ReadyPlanet.com


ขอเชิญร่วมบุญด่วน บุญธรรมทานใหญ่ :กราบท่านอาจารย์อุบลหรือรูปถ่ายท่านอาจารย์อุบล แล้วชีวิตดียังไง


ของดีๆแบบนี้ อย่าเก็บไว้คนเดียวครับ ขอเชิญพี่น้องทุกท่านร่วมสร้างบุญธรรมทานใหญ่ ที่ปลดเปลื้องทุกปัญหาในชีวิตของท่าน ไม่ว่าปัญหาหน้าที่การงาน เจ็บป่วย ครอบครัว ความรัก ฯลฯ

ในหัวข้อเรื่อง

"กราบ

ท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือ

รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด 

แล้วชีวิตดียังไง"

อันนี้เป็นประสบการณ์ตรงของผมเลยครับ เพราะผมกราบรูปท่านอาจารย์อุบลแล้ว อุปสรรคในการงานก็ราบรื่น เวลามีปัญหาจู่ๆก็มีคนมาช่วยแก้ปัญหาอย่างไม่น่าเชื่อ และอื่นๆอีกมากมาย ก็อยากให้ทุกท่านได้รับอานิสงค์ผลบุญจากธรรมทานใหญ่นี้เพื่อเตรียมเสบียงบุญสู่ยุคศิวิไลซ์กันเด้อพี่น้อง

ท่านใดที่เคยกราบรูปท่านอาจารย์อุบลไม่ว่าที่บ้าน ที่ทำงาน หรืออื่นๆ แล้วท่านได้อานิสงค์อย่างไร เช่น หายป่วยทันที หรือมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีในชีวิตอย่างไร

หรือบางท่านอาจเคยเห็น รับรู้ ได้ยินว่าบุคคลที่เรารู้จักได้กราบรูปท่านอาจารย์แล้วได้ผลอย่างไร ก็ขอเรียนเชิญทุกท่านเขียนธรรมทานได้อย่างเต็มที่เลยครับ

เพราะของดีๆแบบนี้ เราต้องเผยแพร่ด้วยความภาคภูมิใจครับ เพราะทำให้ตนเองและคนอื่นพ้นทุกข์อย่างฉับพลันทันที เราอย่างกเก็บไว้คนเดียวเลยนะครับ เรามาช่วยกันสร้างความสุขแก่คนอื่นกันเน้ออ

ใครอยากสร้างบุญใหญ่ก็รีบเข้ามาเขียนเลยเน้อ จะรีบรวบรวมแล้วทำเป็นเล่มแจกเป็นธรรมทานทันทีเลย พวกมัวแต่ชักช้า ลีลาเยอะ ก็พ้นทุกข์ช้าเด้อพี่น้อง สิบอกให้...

เช่นกันนะครับ ก่อนเขียนขอให้ทุกท่านแนะนำตัวเอง พร้อมการศึกษา จบสาขาอะไร ที่ไหน ระดับไหน เช่น ปริญญาเอก สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยดงโดก เป็นต้น

พร้อมทั้งระบุ ตำแหน่ง หน้าที่การงาน ชื่อองค์กรของท่าน และจังหวัดที่ท่านอยู่อาศัยให้ชัดเจนนะครับ

ท่านใดเขียนไม่ชัดเจน ก็ขออนุญาติไม่พิจารณานำมารวมเล่มให้นะครับ คนยุคใหม่ ทำความดี ต้องกล้า และจริงใจ...

ขออนุโมทนาบุญล่วงหน้ากับทุกๆท่านด้วยครับ สาธุ



ผู้ตั้งกระทู้ ธนา อรุณภิญโญพล กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2012-11-13 00:54:54


<< ก่อนหน้า 1 [2]

ความคิดเห็นที่ 101 (1640617)

 

ชื่อ นางวรินทร์ธร รัศมีจรัสฐากร (เบญ) อายุ 48 ปี  
ที่อยู่ 1 ม.12 ต.วังทอง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร
จบการศึกษาปริญญาตรีคณะบริหารธุรกิจ แขนงการตลาด ม.ราชภัชร์กำแพงเพชร
ปัจจุบันทำงาน ตำแหน่ง:เจ้าหน้าที่อาวุโส บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต สาขากำแพงเพชร631/3 ถ.เจริญสุข ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร
"กราบท่านอาจารย์อุบลบ้านสวนพีระมิดหรือรูปท่านอาจารย์อุบลบ้านสวนพีระมิดแล้วชีวิตดียังไง"
ท่านอ.อุบล คือครูบาอาจารย์คนสุดท้ายที่ข้าพเจ้าได้ค้นพบ เวลาได้กราบท่านจะมีความสุขปลื้มปิติบางครั้งน้ำตาเอ่อในความเมตตาที่ท่านได้พูดว่า “คิดว่ากราบคำสั่งสอนของพระพุทธองค์นะ” แต่หลัง ๆมานี้อาจารย์บอกว่าไม่ให้กราบหนูก็ไม่กล้ากราบ เพราะกลัวอาจารย์จะว่าไม่เชื่อฟัง ได้แต่ไหว้แต่ในใจหนูอยากกราบท่านมากที่สุด เดี๋ยวนี้เห็นหลาย ๆ คนก็กราบได้แล้วเพราะอาจารย์บอกว่าขี้เกียจบอกแล้วต่อไปนี้ถ้าเห็นอาจารย์หนูขอกราบด้วยนะค๊ะ แต่ถ้าอยู่ที่บ้านและที่ทำงานหนูจะกราบและไหว้ที่รูปทั้งที่โต๊ะทำงานและเวลาเปิดเวปมาเห็นหน้าอาจารย์ ชีวิตหนูรู้จักธรรมะได้มากขึ้นก็เพราะอ.อุบล คำสั่งสอนที่อาจารย์นำมาล้วนบริสุทธิ์และงดงามเข้าใจง่าย ปัญหาไม่ว่าจะเรื่องหนี้สินและที่ทำงานที่มีอยู่ก็มีทางออกคลี่คลายไปในทางที่ดี และเดี๋ยวนี้ถ้ามีปัญหาก็ไม่ค่อยเครียดเหมือนเมื่อก่อนเพราะจะนึกถึงหน้าอ.อุบล+ใช้รหัส+ใช้จี้องค์เทพสฟิงซ์+จี้รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี ตอนหนี้หนูเริ่มปลูกดอกดาวเรืองขายเหมือนเดิมซึ่งหยุดทำมา 2-3 ปี เพราะมีปัญหาหลายอย่าง เช่นตลาดเต็ม ต้นตาย ศัตรูพืช พอปีนี้ตั้งแต่เริ่มเพาะเมล็ดพันธ์หนูก็ท่องคาถาพระศรีอาริย์+รหัสอ.อุบลช่วยด้วย+จี้องค์เทพสฟิงซ์จนเสร็จ พอนำไปปลูกก็ร่ายคาถาตลอด เดี๋ยวนี้ดาวเรืองโตออกดอกแล้ว ดอกใหญ่มากต้นก็งาม ตลาดก็ต้องการตลอด และหนูก็จะบอกกับหลาย ๆคนให้ใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วย จนกระทั่งการนั่งสมาธิก็จะบอกว่าเวลา หายใจเข้า “อ.อุบล” หายใจออก “ช่วยด้วย” เพราะมั่นใจและบอกว่าคำว่าอ.อุบลช่วยด้วยมีอานุภาพมากมายมหาศาลมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุก ๆพระองค์ที่มาช่วย เราไม่ได้ปรามาสคำภาวนาแบบเดิม ๆ แต่ในเมื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านอนุญาตให้ใช้รหัสจักรวาลนี้เพราะฉะนั้นคำภาวนาแบบเดิม ๆ ก็จะรวมอยู่ในรหัสจักรวาลนี้ด้วย
"ปรามาสท่านอาจารย์อุบลบ้านสวนพีระมิดแล้วจะได้รับผลกรรมอย่างไร"
เคยคิดว่าท่านอ.อุบล จะมีอะไรกับอ.มงคลไหม๊หนอ ก็จำไม่ได้ว่าเกิดอะไรกับตัวเราหรือเปล่า แต่ก็คิดว่าครอบครัวอาจารย์เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับคนสมัยนี้คือ
1. เป็นผู้นำในทางโลกคือครอบครัวมีความอบอุ่นไม่มีปัญหาเมียหลวง-น้อย บุตรก็ดี ผิดกับคนสมัยนี้แทบจะทุกครอบครัวมีปัญหาเมียหลวง-น้อย บุตรเกเร ครอบครัวไม่มีความสุขเพราะเอาแบบอย่างครอบครัวที่ไม่ดีสืบต่อ ๆ กันมา ถ้าทุกครอบครัวเอาแบบอย่างครอบครัวท่านอาจารย์ทุกครอบครัวก็จะมีความสุขนี่คือผู้นำในทางโลก
2.เป็นผู้นำในทางธรรม อ.อุบล นำธรรมะ คำสั่งสอนอันงดงามของพระพุทธองค์มาสั่งสอนพวกเราลูกบ้านสวน อ.มงคลและคุณท๊อป ก็มีส่วนร่วมช่วยให้การถ่ายทอดธรรมะออกสู่สายตาชาวโลก ถ้าไม่มีอ.มงคลและคุณท๊อป คนที่ไม่สามารถไปบ้านสวนได้ก็คงไม่รู้จักได้กว้างขวางมากขนาดนี้
เพราะเป็นเช่นนี้เวลามีใครบอกว่าทำไมคนสอนธรรมะจึงมีครอบครัวได้ หนูก็จะบอกเลยว่านี่แหละคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องเลือกครอบครัวที่ถูกต้องที่สุดเพราะเราจะได้เรียนรู้ทั้งทางโลกและทางธรรมไปพร้อม ๆ กัน
กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุก ๆ พระองค์แห่งบ้านสวนพีระมิดและครอบครัวท่านอาจารย์อุบล ที่เมตตาให้หนูและครอบครัวได้มาสร้างบุญในดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้  กราบ กราบ กราบ
 
 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น เบญ/วรินทร์ธร รัศมีจรัสฐากร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 16:29:25


ความคิดเห็นที่ 102 (1640618)

ปรามาสท่าน อาจารย์อุบลบ้านสวนพีระมิด

แล้วเป็นอย่างไร

 

ชื่อ. นาง  อร อุ่นศรี อายุ 43 ปี  จบการศึกษา ประถม 6

 อาชีพ ผลิตและจําหน่ายเสื้อผ้าสําเร็จรูป อยู่ที่ ประตูนํ้า จ.กรุงเทพฯ

ตําแหน่ง เจ้าของกิจการ

ได้รู้จัก ท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด ทางเวปร์ไซ ดูจากรายการคุยไปแจกไป คิดปรามาสสงสัยว่า คนสอนธรรมะทําไมแต่งตัวเปรี้ยว เดินกางร่มแสนสบายใจ แต่คนอื่นที่เข้าไปบ้านสวน ทํางานกันอย่างเหน็ดเหนื่อย ทําไม ไม่แต่งชุดขาวเหมือนกับสถานที่อื่นๆ ทั่วไปเค้าทํากัน พอดูรายการไปเรื่อยๆ หลายตอน มีตอนหนึ่ง ก็พบคําตอบว่า  เป็นพระไม่ต้องมียูนิฟอร์ม การปฎิบัิธรรม เราต้องปฎิบัิติที่ใจ ไม่ไช่ที่เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายภายนอก คนที่ใส่ชุดขาวทําถ้าสํารวมดูน่าเลื่อมใส แต่รักษาศีลไม่ได้ ไม่ครบ ยังนินทา ยังโกรธอยู่ จะมีประโยชน์อะไร เก็ทเลยค่ะ เพราะเข้าตัวเต็มๆ เพราะหลายปีที่ผ่านมา ในวันพระ อร ใส่สีขาว กินเจ รักษาศีล แต่รู้เรื่องศีลไม่ละเอียด ไม่รู้ลึก เช่นยังซื้อหวย ยังนินทา (ในวันพระนะคะ)ส่วนวันธรรมดาจะใช้ชีวิตปกติ จะอยู่ในศีลบ้างก็ไม่เต็มร้อย ได้พบธรรมะที่แท้จริง ทําให้สํานึกขึ้นมาว่า ทําไมเราถึงได้โง่ขนาดนี้ สนใจแต่รูปโฉมภายนอก ควรจะสนใจธรรมะของพระพุทธองค์ที่ ท่านอาจารย์สอน และถ่ายทอดให้ได้รับรู้ที่ มีประโยชน์มากมาย พอเข้าใจทุกอย่าง ได้เข้ามาบ้านสวนหลายครั้ง และวันหนึ่งมีอาการปวดหัวมากๆ ในใจคิดว่าต้องมีอะไรสักอย่าง จิตก็แว๊ปขึ้นมาว่าต้องขอขมาท่านอาจารย์อุบล ที่เคยคิดปรามาสเรื่องแต่งตัว ถ้าวันนี้ไม่ได้ขอขมา จะไม่ยอมกลับบ้านเด็ดขาด และก็ได้ขอขมาท่านอาจารย์ อาการปวดหัวดีขึ้น 80% ท่านอาจารย์เมตตาบอกว่าที่เหลือให้คิดเอง จึงก้มลงกราบท่านอาจารย์ เท่านั้นแหละ หายโล่งหมดเลย กลับบ้านได้สบายใจ หลังจากนั้นมาก็ไม่กล้า คิด อีกเลย จนมาเห็นท่านอาจารย์อุบลในสมาธิ ที่มีสมเด็จองค์พระปฐมอยู่เหนือศรีษะ เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ หลวงพ่อฤาษีลิงดํา ซ้าย ขวา สิ่งศักดิสิทธิ์ห้อมล้อมเต็มไปหมด ยิ่งละอายต่อบาปกรรมที่ทํามาก และนึกถึงคนที่ปรามาสรุนแรงกว่านี้ ผลกรรมที่เกิดนั้น น่าสพึงกลัวเป็นที่สุด เห็นผลทันตาทันใจทีเดียว รวมถึงปรามาส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และราชวงค์ด้วย จึงทําให้ชีวิตตกตํ่ายํ่าแย่ขาดสภาพคล่อง ทางการงาน การเงิน เพราะในหลวงเป็นผู้ที่มีพระคุณต่อลูกหลานชาวไทย ล้นเกล้า ล้นกระหม่อม พระองค์เป็นผู้ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน บําบัดทุกข์ บํารุงสุขให้กับประชาชน พี่น้องชาวไทยอย่างเกินกําลัง ซึ่งท่านอาจารย์อุบล ท่านก็ใช้แนวทางของพระองค์มาปฎิบัติเพื่อความสุข ของชาวโลกทุกคน

กราบขอขมาพระรัตนตรัย ขอขมาท่านอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ กราบขอขมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและราชวงค์ทุกพระองค์ ที่ลูกได้ปรามาสล่วงเกิน ทั้งทางกาย วาจา ใจ ที่รู้เท่าถึงการณ์ก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอทุกพระองค์ ท่านอาจารย์อุบล จงโปรดเมตตาอดโทษให้กับลูกตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนตราบเข้านิพพานด้วยเถิดเจ้าขัา สาธุ กราบ กราบ กราบ   

ผู้แสดงความคิดเห็น อร อุ่นศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 16:30:02


ความคิดเห็นที่ 103 (1640620)
ชื่อ นางฉวีวรรณ นภาพรรณราย ชื่อเล่น ตาล  อายุ 47 ปี   จ. สระบุรี
การศึกษา จบปริญญาตรี พยาบาลศาสตร์ จากวิทยาลัยพยาบาลนครราชสีมา
อาชีพ ปัจจุบันข้าราชการบำนาญ (อดีตเป็นพยาบาลโรงพยาบาลรัฐบาล และเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 4 สระบุรี )
ปรามาสอาจารย์อุบลแล้วเป็นอย่างไร
       ตั้งแต่รู้จักบ้านสวนพีระมิดแรก ๆ  ก็ด้วยความอยากหายทุกข์ หายป่วย ความตั้งใจแรก ก็อยากมาทำบุญที่บ้านสวน พอมาบ่อย ๆ ก็กลายเป็นความเคยชิน ลืมตัวว่าที่เราเข้ามานี่ เป็นบ้านส่วนตัวอาจารย์อุบลและครอบครัว
เลยไม่สำรวมกาย วาจา ใจ ทำให้ได้กระทำความผิดใหญ่หลวงต่ออาจารย์อุบลและครอบครัว  ดังนี้
1.       เคยนึกว่าอาจารย์อุบลเวลาออกรายการ ถ้าชอบแต่งตัวรัดรูป ก็ต้องมั่นใจ ทำไมต้องคอยดึงเสื้อ ปัดนั่นปัดนี่  ถ้าไม่มั่นใจ ก็ไม่ควรแต่ง คนเราก็เป็นซะอย่างนี้ สิ่งดี ๆ ที่ควรสนใจกลับไม่สนใจ ไปสนใจในสิ่งที่ไม่ช่วยให้พ้นทุกข์แถมได้ทุกข์หนักเข้าไปอีก
2.       ในรายการคุยไปแจกไป มีตอนหนึ่งที่เป็นตอนนำเสนอตัวแทนจำหน่ายพาเมล่า ของจังหวัดลพบุรี   มีคนหนึ่งที่เขาเลิกเครื่องสำอางเดิมทันที ไม่ได้ทำตามขั้นตอนตามคู่มือหนีกรรมผิวพรรณ แล้วเขาก็กลับมาเป็นผื่นขึ้นเต็มหน้า แล้วอาจารย์อุบลก็พูดว่า “ เป็นอย่างนี้ทุกคน ไม่มีใครเก่งกล้าสามารถเอาชนะได้” ซึ่งฟังแล้วตัวเองรู้สึกว่า    อาจารย์อุบลเหมือนรู้ไปหมด แล้วไปต่อว่าคนที่ไม่ทำตามที่อาจารย์บอกไว้ ทั้ง ๆ ที่ความจริง คืออาจารย์อุบลรู้วิธีการเลิก สารสเตียรอยด์ ในเครื่องสำอางเป็นอย่างดี และได้นำมาบอกให้พวกเรารู้ พอเราไม่ทำตามขั้นตอน เราก็มีปัญหาอีก อาจารย์พูดความจริงให้เราฟัง แต่เราฟังแล้วตีความหมายไปอีกอย่าง   โง่แล้วยังอวดฉลาดอีกเรา
3.       ไปทำบุญที่บ้านสวน แต่แอบไปหาตัวแทนขายเครื่องสำอางในบ้านสวน และเอาไปขายในบ้านสวนด้วย แอบทำไม่ให้อาจารย์อุบลรู้  ทั้ง ๆ ที่ก็รู้ว่า ไม่มีอะไรจะปิดบังอาจารย์ได้เลย แต่ด้วยความอยากรวย เลยมองข้ามความถูกต้อง ความเหมาะสม มองไม่เห็นความดีความชั่ว เห็นแต่ความอยาก และที่สำคัญการกระทำของเรา เป็นการกระทำของคนอกตัญญู ไม่รู้บุญคุณคน สุดท้ายทุกคนที่ร่วมขบวนการ ก็ไปไม่รอดสักคน ของก็ขายไม่ได้   กิจการที่เคยทำอยู่ก็เจ๊งกันหมด ตัวเองก็โดนโกงเอาของไปก่อน แต่ไม่จ่ายตังค์  กว่าจะได้เงินคืนก็เป็นปี ก็ด้วยความช่วยเหลือของอาจารย์อุบล ทำไม่ดีกับท่าน แต่เวลาที่เรามีปัญหา ท่านก็ช่วยตลอด รู้สึกขยะแขยงตัวเองจริง ๆ ค่ะ
                ผลจากความคิดและการกระทำในครั้งนี้ ทำให้ชีวิตเราต้องตกอยู่ในความทุกข์ คนอื่นไม่รู้มองผิวเผิน คิดว่าเราสบาย มีความสุข แต่ตัวเรามีความรู้สึกทุกข์ตลอดเวลา มันไม่โล่งสมอง   ความขัดแย้งในเรื่องการมาทำบุญที่บ้านสวนกับคนที่บ้านก็ยังมีอยู่  ไม่ก้าวหน้าในทางธรรม
                สิ่งที่ยืนยันว่าการปรามาส ท่าน อ. อุบล เป็นบาปหนัก คือ หลังจากที่ได้ปรามาสท่าน อ. อุบลแล้ว   รถที่บ้านมีสองคัน ก็จะเปลี่ยนกันเสีย ทั้งคันของเราและคันของสามี  มีอาการเหมือนกันสตาร์ทติดยาก ขับไปดับ ไปให้ช่างดู เขาก็บอกไม่เป็นไร ช่างเขาไปขับก็ปกติ  ขับรถไปให้ช่างดูแทบทุกอาทิตย์  สามีมีปัญหาในหน้าที่การงาน เรื่องไม่ตรวจรับงานเพราะมีการเบิกจ่ายซ้ำซ้อน แต่ ผอ. ต้องการให้เซ็นต์ตรวจรับงาน เลยมีปัญหาร้องเรียนให้ตรวจสอบ ลูกชายก็มีเรื่องชกต่อยกับเพื่อน ทุกอย่างมันเกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกันอย่างต่อเนื่อง
            เหตุที่ทำให้สำนึกผิด ก็ได้จากการศึกษาธรรมะ ที่ท่าน อ. อุบล ได้นำมาบอกกล่าว และมีกรณีตัวอย่าง ในเรื่องการปรามาสท่าน อ. อุบล   เราก็ได้น้อมนำสิ่งเหล่านั้นมาพิจารณาตัวเอง ก็ได้เข้าใจว่าเราได้ทำความผิดอันใหญ่หลวง ชีวิตเราถึงต้องได้พบกับความทุกข์เช่นนี้
                เมื่อเข้าใจเหตุแห่งทุกข์ที่เราได้ปรามาส ท่าน อ. อุบลแล้ว ก็ได้ไปขอขมาท่าน อ. อุบล ที่บ้านสวนพีระมิด และเขียนเรื่องของตัวเองในเวปไซด์บ้านสวน
                หลังจากที่ได้ขอขมาท่าน อ. อุบล และเขียนเรื่องการปรามาสท่าน อ. อุบล ในเวปไซต์แล้ว สิ่งที่ได้รับคือ
รถทั้งสองคัน ขับไป ขับมา ก็ใช้งานได้เป็นปกติ จากที่คิดจะซื้อรถใหม่ เลยงดโครงการออกรถใหม่   สามียอมให้ไปทำบุญที่บ้านสวนได้   แต่อย่าบ่อย ลูกชายก็ดีขึ้นเข้ากับเพื่อนได้ แม้จะยังมีปัญหาอยู่บ้าง ก็จะมีคุณครูที่ช่วยดูแลให้ที่โรงเรียน ถ้าเขามีปัญหากับเพื่อนที่โรงเรียน เขาก็จะไปหาคุณครูคนนี้ตลอด ทำให้เราเบาใจขึ้นเยอะ ปัญหาที่ทำงานของสามี เห็นเขามาสอบอยู่สองครั้ง หลังจากนั้นก็ไม่มาอีกและก็ไม่ได้สรุปผลการสอบว่าเป็นอย่างไรจบไปเฉย ๆ แต่สำหรับตัวเองยังรู้สึกว่ามันไม่โล่งในใจ มันค้างคาใจ ที่ทำไมเราถึงเป็นคนเนรคุณผู้มีพระคุณได้ขนาดนี้ ก็ได้แต่ตั้งใจทำตามคำสอนของท่าน อ. อุบล ให้ดีที่สุด เพราะคิดว่า นั่นคือสิ่งที่จะช่วยให้เราหลุดพ้นจากทะเลทุกข์นี้ได้ ความผิดในครั้งนี้จำจนขึ้นใจ ทำให้เราต้องระวังและสำรวมทั้ง กาย วาจา ใจ ให้มากขึ้น
                        หนูกราบขอขมาท่าน อ. อุบล  และครอบครัว  ที่หนูทำตัวเป็นคนเนรคุณ  บัดนี้หนูสำนึกแล้วและขอตั้งใจทำบุญเต็มที่  เพื่อเป็นการทดแทนบุญคุณ  แม้ว่าทั้งชีวิตที่เหลืออยู่  ไม่สามารถทดแทนได้ทั้งหมด  แต่หนูก็จะทำให้ได้มากที่สุดค่ะ
กราบ  กราบ  กราบ
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 16:43:01


ความคิดเห็นที่ 104 (1640646)

 

นัชญ์  ชื่อนายภัคณัฐฎ์  ธรณ์วรรธ์ธนา อายุ 46 ปี 

ชื่อเล่นชื่อ นัชญ์ค่ะ

เป็นคนกรุงเทพ  ปัจจุบันอยู่ที่นนทบุรี

การศึกษา เศรษฐศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

การทำงาน ลูกจ้างชั่วคราวที่ สถานสงเคราะห์เด็กพิการและทุพพลภาพปากเกร็ด ตำแหน่งนักพัฒนาสังคม ทำทะเบียนประกันสังคม , นำส่งข้อมูลเงินสมทบ , ลงข้อมูลการรับบริจาค

 

 

 

"กราบ

ท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือ

รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด 

แล้วชีวิตดียังไง"

 

นัชญ์ได้กราบท่านครั้งแรกเมื่อได้คุยโทรศัพท์กับท่านอาจารย์  และได้กราบท่านอาจารย์โดยตรงที่บ้านสวนซึ่งขณะที่กราบก็ร้องไห้ไม่หยุดเลย  ไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน  ดีใจมาก ๆ

 

 

ผลที่มีต่อชีวิตของนัชญ์ คือ 

1. เมื่อวานนี้เป็นวันครบรอบวันเกิด 46 ปี เจ้าของรถที่จะขายได้ให้คนนำรถมาให้ดูที่บ้าน  ปรากฎว่าเป็นรถปิ๊กอัพใช้แล้วที่ดีกว่าที่คิดไว้มาก  และราคาก็ถูกกว่าตามเต๊นท์มาก ๆ 

2. และวันเดียวกันก็ได้รับองค์จี้ที่บูชาทางคุณแมว  ดีใจมากที่ได้นำมาสวมในวันเกิดพอดี  ซึ่งก็ให้ พ่อ แม่ และป้า ได้สวมด้วย  ทำให้พ่อซึ่งป่วยและไม่ยอมไปโรงพยาบาล  มีอาการดีขึ้น  อาการแน่นดีขึ้น อาการบวมที่ท้องและขาลดลง ใบหน้าที่บวมก็ลดลง

3.  การงานของนัชญ์ดีขึ้น หัวหน้าและผู้บังคับบัญชามองนัชญ์ในแง่ดีมากขึ้น

4. นัชญ์เป็นคนที่รักษาศีลห้าได้ดีมากขึ้นกว่าเดิม 

5. การเงินดีขึ้น  ป้าได้ยกหนี้ที่ติดให้หมด โดยที่นัชญ์ไม่ได้ขอเลย

นัชญ์ขอกราบ กราบ กราบ ท่านอาจารย์อุบล และเทวดาทุกพระองค์ที่ดูแลรักษาท่านอาจารย์อุบล  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่บ้านสวนพีระมิด ที่ได้เมตตานัชญ์และครอบครัวอย่างมากมายเจ้าค่ะ

 

ปรามาสท่าน อาจารย์อุบลบ้านสวนพีระมิด

แล้วเป็นอย่างไร

นัชญ์ชื่นชมและคิดอยู่ตลอดเวลาว่าท่านอาจารย์อุบลเป็น idol ของนัชญ์  แต่นัชญ์ก็ไม่รู้ว่าทำไมจิตนัชญ์จึงคิดแวบไปในทางที่เลวร้ายได้อย่างไร  นัชญ์คิดเลวคิดชั่ว  ดังนี้

1. นัชญ์คิดว่าท่านอาจารย์อุบลและท่านอาจารย์มงคลหน้าตางดงามทั้งคู่ ท่านทั้งสองจะมีความสัมพันธ์เรื่องเพศหรือไม่

2. นัชญ์เห็นภาพพ่อมีความสัมพันธ์ทางเพศกับท่านอาจารย์

3. ตอนที่ท่านอาจารย์บอกว่ามีคนนึกเอาเท้าไปที่หน้าท่านอาจารย์   นัชญ์ก็นึกภาพเท้าไปที่หน้าท่านอาจารย์ทันที 

4. นัชญ์มองที่ศรีษะท่านอาจารย์ แล้วเห็นผมขาว  แล้วนัชญ์ก็คิดว่า ท่านอาจารย์จะย้อมผมหรือไม่  

 

 5. ตอนนี้ที่อยู่หน้าคอม ก็นึกภาพเท้าไปที่ท้องท่านอาจารย์อีก

ผลคือ นัชญ์รู้สึกว่าที่หัวมีผมขาวขึ้นมามากขึ้น  นัชญ์รู้สึกเจ็บและบวมที่อวัยวะเพศ และบริเวณใกล้เคียง และเมื่อใช้กระดาษชำระซับก็พบว่ามันอักเสบด้วย  หลังจากกลับมาจากบ้านสวน  ซึ่งนัชญ์ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร  คิดหาสาเหตุอยู่นาน  แต่ก็ไม่พบ คิดว่าใส่กางเกงซ้ำ  ก็ไม่ซ้ำ   หรืออาจจะเป็นตอนเข้าห้องน้ำใช้น้ำล้างแล้วสกปรกติดเชื้อ   ก็ไม่น่าใช่  แล้วก็ไม่แน่ใจ  แต่แล้วนัชญ์ก็ขอใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย  และขอบารมีพระศรีอาริย์ที่อาจารย์อุบลได้อาราธนามา  และจำไม่ได้ว่าขอให้องค์จี้ช่วยให้ตรงนั้นหายเจ็บและบวมหรือไม่  ซึ่งพอขอปุ๊ป  นัชญ์ก็หายทันทีเลย  แล้วนัชญ์ ก็ไม่รู้สาเหตุและลืมเรื่องนี้ไปเลย    แต่พอวันนี้  ตอนเย็น ก็เดินเข้าร้านเน็ต และก็เข้าเว็ปบ้านสวน   เห็นกระทู้นี้  ก็อยากเขียน การสารภาพบาปด้วย  แต่คิดว่าไม่มีเรื่องที่เขียน   แต่คิดไปคิดมา  ก็เลยรู้ว่า  ตัวนัชญ์เองเป็นคนที่เลว ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ มาก  มีความคิดชั่ว ๆ เกิดขึ้นมามากมาย   แต่ก็ยังคิดว่าตัวเองเป็นคนดีอยู่   เป็นดังที่ท่านอาจารย์พูดว่า    คนเลวชอบสร้างภาพให้เห็นเป็นคนดี   แต่แท้จริงแล้วตัวเองเลวร้ายอย่างมากมาย    แล้วก็นึกกรรมออกทันทีเลยว่า  เราเจ็บที่ตรงนั้น  เป็นเพราะมโนกรรมที่เกิดขึ้นมาอย่างรวดเร็วโดยที่มันเกิดขึ้นมาเอง  ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด  อาจเป็นเพราะความชั่วในตัวที่ยังคงมีอยู่ก็ได้  หรือเพราะจิตมาร  หรือเพราะมารร้ายกำลังครอบงำ   แต่ไม่ว่าเพราะสิ่งใด  นัชญ์จะไม่ยอมแพ้ความเลวนั้นแน่นอน   เพราะนัชญ์จะต้องเอาชนะมารทั้งหลายให้ได้  และนัชญ์ขอมาอัพเดตต่อคือ ทุกวันนี้พอ นัชญ์จะนึกถึงสิ่งไม่ดี นัชญ์ก็จะนึกภาพมีดขนาดใหญ่สับที่อวัยวะของนัชญ์ สับที่ตัวของนัชญ์  และก็จะนึกภาพมีดขนาดใหญ่ขึ้นมาก ๆ สับที่ตัวนัชญ์ สับที่ัหัวของนัชญ์ สับที่ปากของนัชญ์  เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความคิดชั่ว ๆ ขึ้น  ซึ่งก็ได้ผลดีมากค่ะ  

          นัชญ์  ภัคณัฐฎ์  ธรณ์วรรธ์ธนา  กราบขอขมา ท่านอาจารย์อุบล  ท่านอาจารย์มงคล  เทวดาทุกพระองค์ที่ดูแลรักษาท่านอาจารย์อุบล  เทวดาทุกพระองค์ที่ดูแลรักษาท่านอาจารย์มงคล  และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่บ้านสวนพีระมิด  ที่ได้ปรามาสท่านอาจารย์ทั้งสองท่านด้วยเจ้าค่ะ

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภัคณัฐฎ์ ธรณ์วรรธ์ธนา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 19:06:03


ความคิดเห็นที่ 105 (1640667)

"ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิดแล้วจะได้รับผลกรรมอย่างไร"

ชื่อ นายวีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี อายุ 32 ปี ชื่อเล่น เอิ้น
การศึกษา ปริญญาตรี ม.รามคำแหง

สาขา มนุษย์ศาสตร์ สื่อสารมวลชน
อาชีพ ธุรกิจของครอบครัว (บ.โรงพิมพ์ร่มเกล้า จำกัด)
ตำแหน่ง พนักงานคอมพิวเตอร์

จังหวัด กรุงเทพมหานคร
       ขอเล่าเหตุการณ์ย้อนไป ปีกว่าๆ ช่วงแรกๆ ที่รู้จักบ้านสวน แต่ก็ยังไม่ได้มา เคยคิดปรามาสท่านอาจารย์อุบล ดนเยอะมากๆ ครับ เรื่องมีดังนี้ครับ
- ขายเครื่องสำอางค์ คอนนั้นคิดว่าท่านอาจารย์อุบล ให้ธรรมะ แต่แฝง การขายเครื่องสำอางค์ เป็นความคิดลบมากๆ มองโลกในแง่ร้าย โดยไม่คิดเลยว่า การที่คนมาทำบุญแล้วหายป่วย แถมการหายต้องออกทีวี อาจารย์ก็ต้องเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่รวมไปถึง ค่าน้ำ ค่าไฟ โดยคนที่มาไม่ต้องจ่ายเงินเลยก็ได้ ตอนนั้นที่ขอขมาท่านก็บอกว่า ลองให้เราทำบ้าง เปิดบ้านให้คนเข้ามาแบบนี้ ทำรายการ สิ่งที่อาจารย์ทำเพื่อคนอื่น แต่ใช้เงินส่วนตัวตลอด เฮ้อ ดันไม่คิด เซงตัวเอง ผมเลยเข้าใจ ชัดเจนเลยครับ
- หน้าตา มีอยู่วันนึงที่ได้พบท่านอาจารย์เพิ่งกำลังจะออกไปทำธุระ ก็ึคิดว่าทำไมวันนี้ หน้าโทรม ไม่เหมือนวันก่อนที่เจอกันเลย เซงตัวเองเหมือนกัน ที่เป็นคนชอบมองหาแต่ส่วนไม่ดีของคนอื่น มานั่งคิดทบทวนทีหลังเพราะท่านไม่ค่อยได้พักผ่อน
- หน้าอก ตอนนั้นที่ท่านอาจารย์อุบล ออกรายการ จะใส่เสื้อรัดรูป ก็ดันไปสังเกตุอีก ว่า ทำไม หน้าอกเหมือนจะไม่เท่ากัน สังเกตุอะไรที่แบบไม่น่าจะสังเกตุเลย
- สงสัย เวลาที่ท่านอาจารย์อุบล บรรยายอะไร เรามักจะสงสัยตลอดว่ามันจะเป็นไปได้หรือ เพราะบางเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ ชอบคิดว่า ทำไม? ใฃ้เวลาอยู่นานเป้นปีๆ เลยครับ ว่าจะเชื่อเต็มร้อย เพราะ ได้พิสูจน์ มาแล้วว่าสิ่งที่ท่านอาจารย์อุบลพูด เกิดขึ้นจริง เห็นจริงๆ กับตา
- มโนกรรมคำหยาบ ตอนนั้นที่ได้เข้าไปอ่านเฟสบุคปลอม แล้ว เหมือนกับว่าคำหยาบต่างๆ ที่พูดถึงอาจารย์ เหมือนมันมา เป็นเสียงในความคิด อยู่ตลอดเวลา อันนี้ได้รับการเตือน โดยไ่ก่แจ้ ที่บ้านสวน วิ่งเข้ามาจิกเลยครับ พยายามข่มจิตอยู่นานเลย กว่า จะเอาชนะตรงนั้นมาก็นานพอดูครับ
- เคยคิดปรามาส รหัส อ.อุบลช่วยด้วย แบบว่ามันจะเป็นไปได้ไง บางทีก็มีแอบ หัวเราะในใจ แบบบางเรื่องก็ไม่ช่วยเหลือตัวเองก่อน เฮ้อ เซงตัวเอง (อีกรอบ)
- มีอีกนะครับ ช่วงที่ ธนบัตรขวัญถุง ออกมาใหม่ๆ ในรูปองค์เทพสฟิงค์มีรูปหน้าท่านอาจารย์อุบล พอดูปุ๊ป ก็หลุดหัวเราะออกมาเลยครับ เฮ้อ แบบว่า คิดในใจเอาอีกแล้ว ก็รีบขมาทันทีเลยครับ ยังไม่มีอาการอะไร
- อีกเรื่องครับ เวลาอาจารย์ท่านเตือนอะไร ในเวป บางทีมันชอบแว่บ (อีกแล้ว) ว่า โหดจัง ยิ่งคิดก็ยิ่งเบื่อตัวเองมากๆ ครับ แบบว่า มันก็รู้อยู่แล้วนะ ว่า ถ้าเราคิดแบบนี้ จะได้รับผลอะไรแต่ก็ไม่วาย แพ้จิตชั่วๆ ในตัวเอง บางที ไม่ค่อยกล้าอ่านเลยครับ กล้วมันจะแว่บอีก หลังๆ นี่ เวลาจะอ่านต้องเตรียมสติ ให้พร้อมก่อนไม่งั้น เสร็จมันทันที
ผลกรรมที่ได้รับ ;
- "ขี้กลากขึ้นหัว แบบรักษาไม่หายเลย" ตอนนั้นเป็นครั้งแรก ที่ปรามาส ก็เลยไปกราบขอขมาท่านออกทีวี แต่ก็ยังไม่หายขาดครับ แต่ไม่นานก็หายครับ คิดว่า ท่านคงต้องการให้เรา รับกรรมนานๆ จะได้เข็ดหลาบ ไม่ทำอีก แต่ จิตมันชอบแว่บ แบบว่าไวมากๆครับ ทุกๆครั้งพอมันเริ่มคิดปุ๊บ ก็เริ่มขมาท่านทันทีเลย แต่มันก็เป็นบ่อยนะครับ เป็นๆ หายๆเพราะ คิดบ่อยมากๆ พยายามจะห้ามใจ จะไม่คิดแต่มันเป็นอัตโนมัตเลยครับ
- บางทีก็ใช้รหัสไม่ได้ผล ครับ  
       สรุป ก็คือ เป็นมโนกรรมที่เลวมากๆ แต่บางทีมันไวจริงๆ ครับและตอนนั้นก็ได้"กราบขอขมาท่านอาจารย์อุบลออกทีวี" ส่วนอาการคือ "คันหัว"ซึ่งท่านอาจารย์อุบลก็เคยได้เตือนไว้แล้ว ว่าคนที่จะปรามาส สถานเบา ก็คือ "ขี้กลาก" ผมยังรู้สึกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่านยังเมตตา จัดสถานเบาให้ผม ให้ได้รู้ว่าสิ่งที่ทำน่ะมาป ดีกว่า ไม่ได้รับการเตือนอะไรแล้ว ดิ่งลงนรกไปเลย ต้องขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ครับที่ยังเมตตา คนคิดลบ อย่างผม ผมเฃื่อมั่น ในความดีของ ท่านอาจารย์อุบล 100 เปอรเซนต์ เพียงแต่ใจผมเองที่มันเลว ชอบแว่บๆ อยู่เรื่อย แต่หลังจากมาบ้านสวนนานๆ ก็ไม่ค่อยเป็นแล้ว ครับเพราะ ทุกๆ ครั้งที่อาจารย์ท่านได้เมตตา ก็จะเก็บเอาความรู้สึกดีดี เหล่านั้นมากลบ ความคิดชั่วๆ ทันที เลยครับ
       ผมขอกราบขมา ท่านอาจารย์อุบล สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ หากผมได้ล่วงเกินทั้ง ทางกาย วาจา ใจ ที่ตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ที่นีกได้ก็ดี ไม่ได้ก็ดี ขอบารมีพระพุทธเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระท่านอาจารย์อุบล ทรงเมตตา บังคับกระแสจิตอย่าให้ลูกคิดแบบนั้นอีกเลยครับ
       ขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว ที่ได้เมตตา คนบาปอย่างผมมาโดยตลอดครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 21:06:35


ความคิดเห็นที่ 106 (1640691)


ชื่อ นายวีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี อายุ 32 ปี ชื่อเล่น เอิ้น
การศึกษา ปริญญาตรี ม.รามคำแหง

สาขา มนุษยศาสตร์ สื่อสารมวลชน
อาชีพ ธุรกิจของครอบครัว (บ.โรงพิมพ์ร่มเกล้า จำกัด)
ตำแหน่ง พนักงานคอมพิวเตอร์

จังหวัด กรุงเทพมหานคร

"กราบ

ท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือ

รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด 

แล้วชีวิตดียังไง"

       ขอเล่าเรื่องที่ การกราบท่านอาจารย์ แล้วมีผลอย่างเป็นรูปธรรมแล้วกันนะครับ แบบว่า ตอนนั้นจำได้ว่า ตัวเองเป็นหวัด ภูมิอแพ้นี่แหละครีบ ตอนที่ลาท่านอาจารย์กลับบ้านก็กราบ ในครั้งแรก ก็ยังไม่ทันสังเกตุ อะไร แต่ พอกราบเพิ่ม เอ๊ะ ทำไม อาการมันดีขึ้นไปอีก เลยคิดว่าการกราบ หลายครั้งมีผลต่อ การบำบัดแน่นอน แต่ปรกติ เวลาเข้ามาหน้าเวปไซต์ก็ต้องกราบพระ  และกราบท่านอาจารย์อุบลก่อนอยู่แล้วน่ะครับ เวลากราบท่านก็รู้สึกสบายใจ โล่ง มีความสุข น่ะครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 22:28:54


ความคิดเห็นที่ 107 (1640709)

ความเห็นที่ 6639 (1640694)
แจ้งลบความคิดเห็น

วิกฤต! โลหิตหมดคลัง สภากาชาดไทยวอนประชาชนบริจาคช่วยผู้ป่วยด่วน

2012-11-15 11:28:29



สภากาชาดไทย เผย ปริมาณโลหิตบริจาคลดลงเหลือวันละ 1,200 ยูนิต ขณะที่ยอดขอใช้โลหิตทั่วประเทศเพิ่มสูงเกิน 2 เท่าของโลหิตบริจาค ส่งผลให้ไม่เพียงพอ วอนประชาชนช่วยกันบริจาค เมื่อวันที่ 14 พ.ย.55 เวลา 17.25น. สภากาชาดไทย ประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์ วอนประชาชนไปบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย เนื่องจากขณะนี้ ปริมาณโลหิตบริจาคลดลงเหลือ วันละ 1,200 ยูนิต ขณะที่ยอดขอใช้โลหิตของผู้ป่วยในโรงพยาบาลทั่วประเทศเพิ่มสูงเกิน 2 เท่าของโลหิตบริจาค ถึงวันละ 5,000 ยูนิต ส่งผลให้ไม่มีโลหิตเพียงพอ

 

นี่คือสัญญานบ่งบอกว่า

ต่อไป

จะไม่มีใคร

 ให้เลือดใครได้ อีกต่อไป

 

ด้วยเหตุผล นานา ประการ

 

ส่วนผู้บาดเจ็บ

ที่เสียเลือดมาก จะไม่ใช่

ลูกบ้านสวนตัวจริง

 

เพราะ

ลูกบ้านสวนตัวจริง

ได้ผ่านหลักสูตร

การห้ามเลือดทันทีมาแล้ว

ดังนั้น พวกเรา สามารถ

ห้ามเลือด กันเองได้

 

แต่คนอื่น

ที่ไม่รู้จักบ้านสวน

หรือ รู้จักแต่ไม่เชื่อ

ไม่ศรัทธา อันนี้ เขาทำไม่ได้

และ

คนที่ไม่ศรัทธา

ไม่สามารถ

รับความช่วยเหลือจากพวกเราได้

 

ส่วนคนที่

ไม่รู้จักบ้านสวนพีระมิด

แต่เกิดวิกฤติแล้ว บอกแล้วจะศรัทธา

เราจึงจะช่วยเขาได้

 

เบื้องบนบอก

เตือน

ลูกบ้านสวนว่า วันเกิดภัยพิบัติ

จะมีคนที่เคยปรามาสบ้านสวนพีระมิด

ขอความช่วยเหลือ

แกล้งศรัทธา เพราะหมดหนทาง

พวกเราจะรับรู้ได้โดยผลการบำบัด

 

ไม่ว่า

จะใช้รหัส ก็ไม่ได้ผล ไม่ดีขึ้น

 

ให้ทุกคนหยุดทันที

 

ไม่ว่าจะมองจี้ ก็จะถูกปิดพลังงาน

 

อย่าเสียเวลา

อย่าพยายาม อีกต่อไป

นี่คือ รหัส เตือน จากเบื้องบน

 

เพราะสุดท้าย

จะไม่มียา ไม่มีหมอ

จะมีแต่อันตราย ทั้งจาก

พายุ ฝน ฟ้า สัตว์ร้าย ภูติผีปีศาจ

โรคระบาด บาดเจ็บ

ไม่มีใครช่วยได้

นอกจาก

.....

