ขออนุโมทนาและขอบคุณ

อาจารย์เบญรัตน์ สีทองสุกที่จัดงานมหากุศลครั้งนี้

นอกจากจะช่วยเผยแพร่

พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์

เรื่องกฎแห่งกรรมที่เห็นผลแบบฉับพลันทันทีแล้ว

ยังอาจช่วยให้คนรอดชีวิตจากภัยพิบัติเพิ่มมากขึ้นด้วย

ููููููููููููู

กราบขอบพระคุณในเมตตาของท่านอาจารย์อุบล

ที่เมตตามนุษย์ไม่มีขีดจำกัด

ในงานนี้

ท่านอาจารย์ยังได้เสนอทางรอด

ให้แก่มนุษย์เพิ่มขึ้น

โดยการทำลูกอม อภิญญา

และน้ำจากพีระมิดบ้านสวนซึ่งใช้เวลาทำเพียงแค่ไม่กี่นาที

หนูขอกราบแทบเท้าท่านอาจารย์

ที่กรุณาอย่างหาที่สุดไม่ได้

ด้วยการหาวิธีช่วยคนแบบใหม่เรื่อย ๆ

และใช้เวลาน้อยลง

สาธุ สาธุ สาธุค่ะ

สรุปคนที่เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้

เป็นอาจารย์ 30 อาจารย์เกษียณและอาจารย์พิเศษ 11

บุคลากรสนับสนุน 43

ลูกบ้านสวน 44

ประชาชน 33

นักศึกษารอบเช้า 189 รอบบ่าย 210

รวม 559 คนค่ะ
 

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่เข้าร่วมกิจกรรม  และธรมทานทุกท่านคะ  สาธุ  สาูธุ  สาธุ

ได้แจกแบบสอบถาม มีผู้ตอบ 203 คน

ตอนท้ายแบบสอบถาม ถามว่า หากมีการจัดกิจกรรมเช่นนี้อีก

ท่านจะเข้าร่วมหรือไม่

มีผู้ต้องการให้จัดกิจกรรมแบบนี้อีกและต้องการเข้าร่วม 168 คน

ต้องการให้จัด แต่ไม่ต้องการเข้าร่วม 4 คน

ไม่ต้องการให้จัดและไม่ต้องการเข้าร่วม 17 คน

ไม่แสดงความคิดเห็น 14 คน

คุณวิภาดา สุวรรณชัย

กรุณาคลิกอีเมลออกด้วยค่ะ

ตอนท้ายแบบสอบถาม ถามว่า หากมีการจัดกิจกรรมเช่นนี้อีก ท่านจะเข้าร่วมหรือไม่

มีผู้ต้องการให้จัดกิจกรรมแบบนี้อีกและต้องการเข้าร่วม 168 คน

ต้องการให้จัด แต่ไม่ต้องการเข้าร่วม 4 คน

ไม่ต้องการให้จัดและไม่ต้องการเข้าร่วม 17 คน

ไม่แสดงความคิดเห็น 14 คน

ด้านประโยชน์ที่ได้รับ จะนำไปประยุกต์ใช้ในระดับใด เรื่อง การใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ระดับ 1=4  2=4  3=35  4=65  5=94

แสดงว่ามีคนเชื่อมั่น รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยระดับมาก เป็นจำนวนมากค่ะ

ถามว่าท่านจะนำความรู้ที่ได้รับไปเผยแพร่ต่อไป

1=3  2=2  3=34  4=93  5=69

1=น้อยที่สุด 2=น้อย 3=ปานกลาง 4=มาก 5=มากที่สุด

งานบรรยายที่ม.ราชภัฎนครปฐมครั้งนี้ ดูคึกคักเป็นพิเศษครับ เท่าที่ผมนับจำนวนคนที่เข้าร่วมฟังบรรยายธรรม คร่าวๆน่าจะประมาณ 500 คนครับ อาคารสถานที่และบรรยายกาศ เตรียมพร้อมอย่างดีเยี่ยมครับ เวทีใหญ่อลังการ โต๊ะเก้าอี้ ที่เตรียมสำหรับท่านอาจารย์ อย่างหรูอลังการครับ

 อนุโมทนากับอ.เบญจรัตน์ด้วยค่ะ

ใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ

แม้กระทั่งผลตอบรับจากนักศึกษา

รู้สึกว่างานนี้คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจกันมากมายเลยทีเดียว

