกราบขมา ท่านอาจารย์อุบล สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ หากลูก

ได้ล่วงเกินท่าน ทั้งทางกาย วาจา ใจที่ตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ที่นีกได้ก็ดี

ไม่ได้ก็ดี ขอท่านได้โปรดเมตตาลูกด้วยนะเจ้าคะ

        ขอกราบขอบพระคุณสมเด็จองค์ปฐมฯ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์

 ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว ที่ได้เมตตา ที่เมตตาให้ลูกได้ปลดล็อค

กรรมในครั้งนี้

กราบ กราบ กราบ

น.ส.เบ็ญจากาญจน์  ศุภศิริวัฒนา

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 01:30:18


ความคิดเห็นที่ 77 (1640488)

 กราบอาจารย์อุบล  บ้านสวนพีระมิด

หรือรูปอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

แล้วชีวิตดียังไร

***********************

ดิฉัน นางฉันทนา   ชูนุ่น (เอิบ) อายุ 51 ปี  จ.ปทุมธานี

จบการศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช  ปริญญาตรี วิทยาการจัดการบัญชี

ปัจจุบันเป็นแม่บ้าน 

ยอมรับว่าเป็นคนหนึ่งที่มือไม้แข็ง ไม่ชอบยกมือไหว้ใครง่ายๆ

 ยิ่งกราบแล้ว มีก็แต่พระที่คิดว่านับถือจริงๆ  หลังจากที่ได้เข้ามารู้จักบ้านสวน 

ได้รับความรู้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอียิปต์โบราณ ความรู้ในเรื่องธรรมต่าง 

รู้วิธีการทำบุญ สร้างบุญเพื่อให้ได้ผลเต็มกำลัง ชอบวิธีการที่อ.ได้นำมาสอน

ที่ฟังง่าย ๆ  เข้าใจง่าย  สามารถนำไปปฏิบัติได้ หายทุกข์ รู้สาเหตุและวิธีดับทุกข์

ตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์  ไม่มีข้อสงสัยในคำสอนของท่าน

อาจารย์  ที่เมื่อได้ปฏิบัติตามแล้วก็ทำให้พบกับความสุข  ได้รับรู้ สัมผัสปาฏิหาริย์

มากมาย ทุกข์หายได้  ตัวเองมีจิตศัทธา 100% เต็มที่  การได้กราบอาจารย์นั้น ก็

ไม่ได้คิดหวังอะไร ว่าเพื่อให้หายเจ็บ หายป่วย  อ.จะพูดเสมอว่า อ.ไม่ชอบเลย

ไม่อยากให้ทำบางครั้งก็ทำให้เกร็งๆ ไม่กล้ากราบอาจารย์แม้ว่าจะอยากกราบ

ดีใจค่ะ  กราบแล้วมีความสุข  รู้สึกตัวเบา โล่งสบาย อ.ก็จะบอกว่า ขอให้นึกว่า

กราบพระนะลูก  ตัวเองก็คิดว่ากราบพระพุทธองค์และพระ ที่ไม่ได้มีเครื่องแบบ

 เป็นเปลือกภายนอกให้เห็น แต่มีธรรมะขั้นสูง และ ปฏิบัติให้เห็นเป็นแบบอย่าง

สอนเราทางอ้อม  เวลาไหว้ก่อนนอนบางครั้งไม่ได้ไปที่ห้องพระที่มีรูปอาจารย?

อยู่ และก็จะกำหนดกราบอาจารย์ก่อนนอน ทุกวันนี้ตัวเองก็มีความสุขมากขึ้นที่

สามารถฝึกละความโกรจได้บ้างแล้ว ไม่ขี้หงุดหงิด กราบอาจารย์แล้วจิตมีสุข

ชีวิตมีความสุขขึ้นเวลาที่เกิดปัญญหาก็จะคลี่คลายลงอย่างรวดเร็ว เมื่ออยู่ใกล้

อาจารย์ ก็รู้สึกปลอดภัย  รู้สึกอุ่นใจ เข็มแข็งขึ้น เป็นเกราะป้องกันไม่ให้

ภยันตรายเข้ามา

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ และเทวดาที่รักษาอาจารย์ที่ได้เมตตา

ลูกหลานให้พบกับความสุขค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันทนา ชูนุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 01:33:24


ความคิดเห็นที่ 78 (1640491)

ชื่อ นางสาวปาริชาติ เฟื่องไพบูลย์  (ยุ้ย) อายุ 37 ปี

การศึกษา ปริญญาตรี คณะวิทยาการจัดการ (บริหารธุรกิจ) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, ศึกษาศาสตร์ (วิชาเอกคณิตศาสตร์)

หน้าที่การงาน  ครูและเจ้าของโรงเรียนสมองเลิศปราจีนบุรี 

จังหวัดที่อยู่ ปราจีนบุรี
 
       ปกติแล้วลูกจะกราบพระพุทธรูป พระสงฆ์ คุณพ่อ คุณแม่ ครูอาจารย์  ซึ่งเป็นผู้ที่ลูกให้ความเคารพอย่างสูง แต่ท่านอ.อุบล ภายนอกท่านแต่งกายเหมือนคนทั่วๆไป    แต่ลูกสามารถกราบท่านได้อย่างสนิทใจเหมือนการกราบพระผู้มีความบริสุทธิ์พร้อมทั้งกาย วาจา ใจ  ด้วยความเคารพอย่างสูงสุด 
       
        ทุกครั้งที่ได้มองภาพของท่าน ได้กราบท่านอ.อุบล ลูกรู้สึกมีความสุข และรู้สึกสำนึกในพระคุณของท่านอ.อุบล อยู่เสมอ  เพราะความสุขที่ลูกได้รับจากท่าน อ.อุบลนั้นมากมายจริงๆค่ะ เช่น
 
ลูกหายปวดหัว ตั้งแต่เป็นเด็กจนโตประมาณ 30 กว่าปี ลูกจะปวดหัวง่าย อากาศร้อน เจอแดดแรงๆ เป็นหวัด ร่างกายอ่อนเพลีย ก็จะปวดหัวบ่อย แต่หายปวดหัวได้เพราะท่านอ.อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บ้านสวนพีระมิด  เพราะลูกเคยมีมโนกรรมที่ไม่ดีในอดีต  เมื่อได้มาร่วมบุญแรงกายที่บ้านสวนพีระมิด และอุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร อาการปวดหัวก็หายค่ะ
นอกจากนี้ลูกสามารถละความโกรธ ที่เป็นมโนกรรมได้ดีขึ้นมาก เวลาใครทำสิ่งใดที่ไม่ถูกใจ ก็ไม่หงุดหงิด ไม่น้อยใจ ไม่มีอารมณ์ขุ่นเคือง เหมือนแต่ก่อน เพราะได้น้อมรับคำสอนของท่านอ.อุบล มาปฏิบัติ ชีวิตจึงมีแต่ความสงบสุข   
อาม่าอายุ 95 ปี หายจากอาการอัลไซเมอร์ ปัจจุบันพูดคุย สนทนาได้เหมือนปกติแล้ว
คุณพ่อ หายจากอาการนิ้วล็อค 4 นิ้ว ปัจจุบันกำมือได้ปกติ โดยไม่ต้องทานยา ไม่ต้องผ่าตัด ด้วยรหัสอาจารย์อุบล ช่วยด้วย
คุณแม่ เป็นโรคกระดูกพรุน เดินไม่สะดวก มีอาการชาที่ปลายเท้า
ปัจจุบันเดินได้ดีขึ้น ไม่มีอาการชา ร่างกายแข็งแรงขึ้น
ทุกคนในบ้านก็ได้รับความสุข  มีสุขภาพดีขึ้นทั้งกายและใจ
 
นอกจากนี้เด็กนักเรียนที่ใช้รหัสอ.อุบล ช่วยด้วย ใช้จี้บำบัด ก็หายเจ็บ หายป่วยกันมากมายหลายคน ซึ่งเป็นการพิสูจน์ว่า ท่านอ.อุบล ได้ช่วยให้คนพ้นทุกข์จริงๆ
 
ปรามาสท่านอ.อุบล จะได้ผลกรรมอย่างไร
 
ปกติแล้วลูกประทับใจในคำสอนของท่านอ.อุบลอย่างมาก ที่ทำให้ผู้คนรับทราบเรื่องกฎแห่งกรรมอย่างชัดเจน ได้รู้ผลกรรมว่าสร้างกรรมแบบนี้ให้ผลอย่างไร ทำให้คนที่เคยผิดศีลเปลี่ยนแปลงตนเองได้อย่างรวดเร็ว และมีความเกรงกลัวต่อการทำบาป และลูกก็เคารพท่านอ.อุบล อย่างสูง
 
แต่ในบางครั้งเคยมีจิตแวบนิดนึง เป็นความคิดด้านลบที่เกิดขึ้นเอง แต่ก็ตั้งสติและตัดความคิดไม่ดีทิ้งไป  บางครั้งเป็นคำถามในใจ เป็นความสงสัย ว่ามาถูกทางไหม สิ่งที่ท่านอ.อุบล ทำ มีสิ่งใดขัดกับหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าบ้าง แต่ก็ไม่มีเหตุผลใดมาหักล้างความดีของท่านอาจารย์ได้เลย   สุดท้ายความสงสัยก็หมดไป    เมื่อเกิดความคิดที่เป็นความสงสัยจะมีอาการ เวียนหัว แต่พอกราบรูปท่านอาจารย์อาการเวียนหัวก็หายไป ด้วยความจริงที่ได้สัมผัส   ก็พบแต่ความดีงาม ความรักความเมตตา เป็นความสุข ที่ท่านอาจารย์ได้มอบให้มาโดยตลอด
 
ความคิดสงสัยเพียงแวบเดียวยังส่งผลกรรมได้เพียงนี้ แสดงว่าท่านอาจารย์อุบลต้องมีความบริสุทธิ์อย่างมากๆ กรรมจึงส่งผลอย่างฉับพลันทันทีต่อผู้ที่ปรามาสท่านแม้เพียงความคิดแวบเดียว 
 
กราบขอบพระคุณท่านอ.อุบล อย่างสูงสุด ที่เมตตาให้ลูกมีโอกาสกราบขอขมาที่มีจิตปรามาส ที่ได้ล่วงเกินท่านอาจารย์ทางความคิด
 
ลูกจะตั้งสติ สำรวมระวังความคิด ความพูด การกระทำ ทุกๆอย่าง ให้อยู่บนหนทางแห่งความถูกต้องดีงามตลอดเวลาค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ปาริชาติ เฟื่องไพบูลย์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 01:52:40


ความคิดเห็นที่ 79 (1640495)

ชื่อ นางสุนีย์  ศิริมาศกูล

อายุ 47 ปี  ชื่อเล่น เหมี่ยว   จ.นครราชสีมา

การศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6  ร.ร.บุญวัฒนา

อาชีพ เจ้าของกิจการ ร้านศิริศิลป์ ถ่ายรูป ถ่ายเอกสาร เข้าเล่ม

  "กราบรูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด แล้วชีวิตดียังไง"

   เหมี่ยว ขอเล่าประสบการณ์ตรงจริงๆ  เหมี่ยวขยายรูปของอาจารย์อุบลขนาด 20 นิ้ว แล้วใส่กรอบแขวนไว้ที่เสากลางบ้านด้านหน้ารูปอาจารย์จะมีเค้าเตอร์ตัวหนึ่งพอดีสำหรับกล้มลงกราบรูปอาจารย์อุบล ตื่นเช้ามาพอเหมี่ยวเปิดบ้านก็จะกราบรูปอาจารย์อุบลพร้อมทั้งใช้รหัส อาจารย์อุบลช่วยด้วย ขอให้มีลูกค้ามาใช้บริการของลูกเยอะๆ ลูกค้าก็จะเยอะทุกวัน ทำอย่างงี้ทุกวันจนเป็นปกติ ส่วนลูกชายเหมี่ยว ก่อนไปโรงเรียนและกลับจากโรงเรียน ก็สวัสดีอาจารย์ทุกวันไปโรงเรียนก็ทำให้มีความสุข

แม้แต่วันศุกร์เหมี่ยวจะไปบ้านสวน หรือไปไหนๆก็ยังกราบรูปอาจารย์ก่อนเดินทางอยู่เสมอ กราบแล้วทำให้มีความสุข ขออะไรคิดอะไรสมหวังทุกอย่าง บางครั้งสิ่งที่ไม่รู้ก็จะรู้ได้ด้วยตนเอง เหมือนกับว่าอาจารย์มาคอยบอก แม้แต่การทวงหนี้ลูกค้าก็ประสบผลสำเร็จ

        กราบรูปอาจารย์แล้ว ปัญหาทุกอย่างคลี่คลายได้หมด ลูกค้าที่มาใช้บริการ บางคนก็มีปัญหา สุขภาพ การงาน การเงิน แม้แต่ลูกดื้อ เหมี่ยวแนะนำให้เค้ารู้จักอาจารย์อุบล   เหมี่ยวจะเล่า ให้ลูกค้าฟังว่าอาจารย์อุบลเป็นใคร  ที่มาของรหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย

ลูกค้าเกิดความศรัทธา แล้วกล้มลงกราบรูปอาจารย์อุบล บางคนถึงกับขนลุกทั้งตัว บางคนกลุ้มใจหน้าดำคร่ำเครียดทุกใจ กล้มลงกราบอาจารย์อุบล พร้อมทั้งใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย พอเงยหน้าขึ้นมา หน้าตาก็หายดำ สดชื่นแจ่มใสขึ้น

       คนที่ป่วยปวดหลังปวดเอว เป็นอัมพฤกษ์ไม่ว่าจะเป็นที่แขนหรือขา กราบรูปอาจารย์อุบล พร้อมทั้งใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย  แล้วบอกอาจารย์อุบล ที่รูปว่า... เขาเจ็บปวดทรมานที่ตรงไหน โดยเหมี่ยวจะเป็นผู้บอกที่รูปอาจารย์เสมอว่า...  อาจารย์อุบลเจ้าขาขอให้ ลุง-ป้า คนนี้หายจากการเจ็บปวดที่แขนและขาด้วยเถิดเจ้าค่ะ

แล้ว ลุง-ป้า ที่ป่วยก็ตั้งใจ ขออาจารย์อุบลช่วยด้วย พร้อมทั้งก้มลงกราบรูปอาจารย์ 3 ครั้ง พอเงยหน้าขึ้นมา อาการที่เป็นอัมพฤกษ์ นั้นก็หายทันที

เหมี่ยวขอเล่าถึงเหตุการณ์ล่าสุดที่งานศพคุณตาสำเภา พระรูปหนึ่งท่านมาสวดที่งานศพของคุณตา ระหว่างที่ท่านรอทำพิธี เหมี่ยวก็เดินไปหาท่านแล้วถามท่านว่า หลวงพี่นั่งสวดมนต์นานๆ รู้สึกปวดขาบ้างไหมเจ้าคะ  ตอนแรกท่านก็ไม่ยอมบอกว่าท่านเป็นอย่างไร

ก็เลยต้องคุยเรื่องอื่นก่อนสักพัก ท่านก็พูดว่าทำสมาธิไม่สำเร็จ ใจไม่ค่อยสงบ เหมี่ยวก็บอกท่านว่าให้ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ขอให้ผมทำสมาธิได้สำเร็จ พร้อมทั้งแจกหนังสือการใช้อาจารย์อุบลช่วยด้วย

หลวงพี่ก็บอกว่า หลวงพี่เป็นอัมพฤกษ์ นิ้วมือจะล๊อกยกแขนที่จะห่มผ้าจีวรก็ไม่ได้ ต้องเรียกพระด้วยกันมาห่มให้ เป็นเวลา 3 เดือนแล้ว เหมี่ยว ยกรูปของอาจารย์อุบล ที่อยู่บนหนังสือธรรมทานที่แจก  โดยให้ท่านได้ยกมือไหว้รูปอาจารย์อุบล แล้วท่านได้สารภาพบาป คือท่านใช้มือนี้จับมีดไปฟันคนตายพอสารภาพจบก็ไหว้รูปอาจารย์

หลวงพี่ตกใจมาก ท่านก็พูดออกมาด้วยแววตาที่มีความสุขกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือมือของหลวงพี่ ท่านพูดว่ามันเป็นไปได้อย่างไรนี่  ไม่หน้าเชื่อเลย แล้วท่านก็ขยับมือสะบัดนิ้ว ยกแขนขึ้นให้พระที่นั่งอยู่ด้วยกันดู ว่าท่านยกแขนขึ้น กำมือแบมือได้ แต่ก่อนทำอย่างนี้ไม่ได้

ดูท่านมีความสุขที่หายจากอัมพฤกษ์ หลวงพี่พบสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดกับตัวหลวงพี่เอง เห็นด้วยตนเอง  หลวงพี่สามารถห่มผ้าจีวรได้ด้วยตนเอง เหมี่ยวก็เลย บอกให้ท่านขอบคุณอาจารย์อุบลโดยกราบลงไปที่รูปของอาจารย์ พอดีกับท่านอาจารย์อุบลเดินผ่านมาหลวงพี่ได้ขอบคุณอาจารย์อุบลตัวจริง หลวงพี่ยิ้มอย่างลืมตัว ลืมไปว่าตัวเองเป็นอัมพฤกษ์ ตอนนี้มีความสุข แล้วพูดว่าจะไม่กลับไปทำความชั่วอีก

รูปอาจารย์อุบล เป็นรูปไหนก็ตาม รูปเล็กที่อยู่ปกหนังสือธรรมทาน สามารถกราบแล้วหายเจ็บ หายป่วยได้เช่นกัน ขอให้กราบด้วยความศรัทธา ด้วยความเคารพ หากยังทำไม่ได้ ยังเจ็บยังจนอยู่ ถ้าทนได้ก็ทนต่อไป เพราะกราบแล้วไม่เสียตังส์ ไม่มีเงื่อนไข อย่างนี้ต้องพิสูจน์จ้า

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 02:33:05


ความคิดเห็นที่ 80 (1640496)

ชื่อ-สกุล จริง   นายอมร  ศิริมาศกูล

อายุ  50 ปี   จังหวัดนครราชสีมา

การศึกษา คุรุศาสตรบัณฑิต วิทยาลัยครูนครราชสีมา

ตำแหน่ง เจ้าของกิจการ ร้านศิริศิลป์ ถ่ายรูป  ถ่ายเอกสาร เข้าเล่ม

"กราบรูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด แล้วชีวิตดียังไง"

แรก ๆ ผมแนะนำการใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย และได้เล่าปรากฎการณ์บ้านสวนพีระมิด ที่มาทำบุญแรงกายแล้วหายจากอาการเจ็บป่วยแบบฉับพลันทันที กับลูกค้าที่มาที่ร้าน บางคนก็สงสัยถามต่อเพราะอะไร มีด้วยหรือ อ.อุบล เป็นพระอยู่วัดไหน อ.อุบลตายหรือยัง เป็นคำถามที่ตอบบ่อยมาก

ผมขยายรูปบานใหญ่ขนาด 16x20 นิ้ว ติดไว้ในร้านเด่นสะดุดตา “นี่คือรูปอาจารย์อุบล  ครูบาอาจารย์ของผม”  ผมจะได้พูดคำนี้ทุกครั้งที่มีการพูดคุยถึงบ้านสวนพีระมิด และพูดทุกครั้งที่เริ่มการบำบัดจะนำด้วยการบอกแนะนำครูบาอาจารย์ก่อนเสมอ

