อาทิตย์นี้เจี๊ยบไปบ้านสวนฯตอน 11.30 นของวันเสาร์

เสียดาย / เขาเคลื่อนทัพจากบ้านสวนไปทอดกฐินที่วัดหลวงพ่อเสงี่ยมกันหมด

เลยอดไปทอดกฐิน ยังไงก็ขออนุโมทนาบุญกับท่านอาจารย์และเพื่อนๆที่ร่วมทีมกับท่านอาจารย์ไปทอดกฐินนะค่ะ

ถึงยังไงแม้ท่านอาจารย์จะไม่อยู่ เจี๊ยบก็ยังได้โกยบุญ เกี่ยวข้าวกับพี่เปลว พี่แป้นละค่ะ เพราะข้าวที่ปลูกในนานั้นสุกจนงอมจัดแล้วจนบางกอเนี่ยเมล็ดข้าวกำลังแตกเป็นต้นใหม่แล้วละค่ะ และค่อนข้างจะเยอะมากด้วย พี่เปลวบอกต้องเกี่ยวอาทิตย์นี้ให้หมดนะ เพราะหลังจากนี้กอข้าวจะงอกกลายเป็นต้นข้าวใหม่แน่ๆ

เจี๊ยบไปช่วยพี่เปลวเกี่ยวข้าว ฝนก็จะตกเป็นระยะๆ ตกหนักสักครู่แล้วก็หยุด พอให้อากาศเย็น แหมท่านเป็นใจมากเลยค่ะ คงสงสารว่ามีคนน้อย แดดก็ไม่มี ฝนก็ตกพอให้เย็น เวลาเกี่ยวข้าวก็จะได้ไม่มีฝุ่นข้าว เราทำงานกันไปสักพักหนึ่ง ฝนก็ตกหนักมาอีกแล้วครู่เดียวก็หยุดอีก สดชื่นจริงค่ะ แถมได้น้องชิมและคุณแม่ดารามาช่วยอีก เราทำงานกันเพลินอากาศก็ดี ก่อนตะวันจะลับขอบฟ้าเราก็เกี่ยวข้าวได้ประมาณ 5 แปลงค่ะ

ไว้มาเล่าต่อพรุ่งนี้นะค่ะ ราตรีสลบค่ะ

 บุญกฐิน....การเดินทางแห่งรอยยิ้ม

ผมขอเล่าประสบการณ์เรื่องการไปทอดกฐินในวัน เสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นบุญที่ยิ่งใหญ่อีกอย่างหนึ่ง    โดยพวกเราต่างมุ่งมั่นตั้งใจในการไปร่วมงานทอดกฐินในครั้งนี้อย่างมาก

       เมื่อไปถึงวัด พวกเราก็ได้นำหนังสือที่จัดทำขึ้นไปแจก ซึ่งหนังสือเล่มนี้ ก็คือการรวบรวมประสบการณ์ต่างๆของลูกบ้านสวนที่ทุกๆคนต่างเขียนขึ้นนั้นเอง โดยหนังสือที่แจกในวันนี้จะมีหัวข้อ อยู่ด้วยกัน 2 เรื่องคือ 

กราบ อ.อุบล แล้วดีอย่างไร กับ ปรามาส อ.อุบลแล้วเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต

ซึ่งทุกๆคนต่างเขียนเล่าเรื่องชีวิตของตัวเองที่เคยปรามาส อ.อุบล แล้วชีวิตได้รับเคราะห์กรรมมากมาย เช่น บางคนคิดไม่ดี ก็ปวดหัว ปวดขา มีทุกข์ อุปสรรคมากมาย ซึ่งเรียกได้ว่า อาการบางคนสาหัสมากๆเลยครับ

ซึ่งแตกต่างจากอีกหัวข้อโดยสิ้นเชิง เพราะอีกหัวข้อคือ  กราบ อ.อุบล แล้วดีอย่างไร ก็จะเป็นการบอกเล่าของลูกบ้านสวนที่กราบรูป อ.อุบล หรือกราบ ท่าน อ.อุบลแล้ว มีผลดีอะไรบ้าง ซึ่งก็มีเขียนไว้มากมาย เช่น หายจากอาการเจ็บป่วยต่างๆ มากมาย 

ซึ่งเรียกได้ว่าธรรมทานทั้งสองนี้เป็นสิ่งที่ดีมากๆเลยครับ และเมื่อนำไปแจกให้ผู้คนที่มาร่วมงานทอดกฐิน ที่วัดใหม่สันติธรรมได้อ่าน

ปรากฎว่าได้เห็นภาพที่ประทับใจก็คือ มีคนถืออ่าน บางคนนั่งอ่าน เรียกได้ว่าชื่นใจมากๆเลยครับ เพราะสิ่งที่พวกเราช่วยกันทำขึ้นมานั้น

คนที่เขาได้รับ เขาเห็นคุณค่า เขาอ่านอย่างสนใจ ตั้งใจ และพวกเราก็ได้ช่วยกันบำบัดผู้คนที่มาร่วมงานทอดกฐินกันมากมาย เช่น ตัวเบสเองได้ช่วยบำบัดให้หลวงตาคนหนึ่ง ซึ่งมีอาการปวดเท้า เวลาเดินต้องใช้ไม่เท้าพยุงตลอดเวลา ซึ่งเบสเห็นว่าท่านเดินไม่ค่อยไหว เลยเดินไปส่งกับพี่ป้อม โดยในระหว่างทางก็จะพยายามให้หลวงตาสารภาพบาปมาเรื่อยๆ โดยหลวงตาเล่าว่า สมัยก่อนเคยเป็นนักมวย เคยเตะคนมาเยอะ ซึ่งเมื่อพูดแล้ว อาการที่หลวงตาเดิน ก็ดูดีขึ้น และหลวงตาก็เดินคล่องขึ้น และเมื่อไปถึงกุฎิ ก็เลยถามว่า่ หลวงตาอยากหายไหมจ๊ะ แล้วก็บอกว่า มีคนมากมายที่กราบรูป อ.อุบล แล้วหายจากอาการเจ็บป่วยมากมาย ไม่รู้หลวงตาจะทำหรือป่าว

ท่านก็บอกว่าอยากหาย และก็จะลองทำดู

เมื่อหลวงตากราบรูปอ.อุบลใน หน้าปกหนังสือธรรมทานที่แจกไป ปรากฎว่า หลวงตาดูตกใจเล็กน้อย พอถามว่า หลวงตาเป็นอะไร?  หลวงตาบอกว่ามันร้อนที่ขา (ขาที่ปวด) เหมือนมีอะไรวิ่งพล่านอยู่ แล้วก็ให้หลวงตาลองเดิน ปรากฎว่าเดินดีขึ้น หลวงตาท่านดูดีใจมากครับ เลยบอกว่าให้หลวงตากราบดูอีกที ปรากฎว่า หลวงตาก็บอกว่าอาการดีขึ้นอีกนะ ก็เลยท่านว่า ให้กราบเรื่อยๆ  ซึ่งหลวงตาท่านก็รับปาก เพราะท่านบอกว่าเป็นมานานแล้ว ซึ่งเบสก็ดีใจมากที่หลวงตาอาการดีขึ้น เพราะเวลาเดินดูแล้วหลวงตาจะเจ็บเพราะเดินโคลงเคลง และเดินช้าๆ ต้องเขย่งเท้าด้วย ซึ่งสาเหตุเกิดจากการที่หลวงตาเคยถูกรถชนมาก่อน

ซึ่งก็เป็นที่น่าสังเกตมากครับ ว่าแค่กราบรูป อ.อุบล แล้วทำให้หายเจ็บป่วย หรือดีขึ้นนั้น มันก็อาจจะฟังดูโม้ๆ แต่ว่าเมื่อได้พิสูจน์แล้ว ปรากฎว่ามันคือเรื่องจริง และทุกๆคนที่กราบอาการก็ดีขึ้นจริงๆ ครับ 

ขออนุโมทนาบุญกับพี่เจี๊ยบพี่เปลวหมอแป้นพี่ชิมคุณแม่พี่ชิม และท่านอื่นๆด้วยนะค่ะ  ข้าวคงจะออกรวงงดงามมากแน่เลยใช้มั้ยค่ะ เอเค้าเรียกข้าวอกรวงรึเปล่าเน้อ อิอิ บรรยายกาศบ้านสวนยามบ่ายที่แปลงนา คงเป็นบรรยากาศที่สบายๆไม่ร้อนมากเพราะมีฝนตกให้เย็นๆ สบายๆ อ่านธรรมทานของพี่เจี๊ยบไปอดไม่ได้ี่ที่จะจิตนาการภาพตามค่ะ ถึงแม้จะไม่ได้ไปอยู่ ณ ตรงจุดนั้นแต่ก็รับรู้ถึงความรู้สึกได้เลยค่ะ

และขอทุกๆท่านที่ได้ไปทอดกฐินด้วยนะค่ะ ขออนุโมทนาบุญกับน้องเบสและพี่ป้อมที่ช่วยกันบำบัดหลวงตาที่ปวดขา ให้หายได้ ที่บอกว่าฟังดูอาจจะโม้ๆ อิอิ ขอยืนยันอีก1คนว่าเรื่องกราบรูปท่านอาจารย์อุบลแล้วหาย ไม่โม้หรอกค่ะเชื่อ100% พิสูจน์มาแล้วคร๊ะ 

      ขออนุโมทนาบุญกับพี่เจี๊ยบ น้องเบส พี่เปลว หมอแป้น น้องชิม คุณแม่ดาราและลูกบ้านสวนทุกคนๆค่ะ

      ขอร่วมอนุโมทนาบุญกฐินที่วัดหลวงพ่อเสงี่ยมด้วยค่ะ แม้ว่าอาทิตย์นี้ไม่ได้มาร่วมบุญที่บ้านสวน  ไปร่วมบุญกฐินกับครอบครัวเพื่อนที่วัดน้ำบ่างามวิชา อ.บ้านหมี่ ลพบุรี ถือโอกาสแจกธรรมทาน รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย ในงานกฐินของวัด มีชาวบ้านมาร่วมบุญไม่มาก  มัคนายกจะประกาศให้คนที่มา ไปขอพร ขอเลขเด็ดถูเจ้าแม่ตะเคียนทอง (เอาอีกแล้ว)

      เวลาแจกรหัส ก็จะบอกว่า ไม่ให้ใช้ขอหวยนะคะ  ยิ้มๆกันทั้งนั้น รู้นะคิดอะไรอยู่

      เรื่องหวย เจอตลอด  ตอนงานศพคุณตาสำเภา เอาธรรมทานไปแจก และพร้อมกับบอกรหัสอาจารย์อุบล ช่วยด้วย ไปให้ใช้

      เกือบทั้งแถว พอบอกว่า ห้ามเอาไปซื้อหวย 

      แหม ! กำลังจะเอาไปใช้อยู่พอดี ขอคืนได้ไหม   

      กี่คนเนี่ย ร่วมๆกว่า10 คนได้มั้ง  หวยแห่งชาติ...อีกแล้ว

      ต้องอธิบายเสียยกใหญ่ ว่าให้เอาไปใช้ทำมาหากิน เห็นว่าส่วนใหญ่ทำนาทำสวนให้ได้ผลผลิตเยอะๆ แมลงไม่กัดกิน ดีกว่าค่ะ.....เพลียหัวใจจริงๆ

          ขออนุโมทนาบุญกับน้องเบสอีกครั้งที่ช่วยบำบัดหลวงตา

                 หลวงตากราบรูปอาจารย์อุบล แล้วหายป่วย

    อัศจรรย์จริงๆ ที่พระกราบรูปอาจารย์แล้วหายและก็ยอมกราบด้วย

 อนุโมทนากับพี่เจี๊ยบด้วยค่ะ

ครองตำแหน่งเสือปืนไวไว้ได้อย่างเหนียวแน่นเลยนะคะ อิอิ

ถึงแม้ตอนเกี่ยวข้าวคนจะน้อย

แต่ก็รู้สึกว่างานเดินเร็วมากๆเลยนะคะ

ได้ตั้ง 5 แปลงแน่ะ

หญิงรู้สึกว่าเวลาทำงานแล้วมีคนน้อย

งานมันจะไวมากๆ

ไม่รู้คิดไปเองรึป่าว

อนุโมทนากับเบสด้วยจ๊ะ

(จริงๆเรารุ่นเดียวกันนี่นา ไอเราก็เผลอแทนตัวเองว่าพี่มาตั้งนาน  ม่ายอาว เราไม่อยากแก่ละ 555+)

อ่านแล้วก็พลอยลุ้นอาการหลวงตาไปด้วย

สุดท้ายก็อาการดีขึ้นเยอะเลย

แล้วก็ดีใจมากๆเลยนะ

ที่เห็นลูกๆบ้านสวนได้ทำหน้าที่กอบกู้ 3 ร่มโพธิ์ศรีอย่างสามัคคี

ทั้งแจกธรรมทาน ทั้งช่วยกันบำบัด 

แบบนี้ก็คงอีกไม่นานแล้วสินะ

ที่พระศรีอาริย์จะมาปรากฎพระองค์

....

และขออนุโมทนากับคุณจารุวรรณด้วยนะคะ

เรื่องหวยนี่ฟีเวอร์ไม่มีตกจริงๆค่ะ

มันอยู่คู่กับคนไทยมานานแสนนานแล้วเนอะ

ประเทศเราถึงไม่ค่อยเจริญสักที ฮ่าๆ

และเมื่อไปถึงกุฎิ ก็เลยถามว่า่

หลวงตาอยากหายไหมจ๊ะ

แล้วก็บอกว่า มีคนมากมาย

ที่กราบรูป อ.อุบล

แล้วหายจากอาการเจ็บป่วยมากมาย

ไม่รู้หลวงตาจะทำหรือป่าว

ท่านก็บอกว่าอยากหาย

และก็จะลองทำดู

ธรรมทานเขียนโดย น้องเบส

.........................................

โอ้วว...น้องเบสจ๊ะ

พี่เพิ่งจะคิดเล่นๆในใจคนเดียวว่า

ถ้าซักวันนึง มีพระ

มากราบท่านอ.อุบลจริงๆ

จะเป็นยังไงหนอ...

เพราะมันคงสะท้อนสัจธรรม

หลายๆอย่างทีเดียว

หนึ่ง..คนเราถ้าละอัตตาได้

ก็หายป่วย หายทุกข์ได้ง่ายๆ

สอง.. คนดีที่บริสุทธิ์และบุญบารมีสูงส่ง

และสมควรแก่การกราบไหว้

ไม่จำเป็นต้องเป็นพระ ชี เท่านั้น

สาม..ท่านอาจารย์ของเรา

จะทำหน้าอย่างไรหนอ

เพราะถ้าพูดตามตรงแล้ว

ท่านก็ออกตัวอยู่บ่อยๆว่า

ไม่ชอบให้ใครมากราบเล๊ย

ทำใจไม่ค่อยได้

แต่เพื่อความสุข

และความหลุดพ้นของผู้กราบ

ก็ยินดี...แม้จะไม่ชอบอย่างแร๊งส์

แล้วนึกภาพนะคะว่า

ถ้าในอนาคตมีพระ

มากราบท่านอ.อุบลตัวจริง

ไม่ใช่กราบภาพล่ะ จะเป็นยังไงหนอ..

ว่าแล้วก็อนุโมทนา

กับธรรมทานจากน้องเบส

พี่เจี๊ยบ และคุณ จารุวรรณ  ด้วยนะคะ

สาธุ

ขออนุโมทนากับท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว

และทุกท่านที่ไปร่วมบุญทอดกฐิน

ที่วัดหลวงพ่อเสงี่ยมนะคะ

สาธุค่ะ

*********

อนุโมทนากับทุกท่านที่ช่วยกันเกี่ยวข้าวที่บ้านสวนฯ

ด้วยจ้า

สงสัยพวกเรา

ยังไม่รู้ว่า ต้องมาเขียน

มาเม้นต์ในกระทู้นี้ หลังจากกิจกรรม

เสาร์ - อาทิตย์ 17-18 พ.ย.55

ขออภัยมัวยุ่ง

จึงมาเปิดกระทู้นี้ช้าไปหน่อย

ทำให้พวกเรารอคอย

หรืออาจไม่คอย

แต่

ไปหากระทู้เขียนกันเอาเอง

ที่นั่นบ้าง ที่นี่บ้าง ไม่รวมที่เดียวกัน

ดังนั้น

ช่วยบอกต่อกันด้วยนะคะ

และ

ช่อยก๊อปมาลงไว้ในกระทู้นี้ด้วย

ถ้าบังเอิญเห็นใครไปเขียนไว้ที่อื่น

ที่เป็นเรื่องของกิจกรรม

17-18 พ.ย.55

น่ะค่ะ

ท่านจะได้บุญธรรมทาน

เพิ่มขี้นอีกด้วย

นะคะ

โมทนาบุญกับคุณเจี๊ยบ  หมอแป้น   พี่ดารา  น้องชิม นึกภาพเกี่ยวข้าวคงจะสนุกน่าดูลมเย็นๆ มีไอฝนเล็กน้อย

โมทนาบุญกับบุญกฐินวัดใหม่สันติธรรมท่านอาจารย์อุบลและทีมงานลูกบ้านสวนฯทุกบุญค่ะสาธุๆๆ

            กราบขอบพระคูณค่ะท่านอาจารย์  เขียนไปเกือบจบเนทวื้ดไปเฉยๆ เด๋วมาต่อตอนเย็นค่ะ

 อนุโมทนากับทุกท่านก่อนนะค่ะ

  กราบอนุโมทนาบุญกับท่าน อ. อุบล และครอบครัว

พร้อมด้วยลูกบ้านสวนทุกท่านที่ได้ไปร่วมงานทอดกฐินค่ะ

     และอนุโมทนาบุญกับทุกท่าน  ที่ได้ทำงานรอที่บ้านสวน

พี่ ๆ นี่เก่งเลยนะคะ  เกี่นวได้ตั้ง  5  แปลง สาธุ  ด้วยค่ะ

ถ้าในอนาคตมีพระ

มากราบท่านอ.อุบลตัวจริง

ไม่ใช่กราบภาพล่ะ จะเป็นยังไงหนอ..

   นั่นนะซิคุณชนิดา  คิดว่าคงใกล้ถึงวันนั้นจริง ๆ แล้วล่ะ

กราบอนุโมทนา บุญกฐิน ทุกสถานที่ กับท่านอาจารย์อุบล และญาติธรรมทุกท่านด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

 ขออนุโมทนาบุญกับพี่เจี๊ยบ พี่แป้น พี่เปลว

ร่วมบุญกฐิน วัดหลวงพ่อเสงี่ยม วันที่ 17พย.

โดยผศ.ดร.ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ; อาจารย์ประจำคณะเวชศาสตร์เขตร้อน ม.มหิดล
อจ.เมตตาอนุญาตให้พวกลูกบ้านสวนติดตามไปทอดกฐินกันได้ ได้ซื้อไตรเตรียมไว้ 5 ไตร คุณเจิดหทัย และคุณฉันทนา ร่วมมาอีก 2 เป็น 7 ชุด พร้อมกับซื้อสังฆทานมาด้วย 10ชุด เริ่มเดินทาง 10 โมงไปถึงวัด เที่ยงเกือบครึ่ง เขาซ่อมถนน รถติดบางช่วง แต่ตอนไปถึงก็ได้ทราบว่าเขา มีคณะที่ไปทอด เขามีงานรับกฐินไปแล้ว แต่อจ.อุบล ได้ขอนิมนต์ให้ท่านมารับกฐินอีกรอบ ท่านก็ลงมารับโดยพร้อมเพรียงกัน มีพระรูปที่สองต่อจากเจ้าอาวาสพูดเปรยว่ากฐินจะรับได้หนเดียว พวกเราจะถวายอีกรอบคงไม่ถูกต้อง ขอให้ถวาบเป็นผ้าป่าทำนองนั้น แต่อ.อุบล ขอว่าเจตนาของเราคือกฐิน พิธีการใดๆไม่สำคัญเท่าเจตนา และในที่สุดท่านเจ้าอาวาสองค์แรกก็ให้สวดรับกฐินโดยดี  โดยที่ลูกบ้านสวนสมทบกันคนละเล็กน้อย แต่อ.อุบลและครอบครัว สมทบให้ครบ 1 แสน บาท ขออนุโมทนาครอบครัวศุภาเดชาภรณ์ และลูกบ้านสวนทุกท่าน

กิจกรรมแจกธรรมทาน และธรรมะบำบัด
พวกเราเมื่อไปถึงจะไล่แจกธรรมทานกันก่อน สำหรับเนื้อหาในธรรมทานคือ การปรามาสอาจารย์อุบล ได้รับผลอย่างไร และการกราบรูป หรือ ตัวจริงอ.อุบลมีอานิสงค์อย่างไร มีธรรมทานของพี่น้องเราที่ส่งไปที่บ้านสวนล่วงหน้า และทำถูกกฎ คือชื่อ ยศ อายุ การศึกษา การงานครบ ก็ได้แจกกันงานนี้เลย ขออนุโมทนากับ คนเขียน คนเย็บเล่ม คนสนับสนุนปัจจัยการเย็บเล่มทุกท่าน ทราบจากคุณเหมี่ยวว่าวันศุกร์นอนตีสอง และเมื่อตอนงานศพคุณตาก็ร่วมทำกันหลายๆท่าน อนุโมทนาบุญใหญ่ด้วยค่ะ