สมกับเป็นธรรมะยุคพระศรีอาริย์จริงๆค่ะ

เพราะคนส่วนใหญ่เริ่มหันมาให้ความสนใจกับธรรมะแล้ว

อนุโมทนากับพี่สิงห์ป้อมด้วยค่ะ

แต่ละคนที่ได้มีโอกาสหายจากอาการต่างๆ

ด้วยน้ำพีระมิดคงจะตะลึงและอึ้งมากๆ

เพราะขนาดเรารู้สรรพคุณอยู่แล้วยังอดอึ้งอีกไม่ได้เลย

นึกถึงตอนเด็กๆจังที่ดูละครจักรๆวงศ์ ๆ

มีน้ำศักดิ์สิทธิ์ ไม่คิดว่ามันจะมีจริงๆในยุคนี้

เพียงแค่ทาก็หาย ไหนจะจี้

ที่แค่มองก็หาย รหัสสวรรค์

และอื่นๆอีกมากมาย

ดูแล้วช่างเหมือนละครตอนเด็กๆไม่มีผิด

พวกเรานับว่าโชคดีสุดๆ

อยากได้อะไรเราก็ได้ด้วยบารมีท่านอาจารย์

หามาให้เรา เตรียมพร้อมไว้ให้แล้วหมดทุกอย่าง

อีกหน่อยไม่แน่หญิงคิดว่าเราคงจะหายตัวได้ เหาะเหินเดินอากาศได้

เหมือนสมัยพุทธกาลแน่ๆ อิอิ

ลูกบ้านสวนโชคดีที่สุดที่มีผู้นำอย่างท่านอาจารย์

กราบ กราบ กราบ

 กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลฯและครอบครัว

ที่เมตตาชี้แนะ.....หาแต่สิ่งที่ดีๆมาให้......ทำให้พวกเรามีความมั่นใจ....

มีจิตใจที่เข้มแข็งขึ้นมาก....จะขอทำความดีให้มากยิ่งๆขึ้นและ

ฟันฝ่าอุปสรรค์ทั้งหลายให้หมดไป....กราบ   กราบ   กราบ

************

ขออนุโมทนาบุญกับ......อ.เบญจรัตน์ ในการจัดงานธรรมะบำบัดสัญจร

ได้ยอดเยี่ยมจริงๆและขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่เขียนธรรมทาน

อ่านแล้วเหมือนกับได้ไปร่วมงานด้วยเลย... ตลอดจนทุกท่านที่ร่วม

ช่วยกันบำบัดให้ผู้คนหายจากอาการเจ็บป่วย  

ได้ความรู้เพิ่ม  รหัส  อ.อุบลฯช่วยด้วย  ขอใ้ห้หายจาก........

