ReadyPlanet.com


เชิญร่วมงานพิธีเปิดสาขาบ้านสวนพีระมิด สาขา 15 อ.เมือง จ.นครปฐม :วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2556


user image

ชิญร่วมงานพิธีเปิดสาขาบ้านสวนพีระมิด สาขา 15 อ.เมือง จ.นครปฐม

วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2556 :
เวลา : 13.00-16.00 น.
หัวหน้าสาขา : ผศ.อภิชัย ภิรมย์รักษ์และคุณอาจินต์ ภิรมย์รักษ์
สถานที่ :
บ้านเลขที่ 58/3 หมู่ 2 บ้านดอนกลาง
ต.มาบแค อ.เมือง จ.นครปฐม

สอบถามเส้นทางเพื่อร่วมงาน :
อ.อภิชัย 081-8107408

รายละเอียด :
- ชมบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่านพ่อดตาจินิน พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ และทุกๆพระองค์ทั่วทั้งอนันตจักรวาลที่จะเสด็จมาโดยการอาราธนาของท่าน อาจารย์อุบล ท่านจะได้สัมผัสกับพระบารมีอันประมาณมิได้ และพิสูจน์ได้เป็นวิทยาศาสตร์ด้วยอาการเจ็บป่วยที่จะดีขึ้นหรือหายฉับพลัน ทันที ไม่ได้บอกให้เชื่อแต่เชิญพิสูจน์ด้วยตนเองก่อนค่อยเชื่อจึงได้ชื่อว่าเป็น ผู้มีปัญญา
-แสดงกฏแห่งกรรมผ่านธรรมะบำบัดเห็นผลทันที สำหรับท่านที่เจ็บป่วย มีปัญหาการงาน การเงิน ทุกข์ต่างๆ ท่านจะได้รู้เหตุและดับที่เหตุและผลที่เกิดขึ้น เช่น อาการเจ็บป่วยที่หายหรือดีขึ้นฉับพลันทันทีจะเป็นตัวแสดงความจริงให้ท่าน พิสูจน์ด้วยตนเอง
-การทำน้ำทิพย์ พิสูจน์ผลได้ทันที
-การล้างมนต์ดำ คุณไสย์ สิ่งไม่ดีที่อยู่ในแต่ละคนทั้งที่รู้ตัวหรือไม่รู้ตัว ทำให้ชีวิตตนเองตกต่ำทุกด้าน มีปัญหาเจ็บป่วย เช่น เจ็บปวดทั่วร่างกาย เจ็บหรือปวดกระดูก บางท่านมีอาการคล้ายโดนเข็มแทง อาการเจ็บปวดเคลื่อนย้ายที่ได้ เป็นต้น ซึ่งการล้างมนต์ดำ คุณไสย์ให้หายขาดนี้ต้องอาศัยบารมีของพระนางเนเฟอร์ตารีและท่านรามเสส ที่2เท่านั้น อย่าเพิ่งเชื่อ เชิญพิสูจน์ด้วยตัวท่านเองก่อน เหมือนชาวราชบุรี เพชรบุรี ปราณบุรี ที่ได้พิสูจน์ด้วยตนเองมาแล้ว ว่าสิ่งเหล่านี้อยู่รอบตัวเราเต็มไปหมด จริงหรือไม่
-เรียนรู้วิธีการใช้ธรรมะบำบัดเพื่อช่วยตนเอง ผู้อื่น ใช้ทั้งในชีวิตประจำวันและยามฉุกเฉิน เช่น เวลาเกิดภัยพิบัติ เป็นต้น
-สำหรับท่านที่ต้องการบูชาวัตถุมงคลของบ้านสวนพีระมิดทุกรุ่นก็สามารถบูชาได้ที่งานนี้

- สิ่งที่ต้องเตรียมเพื่อเข้าร่วมงานได้แก่
1. น้ำ 3 ขวด/คน (ห้ามนำมาเกิน)
2. ลูกอม 1 ถุง/คน (ห้ามนำมาเกิน
)

ขอให้ทุกท่านมีความสุข พ้นทุกข์ทั้งปวง สาธุ



ผู้ตั้งกระทู้ ตุลย์ นราธิป กิมไพบูลย์ กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2013-06-02 11:16:16


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1660233)

ขอบพระคุณค่ะ น้องตุลย์

ขอร่วมยินดีกับครอบครัว

ผศ.อภิชัย และคุณแหล่นค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณหมวย พรรณสรลี ชูตระกูล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-06-03 21:12:30


ความคิดเห็นที่ 2 (1660276)

ขอแสดงความยินดีกับหัวหน้าสาขาบ้านสวนพีระมิดสาขาที่15 น้องแหล๋น และผศ.อภิชัย น้องวิน น้องณภัท  น้องบัว

ขอบคุณนะค่ะน้องตุลย์ที่แจ้งข่าวค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-06-04 15:28:22


ความคิดเห็นที่ 3 (1660665)

 ขอร่วมแสดงความยินดีกับ

บ้านสวนพีระมิดสาขา 15 จ.นครปฐม

 อ.อภิชัย+คุณแหลนและหลานทุกคนด้วยน๊ะค๊ะ

21 มิถุนายน 2556..ไปร่วมงานด้วยแน่นอนจ๊ะ........

*******************

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กันต์สินี อัครวิชนนท์(นี/พันธ์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-06-11 16:04:20


ความคิดเห็นที่ 4 (1660762)

ขออนุโมทนาบุญ อาจารย์ชาย และคุณแหลนด้วยค่ะ

อยากไปมาก แต่ไปถูกแค่ ทับแก้ว ม.ศิลปากร เพราะจิ๋มเรียนจบคณะวิทย์ เคมี ที่นั่น แต่ไปบ้าน อ.ชายไม่ถูก เขียนแผนที่หน่อยมั๊ย

จะได้ให้คนที่ไม่คุ้นเคยไปกันเยอะๆ เลยนะจ๊ะ

ชัชวลี

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัชวลี กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-06-13 13:10:20


ความคิดเห็นที่ 5 (1660792)

ยินดีด้วยนะคะ

คุณแหลน + อ.อภิชัย

ในที่สุด ความฝันของคุณทั้งสอง

ก็เป็นจริง


เราจะเดินไปด้วยกันนะคะ

อ.ขอเป็นกำลังใจให้คุณทั้งสอง

ได้สร้างบุญที่ยิ่งใหญ่

ได้สำเร็จ


นำพาผู้คนให้พ้นทุกข์ มีความสุข

แล้วบุญจะสนองคุณเองค่ะ


เมื่อเราทำให้ผู้อื่นสุข เราก็จะสุข

ถ้าเราทำให้ผู้อื่นทุกข์ เราก็จะทุกข์ค่ะ


แต่คุณเลือกที่จะทำให้ผู้อื่นสุข

ขอความสุขนั้น

จงย้อนมาสนองคุณและครอบครัวค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-06-14 07:49:13


ความคิดเห็นที่ 6 (1660933)

ยินดีและอนุโมทนาบุญกับคุณแหลน+อ.อภิชัย+ครอบครัวที่สร้างบุญยิ่งใหญ่นำพาผู้คนพ้นทุกข์มีความสุข สาธุ สาธุ สาธุ.....

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-06-17 14:20:19


ความคิดเห็นที่ 7 (1660943)

ขอแสดงความยินดีและอนุโมทนาบุญกับ อ.อภิชัย+พี่แหล๋น ด้วยนะครับ เผลอแปปเดียวบ้านสวนพีระมิดแตกกิ่งก้านสาขาถึง15สาขาแล้วนะครับ ดีใจกับคนนครปฐมและจังหวัดใกล้เคียง ที่จะมีศูนย์กระจายความสุขและปลดเปลื้องความทุกข์อยู่ใกล้ๆครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชวนินทร์ กฤตธกร (ก็อต) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-06-17 16:47:13


ความคิดเห็นที่ 8 (1660981)
image

แผนที่การไปบ้านสวนพีระมิด สาขา15 ครับ

สามารถโทรสอบถามเส้นทางที่ อ.อภิชัย 081-8107408

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุลย์ นราธิป กิมไพบูลย์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-06-18 08:49:03


ความคิดเห็นที่ 9 (1663375)

 

ความเห็นที่8969(1663252)
แจ้งลบความคิดเห็น

ธรรมทาน บ้านสวนพีระมิด สาขา ๑๕

ผศ. อภิชัย - อาจินต์ ภิรมย์รักษ์

        บ้านสวนพีระมิด สาขา ๑๕  ตั้งอยู่ บ้านเลขที่ ๕๘/๓ หมู่ที่ ๒ บ้านดอนกลาง ต. มาบแค อ.เมือง จ. นครปฐม  อยู่ห่างจากตัวเมืองนครปฐมไปตามเส้นทาง ๑๓๐๖นครปฐม-ดอนตูม  ประมาณ ๑๒ กิโลเมตร   เปิดเมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยผมและครอบครัว ภิรมย์รักษ์  ได้รับความเมตตากรุณาจากท่านอาจารย์อุบล      ศุภาเดชาภรณ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์  อนุญาตและรับรองให้เปิดเป็นบ้านสวนพีระมิดสาขาที่ ๑๕  พวกเรารู้สึกปลาบปลื้มยินดีมากที่ได้รับความเมตตาจากอาจารย์ โดยเฉพาะแหล๋นภรรยาผมแทบจะสำลักความสุขที่ได้รับจนพูดอะไรแทบไม่ออก 

        ผมใช้สตูดิโอที่ทำงานมาเป็นสาขาก็จัดเตรียมพื้นที่กันจ้าละหวั่น  วิ่งไปยืมข้าวของโต๊ะเก้าอี้  เครื่องเสียง ลังน้ำแข็ง  แจกบัตรเชิญ  จัดพิมพ์ธรรมทานของครอบครัวสำหรับแจกในวันงาน  เตรียมของกินเครื่องดื่ม คุณแม่ทำขนมจีนน้ำยาเห็ดมา  ดร.จุ๋ม-จิ๋ม นำลาบเจมาแจมด้วยขอบคุณครับ  พวกเราตื่นเต้นรอวันที่อาจารย์อุบลจะมา  อาจารย์มาถึงตอนเที่ยง บ้านคุณแหล๋นนี่ไกลจังเลยนะ แต่ก็...พออาจารย์เดินมาที่บ้านผ่านห้องแรกมาถึงห้องโถง ก็เห็นผลงานประติมากรรมเป็นรูปมือขนาดใหญ่สีทอง  อาจารย์ก็รีบโพสท่าถ่ายรูปโดยฉับพลัน  คุณแมวมาถ่ายรูปกันเร็ว  หายเหนื่อยทันที  มีผู้คนเดินทางมาเข้าร่วมประมาณ ๕๐ คนเห็นจะได้  ลูกบ้านสวนมากันหลายสิบคน  ป้าปุ๊มาจากราชบุรีแล้วมาต่อรถเมล์เครื่อง (มอเตอร์ไซต์รับจ้าง)จึงจะถึง  ส่วนใหญ่มาจากนครปฐม ราชบุรี นนทบุรี สระแก้วอาจารย์พันธ์ไกลสุด มีชาวบ้านแถบนั้นก็หลายคน  ทราบภายหลังว่าชาวบ้านใกล้ๆไม่กล้าเข้าเห็นรถเยอะก็เลยเขินๆ  คราวหน้าคิดว่าต้องประชาสัมพันธ์ใหม่  ในวันนั้นทุกคนที่มาให้อาจารย์อุบลบำบัดหาย ๑๐๐ %

ผมและครอบครัวต้องขอขอบคุณท่านอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ คุณแมว คุณธนา  น้องตุลย์ คุณจิตร ดร.จุ๋ม ดร.จิ๋ม คุณตุ้ย ลูกบ้านสวนฯทุกๆท่านด้วยนะครับที่มาช่วยเตรียมงาน จัดสถานที่ ขายวัตถุมงคล เตรียมเครื่องดื่มและอาหาร ทำให้กิจกรรมในวันเปิดสาขาสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี   ดีใจจนหายเหนื่อยเลยครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-24 14:51:34
ผู้แสดงความคิดเห็น กฤตยวรรณ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-26 14:48:36


ความคิดเห็นที่ 10 (1663376)

 

ความเห็นที่ 8970 (1663253)
แจ้งลบความคิดเห็น

 หลังจากเปิดสาขาในตอนเช้าก็มีแขกรายแรกมาเยี่ยมตอนเช้าเลยครับ  ต่อไปเป็นบันทึกการบำบัดหลังจากเปิดบ้านสวนพีระมิด สาขาที่ ๑๕