ส่วนกิจกรรมบำบัดหลังจากพิธีกร และอ.อุบล เชิญชวนก็มีเดินขึ้นมา มีป้าปวดขา ขางอไม่ได้ คุณธนา คุณแมว คุณเหมี่ยวก็พามาให้จี้ของจุ๋มรักษา เพราะตนเองไม่เคยรักษาใคร พวกเขาก็พยายามเกริ่นนำให้ และส่งต่อให้ จุ๋มให้เขาใช้รหัส อจ.อุบลช่วยด้วย ให้เขาภาวนาไปเรื่อยๆร่วมกับการจ้องจี้สามร่มโพธิ์ศรี อาการก็ดีขึ้นสัก 70% ตนเองก็คุยไปเรื่อยๆว่าเคยทำบาปอะไรมาบ้าง ถ้านึกออกเจ้ากรรมนายเวรเขาจะอภัย ในที่สุดเขาคิดถึงกรรมว่า ทำให้หมาตาย 1 ตัว (ตีหมาหรือขับรถชนไม่แน่ใจ)และทำให้แมวตายอีก 1 ตัว คิดได้แค่นี้หายเกือบหมด จึงให้คุณป้ากราบขอบคุณคนที่รักษาป้า คือ กราบ รูปอ.อุบล ที่หน้าปกธรรมทาน พอดีอจ.อยู่ข้างๆ ก็ให้คุณป้าไปกราบตัวจริง คราวนี้หายสนิท ขายืดตรงได้ เดินปร๋อกลับบ้าน นับเป็นคนแรกที่จี้ของจุ๋มรักษาหาย 100% ในที่สุดก็มีบุญธรรมบำบัด ไปให้เจ้ากรรมนายเวรเสียที ขออุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรของจุ๋มทุกๆท่าน และกราบขอบคูณ อจ.อุบล และน้องๆบ้านสวนที่ลุ้นอยู่เบื้องหลัง

ขอเล่าเรื่องเด็ดก่อนแระกัน 5555

ขอเถอะนะ...อาตมาอยากได้จี้ฯเหลือเกิน

น๊านนแน่ๆ หลายๆท่านที่อยู่ในเหตุการณ์อาจได้ยินเรื่องราวของหลวงพี่สมบัติ พระอภิญญากันบ้างละนะ

หลวงพี่สมบัตินั้นพวกเราเคยพบท่านเมื่อคราวก่อนที่วัดใหม่สันติธรรม จ.ลพบุรี มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อไปร่วมงานศพหลวงพ่อเสงี่ยม

ทำให้รู้ว่าท่านเป็นพระอภิญญา รู้เห็น สัมผัสเรื่องโลกทิพย์ได้เป็นอย่างดี และสามารถบอกเรื่องราวหลายๆอย่างเกี่ยวกับบ้านสวนฯได้ แต่พวกเราก็รับรู้อีกว่าท่านติดตามเรื่องราวบ้านสวนฯมาพอสมควรเลยล่ะกั๊บบ

มาคราวนี้มีโอกาสได้นั่งคุยกับท่าน ขณะที่ท่านนั่งคุยกับท่านอาจารย์อยู่ บักจ่อยเลยขอโอกาสเข้าไปคุยมั่ง

ป๊าดติโธ่.... พอหลวงพี่เห็นจี้3ร่มโพธิ์ศรีที่อยู่ในคอบักจ่อยเท่านั้นล่ะ ออกอาการเลย มองจ้องตาไม่กระพริบเลย

"หลวงพ่ออยากได้จี้อันนี้ หลวงพี่ขอนะ"

ป๊าด ป๊าด ป๊าดดด ฮ่วยย คือมาขอกันง่ายแท้น๊อ

"เอาเป็นว่าขอกันตรงๆเลย มาเจอพระมีความอยากอย่างฉัน ก็ขอกันเลย ว่ากันตรงๆ"

มีหรือบักจ่อยซึ่งรู้ว่าท่านได้มโนมยิทธิจะไม่รีบชิงถามท่านก่อน

"หลวงพี่มองเห็นอะไรบ้างครับ ทำไมอยากได้"

"ลองมาแล้ว สัมผัสมาแล้วก่อนหน้านี้"

"แปลว่าอะไรครับ หลวงพี่เห็นอะไรเหรอครับ"

"นี่นะ บารมีตั้งแต่พื้นทะลุจักรวาลเลย"

คือหลวงพี่ท่านพูดเรื่องนี้กับพี่น้องบ้านสวนฯด้วยว่า ท่านเห็นองค์พระศรีอาริย์ที่มีพระวรกายสูงใหญ่มหึหาสุดๆ ตั้งแต่พื้นทะลุจักรวาลเลย สูงใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุด สาธุๆๆ

"และพวกคุณทุกคนที่มีจี้องค์นี้นะ จะมีพลังกายทิพย์ครอบตัวเป็นสองชั้นเลย"

ป๊าดดด หลวงพี่เห็ดให้บักจ่อยอยากสิฮู้ขนาดเลย

"พระองค์ใดเหรอครับหลวงพี่ที่ครอบพวกผมอยู่"

"พวกเธอคิดถึงใครล่ะ เวลาที่พวกเธอใช้จี้นี้ช่วยคนพวกเธอน้อมจิตมาที่จี้ ขอบารมีพระองค์ใดล่ะ นั่นล่ะ"

โอ้วว บักจ่อยเข้าใจเลย เพราะพวกเราขอบารมีองค์พระปฐม พระศรีอาริย์ และพระเจ้าอยู่หัว และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วอนันตจักรวาล สาธุ สาธุ สาธุ

"ที่เห็นน่ะ มีแต่บารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุด ระดับจักรวาลทั้งนั้นเลย" สาธุ สาธุ สาธุ

"เอ้า ใครจะให้หลวงพี่นี่ อยากได้องค์นี้แหละ"

"อ้าวว หลวงพี่ขออีกแระ ขอกันแบบนี้เลยเหรอ"

"อยากได้ ก็ขอเลยล่ะ"  55555 อยากให้ทุกคนเห็นสีหน้าหลวงพี่จังครับ

ก่อนหน้านี้สักพักหลวงพ่อบอกให้ผมกระเถิบเข้ามาใกล้ๆและผมได้นำจี้ฯที่สวมอยู่ข้างในอีกจำนวนหลายองค์ออกมาให้ท่านดู เท่านั้นล่ะ พอผมเข้ามาใกล้ๆท่าน ท่านก็จับและรับพลังจากจี้ตลอดเวลาเลย

"แล้วท่านเห็นบารมีพระพุทธเจ้าไหมครับ"

"ไม่เห็นหรอก เพราะปกติจะไม่เห็น" เอ้า เดี๋ยวขอสัมผัส ขอบารมีท่านหน่อยนะ

ว่าแล้วหลวงพี่สมบัติก็จับจี้ฯแล้วตั้งจิตอธิษฐานขอชมบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ว่าแล้ว พอลืมตาขึ้นมา หลวงพี่ก็เอ่ยปากบอกทันทีว่า "จะมีรุ่นใหม่ออกมาอีกรุ่นแล้วเหรอ สภาวะบอกให้รู้ว่าจะมีอีกรุ่น แต่เล็กกว่านี้นะ"

ท่านอาจารย์ก็เรียนตอบไปว่า ยังไม่มี และรุ่นเล็กกว่านี้ก็ทำไปแล้วคือรุ่นสีทองงานบวงสรวงพระศรีอาริย์ แต่ขณะนี้ถือว่ารุ่นนี้ใหม่ล่าสุด

ว่าแล้วท่านก็ไม่พูดไรมาก "ใครจะถวายอาตมาละเนี่ย" 5555

โอ๊ยยย...จนท่านอาจารย์ได้อธิบายแก่หลวงพี่สมบัติว่า จี้3ร่มโพธิ์ศรีนั้น เจ้าของที่ได้มาอย่างถูกต้องเท่านั้นจึงจะสามารถใช้จี้นี้ได้ ไม่งั้นจะถูกปิดพลังหมด

ใครอยากฟังเรื่องราวจากหลวงพี่สมบัติโดยตรง สัปดาห์นี้ห้ามพลาด เพราะท่านอดใจไม่ไหว และจะมาบ้านสวนพีระมิด และท่านจะมาเพื่อวัตถุอะไรนั้น ม่ายบอกกก 5555 อยากรู้ต้องมาฟังเองเด้ออ

คิดเอาเองล่ะกันครับว่าเกิดอะไรขึ้น หลวงพี่สมบัติท่านได้มโนมยิทธิแต่ทำไมท่านถึงอยากได้จี้ฯมากขนาดนี้ จนออกปากขอครั้งแล้วครั้งเล่า แม้นว่าท่านจะเห็นผลการใช้จี้บำบัดพระในวัดใหม่สันติธรรมแล้วก็อาจเกิดความอัศจรรย์ใจ แต่ว่าผมมั่นใจว่าท่านต้องรู้หรือเห็นอะไรมากกว่าที่พวกเราคิดแน่นอน พระปฏิบัติอย่างท่านที่ตามปกติเน้นการปฏิบัติสมาธิมากกว่า แต่นี่กลับแสดงความชื่นชมและรับรองอานุภาพของจี้ถึงขนาดนี้ เรื่องนี้ไม่ธรรมดาแน่นอนต้องติดตามครับ...

ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวค่ะ

และขอร่วมอนุโมทนาบุญกับทุกท่าน

ที่ได้ไปร่วมบุญกับท่านอาจารย์อุบลด้วยนะคะ

ธรรมทานของพี่น้องเราที่ส่งไปที่บ้านสวนล่วงหน้า และทำถูกกฎ คือชื่อ ยศ อายุ การศึกษา การงานครบ ก็ได้แจกกันงานนี้เลย ขออนุโมทนากับ คนเขียน คนเย็บเล่ม คนสนับสนุนปัจจัยการเย็บเล่มทุกท่าน ทราบจากคุณเหมี่ยวว่าวันศุกร์นอนตีสอง และเมื่อตอนงานศพคุณตาก็ร่วมทำกันหลายๆท่าน อนุโมทนาบุญใหญ่ด้วยค่ะ

ขอร่วมอนุโมทนาบุญใหญ่กับพี่เหมี่ยวและ

ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการทำบุญธรรมทานครั้งนี้ด้วยนะคะ

ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับพี่ดร.จุ๋มด้วยนะคะ

ที่สามารถรักษาคนหายได้ 100%

หนูยังไม่เคยรักษาใครหาย 100% เหมือนกันค่ะ

ดีสุดประมาณ 80 %

สงสัยกำลังบุญหนูไม่พออาจบุญน้อยค่ะ

โมทนาบุญกับคุณเจี๊ยบ  หมอแป้น  คุณแม่ดารา

น้องชิมที่ได้เกี่ยวข้าวที่บ้านสวนด้วยนะคะ

จำได้ว่าพึ่งดำนากันตอนงานบวงสรวงพระศรีอารีย์

สุดยอดค่ะข้าวปลูกที่บ้านสวน 

เก็บเกี่ยวได้เร็วมากค่ะ

แหมคุณธนาเล่า ได้ออกรสชาติดีแท้

ขนาดคนกันเองยังติดใจ คนข้างนอกถึงอ่านไม่วาง

ทำให้ต้องติดตามตอนต่อไป อิ อิ

 พี่เจี๊ยบยังเป็นเสือปืนไวเหมือนเดิมเลย

ไม่ปล่อยให้ชาวเกาะ (กระทู้) คอยนาน

อนุโมทนาบุญกับทุกธรรมทานนะคะ

แต่อย่างไรก็รออ่านอยู่เรื่อยๆนะคะ 

******************

ว่าแล้ว พอลืมตาขึ้นมา หลวงพี่ก็เอ่ยปากบอกทันทีว่า "จะมีรุ่นใหม่ออกมาอีกรุ่นแล้วเหรอ สภาวะบอกให้รู้ว่าจะมีอีกรุ่น แต่เล็กกว่านี้นะ"

คิดเอาเองล่ะกันครับว่าเกิดอะไรขึ้น หลวงพี่สมบัติท่านได้มโนมยิทธิแต่ทำไมท่านถึงอยากได้จี้ฯมากขนาดนี้

ป๊าดดด.....ลุ้นๆๆๆ

อาจารย์อุบลช่วยด้วยขอให้ลูกบ้านสวนที่ไปร่วมกิจกรรม

พิมพ์ธรรมทานได้ 99 คำ/ นาทีด้วยเถอะ สาธุ สาธุสาธุ

                          ขออนุโมทนาบุญกับท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว

          ที่นำลูกบ้านสวนพีระมิคไปทอดกฐินที่วัดหลวงพ่อเสงี่ยม และขออนุโมทนาบุญ

          กับทุกๆท่านที่เดินทางมาและธรรมทานของทุกๆท่านด้วยนะค่ะ

                         และขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่สร้างบุญเกี่ยวข้าวที่บ้านสวน

          พีระมิค คงจะสนุกมาก ได้ทั้งบุญ ได้ทั้งความสุข  คงจะหาแดนบุญที่ไหน

         ไม่ได้อีกแล้วนอกจากบ้านสวนพีระมิค สาธุ  สาธุ  สาธุ

ขอเถอะนะ...อาตมาอยากได้จี้ฯเหลือเกิน

น๊านนแน่ๆ หลายๆท่านที่อยู่ในเหตุการณ์อาจได้ยินเรื่องราวของหลวงพี่สมบัติ พระอภิญญากันบ้างละนะ

หลวงพี่สมบัตินั้นพวกเราเคยพบท่านเมื่อคราวก่อนที่วัดใหม่สันติธรรม จ.ลพบุรี มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อไปร่วมงานศพหลวงพ่อเสงี่ยม

ทำให้รู้ว่าท่านเป็นพระอภิญญา รู้เห็น สัมผัสเรื่องโลกทิพย์ได้เป็นอย่างดี และสามารถบอกเรื่องราวหลายๆอย่างเกี่ยวกับบ้านสวนฯได้ แต่พวกเราก็รับรู้อีกว่าท่านติดตามเรื่องราวบ้านสวนฯมาพอสมควรเลยล่ะกั๊บบ

อะโห...ขนาดพระที่ได้ถึงอภิญญาท่านยังอยากได้จี้3ร่มโพธิ์ศรีเลยอ่ะ ไม่ธรรมดาอื้อหือ ไม่ธรรมดา อดไม่ไหวจนต้องเอ่ยปากขอ ใครที่มีจี้รุ่นนี้คงต้องรักษาไว้ให้ดีๆเด๋อ

น้องเบสก็ช่วยบำบัดหลวงตาที่ปวดขาจนมีอาการดีขึ้นมาก หลังจากหลวงตาได้กราบรูปท่านอาจารย์ ท่านเป็นพระ แต่ท่านยอมกราบรูปอาจารย์อุบล และเป็นผู้หญิงด้วยซี หากเป็นฆารวาสอย่างเราคงไม่แปลก เคสนี้ งึดหลายๆ ปกติพระจะกราบก็แต่พระพุทธรูป พอมากราบรูปท่านอาจารย์แล้วทำให้หายเจ็บป่วยได้ ป่านนี้จะหายงง..รึยัง 55555

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ ที่ได้ร่วมทอดกฐินกับท่านอาจารย์ สาธุ

  (ต่อ)

วันเสาร์ที่ผ่านมาได้ไปร่วมงานทอดกฐินกับท่านอาจารย์อุบลที่วัดใหม่สันติธรรมด้วยค่ะ นอกจากจะอิ่มเอิมใจกับบุญกฐินแล้ว พวกเรายังไม่รีรอที่จะเผื่อแผ่บุญไปให้เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ต่างคนต่างช่วยกันเข้าไปแจกธรรมทาน และได้ใช้จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรีบำบัดอาการเจ็บป่วยให้กับคนอื่น ๆ ภายในวัดอีกด้วย

เริ่มเข้ามาเขียนธรรมทาน

กันแล้วนี่นา

อนุโมทนา ด้วยนะคะ

ธรรมทานนี่แหละ เป็นบุญใหญ่สุด

ชนะการให้(ทาน)ทั้งปวง

ดังนั้น

ยิ่งทำ กรรมเก่า จะตามไม่ทัน

ถ้าหยุดทำ

หรือทำน้อยเมื่อไหร่

กรรมเก่า

ก็ตามทัน เล่นงานเมื่อนั้น

นะจ๊ะ

  อนุโมทนากับทุกธรรมทานด้วยนะคะ

รวมทั้งท่านที่ได้ร่วมจัดทำ  รูปเล่มธรมทาน

เพียงแค่ได้อ่าน ก็มีความสุขแล้ว

ยิ่งได้รับรู้ว่า อานุภาพของจี้องค์สฟิ้งซ์

เป็นที่รู้จักของคนมากมาย  และเป็นที่ต้องการ

ของทั้งพระสงฆ์  ทั้งฆราวาส สุดยอดเลยค่ะ

สาธุ  สาธุ  สาธุ

      เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาลูกบ้านสวนที่มาก่อนได้ร่วมกันเข้าเล่มธรรมทาน พิมพ์หน้าปกรูปท่านอาจารย์ออกมาสวยงามมาก เข้าเล่มประมาณ 500 ชุด ซึ่งใช้เวลาจัดรวมเล่มยังกะมืออาชีพเหมือนยกโรงพิมพ์มาทำที่บ้านสวน เพื่อให้ทันนำมาแจกงานทอดกฐินวัดใหม่สันติธรรม

      วันเสาร์ออกเดินทางมาวัดกะให้ทันทำกิจกรรม แจกธรรมทาน บำบัด ชั่งเป็นอะไรก็ไม่รู้รถติดแถวบ้านดงจำปา ต้องขยับไปทีละนิดทีละคืบ กว่าจะถึงวัดได้ผู้คนทยอยกลับแล้ว พากันเก็บแต้มได้ไม่จุใจ แต่ก็ยังเหลือเคสที่ได้บำบัดพระคุณเจ้าและตายายทั้งหลายที่รู้ว่าคณะบ้านสวนท่านอาจารย์อุบลมาแน่ๆ ได้ยินว่าคราวที่แล้วตกขบวนไม่ได้บำบัด มากันเป็นรถบัสเมื่อตอนที่สวดอภิธรรมหลวงพ่อ แหมชั่งน่าเสียดาย แต่ยังไงก็ไม่ปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์แม่น้อย บุกไปบำบัดบ้านแถวหน้าวัดได้หลายรายเลย สาธุด้วยครับ

      กลับมาที่ตลาดโคกสำโรงเก็บเเต้มกันได้อีก 4-5 ราย มีท่านหนึ่งเป็นผู้หญิงนั่งหน้าบ้านแววตาดูแข็งดุดันเหมือนเจ็บปวดภายใน ข้างตัวมีไม้ช่วยพยุงเดินวางอยู่ คุณป้อม กััับ คุณตัวเล็ก เข้าไปสอบถามอาการทำการบำบัด เขาพยามถามเสียเงินหรือเปล่า รักษาฟรีๆ มาไม้ใหนกัน แต่ประตูจิตเขาเปิดร่วมมือทำตามคำแนะนำ อาการตาดุหน้าดำเครียด ก็ใสดวงตาอ่อนโยนลง เดินกลับบ้านแทบไม่ต้องใช้ไม้เท้าเลย เดินตัวปลิว

      ช่วงที่ขับรถกลับบ้านสวนบนท้องฟ้ามีลูกไฟเคลื่อนที่ฉายไปมาอยู่หลังก้อนเมฆ สักพักใหญ่ก็ไม่เห็น ลักษณะเห็นเหมือนที่บ้านสวนเลย  

ใครที่ไปทอดกฐินกับท่านอาจารย์ในวันเสาร์ ก็เข้ามาเหลานะคุ่ะ

เจี๊ยบขอเป็นชาวเกาะด้วยคนค่ะ

เล่าธรรมทานของวันอาทิตย์ดีกว่าค่ะ

วันอาทิตย์นี้จะต้ิองเร่งสร้างอาคารใหม่อย่างด่วนค่ะ

คุณธนาเลยแบ่งสมาชิกกันเป็น 4 กลุ่ม โดยมีทั้งหมด 3 ฐาน

คือฐานเข้าเล่มทำหนังสือธรรมทาน  ฐานก่อสร้าง และฐานเกษตรที่ต้องไปเกี่ยวข้าวที่เหลือให้เสร็จ

ส่วนเจี๊ยบช่วยเข้าเล่มหนังสือธรรมทานค่ะ ไม่ได้ย้ายฐาน เพราะต้องเร่งเข้าเล่มให้เสร็จ แม้ว่าการเข้าเล่มธรรมทานจะดูเป็นงานง่ายๆ แต่งานทุกอย่างก็ต้องใช้ปัญญาทั้งสิ้น ไม่งั้นผลงานก็จะออกมาไม่ดี

หนังสือธรรมทานมี 2 แบบ ปกหนังสือก็จะใช้กันคนละแบบ ซึ่งลายละเอียดบนหน้าปกจะต่างกันนิดเดียว ดังนั้นเวลาเราจะเอาหนังสือเข้าปกก็ต้องใช้สมาธิในการเข้าเล่ม ไม่งั้นหน้าปกกับเนื้อหาในหนังสือจะเป็นคนละเรื่องเดียวกัน เมื่อพี่เหมี่ยวใช้แม็กยิงปกแล้วจะเกิดความเสียหายในการต้องมารื้อออก แล้วยิงใหม่ให้ถูกต้อง ซึ่งจะทำให้ปกนั้นช้ำไม่สวย

เราทำไปก็ริ้อไปตั้งเยอะ เพราะตอนแรกใส่ปกผิดเล่มเยอะมาก ต้องใช้ความประณีตในการแกะ เพื่อให้ปกช้ำน้อยที่สุด เห็นไหมค่ะว่าทำสิ่งใดก็แล้วแต่ต้องเอาหัวใจใส่ลงไปในงาน แล้วจะได้รับผลดีค่ะ