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 22:54:09


ความคิดเห็นที่ 108 (1640713)

(โดยคุณพิชัย  ภูกิ่งพลอย)

ชื่อ นายพิชัย   ภูกิ่งพลอย  ชื่อเล่น ชัย

การศึกษา ม.3 โรงเรียนทุ่งฝนวิทยาคาร

หน้าที่การงาน ธุรกิจส่วนตัว  ทำนา 

จากการที่ผมได้กราบท่านอ.อุบลและศพคุณตาสำเภาแล้ว

เมื่อก่อนนี้ผมไปพูดอะไรกับใครก็ไม่ค่อยมีคนฟังและเชื่อ

และไม่สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้

แต่ทุกวันนี้

แค่คิดอยากให้ฝนตกให้แดดออกก็ทำได้โอโห้อัศจรรย์จริงๆ

ก่อนเข้าบ้านสวนพีระมิดวันที่ 10-11พ.ย55 ผมคิดว่าจะสูบ

น้ำใส่แปลงข้าวโพดแต่ผมไม่ได้ทำเพราะยุ่งมาก

ผมก็เล้ยคิดว่าข้าวโพดของเราปลูกไว้คราวนี้คงตายแน่ๆๆ

พอคิดเท่านั้นแหละครับ

ฝนตกลงมาทันทีและผมก็ไม่ได้ลืมขอให้วันที่ 10-11พ.ย55

ก็ขอให้แดดอย่ามีฝนตกลงเล้ยเพราะจะโดนข้าวที่พึ่งเกี่ยว

เสร็จใหม่ๆยังไม่แห้งถ้าโดนน้ำอีกคงได้ทิ้งแน่ๆๆ

กลับบ้านวันที่ 12 พ.ย 55 ผมรีบไปดูข้าวที่เกี่ยวไว้ทันที

ปรากฎว่า ข้าวที่พึ่งเกี่ยวเสร็จไม่เปียกไม่น้ำฝน

จากที่ผมเป็นคนชั่วสุดๆแล้วกลับตัวกลับใจ

ชีวิตก็ดีขึ้นจริงๆครับ

ผมก็สามารถนำเอาวิชาที่ท่านอ.อุบลถ่ายทอดให้

เพื่อช่วยเหลือคนอื่นได้มากขึ้น

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-15 23:09:08


ความคิดเห็นที่ 109 (1640728)

                             ( แก้ไขใหม่ค่ะ)

ชื่อ นางสาวประภาสิริ    ถาวร   ชื่อเล่น มิ้ม

อายุ 28 ปี     จังหวัดที่อยู่ กำแพงเพชร

การศึกษา ปริญญาตรี คณะครุศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อาชีพ รับราชการครู  โรงเรียนพรานกระต่ายพิทยาคม

"กราบรูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

แล้วชีวิตดียังไง"

      มิ้มได้รู้จักบ้านสวนพีระมิดเพราะค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับภัยพิบัติในต้นปี 54 ทุกครั้งที่เข้ามาในเว็บไซท์บ้านสวนความทุกข์ไม่สบายใจจะหายไป ใจสงบมีความสุขทุกครั้ง และชอบอ่านคำสอนที่ท่านอาจารย์อุบลสอน เพราะเป็นภาษาง่าย เข้าใจเลย เอาไปปฏิบัติก็ง่ายทำให้พ้นทุกข์  ใจของมิ้มมีความสุข มีปัญญา มีพลังทุกครั้งที่เข้ามาในเว็บ คำสอนของท่านอาจารย์สามารถมาเปลี่ยนคนบาปหนาอย่างมิ้มได้ตั้งแต่ติดตามทางเว็บไซท์ก็ตัดสินใจไม่เบียดเบียนเลิกทานเนื้อสัตว์ และพยายามหันมาตั้งใจรักษาศีล 5 ทำสมาธิ และในที่สุดก็ได้มาบ้านสวนตอนนั่งมอเตอร์ไซท์เข้ามารู้สึกปีติ มีความสุข น้ำตาไหลตื้นตันที่ในที่สุดก็ได้มาบ้านสวนแล้ว

      ทุกครั้งที่ได้พบเห็นหน้าท่านอาจารย์จะรู้สึกเบิกบานใจ มีความสุขมากๆๆ อาการเหนื่อยหายไปหมด มีแต่ความสุขสดชื่น พลังแรงกายแรงใจกลับมา มีความรู้สึกว่าแค่ได้เห็นท่านก็ได้รับพลัง มีพลังแล้ว ตอนที่กราบท่านอาจารย์ใจยิ่งรู้สึกมีความสุข สดชื่น มีพลัง ความเหนื่อยล้า ง่วงนอน ความทุกข์ใจ ปวดเมื่อย หรือเจ็บปวดร่างกายส่วนใดหายหมดเลย รู้สึกจิตใจสงบเย็นเหมือนได้กราบพระพุทธเจ้า ตั้งแต่นั้นมาทุกครั้งที่ได้บ้านสวนมีโอกาสก็จะกราบท่านอาจารย์ทุกครั้ง เพราะรู้สึกศรัทธารักบูชาท่าน ทุกครั้งที่กราบท่านเหมือนได้กราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งจักรวาล  กราบด้วยใจ กราบด้วยความศรัทธา มีความสุข สงบ เบิกบานมีพลัง พ้นความทุกข์ หายเจ็บหายป่วย มีปัญหาความทุกข์อะไรก็คลี่คลายได้ทั้งหมดจริงๆค่ะ

      ต่อมาได้บูชารูปท่านอาจารย์กลับบ้านและไว้ที่ห้องพระ เวลาจะสวดมนต์ นั่งสมาธิ จะกราบท่านอาจารย์ กราบแล้วใจสงบ เบิกบานมีความสุข หลายครั้งมากที่กราบแล้วมีอาการปีติขนลุกน้ำตาไหล เวลาทำสมาธิก็ทำสมาธิได้ดีได้นาน

      หลายครั้งที่มีเรื่องทุกข์อยู่ในใจ  หาทางออกไม่ได้ ก็จะเข้าห้องพระนั่งมองที่รูปท่านอาจารย์แล้วกราบ พอได้กราบใจเริ่มสงบ ความทุกข์คลายออกไป สติปัญญาก็เข้ามาคิดออกหาทางออกได้ และได้รับความช่วยเหลือให้เรื่องราวต่างๆนั้นคลี่คลายไปในทางที่ดี บางครั้งมีอาการปวดหัวหรือเจ็บป่วย ความเจ็บป่วยก็หายไปค่ะ ยิ่งกราบความทุกข์ ความไม่สบายก็ยิ่งลดลงเรื่อยๆ และที่สุดก็มีความสุข ใจสบายเป็นสมาธิ ปัญหาที่เรามีแก้ได้มีทางออกทุกครั้งที่กราบรูปท่านอาจารย์อุบล สาธุ กราบขอบพระคุณบุญบารมีอันสูงยิ่งของท่านอาจารย์อุบลที่ทำให้มิ้มพ้นทุกข์เพียงแค่กราบท่านอาจารย์ด้วยจิตเคารพ ศรัทธาค่ะ สาธุ

      คนที่มิ้มได้ไปใช้จี้สามร่มโพธิ์ศรีบำบัด  อาการเจ็บป่วยจะดีขึ้นและจำนวนมากที่อาการเจ็บป่วย ความทุกข์หายไปหมดเพียงกราบรูปท่านอาจารย์อุบลด้วยความเคารพ

      คนที่ทำให้มิ้มรู้สึกทึ่งมากๆมีอยู่หลายคนค่ะ ขอเล่า 3 คน

คนที่ 1 คุณยาย ป่วยเป็นอัมพฤกษ์เพียงกราบรูปท่านอาจารย์ด้วยความเคารพก็หายจากอัมพฤกษ์ คุณยายบอกว่า ยายหายแล้ว!!!ปีติตื้นตันไปด้วยค่ะ

คนที่ 2 พี่ป่วยเป็นกระดูกทับเส้นปวดตั้งแต่หลังไปจนถึงขา เจ็บป่วยมาเป็นแรมปี นั่งทำงานไม่ได้ คุณหมอบอกว่าถึงจะผ่าตัดก็อาจจะไม่หาย  แต่ผลปรากฏเป็นอัศจรรย์ คือ มิ้มเล่าให้พี่เค้าฟังว่าท่านเป็นครูอาจารย์ของมิ้ม สอนธรรมให้ชีวิตใหม่กับมิ้ม มีบุญบารมีมากมีคนที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์กราบด้วยใจศรัทธาแล้วหาย พี่เค้ารู้สึกจิตเปิดศรัทธามาก กราบครั้งแรกพี่เค้าบอกปีติมีความสุข ขนลุกไปทั้งตัว พอกราบครั้งที่ 2 อาการปวดที่หลังและขาหายไปหมดแล้ว เหลือเพียงจุดเดียวคือ ปวดที่ก้นกบ อัศจรรย์ทีสุดเลยค่ะ ขณะที่พี่เค้ากราบด้วยความศรัทธาเหมือนกราบพระพุทธเจ้า พี่เค้าคงได้รับพลังบุญบารมีจากรูปท่านอาจารย์ทำให้เจ้ากรรมนายเวรที่เกาะตามจุดต่างๆมาโมทนาบุญทำให้หายเจ็บหายป่วย สาธุ

คนที่ 3 ครูสมศักดิ์ ปวดแขนมานานคนนี้มิ้มนำจี้สามร่มโพธิ์ศรีบำบัด อาการดีขึ้น 50 % ที่เหลือมิ้มให้กราบรูปที่เป็นรูปกระดาษขาวดำถ่ายเอกสารขนาดเล็ก ครูสมศักดิ์บอกว่ากราบแล้วรู้สึกอาการดีขึ้น มิ้มก็ให้กราบไปเรื่อยๆ แล้วก็มีโทรศัพท์ของครูเค้าแทรกมา หลังคุยโทรศัพท์เสร็จลองยกแขน พูดกับมิ้มด้วยความดีใจว่า หายปวดทั้งหมดเลย ยกแขนได้แล้ว สุดยอด ศักดิ์สิทธิ์มากๆๆเลยภาพนี้ เดี๋ยวจะนำไปเข้ากรอบ กราบทุกวันเลยจะได้หายเจ็บหายป่วย แก้ปัญหาชีวิตได้เหมือนวันนี้ เค้าตื่นเต้น ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์และมิ้มใหญ่เลยค่ะ

          กระดาษแม้เพียงถ่ายเอกสารขาวดำ แต่มีรูปท่านอาจารย์อุบลก็เป็นรูปที่ศักดิ์สิทธิ์มีบุญบารมีมากล้น เทวดาคุ้มครองมาก เพียงแค่กราบด้วยความศรัทธาก็หายเจ็บ หายป่วย พ้นทุกข์แล้วละคะ สาธุ

      หลายๆคน รวมทั้งมิ้มด้วย ต่างตั้งคำถามว่าท่านอาจารย์อุบลเป็นใครกันนะ ทำไมท่านถึงมีบุญบารมีมากขนาดนี้  เพียงแค่กราบรูปท่านด้วยความศรัทธาก็สามารถได้รับพลังบุญบารมีของท่านได้แล้ว นี่เป็นเรื่องอัศจรรย์ที่สุดในชีวิตของมิ้มและอีกหลายคนที่ได้กราบท่าน เพราะตั้งแต่เกิดมาในชีวิตกราบอะไรก็กราบมาเยอะแล้ว กราบด้วยความศรัทธาด้วย  แต่ทำไมไม่หายเจ็บหายป่วย หายทุกข์ ปัญหาต่างๆคลี่คลายเหมือนกราบท่านอาจารย์อุบล สาธุ

ประภาสิริ  ถาวร

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 00:03:22


ความคิดเห็นที่ 110 (1640729)

 ชื่อ นางสาวประภาสิริ    ถาวร   ชื่อเล่น มิ้ม

อายุ 28 ปี     จังหวัดที่อยู่ กำแพงเพชร

การศึกษา ปริญญาตรี คณะครุศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อาชีพ รับราชการครู  โรงเรียนพรานกระต่ายพิทยาคม

ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิดแล้วได้รับผลกรรมอย่างไร

ความทุกข์ใจของมิ้มที่สุดก็คือ เรื่องจิตแว๊บ  ปรามาสสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีบุญบารมีมาก ซึ่งมันเริ่มตั้งแต่มิ้มเริ่มปฏิบัติกรรมฐานอย่างจริงจังที่วัดท่าซุง คือเวลามองที่พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมจะเห็นเป็นภาพลามกที่พระพุทธรูป รู้สึกทุกข์มากๆจนไม่อยากที่จะมองหรือคิดถึงภาพพระ เพราะเมื่อก่อนตอนที่ยังไม่ปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังก็ไม่เป็น พอเราเริ่มทำจริงจิตแว๊บ ภาพลามก คำหยาบคาย ก็พากันผุดขึ้นมารู้สึกทุกข์มากๆๆ และเมื่อได้มารู้จักท่านอาจารย์อุบลบ้านสวนพีระมิด ได้มาบ้านสวน ความคิดภาพลามก คำหยาบคาย ก็ผุดขึ้นมาเวลาที่มองภาพสมเด็จพระบรมธรรมบิดา สมเด็จองค์ปฐม ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคลและคุณท๊อป ทำให้มิ้มรู้สึกทุกข์ปวดหัว แทบระเบิด ทุกข์ใจอยากร้องให้ไม่อยากมองภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่อยากปรามาสไม่อยากสร้างบาป ที่เป็นเช่นนี้ก็คงเป็นเพราะมิ้มทำผิดศีลมาอย่างหนักทุกข้อ โดยเฉพาะศีลข้อที่ 3 และ 4

 รูปแบบของการปรามาสที่เคยผุดหรือคิดขึ้นมาเอง

-  มิ้มเคยชอบมองที่หน้าอก เอว ก้น ของท่านอาจารย์ เพราะชอบที่หุ่นของท่านอาจารย์อยากมีอย่างท่านอาจารย์บ้าง มองบ่อยมองนาน เพราะว่าสวยใหญ่เข้ารูป  ผลกรรมที่ได้รับทันที มีอาการคันมากที่อก เอว และก้น คันจนแดงเป็นแผล เมื่อขอขมาท่านอาจารย์ด้วยจิตที่สำนึกผิดอาการก็ดีขึ้นค่ะ

-  เวลาที่ท่านอาจารย์ใส่กางเกงรัดรูปเคยมองไปที่เป้ากางเกง พอรู้ตัวก็รีบน้อมจิตขอขมาท่านอาจารย์อุบล แต่ผลกรรมบาปหนักปรามาสทำให้ได้รับ ผลกรรมทันที คือ คันมากที่อวัยวะเพศของตัวเอง  

- เคยจิตแว๊ปเห็นภาพท่านอาจารย์โป๊ เห็นอะไรมาทิ่มก้นของท่าน และรีบตัดความคิดนั้น น้อมจิตขอขมาท่านอาจารย์ ผลกรรมที่ได้รับทันที คือ คันตามตัว อวัยวะเพศและที่ก้น รู้สึกเครียดทุกข์ใจมากๆๆพยายามคุมความคิด เพราะรู้ว่าท่านเป็นใครมีบุญบารมีมากล้น ใครปรามาสไม่ได้เราถึงได้รับผลกรรมทันที

- ช่วงแรกเคยคิดสงสัยว่าท่านอาจารย์อุบลและท่านอาจารย์มงคลยังมีความสัมพันธ์กันแบบสามีภรรยากันหรือเปล่า ผลกรรมท่าได้รับทันที ทำให้มิ้มคันที่อวัยวะเพศ

-  เคยสงสัยและคิดว่าทำไมผู้มีบุญบารมีมากล้นอย่างท่านถึงลื่นล้มได้ ผลกรรมที่ได้รับทันที ก็คือ ในตอนนั้นมิ้มกำลังซักผ้าเดินไปก็ลื่นล้มน้ำที่เปียกอย่างแรงมาก  แต่แปลกมากที่ไม่เจ็บไม่ช้ำ  ก็เลยรู้ทันทีว่านี่เพราะคิดสงสัยผู้มีบุญบารมี ถึงได้รับบาปให้ลื่นล้มอย่างฉับพลันทันที และอุบัติเหตุการที่ลื่นล้มหากพื้นมันลื่นก็สามารถเกิดอุบัติเหตุได้กับทุกคน และการลื่นเพราะอุบัติเหตุผู้มีบุญบารมีก็จะมีอะไรมารองรับทำให้ผิวไม่เจ็บไม่ช้ำ  เหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านให้รู้ว่าถึงลื่นอย่างแรงก็ไม่เจ็บไม่ฟกช้ำได้ มิ้มรีบน้อมจิตขอขมาท่านอาจารย์อุบลค่ะ

- เมื่อก่อนเคยคิดว่าผิวหน้าก็ท่านอาจารย์ไม่นวลสวย ใส เปล่งปลั่งซักเท่าไหร่ ผลกรรมที่ได้รับทันที ทำให้ผิวพรรณทราม เพราะเกิดจากกรรมรวมตัวกับการที่ยังตัดความโกรธ ความกังวลไม่ได้ และกรรมที่ไม่สำนึกผิดที่ขับรถชนคนตาย ทำให้ใช้พาเมล่ามานานแล้วมิ้มก็ยังมีกรรมผิวพรรณ

- เคยมีความคิดผุดขึ้นมาว่าทำไมท่านอาจารย์ไม่ทำกับข้าวเอง ต้องให้เราทำให้ทาน พอรู้ความคิดก็รีบตัดความคิดเลยเพราะจริงๆก็รู้ว่าท่านมีภาระงานมากมายมหาศาลที่ต้องช่วยคนทั้งโลก และท่านก็ยังต้องทำหน้าที่ในฐานะภรรยา แม่ อีกด้วย และถึงแม้เราจะทำไม่อร่อย แต่ท่านก็ยังทานเพราะอยากให้เราได้บุญ ผลกรรมที่ได้รับทันที รู้สึกทุกข์ใจกับความคิดฝ่ายมารที่ผุดอยู่ตลอดเวลา และเกิดอุบัติเหตุขณะทำงานมีดบาด และกรรมรวมตัวกับที่ไม่ทำตามคำสั่งท่านอาจารย์อุบลทำให้ป่วยเป็นหวัด เมื่อสำนึกผิดขอขมาในเว็บไซท์อาการเจ็บป่วยก็หายค่ะ

- ฝนตกหนักความคิดก็ผุดมาว่าทำไมท่านไม่มาช่วยพับพรม รู้ความคิดรู้สึกเครียดกับตัวเองผุดคิดมาได้ไงเนี่ย เพราะตัวเองก็รู้อยู่แล้วว่าท่านอาจารย์มีงานมากมายที่ต้องคิดต้องทำ ผลกรรมที่ได้รับทันที รู้สึกทุกข์ใจกับความคิดที่ผุดขึ้นมา เพราะรู้ว่ามโนกรรมเหล่านี้เป็นบาปหนักมาก โดยเฉพาะมโนกรรมกับท่านอาจารย์อุบลบาปก็ยิ่งหนักทวีคูณ

- บางครั้งก็ความคิดก็ผุดว่าทำไมท่านอาจารย์ถึงต้องกางร่มด้วย ทำไมต้องขับรถไปด้วย แล้วก็รีบตัดความคิดโดยทันที แต่แม้เพียงปรามาสโดยพลั้งเผลอสงสัย มิ้มก็ได้รับผลกรรมที่ได้รับทันที ความทุกข์ใจ จิตใจไม่สงบ ปัญหากรรมผิวพรรณ ผิวดำคล้ำ โทรม ชิวิตมีความทุกอุปสรรคทุกด้าน

- เคยคิดสงสัยตอนมาบ้านสวนแรกเริ่มว่าทำไม  ท่านอาจารย์ถึงต้องคุยวิธีการจัดการกับคนไม่ดีกับพี่ธนา เพราะโง่คิดว่าผู้ปฏิบัติธรรมต้องอ่อนแอไม่ตอบโต้ใคร ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นก็ปราบมารให้ราบคาบไม่ได้ รู้ตัวก็รีบตัดความคิด ผลกรรมที่ได้รับทันที ทำให้ปวดหัว ชีวิตพบกับปัญหาชีวิตสารพัด โดยคนอื่นใส่ร้ายป้ายสีก็ไม่มีใครมาช่วย

- จิตเคยแว๊บเรียกท่านอาจารย์อุบลด้วยคำหยาบคาย คือ เรียกว่า “อี” ก็จะรีบตัดความคิดโดยทันที และขอขมา ผลกรรมที่ได้รับทันที คือรู้สึกทุกข์ใจมากๆๆ น้ำตาไหลออกมาไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงได้เลวอย่างนี้ และก็รีบกราบขอขมาท่านอาจารย์ในใจค่ะ

- เคยรู้สึกผุดไม่ชอบที่ท่านอาจารย์พูดอยู่ในที่สาธารณะ หลายครั้งเพื่อเป็นธรรมทาน เพื่อให้มิ้มหลุดจากกรรม เรื่องที่มิ้มเวลามีเรื่องทุกข์ใจก็ต้องโทรไปหาคนโน้นคนนี้ พอความรู้สึกผุดไม่ชอบก็จะรีบบอกตัวเองว่าท่านกำลังให้ธรรมทานให้เราหลุดกรรม ผลกรรมที่ได้รับทันที จิตใจเศร้าหมอง ทุกข์ใจ พูดอะไรก็ไม่ค่อยมีคนเชื่อ

- เคยคิดแว๊บว่า ไม่เห็นจะเกิดภัยพิบัติตามที่ท่านบอกสักที คงไม่จริงละ ไม่เกิดละ ก็รีบตัดความคิดนั้น และคิดว่าก็สิ่งที่ท่านอาจารย์พาทำทุกอย่างก็เพื่อให้ภัยพิบัติไม่เกิดหรือเลื่อนออกไป ดีแล้วไม่ใช่หรือที่ไม่เกิดภัยพิบัติ ผลกรรมที่เกิดขึ้นทันที  พูดไปไม่มีคนเชื่อ อุปสรรคในชีวิตสารพัดอย่าง

- เคยโง่มีความคิดผุดขึ้นไม่เชื่อคำพูดของท่านอาจารย์เมตตาเตือนว่าละความโกรธ ความวิตกกังวล แล้วหน้าจะสวยไร้สวย เพราะบรมโง่เป็นควายที่เผลอไปคิดว่าตนเองละความโกรธได้แล้ว ทำไมหน้าถึงยังไม่ดีขึ้น จริงๆแล้วมันแค่หลบซ่อนอยู่ ถ้าไม่มีสติ ไม่มีความเมตตามาเตือนก็ผุดขึ้นมาโกรธ วิตกกังวลอยู่เหมือนเดิมค่ะ ถึงยังมีปัญหากรรมผิวพรรณ และมีบางครั้งก็เกิดความไม่มั่นใจพาเมล่า ผลกรรมที่ได้รับทันที ผิวพรรณทรามไม่หลุดพ้นกรรมผิวพรรณ  ปัญญาไม่เข้าถึงธรรม พบความทุกข์อุปสรรคในชีวิต

ผลกรรมที่ไม่ปกป้องท่านอาจารย์อุบลเมื่อมีคนปรามาส

- มีคนปรามาสท่านอาจารย์อุบล ก็ฟังนิ่งเฉย ไม่ปกป้องอย่างเต็มที่ เพราะคิดว่าพูดไปก็เท่านั้น ไม่อยากทะเลาะด้วย ผลกรรมที่ได้รับทันที มิ้มโดนยึดรหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ใช้ไม่ได้ผล จนเมื่อมิ้มได้กราบขอขมาท่านอาจารย์ทางเว็บไซท์ ถึงกลับมาใช้รหัสได้ค่ะ

- คนที่มิ้มรักเค้าปรามาสท่านอาจารย์อุบล เมื่อก่อนก็พูดปกป้องจนทะเลาะกันใหญ่โต หลังๆ พอเค้าพูดไม่อยากทะเลาะด้วย ก็ฟังแล้วรีบชวนคุยเปลี่ยนเรื่อง ผลกรรมที่ได้รับทันที จิตใจไม่สงบ มีความทุกข์ในใจมาก มีแต่เรื่องที่ทำให้ทุกข์ใจ ปัญหาอุปสรรคเข้ามา

เคยคิดปรามาสครอบครัวท่านอาจารย์อุบล

- ตอนที่แม่บ้านบอกว่าคุณท๊อปตื่นสายเราก็ไม่ได้พูดปกป้อง คิดไปกับเค้าด้วย คิดว่าคุณท๊อปยังดูหนังละคร ซึ่งจริงๆแล้วมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณท๊อป ที่จะดูเพื่อผ่อนคลายหรือดูเป็นกรรมฐาน ผลกรรมที่ได้รับทันที ความทุกข์ใจ ไม่มีปัญญาเห็นความสว่างทางธรรม ใจไม่เป็นสุข มีปัญหาชีวิตหลายอย่าง

- เคยคิดว่าคุณท๊อปและท่านอาจารย์มงคลไม่ค่อยได้มาช่วยงานท่านอาจารย์อุบล แล้วก็รีบตัดความคิด เพราะจริงๆแล้วคุณท๊อปทำงาน บริหาร ธุรกิจครอบครัว ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ทำงานแทนท่านอาจารย์ทุกอย่างเพื่อให้ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคลมีเวลามาช่วยผู้คนให้พ้นทุกข์ และรายได้จากการทำธุรกิจก็เป็นเงินที่นำใช้ก่อสร้าง งานเกษตร จัดกิจกรรมทางธรรมทุกอย่างที่พาผู้คนพ้นทุกข์ ส่วนท่านอาจารย์มงคลก็เป็นผู้ที่ช่วยทำงานอยู่เบื้องหลังท่านอาจารย์อุบล ทำงานทุกอย่างเพื่อให้คนพ้นทุกข์อดนอน และทั้งสองท่านก็ยอมเสียสละความเป็นส่วนตัว เสียสละทรัพย์ และเวลาของครอบครัว เวลาของตนเอง เปิดบ้านสวนตัวให้คนได้มาปฏิบัติธรรมสร้างบุญ ผลกรรมที่ได้รับทันที คือ ความทุกข์ทางใจ ชีวิตมีปัญหาอุปสรรคในทุกด้าน

ผลกรรมที่ได้รับ

       ความทุกข์ใจที่ทุกข์มาก จนปวดหัว เหมือนคนเป็นบ้า บางทีก็ร้องไห้ออกมารู้สึกเกลียดตัวเอง อยากทำร้ายลงโทษตัวเอง เกลียดความชั่วของตัวเองที่ความคิด ภาพมักผุดเห็นภาพลามก คำหยาบคายกับท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล คุณท๊อปและพระพุทธองค์ เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ จนไม่อยากมองพระพุทธรูป ไม่อยากมองท่านอาจารย์ ไม่อยากมองอะไร ไม่อยากสร้างบาปหนัก ไม่อยากตกนรก

       หลายครั้งที่ไปสร้างบุญใหญ่ที่บ้านสวนก็จะรู้สึกปวดหัวมากๆๆ เหมือนโดนบีปขมับ ปวดหัวจนคลื่นไส้อาเจียนจะอ๊วกที่เป็นเช่นนี้ก็คงเป็นเพราะสร้างกรรมหนักที่เป็น มโนกรรม มาเยอะมากโดยเฉพาะกับท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล คุณท๊อป พระพุทธองค์ เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ และหลวงพ่อฤาษิลิงดำ ก็พยายามอดทน สร้างบุญให้มากที่สุดขอขมา และอุทิศบุญโดยตลอด

       นอกจากนี้ยังทำให้ไม่พ้นทุกข์ในกรรมผิวพรรณ ผิวพรรณทราม เพราะจิตเคยไปปรามาสผิวท่านอาจารย์อุบล ชีวิตมีปัญหาอุปสรรคการงาน การเงิน ความรัก โดนคนใส่ร้ายป้ายสีก็ไม่มีคนช่วย พูดอะไรไปคนก็ไม่เชื่อถือ คนพูดความจริงก็ไม่เชื่อ พอมีคนมาพูดโกหกกับเชื่อ จิตใจมีความทุกข์ วิตกกังวล เครียด ไม่มีความสุข ดวงตาไม่เห็นธรรม ไม่เข้าถึงธรรม

ทางพ้นทุกข์

       มโนกรรมหรือกรรมทางความคิดเป็นกรรมที่หนักที่สุดเพราะเป็นจุดเริ่มต้นไปสู่กรรมทางคำพูด และกรรมทางการกระทำ ปกติกับคนทั่วไปก็เป็นบาปอยู่แล้วยิ่งกับผู้มีบุญบารมีมาก อย่างท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล คุณท๊อปและพระพุทธองค์ เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ยิ่งบาปหนักเข้าไปใหญ่

       ทุกครั้งที่ความคิด ภาพผุดขึ้นมาปรามาสท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวมิ้มก็จะได้รับผลกรรมทันที มิ้มเครียดทุกข์มากไม่อยากลงนรก ก็เลยพยายามหางานให้จิต โดยการภาวนาในจิตด้วยบทสวดมนต์บ้าง คำภาวนาบ้างให้จิตไม่ว่าง และพยายามรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์มากขึ้น เพราะช่วงไหนที่มิ้มศีลขาด ก็จะทำให้ความคิด ภาพผุดการปรามาสมาเยอะมาก แต่ในช่วงหลังมานี้จิตเกาะความดี และพยายามรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ และได้รับพลังปราณ มโนธาตุจากพาเมล่าอย่างต่อเนื่องทำให้ปัญหาจิตแว๊บ ความคิดชั่ว ภาพลามกที่มักผุดขึ้นมาก็น้อยลง และอุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรสม่ำเสมอต่อเนื่อง

        การที่จิตแว๊บ ภาพลามก ยิ่งเป็นผู้มีบุญบารมีมากก็มีการผุดมากก็เพราะว่ามิ้มทำผิดศีลมาทุกข้ออย่างหนัก และเป็นสัญญาณเตือนที่จะนรกขุมต่างๆ เจ้ากรรมนายเวรที่ทำกับเค้าไว้มากเค้าก็คงมาเตือนเพื่อขอบุญจากเรา และถ้าศีล 5 บริสุทธิ์ก็จะเป็นทำให้เรามีสติ สมาธิ ปัญญา และเกราะคุ้มครองเราจากความชั่วทั้งปวง รวมทั้งมโนกรรมอีกด้วย ขณะเดียวกันมิ้มก็พยายามน้อมจิตขอขมาท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล คุณท๊อป พระพุทธองค์ เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ให้บ่อยๆ เมื่อก่อนที่ท่านอาจารย์ยังรับการขอขมาก็จะพยายามไปขอขมาแต่ในช่วงหลังก็ใช้การน้อมจิตขอขมา และพยายามคุมจิตตนให้ได้ยึดคำภาวนา หยุดยั้งสิ่งที่กำลังจะคิดให้ได้ ทำให้ทุกวันนี้ชีวิตดีขึ้น มีความสุขในจิตอยู่สม่ำเสมอ ปัญหาอุปสรรคในชีวิตคลี่คลาย เกิดปัญญาเข้าใจและเข้าถึงธรรมมากขึ้น สาธุ

       ลูกกราบขอขมาท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล คุณท๊อป สมเด็จพระบรมธรรมบิดา สมเด็จองค์ปฐม เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านมเหสักขา หลวงพ่อฤาษีลิงดำ สิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบนทุกพระองค์ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พระอริยสงฆ์ทุกคนที่ลูกได้เคยปรามาส ด้วยกาย วาจา ใจ เจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม ลูกสำนึกผิดแล้ว ขอทุกพระองค์น้อมรับการขอขมาของลูกด้วยเจ้าค่ะ และต่อนี้ไปจะพยายามรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์มากขึ้น และตั้งใจทำความดีขอถวายบุญกับทุกพระองค์และอุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร จิตเกาะคุณงามความดี เพื่อไม่สร้างบาปหนัก  โดยเฉพาะการปรามาสท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว ที่เกิดผลฉับพลันทันทีที่ปรามาส เพราะท่านอาจารย์อุบลมากด้วยบุญบารมีมหาศาลสุดจะกล่าวได้ เป็นบุคคลที่ใครปรามาสไม่ได้ ปรามาสแล้วก็เกิดกรรมหนักอย่างที่มิ้มประสบกับตัวเองมาโดยตลอด กราบขอขมาเจ้าค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

       ขอเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์ เทวดาประจำตัวลูก และเจ้ากรรมนายเวร โปรดช่วยดลจิตดลใจให้ลูกจิตใจเข้มแข็ง จิตเกาะแต่ความดี สร้างแต่คุณงามความดี ไม่กลับไปทำชั่วผิดศีล 5 และปรามาสสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะไม่ปรามาสท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล และคุณท๊อปอีกเจ้าค่ะ สาธุ

ประภาสิริ  ถาวร

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 00:04:34


ความคิดเห็นที่ 111 (1640735)

 "ปรามาสอาจารย์อุบล แล้วจะได้รับผลของกรรมอย่างไร"

 

ผมนายสิงห์เงิน อุดมศิริ  (ตาโต๊ะ) อายุ 48 ปี จ.นครราชสีมา

การศึกษา ป.ตรี วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่ สาขาสารสนเทศธุรกิจ มสธ.

ตำแหน่ง หัวหน้าแผนกเครื่องมือวัด

หน้าที่ ดูแลอุปกรณ์วัด-คุม ในกระบวนการผลิต

.อุตสาหกรรมอ่างเวียน จำกัด นครราชสีมา กลุ่มน้ำตาลวังขนาย

       ผมเคยใช้ความคิดปรามาสท่านอาจารย์อุบล เมื่อตอนสร้างองค์พระด้านหลัง ช่วงที่ช่างมาขึ้นแบบหล่อองค์พระวันแรกๆว่า เอ้..ท่านอาจารย์บอกว่าวันนี้จะเทปูนหล่อองค์พระแล้วทำไมไม่หล่อพระละ เขียนในเวบอย่างนึง พูดอย่างนึง อุส่าหยุดงานรีบมา ไม่ได้หล่อพระต้องกลับบ้านก่อน  กลับมาถึงบ้านมานั่งอ่านกระทู้ที่ท่านอาจารย์เรียนไว้ใหม่  เราเองนะอ่านแล้วไม่ใช้ปัญญา ในการตีความทำความเข้าใจซึ่งท่านเขียนเอาไว้ชัดเจนว่ายังตั้งแบบองค์พระไม่ได้หลอก แต่ทางผู้ประสานงานกับช่างบอกว่าทันตั้งแบบแป็บเดียวเสร็จ   สรุปว่าช่างหล่อองค์พระใช้เวลาตั้งแบบเลยเวลาที่จะเทปูนหล่อพระ

 หลังจากที่ใช้ความคิดปรามาสท่านอาจารย์อุบล กลับมาบ้านแล้วคันไปทั้งตัว คันตรงนั้นเกาตรงนี้ เกาตรงนี้เสร็จ ไปคันตรงโน้นอีก เกาเป็นเลือดแล้วเป็นแผลเป็นไปทั้งตัว แผลหายแล้วก็คันอีกได้เลือดในแผลเดิมอีก คันอยู่อาทิตย์กว่า

         กรรมความคิดกับท่านอาจารย์นี้ให้ผลร้ายแรง แบบไม่ต้องรอเวลาเลยได้รับผลของกรรมทันที กล้าทำผิดศีลไม่ว่าทางกายวาจาใจ ก็ต้องรับเคราะห์กรรมไป การที่เข้ามาสร้างบุญใหญ่คือหล่อองค์พระซึ่งเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้าแล้ว ยังใช้ความคิดอกุศลสร้างกรรมให้กับตนเองปรามาสท่านอาจารย์อุบล ซึ่งการปรามาสกับใครก็มีผลบาปทั้งนั้นจะบาปมากน้อยขึ้นอยู่กับผู้ที่เราปรามาสเป็นผู้ที่ทรงศีลทรงธรรมสูงขนาดใหน ยิ่งท่านอาจารย์เป็นผู้ทรงศีลเราไปปรามาสเข้าทำให้เกิดบาปกรรมอย่างใหญ่หลวง

        ในสัปดาห์ต่อมาขออนุญาติมาสร้างพระในบ้านสวนอีก ก่อนกลับบ้านขออนุญาตกราบท่านอาจารย์ ท่านก็ถามว่ากราบเพราะตามคนอื่นหรือไม่ ไม่ได้คิดกราบเองหรือเปล่า ผมบอกไม่ได้กราบตามคนอื่นครับ กราบเพราะอยากกราบให้หายทุกข์ซึ่งตอนนั้นอาการคันทั้งตัวก็เป็นอยู่ ปากก็ไม่กล้าพูดว่าคิดไม่ดีกับท่านทำให้คันเกาไปทั้งตัว และกราบขอพรให้เดินทางกลับบ้านด้วยความปลอดภัย  ท่านก็อนุญาตให้กราบได้  กลับมาบ้านอาการที่คันอยู่ก็หายไปหมดไม่คันอีก

       ผมนี้สำนึกบาปกรรมแล้วในการผิดศีลทางมโนกรรมที่คิดไม่ดีต่อครูบาอาจารย์ ลูกขอบารมีพระพุทธเจ้าช่วยบังคับกระแสจิตลูกให้ คิดดี พูดดี ทำดี 

       ผมขอกราบแทบพระบาทขอขมาต่อพระพุทธองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ ชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ ครูบาอาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่สำคัญยิ่ง คือ ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว ที่ผมได้เคยล่วงเกินทุกๆพระองค์ ทุกๆท่าน ด้วยกาย วาจา ใจ  และจะขอตอบแทนพระคุณทุกพระองค์ทุกๆท่านด้วยการทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายได้โปรดคอยอนุโมทนารับบุญของข้าพเจ้าทุกขณะจิตที่ข้าพเจ้าทำความดี จนท่านได้ถึงพระนิพพานก่อนข้าพเจ้า และช่วยปกปักษ์รักษาข้าพเจ้าให้ทำความดีให้ถึงที่สุดก่อนกลับบ้านพระนิพพานในชาตินี้ด้วยเถิด 

      กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ (ตาโต๊ะ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 00:36:01


ความคิดเห็นที่ 112 (1640747)

ชื่อ รุ่งสุภารัตน์ รุ่งเรือง (ภา)

อายุ 40 ปี

การศึกษา ปริญญาตรี สาขารัฐศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช

ตำแหน่งงาน ธุรการ บ.นิวเอร่าจิวเวอรี่จำกัด

จังหวัด กรุงเทพ

ปรามาสท่านอ.อุบล

บ้านสวนพีระมิดแล้วได้รับผลกรรมอย่างไร"

ต่อจาก#74

เคยใช้สายตามองท่านอาจารย์เรื่องทรวดทรง การแต่งตัวเซ็กซี  มองเป้ากางเกง มองหน้าอก มองแม้กระทั่งว่าบนหัวท่านอาจารย์มีผมหงอก

มองรูปท่านอาจารย์ว่าทำไมหน้าท่านผอมจัง 

บางครั้งข้าพเจ้าไม่กล้ามองหน้าท่านอาจารย์ กลัวท่านอาจารย์รู้ว่าเราคิดอะไรอยู่ ทำไมเราไม่คิดดีๆๆที่สร้างสรรค์กว่านี้ ทั้งที่ตัวเราไม่มีอะไรดีเลยแม้เเต่นิดเดียว

ทุกครั้งที่จิตข้าพเจ้าคิดแบบนี้ ก็จะใช้ระหัสอาจารย์อุบล ช่วยด้วยค่ะ ช่วยให้ข้าพเจ้าคิดดีทำดีด้วยเทอด

จิตก็คิดไปเรื่องอื่นแทน

ผลกรรมที่ใด้รับ

คือข้าพเจ้ามีปัญหาเรื่องสายตา แสบตา เคืองตา เหมือนมีเส้นไยบางๆๆมาบังตาไว้ตลอดที่ข้างขวา

ทุกวันนี้ก็สำนึกผิดแล้วค่ะ อยากมีความคิดสร้างสรรค์เหมือนคนอื่นบ้าง

ลูกขอน้อมกราบขอขมาสมเด็จพ่อองค์ปฐม องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธ์แห่งบ้านสวนทุกๆๆพระองค์

กราบขอขมาท่านอาจารย์อุบลที่เคยคิดล่วงเกินท่านมาตลอด

ขออารธนาบารมีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอเบิกบุญ ทาน ศีล ภาวนา ทุกชาติ ทุกภพ รวมทั้งบุญทุกๆบุญที่บ้านสวน ขออุทิศบุญให้กับ เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบล ทุกๆๆพระองค์และครอบครัว สาธุ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น รุ่งสุภารัตน์ รุ่งเรือง(ภา) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 00:53:18


ความคิดเห็นที่ 113 (1640761)

 ข้าพเจ้า นางสาวเบ็ญจากาญจน์  ศุภศิริวัฒนา (วิ) อายุ 42 ปี

ที่อยู่ปัจจุบัน : ปทุมธานี

การศึกษาสูงสุด: จบพยาบาลศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยคริสเตียน

ตำแหน่งงาน : จนท.ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ ของมูลนิธิโรคตับ

"กราบท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือ

รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

แล้วชีวิตดียังไง"

       ช่วงเข้ามาบ้านสวนฯแรกๆ ยังไม่คุ้นเคยกับบ้านสวนฯ ท่านอาจารย์ ยอมรับค่ะว่าการกราบท่านอาจารย์ในช่วงแรกๆ ไม่ได้กราบจากหัวใจ เพียงทำตามคนอื่นๆ แต่เมื่อได้เข้ามาบ้านสวนฯ นานวันเข้า ได้เห็น ได้อยู่ใกล้ๆ ทำให้รับรู้ถึงความเมตตาของท่านอาจารย์และครอบครัวที่มีต่อทุกคน ในแต่ละวันท่านต้องดูแลงานในบ้านสวนฯทั้งหมด ซึ่งหากเป็นตัวลูกเองก็เดี้ยงไปนานแล้ว แต่ท่านก็ทำไม่หยุด และทำต่อเนื่องเพิ่มขึ้น ที่สำคัญคือท่านยังมีเวลานั่งเขียนธรรมทาน ให้พวกเราได้เกาะติดสถานการณ์เหมือนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย อ่านกันแบบติดงอมแงม บางทีก็มอมแมมเพราะอ่านไปร้องไห้ไป ทุกตัวอักษรที่ท่านเขียนนั้นตรงๆ ชัดเจน มีหลายเรื่องค่ะที่ที่โดนเต็มๆ เช่น ตัวเองชอบเล่นหวย แรกเริ่มก็ไม่กี่สิบ ร้อย พัน สุดท้ายหลักหมื่น บังเอิญได้รู้จักบ้านสวนฯเสียก่อน ม่ายงั้นโดนกินหลักแสนแน่ๆเลย(พร้อมกับแสนสาหัส)ด้วยการเป็นหนี้ แต่ตอนนี้เลิกเล่นแล้วค่ะ เล่ามาซะยาวเชียว ค่ะและนี่คือที่มาแห่งการกราบ กราบครูบาอาจารย์ที่เราเคารพ ศรัทธา กราบแล้วมีความสุข (ความสุขในที่นี่ไม่ได้ร่ำรวยเงินทอง แต่เป็นการที่เราเลิกทำชั่ว ไม่เบียดเบียนชีวิตผู้อื่น มีความเมตตากับทุกคน )แล้วยิ่งได้รู้ว่ากราบท่านอาจารย์แล้วหายจากโรค ครานี้ ความสุขจะเพิ่มพูนเพียงใด

          กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล และคุณท๊อป ที่เมตตาให้คนชั่วบาปหนาอย่างลูก ได้ได้พบทางสว่างของชีวิต จากนี้ไปลูกจะเข้มแข็ง ขอเดินตามทางที่ท่านอาจารย์ได้ชี้นำไว้ ไม่แวะซ้ายแวะขวาให้เสียเวลาอีกต่อไป

                                              กราบ กราบ กราบ 

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 04:31:34


ความคิดเห็นที่ 114 (1640762)

ปรามาสอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด แล้วชีวิตเป็นอย่างไร

 ชื่อ นางสาวนันทนา แหกาวี 

ชื่อเล่น หญิง

อายุ 21 ปี 

การศึกษา Fornby folkhögskolan  (แต่เรียนไม่จบ เกเรออกมาซะก่อนค่ะ)

อาชีพ พนักงานบริษัท Åkerströms Björbo AB

ที่อยู่ รัฐดอลาร์น่า ประเทศสวีเดน

 

เคยติดตามรายการคุยไปแจกไปเมื่อปีที่แล้ว เห็นท่านอาจารย์ในรายการตอนนั้นก็ไม่ได้รู้สึกคิดอยากปรามาส แต่รู้สึกชอบในการสอนธรรมะของพระพุทธเจ้าตามแบบฉบับของอาจารย์อุบลในใจลึกๆก็รู้สึกคล้อยตามในการสอนของท่านอาจารย์ทุกๆอย่าง แต่มีอยู่ครั้งนึงเคยนึกตลกๆคนเดียวในใจว่า

 

-ทำไมเพลงบ้านสวนพีระมิดเชยจัง เหมือนเพลงลูกทุ่ง

ท่านอ.อุบลนี่เลือกเพลงได้ตลกจัง

-เคยคิดว่าเวลาท่านอ.อุบลแก้ผ้าแล้วจะเป็นยังไง และคิดต่อว่าอ.อุบลเป็นผู้ปฎิบัติธรรม จะเคยมีอะไรกันกับท่านอ.มงคลหรือเปล่า ไม่รู้เหมือนกันว่าคิดมาได้ไง ทั้งๆที่ข้างในก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้นเลย รู้ดีว่ามาจากการที่เราผิดศีลข้อ 3 จึงส่งผลให้เราคิดแต่เรื่องไม่ดีที่เกี่ยวกับศีลข้อ 3 เรื่องลามกต่างๆ

-เวลาเห็นใครคิดไม่ดีต่ออ.อุบล ไม่ว่าจะทางรายการคุยไปแจกไป หรือจากพวกเฟสบุคปลอม ใจเราก็จะปรามาสตามไปด้วย ต่างๆนาๆ ทุกรูปแบบ ทั้งความคิดเลวต่างๆ เช่นใช้ขาล่วงเกินบ้าง คำหยาบบ้าง คำลามกบ้าง สารพัดอย่าง ทั้งๆที่ไม่อยากคิด แต่ก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้

ผลกรรมที่ได้รับจากการปรามาส

อย่างแรกเลยคือทุกข์ใจ ไม่มีความสุขเลย พยายามต่อสู้กับความคิดเหล่านั้นจนเหนื่อยใจ เพราะมันมีเข้ามาเรื่อยๆ

เคยมีตุ่มคันขึ้นตามร่างกาย ทรมานสุดๆ ตอนนั้นแทบอยากจะลางานกลับไปนอนเกาบ้าน ไม่เป็นอันทำงาน ทำไปเกาไป พลอยทำให้จิตใจของเราขุ่นมัว เพราะมัวแต่โมโหตัวเองที่ต้องเกาตลอดเวลา

เคยเป็นร้อนใน เป็นแผลที่ไม่ใหญ่ แต่แผลลึกมากๆ ระบมไปทั้งปาก เจ็บที่สุดตั้งแต่เคยเป็นมา กินข้าวต้องตักคำเล็กๆเพราะอ้าปากกว้างไม่ได้ และต้องค่อยๆกินเพราะเคี้ยวเหมือนปกติก็ไม่ได้ เจ็บและทรมานมากๆ และความรู้สึกก็บอกทันทีว่ามาจากการที่เราหัวเราะเรื่องเพลงของบ้านสวนที่คิดว่าตลกดี

ทำให้ไม่ค่อยก้าวหน้าในเรื่องธรรม เพราะเราปรามาสต่อผู้ที่ให้ธรรมกับเรา

ทางสว่างพ้นทุกข์

โดยปกติแล้วบุญที่สร้างส่วนใหญ่จะเป็นบุญธรรมทานซะมากกว่า เพราะไม่ได้กลับไทยบ่อยจึงไม่ได้มีโอกาสไปทำบุญด้วยแรงกายที่บ้านสวนพีระมิด และอาจารย์เคยบอกมาเสมอว่าบุญธรรมทานนั้นเป็นบุญที่อานิสงค์เยอะ เป็นบุญที่เจ้ากรรมนายเวรเราต้องการ และจะทำให้เราพ้นทุกข์ทั้งปวง

จึงพยายามสร้างบุญธรรมทานตลอดมา ที่สำคัญก็จะพยายามรักษาศีล 5 ไปด้วย เพราะตอนนี้รู้แล้วว่าการที่เราผิดศีล ไม่รักษาศีลให้บริสุทธิ์ ก็มีผลทำให้เราทุกข์

ดูรายการคุยไปแจกไป เมื่อได้เห็นทุกข์ของคนอื่นๆ และได้รู้ผลของกรรม ว่ามาจากเรื่องอะไร ทำให้เรากลับมาสำรวจตัวเอง ว่าเราเป็นเหมือนเค้าหรือไม่ มีหลายๆเคสที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือนกัน ในเรื่องที่ปรามาสท่านอ.อุบล แล้วจะเป็นขี้กลาก และคันไปทั้งตัว จึงทำให้รู้ว่า

ช่วงที่เราคันนั้น มีผลมาจากการ

ที่เราไปคิดปรามาสท่านอ.อุบลแน่ๆ

เพราะเกิดมาไม่เคยคันแบบนี้มาก่อนในชีวิต

เพราะท่านอ.อุบลเปรียบเสมือนผู้ให้ชีวิตใหม่ ชีวิตทุกๆด้านดีขึ้นเพราะอ.อุบล แต่เรากลับมาคิดไม่ดีกับท่าน และที่สำคัญอ.อุบลก็เป็นผู้ที่รักษาศีล 5 อย่างบริสุทธิ์ และมีบุญบารมีมาก จึงไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมเราถึงได้คันยิกๆไปทั่วตัว โชคดีที่ยังไม่เป็นถึงขี้กลาก

 

หลังจากที่รู้ตัว ก็เคยกราบขอขมาอ.อุบลหน้าจอคอม และคอยอุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรเราเรื่อยๆ พยายามคิดบวกในทุกๆเรื่อง และพยายามรักษาศีลให้ดีที่สุด

ากนั้นชีวิตก็ค่อยๆเปลี่ยน จากที่ทุกข์ใจมากๆก็เริ่มสบายใจขึ้น เพราะความคิดเหล่านั้นเริ่มตามมาหลอกหลอนน้อยลง และรู้สึกโล่งๆเหมือนเราเอาชนะได้ในระดับนึงแล้ว

ทั้งด้านสุขภาพ หลังจากนั้นก็ไม่เคยคันอีกเลย และหน้าที่การงานก็รุ่ง ราบรื่นไปหมดไม่ว่าจะทำอะไรก็มักจะสมปรารถนาอยู่เสมอ

 

เกิดมาก็เพิ่งจะรู้จากอ.อุบล จริงๆ ว่า

กรรมทางความคิด ก็มีผลต่อผู้คิดด้วย

เพราะก่อนหน้าก็คิดไม่ดีกับผู้อื่นในใจ และคิดว่าเค้าไม่ได้ยิน เราไม่ได้พูดออกเสียงคงไม่เป็นไร จึงทำให้เราสร้างกรรมทางความคิดมานานแสนนาน แม้กระทั่งกับอ.อุบล ที่เผลอคิดเรื่องไม่ดีต่างๆกับท่านอาจารย์ สิ่งที่ทำให้รู้ว่าการที่เราคิดไม่ดีต่อผู้อื่น ก็คือการได้รับกรรมจากการที่คิดไม่ดีต่อท่านอ.อุบลเนี่ยแหละค่ะ และคงจะเป็นกรรมที่ตัวเองสร้างมาเยอะที่สุด มากว่าการสร้างกรรมทางคำพูด และการกระทำซะอีก เพราะทำแล้วไม่มีใครรู้

 

กราบขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ ท่านอ.อุบลและครอบครัวด้วยค่ะ ที่หนูเคยคิดปรามาส ล่วงเกิน ทั้งทางความคิด คำพูด การกระทำ ด้วยความโง่เขลาเบาปัญญา หนูสำนึกในกรรมนั้นแล้ว จะพยายามรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องกลับมาคิดและทำชั่วแบบเดิมอีก และจะขอทำหน้าที่ตัวเองเพื่อรักษา 3 ร่มโพธิ์ศรีและเพื่อนิพพานในชาตินี้ให้ได้ค่ะ กราบ กราบ กราบ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 05:41:56


ความคิดเห็นที่ 115 (1640763)

กราบพระบาทพระพุทธองค์

และ กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์

เป็นอย่างสูงด้วยนะคะ

ที่เมตตามาแนะนำพวกเรา

เรื่องแนวทางในการเขียนธรรมทาน

ที่ถูกต้องและสามารถปลดกรรมได้นั้น

ต้องลงรายละเอียดอะไรบ้าง

ขอน้อมนำมาปฏิบัติ

และขออนุญาต รวบรวม เรียบเรียง

และแก้ไขธรรมทานเกี่ยวกับเรื่อง ปรามาสนี้

ให้สมบูรณ์ครบถ้วนยิ่งๆขึ้นค่ะ

กราบ กราบ กราบ

ฉบับ แก้ไขใหม่ ค่ะ

............................................................