.(อาการที่เป็น)100%ณ. บัดนี้ด้วยเถิด......สาธุ

**********************

 ขอขอบคุณท่าน อ.อุบล

อ.เบญจรัตน์และคณะผู้จัดงานทุกท่าน

และโมทนาบุญกับธรรมทานของท่านทั้งหลาย

ที่ทำให้บรรดาชาวเกาะทั้งหลาย 

ได้เกาะบุญในครั้งนี้้  

และได้ความรู้ที่จะรับมือกับภัยพิบัติ

แต่ต่อให้มีความรู้มากเพียงใด 

ถ้าเป็นคนไม่ดีก็ไม่รอด

ดังนั้น ทุกคนต้องเป็นคนดีทั้งภายในและภายนอก

รักษาศีล 5 เป็นปกติ

อ.อุบลช่วยด้วย

ขอให้คนที่ไม่ดี กลับตัวกลับใจเป็นคนดีด้วยเิถิด 

สาธุ สาธุ สาธุ

 ได้มีโอกาสไปร่วมกิจกรรมครั้งนี้

ท่านอาจารย์ได้เมตตาเล่าเรื่องดร.อาจอง ให้ฟังว่า

ตอนเด็กท่านดร.เกเร

จนวันหนึ่งมีเสียงมาพูดว่า

อาจอง อาจอง อาจอง ทำไมทำอย่างนี้

เป็นภาษาอังกฤษ

ขณะกำลังจะนอน ท่านก็นึกว่าหูฝาด

วันที่สองก็มีอีก ก็ไม่ได้สนใจตามเคย

พอวันที่ 3 ก็มีเสียงมาอีก คราวนี้มีเป็นแสงมาประกอบด้วย

สว่างไปทั้งโถงห้องนอน ทั้งๆ ที่ดับไฟหมด

ท่านจึงไปปรึกษาบาทหลวง เพราะขณะนั้นเรียนมัธยมที่ต่างประเทศ

บาทหลวงก็จะให้เปลี่ยนศาสนามาศึกษาหลักคำสอน

ท่านนึกขึ้นได้ว่าเราเป็นพุทธ ก็ต้องเรียนหลักธรรมทางพุทธศาสนาสิ

ก็บอกไม่ยอม พูดไปพูดมา

บาทหลวงไล่ท่านออกไป บอกว่าไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีกนะ

ท่านจึงไปปรึกษาผู้อำนวยการ

เลยให้ท่านไปศึกษาจากหนังสือในห้องสมุดแทน

ท่านได้อ่านเรื่องการทำสมาธิแสงสว่าง (ซึ่งก็คืออาโลกสิน นั่นเอง)

ท่านก็ฝึก

จากนั้น จากที่เรียนไม่ได้เรื่อง กลายเป็นสอบได้ที่ 1 ทุกวิชา

และสอบเข้า cambridge ได้ มหาวิทยาลัยอันดับ 1 เลย

สุดยอดมาก

พอเรียนได้ ปีครึ่งทางคณะให้ปริญญาตรีและโทเลย

เพราะไม่มีอะไรสอนแล้ว สุดยอดจริงๆ

( แต่ยังมีพวก หลง ตัวเองว่าเป็น ดร. สอนอยู่จุฬา ชั้นแน่ ชั้นเก่ง

มาเขียน มาพูดในห้องเรียน discredit ท่านอยู่เนืองๆ

แต่ไม่บอกเด็กไปว่าใช้เวลากี่ปีที่จะได้ ปริญญาตรี ปริญญาโท มา)

จากนั้นท่าน ดร. อาจอง ก็เข้าเรียน ปริญญาเอก

แต่ท่านมุ่งไปสร้างชมรมทางจิต ทางมนุษย์ต่างดาว

ภายหลังอาจารย์ที่ปรึกษาจึงเรียกไปพบ

ให้ดำเนินเรื่องยื่นสอบหัวข้อวิจัยได้แล้ว

ไม่กี่วันท่านก็ส่งเล่มเสร็จให้อาจารย์

อาจารย์บอกไม่ได้ ต้องเป็นขั้นตอน

ท่านอาจองจึงทำเรื่อง แล้วก็ทำการ present  เลย

ตอน present เหล่าอาจารย์ได้แต่นั่งฟัง ไม่มี comment

เพราะ

ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องใหม่

และ ไม่มีข้อโต้แย้งได้เลยจ้าาาา

และท่านเขียนในงานของท่านว่า

ความรู้นี้ได้จากการหยั่งรู้

เพราะฝรั่งบอกเองให้เขียนความจริง

นี่ คื อ ค ว า ม จ ริ ง

และได้เข้าทำงานกะองค์การนาซ่า

แต่เนื่องจากเป็นชาวต่างชาติ จึงต้องทำงานผ่านบริษัทตัวแทน

เพราะกฏหมายเค้าไม่ให้ต่างชาติทำในองค์กร

พอเข้าไปนานเกือบปีหรือ 2 ปีจำไม่ได้

ท่านก็ยังคิดที่เค้ามอบหมายไม่ได้

ท่านจึงนึกถึงวิถีทางเก่าที่เคยใช้

คือ   ส ม า ธิ   นั่นเอง

ท่านขึ้นเขาไปนั่งสมาธิ

ไม่กี่วัน ท่านลงมาพร้อมวิธีทำ

จึงเสนอทีมงาน และสุดท้าย มันก็ work จริงๆ

สุดยอดมากๆ ค่ะ

จากนั้นกี่ปีจำไม่ได้ ท่านก็ขอกลับเมืองไทย

มาสร้างประโยชน์ให้บ้านเกิดเมืองนอนดีกว่า

ทางนู้นเสนอค่าตอบแทนสูงมากจนถึงขนาด

เดือนหนึ่งซื้อรถยุโรปที่แพงที่สุดได้ 20 คัน

เดือนนะคะ ไม่ใช่ปี

( ในใจอยากถามท่านด๊อก และ ท่านนักวิชาเกินทั้งหลาย ว่า

ชาตินี้ จะซื้อได้สักคันไหมล่ะคะ )  

