ReadyPlanet.com


ด่วน!! 30 พ.ย.55 ม.ราชภัฏนครปฐม มาดูงานและร่วมกิจกรรมบุญบ้านสวน


วันศุกร์ที่

30 พ.ย.55

เจ้าหน้าที่และคณะ

ม.ราชภัฏนครปฐม

นำโดย

ร.ศ.เบญจรัตน์ สีทองสุก

ผู้อำนวยการ

สำนักวิทยบริการ

และเทคโนโลยี สารสนเทศ

ขออนุญาติ

นำคณะ

มาดูงาน

และร่วมกิจกรรม

บุญแรงกาย

ดังนั้น

ท่านใดที่สะดวก

และมีจิตอาสา

ต้องการมาช่วยงาน

เช่น

งานต้อนรับ

นำทีมทำกิจกรรมฯ

ทำอาหาร จัดสถานที่

และอื่นๆ

ขอเรียนเชิญ

แจ้งความจำนง

ได้ที่นี่เลยครับ

อ้อ ได้ข่าวมาว่า

อาจจะมีพระมาร่วมกิจกรรม

ในครั้งนี้ด้วย

ช่วงที่ ร.ศ.เบญจรัตน์

แจกธรรมทานก็มี

พระแสดงความสนใจ

อยากมาบ้านสวนฯมาก

ยิ่งที่ผ่านมา

ช่วงที่คณะบ้านสวนฯ

แจกธรรมทาน

ในงานพระราชทานเพลิงศพ

คุณตาสำเภา

และงานทอดกฐิน

วัดใหม่สันติธรรม

พระแต่ละรูปที่ได้รับ

หนังสือธรรมทาน

และได้รับการบำบัด

จากลูกบ้านสวนฯ

ต่างพูดเป็นเสียงเดียวว่า

อยากมาบ้านสวนฯ

น๊านแน่ บางองค์เป็นถึง

พระอภิญญา

ซะด้วยสิ

งานนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน

จิตอาสาท่านใดพร้อม ก็ขอเชิญลงชื่อได้เลยฮับ มาลงเวยๆๆ

 

 



ผู้ตั้งกระทู้ ธนา อรุณภิญโญพล กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2012-11-21 15:33:24


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1641611)

น.ส. ปาริชาต ชมภู

ขอลงชื่อจิตอาสาช่วยงานด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-21 15:50:05


ความคิดเห็นที่ 2 (1641618)

ลงชื่อครับ  จิตอาสาช่วยงาน ครับ

1. นายอมร  ศิริมาศฏูล

2. นางสุนีย์  ศิริมาศกูล

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-21 16:19:37


ความคิดเห็นที่ 3 (1641619)

 อนัญญา (อัญ) สุขถาวร

ขอลงชื่อช่วยงานนี้ด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-21 16:25:59


ความคิดเห็นที่ 4 (1641646)

โมทนาบุญกับจิตอาสาที่ได้ไปต้อนรับช่วยงานในครั้งนี้ด้วยค่ะสาธุๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-21 18:44:28


ความคิดเห็นที่ 5 (1641649)

ขอไปร่วมงาน

ด้วยคนได้ป่าวพ่อใหญ่ธนา

555

เห็นว่าจะมีบักสีดา

มาจากเมืองนอกเมืองนาหลายคน

สงสัย จะเมื่อยมือ น่าดู

ละงานนี้ นะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-21 19:08:57


ความคิดเห็นที่ 6 (1641677)

 สำหรับงานนี้ต้องกราบขอบคุณ

ท่านอาจารย์อุบลที่เมตตา

และขอขอบคุณพี่น้องบ้่านสวนทุกท่านค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-21 20:21:15


ความคิดเห็นที่ 7 (1641700)

 

 

ขอลงชื่อจิตอาสา2คนครับ

                      -   นายสิทธิพันธ์       อัครวิชนนท์    

                      -   นางกันต์สินี          อัครวิชนนท์ 

                                                                                                                                            ขอบคุณครับ

                                                                *********************

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธิพันธ์ อัครวิชชนนท์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-21 22:53:57


ความคิดเห็นที่ 8 (1641720)

กราบเรียนท่าน อ.อุบล, ท่านอ.มงคลและคุณท็อป

เรื่อง : ขอสมัครเข้าร่วมกิจกรรมวันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2555

1.ชื่อ : นางสาวเจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) อายุ 34 ปี 

2.ที่อยู่ : ปทุมธานี

3.ตำแหน่ง : -   อาชีพ :  แม่บ้าน

4.ปัญหาที่ต้องการบำบัด/ขอบารมีพระศรีอาริย์ : 

สายตาสั้น กรรมผิวพรรณ, ผมขาด-ร่วง-บางและเสีย, ลูกชายมีปัญหาเรื่องสุขภาพ (สายตาเขเดินเท้าบิดป่วยบ่อย)ขาดปัญญา ต้องการมีกำลังใจที่เข็มแข็งเพื่อกอบกู้ ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ และเข้าพระนิพพานในชาตินี้

จึงเรียนมาเพื่อขออนุญาติ กราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-22 01:59:01


ความคิดเห็นที่ 9 (1641722)

 งานนี้ท่าทางไม่ธรรมดาแฮะ

มากันทั้งพระ ทั้งคณะ ร.ศ.เบญจรัตน์

งานนี้จิตอาสาหลายๆท่านคงได้มีโอกาส

ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างเต็มที่

แต่ละกลุ่ม แต่ละฐาน วางแผนรอได้เลยคร๊าา อิอิ

แล้วอย่าลืมมาอัพเดทข่าวให้ชาวเกาะด้วยนะค๊าาา

แบบว่าตื่นเต้นแทนนะค่ะ อิอิ

ขอบคุณพี่ธนาที่มาแจ้งข่าว

และอนุโมทนากับจิตอาสาทุกๆท่านด้วยนะคะ

กราบขอบพระคุณท่านอ.และครอบครัวด้วยค่ะ

ที่เสียสละความเป็นส่วนตัวเพื่อผู้อื่นมาโดยตลอด 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-22 03:46:13


ความคิดเห็นที่ 10 (1641732)

โอ้วว...มีทั้งคนธรรมดา

ทั้งพระ และ ฝาหรั่ง ซะด้วย

 

แหม่..งานนี้ท่าทาง

จะไม่ธรรมดาแน่ๆเลยค่ะ

 

กราบอนุโมทนา

กับท่านอาจารย์และครอบครัว

รวมถึงพี่น้องบ้านสวนฯ

ที่มีจิตอาสาทุกๆท่านด้วยนะคะ

 

อนุโมทนากับ รศ. เบญจรัตน์

และคณะด้วยนะคะ

 

แล้วก็ขอบคุณพ่อใหญ่ธนา

ที่มาแจ้งข่าวด้วยจ๊า

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-22 06:24:50


ความคิดเห็นที่ 11 (1641734)

 ดังนั้น

ท่านใดที่สะดวก

และมีจิตอาสา

ต้องการมาช่วยงาน

เช่น

งานต้อนรับ

นำทีมทำกิจกรรมฯ

ทำอาหาร จัดสถานที่

และอื่นๆ

ขอเรียนเชิญ

แจ้งความจำนง

ได้ที่นี่เลยครับ

**********************

ขอยกสองมือ ร่วมด้วยค่ะ


ประวีณา  แค้มป์ ( แมว )

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-22 07:22:53


ความคิดเห็นที่ 12 (1641737)

กราบเรียนท่าน อ.อุบล, ท่านอ.มงคลและคุณท็อป

เรื่อง : ขอสมัครเข้าร่วมกิจกรรมวันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2555
1.ชื่อ : ผศ.ดร.ชัชวลี กะลัมพะเหติ  จิ๋ม
ตำแหน่ง : นักวิจัย  อาชีพ :  พนักงานบริษัทเอกชน ณ สถาบันวิจัยและเทคโนโลยี ปตท.  วังน้อย อยุธยา
2.ชื่อ : ผศ.ดร.ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ  จุ๋ม
ตำแหน่ง : นักวิจัย  อาชีพ :  อาจารย์  คณะเวชศาสตร์เขตร้อน ม.มหิดล กรุงเทพฯ
ขอเข้าร่วมกิจกรรมต้อนรับญาติธรรมที่จะเข้ามาบ้านสวนในวันศุกร์ที่ 30 พย.นี้ด้วย
 
โดยจะนำอาหาร ผัดซีอิ๋วมาสมทบ 1 หม้อ ขนมโดนัท และอื่น ๆ และมีสติกเกอร์ติดรถยนต์มาแจกเพิ่มเติมด้วย
ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-22 08:42:43


ความคิดเห็นที่ 13 (1641752)

เบส ขอยกมือ อาสาช่วยงานด้วยอีกแรงนะครับ 

(นายพัฒนพงศ์  ปรับโตวิดโจโย)

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-22 10:15:00


ความคิดเห็นที่ 14 (1641775)

 

 

 

ขออนุโมทนากับทุกท่านที่ได้ร่วมบุญค่ะ เป็นวันศุกร์เลยไปไม่ได้ค่ะ

กราบขออภัยด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น วีรดา อยู่นวล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-22 11:46:55


ความคิดเห็นที่ 15 (1641776)

 

ขอกราบ อนุูโมทนาบุญ กับ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล และ คุณท๊อป ครับ

และ ขอร่วมอนุโมทนาบุญ กับ เพื่อนๆ พี่ๆ บ้านสวนพีระมิด ที่มีจิตอาสา มาช่วยทำงานและร่วมต้อนรับ คณะของ รศ.เบญจรัตน์ ครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-22 12:08:59


ความคิดเห็นที่ 16 (1641805)

   ขออาสาร่วมแรงด้วยคนนะคะ

กว่าจะมีโอกาสดี ๆ เช่นนี้

อ. อุบลช่วยด้วย ขอให้หนูได้มาร่วมบุญจิตอาสา

ในครั้งนี้ด้วยนะคะ 

    ฉวีวรรณ  นภาพรรณราย

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-22 15:38:44


ความคิดเห็นที่ 17 (1641816)

อาจินต์ ภิรมย์รักษ์มาขอรายงานตัวร่วมลงชื่อช่วยทุกงานด้วยเจ้าค่ะ

 

กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-22 17:46:13


ความคิดเห็นที่ 18 (1641878)

 กราบอนุโมทนาบุญในกิจกรรมดีๆครั้งนี้ค่ะ

กับคุณพี่รศ.เบญจรัตน์ สีทองสุก

ได้อ่านธรรมทานของคุณพี่ท่านสุดย๊อดค่ะ

พร้อมอนุโมทนาบุญกับลูกศิษย์บ้านสวนพีระมิด

ที่ได้ร่วมบุญทั้งแรงกาย แรงใจ จิตอาสาในครั้งนี้ค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับโรงทานอาหาร ดร.จุ๋ม ดร.จิ๋ม

ขออนุโทนากับท่านอ.อุบล อ.มงคล คุณท๊อป

ที่เป็นผู้ให้ตลอดมา

และขอบคุณพี่ธนาที่แจ้งข่าวดีๆค่ะ

าธุ   สาธุ    สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-23 05:41:07


ความคิดเห็นที่ 19 (1641923)

ขอกราบ อนุูโมทนาบุญกับท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล คุณท๊อป

และ ขอร่วมอนุโมทนาบุญ กับ ทุก ๆ ท่านที่ได้ร่วมบุญในครั้งนี้ด้วยนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-23 10:28:12


ความคิดเห็นที่ 20 (1642004)

กราบเรียน  อ.อุบล อ.มงคล คุณท็อป

                   คุณธนา

ขอลงชื่อจิตอาสาช่วยงานด้วยครับ

  จุมพล  บัวโต

ผู้แสดงความคิดเห็น จุมพล บัวโต ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-23 19:28:41


ความคิดเห็นที่ 21 (1642017)

 

  นางสาว เจนมณีรัตน์ นาคชยานันท์ ขอร่วมลงชื่อ

        ร่วมบูญแรงกายจิตอาสาทุกอย่างค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจนมณีรัตน์ นาคชยานันท์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-23 21:54:23


ความคิดเห็นที่ 22 (1642278)

อนุโมทนา  คุณธนา และ ทุก ๆ ท่าน

ที่ได้ร่วมบุญแรงกายในครั้งนี้

           .............................

ขอบพระคุณ ท่าน อ.อุบล  คุณแมว

และคุณมาร์ค  ที่เมตตา   ค่ะ

หมวยได้เข้ามาเขียนธรรมทานได้

สำเร็จแล้วค่ะ

           ...............................

ลูกขอกราบพระบาทขอบพระคุณ

เทวดาทุกพระองค์ที่ปกปักรักษา

ท่าน อ. อุบล เจ้าค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณหมวย พรรณสรลี ชูตระกูล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-23 22:58:34


ความคิดเห็นที่ 23 (1642389)

ขออนุโมทนากับ 

ร.ศ.เบญจรัตน์ สีทองสุก

และคณะ

ที่จะมาดูงานและทำบุญด้วยแรงกายที่บ้านสวนฯ

 

และ

อนุโมทนากับเพื่อนๆ ที่มีจิตอาสาทุกท่าน

ที่เตรียมงานต้อนรับด้วยค่ะ

 

สาธุ

 

**************

 

งานนี้สงสัยจะมีนัยยะสำคัญอีกแน่ๆ

ที่ว่า อาจจะมีพระภิกษุสงฆ์มาร่วมงานด้วย

เอ...ช่วงนี้

ทำไมพระท่านถึงสนใจจะเข้ามาที่บ้านสวนพีระมิดมากขึ้น

จะเกี่ยวกับความฝันของท่านอาจารย์รึเปล่าน๊า...

 

!!!!!!!!!!

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธัญญาภรณ์ พุกภัย พิสมัย (ฝรั่งเศส) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-24 22:51:02


ความคิดเห็นที่ 24 (1642439)

คุณสกล นนทนาคร

ฝากลงชื่อแสดงความจำนงเป็นจิตอาสาช่วยงานค่ะ 

กราบขอบพระคุณท่านอ.อุบลและครอบครัว และเทวดารักษาท่านอ.อุบลทุกพระองค์ค่ะ

ขออนุโมทนากับร.ศ.เบญจรัตน์ สีทองสุก คณะ และจิตอาสาทุกท่านด้วยค่ะ สาธุ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-25 18:58:51


ความคิดเห็นที่ 25 (1642452)

งานนี้ไม่ธรรมดาแน่นอนค้าาาา.......พี่น้องทั้งหลาย

ท่านอาจารย์อุบลของเรา

เริ่มขยายเครือข่ายเข้าสู่วงการศึกษาแล้ว   เย้.....เย้.....เย้

ภายใต้การเชื่อมบุญของอาจารย์เบญจรัตน์

ในฐานะครูเก่า เรารู้สึกดีใจมาก ๆ

ต่อไป คงจะมีผู้เชื่อมบุญหลาย ๆ คน ที่มีโอกาสนำผู้คนที่ศรัทธา

เข้าไปทำบุญ และรับบุญที่บ้านสวนฯ มากขึ้น

หวังว่าตัวเอง

จะมีโอกาสได้เป็นผู้เชื่อมบุญแบบอาจารย์เบญรัตน์บ้างในอนาคต

ขอโมทนาบุญกับอาจารย์เบญจรัตน์

และจิตอาสาทุกท่านที่จะได้ร่วมงานบุญใหญ่อีกงานหนึ่งในครั้งนี้เป็นอย่างมากนะคะ

เสียดายแต่อยู่ไกลเหลือเกิน

มิฉะนั้นคงจะได้ไปช่วยงานบุญใหญ่ครั้งนี้แน่ ๆ

ขอบคุณ คุณธนาที่แจ้งข่าวบุญใหญ่ครั้งนี้ค่ะ

ท้ายสุดนี้หนูขออธิษฐานให้บุญบารมีของท่านอาจารย์อุบล

แผ่ไพศาล กว้างไกล และรวดเร็ว ยิ่งๆ ขึ้นไปนะคะ

โลกของเราจะได้มีภัยพิบัติน้อยลง และมีสันติสุขมากขึ้น

สาธุ   สาธุ  สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปัญจกานต์ วรรณทอง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-26 00:07:58


ความคิดเห็นที่ 26 (1642652)

  ขอร่วมลงชื่อเป็นจิตอาสาช่วยงานนี้ค่ะ

  1.นางจารุวรรณ จินดา

  2.นางแก้ว  โชคสถิตย์ 

  และขอร่วมอนุโมทนาบุญกับ ร.ศ.เบญจรัตน์ด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น จารุวรรณ จินดา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-27 10:30:46


ความคิดเห็นที่ 27 (1642741)

กระทู้นี้เขาประกาศรับ

จิตอาสาลูกบ้านสวนพีระมิด

ที่จะมาช่วยงานจ้า

คุณหนึ่ง

ไม่ได้ประกาศให้มาบำบัดค่ะ

 

สงสัยเข้าผิดกระทู้

ลองดูอีกทีนะ

จ๊ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-27 15:00:19


ความคิดเห็นที่ 28 (1642745)

รศ.เบญรัตน์ สีทองสุก

 

ผู้อำนวยการ

สำนักวิทยบริการ

และเทคโนโลยี สารสนเทศ

 

ม.ราชภัฏนครปฐม

 

เป็นศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำตัวจริง

เสียงจริง ของจริง

เพราะ

อ่านหนังสือหลวงพ่อฤาษี

ฟัง ซี.ดี.หลวงพ่อ

มีหนังสือ+ซี.ดี. ทุกเล่ม ทุกตอน

 

ตั้งแต่หลวงพ่อ

ยังมีชีวิตอยู่ จนหลังมรณภาพ

ก็ยังมั่นคงศรัทธาหลวงพ่อ

ไม่เสื่อมคลาย

 

รศ.เบญจรัตน์ สีทองสุก

เป็นผู้ฝักไฝ่ในธรรม คำสอนของ

หลวงพ่อ พระพุทธเจ้า

 

นำเอาธรรมะเข้าไป

ร่วมขัดเกลาในการเรียนการสอน

 

ได้ช่วยคนให้พ้นทุกข์

ด้วยธรรมะบำบัด

เห็นผลทันที

 

จัดนิทรรศการ

เผยแพร่กฏแห่งกรรม

ทางพ้นทุกข์

รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย

ฯลฯ

 

จนมีผู้คนหายป่วย

มีความสุขกันมากมาย

แจก

เอกสารธรรมทาน

 

โดย

เป็นคนแรก

ที่ริเริ่ม พริ้นท์ธรรมทาน

จากเวปไซด์

บ้านสวนพีระมิดรวมเล่มแจก

ได้รับความนิยมล้นหลาม

มีคนอ่านแล้ว

หายป่วย มีทางออก ในชีวิต

เลิกทำบาปอีกต่อไป

 