 ๑.  มรดกกรรม-จากพ่อสู่ลูก ( ๒๒ มิ.ย. ๕๖ )

คุณจรัลเดชหรือคุณม่อนเป็นสถาปนิกที่ดูแลการก่อสร้างบ้านสวนพีระมิด สาขา ๑๕  คุณม่อนมาวันเปิดสาขาแต่ไม่ได้อยู่ตลอดงานต้องรีบไปรับลูก  พอตอนเช้าวันเสาร์คุณม่อนมาพร้อมภรรยาและลูกชายและลูกสาว  น้องใบหม่อนกับน้องใบฝ้าย  นำลูกชายมาบำบัดสาเหตุเกิดจากหูด้านซ้ายได้ยินไม่ชัด  ได้ยินประมาณว่าเหมือนอยู่ในบ้านที่ปิดหมดแล้วมีคนเรียกอยู่นอกบ้าน      คุณม่อนคิดว่าการที่ลูกเกิดมาแล้วเป็นอย่างนี้   สาเหตุอาจจะเกิดจากกรรมของตนเองในสมัยเรียนปวช.  ไปมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคู่อริแล้วตีเค้าจนหูพิการ   จึงเป็นสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจตลอดเวลา  

น้องใบหม่อนอายุ.......ผมให้มองจี้  ให้ใช้รหัส “อาจารย์อุบลช่วยด้วย”  แล้วทดสอบด้วยการอุดหูด้านขวาแล้วลองเรียกดูเค้าก็ได้ยิน  แต่ยังไม่ชัดไม่สามารถคิดเป็นเปอร์เซนต์ได้  ลองอยู่หลายครั้งก็ดีขึ้นทีละน้อย  ผมเลยลองให้คุณม่อนขอขมาต่อเจ้ากรรมนายเวรคู่อริที่เคยทำร้ายเค้า  ถ้าเหตุเกิดจากที่ไปตีเค้าจนหูพิการแล้วกรรมนั้นตกมาถึงลูก  เมื่ออุทิศบุญและขอขมากรรมแล้วหูของน้องใบหม่อนจะต้องดีขึ้นหรือหาย ๑๐๐ เปอร์เซนต์     เมื่อเสร็จแล้วลองเช็คการได้ยินของน้องใบหม่อนปรากฏว่าได้ยินชัดขึ้นมาก  แม้พูดเพียงเบาๆน้องใบหม่อนก็ได้ยิน   ทั้งพ่อและแม่ดีใจมากที่ลูกมีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

คุณม่อนและครอบครัวกลับมาอีกครั้งเพื่อจะมาเช่าวัตถุมงคลของบ้านสวนพีระมิด  และมาบอกว่าในขณะที่อยู่บนรถน้องใบหม่อนบอกว่าได้ยินเสียงชัดขึ้นมาก  คุณม่อนเสริมว่าคุณยายดีใจจนน้ำตาไหลที่หลานอาการดีขึ้น ยินดีกับน้องใบหม่อนด้วยนะครับ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-24 14:52:52
ผู้แสดงความคิดเห็น กฤตยวรรณ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-26 14:49:08


ความคิดเห็นที่ 11 (1663377)

 

ความเห็นที่ 8971 (1663254)
แจ้งลบความคิดเห็น

 ๒.  ชีวิตนี้มีแต่หวยจึงไม่รวยสักที  ( ๒๓ มิ.ย. ๕๖ )

        คุณปรียาวรรณหรือคุณภา เธอเปลี่ยนชื่อไปหลายชื่อแล้วชีวิตก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น  คุณภาเป็นอีกคนหนึ่งที่มาบำบัดวันเปิดสาขาและเป็นคนที่พออาจารย์อุบลบำบัดเสร็จแกก็เดินหันหลังแน๊บไปเลย  จนอาจารย์ต้องเตือนเรื่องการขอบคุณ   คุณภา พอกลับถึงบ้านนึกขึ้นมาได้ว่าตนเองได้ทำกรรมอะไรอีกตั้งแยะเยอะที่ยังไม่ได้สารภาพ   จึงให้เพื่อนโทรมาขอนัดว่าจะเข้ามาขอสารภาพกับผมอีก   คุณภามาพร้อมกับอาการมือซ้ายชา และเจ็บส้นเท้า    พอมาถึงก็สาธยายถึงสิ่งที่ตนเองทำมาซะยาวสงสัยแกกลัวจะลืม  หรือไม่ก็กลัวจะไม่ได้สารภาพ   ผมเลยบอกว่าให้จดเอาไว้ก็ได้ว่ามีเรื่องอะไรบ้าง  จากนั้นผมลองให้ใชศีลเป็นตัวจับว่าทำผิดศีลข้อไหนบ้าง  พอเริ่มจากศีลข้อ ๑ ก็บอกว่าสั่งให้เค้าฆ่าไก่และหมูร้อยถึงสองร้อยตัวต่อปีเพื่อไหว้เจ้า  สั่งฆ่าเค้านี่ผิดยิ่งกว่าฆ่าเองเสียอีกนะครับคุณภา   ศีลข้อที่ ๒ ยืมเงินเพื่อนแล้วไม่ยอมจ่ายจนกลับไปบ้านเกิดไม่ได้  รู้เห็นเป็นใจกับเพื่อนในการยืมเงินวัดจากเจ้าอาวาสไปหลายแสนแล้วไม่ยอมจ่ายคืนจนท่านมรณภาพ  ไถเงินลูกเอาไปเล่นหวยหมด  ข้อ ๓ เป็นแม่ยกลิเก ถึงกับขนาดขายแผงผลไม้เหมาให้เพื่อนแล้วไปดูลิเก  มีเงินเท่าไหร่เอาไปให้พระเอกลิเกหมด  กลับมาเงินค่าแผงก็ไม่ได้คืน  ข้อ ๔ ด้วยความที่เป็นแม่ค้าพูดโกหกตลอดจนขาดความเชื่อถือ  ข้อ ๕ ไม่ดื่มของมึนเมาแต่ชอบซื้อเหล้าให้คนอื่น  วีรกรรมของคุณภาแกยังมีอีกเยอะจำมาไม่หมด  ผมลองให้ขออโหสิกรรมแก่เจ้ากรรมนายเวรที่เป็นไก่ หมู และสัตว์ต่างๆที่เคยทำลายชีวิตเค้า  เมื่อขอขมาเสร็จอาการมือชาก็ดีขึ้นจนเกือบหาย 

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-24 14:54:11
ผู้แสดงความคิดเห็น กฤตยวรรณ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-26 14:49:34


ความคิดเห็นที่ 12 (1663378)

 

ความเห็นที่ 8972 (1663255)
แจ้งลบความคิดเห็น

 ๓.  กรรมตีงู ( ๒๓ มิ.ย. ๕๖ )

คุณสุภาพ อดีตผู้จัดการธนาคารลาออกมาแล้วเป็นเพื่อนที่มาด้วยกันกับคุณปรียาวรรณ  เคยให้คุณปรียาวรรณยืมเงินแล้วยังไม่ได้คืนแต่ยังคบกันอยู่   เพื่อนคนอื่นๆเค้าเลิกคบคุณภาหมดแล้ว   คุณสุภาพมัวแต่สาธยายวีรกรรมของคุณปรียาวรรณจนลืมอาการปวดหลัง หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทของตัวเองเพราะมาพร้อมกับแผ่นดามหลังพันเอวมา   ผมถามว่าเคยทำร้ายงูหรือตีงูบ้างมั๊ยเค้าบอกว่าเคยตีงูตายหลายตัว  ผมเลยให้ขออโหสิกรรมและอุทิศบุญให้กับงูที่เคยฆ่า   เมื่อเสร็จลองให้เช็คอาการดูโดยการเอาแผ่นป้องกันหลังออกอาการปวดหลังก็หายหมดทันที  สาธุ

 

๔. บำบัดทางโทรศัพท์ ( ๒๔ มิ.ย. ๕๖ )

        จู่ๆป้าแจ๊วคนข้างบ้านเดิมที่ติวานนท์ นนทบุรีก็โทรศัพท์มาหาผม  บอกได้เบอร์โทรมาจากคุณรุ่งแม่น้องปลาทู  อยากจะมาหาอาจารย์อุบลที่บ้านสวนพีระมิดให้ช่วยบำบัด  บอกว่ารู้เรื่องบ้านสวนพีระมิดมาจากแม่น้องปลาทู  ผมเลยถามว่าเป็นอะไร ป้าแจ๊วบอกว่าปวดขา ปวดเข่า เดินแทบไม่ได้   แล้วเชื่อหรือว่าอาจารย์จะช่วยได้  แกบอกว่าเชื่อ  ผมบอกว่าบ้านสวนพีระมิดอยู่ที่นครนายกคงเข้าไปเลยไม่ได้หรอก   ผมก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นให้ผมลองบำบัดให้ทางโทรศัพท์เอามั๊ย  แกถามว่าทำได้ด้วยเหรอ ผมไม่แน่ใจเหมือนกันเพราะยังไม่เคยลองแต่มีความเชื่อมั่นว่าทำได้  เพราะอาจารย์และลูกบ้านสวนฯหลายคนเคยทำมาแล้ว  ผมให้ป้าแจ๊วจ้วพูดตามโดยการขออาราธนาพระบารมีสิ่งศักดิ์บ้านสวนพีระมิด  แล้วให้ใช้รหัส “อาจารย์อุบลช่วยด้วย ขอให้หายปวดเข่า ปวดขา”  พูดจบแกบอกว่าโล่งขึ้น ผมถามโล่งขึ้นกี่แกบอกสัก ๖๐ % จากนั้นผมสอบถามว่าเคยใช้เท้าทำอะไรที่ไม่ดีไม่ถูกต้องบ้าง  ผมถามนำนิดหน่อย แกบอกว่าใช้เท้าทำโน่นนี่ เปิดปิดพัดลม  เขี่ยข้าวของที่พื้น เหยียบเหรียญ ที่เหรียญมีอะไรรู้มั๊ย  ที่เหรียญมีรูปพระเจ้าอยู่หัวอยู่เราเหยียบเหรียญก็เหมือนเหยียบพระองค์ท่าน  ท่านเป็นพระมหากษัตริย์มีบุญบารมีสูงเหมือนพระโพธิสัตว์ ฉะนั้นเราอาจจะเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยก็แค่เหรียญแต่ไม่ใช่แค่นั้นนะเข้าใจมั๊ย  เข้าใจจะ   แล้วอย่างอื่นหละใช้เท้าทำอะไรอีก  ใช้เท้าแหย่สามีช่างนิกร ตกลงแหย่หรือยันหรือแตะ ยันกันเล่นๆ  งั้นลองขอขมาสามีซิว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง  พอพูดขอขมาจบแกบอกว่าโล่งหายปวด เหลืออาการอีกนิดหน่อย  งั้นก็เหลือไว้เตือนสติก็แล้วกันนะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-24 14:55:34
ผู้แสดงความคิดเห็น กฤตยวรรณ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-26 14:49:59


ความคิดเห็นที่ 13 (1663379)

 

ความเห็นที่ 8976 (1663259)
แจ้งลบความคิดเห็น

 ๙. ตีเด็กจนมือชา( ๑๐ ก.ค. ๕๖ )