รูปภาพอาจารย์อุบล ผมถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของพลังศักดิ์สิทธิ์ ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งจักรวาล อนันตจักรวาล ต้องการให้มนุษย์สื่อสารได้ที่เป็นรูปธรรม ที่จับต้องได้ เพียงใช้กายและจิตที่เคารพศรัทธาปรารถนาความสุข ให้หายจากโรคภัย ก็สุขสมหวังได้ครับ

สำหรับผมแล้วกราบที่ตัว หรือกราบรูปอาจารย์อุบล ผมกราบได้อย่างสนิทใจ แบบไม่สงสัย อย่างแรกคือ เป็นผู้มีพระคุณที่ทำให้ผมมีชีวิตใหม่ ทั้งที่หมดอายุขัยไปแล้ว ทำให้อาการเจ็บป่วยเส้นยึดที่ขาหายเป็นปรกติ อาการเจ็บป่วยปางตายตัวร้อนแทบช๊อค ก็หายในบัดดล การงานการเงินของผมก็มีสภาพคล่องทางการเงิน สามารถมาทำบุญเต็มที่เต็มกำลังสองวัน ทำงานหาเงินห้าวัน ได้ หนี้สินลดลงแล้วผมก็ไม่ก่อหนี้ใหม่อีก ผมทำได้แล้วครับ

อาจารย์อุบล เป็นผู้มาทำหน้าที่พาคนให้พ้นจากความทุกข์ ทั้งกายและใจ แน่นอนครับ ผู้มีความศรัทธาในตัวอาจารย์อุบล อย่างไม่ลังเลสงสัยย่อมจะสัมฤทธิ์ผลในทุกด้านที่ประกอบไปด้วยศีล ด้วยธรรม

บำบัดคนป่วยคนแรก ที่กราบรูปอาจารย์อุบล  เป็นลูกค้าที่เป็นคนป่วยพิการ เดินก้าวขาไม่ออกเดินก้าวสั้นๆเหมือนนกเพนกวิน  ป่วยมาสามปี บำบัดอาการปวดแขนและปวดขา แล้วดีขึ้นจึงกราบขอบคุณที่รูปอาจารย์อุบล ปรากฏว่า อาการพิการที่ขาเกิดหาย สามารถเดินได้เป็นปรกติแถมลองวิ่งให้ดูอีก

คนที่สอง เป็นผู้หญิงเดินขาลาก บำบัดอาการปวดขา ดีขึ้น 80% แล้วกราบขอบคุณที่รูปอาจารย์อุบล ก็สามารถก้าวเดินได้ดีกว่าเดิมไม่ลากขา

คนที่สาม เป็นชายประสบอุบัติเหตุ แขนหัก ขาหัก ต้องดามเหล็ก ทำให้เสียวแป๊ปเวลาเดินหรือทำงานหนัก การเดินจึงไม่ปรกติ มาสารภาพบาป และกราบรูปอาจารย์อุบล ทำให้อาการปวดหาย100% การเดินสามารถเคลื่อนตัวเองได้คล่องไม่เสียวต้องแวะมากราบรูปบ่อยๆ

คนที่สี่ ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีก ขาซ้ายเป๋ มือซ้ายงอเข้าหาตัว คนนี้ไม่คิดว่าจะบำบัดความพิการเขานะครับ บำบัดปวดขา ชาที่แขนแล้วหาย 80% แล้วไปกราบขอบคุณโดยการคลุกเข่าลงกราบ สามารถนั่งงอเข่าได้ นั่งขัดสมาธิได้ ขาที่เป๋ แขนที่งอก็ หายเป็นปรกติอย่างน่าอัศจรรย์

แปลกใจอีกอย่างครับ เมื่อติดรูป อาจารย์อุบลไว้หน้าบ้าน พวกแห่สิงโตเรี่ยไรเงินไม่กล้าเข้าบ้าน อันนี้ยืนยันนอนยันเลย เมื่อก่อนพวกนี้จะวิ่งกรูเข้ามาเลย เดี๋ยวนี้แห่ผ่านไปบ้านอื่นเลยไม่แวะเข้าบ้านผมเลย  เพราะว่า พลังบริสุทธิ์จากรูปภาพอาจารย์อุบลที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์รักษาคุ้มครอง ผลักพลังงานที่ไม่ดีออกไป หรือไม่ก็พวกที่มีจิตบาปไม่บริสุทธิ์ ต้มตุ๋นหลอกลวง กลัวเกรงบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่รูปอาจารย์อุบล

จะเห็นได้ว่าการกราบรูปอาจารย์อุบล ทำให้หายจากอาการของโรคที่หนักๆ ได้ ส่วนอาการอื่นๆ ก็มีคนกราบแล้วอาการของโรคหายไปจริงๆ บางคนเพียงแค่อยู่ใกล้รูป ก็สัมผัสได้ขนลุกชูชัน พูดสารภาพบาปออกมาเองก็มี บางคนกราบรูปอาจารย์ ก็ขนลุกทั้งตัวร้องไห้สะอึกสะอื้นแบบทุกคนสงสัยว่าร้องไห้ได้ยังไง

ทั้งหมดเป็นบทพิสูจน์ว่า รูปภาพอาจารย์อุบล มีพลังศักดิ์สิทธิ์ ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งจักรวาล อนันตจักรวาล สถิตย์อยู่ที่รูปภาพทุกรูปของอาจารย์อุบล โดยสามารถพิสูจน์ได้สัมผัสได้โดยการกราบแล้วหายจากอาการเจ็บป่วย ครับ

กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งจักรวาล อนันตจักรวาล และอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด ที่ทำให้ผมสัมผัสได้ถึงพลังศักดิ์สิทธิ์ และสมปรารถนาในความสุขครับ

 

ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิดแล้วได้รับผลกรรมอย่างไร

ตอนดูรายการคุยไปแจกไป ครั้งแรกผมเคยคิดปรามาส เรื่องเป็นผู้หญิง แต่งตัวดูออกเซ๊กซี่แล้วมาพูดเรื่องธรรมะ มันสวนทางกัน  แต่ในที่สุดก็หาคำตอบจนเจอ เป็นที่ตัวเราเองมีพลังลบ คิดลบในตัวเรามาก ไปสงสัยการทำความดีของผู้อื่น ทั้งที่ตัวเองหาดีอะไรไม่มีสักอย่าง มองไม่เห็นความชั่วความเลวของตนเอง

กลางปี 53 ผมเคยสงสัยการรับบริจาคเงินและสิ่งของ ของบ้านสวนฯ ว่า เป็นสังฆทาน ได้อย่างไร บ้านสวนไม่มีพระ ไม่ใช่วัด  ยอมรับว่าโง่ คิดไม่เป็นเลยไม่รู้ ก็ต้องติดกรรมไป ผมสงสัยแต่ผมก็ยังมาบ้านสวนฯ  

ผมยังพาพี่ตำรวจเกษียณมาสร้างบุญอีกด้วย ตอนนั่งรถกลับบ้าน พี่ตำรวจเกิดสงสัยว่า เงินที่รับบริจาค อ.อุบลเอาไปทำอะไร สร้างจริงหรือเปล่า

ผมนั่งรถเก๋งมากับพี่ตำรวจพี่เขาขับมาถึง สีคิ้ว รถเก๋งมีอาการ พวงมาลัยควบคุมการวิ่งของล้อให้ตรงไม่ได้ รถจำวิ่งกินเลนไปทางขวาตลอด ต้องออกแรงดึงพวงมาลัยผืนๆ จึงจะวิ่งตรงได้ ต้องจอดรถเพื่อตรวจดูความผิดปรกติของชุดบังคับการเลี้ยว ก็ไม่เห็นความผิดปรกติแต่อย่างใด รถจะวิ่งเร็วไม่ได้เลยมันจะวิ่งข้ามเลนเข้าไปชนรถคันอื่นอยู่ตลอดเวลา

โอกาสที่จะประสบอุบัติเหตุสูงมากเลยครับ พี่ตำรวจเอารถไปตรวจเช็คที่ศูนย์ ช่างบอกว่ารถปรกติทุกอย่าง ช่างทดลองขับดูปรกติทุกกอย่าง แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับรถที่มีคนต่างคนต่างปรามาส อ.อุบล ผมแทบจะเอาชีวิตไม่รอดในวันนั้น

 เคยคิดไม่เห็นด้วยเรื่อง “ความเมตตาของเราคือการทำร้ายเขา”  เคยปรามาส อ.อุบล ที่บอกไม่ให้ความช่วยเหลือกัณวิญา  ผมก็ยังโง่เขลาอยู่อีกนั่นแหละ ความเมตตาของผมที่ไปช่วยเหลือเขา เท่ากับเราไปส่งเสริมเขาทำผิดอยู่ร่ำไป แล้วเมื่อไรเขาจะพ้นกรรมเสียที  คำนี้เองที่ อ.อุบลให้ปัญญา

เคยคิดไม่ดีกับ อ.อุบล ตอนเป็นดาวลูกไก่ คิดว่าตัวเองไม่ผิด หาเหตุผลให้ตนเองสารพัด เพื่อให้ตัวเองดูดี  ปิดหูปิดตาตนเองไม่อยากรับฟังเหตุผลใดๆ จากใคร ๆ ทั้งสิ้น  ในขณะที่อาจารย์มีเมตตา ปรารถนาดี ไม่อยากให้เป็นบาปกรรมติดตัว หาวิธีให้มีสติ ให้รู้จักคิดแก้ไขตนเอง

ที่ผมคิดและทำนั้น เท่ากับว่าผมไม่ได้แสดงถึงความเคารพ ในครูบาอาจารย์เลย ผมละอายใจตัวเองครับ มันเป็นความผิดแบบไม่น่าจะให้อภัยเลยครับ ผมจึงเป็นคนที่น่ารังเกียจ เพราะว่าผมเป็นคนที่ผิดศีลข้อ 4 มาอย่างโชกโชน กลายเป็นคนนิยมชมชอบความโกหก ตอแหล จนเป็นสันดานก็ว่าได้ครับ

กราบขอโทษ ขมา อ.อุบลและครอบครัว ที่ผมมีจิตปรามาสล่วงเกินท่าน ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ผมขอรับกรรมที่เกิดขึ้นและสัญญาว่าจะไม่ทำไม่คิดอย่างนี้อีกเด็ดขาด

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 03:20:06


ความคิดเห็นที่ 81 (1640504)

 วันนี้่หนึ่งได้รับความเมตตาจากสมเด็จองค์ปฐมและท่านอ.อุบล

คือท่านอ.เมตตาอบรมสั่งสอนว่า

ตัวของหนึ่งเป็นคนที่มีมโมกรรมเยอะ 

แล้วการเขียนสารภาพการปรามาสก็ยังไม่ถูกต้อง ซึ่งการเขียนแบบนี้จะยิ่งทำให้กรรมหนักมากกว่าเก่า ท่านอ.ก็เมตตาสอนว่าควรจะเขียนอย่างไรที่จะหลุดกรรมจริงๆ จึงขออนุญาติลบข้อความของตนเองเพื่อเรียบเรียงข้อความใหม่อีกครั้งคะ

เพื่อที่จะลงรายละเอียดของวิธีที่หนึ่งใช้หยุดมโนกรรมในการปรามาสท่านอ.แบบหายขาดเพื่อให้คนอื่นๆได้รู้วิธีคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 05:38:11


ความคิดเห็นที่ 82 (1640506)

โอ้ววว ขอบคุณพี่ธนามากๆนะคะ

ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา ณัชชาเกือบพลาดไปแล้วนะคะเนี่ย

 ชื่อ ณัชชา พรหมทองแก้ว บ้านเกิดอยู่จังหวัดมุกดาหาร 

 อายุ  29 ปี 

 การศึกษา ปริญญาตรี  บริหารธุรกิจ สาขา การตลาด

 มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น

 ปัจุบัน ทำงานและเรียนหนังสืออยู่ที่ Canada  ทำงานอยู่เมือง Barrie ( Live-in Care giver )

 เรียนอยู่ที่เมือง Toronto ( PSW program) Ontario, Canada 

ตั้งแต่รู้จักบ้านสวนพีระมิด และท่านอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ทำให้ชีวิตณัชชาเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ 

เรื่องชีวิตทางด้านจิตใจ 

ทำให้ณัชชา ได้ใช้ชีวิตไปในทางที่ถูกต้อง ไม่หลงทางในการดำเนินชีวิต รู้จักบาป บุญอย่างแท้จริง ให้ณัชชาได้สำนึกบาปด้วย

ใจอย่างแท้จริง มีจุดหมายปลายทาง และพบเจอแสงสว่างให้กับชีวิตอย่างแท้จริง

                                                                 กราบอาจารย์อุบล  บ้านสวนพีระมิด

หรือรูปอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

แล้วชีวิตดียังไร

ณัชชาพูดได้อย่างมั่นใจและเชื่อมั่นเลยว่า ชีวิตของณัชชาดีขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีอย่างน่าอัศจรรย์  ทั้งเรื่องความรัก   การงาน

การเงิน การเรียน โดยเฉพาะ เรื่องทางด้านจิตใจของตัวเอง ให้ณัชชาได้รู้จักบาปบุญ ชั่วดี อย่างแท้จริง ให้ได้เปลี่ยนแปลงวิถีในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง จิตใจสงบ ใจเย็น ไม่จิตตก เหมือนเมื่อก่อน เวลาไม่สบาย ระลึกถึงท่าน และกราบรูปท่าน ก็เริ่มดีขึ้นและหายป่วยทันที  เวลาจิตตก เมื่อระลึกถึงท่าน อาจารย์อุบล จิตใจก็กลับมาเป็นปกติ เดินทางไปไหน ไปอยู่แห่งหนใด ก็ได้พบเจอแต่กัลยานมิตรที่ดี ปลอดภัยจากภยันตรายร้ายๆต่าง เสมือนว่าท่านอาจารย์อุบล คอยปกปักษ์รักษาคุ้มครองอยู่ตลอดเวลา  และเมื่อเวลาใจเริ่มคิดที่จะทำความชั่ว คำสอนของท่านอาจารย์อุบล ก็เข้ามาในใจทันที และสามารถระงับความชั่วนั้นได้อย่างรวดเร็ว 

เรื่องความรัก ณัชชาเป็นคนมีบาปอย่างมากในเรื่องของความรัก  เมื่อก่อน ไม่เคยสมหวังในเรื่องของความรัก ผิดหวัง และหลงทาง มัวเมากับเรื่องนี้ตั้งแต่เริ่มเป็นสาว จนมาถึงอายุ 26 ปี จนทำให้กรรมรวมตัวกันตอนอายุ 27 ปี ถึงขนาดคิดฆ่าตัวตาย กรรมรวมตัวกันที่ได้รับคือ มโนกรรม ซึ่งเป็นกรรมทางด้านจิตใจ และเป็นทุกข์อย่างมาก แต่ท่านอาจารย์อุบล และบ้านสวนพีระมิด ได้ช่วยปลดล๊อคกรรมนี้  ให้โอกาสแก่ณัชชา ได้ชดใช้กรรม เริ่มต้นใหม่ และเปลี่ยนแปลงตัวเอง จนดีขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงดีมากอย่างน่าอัศจรรย์ 

การงาน  เจอเจ้านายที่ดี การงานราบรื่น เมื่อมีปัญหา ไม่ว่าจะปัญหาใหญ่น้อยแค่ไหน พอกราบรูปท่านอาจารย์อุบล ปัญหาต่างๆเหล่านั้นก็คลี่คลายไปในทางที่ดี 

การเงิน จากที่การเงินฝืดเคืองมาตลอด ตอนนี้เริ่มดีขึ้นๆเรื่อยๆ เพราะใช้คำสอนของท่านอาจารย์อุบล นำมาปฎิบัติ

การเรียน ตอนมาอยู่แคนาดาใหม่ๆ มีปัญหาเรื่องการเรียนคือ หาที่เรียนไม่ได้ เพราะเวลางานกับเวลาเรียนไม่ลงตัวกัน และค่าเรียนแพงมาก 

 ณัชชามาที่แคนาดา สิ่งที่ตั้งใจและหวังมากๆคืออยากเรียนหนังสือ เรื่องการเรียนตอนแรกไม่ค่อยจะราบรื่นนัก เพราะผลกรรมที่เคยไม่ตั้งใจเรียนเมื่อก่อน เปลี่ยนมหาวิทยาลัยบ่อยๆ  ทำให้ส่งผลคือ เมื่อมาแคนาดา เรื่องหาโรงเรียนล่าช้าร่วมไปสองเดืิอนกว่าจะลงตัว พอระลึกถึงท่านอาจารย์อุบล กราบรูปท่านอาจารย์ และใช้รหัสอาจารย์อุบล ช่วยด้วย ก็ทำให้หาที่เรียนได้ เวลาก็ลงตัว และค่าใช้จ่ายเรื่องการเรียนก็ไม่แพงจนเกินไป 


 กราบท่านอาจารย์อุบล และรูปของท่านอาจารย์อุบล เป็นศิริมงคลให้กับชีวิตของณัชชาโดยแท้จริง

กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ และท่านอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ที่มีความเมตตากรุณาณัชชาในทุกๆด้านของชีวิตค่ะ

                                               สาธุ

                        

ผู้แสดงความคิดเห็น ณัชชา พรหมทองแก้้ว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 06:03:57


ความคิดเห็นที่ 83 (1640507)

ข้าพเจ้า นางสาวเจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) อายุ 34 ปี

ที่อยู่ปัจจุบัน : ปทุมธานี

การศึกษาสูงสุด: ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเกริก คณะบริหารธุรกิจ สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ

ตำแหน่งงานสุดท้าย : AMS (Assurance & Management Service) Spare Part Manager/ Huawei Technologies Co.,Ltd.