 

ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิดแล้วได้รับผลกรรมอย่างไร

 

 

ชื่อ นางสาว ชนิดา เชิงสะอาด ชื่อเล่น โหน่ง อายุ 40ปี

 

จบการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาศิลปศาสตร์ ด้านการผลิตสารคดี จาก Middlesex University ลอนดอน ประเทศอังกฤษ

 

อาชีพ ธุรกิจส่วนตัว(ร้านขายยา Apteka Nova)

 

อาศัยอยู่ที่เมือง โตรุน ประเทศ โปแลนด์

 

ต้องบอกว่า ตั้งแต่เริ่มต้นที่ได้มาติดตามเว็บไซต์บ้านสวนฯและรายการคุยไปแจกไป ตั้งแต่ปี 2553 ถือว่าตัวเองโชคดีมากๆค่ะ ที่ไม่เคยคิดสงสัยเรื่องที่อาจารย์นำมาบอกมาสอนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นความลับเกี่ยวกับพลังพีระมิด หรือ การรักษาโรคให้คนหายได้ ด้วยมือเปล่า ด้วยพลังบุญและการสารภาพบาป

 

แล้ว ก็ไม่เคยสนใจด้วยว่า ถึงแม้ท่านอาจารย์จะเป็นผู้หญิงและเป็นฆราวาส จะมาถ่ายทอดธรรมะของพระพุทธองค์ นั้นดูจะไม่เหมาะสมหรือไม่ เพราะคนส่วนใหญ่คงคิดว่า เป็นพระ เป็นชี คงเหมาะสมกว่า(รึเปล่า) เพราะโดยส่วนตัว ก็เป็นคนชอบอ่านธรรมะจากคนธรรมดาทั่วๆไป ใช้ภาษาง่ายๆแต่เข้าใจได้ก็พอแล้ว ไม่ค่อยยึดติดกับเรื่องเหล่านี้ซักเท่าไหร่ค่ะ

 

ฉะนั้น ยิ่งเราเลื่อมใส ศรัทธาท่านอาจารย์มากเท่าไหร่ จิตส่วนดี เค้าก็ตั้งใจมากๆที่จะเป็นคนดีและปฏิบัติตามคำสอนของอาจารย์ให้ได้ แต่จิตส่วนเลวที่เป็นผลสะท้อนมาจากบาปกรรมที่เราเคยทำผิดศีลมาทั้ง5 ข้อก็แท๊คทีมกันมาตามหลอกหลอนเราบ่อยๆเช่นกัน

 

ฉะนั้น จึงเกิดเป็นซีรีส์ของความคิดเลวๆ ไปปรามาสท่านอาจารย์โดยไม่ได้ตั้งใจหลายต่อหลายครั้ง

ครั้งแรกเลยก็คือ เมื่อประมาณเดือนมีนาคม ปี 2554 ในขณะที่อ่านธรรมทานต่างๆในเว็บ อยู่ดีๆ จิตก็แว๊บสงสัยเรื่อง เงินทำบุญ ขึ้นมา คือมันคิดสงสัยขึ้นมา แต่เหมือนคิดไม่สุดค่ะ น่าจะประมาณว่า เงินบริจาคเยอะเหมือนกันนะเนี่ย (ุถ้าให้เดาความคิดตัวเองตอนนั้น) ก็คงจะสงสัยต่อความบริสุทธิ์ของท่านอาจารย์ประมาณนี้นะคะ

หลังจากนั้นไม่นาน พอไปเห็นรูปท่านอาจารย์ที่ถ่ายพร้อมกับพี่น้องบ้านสวนฯท่านอื่นๆ จิตก็แว๊บขึ้นมาทันทีว่า ช่วงนี้อาจารย์ดูไม่ผ่องเลย คือ ก็คงนึกภาพไว้ว่า ท่านอาจารย์เป็นคนมีบุญ ก็ควรจะหน้าตา สดใส ผ่องผุดพรรณ ตลอดเวลาว่างั้นเถอะ 

 

และอันนี้เด็ดสุด และน่าจะเป็น"หลุมพราง" ที่ท่า่นอาจารย์และเบื้องบนตั้งใจไว้ให้คนไร้สติ ได้เดินตกหลุมนี้แน่ๆ นั่นก็คือ ช่วงท้ายรายการ จะมีช่วงหนึ่งที่ท่านอาจารย์มาอธิบายเรื่องศีล แต่มาในชุดเสื้อสีชมพู ที่รัดรูปม๊าก ได้เห็นปั๊บ ด้วยความเคยชิน ชนิดาก็มองส่วนเว้า ส่วนโค้งในสรีระของท่านอาจารย์ไปเต็มๆ ยิ่งกลัว ยิ่งมอง แล้วยิ่งมอง ก็เหมือนอาจารย์จะรู้ว่า นี่คือ จุดอ่อนของเรา หลังจากนั้นหลายๆเทป ก็จะมี ชุดสีชมพูรัดรูป ท้ายรายการทุ๊กที คือ ต้องสู้กับความคิดและกิเลสของตัวเองพอสมควร

ช่วง แรกๆถ้าถึงตอนที่เสื้อชมพูมาเมื่อไหร่ เราก็เลี่ยงด้วยการไม่มองหน้าจอค่ะ พอหลังๆ เริ่มควบคุมได้ดีขึ้น ก็ทู่ซี้มองให้ได้ แต่ต้องพยายามบอกตัวเองว่า ให้จ้องที่หน้าท่านอาจารย์เท่านั้น แต่ก็หลุดบ่อยๆค่ะ

 

แหม่...ยังแอบคิดเลยค่ะว่า ขนาดเราเป็นผู้หญิงแท้ๆ ยังขยัน"ลวนลามด้วยสายตา"ได้ขนาดนี้เล๊ย แล้วบรรดาหนุ่มๆ จะขนาดไหนน๊อ 

 

หลัง จากนั้นก็จะมี ความคิดประปราย บางทีก็คิดแซวอาจารย์บ้าง ขำๆในใจตัวเองคนเดียว แต่อันนี้จำคำพูดชัดๆไม่ได้ เพราะมันเป็นความคิดที่เกิดขึ้นในขณะที่อ่านเจอข้อความอาจารย์ ทีี่่มันขำๆ น่าแซว ชนิดาก็จะคิดแซวกลับทันที หรือบางทีก็เขียนแซวเลยก็มี เพราะนึกสนุก ไม่ได้คิดอะไรเยอะ แต่ตอนนี้ ยิ่งได้ติดตาม ยิ่งได้รู้ว่า ท่านอาจารย์เป็นผู้มีบุญบารมียิ่งใหญ่และสูงส่งเพียงใด ฉะนั้น เราควรจะต้องควบคุมความคิดของตนให้ดีๆ ไม่ควรไปทำตัวเทียบเท่าหรือตีเสมอกับท่านอาจารย์โดยเด็ดขาด 

 

ใน บางทีก็มีความคิด"แอบงอน แอบน้อยใจ"อาจารย์ก็บ่อย เวลาที่เห็นอาจารย์ออนไลน์(เมื่อก่อนในเว็บจะโชว์ชื่อคนที่ออนไลน์อยู่) ถ้าทักอาจารย์แล้ว อาจารย์อาจจะไม่ได้มาอ่านกระทู้ที่เราทักทายไว้ ก็แอบงอน..ซะงั้น อันนี้ต้องบอกว่า เป็น"นิสัยถาวร"ที่ ติดตัวมา เพราะจะมีความสามารถพิเศษ คือ งอนและน้อยใจ ได้ดีเป็นพิเศษค่ะ โดยเฉพาะคนใกล้ตัวโดนทุกคน แม้กระทั่ง ครูบาอาจารย์ก็ไม่เว้นค่ะ

 

ผู้่อ่านอย่าคิดนะคะว่า ชนิดารู้สึกสนุกกับความคิดเหล่านี้ เพราะมันคือ ความทุกข์ล้วนๆค่ะ เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่อยากคิด เพราะช่วงนั้นท่านอาจารย์จะประกาศให้ทุกคนท้าพิสูจน์อย่างชัดแจ้งเลยว่า การปรามาสอ.อุบล นั้นมีผลจริงไหม๊ โดยท่านอาจารย์ก็ได้บอกเลยว่า จะมีผลกรรมอะไรบ้าง ขั้นต่ำก็ขี้กลาก หรืออาการเจ็บป่วยทางกายต่างๆ หรือไม่ก็ ประสบเคราะห์กรรมทุกรูปแบบ หรือ ประสบอุบัติเหตุเภทภัย หรือถ้าร้ายแรงมากๆ ก็อาจจะถึงขั้นเสียชีวิต ก็ได้...

 

โห..ตอนนั้นยิ่งอ่านแล้วยิ่งหัวหด เพราะกลัวเคราะห์กรรมที่จะเกิดกับตัวเอง เพราะท่านอาจารย์ประกาศอะไรออกมาแล้ว มักจะเป็นจริง และพิสูจน์ได้เป็นรูปธรรมเสมอ ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานก็จะมีผู้คนที่ประสบเคราะห์กรรมจากการปรามาสอ.อุบล และมาขอขมากับท่านอาจารย์มากมาย ทีเดียว แต่ละเคสก็น่ากลัวทั้งนั้นค่ะ บางคนญาติผู้ใหญ่เสียชีวิตกระทันหัน หรือ บางคนอยู่ดีๆภรรยาก็ไปมีกิ๊ก ทั้งๆที่ไม่มีวี่แววมาก่อน 

 

จากสมมุติฐานที่ท่านอาจารย์ได้ตั้งไว้ แล้วก็มีคนมากมายมารายงานผลกรรมที่ได้รับ จากการปรามาสหลายต่อหลายเคส ชนิดาจึงเชื่อว่า กรรมทางความคิด เป็นกรรมหนัก ที่ส่งผลกับชีวิตเราได้อย่างหนัก..จริงๆ

 

แล้วมาดูนะคะว่า ผลกรรมทางความคิดที่่ชนิดาได้รับนั้นมีอะไรบ้าง

 

ผล พวงจากความคิดชั่วๆเหล่านี้ ส่งผลให้ชนิดาคันยิกๆทั่วตัวเลยค่ะ ประมาณว่า ใช้ความคิดจาบจ้วงล่วงเกินท่านอาจารย์ กรรมก็เลยมาเป็นอาการขี้กลาก แต่ไม่ได้มาเป็นรูปธรรม แต่มันมาทางความคิดและความรู้สึกแทน แบบว่า คันม๊าก คันจนปวดหัว เดี๋ยวคันหัว คันหน้า คันตัว คันขา คันหน้าแข้ง คันเท้า แถมยังปวดที่่ขมับข้างขวา ท้ายทอย และ ปวดไหล่มากๆด้วยค่ะ (จำได้แม่นค่ะ เพราะจดไว้ในไดอารี่ เพราะในชีวิตนี้ไม่เคยคันอะไรมากมายขนาดนี้มาก่อน)

 

หลังจากนั้น ไม่นาน หน้าตาชนิดาก็ดู"โทรม"ลง อย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ ยัง"อึ้ง"เลยว่า โห..เราคิดอะไรต่อบุคคลที่มีบุญบารมีสูงกว่าเรา ทุกอย่างมันสะท้อนกลับมา ชัดเจนขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ทั้งๆที่ไม่มีวี่แววว่าจะเป็นไปได้เลยค่ะ เพราะ"หนังหน้า"ชนิดาเริ่มดีขึ้นมากๆ หลังจากที่ใช้พาเมล่าที่มีพลังปราณและมโนธาตุ  แล้วยังทานสาหร่ายเกลียวทองด้วย ซึ่งก่อนหน้า ที่จะมีความคิดปรามาสนั้น ทั้งหน้าตา ทั้งผม ก็ดูดีขึ้นเยอะแล้ว

 

ส่วนกรรมที่ลวนลามท่านอาจารย์ทางสายตา ตอนนั้นก็คิดว่า คงไม่ส่งผลอะไรมั้ง ก็แอบให้กำลังใจตัวเองเหมือนกัน

 

ที่ไหนได้ พอมาประมวลความคิด และพิจารณาอย่างถ้วนถี่แล้ว เพิ่งถึงบางอ้อว่า ที่ชนิดาเพิ่งไปตรวจเจอ เนื้องอกและซีสต์ในช่องคลอด เมื่อเดือนสิงหาคม(ปี55) ที่ผ่านมานั้น คงจะไม่ใช่แค่เพียง ผลกรรมจากการที่เคยมีส่วนรู้เห็นในการทำแท้งซะแล้ว แต่มันเกิดจากการที่กรรมรวมตัวกัน ทั้งความคิดที่ไปล่วงเกินและมองส่วนเว้าส่วนโค้งของท่านอาจารย์ รวมกับกรรมที่เคยผิดศีลข้อสาม และ กรรมที่มีส่วนรู้เห็นในการทำแท้ง นี่เอง แต่คิดปรามาสไปได้หนึ่งปี เพิ่งจะมาตรวจเจอ...ไม่นานนี้เอง แต่ตอนนี้รู้สาเหตุที่แท้จริงแล้ว เดี๋ยวพบคุณหมอคราวหน้า จะนำผลตรวจเนื้องอกและซีสต์มารายงานต่อไปค่ะ 

 

ค้นหาและพบทางพ้นทุกข์

ตอนที่เกิดความคิดปรามาส มันทุกข์ใจมากๆค่ะ ทั้งกลัว ทั้งไม่ยอมรับตัวเอง และอาการคันนั้นก็ทรมานมากๆ มาบุกหนักจริงๆ แต่ก็พยายามที่จะตั้งสติ และน้อมจิตกราบขอโทษและขอขมาท่านอาจารย์ให้ได้ทุกครั้งที่มีความคิดไปล่วงเกินท่าน เพราะทราบดีว่าเป็นกรรมทางความคิดแน่ๆ เพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้มีอาการอะไร แต่พอคิดปั๊บ อาการต่างๆก็มาเยือนเลย  ซึ่งอาการคันทางกาย ก็พยายามกำหนดจิตตามไปทีละจุด ตอนแรกๆก็เอาไม่ค่อยอยู่หรอกค่ะ เพราะอาการมันเยอะจนกำหนดจิตตามแทบไม่ทัน

 

สุดท้ายก็เลยเจอไม้เด็ด หา"หลัก"ให้จิตยึด ด้วยการภาวนา "อ.อุบล ช่วยด้วย" ให้ได้ตลอดเวลา จิตจะได้ไม่สัดส่าย วอกแวก แล้วเผลอคิดชั่วแบบนี้อีก พยายามอยู่สามสี่วัน อาการคันและปวดต่างๆก็หายไปค่ะ แต่ความไม่สบายใจยังคงมีอยู่ แต่ก็พยายามไม่ให้ความสำคัญกับความคิดเหล่านี้มากนัก เพราะยิ่งถ้าเราไปให้ความสำคัญกับมันมากเท่าไหร่ มันก็จะมีกำลังมากขึ้นเท่านั้น และพอกลับเมืองไทยก็ได้ไปกราบขอขมาท่านอาจารย์อีกครั้งพร้อมทั้งสารภาพบาปกรรมทั้งหมด เพื่อปลดเปลื้องกรรม 

 

แต่ตอนนั้นต้องบอกว่า สู้อย่างใช้"สติ" เท่านั้นค่ะ แต่ยังไม่เกิด"ปัญญา" รู้ได้ด้วยตัวเองหรอกค่ะว่า ความคิดชั่วๆเหล่านั้น มันมีบ่อเกิดมาจากอะไรกันแน่ ซึ่งเรื่องนี้ ก็ได้มาทราบจากท่านอาจารย์ิอุบลในภายหลังว่า

ที่เรามีความคิดลบ หรือ คิดชั่วกับตัวเอง กับคนอื่น หรือกับเบื้องสูงได้นั้น มันมีสาเหตุมาจากที่เราเคยทำผิดศีลมาแล้วทุกข้อนั่นเอง ซึ่งรูปแบบของความคิดชั่ว ก็จะเป็นผลสะท้อนมาจากศีลข้อที่เราผิดบ่อย หรือ มากที่สุด นั่นเอง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดๆ ก็เช่น บางคนแว๊บคิดแต่คำหยาบคาย ก็เป็นผลพวงมาจากการผิดศีลข้อสี่เป็นประจำ หรือ บางคนคิดแว๊บเรื่องลามก ลวนลามอาจารย์ ก็เป็นผลสะท้อนจากที่ผิดศีลข้อสาม นั่นเอง 

 

ซึ่งชนิดาก็เช่นกัน ที่มีความคิดไปสงสัยเรื่องเงินทำบุญ ก็เป็นเพราะว่าตนเคยทำผิดศีลข้อสองมาอย่างมากมายและบ่อยที่สุด เพราะชอบของฟรีเป็นชีวิตจิตใจ แล้วก็เอาของใช้ที่ทำงานมาใช้ส่วนตัวเป็นประจำ และที่สำคัญชนิดาก็เป็นคนที่ตระหนี่ ถี่เหนียว ทำบุญน้อย แต่อยากได้บุญเยอะๆ ใจแคบขี้อิจฉา และไม่ใช้ปัญญาพิจารณาว่า สิ่งที่ท่านอาจารย์ทำเพื่อส่วนรวมอยู่ตลอดเวลานั้น มันมากมายเพียงใด ทั้งเปิดบ้านส่วนตัวให้ผู้คนมากมายมาสร้างบุญ หายทุกข์ได้ ซึ่งท่านต้องเสียสละเวลา เงินทองและทรัพย์สินส่วนตัวเพื่อเลี้ยงดูคนมากมาย รวมถึงงานก่อสร้างต่างๆ ด้วย  

 

ส่วนเรื่องที่มีความคิดไปลวนลามท่านอาจารย์ทางสายตา ก็แน่นอนว่า เคยผิดศีลข้อสามมาก่อน เพราะเคยชิงสุกก่อนห่าม เคยเป็นกิ๊กกับสามีชาวบ้าน แล้วก็คบเผื่อเลือกด้วย

 

ส่วนเรื่องทีี่่มีความคิดไปจับจ้องเรื่องความสวยความงามของท่านอาจารย์ ก็คงจะสะท้อนมาจากที่ตัวเองเป็นคนที่สนใจแต่เปลือก มองคนแต่เพียงภายนอก แต่แก่นแท้ที่ทำให้พ้นทุกข์ได้กลับไม่สนใจ จึงมองหาแต่ข้อตำหนิของผู้อื่น แต่ไม่ดู"จิต"ตัวเอง ซึ่งก็คงจะเป็นเพราะผิดศีลข้อที่หนึ่งมาอย่างช่ำชอง จึงได้ "ไร้เมตตา" มองหาแต่ข้อบกพร่องของคนอื่นอยู่ร่ำไป...

 

และจากปัญญาที่ท่านอ.อุบล มอบให้นี้ เราจึงสามารถวัดระดับความดีของตัวเองได้ชัดๆ จาก"ความคิด"ของเราเอง คือ ถ้ายังแว๊บคิดไปปรามาสท่านอ.อุบลอยู่ ก็รู้ได้เลยว่า ศีลเรายังไม่บริสุทธิ์พอ ฉะนั้น เราจะหลอกตัวเองไม่ได้เลยว่า่ เราดีแล้ว ศีลครบแล้ว เพราะตัวเราย่อมรู้"ความคิด"เราดี...ที่สุด

 

ฉะนั้น เมื่อเราได้เห็นวงจรบาปอย่างชัดเจนแล้ว ว่ามีจุดเริ่มต้นมาจากอะไร ก็ไปแก้ที่เหตุเลย ด้วยการรักษาศีลห้าให้บริสุทธิ์ให้ได้ โดยต้องมี"สติ"ตลอดเวลา ต้องคิดก่อนคิด คิดก่อนพูด แล้วก็คิดก่อนทำเสมอ เพราะถ้าเราเผลอสติ ผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อย เราก็จะได้รับ"ความทุกข์"เป็นผลสะท้อนกลับมาเช่นนี้เรื่อยไป

 

แล้วยิ่งถ้าเราเผลอสติไปคิดล่วงเกินผู้บริสุทธิ์และบุญบารมีสูงอย่างท่านอาจารย์ ผลกรรมทางความคิดนี้ เป็นบาปหนักถือว่าเป็น อนันตริยกรรม ทำให้ตกนรกอเวจีได้ง่ายๆเลย

ลูกบ้านสวนฯตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอย่างดี และจึงอยากแบ่งปัน"สัจธรรม" ข้อนี้กับทุกๆท่านที่ได้มา่อ่าน เพราะยังมีคนอีกมากมาย ที่ยังไม่รู้ว่า "กรรมทางความคิด" นั้นเป็นบาปกรรมหนัก...

 

ฉะนั้น บาปกรรมอันใดที่เราเคยทำไว้ ไม่ว่าจะทางความคิด คำพูด หรือ การกระทำ เราต้องได้รับผลกรรมนั้นแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว อย่าชะล่าใจเด็ดขาด อย่างที่ท่านอาจารย์ได้เน้นย้ำกับลูกบ้านสวนฯทุกคนเสมอว่า หมั่นสร้างบุญให้เต็มที่ และ ต้อง"ละ"บาป ให้ได้ตลอดเวลาด้วย...แม้แต่ทางความคิด

 

ชนิดากราบขอขมาท่านอ.อุบลด้วยนะคะ ที่มีความคิดไปจาบจ้วงล่วงเกินท่านอาจารย์อยู่บ่อยๆ ไม่ขอแก้ตัวแต่อย่างไรค่ะ เพราะเลวจริงๆ แต่ขอสำนึกผิด และจะขอ "แก้ไข"ตัวเอง และจะพยายามทำตามคำสั่งและคำสอนของท่านอาจารย์ให้ได้ในทุกๆเรื่อง

 

หวังว่า ต่อจากนี้ไป ทุกๆท่านที่ได้อ่านเรื่องนี้แล้ว คงจะมีสติ และ ระวัง"ความคิด"ของท่าน มากยิ่งๆขึ้นนะคะ

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 06:36:43


ความคิดเห็นที่ 116 (1640769)

ข้าพเจ้าชื่อ นางประวีณา แค้มป์

ชื่อเล่น แมว

อายุ 45 ปี

จบการศึกษา ระดับ ประโยควิชาชีพชั้นสูง ( ปวส) การตลาด

จาก วิทยาลัยพาณิชยการเชตุพน ( บางมด )

อาชีพปัจจุบัน  ผช. ท่าน อาจารย์อุบล

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

กราบท่าน อาจารย์อุบล / รูปอ.อุบล แล้วชีวิตอย่างไร ?

ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนค่ะว่า  ไม่มีใครใช้ให้กราบ

การกราบท่าน อาจารย์ ออกมาจากใจที่ ต้องการกราบ

ไม่ตะขิด ตะขวงใจ กราบแล้ว สบายใจ แล้วยิ่งได้กอดด้วยนะ

สุดยอดของความสุขเลยอ่ะ

เพื่อแสดงถึงว่า เราเคารพ บูชาท่านจากใจจริง ๆ

เพราะ อ.อุบล คือ แม่คนหนึ่ง เป็นแม่ผู้ให้จิตและวิญญาณ

ทำให้รู้จัก ว่า ความดี เป็นอย่างไร

การที่ได้กราบท่านแล้ว ทำให้รู้สึกถึงความร่มเย็น ของชีวิต

เป็นอะไรที่บอกไม่ถูกนะคะ ...

ยิ่งตอนที่กราบท่าน แล้วได้พรจากท่าน....เป็นความรู้สึก

ดีใจ ปลื้มใจ และพรของท่าน วิเศษที่สุด....

ชีวิตเปลี่ยน ตั้งแต่ได้พบท่าน เพราะท่านให้เปลี่ยนตัวเอง

และการกราบ เป็นการเติมเต็ม ทางด้านจิตใจ

ที่อยากบอกว่า เราเทิดทูล ขอแสดงความกตัญญู

ด้วยการกราบ ชีวิตมีแต่ความเจริญในทุก ๆ เรื่องค่ะ

ก่อนทำสมาธิ ภาพที่กำหนดคือ กราบพระ และต่อด้วย

กราบท่าน อ.อุบล ทำให้มีความสุข จิตสงบ ทำสมาธิได้ดี

ทำได้ทุกขณะอีกต่างหากค่ะ ขอบอกว่า

แมวน่ะ กราบ อาจารย์อุบล วันละหลาย ๆ ครั้ง เรียกว่า

อยากกราบตอนไหน ก็กราบได้ตลอดเวลา

สุขใด ก็ไม่เท่า สุขใจ แล้วคร๊า

กราบ อ.อุบล ทำให้ชีวิตและจิตใจ สุข สงบ ร่มเย็น

เหมือนมีร่มโพธิ์  ร่มไทร คอยให้ร่มเงา

กันแดด กันฝน ปน พายุน้อย ใหญ่  ไม่ให้กล่ำกลาย

กราบเท้าขอบพระคุณที่สุดในชีวิต

รัก เคารพ อ.อุบล ที่สุดค่ะ

แมว

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 07:41:24


ความคิดเห็นที่ 117 (1640825)

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทศวรรษ ฉิมวงศ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 12:23:09


ความคิดเห็นที่ 118 (1640832)

(แก้ไขใหม่ค่ะ)

ดิฉันนางพรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) อายุ 30 ปี

การศึกษาสูงสุด ปริญญาตรี วท.บ.(เกษตรศาสตร์)

จบจาก มหาวิทยาลัยนเรศวร

อาชีพ ธุรกิจส่วนตัว (ร้านขายยา) ที่อยู่ จังหวัดลพบุรี

"ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิดแล้วจะได้รับผลกรรมอย่างไร"

ดิฉันเคยมีจิตคิดปรามาสท่านอาจารย์อุบลครั้งแรก หลังจากที่มาบ้านสวนพีระมิดเป็นครั้งที่สอง โดยในขณะที่อาบน้ำอยู่ ตอนที่ก้มลงไปล้างเท้า อยู่ๆก็มีจิตแว๊ปว่าเท้าของเราไปกระทบกับหน้าท่านอาจารย์ ตอนนั้นตกใจมากและคิดว่าเราคิดไปได้อย่างไร ตอนนั้นกลัวมาก กลัวผลกรรมที่จะเกิดขึ้น เพราะไปคิดกับผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ แล้วยังเคยคิดว่าคนที่ออกมาพูดในรายการเป็นพวกหน้าม้า เวลาที่ท่านอาจารย์เดินผ่านก็คิดว่าท่านสะโพกใหญ่ และพอนึกถึงท่านอาจารย์ หรือจะใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย ก็มักจะมีคำหยาบคายนำหน้าชื่อขึ้นมาก่อนและบางครั้งก็จะมีรูปเท้าขึ้นมาบ้าง เคยคิดสงสัยเรื่องเงินที่มาทำบุญว่าจะถูกนำไปใช้อย่างถูกต้องหรือไม่ เคยอ่านกระทู้และดูรูปรดน้ำดำหัวท่านอาจารย์ทั้งสองช่วงสงกรานต์ ก็คิดว่าน้ำที่รดนั้นเป็นน้ำล้างเท้า และมีอยู่ครั้งหนึ่งท่านอาจารย์ถามทุกคนว่าท่านมีอาชีพอะไร ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลยแต่พอฟังคำถามอยู่ๆจิตก็แว๊ปขึ้นมาว่า อาชีพโสเภณี คิดดูแล้วกันค่ะว่าดิฉันมีจิตที่เลว ชั่วและจิตต่ำขนาดไหน ยังไม่พอนะคะ ยังคิดปรามาสองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย โดยจะเป็นในขณะที่อาบน้ำก็จะมีจิตแว๊ปถึงการร่วมเพศระหว่างตัวดิฉันกับพระพุทธองค์ ซึ่งไม่รู้ว่าคิดไปได้อย่างไร และเคยมีน้องคนหนึ่งออกมาเล่าว่าที่ตัวเองรอดตายจากอุบัติเหตุมาได้ เป็นเพราะเสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณเมตตาต่ออายุให้ ซึ่งตอนนั้นฟังแล้วจิตดันคิดอยากลองดี ทั้งที่ไม่อยากคิด แถมยังกลัวอีกต่างหาก ขนาดภาวนาช่วยในขณะทำบุญแรงกายจิตก็ยังแว๊ปคิดได้ และเคยคิดปรามาสในหลวงเรื่องเสื้อเหลืองเสื้อแดงว่าทำไมพระองค์ไม่ทรงออกมาห้ามทั้งที่ตอนนั้นพระองค์ทรงประชวรหนัก และปรามาสหลวงตามหาบัวว่าทำไมท่านถึงไปยุ่งกับเรื่องการเมืองด้วย นี่แหล่ะค่ะมโนกรรมหนักๆที่ดิฉันเคยทำมา

ผลกรรมที่ได้รับ

ก่อนหน้าที่จะมีจิตคิดปรามาสท่านอาจารย์อุบล ตอนนั้นก็มีความทุกข์เป็นปกติอยู่แล้ว แต่ก็กินได้ นอนหลับได้ แต่หลังจากที่คิดปรามาสท่านอาจารย์อุบล ตอนนั้นจิตมีความทุกข์ใจมาก กินก็ไม่ได้ นอนหลับอยู่ดีๆพอตื่นขึ้นมาก็ผวา วันๆไม่มีกะจิตกะใจคิดอยากจะทำอะไรเลย หมดแรง ไม่มีเรี่ยวแรง อาการเหมือนคนตรอมใจ เหมือนคนกำลังจะตาย หรือพูดง่ายๆเหมือนคนที่ตายทั้งเป็น ซึ่งอาการเหล่านี้ดิฉันไม่เคยเป็นมาก่อน และคิดว่าความทุกข์และสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา ต้องเป็นผลมาจากที่เรามีจิตคิดไม่ดีกับท่านอาจารย์แน่นอน และทำไมดิฉันถึงต้องทุกข์ขนาดนี้ กับคนอื่นเราก็เคยคิดไม่ดีแถมยังไม่ใช่แค่จิตแว๊ปแต่เป็นการตั้งใจคิดเลยค่ะ ถามว่าทุกข์ไหม ก็ทุกข์นะคะ ทุกข์เพราะไม่อยากเห็นเขาได้ดีมีสุข แต่ก็ยังกินได้ นอนหลับดี ไม่เป็นอะไรแค่ใจไม่สงบ แต่ก็ยังไม่ทุกข์มากเท่ากับที่คิดไม่ดีกับท่านอาจารย์อุบล ซึ่งก็เป็นหลักฐานยืนยันได้ว่าการที่เราคิดกับใครก็ตามที่มีความดีมากๆเราก็จะได้รับผลกรรมหนักมากและเห็นผลได้รวดเร็วมาก ทันตาเห็นเลยค่ะ เพราะถ้าการปรามาสท่านอาจารย์ไม่เป็นบาปหนัก ดิฉันก็คงไม่ต้องมาทุกข์หรือได้รับผลกรรมหนักขนาดนี้แน่นอนค่ะ

ทางพ้นทุกข์

ดิฉันเคยได้ดูรายการคุยไปแจกไปตอนที่มีคนมาขอขมาท่านอาจารย์อุบลที่มีจิตคิดปรามาสในเรื่องต่างๆ ตอนนั้นยังคิดว่าคนๆนั้นคิดไปได้อย่างไร แต่ตอนนี้มาเกิดขึ้นกับตัวดิฉันเอง แล้วดิฉันจะทำอย่างไร ก็ในเมื่อเราคิดไม่ดีกับท่านอาจารย์ เราก็ต้องไปขอขมาท่านสิ ตอนนั้นคิดแต่ว่าต้องออกไปขอขมาท่านอาจารย์อุบลให้ได้ และต้องทำให้เร็วที่สุด เพราะตอนนั้นทุกข์มาก ทุกข์จนทนไม่ได้ มันเหมือนคนกำลังจะตายและคิดว่าสิ่งที่เราคิดไม่ดีถึงจะเป็นเพียงแค่จิตแว๊ปก็ตาม แต่มันก็ร้ายแรงมาก และเป็นบาปหนักมาก เทียบเท่ากับอนันตริยกรรม และก็คิดว่าถ้าเราไม่รีบขอขมาท่านอาจารย์ อาจจะไม่มีโอกาสอีกเลยก็ได้ เราอาจจะมีอันเป็นไปก่อนก็ได้ และคิดว่าถ้าเราตายก่อนที่จะได้ขอขมาท่านอาจารย์ เราคงไม่รอดจากนรกขุมที่ลึกที่สุดเป็นแน่ และทำให้นึกถึงพระเทวทัตที่ปรามาส ล่วงเกินต่อพระพุทธองค์แล้วถูกธรณีสูบ น่าจะคล้ายๆกัน และในที่สุดก็มีโอกาสได้ออกไปสารภาพบาปและขอขมาต่อท่านอาจารย์อุบล และทุกๆพระองค์ที่ดิฉันได้ปรามาสทั้งหมด วันนั้นขนาดพยายามข่มใจไม่ให้ร้องไห้ แต่สุดท้ายร้องตั้งแต่เริ่มพูด ร้องไห้ตลอดเวลาที่พูด เพราะว่าทั้งรู้สึกผิด เสียใจ ละอายแก่ใจ และทุกข์ใจมากจริงๆ คือเราคิดว่าเราจะไปขอพึ่งใบบุญท่านแต่เรากลับไปคิดไม่ดีกับท่าน มันเป็นสิ่งที่หน้าละอายใจที่สุด ท่านอาจารย์เมตตาบอกว่าที่เราคิดแบบนี้เป็นเพราะเราเคยผิดศีลมาแล้วทุกข้อ โดยถ้าผิดศีลข้อไหนมามากก็จะคิดไปในทางนั้นมาก และดิฉันเป็นบุคคลที่เข้าข่ายทักท้วงศาสดาอันใครๆทักท้วงไม่ได้ และเป็นบุคคลที่พระเทวทัตส่งมา แต่ตอนนั้นกลับไม่ได้ถามท่านอาจารย์ว่า ดิฉันเคยเป็นสาวกของพระเทวทัตหรือไม่ และก็ได้กราบขอขมาท่านอาจารย์อุบล หลังจากนั้นก็รู้สึกดีขึ้น สบายใจขึ้นมากค่ะ ความทุกข์กายทุกข์ใจต่างๆที่เคยเกิดขึ้นก็ค่อยๆหายไปค่ะ และจากนั้นมาดิฉันก็หันกลับมาพยายามรักษาศีลอย่างจริงจังและตั้งใจ ชีวิตก็เริ่มมีความสุขมากขึ้น แต่อาการจิตแว๊ปก็ยังไม่หายไปซะทีเดียว แต่ว่าน้อยลง และพอรู้ตัวว่ามีจิตแว๊ปก็จะรีบขอขมาท่านอาจารย์อุบลและทุกๆพระองค์ทันที และจะอุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวรทั้งหมดของดิฉัน และด้วยความที่ไม่แน่ใจว่าดิฉันเคยเป็นสาวกของพระเทวทัตหรือไม่ เวลาที่มีจิตคิดปรามาสท่านอาจารย์อุบลหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดิฉันก็จะรีบอุทิศบุญให้กับพระเทวทัตและพระเจ้าอาชาติศัตรู และขอลาออกจากการเป็นสาวกของท่าน และขอมอบกายถวายชีวิตต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านับแต่นี้เป็นต้นไป และอาการจิตแว๊ปก็หายไป แต่พอนานๆก็จะเป็นอีก พอมีอีกก็จะทำแบบเดิมอีกไปเรื่อยๆค่ะ จนกว่าจะหายขาดจากอาการจิตแว๊ป คิดชั่วให้ได้ค่ะ

ลูกขอน้อมกราบขอขมาต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ พระเจ้าอยู่หัว หลวงตามหาบัว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ ขอน้อมกราบขอขมาต่อท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคลและคุณท๊อป ที่ลูกเคยมีจิตคิดปรามาสล่วงเกินไม่ว่าจะทางกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ทั้งที่เจตนาก็ดี มิได้เจตนาก็ดี ทั้งที่ระลึกได้ก็ดีและระลึกไม่ได้ก็ดี ลูกขอน้อมกราบขอขมากรรมต่อทุกๆพระองค์ ทุกๆท่านอีกครั้งเจ้าค่ะ กราบ กราบ กราบ

ลูกขอน้อมกราบแทบพระบาทขอบพระคุณสมเด็จองค์พระปฐมบรมธรรมบิดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ ขอน้อมกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคลและคุณท๊อปที่เมตตาให้โอกาส ให้อภัย กับลูกคนนี้ที่มีจิตชั่ว จิตต่ำ ให้ได้ปลดล็อกกรรมหนักในครั้งนี้เจ้าค่ะ สาธุ กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น พรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 12:47:44


ความคิดเห็นที่ 119 (1640834)

เฮ้อ......อ่านธรรมทาน

ของลูกบ้านสวนหลาย ๆ ท่านแล้วก็รู้สึกเห็นใจมาก ๆ

เหมือนกับเราได้พูดกับคนหัวอกเดียวกัน

ทำให้รู้ว่าแม้แต่คนที่ไปทำบุญที่บ้านสวนฯ บ่อยๆ

ก็มีมโนกรรมคิดปรามาสอาจารย์เหมือนกับเราเช่นกัน

เมื่อมาพิจารณาดูแล้ว อยากจะเดาว่าทุกท่าน(รวมทั้งตัวเองด้วย)ที่มีปัญหาเรื่องนี้

เริ่มสร้างบุญใหญ่ได้ผลมากขึ้น ตรงประเด็นมากขึ้น

ท่านเจ้ากรรมและท่านมารทั้งหลาย

จึงต้องขัดขวางอย่างสุดฤทธิ์

เพื่อไม่ให้ท่านทั้งหลายไปถึงจุดหมายง่ายนัก

เหมือนที่หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม เคยพูดว่า 

มารไม่มี บารมีไม่เกิด ประเสริฐไม่ได้

ขอเป็นกำลังใจให้กับทุก ๆ ท่าน

ขอให้ทุก ๆ ท่านหลุดพ้นจากบ่วงมโนกรรมนี้โดยเร็วนะคะ

สู้ สู้ สู้

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปัญจกานต์ วรรณทอง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 13:03:01


ความคิดเห็นที่ 120 (1640887)

โอ้โห

เขียนกันหนุกหนานเลยนะ

ไอ้ปลดปล่อย สิ่งที่สมเด็จพ่อทรงทราบ

ด้วยญานวิถี หรือ พุทธญาน

ว่าลูกหลาน ปลดล๊อกกรรม เหล่านี้ยังไม่ได้

จึงต้องให้มาเขียนธรรมทาน

เพื่อต้องการให้เป็นอุทาหรณ์สอนคนอื่นๆ

ต่อไป อย่างน้อย จะได้ฉุกคิดว่า

กรรม เกิดได้ทั้ง 3 ทางจริง

 

ส่วนใหญ่

มองข้ามมโนกรรม

ซึ่งเป็นกรรมหนักที่สุด แม้ยังไม่พูด

ยังไม่ลงมือทำ แต่มันควบคุมทุกส่วน ทุกสิ่ง

ของชีวิตเรา

 

วันนี้

ได้กราบทูลถาม

สมเด็จพ่อ

ว่าทำไม คนจึงสงสัยเรื่อง เงินทำบุญ

ท่านเมตตาตอบว่า

1.เพราะ ส่วนใหญ่ ที่อื่นเขาเคยมีปัญหากันมาก

2.คนที่สงสัย ส่วนใหญ่ เป็นคนขี้เหนียว

ไม่ค่อยทำบุญเยอะ จะสงสัยมาก

ส่วนคนที่ทำมากจริงๆ จะไม่สงสัย หรือคนไม่ทำเลย

ยิ่งสงสัยหนัก เพราะมีความโลภ เอาตัวเองตัดสิน

เพราะตัวเองเกิดความอยากได้ ริษยา

ก็เลยคิด ก็เลยสงสัย

 

แล้วสมเด็จพ่อ

มีวิธีให้คนที่สงสัย พิสูจน์หรือไม่เจ้าคะ

ก็ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี่ยังไง

ก็ลองให้เขาไปทำบุญที่อื่นเปรียบเทียบกัน

เขาจะหายป่วยทันทีได้ไหม ถ้าเนื้อนาบุญไม่บริสุทธิ์

 

ถ้าเธอเป็นเนื้อนาบุญ

ที่มีความมัวหมอง ไม่บริสุทธิ์

ผลจะไม่เกิดฉับพลันทันที อันนี้ตถาคต

บอกไว้นานแล้ว ทำไมไม่เอามาคิดกัน

จะสงสัย ก็สงสัยได้ แต่ให้ใช้ปัญญา หลักคำสอน

ของตถาคต มาพิสูจน์ได้ทุกเรื่อง

 

และคนที่คิดสงสัยเธอ

เมื่อมาทำบุญกับเธอ

ก็ขาดคุณสมบัติแรกแล้ว

คือผู้ให้บริสุทธิ์ ขาดความบริสุทธิ์

ตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว เขาจึงไม่หลุดพ้นปัญหา

ตถาคต จึงให้พวกเขาทั้งหลาย ที่สงสัยเธอ

ได้ชำระจิต และ พิสูจน์ด้วยหลัก กาลามสูตร

ซึ่งทุกคนสามารถพิสูจน์ข้อสงสัย

เกี่ยวกับตัวเธอได้ทุกเรื่อง

ยกเว้น

คนสงสัยไม่ใช้ปัญญา

 

และ

เขาเหล่านั้นคงคิดว่า

การหายทันที การมีความสุข

การพ้นทุกข์ทันใดนี้

 

มันมีอยู่ทั่วไปทุกวัด

หรือว่าทุกที่ ที่ไปทำบุญใช่ไหม

 

ไม่ทราบพระพุทธเจ้าค่ะ

 

เธอก็ลองถามเขาดูสิ

ว่าคนเหล่านี้ มาหาเธอทำไม

ถ้าไม่ใช่มาเพราะ ความอยาก

จากผลที่เกิดขึ้น จากการที่เธอแสดง

ให้คนเห็นว่า หายเจ็บ หายจน

ทันทีได้ ก็อยากได้

แต่ใจ ไม่เคารพเธอ ไม่คิดหาเหตุผล

ไม่ค้นหา ด้วยหลักธรรม

 

เอาแต่คิด เอาแต่สงสัย

แต่ไม่วาย วนเวียนอยู่กับเธอ

 

เขาอาจจะคิดไม่ถึงก็ได้

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

ไม่ใช่คิดไม่ถึงหรอก

ไม่คิด และ เพราะ กรรมบังตา

เพราะความโลภบังใจ

 

ความตะหนี่ถี่เหนียว

ยึดเหนี่ยวดวงจิตเขาไว้

จนลืมดูว่า ทำไม

เธอจึงทำให้คนหายทันทีได้

 

ในเมื่อเธอก็บอก

ตั้งแต่ปีแรกแล้วว่า

ถ้าทำบุญแล้ว มีความบริสุทธิ์

3 ส่วน อานิสงส์จะเกิด

ฉับพลันทันที

แค่นี้ เขาคิดไม่ได้หรือ

บางคนจบปริญญาโท ทำไมคิดไม่ได้

 

คำว่าบริสุทธิ์

แปลว่าอะไร ต้องให้ตถาคต

ช่วยบอกไหม

 

วันใดที่เธอ

นำเงินทำบุญไปใช้ส่วนตัว

วันนั้น ปาฏิหาริย์บ้านสวนพีระมิด

ก็จะถูกปิดตำนานทันที

 

แต่

ตราบใดที่เธอ

รักษาความบริสุทธิ์ไว้ได้

ตราบนั้น ตถาคต จะส่งวิชาใหม่

มาให้เธอไม่หยุดยั้ง

เธอจงทำความบริสุทธิ์ให้เกิด

ทั้ง 3 อย่างให้จงได้

 

ส่วนใจคนมา

ข้าพระพุทธเจ้าไม่สามารถ

ไปล่วงรู้หรือบังคับเขาได้

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

เธอบังคับไม่ได้

แต่เธอรู้ได้ และ เขาเองรู้ได้

ถ้าเขาไม่อยากหายทันที

ไม่อยากพ้นทุกข์ทันใด

เขาก็จะสงสัยต่อไปไม่หยุด

 

พระพุทธองค์

ไม่ทรงหาวิธีช่วยเขา

หรือเจ้าคะ

 

เขาต้องแสดงบาป

เปิดเผยตัวเองออกมา

ด้วยการปรามาสเธออย่างนี้แหละ

แล้ว เธอ และ คนทั้งหลาย

ก็จะได้รู้ว่า

คนที่คิดปรามาสตถาคต

และเบื้องสูง

รวมทั้งกับตัวเธอ

เพราะเขาผิดศีลข้อใดมาก่อน

เขาก็จะคิดเรื่องนั้น

 

กราบพระบาทเจ้าค่ะ

 

แล้วเขาจะหลุดพ้นได้อย่างไร

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

เขาต้องลาออก

จากการเป็นสาวกพระเทวทัต

ต้องมอบกายถวายชีวิต

ให้ตถาคต และ ตัวเธอ

และ

เขาต้องมีศักดิ์ศรี

 

ทำอย่างไรเจ้าคะ

 

ให้เขาตั้งใจว่า

เราจะมีศักดิ์ศรี ถ้าเราคิดไมดีกับใคร

เราจะไม่ขอพึ่งพาอาศัยคนนั้น

 

เราไม่ต้องการหายทันที

เราขอชดใช้กรรม

ยอมเจ็บ ยอมจน ยอมทุกข์

 

แล้วเมื่อไหร่จะหลุดพ้น

เจ้าคะสมเด็จพ่อ

 

เมื่อชดใช้จนหมด

 

หมายความว่าอย่างไรเจ้าคะ

 

ก็คือทนรับกรรมไป

 

ไม่มีวิธีง่ายและเร็วกว่าหรือเจ้าคะ

 

มี แต่เมื่อ เขาไม่ใช้

ก็มีอีกทางเดียว ก็คือ ยอมชดใช้กรรม

 

วิธีไหนเจ้าคะ

ที่ว่าเขาไม่ใช้น่ะเจ้าค่ะ

 

ก็วิธีใช้ปัญญา

ค้นหาความดีงามของเธอ

มองหาความดีของเธอให้พบ

ว่า

เธอ มีดีอะไรบ้าง

เขา มีดีเท่าเธอหรือไม่

แล้วเขา มาขอพึ่งเธอทำไม

ถ้าคิดว่าเธอไม่ดี

ทำไมไม่ไปที่อื่น หรือพึ่งตัวเอง

 

เธอ

อยู่บ้านเธอ

อยู่กับครอบครัวเธอ

มีอาชีพการงานที่ต้องทำ

แล้ว

ให้เขาถามตัวเองว่า

เขาเลี้ยงดูผู้คน นำพาผู้คนพ้นทุกข์

เอาเงินครอบครัว เอาบ้านส่วนตัว

เอาความเป็นส่วนตัว

มาสละให้ผู้อื่นได้อย่างเธอหรือไม่

ให้เขาคิดตรงนี้ ตอบตรงนี้ให้ได้

 

เมื่อเขาตอบได้

ปัญญาเขาจะเกิด

เมื่อปัญญาเกิด ก็จะพ้นทุกข์ได้

 

แต่ถ้าไม่มีปัญญา

ต่อให้จบโท จบเอก ก็ยังคง

ทุกข์อยู่ร่ำไป

ตถาคตช่วยได้เพียงเท่านี้

นอกนั้นทุกคนต้องช่วยตัวเอง

 

กราบพระบาท

ในพระมหาเมตตา

ชี้ทางสว่างให้ปัญญา

แก่ลูกหลานพระพุทธเจ้าค่ะ

 

เจริญพร

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 20:34:58


ความคิดเห็นที่ 121 (1640888)

       แก้ไขใหม่ค่ะ

  ดิฉันนางบุญภิบาล คงเขียว    ( ตุ๊ก )   อายุ 49 ปี

การศึกษาสูงสุด ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์

อาชีพ แม่บ้าน

  "กราบรูปท่านอาจารย์อุบลบ้านสวนพีระมิด  แล้วชีวิตดีอย่างไร"

  " จากการปรามาสท่านอาจารย์อุบลได้ผลกรรมอะไรอย่างไร"