คุณชญาณ์นันท์ ชุ่มบุญชู   เป็นครูสอนเด็กอนุบาล อายุ ๕๖ ปี  โทรนัดกับผมว่าจะเข้าไปที่สาขาตอนเย็น  ผมเดินทางไปกรุงเทพกว่าจะกลับก็ตอนเย็น   ถึงบ้านฝนตก  คุณชญาณ์นันท์นั่งคอยผมที่สาขา ๑๕ ท่ามกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก     คุณครูมีอาการปวดแขนและชาตามมือ เจ็บนิ้วมือ ปวดหัวไหล่และปวดท้องน้อย  คุณครูดูเวบไซต์บ้านสวนดูรายการครบแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสไป  ผมจึงให้สารภาพว่าเคยทำผิดศีลอะไรมาบ้าง  เคยฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อย ฉีดยาฆ่ามด ยุง ฆ่าปลา สัตว์ใหญ่ไม่เคย  ตีเด็กนักเรียนด้วยความหงุดหงิด มีเด็กๆที่ต้องดูแลในห้องประมาณ ๓๐ คน  ปั่นป่วนวุ่นวายพอสมควร  และในนี้ก็จะมีตัวป่วนตัวแสบอยู่สองคนที่ถูกครูชญาณ์นันท์ตีบ่อยๆ  แต่ก็คงใช้มือตีเด็กมาหลายรุ่นแล้วกรรมจึงรวมตัวทำให้มือชา ปวดแขน ปวดไหล่  ใช้มือขโมยเงินพ่อแม่และสามี  ใช้เท้าแทนมือ เหยียบเหรียญจึงทำให้ปวดขา ทะเลาะกับสามีลงไม้ลงมือกันบ่อยครั้งจนเลิกลากันไปแล้วหนึ่งครั้ง สามีมีเมียน้อย  ปัจจุบันกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง  รู้เห็นการทำแท้งหนึ่งครั้งโดยไปกับเพื่อน ลูกสาวและลูกสะใภ้เคยไปทำแท้งมาสามคน ตนเองจึงได้รับผลกรรมเป็นมะเร็งที่ปากมดลูก พูดโกหกหลอกสามีว่าทำงานอยู่ในขณะที่ตนเองนั่งเล่นไพ่ เล่นหวยจนติดเป็นนิสัย  ขาดสภาพคล่องทางการเงิน เก็บเงินไม่อยู่  รายได้ลดลง  เมื่อทะเลาะกับสามีเสร็จก็ไปดื่มเบียร์แก้กลัดกลุ้มใจ   เมื่อสารภาพไปเยอะแยะลงเลยถามอาการที่เป็นอยู่ว่าเป็นอย่างไรบ้าง  ปรากฏว่าอาการที่มือ แขน ไหล่ เท้าดีขึ้น ๘๐ถึง๙๐ % เลยทีเดียว  เหลือแต่อาการปวดท้องน้อย ผมจึงให้อุทิศบุญและขอขมากรรมต่อวิญญาณเด็กและหลานที่ทำแท้ง อาการปวดท้องน้อยหาย ๙๐ เหมือนกัน  และเมื่อให้มองรูปอาจารย์อุบลแล้วใช้รหัส อาจารย์อุบลช่วยด้วยก็ดีขึ้นอีก ๕ เมื่อนั่งคุยกันไปสักพักอาการปวดมือก็กลับมาอีก  ผมจึงให้ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดทุกๆพระองค์  อาการปวดจึงจะหาย

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-24 15:00:41
ผู้แสดงความคิดเห็น กฤตยวรรณ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-26 14:50:23


ความคิดเห็นที่ 14 (1663380)

 

ความเห็นที่ 8974 (1663257)
แจ้งลบความคิดเห็น

 ๖.  ปวดคอเพราะหั่นหัวปลา ( ๓๐ มิ.ย. ๕๖ )

        ก่อนจะลากลับกันไปผมถามลูกสาวคุณยายว่ามีอาการไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวตรงไหนบ้างเค้าบอกว่าปวดเมื่อยที่คอ  ผมถามว่าไปทำอะไรมาเค้าบอกว่าฉันก็หั่นหัวปลามาเยอะเหมือนกัน  ก็เลยให้ขอขมากรรมต่อปลาที่เป็นเจ้ากรรมนายเวร  พอพูดจบอาการปวดคอก็ดีขึ้นเหมือนกันแต่ยังไม่หายสนิท  เนื่องจากต้องแยกย้ายกันไปทำงานจึงต้องยุติการบำบัดไว้ก่อน

 

๗.  ฟันงูปางตายแต่ตัวเองไม่วายปวดหลัง ( ๒ ก.ค. ๕๖ )

สุวิชชาเป็นลูกศิษย์ผมเองไม่ได้เจอกันหลายเดือนผมเอาธรรมทานไปแจกแล้วก็พูดคุยสาระทุกข์สุกดิบ  ผมเล่าเรื่องเปิดบ้านให้เป็นสาขาบ้านสวนพีระมิดที่ ๑๕  และเล่าเรื่องกิจกรรมต่างๆ และวิธีบำบัดของอาจารย์อุบลให้เค้าฟังแต่ดูอาการสีหน้าแล้วอาจจะไม่เชื่อว่าทำได้จริงๆเหรอหายแบบฉับพลันทันที   ผมเลยถามว่ามีอาการเจ็บปวดตามร่างกายตรงไหนบ้าง  เค้าบอกว่าปวดหลังและปวดข้อมือเพราะไปทำงานและยกของหนักมา ผมเลยให้พิสูจน์ด้วยตัวเองโดยครั้งแรกให้มองจี้ท่าน       พ่อดตาจินิน แล้วลองเช็คอาการดูเค้าเป็นงงมาก  เพราะอาการปวดหลังหายไป ๖๐ %   ผมให้ดูรูปอาจารย์อุบลในหนังสือธรรมทาน พร้อมกับให้พูดรหัส “อาจารย์อุบลช่วยด้วย”  อาการปวดหายอีก ๒๐ %  ผมถามว่าปวดหลังเคยตีงูมาบ้างมั๊ย  เค้าคิดอยู่พักหนึ่งแล้วบอกว่าลืมไปแล้วว่าเคยฟันงูตัวหนึ่งแต่ไม่ตาย  เลยให้ขออโหสิกรรมแล้วอุทิศบุญให้กับงูพอพูดจบอาการปวดหายหมดทันที  เค้างงมากแทบไม่เชื่อตัวเองว่าหายได้อย่างไร แค่ดูจี้   ดูรูปอาจารย์อุบล หรือแค่สารภาพสิ่งที่เคยทำและที่สำคัญอาการปวดข้อมือก็หายด้วย  ผมบอกว่านี่คือกฏแห่งกรรม  ทุกอย่างเกิดแต่เหตุ ผลที่เราได้รับก็ไม่แตกต่างกัน  เค้าบอกว่าไม่อยากจะเชื่อว่าสมัยนี้จะมีอย่างนี้ด้วย  ผมบอกว่าไม่ใช่ไม่มีแต่เราไม่เคยรู้และไม่เคยสัมผัสกับพลังสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างหาก  เราเลยไม่เชื่อว่าอนุศาสนีปาฏิหารย์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีจริงไม่ใช่เรื่องหลอกลวง  ผมบอกว่าหลังจากนี้ก็ให้ทำอุทศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรบ่อยๆก็แล้วกัน  แล้วอย่าลืมใช้รหัสด้วยใช้ได้ผลแล้วก็อย่าลืมบอกต่อให้คนอื่นด้วยจะได้อนิสงค์ผลบุญเพิ่มขึ้น

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-24 14:58:30
ผู้แสดงความคิดเห็น กฤตยวรรณ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-26 14:50:45


ความคิดเห็นที่ 15 (1663381)

 

ความเห็นที่ 8975 (1663258)
แจ้งลบความคิดเห็น

 ๘. โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากบุรีรัมย์ ( ๘ ก.ค. ๕๖ )

ตอนผมขับรถกลับจากบ้านสวนพีระมิดในตอนเย็นของวันอาทิตย์เวลาประมาณ ๖ โมงเย็นก็ได้รับโทรศัพท์จากผู้ชายคนหนึ่ง เสียงยานๆเนินๆสำเนียงแบบอีสาน   ผมถามว่าคุณโทรมาจากไหน เค้าบอกว่าโทรมาจากบุรีรัมย์ครับ  ดูรายการในตอนเย็นแล้วจดเบอร์โทรศัพท์ของผมไว้และพยายามโทรเข้ามา  พอผมเปิดโทรศัพท์ปั๊บเค้าก็โทรเข้ามาพอดี  บอกว่าต้องการความช่วยเหลือช่วยบำบัดให้หน่อย ผมถามว่าเป็นอะไร  เค้าบอกด้วยเสียงเนิบๆว่าประสบอุบัติเหตุขับรถชนกับรถหกล้อ  ร่างกายซีกขวาใช้การไม่ได้ ยกแขนขาไม่ค่อยขึ้น ตอนนี้อยู่ตัวคนเดียวเมียและลูกเพิ่งจะหนีไป  อาจารย์ช่วยผมด้วยครับ ( เสียงฟังไม่ค่อยชัด )   เคยฆ่ากบ ฆ่าเขียด ซ้อมเมีย ผิดศีลทุกข้อ แต่สงสัยจะบอกไม่หมด  บางทีก็ฟังไม่ถนัดครับ และกำลังขับรถอยู่ไม่สะดวก  ผมจึงให้ขอขมาเจ้ากรรมนายเวร  และขอขมาเมียและลูก เมื่อเสร็จแล้วแขนขายกได้สะดวกขึ้น หลังจากลองใช้รหัส อาจารย์อุบลช่วยด้วย อาการปวดลดลง รวมแล้วเค้าบอกว่าดีขึ้น ๙๐ โอ้ได้เยอะจัง สาธุครับ  ผมเลยบอกว่าเราอยู่กันไกล ให้ใช้รหัสควบคู่กับการสารภาพบาป  และขอขมาเจ้ากรรมนายเวรให้มากๆ  แนะนำไปแบบนี้ครับไม่แน่ใจว่าการบำบัดทางโทรศัพท์จะถูกต้องมั๊ย 

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-24 14:59:23
ผู้แสดงความคิดเห็น กฤตยวรรณ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-26 14:51:08


ความคิดเห็นที่ 16 (1663382)

 

ความเห็นที่ 8976 (1663259)
แจ้งลบความคิดเห็น

 ๙. ตีเด็กจนมือชา( ๑๐ ก.ค. ๕๖ )

คุณชญาณ์นันท์ ชุ่มบุญชู   เป็นครูสอนเด็กอนุบาล อายุ ๕๖ ปี  โทรนัดกับผมว่าจะเข้าไปที่สาขาตอนเย็น  ผมเดินทางไปกรุงเทพกว่าจะกลับก็ตอนเย็น   ถึงบ้านฝนตก  คุณชญาณ์นันท์นั่งคอยผมที่สาขา ๑๕ ท่ามกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก     คุณครูมีอาการปวดแขนและชาตามมือ เจ็บนิ้วมือ ปวดหัวไหล่และปวดท้องน้อย  คุณครูดูเวบไซต์บ้านสวนดูรายการครบแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสไป  ผมจึงให้สารภาพว่าเคยทำผิดศีลอะไรมาบ้าง  เคยฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อย ฉีดยาฆ่ามด ยุง ฆ่าปลา สัตว์ใหญ่ไม่เคย  ตีเด็กนักเรียนด้วยความหงุดหงิด มีเด็กๆที่ต้องดูแลในห้องประมาณ ๓๐ คน  ปั่นป่วนวุ่นวายพอสมควร  และในนี้ก็จะมีตัวป่วนตัวแสบอยู่สองคนที่ถูกครูชญาณ์นันท์ตีบ่อยๆ  แต่ก็คงใช้มือตีเด็กมาหลายรุ่นแล้วกรรมจึงรวมตัวทำให้มือชา ปวดแขน ปวดไหล่  ใช้มือขโมยเงินพ่อแม่และสามี  ใช้เท้าแทนมือ เหยียบเหรียญจึงทำให้ปวดขา ทะเลาะกับสามีลงไม้ลงมือกันบ่อยครั้งจนเลิกลากันไปแล้วหนึ่งครั้ง สามีมีเมียน้อย  ปัจจุบันกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง  รู้เห็นการทำแท้งหนึ่งครั้งโดยไปกับเพื่อน ลูกสาวและลูกสะใภ้เคยไปทำแท้งมาสามคน ตนเองจึงได้รับผลกรรมเป็นมะเร็งที่ปากมดลูก พูดโกหกหลอกสามีว่าทำงานอยู่ในขณะที่ตนเองนั่งเล่นไพ่ เล่นหวยจนติดเป็นนิสัย  ขาดสภาพคล่องทางการเงิน เก็บเงินไม่อยู่  รายได้ลดลง  เมื่อทะเลาะกับสามีเสร็จก็ไปดื่มเบียร์แก้กลัดกลุ้มใจ   เมื่อสารภาพไปเยอะแยะลงเลยถามอาการที่เป็นอยู่ว่าเป็นอย่างไรบ้าง  ปรากฏว่าอาการที่มือ แขน ไหล่ เท้าดีขึ้น ๘๐ถึง๙๐ % เลยทีเดียว  เหลือแต่อาการปวดท้องน้อย ผมจึงให้อุทิศบุญและขอขมากรรมต่อวิญญาณเด็กและหลานที่ทำแท้ง อาการปวดท้องน้อยหาย ๙๐ เหมือนกัน  และเมื่อให้มองรูปอาจารย์อุบลแล้วใช้รหัส อาจารย์อุบลช่วยด้วยก็ดีขึ้นอีก ๕ เมื่อนั่งคุยกันไปสักพักอาการปวดมือก็กลับมาอีก  ผมจึงให้ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิดทุกๆพระองค์  อาการปวดจึงจะหาย