ปัจจุบัน : แม่บ้าน

***************

ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิดแล้วได้รับผลกรรมอย่างไร

หลังจากที่หนึ่งเข้าไปที่บ้านสวนได้สัก 3-4 ครั้งก็มีเหตุการณ์ต่างๆที่ตนเองได้กระทำความผิดที่บ้านสวนเช่น

**ถ่ายรูปหน้าบ้านของท่านอาจารย์โดยไม่ได้ขออนุญาติทำไปโดยพละการ**

หลังจากขับรถออกนอกบ้านสวนอยู่ๆหนึ่งก็มีอาการปวดบ่าข้างขวาแบบรุนแรงมาก, ขับรถก็เกิดอาการง่วงนอนผิดปกติเกือบจะเกิดอุบัติเหตุ แต่ใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วย แต่ด้วยความเป็นเด็กใหม่บ้านสวนตอนนั้นก็นึกถึงกรรมตนเองไม่ออก หนึ่งต้องทนทรมานปวดบ่าอยู่เป็นอาทิตย์ถึงจะกินยาก็ไม่หาย พอยาหมดฤทธิ์ก็กลับมาปวดอีก

จนกระทั่งได้รับความเมตตาจากคุณธนาจนเตือนให้รู้ว่าเป็นความผิด เพราะเคยมากรณีศึกษามาแล้วว่าคนที่ทำผิดกฏ โดยเฉพาะกรณีที่มีคนเปิดประตูเข้าบ้านท่านอาจารย์โดยไม่ได้รับอนุญาติ และไม่สำนึกผิดว่าเป็นการเสียมารยาทอย่างรุนแรงกับท่านอาจารย์ ได้รับผลกรรมคือเสียชีวิตมาแล้ว ซึ่งเจ้าตัวมาสำนึกผิดเอานาทีสุดท้ายของชีวิตว่าเป็นกรรมที่ก้าวล่วงละเมิดท่านอาจารย์

ตนเองก็เริ่มคิดได้ว่าถ้าจะเจอของจริงซะแล้วเพราะรูปที่ถ่ายไปนั้นปรากฏรูปหน้าคนเต็มหรือจิตวิญญาณเต็มทุกพื้นที่ของรูปเลยหนึ่งจึงได้ออกไปสารภาพ จิตหนึ่งก็เกิดคิดชั่วๆขึ้นมาว่า เรื่องเล็กๆน้อยเอง ทำให้ต้องมีกฏเยอะแยะด้วย แถมยังสารภาพไม่หมดอีกคือเอารูปไปให้น้องที่ทำงานดูด้วย

ตอนนั้นจิตมันชั่วสารภาพไปโดยไม่สำนึกว่าตนเองได้ก้าวล่วงผู้อื่นจนกระทั่งท่านอ.เมตตา ยกตัวอย่างว่ากรณีที่คนมาหาที่บ้านแล้วอยู่ๆเดินเข้าบ้านแล้วถ่ายรูปห้องนอนของเรา เราจะรู้สึกอย่างไรหนึ่งถึงได้คิดได้ว่าถ้าเราเป็นเจ้าของบ้านจะรู้สึกอย่างไร

***จิตมันคิดแว่บเรื่องกฏระเบียบบ้านสวนว่ามันเยอะ***

ซึ่งท่านอาจารย์ก็เมตตาย้ำว่า บ้านสวนพีระมิดไม่ใช่สถานปฏิบัติธรรมแต่เป็นบ้านพักส่วนตัวของท่านอ.อุบลและครอบครัวศุภาเดชาภรณ์ ท่านอ.ไม่จำเป็นต้องมาออกกฏระเบียบอะไรเลยถ้าแขกผู้มาเยือนมีสำนึก และที่สำคัญถ้าไม่มีกฏการเข้าออกก็จะเป็นการเปิดช่องให้คนชั่ว คนที่ค้าขายยาเสพติด อาจจะเข้ามาได้ง่าย พามามองย้อนกลับตรงนี้ถึงได้เข้าใจว่า แม้แต่ตนเองที่ไปบ้านของท่านเรายังไปทิ้งขยะในบ้านท่าน ไปใช้น้ำ-ไฟฟรีโดยไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายแล้วยังไม่ประหยัดอีก แล้วถ้าไม่มีกฏระเบียบของบ้านสวน บ้านพักของท่านอ.จะสกปรกวุ่นวายเพียงใด

***มีเรื่องที่จิตชั่วคิดแว่บแอบมองหน้าอกกับสะโพกของท่านอาจารย์ ตำหนิว่าท่านแต่งตัวรัดรูปหรือบางครั้งก็แว่บในใจว่าไม่เห็นท่านจะสวยตรงไหน***

ทั้งๆที่ท่านอาจารย์อดหลับอดนอนเพราะนั่งเตรียมงานเพื่อให้ลูกหลานได้มาทำกิจกรรมทั้งๆที่ท่านอาจารย์ก็เมตตาให้วิธีการคิดว่า ความดีงามการปฏิบัติดีของคนไม่ได้ขึ้นอยู่ที่เสื้อผ้าอาภรณ์หรือการแต่งกายทุกอย่างเป็นแค่เปลือกเท่านั้น หรือแม้แต่สมมุติสงฆ์เรายังไม่สามารถแยกแยะได้เลยว่าสงฆ์รูปไหนที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ พระพุทธองค์ท่านเน้นย้ำว่าให้มองที่ธรรมะ ไม่ให้มองที่รูป….หนึ่งถึงได้เข้าใจว่าเป็นเพราะเรามีจิตอิจฉาริษยาที่เห็นท่านอาจารย์มีความก้าวหน้าในทางธรรมแต่ตนเองที่อ้างว่ารักพระพุทธเจ้าเคารพท่านกลับไม่มีความก้าวหน้าทำให้เราพยายามมองหาข้อที่จะมาตำหนิติเตียนท่านอาจารย์ โดยที่ไม่ได้ดูหรือคุณงามความดีของท่านและพิจารณามองตนเองแต่อย่างไรเพราะเมื่อเปรียบเทียบกันแล้วตนเองทำผิดศีลมาแล้วทุกข้อและอย่างต่อเนื่องและยังไม่มีมั่นคงในคำสอนของพระพุทธเจ้าอีกด้วย

นอกจากนี้ความเลวของตนเองก็ยังไปมีจิตคิดแว่บกับท่านอ.มงคลและคุณท็อปอีกด้วย

ช่วงที่ไปบ้านสวนใหม่ๆ ตรงกับช่วงบวงสรวงองค์ปฐม ตนเองไม่รู้จักท่านอาจารย์มงคลและคุณท็อป เห็นแต่ท่านอาจารย์อุบลทั้งยืนตากแดดและเห็นท่านอาจารย์ปีนขึ้นนั่งลานเพื่อบรรจุพระด้วยตนเอง ความโง่เขลาก็คิดแว่บว่าทำไมสามีกับลูกถึงปล่อยให้ท่านอาจารย์อุบลต้องลำบากทำทุกอย่างด้วยตนเอง นอกจากนี้พอเดินกลับมาที่วิหารก็เห็นคุณท็อปนั่งคุยอยู่ก็คิดแว่บวิจารณ์คุณท็อปว่าเอาแต่สบายนั่งอยู่แต่ในร่มปล่อยแม่ตนเองและคนอื่นๆทำงานตากแดด  ทั้งๆที่เพิ่งจะเข้าไปบ้านสวนและก็อาศัย กินฟรีบ้านท่านอาจารย์แต่ก็ไม่สำนึกในบุญคุณกับวิพากษ์วิจารณ์ให้ผู้มีพระคุณเสียหาย และที่สำคัญตนเองก็ยังไม่ได้รู้จักท่านไม่รู้ว่าแต่ละวันทุกทำอะไรแต่ถือโอกาสไปวิพากษ์วิจารณาท่านผู้เป็นเจ้าของบ้านเสียแล้ว

***เรื่องที่สำคัญอีกเรื่องคือมีจิตคิดแว่บเป็นคำหยาบด้วยสระภาษาอังกฤษกับท่าน***

ตอนนั้นได้เข้าเฟสบุ๊คบ้านสวนและเจอข้อความที่มีคนปรามาสท่านอาจารย์ด้วยสระภาษาอังกฤษ ตนเองก็ไปจำคำพูดนั้นมาและมักจะมีคำพูดนี้ลอยมาตลอดทุกครั้งที่ทำกิจกรรมทุกอย่างทั้งเวลาที่อยู่ในและนอกบ้านสวน ตอนแรกๆก็พยายามบังคับจิตใจแต่ตอนหลังกับรู้สึกสะใจตนเองคิดว่าท่านอาจารย์ไม่รู้

ท่านอาจารย์ก็เมตตาแนะนำให้ขออารธนาบารมีสมเด็จองค์ปฐมมาครอบคลุมกาย วาย ใจของตนเองแล้วก็ยังไม่สามารถบังคับกระแสจิตของตนเองได้ หนึ่งจึงคิดว่าเพราะกำลังบุญของตนเองไม่พอ เรายังมีความสกปรกมีความชั่วอยู่มากและจิตยังไม่มั่นคงในความดี

และเมื่อไม่นานมานี้ท่านอาจารย์เมตตาให้แต่ละคนท่องบทสวดบูชาพระศรีอาริย์ทุกวันๆละ 99 จบ ส่วนตัวหนึ่งก็ท่องทุกๆวันอย่างต่อเนื่อง บางวันก็ท่องเกิน หลังจากท่องบทสวดบูชาพระศรีอาริย์ ปรากฏว่าอาการขับถ่ายดีขึ้นมาก และขับถ่ายเกือบทุกวัน

แต่มีเหตุการณ์อยู่วันหนึ่งเกิดปวดท้องอยากจะขับถ่ายมากแต่กลับท้องผูกระหว่างนั้นก็ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยก็ยังถ่ายไม่ออกนั่งห้องน้ำอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง แต่สุดท้ายก็ถ่ายท้องได้สำเร็จ แต่ปรากฏว่าของเสียที่ขับถ่าย มีลักษณะเป็นสีดำผิดปกติและรู้สึกว่าร่างกายมันเบาโล่ง

อาการจิตแว่บก็หายไปด้วย  จึงได้รู้ว่าถึงอานุภาพบทสวดของพระศรีอาริย์ ดังนั้นทุกวันเวลาจะพยายามท่องบทสวดพระศรีอาริย์ตลอดคะกราบขอบพระคุณพระศรีอาริย์

นอกจากนี้ยังมีความชั่วอีกหลายๆอย่างที่เมื่อเห็นคนที่ลบหลู่ท่านอาจารย์อุบลก็เพิกเฉย***

1.เหตุการณ์เกิดขึ้นตอนที่อยู่ในบ้านสวน ตอนนั้นน้องสาวเขาไม่เห็นด้วยที่ตนเองมาทำบุญที่บ้านสวนโดยปล่อยให้สามีเลี้ยงลูกให้ และเขาก็แสดงความหวังดีโทรมาหาและก็เตือนว่าเทพ พรหมมีหลายแบบ ทั้งที่ใช้เมตตานำและที่ทำอะไรผิดก็ลงโทษ มีทั้งที่เป็นของจริงและไม่จริง พอได้ฟังแทนที่ตนเองจะโต้ตตอบก็เพิกเฉย และยังมีการไปย้อนถามเขาอีกว่า แล้วบ้านสวนไม่ใช่ของจริงหรือ (การถามเช่นนี้เพราะลึกๆในใจตนเองก็เกิดความสงสัยแต่ไม่ยอมรับ)

ผลกรรมที่ได้รับทันทีคือตอนเช้าหลังจากอาทิตย์นั้นไปส่งลูกชายที่โรงเรียนอยู่ดีๆปรากฏว่าตอนบ่ายครูที่โรงเรียนโทรตามว่า อยู่ๆน้องก็มีอาการตัวร้อนสูงและพากลางคืนก็นำลูกชายส่งโรงพยาบาล ปรากฏว่าอยู่ก็เป็นโรคมือเท้าปาก โดยเฉพาะที่ลำคอ ลูกชายเข้าโรงพยาบาลอยู่ 1 อาทิตย์

ทำให้อดนึกถึงเหตุการณ์ที่ตนเองไปเอาพวงมาลัยบูชาพระของบ้านสวนกลับบ้าน แล้วพอกลับมาถึงบ้านอยู่ๆช่วงค่ำลูกชายก็มีอาการตัวร้อนไข้ขึ้นสูงมากกินยา เช็คตัวก็ไม่หาย หนึ่งเลยนั่งสำรวจว่าเราไปทำอะไรผิดกับบ้านสวนหรือเปล่า เลยนึกถึงพวงมาลัยที่เอาติดมาจากบ้านสวน พอตั้งจิตอธิษฐานขอขมาต่อสิ่งศดกับบ้านสวนหรือเปล่า เลยนึกถึงพวงมาลัยที่เอาติดมาจากบ้านสวน พอตั้งจิตอธิษฐานขอขมาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ปรากฏว่าไข้ที่ขึ้น 39 องศาอยู่ๆก็ลดลงไปที่ 37 องศาภายในชั่ววินาที

 2.เหตุการณ์เกิดขึ้นตอนที่กลับไปเยี่ยมบ้านสามี หลังจากแจกธรรมทานคู่มือหนีกรรมให้กับพ่อสามี ท่านได้พูดถึงอาจารย์และเครื่องสำอางพาเมล่าโดยมีประเด็นหลักๆคือ ท่านอาจารย์เป็นเจ้าสำนัก / ท่านอาจารย์ใช้ลูกเล่นเยอะในการขายเครื่องสำอางพาเมล่า /  และที่รุนแรงมากที่สุุดคือนำท่านอาจารย์ไปเปรียบเทียบกับพระยันตะ หนึ่งไม่ได้แสดงความเข้มแข็งกล้าหาญอะไรในการปกป้องครูบาอาจารย์ เวลาทีี่พูดโต้ตอบก็พูดแบบไม่เต็มเสียงเพราะกลัวว่าตนเองจะเดือดร้อน จัดว่าเป็นคนที่อกตัญญูต่อท่านอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักรักษาท่านอาจารย์ เพราะตั้งแต่ที่รู้จัักบ้านสวนก็ได้รับความเมตตาต่อท่านอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาโดยตลอด

ผลกรรมที่ได้รับ : หลังจากวันนั้นตนเองกับลูกชายก็ป่วยมีอาการเจ็บคอเป็นเหตุให้ต้องเสียทรัพย์

***กราบขอขมากับท่านอาจารย์อุุบล ท่านอาจารย์มงคลและคุณท็อป***

หนึ่งกราบขอขมาท่านอาจารย์และสมาชิกครอบครัวศุภาเดชาภรณ์ที่ตนเองยังชั่วอยู่มากทั้งมากินฟรี นอนฟรี ใช้น้ำใช้ไฟฟรี และหลายๆครั้งของการปรามาสก็เกิดจากการไม่รู้จักควบคุมจิตตนเองทั้งๆที่ท่านอาจารย์ก็เมตตาให้วิธีทางแก้ไขมาแล้วกราบขอขมาอีกครั้งนะคะ

กราบขอบพระคุณสมเด็จองค์ปฐมที่ได้มีพระมหากรุณาเมตตาลูกหลานที่คิดชั่วและทำตัวโง่เขลาเบาปัญญาให้ได้หลุดพ้นกรรม และขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคลและคุณท็อป รวมถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่เมตตาไม่ถูกโทษโกรธเคืองลูกหลานคะ  

********************************

"กราบ

ท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือ

รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

แล้วชีวิตดียังไง"

สำหรับตนเองนั้นได้มีโอกาสกราบท่านอาจารย์หลายๆรอบด้วยกัน แต่ละครั้ง ถ้าใช้จิตที่บริสุทธิ์กราบท่านอาจารย์คือ การกราบด้วยความเคารพไม่ได้หวังสิ่งใดไม่หวังว่าจะต้องหายจากโรค ไม่หวังว่าจะต้องได้สิ่งใดตอบแทนกลับมา ถ้าขนาดนั้นมีอาการเจ็บปวดอะไรอยู่หรือมีปัญหาติดขัดอะไร อุปสรรคหรืออาการเจ็บปวดก็จะหายไปในทันที

 ตัวอย่างล่าสุดคือจากกิจกรรมชุบกายทำให้ต้องกลับบ้านดึกกว่าที่คาดไว้ ตอนจะกลับก็ได้มีโอกาสกราบท่านอาจารย์แต่ก็ไม่ได้คาดว่าจะได้รับผลตอบแทนอะไร กลับบ้านไปผิดคาดมากสามีไม่พูดว่ากล่าวอะไร หรือไม่ต้องเจอสงครามเย็นจากคนที่บ้านคะ

 นอกจากนี้เวลาที่เจอปัญหาหรืออุปสรรคทั้งจากอารมณ์ของตนเองหรือคนอื่นๆถ้าได้นึกถึงท่านอาจารย์จิตจะเกิดสมาธิขึ้นมาทันทีคะ

 ทุกวันนี้ที่กราบท่านอาจารย์ กราบเพราะคุณงามความดี พระคุณของท่านที่มีต่อลูกศิษย์มันมากมายชาตินี้หนึ่งคงจะไม่สามารถตอบแทนท่านอาจารย์และครอบครัวได้หมด จึงจะขอใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ทำหน้าที่ปกป้อง 3 ร่มโพธิ์อย่างเต็มกำลังความสามารถนะคะ

กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 06:11:57


ความคิดเห็นที่ 84 (1640511)

และแล้ววันนี้ ก็ได้ฤกษ์ดีที่จะต้องสร้างบุญธรรมทานอันยิ่งใหญ่ เพื่อปลดล็อคกรรมแล้ว

 

แหม่..ไอ้เราก็สร้างปมสร้างกรรมทางความคิดต่อท่านอาจารย์ไว้เยอะซะด้วยสิ งานนี้ ขอถอดหน้ากากลูกศิษย์ที่ดูเหมือนจะดีก่อนนะค๊า เพราะว่า เป็นคนโรคจิต(แว๊บ)ปรามาสท่านอาจารย์มาแล้วเหมือนกัลล์

 

.........................................................

ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิดแล้วได้รับผลกรรมอย่างไร

 

 

ชื่อ นางสาว ชนิดา เชิงสะอาด ชื่อเล่น โหน่ง อายุ 40ปี

 

จบการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาศิลปศาสตร์ ด้านการผลิตสารคดี จาก Middlesex University ลอนดอน ประเทศอังกฤษ

 

อาชีพ ธุรกิจส่วนตัว(ร้านขายยา Apteka Nova)

 

อาศัยอยู่ที่เมือง โตรุน ประเทศ โปแลนด์

 

ต้องบอกว่าตั้งแต่เริ่มต้นที่ได้มาติดตามเว็บไซต์บ้านสวนฯและรายการคุยไปแจกไป ตั้งแต่ปี 2553 ถือว่าตัวเองโชคดีมากๆค่ะ ที่ไม่เคยคิดสงสัยเรื่องที่อาจารย์นำมาบอกมาสอนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นความลับเกี่ยวกับพลังพีระมิด หรือ การรักษาโรคให้คนหายได้ ด้วยมือเปล่า

 

แล้วก็ไม่เคยสนใจด้วยว่า ถึงแม้ท่านอาจารย์จะเป็นผู้หญิงและเป็นฆราวาส จะมาถ่ายทอดธรรมะของพระพุทธองค์ นั้นดูจะไม่เหมาะสมหรือไม่ เพราะคนส่วนใหญ่คงคิดว่า เป็นพระ เป็นชี คงเหมาะสมกว่า(รึเปล่า) เพราะโดยส่วนตัว ก็เป็นคนชอบอ่านธรรมะจากคนธรรมดาทั่วๆไป ใช้ภาษาง่ายๆแต่เข้าใจได้ก็พอแล้ว ไม่ค่อยยึดติดกับเรื่องเหล่านี้ซักเท่าไหร่ค่ะ

ฉะนั้น ยิ่งเราเลื่อมใส ศรัทธาท่านอาจารย์มากเท่าไหร่ จิตส่วนดี เค้าก็ตั้งใจมากๆที่จะเป็นคนดีและปฏิบัติตามคำสอนของอาจารย์ให้ได้ แต่จิตส่วนเลวที่เป็นผลสะท้อนมาจากบาปกรรมที่เราเคยทำผิดศีลมาทั้ง5 ข้อก็แท๊คทีมกันมาตามหลอกหลอนเราบ่อยๆเช่นกัน

 

ฉะนั้น จึงเกิดเป็นซีรีส์ของความคิดเลวๆ ไปปรามาสท่านอาจารย์โดยไม่ได้ตั้งใจหลายต่อหลายครั้ง

ครั้งแรกเลยก็คือ เมื่อประมาณเดือนมีนาคม ปี 2554 ในขณะที่อ่านธรรมทานต่างๆในเว็บ อยู่ดีๆ จิตก็แว๊บสงสัยเรื่อง เงินทำบุญ ขึ้นมา คือมันคิดสงสัยขึ้นมา แต่เหมือนคิดไม่สุดค่ะ น่าจะประมาณว่า เงินบริจาคเยอะเหมือนกันนะเนี่ย (ุถ้าให้เดาความคิดตัวเองตอนนั้น) ก็คงจะสงสัยต่อความบริสุทธิ์ของท่านอาจารย์ประมาณนี้นะคะ

หลังจากนั้นไม่นาน พอไปเห็นรูปท่านอาจารย์ที่ถ่ายพร้อมกับพี่น้องบ้านสวนฯท่านอื่นๆ จิตก็แว๊บขึ้นมาทันทีว่า ช่วงนี้อาจารย์ดูไม่ผ่องเลย คือ ก็คงนึกภาพไว้ว่า ท่านอาจารย์เป็นคนมีบุญ ก็ควรจะหน้าตา สดใส ผ่องผุดพรรณ ตลอดเวลาว่างั้นเถอะ 

และอันนี้เด็ดสุด และน่าจะเป็น"หลุมพราง" ที่ท่า่นอาจารย์และเบื้องบนตั้งใจไว้ให้คนไร้สติ ได้เดินตกหลุมนี้แน่ๆ นั่นก็คือ ช่วงท้ายรายการ จะมีช่วงหนึ่งที่ท่านอาจารย์มาอธิบายเรื่องศีล แต่มาในชุดเสื้อสีชมพู ที่รัดรูปม๊าก ได้เห็นปั๊บ ด้วยความเคยชิน ชนิดาก็มองส่วนเว้า ส่วนโค้งในสรีระของท่านอาจารย์ไปเต็มๆ ยิ่งกลัว ยิ่งมอง แล้วยิ่งมอง ก็เหมือนอาจารย์จะรู้ว่า นี่คือ จุดอ่อนของเรา หลังจากนั้นหลายๆเทป ก็จะมี ชุดสีชมพูรัดรูป ท้ายรายการทุ๊กที คือ ต้องสู้กับความคิดและกิเลสของตัวเองพอสมควร

ช่วงแรกๆถ้าถึงตอนที่เสื้อชมพูมาเมื่อไหร่ เราก็เลี่ยงด้วยการไม่มองหน้าจอค่ะ พอหลังๆ เริ่มควบคุมได้ดีขึ้น ก็ทู่ซี้มองให้ได้ แต่ต้องพยายามบอกตัวเองว่า ให้จ้องที่หน้าท่านอาจารย์เท่านั้น แต่ก็หลุดบ่อยๆค่ะ

 

แหม่...ยังแอบคิดเลยค่ะว่า ขนาดเราเป็นผู้หญิงแท้ๆ ยังขยัน"ลวนลามด้วยสายตา"ได้ขนาดนี้เล๊ย แล้วบรรดาหนุ่มๆ จะขนาดไหนน๊อ 

หลังจากนั้นก็จะมี ความคิดประปราย บางทีก็คิดแซวอาจารย์บ้าง ขำๆในใจตัวเองคนเดียว แต่อันนี้จำคำพูดชัดๆไม่ได้ เพราะมันเป็นความคิดที่เกิดขึ้นในขณะที่อ่านเจอข้อความอาจารย์ ทีี่่มันขำๆ น่าแซว ชนิดาก็จะคิดแซวกลับทันที หรือบางทีก็เขียนแซวเลยก็มี เพราะนึกสนุก ไม่ได้คิดอะไรเยอะ แต่ตอนนี้ ยิ่งได้ติดตาม ยิ่งได้รู้ว่า ท่านอาจารย์เป็นผู้มีบุญบารมียิ่งใหญ่และสูงส่งเพียงใด ฉะนั้น เราควรจะต้องควบคุมความคิดของตนให้ดีๆ ไม่ควรไปทำตัวเทียบเท่าหรือตีเสมอกับท่านอาจารย์โดยเด็ดขาด 

 

ในบางทีก็มีความคิด"แอบงอน แอบน้อยใจ"อาจารย์ก็บ่อย เวลาที่เห็นอาจารย์ออนไลน์(เมื่อก่อนในเว็บจะโชว์ชื่อคนที่ออนไลน์อยู่) ถ้าทักอาจารย์แล้ว อาจารย์อาจจะไม่ได้มาอ่านกระทู้ที่เราทักทายไว้ ก็แอบงอน..ซะงั้น อันนี้ต้องบอกว่า เป็น"นิสัยถาวร"ที่ติดตัวมา เพราะจะมีความสามารถพิเศษ คือ งอนและน้อยใจ ได้ดีเป็นพิเศษค่ะ โดยเฉพาะคนใกล้ตัวโดนทุกคน แม้กระทั่ง ครูบาอาจารย์ก็ไม่เว้นค่ะ

 

ผู้่อ่านอย่าคิดนะคะว่า ชนิดารู้สึกสนุกกับความคิดเหล่านี้ เพราะมันคือ ความทุกข์ล้วนๆค่ะ เพราะมันเป็นสิ่งที่เราบอกและพยายามบังคับตัวเองเสมอว่า"อย่าคิดเชียวนะ" ด้วยทราบดีว่า ผลกรรมจากการปรามาสท่านอาจารย์นั้น มีอะไรบ้าง ขั้นต่ำก็ขี้กลาก หรืออาการเจ็บป่วยทางกายต่างๆ หรือไม่ก็ ประสบเคราะห์กรรมทุกรูปแบบ หรือ ประสบอุบัติเหตุเภทภัย หรือถ้าร้ายแรงมากๆ ก็อาจจะถึงขั้นเสียชีวิต ก็ได้...

 

แล้วมาดูนะคะว่า ผลกรรมทางความคิดที่่ชนิดาได้รับนั้นมีอะไรบ้าง

 

ผลพวงจากความคิดชั่วๆเหล่านี้ ส่งผลให้ชนิดาคันยิกๆทั่วตัวเลยค่ะ ประมาณว่า ใช้ความคิดจาบจ้วงล่วงเกินท่านอาจารย์ กรรมก็เลยมาเป็นอาการขี้กลาก แต่ไม่ได้มาเป็นรูปธรรม แต่มันมาทางความคิดและความรู้สึกแทน แบบว่า คันม๊าก คันจนปวดหัว เดี๋ยวคันหัว คันหน้า คันตัว คันขา คันหน้าแข้ง คันเท้า แถมยังปวดที่่ขมับข้างขวา ท้ายทอย และ ปวดไหล่มากๆด้วยค่ะ (จำได้แม่นค่ะ เพราะจดไว้ในไดอารี่ เพราะในชีวิตนี้ไม่เคยคันอะไรมากมายขนาดนี้มาก่อน)

 

หลังจากนั้น ไม่นาน หน้าตาชนิดาก็ดู"โทรม"ลงอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ ยัง"อึ้ง"เลยว่า โห..เราคิดอะไรต่อบุคคลที่มีบุญบารมีสูงกว่าเรา ทุกอย่างมันสะท้อนกลับมา ชัดเจนขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ทั้งๆที่ไม่มีวี่แววว่าจะเป็นไปได้เลยค่ะ เพราะ"หนังหน้า"ชนิดาเริ่มดีขึ้นมากๆ หลังจากที่ใช้พาเมล่าที่มีพลังปราณและมโนธาตุ  แล้วยังทานสาหร่ายเกลียวทองด้วย ซึ่งก่อนหน้า ที่จะมีความคิดปรามาสนั้น ทั้งหน้าตา ทั้งผม ก็ดูดีขึ้นเยอะทีเดียว 

 

ส่วนกรรมที่ลวนลามท่านอาจารย์ทางสายตา ตอนนั้นก็คิดว่า คงไม่ส่งผลอะไรมั้ง ก็แอบให้กำลังใจตัวเองเหมือนกัน

 

ที่ไหนได้ พอมาประมวลความคิด และพิจารณาอย่างถ้วนถี่แล้ว เพิ่งถึงบางอ้อว่า ที่ชนิดาเพิ่งไปตรวจเจอ เนื้องอกและซีสต์ในช่องคลอด เมื่อเดือนสิงหาคม(ปี55) ที่ผ่านมานั้น คงจะไม่ใช่แค่เพียง ผลกรรมจากการที่เคยมีส่วนรู้เห็นในการทำแท้งซะแล้ว แต่มันเกิดจากการที่กรรมรวมตัวกัน ทั้งความคิดที่ไปล่วงเกินและมองส่วนเว้าส่วนโค้งของท่านอาจารย์ รวมกับกรรมที่เคยผิดศีลข้อสาม และ กรรมที่มีส่วนรู้เห็นในการทำแท้ง นี่เอง แต่คิดปรามาสไปได้หนึ่งปี เพิ่งจะมาตรวจเจอ...ไม่นานนี้เอง

 

ช่วงหลังๆมานี้ ชนิดาจะเข้าใจคำว่า บุญก็ส่วนบุญ บาปก็ส่วนบาป ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นค่ะ เพราะเราไม่สามารถนำสองสิ่งมารวม หรือ ลบล้างกันได้เลย  ฉะนั้น บาปกรรมอันใดที่เราเคยทำไว้ ไม่ว่าจะทางความคิด คำพูด หรือ การกระทำ เราต้องได้รับผลกรรมนั้นแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว อย่าชะล่าใจเด็ดขาด อย่างที่ท่านอาจารย์ได้เน้นย้ำกับลูกบ้านสวนฯทุกคนเสมอว่า หมั่นสร้างบุญให้เต็มที่ และ ต้อง"ละ"บาป ให้ได้ตลอดเวลาด้วย...

 

ชนิดากราบขอขมาท่านอ.อุบลด้วยนะคะ ที่มีความคิดไปจาบจ้วงล่วงเกินท่านอาจารย์อยู่บ่อยๆ ไม่ขอแก้ตัวแต่อย่างไรค่ะ เพราะเลวจริงๆ แต่จะขอ "แก้ไข"ตัวเอง และจะพยายามทำตามคำสั่งและคำสอนของท่านอาจารย์ให้ได้ในทุกๆเรื่อง ...............

 

หวังว่า ต่อจากนี้ไป ทุกๆท่านที่ได้อ่านเรื่องนี้แล้ว คงจะมีสติ และ ระวัง"ความคิด"ของท่าน มากยิ่งๆขึ้นนะคะ

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 07:50:56


ความคิดเห็นที่ 85 (1640512)

                                     

"กราบท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด
หรือ
รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด
แล้วชีวิตดียังไง"
ชื่อ  น.ส.ทัศนีย์ อุปถัมภกสกุล ( ทัศน์ )
จบการศึกษา   ปริญญาตรี   วิทยาศาสตรบัญฑิต ( พยาบาลและผดุงครรภ์)
                     มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ปัจจุบันทำงานที่ รพ.ทหารผ่านศึก ตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ   จ.กรุงเทพมหานคร
      เริ่มต้นดูรายการคุยไปแจกไปของท่าน อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ในอินเตอร์เนท
ตามคำแนะนำของคุณเบญจรัศมี เพ็ชรชินเลิศ  ก็เกิดความศรัทธาท่าน อ.อุบลโดยไม่มีข้อกังขาใดๆจนถึงปัจจุบัน   อ.อุบล เป็นแม่พระ แม่แบบที่เปี่ยมล้นไปด้วยความเมตตา  ความเสียสละ ชอบวิธีการสอนธรรมะของอาจารย์ที่ใช้คำพูดง่ายๆ กะทัดรัด เข้าใจง่าย ไม่ต้องแปล ได้ใจความ และชี้ให้เห็นถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยและเรื่องราวทุกข์ต่างๆที่เกิดขึ้นกับชีวิตของแต่ละคนตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าว่าทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ เมื่อเหตุดับผลก็ดับ   ซึ่งทุกคนก็ได้เห็น  ได้สัมผัสกับเหตุการณ์ปาฎิหารย์ต่างๆมากมายในบ้านสวนพีระมิดที่ไม่สามารถอธิบายด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์หรือวงการแพทย์ได้ ( เช่น ป้าคนหนึ่งเป็นอัมพฤกษ์มาหลายปี หลังกราบรูปอ.อุบล ก็หายฉับพลันทันที)  ปกติเป็นคนไม่ชอบดูหนัง ดูทีวี แต่เมื่อดูรายการของอาจารย์กลับรู้สึกสนุก ไม่ง่วงนอน และชอบตรงที่ได้ศึกษาธรรมะจากอาจารย์ ทำให้คนที่ไม่ค่อยมีภูมิธรรมอย่างตัวเองเริ่มรู้เรื่องธรรมะและกฎแห่งกรรมมากขึ้น   ทุกครั้งที่มาบ้านสวนพีระมิดจะกราบอาจารย์ด้วยจิตศรัทธาบริสุทธ์ เพราะท่านเป็นผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ที่ให้ชีวิตใหม่กับทัศน์ ให้มีโอกาสสร้างบุญแรงกายที่บ้านสวน ทำให้อาการปวดหลังที่ปวดมากมา 15 ปีทุเลาลงมาก  ไม่ต้องกินยาแก้ปวดทุกวัน สามารถใช้ชีวิตและทำงานได้ตามปกติ นั่งได้นานขึ้น  
      ส่วนตัวยังไม่เคยมีประสบการณ์ปาฎิหารย์จากการกราบอาจารย์ แต่ก็กราบด้วยความศรัทธาจากก้นบึ้งของหัวใจ  ถึงจะไม่ได้รับการสัมผัสเช่นคนอื่นๆ  แต่บ่อยครั้งที่ออกไปนั่งใกล้ๆอาจารย์จะมีอาการขนลุกทั้งตัว   ในใจเรารับรู้แต่ว่าอาจารย์คือผู้ประเสริฐที่ให้ชีวิตใหม่แก่ทุกคน เป็นที่พึ่ง คอยห่วงใยความเป็นอยู่ของทุกคน เสียสละความสุขส่วนตัว  
คอยอบรมสั่งสอนให้ทุกคนเป็นคนดี สอนทุกเรื่องที่ท่านเห็นข้อผิดพลาดของลูกบ้านสวนทุกคนโดยไม่มีคำว่าเหน็ดเหนื่อย เพื่อให้ทุกคนพ้นทุกข์  เวลาเห็นหน้าอาจารย์จึงรู้สึกอบอุ่นใจ ปลอดภัย มีความสุข มีกำลังใจ มีพลังต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ  เหมือนมีคนคอยเตือนสติเรา ทำให้จิตใจเข้มแข็งขึ้น 
                        กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ครอบครัว
                    และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์แห่งบ้านสวนพีระมิดค่ะ
                                         กราบ กราบ กราบ 

    

ผู้แสดงความคิดเห็น ทัศนีย์ อุปถัมภกสกุล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 07:53:27


ความคิดเห็นที่ 86 (1640518)

 ชื่อ - น.ส.ภวยา  เส็งพานิช

ชื่อเล่น - นกกระเต็น
การศึกษา - จบปริญญาตรี  คณะสังคมศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
หน้าที่การงาน ตำแหน่งหัวหน้าส่วนสนับสนุนสินเชื่อแฟลตและสินเชื่อพัฒนาโครงการ  ฝ่ายสนับสนุนสินเชื่อ ธนาคารอาคารสงเคราะห์
จังหวัดที่พักอาศัย- กรุงเทพมหานคร
 ...........................................
ในหัวข้อ
"ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด
แล้วจะได้รับผลกรรมอย่างไร"
……………………..
 
ครั้งแรกที่ได้พบท่านอาจารย์อุบลที่บ้านสวนพีระมิด
1. ความรู้สึกครั้งแรกคือ ท่านอาจารย์สวย หุ่นดีมาก และท่านแต่งตัวเปรี้ยวจัง
เอ๊ ! ท่านรักสวยรักงามและแต่งตัวเก่งแบบนี้ ท่านจะสามารถกำจัดกิเลสได้อย่างไร …
 
2. บางคราวเห็นท่านแต่งตัวค่อนข้างรัดรูป จิตมืดจิตชั่วของหนูก็แว๊บขึ้น-สั่งการให้ตามองท่าน โดยเฉพาะตรงส่วนที่รัดรูปนั้น
 
ผลกรรมที่ได้รับ – เกิดความไม่สบายใจทันที รู้สึกร้อนรน ร้อนใจตลอดเวลา คิดหวังหรือทำสิ่งใด ต้องล้มเหลวทุกเรื่อง
 
เมื่อก่อนยังรู้ไม่เท่าทันจิตชั่วที่แอบแฝงอยู่..
จึงยังงงๆงวยๆ คิดไปว่าทำไมเราคิดสับปะดี้สับปะดนจัง
 
แต่เมื่อได้ฟังธรรมทานจากท่านอาจารย์
สอนว่าการแต่งกายอย่างไรที่พวกเราคิดว่าคือคนดี มีศีลธรรม มีใจสะอาดบริสุทธิ์ จำเป็นต้องใส่ชุดขาวตลอดเวลาหรือไม่  บางคนที่ชอบแต่งชุดขาวไปทำบุญไปวัดแต่ชอบนินทาว่าร้ายผู้อื่นหรือเอาเปรียบผู้อื่น จะถือว่าเป็นคนดีมีศีลบริสุทธิ์ หรือไม่...ดังนั้นไม่ควรพิจารณาว่าเป็นคนดี มีศีลมีธรรม มีจิตสะอาดบริสุทธิ์ โดยดูจากการแต่งกาย  เพราะนั่นเป็นสิ่งที่แสดงออกจากภายนอก! เท่านั้น  แต่ควรพิจารณาจากความประพฤติปฏิบัติตนและความคิดทัศนคติของผู้นั้น เป็นสำคัญ! เพราะเป็นสิ่งที่แสดงออกมาจากภายในจิตใจอย่างแท้จริง...หากภายในจิตใจมีความดีงามแล้ว..ภายนอกย่อมดีงามด้วยแน่นอน
 
คำพูดของท่านอาจารย์..ที่ได้เปลี่ยนความคิดหนูทันที ..และเป็นความจริงเช่นนั้นจริงๆ ..
 