การมาเยือนบ้านสวนครั้งนี้

เพราะมีผู้ได้รับผล

แล้วสนใจ

จะมาดูให้เห็นกับตา

ได้ยินกับหู

ได้สัมผัส รับรู้ด้วยใจ

ถึงแหล่งต้นตอที่มา ที่ รศ.เบญรัตน์

นำไปบอกเล่า เผยแพร่

 

ดังนั้น

บ้านสวนพีระมิด

จึง

ยินดีต้อนรับผู้ศรัทธา

ประตูจิตเปิดมาแล้ว ด้วยการ

นำชม + บรรยาย

ถึงที่มา

และสิ่งที่ทำให้บ้านสวน

เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีปาฏิหารย์

แสดงได้ทั่วสารทิศ

 

เผื่อว่า

ท่านที่มา ต้องการให้

บ้านของท่าน ที่ทำงานท่าน

ตัวท่าน

เป็นเหมือนบ้านสวน

ก็ย่อมทำได้

ไม่หวง

 

ตลอดจน

จะได้แบ่งฐานการศึกษา

ออกเป็นหลายฐาน

เพื่อให้เข้าถึง กิจกรรมอัน

อยู่เบื้องหลังปาฏิหาริย์บ้านสวน

ทุกขั้นตอน

 

คนที่มาเป็นจิตอาสา

ต้องมาเป็นผู้นำ

ต้องพร้อม

ที่จะ

เป็นผู้ให้ไม่ใช่ผู้รับ

 

ส่วนการรับ

เป็นเรื่องของกฏแห่งกรรม

ผู้ใดให้ผู้อื่นมาก

ย่อมได้รับมาก

 

 

ผู้ใดให้ผู้อื่นน้อย

ย่อมได้รับน้อย

 

ผู้ใดไม่ให้ผู้อื่นเลย

ย่อมไม่ได้รับเลย

สิ่งที่ผู้ตะหนี่ถี่เหนียวได้รับนั้น

เป็นการรับมาด้วยแรงบาป

คือ

ต้องฉ้อฉล ใช้กลโกงมา

เป็นทรัพย์ร้อน

ที่พาเดือดร้อนทุกวันเวลา

 

ดังนั้น

เราจงมาร่วมกัน

เป็นผู้ให้

 

และ

ให้สิ่งที่เราได้

บริสุทธิ์ผุดผ่อง เพราะได้มา

จากอานิสงส์ของบุญ

จริงๆ ไม่ต้อง

แย่งชิง

ใคร

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-27 15:14:17


ความคิดเห็นที่ 29 (1642789)

ขอร่วมลงชื่อเป็นจิตอาสาช่วยงานด้วยค่ะ

1.นายชวนินทร์ กฤตธกร

2.นางพรหมภัสสร กฤตธกร

และขอร่วมอนุโมทนาบุญกับ ร.ศ.เบญจรัตน์ด้วยค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-27 21:19:56


ความคิดเห็นที่ 30 (1642800)

                                                               ขออนุโมทนาบุญกับจิตอาสาทุกๆท่านนะค่ะ

                                                                                     และ

                           ขออนุโมทนาบุญกับร.ศ.เบญจรัตน์  สีทองสุขและคณะด้วยค่ะ

 

 

 

 

 

                                                                                                                                     

ผู้แสดงความคิดเห็น วิราภรณ์ พุฒศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-28 01:21:59


ความคิดเห็นที่ 31 (1642805)

 

                      ขอลงชื่อร่วมบุญช่วยงานบ้านสวนค่ะ (ขอแทน)

                              นางธันยาภรณ์ ช่วยยิ้ม 

ผู้แสดงความคิดเห็น จารุวรรณ จินดา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-28 02:53:54


ความคิดเห็นที่ 32 (1642875)

ขออนุโมทนาบุญกับ

รศ.เบญจรัตน์  สีทองสุก

ผู้นำบุญแห่งม.ราชภัฏนครปฐม

และพี่น้องลูกบ้านสวนทุกท่าน

ตัวไม่ได้ไปแต่ขอส่งใจและปัจจัยไปร่วมทำบุญ

วันนี้ได้โอนเงินไปทำบุญดังนี้

นางวัชรินทร์  เกษมณี และลูก หลาน

เงินใส่บาตรวีระชะโยเดือนพย. 400 บาท

ทำบุญทุก ๆ บุญ 1,800  บาท

ทำบุญทุกๆ บุญ

เงิน(ช่วยค่ารถอ.พันธ์อ.ณี)ให้ทำบุญ 150  บาท

นางพิมพิ์  แสงศรี  100  บาท

โอนทางธ.กรุงเทพ

บัญชีเลขที่ 065-0-34728-9

โอนวันที่  28  พย. 2555

จำนวนเงิน 2,450  บาท

จะโทรแจ้งภายหลังที่มีสัญญาณค่ะ

ขอถวายบุญแด่เทวดาที่รักษาอ.อุบล

ตลอดจนเจ้าของบ้านสวนทุกท่าน

และสิ่งศักดิ์สิทธฺ์ทุกพระองค์ในบ้านสวนพีระมิด

อุทิศแด่เจ้ากรรมนายเวร ญาติ ๆ ทั้งหลาย


ผู้แสดงความคิดเห็น วัชรินทร์ เกษมณี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-28 13:54:51


ความคิดเห็นที่ 33 (1643139)

  วันนี้ขอเข้ามาเล่าบรรยากาศบ้านสวน ในโอกาส

ต้อนรับคณะ ม.ราชภัฎนครนครปฐม  นำโดย

รศ. เบญจรัตน์  สีทองสุก

   เริ่มด้วยเวลาใกล้ ๆ  เก้านาฬิกา ทีม ม.ราชภัฎนครปฐมก็มาถึง

หลังจากลงทะเบียน ทานอาหารเช้าเสร็จ  คุณธนาก็ได้แบ่งทีม

เพื่อสร้างบุญกัน  โดยแบ่งเป็น  3  ฐาน ๆ ละ ประมาณ  10 - 11 คน

มีฐานงานเกษตร  ฐานก่อสร้าง และฐานไบโอแก๊ส  แบ่งเรียบร้อยแล้ว

ทุกคนพร้อมลุย ทันที

      ตัวเองได้อยู่กลุ่ม 3 มี อ. พันธ์ เป็นหัวหน้าทีม เริ่มงานเกษตรก่อน

อ. พันธ์ก็บอก ตาลนำทีมไปก่อน  ให้เอาจอบขยัน และคราดไป

ตาลก็ตรงดิ่งไปกระท่อม  พาพรรคพวกถือจอบและคราดไป 

เดินไปได้ครึ่งทาง  อ. พันธ์ตามมา บอกให้ให้จอบขยัน เอาไปเปลี่ยน

เรางง  เพราะไม่เข้าใจจอบขยัน  อ. พันธ์ขาวันนี้หนูพึ่งทราบว่า

ลักษณะจอบขยันเป็นยังไง  ไอ้หน้าตายังงี้มันมีชื่อว่าจอบขยัน

ใครทราบที่มาของชื่อนี้ โปรดมาเล่าให้ฟังด้วยนะคะ  พวกเราก็เริ่มลุยเลย

โดยการถากหญ้าบริเวณแปลงผัก  ส่วนตัวเองได้รับมอบหมายให้ไปปิดถัง

ที่หมักหญ้าและโกยหญ้าออก  มีน้องก็อตเป็นเพื่อน ก็ถามน้องว่าทำยังไง

เพราะไม่เคยทำ  น้องก็อตก็บอก ผมก็ไม่เคยโกยออก  เคยแต่เอาใส่

เราสองพี่น้องก็เลยช่วยกันคิดว่าน่าจะทำแบบนี้  สักพัก อ. พันธ์เดินมาดู

ใครให้ทำอย่างนี้  เอาใหม่ยังไม่ได้สอนเลย  (อิอิ  ไม่ถูกอีกแล้วเรา)

และ อ. พันธ์ก็สอนวิธีโกยหญ้าขึ้นจากถงหมัก  เอาหญ้ามาวางในบ่อที่

เตรียมไว้  เพื่อนำหญ้าไปคลุมแปลงผักอีกที (ไม่มีส่วนไหนทิ้งเลย)

    หลังจากหมดเวลาที่ฐานนี้  ในกลุ่มทุกคน อาการเจ็บป่วยดีขึ้น

ตั้งแต่  30% - 80% สำหรับตัวเองอาการตาขวาพร่ามัวดีขึ้น  80%

ตั้งแต่  10  นาทีแรก  สาธุ ค่ะ

เดี๋ยวมาต่อนะคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-30 21:06:30


ความคิดเห็นที่ 34 (1643143)

วันนี้กิจกรรมบุญของบ้านสวน มีขึ้นโดยท่านอาจารย์อุบล และลูกบัานสวนได้มีโอกาสต้อนรับคณะของ รศ.เบญจรัตน์ สีทองสุก ที่ได้นำทีม อาจารย์ และผู้ร่วมงานที่ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐม เข้ามาเยี่ยมชม ทำบุญใช้แรงกาย และให้ธรรมทาน รวมทั้งฟังธรรมะบรรยายจากท่านอาจารย์อุบลด้วย

คณะผู้เยี่ยมชม มีประมาณ 20 คน ไมเยอะนัก โรงอาหารเต็มกำลังดี กิจกรรมได้แบ่ง เป็น 3 ฐาน เท่านั้น คือ Biogas  เกษตร และ ก่อสร้าง 

จะขอคุยเฉพาะฐาน Biogas ที่จิ๋ม กะ จุ๋ม ประจำการอยู่ค่ะ ทีแรก ก็คิดว่าจะแค่สาธิต เล็กน้อยให้แต่ละกลุ่มดู ไม่ได้ทำจริงเพราะมันเหม็น เดี๋ยวแขก คนมาใหม่จะรังเกียจเอา แต่คุณธนา บอกว่าไม่ได้ให้ทำจริงเลย เอาก็เอา เหม็นก็เหม็น จิ๋มเตรียม ถุงมือ และผ้ากันเปื้อนมาพร้อม กลุ่มที่ 1 ก็ทำกันอย่างขยันขันแข็งดี น่าแปลกไม่ค่อยมีใครว่าเหม็นนัก เขาก็ทำกันได้ จุ๋มช่วยดูด้านนอกเดินไปเอาขยะ และแยกขยะ ส่วนจิ๋มอยู่ด้านบน ดูเขาบด และคอยแกะตรงที่บด เพราะมันมักจะติด เพราะมีไฟเบอร์พวก ใบตอง หยวกกล้วยไปติด ต้องคอยแกะออก และเตือนเขาว่า เวลานำขยะเข้าเครื่องป้อน ให้หยอดห่าง ๆ อย่าเอามือ หรือส่วนใดของร่างกายไปเขี่ยเศษอาหารนะ เพราะตัวบดใหญ่มากพอที่จะบดนิ้วคุณได้เลย ส่วนตอนแกะที่บดด้านล่างออกเวลาเครืื่องบดติด ต้องให้เขารีบปิดสวิทช์ ปิด โดยกดปุ่ม แดง ถ้าฝืนบดไปโดยไม่กดหยุดก่อน อาจทำให้มอเตอร์ไหม้ได้  ส่วนตอนแกะ มักจะให้คนที่อยู่ด้านบน คอยกดสวิทช์เปิด เพื่อเหวียงเศษอาหารที่ติดกับตัวบด ออกไป แต่ต้องบอกให้เขาระวัง ให้ทำงานเป็นทีม ก่อนที่จะบอกให้คนด้านบนเปิดสวิทช์ ต้องดูคนด้านล่างก่อนว่าอยู่ห่างจาก ตัวบด ถ้าเปิดขณะที่คนด้านล่างกำลังถอดใบเลื่อยอยู่ ใบเลื่อยที่ใช้บดผัก ก็จะสามารถบดมือคนด้านล่างด้วยค่ะ

เขาก็คอยระวังและทำตามที่บอก  งานก็ผ่านไปด้วยดี ขณะทำจิ๋มก็คอยบอกผู้มาใหม่ให้สวดคาถาพระศรีอาริย์ และคอยสังเกตอาการว่า เขาดีขึ้นอย่างไร แต่ดูเขาตั้งใจมากไม่มีใครบ่นว่าเหม็น แต่ตอนมาทานข้าว ทีน้องผู้หญิงคนนึง เขามาบอกว่า เขาทนกลิ่นไม่ไหว เหม็นเกือบเป็นลม จิ๋มก็บอกเขาว่าแล้วแต่คน บางคนที่พี่เคยเจอ เขาก็เกือบเป็นลมเหมือนกัน คนนั้นเป็นผู้ชายด้วย

ที่น่าดีใจก็คือ ตอนบ่ายที่ท่านอาจารย์มาสรุปผล พบว่าคุณผู้หญิงที่ load อาหารด้านบน มีอาการหายปวดขา เมื่อตัดบด ถังที่ 3 คนด้านล่างที่คอยเก็บเศษอาหารที่บดแล้ว เขามีอาการปวดหัวมาเป็นปี ก็หายได้เช่นเดียวกัน โดยบดประมาณ 3 ถัง เช่นกัน อาจารย์อุบลบอกว่าบุญแรง จุ๋ม และ จิ๋มอุบไว้ตั้งนาน ไม่ได้ให้ใครช่วยมาก ทีนี้แหละพระพุทธเจ้าท่านได้สื่อมาแล้ว่าใครทำบุญบดขยะได้บูญแรง

จิ๋มรู้สึกดีใจมากๆ ค่ะ ทีได้สร้างเครื่องมือกำจัดขยะให้บ้านสวนแล้ว ยังสามารถใช้อุปกรณ์นี้ในการสร้างบุญเพื่อรักษาโรคได้ด้วย ตรงกับ คอนเซ็บของ ดร.แป๊ปที่ว่า ทู อิน วัน แต่ของ ดร.แป๊ป เป็นถัง 2 ใบซ้อน คือผลิตแก๊ส และเก็บแก๊ส แต่ คอนเซ็ปของจิ๋มคือ ทำงานใช้แรงกาย ได้บุญบริสุทธิ์ และรักษาโรคได้ในตัว 

ขออนุโมทนาสาธุกับทุกๆ ท่านที่มาร่วมบุญบดขยะด้วยกัน ไม่เหม็นหรอกค่ะ แรก ๆ ก็รู้สึกสะอิดสะเอียนเช่นกัน ทำไปทำมาก็ชินไม่ค่อยเหม็นเลยค่ะ เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับจิ๋มไปแล้ว  และผลพลอยได้อีกอันก็คือ ได้ลดอัตตา ตัวตน ได้ผลชะงัด ถอดหัวโขนจากการเป็น ดร. มาสู่ คนเก็บขยะ ได้อย่างฉับพลันทันที  ขอเชิญชวนมาสร้างบุญบดขยะกันเยอะนะคะ สาธุ

จิ๋ม ชัขวลี

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-30 21:41:47


ความคิดเห็นที่ 35 (1643148)

30 พย. 55
กิจกรรมต้อนรับคณะของ รศ.เบญจรัตน์ ม.ราชภัฏนครปฐม


ได้ทราบตอนสรุปกิจกรรมว่า โครงการนี้ อจ.เบญจรัตน์ ผอ.ศูนย์วิทยบริการห้องสมุด ท่านเขียนโครงการให้ลูกน้องและผู้สนใจมาร่วม เป็นกิจกรรมในเวลาราชการ ไม่ได้ลาพักร้อนอย่าง ข้าราขการคนอื่น จำนวนคนเข้าร่วม 2 คันรถตู้  ก่อนมาน้องๆที่มาร่วมเล่าว่า อ.เบญจรัตน์ ได้ติวเข้มให้ธรรมทานลูกน้อง ส่วนมากเชื่อแสะนับถือ อ.อุบล แถมใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วย ได้ผลมาแล้ว พวกเขาเตรียมตัวกันมาทำบุญใช้แรงกายกัน วันนี้คุณธนาแบ่งฐานการทำงาน 3 ฐาน ฐานครัวและBiogas ฐานเกษตร และฐานก่อสร้าง

จุ๋ม & จิ๋ม ดูแลฐาน biogas  น้องผู้หญิงคนนี้เธอออกท้วมๆ เธอเป็นคนใส่ขยะลงเครื่อง ได้รายานผลตอนท้ายว่า เข่าที่ปวดมานาน รักษาไม่หาย ก็มาหายแบบฉับพลันทันที 100 %ตอนเทขยะถังที่ 3 ลงบด น้องเขาจองทำอยู่นานเกือบ ชม. ส่วนน้องผู้ชายเขาทำคู่กันเป็นคนเทขยะที่บดแล้วลงเทลงถังเก็บ เขาปวดหัวมาตลอด แต่มาหาย 100 % ตอนเทขยะ  ส่วนคุณตาล ลูกบ้านสวนเจ้าเก่าของเรา ตาที่ฝ้ามัว ก็มาสว่างไสว ตอนมาช่วยพี่แยกขยะ จะไปบด ในที่สุดบุญจากการบดขยะ ก็มีอานิสงฆ์มากมายเช่นนี้เอง จริงๆงานไม่เหนื่อยมากเทียบกับก่อสร้างข้างๆ แต่ใช้กำลังใจทนกลิ่นความสกปรกมากกว่า
ขออนุโมทนากับผู้นำบุญอย่าง เจ้าของบ้านสวนพีรามิด และ อ.เบญจรัตน์ และพวกเราทุกคน
จุ๋ม


 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-30 22:50:59


ความคิดเห็นที่ 36 (1643151)

 ขออนุโมทนาบุญกับพี่จุ๋ม พี่จิ๋ม คุณตาล และน้องก๊อต ด้วยค่ะ

เสียดายที่ไม่ได้ลงชื่อไปด้วยเพราะติดเรื่องของลูกสาวออกค่าย

แต่พอรู้ว่าว่างก็ไม่ทันแล้ว อดเลยเรา

และขอร่วมอนุโมทนาบุญกับ  รศ.เบญจรัตน์และคณะ   ด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉันทนา ชูนุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-11-30 23:01:47


ความคิดเห็นที่ 37 (1643158)