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-24 15:00:41
ผู้แสดงความคิดเห็น กฤตยวรรณ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-26 14:51:40


ความคิดเห็นที่ 17 (1663396)

 ๑๐. กระเฌอก้นรั่ว ( ๑๑ ก.ค. ๕๖ )

        ได้รับโทรศัพท์มาขอความช่วยเหลืออีกแล้วครับ ยังไม่รู้จะทำอย่างไรดี          มีผู้หญิงคนหนึ่งได้เบอร์โทรศัพท์ผมจากเพื่อน บอกว่าให้ลองโทรมาขอความช่วยเหลือดู  ไม่รู้จักบ้านสวนพีระมิด ไม่รู้จักอาจารย์อุบล คงเป็นขอนไม้อันสุดท้ายที่ต้องเกาะแล้วครับ  ผมจึงถามว่ามีปัญหาอะไรบ้าง เรื่องการเงินและมีหนี้สินมาก  หาเงินได้มายังไม่ได้ใช้หนี้เลยเงินหมดแล้ว  ขาดสภาพคล่องทางการเงิน เป็นอย่างนี้ตลอดหนี้ที่มีอยู่ก็มากขึ้นทุกที เหมือนกระเฌอก้นรั่วเติมเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม  แต่ผมว่าอย่างนี้เข้าขั้นถังแตกแล้วครับไม่ใช่รั่ว ถามไปถามมาคิดว่าเรื่องการเงินก็มีโกงเงิน ไม่ซื่อสัตย์ ขโมยทรัพย์สินผู้อื่น เอาของวัดติดหนี้สงฆ์ ซื้อหวย เป็นโรคเบาหวาน คลอเลสเตอร์รอลสูง  อาการทางกายมีมือชาคงใช้มือทำสิ่งไม่ดีมา  ส่วนเท้าชาเคยชี้เท้าไปทางหิ้งพระบ่อยๆโดยไม่ระวัง  ผมบอกว่ายังไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับบ้านสวนฯเลย  แต่ถ้าอยากพิสูจน์ดูว่ารหัสจะช่วยได้มั๊ย  เลยให้ลองพูดรหัสจักรวาล พอพูดเสร็จอาการชาที่มือและขาดีขึ้น ๕๐ ทันที  ผมถามว่าเคยมีแบบนี้มั๊ยสารภาพบาปไม่กี่นาทีแล้วใช้รหัสจักรวาลขอให้หายแล้วหายทันทีแบบฉับพลัน  จากนั้นให้ขอขมาต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพราะมีหลายเรื่องที่ผิด ขอขมาต่อเจ้ากรรมนายเวรและอุทิศบุญให้เค้าด้วยชีวิตจะดีขึ้น 

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-26 22:21:18


ความคิดเห็นที่ 18 (1663397)

 ๑๑. ผิดแล้วผิดอีก:บารมีของพีระมิดรุ่นพระนางเนเฟอร์ตารี ( ๑๔ ก.ค. ๕๖ )

        ในวันเสาร์ลูกบ้านสวนฯช่วยกันเตรียมงานเข้าค่าย ๑๕ ผมไปสร้างท่านพ่อดตาจินินที่ด้านหลังบ้านสวนฯ  วันนี้สิ่งที่ต้องทำคือเจาะสว่านเพื่อฝังเดือยเหล็กขนาดสองหุนและปูตระแกรงลวด เพื่อเป็นตัวยึดปูนในส่วนของพื้นที่ที่มีการปิดดระจกไปแล้ว  เตรียมไว้สำหรับปั้นส่วนกรองคอ  แต่มีความจำเป็นต้องสกัดปูนที่เป็นสังฆฏิเดิมออก  ก็ขอขมาพระองค์ท่าน  แต่ยังไม่ได้แจ้งให้ท่านอาจารย์อุบลทราบ  จนเสร็จงานในตอนเย็นมีอาการปวดไหล่และมือเป็นอย่างมากบำบัดตัวเองเท่าไรก็ไม่หาย  ในตอนค่ำเข้าห้องประชุม  ท่านอาจารย์อุบลส่งพระบารมีจากพีระมิดพระนางเนเฟอร์มาที่ขวดน้ำที่ถือ  ผมหยดน้ำทิพย์หนึ่งหยดลงบนมืออาการปวดดีขึ้น ๒๐%  อาจารย์อุบลถามว่าวันนี้ไปทำอะไรบ้าง

 และการมาเตือนของลูกที่ทำแท้ง 

ผมแจ้งให้อาจารย์ทราบว่าผมไปสกัดสังฆฎิท่านพ่อขอขมาท่านแล้ว  แต่ไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของบ้านคืออาจารย์อุบล  ก็คิดอยู่เหมือนกันครับว่าต้องเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ทำงานแน่นอน   เมื่อบอกสาเหตุที่ทำอาการที่เป็นอยู่หายอีก ๖๐ %   เหลืออาการปวดไหล่อาจารย์ตั้งข้อสังเกตุว่าต้องมีอะไรอีกแน่ๆ  อาการปวดไหล่ส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องการทำแท้ง  จิตวิญญาณของลูกจะมาเกาะที่ไหล่  เมื่อถามภรรยาผมแหล๋นบอกว่าเค้าเคยกินยาสตรีตอนประจำเดือนไม่มา  ซึ่งผมไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อนก็รู้สึกเสียใจ  อาจารย์บอกว่าลูกเค้าจะมาเตือนให้รู้เพื่อจะขอรับบุญ  เมื่อผมพูดขอบคุณลูกที่มาช่วยเตือนให้รู้พอพูดเสร็จอาการปวดทั้งหมดหายร้อยเปอร์เซนต์เบาโล่งอาการปวดไหล่และชาที่มือหายทันที  พร้อมกับมีอาการสีเสียววูบจากหัวไหล่แล้ววิ่งปู๊ดไปที่ปลายมือ  ทุกอย่างก็หายสนิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

        เกิดขึ้นอีกครั้งแล้วสำหรับการสกัดท่านพ่อ   ผมต้องขอขมาต่อท่านพ่ออาจารย์อุบลด้วยครับที่ทำไปโดยพละการโดยไม่ได้ขออนุญาต  ขอขอบคุณลูกของพ่อด้วยที่มาเตือนให้พ่อรู้ว่ามีลูกอยู่  พ่อกับแม่ทำผิดไปแล้วโดยรู้เท่าไม่ถึงการขอให้อโหสิกรรมให้พ่อกับแม่ด้วย  พ่อจะอุทิศบุญที่พ่อทำมาทุกๆบุญไปให้ลูกนะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-26 22:22:36


ความคิดเห็นที่ 19 (1663398)

 ๑๒. ความอัศจรรย์ของพีระมิดรุ่นพระนางเนเฟอร์ตารี

        ผมบูชาพีระมิดรุ่นพระนางเนเฟอร์ตารีไปสามองค์  อาจารย์อุบลท่านบอกว่าเป็นรุ่นนี้ที่ทำให้เกิดสิ่งดีๆในครอบครัว  ช่วยแก้ปัญหาต่างๆในครอบครัว  ก่อนหน้านี้เราปัญหาระหองระแหงกันในครอบครัวบ้างเป็นระยะ  ผมกับแหล๋นความคิดเห็นค่อยไม่ตรงกัน ผมจะคอยเบรคกันตอนพูด  แต่สังเกตูว่าตั้งแต่นำพีระมิดเข้าบ้านอาทิตย์ที่ผ่านมายังไม่มีอะไรที่ทำให้ขัดหูเกิดขึ้นเลยเงียบสงบดี  แถมเมื่อวันศุกร์ตอนเย็นณัฐลูกชายคนโตนักศึกษาน้องใหม่คณะโบราณคดี หลังจากที่เปิดเทอมไปอยู่หอพักที่กรุงเทพฯเป็นเดือนๆกลับมาบ้านที่นครปฐม  ซึ่งก่อนหน้านี้ให้กลับมาก็บอกว่าติดโน่นนี่บ้าง ติดกิจกรรมบ้าง  ก็นานมากที่ไม่เจอหน้ากัน  ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า ผมคิดว่าเป็นเพราะบารมีของพระนางเนเฟอร์ตารี

        สิ่งที่ดีๆอีกอย่างหนึ่งคือเรื่องการงาน  มีงานติดต่อเข้ามามากมายซึ่งก่อนหน้านี้หายเงียบไปหลายดือนแล้ว  เรื่องที่ ๑ เจ้าของโรงแรมดังโทรศัพท์ติดต่อเข้ามา  เพื่อให้เข้าไปดูพื้นที่เพื่อออกแบบผลงานที่จะติดตั้งตรงลอบบี้โรงแรมมารีออท กรุงเทพฯ  เรื่องที่ ๒ ลูกค้าที่จองผลงานประติมากรรมไว้มีการติดต่อเข้ามาเพื่อจะขอรับผลงาน  เรื่องที่ ๓ ผลงานประติมากรรมที่ทางโรงหล่อค้างงานไว้หลายเดือนไม่ดำเนินการให้จู่ๆ ก็ทำให้โดยไม่ต้องโทรไปเตือน  ผมคิดว่านี่เป็นสิ่งดีๆในเรื่องของหน้าที่การงานที่ได้รับหลังจากบูชาพีระมิดรุ่นพระนางเนเฟอร์ตารีมาไว้ที่บ้าน 

        ผมคิดว่านอกเหนือจากเรื่องถอดถอนคุณไสยมนต์ดำ ถอดถอนกรรมจากการทำแท้งและอื่นๆอีกมากแล้ว  ท่านยังทำให้เกิดความสุขและสิ่งดีๆในครอบครัว  ช่วยแก้ปัญหาเรื่องหน้าที่การงาน การเงิน ให้เกิดสภาพคล่องด้วยครับ 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-26 22:23:51


ความคิดเห็นที่ 20 (1663399)

  ค่าย ๑๔  ผ่านไปแบบเศร้าๆ แต่สำหรับการเข้า  ค่าย ๑๕ เต็มไปด้วยความสุข  แบบบอกไม่ถูก   ตั้งแต่เริ่มเข้าบ้านสวนฯ  ก็เห็นบรรยากาศที่สดใส สดชื่น    ผู้คนหน้าตายิ้มแย้มและใส่เสื้อสีชมพูกันเกือบหมด  เอ...เกิดอะไรขึ้นเนี่ย   หรือเราตกข่าวอะไรไป  ก้มมามองดูตัวเองใส่เสื้อสีฟ้า  ต้องแอบย่องไปเปลี่ยนเป็นเสื้อสีชมพูด้วยครับ   ทุกคนมีความสุข  โดยเฉพาะตอนที่อาจารย์อุบลเดินเข้ามาในบริเวณงาน      ว้าว..อาจารย์อุบลมาในชุดสีชมพูอ่อนสั้นแค่เข่า ชุดด้านบนเป็นซีทรูลายลูกไม้โปร่งเหมือนชุดเจ้าสาว น่ารัก อะ.. ( ทราบภายหลังว่าชุดนี้เป็นสเป็คของท่านรามเสส เลยเชียวนา ) หลายคนเฝ้ารอวันนี้เพื่อจะ ได้อารธนาพระบารมีของท่านรามเสสที่ ๒ ให้มาอยู่คู่กับพระนางเนเฟอร์ตารี  จริงซิ..ลืมไปได้เรา  วันนี้เป็นวันที่ท่านรามเสสรอคอยมานานแสนนานเกือบ ๔๐๐๐ ปี  "วันนี้ที่รอคอย..." รอคอยและหวังใจเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นพระนางเนเฟอร์ตารีให้อภัยพระองค์  และกลับมาคืนดีกันอีกครั้ง  วันนี้พระนางคงจะหายงอนแล้วหละเราจึงได้มีโอกาสได้จัดงานวันนี้ขึ้น  ตอนอาจารย์อุบลเดินมาในงานผมนึกถึงคำพูดของท่านรามเสสที่ว่า “เพียงนางเยื้องกรายผ่าน ก็กุมใจข้าไว้ในบันดล” และตอนเปิดงานผมคิดว่าท่านรามเสสก็คงใจจดใจจ่อที่จะพบพระนางเนเฟอร์ตารีอีกครั้ง  ผมนึกออกแล้วค่าย ๑๕ เหมือนการฉลองครบรอบการแต่งงาน  ทุกคนเลยมีความสุขกันมาก  ลูกๆพระนางฯมากันเพียบเกือบทุกชาติ  แม้กระทั่งหม่อมยายและคนเลี้ยงม้าก็ยังมา  ส่วนผมเป็นคนแบกหินที่พีระมิดก็มาด้วยแต่อาจารย์อุบลให้เกียรติเป็นลูกชายคนเล็กที่ตัวโต๊โต  การบวงสรวงท่านรามเสสที่ ๒ เสร็จสิ้นลง  พร้อมกับการเกิดพระอาทิตย์ทรงกลดดวงใหญ่มาก และในตอนกลางคืนก็มีพระจันทร์ทรงกลดเหมือนกัน  เป็นปรากฏการณ์ที่น่าอัศจรรย์ที่ยิ่ง  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งจักรวาลท่านอนุโมทนา สาธุ ด้วยเป็นแน่แท้  กิจกรรมเสร็จสิ้นลงด้วยรอยยิ้มที่แทบจะหุบไม่ลง  แถมมีน้ำทิพย์ติดไม้ติดมือไปคนละสี่ขวด เด็ดสุดก็คือขวดที่สี่ คือน้ำทิพย์ที่ปรับธาตุทั้ง ๖ อันได้แก่ ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ร่างกายและจิตใจ  สามารถดื่มได้ บำบัดได้ เติมได้ ๙ ครั้ง  หมดแล้วค่อยมาขอรับใหม่ได้ครับ  และที่พิเศษสุดๆอีกอย่างก็คืออาจารย์ได้มอบเส้นผมให้ทุกคนๆละ ๒ เส้น เล็กๆ แก๊ง สว. บอกว่ามองไม่เห็นอะไรเลย โถ...ต้องสวมแว่นดูแล้วครับ  เป็นการเข้าค่ายที่มีความสุขมากๆครับ  