ดิฉันได้รู้จักอาจารย์อุบลในรายการคุยไปแจกไป เมื่อปีพ.ศ.2553   ประมาณเดือนมีนาคมดูแล้วก็ปรามาสว่าแต่งตัวเซ็กซี่จัง รัดรูปเห็นทราดทรงแต่อาจารย์อุบลหุ่นดีมาก หลังจากนั้นก็ได้เดินทางไปเจอท่านอาจารย์อุบลในค่าย 10  ตอนนั้นเห็นตัวจริงในใจก็ชมว่าสวย แต่พอไปหลายครั้งเข้าทำให้จิตแวปที่ไม่ดีเดหมือนอิจฉาว่าท่านอาจารย์อุบลเก่งในทุกๆด้านดิฉันจึงอยากนำความดีของท่นอาจารย์อุบลมาฝึกและแก้ไขที่ตัวยังบกพร่องอยู่   แต่ด้วยปัญญาอ่อนอายุสมองไม่สมดุลย์กับอายุปัจจุปันไปทุกครั้งวงแตกการประมาณนั้น จิตก็ดีขึ้นนิดหน่อยกลับคิดแว๊ปไม่ดี เช่น มองที่เป้า  และจิตแบ่งเป็น 2 ฝ่ายเถียงอยู่ในใจว่าจริงหรือเปล่าทั้งที่หนูเองก็เจอปฏิหาริย์หลายครั้งและเห็นกับตาก็หลายครั้งเหมือนแต่จิตยังต่อต้านอยู่แต่ไม่รุนแรงเหมือนตอนแรกพอดึงกลับมาได้  แต่วันนั้นจู่ๆ  คิดแวปไม่ดีกับท่านอาจารย์มงคลด้วยมองก้นอาจารย์มงคล  พอรู้สึกก้ดึงสติกลับมาได้กลัวจะไปถึงไหนๆๆ  จึงพยายามดึงมาทุกครั้งถ้าจิตแว๊ปไม่ถึงครอบครัวท่านอาจารย์อุบล  และคุณอาท่านด้วยที่พูดพร่ามมากเกินไปท่านอาจารย์เมตตาเตือนแล้วเตือนอีกแต่ก็ผิดซ้ำผิดซ้อนจนได้  ต่อมาตอนกิกรรมภาคกลางคืนตอนกลับจากงานศพคุณตาทำให้น้องอัยเดินมาเตือนยังทำหน้าเซ็งและเถียงในใจว่าเซ็งจังว่าแต่ดิฉันคนอื่นทำผิดตั้งเยอะทำไมไม่เตือน   รู้ว่าท่านหวังดีแต่ดิฉันกลับทำตัวไม่รู้สำนึกแก่จะห้าสิบปีอยู่แล้วยังโง่ไม่เลิกอาจารย์อุบลค่ะดิฉันอยากให้ท่านอาจารย์อุบล ตีกะบานให้หายโง่สักทีเถอะค่ะ  พอพักไม่ได้เข้าไปบ้านสวนฯ  ทำให้เหมือนไม่รู้ขาดอะไร ที่ไม่ไปนั้นเพราะเบื่อตัวเองจังเลยไปแล้วทำผิดมาทุกครั้ง  ตอนแรกคิดว่าจะไม่ไปแล้ว  แต่พอเกิดปัญหาหาทางแก้ไขไม่ได้จึงคิดไปบ้านสวนฯ เพื่อเติมกำลังใจ เติมความมั่น  เติมปัญญาที่โง่อยู่เพื่อจะฉลาดขึ้นมาบ้าง  แต่ผลไม่เป็นอย่างที่ว่าเลยกลับวงแตกและบ้าๆ บอๆ  อีกแล้วพูดไร้สาระไอ้เรื่องที่สมควรที่พูดไม่พูด  ไอ้เรื่องที่สมควรพูดเสือกพูดมาได้  โง่จริงๆตอนนั้นดิฉันเองเอาสมองส่วนไหนนะคิดยังโง่ดักดาน  ตอนนี้ทำให้ดิฉันความสุขและมั่นใจมากขึ้น ค่ะ ทั้งด้านสุขภาพ  และปัญญา  และการเงินไม่ขาดมือ  ปัญหา สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแต่ละวันได้สำเร็จทั้งครอบครัวได้รถใหม่สมความปราถนาค่ะ ดิฉันจะกราบรูปท่านอาจารย์อุบลทั้งในทีวี และที่ได้ไปบ้านสวนพีระมิดทุกครั้งค่ะ ยิ่งกราบรูปท่านอาจารย์ทำให้สุขภาพดี  โรคหาย เช่น กรดไหลย้อน

มีความมั่นใจและมีควมสุขทุกๆด้านค่ะ

ผลจากการปรามาสท่านอาจารย์อุบล

1. ปวดหัว  เกิดอุบัติเหตุ

2. ข้าวของในบ้านเสียหายผิดปกติจนแม่สามีบ่นว่าเบื่อจัง มีแต่ของเสีย เบื่อหน่ายตัวเองอยากจะไหนให้พ้นไปไมน่ามาอยู่ที่ปทุมเลย เซ็งไปหมดเลย

3. ผื่นคันมากขึ้นผิดปกติทั้งที่กินยา

หลักฐานการยืนยันว่าเป็นบาปคืออะไร 

จิตใจฟุ้งซ่านไม่มีความสุข  ขาดสติ ( บ้า )

ดิฉันสำนึกได้เพราะอะไรว่าที่ดิฉันปรามาสบาปหนัก ดิฉันไม่มีความสุข และนี่คือหนทางที่ทำให้เราพ้นทุกข์ทางอื่นไม่มีแล้ว ( ทางเดียวทางสายการนำของท่านอาจารย์เท่านั้นค่ะ )

ดิฉันจึงคิดได้ว่านี่คือหนทางแห่งดับทุกข์จากท่านอาจารย์อุบลได้เมตตาเตือนแนะนำในการเขียนธรรมทาน พูดเป็น (ไม่ใช่สักแต่พูด ) ทำเป็นโดยใช้กรรมฐานกำกับในการทำงานทุกครั้ง  นั้นคือความเมตตาจากท่านอาจารย์อุบลบางครั้งหน้าแตกบ้างก็ยอมเพื่อจะเปลี่ยนตัวเองให้เร็วที่สุดเท่าที่ปัญญามีอยู่ในตอนนั้นๆ 

หนูกราบแทบพระบาทขอขมาต่อพระพุทธองค์  พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย  ครูบาร์อาจารย์  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งอนันตจักวาล สิ่งที่สำคัญยิ่งคือ ท่านอาจารย์อุบล และครอบครัวที่หนูได้ล่วงเกินทุกๆพระองค์  ทุกๆ ท่าน ทั้งกายก็ดี วาจาก็ดี  ใจก็ดี  ต่อหน้าก็ดี   ลับหลังก็ดี  ตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ( กายกรรม วจีกรรม  มโนกรรม ) รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ด้วยปัญญาน้อย

หนูสำนึกบาปกรรมแล้ว และจะขอตอบแทนทุกๆพระองค์ด้วยการทำความดีจนกว่าจะหมดลมหายใจด้วยการทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งคน  สัตว์  สิ่งมีชีวิต และ สิ่งไม่มีชีวิต  ขอได้โปรดงดโทษและคอยโมทนาบุญของข้าพเจ้าทุกขณะจิตที่ข้าพเจ้าทำความดีจนท่านได้เข้าถึงนิพพานก่อนและช่วยคุ้มครองปกปักษ์รักษาข้าพเจ้าให้คิดทำความดีให้ถึงที่สุด

กราบพระบาทพระพุทธเจ้าค่ะ

กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 20:55:54


ความคิดเห็นที่ 122 (1640889)

จากความเมตตา

ของ

สมเด็จพระปฐมบรมธรรมบิดา

ทำให้ได้ทราบว่า

คนเราที่ทุกข์ ที่เจ็บ ที่จน

ก็เพราะขาด "ปัญญา" ตัวเดียวเท่านั้น

 

ทุกคนใช้ปัญญา

นำพาชีวิตตัวเอง สุดแต่ว่า

ปัญญา จะพาไปทางไหน

 

ถ้าปัญญาดี ก็พาไปดี

ถ้าปัญญาน้อย ก็สุขน้อย

ถ้าปัญญามาก ก็สุขมาก

ถ้าไม่มีปัญญาเลย ก็มีแต่ทุกข์

 

ตอนที่สมเด็จพ่อ

รับสั่งให้คนที่ปรามาส อ.อุบล

ได้มีโอกาสได้ปลดล๊อกกรรม

ยังคิดไม่ออกเลย

ว่าจะช่วยปลดได้อย่างไร

เพราะมันเป็น

"มโนกรรม"

เป็นส่วนใหญ่ และเป็นการ

ล่วงเกิน สงสัย ในใจ

 

วันนี้

ทุกท่านคงได้คำชี้แนะ

จากสมเด็จพ่อกันแล้วนะจ๊ะ

ว่า

สาเหตุที่ปลดกรรมนี้ไม่ได้

เพราะท่านสร้างกรรมใดมา

 

สรุปว่า

1.ผิดศีลข้อใด ก็จะมีมโนกรรม

เรื่องนั้นๆ

2.ถ้าสงสัยเรื่องเงิน ก็จะผิดศีลข้อ 2

กันมามาก และ ตะหนี่ถี่เหนียว

ไม่ค่อยควักเงินทำบุญ

3.คนที่ทำบุญมาก จะไม่สงสัย

แต่คนที่ไม่ทำบุญ หรือ ทำน้อยมาก

จะสงสัย อย่างคนที่แอบโอนมา

2-3 แสน อันนี้ ไม่มีข้อสงสัย

แต่คนที่ทำปีละ 20 บาท

ปีละ 100 บาท จะสงสัยหนัก

คนที่ทำ ทีละ 500 ก็สงสัย

4.คนที่สงสัยเรื่องเงิน มักเป็นคนที่

ขัดสน เรื่องเงิน เรื่องงาน

เรื่องการให้ทาน ด้วยกำลังใจเต็ม

5.คนที่คิดได้แม้แต่กับ

พระพุทธเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์

ล้วนเคยอยู่อเวจีมาก่อน พึ่งขึ้นมา

สัญญาเดิมจึงปรากฎ

 

ดังนั้น

ต้องหาทาง

ให้

มืดมา แล้ว สว่างไป

ให้ได้นะจ๊ะ

เอาใจช่วยจ้า

 

ไม่เผามันก่อนละนะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 20:59:26


ความคิดเห็นที่ 123 (1640920)

    กราบแทบพระบาทสมเด็จพ่อองค์ปฐมฯ

ที่ทรงเมตตา  ชี้นำหนทางดับทุกข์ให้กับมนุษย์โลก

และกราบขอบพระคุณ ท่าน อ. อุบลที่กรุณานำ

วิธีดับทุกข์มาให้พวกเราได้ทราบกัน

กราบ  กราบ  กราบ

 

ถ้าเธอเป็นเนื้อนาบุญ

ที่มีความมัวหมอง ไม่บริสุทธิ์

ผลจะไม่เกิดฉับพลันทันที อันนี้ตถาคต

บอกไว้นานแล้ว ทำไมไม่เอามาคิดกัน

จะสงสัย ก็สงสัยได้ แต่ให้ใช้ปัญญา หลักคำสอน

ของตถาคต มาพิสูจน์ได้ทุกเรื่อง

    ณ เวลานี้  ไม่มีความสงสัยอยู่ในหัวใจเลยค่ะ

เพราะท่าน อ. อุบล ได้บอกว่า เป้าหมายบ้านสวน  คือ

นำพาผู้คนให้พ้นทุกข์  จากการที่ท่าน อ. อุบลและครอบครัว

ได้เสียสละสถานที่ส่วนตัว  ความเป็นส่วนตัว  ทรัพย์สินส่วนตัว

เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น  นอกจากจะเป็นผู้สอนแล้ว  ท่านยังปฏิบัติ

เพื่อให้เห็นเป็นแบบอย่างที่ดี  ให้เห็นว่าทุกอย่างที่ท่านนำมาบอก

คนอย่างเรา ๆ สามารถทำได้  พร้อมพิสูจน์ผลได้จริง

 

แล้วเขาจะหลุดพ้นได้อย่างไร

พระพุทธเจ้าค่ะ 

เขาต้องลาออก

จากการเป็นสาวกพระเทวทัต

ต้องมอบกายถวายชีวิต

ให้ตถาคต และ ตัวเธอ

และ

เขาต้องมีศักดิ์ศรี 

ทำอย่างไรเจ้าคะ 

ให้เขาตั้งใจว่า

เราจะมีศักดิ์ศรี ถ้าเราคิดไมดีกับใคร

เราจะไม่ขอพึ่งพาอาศัยคนนั้น 

เราไม่ต้องการหายทันที

เราขอชดใช้กรรม

ยอมเจ็บ ยอมจน ยอมทุกข์

          หนูฉวีวรรณ  นภาพรรณราย ขอลาออกจากการเป็น

สาวกของพระเทวทัต  และต่อแต่นี้  หนูขอมอบกายถวายชีวิต

แด่พระพุทธเจ้าและท่าน อ. อุบล  ขอทำตามคำสอน

ของท่าน อ. อุบล โดยไม่มีข้อสงสัยแต่อย่างใด

เพราะที่ผ่านมาหนูได้ศึกษามาแล้ว  พิสูจน์มาแล้ว  ว่า

ท่าน อ. อุบล ไม่เคยสอนและนำพาพวกเราทำในสิ่งที่ไม่ดี

ทุกอย่างที่ท่านสอน สามารถพิสูจน์ได้จริง

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 22:42:00


ความคิดเห็นที่ 124 (1640925)

ชื่อ นางชนกพร  เอี่ยมชัย  ชื่อเล่น  แป้น  อายุ 55 ปี 

 

ที่อยู่  จ.ปทุมธานี

การศึกษาสูงสุด  ปริญญาตรี  สาธารณสุขศาสตรบัณฑิต  ม.เกษตรศาสตร์

  อาชีพ รับราชการ  ที่ทำงาน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองสามวัง ม.4 อ.หนองเสือ

 

ตำแหน่ง นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ (ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล)

   “ปรามาสท่านอาจารย์อุบล  บ้านสวนพีระมิดแล้วจะได้รับผลกรรมอย่างไร”

 

 ข้าพเจ้ารู้จักบ้านสวนพีระมิดโดยการแนะนำจากน้องสาว (นางจรัล  มีศิลป์)  และได้มาใช้บุญแรงกายเมื่อเดือนเมษายน 2554  ครั้งหนึ่งแม่ป่วยกินข้าวไม่ได้ ไม่มีแรง ข้าพเจ้าได้ไปฉีดยาให้ อาการดีขี้น มีเรี่ยวแรง พี่สาวบอกว่าเพราะดูรายการคุยไปแจกไปและอนุโมทนาหน้าจอ  ข้าพเจ้ารีบแย้งว่า “ไม่ใช่ อ.อุบลคนเดียวหรอก ฉันไปฉีดยาให้ด้วย ไม่งั้นไม่ดีขึ้นขนาดนี้หรอก”  หลังจากนั้นอีก 1 – 2 วัน ข้าพเจ้ามีอาการร้อนใน เป็นแผลในปาก  พอวันหยุดได้มาบ้านสวนและขุดบ่อน้ำพลังพีระมิด(เป็นการมาครั้งที่ 2)  สัปดาห์นั้นได้มีการขอขมา เรื่องปรามาสในหลวงและราชวงค์   ไม่เคยปรามาสในหลวง แต่ร่วมนินทาราชวงค์ เอารูปใหหลวง ภาพปฏิทินไม่ใช้แล้วไว้ใต้บันไดบ้าน  เลยลงชื่อขอขมาด้วย  ได้บอกเล่าเรื่องวางรูปในหลวงไม่เหมาะสม  ร่วมนินทาราชวงค์ ท่านอาจารย์ถามว่าแล้วชีวิตเป็นอย่าไร  บอกท่านว่าชีวิตราชการไม่ค่อยราบรื่นและตอนนี้เจ็บปาก  ท่านอาจารย์ถามว่าทำอะไรมาอีก  ก็นึกได้เรื่องไปฉีดยาให้แม่นี่แหละและพูดกับพี่สาวไปแบบนั้น ท่านอาจารย์เลยพิสูจน์อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ว่าเกี่ยวกับเรื่องนินทาราชวงค์หรือเรื่องที่พูดโต้แย้งกับพี่สาวกันแน่  ปรากฏว่าเกี่ยวกับเรื่องพูดกับพี่สาวแบบน้อยใจว่า ยกความดีให้ อ.อุบลคนเดียว ไม่ให้คะแนนเราซักนิด

 

 

ผลกรรมที่ได้รับ  เป็นแผลร้อนในที่ลิ้น กระพุ้งแก้ม ทั้งปวดแสบปวดร้อน  พออาจารย์ให้พิสูจน์กฏกรรม อาการปวดแสบปวดร้อนในปากหายไปเกือบหมด  เป็นไปได้อย่างไร  มหัสจรรย์จริงๆ

นี่แสดงว่า ท่านอาจารย์ไม่ธรรมดา  แค่พูดกับพี่สาวเชิงน้อยใจ  ยังให้ผลเป็นแผลในปากขนาดนี้  ถ้าท่านอาจารย์ไม่พิสูจน์อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยขอบารมีพระพุทธองค์ว่าเกี่ยวกับเรื่องพูดโต้แย้งกัยพี่สาวหรือไม่  ข้าพเจ้าคงโง่ไปอีกนานละไม่มีโอกาสได้รู้ว่าทำบาปทางคำพูดกับผู้บริสุทธิ์นั้นผลเป็นอย่างไร 

   ทางพ้นทุกข์ ข้าพเจ้าได้ขอขมาต่อท่านอาจารย์ ๆ ได้บอกให้เล่าเรื่องนี้เป็นธรรมทานต่อไป ก่อนกลับบ้าน ข้าพเจ้าและน้องสาวได้กราบท่านอาจารย์ด้วยความขอบคุณที่ท่านเมตตาต่อผู้ด้อยปัญญาอย่างข้าพเจ้า ต่อมาได้เขียนสารภาพบาปกรรมทางเวปไซด์ และสมัครเข้าร่วมค่าย 9 เป็นครั้งแรก หลังจากนั้นได้มาสร้างบุญและฟังธรรมจากท่านอาจารย์เรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้

 

 

          กราบขอบพระคุณสมเด็จองค์ปฐม พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระศรีอาริยะเมตไตรย หลวงปู่ปาน หลวงปู่ฤาษีลิงดำ เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วจักรวาล  ท่านอาจารย์อุบล ที่ทำให้ข้าพเจ้าได้รู้ถึงกรรมที่กระทำต่อผู้ทรงศีล ทรงธรรม ผู้มีพระคุณ และการให้ผลของกรรม  การได้รู้จักบ้านสวนพีระมิดท่านอาจารย์อุบล ทำให้ ข้าพเจ้าระมัดระวังกาย วาจา ใจมากขึ้น เพราะท่านอาจารย์สอนเสมอเรื่องมโนกรรม “มนุษย์คิด เทวดารู้” ใช่เลยค่ะท่านอาจารย์  กราบขอบพระคุณท่าน อ.อุบล ท่าน อ.มงคลและน้องท๊อปที่เปิดบ้านสวนพีระมิดให้ข้าพเจ้าและครอบครัวได้มีโอกาสมาสร้างบุญเพื่อปลดล๊อคกรรม ทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้น กราบ กราบ กราบ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนกพร เอี่ยมชัย(แป้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-16 23:40:05


ความคิดเห็นที่ 125 (1640937)

วันนี้

ได้กราบทูลถาม

สมเด็จพ่อ

ว่าทำไม คนจึงสงสัยเรื่อง เงินทำบุญ

ท่านเมตตาตอบว่า

1.เพราะ ส่วนใหญ่ ที่อื่นเขาเคยมีปัญหากันมาก

2.คนที่สงสัย ส่วนใหญ่ เป็นคนขี้เหนียว

ไม่ค่อยทำบุญเยอะ จะสงสัยมาก

ส่วนคนที่ทำมากจริงๆ จะไม่สงสัย หรือคนไม่ทำเลย

ยิ่งสงสัยหนัก เพราะมีความโลภ เอาตัวเองตัดสิน

เพราะตัวเองเกิดความอยากได้ ริษยา

ก็เลยคิด ก็เลยสงสัย

..............................

กราบพระบาทสมเด็จองค์ปฐมบรมธรรมบิดา

ที่เมตตามาแสดงธรรม

โปรดคนชั่วบาปหนาอย่างลูก

ให้ตาสว่างขึ้นค่ะ

 

เมื่อคืนตอนที่นั่งคิด

และแก้ไขธรรมทานก็็คิดๆ อยู่ว่า

ที่เรามีจิตไปแว๊บสงสัยเรื่องเงินทำบุญ

ลึกๆแล้วคงเป็นเพราะตัวเอง

เป็นคนตระหนี่ ถี่เหนียว

ทำบุญน้อย และเป็นคนใจแคบ ขี้อิจฉา

ไม่ชอบเป็นผู้ให้ แต่ถนัดเป็นผู้รับซะมากกว่า

 

และที่สำคัญลูกก็ผิดศีลข้อสอง

มาอย่างมากมาย

มีแต่ความอยากได้ของของคนอื่น

และชอบของฟรีเป็นที่สุด...จริงๆค่ะ

 

แต่ก็เขียนข้อที่่ชัวร์ๆไปก่อน คือศีลข้อสาม

เดี๋ยววันนี้ต้องไปต่อเติมอีกค่ะ

 

วันนี้ได้มาอ่านธรรมทาน

อันล้ำค่าจากท่านอาจารย์

ต้องบอกว่า

กราบขอบพระคุณมากค่ะอาจารย์

เพราะได้คำตอบที่คาใจ

ในคำอธิบายที่ชัดเจนมากๆ

 

เพราะคนที่จบปริญญาโทคนนี้ 

ถนัดนักเรื่องอวดฉลาด

แต่ขาดซึ่งปัญญาจริงๆค่ะ

ชีวิตจึงวนหาแต่เรื่องทุกข์

ไม่ยอมหลุดยอมพ้น ซักที 

 

ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอก

ว่าอาจารย์บริสุทธิ์เพียงใด

แต่ก็ไม่วายไปคิดสงสัย..ได้

 

แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณ

เจ้าวาบแห่งความคิดที่เลวๆนั้นด้วยค่ะ

เพราะมันสะท้อนให้ชนิดาได้เห็น

ต้นตอแห่งความเลวที่แท้จริงของตน

ที่ชัดเจนม๊ากๆ

..........................................................

 

แล้วเขาจะหลุดพ้นได้อย่างไร

พระพุทธเจ้าค่ะ 

เขาต้องลาออก

จากการเป็นสาวกพระเทวทัต

ต้องมอบกายถวายชีวิต

ให้ตถาคต และ ตัวเธอ

และ

เขาต้องมีศักดิ์ศรี 

ทำอย่างไรเจ้าคะ 

ให้เขาตั้งใจว่า

เราจะมีศักดิ์ศรี ถ้าเราคิดไมดีกับใคร

เราจะไม่ขอพึ่งพาอาศัยคนนั้น 

เราไม่ต้องการหายทันที

เราขอชดใช้กรรม

ยอมเจ็บ ยอมจน ยอมทุกข์

.......................

ลูก ชนิดา เชิงสะอาด

ขอลาออกจากการเป็นสาวกพระเทวทัต


นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ลูกขอมอบกายถวายชีวิตแด่พระพุทธองค์

และแม่ทัพธรรมอย่างท่านอ.อุบลด้วยค่ะ

 

ลูกจะตั้งมั่นในศีลห้า

ละความชั่วทุกชนิด

และพร้อมจะต่อสู้เพื่อปกป้อง

สามร่มโพธิ์อย่างดีที่สุด

สาธุ สาธุ สาธุ



ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-17 05:13:05


ความคิดเห็นที่ 126 (1640956)

 

                                      แล้วเขาจะหลุดพ้นได้อย่างไร

 

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

เขาต้องลาออก

 

จากการเป็นสาวกพระเทวทัต

ลูกนางมยุรฉัตร สุดจิตต์  นายผดุง สุดจิตต์

  เด็กชายพอเจตน์ สุดจิตต์และ ดญ.สุพิชชา สุดจิตต์ ขอลาออกจากการเป็นสาวกพระเทวทัต

นับตั้งแต่บัดนี้เวลานี้เป็นต้นไป

ลูกขอมอบกายถวายชีวิตแด่องค์พระพุทธองค์

และท่านอาจารย์อุบลค่ะ

ลูกจะตั้งใจรักษาศิล 5 ให้บริสุทธิ์

ทำความดีและเว้นความชั่วทุกลมหายใจ

พร้อมจะกอบกู้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

ต้องมอบกายถวายชีวิต

ให้ตถาคต และ ตัวเธอ

และ

เขาต้องมีศักดิ์ศรี

ทำอย่างไรเจ้าคะ

ให้เขาตั้งใจว่า

เราจะมีศักดิ์ศรี ถ้าเราคิดไมดีกับใคร

เราจะไม่ขอพึ่งพาอาศัยคนนั้น

เราไม่ต้องการหายทันที

เราขอชดใช้กรรม

ยอมเจ็บ ยอมจน ยอมทุกข์

.......................

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-17 08:08:07


ความคิดเห็นที่ 127 (1640959)

นางวัชรินทร์   เกษมณี

อายุ  59  ปี

การศึกษา ครุศาสตร์บัณฑิต

วิทยาลัยครูหมู่บ้านจอมบึง

ราชบุรี

อาชีพ ข้าราชการบำนาญ

บ้านพัก  ราชบุรี

 

ขอลาออกจากการเป็นสาวกพระเทวทัต

 

นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

 

ลูกขอมอบกายถวายชีวิตแด่พระพุทธองค์

 

และท่านอ.อุบล สะพานบุญด้วยค่ะ

 

 ลูกจะตั้งมั่นในศีลห้า

กรรมบท  10  ตลอดชีวิต  ละความชั่ว

 

ทุกอย่างและร่วมต่อสู้เพื่อปกป้อง

สามร่มโพธิ์อย่างดีที่สุด

 

มโนกรรมที่ไม่ดี

1.         มองไปเห็นอิฐแดงตรงระหว่างขา

องค์พระปฐมตาก็หลอนเห็นเป็นภาพ

อัณฑะ

 

กราบพระบาทขอขมาต่อองค์

พระปฐมบรมธรรมบิดา

ที่ลูกมีมโนกรรมที่ไม่ดีต่อพระองค์ท่าน 

ขอได้โปรดงดโทษลูก

และโปรดคุมจิตลูกให้คิดดี ทำดี

พูดดีด้วยเถิด

 

2.         บทสวดคาถาเงินล้านของหลวงปู่

ฤๅษีลิงดำ  คำว่า  พรหมา 

จิตก็แวบเป็น  พร หมา

3.         ในบทคำสมาทานพระกรรมฐาน

ช่วง..ในกายทวาร  ในมโนทวาร

ในวจีทวาร

    ก็แวบถึงทวาร ที่ถ่ายของเสีย

กราบเท้าหลวงพ่อฤๅษีลิงดำลูกขอ

ขมาที่ลูกมีมโนกรรมที่ไม่ดีต่อท่าน

  ขอได้โปรดงดโทษลูก  และโปรดคุม

จิตลูกให้คิดดี ทำดี พูดดีด้วยเถิด

4.         เชื่อตามที่ได้ยินเกี่ยวกับข่าว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและ

 พระบรมวงศานุวงศ์  เป็นการ

จาบจ้วง ล่วงเกินล่วงละเมิด

ต่อสถาบันที่เคารพบูชาเทิดทูน


กราบพระบาทขอขมาต่อ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและ

พระบรมวงศานุวงศ์  

ที่ลูกมีมโนกรรม

ที่ไม่ดีต่อพระองค์ท่าน 

ขอได้โปรดงดโทษลูก  ผู้เขลา

เบาปัญญาด้วยเถิด

 

5. มีจิตล่วงเกินท่านอาจารย์อุบล

เมื่อดูรายการคุยไปแจกไปใหม่ๆ  ว่า

จริงหรือ เป็นไปได้หรือ จนได้อธิษฐาน

อนุโมทนาหน้าจอตามอาการเจ็บป่วย

ทุเลาลงอย่างอัศจรรย์  จึงศรัทธาและ

อยากไปกราบท่านอาจารย์อุบล

คิดว่าท่านอาจารย์แต่งตัวเซ็กซี่

ไปยึดติดกับเสื้อผ้าภายนอก  ไม่มีปัญญา

พิจารณาลึกซึ้งถึงธรรมะ   ที่อยู่ภายใน

ของท่านอาจารย์

และ เมื่อได้ไปบ้านสวนครั้งแรก

  ได้เข้าฟังธรรมทาน  จากท่านอาจารย์

มองหน้าท่านอาจารย์แล้ว 

เห็นเป็นหน้า

ของผู้หญิงอียิป คิดว่าเป็น

พระนางคลีโอพัตตรา

ที่เคยดูในหนัง 

และเคยมองที่เป้ากางเกงของ

ท่านอาจารย์ว่า  สวมกางเกง

แล้วไม่หน้าเกลียดทั้งที่สวมเสื้อสั้น 

ไม่มีหน้าท้องท่านสวมกางเกงสวยดี

กราบขอขมาต่อท่านอาจารย์  ที่ลูกมี

มโนกรรมไม่ดีต่อท่าน  ทั้งที่ท่าน

มีพระคุณ

ฉุดช่วยจาก ขุมนรกขึ้นมา

ลูก  กราบ  กราบ  กราบ  ค่ะ

 

สาเหตุจากมโนกรรมเหล่านี้   จึงทำให้

อาการเจ็บป่วย  ไม่หายขาด   พอได้รับ

พระบารมีจากสมเด็จพระศรีอริยเมตไตย

และบุญจากท่านอาจารย์  ก็หาย 

กลับบ้านก็เป็นอีก  

จนท่านได้เปิดโอกาสให้

กราบขอขมา  ในเว็บนี้อาการ

ของลูกก็ดีขึ้น

จากการเวียนศีรษะ  มึนงง   และ

ตาฝ้ามัว  ปวดส้นเท้า เข่า   ขา

ลูกกราบขอบพระคุณที่เมตตาช่วย

ปลดทุกข์  ปลดร็อกกรรมให้ลูก ๆ

 

ทำผิดข้อห้ามของบ้านสวนพีระมิด

1.นำน้ำพีระมิดกลับบ้านมากกว่า 1

แก้ว  ประมาณ 1 – 3 ครั้ง

กราบพระบาทขอขมาต่อองค์พระ

ปฐมบรมธรรมบิดา  และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใน

บ้านสวนที่ลูกกระทำผิด   และนำน้ำดื่ม

มาถวายจำนวน

99+99+99 แถม 3 =  300  ขวด 

แล้วอาการปวดส้นเท้าก็หาย

2.  เปลี่ยนเสื้อผ้าในพีระมิดที่พัก

นอน  ตามกฎของบ้านสวนต้องเปลี่ยน

ให้เรียบร้อย  ในห้องน้ำมาทราบตอนมี

น้อง ๆ บอก   หลังจากทราบแล้วก็ปฏิบัติ

ตามทุกอย่าง

3. นอนในพีระมิดคนเดียว หัน

ศีรษะไปทางทิศตะวันออก ทำให้เท้าหัน

ไปทางพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านสวน

โดยไม่รู้  ถึง 3 ครั้ง  จนมีน้องสีนวลมา

นอนด้วยถึงได้ทราบ

ลูกกราบพระบาทขอขมาต่อองค์พระ

ปฐมบรมธรรมบิดา  และสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ในบ้านสวน  ที่ลูกกระทำในสิ่งที่ไม่บัง

ควร  อย่างยิ่ง  ลูก  กราบ กราบ กราบ

4.  ดูรายการคุยไปแจกไป

ไม่ครบถ้วน   คือไม่ได้ดูตอนรายการ

ผลิตภัณฑ์พาเมล่า  ซึ่งในตอนท้าย ๆ

จะมีเทศนาของหลวงพ่อ  มาทราบที่หลัง

ว่าต้องดูและอ่านตัวหนังสือทุกตัว

ผลกรรมการดูไม่ครบถ้วนเหมือน

ใช้เล่ห์เหลี่ยม  ลูกไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น

แต่ไม่ทราบ  ลูกปรารถนาจะดูให้

ครบ 9  ตอนประกอบกับตอนดูจาก

อินเตอร์เน็ท เกิดการสดุด และ

โหลดช้ามาก  จึงคลิกข้ามไป

ทำให้อาการของโรคเบาหวานกำเริบ 

ความคิดเห็นที่ 128 (1641000)

 

"กราบ

ท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือ

รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด 

แล้วชีวิตดียังไง"

ข้าพเจ้านางคนึงนุช  พงษ์ดี อายุ52ปี

อาชีพปจุบันเป็นแม่บ้าน

การศึกษา ประถม4  อยู่ กทม

ชีวิตก่อนรู้จักบ้านสวนพีรามิด มีชีวิตคู่ที่ต้องพบกันความทุกข์อย่างแสนสาหัส

เพราะสามีเจ้าชู้ ชอบเที่ยวและมีผู้หญิงผ่านเข้ามาหลายคนตลอดเวลา

ทำให้รู้สึกทุกข์ใจเหลือเกินจนต้องหาทางดับทุกข์

 

ทุกข์ดับได้ด้วยธรรมะโอสถ

เริ่มศึกษาธรรมะเเละได้อ่านหนังสือของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่สอนการปฎิบัติ

แบบง่ายๆ ยิ่งอ่านยิ่งสนุกและเป็นครั้งแรกที่ทำให้รู้สึกว่านิพพานไม่ได้ไกลเกินเอื้อม

หรือไกลเกินหวัง ก็จากคำสอนของหลวงพ่อ

ความทุกข์เริ่มผ่อนคลายและเบาบางลง เมื่อหันมาอ่านและศึกษาธรรมะ

เริ่มรักษาศีล  สวดมนต์ภาวนาพุธโธ ระลึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอารมย์

แต่การปฎิบัติก็ยังไม่ได้มุ่งมั่นเอาจริง ศีลก็ยังไม่บริสุทธิ์

และได้รู้จักบ้านสวนโดยการแนะนำจากเพื่อนห่างมากคนหนึ่ง

ทำให้สนใจและเริ่มศึกษารายการคุยไปแจกไปผ่านเวป

ทั้งที่ไม่มีความรุ้เรื่องเนต แต่ได้ลูกที่น่ารักช่วยสอน

ยิ่งศึกษาก็ยิ่งอยากไปบ้านสวนพีรามิด คิดถึงแต่ที่บ้านสวนตลอดเวลา

และก็อ้อนให้ที่บ้านติดจานดำ (ไม่บอกสามีว่าเพราะอยากดูรายการของ อ.)

จนได้มีโอกาศไปบ้านสวน และใหม่ๆก็แอบไปทุกเดือน

แอบไปสร้างบุญนั้นก็มีความสุข แต่ก็ทุกข์เพราะกลัวสามีรู้และเราได้ผิดศีลมุสา

มีคนที่แอบไปเหมือนเรา ท่านอ.ได้เตือนผู้ที่สามีไม่อนุญาตก็จงอย่ามาบ้านสวน

จึงตัดสินใจตกลงกับสามีว่าขอไปสร้างบุญบ้านสวน 2-3เดือนหน

ตอนนั้นคิดว่าขอไปทุกเดือนเขาคงไม่ให้แน่นอน

 

การไปบ้านสวนแต่ละครั้งกว่าจะได้ไปช่างลำบากยากเย็นและนานเหลือเกิน

และทุกๆครั้งที่ได้ไปจึงรู้สึกมีความสุข เหลือเกินเช่นกัน

เวลาที่เดินออกมาจากบ้านเพื่อไปบ้านสวนรุ้สึกอยากจะกระโดดโลดเต้น

ด้วยความสุขใจมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ รู้สึกเหมือนกำลังจะได้กลับบ้าน

 

ท่าน อ.เป็นผู้สอนให้เราอยากมีศีลที่บริสุทธิ์ ให้รุ้ถึงความละเอียดของกรรม

โดยเฉพาะผลของมโนกรรม ซึ่งคนส่วนใหญ่ได้มองข้าม หรือไม่ค่อยคิดว่า

จะเป็นกรรมอะไรมากมาย เพราะไม่ได้ลงมือทำ จึงพากันสร้างกรรมโดยไม่รู้ตัว

ลูกบ้านสวนจึงถูกขัดเกลา และมีธรรมทานให้เห็นกฎแห่งกรรมทุกๆอาทิตย์

 

ได้กราบท่าน อ.ครั้งแรกในวันปีใหม่

คืนวันปีใหม่คุณอ๊อดได้รับการบำบัดพิเศษโดยไม่ต้องสารภาพบาปเป็นครั้งแรก

โดยการกราบท่าน อ.ด้วยความเคารพและศรัทธราก็บังเกิดผล

คืนนั้นคิดว่าช่างสุดยอด....อะไรเช่นนี้

และตื้นตันใจมากๆ ที่พระพุทธองค์ช่างเมตตาเหลือเกิน

 

วันอาทิตย์ก่อนกลับจดๆจ้องๆนึกในใจว่า...

ขอลูกได้มีโอกาศกราบท่าน อ.ด้วยเถิด....

เมื่อได้ก้มลงกราบท่าน อ.ก็มีอาการขนลุกไปทั้งตัวยิ่งท่าน อ.ให้พรมา

น้ำตาแห่งความปิติมันไหลออกมาไม่ยอมหยุดเลย...

ในใจนั้นคิดว่า เราช่างมีบุญเหลือเกินที่เกิดมาในชาตินี้ได้พบท่าน อ.

ท่านเป็นของแท้ และใช่สำหรับเราแล้วจริงๆถึงจะมองไม่เห็น

ทุกพระองค์ แต่ใจสัมผัสได้ มันปิติมากๆที่ได้มีโอกาศกราบพระพุทธเจ้า

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ ก็เพราะท่านอ.และบ้านสวนพีรามิดแห่งนี้

 

โอ้....มันช่างมีความสุขมากๆจนน้ำตาไหลไม่หยุด

รู้สึกเป็นสุขอย่างบอกไม่ถูก...

หลังจากวันนั้นอาการปวดคอไหล่ที่เป็นมาสิบกว่าปีก็ไม่เคยเป็นอีกเลย

เจ้ากรรมนายเวรที่เป็นลูกแท้งของสามีคงรับบุญและอโหสอกรรมให้เราแล้ว

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนึงนุช พงษ์ดี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-17 15:00:59


ความคิดเห็นที่ 129 (1641006)

 

แล้วเขาจะหลุดพ้นได้อย่างไร

 

พระพุทธเจ้าค่ะ 

 

เขาต้องลาออก

 

จากการเป็นสาวกพระเทวทัต

ลูก นางเพ็ญศิริ บุตรมนต์ และ ด.ช. ธีรโชติ บุตรมนต์ ขอลาออกจากการเป็นสาวกของท่านเทวทัติ และนับจากบัดนี้เป็นต้นไป ลูกขอมอบกายถวายชีวิตแด่พระพุทธองค์ ท่านอาจารย์อุบลตราบจนชีวิตหาไม่ ด้วยสำนึกในพระเมตตาเป็นที่สุดเจ้าค่ะสาธุ

 

 

ต้องมอบกายถวายชีวิต

ให้ตถาคต และ ตัวเธอ

และ

เขาต้องมีศักดิ์ศรี 

ทำอย่างไรเจ้าคะ 

ให้เขาตั้งใจว่า

เราจะมีศักดิ์ศรี ถ้าเราคิดไมดีกับใคร

เราจะไม่ขอพึ่งพาอาศัยคนนั้น 

เราไม่ต้องการหายทันที

เราขอชดใช้กรรม

ยอมเจ็บ ยอมจน ยอมทุกข์

.......................

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-17 16:05:35


ความคิดเห็นที่ 130 (1641015)

แล้วเขาจะหลุดพ้นได้อย่างไร

 

พระพุทธเจ้าค่ะ 

 

เขาต้องลาออก

 

จากการเป็นสาวกพระเทวทัต

ลูกนางบุญภิบาล  คงเขียว  ขอลาออกจากการเป็นสาวกพระเทวทัตนับแต่บัดนี้เป็นต้นไปลูกขอมอบกายถวายชีวิตนี้แด่พระพุทธเจ้า ท่านอาจารย์อุบลตราบที่จะหมดลมหายใจ            พระพุทธเจ้าค่ะ

ต้องมอบกายถวายชีวิต

ให้ตถาคต และ ตัวเธอ

และ

เขาต้องมีศักดิ์ศรี 

ทำอย่างไรเจ้าคะ 

ให้เขาตั้งใจว่า

เราจะมีศักดิ์ศรี ถ้าเราคิดไมดีกับใคร

เราจะไม่ขอพึ่งพาอาศัยคนนั้น 

เราไม่ต้องการหายทันที

เราขอชดใช้กรรม

ยอมเจ็บ ยอมจน ยอมทุกข์

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-17 18:17:59


ความคิดเห็นที่ 131 (1641019)

วันนี้

ได้กราบทูลถาม

สมเด็จพ่อ

ว่าทำไม คนจึงสงสัยเรื่อง เงินทำบุญ

ท่านเมตตาตอบว่า

1.เพราะ ส่วนใหญ่ ที่อื่นเขาเคยมีปัญหากันมาก

2.คนที่สงสัย ส่วนใหญ่ เป็นคนขี้เหนียว

ไม่ค่อยทำบุญเยอะ จะสงสัยมาก

ส่วนคนที่ทำมากจริงๆ จะไม่สงสัย หรือคนไม่ทำเลย

ยิ่งสงสัยหนัก เพราะมีความโลภ เอาตัวเองตัดสิน

เพราะตัวเองเกิดความอยากได้ ริษยา

ก็เลยคิด ก็เลยสงสัย

กราบพระบาทพระปฐมบรมธรรมบิดาฯ

ที่โปรดเมตตาแสดงธรรมให้ลูกคนปัญญาอ่อนแถมยังบาปหนาผิดศีลทั้ง 5 ข้อ  และยิ่งศีลข้อ 2. ชอบของฟรีนี้แหละชอบมากๆใช้คำพูดให้เขาต้องยอมให้ฟรีๆ ลูกสำนึกผิดจริงๆ ขอบารีพระพุทธเจ้าโปรดบังคับกระแสจิตให้ลูกคิด พูด ทำ แต่สิ่งที่ดีด้วยเถิดพระพุทธเจ้าค่ะ

กราบพระบาทพระพุทธเจ้าค่ะ

กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-17 18:34:44


ความคิดเห็นที่ 132 (1641043)

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล

ที่เมตตาช่วยลูกหลานปลดล็อคกรรม

"มโนกรรม"

ที่มีต่อตัวท่านและครอบครัว

(ขอแก้ไขและเพิ่มเติมค่ะ)

 

*********

 

ชื่อ ธัญญาภรณ์ พุกภัย พิสมัย

ชื่อเล่น สีนวล  อายุ 45 ปี

ที่อยู่ เมือง AUBERVILLIERS  ประเทศฝรั่งเศส

เรียนจบชั้น ม.6 โรงเรียนหนองไผ่  จ.เพชรบูรณ์

อาชีพปัจจุบัน แม่ครัวร้านอาหาร ในปารีส

 

 "กราบท่านอาจารย์อุบล หรือรูปถ่ายท่านแล้วชีวิตดีขึ้นอย่างไร"

 

ทุกครั้งที่เห็นท่านอาจารย์ ความรู้สึกคืออยากกราบท่าน พอได้กราบแล้วมีความสุขค่ะ เป็นความสุขที่อยู่ภายในจิตใจของตนเองมีความอบอุ่นใจ ชีวิตเหมือนมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านคอยคุ้มครอง จากการสังเกตของตนเอง หากมีช่วงใหนที่เรากำลังได้รับวิบากกรรมจากผลกรรมที่เราสร้างมา หากเรายึดมั่นในท่านอาจารย์อุบลและบ้านสวนพีระมิด เราใช้สติในการแก้ปัญหาพร้อมกับดูรายการคุยไปแจกไป ศึกษาธรรมทานของท่านอาจารย์ใน "ทุกกระทู้ในกระดานสนทนา" เราจะมีคำตอบในการแก้ไขปัญหาและพร้อมที่จะก้าวผ่านทุกปัญหาที่มี การกราบท่านอาจารย์นั้นเป็นกราบ

กราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งจักรวาล

กราบผู้มีพระคุณที่ท่านให้ชีวิตใหม่แก่เรา

(เสมือนแม่ผู้มีคุณอนันต์ของเรา)

กราบญาติผู้ใหญ่

กราบพระอริยเจ้าที่ยังมีชีวิตอยู่

ฯลฯ

ทุกวันนี้ชีวิตมีความสุขตามอัตภาพไม่ร้อนรน กับสามีก็พูดคุยตกลงกันด้วยดีตามที่จิตได้อธิษฐานไว้

คุณแม่ คุณพ่อก็ดูเหมือนจะโน้มนำมาทางที่ดีขึ้น

พร้อมทั้งน้องๆ น้องเขย น้องสะใภ้ หลานๆทุกคน เพื่อนๆ ที่เราสนิทคุ้นเคยก็ได้รับอานิสงค์นี้ด้วย

ทุกอย่างนี้เป็นความสุขในใจที่ยั่งยืน ที่ได้รับจากท่านอาจารย์และครอบครัวที่อยู่เบื้องหลังท่าน

(เดี๋ยวจะกลับมาต่อนะคะ ขอตัวไปทำงานก่อนค่ะ

กราบขอโทษท่านอาจารย์ด้วยค่ะ)

 

"ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิดแล้วจะได้รับผลกรรมอย่างไร"

 

ครั้ง แรกที่มาบ้านสวนพีระมิดก็ทำผิดกฏซะแล้ว โดยนำเพื่อนและน้องสาวที่ดูรายการยังไม่ครบ 9 ตอนมาด้วย พากันมาในวันธรรมดาซึ่งท่านอาจารย์ได้มีเมตตาออกมาหาที่โรงทาน และได้มีโอกาสใช้แรงกายโดยการย้ายเสาซิเมนต์ระหว่างที่ช่วยกันยกเสาจากด้าน ข้างโรงทานไปไว้ที่ด้านหลังเรือนไม้ไผ่อยู่ๆมีจิตคิดแวปเรียกชื่อท่านโดยมี คำว่าอีนำหน้าและมีคำด่าท่านด้วยภาษาหยาบคาย วันนั้นทั้งดีใจที่พบท่านอาจารย์และจิตตกไปพร้อมกันที่มีมโนกรรมเช่นนั้น

ผลที่ได้รับเห็นๆในวันนั้นคือ สามีส่งเงินมาให้จากฝรั่งเศสก็มีเหตุให้ไปรับเงินจากธนาคารไม่ทันและต้องเดินทางกลับฝรั่งเศสในวันเดียวกันแต่ ณ ตอนนั้นก็ยังไม่รู้สึกว่าเป็นผลจากมโนกรรมของตนเองจนกระทั่งวันนี้...

ได้ มีโอกาสเข้ามาบ้านสวนพีระมิดอีกในค่าย 11 ได้ยินท่านอาจารย์เมตตาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับท่านให้เงินผู้หญิงคนนึงที่เป็น นางงามและขอเป็นภรรยาน้อยของท่าน อ.มงคล จิตก็คิดชั่วสงสัย อ.มงคล มีกิ๊ก ที่คิดขั่วเช่นนี้ได้คงเพราะตัวเองเคยมีกิ๊กและเป็นกิ๊กคนอื่นมานั่นเอง ผลของการปรามาสท่าน อ.อุบล และ อ.มงคล เช่นนี้ ตอนนี้สามีของตนเองก็มีกิ๊กเช่นกันและมีทีท่าว่าจะถาวรซะด้วย ขณะนี้ก็กำลังตกลงว่าจะหย่าขาดกันกับสามี

 

หลาย ครั้งที่เคยปรามาสท่านอาจารย์อุบลผู้มีพระคุณใหญ่ มีจิตแว๊ปเป็นคำด่าท่านแบบหยาบคาย ใจตนเองจะฝืนความรู้สึกนั้นตลอดทุกครั้งเหมือนตกนรกทั้งเป็น ทั้งๆที่ความรู้สึกส่วนตัวนั้นศรัทธาท่านมากเหลือเกินและแอบมีความรู้สึก ลึกๆเองว่าเหมือนท่านเป็นญาติผู้ใหญ่ของเรา เรารักท่านเหลือเกิน แต่คงเป็นเพราะได้สร้างกรรมชั่วมาคือทำผิดศีลทั้ง 5 ข้อ กรรมจึงรวมตัวกันให้ผลอย่างเต็มรูปแบบเช่นนี้

 

ธัญญาภรณ์กราบขอขมา...