  แฮะ ๆ รอบนี้คุณพี่ ดร. จุ๋ม และ ดร.จิ๋ม  มาเร็วนะคะ

ขอบอกงานนี้  ไบโอแก๊ส แซงหน้าค่ะ ท่าน อ. อุบล

บอกว่า ต่อไปใครที่กรรมหนัก ๆ  ต้องให้มาทำไบโอแก๊ส

ตัวเองก็มาตาสว่างหายพร่ามัวก็ที่ฐานนี้ค่ะ  วันนี้กลับมาบ้าน

เปิดไฟทำงาน  เอ!!! ทำไมวันนี้ไฟสว่างกว่าทุกวัน 

และแสงก็ไม่แตกกระจาย  หลับตาก็ไม่เคืองตา

    และอีกเรื่องคือสายตายาว  ตอนนี้อ่านหนังสือตัวเล็ก ๆ

โดยไม่ใส่แว่นได้แล้วค่ะ  จากเมื่อก่อนต้องใส่แว่น 

    ลูกกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุก ๆ พระองค์

ท่าน อ. อุบลและครอบครัว  ที่ได้ให้โอกาสหนูได้มาร่วม

สร้างบุญ และยังมีเมตตาช่วยให้หนูหายจากตาพร่ามัว 100%

และสายตายาวก็ดีขึ้นประมาณ  80%  

กราบ  กราบ  กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-01 00:49:54


ความคิดเห็นที่ 38 (1643165)

คณะบุคลากร ม.ราชภัฏนครปฐม

ขอกราบขอบพระคุณในความเมตตาของ

สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดทุก ๆ พระองค์

ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวที่สงเคราะห์

และขอขอบคุณพี่น้องบ้านสวนพีระมิดทุกท่าน

ที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดียิ่ง

ขอบอกว่าเป็นการจัดศึกษาดูงาน

ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี

บุลากรที่มาให้ความสนใจ ร่วมมือ

ในการทำกิจกรรมเกินร้อย

เพราะแม้แต่คนขับรถ ๒ คนก็เข้าร่วมกิจกรรมด้วย

มีบุคลากรของสำนักวิทยบริการร่วมกิจกรรม ๑๖ คน

บุคลากรจากหน่วยงานอื่นในมหาวิทยาลัย ๔ คน

บุคคลภายนอก ๔ คน

ผลการร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ที่เห็นผลทันทีคือ

ส่วนใหญ่หายจากอาการเจ็บป่วย ๑๐๐%

และบอกว่าอยากมาอีก

ได้เรียนท่านอาจารย์อุบลว่า

อยากเรียนเชิญท่านไปที่ราชภัฏนครปฐมบ้าง

ท่านบอกว่ายินดีค่ะ

ต้องรีบไปทำโครงการด่วน

เพราะอยากให้ประชาชนในจังหวัดนครปฐมและใกล้เคียง

ได้มีโอกาสบ้างเพราะคิดว่าเราอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยค่ะ


 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-01 05:42:47


ความคิดเห็นที่ 39 (1643167)

ได้ฟัง อาจารย์เบญจรัตน์ ไปพูด ตอนที่ท่านอาจารย์อุบลเชิญไป ข้างหน้าและถามว่า มีสาเหตุ หรือ แรงจูงใจอย่างไร ที่จะเอาบุคคลากรจากมหาวิทยาลัยราชภัฎ นครปฐม เข้ามาดูงานที่บ้านสวน

ท่านบอกว่า ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ฟังคำสอนของท่านมามาก ท่านสอนศิษย์ให้รักษาศีลห้า ให้นำศีลห้า และกรรมบถ 10 ไปติดข้างฝาไว้ แล้วอ่านบ่อยๆ อ่านทุกวัน  อาจารย์เบญจรัตน์บอกว่า ตอนฟังธรรมของท่าน ได้แต่ฟังเข้า หูซ้าย และ ออกหูขวา ไม่สามารถปฏิบัติตามได้ทุกข้อ หรือ ทุกเวลา กำลังใจไม่มี แต่เมื่อท่านได้มาพบบ้านสวนพีระมิด และ อาจารย์อุบลนั้น กิจกรรมบ้านสวน จะแสดงกฎแห่งกรรมให้ประจักษ์อย่างชัดเจน ทั้งกับตนเอง และเพื่อน ๆ รอบข้าง กิจกรรมดังกล่าวเหมือนไปกระตุกต่อมรู้ ต่อมปัญญา ของเราทำให้เรารู้บาปบุญคุณโทษขึ้นมาโดยทันที และมันก็ซึมซาบ เข้าไปในจิตใจของศิษย์ อ.อุบลโดยอัติโนมัติด้วย การที่สร้างคนให้มีจิตสำนึกในบาปบุญคุณโทษได้มาก ๆ นี้ แม้แต่มีเพียงแค่ 50% ในหน่วยงานแต่ละแห่ง บ้านเมืองไทยเราก็จะพัฒนาขึ้นมาก

สาธุ กับ อาจารย์เบญจรัตน์ ที่ได้นำมาคนมาทำความดีกันค่ะ

จิ๋ม ชัชวลี

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-01 07:13:13


ความคิดเห็นที่ 40 (1643183)

ได้ฟังอาจารย์เบญรัตน์เล่าแล้วดร.ชัชวลี มาโพสต์ให้ทุกท่านได้ปลื้อมใจกับครูบาอาจารย์คือท่านอาจารย์อุบล และครอบครัวก็เป็นข่าวที่น่าจะได้ฟังแบบนี้บ่อยๆนะค่ะ แต่ด้วยความโง่ของหนูเองจึงได้แต่โมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้รับอนุญาตเข้าบานสวนฯ ทุกๆท่านคิดก่อนพูดทุกครั้ง  ครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายเพราะใกล้เข้ามาเต็มทีแล้วให้คิดถึงคำว่าเราต้อง 

ตายแน่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  จงทำวันนี้ให้ดีที่สุดถ้ารู้ว่าความตายมาเยือนเราแล้ว

โมทนาบุญกับจิตอาสาทุกๆท่าน

กราบขอบพระคุณที่มีธรรมทานให้ชาวเกาะได้เกาะบุญเป็นวาระสุดท้ายของชีวิต

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-01 12:00:19


ความคิดเห็นที่ 41 (1643193)

ขออนุโมทนาบุญกับท่านอาจารย์อุบล

ท่านอาจารย์ผศ.เบญจรัตน์

ที่ได้นำพาคณะมาปลดเปลื้องกรรม

และอนุโมทนาบุญ พี่ดร.จุ๋ม ดร.จิ๋ม และทุกท่านค่ะ

ที่ได้บอกเล่าขาวสารให้ชาวเกาะได้ร่วมอนุโมทนาบุญ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-01 12:52:56


ความคิดเห็นที่ 42 (1643201)

ขอโมทนาบุญกับท่านอ.อุบล ที่ได้อนุญาตให้ทีมของดร.เบญจรัตน ได้เข้ามาสร้างบุญ

และโมทนาบุญกับลูกบ้านสวนทุกคนที่มีส่วนช่วยให้งานสำเร็จราบรื่นไปด้้วยดี

++++++++++++++++

คราวนี้มาดูเคสของตัวเองบ้าง

เมื่อวาน(ศุกร์ 30/11/55) เหตุเกิดตอนเช้า

ประมาณ 07.20 น.กำลังจะแต่งตัวเพื่อมาทำงาน

พอยกขา กระดูกหลังตรงเหนือก้นกบข้างซ้าย

ลั่นดังกรึบ เอาละทีนี้เดินแทบไม่ได้เลย

ต้องรีบนั่งก็ยังไม่ดีก็เลยนอนราบกับที่นอน

แล้วนำองค์จี้สฟิงซ์จี้ไปตรงที่ปวดและเรียก

อ.อุบลช่วยด้วย อาการก็ไม่ดีขึ้นก็ค่อย ๆเดิน

ออกไปไหว้พระเพราะถึงเวลาไหว้พระพอดี

ไหว้และนั่งสมาธิเสร็จก็อธิษฐานขอให้หาย

ก็ยังไม่ดีขึ้น ก็ค่อย ๆเดินไปขึ้นรถเพื่อไปทำงาน

เพราะเป็นวันสิ้นเดือนต้องปิดงาน

คิดว่าพอถึงที่ทำงานมอบหมายงานเสร็จ

จะขอนอนพักสักหน่อยและเรียกรหัสอ.อุบล

ตลอด อาการก็ไม่ดีขึ้นเห็นว่าไม่ไหวแน่ก็

เลยไปนอนรพ.หมอก็ X-RAY ดูอาการ

นอนรพ.ก็บำบัดทุกอย่าง ก็เลยโทร.หาน้องมิ้ม

ให้ช่วยบำบัดทางโทรศัพท์เหมือนดีขึ้นนิหน่อย

พอสักพักก็เหมือนเดิมอีก

เช้ามาอาการก็ไม่ดีขึ้น ก็มานึกทบทวนดู รึเราจะห่างบุญบ้านสวนนะ เพราะไม่ได้ไปหลายอาทิตย์แล้ว เพราะถ้าจะได้ไปเราจะต้องขออนุญาตตั้งแต่วันอังคารหรือพุธ พอถึงวันพฤหัส-ศุกร์ยังไม่ได้ขอ ก็นึกในใจว่า ว้าอาทิตย์นี้ไม่ได้ไปอีกแระแต่ในใจอยากไปแทบทุกอาทิตย์

เมื่อเช้าพอทานข้าวเสร็จก็นอนสวดคาถา

พระศรีอาริย์ พอดีมีรูปท่านอาจารย์

ในกระเป๋าก็นำออกมาถือและมองหน้าท่านตลอด พอสวดครบ 99 จบ เรียกอ.อุบลช่วยด้วย

และบอกว่าถ้ากรรมที่ปวดหลังนี้เกิดจากการ

ที่หนูห่างบุญบ้านสวน หนูจะขอไปสร้างบุญ

อาทิตย์หน้าคือ 7-8-9 ธค.55 ขอให้อาการ

หายไปโดยฉับพลันทันทีเลยนะค๊ะ

พอเดินเช็คอาการ อาจารย์ค๊ะอาการดีขึ้น

ประมาณ 70% หนูดีใจมากรีบโทรหาคุณแมว

เพื่อจะเล่าเรื่องราวให้ฟังว่าหนูอยากจะบอก

อาจารย์มาก ๆ แต่วันนี้เป็นวันเสาร์อาจารย์

คงยุ่งอยู่ คุณแมวยังบอกเลยว่าให้รีบเดินทาง

วันนี้เลย แต่หนูติดตรงคนขับรถ(สามี)ไม่ว่าง

แต่หนูต้องไปอาทิตย์หน้าให้ได้

หนูขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์แห่งบ้านสวนพีระมิด อ.อุบล-อ.มงคล  ศุภาเดชาภรณ์และคุณท๊อป ที่ทำให้เกิดปาฏิหารย์อาการปวดหลังหายฉับพลันทันที

และพอเล่าอาการให้คุณแมวได้ฟังจบ

พอวางหูจากคุณแมว อาการก็ดีขึ้นมาอีก

20% รวมเป็น 90%

ถึงแม้ยังไม่ 100 % แต่หนูก็เดินได้สะดวก

มากขึ้นเยอะเลย พอโทรกลับไปหาคุณแมว

อีกเพื่อจะบอกว่าอาการดีขึ้นอีก 20%

ก็ไม่สามารถติดต่อได้

พออีกสักพักคุณหมอมาตรวจก็นำฟิล์ม X-RAY

มาดูคุณหมอบอกว่ากระดูกสันหลังตรงมาก

ทำไมไม่มีโค้งเลย

พอออกจากรพ.ก็รีบมาเขียนเล่าให้ฟังตามที่

เกิดขึ้นจริงทั้งหมดนี่แหละค่ะ

หนูขอน้อมบุญทุกบุญที่ทำมาแล้วตั้งแต่อดีต

ชาติจนถึงปัจจุบันชาติทั้งบุญแรงกาย ปัจจัย

สิ่งของกับบ้านสวนพีระมิด อุทิศแก่เทวดา

ผู้รักษาตัวอ.อุบล-อ.มงคล ศุภาเดชาภรณ์

และคุณท๊อป จงโมทนารับบุญของลูกด้วย

เทอญ เมื่อท่านรับบุญแล้วก็ขอให้ไปอยู่ในภพภูมิที่สูงยิ่ง ๆ ขึ้นไป สาธุ สาธุ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบญ/วรินทร์ธร รัศมีจรัสฐากร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-01 14:40:04


ความคิดเห็นที่ 43 (1643222)

เราเป็น "บุคคลภายนอก" ของคณะอาจารย์เบญจรัตน์ที่ได้ร่วมคณะไปศึกษาดูงานที่บ้านสวนฯ

ต้องขอบคุณ "ตุ๊ก" มยุฉัตร สุดจิตต์ ที่แนะนำให้รู้จักบ้านสวนฯ และต้องกราบขอบพระคุณอาจารย์อุบลที่ได้เข้ามาในกระดานแนะนำอาจารย์เบญจรัตน์ ทำให้เราตัดสินใจโทรติดต่ออาจารย์เบญจรัตน์เพราะอยากไปบ้านสวนตั้งแต่ครั้งแรกที่คุณธนาแจ้งข่าว และก็ได้รับความเมตตาจากอาจารย์เบญจรัตน์ ให้ร่วมคณะไปได้ ดีใจมากเลยค่ะ เหมือนฝันเลยค่ะ เพราะกฏการไปบ้านสวน ต้องดูวีดีโอให้ได้อย่าง ๙ ตอน ช่วงที่โหลดได้ก็ดูได้หลายตอน ตุ๊กอยากให้เราได้ไปบ้านสวน ลงทุนเซฟวีดีโอลงแผ่นซีดีให้ได้หลายตอนแล้วเพื่อให้เราดู  แต่การไปครั้งนี้เป็นการไปร่วมกับคณะของอาจารย์เบญจรัตน์ ภายใต้การนำของอาจารย์ที่ได้รับอนุญาตจากอาจารย์อุบล จึงได้รับสิทธิพิเศษ

เราเป็นลูกบ้านสวนฯโดยได้สมัครเป็นสมาชิกเว็บ และได้เข้าอ่านธรรมทานของหลาย ๆ ท่าน รู้จักหลายคน เช่น คุณธนา คุณอมร คุณแมว  ดร.จุ๋มและจิ๋ม น้องเบส และได้เขียนธรรมทานเรื่องตัวเองก็หลายครั้ง

ลูกบ้านสวนฯ น่ารักมากค่ะ  โดยเฉพาะ ดร. ทั้งสองคน ก็ขำดีนะ ตอนเห็น ดร.จิ๋มจะเข็นเครื่องมือไปเก็บ เราก็คิดอย่าง "น้องส้ม" เดินไม่สะดวกยังจะมาเข็นอีก แล้วเราก็รีบเข้าไปช่วยเข็นจอบไปเก็บที่โรงเก็บ แต่ดร.จิ๋มก็เข็นอย่างอื่นไปด้วย ที่ไหนได้เพิ่งรู้ตัวว่าไปแย่งบุญของดร.จิ๋ม ซะแล้ว

เราได้บูชาจี๊สามโพธิ์ศรี ๑ องค์ ก็ไม่ได้รับรู้ถึงพลังใด ๆ แบบที่ลูกบ้านสวนคนอื่นได้รับ  ก็ขอบารมีพระศรีอาริย์และรหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย เพื่อรักษาโรครูมาตอยด์ อาการปวดหัวเข่าที่นั่งยอง ๆ ไม่ได้ เดินไม่สะดวก ปวดข้อมือ มือซ้ายขา ตึง ก็ไม่หายสักอย่าง แต่พอรู้สึกได้บ้างว่า เบาลง เพิ่งทราบอาจารย์อุบลตอนบรรยายว่า ต้องโฟกัสเป็นจุด ๆ เราเล่น ขอให้หายจากโรครูมาตอยด์ อาการปวดและเจ็บทุกส่วนของร่างกายขอให้หายทั้งหมด  ก็เลยยังไม่หายแบบ ๑๐๐ % ของอาการปวดแต่ละอย่าง

เราได้ออกไปเล่าธรรมทาน และได้รับเมตตาจากอาจารย์อุบล มือซ้ายที่ชา ปวดและเจ็บเพราะเส้นเอนที่ขาดและต่อใหม่เกิดตึงมาก ทำให้กำมือแบมือลำบาก เมื่ออาจารย์อุบลได้จับมือและลูบมือ มีความรู้สึกว่า นิ้วมืออ่อนนุ่มลงอย่างน่าอัศจรรย์ อาจารย์อุบล บอกว่า มือซ้ายเราจะหายเป็นปกติได้  อนุญาตให้เราไปทำบุญแรงกายที่บ้านสวนได้ จึงขออนุญาตอาจารย์ให้ลูกได้ไปด้วย เพราะไปไหนเองไม่เป็น ต้องให้ลูกหรือพี่สาวพาไป หรือไปกับผู้อื่น

ขอบารมีพระศรีอาอาริย์ที่อาจารย์อุบลเป็นผู้อาราธนา ขอให้ทุกบ้านในครอบครัวของลูก เกิดความศรัทธาอาจารย์อุบลและบ้านสวนฯได้พบพระศรีอาริย์กันในชาตินี้ มีโอกาสพาเราไปทำบุญที่บ้านสวนฯ อีก

บุญกุศลที่ลูกได้ทำในการไปบ้านสวนครั้งนี้ ขอถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะเป็น "ข้าของแผ่นดิน" ที่มีความจงรักภักดีต่อในหลวงและทำตัวเป็นข้าราชการที่ดีมาโดยตลอด และจะเป็นข้าราชการที่ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปตามคำสอนของอาจารย์อุบล

ขอถวายบุญที่ได้ทำให้แด่สมเด็จองค์ปฐมฯ พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระศรีอาริย์ ท่านท้าวเวสสุวรรณ เทวดาทุก ๆ องค์ที่ปกปักษ์รักษาอาจารย์อุบลและบ้านสวนฯ

ขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย

ขอบคุณลูกบ้านสวนฯ ทุกท่านที่ให้การต้อนรับและแนะนำเรื่องราวต่าง ๆ ของบ้านสวนฯ และกราบขอบพระคุณอาจารย์มงคลด้วยค่ะ

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น จุฑามาส สุขุมวาท ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-01 18:31:09


ความคิดเห็นที่ 44 (1643247)

    ดีใจกับพี่จุฑามาสด้วยนะคะ  ที่อาการปวดเข่า  ปวดข้อ ดีขึ้น

พี่ขาการช่วยกันทำงานไม่ถือว่าเป็นการแย่งบุญกัน

อย่างคุณพี่ ดร. ทั้งสอง มีน้ำใจมาช่วยเราล้างอุปกรณ์

ทั้งจอบ  บุ้งกี๋  ทั้ง ๆ ที่คุณพี่ทั้งสอง  เป็นผู้ดูแลฐานไบโอแก๊ส

แต่พองานเสร็จก่อน  ก็มาช่วยพวกเรา  และการที่คุณพี่จุฑามาส

ไปช่วยคุณพี่ ดร.จิ๋มเข็นจอบไปเก็บ  ถือว่าเป็นการช่วยกันทำงาน

ไม่ถือว่าเป็นการไปแย่งบุญคนอื่นนะคะ

     เราต้องมีน้ำใจ  ช่วยเหลือกัน  สังคมถึงจะน่าอยู่ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-01 22:15:10