ขอขอบคุณท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล คุณท๊อป ท่านพ่อคตาจินิน สมเด็จองค์ปฐมฯ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระศรีอารย์ฯ และสิ่งศักดิ์ สิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่เมตตาให้การเข้าค่าย ๑๕ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี  สามารถรวมพระบารมีพระนางเนเฟอร์ตารีและท่านรามเสสที่ ๒ เป็นผลสำเร็จ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-07-26 22:33:26


ความคิดเห็นที่ 21 (1670975)

 มินิค่าย ชำระหนี้สงฆ์  

ผ่านไปด้วยความสุขครับ  ความสุขอย่างไรนะหรือครับ

จะไม่ให้มีความสุขได้อย่างไรในเมื่อพวกเราส่วนใหญ่
 
ทำผิดหนี้สงฆ์โดยไม่รู้ตัวกันแยะเยอะ
 
แล้วได้รับความเมตตาจากท่านอาจารย์อุบล
 
และสิ่งศักดิ์สิทธ์ทั่วทั้งจักรวาลให้มีโอกาสได้มาสร้างบุญ
 
สังฆทาน วิหารทาน และบุญธรรมทานที่บ้านสวนพีระมิด
 
เพื่อนำมาชำระหนี้สงฆ์ ที่ติดค้างกันมาหลายชาติแล้ว
 
ถ้าเอาปิ่นโตมาวางซ้อนกันก็คงจะสูงเป็นภูเขาแล้วครับ
 
เพราะกินข้าววัดมาเยอะแล้ว
 
อย่างผมเองเข้าวัดบ่อย เนื่องจากต้องนำ น.ศ. ไปเรียน
 
ไปวัดโดยไม่สำรวม ทำเสียงดัง ไม่เคารพสถานที่
 
สมัยที่ไปเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วัดพุทธปทีป  
 
ก็ไปอาศัยวัดกินนอนอยู่เป็นปีๆ 
 
อยู่ที่วัดดีใจได้กินของเหลือจากพระ  คิดว่าได้บุญ รับไปเต็มๆ
 
เข้าห้องน้ำวัดแล้วไม่ดูแลให้สะอาดเรียบร้อยก่อนออก
 
ใช้น้ำ ใช้ไฟ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างโดยไม่ประหยัด
 
ชาวบ้านเอาอาหาร ผลไม้ มาถวายพระพุทธ
 
พวกเราเด็กวัด เสสังฆ์เสร็จพวกเราก็กินซะเรียบ
 
ตะกระเหมือนพวกสัพเวสีขอส่วนบุญ
 
ทำผิดศีลดื่มเบียร์ ตีสนุ๊ก ดูหนังสือโป๊ในโบสถ์
 
ไม่ช่วยรักษาความสะอาดภายในวัด
 
เวลาขึ้นไปเขียนภาพบนนั่งร้านในโบสถ์ก็ไปอยู่สูงกว่าพระประธาน
 
ไม่มีความเคารพ สำรวม หรือขอขมาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายในโบสถ์
 
หนี้กรรมที่ทำไว้มากมายจึงต้องรับผลกรรมที่ทำไว้
 
คือ มีอาการเท้าทั้งสองข้างบวมมา๒๐ กว่าปี
 
ชีวิตไม่เจริญรุ่งเรืองเท่าที่ควร
 
จนถึงปัจจุบันได้มีโอกาสมาสร้างบูญด้วยแรงกาย
 
สร้างองค์ท่านพ่อดตาจินิน อาการจึงจะทุเลาลง
 
คิดว่าไปสร้างบุญแต่กลับไปสร้างบาปเป็นปีๆ
 
จึงต้องมาชดใช้หนี้สงฆ์ อุทิศตนเพื่อช่วยเหลืองานพระพุทธศาสนา
 
ถือว่าเป็นความเมตตากรุณาของท่านอาจารย์อุบลและสิ่งศักดิ์ทุกๆ
 
พระองค์ที่ให้ลูกได้มีโอกาสปลดล๊อคกรรมหนี้สงฆ์ในครั้งนี้
 
ขอกราบเบื้องพระบาททุกๆพระองค์มา ณ ที่นี้ด้วย
ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-11-11 21:31:29


ความคิดเห็นที่ 22 (1670976)

 อนุโมธนาบุญกับคุณ พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร ด้วยครับ

สำหรับรูปสวยๆแแสนจะอบอุ่น

เห็นใบหน้าทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส
 
รับรองได้ว่าปลดล๊อคกรรมหนี้สงฆ์ได้ชัวร์
 
สังเกตุเห็นมั๊ยครับว่าระยะหลังนี้ในการเข้าค่ายแต่ละครั้ง
 
ลูกบ้านสวนฯเราจะมากันเป็นครอบครัวมากยิ่งขึ้น
 
พ่อ แม่ ลูก คุณตา คุณยาย มากันพร้อมพรั่ง
 
ซึ่งเป็นภาพสะท้อนให้เห็นได้ชัดถึงความอบอุ่น
 
ความสุข และความสามัคคี ในครอบครัว
 
ซึ่งก่อนหน้านี้แต่ละครอบครัวโดนปัญหากันสารพัดแตกต่างกันไป
 
บางท่านถูกแม่มดกากน้ำตาลเล่นงานจนเสียชีวิต
 
แม่มดแมงมุมไหม้แก่ๆ ส่งพิษทางกลิ่นน้ำหอมมารมให้พวกเราดมจน
 
เสียผู้เสียคนแม่ทัพบ้านสวนฯสูดกลิ่นน้ำหอมพิ
 
และสำทับด้วยการผสานสายตา
 
ผลออกมาสีข้างเป็นรอย แบบเสียสูญเกือบกลับเมืองไทยไม่ได้
 
ใครอยากรู้มีหลักฐานที่เจ้าตูบตัวน้อยบ้านพี่ต้อยครับ
 
ไม่ทันไรหมาขี้เรื้อนก็อาละวาดไปทั่วบ้านสวนฯ
 
แต่ก็ขับออกไปแล้วครับ ได้ข่าวว่าออกไปทำตาขวางแยกเขี้ยว
 
น้ำลายยึดอยู่ข้างนอก
 
จอมมารสูตูคงสุดจะทนครับ เพราะส่งบริวารมากี่คนก็ทำอะไร
 
ท่านอาจารย์และลูกบ้านสวนฯไม่ได้
 
เลยต้องลงมาปฏิบัติการเองโดยการแฝงตัวมา
 
อยู่ในร่างหญิงกร่างจอมหึ่ง ฉึ่งคนไปทั่ว
 
สมัยแรกเข้ามาบ้านสวนฯใหม่ๆ ผมนี่แหละโดนด้วยตัวเองเลย 
 
ส่งตาหวานหยาดเยิ้ม  ส่งข้าวส่งน้ำมาให้ตอนทำงาน
 
แอบมาซบโดยไม่อายสายตาใคร
 
ดีนะที่บอกศรีภรรยาไว้ก่อน
 
ไม่อย่างนั้นตัวอ้วนๆของอาจารย์อภิชัยคงเสร็จจอมมารแน่
 
เล่นเอาเคลิ้มไปนิดหนึ่ง เกือบไปแล้วครับ นึกขึ้นมาได้ว่า
 
คนมีลูกมีผัวแล้วทำไมถึงทำอย่างนี้
 
แต่ก็ไม่แปลกใจหลอกครับถ้าดูตามประวัติแล้ว
 
หญิงหึ่งแกก็ไปฉึ่งสามีเค้ามา
 
แต่แล้วร่างจริงก็ถูกเปิดเผย  
 
ใบหน้าที่ตนเคยคิดว่าสวยกลับเหี่ยวย่น ไหลเยิ้ม อาจมีน้ำหนองด้วย
 
แต่จากมินิค่ายที่ผ่านมา  
 
ผมเชื่อว่าพวกเราลูกบ้านสวนฯ
 
อาจารย์อุบลได้ช่วยพวกเราขจัดคุณไสยมนต์ดำเอย ผีเอย
 
ซกเล็กเอย และไข่แมงมุมเอย ไปหมดแล้ว
 
ความสุขจึงได้กลับมาสู่บ้านสวนพีระมิดอีกครั้งหนึ่ง
 
ขอบพระคุณท่านอาจารย๋อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ครับ
 
ที่เมตตาผมและครอบครัว  สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-11-11 21:36:05


ความคิดเห็นที่ 23 (1670978)

 

ปิดนรกขุม 5 

 
ผู้ใดเคยผิดศีลข้อ 5 เคยดื่มสุรา ยาดองของเมา 
 
แอลกอฮอล์ทุกชนิดก็เข้าข่ายขุมนี้แหละครับ
 
พออาจารย์อุบลท่านถามใครเคยผิดศีลข้อ 5 มาบ้าง
 
ยกมือกันพรึบไม่เว้นแม่แต่คนเดียว
 
น่ารักจริงๆยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบาน เสียงดังฟังชัด
 
ผมเองเคยเป็นนักดื่มตัวยงเหมือนกัน
 
เดยหัดดื่มตั้งแต่ตั้งแต่สมัยเรียนที่ช่างศิลป์
 
มาดื่มหนักๆก็ตอนเรียนที่ศิลปากร  
 
อย่างที่ผมเคยบอกว่าดื่มหนักเจ็ดวันเจ็ดคืน
 
นอลสต๊อปเช้ายันเย็น เย็นดื่มต่อจนดึกจนดื่น ตื่นมารุ่งขึ้นดื่มต่ออีก
 
จนเหงื่อกลิ่นปากและฉี่ที่ออกมาก็มีแต่กลิ่นเหล้ากลิ่นเบียร์
 
เหม็นไปหมดจนคนดีๆรอบข้างเค้าเอือบระอา
 
ใช้เวลาในการกำจัดของเสียหนึ่งเดือนเต็ม
 
ภาพที่เค้าเห็นกันมันคงเป็นภาพที่น่าทุเรศมากพอสมควร
 
แต่ไอ้คนกินมันคงไม่สนใจอะไรนอกจากคุยกัน หัวเราะกัน 
 
แหกปากทำความรำคาญให้คนรอบข้าง
 
มองหน้าเหอ...มีอารายรึป่าวเพ่ ????
 