สมเด็จพระปฐมบรมธรรมบิดาองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า

พระศรีอาริยเมตไตรย

พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์

ท้าวเวสสุวรรณ

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งจักรวาล

องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงค์

ท่าน อ.อุบล อ.มงคล และคุณท้อป

 

ที่ลูกเคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินท่านทั้งหลาย

ด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม

ลูกขอให้ท่านทั้งหลายรับการขอขมากรรม

ได้โปรดอโหสิกรรมแก่ลูกผู้มีจิตชั่วคนนี้ด้วยค่ะ

สาธุ

กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธัญญาภรณ์ พุกภัย พิสมัย (ฝรั่งเศส) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-17 22:28:42


ความคิดเห็นที่ 133 (1641049)

ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิดแล้วได้รับผลกรรมอย่างไร

(แก้ไขใหม่ค่ะ)

 

 ชื่อนางสาวกัลยาณี  ทิมขาวประเสริฐ ชื่อเล่น ตั๊ก อายุ 26 ปี

อาชีพ ว่างงาน

จบการศึกษาปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม คณะมนุษศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ

หนูเองก็เป็นอีกคนนึงที่เคยปรามาสท่านอ.อุบลเยอะมากๆ ยิ่งตอนที่ได้ไปบ้านสวนใหม่ๆ จะหนักมากกว่าทุกวันนี้ ทั้งๆที่ตัวเราเองก็เคารพรักศรัทธาท่านอย่างมาก ท่านเป็นผู้พระคุณ ท่านเป็นผู้มีพระคุณที่เปลี่ยนชีวิตของหนูให้กลายเป็นคนใหม่ ไม่เคยคิดลังเลสงสัยในตัวท่านเลย แต่ด้วยความเลวของตัวเอง ผิดศีลมาทุกข้อ โดยเฉพาะข้อ 3 จิตใจที่ยังสกปรกอยู่คอยแต่จะดิ่งลงสู่ที่ต่ำ จึงทำให้เกิดกรรมรวมตัว คิดแต่จะปรามาสต่อผู้ทรงศีลทรงธรรม ผู้ที่นำธรรมะของพระพุทธองค์มาเผยแผ่

สิ่งที่ตั๊กได้เคยปรามาสท่านอ.อุบลนั้น มีเยอะจริงๆค่ะ และจะขอเล่าในส่วนที่ตัวเองจำได้นะคะ คือ เคยคิดว่าทำไมท่านถึงแต่งตัวเซ็กซี่จัง รัดรูปจัง บางครั้งเผลอมองหน้าอกท่านก็คิดมาว่าทำไมหน้าอกท่านใหม่จัง มองสะโพกก็คิดว่าสะโพกท่านใหญ่จัง คิดคำพูดที่หยาบคาย บางครั้งก็มีคำนำหน้าชื่อท่านว่า E ยิ่งช่วงที่เข้าเฟสปลอมนั้น ได้เห็นได้อ่านคำพูดหยาบคาย จิตใจเราก็รู้สึกไม่ดีกับพวกเค้า แต่ก็ยังจดจำคำพูดและภาพพวกนั้นมา ซึ่งเวลาที่คิดถึงทำพูดหยาบคายพวกนั้น จิตใจเราจะเป็นทุกข์มาก เพราะเราไม่ได้คิดกับท่านอย่างนั้นเลย เราเคารพรักท่านมากๆ ทุกครั้งที่คิดไม่ดีหนูก็จะขอขมาท่านและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาท่านตลอด คอยปลอบใจคิดเข้าข้างตัวเองว่านั่นไม่ใช่เรา เราแค่ไปคิดถึงคำของคนพวกนั้นที่เค้าเขึยนในเฟสปลอม แต่ที่ไหนได้ จริงๆแล้วหนูทำบาปไปเต็มๆเลย และตอนที่อยู่ใกล้ท่านอาจารย์ หนูก็มองเส้นผมท่าน ก็คิดว่าทำไมผมท่านไม่สวยเหมือนในทีวีเลย ในทีวีผมสลวยเงางาม มีน้ำหนักมาก  แต่เห็นจริงๆผมท่านก็ยังชี้ฟูอยู่ เอ...หรือว่าท่านจะไดร์ผมตอนที่ออกทีวี โดยที่ไม่ได้คิดเลยว่าขณะที่เรามองท่าน ท่านก็กำลังออกทีวีอยู่ แล้วความคิดเลวๆก็ลามไปถึงใบหน้าของท่าน ว่าอาจารย์ก็ใช้พาเมล่า แต่ทำไมยังมีริ้วรอยบริเวณรอบดวงตาอยู่เลย แล้วก็ลุกลามไปถึงคุณท็อปอีกว่า คุณท็อปเป็นลูกอาจารย์แท้ๆ ยังไงก็ต้องใช้พาเมล่า แต่ทำไมคุณท็อปถึงยังเป็นสิวอยู่เลย  และตอนที่ดูรายการ เห็นท่านอาจารย์กางร่ม ก็คิดอีกว่า ไหนอ.บอกว่าถ้าใช้พาเมล่าไม่ควรใช้ครีมกันแดด เพราะว่ามีสารป้องกันแสงแดดอยู่แล้ว แล้วทำไมท่านถึงต้องกลัวแดดด้วย และช่วงที่ทำงานที่บ้านสวนฯ ก็เคยคิดอีกว่า ทำไมท่านไม่ทำเอง ได้แต่สั่งๆอย่างเดียวเลย ซึ่งมันเป็นความคิดที่แว๊บเข้ามาเร็วมาก รู้สึกว่าตัวเองเลวมากๆที่คิดแบบนั้น ทั้งๆที่ไม่ได้อยากจะคิดเลย แต่มันไม่สามารถบังคับได้เลย มันคอยแต่จ้องจะหาโอกาสออกมาให้ได้เลย

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่หนูจำได้ ที่จำไม่ได้ก็มีอีก เพราะจิตคอยแต่จะไหลลงสู่ที่ต่ำ มโนกรรมของตัวเองจะเยอะมาก ทั้งๆที่ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้เลย เวลาที่หนูอยู่ใกล้ท่านอาจารย์ ก็จะรู้สึกกลัวความคิดของตัวเองมาก พยายามทำจิตให้นิ่ง ให้มีสมาธิเวลาที่ท่านพูดหรือเห็นท่าน แต่ก็ยังไม่วายที่จะหานรกมาให้ตัวเองอยู่ร่ำไป

และผลกรรมที่หนูได้รับจากการปรามาสท่านอาจารย์อุบลก็คือ หนูจะเป็นสิวบนใบหน้ามาตลอด แต่ก่อนนี้ก็เป็นๆหายๆ แต่พักหลังเริ่มไม่ค่อยจะหาย คอยแต่จะเพิ่ม ตอนแรกคิดว่าเราอ่านคู่มือหนีกรรมยังไม่ครบ 9 รอบแล้วก็ใช้ก่อน แต่พอมาเริ่มใหม่ อ่านครบแล้วค่อยใช้ ก็ยังไม่ดีขึ้นเลย แต่พอได้ไปสร้างบุญที่บ้านสวนฯ ร่วมกิจกรรมปลดล็อคกรรม สิวก็เริ่มยุบลง หน้าดีขึ้นมาก แต่พอเขึยนธรรมทานเรื่องการปรามาสท่านอ.อุบลเสร็จไปอันก่อนหน้านี้ หน้าหนูเนียนขึ้นมากๆเลยค่ะ ตอนนี้สิวไม่มีขึ้นใหม่แล้ว รอยแผลเป็นก็จางลงไปมากแล้ว และที่ปรามาสท่านเรื่องเส้นผม ก็ทำให้ผมหนูไม่สวย ดูแห้ง แตกปลาย และชี้ฟู เวลาที่มีความคิดไม่ดีกับท่านอาจารย์นั้น จะรู้สึกทรมานและทุกข์ใจอย่างมาก จิตใจเศร้าหมอง ไม่มีความสุขเลย

และหลังจากที่ตั๊กได้ไปสร้างบุญที่บ้านสวนฯมากขึ้น ตั้งใจที่จะรักษาศีลให้บริสุทธิ์มากขึ้น ทำตามคำสอนของท่านให้ดีมากขึ้นกว่าเดิม อาการจิตแว๊บก็ไม่ค่อยมีแล้วค่ะ จะมีเกิดขึ้นบ้างเป็นบางครั้ง ส่วนมากถ้าจะเริ่มคิดไม่ดี เราจะรู้ทันก่อน ทำให้หยุดมันได้ก่อน แต่บางครั้งมันก็วิ่งแซงหน้าเราไปโดยที่เราไม่ทันได้ตั้งตัวเลย

ถ้าเราคิดไม่ดีกับผู้อื่นหรือเป็นคนธรรมดาๆ เราก็ตัองได้รับผลกรรมอยู่แล้ว แต่นี่คิดไม่ดีกับผู้ทรงศึลทรงธรรม ท่านมีศึลบริสุทธิ์ มีภูมิธรรมที่สูง ท่านช่วยเหลือผู้คนต่างๆให้พ้นทุกข์มากมาย ผลกรรมที่ได้รับ ไม่ต้องรอชาติหน้าเลย รับให้เห็นในชาตินี้เลย แสดงว่ากรรมที่เราทำนั้น แรงจริงๆ เป็นบาปหนักหนามากจริงๆ

หนูกราบขอขมาท่านอาจารย์อุบล คุณท็อปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาตัวท่านทั้งสอง ที่หนูมีจิตคิดปรามาสท่าน ด้วยความโง่เขลาและผิดศึลมาทุกข้อ จึงทำให้หนูต้องมาสร้างบาปเพิ่มอีกมากมาย หนูไม่มีเจตนาที่จะคิดไม่ดีเลยค่ะ ขอท่านอาจารย์อุบล คุณท็อปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ โปรดเมตตางดโทษและอโหสิกรรมให้หนูด้วยเถิด หนูกราบขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ บารมีท่านอ.อุบล โปรดเมตตาบังคับกระแสจิตของหนูให้หนูคิดแต่สิ่งที่ดี ที่เป็นกุศลกรรมด้วยเถิด กราบ กราบ กราบ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กัลยาณี ทิมขาวประเสริฐ <ตั๊ก> ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-17 23:06:41


ความคิดเห็นที่ 134 (1641112)

ตราบใดที่เธอ

รักษาความบริสุทธิ์ไว้ได้

ตราบนั้น ตถาคต จะส่งวิชาใหม่

มาให้เธอไม่หยุดยั้ง

เธอจงทำความบริสุทธิ์ให้เกิด

ทั้ง 3 อย่างให้จงได้

ความศักดิ์สิทธิ์ สิ่งมหัสจรรย์ ปาฎิหาร ที่เกิดขึ้นทั้งหมด อยู่ที่ความบริสุทธิ์ของ

ใจ

ท่านอาจารย์อุบลโดยแท้

กราบสาธุ

ให้เขาถามตัวเองว่า

เขาเลี้ยงดูผู้คน นำพาผู้คนพ้นทุกข์

เอาเงินครอบครัว เอาบ้านส่วนตัว

เอาความเป็นส่วนตัว

มาสละให้ผู้อื่นได้อย่างเธอหรือไม่

ให้เขาคิดตรงนี้ ตอบตรงนี้ให้ได้

คนเราที่ทุกข์ ที่เจ็บ ที่จน

ก็เพราะขาด "ปัญญา" ตัวเดียวเท่านั้น

หากมองไม่เห็นความชั่วของตนเอง

ก็จะละบาปไม่ได้เลย

กราบพระบาท สมเด็จพ่อองค์ปฐมได้โปรดเมตตาลูกหลานเหลือประมาณ 

กราบท่านอาจารย์อุบล ในคุณงามความดีที่

ท่านทําเพื่อผู้อื่นมาโดยตลอด

สาธุ

กราบ กราบ กราบ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อร อุ่นศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-18 17:57:45


ความคิดเห็นที่ 135 (1641118)

แนนกราบขอบพระคุณท่านอ.อุบลคะที่เมตตาชี้แนะให้ลูกได้ทำบุญใหญ่คะ

ชื่อ             นาง ปวันรัตน์  ปณัตถ์บุณย์ภวัต

ชื่อเล่น        แนนคะ

การศึกษา  จบปริญญาตรี คณะบริหารการจัดการ

                 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

ทำงาน       โรงสีพูนพราวพัฒน์

จังหวัดที่อยู่  สุรินทร์

 

 

"กราบ

ท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือ

รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด 

แล้วชีวิตดียังไง"

ทุกวันนี้เวลาสวดมนต์จะนึกถึงท่านอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ทุกพระองค์ที่บ้านสวนฯโดยเฉพาะท่านอาจารย์ท่ายิ้มและ

ยกมือ 2 ข้างเห็นแล้วรู้สึกมีความสุข บางทีมีความทุกข์คิดมากหยิบรูปอาจารย์มาดูรู้สึกปล่อยวางได้เร็ว และเลิกคิดเลิกเครียด

ได้เร็ว

มีอยู่วันหนึ่งสามีกลับบ้านผิดเวลาไปทานข้าวกับเพื่อน

แล้วไปเที่ยวต่อไม่ยอมโทรบอกแถมยังโกหกอีก

กลับมาเลยอบรมไปยกหนึ่งรู้สึกโกรธมาก

ยากที่จะให้อภัยได้ รู้สึกเร่าร้อน (โกรธ)จากการกระทำของเค้า

เลยขอบารมีจากองค์พีระมิด องค์เทพสฟริง

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ที่บ้านสวนฯช่วยควบคุมดวงจิตของลูก

ให้นิ่งอย่าโกรธและควรที่จะให้อภัยเค้าได้แล้ว ผลปรากฎว่านิ่งได้สักครู่เดี๋ยวก็โกรธอีก เลยหยิบป้ายคล้องคอรูปท่านอาจารย์มาใส่ผลปรากฎว่าจิตนิ่งสงบ และอยากให้อภัยเค้า จนรู้สึกแปลกใจว่าทำไมเป็นอย่างนี้ได้ เลยมาทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าเกิดจากอะไร  แนนกล้าสรุปได้เลยคะว่าเป็นเพราะรูปท่านอาจารย์แน่นอน และตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองจะคลั่งไคล้วัตถุมงคลของบ้านสวนฯ ทุกชิ้นทุกอย่างเลยคะ เพราะช่วยให้เราคลายทุกข์คลายปัญหาได้จริงทุกอย่างเลยคะ แนนขอกราบขอบพระคุณท่านอ.อุบลและครอบครัวเป็นอย่างสูงที่เมตตาลูกๆทุกคนคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปวันรัตน์ ปณัตถ์บุณย์ภวัต ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-18 19:24:34


ความคิดเห็นที่ 136 (1641253)

กราบพระบาทเจ้าค่ะ

 

แล้วเขาจะหลุดพ้นได้อย่างไร

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

เขาต้องลาออก

จากการเป็นสาวกพระเทวทัต

ต้องมอบกายถวายชีวิต

ให้ตถาคต และ ตัวเธอ

-----------------------------

เจี๊ยบ นางสาวเพชรดา วรรณรักษ์ ขอลาออกจากการเป็นสาวกพระเทวทัต

จะขอมอบกายถวายชีวิตแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์

และท่านอาจารย์อุบล

และจะตั้งใจรักษาความดี ร่วมปกป้อง 3 ร่มโพธิศรีด้วยค่ะ

ให้เขาถามตัวเองว่า

เขาเลี้ยงดูผู้คน นำพาผู้คนพ้นทุกข์

เอาเงินครอบครัว เอาบ้านส่วนตัว

เอาความเป็นส่วนตัว

มาสละให้ผู้อื่นได้อย่างเธอหรือไม่

ให้เขาคิดตรงนี้ ตอบตรงนี้ให้ได้

คนเราที่ทุกข์ ที่เจ็บ ที่จน

ก็เพราะขาด "ปัญญา" ตัวเดียวเท่านั้น

หากมองไม่เห็นความชั่วของตนเอง

ก็จะละบาปไม่ได้เลย

-------------------

 

ด้วยบารมีและเมตตาของท่านอาจารย์นั้นทั้งกว้างและยิ่งใหญ่มาก ที่ท่านอาจารย์ทำเพื่อคนอื่นตลอดมา

ยิ่งมาช่วยร่วมสร้างบุญในบ้านสวนบ่อยๆแล้ว

ก็ยิ่งๆได้รับรู้ว่าท่านอาจารย์ไม่ได้คิดทำเพื่อตัวเองเลย

มีแต่เพื่อลูกบ้านสวนและเพื่อคนอื่นทั้งนั้นเลย

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-19 13:14:40


ความคิดเห็นที่ 137 (1641280)

กราบพระบาทเจ้าค่ะ

 

แล้วเขาจะหลุดพ้นได้อย่างไร

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

เขาต้องลาออก

จากการเป็นสาวกพระเทวทัต

ต้องมอบกายถวายชีวิต

ให้ตถาคต และ ตัวเธอ

-----------------------------

ผมนายวีร์พสุตม์  ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ขอลาออกจากการเป็น

สาวก พระเทวทัต ขอมอบกายถวายชีวิต แต่พระพุทธองค์ และ ท่านอาจารย์อุบล และตั้งใจ จะคิดดี พูดดี ทำดี ขอบารมีพระพุทธองค์ ท่านอาจารย์อุบล ช่วยให้ลูก อย่าได้มีมโนกรรมต่างๆ เหล่านั้นอีกเลยครับ เป็นกรรมชั่วที่น่ารังเกียจสุด สาธุ

ให้เขาถามตัวเองว่า

เขาเลี้ยงดูผู้คน นำพาผู้คนพ้นทุกข์

เอาเงินครอบครัว เอาบ้านส่วนตัว

เอาความเป็นส่วนตัว

มาสละให้ผู้อื่นได้อย่างเธอหรือไม่

ให้เขาคิดตรงนี้ ตอบตรงนี้ให้ได้

คนเราที่ทุกข์ ที่เจ็บ ที่จน

ก็เพราะขาด "ปัญญา" ตัวเดียวเท่านั้น

หากมองไม่เห็นความชั่วของตนเอง

ก็จะละบาปไม่ได้เลย

-------------------

สิ่งที่ได้รับ จากท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนมันมากมายเหลือเกิน ทั้งความรัก ความเมตตา ซึ่งหลายๆคนก็เคยสัมผัสมาหมดแล้ว ยิ่งงานต่างๆ ที่ท่านอาจารย์อุบลทำ ก็เพื่อสาธารณะ เพื่อคนอื่นทั้งนั้น นี่คือสิ่งที่ได้สัมผัสมาตลอดเวลา และสิ่งที่ท่านอาจารย์อุบลเน้นย้ำก็คือ ให้สำีรวจความชั่วในตัวเอง ว่ายังมีอะไรที่ต้องแก้ไข เป็นบันไดขั้นแรกจริงๆ การมาบ้านสวน แล้วทำให้ผมเข้าใจตรงนี้มากขึ้นครับ กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ ที่ได้เมตตาครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-19 15:11:10


ความคิดเห็นที่ 138 (1641316)

 

ให้เขาถามตัวเองว่า

เขาเลี้ยงดูผู้คน นำพาผู้คนพ้นทุกข์

เอาเงินครอบครัว เอาบ้านส่วนตัว

เอาความเป็นส่วนตัว

มาสละให้ผู้อื่นได้อย่างเธอหรือไม่

ให้เขาคิดตรงนี้ ตอบตรงนี้ให้ได้

 

*********************

เอ

ไม่เห็นมีคน

ตอบคำถามตรงนี้กัน

สักคนเลยนะ

 

พระปฐมฯ

ท่านอุส่าห์ให้ถามตัวเอง

ไม่ยักกะมีคนตอบท่าน

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-19 20:06:58


ความคิดเห็นที่ 139 (1641323)

ให้เขาถามตัวเองว่า

เขาเลี้ยงดูผู้คน นำพาผู้คนพ้นทุกข์

เอาเงินครอบครัว เอาบ้านส่วนตัว

เอาความเป็นส่วนตัว

มาสละให้ผู้อื่นได้อย่างเธอหรือไม่

ให้เขาคิดตรงนี้ ตอบตรงนี้ให้ได้

===

 

กราบแทบพระบาท สมเด็จองค์พระปฐมบรมบิดาธรรม ที่เคารพยิ่ง

ยากมากค่ะที่จะทำกำลังใจให้เท่าเทียม...

ท่านอาจารย์และครอบครัว ที่สละความเป็นส่วนตัว (เรื่องนี้ใหญ่มาก ๆ ค่ะ รวมทั้งเสียเวลาในทุกเรื่อง เช่น ต้องพูดเรื่องเดิม ๆ กับคนเดิม ๆ เพราะเขาเหล่านั้น ไม่ได้ใช้ความคิดไตร่ตรอง หรือพูดง่าย ๆ คือไม่ละเอียดพอยังหยาบอยู่ รวมทั้งตัวข้าพเจ้าด้วยที่เข้ามาอ่านธรรมทานของคนอื่นๆ แต่ไม่เขียนของตัวเองสักที)   ที่

๑. ต้องรับฟังความทุกข์ของผู้อื่นและชี้แนะเพื่อพาพ้นทุกข์ ไม่ใช่เรื่องที่น่ารื่นรมย์เลยสักนิดเรื่องก็ซ้ำ ๆ เดิม ๆ เปลี่ยนแต่ตัวละครเท่า่นั้น (เรื่องของคนผิดศีลทั้งหลาย)

๒. ต้องเป็นเป้าความอยากรู้อยากเห็นในทุก ๆ เรื่องทั้ง ๆ ที่ไม่น่าจะอยากรู้เลย... เพราะทุกข์ของเขาเองนั้น ก็มากล้นอยู่แล้วยังจะอยากรู้เรื่องของท่านและครอบครัวอีกซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัววว

ท่านเสียสละทั้งกำลังเงิน กำลังกาย กำลังใจ กำลังปัญญา ซึ่งหายากมาก ๆ บนโลกใบนี้ ในยุคสมัยปัจจุบันที่จะมีคนอย่างท่านอาจารย์และครอบครัว...ที่จะทำได้อย่างที่บ้านสวนพีระมิดทำ

และหากจะมีคนที่ทำได้ ... ก็ทำได้ไม่ทั้งหมดทุกอย่าง ...

และไม่เหมือนที่ท่านอาจารย์อุบลทำ ...

เพราะบารมีไม่เท่า ... ผลที่เกิดจึงไม่เป็นอย่างที่ เกิดขึ้นที่เป็น

ปรากฎการณ์บ้านสวนพีระมิด

เป็นปรากฎการณ์ที่ไม่รู้ว่า

กี่พัน กี่หมื่นปีจะมีสักครั้ง

หรือ

อาจจะไม่เคยมีมาก่อนในโลกใบนี้ก็ได้

นะเจ้าคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-19 21:25:21


ความคิดเห็นที่ 140 (1641356)

หนูคิดว่าอยากจะเขียนธรรมทาน ก็มาเข้ากระทู้นี้ ได้อ่านความคิดเห็นที่ 138 ของท่านอาจารย์ ขอกราบท่านอาจารย์ กราบพระเมตตาของสมเด็จองค์ปฐมค่ะ

ลูกขอกราบแทบพระบาทสมเด็จองค์ปฐม ขอลาจากการเป็นสาวกพระเทวทัต ขอมอบกายถวายชีวิตให้สมเด็จองค์ปฐม และท่านอ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์

ลูกเห็นความดีของท่านพ่อและท่านอ.อุบลมากมาย เมตตาช่วยให้ลูกหลานหลุดกรรมได้อย่างฉับพลันทันที ทำให้ชีวิตของลูกดำเนินไปในทางที่ดีขึ้นในทุกๆด้าน

ลูกไม่มีความดีที่จะมาเทียบท่านได้ ลูกทราบแต่ว่าลูกเหมือนความมืด ลูกศีลไม่บริสุทธิ์ ทำทานไม่สม่ำเสมอ แทบไม่ได้ปฏิบัติสมาธิภาวนาเลย ปล่อยให้ความเลวครอบงำ ใจเต็มไปด้วยความโลภ โกรธ หลง มิอาจเทียบความสว่างของท่านอ.อุบลได้ค่ะ

และด้วยความเลวที่ลูกสะสมเพิ่มพูนทุกวัน จิตใจที่อ่อนแอ ฐานะการเงินไม่ดีเพราะผิดศีลข้อ 2 มามากทั้งชาติก่อนและชาตินี้ ลูกไม่สามารถเลี้ยงดูผู้คนได้ ไม่สามารถเอาเงินครอบครัว เอาบ้านส่วนตัว เอาความเป็นส่วนตัวมาสละให้ผู้อื่น หรือนำพาให้ผู้คนพ้นทุกข์ได้อย่างท่านอ.อุบล 

ลูกเพียงแต่ช่วยคนให้หายทุกข์ได้ด้วยจี้ เพราะจี้บรรจุบุญบารมีของสมเด็จองค์ปฐม พระศรีอาริย์ ท่านอ.อุบล ในหลวง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ทั่วทั้งจักรวาล ไม่ใช่บุญบารมีของลูกเลย ขอกราบขอบพระคุณในความเมตตาอันประมาณมิได้ที่ทรงประทานปัญญาให้ลูกค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-20 00:24:44


ความคิดเห็นที่ 141 (1641360)

ผมนายโฆษิต ควรหาเวช

ชื่อเล่น ต้น  อายุ 47 ปี  

จบการศึกษาปริญญาโทพัฒนาการเศรษฐกิจมหาบัณฑิต

จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)

ปัจจุบัน ทำงานตำแหน่งนักวิเคราะห์

งานแผนงานและงบประมาณ ฝ่ายแผนกลยุทธ์และประเมินองค์กร

ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ปทุมธานี

 

ที่บ้านผมได้ติดรูปของอาจารย์อุบลท่านไว้ทั้งในและนอกบ้านครับ

ในบ้านก็จะมีรูปใหญ่ที่ห้องผมและห้องพ่อแม่

บอกตัวเองได้เพียงว่า มีรูปท่านอาจารย์อยู่แล้วเหมือนมีท่านคุ้มครอง

คอยเตือนตัวเองให้ระวังความประพฤติให้ดี โดยเฉพาะการรักษาศีล

และไหว้รูปท่านอยู่เสมอ เหมือนเวลาที่เจอท่านที่บ้านสวนฯครับ

เวลาที่สวดมนต์ไหว้พระก็จะไหว้ท่านและครอบครัวไปด้วย

คิดเสมอว่าถ้าไม่ได้ท่านช่วย ป่านนี้ปัญหาในครอบครัว

โดยเฉพาะปัญหาสุขภาพของพ่อแม่ คงจะแย่ ไม่ดีขึ้นอย่างทุกวันนี้

และท่านส่งบุญให้ลูกหลานบ้านสวนฯทุกวัน เราจะต้องไม่ลืมท่านครับ

ถ้าไม่ได้เจอท่านอาจารย์ผมคงตกนรกขุมลึกกว่านี้ หลายครั้งที่ยังไม่

อยากเชื่อเลยว่า คนชั่ว ๆ อย่างผมจะได้มีโอกาสมาเจอท่านครับ

 

ความเสียสละของท่านอาจารย์และคุณท๊อป มีมากมายเหลือเกิน

จะมีสักกี่คนที่ยอมเสียสละความสุขส่วนตัว เพื่อนำพาผู้คนให้พ้นทุกข์

ทั้งที่ท่านจะไปเพียงลำพังครอบครัวของท่านก็ทำได้ครับ

 

รวมทั้งให้โอกาสลูกหลานบ้านสวนฯได้มีโอกาสได้สร้างบุญใหญ่ ได้เปลี่ยนแปลงกรรม ได้ใช้และเผยแพร่รหัสจักรวาล และจี้องค์เทพสฟิงซ์เพื่อช่วยเหลือตนเอง ครอบครัวและคนอื่น ๆ ที่ไม่มีโอกาสมาที่บ้านสวนฯ ได้รับโอกาสพ้นทุกข์ ได้พบความสุขเช่นเดียวกับผมและครอบครัวครับ

ผมขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ทั้งสองและคุณท็อปเป็นอย่างสูง ที่ให้ความเมตตาและให้โอกาสผมกับครอบครัวมาโดยตลอด และกราบขอขมากรรมท่านอาจารย์และครอบครัว ที่ได้เคยปรามาส จาบจ้วง ล่วงเกินแล้วด้วยกาย วาจา และใจ ทุกกรรมตั้งแต่ต้นจนปัจจุบันครับ และผมขอลาออกจากการเป็นสาวกพระเทวทัต และขอเลือกข้างพระพุทธองค์ ขอได้โปรดรักษากระแสจิตของผมให้ตั้งมั่นในความดีงามและสามารถช่วยภารกิจช่วยรักษาสามร่มโพธิ์ศรีของท่านอาจารย์ได้สำเร็จด้วยครับ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-20 01:06:22


ความคิดเห็นที่ 142 (1641378)

 แล้วเขาจะหลุดพ้นได้อย่างไร

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

เขาต้องลาออก

จากการเป็นสาวกพระเทวทัต

ต้องมอบกายถวายชีวิต

ให้ตถาคต และ ตัวเธอ

-----------------------------

ขอพระพุทธเจ้านางสาวเจิดหทัย สุวรรณากาศ ขอตั้งจิตและสัจจธิฐาน จะขอลาออกจากการเป็นสาวกพระเทวทัตตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และจะขอมอบกายถวายชีวิต ให้กับสมเด็จองค์พระปฐมและท่านอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ผู้เป็นครูบาอาจารย์

และ

ร่วมทำหน้าที่ในการปกป้อง 3 ร่มโพธิ์ศรีนับตั้งแต่นี้

สาธุ สาธุ สาธุ

******************

ให้เขาถามตัวเองว่า

เขาเลี้ยงดูผู้คน นำพาผู้คนพ้นทุกข์

เอาเงินครอบครัว เอาบ้านส่วนตัว

เอาความเป็นส่วนตัว

มาสละให้ผู้อื่นได้อย่างเธอหรือไม่

ให้เขาคิดตรงนี้ ตอบตรงนี้ให้ได้

คนเราที่ทุกข์ ที่เจ็บ ที่จน

ก็เพราะขาด "ปัญญา" ตัวเดียวเท่านั้น

หากมองไม่เห็นความชั่วของตนเอง

ก็จะละบาปไม่ได้เลย

กราบสมเด็จองค์ปฐมและท่านอ.อุบล

หนึ่งคิดว่าตนเองยังมีกิเลส-เห็นแก่ตัว-และยังมีความโลภอยู่มาก ตนเองยังไม่สามารถเสียสละตนเองด้วยการนำเงินของครอบครัว-บ้านพัก รวมถึงเวลาในครอบครัวมาทำเพื่อส่วนรวม เพื่อให้คนอื่นๆพ้นทุกข์ เช่นท่านอ.อุบล รวมถึงครอบครัวศุภาเดชาภรณ์ได้คะ

นอกจากนี้ยังยึดติดอัตตาตนเองอยู่ ยิ่งถ้าต้องมาเจอคนที่มาเยี่ยมเยือนที่บ้านแล้วยังจะนำความทุกข์ นำปัญหาต่างๆมาให้แก้ไข หรือแม้แต่มาใช้น้ำ ใช้ไฟฟรีแล้วยังไม่รู้จักประหยัด หรือมีความเกรงใจเจ้าของบ้านด้วยแล้ว….ตนเองคงจะสติแตกกันพอดีคะ

 

กราบขอบพระคุณสมเด็จองค์ปฐมที่ให้ปัญญาลูกหลานคะ

ก่อนหน้านี้ข้าพระพุทธเจ้าไม่เคยนึกถึงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้มาก่อน คิดแต่จะมาตักตวงผลประโยชน์จากครูบาอาจารย์ ทั้งหน้าดาน หน้ามึน หน้าทน มาบ้านท่านอ.ก็ยังจะมามีจิตคิดแว่บกับครูบาอาจารย์ท่านอีก

กราบขอขมาท่านอ.อุบล ท่านอ.มงคล และคุณท็อป ที่ผ่านมาหนึ่งมีแต่จะสร้างและเพิ่มปัญหาต่างๆให้ท่านเจ้าของบ้านคะและโง่เขลาเบาปัญญาคิดเอาแต่ได้คะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-20 05:16:23


ความคิดเห็นที่ 143 (1641417)

ให้เขาถามตัวเองว่า

เขาเลี้ยงดูผู้คน นำพาผู้คนพ้นทุกข์

เอาเงินครอบครัว เอาบ้านส่วนตัว

เอาความเป็นส่วนตัว

มาสละให้ผู้อื่นได้อย่างเธอหรือไม่

ให้เขาคิดตรงนี้ ตอบตรงนี้ให้ได้

 

*********************

เอ

ไม่เห็นมีคน

ตอบคำถามตรงนี้กัน

สักคนเลยนะ

 

พระปฐมฯ

ท่านอุส่าห์ให้ถามตัวเอง

ไม่ยักกะมีคนตอบท่าน

 

กราบพระบาทสมเด็จองค์ปฐมบรมธรรมบิดา

กราบพระบาท ท่านอาจารย์อุบล  ศุภาเดชาภรณ์

 

นัชญ์ ขอตอบว่า  นัชญ์ไม่สามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ดั่งเช่นที่

ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล และคุณท็อป

ได้ทำมาโดยตลอด

ท่านอาจารย์อุบล มี

กำลังใจที่ยิ่งใหญ่มาก 

นัชญ์ไม่เคยได้พบพานผู้ใดจะมี

กำลังใจที่ยิ่งใหญ่

เท่าท่านอาจารย์มาก่อนเลย

ให้มีนัชญ์ ล้าน ๆ คน ก็ทำไม่ได้เท่าท่านอาจารย์อุบลเจ้าค่ะ

และก็จะหาใครทำได้เท่าท่านอาจารย์ก็ไม่มีอีกแล้วค่ะ

ที่ท่านอาจารย์อุบลได้

เสียสละความเป็นส่วนตัว

มากมาย

เพื่อทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้แก่ชาวโลกที่มีบาปมากมาย เช่น

นัชญ์ เจ้าค่ะ  

เป็นบุญอันใหญ่หลวง ที่นัชญ์ได้พบท่านอาจารย์อุบล เจ้าค่ะ

 

เขาต้องลาออก

จากการเป็นสาวกพระเทวทัต

ต้องมอบกายถวายชีวิต

ให้ตถาคต และ ตัวเธอ

 

 นัชญ์   ชื่อ นายภัคณัฐฎ์  ธรณ์วรรธ์ธนา 

ขอลาออกจากการเป็นสาวกพระเทวทัตตลอดกาลนานเทอญ  

และขอมอบกายถวายชีวิต ให้สมเด็จพ่อองค์ปฐมบรมธรรมบิดา

และท่านอาจารย์อุบล  ศุภาเดชาภรณ์ ตลอดกาลนานเทอญ

เจ้าค่ะ

 

 ขอท่านทั้งสองได้โปรดเมตตาให้ลูกมีความเข้มแข็ง เป็นคนที่ดี

อย่าให้มีภาพเลว ๆ ความคิดเลว ๆ สิ่งเลว ๆ

ได้เกิดขึ้นในสมองและในความคิดของลูกเลยเจ้าค่ะ

 

กราบ  กราบ  กราบ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภัคณัฐฎ์ ธรณ์วรรธ์ธนา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-20 11:49:11


ความคิดเห็นที่ 144 (1641439)

 

ให้เขาถามตัวเองว่า

เขาเลี้ยงดูผู้คน นำพาผู้คนพ้นทุกข์

เอาเงินครอบครัว เอาบ้านส่วนตัว

เอาความเป็นส่วนตัว

มาสละให้ผู้อื่นได้อย่างเธอหรือไม่

ไม่มีความสามารถ ทําได้เจ้าค่ะ เพราะกําลังใจของลูก

ยัง อ่อนเหลือเกิน ขาดคุณสมบัติทุกอย่าง

ที่ท่านอาจารย์มี ท่านอาจารย์เป็น

แต่ยังไงก็จะขอเดินตาม ท่านอาจารย์ ให้ถึงที่สุดเจ้าค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อร อุ่นศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-20 13:49:32


ความคิดเห็นที่ 145 (1641442)

ให้เขาถามตัวเองว่า

เขาเลี้ยงดูผู้คน นำพาผู้คนพ้นทุกข์

เอาเงินครอบครัว เอาบ้านส่วนตัว

เอาความเป็นส่วนตัว

มาสละให้ผู้อื่นได้อย่างเธอหรือไม่

ให้เขาคิดตรงนี้ ตอบตรงนี้ให้ได้

 

*********************

เอ

ไม่เห็นมีคน

ตอบคำถามตรงนี้กัน

สักคนเลยนะ

 

พระปฐมฯ

ท่านอุส่าห์ให้ถามตัวเอง

ไม่ยักกะมีคนตอบท่าน

 ลูกขอกราบแทบพระบาทสมเด็จองค์พระปฐมฯ

และขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล

ท่านอาจารย์มงคล และคุณท็อปค่ะ

หนูขออนุญาตตอบค่ะ หนูและครอบครัว

ไม่สามารถทำได้อย่างท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวค่ะ

ท่านอาจารย์อบุล ท่านอาจารย์มงคล และคุณท็อป

สละทุกสิ่ง ทั้งความเป็นส่วนตัว  สละเวลา

สละกำลังทรัพย์ สละแรงกาย  สละแรงใจ ที่ไม่ได้กล่าวถึงอีกมากมาย 

มีความรัก มีความเมตตา มีความห่วงใยอย่างหาประมาณมิได้

คอยช่วยเหลือทุกคนตลอดเวลา

และคิดว่าในโลกนี้หาไม่มีอีกแล้ว

ที่จะมีคนสละทุกอย่างเผื่อผู้คนทั้งโลก

ได้เหมือนท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-20 14:06:28


ความคิดเห็นที่ 146 (1641490)

ให้เขาถามตัวเองว่า

เขาเลี้ยงดูผู้คน นำพาผู้คนพ้นทุกข์

เอาเงินครอบครัว เอาบ้านส่วนตัว

เอาความเป็นส่วนตัว

มาสละให้ผู้อื่นได้อย่างเธอหรือไม่

ให้เขาคิดตรงนี้ ตอบตรงนี้ให้ได้

 

*********************

เอ

ไม่เห็นมีคน

ตอบคำถามตรงนี้กัน

สักคนเลยนะ

 

พระปฐมฯ

ท่านอุส่าห์ให้ถามตัวเอง

ไม่ยักกะมีคนตอบท่าน

************

       พูดถึงความเป็นส่วนตัวทุกวันนี้ตัวเองก็รู้สึกว่า   หวงยิ่งกว่าจงอางหวงไข่อยู่แล้วค่ะ  เพราะคงไม่ชอบให้ใครเข้ามาก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของเรา  ไม่ว่าจะบ้าน ครอบครัว     เงินส่วนตัว  เพราะลูกยังมีกิเลสหนายิ่งกว่าตราช้าง  แต่เมื่อได้เห็นตัวอย่างจากท่านผู้นำอย่างท่าน อ.อุบลแล้ว   และสิ่งที่ท่าน อ.อุบลได้ทำโดยมีจุดมุ่งหมาย คือ

       การทำอย่างไรเพื่อที่จะได้นำคำสอนของพระพุทธองค์ได้มาเผยแพร่ เพื่อให้เราได้หาทางหลุดพ้นจากวัฏฏะสงสาร  และเป็นคำสอนที่ เห็นผล พิสูจน์ได้ ฉับพลัน  เพื่อให้ลูกหลานได้กลับบ้านไปหาพ่อกันตามสัญญาที่ได้ให้ไว้

       การเสียสละความสุขส่วนตัวของท่าน อ.อุบล  ไม่ว่าจะเป็นการ   เสีย-ทรัพย์สมบัติของตนเองเพื่อสร้างสาธารณะประโยชน์ให้แก่คนหมู่มาก เนื้อที่บริเวณบ้านท่าน อ.อุบล ก็มากลายเป็นสถานที่สร้าง วิหาร โรงทาน  แปลงผักเกษตร ข้าว  แหล่งเพาะปลูกอาหารเพื่อช่วยคนในอนาคต   เงินส่วนตัวของท่านก็นำมาช่วยสร้างแต่สาธารณะประโยชน์ เพื่อช่วยเหลือคน เช่าสถานีทำรายการเพื่อให้คนหลุดพ้นทุกข์ ได้หยุดทำความชั่ว  แต่ละเดือนก็ไม่น้อยๆ เลยนะคะพี่น้อง

         สละ-ความสุขไม่ว่าจะทางด้านครอบครัว   เวลาพักผ่อน   ไม่มีวันหยุดเลย  จนไม่เหลือความเป็นส่วนตัวของท่าน  เพราะท่านมองแต่ประโยชน์สุขมวลชนหมู่มาก    ซึ่งนับเป็นจิตอาสาให้สาธารณะชนจริงๆค่ะ      จิตใจท่านเต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตา และความรักอย่างไม่มีเงื่อนไข  ไม่มีประมาณ  เขียนถึงตรงนี้ไม่รู้ทำไมถึงคิดถึงองค์พระศรีอาริย์ขึ้นมาก็ม่ายรู้  รู้สึกจุกตรงคอหอย อยากร้องให้ ด้วยความซาบซึ้งค่ะ

          ละ - ท่าน อ.อุบล ได้ละวางกิเลสโดยสิ้นเชิง ละอัตตา และภาพพจน์ของตัวท่านเอง   สนใจแต่ความหลุดพ้นทุกข์ของชาวโลกอย่างเราๆ ท่านต่อสู้กับอธรรมต่างๆ อย่างไม่ยำเกรง

          แค่นี้ก็ละอายใจที่ทำไม่ได้อย่างท่าน  แต่จะอย่างไรก็ตามขอทำตามกำลังใจ กาย ทรัพย์ ที่มีอยู่ สุดความสามารถ และขอนำท่าน อ.อุบล เป็นแบบอย่าง แนวปฏิบัติ  ในความเป็นผู้นำของท่าน  เพื่อเดินตามรอยทางท่าน อ.อุบล ที่ปูทางให้พวกเรา  โดยท่านทำให้ดู ให้เห็น ให้เราปฏิบัติตาม.......ฉะนั้นหนูจะขอทำตามท่านให้ได้  ถ้าทำความดีแค่นี้ทำไม่ได้...เจ้าอัญก็จง..ไป...ซะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลา บุตรโส (อัญ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-20 19:13:52


ความคิดเห็นที่ 147 (1641495)

ให้เขาถามตัวเองว่า

เขาเลี้ยงดูผู้คน นำพาผู้คนพ้นทุกข์

เอาเงินครอบครัว เอาบ้านส่วนตัว

เอาความเป็นส่วนตัว

มาสละให้ผู้อื่นได้อย่างเธอหรือไม่

ให้เขาคิดตรงนี้ ตอบตรงนี้ให้ได้

+++++++++++++++++++++

กราบพระบาทสมเด็จองค์พระปฐมครับ

เบสคิดว่าไม่สามารถที่จะสละได้มากมายเท่าที่ อ.อุบล สละแน่นอนครับ

เพราะท่านสละทั้ง เวลา ทั้งคอยช่วยเหลือพวกเราทุกด้าน

ช่วยหาหนทางให้พวกเราพ้นทุกข์กัน

จนบางครั้งไม่ได้หลับ ไม่ได้นอน

และยังสละความเป็นส่วนตัวเพื่อช่วยเหลือผู้คนมากมาย

ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ายกย่อง และไม่ได้ทำกันได้ง่ายๆครับ

 

 

 

ความเมตตาของ อ.อุบลนั้น มากมายมหาศาล ครับ

  

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-20 19:35:59


ความคิดเห็นที่ 148 (1641506)

ให้เขาถามตัวเองว่า

เขาเลี้ยงดูผู้คน นำพาผู้คนพ้นทุกข์

เอาเงินครอบครัว เอาบ้านส่วนตัว

เอาความเป็นส่วนตัว

มาสละให้ผู้อื่นได้อย่างเธอหรือไม่

ให้เขาคิดตรงนี้ ตอบตรงนี้ให้ได้

+++++++++++++++++++++

 

  เจี๊ยบเองก็ไม่สามารถหรือมีจิตใจเทียบเท่าท่านอาจารย์ได้แม้แต่กระผีกลิ้นที่จะกล้าเอาบ้านของตัวเอง เอาเงินของตัวเอง เอาทรัพย์สินของตัวเองมาเลี้ยงดูผู้คนแบบท่านอาจารย์ ซึ่งกำลังทำอยู่ในทุกวันนี้

  ไหนจะต้องเหนื่อยกับผู้คนร้อยพ่อพันแม่ ที่เข้ามาสร้างความสกปรก ไม่มีระเบียบ ไหนจะต้องมาคอยตามเก็บสิ่งของเครื่องมือ ถุงมือ ที่ทิ้งไว้ทั่วอีก ไหนจะต้องมาจ่ายค่าน้ำ-ไฟ ที่ตัวเองไม่ได้ใช้ ไหนจะเสียความเป็นส่วนตัว แล้วยังจะต้องมานั่งพรำ่่สอนธรรมะให้พวกโง่ๆฟังอีก เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง นับถึือในความเมตตาอันมหาศาลที่ไม่ทราบจะเปรียบกับสิ่งใดของท่านอาจารย์จริงๆค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-20 20:29:30


ความคิดเห็นที่ 149 (1641524)

ชื่อ เด็กหญิง ลลิตาพร  พุฒศรี (มะมิ้ว) อายุ 12 ปี

การศึกษา มัธยมศึกษาปีที่1  โรงเรียนนราธิวาส

จังหวัด นราธิวาส

ที่อยู่ 60/2 หมู่3 บ้านไทย ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส

อนิสงค์ที่ได้ไหว้รูปอาจารย์ก่อนไปโรงเรียน

หลังจากมะมิ้วได้ไหว้รูปอาจารย์หน้าบ้านก่อนไปโรงเรียน พอถึงโรงเรียนเคารพธงชาติเสร็จ เข้าห้องและวิชาคณิตมะมิ้วได้ทำแบบฝึกหัดถูกหมดเลย มะมิ้วรู้สึกดีใจมากเลยค่ะ มีความสุขมาก และเวลาที่มะมิ้วได้ไหว้รูปอาจารย์มะมิ้วรุ้สึกสบายใจทุกครั้ง

มะมิ้วกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์แห่งบ้านสวนพีระมิด

และอาจารย์ อุบล เป็นอย่างสูงค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ลลิตาพร พุฒศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-20 22:26:15


ความคิดเห็นที่ 150 (1641534)

 ผมนายโฆษิต ควรหาเวช

ชื่อเล่น ต้น  อายุ 47 ปี  

จบการศึกษาปริญญาโทพัฒนาการเศรษฐกิจมหาบัณฑิต

จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)

ปัจจุบัน ทำงานตำแหน่งนักวิเคราะห์

งานแผนงานและงบประมาณ ฝ่ายแผนกลยุทธ์และประเมินองค์กร

ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ปทุมธานี

 

วันนี้ผมพบป้าคนหนึ่ง แกเจ็บที่แขนใกล้ข้อมือ เวลากดจะเจ็บและเป็นมานาน พบได้ให้คุณป้าใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย และให้มองที่จี้รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี นับ 1-30 เท่านั้น คุณป้าก็หายเจ็บครับ และสอบถามเพิ่มเติมป้าบอกเจ็บหัวเข่าอีก ผมจึงนำรูปของท่านอาจารย์ที่พกติดตัวให้ป้าลองกราบอธิษฐานกับรูปท่านดู พออธิษฐานเสร็จ ป้าก็บอกว่าอาการปวดเข่าดีขึ้นแล้วครับ ผมจึงขอให้ป้าขอบคุณท่านอาจารย์ ซึ่งป้าก็เต็มใจกราบท่าน 3 ครั้ง และผมได้ฝากให้ป้าช่วยเผยแพร่รหัสจักรวาลด้วยครับ

 

ผมกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ทั้งสองและคุณท๊อปเป็นอย่างสูงที่กรุณาผมมาตลอด และให้ผมมีโอกาสช่วยคนให้พ้นทุกข์ครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-20 23:34:13


ความคิดเห็นที่ 151 (1641550)

ให้เขาถามตัวเองว่า

เขาเลี้ยงดูผู้คน นำพาผู้คนพ้นทุกข์

เอาเงินครอบครัว เอาบ้านส่วนตัว

เอาความเป็นส่วนตัว

มาสละให้ผู้อื่นได้อย่างเธอหรือไม่

ให้เขาคิดตรงนี้ ตอบตรงนี้ให้ได้

 

*********************

เอ

ไม่เห็นมีคน

ตอบคำถามตรงนี้กัน

สักคนเลยนะ

 

พระปฐมฯ

ท่านอุส่าห์ให้ถามตัวเอง

ไม่ยักกะมีคนตอบท่าน

...........................

เพราะกรรมบังตา แถมความ"โง่"บังใจ

ให้ไม่รีบมาพิจารณาประเด็น

ที่จะทำให้เกิด"ปัญญา"ค่ะอาจารย์

 

กราบขอขมาพระพุทธองค์

และท่านอาจารย์ด้วยค่ะ

พอเรื่องจะ"ปลดกรรม" กลับคิดไม่ได้

แต่"เรื่องสร้างกรรม"เนี่ย ถนัดนัก...