ความคิดเห็นที่ 45 (1643248)

      ได้ฟังธรรมทานจากท่าน อ. อุบล มีข้อหนึ่ง

ต้องตรงกับผู้คนเยอะมากเลย  คือเรื่องการใช้มือไปทำในสิ่งที่ไม่ดี

ในบรรดาสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย  มีข้อถอนหงอก  เอ๊ย!!!  ไม่ใช่

ถอนผมหงอก  ก็อยู่ในเรื่องของการใช้มือไปทำไม่ดีด้วยนะคะ

พึ่งทราบเมื่อวานนี้เองค่ะ  รู้แล้วก็อย่าลืมขอขมาผู้ที่เรา

ได้ใช้มือไปถอนผมหงอกเขาด้วยนะคะ

       และอีกข้อหนึ่ง  คือ  ลูกบ้านสวนก็สวมจี้กันเป็นพวง ๆ

แต่ทำไมก็ยังมีเจ็บ  มีปวด  มีทุกข์กันอยู่  ท่าน อ. อุบล

ได้บอกว่า  จี้เป็นเครื่องเตือนสติ  เช่น ถ้าเราปวดแขน

ก็ให้เราระลึกว่า  เราได้ใช้แขนไปทำอะไรที่ไม่ดีมา

ไม่ใช่ว่าสวมจี้แล้วจะช่วยไม่ให้เราเจ็บป่วย  เพราะทุกคน

ต้องอยู่ภายใต้กฏแห่งกรรม  แต่จี้จะช่วยบรรเทาให้สิ่งที่หนักเป็นเบาได้

        กราบขอบพระคุณ ท่าน อ. อุบลเป็นอย่างสูง  ที่ได้ให้ความกระจ่าง

ในเรื่องนี้  เพราะตัวเองก็นึกสงสัย  ว่า  เราเองก็ยัง

มีเจ็บ  มีปวดอยู่  แล้วเราไปช่วยผู้อื่น  ถ้าเขาถามเราว่า

แล้วคุณมีจี้อยู่ทำไมคุณยังเจ็บ  ยังปวดอยู่  แล้วเราจะตอบเขาว่ายังไง

วันนี้หนูได้คำตอบแล้วค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-01 22:31:09


ความคิดเห็นที่ 46 (1643254)

และอีกข้อหนึ่ง  คือ  ลูกบ้านสวนก็สวมจี้กันเป็นพวง ๆ

แต่ทำไมก็ยังมีเจ็บ  มีปวด  มีทุกข์กันอยู่  ท่าน อ. อุบล

ได้บอกว่า  จี้เป็นเครื่องเตือนสติ  เช่น ถ้าเราปวดแขน

ก็ให้เราระลึกว่า  เราได้ใช้แขนไปทำอะไรที่ไม่ดีมา

ไม่ใช่ว่าสวมจี้แล้วจะช่วยไม่ให้เราเจ็บป่วย  เพราะทุกคน

ต้องอยู่ภายใต้กฏแห่งกรรม 

แต่จี้จะช่วยบรรเทาให้สิ่งที่หนักเป็นเบาได้

...............................................................

อนุโมทนากับธรรมทานจากเจ๊ตาลด้วยค่ะ

เพราะชนิดาก็ได้รับความกระจ่าง

เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

 

เพราะตั้งแต่ได้รับจี้สามร่มโพธิ์ศรีมา

รู้สึกว่า มีหลายๆอย่าง

หลายๆเหตุการณ์ที่ชวนพิจารณา

และต้องคิดค้นหาคำตอบมากมายเลย

 

ไม่รู้นะ ชนิดารู้สึกว่า จี้วิเศษนี้

เป็นอุปกรณ์พิเศษชนิดหนึ่ง

ที่มาสอนธรรมะขั้นสูงแก่ผู้ที่สวมจี้ทุกๆคน

 

เพราะจี้นี้ ไม่ได้สร้างขึ้นมา

เพื่อให้เรารู้สึกว่า

ตนวิเศษหรือเหนือกว่าใคร

 

แต่เจ้าของจี้ทุกคน

ต้องใช้ความพิเศษที่ได้รับนี้

เพื่อช่วยเหลือและปลดเปลี้องทุกข์

ให้ผู้อื่นเป็นที่ตั้งเท่านั้น

(อย่างท่านอาจารย์ทำมาโดยตลอด)

 

ไม่ใช่จะมีครอบครองไว้

เพื่อสนอง"ความอยากได้ อยากมี"ของตัวเอง

 

ไม่งั้น เจ้าของจี้อาจะจะเผลอติดในความดี

ความวิเศษของตนไปซะอีก

ซึ่งอาจจะแก้ยากยิ่งกว่าซะอีก 

 

เพราะช่วงหลายๆวันที่ผ่านมา

ชนิดาก็สงสัยเช่นกันค่ะว่า

เอ๊..เราสวมจี้ตลอดเวลา

ทำไม บางทีเรายังมีอาการปวดบางที่อยู่เลย

 

เพราะคนอื่นที่รับการบำบัด

แค่นับเป็นวินาทีก็หายได้แทบทุกอาการ

 

และ แล้วจิตก็แว๊บขึ้นมาว่า

พ่อใหญ่ธนาเองแม้จะมีจี้หลายๆองค์

แต่ก็ต้องให้พี่เหมี่ยว

ช่วยบำบัดอาการเท้าแพลงให้เลย

 

แสดงว่า เหตุการณ์นั้น

มีนัยยะสำคัญที่จะบอกอะไรแก่พวกเราไปแล้ว  

 

แต่สำหรับอาการปวดของชนิดาเอง 

ตอนนั้นก็คิดหาเหตุผลอื่นๆด้วย

ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า

ชนิดายังไม่ได้ใช้จี้ บำบัดผู้ใดเลย ก็เป็นได้


แต่มีเรื่องนึงที่ชัดม๊ากก...

คือหลังจากไปรับจี้ที่ไปรษณีย์แล้ว

ก็รู้สึกได้ถึงพลังจากจี้ตั้งแต่ยืนรอพัสดุเลย

 

ฉะนั้น ตอนระหว่างนั่งอยู่ในรถก่อนถึงร้าน

ก็แอบคิดในใจว่า

โอ้ววว...เดี๋ยวถึงร้านนะ

จี้นี้ต้องดึงดูดลูกค้ามากันอย่างคับคั่งชัวร์ๆ

แต่ ฮือ ฮือ ไม่อยากจะบอกเลยค่ะว่า

พอไปถึงร้าน วันนั้นลูกค้าเงียบม๊ากเป็นพิเศษ

 

แต่ก็ยังโชคดีที่เบื้องบนก็ยังเมตตา

ถึงแม้คนจะน้อย แต่ยอดขายก็ยังโอเคอยู่

 

หลังจากแทบจะ"หงายเงิบกับเหตุการณ์นี้"

ก็เลยคิดได้ว่า ถ้าเราอยากมีจี้ไว้

เพื่อสนองความอยากของตนเป็นสำคัญ

เราจะไม่ได้อะไรเลย...จริงๆ 

 

เพราะแทนที่ จะได้พบทางหลุดพ้น

คงจะ"อยากได้ อยากมี"ไม่มีที่สิ้นสุดแน่ๆ

.........................................................

อนุโมทนากับรศ. เบญจรัตน์และทีมงาน

รวมทั้งธรรมทานจากทุกๆท่านด้วยค่ะ

 

รู้สึกว่า ท่านอาจารย์และลูกบ้านสวนฯ

จะมีกิจกรรม ธรรมะสัญจรเร็วๆนี้แน่ๆค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-02 05:33:13


ความคิดเห็นที่ 47 (1643255)

อนุโมทนากับพี่ตาล อ.เบญจรัตน์ พี่จิ๋มพี่จุ๋ม

และคุณจุฑามาสด้วยนะคะ

กิจกรรมทุกอย่างล้วนสร้างปัญญา

และทำให้หลายๆคนมีดวงตาเห็นธรรม

เพราะเมื่อเรารู้เหตุเราก็สามารถดับเหตุได้

ด้วยการเลิกกระทำสิ่งนั้น

และหันมาสร้างบุญให้ตรงกับความต้องการ

ของเจ้ากรรมนายเวรเรา

ดังเช่นกิจกรรม workshop เรียกว่าเป็นอีกกิจกรรมนึง

ที่จัดสรรค์มาเพื่อปลดล็อคกรรมอย่างตรงจุด

ของทุกๆคนเลยทีเดียว

ถ้าประเทศไทยและโลกใบนี้เป็นเหมือนบ้านสวน

คนที่ทุกข์คงจะน้อยมากๆเลยนะคะ

 

การมาดูงานของม.ราชภัฏครั้งนี้

นอกจากจะหายทุกข์แล้วยังได้ความสุขกลับไปอีกด้วย

ถือว่าเป็นกำไรทั้งผู้ให้และรู้รับเลยทีเดียว

อนุโมทนากับทุกๆท่านที่ได้มีโอกาสไปร่วมงานครั้งนี้ด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-02 05:39:44


ความคิดเห็นที่ 48 (1643268)

ธรรมทานจากคุณ สมรักษ์ ที่ post ใน facebook 

กลับจากบ้านสวนพีระมิดแล้วค่ะ หลังจากได้ไปร่วมกิจกรรม workshop ที่บ้านสวนพีระมิด ได้รับบุญกันแบบเต็ม ๆ และได้รับความเมตตาจากอาจารย์อุบล กันอย่างถ้วนหน้า เจ้าหน้าที่บางคนถึงกับร้องขอ มาอีก ๆ ลูกขอกราบขอบพระคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระศรีอริยเมตไตย หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านท้าวมหาราชทั้งสื่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด ทุก ๆ พระองค์ และอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ และขอขอบคุณ อาจารย์มงคล คุณท็อป และชาวบ้านสวนทุกท่าน ที่ให้การต้อนรับและร่วมจัดกิจกรรมอย่างดีเยี่ยม ลูกขอเบิกบุญทาน ศีล ภาวนา ถวายแด่เทวดาที่รักษาอาจารย์อุบล ด้วยเทอญ สาธุ

ไม่เขียนธรรมทาน แล้วมีอาการอย่างไร ขอรายงานผลค่ะ กลับจากบ้านสวนพีระมิด มาถึงบ้านนครปฐมประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง เมื่อทำภาระกิจส่วนตัวเรียบร้อย ก็เข้า face บ้านสวนพีระมิด เขียนเรื่องสั้น ๆ 2 เรื่อง แล้วเข้านอนตอนประมาณ เทียงคืน ปรากฎว่านอนไม่หลับเพราะมีอาการ เป็นไข้ตัวร้อน ปวดที่แขนทั้ง 2 ข้าง และมีอาการระคายคอและไอมาก จึงได้ขออาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระศรีอาริยเมตไตย อาจารย์อุบล ช่วยลูกด้วยขอให้ลูกนึกกรรมออก และขอให้ลูกหายจากอาการที่เป็นอยู่ด้วยเทอญ แล้วก็รีบถวายบุญแด่เทวดารักษาอาจารย์อุบล อุทิศบุญแด่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ต่อจากนั้นชื่อของบรรดาผู้ล่วงลับทั้งหลายที่เรารู้จัก ก็ทยอยขึ้นมาให้เราอุทิศส่วนกุศลไปให้ ก็ใช้เวลานานอยู่ จนตี 2 หลังจากนั้นก็ภาวนาคาถาพระศรีอาริย์ ไปเรื่อย ๆ จนดูนาฬิกา เป็นตี 4 อาการไข้ตัวร้อน ดีขึ้นมาก เหลืออาการไอ และอาการปวดแขน ในช่วงที่เป็นก็ไม่ได้รู้สึกทุกข์ใจ แต่คิดว่าดีเราจะได้มีเวลาภาวนา ทีนี้มาดูอาการแต่ละอย่างว่าเกิดจากกรรมอะไร อาการปวดแขน สำนึกได้ว่าตอนที่เก็บเก้าอี้ เราเก็บไปไว้ที่ได้ 2-3 ตัว และเมื่อไปเก็บอีก ก็มีคนมารับจากเราไปเก็บอีกทีหนึ่ง จิตเราก็ยินดีว่าดีเราจะได้ไม่ต้องเก็บ

อาการระคายคอและอาการไอ ตอนก่อนไปบ้านสวนพีระมิด 1 วัน เกิดอาการไออย่างมาก เหตุเกิดเพราะ ในตอนเย็นวันลอยกระทง สามีบ่นว่าไม่อยากทานข้าวเพราะเจ็บคอทานไม่ลง เราก็นึกในใจว่า ที่เป็นอย่างนี้เพราะชอบบ่นว่าคนเวลาที่มีคนขับรถแซง หรือจะเลี้ยวโดยไม่เปิดไฟเลี้ยว บ่นเกือบทุกวัน เราก็คิดว่าเราก็ได้เช่าจี้รุ่นสามร่มโพธิ์ศรีมา น่าจะบำบัดให้เขาหน่อยแล้วกัน แต่ก็ลังเลเพราะจะรีบไปช่วยหลานขายกระทง และสามีก็จะไปเข้าเวร สรุปแล้วก็ไม่ได้บำบัดให้ ตอนประมาณ 4 ทุ่ม เตรียมจะเข้านอน ก็เริ่มเจ็บคอมาก เจ็บมากจริง รวมทั้งเหมือนมีอาการไข้ด้วย ก็นึกในใจว่าวันรุ่งขึ้นจะไปทำงานไหวไม๊ เพราะมีประชุมด้วย หลังจากนั้นก็สวดมนต์ แล้ว ก็นำรูปอาจารย์อุบลที่ปกเอกสาร กับรูปที่อาจารย์เบญจรัตน์ ให้เมื่อวันปีใหม่ ก็กล่าวขอขมา และกราบไปที่รูปสาม ครั้ง จากนั้นก็ภาวนา อาจารย์อุบลช่วยลูกด้วย ขอให้ลูกหายจากอาการเจ็บคอด้วยเจ้าค่ะ ก็ดีขึ้นประมาณ 70 % พอตอนเช้าตื่นขึ้นมาเตรียมตัวไปทำงาน ไม่มีอาการเจ็บคอเลย แต่เสียงแหบ บางครั้งไม่มีเสียง ก็ได้ไปเล่าให้อาจารย์เบญจรัตน์ และผู้ที่จะมาร่วมกิจกรรมที่บ้านสวนพีระมิดฟัง พอวันศุกร์ที่ 30 พ.ย. ระหว่างนั่งในรถตู้ก็มีอาการระคายคอและไอบ้างเล็กน้อย แต่เสียงยังแหบเช่นเดิม จนกระทั่งมาร่วมกิจกรรม workshop ได้อยู่กลุ่ม 1 มีคุณพี่อมร เป็นผู้นำกลุ่ม ในฐานแรกคือก่อสร้าง ได้โกยดินและยกดินไปเท ปรากฎว่าทำไปประมาณ 15 นาที ก็เพิ่งมาสังเกตุตัวเอง ว่าเรามีอาการไอน้อยมาก แทบจะไม่ไอเลย จนกระทั่งบ่ายได้ประชุมรวม ได้นั่งแถวที่สองด้านหลังคุณธนา ตอนที่ฟังผู้ร่วมกิจกรรมท่านอื่น ๆ มาเล่าธรรมทาน ก็เริ่มมีอาการไออีก จนในช่วงสำคัญที่อาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ได้อาราธนา บารมี องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระศรีอริยเมตไตย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระิมิด เราก็สัมผัสได้ว่าทุก ๆ พระองค์เสด็จมา รวมทั้ง หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านท้าวเวสสุวรรณ และท่านท้าวมหาราช เราก็ตั้งใจน้อมจิตฟังที่อาจารย์อุบลกล่าว โดยอาจารย์ได้กล่าวถึงศีลห้า ว่าใครละเมิดในข้อใดบ้าง ให้ทุกคนน้อมจิตตาม ยอมรับ และตั้งใจไม่กระทำอีก ในช่วงที่อาจารย์อุบลกล่าวถึงว่าบางคน ไม่ตั้งใจทำงานมาสายกลับเร็ว ใช้ของหลวงใช้เวลาหลวงไม่ได้ทำงานเต็มที่ กระทบใจมากถึงกับน้ำตาซึม เพราะเราเคยเป็นแบบนั้นจริง ๆ ในช่วงนั้นอาการไอระคายคอก็ดีขึ้นถึง 99 % และพออาจารย์ได้เมตตาให้ออกไปเล่าธรรมทานทำให้หาย 100 % โดยเมื่อเล่าจบเรานี้บังอาจขออนุญาตอาจารย์ขอเล่าอีกเรื่อง อาจารย์ก็เมตตา ให้เล่า คือเรื่องเป็นฝ้ากระ อาจารย์บอกว่าเป็นคนมักโกรธ เราก็ยอมรับว่าจริง เพราะมักมีอาคารไม่พอใจคนอื่น ๆ บ่อย ๆ โดยเฉพาะสามี และมีอีกกรรมหนึ่งคือมโนกรรมที่อยากจะสารภาพ คือครั้งก่อน ๆ เคยไปร่วมกิจกรรมบุญที่บ้านสวนพีระมิด และเห็นคนที่มามีฝ้ากระหน้าดำ ก็คิดไม่ดี คือคิดว่า มาทำบุญยังไงหน้าไม่เห็นผ่องใสเลย คงจะมีกรรมน่าดู แต่ลืมพิจารณาตนเอง (เรื่องนี้ด้วยหรือเปล่าที่เมื่อกลับบ้านแล้วทำให้มีอาการไออย่างหนัก)

ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่มีอาการดีขึ้นคือ อาการสายตาสั้น ตอนที่ร่วมกิจกรรม workshop ประมาณ 2 ชั่วโมงถึงสังเกตุได้ คือรู้สึก ว่าเรามองเห็นอะไรได้สว่างและชัดขึ้น มากกว่าเดิมประมาณ 20 % จนกระทั่งช่วงที่นั่งประชุมรับพระบารมี อยู่นั้น ตอนแรกเห็นอาจารย์อุบลไม่ค่อยชัด แต่ช่วงที่น้อมจิดเกิดเหตุ มหัสจรรย์ ทำให้เห็นอาจารย์อุบล ชัดขึ้นมาก มำให้เกิดปิติน้ำตาไหลอีก โดยเฉพาะตอนนี้ อาการทางสายตาดีขึ้นมาก และอาการไอดีขึ้น 98 % อาการปวดแขนดีขึ้นนิดหน่อย ค่ะ ลูกขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุก ๆ พระองค์ และอาจารย์อุบล และขออาราธนาบารมี องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระศรีอาริยเมตไตย ลูกขอเบิกบุญ ทาน ศีล ภาวนา ถวายแด่เทวดารักษาอาจารย์อุบล ด้วยเทอญ สาธุ กราบ กราบ กราบ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญมณี สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-02 10:49:34