วันนี้คงพักฟื้นกันนะ

เดี๋ยวพรุ่งนี้

คงจะเยอะกว่าวันนี้

พวกเราอดนอนกันเก่งน่าดู

อย่างนี้นะ

วันที่เกิดภัยพิบัติรับรอง

ไม่เผลอหลับ เพราะฝึกกันไว้แล้ว

ส่วนคนนอนขี้เซา

ก็สบายไปอย่าง นอนตายตาหลับ

เพราะไม่รู้สึกตัว ไม่ต้องกลัวอะไรดี

ทอดกฐินที่วัดใหม่สันติธรรมในปีนี้

ขอบอกประทับใจในความน่ารักของบรรดาแม่ครัว

ทุก ๆ คน ต่างรอคอย และดีใจอย่างมาก

ที่ท่านอาจารย์ไปทอดกฐินในปีนี้

จนต้มไข่ที่พวกเราเอาไปให้ถึง 5 ถาด

เพื่อเป็นการต้อนรับพวกเรา 555

และบรรดาทีมแพทย์เคลื่อนที่เร็วของบ้านสวน ฯ

ก็แบ่งกันทำงานเป็นทีม ทั้งแจกธรรมทาน

และรักษา ผู้คนทั่วไปทั้งในวัดและนอกวัด

เรียกว่าออกเยี่ยมผู้ป่วยตามบ้านกันเลยทีเดียว

ยังมีทีมที่เก็บขยะ ทำความสะอาด

ดังนั้นปีนี้พวกเราจึงอิ่มบุญกันถ้วนหน้า

เพราะท่านอาจารย์ถวายมหากฐิน

และ พาทำบุญอื่น ๆ อย่างครบครัน

ได้ร่วมบำบัดทีมแม่ครัว 2 ราย

บำับัดพร้อมกันโดยให้มองจี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี 

รายแรกปวดเมื่อย และ แน่นหน้าอก

มองจี้ไม่ถึง 20 วินาที โล่ง หาย 100%

อีกรายปวดท้องมา 2 ปี แล้ว

มองจี้หาย 80% ใช้ "รหัส อ.อุบลช่วยด้วย" หาย 100%

จึงให้ขอบคุณท่าน อ.อุบล และ เทวดาที่รักษาท่าน อ.อุบล

รู้สึกว่าช่วงนี้ ไม่ว่าจะแนะนำ รหัส "อ.อุบลช่วยด้วย"

หรือ ว่าบำบัดผู้คนโดยใช้จี้รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี

จะได้ผลอย่างรวดเร็ว ส่วนพวกที่จิตไม่เปิด

ไม่เชื่อ ก็จะแสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจน 

ประเภท "บอกบุญไม่รับ" จริง ๆ

ขอเล่ากิจกรรมในสัปดาห์นี้ครับ

เดี๋ยวมาต่อน่ะครับ

เมื่อวันเสาร์นี้เดินทางถึงบ้านสวนราว 8.30น

ใด้ร่วมเดินทางไปทอดกฐินกับท่านอาจารย์อุบล อาจารย์มงคล คุณท้อปพร้อมกับญาติธรรมแห่งบ้าสวนหลายๆคน

ใด้นั่งรถไปกับ ดร.จุ๋ม ดร.จิ๋ม คุณฉันและ น้องปอ  พอไปถึงวัดใหม่สันติธรรมพวกเราทุกคนต่างมีหน้าที่เป็นของตัวเอง

ภาใด้เดินแจกธรรมทานให้กับญาติโยมที่มาร่วมบุญที่วัด ทุกๆๆคนรับธรรมทานกันอย่างมีความสุข

หลังจากนั้นท่านอาจารย์ นำทอดกฐิน มีพระองค์หนึ่งพูดว่ากฐินรับใด้แค่ครั้งเดียวนะ หลังจากนั้นเป็นสังฆทาน

ท่านอาจารย์บอกว่ามันอยู่เจตตนา เรามีเจตตนาจะทอดกฐินนะ ท่านก็รับ

หลังจากนั้นลูกบ้านสวนก็ออกบำบัดทุกข์ให้กับชาวบ้านที่มีอาการเจ็บป่วยกันอย่างเต็มความสามารถ

ภามาประทับใจการบำบัดอาการเจ็บป่วยของชายนิรนามคนหนึ่ง

ตอนเเรกรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้น่ากลัวมาก นั่งอ่านธรรมทานที่เราลูกบ้านสวนแจกประมาณ หน้าสองหน้า ก็มองหน้าท่านอาจารย์อย่างหน้ากลัว แบบเพ่งเลย( ด้วยสายตาและความคิดของเรา ) ต้องมองผู้ชายคนนี้ไว้ต้องมีอะไรแน่ๆๆเลย  พอไปห้องน้ำกลับมา

เห็นคุณธนากำลังบำบัดชายนิรนามอยู่ว่า ปวดหลัง เจ็บหน้าอก ซ้าย ขวา  อ้าวเขาไม่สบายอยากให้ช่วยนี่เอง (กังวลตั้งนานนะเรา)

คุณธนาไต่สวนกรรมเขาเคยฆ่า ไก่ เป็ด หมู วัว งู เท่าที่จำใด้นะค่ะ อาการเขาดีขึ้น50%  เคยผิดศีลข้อกาเมด้านความคิดหลังแต่งงานอาการดีขึ้น 60%

แล้วพี่เหมี่ยวถามเพิ่มทำกรรมอะไรอีกป่าวพูดมาให้หมดจะใด้หาย พี่ชายมองซ้าย แลขวา บอกว่าเคยฆ่าคนมาสามคน อายุความยังไม่หมดเลยพูดเบาๆๆ

คนเเรกใช้ขวานสับไปที่หน้าอกด้านขวา คนที่สองใช้ขวานตวัดไปที่ท้องใส้ทะลัก ไปตายที่โรงพยาบาล คนที่สามนี้สับที่หน้าอกข้างซ้ายเท่าที่จำใด้นะค่ะ

หนังจากนั้นมาก็หนีคดีรอดมาตลอด  แต่หนีกฎแห่งกรรมไม่ใด้  เพราะท่านยุติธรรมกับเราทุกคน เขาเลยปวดหลัง ปวดท้อง เจ็บหน้าอกมาก ทำกรรมอะไรไว้ก็ใด้อยางนั้น ถึงขั้นนอนพื้นไม่ใด้เลยเป็นเวลาห้าเดือน รักษามาเ็นสิบๆๆปีก็ไม่หาย พอสารภาพมาถึงตรงนี้อาการดีขึ้นอีกนิดหน่อยเลยให้ไปหาท่านอาจารย์อุบลเลยแล้วกัน ท่านอยู่ตรงนี้แล้ว

แล้วพี่เขาก็ไปสารภาพกับท่านอาจารย์ พร้อมกับความสำนึกผิดของเขา  และพี่เขาคงใด้รับความทุกข์มานานเเสนนานเป็นสิบปี ท่านอาจารย์เมตตาเบิกดวงวิญญาณ สามคนนั้นขึ้นมาให้พี่เขาขออโหสิกรรม พร้อมกับท่านอาจารย์ให้บุญของท่านอาจารย์ไปด้วย

ชายนิรนามก้มลงกราบท่านอาจารย์ ใด้คล่องขึ้น อาการปวดหลังเบาลง ลุกใด้คล่องตัวอย่างเห็นใด้ชัด หน้าใสขึ้นในพริบตาเป็นหนุ่มขึ้น ไม่ใด้น่ากลัวเหมือนตอนแรกที่เราเห็นแม้แต่นิดเดียว  มองใบหน้าเขามีความสุขมากขึ้น

ลูกบ้านสวนนี้น่ารักกันทุกคนเลยนะค่ะ เห็นใครมีทุกข์ไม่ใด้ต้องเข้าไปช่วยเหลือ มีน้ำใจแบบนี้หาที่ใหนไม่ใด้แล้วค่ะ นอกจากบ้านสวนพีระมิด

    เสาร์ที่ 17พ.ย.ได้ไปร่วมทอดกฐินกับท่านอาจารย์อุบลที่วัดใหม่ สันติธรรม จ.ลพบุรี งานนี้นอกจากอิ่มบุญแล้วยังได้ใช้จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรีช่วยบำบัดชาวบ้านที่มาทำบุญด้วย คณะของทัศน์ไปถึงวัดก่อนเกือบบ่ายโมงเพราะรถติดมาก หลังจากช่วยกันขนเสบียงอาหารกลางวัน(ไข่ไก่ เครื่องปรุง ผักบุ้ง)ไปที่ครัววัด  ระหว่างที่รออาจารย์และคณะอื่นๆ  ลูกบ้านสวนเราไม่ยอมปล่อยให้เวลาเสียเปล่า  แน่นอนรีบเดินตรงดิ่งเข้าไปทักทายแม่ครัว  ถามอาการเจ็บป่วยต่างๆ แต่แม่ครัวชุดนี้แข็งแรงทุกคนไม่มีใครเจ็บป่วยเลย จึงไปเดินแจกธรรมทานรวมเล่มเรื่องการกราบและปรามาสอ.อุบล ป้าคนแรกที่ได้รับธรรมทานมีปัญหาปวดหลังชาลงขา ก่อนบำบัดขอไปตามเพื่อนก่อน ป้าคนนี้ช่างมีน้ำใจงามจริงๆคอยห่วงใยเพื่อนอยากให้เพื่อนหายด้วย  เลยพากันเดินหาเพื่อนจนเจอ ทำให้มีโอกาสแจกธรรมทาน บำบัดหมู่และเผยแพร่รหัสจักรวาล จำนวนพี่ๆป้าๆทั้งหมด 6 คนที่รับการบำบัดต่างเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง คือ ปวดหลัง ปวดเข่า ปวดขา ปวดเมื่อยทั้งตัว หูอื้อ การบำบัดขั้นตอนแรกให้ทุกคนมองที่จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรีนาน 1 นาทีแล้วเช็คอาการ  ถ้าไม่หายจึงใช้รหัสจักรวาลอ.อุบล ช่วยด้วย  ผลการบำบัดหายทันที 100%จำนวน 3 คน ที่เหลือหาย 50-90% ต้องใช้รหัสจักรวาลต่อจึงหาย 95-100% ดังนี้คือ

1.นางดาววง สุวรรณ์คล้าย ปวดเข่า บำบัดหายทันที 100%

2.นางปราณี คงเจริญ ปวดหลัง ปวดเข่า บำบัดหายทันที 100%

3.นางบุญช่วย เกิดแก้ว ปวดหลังชาลงขาขวา บำบัดหายทันที 100%

4.นางบัวโรย ปู่โท ปวดเข่า บำบัดหายทันที 100% หูอื้อหาย 90% หลังใช้รหัสจักรวาลอ.อุบล ช่วยด้วย หายหูอื้อ 100%

5.นางจำปี อ่อนอิ่ม ปวดเมื่อยทั้งตัว บำบัดหาย 80% หลังใช้รหัสจักรวาลอ.อุบล ช่วยด้วย หาย 98%

6.นางพรรณี ปานขลิบ ปวดขา บำบัดหาย 50% หลังใช้รหัสจักรวาลอ.อุบล ช่วยด้วย หาย 95%

  การที่ทุกคนหายจากโรคเรื้อรังแบบฉับพลันทันทีเพราะจิตเปิดและศรัทธาเต็มร้อยจึงได้รับบารมีจากสมเด็จองค์ปฐมบรมธรรมบิดา บารมีพระศรีอาริย์ บารมีในหลวง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วอนันตจักรวาลที่อ.อุบลอัญเชิญมา  งานบุญวันนี้ทำให้พี่ๆป้าๆทั้งหลายเดินกลับบ้านด้วยความสุขกายสุขใจ เราผู้ให้การบำบัดก็สุขใจและภูมิใจที่ได้ช่วยบรรเทาทุกข์แก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

  ขออนุโมทนากับทุกๆคนนะคะและอนุโมทนากับพี่เปลว พี่แป้นที่เสียสละอยู่เกี่ยวข้าวที่บ้านสวนและคนอื่นๆด้วยค่ะ

 แกสารภาพว่าแกฆ่าคนตาย มา 3 คน

วันนี้ได้เข้าไปดูคลิปวีดีโอทั่วไปและได้พบคลิปวีดีโอ "พุทธทำนายโดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ๑ และ ๒" ปรากฏขึ้นมาทางด้านขวามือและเป็นคำสอนที่ปฏิบัติตามได้ง่าย เหมือนดั่งคำสอนของอ.อุบล ที่สอนให้พวกเราเข้าใจได้ง่าย จึงนำมาฝากทุกท่านค่ะ

พุทธทำนายโดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ๑

http://www.youtube.com/watch?v=Iqfm_DTvGos&feature=relmfu

พุทธทำนายโดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ๒

http://www.youtube.com/watch?v=jdXu9weqLao&feature=relmfu

ขออนุโมทนาบุญกฐินที่อ.อุบล และ ทุกท่านที่ได้ไปร่วมกฐินค่ะและขออนุโมทนาทุกๆธรรมทานด้วยนะค่ะ

 "หลวงพ่ออยากได้จี้อันนี้ หลวงพี่ขอนะ"

ป๊าด ป๊าด ป๊าดดด ฮ่วยย คือมาขอกันง่ายแท้น๊อ

5555+ ไอเราก็ลุ้นอยู่ตั้งนานแน่ะ 

ท่าทางหลวงพี่จะอยากได้น่าดูเลยนะคะเนี่ย อิอิ

แม้แต่พระที่ได้อภิญญาแล้ว

ก็ยังอยากครอบครองเป็นเจ้าของจี้รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี

แสดงว่าอานุภาพจี้นี้

ต้องมีอานุภาพยิ่งกว่าอภิญญาที่หลวงพี่ได้อยู่แน่ๆเลย

เป็นอีกหนึ่งเคสที่มายืนยันบารมีจากจี้รุ่นนี้

ว่ายิ่งใหญ่ มากมายมหาศาล หาปริมาณไม่ได้เลย

ว่าแล้วก็อุ่นใจจังที่เราก็มี อิอิอิ

อนุโมทนากับทุกๆท่านด้วยนะคะ

สาธุ สาธุ

คือ หลวงพี่ท่านพูดเรื่องนี้กับพี่น้องบ้านสวนฯด้วยว่า ท่านเห็นองค์พระศรีอาริย์ที่มีพระวรกายสูงใหญ่มหึหาสุดๆ ตั้งแต่พื้นทะลุจักรวาลเลย สูงใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุด สาธุๆๆ

"และพวกคุณทุกคนที่มีจี้องค์นี้นะ จะมีพลังกายทิพย์ครอบตัวเป็นสองชั้นเลย"

................................

อ่านแล้วก็ไม่แปลกใจเลยนะคะว่า

ทำไมหลวงพี่ท่านนี้ถึง"อยากได้"

จี้สามร่มโพธ์ศรีของบ้านสวนฯยิ่งนัก

แล้วยิ่งได้อ่านคำอธิบาย

แบบชัดๆจากหลวงพี่แล้ว

ก็ทำให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นว่า

ทำไม พลังของจี้รุ่นนี้

ถึงได้มากมายมหาศาล

เหนือคำบรรยายขนาดนี้ 

เมื่อก่อนอ่านแต่้ข้อความและคำอธิบายถึงที่มา

ก็เข้าใจได้ในระดับหนึ่ง

แต่พอท่านหลวงพี่(อภิญญา)

มาอธิบายให้เห็นภาพประกอบ

ก็ถึง"บางอ้อ"เลยทันที

......................................

ขอบคุณทุกๆธรรมทาน

จากทุกๆท่านที่มาสะท้อน

ให้ชาวเกาะได้อ่าน

ได้รับรู้กันคนละมุมสองมุมด้วยนะคะ

เพราะทำให้ได้เห็นภาพ

การทำงานของ ส.ส.ลูกบ้านสวนฯ

ได้ละเอียดเลยทีเดียว...

ว่าแต่เคสของคุณลุงหน้าโหด

อ่านแล้วก็"อึ้ง" จริงๆเลยนะคะ

เหมือนเป็นเคสที่เบื้องบนจัดมา

ให้ได้มาพบท่านอ.อุบล โดยเฉพาะเลย

แล้วประวัติ(กรรม)ของคุณลุง

ก็ไม่ธรรมดาซะด้วยสิ

โหดกว่าหน้าตาอีกมั้งคะเนี่ย 

แต่ขั้นตอนการบำบัด

(ที่ไม่ได้วางแผนมาก่อน)

ค่อนข้างลงตัวมากเลยนะคะ

เพราะคุณลุงได้รับธรรมทานไปอ่านก่อน

ก็เลยพอจะได้รู้จักท่านอาจารย์อุบล

ก่อนในระดับหนึ่ง

แล้วก็มีเวลาได้คิดและทำความเข้าใจ

พร้อมกับยอมรับ

กฏแห่งกรรมด้วยอีกระดับนึง

และพอเหตุและปัจจัยเหมาะสม

ก็ได้จังหวะลูกบ้านสวนฯ

เข้าไปสอบถามอาการ เพื่อบำบัด

และสุดท้ายด้วยพลังบุญ

และพลังเมตตาอันมหาศาลจากท่านอ.อุบล

ก็ส่งผลให้คุณลุง จิตเปิดเต็มที่

มีจิตสำนึกเต็มร้อย

วิบากกรรมที่รับมานานแสนนาน

ก็ลดลงไปอย่างฮวบฮาบได้ในทันที

สาธุ

คือหลวงพี่ท่านพูดเรื่องนี้กับพี่น้องบ้านสวนฯด้วยว่า ท่านเห็นองค์พระศรีอาริย์ที่มีพระวรกายสูงใหญ่มหึหาสุดๆ ตั้งแต่พื้นทะลุจักรวาลเลย สูงใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุด สาธุๆๆ

"และพวกคุณทุกคนที่มีจี้องค์นี้นะ จะมีพลังกายทิพย์ครอบตัวเป็นสองชั้นเลย"

เข้าใจแล้วค่ะว่าทำไมจี้รุ่นนี้แค่มองก็ทำให้คนหายป่วยได้

เพราะพลังของจี้มากมายหาประมาณมิได้นี้เองค่ะ

รู้สึกมั่นใจและอุ่นใจค่ะที่ได้มีโอกาสได้บูชาค่ะ

ขอบพระคุณทุกท่านค่ะ

และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ ขอมาเล่าธรรมทาน กิจกรรมวันเสาร์-อาิิทิตย์ ที่ผ่านมาบ้างครับ

     วันเสาร์พวกเราได้ออกเดินทางเพื่อไป ร่วมงานกฐิน ที่ วัดใหม่สันติธรรมโดยที่พวกเราได้แบ่งงานกันอย่างเป็นระบบคือ แบ่งกลุ่ม เช่น เดินแจกธรรมทาน บำบัด ผู้คนในงาน บำบัดชาวบ้านระแวกนั้น

     ซึ่งวันนั้นพวกเรากว่าจะไปถึงก็ เกือบจะไม่ทันกันเลยทีเดียวครับ ผู้คนเริ่มเบาบางลงมาก ส่วนกลุ่มที่ไปถึงก็เตรียม ยกข้าวของ เช่นอาหาร ธรรมทาน โต๊ะ พวกผมไปถึงก่อนก็ไม่รอช้าครับเิดินหาคนบำบัดทันทีเพื่อไม่ให้เสียเวลา

    คนแรก คุณสมทรง ภูมิทัศน์ ระหว่างที่ผมกำลังจัดโต๊ะนั้น ก็มีพี่คนนึง ด้อมๆ มองๆ หนังสือ ที่พวกเรากำลังจัดอยู่ ตามองตาก็ไม่ปล่อยให้พี่จากไปแน่ๆ ครับ ้ต้องบำบัดสักหน่อย ผมก็เรียกเลย พี่ๆๆ สนใจหนังสือหรอครับแจกฟรี ครับ ต่อด้วย มีอาการเจ็บป่วยตรงไหนไหมครับ พี่เขาก็บอกว่า ปวดแขน ผมก็บำบัด แกบอกว่าโล่งมากๆ แถมยังบอกว่า นี่นะไปหาหมอมา 3 ที่ แล้วก็ยังไม่หาย ดูพี่เขาศรัทธามากครับ ก็เลยถามต่อว่ายังเหลืออาการอะไรอยู่ไหม ก็บอกว่าปวดหัว ก็บำบัดจนหายอีก แต่พี่เขาดูไม่สามารถบอกเป็นเปอร์เซนต์ได้ แถมถามเรื่องกรรมก็ บอกว่า ไม่เคยทำมาบาป ก็เลยบอกให้เขากราบรูป ท่านอาจารย์อุบล ที่เป็นหน้าปกทุกวันนะ แล้วก็บอกรหัสต่อๆ ไป จะได้เป็นการสร้างบุญต่อๆไป

     คนที่สอง คุณกานต์จุฆา ศุภกาญจน์ เห็นพี่เขาเดินลงมาก็รีบเดินเข้าไปหาทันที ไม่รีรอครับ คนนี้ ดูเขาจิตเปิดมากๆ มีอาการปวดขา ใช้แ่ค่รหัสอ.อุบลช่วยด้วย กับ มองจี้ก็หายเกือบร้อยเปอร์เซนต์ พอบำบัดเสร็จก็บอกเรื่องสาเหตุ ที่ทำให้ปวดเท้าเช่น เคยเตะ ถีบใคร แม้แต่คิดไหม ใช้เ้ท้าแทนมือ คนนี้สนใจมาก ถึงกับขอธรรมทานไปให้พ่อแม่ พี่น้องอีก 4 ชุดเลย ทำให้เข้าใจเลยครับ ว่าแค่เปิดใจ ก็หายได้ง่่ายๆ จริงๆ ด้วยพระบารมีสมเด็จองค์ปฐม พระศรีอาริย์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์จริงๆ

     มาถึงอีกเคสนึง ที่น่าสนใจมากๆ คือ พี่นักฆ่า 3 ศพ พี่คนนี้แกนั่งอ่านธรรมทานอยู่นานแล้ว ผมไม่รู้ว่าพี่เขาบำบัด หรือยังเลยเดินเข้าไปถามครับ ว่าพี่เป็นไงบ้างได้บำบัดหรือยัง พี่เขาก็ตอบว่ายังเลย สนใจอยู่ แต่ยังไม่มีคนเข้ามา ก็ได้ทีเลยครับ บำบัดทันที แต่ดูเหมือนไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ ได้แค่ประมาณ 10 - 20 เปอร์เซนต์เท่านั้น ทำเอาผมงงเลย แต่ก็ไม่แปลกเลยครับ เพราะบางคนไม่ได้ผลก็มีเหมือนกัน สุดท้ายก็เลยถามเรื่องกรรมที่ทำดูแกก็ยังไม่กล้าพูดมากนักนะครับ ผมถามว่า พี่เคยฆ่าสัตว์อะไรมาบ้าง พี่เขาก็บอกว่า เยอะ

     สักพัก พี่ธนา เข้ามาเสริม จำนวนจี้เพิ่มขึ้น ตามมาด้วยพี่เหมี่ยว อาการก็ดีขึ้นมาอีก สุดท้ายเลยสารภาพว่า ฆ่าคน เมื่อตอนทำอาชีพก่อสร้าง เป็นคนเขมร ตอนนั้น 2 ศพ ต่อเนื่อง ใช้อาวุธขวาน ฟันที่หน้าอกคนแรก พออีกคนจะเข้ามาช่วยก็ใช้เท้าถีบคนแรกออกเอาขวานไปฟันท้องคนที่มาช่วย รวมๆแล้ว ที่เคยฆ่าก็ 3 ศพ ไม่รวมสัตว์อื่นๆ ทั้ง งู และสัตว์เล็กสัตว์เล็กอีกเพียบแรกๆที่เขาสารภาพเรื่องฆ่าคนนี่ ยังไม่กล้าพูดดังเพราะ ยังติดคดีอยู่ ทำให้รู้เลยครับ แม้จะหนีกฏหมายได้แต่ หนีกฏแห่งกรรมไม่พ้นจริงๆ สุดท้ายก็เลยให้พี่เขาไปสารภาพบาปกับอาจารย์โดยตรง ก็ยังไม่หาย แต่สีหน้าพี่เขาดูสว่างขึ้นมากครับ และเจ้ากรรมนายเวรก็คงต้องการบุญแรงกายจากพี่เจ้ากรรมนายเวรค้องการจากพี่เขาก็คงเป็น การสำนึกผิดอย่างแท้จริงผมคิดว่าการที่พี่เขาหนีคดี มันก็เหมือน ไม่สำนึกถึงความผิดในระดับหนึ่ง แต่เชื่อว่า ชีวิตพี่เขาดูมีความหวังในการหายมากขึ้นและมีโอกาสได้หลุดกรรมสักที

(เดี๋ยวไว้มาเหลาต่อครับ)

ขออนุโมทนาบุญกับครอบครัวอาจารย์อุบลและทุก ๆ ท่านที่ได้ร่วมบริจาคเงินทำบุญกฐินและไปร่วมงานกฐินในครั้งนี้ค่ะ 

รวมทั้งขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ร่วมกันทำบุญแรงกายที่บ้านสวนฯในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ผ่านมา และบุญกุศลที่ทุกท่านได้รับจากการเขียนธรรมทานในครั้งนี้ ค่ะ 

กราบอนุโมทนาบุญกฐิน กับท่านอ.อุบล

และลูกบ้านสวนที่ไปร่วมบุญกฐินวัดใหม่สันติธรรม ค่ะ

อนุโมทนาบุญกับทุกๆธรรมทาน

ไม่ว่าจะเป็นการเกี่ยวข้าวที่บ้านสวนพีระมิด

เวลาที่หนิงไปสร้างบุญก็จะเห็นแต่แปลงเกษตร

ไม่เห็นนาข้าว (มีตาหามีแววไม่)

 เข้าใจว่าเกี่ยวกันเสร็จหมดแล้ว

ว่าแต่นาข้าวอยู่ตรงไหนเนี่ย????