แต่ท่านยืนยันเจตนารมย์เดิม

ทางนั้นจึงส่งผู้ติดตามมาคุม

ไม่ให้แพร่งพรายความลับอันมีค่าของเค้า

แต่ท่าน ดร. อาจอง ท่านรักษาสัจจะ ไม่เคยบอกใคร

แม้รัสเซียขอพบขอซื้อตัว ก็ปฏิเสธ

และผู้มาคุมก็ยังมาติวให้ด้วย ว่าควรปฏิเสธคนเช่นไร

จนกระทั่ง นาซ่าเองไว้ใจ เลิกส่งคนมาคุมจนถึงปัจจุบัน

( ดังนั้นที่ท่านชี้ิแนะแนวทางอะไร

ค น ค ว ร ฟั ง

เพราะท่านพูดตรงๆ ไม่ได้

ท่านช่างมีเมตตาจริงๆ

ยิ่งรู้ประวัติ ยิ่งซาบซึ้ง

อยากจะให้ทุกคนรู้ จะได้เลิกทำบาป ว่าร้ายท่านสักที

นอกจากนี้ ทำไมคนไม่คิดว่า

เพราะอะไรนักวิทย์ที่เคยทำงานให้นาซ่า

ต้องออกมาเตือนภัยหรือเข้าร่วมเตือนภัยพิบัติด้วย

ท่านเหล่านั้นได้เสียอะไรเล่า น่าจะมีแต่เสีย

เพราะพวก...คุณก็รู้ว่าใคร

แต่พวกที่ออกมาแย้งล้วนเป็นนักวิทย์รุ่นเด็ก

เรียนที่เค้าให้เรียน

ใครจะเอาความรู้ที่เสมืิอนเป็นอาวุธมาให้ชาติอื่นๆ ได้เรียนกันหนอ)

จากนั้นท่านอาจารย์ได้นำเสนอวิธีต่างๆ ที่จะบำบัด

แล้วให้คนขึ้นมาลอง

เริ่มที่ ท่านยกมือแล้วพูดว่า หายนะลูก หาย

มีป้าจากชะอำ 1คน, น้าผู้หญิงจากไหนสักแห่ง 1 คน, ดร.ใกล้รุ่ง สอนคอมฯ 1 คน และ น้องนักศึกษา 1 คน

- ป้าบอกศรัทธา 100 % แต่หายแค่ประมาณ 80% อาจารย์บอกว่าน่าจะเป็น อนันตริยกรรมทำให้ไม่หาย 100%

- น้าผู้หญิงบอกศรัทธา 50-50 จะขอลอง ปวดอะไรสักอย่าง หายเกือบ 90%

- ส่วน ดร.ใกล้รุ่ง เธอบอกมาลอง แต่เธอเป็น ช๊อคโกแล็ตซี๊ด ผ่านตัดมา 2 ครั้ง จะผ่าครั้งที่ 3 วันที่ 18/12/55 แต่ไม่อยากผ่า

- น้องนักศึกษาบอกศรัทธา 100 % หายเจ็บคอ 100% ที่จริงตั้งใจจะไปหาหมอตอนเย็น เพราะไปหาหมอฉีดยามาแล้วไม่ดีขึ้น พออาจารย์ทำให้หายคงไม่ต้องไปเสียตังให้หมอแล้ว  :) และมีน้องนักศึกษานั่งอยู่ข้างล่างหายเจ็บคอเหมือนกันเพราะโมทนาสาธุกับปรากฏการณ์ที่เกิดกับเพื่อน

สาธุ

จากนั้นก็เป็นการใช้รหัส

....อาจารย์อุบล ช่วยด้วย....