ความคิดเห็นที่ 49 (1643269)

ธรรมทานจากคุณ สมรักษ์ ที่ post ใน facebook (ต่อ)

นางสมรัก เปล่งเจริญศิริชัย ชื่อเล่น บุ๋ม

ขอกราบขอขมาต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

พระศรีอริยเมตไตย

สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด

และอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์

เมื่อวันที่ได้ไปร่วมกิจกรรมศึกษาดูงานและwork shop ที่บ้านสวนพีระมิด

ได้ออกไปเล่าธรรมทาน

เมื่อเล่าจบแล้วกลับขออาจารย์เล่าเรื่องอื่นอีก

บัดนี้ลูกสำนึกแล้วว่าได้ล่วงเกินต่ออาจารย์อุบล

ทำอะไรเกินกว่าที่ควรจะทำ

ทำให้กลับมาบ้านแล้วมีอาการไออย่างมาก

ทั้ง ๆ ที่ตอนที่ออกไปเล่าธรรมทาน

อาการหายแล้ว 100 %

ขอทุก ๆ พระองค์และอาจารย์อุบล

ได้โปรดอดโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้าด้วยเทอญ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญมณี สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-02 10:54:37


ความคิดเห็นที่ 50 (1643271)

 เมื่อวันศุกร์มีโอกาสไปทำบุญใช้แรงกายทำงาน

ที่บ้านสวนกับคณะมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม

ออกจากบ้านเช้าตรู่

ไปถึงบ้านสวนด้วยรถตู้ของมหาวิทยาลัยประมาณแปดเก้าโมงเช้า

ได้ไปรวมตัวกันที่โรงทาน

มีลูกบ้านสวนหลายท่านคอยต้อนรับ

และเชิญรับประทานอาหารเช้ากันก่อน

มี ข้าวต้มเห็ดแสนอร่อย เป็นต้น (ไม่ได้ทานแต่ได้ยินคนชม)

จากนั้นคุณธนาซึ่งอาสามาช่วยแจกแจงงาน แบ่งกลุ่ม กำหนดเวลา กำหนดฐาน

โดยแบ่ง 3 กลุ่ม เข้าฐานวน 3 ฐานๆ ละ 1 ชั่วโมง

ได้แก่ ฐานก่อสร้าง ฐานเกษตร ฐานอาหารมังสวิรัตและ biogas

ส้มได้อยู่กลุ่ม 1 มี คุณอมร เป็นหัวหน้ากลุ่ม

เริ่มที่ฐานก่อสร้าง แบ่งกลุ่มย่อย 2 กลุ่มทำสลับกัน

โดยมี ขนดินที่กองอยู่ไปถมข้างๆที่ๆกำลังก่อสร้างเพื่อเพิ่มความแข็งแรง

และ มัดลวดโครงสร้าง

ส้มไปมัดลวดก่อนแล้วไปขุดดิน

จากนั้นเดินไปแปลงเกษตรเพื่อเข้าฐานที่ 2

เนื่องจากก่อนมาบ้านสวนประสบอุบัติเหตุ

เดินไม่ทันมองว่ามีหินก้อนใหญ่อยู่

เลยก้าวไปบนหินแล้วทรงตัวไม่อยู่ล้มแล้วเท้าพลิก

หมอบอกเอ็นขาด เข้าเฝือก จึงเดินได้ช้ามาก

ระหว่างเดินทางก็มีภาพแวบมาในหัวว่า

เราเดินลักษณะเดียวกับ ดร.จิ๋มสมัยเมื่อก่อน

ตอนที่มาช่วยทำพีระมิดผ้าวางตามทางเดิน

แล้วเราเห็นก็คิดในใจว่า

ระยะทางไม่ใช่ใกล้ๆ ดร.จะทุ่มเทเดินไปไกลๆ ทำไมเนี่ยยย

และแล้วเราเองก็ทุ่มเทเช่นกัน 

เดินไปแปลงเกษตร

ก็เพราะอยากได้บุญ

อยากหาย

เพราะไม่ได้สนุกเลยที่เดินไปไหนมาไหนไม่สะดวกเช่นนี้

นอกจากนี้ยัง สำนึกได้ว่า

ก่อนเกิดอุบัติเหตุ

ก็พบยายคนหนึ่งดูแกขาไม่ดีนั่งขายอยู่ตีนเขา

ซึ่งนานๆ จะมีคนผ่าน และคงไม่ทุกคนที่จะซื้อท๊อฟฟี่ที่ยายขาย

ก็คิดในใจว่า

มาขายอยู่ตรงนี้มันจะขายได้มะ

พอมาเดี้ยงบ้างก็รู้ว่า

มันคงต้องพึ่งคนอื่นเขาพาไป

เพราะแถวนั้นเป็นทรายเพราะเป็นเขาริมทะเล เดินก็ยาก

จะไปไกลก็รบกวนคนอื่น

จะไม่ทำก็ไม่รู้ว่ายายจะมีกิน

หรือโดนกระแนะกระแหนจากคนอื่นให้เจ็บช้ำหรือไม่

เฮ้อ...อ มโนกรรมทั้งน้านนน

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญมณี สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-02 11:35:19


ความคิดเห็นที่ 51 (1643272)

 พอเดินไปถึงแปลงเกษตร

ก็ได้รับหน้าที่ไปเก็บหญ้าที่ถากไว้ใส่ถุง

แต่อย่าเก็บดินไปด้วย ต้องสะบัดออก

ก็คิดว่าถ้าเรามักง่ายเก็บให้เสร็จๆ ไปแป๊บเดียวก็เสร็จ

แต่ก็จะเสียดินไปเรื่อยๆ

และหากเราเป็นเจ้าของคงไม่ชอบใจที่สักแต่ว่าทำให้เสร็จ

ไม่สนรายละเอียด

เพราะเคยมีงานที่เรารับผิดชอบมีคนมาช่วยแต่ไม่ละเอียดทำชุ่ยๆ

เราก็ต้องมาเสียเวลาทำอีก เหนื่อย 2 เท่า

ก็เลยไม่อยากให้ใครมาเป็นเช่นนั้น

ซ้ำนี่เป็นการทำบุญ หากทำเช่นนั้นจะกลายเป็นบาปอีก

ก็เปลี่ยนใจ

ตั้งใจทำตามคำสั่งแม้จะช้าเพราะสภาพร่างกายไม่อำนวยก็ตาม

แต่ก็พยายามคิดไปด้วยทำอย่างไรให้เร็วให้ดี

เพราะอาจารย์พันธ์ หัวหน้าฐานก็พูดเสมอว่า

 ที่นี่เป็น ฐาน ปัญญา

แต่ก็ทำได้เท่าที่คิดได้

และสังเกตว่าเวลาอาจารย์พันธ์เดินผ่าน

ลมเย็นจะพัดมาด้วย น่าแปลกใจค่ะ

แต่ ฐานนี้อยากทำมากกว่านี้แต่ร่างกายไม่ไหว หายใจหนักมาก

ถ้ามีโอกาสจะไปทำที่แปลงอีก

มันรู้สึกดีเวลาเหงื่อออกและได้ความรู้ที่ไม่เคยรู้

จากนั้นก็ไปฐาน 3 แต่ไม่ได้มีโอกาสไปทำ biogas

เพราะกว่าจะเดินกลับมาถึงโรงทาน ก็ช้าแล้ว

และนึกว่าจะมีการเปลี่ยนสลับกัน

เลยอดทำบุญเลย  และก็ไม่ได้ทำอาหาร

แต่ได้ช่วยถูพื้น ช่วยคุณแหลนเช็ดแห้งเครื่องครัว

ระหว่างเช็ด ก็คิดว่า

การเช็ดให้ส่วนใหญ่แห้งพอ ไม่ต้องสนใจซอกเล็กน้อยนั้น

มันก็จะมีไอ้จุดดำจุดด่างบนร่างกายในจุดซอกจุดอับ

ไม่เรียบเนียนสวยเหมาะกะนิสัยไป

จึงตั้งใจเช็ดให้เรียบร้อย 


ผู้แสดงความคิดเห็น อัญมณี สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-02 12:17:56


ความคิดเห็นที่ 52 (1643278)

พอทำงานเสร็จได้รับประทานอาหารกลางวันมี

  ผัดไทมะละกอ 

อร่อยมั๊กมากกกกก

มี พาสต้าซอสมะเขือเทศ รสเด็ด 
มีขนมนมเนยอีกมากมาย
และ น้ำแดงมะนาว
หลังจากเอร็ดอร่อยกันแล้ว
ก็ไปนั่งรวมกันห้องใต้วิหาร (ไม่ทราบว่าควรเรียกว่าห้องใด)
เพื่อรายงานผลและฟังท่านอาจารย์
มีหลายคนไปด้านหน้ารายงานผลและสารภาพกรรมที่ทำมา
ส้มก็ได้ออกไปเล่าว่า
อันที่จริงแล้วหากเดินมากๆ อย่างวันนี้
จะปวกเท้าตรงที่เอ็นฉีกเพราะเป็นบริเวณรับน้ำหนัก
แต่วันนี้ไม่ปวด
( เดี๋ยวมาต่อนะคะ)
ผู้แสดงความคิดเห็น อัญมณี สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-02 12:44:43


ความคิดเห็นที่ 53 (1643306)

 

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่ได้เข้ามาเขียนธรรมทานค่ะ

ขอบคุณคุณตาลมากค่ะ ปกติชอบช่วยเหลือคนโดยเฉพาะคนที่ต้องช่วยเหลือ เมื่อวานคิดว่า "แย่งบุญ" ดร.จิ๋มตามที่เขียน จริง ๆ ค่ะ เพราะเข้าใจว่าการทำงานเป็นการทำบุญ เมื่อเราไปทำแทนก็เป็นการได้บุญแทน แต่พอคุณตาลบอกว่าไม่ได้เป็นการแย่งบุญ แต่เป็นการช่วยทำงาน ก็สบายใจขึ้นค่ะ และก็จะได้ช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป เราเองก็ไม่น่าจะสับสนเน้อ การช่วยเหลือคนเป็นการกระทำที่ได้บุญอยู่แล้ว ทำไมถึงไปคิดว่า เป็นการ "แย่งบุญ" ได้อย่างไง!

 เราก็คิดแบบคุณตาล ทำไมห้อยจี้แล้ว ขอบารมีพระศรีอาริย์แล้ว ขอบารมีสามโพธิ์ศรีแล้ว ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยแล้ว ก็ไม่หายจากอาการปวดต่าง ๆ เมื่อวานฟังอาจารย์อุบลบรรยายจึงเข้าใจ ตามที่คุณตาลเขียนค่ะ"จี้เป็นเครื่องเตือนสติ  เช่น ถ้าเราปวดแขน

ก็ให้เราระลึกว่า  เราได้ใช้แขนไปทำอะไรที่ไม่ดีมา

ไม่ใช่ว่าสวมจี้แล้วจะช่วยไม่ให้เราเจ็บป่วย  เพราะทุกคน

ต้องอยู่ภายใต้กฏแห่งกรรม  แต่จี้จะช่วยบรรเทาให้สิ่งที่หนักเป็นเบาได้

        กราบขอบพระคุณ ท่าน อ. อุบลเป็นอย่างสูง  ที่ได้ให้ความกระจ่าง"

เมื่อวานอาจารย์อนุญาตให้ไปทำบุญแรงกายที่บ้านสวนได้ ก็เข้าใจอีกว่า เราจะหายได้ ๑๐๐% ต้องทำบุญให้มากยิ่ง ๆ ขึ้นไป "อาจารย์อุบล ช่วยด้วย ขอให้ลูก มีโอกาสไปบ้านสวนพร้อมลูกชายและผู้มีบุญสัมพันธ์กับอาจารย์ด้วย เจ้าค่ะ"

ธรรมทานของคุณชนิดาโดนใจเรามากเลย ได้ตั้งความหวังให้ร้าน "นมสดรถจี๊ป" ขายดี มีลูกค้ามาอุดหนุนมากมายไม่ขาดสาย (แบบคนอื่น ๆ ที่เคยเขียนในกระดาน) นำพีระมิดรุ่นท้าวเวสสุวรรณไปวางที่หน้าร้านก็แล้ว ทำมาสองอาทิตย์แล้ว ยอดขายก็ยังเหมือนเดิม  อาทิตย์นี้ก็นำไปวางอีก (ตอนนี้ไม่ต้องนำไปนำมาแล้ว ร้านจะขายเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์เท่านั้น เพราะไปบ้านสวนครั้งนี้ได้บูชาพีระมิดรุ่นพระศรีอาริย์มาอีก ๒ องค์สำหรับทำน้ำพีระมิด วางไว้สองข้างที่คูเร่อร์น้ำกินที่กรองมาใส่ไว้ คงทำถูกต้องนะคะ พีระมิดท่านท้าวเวสสุวรรณจึงวางไว้ที่ร้านค้าได้ตลอดเวลา)

ปรากฏว่า เมื่อวันเสาร์นี้มีลูกค้าเข้าร้านมากยอดขายสูงขึ้น ส่วนวันนี้ก็ยังคงมีลูกค้าเข้าร้านมากแต่ยอดขายน้อยกว่าเมื่อวาน  ก็ดีใจค่ะ ลูก ๆ เองก็ไหว้พระสวดคาถาของเค้า เราก็สวดคาถาบูชาพระศรีอาริย์และท้าวเวสสุวรรณ ก็ล้วนเป็นบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มาคอยช่วยเหลือเรา

เราได้เผยแพร่คาถาพระศรีอาริย์และรหัสอาจารย์อุบลช่วยมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่เคยใช้จี้สามโพธิ์ศรีบำบัดผู้อื่น ก็คิดเหมือนกันว่า เราเองยังไม่สามารถบำบัดตัวเองได้ จึงไม่กล้าไปบำบัดให้ใคร ตอนนี้คิดว่า คิดผิดค่ะ เราควรจะช่วยผู้อื่นด้วย ส่วนจะดีขึ้นหรือไม่นั้นคิดว่าเป็นเรื่องของบุญสัมพันธ์ของเค้ากับอาจารย์อุบลค่ะ

เราได้ขออนุญาตอาจารย์อุบลที่จะ copy ธรรมทานที่เราชอบและเห็นว่ามีประโยชน์ที่จะนำไปเผยแพร่ให้ผู้อื่นรับรู้ ซึ่งก็ได้ copy  ไว้หลายเรื่อง ดีใจค่ะ ที่ได้รับอนุญาตจากอาจารย์อุบล จะได้ดำเนินการต่อ ธรรมทานของอาจารย์เบญจรัตน์ได้อ่านแล้วค่ะ เห็นว่าดีมากที่จะทำให้คนเข้าใจเรื่องบ้านสวนฯ ได้ดี

ส่วนตัวมีความคิดว่า คนส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์และเล่นเว็บไม่เป็น(เราเองสมัคร FB เป็นปีแล้วก็ยังเล่นไม่เป็นเลยและยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่อง สมัครบัญชีอื่นเพื่อกดไลท์ ใน FB บ้านสวนไว้คงต้องรบกวนคุณธนานะคะ)

ความเห็นตัวคิดว่าน่าจะมีวิธีการใดที่ให้เขาเหล่านั้นได้มีโอกาสได้เข้าถึงบ้านสวนพีระมิดได้ จึงคิดว่าการ copy กระดานถามตอบของบ้านสวนฯ ถ่ายเอกสารแจกเป็นธรรมทาน แบบที่อาจารย์อุบลบอกน่าจะเป็นวิธีการที่ดี อย่างเราก็มีเพื่อน"ร่วมโรค" ก็ใช้วิธีการนำเอกสารแจกของคุณมยุรฉัตรคาถาบูชาพระศรีอาริย์และกรรมผิวพรรณไปให้เค้า เค้าก็ศรัทธานะ ท่องถาคาได้แล้ว อาการปวดข้อต่าง ๆ ก็เบาขึ้นทั้ง ๆ ที่กินยาน้อยลง วันนี้โทรไปเล่าเรื่องไปบ้านสวนฯให้ฟังเพราะได้บอกว่าเราจะไปบ้านสวน  และก็บอกให้เค้าเขียนธรรมทานไว้ จะนำมาพิมพ์ในกระดานให้

ขอบคุณทุก ๆ ท่านค่ะที่ได้อ่านธรรมทานของเราและมีความเห็นเสนอแนะ

กราบขอบพระคุณอาจารย์เบญจรัตน์ค่ะที่ทำให้ได้รู้จักลูกบ้านสวน สามารถเขียนธรรมทานและอ่านธรรมทานแบบนึกหน้าตาออก น้องส้มก็เขียนธรรมทานได้สนุกดีค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น จุฑามาส สุขุมวาท ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-02 19:40:25


ความคิดเห็นที่ 54 (1643346)

เมื่อวันศุกร์มีโอกาสพาชาวคณะราชภัฏนครปฐม

ไปทำบุญใช้แรงกายที่บ้านสวนพีระมิดตอนเช้า

พอบ่ายมีการประชุมกลุ่มเพื่อตรวจสอบอาการเจ็บป่วย

ได้อยู่กลุ่มที่สองมีคุณอ้อยเป็นแม่ทีม

คุณอ้อยได้ซักถามแต่ละคนว่ามีอาการเจ็บป่วยอะไรกันมาบ้าง

และหายไปมากน้อยแค่ไหน คนไหนยังไม่หายก็ให้ดิฉันใช้จี้บำบัด เช่น

สถาพร เป็นบรรณารักษ์ ก่อนมาเมื่อวันพฤหัสมีอาการเจ็บหลัง

ได้เล่าเรื่องไปบำบัดลูกศิษย์ที่ปวดหลังเพราะขับรถชนคนตายให้ฟัง

เขาก็บอกว่าผมก็เคยขับรถทับตัวเงินตัวทอง อึ่งอาง เต่าฯลฯ

ให้เขาขอขมา อุทิศบุญและขออโหสิกรรม ก็หายทันที

พอมาทำบุญแรงกาย บอกว่าเจ็บแขนอาการยังไม่หาย ทำไมมันยังปวดอยู่

บอกตอนกินข้าวเที่ยง

เลยบอกว่าเคยลอกงานเพื่อนใช่ไหม เคยใช้มือล่วงเกินพ่อแม่ไหม

ให้นึกว่า ถ้าใช่ ขอให้หาย

แล้วให้เขาขอขมา อุทิศบุญและขออโหสิกรรมก็หายไปบางส่วนค่ะ

เดี๋ยวมาต่อนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-03 06:34:10


ความคิดเห็นที่ 55 (1643364)

อนุโมทนา

กับ

 รศ.เบญจรัตน์

ในมหากุศลครั้งนี้ค่ะ

 

พระพุทธเจ้า

ท่านว่า

 

ธรรมทาน

คือ

การให้ธรรมะ เป็นทาน

ชนะการให้ทั้งปวง

 

รศ.เบญจรัตน์

ได้ทำครบถ้วนสมบูรณ์

ในทานดังกล่าวนี้

ดีแล้ว

 

สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-03 09:20:16


ความคิดเห็นที่ 56 (1643396)

ขออนุโมทนากับท่านอ.เบญจรัตน์ ด้วยนะคะ อาจารย์ได้ทำตัวเป็นแม่แบบที่ดี เป็นแบบอย่างที่น่ายกย่องที่สุดค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น กุหลาบ รักสนิท ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-03 13:21:58


ความคิดเห็นที่ 57 (1643404)

 

เพราะช่วงหลายๆวันที่ผ่านมา

ชนิดาก็สงสัยเช่นกันค่ะว่า

เอ๊..เราสวมจี้ตลอดเวลา

ทำไม บางทีเรายังมีอาการปวดบางที่อยู่เลย

 

เพราะคนอื่นที่รับการบำบัด

แค่นับเป็นวินาทีก็หายได้แทบทุกอาการ

 

และ แล้วจิตก็แว๊บขึ้นมาว่า

พ่อใหญ่ธนาเองแม้จะมีจี้หลายๆองค์

แต่ก็ต้องให้พี่เหมี่ยว

ช่วยบำบัดอาการเท้าแพลงให้เลย

 

แสดงว่า เหตุการณ์นั้น

มีนัยยะสำคัญที่จะบอกอะไรแก่พวกเราไปแล้ว  

 

แต่สำหรับอาการปวดของชนิดาเอง 

ตอนนั้นก็คิดหาเหตุผลอื่นๆด้วย

ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า

ชนิดายังไม่ได้ใช้จี้ บำบัดผู้ใดเลย ก็เป็นได้


แต่มีเรื่องนึงที่ชัดม๊ากก...