อ่านบรรยากาศวันงานทอดกฐินที่แต่ละท่านเขียน

เหมือนตัวหนิงได้เข้าไปอยู่ในงานด้วย

เล่าบรรยากาศเหมือนจริงมากๆค่ะ

    อ่านมาเจอตรงที่อ.อุบลได้กล่าวไว้ เรื่องคุณสมบัติของคนดี ก็พยายามนึกว่าน่าจะมีอะไรบ้าง แต่ไม่ครบค่ะ เอาเป็นว่าเปิดหนังสือ จุไรท่องเที่ยวดวงดาวกันเลยดีกว่า ได้ความดังนี้ค่ะ  กรรมบถ 10

1.   ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ทรมานสัตว์

2.   ไม่ลักทรัพย์

3.   ไม่ประพฤติผิดในกาม

4.   ไม่พูดมุสาวาท

5.   ไม่พูดคำหยาบ

6.   ไม่พูดส่อเสียด ยุยงให้เขาแตกร้าวกัน

7.   ไม่พูดวาจาเหลวไหล

8.   ไม่คิดประทุษร้ายใคร

9.   ไม่อยากได้ทรัพย์สมบัติใคร

10.                รักษาความดีให้ทรงตัว

     หลวงพ่อฤาษีกล่าวตอนท้ายว่า”ถ้าปฏิบัติได้เพียงเท่านี้ลูกรักจะสามารถไปได้ทุกภพทุกสถานที่...” อ่านแล้วการทำความดีเป็นคนดีมีเรื่องน่าสนุกๆอย่างนี้นี่เอง

ขออนุโมทนาบุญกับคุณเจี้ยบคุณเปลวและคุณแป้นด้วย

ที่ได้ช่วยเกี่ยวข้าวกันจนเกือบเสร็จ

ผมก็ไม่ได้ไปร่วมทอดกฐินกับคณะ เหมือนกัน

ก็ถือโอกาสขออนุโมทนาบุญด้วยครับ  ผม เข้ามาบ้านสวนฯ

ตอนกลางคืนวันเสาร์เวลาประมาณ  20.30น.

ก็ได้พบ  3  ท่านอยู่เกี่ยวข้าวกัน  

เข้าวันอาทิตย์ไปที่แปลงเกษตรก็ได้ไปปลูกบวบเหลี่ยม  6ต้น 

มะระจีน  4 ต้น  บวบงู  4  ต้น   พริกพระพิโรธ   2  ต้น

หลังจากนั้นก็เป็นกิจกรรมหลังรับประทานอาหารเช้า 

กลุ่มที่รับผิดชอบงานเกษตร  ก็ได้ไปรวมกันเกีี่ยวข้าว

และขนข้าวมาตากทางหน้าบ้าน 

ช่วงบ่ายทำการนวดข้าวโดย  การฟาดข้าว ทำได้ประมาณ 3ส่วน

ที่เหลือตากใว้ 

ส่วนข้าวพันธ์ุพระราชทาน มี  กข. 47กับ สุพรรณ 1

ได้เก็บเมล็ดพันธ์ุใว้แล้ว  ผลการทำนาในครั้งนี้พบว่า 

  แปลงที่ใส่หญ้าและแปลงที่ใส่ใบไม้ลงไปในนาจะให้ผลผลิต              ที่ดีกว่าแปลงที่ไม่ได้ใส่.

ส่วนปลงที่ใส่ปุ๋ย  ไบโอแก๊สหลังดำนา  ในสับดาห์แรกให้ผลดีกว่าแปลงที่ให้สับดาห์ที่สอง  และข้าวหอมนิลเป็นชนิดข้าวนาปรัง

ไม่ใช่ข้าวนาปี  จะออกรวงเร็วและแก่เร็ว ถ้าเกี่ยวข้าวช้า

ข้าวจะร่วงและรวงหักแช่น้ำจะเห็นได้จากที่พวกเราได้เก็บข้าวกันมา    จะมีข้าวงอกในนาและตามรวงข้าวติดมาด้วย

สรุปว่า  การปลูกข้าวหอมนิล ควรเพาะกล้าแค่  20  วันจึงย้ายปลูก

การเตรียมดินต้องใส่ใบไม้/หญ้าแห้งและหลังจากดำนาแล้วต้องรีบใส่ปุ่ยน้ำทันที

**************

 ส่วนวันอาทิตย์ที่ 18 พ.ย. 55

เ สาร์-อาทิตย์นี้   

             ก่อนอื่นขอร่วมอนุโมทนาบุญกฐินและธรรมบำบัดที่    วัดหลวงพ่อเสงี่ยม กับท่านอาจารย์อุบลฯและคณะลูกบ้านสวนฯ    ทุกท่านด้วยนะค่ะ/   ได้เข้ามาบ้านสวนฯตอนประมาณ  20.30น.    พบคุณเจี๊ยบ  คุณเปลว คุณแป้น คุณดาราและคุญซิม รับทราบว่า    ได้เกี่ยวข้าวกันไปหลายแปลงแล้ว  แหม!เก่งจัง   ก็ขออนุโมทนา   บุญด้วยน๊ะค๊ะ/

         วันอาทิตย์ กิจกรรมกลุ่มก็ได้เริ่มขึ้้นเวลาประมาณ  8.00น หลังจากที่พวกเราได้ รับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ก็ได้แยกย้าย  กันไปตามกลุ่มโดย ได้เริ่มที่งานแรกจัดทำเอกสาร ธรรมทาน  ช่วย  กันจัดทำรูปเล่ม ใช้เวลาประมาณ  1ชั่วโมง ก็ย้ายไปฐานก่อสร้าง    ช่วยตักทรายเตรียมใส่เครื่องโม่หิน เพื่อไปเทเสา  มองดูแล้วพวก   เราต่างมีความตั้งใจที่จะสร้างบุญกันจริงจริ้ง ไม่มีคำว่าเหนื่อยกัน     เลย  ที่สุดก็มีลม โชยมาเป็นครั้งคราวสดชื่นจริงๆๆเลย  เมื่อได้เวลา    1 ชั่วโมง  เราก็ย้ายฐานกันต่อไปที่แปลงเกษตร   ช่วยกันเกี่ยวข้าวและเก็บข้าวมาตากตรงทางเข้าด้านหน้าบ้านฯ  พอได้เวลาพักเที่ยง  เราก็พักรับประทานอาหารกัน แล้วมาต่อกันที่ การนวดข้าว โดยการฟาดกับท่อนเหล็กและ  ม้านั่ง เพื่อให้รวงข้าหลุดออกมาเป็นเมล็ด  พวกเรา  รีบเร่งทำกัน แข่งกับเวลา ต่างลุ้นกันว่า....อยากฟาดข้าว   ให้เสร็จ เพื่อความสะดวกในการเก็บเมล็ดไปผึ่งให้แห้ง  แต่สุดท้าย    ก็ไม่เสร็จ หมดเวลาพอดี เหลือข้าว  ที่ยังไม่ได้ฟาดอีก  ประมาณ      1 ใน 4 ส่วน  ที่ต้องตากผึ่งลมเอาใว้  ส่วนข้าวที่ฟาดเสร็จแล้วนำ     ไป ตากผึ่งลมใว้บนเรือนไม้ไผ่   รอให้แห้งต่อไป/ 

                          คืนวันศกร์(วันสุกดิบ) ก่อนวันงานกฐิน

          ตัวติ๋มเองได้เข้าบ้านสวนตั้งแต่ค่ำวันพฤหัสที่ 15 พย 2555ค่ะ

                 พาคูณทัศนีย์ไปหาชื้อชามแต่ไม่มีขนาดที่ต้องการ เลยมาพากันแวะ

          ที่BigC ครองหก ไม่ได้ชาม แต่ได้ช่วยบำบัด พนักงานเจ้าหน้าที่ของ

          ห้าง ยี้มทักทาย ถามสารทุกข์สุข ตามภาษา ถามถึงโรคภัยไข้เจ็บ

          คูณบอกปวดขามาเป็นเวลานานหลายเดือนแล้ว ต้องทานยาแก้ปวด

          บางเวลา ลูกบ้านสวนอย่างเราก็ถามว่า อยากหายมัย จะบอกระหัส

          จักรวาลให้ คูณบอกอยากสิค่ะ มันทรมานยืนทั้งวัน เลยบอกระหัส

          ให้พุดตาม อาจารย์อุบลช่วยด้วย ขอให้ข้าพเจ้าหายจากการปวดขา

          ด้วยเถิด คูณพุดตาม แต่ตามองที่จี้ สามร่มโพธ์ศรีตลอดเวลา ทำท่า

          แปลกใจมาก เบาขื้นเยอะเลยทำได้งัยเนีย หายประมาน 30 %

          เลยบอกให้มองจี้ และให้นึกในใจตามที่เราพุด พออาราธนาจี้รุ้นสามร่ม

          โพธ์ศรีที่อาจารย์อุบล อัญเชิญมาดังๆให้นึกถึงกรรมที่เคยทำมาว่ามี

          ไรบ่าง นับไป 45 คูณบอกหายเกือบหมด เหลือนิดหน่อย ประมาน

          อยากได้จี้ ขอเบอร์โทร เลยบอกให้ขอบคูณเทวดาที่รักษาตัวอาจารย์

         อุบล พอขอบคูณเสร็จหายเกือบหมด คูณอยากได้จี้มาก แต่กลัวโดนดุ

               ให้บอกระหัส อ.อุบลช่วยด้วย และบอกต่อให้เยอะๆ ถ้าไช้แล้ว

          ได้ผลให้บอกต่อ ถ้าไม่บอกไช้ได้ไม่เกินสามครั้ง บอกต่อมากจะไช้

          ได้ต่อๆไป เหมือนจุดเทียน ต่อมากสว่างมาก บูญมากด้วย ให้ขอบคูณ

          ท่านอาจารย์ทุกครั้งที่ไช้แล้วได้ผล ดีใจไม่ได้ชามแต่ได้บูญ ^__^

               ถึงบ้านสวนค่ำๆท่านอาจารย์แซว มาได้งัยเนี่ย กลัวตายละสิ แปวว

          เช้าวันศุกร์มีคูณหนึ่ง เจิดหทัย มาร่วมบูญ พวกเราเข้าแปลงเผือกกัน

          ถางหญ้าให้เผือกได้แค่ครั้งวัน เพราะต้องพาคูณทัศนีย์ไปตลาดบ้าน

                 นาเพื่อหาชื้อชาม แอบคิดว่าถ้าเจอคูณแมวจะได้รับเข้ามาด้วย อุยคิด

          ยังไม่จบเลยคูณแมวมาแล้ว 

                ในที่สุดก็เจอร้านที่มีชามที่ต้องการ เจ้าของร้านท่าทางใจดี

           คนเป็นพี่เดินหาของให้เรา คนน้องนั่งกินส้มเฉย เราแอบคิดว่าน้อง

         ใจร้ายให้พี่ทำงานคนเดียว (ที่รู้ว่าเป็นพี่น้องกันเพราะหน้าคล้ายกัน)

          มารู้ทีหลังว่า แขนเธอหักเพิ่งเอาเฝือกออก แขนยังบวมอยู่เลย

           นั้นมโนกรรมแล้วเรา ตอนหลังเลยขอขมาคูณเจ้แล้ว พี่สาวก็แขนหัก

          ข้างขวา ไช้แต่แขนช้ายทำงาน เลยปวดทั้งสองข้าง ถามว่าอยากหายม้ย

          อยากสิทำงัยไม่ชอบกินยา เลยบอกให้ไช้ระหัสจักรวาล อ.อถบลช่วย

         ด้วยให้อาเจ้พุดตามพร้อมมองจี้ สามร่มโพธ์ศรี ให้คิดตามเราพูด เคย

         เขียนบีลไม่ถูกต้องให้ครูที่มาชื้อของ นับไป 50 ข้างช้ายหาย 100%

         ข้างขวา ประมาน 80% เวลาน้อยเพราะเสียเวลาเดินหาร้าน เจ้บอก

         ร้อนที่แขนเลยไช้จี้วางที่แขนที่บวมอยู่ คูณบอกว่าเย็นสบายดีจัง ดีจัง

         แพงม้ย แนะนำให้ขอบคูณเทวดารักษาตัว อ.อุบล และพระพุทธเจ้า

         ทุกพระองค์ สำนึกคูณพระเจ้าแผ่นดิน(เจ้บอกเองว่าท่านเป็นเจ้าของ

        แผ่นดิน แหมชื้นใจจัง)

                       เดียวมาต่อคืนสุกดิบนะค่ะ

ขอเล่ากิจกรรมใช้แรงกาย วันที่ 18 พย. โดย จุ๋ม
กิจกรรมฐานประจำของจุ๋มกับจิ๋ม ก็คือการบดขยะทำ biogas เนื่องจากไม่ได้มาดูแล อาทิตย์ที่แล้ว เพราะไปช่วยงานศพคุณตา ใช้เวลาเกือบครึ่งวัน กลิ่นขยะค้างสุดยอด ขนาดคนก่อสร้างอยู่ไกล จิ๋มเขายังได้ยินคนบ่นว่าเหม็นจนจะเป็นลม แต่เราสองคนทำกันหน้าตาเฉย เสร็จแล้วล้างเครื่องช้าไป เพราะรอสายยางน้ำจากที่ก่อสร้าง จึงอาจทำกลิ่นรำคาญผู้อื่นไปบ้าง ขออภัยในความไม่สะอาดมาณที่นี้ด้วย อย่างไรก็ตามพอทำเสร็จก็สะอาด เอี่ยมอีกวาระหนึ่ง

ภาคบ่ายจิ๋มเขาชอบขนหิน เขาชอบหนักๆ แต่สำหรับจุ๋มเห็นคนที่กองหินแยะแล้ว เลยตามไปตีข้าวกับคุณเหมี่ยว ก็ต้องออกแรงไม่เบาหรอก แถมกองเป็นภูเขา เห็นมีกันไม่กี่คน คุณแป้น คุณเปลว คุณเจี๊ยบ คุณชิม และคุณแม่ ลูกบ้านสวนนี่พลังราวช้างสารจริงๆ ปีนี้พลาดเกี่ยวข้าวก็ไปตีข้าวก็ยังดี สักพักก็ตามอ.พันธ์ เอาฟางที่ได้ไปยัดหมักในถังเพื่อทำปุ๋ยน้ำ ขนฟาง 3 รอบ จึงยัดใส่ครบทุกถัง แล้วจึงเติมน้ำทุกถัง รับรองว่ายามภัยพิบัติบ้านสวนมีปุ๋ยรดน้ำกันเหลือเฟือ อ.พันธ์บอกว่า อาทิตย์หน้าจะปลูกผักหลายชนิด เพาะต้นกล้าไว้เยอะแล้ว งานนี้น่าสนใจมากๆ

ส่วนการเทเสาหลายๆต้นนั้น เห็นเล่ากันว่าปูน 40 ถุงก็สำเร็จลงได้ด้วยคนจำนวนน้อยๆ ขออนุโมทนาบุญกับแรงงานทุกๆท่าน

ธรรมทานเย็นวันที่ 18 พย.
คุณธนามาตักเตือนพวกเราว่า พวกเราพากันมาหาความสุขใจ หายโรคหายภัย จากอ.อุบล แต่เวลาใครมาราวี ว่าร้ายอาจารย์ของเรา ไม่มีสักคนที่จะมาออกรับปกป้องอาจารย์ ปล่อยให้ท่านสู้ไปคนเดียว ไม่มีน้ำใจมาออกรบ ตนเองก็เป็นคนหนึ่งที่ยังไม่ได้ปกป้องท่านเหมือนกัน แต่จะขอพยายามออกรบดู กราบขอขมาที่ยังเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว
ส่วนการทำเอกสารธรรมทาน ตนเองก็เป็นหนึ่งในพวกที่ถูกคัดออก เพราะไม่ใส่ใจเขียนชื่อ ยศ อายุ ตำแหน่ง ที่ทำงานให้ครบ ก็เลยไม่ได้รวมเล่มสักที คนอื่นที่จะส่งการบ้านอย่าลืมตรวจทานให้ครบตามที่ อจ.บอกทุกขั้นตอน

ธรรมทาน วันไปร่วมงานกฐินวัดใหม่สันติธรรม ของหลวงพ่อเสงี่ยม

เช้าวันเสาร์ที่ 17 พย.ไปถึงบ้านสวนเร็วกว่าปกติ เพราะมาจากนครนายก ไม่ใช่จากกรุงเทพฯ ทีแรกเห็นเงี่ยบ ๆ ไม่แน่ใจว่าจะไปกฐินกันมั๊ย ก็เลยเตรียมตัวบดขยะกัน บอกจุ๋มว่าให้เขาไปกฐินกันเถอะ เราบดขยะกันดีกว่า เพราะตรงหน้าครัวคนจะนำขยะมากอง  ๆ กันไว้จึงเหม็นมาก แต่พอคุณธนาเรียกประชุมว่า เดี๋ยวจะไปกฐินกัน และทำภารกิจ แจกธรรมทาน และรักษาคน ก็เลยหันบอกจุ๋มว่า เราไปเถอะนะ จู๋มจะได้ไปดูคนอื่นเขารักษาคน

ตัวจิ๋มเองเป็นคนขับรถให้ พอสักใกล้ ๆ ถึงวัดเกิดอาการง่วงมาก เลยต้องเปลี่ยให้จุ๋มมาขับบ้าง พอไปวัดก็เข้าไปถวายกฐินกัน แต่คนอื่น ๆ เขาถวายไปชุดนึงแล้ว พอมาถึงคณะบ้านสวน ก็พบว่าคนเขากลับไปส่วนนึงทำให้คนน้อย พวกเราก็เข้าไปถวายกฐินกัน ทำบุญด้วยปัจจัย ผ้าไตร และของสังฆทาน แล้วก็เดินแจกหนังสือไป และคุย เพื่อรักษาโรค จิ๋มเอง ก็มากับคุณฉันทนา และช่วยกันรักษาโรค ผู้ชายคนนี้จะเจ็บเข่าเฉพาะเวลานั่ง แต่ตอนบำบัดเขายืน ก็ยังบอกอะไรไม่ได้ สังเกตว่า คนนี้ก็เป็นคนดี ชอบทำอะไรเพื่อส่วนรวม แต่พอเราใช้จี้ เขาจะเกิดอาการต้าน และชักแม่น้ำทั้งห้ายาวมาก ว่าทำความดีไปเถอะ ทำนองว่าไม่ต้องไปรักษาด้วยจี้ ทำความดีแล้ว เขาจะตอบแทนคุณเอง  แต่พวกเราพากันบอกว่าให้ใช้จี้ คุณธนาเดินมาสมทบ ก็ยกตัวอย่างของตัวเองที่เคยเดินเหมือนคนพิการให้เขาฟัง แต่เขาก็ไม่ค่อยเชื่อ สุดท้าย ยืน ๆ อยุ่เขาบอกว่ารูู้สึกขาชา ๆ ซึ่งเราก็บอกว่านี้เป็นต้นทางที่จะทำให้หายได้ เขาก็ขอบคุณและจะกลับไปลองนั่งดู

สรุปรายนี้ก็ได้รักษา แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะหายมั๊ย  แต่ก็ดีใจที่ได้มาเพราะได้รู้วิธีที่จะรักษาคนจากลูกบ้านสวนเช่น คุณทัศนีย์ เขาให้นั่งเรียงกันแล้วบำบัดหมู่เลยทีเดียว น่าสนใจ และน่าเอาอย่าง เป็นอย่างยิ่ง

ชัชวลี

เรื่องบดขยะ อย่าถือว่าเป็นงานต้อยต่ำ

วันอาทิตย์ที่ 18 พย ตอนเช้า คนส่วนใหญ่จะถูกจัดให้ไปเทปูน กับเกี่ยวข้าด้านหลัง  จุ๋มกะจิ๋ม ก็อยากทำบ้างเหมือนกัน เพราะเขาว่าอานิสงค์แรง แต่มาคิดว่า ขยะก้สำคัญเพราะมันเหม็นมาก เพราะเมื่อ 2 อาทตย์ที่แล้ว ไมได้บดเลย พอบดเสร็จก็อยากไปทำอย่างอื่นก่อน ก็พากันกองถังที่เปรอะขยะไว้ แล้วจุ๋มก็เดินไปที่กลุ่มเกษตร และจิ่มก็ขนหินขนทรายอยูู่  ขณะขนหิน และทราย น้องผู้ชายคนหนึ่งเขาบ่นว่า หายใจไม่ออก อาจเป็นเพราะเหม็นขยะ ทิสทาางลมเป็นทิศที่ขยะโชยกลื่นมา

พอน้องคนนั้นพูด เราก็คิดว่า เราทำงานแล้วต้องรับผิดชอบจนเสร้จอย่าคั่งค้าง มิฉะนั้นจะมีผลต่อคนอื่นด้วย

จิ๋มสังเกตทุกทีว่า ตอนทำงานเสร็จก็จะปวดหลัง ตามปกติ แต่พอนำถัง และเครื่องมือบดไปล้าง อาการปวดหลังของจิ๋มจะหายไปเลย  นั่นก็แสดงให้เห็นความจริงที่ท่านอ.อุบลสอนไว้ว่าทุกคนต้องรับผิดชอบงานตนเองให้ดีที่สุด งานทุกชื้นก็มีค่าของตัวเอง อย่าไปมองว่าเป็นงานต้อยต่ำ  อย่างน้อยการล้างให้สะอาดก็ทำให้น้องที่ทำงานด้วยหายเป็นลมก็แล้วกัน

ดร.ชัชวลี กะลัมพะเหติ

อนุโมทนากับทุกๆท่านด้วยนะคะ

ว่าแต่เคสทีมของพี่เอิ้น

ก็ไม่ธรรมดาเลยนะคะ

ฆ่า 3 ศพ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเคสเหล่านี้

จะเห็นแต่มาสารภาพกับท่านอ.