ซึ่งทำให้เห็นว่าเมื่อเจ้ากรรมนายเวรไม่ปล่อยใครก็ช่วยไม่ได้

เพราะอาจารย์ให้ยายคนนึง เพิ่มคำว่า

" หาย 100% บัดนี้ "

ยายก็ไม่พูดสักที

พูด 3-4 ครั้ง ไม่ลืม "100%" ก็ลืม "บัดนี้" แทน

ซึ่งอันนี้เป็น เคล็ดลับ อย่าลืมนำไปใช้กันนะคะ

และมีลุงคนนึงปวดขามานาน

พอได้มานั่งใกล้อาจารย์หาเลยค่าาา ยังไม่ได้ใช้รหัสเลยยยย

สาธุ

จากนั้นก็เป็นการใช้จี้รุ่นต่างๆ ช่วยคน

โดยอาจารย์ให้คุณธนาเป็นคนจัดการช่วย

ตามวิธีของจี้แต่ละรุ่น

 มีอาจารย์ที่เกษียณอายุไปแล้วท่านนึง (ป้าจุ๋ม)

ท่านเป็นอัมพฤกที่ใบหน้าครึ่งซีก

ป้าจุ๋มเล่าว่าเคยไปรักษาที่ร่างทรงอะไรสักอย่าง

บอกว่าจะมีคนมาช่วย ท่านนั้นมีมงกุฏเป็นรูปงู

( ตกใจเลย คิดว่าต้องเป็นอาจารย์แน่ๆ เลย

เพราะจะคิดว่าป้าจุ๋มหลงไหลไอยคุปต์ก็ไม่น่าจะใช่

เพราะป้าก็จบจากอินเดีย ดูชอบอะไร อินเดียมากกว่านะ )

จากนั้นป้าจุ๋มก็เล่าว่าเคยเป็นงูสวัสดิ์

แล้วพระนางเนเฟอร์ตารี มาช่วย มาสอนแทน

บังคับร่าง ดูดความรู้ ออกมาเขียนสอนนักเรียน

จนนักเรียนถามว่าอาจารย์อยู่ได้ยังไงไม่พูด

ป้าจุ๋มรู้สึกว่าพระนางเคยเป็นแม่มาก่อน

ป้าจุ๋มจึงเรียนท่านว่าหม่ามี๊

แล้วป้าจุ๋มบอกว่าท่านเหมือนอาจารย์อุบลเลย

โดยเฉพาะตา

แต่ผมยาวกว่า และสูงกว่า

ท่านอาจารย์ให้สารภาพกับจี้เพื่อบำบัด

แต่ป้าจุ๋มยังนึกไม่ออก ตอบว่า ไม่ โดยส่วนใหญ่

ท่านอาจารย์จึงให้จับพีระมิด

ตอนพีระมิดถึงมือป้าจุ๋มๆ อุทานว่า แม่ ออกมาไม่รู้ตัว

แล้วทุกคนก็สังเกตุได้ว่าใบหน้่าขอป้าจุ๋มดีขึ้นมาก

ป้าจุ๋มเองก็รู้สึกดีขึ้น 80%

และมาบอกคุณแม่ว่าตอนที่ขึ้นไปบนเวที

รู้สึกตัวบ้างไม่รู้สึกตัวบ้าง

และภายหลังมาขอคำแนะนำจากคุณแม่ว่าจะไปบ้านสวนยังไง

คุณแม่ก็บอกกติกาไป

และให้มาดู vdo รายการ คุยไปแจกไป ที่ห้องสมุดก็ได้

ถ้าหาดูเองไม่ได้

แต่คุณแม่เองก็เก็งว่ากรรมใด

น่าจะทำให้ป้าจุ๋มประสบอย่างนี้จากการที่คุ้นเคยกันมานาน

และคงบอกป้าจุ๋มไปแล้ว คงต้องรอดูต่อไป

....อาจารย์อุบลช่วยด้วย....

....ขอให้ป้าจุ๋มหายเป็นปกติ 100% โดยไว ด้วยเถิด....

พอดีเห็นคุณธนาใช้รหัสขอให้คนอื่นหายได้

เลยลองมั้ง คนอื่นอย่าลืม เคล็ดไม่ลับ นี้นะคะ

ขออนุโมทนาที่ ดร.เบญจรัตน์ สีทองสุก เป็นแม่งาน จัดให้มีการบำบัดสัญจรของอาจารย์อุบลที่มหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐม แถมมีข้อมูลละเอียดเกี่ยวกับผู้เข้าร่วมงาน

และทุกท่านที่มาเล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้ได้รับทราบกันทั่วหน้า

โดยเฉพาะเคล็ดที่ ให้พูดว่า ขออาจารย์อุบลช่วยด้วย ขอให้หาย จากโรคxxxx 100%

ขอบคุณคะ

ลูกกราบขออนุโมทนา

กับอ.แม่อุบลด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

เกดขออนุโมทนากับพี่น้องที่ได้ร่วมช่วยงาน

ครั้งนี้ และ ได้ร่วมงานครั้งนี้ทุกท่านด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