คือหลังจากไปรับจี้ที่ไปรษณีย์แล้ว

ก็รู้สึกได้ถึงพลังจากจี้ตั้งแต่ยืนรอพัสดุเลย

 

ฉะนั้น ตอนระหว่างนั่งอยู่ในรถก่อนถึงร้าน

ก็แอบคิดในใจว่า

โอ้ววว...เดี๋ยวถึงร้านนะ

จี้นี้ต้องดึงดูดลูกค้ามากันอย่างคับคั่งชัวร์ๆ

แต่ ฮือ ฮือ ไม่อยากจะบอกเลยค่ะว่า

พอไปถึงร้าน วันนั้นลูกค้าเงียบม๊ากเป็นพิเศษ

 

แต่ก็ยังโชคดีที่เบื้องบนก็ยังเมตตา

ถึงแม้คนจะน้อย แต่ยอดขายก็ยังโอเคอยู่

**********************************

คุณชนิดาได้บูชาจี้รุ่นพระศรีอาริย์รึยังคะ

เพราะว่ารุ่นนี้มี

บารมีองค์พระศรีอาริย์เต็มๆ

ซึ่งจะมีอานิสงส์เด่นมาก

เรื่องดึงดูด

ทรัพย์ โชคลาภต่างๆ

ส่วนจี้รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรีจะสำหรับ

คนที่มีหน้าที่ต้อง

ช่วยเหลือผู้อื่น

โดยเฉพาะตอนเกิดภัยพิบัติ

การที่เราสวมจี้ หรือมี

วัตถุมงคลอยู่กับตัว นั้นไม่ได้ทำให้เราหนีกฎแห่งกรรมได้

จี้อาจช่วยให้หนักเป็นเบา เบาเป็นไม่เกิด

หรือบางทีที่เรามีอาการเจ็บปวดขึ้นมา

ก็ให้ดีใจว่า นี่เรายังมีกรรมที่ยัง

ไม่ได้รับการชำระสะสาง

ที่เรายังนึกไม่ออกอีก

ท่านเลยมาเตือน

ผู้แสดงความคิดเห็น อ้อย (ปาริชาต ชมภู) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-03 14:43:41


ความคิดเห็นที่ 58 (1643450)

คุณชนิดาได้บูชาจี้รุ่นพระศรีอาริย์รึยังคะ

เพราะว่ารุ่นนี้มี

บารมีองค์พระศรีอาริย์เต็มๆ

ซึ่งจะมีอานิสงส์เด่นมาก

เรื่องดึงดูด

ทรัพย์ โชคลาภต่างๆ

-----------------

ผมถึงว่าเมื่อเดือนตุลาอยู่ๆ

พี่ที่เคยยืมเงินไปตั้งนานไม่ได้คาดว่า

เค้าจะคืนให้เมื่อไร

พอถึงช่วงเงินขาดมือพี่เค้าดันโทรมาเฉย

บอกขอเลขบัญชีจะโอนเงินคืนให้

สองหมื่นบาทแถมให้เกินมาอีกหนึ่งพัน

และล่าสุด 30 เดือนพฤศจิกายน

จะไปเอาเงินจากประกันสังคม

เรื่องเงินสงเคราะห์บุตร 400 บ.

เพราะเข้าหยุดส่งให้เมื่อเดือนพฤษภาคม

มาจนถึงพฤศจิกายน

ก็ประมาณ 2,800 บ.

พอไปถึงเค้าบอกที่หยุดส่งไปนั้นเป็นของ

ลูกชายคนโตซึ่งครบ 6 ขวบแล้ว

แต่ลูกสาวคนเล็กทางประกันสังคมไม่ได้ส่งให้

มา 4 ปีตั้งแต่ลูกสาวเกิด

รวมแล้วเงินที่ผมจะได้คืนไม่ใช่ 2,800

แต่มันคือ 20,700 บ.

 

ขอกราบ

บารมีจี้พระศรีอารย์

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆ พระองค์

ผู้แสดงความคิดเห็น เกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-03 21:37:44


ความคิดเห็นที่ 59 (1643500)

 เพราะช่วงหลายๆวันที่ผ่านมา

ชนิดาก็สงสัยเช่นกันค่ะว่า

เอ๊..เราสวมจี้ตลอดเวลา

ทำไม บางทีเรายังมีอาการปวดบางที่อยู่เลย

**********************************************

ญก็เคยคิดเหมือนกันค่ะ

เพราะวันนั้นอยู่ๆก็ปวดแขนขึ้นมากะทันหัน

ก็ยังแอบนึกในใจว่า เอ..เรามีจี้แล้วทำไมยังปวดแขนอีกนะ

โดยไม่ได้คิดเหมือนกันค่ะว่า

จี้นี้ จริงๆแล้วเรามีไว้เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น 

บวกกับยังไม่เคยใช้จี้ไปช่วยเหลือใครแบบจริงๆจังๆสักที

เพิ่งจะมาคิดได้ก็ตอนพี่ชนิดาพูดนี่แหละค่ะ

ขอบพระคุณมากๆค่ะ

หลงอยู่กับความคิดโง่ๆแบบนี้อยู่ตั้งนาน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-04 05:21:10


ความคิดเห็นที่ 60 (1643502)

อนุโมทนากับคำตอบพร้อมคำอธิบาย

ที่ค่อนข้างชัดเจนจากคุณอ้อย ด้วยนะคะ

 

เพราะส่วนใหญ่ที่ผ่านๆมา เวลามีเหตุการณ์

หรือ เรื่องราวอะไรเกิดขึ้น

ชนิดาจะพยายามคิดค้น

หาคำตอบให้กับตัวเองเสมอ

 

ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมีนัยยะอะไร

ที่จะบอกกับเราบ้าง ถ้าพูดง่ายๆ

ก็อาจจะเรียกว่า

เป็นการ"คาดเดา"ด้วย ก็ได้

 

ซึ่งอาจจะคิดผิด คิดถูกไปบ้างก็มี

เพราะชนิดาคิดว่าการสื่อสารจากเบื้องบน

เมื่อมาผ่านการพิจารณา

ด้วยความคิดของเราแล้ว

ก็คือ คำสอนดีๆ นั่นเอง

 

เพราะใจเรา ความคิดเรา

คนที่รู้ดีที่สุดก็คือ ตัวเราเอง

 

ซึ่งส่วนใหญ่ชนิดาก็จะนำสิ่งที่ตนคิดได้

มาเทียบเคียงกับสิ่งที่ท่านอาจารย์

อาจจะมาเฉลยในภายหลัง

หรือ บางทีก็มีลูกบ้านสวนฯนี่แหล่ะ

มาช่วยชี้ทางสว่างให้

ว่าสิ่งที่เราคิดนั้น ใช่ หรือ ไม่ใช่ อย่างไร

 

และหลังจากที่ได้ครอบครอง

จี้สามร่มโพธิศรีมาอาทิตย์กว่า

คำตอบที่ได้ กับตัว

ก็ใช่อย่างที่คุณอ้อยสรุปมาเลยค่ะว่า

 

จี้นี้ต้องใช้เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นโดยเฉพาะ

ทั้งก่อนและหลังภัยพิบัติ

ไม่ได้ใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก..แต่อย่างใด 

 

ฉะนั้น เจ้าของจี้ต้องฝึกกำลังใจ

ให้พร้อมที่จะเป็น"ผู้ให้"เสมอ

 

ซึ่งสิ่งที่ต้องฝึกอย่างหนัก

ก็คือ เรื่องพรหมวิหารสี่

เพราะต้องมีเมตตา กรุณา มุทิตา

และอุเบกขาให้ได้กับทุกๆเรื่อง

 

ซึ่งเป็นหลักธรรมที่เป็นเส้นทางลัด

ตรงสู่นิพพานโดยเฉพาะ  

...........................................................

อนุโมทนากับธรรมทานจากท่านอาจารย์

และทุกๆท่านด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-04 05:36:26


ความคิดเห็นที่ 61 (1643571)

เล่าเรื่องคุณสถาพร ต่อนะคะ

พอคุณอ้อยให้รวมกลุ่มเพื่อสอบถามอาการ สถาพรก็แจ้งว่ายังมีอาการปวดแขนอยู่ ตอนนั้นยังไม่ทราบที่มาที่ไป เพิ่งมาสอบถามเมื่อกลับมาแล้ว ทราบว่า อาการปวดแขน เจ็บเข้าไปถึงกระดูก เพิ่งมาเป็นตอนกลางคืนวันพฤหัส ก่อนมาบ้านสวนฯ คิดว่าเจ้ากรรมนายเวรคงมารอผลบุญที่จะมาทำที่บ้านสวนเป็นแน่ และเขาเคยใช้มือผลักพ่อค่ะ

(ขณะใช้แรงกายทำบุญก็เจ็บปวดตลอด แม้ไปช่วยงานไปโอแก๊สก็ไม่หาย หายแต่อาการปวดหัวที่เป็นมาเกือบ ๒ ปีเท่านั้น หลังจากช่วยงานไปโอแกสไปประมาณ ๒๐ นาที)

เมื่อคุณอ้อยทราบว่าสถาพรยังไม่หาย ก็ให้ดิฉันใช้จี้บำบัดค่ะเมื่อให้สถาพรมองจี้พร้อมกับอาราธนาบารมี พระพุทธเจ้า พระศรีอาริย์ที่อาจารย์อุบลอัญเชิญมา และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้โปรดสงเคราะห์บำบัดอาการปวดแขนและให้พูดว่า อาจารย์อุบลช่วยด้วยให้หายปวดแขน จากนั้นให้ขอขมา อุทิศบุญและขออโหสิกรรมอาการที่ปวดแขนอยู่ ก็หายหมดจึงให้กราบขอบคุณทุก ๆ พระองค์ รวมทั้งอ.อุบลด้วยและให้ถวายบุญให้เทวดารักษาอ.อุบล

สถาพรเป็นคนที่รักพ่อแม่ พ่อเขาเป็นมะเร็ง เพิ่งตายไปได้ประมาณปีนึงแต่ยังวนเวียนอยู่ที่บ้าน ตอนแรกเขาไม่กล้าสวดคาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ บอกว่ากลัวว่าจะไปไล่พ่อออกจากบ้าน พ่อจะไม่มีที่อยู่ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-04 20:26:03


ความคิดเห็นที่ 62 (1643573)

สถาพรได้ออกไปเล่าเรื่องการเผยแพร่รหัสอ.อุบลช่วยด้วย

ขณะที่อาจารย์อุบลให้คนที่หาย 100% ออกไปเล่า

เขาได้เล่าว่า ได้บอกให้แม่ยายใช้รหัส

แม่ยายเขามีแมลงเข้าตา เคืองตาเลยเอามือขยี้ตา

ตาจึงเป็นแผล ต่อมาเป็นหนอง รักษาที่รพ.นครปฐมก็ไม่ดีขึ้น

อยู่ รพ.เป็นเดือน ทางรพ. เห็นท่าไม่ไหว

จึงส่งต่อไปที่รพ.วัดไร่ขิงที่เป็นรพ.เฉพาะทางด้านตา

ดิฉันเลยบอกให้ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย

หมอให้เปลี่ยนเลนแก้วตา เปลี่ยนครั้งแรกหนองที่ตาไม่หาย

จึงต้องผ่าตัดเปลี่ยนใหม่ ต้องขอจองไปที่สภากาชาด ซึ่งคิวยาวมาก

เขาภาวนาไปเพียง 2 วัน ก็ได้เลนแก้วตามาผ่าตัดเปลี่ยน

คราวนี้บอกให้เขาเอารูปอาจารย์มาดูพร้อมกับภาวนาไปด้วย

เพราะหมอบอกว่า 50 50 ที่จะหาย

อาจต้องผ่าครั้งที่ 3 ซึ่งเปอร์เซนต์ที่ตาอาจบอดสูงมาก

ปรากฏว่าหนองและแผลแห้งอย่างรวดเร็วกลับบ้านได้

รวมเวลาอยู่รพ.สี่เดือนค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-04 20:43:57


ความคิดเห็นที่ 63 (1643578)

 

 

ก็ใช่อย่างที่คุณอ้อยสรุปมาเลยค่ะว่า  

จี้นี้ต้องใช้เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นโดยเฉพาะ

ทั้งก่อนและหลังภัยพิบัติ

ไม่ได้ใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก..แต่อย่างใด   

ฉะนั้น เจ้าของจี้ต้องฝึกกำลังใจ

ให้พร้อมที่จะเป็น"ผู้ให้"เสมอ  

ซึ่งสิ่งที่ต้องฝึกอย่างหนัก

ก็คือ เรื่องพรหมวิหารสี่

เพราะต้องมีเมตตา กรุณา มุทิตา

และอุเบกขาให้ได้กับทุกๆเรื่อง

ซึ่งเป็นหลักธรรมที่เป็นเส้นทางลัด

ตรงสู่นิพพานโดยเฉพาะ  

---------------------------------

ข้อเขียนของคุณชนิดา อ่านแล้วตื้นตันใจมากน้ำตาซึมค่ะ วันที่อาจารย์บอกว่าผู้ที่มีจี้สามโพธิ์ศรีมีหน้าที่ช่วยเหลือผู้คนยามเกิดภัยพิบัติ ก็งง ๆ อยู่นะ

เราเองพอได้อ่านกระทู้ที่อาจารย์อุบลแนะนำจี้สามโพธิ์ศรี ก็ตัดสินใจขอบูชาจากคุณแมว ๑ องค์พร้อมพีระมิดรุ่นบวงสรวงท้าวเวสสุวรรณ  

เราเคยเขียนธรรมทาน ขอบารมีพระศรีอาริย์ที่อาจารย์อุบลเป็นผู้อาราธนา ขอให้เราเป็นผู้มีจิตใจ ที่รักเมตตาผู้อื่นอย่างจริงใจ มีพรหมวิหารสี่  ซึ่งเป็นการขอที่ตัวเองต้องการอยู่ในใจมาตลอด เรามีความรู้สึกว่า บางครั้งเราดีใจกับเพื่อนที่เค้าได้ดี แต่ในใจลึก ๆ แล้วหากเป็นเพื่อนที่เราไม่ชอบ ก็รู้ว่าเราไม่ได้พูดด้วยความจริงใจ เบื่อตัวเองมาก ๆ อยากที่จะมีความรักความเมตตาที่เกิดจากใจจริงกับทุก ๆคนเสมอเหมือนกันหมดไม่ว่าจะเป็นใคร และเข้าใจแล้วค่ะว่าทำไมเราต้องบูชาจี้สามโพธิ์ศรี

 

ฉะนั้น เจ้าของจี้ต้องฝึกกำลังใจ

ให้พร้อมที่จะเป็น"ผู้ให้"เสมอ

ซึ่งสิ่งที่ต้องฝึกอย่างหนัก

ก็คือ เรื่องพรหมวิหารสี่

เพราะต้องมีเมตตา กรุณา มุทิตา

และอุเบกขาให้ได้กับทุกๆเรื่อง

ขอบคุณ คุณชนิดามากค่ะ ข้อเขียนของคุณมีประโยชน์สำหรับเรามากเลยค่ะ  วันนี้ก็ได้โทรคุยกับคุณธนาเกี่ยวกับเรื่อง FB ของบ้านสวนกรณีการปิดนรกทั้ง ๙ ขุม ได้รับความรู้มากมายและเพลินกับการกด ไลค์ ในกระทู้ต่าง ๆ ของอาจารย์ ได้ปิดนรกไป ๒ ขุมแล้ว มีเหตุการณ์ปาฎิหาริย์เกิดขึ้นกับตัวเอง เกี่ยวกับเรื่องสายตา ตาที่แห้งดูสว่างขึ้น ไม่แสบตา ที่สำคัญข้อมือขวาก็ดีขึ้น ปกติช่วงหลายอาทิตย์มานี้ใช้พิมพ์ไม่ได้เลย เพราะปวดต้องจิ้มทีละตัว (ปกติพิมพ์สัมผัสได้) วันนี้พิมพ์ได้ สบายและพิมพ์มากด้วย ก็ใช้เวลาทำงานค่ะแต่ทำงานเสร็จแล้วนะคะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่เขียนธรรมทานค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น จุฑามาส สุขุมวาท ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-04 21:12:31


ความคิดเห็นที่ 64 (1643584)