ส่วนธรรมทานอีกส่วนหนึ่ง เกิดจากพี่น้องบ้านสวนที่แสดงธรรมทาน เพื่อเป็นตัวอย่างของผู้ที่เคยปรามาสต่อท่านอาจารย์ ได้ขอขมาและสารภาพผิด เพราะตนเองได้รับความเจ็บป่วย ทรัพย์สินเสียหาย หน้าที่การเงินสะดุด  และแม้ว่าสำหรับหนูผลที่ได้รับจะหนักไปทางจิตใจ ได้แก่ ความทุกข์ร้อนรนใจ หนักหน่วงใจ
 
แต่ธรรมทานทั้ง 2 ส่วนนี้ ..ถือเป็นบทเรียนล้ำค่าสำหรับหนู
ทำให้ฉุกคิดได้ทันทีและสัญญากับตัวเองว่า เมื่อใดก็ตามที่จิตสกปรกคิดไม่ดีต่อท่านอาจารย์อีก..
หนูจะไม่ยอมให้ความชั่วนั้นมาครอบงำความคิดและจิตใจอีกเด็ดขาด จะหยุดความคิดและขจัดจิตชั่วนั้นทันที
หลังจากหนูตั้งใจแน่วแน่เช่นนั้น..ก็ไม่เคยเกิดจิตที่คิดไม่ดีต่อท่านอาจารย์อีกเลย รวมทั้ง 2 ตาของหนู ก็ไม่เคยแม้แต่จะมองท่านอาจารย์ด้วยจิตอกุศล
ทุกวันนี้กล้าพูดได้เต็มปากเต็มหัวใจว่า 2 ตาของหนู + 1 หัวใจ มองท่านอาจารย์ด้วยจิตที่นอบน้อม เคารพรักบูชา เทิดทูลอย่างสุดประมาณ
 
 
3. ครั้งหนึ่งเคยทำผิดต่อท่านอาจารย์อุบลและบ้านสวน พีระมิด ถือเป็นการลบหลู่ ไม่เคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์,  ต่อเจ้าของบ้าน และต่อสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ โดยขณะที่หนูได้ไปกราบสมเด็จพระปฐม หนูใช้มือถือถ่ายรูปพระองค์ท่าน และถ่ายป้ายคาถาบูชาพระองค์ท่าน ขณะนั้นเกิดกิเลสหยาบหนา เกิดความอยากที่จะมีรูปของท่านและคาถาของท่านไว้ดูไว้ท่องให้จำขึ้นใจ…โดยไม่ใช้สติไตร่ตรองเสียก่อนว่าสมควรกระทำหรือไม่
 
ผลกรรมที่ได้รับ – พอทำชั่ว..ปุ๊บ! รู้สึกปั๊บ รู้สึกใจร้อนรนเหมือนตกนรก ใจเหนื่อยหนักหน่วงเหลือเกิน หมดความสุขทันทีทันใด
หลังจากทำสิ่งที่ไม่บังควรกระทำ! รู้สึกทันทีว่าหนูสร้างบาปที่บ้านสวนซะแล้ว .. แค่จิตทุกข์ ร่างกายก็พลอยหมดเรี่ยวแรง หนูยอมรับคำพิพากษาแล้วค่ะ ไม่ว่าจะอยู่หรือตายก็ขอให้ได้สารภาพและกราบขอขมาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนและท่านอาจารย์ด้วยเถิด ...
แล้วบุญเหลือเกินที่หนูได้มีโอกาสพบท่านอาจารย์ก่อนกลับบ้าน…จึงรีบก้มกราบท่านอาจารย์เพื่อขออนุญาตกราบขอขมาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนและท่านอาจารย์ทันที…จากนั้นใจจึงเริ่มค่อยๆ เบาสบายขึ้น  หนูเข็ดจนตาย ต่อไปไม่ว่าไปสถานที่ใด หนูจะไม่ถ่ายรูปหรือภาพใดๆ อีกแล้ว ขอเก็บไว้ในความทรงจำเท่านั้น
 

ทั้งนี้ หนูขอสารภาพผิดและกราบขอขมาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนทุกพระองค์ ต่อท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวศุภาเดชาภรณ์ ที่ได้เคยปรามาสและกระทำการอันมิควรอย่างที่สุด ทั้ง 3 ประการ … กราบ กราบ กราบ

และกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนทุกพระองค์ที่ทรงเมตตากรุณาให้โอกาสแก่หนูตัดรอนวิบากกรรมของตนเองในครั้งนี้ พร้อมทั้งกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ที่เมตตากรุณาอภัยโทษให้แก่หนู...กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 09:09:35


ความคิดเห็นที่ 87 (1640526)

โอ้ยยยา แล้วเราจะเหลือเรอะเรื่องปรามาส

ทางจิตแวบ

 ชื่อ น.ส เจนมณีรัตน์ นาคชยานันท์ อายุ 58 ปีติ๋มค่ะ

การศึกษา ปวช ช่างสำรวจ ภาษานุสรณ์บางแค

 เจ้าของธุระกิจ ที่บ้านสวนหลวง ร 9

จังหวัด กรุงเทพฯ

  วันแรกที่อ่านเจอกะทู้คูณธนาเขียนลง เรารอดตัวไป

แน้ ว่าตัวไม่เค้ยไม่เคยปรามาสท่านอาจารย์ เ้้ล้ยยย

 แต่ โอ๋ยย มาอ่านวันนี้ โดนเต็มๆเลยค่ะ อาจารย์ ขา

โอ้ๆๆมโนกรรมนี่หน่า ก็ครั้งแรกที่ได้ดูรายการคูยไปแจกไปนะแหละ เอ้าทำมัยมีขายของด้วยหรอ เปิด

ข้ามไม่ดูโฆษนา พอเห็นท่านสวย สวยจัง น้ำเสียงก็ไพเราะ รูปร่างก็ดี หรือว่าทำเพื่อขายของ โอ้ะโอย

  ตอนนี้ถึง บางอ้อบางขูนเทียนเลยค่ะท้านนผู้อ่านนขา

ว่าทำมัยดูไม่จบสักกะที จิตส่วนดีคงกลัวเราเอาขาไปแย่ นรก เลยพาไปเที้ยว ซะงั้น 

      ผลของจิตแวบ ตอนนี้รู้แล้วว่าเป็นเหตุทำให้ได้มาบ้านสวนแห่งนี้ช้า ทำให้ถูกหลอก ถูกโกง เสียเงิน

แบบโง้ ง่าย คงเป็นกรรมจากศิลข้อ 2กับข้อ 4 มารวมตัวกัน แค่เรื่องของศิลยังไม่เข้าใจเล้ยพีน้องค่ะ

  ก็แค่คิดนะไม่ได้ทำ ไม่ได้พูด ทั้งที่เราเชื่อ และศรัธธา เห็นคนเค้าทุก บอกเค้าให้ดูรายการคูยไปแจกไป เค้าเลยเอาศัรธธาที่เรามีมาหลอกเราเสียนี่

   และและเมื่อมีโอกาสมาบ้านสวน ยังมิวายจิตแส่

 ท่านมีจิตวิทยาสูงนะ สามารถพาคนมาช่วยทำงานให้ เออดีนะ แน้ะๆๆๆ (คิดด้ายงัยอะ)ไม่โง้คิดไม่ได้นะเนี่ยะ

  พอคิดปับ ปวดหนึบที่หัวไหล่ทันทีเลยจ้าาา กรรมติดจรวจ รีบขอขมาทันที อย่าคิดนะว่าขอแล้วจะหายทันทีนะ ยังหรอกทรมานไปอีกหย่อยเถัอะจะได้จำ

 แต่ คิดดีก็มีนะจะบอกให้ อาจารย์ท่านสวยนะ อย่างนี้ เค้าเรียกว่าสวยแบบเต็มใจ และพร้อมใจสวย คือสวยไปหมด รูปร่าง ได้ส่วน น้ำเสียง รอยยี้ม ชอบมองท่าน มีความสูขนะเวลามอง คนอะไรน่ามองไปหมด นี่อาการนี้มีความสูข

 หมดเวลาต้องกลับออกจากบ้านสวน จิตมันเศร้า ไม่มีแรง ไม่อยากกลับ ยังแอบคิดเลย ว่าทำงัยจะได้อยู่

 ที่บ้านสวนตลอดไป พอเห็นท่านคูยกับใคร ยังแอบ

อิจฉาแน้ะ! เรามารู้จักท่านช้าจัง เสียดายเวลาที่มาช้า

  และเมื่อ ค้าย 13 ที่ผ่านมาworkshop เราได้กลุ่ม

ปัญญา น้อย โดนดุ ยี้งกลัวโดน จะยี้งโดน กลัวทำไม่ถูุุุกก็ไม่ถูก พอ ท่านดุ ยังแอบคิด (เถียงในใจ)ว่าเปล่านะ ไม่ได้กลัวลำบาก แต่ไม่เข้าใจคำสั่ง

  ก็คูณธนาบอก จากหน้าบ้านท่านอาจารย์ไปถึง

องค์ปฐมเลย อูยแล้วหน้าบ้านท่านอาจารย์เราจะทำงัยละไม่เห็นมีอะไร แล้วจะแต่งอย่างไร โอยยกลัว

 พอ ไปถึงแปลงกษตร อาจารย์พันบอกยังงี้ๆอีกเอ้าไปกันใหญ่ เราไม่เข้าใจคำสั่งจริงๆ ไม่อ่านให้ เข้าใจ ไม่ถามให้เข้าใจ โทษฐานปัญญาน้อยเลยโดนหลาย

 ป๊าทเลย ปวดใหล่ตุบๆ บอกน้องๆเค้าไช้ระหัส

  อ.อุบลช่วยด้วย ให้ทำงานไม่ร้อนไม่เหนื่อย พากันท่องคาถา พระศีรอาริย์ตลอด พอน้องเค้าโดนจอบ

 เลื้อดใหล ก็บอกให้เค้าไช้ระหัส อ.อุบลช่วยด้วย

 ขอให้เลือดหยุดและไม่ปวด เราก็ช่วยขอ ช่วยกันขอใหญ่ กลัวไม่หยุด แต่พอเลือดหยุด กลับคิดว่า

 เอๆๆ แล้วน้องเค้าจะเชื่อไม๊น้าว่าหายเพราะระหัส

 อ.อุบลช่วยด้วย น้าน เอาอีก ปวดหนึบๆหนักเลย

 สองเด่งแระ นั้นแระแค่คิด ก็ติดหนึบ ปวดหนึบๆ

    และมีบางครั้งที่ท่านอาจารย์ พูด ว่าใคร

 ปรามาสอาจารย์ จะเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ ทั้งๆที่ท่านเตือนกลับคิดว่า เหมือนท่านบอกให้เป็นไปตามนั้น

 ได้ผลทันทีที่คิด ปวดหนึบที่ใหล่ช้าย และบางครั้งน้ำตาใหล เหมือนคนตาแฉะ กราบขอขมาทุกครั้ง

 ที่จิตแส่ ต้องภาวนาตลอด ถวายบูญตลอด

   ทั้งหมดที่กล่วามาแล้ว ลูกไม่มีเจตนาแม้นแต่น้อย

  กราบขอขมาท่านอาจารย์ อุบล และเทวดาที่รักษาตัวท่าน อ.อุบลและครอบครัว และสี่งศักดิ์สิทธิ์ที่บ้านสวนทุกๆพระองค์ หากลูกเคยปรามาส ท่าน

อาจารย์ ด้วยกาย วาจา ใจ โดยรู้เท่าไม่ถึงการ

    ลูกกราบขอขมาท่านอาจารย์และทุกๆพระองค์เจ้าค่ะ

                 เพิ่งลองกอป***มาตามที่

คูณทนาบอก กราบขอภัยนะค่ะหากไม่ถูกต้อง

ผู้แสดงความคิดเห็น เจนมณีรัตน์ นาคชยานันท์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 09:38:48


ความคิดเห็นที่ 88 (1640550)

พระพุทธองค์

ทรงมีพุทธญานหยั่งรู้ล้ำเลิศ

ว่าลูกหลานพระองค์

จะไม่มีวัน

หลุดกรรม ปรามาส อ.อุบล ได้

จึงเมตตาให้โอกาส

และ

เขียนเป็นธรรมทานบอกเล่า

แต่

หลายคนที่เขียนมา พระพุทธองค์ท่านว่า

แม้เขียนแล้ว ก็ยังไม่หลุด

เพราะดูเหมือน

ไม่สำนึก

เพียงแต่บอกว่าปรามาสสงสัย

แต่ไม่ได้บอกว่า

แล้วเลิกปรามาสเพราะอะไร

หายสงสัยได้อย่างไร

สำนึกโดยมีอะไรมาให้สำนึก

อันนี้ต่างหาก

คือ ประเด็นสำคัญ ที่จะปลดล๊อกกรรมได้

ไม่ใช่แค่มาเล่า ซึ่งถ้าเล่าแค่นี้

ถือว่า มาปรามาสอีก

ผลกรรมจะหนักกว่าเดิม

 

สิ่งที่พระองค์ท่าน

ให้ทำ ให้ครบ คือ

1.เรื่องที่ปรามาส

2.ผลที่ได้รับจากการปรามาส

3.หลักฐานยืนยันว่า

การปรามาสของเรา เป็นบาป คืออะไร

4.เราสำนึกผิด ได้เพราะอะไร

ว่าที่เราปรามาสนี้ บาปหนัก

5.เราทำอย่างไร ผลที่ได้รับจากการปรามาส

จึงหาย หรือคลี่คลาย

 

เช่น

พอปรามาสแล้ว ปวดหัว เป็นขี้กลาก

เป็นเนื้องอก มะเร็ง อุบัติเหตุ หรือ ตาย

แล้วแก้ไขอย่างไร

ผลเป็นอย่างไร

ให้บอกละเอียด จึงจะเป็นธรรมทาน

มิฉะนั้น ถือเป็นการปรามาสซ้ำซ้อน

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 11:31:17


ความคิดเห็นที่ 89 (1640551)

 คุณธนาคะ เพิ่มเติม ประเทศ ตรงข้อ สถาบันที่จบมา แล้วนะคะ 

แต่ตอนนี้ทำงานอยู่เมืองไทย ที่กรุงเทพ อย่างที่เขียนค่ะ

ขอบคุณที่เตือนค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญมณี สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 11:33:10


ความคิดเห็นที่ 90 (1640556)

"กราบท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

            หรือ รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิดแล้วชีวิตดียังไง"

ชื่อ         นางสาวปัญจกานต์   วรรณทอง  อายุ  48 ปี

ชื่อเล่น     แพม  (ที่เมืองไทยผู้คนเรียก ตู่ )

การศึกษา   ปริญญาตรี การศึกษาบัณฑิต เอกภาษาฝรั่งเศส โทภาษาอังกฤษ

              มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒปทุมวัน กรุงเทพฯ

หน้าที่การงาน  นักแปล  ล่าม ครูสอนภาษาไทย (อิสระ ไม่ได้สังกัดบริษัทใด)

ที่อยู่    เป็นคนกาฬสินธุ์ แต่ปัจจุบัน มาอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย 

           ประเทศสหรัฐอเมริกา

    ได้รู้จักท่านอาจารย์อุบล และเว็บไซด์ บ้านสวนพีระมิด จากเว็ปไซด์พลังจิต มีโอกาสเจอท่านอาจารย์และกราบท่านอาจารย์ เมื่อไปบ้านสวนพีระมิดครั้งแรก

    วันนั้นนั่งรถมอเตอร์ไซด์รับจ้างไปถึงบ้านสวนประมาณเก้าโมงเช้ากว่า ๆ เมื่อเดินผ่านเข้าไปในเขตบ้านสวนฯ กำลังเก้ ๆ กัง ๆ ว่าจะไปที่ไหนก่อนดี อยู่ ๆ อาจารย์ก็ขับรถกอล์ฟมาจอดข้างหลัง แล้วพูดว่า " ใช่คุณที่มาจากอเมริกาหรือเปล่าคะ "

     พอหันไปตอบว่า ใช่ค่ะ  ก็เห็นอาจารย์และจำได้ทันที รีบเดินรี่เข้าไปกราบอาจารย์ที่ตัก(อาจารย์ยังคงนั่งอยู่บนรถ) นั่งซบหน้าที่ตักอาจารย์  แล้วร้องไห้

โฮ ๆ ดังมาก อาจารย์เอามือจับหัว แล้วพูดว่า ไม่เป็นไรแล้วนะ มาถึงบ้านสวนแล้วไง  ก็ยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม (ในขณะที่พิมพ์นี้ก็ร้องไห้ตลอด) ร้องอยู่นานเกือบห้านาที จนอาจารย์บอกว่า ไปลงทะเบียนก่อนนะ จึงได้สติ แล้วค่อย ๆหยุดร้องไห้ในที่สุด

     ขณะที่กราบอาจารย์ตอนนั้นมันอบอุ่น ตื้นตันใจ บอกไม่ถูก หลากหลายอารมณ์มาก มีความรู้สึกเหมือนได้พบญาติผู้ใหญ่ ที่รัก คิดถึง และตามหา มานาน นอกจากนั้น รู้สึกมีพลังกระชุ่มกระชวย มีแรงไปทำบุญแรงกายโดยไม่เหนื่อยเลยทั้งวัน ทั้ง ๆ ที่ก่อนไปบ้านสวนฯ นอนไม่พอติดต่อกันมาตั้งหลายวัน

           พอกลับมาอเมริกาปรากฏว่าได้งานแปลเพิ่มหนึ่งราย และมีคนอเมริกันมาสมัครเรียนภาษาไทยเพิ่มอีกหนึ่งราย รอยโรคสะเก็ดเงินที่หน้าผากและรอบ ๆ หน้า หายร้อยเปอร์เซ็นต์ จนถึงวันนี้ก็ยังคงหายอยู่ ทั้ง ๆที่ ไม่ได้ทายาเลยตั้งแต่กลับมาจากบ้านสวนฯ

         ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ และเทวดาที่รักษาอาจารย์ที่ให้โอกาสหนูได้กราบอาจารย์ค่ะ   กราบ   กราบ   กราบ

"ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

แล้วจะได้รับผลกรรมอย่างไร"

             ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะมีความคิดชั่วๆ เกี่ยวกับท่านอาจารย์ เพราะนับถือและศรัทธาท่านอาจารย์มาก ๆตั้งแต่ดูวีดีโอ 9 ตอนแรกก่อนไปบ้านสวนฯ  แต่จิตเจ้ากรรมก็แว๊บปรามาสอาจารย์ตั้ง  2 ครั้ง  ครั้งแรกคือตอนที่ดูรายการคุยไปแจกไป (หลังจากที่กลับมาอเมริกาแล้ว) ในขณะที่เห็นอาจารย์ ก็แว๊บคิดว่าอาจารย์ใส่ชุดรัดรูปจัง  อาจารย์ตัวเล็ก  แต่ทำไม นมใหญ่

       เท่านั้นแหละค่ะท่านผู้ชม ตลอดทั้งวัน คิดอยู่แต่เรื่อง นม นม นม และนม รู้สึกทุกข์ใจมาก   มันเร่าร้อนใจไปหมด ไม่มีสมาธิในการทำงาน อ่านหนังสือแค่ย่อหน้าเดียว ก็จำไม่ได้  ทำอย่างไรก็ไม่หาย จึงเขียนจดหมายไปขอขมาและขอวิธีแก้ไขจากท่านอาจารย์ทางเว็บบ้านสวนฯ

        ในขณะที่รอคำตอบจากท่านอาจารย์ก็พยายามหาวิธีการแก้ไขอื่น ๆ ด้วย พอเห็นลิ้งค์ที่เว็บพลังจิต ก็โพสต์เรื่องตัวเองลงเผื่อจะช่วยให้อาการดีขึ้นบ้าง

เท่านั้นยังไม่พอ ยังพยายามเขียนแนะนำท่านอาจารย์และบ้านสวนฯ ด้วยความโง่เขลาเบาปัญญา  กลายเป็นว่า ผิดเข้าไปใหญ่อีก พี่น้องชาวบ้านสวนฯ ต้องช่วยแก้ไขอุตลุด กว่าจะแก้ปัญหาได้  เฮ้อ......... อ่อนเพลียละเหี่ยใจ กับตัวเองเหลือเกิ้น....  จริง ๆ นะ