แต่เดี๋ยวนี้ลูกบ้านสวนก็จะต้องฝึกกลยุทธ์

และวิธีที่จะช่วยเหลือเคสหนักๆแบบนี้ด้วยเหมือนกัน

แต่ท่าทางแล้วน่าจะกรรมหนักจริงๆแหละค่ะ

ขนาดมาสารภาพกับท่านอ.แล้ว

อาการยังไม่ค่อยดีขึ้นเท่าไหร่เลย

ไม่แน่นะ กลับไปครั้งนี้เขาอาจจะไปคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ

แล้วกลับมาสารภาพผิดด้วยจิตที่สำนึกจริงๆก็ได้ค่ะ

เพราะเท่าที่อ่านรู้สึกเหมือน

เขาสารภาพเพราะอยากหาย ยังไงไม่รู้อะ

************************************

เรื่องบดขยะ อย่าถือว่าเป็นงานต้อยต่ำ

วันอาทิตย์ที่ 18 พย ตอนเช้า คนส่วนใหญ่จะถูกจัดให้ไปเทปูน กับเกี่ยวข้าด้านหลัง  จุ๋มกะจิ๋ม ก็อยากทำบ้างเหมือนกัน เพราะเขาว่าอานิสงค์แรง แต่มาคิดว่า ขยะก้สำคัญเพราะมันเหม็นมาก เพราะเมื่อ 2 อาทตย์ที่แล้ว ไมได้บดเลย พอบดเสร็จก็อยากไปทำอย่างอื่นก่อน ก็พากันกองถังที่เปรอะขยะไว้ แล้วจุ๋มก็เดินไปที่กลุ่มเกษตร และจิ่มก็ขนหินขนทรายอยูู่  ขณะขนหิน และทราย น้องผู้ชายคนหนึ่งเขาบ่นว่า หายใจไม่ออก อาจเป็นเพราะเหม็นขยะ ทิสทาางลมเป็นทิศที่ขยะโชยกลื่นมา

โอ้ว อานิสงค์บุญของ ขยะเน่าเหม็น นี้แรงจังค่ะ

เพียงแค่เสร็จ ก็ทำให้หลังที่ปวดอยู่หายได้

หญิงคิดว่าเป็นงานที่ต้องใช้กำลังใจ ความพยายาม

และความอดทนมากๆเลยทีเดียว

เพราะทั้งกลิ่นเหม็น และเสื้อผ้าก็คงต้องสกปรกไปด้วย

นับถือน้ำใจเลยจริงๆค่ะ

อ.ท่านสอนเสมอให้เราเรียนรู้ทุกๆอย่าง

ที่จะเป็นประโยชน์กับตัวเรา

อยากให้หลายๆคนได้มาลองทำดูบ้างจังค่ะ

อ่านดูแล้วงานนี้ก็เป็นงานที่ใช้กำลังใจค่อนข้างสูง

เพราะฉนั้นบุญก็จึงสูงตามไปด้วย

อนุโมทนากับธรรมทาน

จากทุกๆท่านด้วยนะคะ

เพราะไม่ว่าจะเขียน

สะท้อนมุมไหนก็ล้วนแล้วแต่

แฝงไปด้วย"ธรรมะ"ให้พิจารณาทั้งสิ้น

โดยเฉพาะเรื่องขยะๆ เน่าๆเหม็นๆ

ที่คุณพี่จุ๋มพี่จิ๋ม ช่วยๆกันทำอยู่นี้

เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ต้องใช้

บารมีสูงอย่างยิ่งเลยนะคะ

ถึงจะ"คิดมาำทำ"

และ "ทำได้"เช่นนี้ทุกอาทิตย์

ขนาดคนไกลๆได้กลิ่นโชยๆ

ยังบอกเหม็นจนจะเป็นลมเลย

แล้วคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าขยะ

จะต้องทนต่อกลิ่นกันขนาดไหน..เนี่ย

อนุโมทนาในทุกๆบุญ

กับทุกๆท่านด้วยนะคะ

เพราะทุกท่านต่างก็เป็นฟันเฟืองที่สำคัญ

ที่ผลักดันให้ภาระกิจยิ่งใหญ่ของท่านอาจารย์

สำเร็จได้ทั้งสิ้น สาธุ สาธุ สาธุ  

เรื่องบดขยะ อย่าถือว่าเป็นงานต้อยต่ำ

ความจริงที่ท่านอ.อุบลสอนไว้ว่าทุกคนต้องรับผิดชอบงานตนเองให้ดีที่สุด

อ่านข้อความของดร.จิ๋มแล้วรู้สึกว่าตัวเอง กําลังใจยังอ่อน ปัญญาก็ยิ่งอ่อนไปด้วย อนุโมทนาบุญกับดร.จุ๋ม ดร.จิ๋ม ที่ทุ่มเทแรงกาย แรงใจทําทุกอย่างเพื่อบ้านสวน เพราะงานที่ดร.ทั้งสองทําล้วนแล้วแต่ต้องใช้กําลังใจมากๆเลยทีเดียว สาธุค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 18 พย ตอนเช้า คนส่วนใหญ่จะถูกจัดให้ไปเทปูน กับเกี่ยวข้าด้านหลัง  จุ๋มกะจิ๋ม ก็อยากทำบ้างเหมือนกัน เพราะเขาว่าอานิสงค์แรง แต่มาคิดว่า ขยะก้สำคัญเพราะมันเหม็นมาก เพราะเมื่อ 2 อาทตย์ที่แล้ว ไมได้บดเลย

**************************

ขอโทษพี่จุ๋ม พี่จิ๋ม  ที่อ้อยไม่เคยคิดถึง

จุดนี้มาก่อนเลย

ถึงแม้เราจะมี workshop

แบ่งกลุ่มไปหลายฐาน

แต่เราไม่เคยใส่เรื่องงาน Biogas เข้าในฐานเลย

ทั้งๆที่เป็นอีกงานที่อานิสงส์สูงมาก

เพราะต้องใช้กำลังใจอย่างสูง

และที่สำคัญ คือทุกวันอาทิตย์ จะมีแค่พี่จุ๋ม พี่จิ๋ม

ที่จะมาสแตนท์บายทำทุกครั้ง

จริงอย่างที่พี่จุ๋ม พี่จิ๋มบอก

  ทุกคนอยากทำงาน

ให้ได้ทุกฐาน

เพื่อเราจะได้อานิสงส์ครบ

สามารถปลดล็อคกรรมได้

แต่พี่ทั้งสอง

ไม่มีโอกาสทำอย่างอื่นเลยในวันอาทิตย์

นอกจากเสียเงินจำนวนมากแล้วในการเป็นเจ้าภาพ Biogas

ยังต้องมาเป็นแรงงานหลัก

ในการบดขยะอีก

อ้อยคิดว่า เราควรจะมีฐาน Biogas เพิ่มขึ้นมาด้วย

เพราะท่านอาจารย์ก็เมตตา

บอกแล้วว่า

 ทุกคนควรต้องรู้และทำได้ในทุกๆงานของบ้านสวนฯ

 อ้อยคิดว่า เราควรจะมีฐาน Biogas เพิ่มขึ้นมาด้วย

เพราะท่านอาจารย์ก็เมตตา

บอกแล้วว่า

 ทุกคนควรต้องรู้และทำได้ในทุกๆงานของบ้านสวนฯ

++++++++++++++

ขอยกมือเห็นด้วยกับพี่อ้อยเป็นอย่างยิ่งค่ะ

เพราะจะเห็น ดร.จุ๊ม ดร.จิ๋ม และพี่อมร เท่านั้น

ที่เป็นหลักในการฟีด ไบโอแก๊ส

และก็ยังมีแม่ครัวเอก อย่างพี่แมวอีกท่าน

ที่ไม่เคยได้ทำงานอย่างอื่นเลย นอกจากงานครัว

จากที่ได้มีโอกาส เป็นลูกมือช่วยหั่น ช่วยล้าง

ยอมรับค่ะว่า งานครัวเป็นงานหนักจริง

และแต่ละสัปดา์ห์พี่แมวต้องเหนื่อยมาก

จึงขอเสนอเพิ่มฐานแม่ครัวด้วยค่ะ

อีกอย่างเพื่อเป็นการฝึกนิวรณ์ 5

ของลูกบ้านสวน

ไม่ให้ติดใจในรสชาติ ฮิฮิ

อนุโมทนากับท่านอ.อุบลและลูกบ้านสวนทุก ๆ ท่าน

ที่ได้มีโอกาสทำบุญด้วยแรงกายตล๊อด ๆ

นับวันความมหัศจรรย์และความศักดิ์สิทธิ์จะทวีคูณขึ้นทุกวัน

ไม่น่าเชื่อเลยว่าลูกบ้านสวนก็เป็นคนธรรมด๊าธรรมดา

แต่สามารถรักษาคนให้หายจากเจ็บไข้ได้ป่วยได้

โดยไม่ต้องร่ำเรียนหมอตามตำราให้เสียเวลา

อ.อุบลของพวกเราสามารถฝึกบุรุษได้ไม่จำกัดกาล

บุญของลูกบ้านสวนเหลือเกินที่ได้เกิดมาภายใต้

ร่มโพธิ์ร่มไทรจากท่านอ.อุบล-อ.มงคล ศุภาเดชาภรณ์

แห่งบ้านสวนพีระมิด ขอกราบด้วยความสำนึกในบุญคุณจริง ๆ เจ้าค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ยอมรับค่ะว่า งานครัวเป็นงานหนักจริง

และแต่ละสัปดา์ห์พี่แมวต้องเหนื่อยมาก

จึงขอเสนอเพิ่มฐานแม่ครัวด้วยค่ะ

อีกอย่างเพื่อเป็นการฝึกนิวรณ์ 5

ของลูกบ้านสวน

ไม่ให้ติดใจในรสชาติ ฮิฮิ

************************

เห็นด้วยกับน้องอัญค่ะ

และคิดว่าถ้าพี่ได้อยู่ฐานครัวเมื่อไหร่

ทุกคนจะไม่ยึดติดรสชาติอีกต่อไป

ทุกคนจะกิน ก็สักแต่ว่ากิน

เพราะมีรสเดียว คือ เค็ม ในทุกเมนู

อิ อิ อิ

โอ้

คุณอ้อย

ถ้าทำได้เค็มขนาดนี้

เวลามีภัยพิบัติ นะ ต้องให้คุณอ้อยทำ

ชัวร์

เพราะว่า จะได้ประหยัด

ไม่เปลืองอาหาร

ทานได้นาน ทานได้หลายคน

5555

โอ้

คุณอ้อย

ถ้าทำได้เค็มขนาดนี้

เวลามีภัยพิบัติ นะ ต้องให้คุณอ้อยทำ

ชัวร์

เพราะว่า จะได้ประหยัด

ไม่เปลืองอาหาร

ทานได้นาน ทานได้หลายคน

******************

เย้ ในที่สุดอ้อยก็ค้นพบความสามารถพิเศษของตัวเองเจอ

รู้สึกว่าตัวเองพอจะมีประโยชน์บ้างค่ะ

5556++

 กิจกรรมอาทิตย์ที่18พ.ย.55

     วันนี้แบ่งกลุ่มทำกิจกรรมแค่3ฐานคือเทปูน12เสาหน้าโรงทาน เย็บเล่มหนังสือธรรมทาน และเกี่ยวข้าวที่แปลงเกษตร  ทุกกลุ่มหมุนเวียนทำฐานละ1ชม.

     การทำกิจกรรมแต่ละฐานทำให้ได้ความรู้หลากหลาย  เพราะตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเกี่ยวข้าวครั้งแรกในชีวิต แต่มันก็ไม่ยากถ้าเราตั้งใจและใส่ใจที่จะเรียนรู้  วันนี้ได้รับการสอนวิธีเกี่ยวข้าวจากพี่เปลวและพี่แป้น คือ ต้องเก็บรวงข้าวในแต่ละกอให้หมด รวงที่ล้มลงพื้นและงอกเป็นต้นแล้วไม่เอา เมื่อเกี่ยวได้ปริมาณพอควรก็นำเอารวงข้าวมัดเป็นมัดๆเพื่อง่ายต่อการขนกลับ  สำหรับการเย็บเล่มหนังสือธรรมทานก็ต้องประณีต  ต้องสังเกตหน้าปกให้ดีเพราะปก2เล่มหน้าตาคล้ายคลึงกันมาก  ต้องจัดแยกให้เป็นหมวดหมู่ไม่ให้ปะปนกัน กันหลง  ก่อนเย็บเล่มต้องพับปกและเอกสารให้เป็นรอยตรงตำแหน่งกึ่งกลาง  เพื่อไม่ให้เบี้ยวและรอยเย็บอยู่ตรงกลางพอดี รูปเล่มจะได้ออกมาสวยงาม  หากเย็บเบี้ยวเวลาแกะแม็กออก ต้องค่อยๆงัดและดึงแม็กอย่างระวัง  ไม่งั้นปกจะขาด  ส่วนการเทปูนเสาใช้วิธีเทสลับกับเสาต้นอื่นไปเรื่อยๆแล้วย้อนกลับมาเทใหม่จนเต็ม  เวลาตักปูนต้องระวังปูนหก ถ้าหกพื้นต้องเก็บกลับไปใช้ให้ได้มากที่สุด

    การทำกิจกรรมในบ้านสวนนอกจากได้บุญแล้ว ยังได้ประสบการณ์ชีวิตในสิ่งที่ไม่เคยทำ  สอนให้รู้จักเป็นคนช่างสังเกต ประณีต และใส่ใจในเรื่องเล็กๆน้อยๆที่ไม่ควรมองข้าม

ธรรมทานวันอาทิตย์ต่อค่ะ

เขียน 2-3 วันแล้วยังไม่จบซ๊ากกะที

เล่าเรื่องธรรมทานที่เป็นการบ้าน นำมาส่งให้ท่านอาจารย์นั้น ทุกคนจะต้องแจ้งชื่อ สกุล ชื่อเล่น วุฒิการศึกษา จบจากที่ไหนต้องระบุให้ละเิีอียด แม้ว่าเราจะต้อยต่ำจบแค่ด็อกเตอร์ก็ตาม ไม่ต้องอายใครบอกใ้ห้ละเอียด ทั้งสาขาวิชาอะไร และถ้าเป็นภาษาต่างประเทศ ก็ต้องแปลให้เรียบร้อย พิมพ์ให้ชัดเจน ทำงานอะไร ตำแหน่งอะไรก็ต้องระบุให้เรียบร้อย เพื่อที่จะให้คนที่อ่านธรรมทานของเราได้รู้ว่าเรามีตัวตนจริง ถ้าระบุเบอร์โทร(ของตัวเราเองนะจ๊ะ)จะดีมากค่ะ

    บางคนอาจจะดีใจนะค่ะ ที่ธรรมทานเราไม่ได้เข้าเล่มเพราะไม่ผ่าน จะได้ไม่อายคนเขา  แต่! คุณคิดผิดค่ะ เพราะท่านอาจารย์บอกว่าธรรมทานที่เราเขียนมานั้น ถ้าไม่มีคนอ่าน บุญจากธรรมทานก็ไม่เกิด อย่าสักแต่ว่าเขียนให้จบๆไป ต้องเขียนให้เร้าใจ กระตุกอารมณ์คนอ่าน ว่า โอ๊ยทำไมเหมือนเราเลยนะ แล้วเราจะโดนกรรมเล่นงานเหมือนกันไหมเนี่ย แนวนี้แหละค่ะ แต่! อย่าเว่อร์ เอาความจริงค่ะไม่ต้องใส่สีตีไข่ค่ะ

     แต่/ ธรรมทานของเจี๊ยบไม่ผ่านค่ะ เพราะรายละเอียดไม่ครบ ไม่ใส่ใจอ่านคำสั่งของท่านอาจารย์ให้ละเอียด เลยต้องนำกลับมาทำใหม่ ไปส่งการบ้านใหม่อาทิตย์หน้า นี่เพราะความสะเพร่าของเราทำให้ท่านอาจารย์ต้องเสียเวลารอธรรมทานจากลูกๆ เพื่อจะนำไปรวมเย็บเล่ม แทนที่อาทิตย์ที่ผ่านมาจะได้เข้าเล่มให้เสร็จ เพราะมีงานอื่นรออยู่อีกมากมาย เจี๊ยบกราบขอโทษด้วยค่ะ

     มาต่อเรื่อง workshop ช่วงบ่าย หลังจากเข้าเล่มหนังสือธรรมทานเสร็จ เราก็ย้ายกันไปทำฐานอื่น ซึ่งช่วงบ่ายจะเหลือเพียง 2 ฐาน คือฐานก่อสร้าง และฐานเกษตรที่ต้องใช้แรงงานฟาดข้าวที่เกี่ยวมาได้

เจี๊ยบเข้าฐานก่อสร้าง เพราะช่วงเช้าทำงานในร่มยังไม่ได้เหงื่อเลย เลยมาออกกำลังกายด้วยการขนหิน ยกหินสำหรับโม่ปูนดีกว่า เราช่วยกันทำ 3-4 คนเลยไม่เหนื่อยมาก แม้อากาศจะร้อน แต่ก็ชิวๆๆ

  เราช่วยกันเร่งเทปูนทำเสากัน อย่างเช่นแผนกโม่ปูน เราฝ่ายตักหินเตรียมให้แผนกโม่ ก็ต้องยกวางให้ใกล้ๆ เมือแผนกโม่ใส่เข้าเครื่องโม่หมด ก็ต้องรีบตักมาวางให้ใหม่ เรียกว่าไม่ให้พื้นที่วางกะบะหินว่างได้เลย  กว่าจะเสร็จก็เกือบบ่าย 3 ก็ไปช่วย แผนกฟาดข้าวกันอีก แต่มันบ่ายมากแล้ว ก็เลยต้องเก็บกอข้าวไว้ฟาดอาทิตย์หน้าต่อ

     จากนั้นเราก็มาสำรวจอาการที่เราจะบำบัดของแต่ละคนว่ามีอะไรดีขึ้นหรือก้าวหน้าอย่างไร สำหรับเจี๊ยบนั้น อาการเข่าดำก็ดีขึ้น ขาวขึ้น นุ่มขึ้นตามลำดับค่ะ ฝ้ากระที่บนใบหน้าซึ่งเจี๊ยบไม่ได้เขียนในใบขอรับการบำบัด นั้น หน้าใสกระจ่าง ฝ้ากระจางลงมาก แถมรอยย่นบนหน้าผากก็หายไป สาธุค่ะ ที่เจี๊ยบได้รับของแถมจากพระพุทธองค์