และขออนุโมทนากับพี่ป้อมและพี่น้องทุกท่าน

ที่ได้แบ่งปันธรรมทานในเรื่องงาน

ครั้งนี้ด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

หนูขออนุญาตินำข้อความของความคิดเห็นที่ 98  ไปก๊อป***เพื่อแจกเป็นธรรมทานควบคู่กับรหัสอาจารย์อุบลได้ไหมค่ะ  เป็นวิธีที่ง่ายและเข้าใจง่ายที่จะบำบัดอย่างดี และวิธีรอดพ้นจากภัยพิบัติอย่างดีค่ะ  ขออนุญาติท่านอาจารย์อุบล พร้อมทั้งเจ้าของความคิดเห็นด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

 หนูขออนุญาตินำข้อความของ

คุณสุระณี สิริมานุวัฒน์ ที่อยู่ในความคิดเห็นที่ 98  ไปก๊อป***เพื่อถ่ายเอกสารแจกคู่กับรหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย เพราะเป็นวิธีที่ใช้อย่าง

และคำแนะนำที่ได้ผล ทำอย่างไรจึงได้ผล วิธีเอาตัวรอดเมื่อเกิดภัยพิบัติ  หนูขออนุญาติ สิ่งศักดิ์สิทธิ์เทพเทวดาทุกพระองค์ที่บ้่านสวนพีระมิด และท่านอาจารย์อุบลด้วยค่ะ

 การขอความช่วยเหลือหรือเจ็บป่วย

โมทนากับธรรมทาน

ของ

คุณอัญมณี ด้วยค่ะ

นับวันจะเขียนได้น่าติดตามมากๆๆๆ

ขอเป็นอีก 1 กำลังใจนะคะ

 สาธุค่ะ

ขออนุโมทนากับทุกๆธรรมทานด้วยนะคะ

สาธุค่ะ

เรียนคุณขวัญตา ค่ะ

              จากความเห็นที่ 98 ดิฉันได้นำคำสอนท่านอาจารย์ และรวมธรรมทานในระดับหนึ่งเท่านั้น เป็นผลงานคุณความดีของลูกบ้านสวนผู้มีจิตอาสา และนักปฎิบัติ  โดยเฉพาะ รศ.เบญรัตน์ สีทองสุก และน้องอัญมณี  ธรรมทานจากคุณมยุรฉัตร  คุณวัชรินทร์(ป้าอุ๊)   คุณฉวีวรรณ คุณสิงห์เงิน  คุณหนึ่งที่ส่งรูปรวดเร็วอีกต่างหาก  คุณธนา คุณแมว          คุณสิงห์ป้อม  คุณธรรมสถิตย์  ที่ดิฉันคัดลอกข้อความมารวมไว้ในระดับหนึ่งเท่านั้น  ยังไม่สมบูรณ์ครบถ้วน  เชิญร่วมพิจารณา    และยังมีเคล็ดไม่ลับจากน้องอัญมณีอีก ค่ะ

               คุณความดีทั้งหลาย ขอพึ่งพระบารมี ยกบุญนี้ให้เทวดาที่คุ้มครอง          ท่าน อ.อุบล  ท่าน อ.ม.คล คุณท้อป คุณเวปมาสเตอร์ ผู้เขียนธรรมทาน พี่น้องบ้านสวนพีระมิดทุกท่าน รวมทั้งผู้อ่านด้วยน่ะค่ะ  ขอบพระคุณค่ะ

  ขอขอบคุณท่าน อ.อุบล

อ.เบญจรัตน์และคณะผู้จัดงานทุกท่าน

และโมทนาบุญกับธรรมทานของทุกท่าน

ที่ทำให้บรรดาชาวเกาะทั้งหลาย ได้เกาะบุญในครั้งนี้้

********************

อยากให้บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต จัดแบบนี้บ้างจัง

จะพยายามให้ถึงที่สุดอยากให้ผู้มีอำนาจมีดวงตาเห็นธรรม

เพราะบุคคลากรทีมีอยู่ทั่่วประเทศจะได้ศึกษาธรรมะแบบฉบับ

บ้านสวนบ้าง

ขออำนาจบุญบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลจักรวาลและ

สิ่งศักดิ์สิทธิื์แห่งบ้านสวนพีระมิดทุก ๆ พระองค์จงดลบันดาล

ให้ผู้มีอำนาจของบริษัทฯ เห็นแสงสว่างนำพาองค์กรเดินเข้า

ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์นี้ทุก ๆคนด้วยเถิดเจ้าค่ะ สาธุ 

ไม่ว่าไปที่

ม.ราชภัฏนครปฐม

หรือ

ที่ไหน ไหน

ก็เจอแต่คนมีความทุกข์

มีปัญหา

ตั้งแต่

ชาวบ้าน ชาวนา

ถึง ดร.