สำหรับชนิดา ก็ตอบได้อย่างมั่นใจเลยค่ะว่า

ยังไงก็ไม่สามารถ

จะทำได้เทียบเท่าอาจารย์แน่ๆ

 

เพราะแค่มีคนแปลกหน้า

เข้ามาป้วนเ***ยนในบ้าน

แทบจะตลอดเวลาแบบนี้

 

ถ้าเป็นชนิดาก็คงจะเซ็ง

ไปหลายร้อยตลบ

หรือปรี๊ดแตกไม่ตั้งนานแล้วค่ะ

 

เพราะความส่วนตัวก็ไม่มี

แถมคนที่มาบางส่วน

ก็มาสร้างปัญหา มาอยู่ฟรี กินฟรี

ไม่ได้คิดมาช่วยแบ่งเบาภาระแต่อย่างไร

 

 

แถมอาจารย์ยังต้องทุ่มเวลาทั้งหมดที่มี

มาทำทุกอย่างเพื่อสร้างความสุข

ความหลุดพ้นให้กับสาธารณชนแทบทั้งสิ้น

 

ทุ่มทุนส่วนตัวเพื่อสร้างธรรมทาน

ทุกรูปแบบทั้งทางรายการทีวี

และแม้กระทั่ง

การรวมเล่มธรรมทานที่แจกฟรี

 

ก็ล้วนแล้วแต่มาจากงบส่วนตัว

ของท่านอาจารย์ทั้งสิ้น

 

ทั้งๆที่เป็นความทุกข์ของพวกเรา

และสร้างเหตุกันมาเองทั้งนั้น

แต่ท่านอาจารย์กลับมาเป็นผู้ลงมือ

ลงแรง ให้ปัญญาผลักดันทุกวิธีทาง

ให้พวกเราได้พ้นจากแอกทุกข์นั้นให้ได้ 

และที่สำคัญทุกๆอย่าง

ทุกๆโครงการเพื่อเตรียมการ

รับภัยพิบัติทุกๆโครงการ

ก็เป็นงบประมาณที่มาจาก

ท่านอาจารย์และครอบครัวแทบทั้งสิ้น

รวมถึงงานก่อสร้างต่างๆ

ที่ต้องสร้าง ต้องซื้อรถ

ซื้ออุปกรณ์การสร้าง

ก็เป็นเงินของท่านอาจารย์แทบทั้งสิ้นเช่นกัน

 

พวกเราก็เพียงแต่ร่วมบุญกัน

ตามกำลังทรัพย์ที่มีเท่านั้น

สรุปที่เขียนมาทั้งหมดนั้น

ชนิดาก็ไม่รู้ว่าจะมีใครในโลกนี้

ทำได้เท่าอาจารย์และครอบครัวรึเปล่านะคะ

อาจจะเป็นเพียง"หนึ่งเดียว"ในโลกก็ได้

 

เพราะมหาเศรษฐีทำบุญเยอะก็จริง

แต่คงทำแต่เงิน

คงไม่มาออกแรงกาย

สร้างทุกอย่างด้วยตัวเองแบบนี้หรอก

 

แล้วก็คงจะไม่ให้คนมายุ่งวุ่นวาย

กับความเป็นส่วนตัวแน่ๆ

 

และที่สำคัญเศรษฐีเหล่านั้น

ก็คงจะไม่มานั่งพร่ำสอน

และปรารถนาดีให้คนทั้งหลาย

เปลี่ยนจิตเปลี่ยนใจ เป็นคนดี

อย่างที่ท่านอาจารย์ทำอยู่นี้แน่ๆ

กราบพระบาทพระพุทธองค์

และกราบขอบพระคุณ

นความเมตตาอันประมาณมิได้

จากท่านอาจารย์และครอบครัวอีกครั้งด้วยค่ะ

กราบ

กราบ

กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-21 06:55:57


ความคิดเห็นที่ 152 (1641554)

 

ปรามาสท่านอาจารย์อุบล

บ้านสวนพีระมิดแล้วได้รับผลกรรมอย่างไร

(แก้ไขใหม่)

**********

ข้าพเจ้า นางสาวเบ็ญจากาญจน์  ศุภศิริวัฒนา (วิ) อายุ 42 ปี

ที่อยู่ปัจจุบัน : ปทุมธานี

การศึกษาสูงสุด: จบพยาบาลศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยคริสเตียน

ตำแหน่งงาน : จนท.ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ ของมูลนิธิโรคตับ

สำหรับตัวเองนั้น รู้จักบ้านสวนฯ ตั้งแต่ต้นปี 2554 และได้เกาะติดหน้าเว็บเรื่อยมา และได้เข้าไปร่วมสร้างบุญที่บ้านสวนฯ ตั้งแต่ปลายปี 2554 ถึงปัจจุบัน มโนกรรมที่ไม่ดี ติดลบอยู่ในสมองตลอดเวลา ทำให้มีอาการปวดศีษะเรื้อรัง เจอแสงแดดจัดๆไม่ได้

เรื่องแรกช่วงปลายปี 2554 ลูกได้ทำกรรมหนักโดยไม่รู้ตัว ด้วยความโง่เขลา ขาดปัญญา ทำให้คิดแทนท่านอาจารย์เรื่อง ผัก คิดแทนท่านว่าผักคงเหลือทานไม่หมด เกรงว่าผักจะกลายเป็นสว.ก่อน จึงขอความเห็นร่วมกับคนอื่นๆว่ามีใครต้องการบ้าง ซึ่งเป็นการสร้างกรรมกับคนอื่นอีกผลกรรมครั้งนั้น ทำให้ตัวลูกและคนอื่นๆ ได้รับผลกรรมในเวลาใกล้ๆกัน คือจิตตก ไม่มีความสุข ของหาย อุบัติเหตุทำให้ยางรถระเบิด(ชนกับฟุตบาท) แต่โชคดีที่ท่านอาจารย์ได้เมตตาระงับเหตุไว้ทัน ครั้งนั้น ได้ลงมือทำครึ่งหนึ่งแล้วผลกรรมยังเพียงนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะสร้างกรรมหนัก จะเป็นเพราะอะไร ค่ะหลังจากนั้นลูกก็ได้เข้าไปกราบขอขมาท่านอาจารย์ ในความอยากได้ผักของท่านอาจารย์ แต่การกราบขอขมาครั้งนั้นก็ยังมิได้สำนึกจริงๆ เพราะยังบอกอาจารย์อีกว่าจริงๆแล้วหนูไม่ได้อยากได้ผักของท่านอาจารย์เลย แต่จะเอาเงินทำบุญแล้วเอาผักท่านอาจารย์กลับบ้าน นึกย้อนกลับไป ตลกตัวเองจังเลยมามุสากับท่านอาจารย์อีก ถึงวันนี้ลูกสำนึกแล้วค่ะ เพราะที่ผ่านมาลูกขาดปัญญา ไม่สามารถแบ่งแยกได้ว่าสิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควรลูกกราบขอขมาท่านอาจารย์ที่ลูกไปล่วงละเมิดอยากได้ผักของท่านอาจารย์ และยังมุสากับท่านอีก ครั้งนี้ขอกราบด้วยหัวใจที่สำนึกผิด+บาปจริงๆ                                                                

เรื่องที่ 2 เกิดขึ้น กลางปี 2555 ลูกได้เกิดมีจิตแว๊บ คิดลามกกับท่านอาจารย์เรื่องอวัยวะ.....ใหญ่ ผลการคิดไม่ดีกับท่านอาจารย์ครั้งนั้น ทำให้เกิดอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ทำให้มีความทุกข์อย่างมาก เดินทางไปไหนก็ต้องระวัง เหตุที่ยืนยันว่าการปรามาสครั้งนี้ เป็นบาปหนัก เพราะผลกรรมมันเกิดขึ้นกับตัวเองทันที (สร้างเหตุเช่นไร ย่อมได้รับผลเช่นนั้น) โดยปกติคนทั่วไปที่พูดจาให้ร้ายกัน หรือปรามาสเขาก็ไม่เกิดผลแบบฉับพลันทันทีเช่นนี้ ซึ่งช่วงเวลานั้นได้สารภาพบาปและขอขมาท่านอาจารย์ผ่านทางหน้าเว็บ และได้ไปใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ อย่างต่อเนื่อง 3-4 สัปดาห์/ครั้ง แต่ละครั้งใช้แรงกายอย่างเต็มที่ ดื่มน้ำก็เป็นลิตร แต่เข้าห้องน้ำเพียง 1-2 ครั้ง กลับมาบ้านก็ไม่มีอาการผิดปกติ แต่ถ้าอยู่นอกเขตบ้านสวนฯ การดื่มน้ำมากๆ แล้วไม่ได้ไปขับออกตามปกติก็จะมีผลให้เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบเช่นกัน หลังจากนั้น อาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่นั้นได้หายไป ตอนไหนไม่รู้ นึกได้อีกครั้งตอนที่เรากลับมาดูตัวเอง อ้าวหายแล้วนี่หน่า

ก่อนที่จะมีจิตคิดไม่ดีกับท่านอาจารย์นั้น ได้ฟังธรรมทานจากลูกบ้านสวนฯหลายท่าน บอกว่ามีจิตแว๊บกับท่านอาจารย์ซึ่งก่อนหน้านั้นก็ไม่เคยคิดอะไร เกิดความสงสัย คนอื่นว่าเขาคิดได้อย่างไร ทำไมไปคิดกับท่านได้ตอนนี้รับรู้แล้วค่ะเป็นอย่างไร มารอยู่ที่ใจของเรานี่เอง แล้วมารตัวนี้ก็สามารถทำได้ทุกอย่างโดยที่เราคิดไม่ถึงและจะเกิดกับคนที่เคยทำชั่วมามาก(ทำผิดศีลทั้ง 5 ข้อ) รวมทั้งตัวลูกเอง ปัจจุบันนี้ลูกก็ยังมีจิตแว็บ คิดไม่ดีกับท่านอาจารย์เกือบทุกครั้งที่พบเห็นท่านอาจารย์ ลูกพยายามแล้ว มารมันก็ยังวนเวียนอยู่ในใจเป็น ความรู้สึกที่ทุกข์ทรมานเหลือเกิน ช่วงที่จิตว่างก็จะท่องคาถาพระศรีอาริย์ไปเรื่อยๆ ก็ทำให้จิตสงบมากขึ้น อาการคิดแว๊บก็น้อยลง ลูกขอบารมีสมเด็จองค์ปฐม พระศรีอาริย์ พระเจ้าอยู่หัว ท่านท้าวเวสสุวรรณ ท้าวมหาราชทั้ง 4 และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วอนันตจักรวาล เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์ ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวได้โปรดเมตตา บังคับกระแสจิตของลูกให้คิดดี ทำดี ทำใสสิ่งที่ถูกต้องด้วยเถิด

หากแม้นลูกเคยเป็นสาวกของพระเทวทัตมาก่อน บัดนี้ลูกสำนึกผิดแล้ว ขอสร้างแต่กรรมดีตลอดไป ขอลาออกจากการเป็นสาวกของพระองค์นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขอเบิกบุญทุกบุญที่ได้ทำมาทั้งหมดทุกภพทุกชาติ ขอให้บุญนั้นรวมตัวและอุทิศให้ท่านทั้งหมด ขอให้ท่านมีบุญบารมีที่สูงยิ่งขึ้นไป และขอถวายชีวิตแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านอาจารย์อุบล ขอปฎิบัติตามคำสอนของพระองค์ตลอดไป

ลูกกราบขมา ท่านอาจารย์อุบล สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ หากลูกได้ล่วงเกินท่าน ทั้งทางกาย วาจา ใจ ที่ตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ที่นึกได้ก็ดี ไม่ได้ก็ดี ขอท่านได้โปรดเมตตาลูกด้วยนะเจ้าคะ

ขอกราบขอบพระคุณสมเด็จองค์ปฐมฯ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว ที่ได้เมตตา ที่เมตตาให้ลูกได้ปลดล็อคกรรมในครั้งนี้

กราบ กราบ กราบ

น.ส.เบ็ญจากาญจน์  ศุภศิริวัฒนา

*************

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-21 07:58:30


ความคิดเห็นที่ 153 (1641604)

 

ให้เขาถามตัวเองว่า

เขาเลี้ยงดูผู้คน นำพาผู้คนพ้นทุกข์

เอาเงินครอบครัว เอาบ้านส่วนตัว

เอาความเป็นส่วนตัว

มาสละให้ผู้อื่นได้อย่างเธอหรือไม่

ให้เขาคิดตรงนี้ ตอบตรงนี้ให้ได้

 

*********************

เอ

ไม่เห็นมีคน

ตอบคำถามตรงนี้กัน

สักคนเลยนะ

 

พระปฐมฯ

ท่านอุส่าห์ให้ถามตัวเอง

*******************************

ขอตอบตรงๆนะคะอาจารย์

ถึงแม้ว่าตอนนี้จะได้รับการอบรมสั่งสอน

ขัดเกลาจาก

ท่านอาจารย์มาพอสมควรแล้ว

นิสัยบางอย่างดีขึ้นบ้าง พยายามรักษาศีล 5

แต่ถ้าเรื่องต้องเสียสละ

บ้าน ทรัพย์ส่วนตัว

เพื่อมา

ช่วยคนอื่น

ขอบอกว่ายังทำใจไม่ได้ค่ะ

เพราะบ้านเป็นที่ที่เป็นส่วนตัวที่สุดของเรา

เป็นที่หลบภัย

เป็นที่ที่เราสามารถเป็นตัวของตัวเอง

ได้มากที่สุด

เมื่อไหร่มีคนนอกเข้ามา

 แค่ชั่วครั้งชั่งคราว

ถือว่าพอรับได้

แต่นี่เข้ามาตลอด

จนเราไม่เหลือพื้นที่ส่วนตัวเลย

อันนี้ยังทำใจไม่ได้

แถมต้องเลี้ยงดูปูเสื่อ อาหาร น้ำ ไฟ ฟรี

ร้อนก็ต้องหาพัดลมมาให้

หาเต๊นท์ทมาให้

ยุงกัดก็ติดมุ้งลวด

หาอุปกรณ์เครื่องทุ่นแรงต่างๆมาให้

อาจารย์คะ อ้อยทำไม่ได้ค่ะ

ขอสารภาพ

คนที่จะทำได้ขนาดนี้

คงต้องมีความเมตตา

ไม่มีประมาณ

คงต้องมีกำลังใจสูงมาก

คงต้องมีความรักที่ไม่มีเงื่อนไขเลย

แถมพอพวกเราเข้ามาขอความช่วยเหลือจากอาจารย์

ขอให้ช่วยให้เราพ้นทุกข์

บางคนพอได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว เช่น หายป่วย หายจน งานดีขึ้น กลับมาคิดไม่ดี คิดลบกับอาจารย์และครอบครัวอีก

เฮ้อ พวกเรานี่มันชั่วจริงๆ

เหมือนชาวนา กับงูเห่า

บางคนมีโอกาสก็จะมาแว้งกัดผู้มีพระคุณอีก

กราบขอบพระคุณสมเด็จองค์ปฐมบรมธรรมบิดา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์

ที่เมตตาลูกหลาน รู้ว่าพวกเรายังติดเรื่องมโนกรรม

ที่ไม่ดีต่อผู้มีพระคุณสูงสุด กับท่าน อ.อุบลและครอบครัว

จึงไม่สามารถปลดล็อคกรรมได้

ขอทุกๆพระองค์เมตตาบังคับกระแสจิตพวกเราทุกคน

ให้คิดดี ทำดี พูดดี ด้วยเทอญ

สาธุ สาธุ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-21 15:16:42


ความคิดเห็นที่ 154 (1641621)

ให้เขาถามตัวเองว่า

เขาเลี้ยงดูผู้คน นำพาผู้คนพ้นทุกข์

เอาเงินครอบครัว เอาบ้านส่วนตัว

เอาความเป็นส่วนตัว

มาสละให้ผู้อื่นได้อย่างเธอหรือไม่

ให้เขาคิดตรงนี้ ตอบตรงนี้ให้ได้

 **********************

ทำแบบท่านอาจารย์ไม่ได้ค่ะ เมื่อตอนน้ำท่วมครั้งที่แล้วมีญาติมาขอหลบภัยน้ำท่วมแค่ไม่กี่วัน ยังรู้สึกอึดอัดรำคาญอยากให้เขากลับบ้านไปเร็ว ๆ แม้เวลามีแขกมาบ้านก็อยากให้คุยธุระเสร็จแล้วกลับ ๆ ไป ท่านอาจารย์เป็นผู้ที่มีเมตตา เสียสละความสุขส่วนตัว ทรัพย์สินเงินทอง นำพาผู้คนพ้นทุกข์ อดทนกับผู้คนที่เข้ามาสร้างภาระ ปัญหาให้ตลอดเวลา จะหาคนที่ทำได้อย่างท่านอาจารย์คงไม่มีอีกแล้วค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-21 16:28:54


ความคิดเห็นที่ 155 (1641622)

ชื่อ นางสมจิต  โพธิ์นิล อายุ  50 ปี ชื่อเล่น จิต

.นนทบุรี

การศึกษา ปวส.การจัดการ เทคนิคกรุงเทพพณิชยการ

อาชีพ  ธุระกิจส่วนตัว (เจียรจานเบรครถยนต์)

กราบ ท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด หรือ รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด แล้วชีวิตดียังไง

ปกตินอกจากพระแล้วก็ไม่ค่อยได้กราบใคร มีท่านอาจารย์อุบลเป็นท่านแรกที่กราบบ่อยที่สุด กราบด้วยความเคารพ ศรัทธา เชื่อมั่นในพระคุณความดีของท่านตลอดมา ถึงแม้ท่านจะห้าม ไม่ชอบให้มีใครมากราบ แต่พวกเราชอบกราบท่านอาจารย์อุบลมากกันทุกคนเลยค่ะ กราบแล้วตื้นตันน้ำตาเอ่อไหลเป็นประจำ ที่โต๊ะบูชาพระ ที่ทำงาน รถ และกระเป๋าตัง มีรูปท่านทุกที่ ทุกครั้งที่ได้มีโอกาสกราบท่านหรือรูปของท่าน จะมีความสุขใจอย่างมาก ความปลื้มความอิ่มเอมทุกอย่าง ประดังเข้ามาสู่ใจกายอย่างอัศจรรย์ โรคภัยไข้เจ็บที่เคยเป็นก็หาย ปวดหัว ปวดหลัง ปวดไหล่ เป็นภูมิแพ้มานานเป็นปี มีอาการแน่นจมูก น้ำมูกไหล เวลาได้กลิ่นหรือฝุ่นละอองจะจามติด ๆ กันจนรู้สึกว่าน่ารำคาญเหลือเกินเมื่อไหร่จะหายเสียที จามไม่เลิก กระดาษทิชชูต้องพกตลอดเวลา เดี๋ยวนี้อาการภูมิแพ้หายหมดแล้วค่ะ

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลและเทวดารักษาท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์ที่เมตตาปลดเปลื้องทุกข์ให้ลูกหลานค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-21 16:28:55


ความคิดเห็นที่ 156 (1641626)

ให้เขาถามตัวเองว่า

เขาเลี้ยงดูผู้คน นำพาผู้คนพ้นทุกข์

เอาเงินครอบครัว เอาบ้านส่วนตัว

เอาความเป็นส่วนตัว

มาสละให้ผู้อื่นได้อย่างเธอหรือไม่

ให้เขาคิดตรงนี้ ตอบตรงนี้ให้ได้

*****************

กราบองค์พระปฐมบรมธรรมบิดา

ลูกนางวัชรินทร์ เกษมณี

ขอกราบขออนุญาตตอบ

ลูกไม่สามารถทำอย่าง

ท่านอาจารย์อุบล  และครอบครัวทำได้

ที่จะเสียสละชีวิตทั้งชีวิต

ความสุขของตนเองและของทุกคนในบ้าน

มาทำเพื่อคนอื่นที่ไม่เคยรู้จัก

ไม่เคยพบหรือเห็นกันมาก่อน

มาดูแลการกิน การอยู่ การหลับ

การนอน การเจ็บ การป่วย

จนถึงการทำอย่างไรจะให้เขาพ้นทุกข์

พ้นความยากจน มีกิน มีใช้

ทำอย่างไรให้เขามีบุญ มีศีล มีทาน

มีภาวนา ติดตัว และให้เขาส่งบุญ

ศีล ทาน ภาวนา ไปให้แก่ญาติ

แก่เจ้ากรรมนายเวรของเขา

เพื่อจะได้รับการปลดปล่อย ปลดล็อค

บาปกรรมต่าง

ได้กลับบ้านไปหาพ่อที่นิพพาน

ให้ได้มากที่สุดโดยพยายาม

1.เคี่ยวเข็ญให้ทำบุญแรงกาย

เพราะเป็นบุญที่บริสุทธิ์มีอานิสงส์มาก

อำนวยความสะดวกสบาย

ในการทำงาน หาเครื่องทุ่นแรง

หาวิธีไม่ให้เบื่อ ไม่ให้ท้อ

2.หาวิธีชักจูงให้ทำบุญธรรมทาน เพราะ

มีอานิสงส์มากกว่า บุญสังฆทาน และ

วิหารทาน หากลวิธีให้เขียนอย่างสร้างสรร

3.กราบขอพุทธานุญาติเพื่อสร้าง

จี้เทพสฟิงซ์เพื่อลูกหลานจะได้อานิสงส์

จากการช่วยบำบัดผู้เจ็บป่วยที่จะเป็น

ญาติหรือไม่ใช่ญาติก็ตาม

ทำให้สามารถช่วยเหลือผู้คนได้ใน

จำนวนมากขึ้น เร็วขึ้น แพร่หลายขึ้น

เพื่อให้ทันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ไม่มีใครทำได้อย่างท่านอาจารย์อุบล

และครอบครัวอีกแล้ว

ขออานิสงส์ผลบุญที่เกิดขึ้นจาก

ความเมตตา ความเสียสละ ความทุ่มเท

แรงกาย  แรงใจ แรงทรัพย์ ของ

ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว

เป็นพลังให้ท่านอาจารย์อุบล

และครอบครัวประสบ

ความสมปรารถนาตามที่ต้องการ

ตราบเข้าสู่นิพพานเถิดนะค่ะ

และลูกขอน้อมนำบุญเหล่านี้ถวาย

แด่พระพุทธองค์และเทวดาที่รักษา

ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น วัชรินทร์ เกษมณี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-21 16:56:16


ความคิดเห็นที่ 157 (1641635)

ให้เขาถามตัวเองว่า

เขาเลี้ยงดูผู้คน นำพาผู้คนพ้นทุกข์

เอาเงินครอบครัว เอาบ้านส่วนตัว

เอาความเป็นส่วนตัว

มาสละให้ผู้อื่นได้อย่างเธอหรือไม่

ให้เขาคิดตรงนี้ ตอบตรงนี้ให้ได้

 

*********************

เอ

ไม่เห็นมีคน

ตอบคำถามตรงนี้กัน

สักคนเลยนะ

 

พระปฐมฯ

ท่านอุส่าห์ให้ถามตัวเอง

ไม่ยักกะมีคนตอบท่าน

...........................

ขอตอบว่า ไม่มีทางทำได้แน่นอนค่ะ

อ๋อยเคยอยู่รวมกันกับพี่น้องหลายปี    ไม่กี่คน

ยังแสนจะอึดอัด วุ่นวายมาก

ไม่มีความเป็นส่วนตัว

ถึงแม้จะช่วยกันออกค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าบ้าน

แต่ปัญหาก็ย่อมมีแน่นอน

หากต้องเอาเงินทองส่วนตัวไปเลี้ยงดูผู้อื่น

ที่มิใช่ญาติ ยิ่งเป็นไปไม่ได้ค่ะ

เกิดมาจนป่านนี้ อ๋อยเพิ่งเคยเห็น

ท่านอาจารย์อุบล คนนี้คนเดียวที่สละทุกสิ่งอย่าง

ที่ท่านมี เพื่อผู้อื่นได้ โดยไม่แบ่งแยก

ยากดีมีจน

ทุกคนมาที่บ้านสวนฯ เท่าเทียมกันหมด

ขอกราบ กราบ กราบ

ในความเมตตา ที่มีมากมายมหาศาลเจ้าค้า สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-21 17:22:39


ความคิดเห็นที่ 158 (1641645)

 เขาต้องลาออก

จากการเป็นสาวกพระเทวทัต

ต้องมอบกายถวายชีวิต

ให้ตถาคต และ ตัวเธอ

***************

ข้าพเจ้านางสมจิต  โพธิ์นิล ขอลาออกจากการเป็นสาวกของพระเทวทัต ขอมอบกายถวายชีวิตให้พระพุทธเจ้า และท่านอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขอบารมีพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ บารมีพระศรีอาริย์ และท่านอาจารย์อุบล ช่วยบังคับกาย วาจา ใจ ของลูกให้มีความเข้มแข็ง มีปัญญาช่วยงานท่านอาจารย์อุบล จนถึงที่สุดด้วยเถิด


 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-21 18:42:50


ความคิดเห็นที่ 159 (1641710)

ให้เขาถามตัวเองว่า

เขาเลี้ยงดูผู้คน นำพาผู้คนพ้นทุกข์

เอาเงินครอบครัว เอาบ้านส่วนตัว

เอาความเป็นส่วนตัว

มาสละให้ผู้อื่นได้อย่างเธอหรือไม่

ให้เขาคิดตรงนี้ ตอบตรงนี้ให้ได้

***********************************************************************

ผมเองก็คงเอาบ้านสวนตัวให้คนอื่นมาอยู่ กิน นอน

ทำในผืนดินสารพัดแบบ

ขาดความเป็นส่วนตัว เหมือนท่านอาำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำจารย์ไม่ได้ครับ

ไม่สามารถเสียสละเงินทองมาเลี้ยงข้าวให้ผู้คน

หายป่วยหายหายทุกข์ได้แม้แค่มื้อครึ่งมื้อ

ก็ลำบากเต็มกลืน

ไม่สามารถนำเงินส่วนตัว เงินครอบครัวมาเลี้ยงดูผู้คนได้

เพราะต้องมาเลี้ยงดูจุลเจือครอบครัวก่อน

ที่ให้คนอื่นจะพ้นทุกข์ได้

ซึ่งความเมตตา ความเสียสละความเห็นแก่ส่วนรวมมีน้อยมาก

มีแต่ประโยชน์ส่วนตัวเป็นส่วนมาก

แถมมาทำบุญบ้านเขายังมีความคิดไม่ดีกับเจ้าของบ้านอีก

เท่ากับมาสร้างเวรกรรมทางความคิดเพิ่มขึ้นอีก

ก็ต้องรับผลกรรมต่อไป

ผมนายสิงห์เงิน ขอลาออกจากการเป็นสาวกของพระเทวทัต

ขอมอบกายถวายชีวิตให้พระพุทธเจ้า

และท่านอาจารย์อุบล ตลอดไป

ขอบารมีพระพุทธเจ้าได้โปรดช่วยบังคับกระแสจิตของลูก

ให้คิดดี พูดดี ทำดี ให้มีความเข้มแข็ง

เจริญในธรรมด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ (ตาโต๊ะ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-21 23:57:59


ความคิดเห็นที่ 160 (1641723)

ให้เขาถามตัวเองว่า

เขาเลี้ยงดูผู้คน นำพาผู้คนพ้นทุกข์

เอาเงินครอบครัว เอาบ้านส่วนตัว

เอาความเป็นส่วนตัว

มาสละให้ผู้อื่นได้อย่างเธอหรือไม่

ให้เขาคิดตรงนี้ ตอบตรงนี้ให้ได้

 

*********************

หนูก็ขอตอบตรงๆอีกคนค่ะว่ายังทำไม่ได้

ที่จะไปสละพื้นที่ส่วนตัวให้ผู้อื่นได้

ขนาดบางทีมีแขกมาบ้านนานๆยังเซงๆเลยค่ะ

เพราะรู้สึกว่าไม่ส่วนตัวเลย

รู้สึกว่าตัวเองยังเห็นแก่ตัวอยู่มาก

เพราะทำแต่เพื่อตัวเอง คิดถึงแต่ตัวเอง

แม้แต่เงินแค่คนยืมยังไม่ค่อยชอบเลย

ถ้าต้องเอาเงินมาเลี้ยงผู้คนแบบอ.

คงไม่เป็นอันกิน อันนอนแล้วค่ะ

อ.ทำทุกอย่างเพื่อให้เราพ้นทุกข์

ลงทั้งแรงกาย ปัจจัย

ซื้อเครื่องใช้ที่อำนวยความสะดวกมาให้พวกเรา

เสียสละความเป็นส่วนตัว

มีผู้คนเข้าๆออกๆบ้านอยู่ตลอดเวลา

ทั้งๆที่พวกเราไม่ใช่ลูกหลาน

ไม่ใช่ญาติด้วยซ้ำ

หนูเชื่อว่าถ้าจิตใจไม่สูงจริง

และความเมตตา ความรักไม่มากจริง

ทำไม่ได้แน่ๆค่ะ 

หนูยังไม่เคยเห็นใครทำได้แบบอ.ค่ะ

อ.ไม่เคยเรียกร้อง ไม่เคยมาบอกพวกเราเลยด้วยซ้ำ

ว่าอ.ทำเพื่อพวกเรามากมายขนาดนี้

แต่บางทีกลับมีคนมาคิดตรงกันข้ามว่าทำเพื่ออ.มากมาย

ทั้งๆสิ่งที่อ.ทำให้เรา ตอบแทนยังไงก็ไม่มีวันหมด

อ.และครอบครัวลงทุนแต่ไม่เคยหวังผลกำไร

คิดแต่เป็นผู้ให้

แต่เราไม่ได้ลงทุนอะไร

มีแต่ได้กับได้...ไม่มีที่สิ้นสุด

ความรักของอ.ไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ

กราบขอบพระคุณเบื้องบนที่ส่งอ.มาให้เรา

กราบขอบพระคุณอ.และครอบครัว ที่เมตตาเราเหลือเกินค่ะ

กราบ กราบ กราบ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-22 04:16:14


ความคิดเห็นที่ 161 (1641730)

อนุโมทนากับธรรมทาน

จากทุกๆท่านด้วยนะคะ

 

คิดแล้วพวกเราก็"เลว"ได้ใจจริงๆเลยนะคะ

ขนาดอาจารย์ทำเพื่อพวกเรามากมายขนาดนี้

ยั๊งอุตส่าห์ไปมีความคิดไม่ดี

กับอาจารย์ได้..อย่างหน้าตาเฉย ...

 

คิดแล้วก็ทุเรศตัวเองจริงๆ

ไม่รู้ว่าจะกล่าวคำขอขมากี่แสนล้านครั้ง

มันถึงจะสาสมกับความเลวของตน ..

 

อาจารย์คะ หนูจะเป็นคนดี

และทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

เพื่อตอบแทนพระคุณอันมหาศาล

จากท่านอาจารย์และครอบครัวตลอดไป..

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-22 05:43:09


ความคิดเห็นที่ 162 (1641778)

ได้ค้นอานิสงค์ของธรรมทานใน internet มา พบว่าอานิสงค์มากมาย จึงส่งมาให้อ่านกัน เพื่อเป็นกำลังใจในการเขียนธรรมทานค่ะ

มหาอานิสงส์ของธรรมทาน 25 ข้อ
มหาอานิสงส์แปลว่า ผลบุญอันยิ่งใหญ่ มาจากคำว่า มหา (ใหญ่,ยิ่งใหญ่) + อานิสงส์ (ผลที่เกิดจากการกระทำ, ผลบุญ)
  1. มีจิตใจเบิกบานแจ่มใส หน้าตาสดใสมีสง่าราศี
  2. มีสติปัญญาดีเลิศ คิดสิ่งใดก็คิดออกได้ง่ายและ ถูกต้องกว่าแต่ก่อน
  3. ได้คนรอบตัวดีดีมีเพื่อนแท้แก้ทุกข์สู้งานใหญ่
  4. ได้เพื่อนธรรมกัลยาณมิตร ชวนกันคิด ชวนกันทำกรรมดี เพื่อการสั่งสมบุญบารมี
  5. เจ้ากรรมนายเวรไล่ล่าเราไม่ทันเปรียบเสมือนได้ลบล้างหนี้เวรกรรม
  6. โรคภัยไข้เจ็บอันเกิดจากเจ้ากรรมนายเวรก็ทุเลาหายไปเพราะเราอุทิศบุญให้
  7. ทำให้ชีวิตตนและครอบครัวมั่นคงทรัพย์สมบัติกิจการค้า ตำแหน่งการงาน เจริญรุ่งเรือง
  8. ช่วยดึงและดันให้สั่งสมบุญบารมีขั้นสูงกว่าคือการรักษาศีลลและการเจริญภาวนา เมื่อทำก็ทำได้ง่ายไร้อุปสรรค
  9. ได้สร้างเสริมและเจริญเมตตาธรรมฝึกตนให้เป็นพระพรหมมีจิตใจครบ
  10. 4 หน้าคือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เมื่อเป็นผู้ที่มีพรหมวิหารทั้ง 4
  11. ก็ย่อมให้อภัย ไม่พยาบาท ทำดีได้ง่ายขึ้นเข้าสมาธิและฌานได้ง่ายดี
  12. สมาชิกในครอบครัว ในธุรกิจ ในหน่วยงานมีรักสามัคคี มีเมตตาไมตรีต่อกันมาก
  13. เทวดาคุ้มครอง ปกป้องรักษาความปลอดภัยแก่สมาชิกในครอบครัว ในธุรกิจ ในรถ เรือ บ้านเรือน อาคาร
  14. สร้างธรรมทานด้วยหวังขจัดกิเลสและด้วยจิตใจเบิกบานทั้ง 3 ระยะ คือ ก่อนสร้าง, ขณะสร้าง และหลังสร้างบุญธรรมทานชาติหน้าเกิดมาก็จักรวยตั้งแต่เกิด รวยมั่นคงจนถึงปลายชีวิตเพราะชาตินี้สร้างธรรมทานด้วยความยินดี มีจิตเบิกบานตลอด 3 ระยะ
  15. อุทิศบุญกุศลให้บุพการีและผู้มีพระคุณบุญส่งให้ท่านเหล่านั้นได้อยู่ในภพภูมิที่ดีดี
  16. คิดหาวิธีเองได้ที่จะทำให้ตนและผู้อื่นพ้นทุกข์น้อยใหญ่ ไล่ความโง่ เติมความงามแก่กายใจ
  17. ช่วยให้คนทั้งโลก แม้ว่าจะต่างเชื้อชาติ ศาสนามีความสุขสงบร่มเย็น เป็นเพื่อนเกื้อกูลกัน
  18. ขจัดความตระหนี่ถี่เหนี่ยวลดความยึดมั่นถือมั่น ตัดความงกความเป็นเจ้าของออกจากใจ
  19. ไล่ตัวมารแห่งความโลภขจัดความโศกที่เกิดจากการดิ้นรนอยากมีวัตุสิ่งของเกินความจำเป็น
  20. เห็นเส้นทางเดินตามพระราชปรัชญาแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในเรื่อง "เศรษฐกิจพอเพียง"
  21. เพิ่มวิปัสสนาปัญญาคือความเห็นความไม่เที่ยงแท้แน่นอนของสรรพสิ่งดั่งสมบัติผลัดกันชมผลัดกันใช้
  22. ได้เปลี่ยนความคิดเห็นที่ผิดที่ไม่ถูกต้อง (มิจฉาทิฐิ) เป็นความคิดเห็นที่ถูกต้อง (สัมมาทิฐิ)
  23. เมื่อได้เสริมบุญธรรมทาน ด้วยการรักษาศีลและเจริญภาวนาทำสมาธิเป็นเนืองนิตย์ หากตายไปจักได้เกิดเป็นเทวดาอย่างแน่นอนพอจิตอิ่มบุญบารมีสูงสุดก็จักเข้าสู่นิพพาน ไม่เกิดเป็นอะไรอีกแล้ว
  24. สร้างความสุขให้ชาวโลกในอนาคตเติมเชื้อธรรมไว้ในปฐพี อีก 100 ปี มีผู้เห็นหนังสือที่พิมพ์แจกเขาก็จักฟื้นฟูดูแลพระพุทธศาสนา เราท่านเกิดมาในชาติหน้าจะเป็นพุทธบริษัทที่สมบูรณ์อยู่ในแดนพุทธที่เจริญ และปลอดภัย
  25. หากได้เกิดเป็นมนุษย์อีกจักเกิดในครอบครัวที่อุดมด้วยสัมมาทิฐิ "รีบเร่งสั่งสมบุญบารมีในชาตินี้เถิด
  26. ไม่เกิดในอบายภูมิได้ง่าย (นรก, เปรต, อสุรกาย, ดิรัจฉาน)
  27. ช่วยรักษาและเผยแผ่พระพุทธธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าไม่ให้เสื่อมสูญ
ที่มา :หนังสือพุทธฤทธิ์พิชิตมาร
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-22 12:25:36


ความคิดเห็นที่ 163 (1641779)

ชื่อ นางสมจิต  โพธิ์นิล  อายุ 50 ปี จังหวัด นนทบุรี

จบการศึกษา ปวส. สาขาการจัดการ เทคนิคพณิชยการกรุงเทพ

การงาน  ธุระกิจส่วนตัว (เจียรจานเบรครถยนต์)

ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิดแล้ว

ได้รับผลกรรมอย่างไร

ชีวิตก่อนรู้จักบ้านสวนพีระมิด เป็นคนที่ไม่ค่อยทำบุญทำทาน ใช้ชีวิตประจำวันด้วยการทำผิดศีลทุกข้อทั้งทางกาย ทางวาจา ทางความคิด โดยเฉพาะทางความคิด คิดลบ คิดไม่ดี มากและหนักสุด เมื่อถึงจุดที่ชีวิตเปลี่ยนมีทุกข์เครียดปัญหาทุกด้าน หนี้สินรุมเร้า  แต่ในขณะนั้นไม่รู้ว่าความทุกข์ที่เราได้รับเกิดจากกรรมอะไร จึงเริ่มหันหน้าเข้าวัดทำบุญ หาครูบาอาจารย์ตามวัดและสถานที่ต่าง ๆ แต่ปัญหาและอุปสรรคก็ไม่คลี่คลาย

ประมาณต้นปี 2554 ได้เปิดทีวีเจอรายการคุยไปแจกไปโดยบังเอิญ ดูแล้วทึ่ง ประหลาดใจมาก ที่เห็นท่านอาจารย์อุบล บำบัดคนที่เจ็บป่วย พิการ มีปัญหาด้านต่าง ๆ  แล้วบางคนก็ดีขึ้น บางคนก็หาย โดยการสารภาพบาปสำนึกกรรม มีบางรายนึกกรรมตัวเองไม่ออกท่านก็เมตตาช่วยชี้แนะ เป็นสิ่งอัศจรรย์ในความรู้สึกของตัวเอง ดูมาเรื่อย ๆ รู้สึกชอบ เกิดความศรัทธา และอยากมีชีวิตที่ดีขึ้นผ่านพ้นอุปสรรคได้  คิดอยากไปสร้างบุญด้วยแรงกายที่บ้านสวนพีระมิดบ้าง เพราะบุญแรงกายเป็นบุญที่บริสุทธิ์

เห็นในรายการมีสบู่รักษาสิว ฝ้า ตอนนั้นลูกเรียนอยู่ม.1 มีสิวขึ้นบนใบหน้ามาก จึงสั่งสบู่มาให้ลูกใช้ และตัวเองใช้ด้วย โดยไม่ศึกษากฏกติการใช้ให้ละเอียดถี่ถ้วน ลูกไม่ได้อ่านคู่มือหนีกรรมผิวพรรณ จึงใช้ไม่ได้ผลและมีอาการคันจึงหยุดใช้ ตัวดิฉันเองก็ยังอ่านไม่ครบ  9 รอบ จึงหันมาอ่านต่อจนครบ แล้วใช้สบู่มาจนถึงทุกวันนี้ 

เวลาที่ดูรายการคุยไปแจกไป พอถึงช่วงท้ายรายการท่านอาจารย์ใส่ชุดสีชมพู จิตของดิฉันก็แว็ปขึ้นมาว่า ใส่ชุดนี้ไม่สวยปัญญาอ่อน ดูทีไรก็ติดกับชุดนี้ทุกที ตอนหลังพอถึงช่วงท้ายจึงพยายามที่จะไม่มองไม่ฟังเพราะเวลาได้ยินเสียงก็ทำให้นึกถึงภาพ ที่เราเคยคิดไม่ดีกับท่านอาจารย์

ผลกรรมที่ได้รับก็คือ วันหนึ่งมีอาการแน่หน้าอกหายใจไม่เต็มอิ่ม รู้สึกเหนื่อย ทั้งที่ไม่มีอาการอะไรมาก่อน นึกถึงคนที่ปรามาสแล้วมีอาการต่าง ๆ เราคงเป็นอย่างนั้นแน่ ๆ จึงนำองค์พีระมิดรุ่นมวลสารมาอธิฐานถ้าอาการที่ลูกเป็นอยู่นี้ เกิดจากการปรามาสท่านอาจารย์อุบล ก็ขอให้อาการแน่นอกหายก่อน แล้วลูกจะเดินทางไปบ้านสวนเพื่อกราบขอขมาท่านอาจารย์ ปรากฏว่าอาการที่เป็นหายแล้วไม่กลับมาเป็นอีกจนถึงปัจจุบันนี้  เมื่อต้นเดือนมิถุนายน 54 ลูกก็ได้ไปกราบขอขมาท่านอาจารย์ที่บ้านสวนแล้ว

เมื่อไปทำบุญแรงกายที่บ้านสวนพีระมิด เวลาที่ต้องอยู่ใก้ลท่านอาจารย์อุบล หรือได้ยินเสียงของท่าน จะมีความวิตกกังวล กลัวมาก กลัวจิตตัวเองจะแว็ปคิดไม่ดีกับท่านอาจารย์ ทั้งที่ก็ไม่อยากคิด ไม่อยากเป็นอย่างนี้ รู้อยู่เต็มหัวใจว่าท่านเป็นเนื้อนาบุญที่บริสุทธิ์ เป็นครูบาอาจารย์ที่มีเมตตา บารมีสูง ถ้าเราปรามาสล่วงเกินท่านไม่ว่าทางทางกาย วาจา หรือใจ ทางใดทางหนึ่งล้วนเป็นกรรมที่หนักแสนสาหัสมาก กราบขอขมาท่านในจิตวันละหลายรอบ แต่เพราะเป็นคนชั่วสร้างกรรมมาเยอะผิดศีลทุกข้อ โดยเฉพาะมโนกรรม ทำให้ไม่สามารถควบคุมจิตตัวเองได้ตลอดเวลา เผลอเมื่อไรจิตแว็ปทันที มีอยู่ช่วงหนึ่งที่จะได้ยินคำว่า โกหกกะล่อนปลิ้นปล้อนตอแหลอยู่บ่อย ๆได้ยินคำนี้ทีไรนึกถึงท่านอาจารย์ทุกที บางครั้งก็วิพากวิจารณ์รูปร่างท่านในจิต เห็นอะไรผ่านหู ผ่านตาไม่ได้เลย ได้ยินคำสอนท่าน กระแสจิตจะต่อต้าน ไม่เชื่อ ไม่จริง ให้เดินหนีออกไปให้ไกล ๆ เวลาพิมพ์ธรรมทานจะพิมพ์คำว่าอาจารย์ จิตแว็ป ไปว่าอาจม 

เคยใช้โทรศัพท์อัดคลิปเสียง 1 ครั้งเพราะคิดเข้าข้างตัวเองว่าจดไม่ค่อยทันทำให้เขียนได้ไม่ครบ ปรากฏว่ามีเหตุให้โทรศัทพ์ตกน้ำจึงคิดได้ว่าเราทำผิดจึงอธิฐานขอขมาและลบคลิปเสียงทั้งหมด พูดแทรกในขณะที่ท่านพูดกับคนอื่นอยู่ เมื่อคิดได้ว่าสิ่ที่เราทำผิดจึงกราบขอขมาท่านในเว็ปไซด์ เห็นท่านอาจารย์มงคลคุยกับกุณเกสรก็วิตกจริตคิดว่าสักวันเราอาจทำผิดแล้วเป็นอย่างนี้ เห็นคุณท็อปเป็นสิวก็คิดว่าทำไมยังเป็นสิว บางครั้งท่านอาจารย์ติติงเรื่องต่าง ๆ ก็จิตตก พอเวลาผ่านไปสักพักก็จะกลับมาคิดได้ว่าท่านหวังดี อยากใหทุกคนเก่งมีความสามารถในทุก ๆ ด้าน

รู้ตัวว่ายังชั่วอยู่อีกมาก ยังละอัตตาไม่ได้ ยังจิตตก  วิตก กังวล คิดลบ สารพัดที่จะเลว ต่อจากนี้ไปจะแก้ไขปรับปรุงตัว เชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสอนของท่านอาจารย์ให้ได้แบบไม่มีเงื่อนไข จะตั้งใจทำความดีให้มากยิ่งขึ้น และเอาชนะมารให้ได้ในที่สุด

 

 ผลของกรรมที่ได้รับ  ชีวิตไม่มีความสุข วิตกกังวล ได้รับความทุกข์ทั้งทางกาย ใจ ปวดคอมาก ปวดขา ปวดทั่วร่างกาย เป็นแผลที่ปาก คันหัว คันตัว  ไม่สามารถปลดเปลื้องอุปสรรคและปัญหาชีวิตได้ ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง   

 ลูกกราบขอขมาพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล คุณท็อป เทวดารักษาท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวทุกพระองค์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งจักรวาล ที่ลูกได้ปรามาสล่วงเกินทุก ๆ พระองค์ ทุกท่านด้วยกาย วาจา ใจ บัดนี้ลูกสำนึกบาปแล้ว จะสร้างความดีไปจนถึงที่สุด ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายโปรดคอยอนุโมทนารับบุญของข้าพเจ้า ทุกขณะจิตที่ข้าพเจ้าทำความดีด้วยเถิด

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-22 12:29:17


ความคิดเห็นที่ 164 (1641780)

 

พอเรารู้อานิสงค์ของธรรมทานแล้ว เรามาลองดูความหมายอีกทีนะคะ จะได้เข้าใจให้มากยิ่งขึ้นเวลาเขียน หรือบอกเล่าธรรมทานจะได้ทำได้อย่างถูกต้อง  ลองอานดูค่ะ  จิ๋มได้คัดลอกมาจาก internet เช่นกัน
1. ธรรมทาน หมายความว่าอย่างไรครับ
2. ผมได้สนทนาธรรมกับรุ่นพี่คนหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องการให้หนังสือธรรมะว่าเป็นธรรมทาน หรือไม่  สำหรับส่วนตัวผมเองแล้ว    การให้หนังสือธรรมะเฉยๆ นั้นเป็นเพียงอามิสทาน  เท่านั้น ไม่ใช่เป็นธรรมทาน     ส่วนการให้หนังสือธรรมมะจะเป็นธรรมทานได้ก็ต่อเมื่อมี ความพยายามอย่างอื่นประกอบด้วย เพื่อให้ผู้รับมีความเห็นถูก     ไม่ใช่แต่เพียงมอบให้ แล้วไม่ทำอะไรต่อเลย
ธรรมทานหมายถึง การให้ธรรมะ คือ การให้ความรู้ความเข้าใจ ความเห็นถูกในธรรมะ โดยทั่วไป   มีการจำแนกการให้ ๒ อย่าง  คือ ให้อามิส ๑ ให้ธรรมะ๑    การให้วัตถุสิ่ง ของเงินทองเครื่องอำนวยความสะดวกทั้งหมดเป็นการให้อามิส   ส่วนการสอนผู้อื่นให้รู้ ความจริง เป็นการให้ธรรมะ    สำหรับการให้หนังสือธรรมะแก่ผู้อื่น ต้องดูที่เจตนาถ้ามี เจตนาให้เขาได้อ่านและเข้าใจมีความเห็นถูกอย่างนี้เป็นธรรมทาน  ถ้าให้ส่งไปเหมือน กับการให้ของสิ่งอื่นอย่างอื่นอย่างนี้ควรจะเป็นการให้อามิส
จาก พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตก
 
ถ้าดูจากนิยาม หรือความหมายที่กล่าวมาข้างบน จะพบว่า ธรรมทานที่ อาจารย์อุบลเป็นผู้นำให้เราทำอยู่นี้ เราจะใช้ตัวตน จิตวิญญาณของผู้เขียนธรรมทานแต่ละคนเลยก็ว่าได้ เพราะได้กลั่นกรองมาจากเรื่องราวที่ตนเองประสบมากับตัวเอง การเล่าและเขียนแบบนี้ น่าจะทำให้ผู้อ่าน หรือผู้ที่ได้รับรู้ เปลี่ยนจิต เปลี่ยนใจ เป็นคนดีได้ในที่สุด นั่นแหละกล่าวได้ว่าเป็นสุดยอดของการให้ธรรมทาน
อนุโมทนาสาธุ กับท่าน อ.อุบล และลูกบ้านสวนกับมหาธรรมทานในครั้งนี้ด้วยค่ะ
ชัชวลี
ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-22 12:36:28


ความคิดเห็นที่ 165 (1641790)

 

"กราบท่านอาจารย์อุบลบ้านสวนพีระมิดหรือรูปท่านอาจารย์อุบลบ้านสวนพีระมิดแล้วชีวิตดียังไง"

ชื่อ – สกุล นางนพวรรณ์   ใจตรง   

ชื่อเล่น หนิง  อายุ 41 ปี

ที่อยู่ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

การศึกษาสูงสุดปริญญาตรี ครุศาสตร์บัณฑิต  

สาขาที่จบ การศึกษา วิทยาลัยครูเชียงใหม่

การงาน : อาชีพปัจจุบัน เกษตรกร

อานิสงค์การกราบท่านอาจารย์

      หนิงรู้จักบ้านสวนพีระมิดมาตั้งแต่ประมาณเดือนมีนาคม ในตอนนั้นได้เพียงแต่ไหว้รูปท่านอาจารย์หน้าเว๊ปบ้านสวนฯ และจากรายการคุยไปแจกไป ช่วงนั้นรู้สึกมีกำลังใจที่เข้มแข็ง กล้าตัดสินใจลาออกจากงานครูโรงเรียนเอกชน ทั้งที่ทำมากว่าสิบปี ทำให้มีโอกาสได้ติดตามข่าวธรรมะจากบ้านสวนพีระมิดอยู่เสมอ และเข้าร่วมกิจกรรม ธรรมะบำบัดสัญจร ทั้งที่ม.มหิดล ที่โรงแรมเดอะแทรเวลเลอร์  ที่สำคัญที่สุดได้ขออนุญาตเข้าบ้านสวนพีระมิด เพื่อสร้างบุญแรงกาย ร่วมกิจกรรมบุญทุกอย่างของบ้านสวนพีระมิด

นี่แหละ หนิงได้กราบท่านอาจารย์อุบล คนเป็นๆ ที่บ้านสวนพีระมิด กราบได้อย่างมีความสุข สนิทใจมากเพราะเรานับถือท่านเป็นครูบาอาจารย์ เมื่อกราบท่าน ปฏิบัติตามคำที่ท่านอบรมสั่งสอนธรรมะแล้ว

หลังจากนั้นชีวิตของหนิงได้พบกับสิ่งมหัศจรรย์ เพราะว่า หนิงอาศัยอยู่กับพ่อแม่ทั้งที่หนิงแต่งงานแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ตามไปอยู่กับสามีที่ทำงานอยู่จังหวัดลำปาง เหตุที่ว่าเป็นลูกคนเล็กทำให้อยากอยู่บ้าน อยากอยู่กับพ่อแม่ ลูกแหง่มั๊กๆ ทำให้ต้องกับพายุอารมณ์ของคนชราทั้ง 2 ท่าน พ่ออายุ 82 ปี ส่วนแม่ 76ปี แล้วเราล่ะ ก็เข้าสู่ช่วง สว. แล้วเหมือนกัน บางวันจิตตกมากๆ เราให้เหตุผลว่าเพราะอะไร กลับกลายว่าเราเถียงคำไม่ตกฟาก อ่าววว

แต่ตอนนี้หลังจากได้กราบท่านอาจารย์อุบล กลับตะละปัด พ่อกับแม่ อารมณ์เย็น ฟังเรื่องที่เราไปทำกิจกรรมที่บ้านสวน

พีระมิด ฝากเงินใส่บาตรวิระทะโยมาทำบุญ อนุโมทนาบุญร่วมด้วยทุกบุญบ้านสวนพีระมิด สวดคาถาบูชาพระศรีอาริย์ 99 จบ และสุขภาพของพ่อกับแม่ก็ดีขึ้น ไม่เจ็บปวดทรมานนานๆเหมือนแต่ก่อนค่ะ

       ตอนนี้ทุกเช้าก่อนออกไปข้างนอกบ้านแม่จะกราบรูปภาพอาจารย์อุบลก่อนทุกครั้ง (หนิงบูชาจากบ้านสวนพีระมิด นำมาใส่กรอบหลุยห์ รูปใบใหญ่ ได้เห็นหน้าอาจารย์ยิ้มสวยทุกเช้าเลยค่ะ) แม่บอกว่าเวลาก่อนขายมะพร้าวในสวน บอกแม่ค้าให้มาขนของ แม่ค้าจะมาเร็วดีมาก เหมือนสั่งได้เลยค่ะ และแม่ยอมแขวนอุปกรณ์ที่มีรูปอาจารย์อุบลแล้วค่ะ นี่แม่เราแขวนออกนอกเสื้อด้วยนะคะ  เวลามีปัญหาติดขัดเรื่องอะไร เมื่อแม่กราบแล้วมีทางออกแก้ปัญหาได้ค่ะ

       เป็นอันว่าในครอบครัวมีความสุขทางใจมากๆ พูดคุยกันรู้เรื่อง ฟังกันมากขึ้น มีเสียงหัวเราะมากกว่าเมื่อก่อน

สำหรับการเงินของหนิงที่ขาดสภาพคล่องนั้น เมื่อกราบท่านอาจารย์อุบลแล้ว หนิงมีกำลังใจมาก ไม่ใจอ่อนกับสิ่งยั่วยุ ทั้งทางวัตถุ และการสนองความต้องการทางใจที่ต้องใช้เงินซื้อมา หนิงยึดคำสอนของอาจารย์อุบลที่ว่า “ไม่ต้องไปกู้ ไปยืมเขาให้เป็นหนี้ ถ้าไม่มีเงินจะใช้ ให้มันตายไปเลย”

พอยึดคำสอนก็เป็นจริง แต่ละวันใช้เงิน น้อยลง ซื้อที่จำเป็น อาหารเราก็ทานมังสวิรัติทุกมื้อ ทำให้พ่อกับแม่ และสามีทานด้วยเป็นบางมื้อ ได้รับคำชมจากสามีว่าอาหารไม่มีเนื้อสัตว์ก็รสชาติดีนะ ปลื้มมากๆ พยายามให้ท่านลดการทานเนื้อสัตว์นะคะเพราะจะได้มีพลังบุญเข้าสู่ยุคพระศรีอาริย์ด้วยกันค่ะ

ขออาราธนาบารมีขององค์สมเด็จพระปฐมบรมธรรมบิดา สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ บารมีพระศรีอาริยเมตไตร ลูกขอเบิกบุญทาน ศีล ภาวนา ที่ได้ทำมาตั้งแต่ชาติต้น จนถึงชาติปัจจุบัน อุทิศถวายแด่เทวดารักษาตัวท่านอาจารย์อุบล ด้วยเทอญ.