             วันเสาร์ที่ 17 พ.ย 55ได้ร่วมเดินทางไปทอดกฐืนกับท่านอาจารย์ที่

วัดใหม่สันติธรรมของหลวงพ่อเสงี่ยม  รถติดมากจึงไปถึงช้า ตอนบ่ายโมงกว่านิดๆ

ทางวัดได้ทอดกฐินไปแล้ว มีคนเหลือน้อย แต่ลูกบ้านสวนก็ยังคงเดินหาคนเพื่อ

แจกธรรมทานกัน บางคนก็ได้ช่วยบำบัดรักษากันแล้ว เรียกว่าเห็นคุณลุง คุณป้า

คุณตา คุณยาย ก็ถามกันทันทีเลย ขณะเดินแจกเจอคุณตา คุณยายนั่งอยู่จึงแจก

ธรรมทานก่อนขอบำบัดให้ คุณตา คุณยายก็ยิ้มอย่างดีใจ แฮ่..ก่อนบำบัดขอตัว

เข้าห้องน้ำนิัด..หนึ่ง อํ้นเบาไว้ ออกมาก็พอดีถึงเวลา อ.เรียกรวมพลทอดกฐิน

จึงขอตัวอีกครั่้งหนึ่ง คุณตาคุณยายบอกจะรอบำบัด  หลังเสร็จพิธีทอดกฐินแล้ว

อาจารย์ก็ได้ประกาศให้พระและคนที่ไม่สบายมารับการบำบัดซึ่งมีพี่คนหนึ่งและ

หลวงตาได้เข้ามาให้ลูกบ้านสวนได้รวมพลังบำบัดให้ ตัวฉันทนาเองจึงออกไปดู

คุณตา+ยายข้างนอก  แป่ว...หายกลับบ้านไปแล้ว จึงเดินถือธรรมทานออกไป

แจกอีกทีเจอคุณป้าไม่ทันได้บำบัดต้องกลับก่อน

             คุณนิพล สีเหนี่ยง ทำงาน  ธกส. มีอาการปวดเข่าต้องเช็คเวลานั่ง

บำบัดโดยการมองจึ้และใช้รหัสจักรวาลผลเช็คจากลองนั่งดู เขาก็บอกว่าเช็ค

ไม่ได้เพราะใส่ยีนมาเวลานั่งมันตึงจึงบอกไม่ได้ พอดีคุณจุ๋มได้เดินมาช่วยคุยด้วย

แต่เหมือนว่าจิตเขาไม่เปิด จากที่เราให้ทำเท่าไหร่  จากที่ได้พูดคุยเขาก็ฝึกปฎิบัติ

อยู๋เป็นได้ทำงานด้านจิตอาสามาและ มีพิ้นฐานครอบครัวที่ดูแลพ่อแม่มาดีพอควร

และได้ดูแลรักษาด้านอาหารการกินดี ตัวคุณนิพลเป็นเบาหวานด้วยแต่ก็ควบ

คุมอาการได้  คุณธนาได้เข้ามาคุยโดยยกตัวเองให้ฟังแต่คุณนิพลก็ยังไม่เปิดใจ

เท่าไหร่ 

              แต่ตัวเองก็ได้คุยเหตุผล วิธีช่วยเหลือบำบัดของลูกบ้านสวนว่าเป็นมา

อย่างไร และทำให้หายได้อย่างไร และทำไมถึงหายหรือดีขึ้นได้ในทันทีได้ก็ด้วย

บารมีจากเบี้องบนที่ได้ส่งบารมีมาที่จี้และรห้สจักรวาล เพื่อช่วยเหลือคนให้หาย

ทุกข์ หายป่วย  ขณะที่ได้คุยกันไป ตัวคุณนิพลก็เหมือนไม่ขัดแย้งอะไร จึงได้ให้

ลองเช็คเข่าหรือขาดูอีกทีหนึ่ง เขาบอกว่ารู้สึกซ๋าชา เหมือนมีอะไรที่วิ่งอยู่ในขา

ขึ้นลง  จึงบอกว่าต้องนี้เขาได้รับสัมผัสพลังจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ได้ส่งมาจากจึ้แลัว

แต่ดูเขาก็ยังไม่มั่นใจเท่าไหร่ เพราะคิดว่าตัวเองก็ทำดีปฏิบัตมาพอสมควร และยังได้

ดูแลแม่ ดูแลอาหารมาดีพอสมควรจึงรักษาสุขภาพตัวเองได้ระดับหนึ่ง จึงได้

แนะนำการใช้รหัสไปให้เรื่องต่างๆ และให้เขาได้ลองเช็คเข่าดูเมื่อหลับถึงบ้าน

ว่าเขาดีขึ้นหรือเปล่า  คิดว่าถ้าจิตเขาเปิด อาการที่เขาบำบัดคงเห็นผลชัดเจน

มากกว่านี้ค่ะ

               ก่อนไปทานข้าวได้เอาธรรมทานแจกให้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างนอก

โรงทาน ซึ่งหลังจากนั้นทำให้ลูกบ้านสวนได้อึ้ง ทึ้ง กันแล้วกับคำสารภาพที่ได้

ใช้ขวานจามอก และท้องจนใส้ไหล ไปตายที่รพ.แล้ว ทั้งคุณธนา คุณเหมียวบำบัด

ไปแล้วอาการดีประมาณ 50 % ให้กราบรูปอาจารย์แล้วก็ดีขึ้นนิดหน่อย เวลากราบ

ก็ยังก้มลงไม่ได้ หลังจากที่นำมาหาให้อาจารย์ช่วยโดยสารภาพและได้เบิกดวง

วิญญาณทั้ง 3 ดวงเพื่อขอขมาและอุทิศบุญให้แล้วก็ดีขึ้นไม่มากเท่าไหร่

อ.ได้ช่วยเอาบุญของอาจารย์ให้อีก ทำให้อาการดีขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด และ

พอกราบ ก็ปรากฎว่า เขากัมลงกราบได้สะดวกขี้นมากเลยเหมือนอาการปวด

แทบไม่มีแล้ว พอกราบ ครบ 3 ครั้งเท่านั้นแหละ เหตุอัศจอ ..รร..ย์ ก็ปรากฎแก่

สายตาลูกบ้านสวนฯทุกคนเลย.... ดูกระฉับกระเฉง สดชื่นขึ้น  สามารถลุกนั่งยืน

ได้ไม่แสดงอาการปวดเหมือนครั้งแรกๆ อาจารย์ได้เมตตาอนุญาติให้เข้ามาสร้าง

บุญแรงกายพร้อมกับคณะแม่ครัวที่วัดใหม่สันติธรรมในอาทิตย์ต่อไปด้วยตัวเอง

เพื่อส่งบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวรอีกด้วย  สาธู..

                    คืนนั้นกลับถึงบ้านสวนหลับไปด้วยอาการอิ่มบุญ

 อ้อยคิดว่า เราควรจะมีฐาน Biogas เพิ่มขึ้นมาด้วย

เพราะท่านอาจารย์ก็เมตตา

บอกแล้วว่า

 ทุกคนควรต้องรู้และทำได้ในทุกๆงานของบ้านสวนฯ

++++++++++++++

ขอยกมือเห็นด้วยกับพี่อ้อยเป็นอย่างยิ่งค่ะ

เพราะจะเห็น ดร.จุ๊ม ดร.จิ๋ม และพี่อมร เท่านั้น

ที่เป็นหลักในการฟีด ไบโอแก๊ส

และก็ยังมีแม่ครัวเอก อย่างพี่แมวอีกท่าน

ที่ไม่เคยได้ทำงานอย่างอื่นเลย นอกจากงานครัว

จากที่ได้มีโอกาส เป็นลูกมือช่วยหั่น ช่วยล้าง

ยอมรับค่ะว่า งานครัวเป็นงานหนักจริง

และแต่ละสัปดา์ห์พี่แมวต้องเหนื่อยมาก

จึงขอเสนอเพิ่มฐานแม่ครัวด้วยค่ะ

อีกอย่างเพื่อเป็นการฝึกนิวรณ์ 5

ของลูกบ้านสวน

ไม่ให้ติดใจในรสชาติ ฮิฮิ

********************

ขอยกมือเห็นด้วยอีกคนนะคะ

เป็นงานที่ใช้กำลังใจสูงพอสมควร

ไม่ว่าจะทำครัว

และ

Biogas

 กิจกรรมวันอาทิตย์

        คุณธนาได้แบ่งฐานออกเป็น 3ฐาน 

มีงานเกษตร เกี่ยวข้าว งานก่อสร้าง เทปูน

และงานเย็บเล่มหนังสือธรรมทาน

ที่ตัวเองได้อยู่ทำโดยไม่ต้องเวียนฐานทุก 1 ชม.

ดูเหมือนง่ายแต่ก็ผิดพลาดขึ้นเพราะปกธรรมทาน

จะแบ่งเป้น 2 ชุด ต้องสังเกตูตัวหนังสือหน้าปกด้วย

และจำนวนหน้าที่แตกต่างกัน เนื่องจากเย็บใกล้เสร็จ

แล้วจึงต้องแก้ออกเย็บใหม่  เวลาทำจึงต้องมีสติและ

สมาธิด้วยในการทำงานจึงจะแก้ใขได้เร็ว และเรียบร้อย

แต่ก็ยังเล็ดลอด หลงหูหลงตา ตามหาเช็คกันใหม่ กว่า

จะเสร็จจึงเสียเวลาไป และการเย็บเล่มก็ต้องให้เรียบร้อย

พับกระดาษให้ตรงกึ่งกลางเพื่อที่จะได้เย็บให้ตรงและสวยงาม

จากนั้นจึงออกไปช่วยที่ฐานก่อสร้าง เทปูน แต่คนเยอะแล้ว

จึงไปช่วยกันนวดข้าวท่ี่่เกี่ยวมาไว้ที่หน้าวิหาร  คงต้องเรียกว่า

ฟาดข้าวจึงจะถูก 555...เพราะว่าต้องจับรวงข้าวแล้วฟาดกระทบ

กับไม้หรือท่อนเหล็กเพื่อให้เมล็ดข้าวหลุดออกมา  ซึ่งยากนิดหนึ่ง

เพราะข้าวชื้น เปียกฝนและมาเมล็ดอ่อนติดมาเยอะมาก  หมด

เวลาก่อนจึงเอาข้าวที่ฟาดเก็บตากไว้บนพีระมิดไม้ไผ่ ที่เหลือ

ก็จับวางตั้งไว้ผึ่งแดดผึ่งลมไว้ก่อนเพราะข้าวชื้นและป้องกันไก่จิก

จึงเอาผ้าพลาสติดคุมไว้อีกทีหนี่ง ก่อนแยกย้ายอาบน้ำและ

เข้ารับธรรมะจากอ.ในวิหาร

         หลังกิจกรรม workshop  เช็คสายตาตัวเอง

ที่ได้ขอรับพระเมตตาจากองค์พระศรีอริยเมตตรัย

สังเกตูจากที่่มองรูปพระพุทธรูปปางนิพพานองค์ใสในวิหาร

จะมองเห็นพระองค์ได้ชัดเจนขึ้นมากไม่มีแสงวาวๆ ไม่พร่าเหมือนเคย

กราบขอบพระคุณในพระเมตตาของพระพุทธองค์เจ้าค่ะ

กราบ          กราบ        กราบ

กิจกรรม เสาร์-อาทิตย์ 17-18 พ.ย.

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ได้ร่วมบุญกฐินในวันเสาร์ที่ผ่านมาด้วยค่ะ สาธุ นอกจากได้ร่วมบุญกฐินกันแล้ว พวกเรายังได้แจกธรรมทาน รวมถึงได้ช่วยคนโดยใช้จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรีกันด้วยค่ะ เรียกว่างานเดียวคุ้ม ได้สร้างบุญหลายอย่างจนอิ่มบุญกันถ้วนหน้าเลยค่ะ

...................................................

คือหลวงพี่ท่านพูดเรื่องนี้กับพี่น้องบ้านสวนฯด้วยว่า ท่านเห็นองค์พระศรีอาริย์ที่มีพระวรกายสูงใหญ่มหึหาสุดๆ ตั้งแต่พื้นทะลุจักรวาลเลย สูงใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุด สาธุๆๆ

"และพวกคุณทุกคนที่มีจี้องค์นี้นะ จะมีพลังกายทิพย์ครอบตัวเป็นสองชั้นเลย"

...........................................................

ตอนนั้นก็ได้นั่งฟังอยู่ด้วยค่ะ ฟังแล้วก็ตื่นเต้น ดีใจค่ะ และยิ่งทำให้มั่นใจค่ะว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์คุ้มครองพวกเราตลอดเวลา ทำให้กล้าที่จะทำความดีทุกที่ ทุกสถานการณ์ โดยที่ไม่ต้องเกรงกลัวคนชั่วค่ะ

กิจกรรมวันอาทิตย์

วันนี้แบ่งเป็น 3 กลุ่มค่ะ กลุ่มงานเกษตร กลุ่มงานก่อสร้าง กลุ่มสร้างบุญธรรมทาน และทุกกลุ่มก็จะวนให้ครบทุกฐานค่ะ กลุ่มเกษตรอาทิตย์นี้ เราได้ทำการเกี่ยวข้าวกัน เกิดมาก็พึ่งเคยเกี่ยวข้าวกับปลูกข้าวกับเขา ก็ที่บ้านสวนฯนี่แหล่ะค่ะ ขนาดเรียนเกษตรมา 4 ปี ขอบอกค่ะว่า เรื่องการปลูกข้าวไม่เคยเรียนภาคปฏิบัติ เรียนแต่ทฤษฎีมาล้วนๆ ให้ทำก็คงทำไม่เป็น ทำไม่ได้ แต่กลับได้มาเรียนภาคปฏิบัติ ลงมือจริง ทำจริง ที่บ้านสวนฯ แม้แต่งานก่อสร้างก็พึ่งเคยทำที่บ้านสวนฯเช่นกันค่ะ หลายสิ่งหลายอย่างก็มาทำเป็นที่บ้านสวนฯ เหมือนเป็นโรงเรียนสอนทุกอย่างเลยค่ะ และคิดว่าสิ่งที่เราได้มาเรียนรู้และทำเป็นหลายๆอย่าง ทุกคนคงได้ใช้ประโยชน์ทั้งในปัจจุบันและอนาคตอย่างแน่นอนค่ะ

ท่านอาจารย์เมตตาบอกถึงการเขียนธรรมทาน ว่าเราต้องเขียนข้อมูลให้ครบทั้ง ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น อายุ ที่อยู่ ระดับการศึกษาสูงสุด สาขาที่จบ จบจากที่ไหน ทำอาชีพอะไร ตำแหน่งอะไร ทำงานที่ไหน ถ้าจะให้ดีก็ใส่เบอร์โทรของตัวเราเองด้วย ขนาดตัวอักษรก็ควรให้อ่านได้ง่าย ไม่เล็กเกินไป หัวข้อเรื่องที่เราจะเขียน ควรจะตั้งชื่อให้หน้าอ่าน หน้าสนใจ ประมาณว่าหัวข้อพาทหัวข่าวหนังสือพิมพ์ค่ะ แต่ทุกอย่างคือเรื่องจริงนะคะ เพราะบุญธรรมทานจะเกิดก็ต่อเมื่อมีคนอ่านของเราค่ะ ถ้าคนอ่านมากบุญธรรมทานของเราก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆค่ะ ส่วนเรื่องที่เราเขียนธรรมทาน ต้องเล่าให้ละเอียด อ่านแล้วไม่เกิดคำถาม หรือข้อสงสัย และควรใช้ภาษาไทย และอาจจะวงเล็บเป็นภาษาอังกฤษได้ เพราะคนที่จะอ่านธรรมทานของเรา มีทุกระดับค่ะ ธรรมทานของเราจะได้ไม่เป็นกรรมทานด้วยค่ะ 

อ่านเรื่องเกี่ยวข้าว ฟาดข้าวแล้ว

ก็นึกถึงตอนที่ชนิดาไปบ้านสวนฯ

ได้ฟาดข้าวครั้งแรกก็ที่บ้านสวนฯนี่แหล่ะ

มีอาการคันบ้าง แต่ก็สนุกดีค่ะ

แถมแต่ละคนใส่อารมณ์

ในการฟาดไปด้วยในแต่ละครั้ง

ทั้งขำทั้งฮา

แล้วก็ได้ปลดปล่อยอารมณ์

ที่มันคั่งค้างอยู่ข้างในให้โล่งใจอีกด้วย

ได้ทั้งบุญ ได้ทั้งความสุข โล่งใจ..

ขอบคุณทุกๆธรรมทานเพิ่มเติม

จากทุกๆท่านด้วยนะคะ

แล้วก็ดีใจกับคุณพี่จุ๋มกับพี่จิ๋มด้วยนะคะ

ที่ต่อไปนี้กิจกรรมเวิร์คช็อป

จะเพิ่มฐาน ไบโอแก๊ส ด้วยแล้ว

เพราะที่ผ่านๆมา

เบื้องบนคงได้ทดสอบจิตใจ

และความอึด ความอดทน และความเสียสละ

ของคุณพี่ทั้งสองมาพอสมควรแล้ว

จึงได้ดลใจให้คุณอ้อย

เกิดไอเดียเพิ่มฐานไบโอแก๊สขึ้นมา

แล้วก็ได้อานิสงค์เลยไปถึง

แม่ครัวผู้เสียสละอย่างคุณแมว

จากฐาน ห้องครัว ด้วย

ต่อไปนี้ ทุกทุ๊กคน ก็จะได้ฝึกทุกๆฐาน

ถ้วนทั่วอย่างแท้จริง...

       วันเสาร์เหมี่ยวได้มีโอกาสไปทอดกฐินกับท่านอาจารย์อุบล ที่วัดหลวงพ่อเสงี่ยม ซึ่งหลวงพ่อเสงี่ยมท่านเป็นครูบาอาจารย์ขององค์แรกของท่านอาจารย์อุบล แม้หลวงพ่อท่านจะมรณภาพแล้วก็ตาม ท่านอาจารย์อุบลท่านก็ยังพาลูกบ้านสวนไปทำบุญทอดกฐินที่นั่น เพราะท่านอาจารย์อุบล ของพวกเรามีความกตัญญูต่อครูบาอาจารย์ของท่านเสมอ อาจารย์อุบลท่านไม่ทอดทิ้งหลวงพ่อแม้หลวงพ่อจะมรณภาพแล้วก็ตาม

       ทอดกฐินคณะของลูกบ้านสวนไปถึงที่วัดช้ากว่าคณะอื่นๆ รถติดมากๆ เลย กว่าจะไปถึง คณะอื่นๆ ก็ทอดกันเสร็จแล้ว และปีนี้เขาทอดกันเร็วกว่าๆทุกๆปี คือทุกปีจะทอดกันก็ประมาณบ่าย 2 โมง แต่ปีนี้เปลี่ยนเวลาเป็นหลังเพล แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรค ท่านอาจารย์อุบลท่านก็นำมาคณะลูกบ้านสวนทอดมหากฐินจนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี พอทอดกฐินเสร็จ

       ลูกบ้านสวนก็จัดแจง นำธรรมทานที่นำไปจัดแจกกับแขกที่มาในงาน ธรรมทานนี้มีประโยชน์มากเลยนะ เพราะในเนื้อหาจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ กับลูกบ้านสวน ในหัวข้อเรื่องกราบอาจารย์อุบลแล้วหายทุกโรค โดยฉับพลันทันทีรวมถึงการใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย บางกลุ่มของลูกบ้านสวนก็มองหาญาติธรรมที่พอจะเข้าไปพูดคุยในเรื่องปัญหาของสุขภาพ ทุกคนแข่งกันเพื่อที่จะช่วยเหลือโดยการบำบัดให้กับญาติธรรมที่มาในงาน

        “กรรมกำหนด”

มีลุงคนหนึ่งนั่งอยู่ที่หน้าโรงทาน อายุประมาณ 50 ปี ได้ มีสายตาที่ดุดัน หน้าตาน่ากลัว มองดูพวกเราด้วยสายตาที่ล็อกแล็กเหมือนระวังตัวเองตลอดเวลา

คุณลุง มีอาการเจ็บปวดหน้าอก  ปวดหลัง ปวดต้นคอ ดูจากสีหน้าแล้วแกทรมานมาก ลุงไปหาหมอฉีดยา อาการก็ไม่ดีขึ้นเลย เพียงแต่ทุเลาลงเท่านั้น

มีน้องเอิ้นยืน บำบัดอยู่ อาการไม่ดีขึ้น เหมี่ยวก็เลยเข้าไปสมทบพร้อมทั้งคุณธนาและคนอื่นๆ คุณธนาบำบัดโวยการให้มองจี้สามร่มโพธิ์ศรีก็ดีขึ้นอีก บอกว่าเบาขึ้นนิดหน่อย

เหมี่ยวช่วย คุณธนา เพื่อให้คุณลุงนึกกรรมออกและสารภาพบาป  ตอนแรกแกก็ไม่กล้าสารภาพว่าไปทำอะไรยังพูดแบบกลัวๆ เหมี่ยวก็เลยถามแกว่าศีลข้อ 1 เคยฆ่าสัตว์ทุกอย่าง ไม่ว่าจะไก่ ปลา หอย เป็ด สัตว์ทุกๆชนิด เหมี่ยวเลยถามแกว่าพูดถึงตรงนี้แล้วดีขึ้นบ้างไหม แกบอกดีขึ้น 50% ดูจากอาการที่แกเช็ดดูร่างกายแกแล้ว น่ากลัวจะทรมานมากจริงเลย

ลุงเคยฆ่าคนไหม แกมองหน้าเหมี่ยว พร้อมทั้งหันซ้ายแล้วหันขวา เหมี่ยวบอกไม่ต้องกลัว พี่สารภาพมาเลย อาการของพี่จะได้ดีขึ้นถึงหาย แกก็บอกว่าคดีความยังไม่หมดเลยนะ เหลืออีก 2 ปี แล้วลุงก็ตัดสินใจที่จะพูด 

ลุงเล่าว่า...เคยฆ่าคนมาแล้ว 3 คน เป็นผู้ชาย โดยใช้ขวานฟันที่หน้าอก ทั้งซ้ายและขวา ของชาย 3 คนนั้น ฟันจนมิดขวาน ต้องเอาเท้าเหยียบหน้าอกแล้วดึงขวานขึ้นนั้นแหละถึงจะเอาขวานออกจากหน้าอกของคนตายได้ ขนาดนั้นยังไม่พอยังใช้ไม้หน้า 3 ตีหลังเขาด้วย