ล้วนแต่มีทุกข์

เจ็บป่วย

ทรมาน มีปัญหาสารพัดด้าน

พระพุทธเจ้า

ท่านจึงหาทางดับทุกข์

โดยการ

ไม่ต้องเกิดอีกต่อไป

กราบอนุโมทนาค่ะอาจารย์

เป็นอย่างที่ท่านอาจารย์เขียนจริงๆค่ะ

เพราะที่ไหนๆ ก็มีแต่ คนมีทุกข์ ทั้งนั้น

บ้างก็ทุกข์กาย บ้างก็ทุกข์ใจ

บางคนก็ทุกข์อย่างแสนสาหัสทั้งกายทั้งใจ

คิดแล้วก็น่าเบื่อหน่ายนะคะ

แต่คนเรา เมื่อไม่เห็นทุกข์

ก็ไม่เห็น"ธรรม"

เหมือนคนที่ยังไม่ป่วย

ก็ไม่เคยคิดจะรักษา

ดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดีๆ

พอป่วยขึ้นมา

ถึงได้คิดหาทางรักษา ดูแลตัวเอง

รวมไปถึง ศึกษาเพิ่มเติมอย่างละเอียด

ถึงการป้องกันตัวเอง เพื่อไม่ให้ป่วย อีกด้วย

ถึงแม้จะเป็นการ วัวหายล้อมคอก

แต่ก็ถือว่าเป็นจุด"หักเห"

ของชีวิต ที่ดี ทีเดียว

แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด

ทุกคนควรจะปฏิบัติตามแนวทาง

การพ้นทุกข์ถาวร 

อย่างที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบมาแล้ว

ให้ได้ดีกว่า...สาธุ

.............................................

อนุโมทนาในทุกๆธรรมทาน

จากทุกๆท่านด้วยนะคะ

วันที่อาจารย์บำบัดคนที่คันมือด้วยน้ำพลังพีระมิด ก็เห็นนะ แต่พอถึงเวลาตัวเองคันกลับลืมสนิท

เมื่อเย็นวันศุกร์ ขณะรดน้ำต้นไม้ เกิดอาการคันที่ต้นขาชิดกับขาหนีบทั้งสองข้าง ก็เกาไปรดน้ำไป พอรดน้ำเสร็จมานั่งดูโทรทัศน์ ก็เกิดอาการคันอีก คันมาก ยิ่งเกายิ่งคัน จึงคว้าน้ำมันหม่องมาทา ก็ไม่หายคัน นึกได้ลุกไปเทน้ำพีระมิดในคูเร่อร์ ที่ได้ทำน้ำพีระมิดตั้งพีระมิดรุ่นบวงสรวงพระศรีอาริย์ไว้ประจำ เอามาทาขาหนีบทั้งสองข้างที่คัน ปรากฏว่า หายคันทันทีเลยค่ะ ก่อนทาก็อธิษฐานจิตว่าขอให้น้ำพลัง

พีระมิดเป็นน้ำพุทธมนต์ที่ศักดิ์สิทธิ์ขอให้ลูกหายคันด้วยค่ะ (ประมาณนี้ค่ะ)

ช่วงนี้ได้ขอบารมีสมเด็จองค์ปฐมฯ พระศรีอาริย์และเสด็จพ่อท้าวเวส

สุวรรบ่อยมาก กลัวว่าจะลืมกล่าวขอบคุณและลืมเบิกบุญถวายท่านรวมทั้งเทวดาที่รักษาอาจารย์อุบลและอาจารย์อุบล (แต่ก็พยายามที่จะกล่าวฯเมื่อได้ผลสำเร็จตามที่ขอ)  จึงใช้วิธีกล่าวขอบคุณและถวายบุญหลังจากที่สวดมนต์และทำสมาธิก่อนนอน ค่ะ