ขอเล่าเกี่ยวกับเรื่องมโนกรรม ของคุณอัญมณี สีทองสุก ลูกสาวคนสวยของ รศ.เบญจรัตน์

คุณอัญมณี มีชื่อเล่นว่าน้องส้ม จบ ปริญญาโท ด้าน social science จาก illinois (อิลินอยส์) เขามาบ้านสวนด้วยอาการขาใส่เฝือก เพราะเส้นเอ็นฉีก คุณอัญมณีไปเที่ยวกับเพื่อมา และปีนขึ้นเขา ขาไปเหยียบก้อนหิน ทำให้ขาพลิก ตอนสรุปกิจกรรมของแต่ละกลุ่ม อาจารย์อุบลก็เชิญน้องส้มออกไป เขาเลยสารภาพว่า เขาคิดไม่ดีกับ จิ๋ม ว่าเห็นจิ๋มขาพิการ แต่ทำไมต้องทุ่มเทกับการทำงานของบ้านสวนมากนัก  และเคยคิดไม่ดีกับอาจารย์อุบลว่า อาจารย์อุบล มาเปิดบ้านสวนพีระมิด เพื่อช่วยใช้ธรรมะในการบำบัดคนทำไม ทำเพื่ออะไร มีความสงสัยว่า อาจารย์อุบล จะเป็นแค่มาร ที่มาแสดงฤทธิ์เท่านั้น ไม่ใช่คนที่จะมาถ่ายทอดธรรมะพระพุทธเจ้าหรอก  นอกจากนี้ยังคิดไม่ดีว่า อาจารย์อุบล ไม่เห็นจะสวยเลอเลิศอะไร แค่สวยธรรมดาเท่านั้นเอง

ผลของการปรามาสท่านอาจารย์อุบล ว่าไม่สวย ทำให้ตนเองก็ไม่สวยด้วย เช่น มีขนหน้าแข้งขึ้นที่ขา ทั้งๆ ที่เป็นผู้หญิง และคุณอัญมณี ก็เป็นคนอ้วนไม่สมส่วน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้หญิงรักสวยรักงามทั้งหลาย ไม่อยากอ้วน เข่นนี้ ความอ้วนที่เกิดอาจเป็นเพราะ ไปกล่าวโทษคุณยายของตัวเอง โดยคิดไปว่าเป็นเพราะคุณยายทำอาหารอร่อยเกินไป ทำให้น้องส้มอ้วน

คุณอัญมณีมีโรคอย่างอื่นอีก เช่น ต่อมไทรอยด์ผิดปกติ ทำใหฮอร์โมนไม่หลั่งตามปกติ จึงไม่มีประจำเดือน ไปหาหมอ หมอก็ให้ทานฮอร์โมน ประเภทยาคุมเสริม แต่การกินยาคุม อาจมีผลทำให้เป็นมะเร็งได้ จึงทำให้คุณอัญมณีเกิดความเครียดขึ้น

คุณอัญมณีได้มีโอกาสมาที่บ้านสวนฯ ตอนหล่อท่านมเหสักขา และอาจารย์ก็ได้ช่วยบำบัดให้ เธอบอกว่า เมื่อได้ยินเสียงอาจารย์พูด  มีลักษณะน้ำเสียง ลีลา เหมือนหลวงพ่อฤาษีลิงดำมาก ทำให้เธอตื้นตัน เพราะหลวงพ่อฤาษีเคยเป็นครูบาอาจารย์คนเก่าของเธอ  เดือน กค.ที่กลับไป ก็ลองไม่กินยาคุมที่หมอสั่ง และเดือน สค.ได้ไปมหิดล พบอาจารย์อุบลที่นั่น หลังจากไปฟังบรรยายธรรมมา  พอปลาย สค.ก็ พบว่า ตนเองมีประจำเดือนมาปกติแล้ว  คุณอัญมณีเล่าว่า จากการที่ไปฟังบรรยายธรรมที่มหิดล เธอบอกว่า เกิดสติ และได้ความคิดใหม่ ขึ้นมาว่าอาจารย์อุบล เป็นคนที่น่าศรัทธา น่าเชื่อถือ ตอนจะกลับอยากไปกราบท่านอ.อุบล แต่คนก็มาห้อมล้อมท่านมาก คุณอัญมณีก็เลยกราบอยู่ห่าง ๆ แต่การกราบของเธอครั้งนี้ทำด้วยจิตที่เปิด ยอมรับในธรรมะของพระพุทธเจ้ามากขึ้น ก็เลยหายจากโรคที่เป็นอยู่

ขออนุโมทนากับน้องสัม ที่สามารถเอาชนะกิเลสมารที่มาดึงความคิดให้เกิดมโนกรรมต่าง ๆ จนจิตเปิดรับธรรมะได้อย่างเต็มที่อานิสงค์ก็ปรากฏต่อหน้าต่อตาอย่างฉับพลันทันที ทำให้น้องส้มหายจากโรค

ส่วนเรื่องที่คุณอัญมณี คิดไม่ดี ว่าพี่จิ๋ม ทำอะไรทุ่มเทจัง ก็ขอบอกว่า พี่จิ๋ม เป็นโปลิโอตั้งแต่เล็ก ๆ เดินกะเผลกมาจนชิน และไม่เคยเห็นตัวเองเดิน นอกจากในกระจก ก็เลย ลืมไป บางครั้งตนเองก็คิดว่าทำได้เหมือนคนธรรมดาทุกอย่าง ก็เลยพยายามทำเหมือนคนอื่น แต่บางทีก็พลาดค่ะ บางทีพี่จุ๋ม เขาต้องเข้ามาขวาง และไม่ให้เราทำ เพราะอาจเจ็บตัว ในบางอย่าง ก็เลยดูเหมือนพี่ทุ่มเท จริง ๆ แล้ว ก็แค่พยายามทำคล้าย ๆ คนอื่นเท่านั้นเองค่ะ

จิ๋ม ชัชวลี

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-04 22:03:52


ความคิดเห็นที่ 65 (1643650)

กิจกรรมworkshop(30 พย.55)  ม.ราชภัฎ  จ.นครปฐม.

         ก่อนอื่นขอต้อนรับคณะฯด้วยความยินดีอย่างยิ่งที่งานเกษตรบ้านสวนฯ

ได้มีส่วนในการให้มาใช้แรงกายด้วยครับ......กิจกรรมของเราได้เริ่มด้วยการ

เตรียมแปลงเพื่อที่จะปลูกผักกัน  โดยการเริ่มจากการถากหญ้าบริเวณแปลง

ที่ยังมีหญ้าขึ้นรกๆ  อยู่เต็มไปหมดออก    ต่อไปก็นำหญ้าที่หมักใว้ในถังปุ๋ย 

ออกมาจากถังปุ๋ยแล้วนำมาคลุมแปลงผักเพื่อเตรียมปลูกผักกัน หลังจากที่

การปฏิบัติงานผ่านไปได้ชั่วโมงเศษ   ก็จะมีการสับเปลี่ยนฐานกัน     อาการ

เจ็บป่วยโดยรวมก็ ดีขึ้น  30-80  % ทำให้ทุกคนมีกำลังใจ   ดีขึ้น  สามารถ

ที่จะสร้างบุญกันต่อไป

         ขอสรุปว่า.......ทุกคนมีความตั้งใจดีมากในการมาสร้างบุญในครั้งนี้/

                                   **************************

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธิพันธ์ อัครวิชชนนท์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-05 14:51:28


ความคิดเห็นที่ 66 (1643677)

ก่อนจะเล่าต่อ

หนูจบ Actuarial Science (คณิตศาสตร์ประกันภัย) ค่ะ 

ตอนบ่ายได้เข้าไปฟังธรรมท่านอาจารย์

ท่านอาจารย์พูดถึงกรรมจากมโนกรรม

ทำให้คิดว่าเราหนอ ทำไว้เยอะนะเนี่ย

ที่เท้าเอ็นฉีกหมอให้ใส่เฝือก 2 เดือนนั้น

อาจเป็นเพราะที่เราคิดไม่ดีกับคนอื่นๆ เยอะแยะ

ตอนแรกคิดว่าควรจะออกไปไหม

คุณแม่ก็บอกออกไปสิ

แต่ก็กลัวว่าเราไม่ได้หาย 100%

เพราะอาจารย์เชิญคนที่หาย 100%

พออาจารย์บอกใครหายบ้าง ได้โอกาสจึงออกไป

เริ่มเล่าว่าไปเที่ยวทะเล ขึ้นเขา แล้วเกิดอุบัติเหตุ

เพราะก่อนไปกินมังสวิรัติ

แล้วขอในใจว่าขอออกมัง 2 วันเพื่อไม่ให้เพื่อนลำบากใจเวลาสั่งอาหาร

แต่แล้วก็ไปเป็นคนจิ้มว่า

จะเอาปูเป็น 1 กิโล ปูสุก 1 โล

และสัตว์ทะเลอื่นๆ อีก และสุดท้ายก็เป็นมือปิ้ง

(รวมทั้งปิ้งหอยแครงด้วย แต่ไม่ได้พูดออกไปวันนั้น )

นอกจากนี้ยังคิดไม่ดีกับ

ยายขายท๊อฟฟี่ และ ดร.จิ๋ม ที่กล่าวไว้แล้วข้างต้น

จากนั้นอาจารย์ก็เกริ่นให้เล่าให้คนอื่นฟังเรื่องโรคประจำตัว

ก็เล่าว่ารู้จักบ้านสวนจากคุณแม่ตั้งแต่เรียนอยู่อเมริกา

แต่ก็ไม่ได้ดูรายการจริงจัง

(แต่คอยตามเรื่องภัยพิบัติจากเวบไซต์ ซึ่งลืมกล่าวถึง)

พอกลับมาไทยก็มาบ้านสวนกับคุณแม่ 1-2 ครั้ง

ซึ่งตอนแรกก็มาด้วยความอยากรู้ว่าบ้านสวนมีดียังไง

อาจารย์บอกว่ากลัวแม่ถูกหลอกใช่ไหมล่ะ :)

แล้วก็มีคนบอกว่าอาจารย์สวยมาก ก็เลยอยากเห็น

พอพบแล้วก็คิดว่าไม่เห็นสวยมากเลย ก็เฉยๆ

(แต่วันนั้นมีอาจารย์วรรณชมอาจารย์ว่าหน้าเหมือนเด็กอายุ 16

ก็มองดู เออจริงด้วย สวยนะ

อาจารย์ก็ไม่ไช่เด็กสาว เราจะบ้าหรอให้อาจารย์สวยแบบเด็กๆ

แล้วหลังอาจารย์วรรณชมอาจารย์ด้วยใจจริง

ยังไม่ทันจะทำอะไร เธอหายเจ็บเข่าเลย สาธุ

อาจารย์กล่าวว่าเคยมีคนชมอาจารย์แล้วหายเหมือนกัน :)

กลับมาต่อ

พอวันที่หล่อท่านพี่มเหสักขา ก็รู้สึกว่าปิติ

คุณแม่เรียกมาหาอาจารย์ หลังจากที่อาจารย์บำบัดให้พี่ออย

ที่เป็นเนื้องอกที่หลังซึ่งหลังจากอาจารย์แตะที่ก้อนเนื้อ

มันยุบลงไปเลยมหัศจรรย์มาก

แล้วคุณแม่ก็ขอให้แตะส้มด้วย

เพราะเป็นทั้งฮอร์โมนผิดปกติ (PCOS) และเบาหวาน

อาจารย์แตะแล้วบอกว่าหายนะลูก หาย หาย

ต่อมน้ำตาแตกเลย รู้สึกเหมือนหลวงพ่อเลย (พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง)

แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ศรัทธาอาจารย์เต็มร้อย

จนกระทั่งด้วยความเมตตาของอาจารย์และดร.จุ๋ม

ได้ไปที่คณะเวชศาสตร์ และได้คิด

เดี๋ยวมาต่อค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญมณี สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-05 21:37:14


ความคิดเห็นที่ 67 (1643690)

....ได้ไปที่คณะเวชศาสตร์ และได้คิดว่า

อาจารย์ยืนยันและพยายามพิสูจน์กับนักวิทยาศาสตร์ที่นั่น

อุทิศกายถวายชีวิตจริงๆ ไม่ใช่สักแต่พูดเหมือนตนเอง

กลัวคนว่างมงาย น่าละอายนัก

ทั้งยังสงสัยทำไมต้องขอบคุณอาจารย์มงคลและคุณท๊อป

ก็คิดได้ว่าเรายังต้องการเวลาจากแม่

ถ้าแม่มาทำเช่นนี้จะต้องรู้สึกไม่ชอบเพราะเวลาของแม่จะไม่มีให้เราเลย

แต่นี้คุณท๊อป อาจารย์มงคลยอมและสนับสนุนตามที่ทำได้อีกด้วย

และวัยอาจารย์นี้น่าจะอยากรีไทร์

อยู่บ้าน ไปเที่ยว หรือหาความสุขเข้าวัด ตามใจชอบ

แต่นี้ต้องมาเปิดบ้านให้ใครก็ไม่รู้มาเพ่นพ่าน ไม่มีเวลาส่วนตัวเลย

นั่นเพราะอะไร จะว่ามามีวาระซ้อนเร้น

แล้วจะซ้อนอะไรล่ะ

กำไรจากของที่ขายมันคุ้มรึไง กระจิ๊บกระจ๊อย

สู้ไปลงทุนธุรกิจเป็นล้านๆ ไม่ดีกว่าหรอ

หรือว่าจะเป็นมาร

มาทำให้ศาสนาผิดเพี้ยน เหมือนที่เคยอ่านเจอว่า

จะมีมารมาแสดงฤทธิ์

เพราะมารนี่เก่งได้อภิญญาสมาบัติแต่ยังไม่ได้ตัดกิเลศ

จะมาบิดเบือนคำสอน

แต่ฟังดูที่อาจารย์สอนก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากที่เคยรู้

เลยศรัทธาอาจารย์ และกราบอาจารย์ในงานวันนั้น

จากนั้นมาสังเกตว่าตนมีประจำเดือนเป็นปกติทั้งๆ ไม่ได้ทานยา

(ที่ไม่ได้ทานยาเป็นเพราะความขี้เกียจส่วนตัวไม่ได้ตั้งใจทดสอบใดๆ)

เคยจำคำพูดที่พูดกับหมอได้ว่า เคยไม่ทานยา

ประจำเดือนจะมาหลังจากไม่ทานยาแค่ 1 เดือน

แต่นี้ 4 เดือนแล้ว 

นอกจากนี้ยังเคยคิดและพูดเล่นกะเพื่อนว่า

ที่ไม่มีประจำเดือน หนวดขึ้น

เพราะคุณแม่ตอนท้องไปขอพระว่าอยากได้ลูกสาว

เลยแทนจะเกิดเป็นชายก็ถูกเปลี่ยนแต่เปลี่ยนไม่เสร็จ

(มานึกตอนนี้ก็เป็นการล่วงเกินพระรัตนตรัย ลูกขอกราบขอขมา)

ซ้ำยังเคยนึกโทษคุณยายว่าทำอาหารอร่อยเกิน ทำให้อ้วน

แล้วก็นึกได้ว่า ตอนไปทะเลทำจี้รุ่นพระศรีอาริย์หายไป 1 องค์

อาจเป็นเพราะจ่ายเงินคุณแม่ค่าจี้ยังไม่ครบรึปล่าว

อาจารย์เลยชมเข้าให้ว่ามี จินตนาการสูงจริงๆ  

แล้วก็ได้ขอขมาทุกท่านที่ได้ทำมโนกรรม และกรรมอื่นๆ

ลูกขอกราบขอขมาพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย

ท่านอาจารย์อุบล

และเจ้ากรรมนายเวรลูกทุกท่าน เจ้าค่ะ

ขออุทิศส่วนกุศลให้แก่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดารักษาอาจารย์อุบล

เจ้ากรรมนายเวรทุกท่าน

ขอทุกท่านมีได้อานิสงผลบุญเท่าที่ลูกจะพึงได้

 

ในวันที่ได้ทำบุญแรงงานไม่มีอาการเจ็บเท้า

เหมือนที่เคยเจ็บหากเดินมากดังวันนั้น

อีกวันไปเอาเฝือกออกทั้งๆ ที่ผ่านมาแค่ 2 สัปดาห์

เดินได้แต่ตอนหมอบิดเท้ารู้สึกตึง

และไม่ได้บอกหมอว่าที่อยากเอาออกเพราะไปบ้านสวนมา

ก็เลยคิดว่าทำให้ยังไม่หาย 100%

หลังจากกลับบ้านคุณแม่พยายามช่วยนึกบาปให้สารภาพกับจี้

ปรากฎเคยฆ่าหนอนแก้ว เลยสารภาพอุทิศบุญ

ปรากฏ เท้าเบา รู้สึกดีขึ้น

วันนี้ไปชวนย่ากับปู่ไปงานวันที่ 14

ระหว่างที่แม่บำบัดให้ย่าน้องของปู่ พูดถึงเหยียบแก้เมื่อยให้พ่อแม่

เลยนึกได้ว่าเราเคยกระแทกเหยียบพ่อเพราะรำคาญ

พอไปไร่พ่อเดินๆ อยู่นึกได้ ตอนนี้เดินเหมือนป้าญาติพ่อคนนึงเลย

เราไม่ชอบเค้านิดหน่อย ก็เคยว่านึกว่าเค้าในใจว่า

เดินยังงี้ยังนิสัยไม่ดีอีก (กับคนอื่นนะ แต่เค้าก็ดีกับเรา)

ดูสิ มันสมควรโดนแล้วล่ะ

แล้วตอนคุณแม่เล่าให้ย่ากะปู่ว่าจี้เป็นรูปพีระมิด

เพราะเป็นเครื่องย่นเวลาแสดงกฏแห่งกรรม

เลยปิ๊ง เลยว่า แหมเพิ่งว่ายายขายท๊อฟฟี่ก่อนขึ้นเขา

พอลงเขาเสร็จเห็นกฏแห่งกรรมเลย

แล้วก็รวมเอาคดีอื่นๆมาซะอ่วมอรทัย

ขอเล่านอกเรื่องนิดนึง

ก็คิดว่าทำไมต้องกราบอาจารย์จึงหาย

ก็คิดได้ว่าเวลากราบอาจารย์คิดอะไรอยู่

เราได้คิดแล้วว่า

อาจารย์มีความดีอะไร ซาบซึ้ง ลดอัตตา

จึงกราบ

แต่ถ้าให้กราบพระพุทธรูป รูปพระสงฆ์นั้น

บางคนก็กราบเพราะ

คนอื่นกราบกัน กราบไปงั้นๆ กราบกันเก๋ๆ

ไม่ได้ระลึกนึกถึงความดีของท่าน


ผู้แสดงความคิดเห็น อัญมณี สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-05 22:52:20


ความคิดเห็นที่ 68 (1643714)

อนุโมทนากับธรรมทานจากคุณส้ม

อ.พันธ์

คุณพี่ ดร.จิ๋ม

คุณ จุฑามาศ

และ คุณ สถาพร ด้วยค่ะ

 

รู้สึกว่าการไปเยือนบ้านสวนฯครั้งนี้

คุณส้มจะได้เคลียร์

และปลดล็อคทีเดียวหลายกรรมเลยนะคะ

 

เพราะได้มีโอกาสสารภาพผิด

ที่เคยมีความคิดจาบจ้วงล่วงเกินท่านอ.อุบล

คุณพี่ดร. จิ๋ม และ คนอื่นๆด้วย

 

ยินดีด้วยนะค๊า คุณส้ม...