ลุงบอกว่าภาพเหล่านั้นยังมาหลอนแกตลอดเวลา แล้วเหมี่ยวก็ให้แกขออโหสิกรรมขอขมาชาย 3 คนนั้นแกก็ยอมทำตามด้วยความสำนึกในความผิดที่แกทำและได้อุทิศบุญของแกให้กับชายทั้ง 3 คนนั้นแล้วผลก็คือหายอีก 20% รวมเป็น 70% แกยังทรมานอยู่มาก

ขั้นตอนสุดท้ายให้กราบรูปอ.อุบลก็ไม่หายแสดงว่า เจ้ากรรมนายเวรเขาไม่ยอม เหมี่ยวก็เลยบอกให้ลุงเข้าไปกราบอาจารย์อุบล  ตอนแรกลุงยังลังเล สงสัยแต่พอสักครู่พอลุงก็ลุกขึ้นยืน พร้อมทั้งถอดหมวกที่ใส่อยู่ออก การเดินตัวแข็งทื่อ เหมือนหุ่นยนต์ลงไปนั่งคุกเข่าต่อหน้าอาจารย์อุบล

อาจารย์ท่านก็เมตตาไต่สวนกรรมให้แก่ก็เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้อาจารย์ฟังอีก อาการที่เป็นอยู่ก็เบาลงไปอีก เพราะอาจารย์ให้บุญวิญญาณทั้ง 3 คน นั้นมารับบุญของท่านอาจารย์ไปด้วย

ลำพังบุญของลุงไม่มีเลยหรือมีก็น้อยนิด พวกเราเชื่อไหมว่าลุงเอาขวานฟันหน้าอกของชายทั้ง 3 คนนั้น ผลก็คือ กรรมมาตามสนองแก แกจะเจ็บหน้าอก จะทุกข์ทรมานมาก คงจะเหมือนตอนลุงเอาขวานฟันเขาละนะ เวลาเดินหลังก็แข็งเหมือนหุ่นยนต์

แต่ด้วยบุญที่อาจารย์อุบลท่านให้ชายทั้ง 3 คนนั้น ทำให้หลังหายแข็ง อาการเจ็บปวดก็เบาลง แค่เบาลงเท่านั้นเอง ไม่สามารถที่จะหายได้ เพราะกรรมที่ลุงทำมา มันมีผล เป็นความทุกข์ ต่อชีวิตของลุง ลุงต้องสร้างบุญ สะสมบุญเพื่ออุทิศบุญ

กรรมแสดงผลไม่ผิดตัว ไม่เลือกกาลเวลา ไหนลุง จะเจ็บปวดทรมาน ไหนจะต้องหลบหนีแอบซ่อนตัว กลัวญาติผู้ตายจะแก้แค้น เอาคืน หลบตำรวจคดีความยังมีหมดอายุความ  งานก็ทำไม่ได้ เงินก็ต้องไม่มี  ทุกข์ของลุงนั้นมันเดือดร้อน มันหนัก แสนสาหัส ก็เป็นกรรมที่ตัวเองก่อไว้ ฆ่าผู้อื่นเขาทรมานจนตาย ตัวเองประกอบกรรมก็ต้องรับผลกรรมหนักเป็นร้อยเป็นพันเท่า โดยไม่ต้องรอชาติหน้า

คนซ่อนกรรม เฟสบุ๊คซ่อนบาป

เรื่องนี้ฟังแล้วได้แง่คิดดีมากเลย เพราะผมอยู่ด้วยตั้งแต่ช่วงแรกๆและคิดว่านี่คือสิ่งที่เหล่านักสร้างบาปที่คอยหลอกตัวเองไปวันๆอ่านแล้วต้องผวา ผมพยายามเขียนสิ่งที่ตนเองได้มีส่วนร่วมตั้งแต่ต้นให้ละเอียดที่สุด เพื่อผลบุญนี้จะได้บังเกิดแก่ชายผู้ "ซ่อนกรรม"

วันนั้นพวกเราไปร่วมทอดมหากฐินที่วัดใหม่สันติธรรม จังหวัดลพบุรี กับท่านอาจารย์อุบล ก่อนจะกลับผมเหลือบไปเห็นน้องเอิ้นยืนบำบัดชายคนหนึ่งอยู่ท่าทางหน้าตาเศร้าสร้อยมาก ดูเหมือนคนมีความทุกข์

ผมเลยเข้าไปช่วย เพราะดูท่าทางเขาจะแย่ พอเข้าไปฟังได้รับทราบอาการแล้วก็คิดทันทีว่าอาการหนัก จี้3ร่มโพธิ์ศรีของน้องเอิ้นคงไม่พอ เพราะน้องเอิ้นมีแค่องค์เดียว

พี่ชายคนนี้เขาบอกว่าปวดหลังสุดๆ ปวดไปทั้งตัวจะลุกจะนั่งจะขยับตัวก็ปวดร้าวระบบไปหมด หน้าอกสองข้างก็เจ็บมากกก

ว่าแล้วผมก็เริ่มบำบัดโดยให้พี่ชายคนนี้มองที่จี้ และบอกให้เขาพูดตามว่า อาจารย์อุบลช่วยด้วย ขอให้ผมหายปวดหลังด้วยเถิด สาธุ

เขาก็มองจี้ไปเรื่อยๆนับได้ 60วินาทีเขาก็ลองเช็คอาการดู ปรากฏว่าดีขึ้นนิดหน่อย ท่าทางเขาพอใจขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ดูท่าทางเป็นเป็นหนักอยู่มาก

ก็เลยให้เขาพูดใหม่ อาจารย์อุบลช่วยด้วย ขอให้ผมหายปวดหลังด้วย เขาก็พูด และอาการก็ดีขึ้นอีกนิดหน่อย

รวมๆแล้วประมาณ 10-20%แค่นั้น ก็เลยคิดทันทีว่าแสดงว่าเจ้ากรรมนายเวรไม่ยอมแน่ๆและต้องเป็นกรรมหนักสุดๆ

ก็เลยไล่ถามว่าเขาทำอะไรมาบ้าง ซึ่งได้ความว่า เคยฆ่าเป็ด ฆ่าไก่ และสัตว์ต่างๆมาเยอะมาก แต่เรื่องหลังนั้นไม่เคยเจ้าชู้ เรื่องนี้ไม่เอา เคยเตะหลังสัตว์มาด้วย

ว่าแล้วก็ให้เขายกมือขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าเบิกบุญทุกๆชาติอุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวรที่กล่าวมาแล้ว

ท่าทางเขาดูมีความหวังมากขึ้น อาการดีขึ้นอีก เขาพยักหน้า แต่ก็ยังทำหน้าแบบเจ็บปวดอยู่ เพราะเหลืออาการอีกเยอะ

ว่าแล้วผมก็ให้เขายกมือพูดตาม ขออาราธนาและขอบคุณบารมีพระพุทธเจ้าองค์พระปฐม พระศรีอาริย์ พระเจ้าอยู่หัว และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วอนันตจักรวาล ขอให้เขาหายปวดหลังด้วย

คราวนี้ดูเขามีความสุขกว่าเดิม เริ่มมีสีหน้าแบบมั่นใจมากขึ้น บอกว่าดีขึ้น ดีขึ้น ประมาณ 50%แล้ว แต่ในใจผมก็ยังคิดว่าต้องมีไรบางอย่างและบอกไปว่าต้องมีกรรมอะไรสักอย่างที่หนักมากที่ยังไม่ได้พูด

พอดีพี่เหมี่ยวและเพื่อนๆที่เริ่มทะยอยเดินเข้ามาสมทบ บ้างก็ยืนฟังก่อนหน้านี้ พี่เหมี่ยวได้เข้ามาช่วยด้วย พี่เหมี่ยวก็เลยบอกว่า เอางี้! ตอนนี้เจ้ากรรมนายเวรเขารอดูอยู่ เขาคอยฟังอยู่ พูดออกมาเลยว่าเคยทำอะไรมาบ้าง พูดให้หมดเลย เขาจะได้ให้อภัยและจะได้หาย

เขาก็ยังทำท่าคิดไม่ออก ผมก็เลยช่วยไล่ให้ใหม่

เคยฆ่าไก่ไหม "เคยเยอะมาก"

เคยฆ่าเป็ดไหม "เคย เยอะเหมือนกัน"

เคยฆ่าวัวไหม "เคย แต่ควายไม่เคยฆ่านะ"

เมื่อก่อนผมใจคอโหดมาก

ผมสงสัยอะไรอยู่ ปากก็เลยถามออกไปตรงๆ

"เคยฆ่าคนไหม"

พี่เขาก็หยุดนิดหนึ่ง และเริ่มหันไปมองซ้าย มองขวา และหันมาบอกว่า "เรื่องนี้คดีมันยังไม่หมดความ เคยฆ่าน่ะเคย 3คน"

"งั้นพี่บอกมาครับว่าฆ่าเขายังไงครับ"

"ก็เขาขวานนี่แหละฟันเขาตาย" อูยยย...ฟังแล้วซี๊ดดดเลย

พอได้คำตอบเช่นนี้ก็มั่นใจแล้วล่ะว่าเจ้ากรรมนายใหญ่คือคนนั่นเอง

ว่าแล้วก็นำให้เขาเบิกบุญอุทิศบุญใหม่ เจาะจงให้กับเจ้ากรรมที่เขาสารภาพมาตะกี้นี้

พอเสร็จพี่เขาก็เช็คอาการใหม่ และบอกว่าดีขึ้นอีก ตอนนี้ประมาณ 60%แล้ว

ผมก็เลยบอกพี่เหมี่ยวว่า ท่าทางงานนี้หนัก ไม่ธรรมดาเขาคงไม่ยอมง่ายๆ มีทางเดียวแหละ

ว่าแล้วผมก็บอกพี่เขาว่า มาทางนี้ ไปกราบท่านอาจารย์อุบลเลย มีคนเดียวที่จะช่วยด้วยได้

ว่าแล้วท่านอาจารย์ก็เมตตาสงเคราะเขา ได้ไตร่สวนกรรมจนเขายอมเปิดปากสารภาพทุกอย่าง

เคยฆ่าคนมา3คน โดย 2คนนั้นฆ่าในครั้งเดียวกัน แต่อีกคนฆ่าคนละครั้งกัน ทำไปโดยความโกรธหลังจากมีเรื่องกัน และผู้ตายเป็นแรงงานต่างชาติที่มาทำงานที่ก่อสร้างกรุงเทพด้วยกัน

ที่สำคัญเขาหนีคดีมาด้วยจิตที่ไม่รู้สึกผิดหรือสำนึกเลย

เขาใช้ขวานฟันสองคนแรกตายนั้น คนแรกใช้ขวานฟันปักที่อกจนขวานมิดด้ามเลย จนตัวเองต้องใช้เท้าเหยียบที่ตัวคนตายเพื่อดึงขวานเล่มนั้นออกมา ส่วนอีกคนนั้นตวัดขวานไปฟันท้องเขาจนท้องแตก ไส้ไหลทะลักออกมากองข้างหน้าเลย แต่รู้สึกว่าจะตายภายหลังไม่ได้ตายทันที(หากจำผิดขออภัยด้วยนะครับ)

เขาบอกว่าเมื่อก่อนไม่ได้สำนึกรู้สึกผิดไรหรอก แต่ตอนนี้ก็รู้สึกสำนึกผิดบ้าง ผมฟังเขาก็ยังรู้สึกเลยว่า ถึงขนาดนี้แล้วยังใช้คำว่า "บ้าง" เจ้ากรรมนายเวรไหนจะยอมปล่อยล่ะเนี่ย

ท่านอาจารย์ก็เมตตาอุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งสามคนของพี่เขา จนเขารู้สึกดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอาการที่ปวดหลังสุดๆและเจ็บหน้าอกดีขึ้นจนเจ้าตัวมีสีหน้าพอใจเป็นอย่างยิ่ง และที่สำคัญคือสีหน้า ใบหน้าเขาสว่างขึ้นมา ดูแล้วรู้เลยว่าต่างกับคนเมื่อกี้อย่างเห็นได้ชัดเจน เรียกว่า "เขาได้ชีวิตใหม่แล้ว"

ท่านอาจารย์ก็เมตตาบอกตรงๆว่า เจ้ากรรมนายเวรยังไม่ปล่อย และบุญพี่เขาก็น้อยมากกก ต้องทำบุญที่มีกำลังสูงอุทิศให้เขา

หากมีโอกาสก็ไปร่วมบุญแรงกายที่บ้านสวนฯเพราะสัปดาห์หน้า ผู้ใหญ่บ้านจะนำทีมแม่ครัววัดใหม่สันติธรรมไปร่วมบุญที่บ้านสวนฯ

ผมมั่นใจว่าพี่เขาน่าจะมา เพราะดูสีหน้าเขามีความสุขและมีความหวังอย่างเห็นได้ชัดเจน เพราะตนเองทุกข์ทรมานด้วยอาการเจ็บปางตายนี้มากว่า 20 ปี แต่คงไม่เคยได้รับความสุขแบบฉับพลันทันทีอย่างนี้มาก่อน อาการทุกอย่างดีขึ้นอย่างชัดเจน จนขนาดเจ้าตัวกล้าพูดสิ่งที่ปกปิดมานาน 20 ปีให้ทุกคนได้รู้กัน ว่าตนเองเคยฆ่าคนตาย

และยังบอกอีกว่าสำนึกมาหลายปีนี้แล้วว่า ทำบาปหนัก แต่ก็คงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรมั้งครับ วันนี้เรียกว่าได้ท่านอาจารย์อุบลมาโปรดถึงที่ ตนเองก็รออยู่ว่าใครจะมาบำบัดช่วยตน จนน้องเอิ้นเข้าไปถามและช่วยอย่างที่เห็น

โอยยย....พี่น้องครับ พี่ชายท่านนี้จิตเปิดแล้วครับ เพราะสิ่งที่ตนเองได้รับ รับรู้ได้ด้วยตนเองไม่ต้องถามใคร กล้าเปิดสิ่งที่ปิด และมีความหวังที่จะหาย และรับรู้แล้วว่า "กรรมส่งผลตรงตัว ไม่เคยลำเอียงหรือผิดตัว"

นี่แหละครับชีวิตของ "คนซ่อนกรรม"

คงไม่ต่างจากบาปหนักของผู้คนที่ขยันสร้างบาป คิดว่าคนอื่นไม่รู้หน้า ไม่เห็นหน้าตาตนเอง คอยสร้างแต่กรรมหนักๆเที่ยวปรามาส ทำลาย คนดี ผู้มีบารมี มีศีลธรรม เอาความถูกใจของตนเองเข้าว่า เป็นลักษณะของมาร ที่เห็นผู้คนทำความดี มีความสุขก็จะรับไม่ได้ ยิ่งหากสิ่งดีๆที่บ้านสวนพีระมิดทำนั้นทำให้มารเหล่านี้เสียผลประโยชน์ ก็จะยิ่งดิ้นทุรนทุรายหาทางทำลายทุกวิถีทาง

มีหรือที่จะรอดผลแห่งกรรม พี่ชายคนนี้ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยสร้างบาปหนัก แต่เขาเองรู้ตัวเองและกำลังได้รับผลกรรมหนักนั้นตลอดเวลา นอนไม่หลับ ทุรนทุราย ทรมานแสนสาหัส

แล้วมีหรืออย่างคนที่ทำตัวเป็น "ขยะสังคม" คอยลอบกัด สร้างเฟสบุ๊คปลอม คอยทำลายคนดีๆ คนมีศีลธรรม มีหรือจะอยู่สุขสบาย หลอกตัวเองไปวันๆ ทำตัวเองเป็น "คนซ่อนกรรม" เป็นเถอะนะ คงคิดว่าไม่มีคนรู้กระมัง แต่ลืมไปว่า ตนเองนี่แหละรู้ดีที่สุดว่าชีวิตกำลังตกต่ำ ได้รับทุกข์สุดๆเพียงแต่ไม่ยอมรับ ปกปิดไว้ก็เท่านั้น

ชีวิตก็คงไม่ต่างไปจาก "หมาขี้เรื้อน" ที่คอยโทษว่าสิ่งนั้นไม่ดี ตรงนี้ไม่ดีทำให้ตนเองคัน แต่หารู้ไม่ว่า "ตนเองมีขี้เรื้อน"อยู่ภายในตัวต่างหาก แต่กลับไม่ยอมรับว่านี่คือ "ชีวิตที่ตกนรกทั้งเป็น" เชิญสำราญกับการหลอกตัวเองไปวันๆเถอะครับ

วันเสาร์ท่านอาจารย์อุบลได้นำทีมลูกบ้านสวนร่วมทอดกฐินที่วัดใหม่สันติธรรม(วัดหลวงพ่อเสงี่ยม) อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี เนื่องจากวัดนี้อยู่ห่างบ้านผมไม่ไกลนัก ผมจึงไปรอคณะลูกบ้านสวนที่วัดครับ พอลูกบ้านสวนทะยอยเดินทางกันมาจนครบ ท่านอาจารย์ก็นำพวกเราถวายผ้าไตรมหากฐินโดยถวายผ้าไตรจีวรครบจำนวนพระทั้งวัด เรียกว่าได้บุญใหญ่ทั้งผู้ให้และผู้รับ เสร็จแล้วพลังกองทัพธรรมต่างคนก็ต่างแยกย้ายทำหน้าที่ของตนเองอย่างขมักเขม้น มีทั้งหน่วยพ่อหมอแม่หมอเคลื่อนที่เร็ว หน่วยบุญแจกธรรมทาน หน่วยบุญเก็บขยะทำความสะอาดบริเวณวัด แต่เหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นก็จะมีหลวงพี่ที่มีอภิญญาซึ่งผมเองก็ได้ฟังหลวงพี่ท่านนี้อยู่เหมือนกัน แต่คำพูดที่ทำให้หัวใจพองโตคือประโยคที่ว่าผู้ที่คล้องจี้3ร่มโพธิ์ศรีนี้ ในนี้มีผู้นำที่จะนำพวกเราไม่ต้องมาเกิดอีก ถ้าผมแปลไม่ผิดแสดงว่าเราพบผู้ที่จะนำพวกเรากลับบ้านนิพพานแล้วใช่ไหมครับและหลวงพี่บอกว่าดีใจที่มาพบกันเพราะหลวงพี่ก็จะไม่กลับมาเกิดอีกเหมือนกันครับ

วันอาทิตย์เราแบ่งกลุ่มทำworkshopกันต่อ โดยมีงานหลักคืองานสร้างอาคาร3ชั้น งานเกี่ยวข้าว งานเย็บเล่มธรรมทาน ส่วนผมต้องประจำที่งานสร้างอาคาร3ชั้น ซึ่งอาทิตย์นี้เราได้ผสมปูนเทเสา ซึ่งผมเห็นเสาอาคาร3ชั้นแล้วต้องบอกว่าแข็งแรงมากๆครับ ขนาดของเสาใหญ่พอๆกับเสาของตึกใหญ่หลายสิบชั้นหรือเสาห้างสรรพสินค้าเรียกว่าแผ่นดินไหวขึ้นมาอาคาร3ชั้นนี้คงไม่สะทกสะท้านแน่นอนครับ ก่อนเริ่มงานทีมงานผสมปูนเราได้คุยกันโดยมีพี่อมรนำทีม ซึ่งเราตกลงกันว่าครั้งนี้เป้าหมายในการผสมปูนของเราต้องให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุดแต่ได้งานออกมามากและดีที่สุด เรียกว่าฝึกทั้งปัญญาและสมาธิครับ ซึ่งงานนี้มีหญิงเหล็กลูกบ้านสวนหลายท่านได้มาฝึกผสมปูนด้วยครับ เรียกว่าหญิงเหล็กลูกบ้านสวนสุดยอดจริงๆทำงานได้ทุกอย่างเลยครับ ตั้งแต่งานครัวจนถึงงานก่อสร้าง ว่าแต่ผู้ชายลูกบ้านสวนยังไม่ได้ฝึกทำกับข้าวกันเลยครับ สงสัยเวลาเกิดภัยพิบัติผู้ชายอดตายกันแน่เลยครับ

กิจกรรม บุญ 17 - 18 / 11 /55

บุญธรรมทาน

เป็นบุญใหญ่ มาก จริง ๆ ค่ะ

เพราะ

การที่ท่าน อ.อุบล

เคี่ยวเข็ญ

อยากให้บรรดาลูกศิษย์

ได้รับอานิสงค์ผลบุญใหญ่ ๆ

โห..กว่าพวกเราจะ คิดได้ ทำได้

อาจารย์ เหนื่อย ปาก มากกกกก

มีเรื่องเล่าส่วนตัวที่อยากจะบอกว่า

สิ่งที่ อ.อุบล มอบให้นี้ สุดยอดค่ะ

และคิดได้โดย ทันทีว่า

บุญธรรมทาน นี้เอง

ทำให้เรา หายจากอาการ

ปวด ประจำเดือน

เป็นครั้งแรก ที่เห็นชัดเจน

อาการที่ปวดรุนแรงทุกครั้ง

จนทำอะไร ไม่ไหว

ไม่ปรากฏเลย แถม

มาแบบ ไม่รู้ตัวอีกต่างหาก

เพราะอะไร จึงทำให้คิดว่า

เป็นบุญธรรมทาน

ก็เพราะก่อนหน้านี้

ไม่เคยได้รับ อานิสงค์บุญ

แบบหายปวดสนิท แบบนี้เลย

ตั้งแต่ท่าน อ.อุบล เมตตา

ได้นำธรรมทาน ไปแจกให้

ในงานพระราชทานเพลิง คุณตา

เป็นเพราะ อาจารย์ สอน

ให้เป็นผู้ให้ .. ให้ธรรมทาน..