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลค่ะ

ทีได้เมตตาสอนทางสว่างแก่ชีวิต

ทุกคนเกิดมามีปัญหาทุกคนค่ะ

คนจนคนรวยก็ทุกข์ บางคนก็ทุกข์กาย

บางคนก็ทุกข์ใจ บางคนก็ไม่มีเงินก็ทุกข์ (หนูเป็นต้นค่ะ)

ทางเดียวที่ไม่ทุกข์ คือการไม่เกิดอีก

สาธุ สาธุ ค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับ ฝ่ายจุฑามาส ด้วยนะคะ

ที่หายได้ด้วยพลังน้ำพีระมิดพระศรีอาริย์

 ควันหลงจากงานค่ะ

วันนี้มีอาจารย์ท่านหนึ่ง ชื่อ อาจารย์แมว มาค้นงานในห้องสมุด เป็นอาจารย์ที่เกษียณอายุไปแล้ว แต่ยังมาเป็นอาจารย์พิเศษอยู่ พอเจอเจ้าหน้าที่ก็ถามว่าได้ไปฟังอาจารย์อุบลพูดหรือเปล่า เจ้าหน้าที่บอกว่าไปซิค่ะ ห้องสมุดเป็นคนจัดนี่ค่ะ แล้วเล่าเรื่อง อาจารย์จุ๋ม ที่เป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีกที่หน้าให้ฟัง

อาจารย์แมวเลยเดินเข้ามาหา พูดไปพูดมาปรากฏว่า พี่เขามีอาการไหล่ติด  (เคยให้เอกสารที่แจกวันที่มีกิจกรรม และธรรมทานชีวิตลูกบ้านสวนไปอ่านแล้ว เพราะเคยเจอพี่เขาแล้วพี่เขาบอกว่าเสียดายไม่ได้เข้าฟังอาจารย์อุบลเพราะติดสอน แต่มีลูกศิษย์ที่พักที่หอพักของพี่เขาให้ยืมซีดี ที่ลูกบ้านสวนนำไปแจกวันงาน ดู บอกว่าจะเอาไปให้พ่อดูแต่ให้อาจารย์ยืมดูก่อน)

เลยบอกให้พี่เขาใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยให้หายเจ็บด้วย  พี่เขามายืนไหว้อธิษฐานที่หน้ารูปอาจารย์ ไหว้แล้วพี่เขานั่งลง เลยถามพี่เขาว่าใช้แขนไปตีใครมา พี่เขาบอกว่าตีสามี ตีสัตว์ ฯลฯ เลยให้เขาขอขมาเจ้ากรรมนายเวร และให้เบิกบุญทานศีลภาวนา อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร  และขอบคุณและถวายบุญให้เทวดารักษาอาจารย์อุบลและอาจารย์อุบล

แล้วถามพี่เขาว่าเป็นไงบ้าง พี่เขาทำหน้าประหลาดใจมาก บอกว่าหาย 80 %

เลยเอาน้ำอภิญญาที่ทำจากบารมีพระที่อาจารย์อุบลสื่อมาเมื่อคืนวันที่ 8 ทางเฟสบุ๊ค ให้เขาทา เขาเอาไปลูบหน้าลูบตา ลูบไหล่ แล้วบอกว่า หาย100% ค่ะ แล้วเขาก้งง ๆ ว่าหายได้ไง

แล้วพี่เขาก็พูดว่าเขาหูตึง จะเอาน้ำอภิญญาไปหยอดหู แล้วก็พูดถึงจี้  เลยนึกได้ว่าวันนี้ลืมเอาจี้ออกนอกเสื้อ เลยควักจี้ออกมา ให้พี่เขาดู บอกว่าจี้นี้มีบารมีสามร่มโพธิศรี ให้อาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า พระศรีอาริย์ และในหลวง ได้โปรดสงเคราะห์ให้หายด้วยเถิด แล้วถามเขาว่าเคยไปฟังอะไรไม่ดีมาใช่ไหม เช่นคนนินทาพระ นินทาในหลวง ราชวงค์ ให้พี่เขาขอขมาและอุทิศบุญ พี่เขาไม่สามารถเช็คอาการได้เพราะหูที่ว่าตึงนั้นจะไม่ได้ยินเวลาพูดโทรศัพท์ในที่ชุมชนจอแจค่ะ เช่นตอนรอรถเมล พี่เขาขอน้ำอภิญญาไปด้วยค่ะ