ขอให้สุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง

และเป็นปรกติ โดยเร็วนะคะ


ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-06 07:24:29


ความคิดเห็นที่ 69 (1643827)

ผมเดินทางออกจาก บขส.สุราษฎร์ รถเที่ยว 19.00 น. 28พย.ถึงบ้านสวนพีระมิดประมาณ8.00 น.ของอีกวันหนึ่ง ช่วยกวาดถูโรงอาคาร  ช่วยลุงบุญ ลุงเบิ้ม งานก่อสร้าง ยกอิฐ ยกปูนที่จะก่ออิฐทำแบบคาน  วันรุ่งขึ้นตอนเช้า(30พย) ได้ร่วมกับคุญสกลที่มาจากชลบุรี ไปช่วย อ.พันธ์ ทำงานเกษตร อ.พันธ์สอนวิธีการขุดดินที่ถูกต้อง ขุดไปข้างหน้ารักษาแนวขอบข้างให้ดีไม่มีการขุดย้อนกลับตรงกลางขุดไม่ถึงใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบและขุดและต้องตามเก็บที่เราเหยียบไม่ต้องรีบให้ใช้ปัญญาทำให้ถูกต้องจะได้ไม่ต้องเริ่มทำใหม่ การทำเกษตรเป็นการใช้ปัญญา ผมสองคนขุดได้แปลงเดียว อ.พันธ์ขุดคนเดียวได้หนึ่งแปลง อ.พันธ์แข็งแรงมาก ตอน 8.00 มีคนมาตามให้ไปทานข้าวได้แล้ว  และได้ร่วมต้อนรับคณะจาก ม.ราชภัฏ นครปฐม ทานอาหารเสร็จแบ่งกลุ่ม งานเกษตร งานก่อสร้าง งานไบโอแก๊ส   ได้ทำงานเกษตรขุดเตรียมดินร่องผักอีก อ.พันธ์บอกวิธีการเตรียมหญ้าที่จะเอาไปคลุมแปลงผัก ให้ใช้น้ำธรรมดาใส่ถังและเอาหญ้าใส่หมักไว้ประมาณ2อาทิตย์ น้ำที่ใช้หมักก็สามารถนำไปรถผักได้เป็นปุ๋ย และงานก่อสร้างผูกเหล็กขุดดินถมดินปรับแต่งตามแนวคาน  ช่วงเย็นสรุปผลงานแต่ละกลุ่ม และฟังธรรมทานจาก อ.อุบล

ผู้แสดงความคิดเห็น จุมพล บัวโต ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-06 21:15:54


ความคิดเห็นที่ 70 (1643858)

ขออนุโมทาบุญกับทุกธรรมทานและทุกท่านค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับ ท่านอาจารย์เบญจรัตน์ค่ะ

ฉะนั้น เจ้าของจี้ต้องฝึกกำลังใจ

ให้พร้อมที่จะเป็น"ผู้ให้"เสมอ

ซึ่งสิ่งที่ต้องฝึกอย่างหนัก

ก็คือ เรื่องพรหมวิหารสี่

ขอบคุณธรรมทานพี่ชนิดา และคุณอ้อยค่ะ

ทำให้มีสติและคิดได้

ว่าเราจะต้องเร่งฝึกเป็นผู้ให้ให้มาก

ไม่ใช่จะอยากได้อยากมีอยากเป็นแต่เรื่องของตัวเอง

ปกติจะขอเผื่อตัวเองบ่อยมากค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-07 06:21:21


ความคิดเห็นที่ 71 (1643993)

จิ๋ม ชัชวลี ขอออกความเห็นด้วยคนค่ะ

ตามที่คุณชนิดา และ น้องหญิง บอกในกระทู้ว่า คนที่ได้รับจี้สามร่มโพธิ์ศรีไปจะมีหน้าที่ ที่ต้องช่วยคนนั้น จิ๋มเองก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะถ้ายิ่งช่วยคนจี้จะมีอานุภาพมากขึ้น และจากประสบการณ์ที่ห้อยมา ท่านยังช่วยตัวผู้สวมด้วย ตัวอย่างมีแก่จิ๋มดังนี้

นับแต่วันที่ อาจารย์อุบลให้สวมจี้ แล้ว คนพิการอย่างจิ๋มที่ปรกติเดินตัวเอียง ก็กลับมีไหล่ตรงขึ้นอย่างชัดเจน เดินได้ตัวเบาไม่ค่อยเจ็บปวดหลังมากเหมือนก่อน ทำให้เดินคล่องขึ้น 

วันนี้ 8 ธค ไม่ได้เข้าบ้านสวนฯ เพราะต้องไปทำงานที่เยอรมัน 1 อาทิตย์ ลืม แขวนจี้ ไว้ มานึกได้อีกทีว่าทำไมวันนี้ถึงเริ่มปวดหลังและขากว่าทุกวัน ก็เริ่มคลำที่คอ อ้อ ลืม แขวนจี้นั่นเอง รีบไปนำจี้มาแขวนดังเดิม อาการก็เริ่มดีขึ้น

จี้องค์สฟิงซ์ หรือ จี้สามร่มโพธิ์ศรีท่านมีอานุภาพมากจริง ๆ ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เมตตาให้จิ๋มได้ครอบครองจี้ที่มีอานุภาพเช่นนี้ จะพยายามช่วยรักษาคนให้มาก ๆ ยิ่งขึ้น

เมื่ออาทิตย์ก่อนก็ช่วยรักษาแม่บ้านและคนเดินเอกสารไป 4 คนค่ะ แต่จะได้ผลมั๊ยต้องตามดูอาการ เพราะแต่ละโรคหนัก ๆ เข่น ซีส  ไมเกรน และปวดขาเรื้อรัง เป็นต้น จิ๋มจะพยายามต่อไปค่ะ ท่านอาจารย์อุบล ถึงแม้จะไม่ค่อยเก่ง แต่ก็จะทำไปเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่มีโอกาสค่ะ

 

ชัชวลี

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-08 17:46:19


ความคิดเห็นที่ 72 (1644761)

อนุโมทนาบุญกับธรรมทานของทุก ๆ ท่านค่ะ

วันนี้ได้โทรหาคุณสมรักษ์เพื่อถามรายละเอียดเกี่ยวกับการไปร่วมกิจกรรมที่ราชภัฎนครปฐม ในวันศุกร์ที่ ๑๔ นี้ และแจ้งว่าวันที่ไปทำกิจกรรมนั้นได้ออกอากาศแล้ว

คืนนี้ตั้งใจมาเขียนธรรมทานเรื่องการใช้รหัสอาจารย์อุบลค่ะ แล้วก็มาดูว่ามีข่าวคืบหน้าเรื่องกิจกรรมในวันศุกร์นี้อีกหรือไม่

นึกได้ก็เข้าไปดูวีดีโอกิจกรรมของราชภัฎ เชื่อมั๊ยเหมือนปาฎิหาริย์เพราะเคยจะโหลดดูวีดีโอของบ้านสวน แต่ระบบเตือนว่าไม่สามารถโหลดได้  แต่วันนี้เปิดดูได้ทั้งหมดแบบไม่มีสะดุดเพื่อโหลดเลยค่ะ 

เพราะดึกแล้วจึงเข้ามากระทู้นี้แต่ก็เปิดเสียงของวีดีโอฟังด้วยของช่วงคนที่มีปัญหาแผลในทรารค่ะ ขออนุโมทนาบุญกับลูกบ้านสวนทุกท่านที่ได้ช่วยบำบัดตอนท้ายของวีดีโอค่ะ

ดีใจมากเลยค่ะวันศุกร์นี้จะได้กราบอาจารย์อุบลและได้เจอลูกบ้านสวนอีก คงไม่ได้เข้ามาอ่านหรือเขียนธรรมทานอีกเพราะต้องไปตรวจราชการกับคณะตรวจฯที่กาญจนบุรีค่ะ แล้วพบกันนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น จุฑามาส สุขุมวาท ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-10 22:47:14


ความคิดเห็นที่ 73 (1645708)

ช่วงที่ฟังธรรมทาน(30พย55)ของแต่ละคนรู้สึกว่าตัวเองคันตามร่างกาย จึงอยากออกไปพูดบ้างได้บอกต่ออาจารย์ว่าคันตามร่างกายคันคอเคยฆ่ามดฆ่าปลวกฆ่าแมลงต่างๆ โค่นต้นมะม่วง เอาไฟเผามดตายทั้งเป็นจำนวนมาก จับเห็บแช่น้ำมันเคยสารภาพกับจี้และใช้รหัสอ.อุบล ช่วยด้วยอาการดีขึ้นประมาณ80%แต่ขอให้หายทั้งหมดในวันที่1 ธันวาคม หลังสารภาพกับ อ.อุบล อาการก็ดีขึ้นประมาณ90%ขึ้นไป  ซึ่งวันที่1ก็ยังไม่หายหมด อาการคันหายไปเกือบหมดคันตามร่างกายจะเป็นบางช่วงเท่านั้น วันนี้นึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อวันที่ 1 ก็ไม่ได้รายงานผลให้ทราบ และยังไม่เขียนธรรมทานเลย หลังดูรายการของตัวเอง (รายการคุยไปแจกไป16ธค55) ที่หน้าเวปบ้านสวนอีก รู้สึกระอายใจตัวเองอย่างมากที่ไปตั้งเงื่อนไขต่างๆมีอาการอะไรหลังสารภาพกับจี้ หรือใช้ รหัส อ.อุบลช่วยด้วย ให้ตัวเองหายภายในวันนั้นวันที่ตัวเองกำหนด ขอให้อาการการต่างที่คันที่เจ็บปวดเตือนตัวเองก่อนอย่าให้หายทั้งหมดในทีเดียวมันเป็นความโง่เขลาเบาปัญญามากตัวเราเป็นใครสร้างแต่บาปกรรมมากมายยังไปตั้งเงื่อนไขอีก การที่อาการต่างๆ ที่เราจะหายได้ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของเรา  จะไม่ทำอย่างนี้อีกทีหลังสารภาพอย่างเดียว จะหายหรือไม่หาย เป็นความเมตตาของพุทธองค์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ของวัตถุมงคลบ้านสวนพีระมิด ที่อาราธนาผ่านกายวาจา ใจ อ.อุบลมา

ตอนนี้อาการคันตามร่างกายหายทั้งหมดแล้ว ขอขอบพระคุณเทวดาที่รักษา อ.อุบล อ.อุบล และขออุทิศบุญที่ทำไว้ตั้งแต่ชาติแรกถึงปัจจุบันบุญรวมตัวกับบุญที่ไปใช้แรงกายที่บ้านสวนพีระมิด ขออุทิศบุญให้เทวดาที่รักษา อ.อุบล อ.อุบล และเจ้ากรรมนายเวรทั้งหมดทั้งสิ้นด้วยเทอญ

ลูกขอขมา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ และสิ่งศักดิสิทธิ์ทุกพระองค์ อ.อุบล ที่กระทำการไม่เหมาะสมในครั้งนี้ด้วย กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น จุมพล บัวโต ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-16 23:42:27


ความคิดเห็นที่ 74 (1645878)

สาธุค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-18 10:49:04


ความคิดเห็นที่ 75 (1646026)

ถอดคำบรรยายธรรมของอาจารย์อุบล

      ในวันที่ ๓๐ พ.ย.๕๕  เราได้ร่วมไปกับคณะราชภัฎนครปฐม นำ

โดยรศ.เบญจรัตน์ สีทองสุกไปดูงานและทำบุญแรงกายที่บ้านสวน

พีระมิด จังหวัดนครนายก  ช่วงบ่ายในการฟังบรรยายของอาจารย์อุบล

มีการบันทึกวีดีโอ เพื่อออกอากาศรายการคุยไปแจกไป เราได้ขึ้นไป

เล่าธรรมทาน และได้ดูวีดีโอดังกล่าวจากเว็บไชด์บ้านสวนฯ  ช่วงที่

อาจารย์ให้ธรรมะแก่เรา เห็นว่ามีประโยชน์จึงได้ถอดคำสอนธรรมะของอาจารย์อุบลจากวีดีโอและนำมาพิมพ์ดังนี้ค่ะ

 

      เราบอกว่าพอเข้าใกล้อาจารย์และอาจารย์จับมือซ้ายที่เส้นเอ็นตึงนิ้วมือแอ่นกระดก มีอาการมือชา รู้สึกได้ว่านิ้วมืออ่อนนุ่มลงและคลาย

ความปวดและอาการชาลงไป อาจารย์จึงกล่าวสอนธรรมะ ดังนี้

 

      อาจารย์อุบลเป็นคนธรรมดา แต่มีจิตที่ปรารถนาที่จะเห็นคนมี

ความสุข พลังงานแห่งความเมตตาที่พระพุทธองค์ประทานมาให้

จิตของอาจารย์จะรับบารมีของพุทธองค์ได้ และส่งผ่านไปให้ทุกคนที่

นั่งใกล้ ๆ ได้ ก็เป็นความดีของพุทธองค์ไม่ใช่ของอาจารย์หรอก

ฉัพพรรณรังสีที่พระพุทธองค์แผ่มาจริง ๆ ท่านแผ่มาให้ทุกคน แต่

อาจารย์เปิดรับไว้เต็ม ๆ แล้วทุกอย่างที่พุทธองค์ประทาน มอบกาย

ถวายชีวิตเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัย  ฉะนั้นท่านจะประทานมาให้อาจารย์

ได้มากที่สุด แล้วใครที่เข้ามาใกล้จึงได้รับฉัพพรรณรังสี ซึ่งก็ไม่

ใช่ของอาจารย์อยู่ดีเป็นของพุทธองค์ ที่คุณบอกมีความสุขเข้า

มาใกล้อาจารย์ แล้วคุณหายชา หายตึงนะคะ เพราะเป็นฉัพพรรณ

รังสี ก็ถ้าหากมาทำบุญที่นี้แล้วดีขนาดนี้อาจารย์อนุญาตให้

คุณจุฑามาส เข้ามาสร้างบุญแรงกายนี้ได้ในเวลาที่เหมาะที่มีโอกาส เพื่อที่พิสูจน์ว่า เมื่อเราทำบาปมาเยอะ เราก็ต้องมาทำบุญที่มีอานิสงส์เยอะ ๆ ถึงจะไปถ่ายบาปตรงนี้ได้ บาปนี้ยกเลิกไม่ได้

 

ชีวิตของคุณจุฑามาสเหมือนเรือ บาปกรรมที่ทำมาเหมือนตอที่

อยู่ในน้ำ แต่บุญเหมือนน้ำนะคะ  เมื่อไหร่ที่น้ำแห้ง แปลว่าคุณ

ทำความดีน้อย เรือของคุณซึ่งเหมือนชีวิตของคุณ ก็ว่ายไปไหนไม่ได้ ก็ชนตอติดแง็กอยู่อย่างนั้น  ก็คือเจออุปสรรค แต่เมื่อไหร่ที่คุณสร้าง

ความดีเยอะๆ น้ำก็เพิ่มมากขึ้น ตอก็มีเท่าเดิมแต่เรือชีวิตของ

คุณก็จะสามารถแล่นไปได้  ฉะนั้นการที่คุณมาทำบุญที่

บ้านสวนแล้ว คุณหายได้อย่างอัศจรรย์ คุณไม่ได้ถ่ายถอน

ยกเลิกกรรมนั้นไปไหนเลย กรรมคุณอยู่เท่าเดิมทุกประการ

แต่คุณสร้างความดีให้มากยิ่งกว่าจนกระทั่งความดี น้ำของคุณ

สูงจนหนีตอนั้นไปได้

 

ทุกคนที่นั่งในนี้ทำบาปมาทั้งนั้น อาจารย์อุบลหัวหน้าคนบาปเลย

ค่ะ ทำมาเยอะมาก แต่อาจารย์รู้ตัวว่าบาปเยอะ อาจารย์รีบ

สร้างบุญอย่างเดียว อาจารย์ไม่เหลียวหลังที่จะไปทำบาปอะไร

อีกเลย ใครจะมายั่ว ใครจะมาด่าแล้วให้อาจารย์โกรธไม่ได้กิน

หรอกค่ะ คุณค่าไปก็เมื่อยปาก ด่าอาจารย์อุบล อาจารย์ไม่หัน

ไปโกรธคุณเด็ดขาดเลยเพราะว่า แค่โกรธอาจารย์ก็ต้องไปตก

นรกแล้ว คือขาดเมตตาแล้ว ฉะนั้น เห็นคนที่ทำไม่ดี เห็นคนที่

ด่า คนที่โกรธ จะสงสารอย่างเดียวแล้วก็อยากให้หลุดพ้น

 

อย่างเห็นคุณจุฑามาสก็มีความรู้สึกว่าอาจารย์รู้ว่า (อาจารย์

จับมือซ้ายของเรา) เนี่ย เริ่มนิ่มเลย พออาจารย์จับนิ้วที่ชี้ ๆ อยู่

อ่อนลงไป รู้ว่าถ้าคุณสร้างบุญเต็มพิกัดทุกอย่างของคุณกลับ

มาเป็นปกติได้ อยู่ที่ใจคุณจะศรัทธาและเชื่อว่ามันจะเป็นอย่างงั้น

ได้จริงหรือเปล่า  (ค่ะอาจารย์) เชื่ออาจารย์มั๊ย (เชื่อค่ะ) 

ถ้าเชื่อก็เร่งสร้างบุญ..........

 

กราบอาจารย์อุบลที่เมตตาให้ธรรมะที่มีคุณค่ามาก ๆ ลูกจะเร่ง

สร้างบุญให้มากเพื่อที่จะนำเรือชีวิตให้พ้นตอบาปกรรมที่ได้ทำไว้

ค่ะ

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น จุฑามาส สุขุมวาท ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-12-19 16:49:30



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.