       ไม่รู้จะทำยังไงดี จู่ๆ ก็มีความคิดแว๊บเข้ามาในสมองว่า ท่องคาถาบูชาพระศรีอาริย์ซิ  แต่ท่องแล้วก็ยังคิดอยู่  เหมือนยิ่งพยายามห้ามความคิด ก็ยิ่งคิดมากกว่าเดิม  โอ๊ย....แย่ แน่ๆ  มันน่าเจ็บใจตัวเองที่สุดเลยที่ทำอยางไรก็ไม่หาย สุดท้ายเลยคิดว่า น่าจะลองท่องคาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณดู เริ่มท่องตั้งแต่เช้ายันเย็น ท่องทุกครั้งที่ว่างไม่มีอะไรทำ แม้แต่เข้าห้องน้ำก็ท่องตลอด ปรากฏว่าอาการดีขึ้น 95% 

        แต่เผลอเมื่อไรเป็นคิด วันต่อมามีพี่น้องชาวบ้านสวนฯ เข้ามาเขียนในกระทู้บอกว่า เขาก็มีอาการคล้ายกันคือ คิดลามกกับอาจารย์ จนมากราบขอขมาอาจารย์ รวมทั้งอุทิศบุญให้พระเทวฑัต และขอลาออกจากการเป็นสาวก อาการจึงหาย พอทำตามที่แนะนำก็หายเป็นปกติร้อยเปอร์เซ็นต์ 

       คิดว่าคงไม่มีอาการอีกแล้ว จึงเริ่มดู วีดีโอ รายการ แจกไป คุยไป อีกครั้งหนึ่ง ดูได้ประมาณ สองสามตอน  จนมาเจอตอนที่ทุกคนออกไปเต้นม้าย่อง 

เห็นอาจารย์ยืนอยู่  เอาอีกแล้วท่านผู้ชม  จิตเจ้ากรรมคิดอีกแล้ว เรื่องเดิมเลย จนต้องหยุดดูวีดีโอ เพราะไม่อยากสร้างกรรมเพิ่ม

       เหตุการณ์นี้เพิ่งจะเกิดไม่กี่วันมานี่เอง ก็เลยยังไม่รู้จะขอขมาอาจารย์ด้วยวิธีไหนดี  พอมาเจอกระทู้นี้ ดีใจมาก จึงรีบเขียนธรรมทานเลย 

        กราบขอขมาและขอบคุณท่านอาจารย์อุบล ที่ให้หนูได้มีโอกาส ปลดล็อคกรรมทางความคิด ขอได้โปรดอโหสิกรรมให้หนูด้วยเถอะ เจ้าค่ะ  

                                                    กราบ กราบ กราบ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปัญจกานต์ วรรณทอง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 11:43:45


ความคิดเห็นที่ 91 (1640582)

ชื่อ นางเบญจรัตน์ สีทองสุก

ชื่อเล่น จี๊ด

การศึกษา - จบปริญญาโท  สาขาบรรณารักษศาสตร์  มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร

หน้าที่การงาน ตำแหน่งรองศาสตราจารย์  และ ผู้อำนวยการสำนักวิทยบริการฯ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม

จังหวัดที่พักอาศัย - ราชบุรี

------------------
อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์  บ้านสวนพีระมิด
 
 

ได้อ่านเรื่องการกราบรูปท่านอาจารย์อุบลของคุณครูมิ้ม ที่ให้เพื่อนคูรด้วยกันชื่อคุณครูสมศักดิ์กราบแล้ว  นึกขึ้นได้ว่าเราก็มีรูปท่าน  น่าจะเอามาสแกนไว้ในเอกสารธรรมทานที่จะแจกเผยแพร่บ้าง เลยนำรูปท่านอาจารย์ (ที่เคยซื้อจากคุณเหมี่ยว) จากบ้านมาที่ทำงาน  เพื่อสแกน ด้วยขณะนี้กำลังทำข้อมูล เพื่อจัดนิทรรศการ เผยแพร่รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย และผลของการผิดศีลห้า

เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้น คือเครื่อง printer อิงเจ็ทสี มันพิมพ์ไม่ได้มานานแล้ว และเคยบอกลูกน้องให้ตามช่างมาดู แต่ก็ยังไม่ได้แก้ไข (โดยปกติถ้าไม่พิมพ์นาน ๆ สีมันจะแห้งติดหัวพิมพ์ พิมพ์ไม่ได้)  ใจคิดว่าทดลองพิมพ์ดูก่อน เพื่อทดสอบว่าอาการเครื่องพิมพ์เป็นอย่างไร แล้วค่อยสแกนรูป  เลยกดปุ่มให้เครื่องพิมพ์รูปออกมา  พอกดปุ๊บ เครื่องก็ทำงานทันที พิมพ์รูปท่านอาจารย์ ออกมาคมชัด ราบรื่นรวดเร็ว

พิสูจน์ให้เห็นพลังอานุภาพของรูปท่านได้เป็นอย่างดีคะ

กราบขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เมตตา แสดงพลังอานุภาพของรูปท่าน ให้ลูกได้ประจักษ์อย่างหมดข้อสงสัย

ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 12:39:49


ความคิดเห็นที่ 92 (1640588)

 

-         ชื่อ  จ.ส.ต. จรัล ยาตรา ชื่อเล่น หน่องอายุ 36 ปี
-         จบการศึกษาสูงสุด ปริญญาตรี สาขา นิติศาสตรบัณฑิต มสธ.
-         ตำแหน่ง ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนี่22 จ.อุบลราชธานี
-         -สถานที่ทำงาน กองร้อย ตชด.227 อ.เขมราฐ จ.อุบลฯ
"กราบ
ท่านอาจารย์อุบลบ้านสวนพีระมิด
หรือ
รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด 
แล้วชีวิตดียังไง"
1. การงงาน รับราชการมา12ปี ได้2ขั้น2ครั้ง พอได้มากราบอาจารย์อุบลปีนี้โชดดีได้2ขั้น เพราะแต่ก่อนชอบของฟรี นั่งรถคนอื่นก็ไม่ยอมจ่ายค่าน้ำมันช่วยเขา     ปัจจุบันไปใหนมาใหนก็จะช่วยค่าน้ำมันรถ ไม่ยอมรับของฟรี
2. การเงินดีขึ้นสามารถปลดหนี้นอกระบบได้หมดแต่ก่อนเงินเดือนไม่พอใช้ติดลบเดือนละสองถึงสามพันบาทต่อเดือน ทุกกวันนี้เงินเดือนพอใช้
3. ครอบครัว พอได้มากราบอาจารย์อุบล ทำให้เข้าใจเรื่องศีลข้อ3มากขึ้น
แต่ก่อนเข้าใจว่าถ้าผู้หญิงยินยอมเราไม่ผิดศีล แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าการผิดศีล
ผิดได้3ทาง คือทางกาย ทางวาจา ทางใจ
               พี่สาวผมซึ่งป่วยเป็นโรคเส้นเลือดใขมันในสมองอุดตัน
เวลาจะเดินต้องใช้ไม้ค้ำแขนทั้งสองข้างถึงจะเดินได้ ได้กราบรูปอาจารย์อุบล
แล้วสามารถเดินได้โดยไม่ต้องใช้ไม้ค้ำ เวลาเดินร้อง อู้ อู้ อู้ ไปด้วยความดีใจ
ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด
แล้วจะได้รับผลกรรมอย่างไร"
           เรื่องขุดหลักเขตที่ดิน ผมได้ขุดหลักเขตเสาปูนที่หักตรงบริเวณเกือบท้ายบ้านสวนเพื่อความสะดวกในการใช้รถใถปรับเป็นคันนา โดยไม่ดูให้ดีเป็นหลักเขต นึกตามประสาคนโง่ว่าเป็นเสาปูนเฉยๆ ด้วยความเมตตาของอาจารย์อุบล ท่านได้เดินมาเตือนว่าเป็นหลักเขตที่ดิน ซึ่งไม่สามารถขุดหรือย้ายโดยพลการได้ จะทำให้เป็นหนี้แผ่นดิน ตายแล้วตกกนรก แล้วอาจารย์ให้เอาเสาปูนไปผังไว้ที่เดิม ซึ่งผมก็ทำตามแต่ไม่รู้ว่าที่เดิมหรือเปล่าเพราะว่ารถใถ ใถหลุมที่ขุดแล้วผมเลยต้องกะเอา  ลูกขอกราบ ขอขมา อาจารย์อุบลและครอบครัวด้วยครับ
         เรื่องจิตคิดลามก ตั้งแต่จำความได้ ผมก็หมกหหมุ่นอยู่แต่ในเรื่องเพศ
เคยบวชเป็นเณรแล้วอ่านหนังสือโป้แล้วช่วยตัวเองหลายครั้ง
ช่วงไปขอขมากับอาจารย์อุบลเรื่องจิตคิดลามกกับอาจารย์อุบล
     อาจารย์ถามว่า คิดกับคุณอ้อย หรือเปล่า ผมตอบว่าคิด
 คิดกับคุณแก้วหรือเปล่า ผมตอบว่า ไม่คิด
ซึ่งจริงๆผมก็คิดกับผู้หญิงทุกคน บางครั้งกับแม่ตัวเองก็คิด
เวลาผมไปบ้านสวนผมก็พยายามเดินหลบอาจารย์อุบล
เพราะผมกลัวความคิดเรื่องลามก ซึ่งบางทีก็มีคิดเหมือนกัน
        ผลกรรมที่ได้รับ    มีอาการคันที่ศีรษะ เป็นผื่นที่อวัยวะเพศ มีอาการร้อนที่ขาเป็นๆหายจิตใจไม่สงบ
  ผมขอกราบขอขมาต่อพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระศรีอาริยเมตไตร เทวดาที่รักษาอาจารย์อุบลทุกๆพระองค์ อาจารย์อุบลและครอบครัว ขอกราบ ขอขมา ด้วยครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น จรัล ยาตรา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 12:53:22


ความคิดเห็นที่ 93 (1640589)

ผมนายธนา(ถัง) อรุณภิญโญพล อายุ38ปี จ.สมุทรปราการ

จบการศึกษา ปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์                                        สาขา Electronics&Telecommunication มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

ปัจจุบันทำงานเป็น วิศวกร ตำแหน่ง: ผู้จัดการแผนกบริหารคุณภาพประจำประเทศไทย เวียดนาม กัมพูชา   

บริษัท : Alcatel Lucent (Thailand) บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคม

ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิดแล้วได้รับผลกรรมอย่างไร

นี่คือทุกข์หนักสุดๆของผมในปี2553 ก่อนที่ผมจะได้รู้จักและมาบ้านสวนพีระมิดนั้นก็เหมือนคนทั่วๆไปที่แสวงหาครูบาอาจารย์มามากมายทั่วประเทศ พยายามปฏิบัติสมาธิตามแบบที่เราคิดว่าดี ถูกต้องและปรารถนานิพพานในชาตินี้

จนกระทั่งวันหนึ่งมีความมุ่งมั่นมากว่าเราจะไปนิพพานชาตินี้ให้ได้ อธิษฐานจิตขอให้เจอครูบาอาจารย์ผู้ที่สามารถพาเราไปนิพพานได้ในชาตินี้

เชื่อไหมครับ พอผมอธิษฐานในวันนั้น สิ่งที่ไม่เคยคาดคิดก็เกิดขึ้นคือจู่ๆจิตก็เกิดภาพการปรามาสพระพุทธองค์พระอริยสงฆ์ ผู้มีบุญทั้งหลาย  โดยใช้เท้าบ้าง คำพูดบ้าง อาวุธบ้าง และสารพัดรูปแบบ ผมตกใจสุดชีวิตว่า มันเกิดได้อย่างไรเราไม่ได้คิดและไม่เคยแม้แต่จะคิด ภาพและความคิดต่างๆมาจากไหน

ทุกข์ใจสุดๆพยายามหาทางแก้จนแล้วจนรอดก็แก้ไม่ได้ จนกระทั่งมาที่บ้านสวนพีระมิดเมื่อช่วงกลางปี2553 ได้กราบท่านอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ แห่งบ้านสวนพีระมิด ได้เรียนถามท่านว่า เกิดอะไรขึ้นกับผม ทำไมผมถึงคิดปรามาสพระรัตนตรัยได้เพียงนี้ ท่านอาจารย์อุบลยิ้มและบอกว่า "นี่แหละเขามาเตือน สัญญาเก่ามาเตือน" ทำให้ผมอดคิดสงสัยไม่ได้ว่าคืออะไร

แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีก เพราะเป้าหมายเปลี่ยนจากพระพุทธองค์ และท่านอื่นๆมาเป็น ท่านอาจารย์อุบล ทั้งภาพ ทั้งความคิดผุดขึ้นมามากมายทุกรูปแบบ โดยที่เราแม้ไม่ได้คิด แต่สิ่งเหล่านี้ก็ยังผุดขึ้นมาเอง จนเราเริ่มสงสัยว่า สิ่งที่เราอธิษฐานขอนิพพานในชาตินี้และเจอครูบาอาจารย์ที่พากลับนิพพานได้ คงเป็น "อาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด"อย่างแน่นอน

รูปแบบของการปรามาสที่เคยผุดหรือคิดขึ้นมาเอง

-ใช้ขาล่วงเกินท่านอาจารย์อุบล และแปลกที่มักจะเป็นขาข้างที่ผมได้รับอุบัติเหตุจนเป็นชายน้อยขาเป๋

-เห็นใครพูดหรือได้ยินคำหยาบคายอะไร ก็จะกลายเป็นคำด่าผุดขึ้นในใจว่าท่านอาจารย์อุบลแทน หรือเวลาท่านสอนอะไร จิตมารตัวนี้ก็คอยบอกว่า "อย่าเชื่อ ไม่เชื่อ" ทำให้เราต้องคอยต่อสู้ในใจเหมือนคนบ้ามาตลอดว่า "อย่ามาหลอกกันให้ยากเลย ยังไงผมก็เชื่อและจะทำตามที่ท่านอาจารย์สอน" และบางครั้งสิ่งเหล่านั้นก็ยังติดตามผุดขึ้นมาเรื่อยๆเสมอ

-เวลาอ่านคนที่ปรามาสล่วงเกินท่านอาจารย์อุบล เขียนถึงท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวในทางลามก จกเปรต จิตเราก็มัวแต่โกรธเขา แต่ภาพที่เขาตกแต่งลามกหรือเขียนลามกนั้นก็ผุดขึ้นมาในใจเรา กลายเป็นว่าเรากำลังคิดทะลึ่งต่อท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวตามที่เขาเขียน และภาพเหล่านั้นยังติดตามในใจเรา และความคิดลักษณะนี้ผุดขึ้นมาเรื่อยๆ 

-เมื่อก่อนเวลาดูหนัง ละครต่อสู้ ทำร้าย หรือเข่นฆ่ากัน กำลังดูอยู่ดีๆภาพในใจก็เปลี่ยนเป้าหมายเป็นท่านอาจารย์อุบลแทน จนเราต้องเลิกดูหนัง ละครนั้นๆไปทันทีเลย 

ผลกรรมที่ได้รับ

ไม่มีใครรู้หรอกว่าผมทุกข์ใจมากแค่ไหน แม้จะหักห้ามความคิดไม่ให้ภาพมันผุดขึ้นมา ความคิดไม่ดีผุดขึ้นมาและมันก็ยังคงเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ผมปวดหัว โดนบีบขมับแทบระเบิด นอนไม่หลับ จิตใจทุกข์ทรมานอย่างสาหัส และยังรู้สึกได้ว่าที่หลังคอเหมือนมีอาการขี้กลากขึ้นด้วย

แต่ที่ทุกข์สุดๆก็คือ ตัวผมเองแทบคลั่งเพราะเรารู้ดีว่าตนเองเคารพศรัทธาท่านอาจารย์อุบล ไม่เคยคิดอยากปรามาสหรือคิดไม่ดีต่อท่านอาจารย์อุบล แต่เมื่อมันเกิดขึ้นโดยเราควบคุมไม่ได้ ตัวผมเหมือนคนเสียสติ วันๆจมอยู่กับความทุกข์ ในใจคอยตั้งจิตกราบขอขมาท่านอาจารย์อุบล และพระพุทธองค์ตลอดเวลา ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า จนมีปฏิกิริยาต่อร่างกาย คือ ไม่อยากทานอาหาร หน้าตาหม่นหมอง จิตใจอมทุกข์ ทรมานจริงๆอยากไปนิพพาน ไม่อยากเป็นแบบนี้ เรียกว่า "ตายทั้งเป็น"

แต่ผมก็ไม่ขอยอมแพ้ เพราะมั่นใจว่า "เจอคนที่พากลับนิพพานแล้ว" จะขอสู้อย่างถึงที่สุด

ทางพ้นทุกข์

ยิ่งมาทำบุญบ้านสวนพีระมิดก็ยิ่งได้รับธรรมะที่ตรงไปตรงมา รู้เรื่องศีลอย่างละเอียดรวมทั้งผลกรรมที่ได้รับจากการละเมิดศีลแต่ละข้อ และธรรมะเหล่านี้เองทำให้ผมได้รู้สาเหตุว่าทำไมจิตของเราถึงได้จู่ๆผุดคิดปรามาสท่านอาจารย์อุบลได้อย่างไร

ทุกอย่างล้วนเกิดจากกรรมรวมตัว จากการผิดศีลของผมมาทั้งนั้น โดยเฉพาะ"กรรมทางความคิด"  หรือ "มโนกรรม" ซึ่งผมไม่เคยคิดว่าจะส่งผลกรรมได้อย่างร้ายกาจต่อตนเองขนาดนี้มาก่อนเลย

ผมเคยทำผิดศีลครบทุกข้อ และที่หนักสุดคือกรรมทางความคิดนี่แหละ คอยคิด คอยจินตนาการ สร้างบาปต่อตนเองและผู้อื่นอย่างไม่รู้จบ

และเพิ่งได้เรียนรู้จากท่านอาจารย์อุบลนี่แหละครับ ว่ากรรมทางความคิดนี่แหละหนักสุดๆ คำพูด การกระทำก็มาจากความคิดนี่แหละ

ผมถึงได้รู้และมั่นใจว่า การปวดหัวแทบระเบิด โดนบีบขมับจนจี๊ดสุดๆ นอนไม่หลับ ขี้กลากขึ้นที่หลังคอ ร่างกายทรุดโทรม จิตใจทุกข์แสนสาหัส เหมือน "ตายทั้งเป็น"

นี่คือผลกรรมแห่งการคิดไม่ดี ต่อท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด อย่างแน่นอน ล้านเปอร์เซ็นต์

เพราะคิดกับคนอื่นเราก็ต้องได้รับผลกรรมอยู่แล้วแน่นอน และยิ่งคิดกับคนที่มีศีล มีบารมีมากอย่างท่านอาจารย์อุบลก็ยิ่งได้รับผลทุกข์มาก อันนี้เป็นสิ่งยืนยันชัดเจนว่านี่คือผลแห่งบาปทางความคิด ชัดเจนที่สุด