คงมีแต่เสียงสาบแช่ง บ่นด่า อาการเอือมระอา จากคงที่เห็น
 
โต็ะข้างๆหรือเจ้าถิ่นอาจจะรอโอกาสที่จะตื๊บเอาก็ได้
 
แต่ก็รอดตัวไปที่ไม่เกิดเรื่องร้ายขึ้นมา
 
ไม่อย่างนั้นอาจจะมีของฝากเป็นอย่างอื่นให้เลือดตกยางออก
 
แต่มีที่เค้าฝากมาแน่ๆก็คือฝากบอกบรรพบุรุษเรามาด้วย
 
ว่าทำไม......ไม่สั่งสอน สั่งสอนแล้วคร๊าบ...แต่มันไม่ยอมจดยอมจำ
 
สิ่งที่พ่อแม่คอยจ้ำจี้จ้ำไช  มันรำคาญแทน
 
นี่คือที่เคยดื่มมาหนักที่สุด
 
ผมเคยดื่มมาทุกชนิด เบียร์ ยาดอง เหล้า วิสกี้ บรั่นดี วอดก้า ไวน์ 
 
เหล้าขาว เหล้าเถื่อน ดื่มกันชนิดที่ว่าเหล้าหมดเกาะแสมสารเลยครับ
 
ดื่มกันสามวันสามคืนไม่ลุกไปไหน
 
ตั้งโต๊ะดื่มกันริมชายหาดน้ำขึ้นท่วมโต๊ะก็ขยับหนีไม่ให้ท่วมโต๊ะ
 
พอได้ตำแหน่งที่แน่นอนแล้วก็ไม่ต้องถอยไปไหน
 
น้ำจะขึ้นจะลงก็ไม่ท่วมโต๊ะ
 
ตอนเช้าก็นอนเกลือกกลิ้งเป็นแมวน้ำตามหาดทราย
 
หลุดโลกไปเลยเพราะพวกเราอยู่บนเกาะไม่ค่อยมีคน
 
ผลกรรมที่เคยดื่มมาอย่างหนักในตอนนี้
 
คือ ขี้หลงขี้ลืมจำอะไรไม่ค่อยได้  สมองเชื่องช้าคิดอะไรไม่ค่อยออก
 
ปวดหัว ปวดตามเนื้อตัว ปวดเข่า 
 
ไม่เจริญในหน้าที่การงาน การเงินขาดสภาพคล่อง
 
ทำให้พ่อแม่เสียใจในการกระทำของเรา
 
พูดถึงพ่อแม่ทำให้สำนึกขึ้นมาได้ว่า
 
พอเรามีลูกและลูกได้ดื่มเหล้าเหมือนเรา ผิดศีลเหมือนเรา 
 
ลึกๆก็รู้สึกเสียใจเป็นความรู้สึกเดียวกันที่ทำบาปกับพ่อแม่
 
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ณัฐ ลูกชายคนโต
 
ออกมาสารภาพกับอาจารย์อุบล กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
 
ต่อหน้าพี่น้องชาวบ้านสวนฯ
 
ว่าตอนที่ไปเรียนที่คณะโบราณคดี ศิลปากร ปี 1
 
เคยไปดื่มเหล้ากับรุ่นพี่จนเมามาย(เหมือนพ่อมัน)
 
ในขณะที่ดื่มก็ไปล่วงเกินรุ่นพี่ผู้หญิงเข้า
 
ถึงขั้นล่วงเกินกอดจูบสัมผัสเนื้อตัวกัน
 
โชคดีที่ไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่านั้น
 
ทั้งสองคนยังมีสติยั้งคิดที่จะยุติการกระทำนั้นได้
 
ซึ่งถ้ามีความสัมพันธ์ที่เลยเถิดไปกว่านั้น
 
สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาอาจจะมีอะไรที่ร้ายแรงเกินกว่า
 
ที่จะควบคุมได้เป็นแน่
 
นี่เป็นเพียงความกังวลในการที่จะปฏิบัติต่อกันให้เป็นปกติ
 
ปิดเป็นความลับไม่ให้แฟนของรุ่นพี่รู้
 
ณัฐเองรู้สึกได้ว่าตัวเองก็ได้รับผลกรรมตามทันอย่างรวดเร็ว
 
เมื่อรู้สึกว่าคนที่ตนชอบก็หมางเมินห่างเหินไปเลย
 
พอสารภาพเสร็จก็เล่นเอาแม่แหล๋นอึ้งไปเลย
 
แต่ต้องยอมรับกับลูกที่มีความกล้าหาญที่มาสารภาพกับทุกๆคน
 
ผมคิดว่าณัฐเองก็งคงจะมีจิตสำนึกที่ถูกต้อง
 
เพราะเป็นลูกบ้านสวนฯเคยได้รับการการสั่งสอนมาแล้ว
 
รู้ผิดชอบชั่วดีเป็นวัยรุ่น แต่สู้กระแสสังคม คนรอบข้าง
 
สิ่งยั่วยุภายนอก ที่ชักจูงไป 
 
และจิตใจยังไม่เข้มแข็ง แต่ยังไม่ขาดสติถึงแม้จะเมา
 
ตรงนี่ก็ต้องขอยอมรับที่ ในที่สุดจิตใจฝ่ายดีก็เอาชนะจิตใจฝ่ายต่ำได้
 
การผิดศีลข้อ 5 นำพาให้ผิดศีลข้อ 3
 
และถ้าเลยเถิดไปก็อาจจะทำให้ผิดศีลทุกข้อ
 
และอาจจะเกิดความเสียหายมากกว่านี้
 
ครับนี่คือเรื่องราวในครอบครัวภิรมย์รักษ์ ที่เพิ่งเกิดขึ้น
 
จากการผิดศีลข้อ 5 ครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-11-11 21:41:28


ความคิดเห็นที่ 24 (1670979)

 เรายังตามหาพระศรีอาริย์กันอยู่หรือป่าว


ขอประทานโทษอาจารย์จริงๆครับ
 
ขอบพระคุณอาจารย์อุบลครับที่มาเตือนเรื่องตามหาพระศรีอาริย์
 
พอเหตุการณ์ต่างๆ เช่น น้ำท่วมสงบลง
 
พวกเราก็ลืมตามหาพระศรีอาริย์กันอีก
 
ทั้งๆที่ได้รับการเตือนให้หาท่านให้เจอภัยพิบัติจึงจะไม่เกิด
 
แต่ที่ติดตามข่าวมีแผ่นดินไหวต่อเนื่องกันในหลายประเทศ
 
ในช่วงวันที่ 3-4 พ.ย.56 นี้มีถี่มากครับ
 
ที่ญี่ปุ่นสามครั้ง เกาะสุมาตรา ใต้หวัน รัสเซีย นิวซีแลนด์ จีน เกาะ
 
อันดามันแถบประเทศอินเดีย แต่ละที่ก็ไม่น้อยกว่า 4.5 - 5.9 
 
และล่าสุดฟิลิปปินส์ก็ถูกพายุถล่มอย่างหนักที่สุดในรอบประวัติการณ์
 
เกิดความเสียหายทั้งบ้านเรือนและทรัพย์สิน
 
มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเป็นหมื่นๆคน
 
ซึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากเมืองไทยของเราสักเท่าไหร่เลยครับในช่วงสอง
 
สามวันนี้
 
เราต้องย้อนกลับมาใส่ใจและต้องเริ่มตามหาท่านกันต่อ
 
ถ้าไม่อย่างนั้นภัยพิบัติใหญ่เกิดขึ้นแน่ๆ 
 
เรากำลังเผลอและประมาท ไม่ใส่ใจในคำเตือน
 
จากเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านๆมาเป็นเพียงการชิมลาง แหย่ๆ 
 
ให้เรามีสำนึกและตระหนักว่าอะไรๆก็เกิดขึ้นได้
 
และเมื่อเกิดขึ้นมาแล้วเราไม่สามารถป้องกันอะไรได้เลย
 
การเตรียมพร้อมเรื่องอุปกรณ์ยังชีพ น้ำและอาหาร สิ่งจำเป็นต่างๆ
 
ต้องกลับมาใส่ใจและดูแลกันอีกครั้งนะครับ
 
เพราะฝุ่นจับหมดแล้วหรือไม่ก็หาของไม่เจอแล้ว
 
ฉะนั้นการตามหาพระศรีอาริย์ในครั้งนี้
 
ต้องหาด้วยสติปัญญาและจิตใจเป็นสิ่งสำคัญ
 
แต่ผมตอนนี้ยังมึนตึบอยู่เลยครับยังขาดปัญญา
 
อย่างไรก็ตามคิดว่าต้องหาท่านให้เจอ
 
หรือพวกเราจะรอให้ภัยพิบัติเกิดขึ้นก่อนแล้วจะรอพบกับท่าน
 
เมื่อถึงตอนนั้นทุกอย่างอาจจะสายเกินไป
ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-11-11 21:44:00


ความคิดเห็นที่ 25 (1671731)

 ธรรมะบำบัด ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ

ผมยังไม่เคยมาเขียนเล่าเรื่องธรรมสัญจร
ที่มหาวิทยาลัยศิลปากรเลย
วัตถุประสงค์หลักๆมีอยู่สองเหตุผลครับ 
เรื่องที่หนึ่งเนื่องด้วยในวงการศิลปะทั้งศิลปิน อาจารย์และนักศึกษา 
ส่วนใหญ่ผิดศีลห้ากันเกือบทุกคน 
ชนิดที่ว่าเฟี้ยงก้อนหินไปโดนใครเป็นผิดศีลหมด
โดยเฉพาะการดื่มเหล้า ดื่มเบียร์ สูบบุหรี่ 
ถ้าเอาขวดมากองก็คงสูงเป็นภูเขา 
และถ้าเอาขี้บุหรี่มามารวมกันก็คงจะเอาไปถมที่ได้เลยแหละครับ
ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่เคยดื่มมาอย่างหนัก 
ชนิดที่ว่าเจ็ดวันเจ็ดคืนอย่างต่อเนื่อง 
เชื่อมั๊ยครับว่ากลิ่นเบียร์มันออกมาทุกรูขุมขน
ไม่ว่าจะเป็นเหงื่อ ปัจสาวะ กลิ่นตัว ลมหายใจ มันออกมาหมดทุกทาง
ใช้เวลาเป็นเดือนๆกว่าร่างกายจะขับออกหมด 
คนข้างๆก็จะรังเกียจเพราะเหม็นตลบอลอวนไปหมด 
สมองจำอะไรไม่ค่อยได้ คิดอะไรเชื่องช้า คิดนานไม่ฉับไว 
เลิกดื่มมาสิบกว่าปีแล้วครับ เห็นที่ไหนก็เป็นศัตรูกันเลยแหละครับ 
ปัจจุบันมาทำหน้าที่ชักชวนเพื่อนฝูงลูกศิษย์ลูกหา ลด ละ เลิก แทน
ยาวเลย....นี่คือเหตุผลที่หนึ่ง 
เหตุผลที่สอง คือ..ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร 
เดิมเป็นวังเก่า คือ วังท่าพระ ผู้ที่เคยอยู่ก็มีเจ้านายหลายพระองค์ 
ตั้งแต่สมัยสร้างกรุงเทพฯใหม่ๆ 
ในที่นี้มีกรมหมื่นเษฏาบดินทร์ด้วย( รัชกาลที่ ๓ )ด้วย
เจ้านายองค์สุดท้ายที่ประทับที่วังท่าพระคือ
นายช่างใหญ่แห่งกรุงรัตนโกสินทร์คือ กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์
 หลังจากนั้นท่านเสด็จไปประทับที่ตำหนักปลายเนิน คลองเตยแทน
ทำไมถึงต้องเกี่ยวกับวังเก่าและเจ้านาย
ก็เพราะว่ายังมีวิญญาณของเจ้านาย นางสนมและข้าราชบริพาร
ที่ยังวนเวียนอยู่ด้วยความทุกทรมานยังไม่ได้ไปผุดไปเกิดเลย
เหตุเนื่องจากถูกประหารชีวิตกันมากมายหลายท่าน
ไม่ว่าจะเป็นเจ้านาย นางสนม ทหารคนสนิท
ไม่เว้นแม้กระทั้งเด็กๆ พระโอรส พระธิดา
ในสมัยที่มีปัญหาเรื่องกบถ แย่งยิงอำนาจกัน
ผู้ที่พ่ายแพ้ก็จะถูกประหารชีวิตชั่วโคตรทีเดีย
ผมอยู่ที่มหาวิทยาลัยได้ยินเรื่องวิญญาณบ่อยๆ
และเคยประสบกับตัวเองบ้าง 
น้องผู้หญิงที่เป็นผุ้ร่วมงานเค้าสื่อได้ว่ายังมีดวงจิตมากมาย 
ที่ไม่ยอมไปไหน หรือไปไหนไม่ได้
ผมเกิดความสงสารอยากจะช่วยให้พ้นทุกข์
มีความพยายามหลายครั้งที่จะปลดปล่อยท่านเหล่านั้น 
แต่ก็ไม่ได้ผลต้องอาศัยผู้ที่มีบุญบารมีสูง 
และผู้ที่สำเร็จกรรมฐานเท่านั้นจึงจะสำเร็จ
ไอเดียผมก็ปิ๊งเลยซิครับ
เพราะผู้ที่กำลังมองหาอยู่ก็อยู่ใกล้ๆเรานี่เอง
ก็ท่านอาจารย์อุบล ของพวกเรา คนนี้นี่เอง ลืมไปได้
จึงได้เรียนเชิญท่านอาจารย์อุบลไปธรรมบำบัดที่ม.ศิลปากร 
งานนี้ไปบำบัดทั้งคนบาปและดวงจิตดวงวิญญาณที่ถูกพันธนาการ
ใช้อาจารย์คุ้มเลยนิ  ผลจะเป็นอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไปครับ
 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-11-25 22:38:27