 

นางนพวรรณ์   ใจตรง

ผู้แสดงความคิดเห็น นพวรรณ์ ใจตรง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-22 13:41:07


ความคิดเห็นที่ 166 (1641825)

ให้เขาถามตัวเองว่า

เขาเลี้ยงดูผู้คน นำพาผู้คนพ้นทุกข์

เอาเงินครอบครัว เอาบ้านส่วนตัว

เอาความเป็นส่วนตัว

มาสละให้ผู้อื่นได้อย่างเธอหรือไม่

ให้เขาคิดตรงนี้ ตอบตรงนี้ให้ได้

 

*********************

เอ

ไม่เห็นมีคน

ตอบคำถามตรงนี้กัน

สักคนเลยนะ

 

พระปฐมฯ

ท่านอุส่าห์ให้ถามตัวเอง

ไม่ยักกะมีคนตอบท่าน

...........................

 

     ป้าเตือนขอตอบว่า   ตนเองทำอย่างท่าน อ.อุบลไม่ได้เลยค่ะ  ที่จะต้องเสียสละบ้าน ความเป็นส่วนตัวให้ผู้อื่นเข้ามาเพื่อหาทางพ้นทุกข์  ขนาดทุกวันนี้ยังชอบที่จะอยู่คนเดียวไม่ต้องให้ใครมาวุ่นวาย  ยิ่งเอาทรัพย์มาช่วยผู้อื่นก็ไม่มีปัญญาที่จะทำ   ทุกวันนี้คิดว่ายังเอาตัวเองไม่รอดเลย     ยังต้องอาศัยลูกเลี้ยงดูอยู่เลยค่ะ   

     แต่ป้าเตือนก็จะขอทำตามท่าน อ.อุบล    ที่ช่วยเหลือผู้คนให้พ้นทุกข์ ตามกำลังและสติปัญญาของป้าที่มีอยู่  ไม่ว่าจะเป็นการเผยแพร่รหัส "อ.อุบลช่วยด้วย" ใช้จี้รักษาคนให้มากที่สุด แข่งกับเวลาที่เหลือน้อยลงไปทุกที 

     และป้าก็ตั้งใจว่าต่อไปจะใช้บ้านของตัวเอง   เป็นสถานที่ช่วยบำบัดผู้คนที่มีทุกข์  จะละความหวงบ้านให้น้อยลงเพื่อช่วยเหลือคนอื่น  และแนะนำให้ผู้คนเห็นความสำคัญของการถือศีล 5  ต่อไป เพื่อเป็นการตอบแทนพระคุณของท่าน อ.อุบลค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลา บุตรโส (อัญ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-22 18:32:06


ความคิดเห็นที่ 167 (1641834)
ชื่อ นางเตือนใจ  ดวงมาลา   (ป้าเตือน)  อายุ 65  ปี  
ที่อยู่  2082 ม.1 ต.เมืองพาน  อ.พาน  จ.เชียงราย
จบการศึกษา  ชั้น ป.4 รร.ทุ่งขาม  จ.ลำปาง
ปัจจุบันทำงาน ตำแหน่ง: อาชีพแม่บ้าน 
 
"ปรามาสท่าน อ.อุบล แล้วชีวิตเป็นอย่างไร"
     ป้าเตือนได้เผลอปรามาสท่าน อ.อุบล ในปี 54 ช่วงที่ป้าไปทำบุญใช้แรงกาย 9 วัน   ในตอนกลางวันน้องปุ๋ยได้ผัดข้าวซึ่งป้าดูแล้วมีน้อยคงไม่พอกินสำหรับคน 4-5 คน  ก็แนะนำว่าทำไม่ไม่นำผักคะน้าที่เหลือไปผัดรวมด้วย จะได้เพิ่มปริมาณ    ซึ่งน้องปุ๋ยก็ถามว่าจะให้ปุ๋ยเป็นคนทำเหรอ?  และอ้างว่า   กับข้าวมีแค่ไหนก็ให้กินแค่นั้น  ป้าเตือนก็เลยคิดว่า     ท่าน อ.อุบลคงจะมีนโยบายเช่นนั้น  เพราะเป็นช่วงที่ท่าน อ.อุบล แนะนำให้ทาน 2 มื้อ  ก็เลยพาลคิดไป  ของกินเท่าที่ดูป้าก็เห็นมีเหลืออยู่ตั้งเยอะแยะ  ทำไมท่าน อ.อุบล ถึงให้กินแค่นั้น  และป้าเตือนก็โง่ที่ไม่ถามท่าน อ.อุบลด้วยตัวเอง ว่าเป็นความจริงหรือไม่       ดันไปเชื่อฟังน้องปุ๋ยมากกว่าท่าน อ.อุบล  เท่ากับเออออ ห่อหมกด้วยซินะ
  ผลที่ได้รับ  :  ป้าเตือนมีแต่ความทุกข์ใจ ไม่สบายใจ จะทำอะไรก็กลัวจะผิด  ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง   เวลาไปทำบุญที่บ้านสวนก็จะต้องคอยถามผู้อื่นแทบทุกเรื่อง     พูดอะไรไปแล้วมาเสียใจทีหลัง  บางครั้งตอบไม่ตรงคำถาม
  การสำนึกผิด : ป้าเตือนมีโอกาสก็ได้ขอขมากับ    จี้องค์สฟิงค์เพื่อสารภาพบาปในครั้งนั้น   ทั้งๆ ที่บางครั้งมีโอกาสได้เจอท่าน อ.อุบล แต่ก็ดันนึกไม่ออก  ที่จะสารภาพกับท่าน อ.อุบลโดยตรง      นี่แหละหนา  บุญมีแต่กรรมบัง  แต่โชคดีที่มีจี้ไว้สารภาพบาปได้ตลอดเวลาที่นึกออก
  การคลี่คลายเหตุ : หลังจากที่ป้า    ได้สารภาพกับจึ้องค์สฟิงซ์ หลายๆ ครั้งแล้ว จิตใจป้าก็เริ่มดีขึ้น  ไม่ค่อยวิตกกังวล สบายใจขึ้นมาก และตั้งใจว่า ต่อไปถ้าป้าสงสัยอะไร ก็จะถามท่าน อ.อุบล โดยตรงดีที่สุด  ไม่ต้องเชื่อผู้อื่นที่คอยสร้างภาพว่าเป็นคนสำคัญของท่าน อ.อุบล ไม่คิดเอง เออเอง สรุปเองแล้ว
 
                                    เขาต้องลาออก

จากการเป็นสาวกพระเทวทัต

ต้องมอบกายถวายชีวิต

ให้ตถาคต และ ตัวเธอ

***************

      ข้าพเจ้านางเตือนใจ ดวงมาลา   ขอลาออกจากการเป็นสาวกของพระเทวทัต      และขอมอบกายถวายชีวิตให้แก่พระพุทธเจ้า และท่านอาจารย์อุบล  ศุภาเดชาภรณ์  นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป   และขอบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์  บารมีพระศรีอาริย์ และท่านอาจารย์อุบล  ได้โปรดช่วยบังคับกาย วาจา ใจ ของลูกให้มีความเข้มแข็ง  มีปัญญา สามารถช่วยแบ่งเบาภาระงานของท่านอาจารย์อุบล  ให้สำเร็จลุล่วงด้วยเถิดเจ้าค่ะ  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลา บุตรโส (อัญ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-22 19:15:07


ความคิดเห็นที่ 168 (1641852)

 ขอเชิญร่วมบุญด่วน บุญธรรมทานใหญ่ :

กราบท่านอาจารย์อุบลหรือรูปถ่ายท่านอาจารย์อุบล แล้วชีวิตดียังไง

ในหัวข้อเรื่อง

"กราบ

ท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือ

รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด 

แล้วชีวิตดียังไง"

………………………………………………………………………………………………………………

ครั้งแรกที่รู้จักบ้านสวนพีระมิด และท่านอาจารย์อุบล ก็มีความรู้สึกในใจ  ลึก ๆ แล้วว่าเราอยากกราบ กราบ กราบ ท่านตลอดเวลา และมีความรู้สึกว่าคิดถึงท่าน      ยิ่งได้รับคำแนะนำหรือสิ่งที่ท่านสอนยิ่งรู้สึกเข้าใจธรรมะได้มากขึ้น เวลากราบท่านนกจะนึกถึงพระพุทธเจ้าอยู่เหนือศรีษะท่าน และกราบคำสั่งสอนที่ท่านเมตตาแนะนำ  กราบคุณงามความดีที่ท่านทำให้เราเห็น ยิ่งกราบยิ่งมีความสุข  มีทุกข์เมื่อใดก็นึกถึงคำสอนของท่านที่เขียนในเวปไซด์ ทำให้คลายทุกข์ได้ทุกครั้ง มีความสุขทุก ๆ ครั้ง ที่คิดถึงท่าน เวลาสวดมนต์ไหว้พระก็จะนึกกราบท่านต่อจากครูบาอาจารย์ที่เรานับถือ ท่านคือสุดยอดครู ที่คอยแนะนำและตักเตือนสั่งสอน ทั้งเคี่ยวทั้งเข็น ท่านทำทุก ๆ อย่างให้ผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก ได้พ้นทุกข์ นกก็เป็นคนหนึ่งที่กราบท่านแล้วมีความสุข ๆ มาก ๆๆ ค่ะ

สุรดา  ศรีสุข  22/11/2555

ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-22 23:13:34


ความคิดเห็นที่ 169 (1641926)

 

 

ชื่อ น.ส. อัญชลี สิงห์แก้ว อายุ 48 ปี

การศึกษา  ประกาศนียบีตรวิชาชีพชั้นสูง

สาขาคหกรรมศาสตร์ วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชีบงใหม่

อาชีพปัจจุบัน แม่บ้าน

         "กราบท่านอาจารย์อุบลและรูปท่านอาจารย์อุบล"

                           แล้วชีวิตดีอย่างไร

อัญชลีไก้กราบรูปท่านอาจารย์อุบลเป็นประจำทางเวปบ้านสวน

จนหลานที่บ้านต้องกราบตามทุกครั้งที่เห็นเรากราบรูปท่าน

หลานอายูสี่ขวบค่ะเค้ามักจะถามว่ากราบพระหรือครับแม่

ขอบอสกราบด้วยครับ..เวลาที่ท้อแท้ก็มักจะหยิบโทรศัพท์มาเปิดดูรูปของท่านแล้วก็กราบ กราบท่านแล้วทำให้จิตใจสบายสงบนิ่ง รู้สึกเหมือนได้รับพลังงานอันศักดิ์สิทธิ์เข้ามาในร่างกาย เหมือนได้กราบอริยบุคคลที่เราเคารพนับถือท่านอาจารย์อุบลเปรียบเสมือนผู้มีพระคุณเหมือนพ่อแม่ที่ทำให้ดิฉันเข้าใจเรื่องบาปบุญคุณโทษและกฏแห่งกรรมท่านเป็นแรงผลักดันที่ดีมากที่สุดที่ทำให้อัญชลีตั้งใจม่งมั่นที่จะปฏิบัติคามอย่างไม่รีรอ ถึงแม้ว่าดิฉันจะไม่มีประสบการณ์กราบแล้วหายทุกโรคเหมือนบางท่านแต่ทุกครั้งที่กราบท่านอาจารย์อุบลแล้วรู้สึกว่าความทุกข์ที่มีอยู่ในใจนั้นได้หายไปจากจิตใจในชาวงเวลานั้นทันทีคงเหลือแต่ความซาบซึ้งใจและร้สำนึกในบุญคุณทุกๆครั้งที่ก้มลงกราบรูปของท่าน

     ลูกกราบขอบพระคุณพระพุทธเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วอนันตจักรวาลและเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบล พระศรีอาริย์ พระเจ้าอย่ห้วที่มีพระเมตตาให้ลูกได้รู้จักเวปไซด์บ้านสวนพีระมิดและท่านอาจารย์อุบลเจ้าคะ กราบ กราบ กราบ.

            "ปรามาสท่านอ.อุบลบ้านสวนพีระมิดแล้วจได้รับผลกรรมอย่างไร"

อัญชลีขอเล่าย้อนไปคอนที่ได้รู้จักรายการคุยไปแจกไปในทีวีจานดำวันอาทิตย์ปี53โดยบังเอิญไม่รู้มาก่อนว่าท่านอาจารย์อุบลได้นำพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์มาแสดงไม่ได้ดูต้นสายปลายเหตูว่ารายการต้องการสื่ออะไรให้ผู้ชมดูในใจนึกเองว่า รายการในจานดำทำใมมีแต่หมอดูและขายของมากอาทิตย์ถัดมาได้เปิดเจออีกคราวนี้ถึงได้รู้ว่าท่านอาจารย์ได้นำพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามาแสดงเรื่องกฏแห่งกรรมทำอย่างไรย่อมได้ผลอย่างนั้นถึงได้รู้ว่าตนเองได้ปรามาสท่านอ.อุบลทางมโนกรรมเสียแล้วด้วยความเสียใจสำนึกในความผิดเพราะความโง่เขลาของตนเองเป็นอย่างมากได้ก้มลงกราบขอขมาท่านทางหน้าจอทีวี.

ผลกรรมจากการที่ปรามาสท่านอาจารย์อุบลได้เวียนศรีษะอย่บ่อยๆ (ณ.ตอนนั้น)พูดอะไรก็ไม่มีคนเชื่อ ในบ้านมีแต่เรื่องทะเลาะเบาะแว้งไม่ลงรอยกันนี่คือผลกรรมที่คิดเองเออเองโดยไม่ได้ตั้งใจที่จะปรามาสท่านเลยมีอยู่ครั้งหนึ่งคิดชมท่านอาจารย์ในใจว่าทำใมรูปร่างท่านอาจารย์ถึงได้เฟอร์เฟคขนาดนี้และชอบใช้สายตามองส่วนโค้งส่วนเว้ารูปร่างของท่าน ผลกรรมที่ได้รับคือเข้าห้องน้ำปัสสาวะแสบมากนึกได้ว่าคงเป็นเพราะผลกรรมที่ชอบมองรูปร่างท่านนั้นเองบัดนี้อัญชลีได้รับผลกรรมที่คิดไม่ดีทางมโนกรรมต่อท่านอาจารย์แล้วและได้สำนึกถึงความผิดบาปที่ได้กระทำลงไปทั้งหมดแม้จิตจะไม่ยินดีในสิ่งที่คิดก็ตามผลของการสารภาพกับจี้สฟิ้งส์แล้วอาการปัสสาวะแสบดีขึ้นมากค่ะอาการเวียนศรีษะก็หายไปค่ะ สาเหตุที่คิดไม่ดีเช่นนี้คงเป็นเพราะเคยเป็นสาวกของพระเทวทัตมาก่อน  บัดนี้ข้าพเจ้าอัญชลี สิงห์แก้วขอลาเป็นสาวกของพระเทวทัตินับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปลูกชอมอบกายถวายชวิติแด่พระพุทธองค์และท่านอาจารย์อุบลด้วยไม่มีข้อสงสัยใดๆอีกต่อไปเจ้าค่ะท่านอาจารย์ได้ช่วยผู้คนให้พ้นจากความทุกข์ยากจนไม่รู้เหน็ดรู้เหนื่อยนำพาคนพ้นทุกข์เอาเงินของครอบครัวเอาบ้านส่วนตัวเอาความเป็นส่วนตัวมาสละให้ผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนลุกคิดว่าคุณสมบัติเหล่านี้คงไม่มีใครในโลกนี้ที่จะทำได้อย่างท่านอาจารย์ไม่มีอีกแล้วที่จะมาสละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ผู้คนพ้นทุกข์นำพาผู้คนเข้าสู่พระนิพพาน

 

  ดิฉัน น.ส. อัญชลี สิงห์แก้ว ขอกราบขอโทษ ขอขมากรรมต่อพระพุทธเจ้าและท่านอาจารย์อุบลต่อไปลูกจะไม่คิดชั่วเช่นนี้อีกแล้วค่ะขอให้ท่านผู้อ่านนำไปเป็นอุทาหรณ์สอนใจตนเองและต่อผู้อื่นด้วยค่ะ ขอให้ทุกๆพระองค์และท่านอาจารย์อุบลน้อมรับการขอขมาของลูกด้วยเจ้าค่ะและลูกจะตั้งใจรักษาศีลห้าให้บริสุทธิ์ให้มากขึ้นและตั้งใจทำความดีขอถวายบุญกับทุกๆพระองค์และอุทิศบุญใหเจ้ากรรมนายเวรและขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายได้โปรดอนุโมทนารับบุญของข้าพเจ้าทุกขณะจิตของข้าพเจ้าที่ทำความดีขอให้จิตเกาะเกี่ยวคุณงามความดีเพื่อไม่ให้ได้สร้างบาปหนักเช่นนี้อีกต่อไปและขอนิพพานในชาตินี้ค่ะสาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลี สิงห์แก้ว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-23 10:57:57


ความคิดเห็นที่ 170 (1641943)

ให้เขาถามตัวเองว่า

เขาเลี้ยงดูผู้คน นำพาผู้คนพ้นทุกข์

เอาเงินครอบครัว เอาบ้านส่วนตัว

เอาความเป็นส่วนตัว

มาสละให้ผู้อื่นได้อย่างเธอหรือไม่

ให้เขาคิดตรงนี้ ตอบตรงนี้ให้ได้

 

แหม่มทำไม่ได้แน่นอนค่ะ ยังเคยคิดเลยค่ะว่า วันหยุดสุดสัปดาห์ท่านอ.อุบลไม่อยากไปเที่ยวพักผ่อนที่ไหนบ้างเลยหรือ ทั้งๆ ที่มีเงินมากมาย แต่ท่านอาจารย์ยอมสละความสุขส่วนตัว  ยอมให้คนไปที่บ้านมากมาย   ซึ่งก็มีเรื่องจุกจิกมารบกวนสมอง ร้อยพ่อพันแม่ คนนี้ คนนั้น คนโน้น ไม่เหมือนกันสักราย วัน ๆ ต้องมานั่งตอบคำถามร้อยแปดปัญหา บางครั้งต้องมาเจอกับการกระทำของคนที่อยากจะได้อย่างเดียว มันก็น่ารำคาญใจมาก ๆ เลย

แค่ปัญหาของคนที่บ้าน แหม่มยังเบื่อจะตายอยู่แล้ว เวลามีคนมาบ้านนาน ๆ ก็ขี้เกียจจะต้อนรับ อยากมีเวลาเป็นส่วนตัว จะนั่ง จะเดิน จะยืน ก็ไม่ค่อยสะดวก

แต่ท่านอ.อุบล ยอมสละความสุขส่วนตัว สละทรัพย์ส่วนตัว เลี้ยงดูผู้คนมากมาย เป็นห่วงทุกอย่าง ที่นอน อาหารการกิน ความเป็นอยู่ และติดตามอีกว่า มาทำบุญที่นี่แล้วดีขึ้นบ้างหรือเปล่า บุญคุณนี้ตอบแทนไม่หมดเลยค่ะ

ชีวิตที่ผ่านมา แหม่มยังไม่เคยเจอคนที่ประเสริฐและเสียสละเหมือนท่านเลยค่ะ เวลาที่ท่านบอกว่า ท่านยอมให้ลูกศิษย์โกรธท่าน เมื่อท่านใช้คำพูดแรง ๆ ได้ แต่ท่านทนไม่ได้ที่มองเห็นลูก(พวกเรา)ตกนรก และช่วยอะไรไม่ได้ ฟังทีไร น้ำตาไหลทุกที เราไม่ได้เป็นญาติของท่านเลย แต่ท่านกลับห่วงเราขนาดนี้ ญาติของเราเองยังไม่ห่วงขนาดนี้เลย

แหม่มขอกราบท่านอาจารย์ตลอดชีวิตค่ะ โดยไม่คิดสงสัย และมีความสุขทุกครั้งที่กราบค่ะ ชีวิตแหม่มดีขึ้นทุกวันนี้ก็เพราะท่าน ถ้าไม่มีท่านแหม่มก็คงยังตกนรกอยู่ คงจะยิ้มไม่เป็น หัวเราะไม่ได้ เพราะในใจมีแต่ความทุกข์ หาทางออกไม่ได้

กราบ กราบ กราบ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วีรดา อยู่นวล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-23 12:40:07


ความคิดเห็นที่ 171 (1641945)

ให้เขาถามตัวเองว่า

เขาเลี้ยงดูผู้คน นำพาผู้คนพ้นทุกข์

เอาเงินครอบครัว เอาบ้านส่วนตัว

เอาความเป็นส่วนตัว

มาสละให้ผู้อื่นได้อย่างเธอหรือไม่

ให้เขาคิดตรงนี้ ตอบตรงนี้ให้ได้

 

*********************

เอ

ไม่เห็นมีคน

ตอบคำถามตรงนี้กัน

สักคนเลยนะ

 

พระปฐมฯ

ท่านอุส่าห์ให้ถามตัวเอง

ไม่ยักกะมีคนตอบท่าน

************

กราบพระปฐมบรมศาสดา พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

และกราบท่านอาจารย์อุบล เจ้าค่ะ

หนูขอตอบท่านว่า หนูทำไม่ได้ซักเศษเสี้ยวของท่านอาจารย์อุบล เจ้าค่ะ  ... เพราะตั้งแต่วันแรกที่หนูได้รู้จักบ้านสวนพีระมิด ได้รู้จักท่านอาจารย์ ... จนถึงวันนี้ เกือบ 2 ปีกว่าแล้ว หนูได้เห็นและรับรู้มาตลอดว่า ท่านอาจารย์มีปณิธานแน่วแน่ มีมานะอุตสาหะ มีกำลังใจมากล้นสุดประมาณ "ท่านอาจารย์อุบล สร้างบ้านสวนพีระมิด เพื่อนำพาผู้คนร่วมสร้างความดี เพื่ือถวายแด่พระเจ้าอยู่หัว" และลูกหลานบ้านสวนซาบซึ้งแก่ใจว่า ท่านและครอบครัวได้เสียสละตนเองและความสุขส่วนตัวทุกอย่างด้วยน้ำใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดค่ะ  เพราะท่านปรารถนาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง ท่านเตือนเสมอให้ทุกคนเร่งทำความดีเพื่อจะได้ติดตามพระพุึทธองค์กลับสู่นิพพานในชาตินี้ เจ้าค่ะ ...

หนู..แม้ได้รับการอบรมสั่งสอนจากท่านอาจารย์มากมาย แต่ทุกวันนี้ยังตัดกิเลสไม่ได้ทั้งหมด ยังไม่สามารถเสียสละได้ทุกอย่าง ยังไม่สามารถปันน้ำใจโดยเปิดประตูบ้านต้อนรับคนที่ไม่รู้จัก เดินเข้า-ออกบ้านทุกวัน ... แต่สำหรับท่านอาจารย์และครอบครัวสามารถทำได้ ท่านเปิดบ้านต้อนรับทุกคนที่มาหาเพื่อขอให้ท่านช่วยเหลือให้พ้นจากความทุกข์ ...นี่เพราะน้ำใจอันยิ่งใหญ่ของท่านและครอบครัวศุภาเดชาภรณ์ มากล้นด้วยความเมตตาอย่างสุดประมาณเจ้าค่ะ .. ยากนักที่ทุกคนจะปฏิบัติได้เช่นท่าน 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภวยา เส็งพานิช (กระเต็น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-23 12:58:50


ความคิดเห็นที่ 172 (1641966)

 

ให้เขาถามตัวเองว่า

เขาเลี้ยงดูผู้คน นำพาผู้คนพ้นทุกข์

เอาเงินครอบครัว เอาบ้านส่วนตัว

เอาความเป็นส่วนตัว

มาสละให้ผู้อื่นได้อย่างเธอหรือไม่ 

ให้เขาคิดตรงนี้ ตอบตรงนี้ให้ได้ 

หมอวัฒนาขอตอบว่า ยังทำแบบท่านอาจารย์อุบลไม่ได้เกือบจะ ล้านเปอร์เซ็นต์เลยคะ

ถึงแม้ว่าหมอจะขอลาออก 

จากการเป็นสาวกพระเทวทัต แล้วก็คงต้องใช้กำลังใจอีกนาน

อย่างนี้แสดงว่าท่านอาจารย์อุบลกำลังบำเพ็ญบารมี 10 อยู่ใช่ไหมคะ

คงเป็นบุญที่หมอยังมีโอกาศได้เจอครูบาอจารย์ที่จะนำพาให้หลุดพ้นจากสังสารวัฏที่ยาวนานนี้ได้ สาธุ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ๋ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-23 14:35:25


ความคิดเห็นที่ 173 (1641975)
ชื่อ นางสาวตฤณ นาคทุ่งเตา ชื่อเล่น หญิง
อายุ 37 ปี จังหวัดที่อยู่ นนทบุรี
การศึกษา ปริญญาตรี คหกรรมศาสตร์บัณฑิต (ผ้าและเครื่องแต่งกาย) จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญญบุรี
อาชีพ แม่บ้าน (เบอร์โทรศัพท์ 0847335467)
“ ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิดแล้วได้รับผลกรรมอย่างไร”
ชีวิตก่อนเจออ.อุบล บ้านสวนพีระมิด ลำบากมากๆๆๆๆๆๆถึงขนาดบางวันไม่มีอาหารจะกิน ไม่มีที่อยู่ จนต้องไปทำงานเป็นคนรับใช้เขาเพื่อจะมีอาหารกิน มีที่อยู่ มีหนี้สินเคยเปิดร้านขายของสุดท้ายก็เจ้ง ต้องพยายามหาเงินมาใช้หนี้ที่กู้มาเปิดร้าน ไม่มีลู่ทางทำมาหากิน ไม่มีงานทำ มีปัญหาครอบครัว มีครอบครัวก็ต้องเลิกรากันสองคน และคนที่อยู่ด้วยปัจจุบันก็มีปัญหากันตลอด ชีวิตหาความสุขไม่เจอ เจ็บป่วยเป็นสารพัดโรคได้แก่ โรคกรดไหลย้อน, ไมเกรน(ปวดหัวมาตั้งแต่เด็กๆปวดมากจนบางครั้งแทบทนไม่ไหว), เป็นขี้กลากบนศีรษะ, ซีสต์หน้าอก-มดลูก-รังไข่, กระเพาะอาหาร-ไต-ตับ-กระเพาะปัสสาวะอักเสบ, มีปัญหาช่องปาก(ปากเหม็น ฟันผุ เลือดออกตามไรฟัน ฟันไม่สวยไม่เป็นระเบียบ), มีปัญหาสายตาเวลาอ่านหนังสือจะมีน้ำตาไหลมองตัวหนังสือไกลๆไม่ชัดเบลอ (ตาพิการตั้งแต่กำเนิดข้างซ้ายตาดำจะมีแค่ครึ่งเดียว)มีเหตุให้ต้องผ่าตัดตาเพราะคิดว่าถ้าผ่าแล้วสายตาจะดีขึ้นแต่พอผ่าแล้วสายตาก็ไม่หายแถมยังเจ็บหนักกว่าเดิม , ร่างกายไม่ค่อยมีแรงเหนื่อยง่าย เจ็บช่วงท้องมากเวลาเดินต้องค่อยๆเดิน ปวดเอวมาก เจ็บปวดร่างกายไปหมดทั้งตัว บางครั้งปัสสาวะเป็นเลือด พยายามหาทางออกให้ชีวิต ชอบไปดูดวงมาก คนมีญาณ-ร่างทรง-หมอดูคนไหนที่เขาแนะนำว่าเก่งก็ไป แต่ไม่มีใครบอกได้ถูกต้องว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต
เราทำอะไรผิด ชีวิตจึงเป็นแบบนี้ เสียเงินไปกับการดูดวงมากมาย ชีวิตก็ยังไม่ดีขึ้น หาทางออกให้กับชีวิตไม่ได้ จนมาอ่านเจอหนังสือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ จึงได้รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำมาตลอดชีวิต ผิดบาปเกือบทั้งหมด บางอย่างรู้ว่าบาปก็ยังทำ เช่นเรื่องพูดโกหกเคยได้ยินเพลงว่า “โกหกนั้นตายตกนรก”ก็คิดว่าเขาร้องเล่นๆสนุกๆ และเรื่องแย่งสามีคนอื่นเขาด้วยความที่อยากได้สามีคนอื่นเขามาเป็นของตัวเอง ทั้งที่เคยอ่านเจอว่ามันบาปตายไปต้องตกนรก ต้องปีนต้นงิ้วโดนนายนิรยบาลเอาหอกทิ่มแทงตามร่างกาย แต่ก็ยังทำ เพราะอยากได้และสงสัยว่านรกสวรรค์มีจริงรึเปล่า เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพราะเห็นคนอื่นที่ทำบาปแล้วไม่เห็นเขาต้องรับกรรมไม่ดีเลย แต่บางอย่างก็ไม่รู้จริงๆ เมื่อก่อนคิดว่าสัตว์เกิดมาเพื่อเป็นอาหารจึงได้ฆ่าสัตว์มากมายพึ่งมาทราบจากอาจารย์อุบลว่าสัตว์มันไม่ได้เกิดมาเป็นอาหาร มันก็รักชีวิตเหมือนที่เราทุกคนรักชีวิตเหมือนกัน แม้แต่การที่เรากินเนื้อสัตว์ก็บาปเช่นกันเพราะเรามีส่วนไปส่งเสริมให้คนอื่นเขาฆ่า อ.อุบลท่านพิสูจน์อย่างเป็นวิทยาศาสตร์โดยบอกให้ตฤณทราบว่าที่ตฤณเป็นโรคเกิดจะตฤณทำกรรมผิดศีลห้าทุกข้อ เจ้าชู้ มักมากในกาม กรรมหนักคือ ปรามาสในหลวงพระราชวงค์ จึงทำให้กรรมทุกอย่างรวมตัวเร็วและส่งผลแรง และเมื่อได้กราบขอขมา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงค์ สารภาพบาปที่ทำออกมาอย่างสำนึกและรับปากว่าจะไม่ทำอีก อาการต่างๆโรคต่างๆที่เป็นก็หายไปทันทีในวันนั้น และปัญหาต่างๆในชีวิตก็มีทางออกที่ดีทุกด้านหลังจากกลับจะบ้านสวนฯสามารถใช้หนี้ได้หมดในเวลาไม่นาน ชีวิตมีความสุขขึ้น เสมือนตายแล้วได้เกิดใหม่ ได้ชีวิตใหม่ จึงทำให้กลัวการทำบาปผิดศีลและเชื่อว่านรกสวรรค์มีจริง แต่หลังจากที่ได้มีโอกาสได้ไปสร้างบุญที่บ้านสวนฯพีระมิดบ่อยๆเกิดความเคยชิน นิสัยไม่ดีเริ่มกลับมา ลืมตัวว่าที่เราเข้ามานี่ เป็นบ้านส่วนตัวอาจารย์อุบลและครอบครัวเลยไม่สำรวมกาย วาจา ใจ ทำให้ได้กระทำความผิดใหญ่หลวงต่ออาจารย์อุบลและครอบครัว ดังนี้1. เริ่มจากพูดจาไม่ดีกับผู้ที่ไปทำบุญที่บ้านสวนพีระมิดคือคุณแหวนจนทำให้คุณแหวนจะที่ตั้งใจว่าจะอยู่สร้างบุญที่บ้านสวนฯหลายวันกลับไปก่อนกำหนด
2.ได้ทำอาหารให้อาจารย์อุบลแล้วทำอาหารที่ทำตกพื้นก็เก็บขึ้นมามาล้างประกอบอาหารให้ต่อ
3.ได้มีโอกาสไปช่วยพี่ที่ซักผ้าให้อาจารย์ช่วยตากผ้าให้อาจารย์พอเห็นเสื้อในอาจารย์ก็คิดแว้บทันทีเสื้อในมันหนาแบบนี้เองเวลาอ.อุบลใส่จึงได้หน้าอกใหญ่และสวย,และเคยคิดสงสัยว่าอ.อุบลและอ.มงคลอยู่ด้วยกันมีอะไรกันมั้ยนะ หลังจากคิดแบบนั้นปวดหัวทันที พยายามสลัดความคิดนั้นทันทีขอขมาในใจ ผลกรรมที่คิดเรื่องหน้าอกอ.อุบลทำให้มีเหตุให้ลูกกินนมข้างเดียว และทำให้หน้าอกตฤณใหญ่ข้างเล็กข้าง
4.พาลูกสาวไปเข้าค่ายที่เก้าโดยไม่ได้สมัครเข้าค่ายตั้งแต่ครั้งแรก,พูดแทรกระหว่างช่วงเวลาอาจารย์บำบัดคนอื่นอยู่ค่ะ, พูดกับอ.อุบลด้วยความไม่เคารพไม่สุภาพก้าวร้าว ไม่เชื่อฟังอาจารย์ 5.มีส่วนให้สามีตฤณปรามาสอาจารย์อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนฯ ด้วย สาเหตุมาจากตฤณมักจะพูดเรื่องกรรมกับเขาและเรื่องภัยพิบัติกับเขาบ่อยมาก และบางครั้งตฤณจะไปทำบุญที่บ้านสวนฯครั้งละหลายๆวัน ซึ่งสามีตฤณเขาไม่เชื่อเรื่องนี้ จนเขาไม่พอใจ เขาเครียดเขาจึงขว้างรูปปั้นองค์เทพสฟิงซ์จนส่วนหัวขององค์เทพสฟิงซ์แตกหัก แล้วเอาเท้าไปเหยียบรูปปั้นองค์เทพสฟิงซ์,สามีตฤณเขามักจะพูดด่าว่าล่วงเกินอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนฯ-ดร.อาจอง ในทางที่ไม่ดี,และใช้เท้าเหยียบรูปอ.อุบลเพราะโกรธตฤณและเข้าใจผิดว่า อาจารย์อุบลชวนตฤณไปบ้านสวนฯเพราะเขาไม่ต้องการให้ไป เขาคิดว่าอาจารย์อุบลหลอกคิดว่าสิ่งที่อ.อุบลสอนไม่ใช่เรื่องจริง 6.นำของใช้ส่วนตัวไปไว้ที่บ้านสวนพีระมิด โดยไม่บอก-ไม่ขออนุญาตอาจารย์อุบลและครอบครัว
7. ได้ไปขอพักอาศัยบ้านอ.อุบลและครอบครัวอยู่ช่วงน้ำท่วมให้สามีส่งของให้ที่บ้านอาจารย์โดยไม่บอกขออนุญาตอาจารย์ก่อนอีกจะไปขอพักอาศัยกี่วันก็ไม่แจ้งให้ทราบให้ชัดเจนคิดเองเออเองว่าจะอยู่จนทอดกฐินเสร็จแล้วจะกลับแต่กลับวันไหนก็ยังไม่แน่นอนอีก ทำเหมือนบ้านตัวเอง เพราะนิสัยมักง่ายของตัวเอง ไม่เคารพสิทธิ์ส่วนตัวของคนอื่น เห็นแก่ได้ ด้วยความกลัวตายเห็น
เห็นแก่ตัวมักง่ายคิดว่าถ้าเกิดภัยพิบัติตัวเองหนีไปหลบภัยที่บ้านสวนพีระมิดจะได้มีของใช้
8.พออาจารย์ให้คนไปส่งที่สนามบินและกำชับน้องคนที่ไปส่งว่าให้ส่งถึงมือสามีตฤณ ก็คิดน้อยใจคิดปรามาสอาจารย์อีกว่า กลัวไม่ออกจะบ้านสวนฯรึไงเราเลวมากผิดมากเลยหรืออ.อุบลจึงไม่คุยด้วย จึงต้องให้คนไปส่งจนกระทั่งมาถึงสนามบินไม่สำนึกเลยว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันผิดไม่เหมาะไม่ควรอย่างแรง จึงได้ทราบว่าอาจารย์ต้องการช่วยชีวิตตฤณกับลูกสาวไม่ให้ตาย คิดขอบคุณอ.อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนฯที่ช่วยชีวิต ช่วงน้ำท่วมปลายปี54 ตฤณได้อาศัยอยู่ที่บ้านพ่อแม่ จะเข้าไปเขียนขอขมาในเว็บบ้านสวนฯแต่เข้าไม่ได้พยายามอยู่หลายครั้งก็ไม่ได้ จึงวานเพื่อนเขียนให้แต่เพื่อนก็ไม่เขียนให้ พอหลังน้ำลดได้กลับมาบ้านสามีก็มีปัญหากันอีกโดนเขาทุบตีอีกแต่ก็ทนเพราะไม่รู้จะไปอยู่ไหน ยอมรับผลกรรมที่ตนเองทำไว้ ตอนนั้นไม่ได้คิดเข้าไปขอขมาและขอบคุณอาจารย์อุบลที่บ้านสวนฯเลย จนกระทั่งแม่เสียชีวิตเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี55 จึงคิดว่าอีกไม่นานก็คงเป็นคิวของเราแล้วละ ชีวิตมีแต่ปัญหารอบด้าน ขาดสถาพคล่องทางการเงิน รถมีปัญหาต้องซ่อมบ่อย มีเหตุให้ต้องเสียเงินบ่อยมาก ทะเลาะกับสามีบ่อยมากโดนสามีตีบ่อยมากทั้งๆที่ท้องอยู่เขาก็ยังด่าว่าตบตี พอคลอดลูกก็ยังตีอีก มีปัญหากับคนรอบข้าง ครอบครัวแตกแยกถึงขั้นเลิกรากัน ลูกก็ไม่สบายบ่อยมากทุกข์ใจมากไม่มีความสุขเลยเหมือนตกนรกทั้งเป็น ร้องไห้บอกตัวเองว่าไม่ไหวแล้ว มันทุกข์มันทรมานเหลือเกิน สงสารลูกที่แม่แบบตฤณ ร้องเรียกให้อ.อุบลช่วยด้วยตลอดขอให้ตฤณมีจิตใจเข้มแข็งผ่านจุดนี้ไปให้ได้ด้วยเถิด ตอนนั้นจึงได้คิดจะเข้าไปกราบขอโทษอาจารย์อุบลและขอบคุณที่ท่านช่วยชีวิตไว้ ให้สามีศึกษาบ้านสวนฯดูเองอีกครั้งหนึ่ง ให้เขาสำนึกว่าสิ่งที่เขาทำมันผิด ให้เขากราบขอโทษอ.อุบลที่บ้าน และเขียนจดหมายไปขอโทษอ.อุบลและห้ามล่วงเกินอ.อุบลอีกถ้าลบลู่อาจารย์อีกไม่ต้องอยู่ด้วยกัน ในเมื่อไม่เคารพรัก ลบลู่คนที่ช่วยชีวิตตฤณกับลูกก็ไม่ต้องอยู่ด้วยกันอีก เขารับปากทำให้ จึงได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง9.และเวลาคิดถึงอ.อุบลและพระพุทธเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ จะมีภาพอวัยวะเพศซ้อนขึ้นมาทุกครั้ง เป็นเพราะกรรมที่เราผิดศีลห้าอีก มีส่วนทำให้สามีปรามาสออุบล ดร.อาจอง สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนฯทุกพระองค์
จะมีภาพอวัยวะเพศซ้อนขึ้นมาทุกครั้ง เป็นเพราะกรรมที่เราผิดศีลห้าอีก มีส่วนทำให้สามีปรามาสออุบล ดร.อาจอง สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนฯจึงทำให้เราเป็นแบบนี้เป็นคนคิดไม่ดีแบบนี้ พยายามหยุดความคิดนั้น สวดมนต์บ้าง เรียกอ.อุบลช่วยด้วยให้ช่วยบังคับกระแสจิตตฤณด้วยเทอญไม่อยากคิดเลยมันทุกข์ใจมากๆ ปวดหัวจนแทบทนไม่ไหว ชีวิตไม่มีความสุขเลย และได้มีโอกาสไปเจออ.อุบลที่งานธรรมะบำบัดนอกบ้านสวนฯตั้งใจว่าจะไปจะไปกราบขอโทษอ.อุบลแต่ก็ไม่ทำอีกได้แต่ขอกอดอ.อุบล คนเลวๆอย่างตฤณเรื่องเลวๆทำได้ แต่เรื่องดีๆสิ่งดีๆกลับทำไม่ได้เสียดายที่เจอครูบาอาจารย์ดีแต่ไม่สามารถทำตัวเองดีดั่งอาจารย์สอนไม่ได้ คนดื้อสอนยาก ไม่เคารพเชื่อฟังครูบาอาจารย์แม้เจอครูบาอาจารย์ที่ดีเลิศสักแค่ไหนก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนตัวไปในทางที่ดีได้ ผลกรรมทำให้ต้องตายเพราะทำกรรมหนักหลายอย่างกับมีส่วนให้สามีปรามาสอ.อุบล(ในเมื่อคนกราบรูปแล้วหายจะโรคได้มีความสุขได้คนที่มีส่วนให้เขาปรามาสก็ตายได้เช่นกัน)ถ้าไม่ได้อ.อุบลช่วยชีวิตไว้ก็คงตายไปแล้วทั้งตฤณและลูก มีอุปสรรคชีวิตทุกด้าน ขาดสถาพคล่องทางการเงิน ปัญหาครอบครัว ชีวิตหาความสุขไม่ได้เลย เป็นขี้กลากบนศีรษะ หน้าตาอมทุกข๋ตลอดแก่ก่อนวัยที่ควรจะเป็น ลูกไม่สบายบ่อยมากและ โดนยึดรหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยไม่สามารถใช้รหัสได้อีก"กราบรูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิดแล้วชีวิตดียังไง"เวลาเข้าเว็บบ้านสวนพีระมิด เฟชบุคบ้านสวนฯจะกราบรูปอ.อุบลบ้านสวนพีระมิด กราบแล้วมีความสุขใจ ใจสงบ ปิติชีวิตมีความสุขนึกถึงรูปอาจารย์อุบลแล้วมีความสุขยิ้มได้ตลอด คิดน้อมจิตกราบอาจารย์อุบลก็รู้สึกมีความสุข และให้ลูกสาวกราบไหว้รูปอาจารย์อุบลบอกเขาว่าท่านนี้นะที่เมตตาช่วยชีวิตหนูกับแม่ไว้ท่านมีบุญคุณกับหนูและแม่นะ ลูกสาวที่เป็นหวัดมีน้ำมูกไหลปรากฏว่าอาการเป็นหวัดของลูกหายไป ไม่มีน้ำมูกอีก และได้กราบขอขมา-ขอบคุณกับรูปอ.อุบลที่มีอยู่ และเขียนธรรมทานเล่าเรื่องกรรมชั่วของตัวเองปัญหาต่างๆเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น สามีได้งานทำใหม่เงินเดือนมากว่าเดิมดูเขามีความสุขขึ้นไม่ค่อยเครียดเหมือนเมื่อก่อนไม่ค่อยขัดเวลาตฤณทำบุญเหมือนเก่า เวลาไปทำบุญถ้าสามีอยู่บ้านเขาจะอาสาเลี้ยงลูกให้เองโดยไม่ต้องเอ่ยปากพูดให้
ช่วย (ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาจะไม่สนใจช่วยเลี้ยงลูก)สามีดูแลเอาใจใส่ตฤณกับมากขึ้น แม่สามีดีกับตฤณมากกว่าเดิม (จะที่เมื่อก่อนด่าไล่ไม่ยอมให้เข้าไปอยู่ที่บ้าน) ชีวิตครอบครัวมีความสุขขึ้น ยิ่งแจกธรรมทานชีวิตยิ่งมีความสุขขึ้น ความขัดแย้งในครอบครัวน้อยลง เมื่อก่อนสามีชอบทะเลาะด่าว่าแม่เขาเสมอ แต่เดี๋ยวนี้เขาพูดจากับแม่เขาดีขึ้น สามีเปลี่ยนใจมากินมังสาวิรัติด้วยมีสถาพคล่องทางการเงิน ลูกดื้อน้อยลง ยังไม่มีโอกาสได้กราบขอขมาอาจารย์อุบลกล่าวขอขมาอย่างที่ใจคิดตั้งใจไว้เลยสักครั้ง ตฤณตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะไม่ทำผิดซ้ำอีกแล้วเข็ดแล้วค่ะ จะไม่เป็นคนดื้อสอนยากอีกแล้วค่ะ คิดแล้วน่าละอายเพราะอาจารย์และครอบครัวเปิดบ้านเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นเอาเงินครอบครัวบ้านส่วนตัว เวลาส่วนตัวมาสละมาช่วยผู้อื่น อาจารย์ช่วยเหลือผู้อื่นช่วยเหลือตฤณมาตลอด ถ้าเป็นตัวตฤณเองคงไม่สามารถทำได้อย่างอาจารย์และครอบครัวได้แน่นอนค่ะ เพราะไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายกับชีวิต แค่ชีวิตตอนนี้มีลูกเพิ่มมาอีกหนึ่งคนก็รู้สึกว่าชีวิตยากลำบากวุ่นวาย ไม่มีเวลาเป็นส่วนตัวเลย จะทำอะไรแต่ละครั้งยากลำบากมาก เพราะชวงนี้เขากำลังซนยังไม่ค่อยรู้เรื่อง บางครั้งยังเผลอโมโหเขาเลย ถ้าลูกดื้อหรือเจอคนอื่นที่เหมือนตฤณจนอาจารย์ต้องสอนแล้วสอนอีก ตฤณคงไม่สามารถทำได้อย่างอาจารย์แน่นอนที่รักและเมตตาคนบาปคนสอนยากคนทำผิดซ้ำซากได้เหมือนตฤณได้เสมอ
ลูกขอกราบขอบพระคุณอ.อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนฯทุกๆพระองค์ที่เมตตาช่วยชีวิตลูกให้มีชีวิตอยู่ต่อไป ได้มีโอกาสได้สร้างบุญต่อไป และเมตตาให้ที่พักอาศัยกับตฤณและลูกตอนน้ำท่วม และช่วยเหลือลูกทุกด้านๆช่วยอบรมตักเตือนสั่งสอนตฤณเสมอมาค่ะ เมตตาช่วยเหลือตฤณทุกครั้งที่มีปัญหา เมตตาให้โอกาสตฤณเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งทั้งที่ตฤณทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีกท่านยังเมตตาช่วยตฤณเสมอ เมตตาช่วยให้ตฤณคิดทำบุญค่ะ ช่วยตักเตือนทุกครั้งที่ตฤณละเลยขี้เกียจทำบุญและกราบขอขมาที่นำของใช้ส่วนตัวไปไว้บ้านสวนฯโดยไม่ขออนุญาตอ.อุบลและครอบครัว ที่มีส่วนทำให้สามีเข้าใจผิดอ.อุบลจนปรามาสอ.อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์,เรื่องที่คิดไม่ดีกับอ.อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ค่ะ ลูกขอรับกรรมนั้นเพื่อจะได้หลาบจำไม่ทำอีกค่ะ สาธุ กราบ กราบ กราบ
ด้วยความเคารพอย่างสูง
ตฤณ นาคทุ่งเตา
 