ดังนั้นผมจึงกลัวมาก กลัวตกนรก กลัวไม่ได้นิพพาน เมื่อรู้สาเหตุแล้วจึงรีบรักษาศีลทุกข้อให้บริสุทธิ์ เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์พาเมล่า เริ่มวางพีระมิดในห้องนอนและส่วนต่างๆของบ้าน ทำบุญให้ทาน รักษาศีล ทำสมาธิ และได้มีโอกาสกราบขอขมาท่านอาจารย์อุบลตามวาระต่างๆ และอุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่เราเคยล่วงเกินและเขาคอยมาเตือนเรา มาขวางเราไม่ให้เราบรรลุในธรรมได้

จากนั้นชีวิตผมก็พบความอัศจรรย์ ขณะที่เขียนนี้น้ำตาก็กำลังจะไหลเพราะสำนึกและระลึกบาปกรรมที่ตนเองเคยสร้างมา จนเป็นเหตุให้เราทุกข์ปางตายขนาดนี้ ปัญหาการปรามาสที่เป็นอยู่ก็เริ่มค่อยๆคลี่คลายอย่างรวดเร็ว บางครั้งเราก็รู้ว่าเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งไม่หมด ยังคงคอยรับบุญอยู่ เมื่อมีสัญญาณว่าจะพยายามสร้างมโนกรรมอีก จิตเราก็จะรู้เท่าทัน และใช้กำลังใจที่เกาะอยู่แต่กับบุญมาข่มไว้ และคอยอุทิศบุญให้เรื่อยๆ

จากนั้นอาการปวดหัว โดนบีบขมับแทบระเบิด ขี้กลากที่หลังคอ จิตใจที่อมทุกข์สุดๆ นอนไม่หลับ ชีวิตที่ "ตายทั้งเป็น" ก็คลี่คลาย กลายเป็นคนใหม่ จิตใจมั่นคงในความดี เพิ่งรู้ว่ารักษาศีลแล้วชีวิตดีอย่างนี้นี่เอง มีแต่ความสุขเพราะใจที่คอยเกาะกับบุญ ความดี และตั้งใจทำความดีตามที่ท่านอาจารย์อุบลสอน เพื่อใช้คืนแก่พี่ๆเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่ยังหลงเหลือและคอยอยู่ที่ข้าพเจ้าเคยสร้างบาป ละเมิดศีลต่อท่านทั้งหลายไว้ให้ได้รับและไปพระนิพพานก่อนข้าพเจ้า

ทางพ้นทุกข์นี้ คือทางตรงที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ และครูบาอาจารย์ที่ให้ทางสว่างแก่ผม ให้ชีวิตใหม่แก่ผม คือ ท่านอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ บ้านสวนพีระมิด

ผมกราบแทบพระบาทขอขมาต่อพระพุทธองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ ชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ ครูบาอาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่สำคัญยิ่ง คือ ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว ที่ผมได้เคยล่วงเกินทุกๆพระองค์ ทุกๆท่าน ด้วยกาย วาจา ใจ ผมสำนึกบาปกรรมแล้ว และจะขอตอบแทนพระคุณทุกพระองค์ทุกๆท่านด้วยการทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายได้โปรดคอยอนุโมทนารับบุญของข้าพเจ้าทุกขณะจิตที่ข้าพเจ้าทำความดี จนท่านได้ถึงพระนิพพานก่อนข้าพเจ้า และช่วยปกปักษ์รักษาข้าพเจ้าให้ทำความดีให้ถึงที่สุดก่อนกลับบ้านพระนิพพานในชาตินี้ด้วยเถิด

ธนา อรุณภิญโญพล

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 12:58:17


ความคิดเห็นที่ 94 (1640590)

นางรัชตวรรณ  พิกุล (รัช) อายุ 42 ปี จังหวัด:  ชลบุรี

การศึกษา:  หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ  สาขาการบัญชี เทคโนโลยีศรีราชา

ตำแหน่ง: ผู้จัดการ / Siam Samsung Life Insurance นครแหลมฉบัง

 

"ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิดแล้วจะได้รับผลกรรมอย่างไร"

ส่วนตัวแล้วไม่เคยปรามาส ท่าน อ.อุบล ค่ะ แต่เป็นสามี คือ หลังจากที่ได้บูชาพีระมิดรุ่นบวงสรวงท้าวเวสสุวรรณ มา 3 องค์ และนำมาบูชาที่บ้านที่ประจวบ ฯ 1 องค์

หลังจากนั้นสามีเริ่มมีอาการแปลก ดูหงุดหงิด ขี้วีน มีอยู่วันหนึ่งเค้าพูดขึ้นว่า "เอาอะไรมา ให้เอากลับไป ไม่ต้องเอามาไว้ในบ้านเขา" ตอนนั้นก็รู้สึกไม่พอใจเค้าขึ้นมา แต่ก็พยายามระงับอารมณ์ไว้  

จากนั้น ประมาณหนึ่งอาทิตย์ เค้าก็มีอาการปวดตามร่างกาย เป็นไข้ไม่สบาย ลุกไม่ไหว ก็ให้เค้าสวมจี้องค์เทพสฟิงค์ แต่เค้าไม่ยอม ก็ไม่ว่ากัน แต่อาการไข้เริ่มหนักขึ้น เหงื่อออกท้วมตัว ไปหาหมอทั้งคลีนิค และ โรงพยาบาลก็ไม่ทุเรา จนต้องพึ่งหมอชาวบ้านให้ช่วยพ่นให้ ทันทีที่หมอเห็นหน้าก็ถามเค้าว่า "ไปทำอะไรมา  เจอของดีเข้าให้แล้ว" เลยถามหมอกับว่า "ของดีจริงไหม" หมอบอก ""จริง" แล้วให้ไปจุดธูปกลางแจ้งขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กลับมาถึงบ้านก็รีบทำตามทันที (เวลาเมียบอกไม่เชื่อ)

อาการก็ดีขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังปวดอยู่ ก็บอกให้สวมจี้ เค้าก็ปฏิเสธเหมือนเดิม สักพักคงทนไม่ไหวจริง ๆ เริ่มมาขอจี้ไป   สวมเอง และให้พูดขอขมาก็ไม่ยอมพูดอีก จึงได้พูดนำ ให้เค้ากำหนดจิตตาม ว่า “ข้าพเจ้า นายอโนทัย เอี่ยมสอาด กราบขอขมา ท่าน อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ เทวดาที่รักษาท่าน อ.อุบล และ สิ่งศักดิ์บ้านสวนพีระมิดทุก ๆ พระองค์ ที่ลูกได้ล่วงเกินปรามาส ทั้งเจตนาและไม่เจตนา ทั้งทาง กาย วาจาและใจ บัดนี้ลูกสำนึกผิดแล้ว ขอขมาและขออโหสิกรรม ให้ลูกด้วย" จากนั้นอาการก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ อาการปวดตามร่างกายหายไปหมดแล้ว  เหลือแต่ทางใจเพราะลูกคิดว่าจิตเค้ายังไม่เปิดรับสักเท่าไหร่ ขนาดสิ่งศักดิ์สิทธิ์เมตตาเตือน ตรง ๆ โดนเห็น ๆ จะ อย่างนี้

อาการตอนนี้   เค้ายังกลัวจี้องค์เทพสฟิงค์และของบ้านสวนฯ ทุกอย่าง  โดยเค้าไม่ยอมให้เอาเข้ามาในบ้านเหมือนเดิม  

จึงอยากขอร่วมแบ่งปันประสบการณ์ ว่าเราเกิดมาคนเดียว ก็ตายไปคนเดียว เราเอาอะไรไปได้ ทั้งข้าวของ เงิน ทอง หรือแม้แต่คนที่เรารัก  

และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าธรรมทานชุดนี้   จะมีอานิสงค์ช่วย      ดลจิตดลใจ ให้ สามีลูก มีปัญญาดวงตาเห็นธรรม  

ขอกราบแทบเท้า ท่าน อ.อุบล และ ครอบครัว เป็นอย่างสูง ที่เมตตาให้ลูกและสามีได้มีโอกาสกราบขอขมา ขอบุญทั้งหมดถึงเทวดาที่รักษาท่าน อ.อุบล ท่าน อ.มงคล และ คุณท้อป รวมถึงเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่เกาะเกี่ยวอยู่กับตัวสามีลูก ขอจงโมทนารับบุญนี้โดยเทอญ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางรัชตวรรณ พิกุล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 13:00:54


ความคิดเห็นที่ 95 (1640592)

ชื่อ ผศ.ดร.ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ: ชื่อเล่น จุ๋ม: อายุ 52 ปี 

การศึกษา ปริญญาเอก (สาขาจุลชีววิทยา)
สถานที่ทำงาน : คณะเวชศาสตร์เขตร้อน ม.มหิดล กทม.

"กราบท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด หรือ รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด แล้วชีวิตดียังไง"


ตั้งแต่มีคนโจษจันว่า กราบอาจารย์อุบล แล้วจะหายโรคภัยไข้เจ็บ ตอนเจอท่านและลากลับบ้านก็จะถือโอกาสเอาความเป็นศิริมงคลเข้าตัว จะกราบท่านด้วยความเคารพเสมอ

เมื่อเร็วๆนี้ตนเองก็ประสบอุบัติเหตุในการทำงานที่บ้านสวน ยกแผ่นปูนไปทำเก้าอี้ แผ่นปูนสะบัดโดนนิ้วโป้ง เลือดออกซิบๆ คุณอ้อยและเพื่อนๆที่ทำงานด้วย รวมทั้งตนเองรีบใช้รหัสอจ.อุบลช่วยด้วย อาการก็บรรเทา แต่พอเดินมาจะพัก เริ่มปวดเห็นดาวยิบๆ ก็มองหาตัวอจ.อุบล เดินไปหา ขอบุญท่านมารักษา อาการปวดเริ่มหายไป พอกราบขอบคุณท่านก็ดีขึ้นอีก อจ.บอกว่าไม่ค่อยเขียน ธรรมทาน สิ่งศักดิ์สืทธิ์มาเตือน ตนเองก็รู้ตัวเหมือนกัน เพราะเวลาท่านเตือนคนอื่นมักจะคิดว่าเราก็เขียนน้อย และเป็นควายที่ไม่ออกรบเหมือนกัน

รื่องของน้องจั๋ม ที่เป็นไข้สูงก็เช่นกัน พอ admit น้องเข้า รพ. อาการก็ยังทรงๆ แถมตกกลางคืนไข้ก็สูงขึ้นไปอีกถึง 42 C จั๋มนอนเบลอไม่รู้ตัวเลย วันรุ่งขึ้นก็เข้าไปกราบอจ.อุบล ขอบุญท่านมารักษาน้องอีก ท่านเมตตาเอาบุญของท่านมารักษาน้องอีก และพอกลับมาหาน้องตอนเย็น หน้าตาดูสดชื่น ไข้ทรงๆ และหายเร็วมากใน 2 วันต่อมา จะสังเกตว่าสำหรับตนเองนั้น ช่วงนี้รหัสสวรรค์ องค์จี้สฟิงส์ เริ่มไม่มีผลมารักษาปกป้องตนเองได้อีกแล้ว จะต้องวิ่งไปกราบขอส่วนบุญจากอจ.อุบล เพียงอย่างเดียว นับว่ายังโชคดีที่ อจ.อุบล ยังให้เข้าบ้านท่านไปกราบท่านได้ ไม่เช่นนั้นเจ้ากรรมนายเวรคงกัดกินเราตายเป็นแน่แท้

 กราบขอบพระคุณ อจ.อุบล และครอบครัวที่ให้ส่วนบุญมารักษาจุ๋ม ลูกจะพยายามปรับปรุง เขียนธรรมทานพอจะเริ่มได้ แต่ใช้จี้รักษาคนนั้นทำยากจริงๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 13:17:52


ความคิดเห็นที่ 96 (1640596)

ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิดแล้วได้รับผลกรรมอย่างไร

(แก้ไขใหม่ค่ะ)

หนูน.ส.ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ชื่อเล่น ขวัญ อายุ 21 ปี ปัจจุบันอยู่จ.สระบุรี ว่างงาน จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

 

ขอกราบขอขมาท่านอ.อุบล และท่านอ.มงคล ศุภาเดชาภรณ์ค่ะ ที่ตอนทำบุญแรงกายขุดฐานองค์พระปฐมบรมธรรมบิดา ในเดือนธันวาคม พ.ศ.2554 เคยปรามาสท่านทางความคิด ด้วยอารมณ์โกรธ ประมาณว่าทำไมอาจารย์ไม่ทำเอง ตอนนั้นแดดแรง อากาศร้อนมาก ในชีวิตไม่เคยใช้แรงกายอย่างนี้ ทำที่บ้านสวนพีระมิดเป็นที่แรก เหนื่อย อารมณ์ไม่ดีแล้วพาลท่านอาจารย์ ซึ่งตลกและโง่เขลายิ่งนัก ท่านเปิดบ้านส่วนตัวเพื่อช่วยคนให้ได้สร้างบุญ หนูศรัทธา อยากได้บุญ แต่กลับมาสร้างบาปในบ้านท่าน หนูช่างเป็นคนอกตัญญู ชั่วจริงๆ เพราะบาปหนาทำผิดศีลมาทุกข้อ สะสมบาปมาตลอด จิตจึงเคยชินที่จะใฝ่หาบาปเข้าตัว เลยได้มาสร้างบาปใหญ่ปรามาสท่านอาจารย์ทั้งสอง

เพราะปรามาสท่านตอนขุด หลังจากนั้นหนูปวดแขนซ้ายมาก (ข้างที่ถือจอบเจ็บทรมาน ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต ปวดหัวไมเกรนมาก จากที่เคยหายปวดไปนานเป็นปีแล้ว และใจหนักอึ้งรู้สึกผิด ไม่สบายใจ ไม่มีความสุข ตอนคิดไม่มีสติ ปล่อยให้ความชั่วครอบงำ ทำไปแล้วถึงได้สติ ว่าเป็นความคิดที่เลวมาก คิดอย่างนั้นไปได้อย่างไร สำนึกผิดมากๆ เคยทราบจากรายการคุยไปแจกไป ที่ท่านอ.อุบลสอนว่าคิดไม่ดีกับผู้อื่น ผิดศีล เป็นพลังลบ และมีตัวอย่างให้ดูมากมาย ที่คนคิดไม่ดี เช่น ปรามาสท่านอาจารย์ แล้วได้รับผลต่างๆ

การปรามาสท่านอาจารย์ ทำให้หนูได้พิสูจน์ด้วยตัวเองว่า ไม่ว่ากายกรรม วจีกรรม หรือมโนกรรมทางชั่ว ล้วนเป็นบาปทั้งสิ้น มีผลทำให้ทุกข์ทั้งร่ายกายและจิตใจจริงๆ และตั้งใจจะไม่ปล่อยให้ฝ่ายมารมามีอำนาจในจิตใจ ให้ปรามาสท่านอ.อุบล และท่านอ.มงคล ครูบาอาจารย์ผู้มีพระคุณอีก

มาตอนกลางคืน ช่วงฟังธรรมะจากท่านอ.อุบล หนูได้รับโอกาสออกมาสารภาพบาปเป็นธรรมทาน แต่เพราะบาปหนา จึงนึกมโนกรรมที่ทำไว้นี้ไม่ออก แขนซ้ายก็เลยไม่หายปวด สำหรับอาการปวดหัว หายประมาณ 50% คาดว่า 50% ที่เหลืออาจเป็นเพราะปรามาสท่านอาจารย์ทั้งสองค่ะ

นอกจากนี้ หนูเคยมองทรวดทรงองเอวของท่าน ทั้งตัวจริงของท่านและผ่านรายการคุยไปแจกไป ตอนป้าติ๋มสารภาพว่าปรามาสท่านอ.อุบล เห็นอวัยวะเพศ พี่ชิมสารภาพว่าเห็นเท้าถีบท่านอ.อุบล และเมื่อกี้อ่านธรรมทานจากพี่ธนาที่สารภาพว่ามีมโนกรรมใช้ขาล่วงเกินท่านอ.อุบล หนูก็เห็นภาพตามไปด้วย และเมื่อก่อน ตอนอ่านเฟสบุ๊คปลอม เห็นเขาใช้คำหยาบกับท่านอ.อุบล ท่านอ.มงคล คำพูดเหล่านั้นก็ขึ้นมาในหัวบ่อยครั้งค่ะ หนูไม่อยากเห็นภาพ ไม่อยากได้ยินคำพูดเหล่านี้ในหัวเลย มโนกรรมเหล่านี้ หนูทราบตลอดว่าเป็นความชั่วเพราะผิดจากคำสอนของพระพุทธเจ้า หนูสำนึกผิดทุกครั้งที่มีมโนกรรมเช่นนี้

บาปกรรมทั้งหมดนี้เกิดจากจิตใจที่ไม่เข้มแข็ง สะสมกิเลสความชั่วมามาก ทำให้ยังมีทุกข์ มีอุปสรรคเรื่องครอบครัว การงาน การเงิน มีกรรมผิวพรรณที่ไม่หายขาด100% แต่คิดว่าทุกข์เบาบางลงจากเมื่อก่อน หลังจากแทบไม่ได้ปรามาสท่านอาจารย์ทั้งสองแล้ว กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ ท่านอาจารย์ทั้งสองและคุณท้อป ในความเมตตาอันประมาณมิได้ค่ะ 

แต่วันนี้ สำหรับผลของการปรามาสเดือนธ.ค. 54 หนูไม่มีอาการปวดแขนซ้ายแล้ว เพราะก่อนกลับบ้านจากไปบ้านสวนพีระมิดครั้งนั้น ได้กราบท่านอ.อุบลเพราะอยากแสดงความเคารพนับถือท่าน ได้สำนึกผิดที่ปรามาสท่านอาจารย์ทั้งสอง เขียนสารภาพผ่านเว็บไซต์บ้านสวนพีระมิด สารภาพกับจี้องค์เทพสฟิงซ์รุ่นแรกและรุ่นสามร่มโพธิ์ศรี และร่วมบุญกับท่านอ.อุบล บ้านสวนพีระมิดด้วยศรัทธาบริสุทธิ์ ไม่มีคิดลบกับท่านค่ะ

ขอกราบขอบพระคุณท่านอ.อุบล และครอบครัวศุภาเดชาภรณ์ ที่เมตตาช่วยเหลือผู้คนรวมทั้งหนูและให้อภัยหนูค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 13:59:30


ความคิดเห็นที่ 97 (1640601)

                                             ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

แล้วจะได้รับผลกรรมอย่างไร 

กระผม     นายเทวฤทธิ์  ท้าวคำ ( เอก )

การศึกษา ปวช.ช้างไฟฟ้า

อาชีพ     สำนักงานนายหน้ารับประกันภัน จ.พิษณุโลก

ตำแหน่ง   เจ้าของกิจการ( เอก ประกันภัย )

                         เรื่องที่เคยปรามาสท่านอาจารย์อุบล

             คือเรื่องการเงิน เคยตั้งข้อสงสัยว่า ท่านอาจารย์จะแบ่งหรือแยกเงินที่เราทำบุญกันอย่างไร ว่าส่วนใหนเป็นเงินรับส่วนตัวของอาจารย์ หรือเป็นเงินที่รับร่วมทำบุญ กลัวว่าอาจารย์จะพลาด แล้วผลที่ได้รับจะเป็นอย่างไร แต่ทุกครั้งที่เกิดข้อสงสัย ก็จะมีคำตอบจากท่านอาจารย์เสมอ เมื่อเวลาที่ท่านสอนพวกเรา ก็จะบอกให้รู้ ในส่วนของเงินที่มีผู้มาร่วมทำบุญเสมอ และบอกถึงอานิสงฆ์ของบุญแต่ละประเภทให้เข้าใจ เสมือนว่าท่านจะรู้ว่าเราเกิดข้อสงสัยนี้