ความคิดเห็นที่ 26 (1671732)
 
ต่อ( วังท่าพระ)
หอประชุมวังท่าพระเป็นสถานที่ที่ใช้ในการธรรมะบำบัด
ผู้เข้าร่วมในวันนั้นประกอบด้วยนักศึกษาชั้นปีที่ 1 และเจ้าหน้าที่เป็นส่วนใหญ่
เนื่องจากผมมีความคิดว่านักศึกษาน้องใหม่ใสเสมือนผ้าขาวที่บริสุทธิ์
ยังไม่เปื้อนสิ่งสกปรกมากนัก ไม่เหมือนพวกเรา
มันเลอะเทอะมอมแมมจนดูสีไม่ออกแล้วว่าเป็นสีอะไร
ทำผิดศีลกันมาทุกข้อแต่ละข้อก็แยะเยอะจนเจียรนัยไม่หมด
จึงมีความคิดที่จะให้นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มีภูมิคุ้มกันที่ดีแก่ตนเอง
มีศีลห้าเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ
ยามใดมีเรื่องเดือดร้อนหรือกลุ้มใจแก้ปัญหาในชีวิตไม่ได้
จะได้นึกถึงศีลห้าและคำแนะนำสั่งสอนของท่านอาจารย์อุบล
ภายหน้าเมื่อเป็นรุ่นพี่เค้าจะได้มีหลักคิดที่ถูกต้อง
เป็นผู้นำที่ดีสำหรับรุ่นน้องต่อไป
ไม่ชักชวนหรือซ่อมน้องทำในสิ่งที่ไร้สาระหรือเน้นความรุนแรง
เพราะไม่ได้ทำให้นักศึกษาเป็นบัณฑิตที่ดีได้
การบำบัดในวันนั้นมีกรณีที่น่าสนใจอยู่กรณีหนึ่ง
คือ มีนักศึกษารุ่นพี่ที่ตกรุ่นเข้ามาด้วยคนหนึ่ง
เมื่ออาจารย์ถามว่าใครมีปัญหาอะไรเค้าก็ยกมือขึ้น
บอกว่าเค้าเป็นโรคซึมเศร้ามา 7 แล้ว
และเมื่อสังเกตุการแต่งตัวของเค้าแทบจะไม่เชื่อสายตาตนเอง
อาจารย์อุบลและแต่ละคนก็อึ้งครับเพราะเค้ามาในชุด
ท่อนล่างนุ่งผ้าขาวม้าท่อนบนใส่เสื้อยึดสีมอมๆ
โดยไม่แคร์สายตาใครๆในห้องประชุม
ท่าทางซึมๆหลังงอๆหน้าตาซีดเซียวอิดโรยไร้ชีวิตชีวา
สาเหตุเกิดจากอะไรผมจำไม่ได้แล้วครับ
และเมื่อได้รับการบำบัดจากอาจารย์อุบล
เชื่อมั๊ยครับเราเห็นรอยยิ้มของเค้าครับ
ยิ้มแบบจริงใจและยิ้มแบบไม่ยอมหุบด้วยครับ
เค้าบอกว่าเค้ามีความสุขมาก
ทราบภายหลังจากอาจารย์ว่าเค้ามาเป็นตัวแทน
ของจิตวิญญาณของท่านทั้งหลายในวังท่าพระ
ที่ได้รับทุกข์ทรมานจากการถูกติดอยู่ไม่สามารถไปเกิดได้
จึงได้สะท้อนออกมาให้เห็นในสภาพที่เราๆสัมผัสได้
จากสภาพของนักศึกษาคนนั้น
ผมเขียนไปขนผมลุกไปหมดเลยครับ
ท่านทั้งหลายคงอยากจะให้ผมเขียนถึง
เพราะวิญญาณทั้งหลายท่านมีความสุขและมีความหวังมาก
ที่อาจารย์อุบลมาที่วังท่าพระได้ฟังธรรมทาน
และมาทำพิธีบวงสรวงเพื่อปลดปล่อยดวงจิตดวงวิญญาณ
ของเจ้านายทั้งหลายทั้งพระโอรสพระธิดา ข้าราชบริพารที่เสียชีวิต
เนื่องจากเหตุการณ์ทางการเมืองในการแย่งชิงอำนาจภายใน
เมื่อเสร็จจากการธรรมะบำบัดที่หอประชุมแล้ว
อาจารย์อุบลและพวกเราก็มาที่บริเวณลานอาจารย์ศิลป์ พีระศรี
ตอนนั้นเป็นเวลาใกล้จะค่ำแล้วครับ
เรามานั่งที่โต๊ะบายศรีที่จัดเตรียมไว้
พิธีเริ่มขึ้นแบบเรียบง่ายด้วยบทสวดของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
และอาจารย์อุบลได้อาราธนาพระบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั่วทั้งอนันตจักรวาลเพื่อมาร่วมในการปลดปล่อยและนำส่งดวงจิตดวงวิญญาณทุกดวงขึ้นสู่นิพพาน
เชื่อมั๊ยครับในขณะที่อาจารย์อุบลทำพิธีอยู่
ผมนั่งหลับตาและน้อมจิตตามคำที่อาจารย์พูดขนผมลุกซู่ไปทั้งตัว
เกิดปิติแบบแทบจะสั่นไปทั้งตัวและที่แปลกใจคือผมนั่งยิ้มตลอด
ยิ้มเองโดยไม่ได้ฝืนนั่งยิ้มอยู่อย่างนั้นจนเสร็จพิธีการ
ทุกคนที่เข้าร่วมพิธีนั่งบนเก้าอี้หมด
แต่เชื่อมั๊ยครับรุ่นพี่ที่เป็นโรคซึมเศร้านั่งพับเพียบที่พื้น
ในท่าที่หมอบกราบพินอบพิเทามากแถมนั่งยิ้มอีกต่างหาก
ดูแล้วเค้ามีความสุขมากซึ่งถ้าภาพที่เราเห็นเป็นความสุขที่สะท้อนออกมาว่าทุกดวงจิตทุกดวงวิญญาณในวังท่าพระได้รับการปลดทุกข์แล้ว
ก็น่ายินดีมากที่พวกเราได้มีส่วนช่วยให้ทุกท่านได้รับการปลดปล่อย
ผมเรียนถามท่านอาจารยือุบลว่าท่านเห็นอะไรบ้าง
ท่านบอกว่าท่านเห็นผู้คนมาเข้าแถวกันเยอะมาก
ที่มีโซ่ตรวนล่ามมาก็มี แต่มาอย่างเป็นระเบียบ
ในที่นี้มีท่านผู้หนึ่งมาเสดงความเคารพและขอบพระคุณอาจารย์อุบล
ที่มาช่วยปลดปล่อยพวกเค้าให้พ้นทุกข์
ทั้งๆที่ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือมีอะไรกันเลยแต่ก็ได้รับความเมตตาจากอาจารย์  ท่านมาในลักษณะทรงเครื่องที่ใสสว่างแบบแก้วสวยงาม
ท่านอาจารย์อุบลท่านมาบอกภายหลังว่าท่านผู้นั้นที่มาคือ
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2
ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่งที่ท่านเสด็จมา
ร่วมเป็นสักขีพยานในการทำพิธีของพวกเรา
ผมรู้สึกยินดีและมีความสุขมากครับที่ได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ
ดวงจิตทุกดวงที่ทนทุกข์ทรมานให้ได้รับการปลดปล่อย
ให้ขึ้นไปสู่นิพพาน
ทุกท่านก็เปรียบเสมือนบรรพบุรุษของเราเป็นเจ้าของสถานที่
ที่ชาวศิลปากรได้อาศัยสถานที่ของท่านในการหาความรู้
ผมถือว่าเป็นการทดแทนบุญคุณของท่านทั้งหลายด้วยวิธีหนึ่งครับ
ขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล
และกราบแทบพระบาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์

ที่กรุณาเมตตาช่วยเหลือให้กิจกรรมครั้งนี้สำเร็จด้วยดีครับ

สาธุ สาธุ สาธุ 

ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-11-25 22:40:59


ความคิดเห็นที่ 27 (1671734)

 ปิดนรกขุม 6 

เสาร์ที่ผ่านมาผมขึ้นไปปั้นเครื่องทรงของท่านพ่อดตาจินินกับวินท์  ไม่ได้ลงมาพักกลางวันเพราะงานติดพันต่อเนื่อง มีปูนเหลืออยู่หลายถังทำจนบ่ายสองโมงจึงลงมาทานข้าว  ทานข้าวเสร็จปรากฏว่าฝนตกลงมาอย่างหนัก  ก็ดีเหมือนกันครับเพราะต้นเข็มที่ลูกบ้านสวนฯช่วยกันลงไว้จะได้ไม่ตาย เพราะร้อนมาหลายวันแล้ว  ตอนสี่โมงเย็นไปโบกปูนที่ฐานบัวต่อ  ตอนค่ำก็ร่วมกันปิดนรกขุม 6  อบายมุขทั้งหลายที่มอมเมาผู้คนในปัจจุบันรวมทั้งผมด้วยที่เคยหลงเข้าไปเกือบเอาชีวิตไม่รอด กว่าจะเอาตัวเองออกมาได้แทบแย่ครับเข้าไปในดินแดนที่พวกมารต่างๆสร้างล่อเอาไว้ มอมเมาผู้คนให้เข้าไป เริ่มจาก
1.ดื่มน้ำเมาทุกชนิด เหล้าจริง เหล้าเถื่อน ไวน์ เบียร์ ข้าวหมาก และเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ทุกชนิดที่เอาไว้มอมเมาสุภาพสตรี  ในบรรดาอบายมุขทั้งหมดข้อนี้ผมผิดเยอะมากเพราะเคยลองเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาแล้วทุกชนิด  เพราะอยู่ในวงการศิลปะแทบจะดื่มกันทุกคนก็ว่าได้ เคยดื่มเบียร์กันต่อเนื่องเจ็ดวันเจ็ดคืนเรียกได้ว่านอลสต๊อป หัวทิ่มแล้วทิ่มอีก เรียกได้ว่าทั้งเนื่อทั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นเหงื่อเอย ฉี่เอย กลิ่นตัวเอย กลิ่นมากเอย เหม็นตลบอบอวนไปเป็นเดือนๆ 
ไปประเทศไหนก็เรียกได้ว่าไปเมาที่นั่นไปประเทศจีนก็ไปชิมเหล้าจีนจนเมา ไปประเทศอิตาลีก็จะหนักไปทางดื่มไวน์มากกว่าดื่มน้ำ ไปอังกฤษก็ดื่มเบียร์ต่างน้ำ  เรียกว่าลองมาหมดทุกอย่างแล้วครับ วอดก้า ยาดอง เหล้าขาวกินกันจนหมดเกาะ
ผลทางด้านสังคมทำให้ผู้คนรอบข้างรังเกียจ ดูแคลน เสียบุคลิก เป็นที่อับอายยิ่งนัก  ผลทางด้านร่างกายทำให้สมองเฉื่อยชา คิดอะไรช้า ไม่ตอบสนอง จำอะไรไม่ค่อยได้ ขี้หลงขี้ลืม
 
2.เที่ยวกลางคืน เที่ยวผับ บาร์ แหล่งอโคจรก็เคยไปตระเวนมาบ้างหลายที่แต่ไม่ค่อยชอบไป  เคยไปพัฒน์พงศ์ไปดูสาวๆเต้นเสา เห็นแล้วรู้สึกสงสารและสังเวชใจแทนผู้หญิงเหล่านั้น ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ดูดีแต่เลือกที่จะทำได้แค่ใช้สมบัติที่ติดตัวมาหากิน  เพราไม่ต้องลงทุน หรือไม่มีทางเลือกมากนัก  ถ้าทำอาชีพอื่นเช่นเป็นประชาสัมพันธ์ หรือขายขนม ขายอาหาร โดยรูปลักษณ์ก็ดึงดูดลูกค้าได้แล้ว 