ผู้แสดงความคิดเห็น วีรดา อยู่นวล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-23 15:56:08


ความคิดเห็นที่ 174 (1641985)

จากความเห็นที่ 26 ขออนุญาติปรับปรุงใหม่ เพิ่มเติมค่ะ

ชื่อ  น.ส.เพชรดา  วรรณรักษ์ (เจี๊ยบ) อายุ 51 ปี

การศึกษา ปริญญาตรีบริหารธุรกิจ สาขาการบัญชี มหาวิทยาลัยรามคำแหง

อาชีพรับจ้าง  ตำแหน่งสมุห์บัญชี บริษัท ฟาร์อีสต์ อินน์ จำกัด

จังหวัด   นนทบุรี

เจี๊ยบเองก็เป็นคนนึงที่มือไม้แข็ง ไม่ค่อยจะกราบใครง่ายๆนอกจากกราบพระ และพ่อแม่ มีแต่ท่านอาจารย์นี้แหละค่ะ ที่เจี๊ยบกราบได้อย่างสนิทใจ ไม่ตะขิดตะขวงใจ

กราบแล้วมีความรู้สึกอิ่มเอมใจ มีความรู้สึกปลาบปลื้มใจ เป็นมงคลชีวิต เหมือนตัวเองได้กลับมาบ้านเดิมทุกครั้งที่กราบ และมีความสุขทกครั้งที่ได้กราบเช่นกัน จากการที่ท่านอาจารย์

ชีวิตของตัวเองก็ดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ กิจการงานที่บริษัทก็ดีขึ้น ครอบครัวก็มีความรักความสามัคคี ความผูกพันกันมากขึ้น ส่วนตัวเจี๊ยบก็ละความโกรธ ความขี้โมโหก็ลดลง

กราบขอบพระคุณในความเมตตาของท่านอาจารย์ ที่เปิดบ้านให้เจี๊ยบคนชั่วได้สร้างจิตสำนึกใหม่ ละ ลด เลิก กับกรรมชั่วค่ะ

แค่สงสัยก็ปวดหัวจะแย่ แล้วคนที่ปรามาสจะขนาดไหน

เมื่อปลายปี 2554 เจี๊ยบแนะนำให้หลานสาวคนโต ชื่อ ตัีก ดูรายการคุยไปแจกไป เขาดูรายการแล้ว ก็สงสัยในการบำบัดของท่านอาจารย์ ที่แค่สารภาพบาปที่เคยทำมาแล้วหายจากอาการที่ที่ทุกข์ทรมาน ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ก็นึกสงสัยว่า " เอ้! จริงเหรอ  เป็นไปได้เหรอ!  มีอย่างนี้ด้วยเหรอ!  เขาก็เกิดอาการปวดหัวขึ้นมาทันทีและปวดหัวมากด้วย เขาจึงไปนั่งสมาธิ อาการปวดหัวก็หายไป แต่อาการปวดหัวจะเป็นๆหายๆไม่หายขาด ประมาณอีก 2 อาทิตย์เขาก็ขอตามเจี๊ยบไปบ้านสวนพีระมิด และได้ไปขอขมาท่านอาจารย์ อาการปวดหัวก็หายเป็นปลิดทิ้งและหายขาดตั้งแต่บัดนั้น นี่เป็นเพราะบารมีของพระพุทธองค์แสดงให้เห็นว่า บุคคลที่ควรแก่การเคารพ นับถือ ปฏิบัติธรรมจนมีญาณขั้นสูง เราจะต้องเคารพเชื่อถือ ไม่ควรสงสัยหรือปรามาสใดๆทั้งสิ้น เพราะปรกติเราสามารถสงสัยหรือมีคำถามในใจกับใครก็ได้ ไม่เห็นจะมีอาการอะไร แต่เพียงแค่คิดสงสัยในท่านอาจารย์เท่านั้น ก็เกิดอาการปวดหัวแล้ว และเมื่อขอขมาก็หายทันทีเช่นกัน ดังนั้น สำหรับคนที่ปรามาสท่านอาจารย์แล้วจะได้รับผลกรรมเช่นไร ถ้ากลับตัวกลับใจมาขอขมาทันก็โชคดีไป แต่ถ้าคิดไม่ได้ กลับใจไม่ทัน ไม่อยากจะคิดว่าจะเจออะไรบ้าง

เจี๊ยบก็เป็นคนนึงที่เคยปรามาสท่านอาจารย์อยู่ในใจเช่นกัน

ตอนที่รู้จักบ้านสวนใหม่ๆ ก็ไม่เคยมีจิตคิดปรามาสท่านอาจารย์เลย ไม่เคยมีคำถามเรื่องการแต่งตัวของท่านอาจารย์ หรือเรื่องคิดว่าจะขายเครื่องสำอางเลย

แต่พอมาบ้านสวนได้สักระยะนึง จิตมันแวปคิดปรามาสท่านอาจารย์ขึ้นมาในขณะที่ท่านอาจารย์สอนธรรมมะอยู่นั้น จะมีจิตมารเข้ามาแทรก แล้วบอกเราว่าไม่จริง อย่าไปเชื่อเรื่องที่อาจารย์กำลังสอนอยู่นั้น หรือตอนที่ท่านอาจารย์ให้ไปใช้แรงกายสร้างบุญนั้น ขณะที่กำลังทำงานอยู่นั้น ในจิตก็จะบอกว่า นี่ฉันกำลังมาทำอะไรอยู่ที่นี่ ฉันบ้าหรือเปล่า นอกจากนี้อยู่ดีๆจิตก็คิดไปถึงเรื่องเงินที่คนมาทำบุญกับท่านอาจารย์ ว่าท่านอาจารย์จะไปใช้ทำอะไร ด้วยความที่โง่ของเจี๊ยบ และเจี๊ยบเองก็ยังไม่ได้สารภาพบาปมโนกรรมที่เจี๊ยบคิดไม่ดีกับท่านอาจารย์เลย เพราะท่านอาจารย์ให้เลิกขอขมาแล้ว ให้ไปประกาศทางหนังสือพิมพ์ หรือเขียนทางแวปไซด์แทน พอดีกับที่ว่ามีมีจี้องค์สฟริงซ์ที่สามารถสารภาพบาปได้ เจี๊ยบก็เลยสารภาพบาปในจี้นั้นแทน

ผลกรรมที่เจี๊ยบได้รับจากการที่จิตคิดปรามาสท่านอาจารย์ ทำให้เจี๊ยบไม่เจริญในธรรม ผิวหนังก็ยังคันอยู่ สายตาก็ยังสั้นอยู่ ยังไม่สามารถปลดล๊อคกรรมได้ เพราะตัวเองยังมีบาปหนักนี้กั้นอยู่แน่นอน โล่งใจแล้วค่ะที่ได้สารภาพบาปของตัวเองแล้ว

เจี๊ยบกราบขอขมาท่านอาจารย์อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธ์ ที่คุ้มครองท่านอาจารย์อุบล ในสิ่งที่เจี๊ยบเคยล่วงเกินทั้งทาง กาย วาจา และทางใจค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-23 16:36:40


ความคิดเห็นที่ 175 (1642012)

ชื่อ น.ส. กุหลาบ  รักสนิท

ชื่อเล่น  อ๋อม  อายุ  44 ปี

ที่อยู่  5 ม.1 บ.ดอนหัน  ต.ด่านช้าง  อ.บัวใหญ่  จ.นครราชสีมา

การศึกษา   ม.6 โรงเรียนบัวใหญ่

อาชีพ  ตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี

 

               " กราบท่านอาจารย์อุบลบ้านสวนพีระมิดหรือรูปท่านอ.อุบล

                  แล้วชีวิตดีอย่างไร "

 

        กุหลาบรู้จักบ้านสวนมา 2 ปีแล้ว ชีวิตก่อนหน้านั้น สุขภาพร่างกายย่ำแย่  เจ็บออดๆแอดๆ ปวดเมื่อยตามต้นคอ  ปวดเอวประจำ จนหาหมอนวดตลอด นวดมานานหลายปี  อาการเหล่านั้นก็ไม่หาย เพียงแค่ทุเลาเท่านั้น  กินยา  ฉีดยาสารพัด ก็เท่านั้น จนท้อแท้กับร่างกายตนเอง  จิตใจก็ไม่ดี  เจ้าคิด เจ้าแค้น  ชิงชัง จนมาเมื่อปลายปี 53 ได้ดูรายการคุยแจกไป ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจอะไร  ไม่ทราบว่านานเท่าไหร่  ก็ได้มาเปิดเจอรายการที่บ้านอีก โดยไม่ตั้งใจ ทีนี้ก็เลยตั้งใจดู รู้สึกโดนจริต  เพระเป็นเรื่องของกฏของกรรม และท่านอ.อุบลก็ได้บอกว่า ให้อธิษฐานที่หน้าจอทีวีก็หายเหมือนกัน  ตอนนั้นกุหลาบมีอาการปวดต้นคอ  ก็เลยลองทำดู  อาการปวดก็หายได้ภายใน 5 นาที  ก็แปลกใจอยู่คนเดียว  อาทิตย์ต่อมาก็ตั้งใจดูอีก  ทีนี้ปวดเอวอธิษฐานก็หายอีก ดีใจมาก  มาเล่าให้พี่สาวฟังและชวนกันดูมาเรื่อยๆ  และคิดว่าสักวันเราจะต้องไปบ้านสวนให้ได้  ตอนนั้นกฏยังไม่เคร่งเท่าไหร่  และพอได้ดูก็ได้รู้มาเรื่อยๆเกี่ยวกับผลกรรมจากการทำผิดศีล  ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่เคยรู้เลย 

         กราบท่านอ.อุบลครั้งแรกเมื่อประมาณเดือนธ.ค

มีอาการปิติ  น้ำตาไหล  ดีใจอย่างบอกไม่ถูก และยิ่งได้เห็นรอยยิ้ม  และความห่วงใย ก็ยิ่งอบอุ่น  รู้สึกประทับใจและรักท่านอาจารย์ตั้งแต่ครั้งแรก  ไม่ลังเล  สงสัย  จากนั้นก็ติดตามรายการมาตลอด และก็ได้มาบ้านสวนเรื่อยๆ แต่ไม่บ่อยมาก  และรู้สึกได้ว่า ตั้งแต่ได้รู้จักท่านอ.อุบล ทุกสิ่ง ทุกอย่างเปลี่ยนไป  ไม่ว่าร่างกาย  ก็ไม่มีที่เจ็บปวด  เพราะยึดมั่นถือมั่นกับท่านอ.อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนจะบอกให้ท่านช่วย  และท่านก็ช่วยได้จริงๆ  และการเงินก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จากการเงินตัดขัด  ต้องยืมบ่อยๆ  พอได้มาทำบุญกับท่านอ.อุบล  การเงินไม่ติดขัด  และก็เหมือนใช้หมดไม่เป็น  ทั้งๆที่เงินก็น้อย  แต่ก็เหลือทุกเดือน  นี่คือปาฏิหารย์ที่ได้รับ

    และที่หิ้งพระของกุหลาบจะมีรูปท่านอ.อุบลใบใหญ่เวลาไหว้พระ ก็กราบท่านอ.อุบลด้วยทุกครั้ง  และยิ่งเห็นรอยยิ้มในรูปก็มีความสุข  เวลามีเรื่องไม่สบายใจก็จะไปกราบและพูดกับรูปเสมอ  ก็สบายใจ  และเมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา ทางบ้านสวนได้เปิดบ้านให้คนภายนอกเค้าไปได้  กุหลาบก็อยากไปรับบารมีพระศรีอาริย์  แต่ก็ไปไม่ได้  เพราะเป็นวันศุกร์  และลูกก็จะเปิดเทอม  ก็รู้สึกเสียใจอยู่ที่จะพลาดดโอกาส  ก็สวดมนต์ แล้วก็กราบท่านอ.อุบล พูดต่อหน้ารูปว่า  ลูกอยากไปเหลือเกิน อาจารย์ขาช่วยหนูด้วย  ทำอย่างไรถึงจะได้ไป  พูดไปร้องไห้ไป  แล้ววันหนึ่งขณะนั่งรถไปวังน้ำเขียว แฟนก็พูดโทรศัพท์พอวางสายก็เล่าให้ฟังว่า  คุณธนาโทร.มาว่าท่านอ.อุบลให้พาญาติธรรมไปร่วมกิจกรรมได้  ดีใจจนอยากกรี๊ดออกมาดังๆ  แต่ก็เก็บเงียบเอาไว้  วันนั้นมีความสุขทั้งวัน  เป็นไปได้อย่างไร  ทั้งๆที่คิดว่าไปไม่ได้  แต่ก็ได้ไป  นี่คือปาฏิหารย์

   หน้าบ้านของกุหลาบ พี่สาว หลาน จะมีรูปท่านอ.อุบลติดที่หน้าบ้าน  และแม้แต่หลานตัวเล็กๆ  อายุแค่ 1.6 ปี เค้ายังรู้จักท่าน.อุบล  เห็นรูปในกระเป๋าสตางค์ของกุหลาบ  เค้าพูดว่า  "  ช่วยด้วย  ช่วยด้วย " แล้วก็ยกมือไหว้  เพราะถ้าเวลาเค้าไม่สบาย  ก็จะเรียกอ.อุบลช่วยด้วยให้เค้าได้ยิน  และเวลาที่เค้าเป็นไข้ กุหลาบก็จะให้เค้าจับจี้  และก็จะพูดว่า อ.อุบลช่วยน้องข้าวหอมด้วย  เค้าก็จะฟัง  และก็ไหว้จี้ทุกครั้งที่เห็น  และเค้าก็หายทุกครั้ง  เด็กเค้าคงสัมผัสได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์  ขนาดเด็กที่ไร้เดียงสายังศรัทธา

    ทุกคนในครอบครัวของกุหลาบ รัก เคารพ เทิดทูน บูชา ท่านอ.อุบล ไว้เหนือเศียร  เหนือเกล้า  เพราะครอบครัวของกุหลาบได้รับเมตตาจากท่านอ.อุบลมากมายมหาศาล  โดยเฉพาะ  น้องแสตมป์ที่ได้รับพระเมตตาจากบารมีพระศรีอาริย์ ที่ทำให้ปากที่หนา และไม่สามารถรักษาให้หายได้  มาดีที่บ้านสวน เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ 

    กุหลาบยอมรับล้านเปอร์เซ็นต์ว่า  ผู้ใดก็ตามที่ได้มาอยู่ในอ้อมกอดแห่งพระธรรม  คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าที่ถ่ายทอดผ่านท่านอ.อุบล แล้วจิตใจเปลี่ยนไปแน่นอน  และกลัวการทำบาปมากขึ้น และพยายามรักษาศีล 5 ให้ได้ดีที่สุด 

(ที่สำคัญอ้อมกอดของท่านอ.อุบลก็อบอุ่นนะคะ อยากกอดนานๆ สัมผัสมาแล้ว มีความสุขมากค่ะ)

ผู้แสดงความคิดเห็น กุหลาบ รักสนิท ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-23 21:00:07


ความคิดเห็นที่ 176 (1642310)

ให้เขาถามตัวเองว่า

เขาเลี้ยงดูผู้คน นำพาผู้คนพ้นทุกข์

เอาเงินครอบครัว เอาบ้านส่วนตัว

เอาความเป็นส่วนตัว

มาสละให้ผู้อื่นได้อย่างเธอหรือไม่

ให้เขาคิดตรงนี้ ตอบตรงนี้ให้ได้

 

*********************

เอ

ไม่เห็นมีคน

ตอบคำถามตรงนี้กัน

สักคนเลยนะ

 

พระปฐมฯ

ท่านอุส่าห์ให้ถามตัวเอง

ไม่ยักกะมีคนตอบท่าน

************

กราบพระบาทสมเด็จองค์ปฐมบรมธรรมบิดาสัมมาสัมพุทธเจ้า

และกราบท่านอาจารย์อุบล

พระองค์ทรงให้พินิจ

พิจารณาก่อนว่า

คนอื่น

ให้แยกข้อดี-ข้อเสีย

เทียบกับตัวเราก่อนที่จะไปว่าใคร

เราทำดีได้อย่างเขาหรือไม่

ถ้าเทียบแล้วเรายังทำดีได้ไม่เท่า

ก็ไม่ริษยา ให้อนุโมทนากับความดีนั้น

แล้วเดินตามความดีนั้น

เท่าที่กำลังเราพอทำได้

โลกทุกวันนี้จะมีสักกี่คนที่จะสละความสุข

ของตัวเองเพื่อให้ผู้อื่นพ้นทุกข์

หาน้อยนัก

ยอมทั้งบ้านทั้งครอบครัว

โดยไม่กลัวเลยว่าอุปสรรคข้างหน้าจะมีอะไรบ้าง

ทางนี้เป็นทางของท่านที่จิตอยู่เหนือโลกแล้วจริงๆ

ท่านอาจารย์เป็นตัวอย่างของ

ลูกๆ ที่กำลังหาทางกลับบ้าน

ไปหาพ่อ

แต่เราก็มักจะติดสุขแบบโลกๆ ร่ำไป

กำลังใจตัวเดียวที่ทำให้ท่านอาจารย์เป็นได้ถึงวันนี้

ส่วนเราแล้วกำลังใจสักนิด

ยังไม่ถึงเสี้ยวของอาจารย์

ถ้าต่อไปนี้จะติดตามใครให้ดูที่การกระทำ

ก็จะช่วยให้ลดการปรามาสได้

อย่าเพิ่งคิดลบ

จิตมารมีอยู่ในตัวทุกคน

ให้ธรรมขัดเกลา

ไปเรื่อย

ยืนสู้ประจันหน้าอยู่บนเวทีจิต

จนมารภายแพ้ไปเอง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-24 06:11:08


ความคิดเห็นที่ 177 (1642436)

ชื่อ นางละม่อม  ทองเจือ    ชื่อเล่น ม่อม  อายุ 52 ปี จังหวัด สงขลา ค่ะ

การศึกษา ปริญญาตรี สาขาการจัดการทั่วไป วิทยาลัยครูสงขลา

อาชีพ รับราชการครู

สถานที่ทำงาน วิทยาลัยอาชีวศึกษาสงขลา จังหวัดสงขลา 

"กราบ

ท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือ

รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

แล้วชีวิตดียังไง"

ละม่อม  กราบท่านอาจารย์อุบล ทางหน้าจอเวปไซต์ 

กราบระลึกก่อนนอน (ครูบาอาจารย์ อาจารย์อุบลผู้มีพระคุณ ช่วยให้ลูกพ้นทุกข์)

กราบรูปจี้อุปกรณ์ท่านอาจารย์อุบล ซึ่งแขวนไว้ที่บัตรป้ายชื่อทำงาน ให้ใจเกาะเกี่ยว ไม่กล้าทำผิดศีล  

เวลาสอนนักเรียน นักศึกษา สอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม บอกชื่อท่านอาจารย์อุบล ที่ทำให้ครูพบกับความสุขเมือครูอายุ 50 ปี และให้นักเรียนดูรูปอาจารย์อุบล อาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ม๊าก แนะนำให้นักเรียนดูรายการคุยไปแจกไป 9 ตอน

 ใช้รหัสศักดิ์สิทธิ์ รหัสจักรวาล "อาจารย์อุบลช่วยด้วย"

จิตของตัวเราศรัทธา เคารพ รัก เชื่อมั่น ปฏิบัติตามคำสอน คำแนะนำ ท่านอาจารย์อุบล เพราะท่านมีแต่ให้ ให้ ให้ 

อานิสงค์ การกราบท่านอาจารย์อุบล

1.ครั้งแรกได้ดูรายการคุยไปแจกไปประมาณเดือน เมษายน 2554 ศรัทธา เคารพรัก ได้เปลี่ยนแปลงตัวเอง หันมาทานมังสะวัติ รักษาศีล 5 ปฏิบัติตามคำสอน คำแนะนำค่ะ

2.ต่อมาได้กราบไหว้หน้าจอเวปไซต์ อนุโมทนาทางหน้าจอเวปไซต์  หายจากการปวดหัว เจ็บบีบที่ขมับ

3.ได้มีช่องทางมีที่ดิน มีบ้านเล็ก ๆ ให้เช่า พี่สาวเมตตาช่วยเหลือ

4.ล่าสุดเดือนพฤศจิกายน 2555 โชคดีม๊าก มาก สามีเลิกขายเหล้า เบียร์ บุหรี่  พร้อมกับพี่สาวเมตตาช่วยซื้อบ้านทาวเฮ้าท์ติดกับบ้านพี่สาว ซื้อให้ก่อน ผ่อนทีหลัง โดยมิได้ร้องขอ

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว มีท่านอาจารย์อุบลได้พบทางเดินที่สว่าง  ท่านชี้นำทาง และช่วยให้พ้นทุกข์ เป็นร่มโพธิ์ ที่อาศัย พักพิงใต้ร่มเงา ตลอดไป  ได้รับพลังความสุข สดชื่น อยากอยู่ใกล้ แม้อยู่ไกลท่านก็ส่งพลังมาให้  ถ้าทุกคนเปิดใจรับค่ะ

กราบพระบาทและกราบขอบพระคุณ สมเด็จองค์พระปฐมบรมธรรมบิดา องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ พระศรีอาริย์ หลวงพ่อปาน  หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม โอภาสี พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วจักรวาล องค์พีระมิด องค์เทพสฟิงซ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เทวดารักษาท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว  ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว ค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ละม่อม ทองเจือ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-25 18:19:22


ความคิดเห็นที่ 178 (1642515)

ชื่อ น.ส.ชุติมณฑน์ ใจดี อายุ 34 ปี

จบการศึกษา ปริญญาตรี สาขาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณนี 

ปัจจุบัน อาชีพแม่บ้าน อาศัยอยู่ จ.ชลบุรี

 

เริ่มต้นแห่งการพบเจอบ้านสวนพีระมิด

ตอนแรกนั้นข้าพเจ้าเปิดเจอรายการคุยไปแจกไป ของท่านอาจารย์อุบลแล้วก็ไม่ได้สนใจ คิดว่าเป็นรายการขายเครื่องสำอางค์เหมือนช่องอื่นๆ ก็เปลี่ยนไปดูช่องอื่น จนวันหนึ่งเปิดไปเจออีก แต่คราวนี้เป็นตอนทีอาจารย์ไต่สวนกรรมคนที่มาบ้านสวน แล้วเกิดสนใจ จึงดูต่อไปเรื่อยๆ แล้วรู้สึกว่านี่ต้องเป็นของจริงแน่ ไม่หน้าเป็นสำนักที่เปิดเพื่อหาเงิน เมื่อดูรายการแล้วก็ศรัทธามาก อยากไปบ้านสวนฯ จริงๆ 

 

แต่ระหว่างดูจิตชั่วก็มักชอบไปสำรวจการแต่งกาย สำรวจหุ่นอาจารย์ ไปเพ่งมองหน้าอก มองเป้ากางเกงท่านอาจารย์ เหมือนคนเป็นโรคจิต นี่จึงอาจเป็นผลกรรมที่ทำให้ข้าพเจ้าชอบคิดหมกหมุ่นแต่เรื่องต่ำๆ บางครั้งจิตชอบแวบคิดถึงศัพย์ต่ำๆ ทั้งที่ใจพยายามสวดมนต์ หรือไม่ได้ตั้งใจคิด คำศัพย์ไม่ได้รับเชิญเหล่านี้ก็มาทำให้คิดเสมอ

 

เคยปรามาสท่านอาจารย์เรื่องการแต่งกายรัดรูปว่าดูไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่ ซึ่งเมื่อได้ฟังท่านอธิบายถึงการแต่งตัวที่สอดคล้องกับการสอนธรรมะของท่าน ทำให้เข้าใจว่าการแต่งตัวเช่นไร ไม่สำคัญเท่ากับการปฏิบัติตัว เพราะการแต่งตัวสำรวมแต่จิตใจคิดแต่เรื่องไม่ดีก็ไม่มีประโยชน์ 

 

เคยปรามาสบ้านสวนเมื่อครั้งที่ไปหนแรกว่า บ้านสวนแลดูกระจอกกว่าที่คิดไว้เยอะ นี่เลยเป็นสาเหตุให้ตนเองยังมีปัญหาเรื่องหนี้สินอยู่ ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจคิตแต่จิตแวบขึ้นมาเอง และตัวข้าพเจ้าเองก็ยากจนไม่ได้ดีอะไรเลยแต่ไปคิดปรามาสไม่ดีต่อสถานที่ของท่านอาจารย์ได้

 

เคยสั่นคลอนในความคิดของตนว่าบ้านสวนเป็นของจริงแน่ๆ ใหม ทั้งๆ ที่เคยไปและได้รับความสุขความสมหวังในหลายๆ เรื่องจากบ้านสวนแล้วก็ตาม จิตยังคิดลังเลสงสัยอยู่อีก ทำให้ข้าพเจ้าไม่มีความพยายามในการปฏบัติธรรม มีแต่ความขี้เกียจและอุปสรรคในการปฏิบัติธรรมเสมอ

 

เคยคิดสงสัยด้วยความโง่เขลาของตนว่า ทำไมท่านอาจารย์ได้ทำพีระมิด เสื้อ แหวน สร้อย จี้ ออกมาให้บูชาหลายรุ่นจัง เป็นธุรกิจหรือไม่ ซึ่งความคิดพวกนี้มักจะแวบขึ้นมาในจิตใจที่โง่ ชั่วและบาปหนาของข้าพเจ้าเสมอ ทั้งที่ข้าพเจ้านั้นระลึกถึงท่านอาจารย์เสมอ แต่ด้วยเป็นคนใจต่ำ บาปหนา จึงทำให้ชอบคิดหาเหตุสงสัยได้เรื่อยๆ 

 

ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าใครเคยเป็นแบบนี้บ้าง แต่ข้าพเจ้านั้นชั่วมากๆ ทั้งๆ ที่ศรัทธาแต่ก็ยังมีจิตแวบคิตขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ เลยค่ะ

 

วันนี้ได้สารภาพบาปต่อความคิดชั่วปรามาสท่านอาจารย์อุบลและบ้านสวนแล้ว ระหว่างพิมพ์อยู่นี้รู้สึกตื้นตันใจที่ไดรับความกรุณาจากท่านอาจารย์ให้ได้้เขียนสารภาพปบาปในครั้งนี้ค่ะ

 

ขอกราบขอบพระคุณองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์พระศรีอริยเมตตัย สิ่งศักดิ์สิทธ์ทั้งหลายในบ้านสวนพีระมิด เทพสฟิ้งซ์ ท้าวเวสสุวรรณ และท่านอาจารย์อุบลที่ทำให้ข้าพเจ้ามีชีวิตและจิตที่ดีมากขึ้นค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชุติมณฑน์ ใจดี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-26 14:20:24


ความคิดเห็นที่ 179 (1642786)

วันนี้ 27 พ.ย ได้รับโทรศัพท์จากยายที่อยู่นนทบุรี  ยายมีอาการเสียงแหบพร่า  เพราะยายเป็นหวัดมานานนับเดือน และไอ ขนาดกินยามานานอาการก็ยังไม่หาย  ได้ฟังเสียงของยายก็เลยแนะนำให้ยายกราบรูปท่านอ.อุบล ที่ได้ขยายใหญ่ไปไว้ให้ยายกราบไหว้  พอพูดเสร็จก็วางสายไป  สักพักยายก็โทรศัพท์มาใหม่  เสียงยายเปลี่ยนไป  ไม่แหบพร่าเหมือนตอนแรก  ยายก็ดีใจใหญ่เลย  แล้วก็วางสายไป  สักพักยายโทรมาอีก  และถามอีกว่าเสียงยายเป็นอย่างไร  แสดงว่ายายต้องไปแอบกราบรูปท่านอ.อุบลอีกแน่ๆ  เสียงยายก็ใสขึ้นอีก  ยายดีใจมากแล้วยายก็ขอบคุณท่านอ.อุบล  แล้วก็วางสายไป  แล้วยายก็โทรมาอีก  ตอนนี้เสียงของยายปกติเลยค่ะ  แล้วยายก็ได้แนะนำให้ผู้หญิงคนหนึ่งให้เค้ากราบรูปด้วย  ผู้หญิงคนนั้นเป็นไทรอยด์  พึ่งไปตรวจมาได้ 3 วัน  กุหลาบก็ได้แนะนำให้กราบรูปท่านอ.อุบลเหมือนยาย  แล้วให้อธิษฐานเอาเอง  ยายคนนั้นก็ทำตามค่ะ  นี่คือปาฏิหารย์การกราบรูปท่านอ.อุบลแล้วอาการเจ็บป่วยก็หายได้ 

ชื่อ น.ส กุหลาบ  รักสนิท

ชื่อเล่น  อ๋อม  อายุ  44 ปี

ที่อยู่  5 ม. 1 บ้านดอนหัน  ต.ด่านช้าง  อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา

อาชีพ  ตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี

โทร.  081 - 0683889

ผู้แสดงความคิดเห็น กุหลาบ รักสนิท ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-27 21:00:48


ความคิดเห็นที่ 180 (1644808)

ชื่อ ณัฐากาญจน์  จันทรเตมีย์  อายุ 39 ปี จังหวัด กรุงเทพ

การศึกษา ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

อาชีพ แม่บ้าน/ช่วยงานที่บ้าน

 

"กราบ

ท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

หรือ

รูปท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

แล้วชีวิตดียังไง"

อาจารย์อุบลเป็นแม่พระทางธรรม ทำให้ณัฐากาญจน์เข้าใจธรรมะซึ่งหาคำตอบมานานแสนนานได้แบบเข้าใจง่าย เป็นเรื่องใกล้ตัว ปฏิบัติได้ทันที และยังสามารถแนะนำคนอื่นให้ทำความดี ปฏิบัติศีล 5 และมีรหัสจักรวาลให้ทุกคนใช้ได้ด้วย

 

ณัฐากาญจน์  กราบท่านอาจารย์อุบลเมื่อครั้งแรกที่กรุงเทพ ม. มหิดล และโรงแรมแทรเวลเลอร์ และ เดินผ่านท่านอาจารย์อุบลและได้มีโอกาสกราบตักท่านตอนท่านนั่งอยู่ รู้สึกตื้นตันใจ ซาบซึ้งที่ได้มีโอกาสเจอท่าน ได้รับการแนะนำสิ่งที่ตัวเองไม่สบาย เกิดจากกรรมใด ได้ทราบว่าเบาหวานที่แม่เป็น เกิดจากกรรมใด สิ่งที่อาจารย์สอนอยากให้กลับไปปฏิบัติตัวเป็นคนดี และมีผลถึงครอบครัวทำให้ครอบครัวรับทราบผลกรรมและหมั่นทำบุญและอุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรทุกภพชาติที่ได้ล่วงเกินทุกท่านค่ะ

กราบท่านอาจารย์อุบล ทางหน้าจอเวปไซต์ ด้วยความรู้สึก รัก เคารพ ศรัทธา ท่านผู้ซึ่งมีแต่ให้ ให้ แนะนำเราให้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ให้สำนึก สารภาพบาป ชั่ว ที่ตัวเองได้ทำ ซึ่งณัฐากาญจน์ได้ทำผิดอย่างใหญ่หลวงต่อท่านอาจารย์อุบล ได้นำสิ่งที่ไม่ควรเขียนในค่าย 13 มาเขียน ด้วยความโง่เขลา อวดรู้ อวดฉลาด ไม่มีสติปัญญาคิดสิ่งใดควรเขียนสิ่งใดไม่ควรเขียน จึงได้กราบรูปท่านอาจารย์โดยจิตระลึกถึงท่านอาจารย์กราบเท้าขอขมา ขอโทษท่านอาจารย์อุบลและเทวดาที่รักษาอาจารย์อุบลทุกพระองค์ ที่ได้ทำผิดด้วยความโง่เขลา อวดรู้ อวดฉลาด ไม่มีสติปัญญาคิดสิ่งใดควรเขียนสิ่งใดไม่ควรเขียน ทำให้จิตใจรู้สึกโล่งขึ้น และขอบคุณพี่แมวที่ได้เตือนสติ สอนให้รู้ว่าณัฐากาญจน์ได้ทำผิดใหญ่หลวง ณัฐกาญจน์ขอทำความดี สร้างบุญกุศล จนหมดลมหายใจ และจิตเกาะเกี่ยวถึงพระพุทธเจ้า มุ่งหวังนิพพานตามที่ท่านอาจารย์อุบลได้เมตตาสอนสั่งโดยจะทำตัวเป็นคนดี คิดดี ทำดี พูดดีค่ะ

ณัฐากาญจน์ ได้ถ่ายรูปท่านอาจารย์อุบลด้วยมือถือผ่านทางหน้าจอเวบไซต์ และ กราบท่านและรู้สึกอุ่นใจเหมือนมีท่านอาจารย์อยู่ใกล้ตัว และให้ลูกๆได้กราบท่านอาจารย์และให้ลูกๆใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย

กราบรูปจี้ท่านอาจารย์อุบล ทำให้ อยากทำความดี อยากช่วยเหลือคนอื่น จิตของตัวเราศรัทธา เคารพ รัก เชื่อมั่น ปฏิบัติตามคำสอน คำแนะนำ ท่านอาจารย์อุบล เมื่อปฏิบัติชั่ว คิดชั่วก็กลัวการทำบาป กลัวตกนรก อยากสารภาพบาปทันทีกับจี้ค่ะ

อานิสงค์ การกราบท่านอาจารย์อุบล

1.ครั้งแรกได้ดูรายการคุยไปแจกไปศรัทธา เคารพรัก ได้เปลี่ยนแปลงตัวเอง หันมารักษาศีล 5 ปฏิบัติตามคำสอน คำแนะนำค่ะ

2.ต่อมาได้กราบไหว้หน้าจอเวปไซต์ อนุโมทนาทางหน้าจอเวปไซต์  ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยทำให้หายปวดหัว

3.ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยทำให้ขายคอนโดได้และได้ราคาตามที่ต้องการค่ะ

4.ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยขอให้สามีเชื่อเรื่องภัยพิบัติ ปัจจุบันสามีสนใจและช่วยเตรียมพร้อมภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นค่ะ

กราบพระบาทและกราบขอบพระคุณ สมเด็จองค์พระปฐมบรมธรรมบิดา องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ พระศรีอาริย์ หลวงพ่อปาน  หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม โอภาสี พระอาจารย์รัตน์ รัตนญาโณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วจักรวาล องค์พีระมิด องค์เทพสฟิงซ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เทวดารักษาท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว  ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว ค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ณัฐากาญจน์ จันทรเตมีย์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-11 09:46:30


ความคิดเห็นที่ 181 (1674057)

"ปรามาสท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิด

แล้วจะได้รับผลกรรมอย่างไร"

 

นัชญ์ ชื่อ นายภัคณัฐฎ์ ธรณ์วรรธ์ธนา ชื่อเล่น นัชญ์ อายุ 47 ปี เป็นคนกรุงเทพ ปัจจุบันอยู่ที่ อ.วิหารแดง จ.สระบุรี ประเทศไทย     จบการศึกษา ปริญญาตรี เศรษฐศาสตร์บัณฑิต สาขาระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย     อาชีพ -

ได้ปรามาส ท่านอาจารย์อุบล บ้านสวนพีระมิดดังนี้ 

1. ในช่วงที่ห่างจากการไปร่วมบุญที่บ้านสวนพีระมิดหลายเดือน ในขณะที่กำลังปลูกต้นไม้อยู่ที่บ้าน อยู่ ๆ ก็มีจิตแว้ปคิดว่า จะปลูกต้นไม้ที่บ้านให้สวยกว่าที่บ้านสวนพีระมิด  และก็รู้สึกไม่อยากดูรายการคุยไปแจกไป   ไม่กล้าดู  ถ้ากำลังดูทีวีอยู่ขณะที่รายการคุยไปแจกไปกำลังออกอากาศอยู่   ก็จะเปิดรีโมทข้ามช่องที่กำลังถ่ายทอดรายการคุยไปแจกไป  ข้ามหลายช่อง  ไม่อยากเปิดเห็นภาพรายการที่กำลังออกอากาศอยู่ 

ผลกรรมที่ได้รับคือ หน้าตาก็ดำหมองคล้ำ  ไม่มีราศี อัปลักษณ์มาก  ไม่มีความสวยงาม  ใครพบเห็นก็พูดแต่ว่า  ทำไมหน้าเราดำ  ไปทำอะไรมา  เราก็ไม่รู้บอกว่าตากแดดมา  

หนทางพ้นทุกข์  เมื่อได้เข้ามาร่วมกิจกรรมบ้านสวนพีระมิดอีกครั้ง  ก็ได้ออกไปสารภาพบาปและขอขมาท่านอาจารย์  ก็ได้รับรู้ว่า จิตแว้ปที่เกิดขึ้นที่อยากให้บ้านมีต้นไม้สวยกว่าบ้านสวนพีระมิด นั้น เกิดจากการที่เราผิดศีล จิตใจของเรามีความริษยา มีความอยากได้อยากมี ยังรักษาศีลไม่บริสุทธิ์  เมื่อรู้สาเหตุของจิตแว้ปดังกล่าวแล้ว   ก็ปรับปรุงจิตใจให้มีความอ่อนโยนมากขึ้น  โดยไม่อยากมีไม่อยากได้  และก็พยายามอนุโมทนาพลอยยินดีกับสิ่งที่คนอื่นมีคนอื่นได้   ซึ่งก่อนหน้านั้น  เวลาเราอนุโมทนากับใคร  มันเหมือนว่าเราอนุโมทนาแต่เพียงคำพูดหรือคิดว่าอนุโมทนาเท่านั้น แต่การอนุโมทนายังไม่บริสุทธิ์  จิตใจของเรายังไม่แช่มชื่นพลอยยินดีกับผู้อื่น    นั่นเพราะจิตใจของเรามีแต่ความหยาบกระด้าง  มีความโลภอยากมีอยากได้  อนุโมทนา เพราะอยากได้บุญ 90 % ของเขา แต่เมื่อเราพยายามปรับเปลี่ยนความรู้สึก  จิตแว้ปเรื่องดังกล่าวก็หายไป

2. เมื่อได้กลับเข้ามาร่วมกิจกรรมที่บ้านสวนพีระมิดอีก  ก็เกิดจิตแว้ปเห็นเท้าพุ่งเข้าหาท่านอาจารย์อุบล  เห็นการทำร้ายตัดคอท่านอาจารย์อุบล เห็นภาพอัปมงคลต่อท่านอาจารย์อุบลมากมาย  เห็นเท้าเหยียบองค์พีระมิด  เห็นเท้าเหยียบพระบรมสารีริกธาตุ  เห็นเคียวตัดขาท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านพ่อดตาจินิน สมเด็จองค์ปฐม เห็นเท้าพุ่งไปหาผู้ทรงศีลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์  และเกิดมีเสียงโต้เถียงในใจเวลาอาจารย์อุบลสอน  ทั้งที่เราก็เชื่อ อาจารย์อุบลเต็มที่  และเมื่อมีใครออกไปพูดว่าเกิดภาพปรามาสอาจารย์อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์  ก็เห็นภาพตามคนที่ออกไปสารภาพบาปในบางครั้ง   และในบางครั้งก็รู้สึกว่ากำลังจะมีจิตแว้ปขึ้นมา

ผลกรรมที่ได้รับ  จิตใจเศร้าหมองหดหู่ อยากตาย จิตใจไม่เข้มแข็ง ไม่สดชื่น โง่ ขาดปัญญา เจ็บในส้นเท้าซ้าย เท้าซ้ายรู้สึกผิดปกติ ถูกปิดพลังพีระมิด เทวดาทิ้ง  ไม่สำเร็จในทางธรรม มีนรกเป็นที่หมาย  ไปนิพพานไม่ได้ ไปสวรรค์ ไปพรหมไม่ได้

หนทางพ้นทุกข์   เขียนสารภาพบาปและขอขมากรรมในเว็ปในเฟซ   เมื่อเกิดจิตแว้ปหรือรู้สึกว่ากำลังจะเกิดจิตแว้ป  ก็คิดว่า  ความรู้สึกนี้ไม่ดี เป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ขอขมาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แล้วก็ภาวนา นะมะ พะธะ  ไม่ให้มารเข้ามาได้ อาการจิตแว้ปก็หายไปในขณะนั้น  เพราะสิ่งที่ทำนั้นคือการแก้ไขที่ปลายเหตุ   ไม่ได้ดับที่ต้นเหตุ  ดังนั้นก็จะมีจิตแว้ปเข้ามาเรื่อย  ๆ  ซึ่งในบางครั้งก็คิดป้องกันจิตแว้ปไม่ทัน   และก็จะพยายามหาให้ได้ว่า สาเหตุของจิตแว้ป  ศีลของเราที่ยังไม่บริสุทธิ์นั้น  เกิดจากการผิดศีลข้อใด เราใช้เท้าทำผิดศีลเรื่องอะไร  เราผิดศีลทำร้ายสิ่งใด หันเท้าไปทางสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือไม่  

เคยเขียนในจดหมายเชิญท่านอาจารย์อุบล และในกระทู้พระศรีอาริย์ ว่า พระศรีอาริย์เป็นพระอนาคามี ซึ่งแท้จริงแล้วพระศรีอาริย์คือพระพุทธเจ้าที่มีบารมีมากล้นรองจากสมเด็จองค์ปฐม และก็จาบจ้วงในจดหมายเชิญเรียกท่านอาจารย์อุบลเป็นพระอนาคามี เป็นการปรามาสผู้ทรงศีล ปรามาสผู้ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์เลือกให้มาทำหน้าที่สำคัญ  เขียนไปโดยไม่รู้ความเป็นจริง  เดาเอาจากคาถาพระศรีอาริย์   เป็นการแสดงความคิดเห็นที่โง่มาก ๆ ออกมา

เคยคิดว่านรกสวรรค์ไม่มีจริง  ทำให้ผิดศีลข้อ 2 ไปขโมยเงิน  และก็ได้เผยแพร่คำสอนของผู้ที่สอนเราผิด ๆ อีกด้วย ซึ่งสิ่งนี้เท่ากับการปรามาสพระพุทธเจ้า  ลบหลู่ในคำสอนของพระพุทธเจ้า ไม่เชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้า ว่านรกสวรรค์มีจริง

ซึ่งผิดศีลข้อ 3  ที่มักคิดกับผู้ทรงศีลนักพรตคนที่เป็นครูบาอาจารย์  ว่าท่านนี้หล่อดีหน้าตาดี  ชอบคิดตลอดเวลา  โดยไม่สำรวมความคิดว่าเป็นการผิดศีลข้อ 3  กับผู้ทรงศีล ซึ่งท่านนั้นอาจเป็นพระอริยบุคคลก็ได้    ก็จะเป็นการทำกรรมหนักมาก และในสมัยที่เป็นนักเรียนและนิสิตก็ชอบครูที่หล่อ ท่านคือครูบาอาจารย์    เราได้ทำบาปมหันต์ลงไปโดยไม่รู้ตัวนานหลายปีมาก  

ผิดศีลข้อ 4 คือ บางครั้งก็ยังโต้เถียงแม่ บางครั้งก็เถียงในใจ

และเวลาที่มีใครออกไปสารภาพบาป  เวลาฟังก็อย่าฟังด้วยจิตที่คล้อยตาม  เพราะนั่นก็คือการไปปลื้มชื่นชมกับการทำความผิดของเขา   ก็เท่ากับไปรับผีของเขามาเต็ม ๆ  

  

ลูกกราบขอขมาต่อท่านพ่อดตาจินิน สมเด็จพ่อองค์ปฐม

องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านท้าวเวสสุวรรณ ท้าวมหาราชทั้งสี่

ท่านพ่อทุกพระองค์ของท่านอาจารย์อุบล องค์พีระมิด

ท่านอาจารย์อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วอนันตจักรวาล

 

 

 

 ลูกเป็นสาวกที่ไม่ดีของพระพุทธองค์

ลูกขอลาออกจากการเป็นสาวกพระเทวทัตตลอดไป

ลูกขอมอบกายถวายชีวิตต่อพระพุทธองค์และท่านอาจารย์อุบล

ลูกสำนึกผิดและเสียใจในความผิดดังกล่าว

ลูกขอปฏิญาณว่าจะไม่ขอทำความผิดดังกล่าวอีกแล้วค่ะ

กราบ  กราบ  กราบ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภัคณัฐฎ์ ธรณ์วรรธ์ธนา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-01-07 20:58:17



<< ก่อนหน้า 1 [2]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.