                 และผลของข้อปรามาส สงสัยนี้ ทำให้การเงินไม่คล่องตัวเลย ติดขัดตลอด งานจะไม่สามารถจบแบบง่ายๆ ต้องมีอุปสรรคเสมอ  เมื่อมาอ่านหนังสือหลวงพ่อฤษีลิงดำ ท่านบอกว่าไม่ว่าจะเป็นวัตถุหรือเงินหรือสิ่งของใดๆก็ตาม  ทุกอย่างอยู่ที่เจตนาของจิต เมื่อจิตเราไม่คิดหรือยึดติดกับสิ่งนั้น มันก็แค่ผ่านมือหรือผ่านตาไปแค่นั้นเอง ก็ทำให้ได้รู้ว่าเป็นเพราะจิตเราคิดแทนอาจารย์เอง ที่คิดว่าถ้าเป็นเรา คงต้องใช้เงินในทางที่ไม่ถูกแน่เลย 

                เมื่อหายสงสัย ก็ต่อสู้กับมโนกรรม ที่ไม่ดีหรือสงสัย ที่เกิดต่ออาจารย์ โดยขอขมากรรมทันทีที่คิด คุมจิตมันให้ได้ พอคิดไม่ดี ก็จะหาเหตุผลและจะขอขมากรรมทันที ทุกเรื่อง ทั้งเรื่องของ สรีระร่างกายของอาจารย์ ที่จิตเราเผลอคิดปรามาส ก็จะฝึกจิตว่า เป็นเรื่องสังขาร สักพักก็จะร่วงโรยไป เกิดขึ้น ตั้งอยู่และก็ดับไป  ตามวาระเวลา และพยายามฝึกปลงให้เป็น อสุภกรรมฐานให้ได้ และคิดว่าท่านมีต้องเหตุผล เพื่อเป็นธรรมให้พวกเราได้ เห็นรูปร่างของอาจารย์และให้เราฝึกจิต เราว่าเห็นแล้วเป็นอย่างไร เราดีขึ้นหรือเลวลง มองทุกอย่างเกี่ยวกับท่านอาจารย์เป็นธรรมให้หมด

                เมื่อจิตเราชินกับการคิดดี ไม่เกิดข้อสงสัย ผลดีก็เกิดตาม มีงานเข้ามาเรื่อยๆ เป็นงานที่เราไม่คาดคิดมาก่อน และเราไม่เคยรู้จักลูกค้ามาก่อน  จบงานแบบง่ายๆ 

              เมื่อเวลาใหนที่เกิดมโนกรรมที่ไม่ดี ก็จะกำหนดขอขมากรรมต่ออาจารย์ทันที และขอพึ่งบารมีสมเด็จพระศรีอาริยเมตไตร ขอให้เกิดปัญญาอย่าให้มีมโนกรรมที่ไม่ดีเกิดขึ้นอีก สาธุ สาธุ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เทวฤทธิ์ ท้าวคำ (เอก ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 14:47:33


ความคิดเห็นที่ 98 (1640604)

ด่วนน!!! ก่อนที่ท่านจะปริ้นท์และซีร็อกนำมาที่บ้านสวนฯ

จนถึงขณะนี้ ผมไม่สามารถจะนำธรรมทานของแต่ละท่านมารวมเพื่อปริ้นท์และซีร็อกได้ เนื่องจากว่าแต่ละท่าน เขียนไม่ครบ ไม่กระจ่าง และขาดข้อมูลที่สำคัญเป็นอย่างมาก ถึงรวมเล่มไปก็คงยังแต่จะสร้างบาปกรรมให้แต่ละท่านเอง

ท่านอาจารย์แจ้งไว้ชัดเจนแล้วนะครับว่าการเขียนไม่ละเอียด ไม่ครบ คือการปรามาสซ้ำซ้อนอีก หนักเข้าไปอีก

ถึงขณะนี้ผมคงสามารถรวมและปริ้นท์ได้แค่บางท่านเท่านั้น เรียกว่าได้เท่าไร เอาเท่านั้น เพราะท่านอื่นๆคงไม่ปรารถนาที่จะพ้นทุกข์ จึงไม่สนใจสิ่งที่ท่านอาจารย์เมตตาบอก "ความลับ"ทางพ้นทุกข์ ให้แล้ว ในความเห็นที่ #55 และ #88

รายละเอียดส่วนตัว

 

ขอให้เช็คให้ดีนะครับว่าขาดอะไรบ้าง

1.ชื่อ สกุล ชื่อเล่น อายุ  จังหวัดที่อยู่

2.การศึกษาสูงสุด สาขาที่จบ มหาวิทยาลัยที่จบ ประเทศ(ระบุหากต่างประเทศ)

3.การงาน : ตำแหน่งงาน บริษัท

4. สำหรับท่านที่อยู่ต่างประเทศ  โปรดระบุให้ชัดเจนด้วยนะครับว่าประเทศอะไร อย่าให้คนอ่านเดานะครับ เพราะคนอ่านมีทุกระดับที่จะอ่านธรรมทานของพวกเรา เช่น ลอนดอน ประเทศอังกฤษ, นิวเจอร์ซี่ สหรัฐอเมริกา ก็เขียนให้ชัดเจนเด้ออ

อานิสงค์การกราบท่านอาจารย์

ส่วนใหญ่เขียนแต่เชิงนามธรรมเช่น ปิติ ปลื้ม น้ำตาไหลเพียงอย่างเดียว แต่ผมมั่นใจว่า สิ่งที่จับต้องได้มีมากมายที่แต่ละคนได้รับ เช่น ขณะบำบัด กราบแล้วหายทันที กราบแล้ว การงานราบรื่น มีโชคลาภเข้ามา หรืออื่นๆ ทำไมท่านไม่เขียนกันล่ะครับ สิ่งที่คนอ่านเขาคิดตามและรับรู้ได้อย่างเป็นรูปธรรม จับต้องได้

ผลการปรามาสท่านอาจารย์

ส่วนใหญ่เขียนรำพันกันอย่างเดียว ไม่เห็นเขียนเลยว่า

สิ่งที่พระองค์ท่าน

ให้ทำ ให้ครบ คือ

1.เรื่องที่ปรามาส

2.ผลที่ได้รับจากการปรามาส

3.หลักฐานยืนยันว่า

การปรามาสของเรา เป็นบาป คืออะไร

4.เราสำนึกผิด ได้เพราะอะไร

ว่าที่เราปรามาสนี้ บาปหนัก

5.เราทำอย่างไร ผลที่ได้รับจากการปรามาส

จึงหาย หรือคลี่คลาย

 

เช่น

พอปรามาสแล้ว ปวดหัว เป็นขี้กลาก

เป็นเนื้องอก มะเร็ง อุบัติเหตุ หรือ ตาย

แล้วแก้ไขอย่างไร

ผลเป็นอย่างไร

ให้บอกละเอียด จึงจะเป็นธรรมทาน

มิฉะนั้น ถือเป็นการปรามาสซ้ำซ้อน

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 15:13:51


ความคิดเห็นที่ 99 (1640605)

Workshop การสร้างหนังสือธรรมทาน

ขอให้ทุกท่านปริ้นท์และซีร็อกธรรมทานทั้ง2หัวข้อ คือ อานิสงค์ของการกราบท่านอาจารย์ และ ผลกรรมที่ปรามาสท่านอาจารย์ ที่เขียนตามสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงให้ทำตามที่ท่านอาจารย์เมตตาแจ้งมา ปริ้นท์ออกมาเป็นขนาด A4 ตามกำลังของท่าน เช่น 99ชุด หรือมากกว่านั้นแล้วแต่กำลังนะครับ อย่าเบียดเบียนตนเอง

ภาพหน้าปก เดี๋ยวเราจะไปปริ้นท์ที่บ้านสวนฯและเข้าเล่มกันที่นั่น

ขอย้ำนะครับ อย่าส่งหรือนำธรรมทานที่ไม่สมบูรณ์แบบมานะครับ เพราะทีมงานจะอ่านและคัดออก และจะเป็นการปรามาสซ้ำซ้อน กรรมหนักเข้าไปอีก

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 15:22:07


ความคิดเห็นที่ 100 (1640611)

 อ้างถึงความคิดเห็นที่ 45 ค่ะ ขออนุญาตเพิ่มเติมรายละเอียดค่ะ กราบขอบพระคุณท่านอ.อุบลที่เมตตาเตือนลูกหลานค่ะ

"ปรามาสท่านอ.อุบล บ้านสวนพีระมิดแล้วได้รับผลกรรมอย่างไร"

 

 

ชื่อ: นส. วราภรณ์ หล่าบรรเทา ชื่อเล่น ไอซ์

อายุ: 36ปี

จบการศึกษา: ปริญญาตรี สาขารัฐศาสตร์ จาก ม.รามคำแหง

ที่อยู่: จ. สุรินทร์

อาชีพ: เกษตรกร

 

หลักจากที่ชีวิตตกต่ำสุดๆ มีแต่ความทุกข์หาทางออกไม่ได้ไอซ์ก็เริ่มหันหน้าเข้าหาธรรม หัดนั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม เพื่อหาทางพ้นทุกข์ แค่หวังว่าจะได้ความสุขบ้างซักนิด แล้วไอซ์ก็เจอทางสว่างได้ฝึกกรรมฐาน ตามทางของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) ได้พบความสุข ความสงบแต่วันนึงขณะที่นั่งอ่านหนังสือของหลวงพ่ออยู่นั้น นั่งมองรูปท่านที่หน้าปกหนังสือ จิตก็ไปปรามาสหลวงพ่อเข้าให้ จิตแว๊ปไปทันทีว่าหน้าท่านเหมือนหมู ทำให้ทุกข์สุดๆ ทุกข์มาก ถึงขนาดที่"คิดอยากจะฆ่าตัวตาย"ทุกข์มาก ว่าเรารักและเคารพท่านมากแต่ทำไมเราถึงได้คิดไม่ดีต่อท่านหนอ หาทางออกไม่ได้ ใจเป็นทุกข์อยู่ตลอดเวลา ทำได้อย่างเดียวในตอนนั้นคือขอขมา่ท่านตลอด แต่ก็จมอยู่กับความทุกข์ใจสุดแสนสาหัส หาทางออกไม่ได้ และก็ไม่เคยรู้ว่า นั่นคือมโนกรรมที่เป็นกรรมที่หนักที่สุด

 

 ก็ได้ทำการปรามาสท่านด้วย หลังจากที่ได้ทำการบูชา องค์พีระมิดจำลองรุ่นมวลสารบ้านสวน หลังจากได้รับองค์พีระมิด ก็เกิดปรามาสท่านโดยระหว่างที่คุยกับเพื่อนถึงบ้านสวนและกำลังพิม์ชื่อท่านอยู่ก็มีความคิดว่าแวบขึ้นว่าท่าน "อ.อุบลบ้า" และ พอนึกชื่อท่านขึ้นมาก็จะมีคำว่า "มัน"ต่อท้ายแว๊บขึ้นมาด้วยค่ะ

หลังจากนั้นก็มีความทุกข์ใจเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เลยรีบออกไปขอขมาท่านด้านหลังห้องทำงานระหว่างที่อยู่ขมาอยู่นั้น รู้สึกว่าร้อนมาก ร้อนไปหมดทั้งตัวเหมือนโดนไฟเผา แต่หลังจากขอขมาเสร็จก็ปรากฏว่าเย็นสบายตัวมากเลยค่ะ ความร้อนที่เหมือนโดนไฟเผาหายไปในทันทีเลยค่ะ

 

หลังจากมาบ้านสวนแล้วก็ยังมีความคิดปรามาสท่านอยู่ ระหว่างที่สร้างบุญด้วยแรงกายอยู่นั้น นำหญ้าไปทิ้งด้านหลัง แต่ด้วยความที่เพิ่งมาไม่รู้ว่าเขตบ้านของท่านสิ้นสุดตรงไหน กำลังหาที่ทิ้งหญ้าอยู่นั้น ก็มองไปแถวต้นมะม่วงด้านหลัง คิดถึงคำพูดท่านที่ว่า ท่านมีพื้นที่บ้านทั้งหมด 20ไร่ก็มีความคิดแวบขึ้นมาอีก "อาจารย์โกหก"ปรา่มาสท่านอีก เกิดความทุกข์ใจมาก ทรมานใจ ทุกข์มาก และมีอาการร้อนที่แผ่นหลังเหมือนโดนพริกทาด้วย แต่หลังได้ขอขมาท่านและได้กราบเท้าท่าน อาการร้อนแผ่นหลังเหมือนโดนพริกทาก็หายไปเลยค่ะ 

และเมื่อไอซ์ได้รู้จักท่านอ.อุบล ท่านได้เมตตาบอกว่าเราทำกรรมได้ด้วย คำพูด การกระทำ และความคิด ซึ่งความคิดนั้นเป็นกรรมที่หนักที่สุดเลย

นั่นเป็นเพราะเราทำผิดศีลมาก่อน และกรรมในอดีตที่เคยเป็นสาวกของพระเทวทัตมาก่อน

และเมื่อมาเกิดในชาตินี้ใครก็ตามที่นำธรรมะของพระพุทธเจ้ามาสอน เราก็จะคิดปรามาสท่าน ว่าท่านผู้นั้น และท่านอ.อุบลเป็นผู้นำธรรมะของพระพุทธเจ้ามาสอนพวกเรา ไอซ์ก็เลยปรามาสท่าน

นั่นทำให้ไอซ์ ต้องระวังจิตของตัวเองอยู่เสมอเลยค่ะทำให้ไม่มีความสุข ต้องระวังเวลาที่เข้าใกล้ท่านกลัวว่าจะปรามาสท่าน แต่หลังจากได้สร้างบุญไปเรื่อยๆ อาการปรามาสและความทุกข์ใจก็เริ่มเบาบางลง

แต่ไอซ์ก็ยังคงปรามาสท่านอยู่อีก ครั้งนี้หนักมาก รุนแรงถึงขึ้นทำร้ายท่านเลย ตอนงานบรวงสรวงสร้างสมเด็จองค์ปฐม สูง 9.99 เมตร 9 วัน 9 คืนนั้น ระหว่างงาน ท่านอ.อุบลได้เดิมมาที่องค์เพื่อมาดูพวกเราสร้างบุญ ไอซ์เดินตามหลังท่านอยู่บนฐานองค์พระ จิตก็แวบขึ้นมาทันทีว่า เอามีดแทงให้ตายเลย ตกใจมาก เกิดความ"ทุกข์ใจ"ขึ้นมาทันทีว่า ทำไมเราถึงเป็นคนที่เลวขนาดนี้ เดินตามหลังท่านอยู่แท้ ท่านเป็นอ.อุบลนะ เป็นผู้ที่ทำให้เราตาสว่าง เป็นผู้สอนธรรมะให้เรา ทำไมเราถึงคิดทำร้ายท่าน บางครั้งจิตก็จะไปที่เท้า จะใช้เท้าของตัวเองทำร้ายท่านด้วย ทำไมจิตคิด ชั่วร้ายได้ขนาดนี้ เกิดความทุกข์ขึ้นมาทันที ทุกข์มาก ไม่กล้าบอกใคร ได้แต่เก็บไว้ในใจตลอด "ไม่มีความสุขเลย"

 

แล้วก็เป็นอีก คราวนี้เป็นตอนเข้าห้องน้ำ ระหว่างที่ทำธุระอยู่ก็ปรามาสท่านอีกคราวนี้เป็นคำหยาบมากเลยค่ะ จิตแว๊บไปว่า "อ.อุบล...ีแหก" ดิ่งลงนรกเลยค่ะคราวนี้ เป็นทุกข์มาก คิดในใจ เอาไงดีอ่ะ คำหยาบมาก แว๊ปไปได้งัย ทั้งๆที่เราไม่ได้คิดแบบนั้นเลย ทำการขอขมาในใจต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในตอนนั้นเลย แล้วก็คิด เราคิดปรามาสท่านหยาบคายขนาดนี้ น่าอายมาก มาสร้างบุญตั้งนาน แต่ก็ยังมีคิดปรามาสท่านแบบนี้อีก เป็นคำที่สกปรกมา จะไปขอขมาท่านอย่างไงดี ขอขมาในใจไม่บอกใครคงได้มั้ง คำมันหยาบมากเลย เอาไงดี เป็นทุกข์มาก ไม่มีความสุขเลย แต่ในที่สุดก็รวบรวมความกล้ากล้าคิดสกปรกกับท่านได้ ต้องกล้ายอมรับความผิดให้ได้ ตอนค่ำท่านอาจารย์สอนธรรมะ ไอซ์ก็รีบขอขมาท่านเลยค่ะ หลังจากที่ได้ขอขมาท่านแล้ว ก็รู้สึกโล่งใจมากเลยค่ะ มีความสุขที่ได้กล้ายอมรับความผิดที่ได้ทำลงไปค่ะ

 

ผลกรรมที่ไอซ์่ได้รับจากการปรามาสท่าน ทั้งๆที่ตัวเองนั้นไม่ได้คิดที่จะว่าเลย แต่อยู่ๆใจก็แว๊ปไป โดยที่เรายังไม่ทันรู้ตัวเลย เมื่อมันแว๊ปไปแล้วก็รู้สึกตัวว่า เกิดอะไรขึ้นมาคิดขึ้นมาได้ยังไง ผลก็คือความทุกข์ใจค่ะ ทุกข์มากที่ทำยังไงก็ไม่หาย เป็นความทุกข์ที่ทรมานมาก จากที่ไอซ์ได้ขอขมาท่านอาจารย์ ได้กราบท่านที่บ้านสวน และกราบรูปท่านในห้องพระที่บ้าน น้อมจิตกราบท่านตอนสวดมนต์ ทำสมาธิ และได้สร้างบุญที่บ้านสวนไปเรื่อยๆ ความทุกข์ใจนั้นก็เริ่มหายไปค่ะ เริ่มมีความสุขใจ เป็นความสุข ที่ไม่เคยพบ มันไม่เหมือนกับความสุขที่เราได้เจอเลย เป็นสิ่งที่ดีมาก มีความสุขมากเลยค่ะ

ลูกขอกราบขอขมาท่านอ.อุบลและเทวดาที่รักษาท่านอ.อุบลที่ได้เคยล่วงเกินท่านมา ณ ที่นี้ค่ะ ลูกกราบขอขมาค่ะ

ผลบุญใดที่ลูกได้รับลูกขอบารมีพระพุทธเจ้า บารมีพระอาริย์ที่ท่านอ.อุบลเป็นผู้อัญเชิญ และบารมีของท่านอ.อุบลได้ขอน้อมถวายอ.อุบลและครอบครัว และเทวดาที่รักษาท่่านอ.อุบล

ขออานิสงฆ์ของบุญนี้ส่งให้กับเจ้ากรรมนายเวรของลูกทุกท่านด้วยเทิด สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ หล่าบรรเทา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 16:05:39



[1] 2 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.