และในค่ำคืนของวันศุกร์ที่ 16

อ.อุบล นำทีม เย็บเล่มธรรมทาน

เพื่อพร้อมแจกในทุกโอกาส

เวลาล่วงเลยไปเร็วมาก

การทำงานเป็นระบบ เป็น แผนก

เฮ...เสร็จแล้ว...01.30 น.ของวันที่ 17

และพวกเราก็ยังมานั่ง สวนเสวนากันอีก

เหมือนไม่เคยได้พบกันมานานนนนน

กว่าจะได้เข้านอนก็ใกล้ ตี3 เน๊อะ

แล้วพวกเราก็ได้รับข่าวดี !!!

ว่าเราจะได้เดินทางไป ทอดกฐิน

ทีวัดใหม่สันติธรรมกัน เย่ ....

กราบเท้าขอบพระคุณ อ.อุบล

ที่เป็นผู้ที่ ส่งมอบบุญ

ให้กับพวกเรา ในทุก ๆ เวลานาที

คณะเราได้เข้าทอดกฐิน

อย่างสมบูรณ์

ต่อจากนั้น....ถึงเวลารับประทาน

อาหารเที่ยง พอดี

อ้าว แม่ครัว เจียวไข่

( เสียง อ.อุบล สั่งการ )

ไข่ ไข่ ไข่ ไข่  เอาไปต้มหมดเลยคร๊า

ว้า...แย่จัง ไข่ไก่ 5 ถาด

ที่ อ.อุบล สั่งให้นำไป

ถูกนำไปต้ม หมด

โดยที่ หาตัวผู้สั่งการ บ่ ได้

แม่ครัว บอกว่า

คนที่ใส่เสื้อ สีม่วง สั่ง

เฮ่อ..แต่ในคณะ วันนั้น

ไม่มีใคร ใส่ เสื้อสีม่วง อ่ะ

และ เหตุการณ์นี้ ได้ให้ข้อคิดอะไร

ส่วนตัว..ก็คือ เป็นอะไรที่

ไม่ใส่ใจ.. ไม่ชัดเจน

ของพวกเราเอง

ต้องกราบขอ อภัย ร้อยครั้ง พันครั้ง

อันนี้ก็คือ บทเรียน ของเราอีก

แต่ความเสียหาย ก็เป็น

ของ อ.อุบล อีกตามเคยยย

พวกเรา ควรกระชับ ขั้นตอน

บุคคล และความชัดเจนให้มากกว่านี้

( Workshop นอกสถานที่ )

จัดกลุ่ม แบ่งหน้าที่

ระบุไปเลย เช่น

กลุ่มที่ 1 เอาไข่เข้าครัว แล้วบอกให้แม่ครัว

กรุณาช่วยเจียวให้ด้วย

เพราะไม่เช่นนั้น

ก็จะเป็นอะไรที่ ซ้ำซ้อน

คนโน้นก็ บอก คนนี้ก็บอก

หลายๆๆๆ คำสั่ง

ใครเป็นคนสั่ง  ใครรับคำสั่ง

หากันให้วุ่น หรือ

อีกประเด็นก็ไม่มีใคร แอ็คชั่นเลย

เพราะคิดว่า

คนโน้น อาจจะสั่งแล้ว

คนนี้อาจดำเนินการไปแล้ว

โอ้ย...เรื่องใหญ่นะเนี่ย

แค่..อ.อุบล สั่งการพวกเราเรื่องง่าย ๆ

เรายังผิดพลาด..ไปคนละเรื่อง

นับประสาอะไร กับเรื่องที่ใหญ่

และสำคัญมากกว่า

ไข่เจียว

********************

ขออนุญาติ

เตือน

ญาติธรรม

ที่มักเขียนธรรมทาน

ใส่ที่อื่นเช่น Word และอื่นๆ

แล้วก็อปนำมาแปะ

ใส่กระทู้ต่างๆ

ทำให้กระทู้นั้นๆค้าง

เช่น

ป้าปุ๊ อาจารย์ณี และอีกหลายท่าน

เมื่อกระทู้นั้นๆค้างทำให้

ไม่สามารถดูความเห็นอื่นๆได้อีก

การกระทำเช่นนี้

คือการสร้างบาปหนักแก่ตนเอง

เอาความสะดวกตนเองเป็นหลัก

ซึ่งทุกครั้งจะสังเกตได้ง่าย

คือ

โพสนั้นๆจะมีเครื่องหมายแปลกๆ

และกรอบโพสจะยาวหรือโย้ไปมา

เกิดจากการก๊อปมาวาง

หากพบเห็นวิธีการนี้อีก

ผมจะขออนุญาติ

แจ้งคุณมาร์ค

ให้ลบชื่อท่านออกจากระบบ

สมาชิกทันที

ขอให้เพื่อนสมาชิกช่วยกัน

แจ้งและบอกกล่าวท่านอื่นๆ

ด้วยนะครับ

ต้องขออภัยที่เอ่ยชื่อตรงๆเพื่อไม่ให้ท่านสร้างบาปแก่ตนเองเพิ่มต่อไป

กิจกรรม  17-18 พ.ย.

ลินขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ได้ร่วมบุญกฐินในวันเสาร์ที่ 17 พย. ด้วยค่ะ รู้สึก  อิ๊ม อิ่มบุญกันกันถ้วนหน้าเลย...  เสียดายลินมาถึงก็เย็นวันเสาร์แล้วค่ะ มาถึงก้อ 2  ทุ่มครึ่งมาถึงเจอ ทีม สามสาวสาว กะหนึ่งหนุ่ม พี่เจ๊ยบ  พี่แป้น พี่เปลว และน้องชิม ขออนุโมนาบุญที่ไปเกี่ยวข้าวกันมาด้วยนะค่ะ 

เช้าวันอาทิตย์ ตื่นไปแปลงผักค่ะ  ก็ช่วยคุณพ่อรื้อแปลงแตงกวา และผูกเชือกกับเสาเพื่อให้เถามะระ เลี้อยขึ้นไปได้ค่ะ กิจกรรมฐาน เราเริ่มกันก็ 9 โมงเช้าค่ะ วันนี้มี 3 ฐานด้วยกัน งานเกษตร งานก่อสร้าง และ งานทำธรรมทานค่ะ ตัวลินเอง อยู่กลุ่ม 2 เริ่มทำจากฐานก่อสร้าง ธรรมทาน ก่อสร้าง และสุดท้ายที่งานเกษตรค่ะ รู้สึกแปลกใจตัวเอง ว่าทำไมไม่เมื่อย หรือปวดหลังเลยทั้งทั้งที่ตักปูน 4 กระบะติด เพราะมะก่อนนี้หอบแฮก และปวดหลังเลยละค่ะ 555 งานธรรมทานเป็นงานช่วยกันเย็บเล่มค่ะ พี่เหมี่ยวได้รับอานิสงค์ของบุญนี้ไปเต็มเต็ม มือกลับมาสวยงาม อย่างเห็นได้ชัดเลยละค่ะ ส่วนช่วงบ่าย งานฟาดข้าว เพื่อให้เมล็ดข้าวหลุดออกจากต้นที่เก็บเกี่ยวกันมาแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ในชีวิตที่เคยทำค่ะ รู้สึกได้เลยถึงความเหน็ดเหนื่อยของชาวนา ที่เค้าปลูกข้าวให้พวกเราได้ทาน แต่ละกอข้าว ที่พวกเราฟาดกัน เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันค่ะ  ข้าวพันธ์ุนี้ เป็นข้าวหอมนิลค่ะ พอทำเสร็จก็ต้องใช้ปัญญาช่วยกันคิดว่าจะเก็บอย่างไรไม่ให้ไก่ป่า มากิน สุดท้ายท่านอาจารย์มาช่วยคิดให้นำไปเก็บไว้บนศาลาไม้ไผ่หลังเก่าค่ะ 

 ช่วงยามบ่ายพี่ธนาและ ท่านอาจารย์ ย้ำ ถึงการเขียนธรรมทาน ที่ถูกต้อง ว่าเราจะต้องเขียนข้อมูลให้ครบทั้ง ชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น อายุ ที่อยู่ ระดับการศึกษาสูงสุด สาขาที่จบ จบจากที่ไหน ทำอาชีพอะไร ตำแหน่งอะไร ทำงานที่ไหน และเป็นไปได้ใส่เบอร์โทรศัพท์ของตัวเองด้วยค่ะ ห้ามใส่ เบอร์โทรศัพท์ของท่านอาจารย์นะค่ะ   ขนาดตัวอักษรก็ควรมีขนาดและรูปแบบที่ให้อ่านได้ง่าย ไม่เล็กเกินไป นอกจากนี้ หัวข้อเรื่องที่เราจะเขียน ควรจะตั้งชื่อให้ น่าสนใจ เหมือนการพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ค่ะ เพื่อทำให้คนเห็นธรรมทานของเราแล้วอยากหยิบขึ้นมาอ่านทันที เพราะบุญธรรมทานจะเกิดก็ต่อเมื่อมีคนอ่านของเราค่ะ ถ้าคนอ่านมากบุญธรรมทานของเราก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆค่ะ ส่วนเรื่องที่เราเขียนธรรมทาน ต้องเล่าให้ละเอียด อ่านแล้วไม่เกิดคำถาม หรือข้อสงสัย เช่นชื่อเมือง หรือชื่อตำแหน่ง  และควรใช้ภาษาไทย และอาจจะวงเล็บเป็นภาษาอังกฤษได้ เพราะคนที่จะอ่านธรรมทานของเรา มีทุกระดับชั้นค่ะ ธรรมทานของเราจะได้บุญเกินร้อย และถ้าทำถูกต้องทุกอย่างก็จะได้รวมเล่มด้วยค่ะ รอบนี้ของลินก็ตกรอบ แหะแหะ แต่ถึงอย่างไร รอบหน้าลินคิดว่าของลินต้องได้เข้าเล่มแน่นอนค่ะ ^___^ 

นอกจากนี้ท่านอาจารย์ยังย้ำถึงบุญธรรมทานว่า

ทำสังฆทาน 100 ครั้ง  ก็ไม่เท่าทำ วิหารทาน 1 ครั้ง

ทำบุญวิหารทาน  100 ครั้ง ก็ไม่เท่า ธรรมทานเพียงครั้งเดียว 

ธรรมทานที่ดี จะต้องทำให้ผู้อื่น รู้ผิดบาป และรู้กฏแห่งกรรม ไม่ใช่แค่เขียนให้จบจบ ต้องเขียนให้กระแทกใจคนอ่านให้ได้

วัตถุประสงค์ที่แท้จริง ของพระพุทธองค์ ในการทำธรรมทานคือ ให้คนรักชั่ว กลัวบาป จากการอ่านธรรมทานของเรา

จะเห็นได้ว่า ธรรมทานเป็นบุญที่ยิ่งใหญ่มากมากเลยนะค่ะ 

###############################

 อ้อยคิดว่า เราควรจะมีฐาน Biogas เพิ่มขึ้นมาด้วย

เพราะท่านอาจารย์ก็เมตตา

บอกแล้วว่า

 ทุกคนควรต้องรู้และทำได้ในทุกๆงานของบ้านสวนฯ

++++++++++++++

ขอยกมือเห็นด้วยกับพี่อ้อยด้วยค่ะ งานนี้เป็นงานที่ต้องใช้กำลังใจสูงมากมาก จริงจริง 

เพราะจะเห็น พี่จุ๊มกะพี่จิ๋ม เป็นแกนหลักงานนี้ตลอดเลย

กราบอนุโทนาบุญกับท่านอ.อุบล อ.มงคล

ที่ได้ทำบุญกฐินวัดหลวงพ่อเสงี่ยม

ภารกิจท่านอ.อุบลมีมากมายหลายอย่าง

ถึงท่านอาจารย์จะมีกิจกรรมบุญมากมาย

แต่ก็มิได้ว่างเว้นกิจกรรมบุญทั้งในและนอกบ้านสวนพีระมิด

เพราะความเมตตา ความเสียสละ กำลังใจ  กำลังทรัพย์

สาธุ   สาธุ    สาธุ

กราบอนุโมทนาบุญกับตำแหน่งเขียนธรรมทานเร็ว

คุณพี่เพชรดา วรรณรักษ์ (พี่เจี๊ยบ)ค่ะ

พี่เจี๊ยบได้เล่าถึงการเกี่ยวข้าวที่บ้านสวนพีระมิด

แค่ได้อ่านเหมือนได้ลงไปเกี่ยวข้าวกับพี่เจี๊ยบจริงๆ

ต้นข้าว 1 กอ 1 ร่วง ก็คงมีเมล็ดเยอะ เมล็ดโต สวยงาม

เหมือนทุกๆปีที่ผ่านมา

น้อยอยากไปเกี่ยวข้าวเหมือนกัน

แต่พอถึงช่วงเกี่ยวข้าวบ้านสวนพีระมิดทีไร

มีเหตุให้ติดงาน ติดธุระ ทุกที

แต่ได้อ่านธรรมทานพี่เจี๊ยบแล้วน้อยก็ขอลงเกี่ยวข้าว

ด้วยคนอีกแรงนะค่ะ

เกี่ยวข้าวด้วยกำลังใจ

ที่ร่วมอนุโมทนาบุญค่ะ

น้อยก็ขออนุโมทนาบุญเกี่ยวข้าวครั้งนี้กับน้องชิม แม่ดาราค่ะ

เดี๋ยวนี้แม่ลูกคู่นี้จะมาบ้านสวนฯบ่อย

เอ้....ได้ยินข่าว

คุณแม่ดารา

หน้าขาว หน้าสวยขึ้น มีความสุขมากขึ้น

เป็นเหตุนี่หรือเปล่าหนอ

คุณแม่ดาราถึงได้เกาะบ้านสวนฯแบบทุกอาทิตย์เล้ย

และคุณแม่ดาราได้เจองานบุญที่สุดย๊อด

โดยเฉพาะ

งานเกี่ยวข้าวเป็นงานที่ต้องใช้ทั้งกำลังกาย กำลังใจสูงม๊าก

ในการเกี่ยวข้าว

เพราะต้องลงไปในนาที่มีต้นข้าวเยอะๆ

ต้องใช้ทั้งปัญญาระวังไม่ให้ต้นข้าวหัก ระวังให้เมล็ดข้าว

ร่วงน้อยที่สุด 

ต้องใช้ความอดทนสูง

โอ้โห....งานนี่ทั้งคุณพี่เจี๊ยบ คุณชิม คุณแม่ดารา

ก็โก้ยบุญไปเต็มๆๆๆ

แบบไม่มีใครแย่ง

สาธุ   สาธุ   สาธุ

 ท่านอาจารย์ก็เมตตาอุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งสามคนของพี่เขา จนเขารู้สึกดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอาการที่ปวดหลังสุดๆและเจ็บหน้าอกดีขึ้นจนเจ้าตัวมีสีหน้าพอใจเป็นอย่างยิ่ง และที่สำคัญคือสีหน้า ใบหน้าเขาสว่างขึ้นมา ดูแล้วรู้เลยว่าต่างกับคนเมื่อกี้อย่างเห็นได้ชัดเจน เรียกว่า "เขาได้ชีวิตใหม่แล้ว"

อนุโมทนากับพีธนาด้วยนะคะที่มาเหลาต่อ

อ่านแล้วก็หวาดเสียววิธีการฆ่าของเค้าจริงๆค่ะ

แค่อ่านยังน่ากลัวขนาดนี้เลย

แล้วผู้ที่ถูกฆ่าเขาจะแค้น และเจ็บแค่ไหนเนอะ

ว่าแล้วก็เอาใจช่วยให้พี่เค้าสำนึกได้

และได้มีโอกาสมาสร้างบุญใหญ่ที่บ้านสวนด้วยนะคะ

อนุโมทนากับธรรมทานจากทุกๆท่านด้วยเช่นกันค่ะ

สาธุ สาธุ

ว่าแล้วหลวงพี่สมบัติก็จับจี้ฯ แล้วตั้งจิตอธิษฐาน

ขอชมบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์

............................

รู้สึกว่าบุญกฐินปีนี้

พี่ท่านมีพลังม๊ากเล้ยนะค่ะ

แม้แต่พระพี่ท่านก็เปิดใจได้ด้วย

พระสมบัติ(มีอภิญญา)

ก็คงสัมผัสพลังงานอนันตจักรวาล

จากคุณพี่ธนาได้แน่ๆๆ

คงสัมผัสกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ด้วยจิตของท่าน

งานนี้งานเข้าอีกแล้ว

พระก็คงตะลึงว่า

ใครหน่า

เป็นคนทำวัตถุมงคล

ทำมั้ย

มหัศจรรย์จริงๆ

อ้อ..เจ้าของบ้านสวนพีระมิดนั่นไง

สาธุ  สาธุ  สาธุ

อะไรทำมั้ยถึงสุดย๊อดเพียงนี้เป็นผู้หญิงด้วยเพราะบารมี

ท่านอาจารย์สะสมมาหลายภพชาติเป็นแน่แท้

และด้วยความเมตตา พระปัญญา ความสามารถ

อันแหลมคม ของอาจารย์ท่านเป็นผู้ทำวัตถุมงคล

ต้องการให้ผู้ส่วมใส่ได้รับพลังงานที่ดีๆๆจาก

พระองค์ปฐม  พระศรีอาริย์เมตไตร พระเจ้าอยู่หัว

พลังงานอนันตจักรวาล

ที่สำคัญ

ท่านอาจารย์ต้องการให้ผู้สวมใส่ละชั่วทำดี

รักษาศีลห้าให้บริสุทธิ์ยิ่งๆขึ้นไป

สาธุ  สาธุ  สาธุ

พระปวดขามาหลายสิบปีก็หายได้

เหมือนกับงานศพคุณตาสำเภา

น้อยได้เข้าร่วมวงกับพี่ชาย อาจารย์พัน บำบัดหลวงตา

วัดอะไรไม่ทราบที่มาร่วมงานศพคุณตาสำเภา

น้อยได้เข้าร่วมวง

แปลกม๊าก

ท่านอาจารย์ให้พระ

พูดว่า

อาจารย์อุบลช่วยด้วย พร้อมมองจี้ห้อยที่คอ

อาการดีขึ้นเรื่อยๆ

จนถึงขั้นสารภาพบาปบอกว่าเคยผิดศีล

ข้อหนึ่ง ข้อสอง ข้อสาม  ข้อสี่ ข้อห้า

โดยเฉพาะหักขากบ ขาเขียด ชอบผู้หญิงเมื่อครั้งเป็นฆราวาส

ขนาดพระบวชมาตั้งหลายพรรษา แต่เอ้.....บุญบวชก็เยอะ

แต่ทำมั้ย...อาการปวดขา

ถึงไม่หายขาดได้

พระสงฆ์  เณร  แม่ชี ก็คงงง

แต่ถ้าพระผู้ได้อภิญญาจริง

ก็คงสัมผัสพลังงานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้

ก็คงตอบข้อสงสัยได้ในครั้งนี้

บุญกฐินในครั้งนี้ คุณพี่ธนาท่านก็คงได้บำบัดพระสงฆ์

หลายรูปเช่นกัน

แต่เอ้......

พระก็คงสงสัยเป็นแน่ว่าทำมั้ย

ฆราวาสมาช่วยพระได้

ในครึ่งศตวรรษหลังของพระพุทธศาสนา

พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระองค์ปฐม พระศรีอาริย์

ต้องการแสดงให้เห็นว่า

ทั้งพระ เณร แม่ชี รักษาศีลได้ไม่บริสุทธิ์ครบถ้วนเหมือนเมื่อก่อน

จึงให้ฆราวาสเป็นผู้ชี้ให้เห็นถึงเหตุ

แล้วช่วยกันดับเหตุให้พระพุทธศาสนาได้ยืนยาวคู่

ศาสนาพุทธต่อไป

สาธุ  สาธุ  สาธุ

 พระกราบรูปท่านอ.อุบล

แล้วหายเจ็บป่วยทันที

พระ เป็นผู้มีศีลถึง 227 ข้อ

แต่เจ็บป่วยเหมือนฆราวาสได้

กฏแห่งกรรมช่างยุติธรรมจริงๆๆ

แสดงว่า

จำนวนศีลถึงแม้จะรักษาหลายข้อ

ก็ต้องมีพื้นฐานของศีลห้าเป็นสำคัญ

เป็นเหตุชี้ให้เห็นว่าถึงแม้เราจะมีรักษาศีลหลายข้อ

เปรียบกับเรามีวัตถุมงคลหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น

แหวน จี้ พีระมิด

ถ้าเราไม่รู้คุณค่าของวัตถุมงคลนั้น

ก็คงไม่มีค่าเหมือนกับการรักษาศีลหลายๆข้อเช่นกัน

สรุปแล้ว

เมื่อรักษาศีล 227 ข้อ แล้วก็ต้องบริสุทธิ์ให้ได้ทั้ง

กาย  วาจา  ใจ

ถ้าไม่บริสุทธิ์ครบถ้วน

กรรมก็ต้องได้รับทันทีเช่่นกัน

ดังเช่น

เมื่อเรามีวัตถุมงคล แหวน จี้ พีระมิด แล้ว

ซึ่งเป็นเครื่องช่วยให้เรารักษาศีลห้าให้บริสุทธิ์

ได้ละเอียดยิ่งๆขึ้นไป

ทั้งกาย วาจา ใจ

ถ้ายังพลาดไปทำความชั่ว ผิดศีล 5 อีก

กรรมก็ยิ่งได้รับหนักกว่าเดิมหรือมากกว่าเดิม

กฏแห่งกรรมช่างยุติธรรมจริงๆๆ

เพราะ

สิ่งเหล่านั้นเกิดกับตัวน้อยเอง

ขับรถไปอุดรฯกับเพื่อนก็เม้าท์นินทาเจ้านายเพื่อนร่วมงาน

เต็มทีแต่ในใจก็บอกตัวเองว่าเราจะไม่นินทาแล้ว

แต่เราไม่สามารถควบคุม

กาย วาจา ใจ

ตัวเอง

กรรมน้อยก็ต้องได้รับทันทีเช่นกัน

กลับมาบ้านต้องเจ็บคอเหมือนใครมาเผาพริกร่มที่คอ

คิดได้ว่าไปนินทา

น้อยก็เล้ยรีบขอขมาพระพุทธเจ้าที่ผิดศีลค่ะ

อาการก็หายทันที