3.ดูการละเล่น ติดหนัง ติดละครทีวี ผมติดแต่หนัง DVD แอ๊คชั่นและการ์ตูน ละครติดบ้างถ้าเป็นละครตลกเบาสมอง แต่ละครที่มีสาระหลายเรื่องก็สามารถ สะท้อนชีวิตของคนเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่จะไม่เน้นศีลธรรมหรือจาริยธรรมให้ผู้ดูเน้นแต่จะเอาแรดติ้งอย่างเดียว

4.ไม่เคยเล่นการพนัน เล่นไพ่ไม่เป็น เพราะพ่อเป็นตำรวจ   ส่งรางวัลชิงโชค   บ้างบางครั้งแต่ไม่เคยถูกไม่เคยซื้อหวย หรือซื้อล๊อตเตอรี่ เล่นแชร์ เล่นหุ้น ไม่เป็นข้อนี้ไม่สันทัดครับ  ยังไม่เคยเห็นใครได้ดิบได้ดีเพราะเล่นการพนัน หรือเล่นหวยเลยมีแต่เล่นไปเล่นมา หอหีบหนีไปซอโซ่เข้ามาแทนที่ทุกที

5.เกียจคร้านการทำงานอันนี้มีบ้างเหมือนกันแต่จะเกียจคร้านเฉพาะงานอะไรที่ไม่ชอบทำเท่านั้น  แอบงีบ ไม่สนใจที่จะเรียนรู้ ขี้เกียจเขียนธรรมทานเป็นต้น เลยปลดล๊อคกรรมของตนเองไม่ได้สักที

6.การคบคนชั่วเป็นมิตร เคยคบคนชั่วเป็นมิตรอยู่พักหนึ่งเกือบซวย เพราะเพื่อนแอบขนกัญชาอัดแท่งขึ้นรถโดยไม่บอกเราเพิ่งมารู้ทีหลัง ดีที่ไม่โดนตำรวจจับไม่อย่างนั้น เสียผู้เสียคนแน่ ข้อหามียาเสบติดในครอบครอง หนังสือพิมพ์พาดหัวข่าว "จับอาจารย์มหาวิทยาลัยแอบขนกัญชาอัดแท่ง" เกือบไป...แว็วครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-11-25 22:45:42


ความคิดเห็นที่ 28 (1671735)

 ปิดนรกขุม ๗

ผมคิดว่าคนชั่วอย่างผมไม่น่าจะได้รับความเมตตาจากท่านอาจารย์อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายให้ปิดนรกขุม ๗ 
ทำไมนะหรือครับ ก็เพราะผมมันทำผิดมาทุกๆข้อ ศีลห้าข้อก็ทำผิดมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนอบายมุขทั้ง๖ ก็ทำผิดซ้ำซากจนไม่น่าจะให้อภัย มีอย่างเดียวคือไปนรกโลกันต์  แต่ผมก็ยังได้รับความเมตตาจากท่านอาจารย์อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายให้ปิดนรกขุม ๗ อีกความผิดมากมายที่ผมเคยทำมาจะมาสาธยายให้ฟังครับ
ศีลข้อ๑ ปาณาฯ ห้ามฆ่าสัตว์ ทรมาน หรือเบียดเบียน  แต่ชีวิตผมที่ผ่านมาเคยผิดศีลมาแล้วทุกข้อ มากบ้างน้อยบ้างรู้ทุกข้อครับแต่ปฏิบัติไม่ได้    เคยทรมานสัตว์และฆ่าสัตว์ เช่น เคยใช้ไม้ตีงูจนตาย เคยดักและฆ่าหนูด้วยกาวและตี  ขับรถทับไก่  ทับสุนัข  ดักนกกระจอกเพื่อเอาไปทอดกินและกักขังจนเสียชีวิตหลายสิบตัว  ปิดประตูหนีบจิ้งจก  ชอบกระทืบแมลงสาบเมื่อก่อนเห็นไม่ได้เป็นต้องทืบ( บาปนี้คงเป็นสาเหตุอีกอย่างที่เกิดกับเท้าด้วย )  ฆ่ามด ปลวก แมลงวัน แมลงต่างๆ  ทำให้ผิวหนังมีอาการแพ้และคันบ่อยมาก ไม่เคยฆ่าคนในชาตินี้แต่ชาติที่แล้วไม่ทราบเหมือนกันครับ
ศีลข้อ ๒  อทินนาฯ คือการลักขโมยของผู้อื่นมา  จึงนึกถึงผลกรรมที่ตัวเองเคยทำในสมัยเด็กได้ว่า  ตอนเด็กๆชอบขโมยเงินพ่อแม่และญาติพี่น้องเพื่อไปซื้อของที่ตนเองชอบ เช่น ขนม ดินสอและสีเขียนรูป  
ถูกพ่อจับได้ตีด้วยเข็มขัดและสายแป๊บน้ำ จนถูกไล่ออกจากบ้าน   เข็ดไปนานเลยแหละครับ  ถ้าจะว่าไป    การขโมยเงินพ่อแม่ก็คงจะบาปหนักเหมือนกัน   เคยนำวัสดุอุปกรณ์คุรุภัณฑ์ของราชการมาใช้ส่วนตัว เท่าที่นึกได้ก็มากหลายครั้ง  ชีวิตปัจจุบันมีหนี้สินหลายล้าน ขาดสภาพคล่องทางการเงิน หาเงินได้เท่าไรก็ไม่พอใช้ 
ศีลข้อ ๓ ความผิดข้อกาเมฯ ก็มีมากเหมือนกันตามสันดานผู้ชายที่สนใจเพศตรงข้าม ความผิดขั้นต้นก็คือใช้สายตาแทะโลมความงามของสาวๆบ้าง หนักขึ้นมาหน่อยก็สมัยก่อนก็ดูหนังสือโป๊ และสมันนี้มี
อินเตอร์เน็ตก็ดูเว๊บโป๊  แต่ก็อดไม่ได้จริงๆ สายตายังชอบดูผู้หญิงที่สวยๆ ตามนิสัยของศิลปินครับ ยังติดอยู่ที่กิเลสและราคะ   แต่ตอนนี้ปลงได้มากแล้วครับเหลือเพียงเบาบาง เคยล่วงเกินสตรีอื่นหลายคนที่เจ้าตัวยินยอมแต่พ่อแม่เค้าไม่ยินยอม ชิงสุกก่อนห่ามมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน ก่อนแต่งงานเคยมีแฟนหลายคน แต่พอแต่งงานแล้วก็เลิกแล้วครับ รักเดียวใจเดียว มีภรรยาคนเดียว แต่สายตามันยังเจ้าชู้อยู่เลยครับ
ศีลข้อ ๔ มุสาฯ ข้อนี้ผิดบ่อยมากถึงแม้จะเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดมาก  แต่ก็เป็นคนพูดจาขวานผ่าซากประจำ  พูดตรงเกินไปจนทำให้ใครต่อใครเจ็บช้ำน้ำใจ  บ่อยครั้งที่ทำให้คนใกล้ตัวต้องเสียใจจากการพูด  
เป็นคนโมโหง่าย    ชอบเก็บความรู้สึกไว้คนเดียวไม่พอใจใครก็เก็บไว้นานจนทำให้เครียด  หงุดหงิดง่าย  มีผลทำให้สิ่งที่เราพูดออกไปคนไม่ค่อยเชื่อ
ศีลข้อ ๕ สุราเมรยฯ ผมเป็นนักดื่มที่หนักเอาการเหมือนกัน  เพราะในแวดวงคนทำงานศิลปะจะดื่มกันหนักมาก ผมเคยดื่มมาแล้วทุกชนิดไม่มีละเว้นไม่ว่าจะเป็นของไทยหรือต่างประเทศ แม้เหล้าเถื่อนทำเองก็ไม่เว้น  ดื่มกันทีขวดกองเป็นภูเขา  ผมเคยดื่มเบียร์ต่อเนื่องกันเป็นอาทิตย์จนตัวเหม็นไปหมด กลิ่นจะออกมาทางเหงื่อ  ทางฉี่ ใช้เวลาเป็นเดือนกว่ากลิ่นจะหมด  ดื่มอย่างเดียวแต่ไม่สูบบุหรี่  เลิกดื่มมาได้สิบกว่าปีแล้วครับ  ผลเสียจากการดื่มเหล้าดื่มเบียร์มากปัจจุบันทำให้สมองเฉื่อยชา คิดอะไรช้า จำอะไรไม่ค่อยได้
นอกจากศีลทั้งห้าข้อแล้วอบายมุขทั้ง ๖ ก็ไม่ละเว้นเหมือนกันครับ
๑.ดื่มน้ำเมาทุกชนิด เหล้าจริง เหล้าเถื่อน ไวน์ เบียร์ ข้าวหมาก และเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ทุกชนิด  ในบรรดาอบายมุขทั้งหมดข้อนี้ผมผิดเยอะมากเพราะเคยลองเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาแล้วทุกชนิด เพราะอยู่ในวงการศิลปะแทบจะดื่มกันทุกคนก็ว่าได้ เคยดื่มเบียร์กันต่อเนื่องเจ็ดวันเจ็ดคืนเรียกได้ว่านอลสต๊อป หัวทิ่มแล้วทิ่มอีก เรียกได้ว่าทั้งเนื่อทั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นเหงื่อเอย ฉี่เอย กลิ่นตัวเอย กลิ่นมากเอย เหม็นตลบอบอวนไปเป็นเดือนๆ อย่างที่บอก  ไปประเทศไหนก็เรียกได้ว่าไปเมาที่นั่นไปประเทศจีนก็ไปชิมเหล้าจีนจนเมา ไปประเทศอิตาลีก็จะหนักไปทางดื่มไวน์มากกว่าดื่มน้ำ ไปอังกฤษก็ดื่มเบียร์ต่างน้ำ  เรียกว่าลองมาหมดทุกอย่างแล้วครับ วอดก้า ยาดอง เหล้าขาวกินกันจนหมดเกาะ
ผลทางด้านสังคมทำให้ผู้คนรอบข้างรังเกียจ ดูแคลน เสียบุคลิก เป็นที่อับอายยิ่งนัก  ผลทางด้านร่างกายทำให้สมองเฉื่อยชา คิดอะไรช้า ไม่ตอบสนอง จำอะไรไม่ค่อยได้ ขี้หลงขี้ลืม
๒.เที่ยวกลางคืน เที่ยวไนท์คับ เที่ยวเทค เที่ยวผับ บาร์ แหล่งอโคจรก็เคยไปตระเวนมาหลายที่แต่ไม่ค่อยชอบไปเพราะเหม็นบุหรี่  ไม่สูบบุหรี่  
๓.ดูการละเล่น ติดหนัง ติดละครทีวี ผมติดแต่หนัง DVD แอ๊คชั่นและการ์ตูน และหนังแผ่นลามก ละครติดบ้างถ้าเป็นละครตลกเบาสมอง แต่ละครที่มีสาระหลายเรื่องก็สามารถ สะท้อนชีวิตของคนเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่จะไม่เน้นศีลธรรมหรือจาริยธรรมให้ผู้ดู
เน้นแต่จะเอาแรดติ้งอย่างเดียว
๔.ไม่เคยเล่นการพนัน เล่นไพ่ไม่เป็น เพราะพ่อเป็นตำรวจ   ส่งรางวัลชิงโชค   บ้างบางครั้งแต่ไม่เคยถูกไม่เคยซื้อหวย หรือซื้อล๊อตเตอรี่ เล่นแชร์ เล่นหุ้น ไม่เป็น  ข้อนี้ไม่สันทัดครับ  ยังไม่เคยเห็นใครได้ดิบได้ดีเพราะเล่นการพนัน หรือเล่นหวยเลย  มีแต่เล่นไปเล่นมา หอหีบหนีไปซอโซ่เข้ามาแทนที่ทุกที
๕.เกียจคร้านการทำงานอันนี้มีบ้างเหมือนกันแต่จะเกียจคร้านเฉพาะงานอะไรที่ไม่ชอบทำเท่านั้น  แอบงีบ ไม่สนใจที่จะเรียนรู้ ขี้เกียจเขียนธรรมทานเป็นต้น เลยปลดล๊อคกรรมของตนเองไม่ได้สักที
๖.การคบคนชั่วเป็นมิตร เคยคบคนชั่วเป็นมิตรอยู่พักหนึ่งเกือบซวย คบกับเพื่อนๆที่สูบกัญชาเพราะเพื่อนแอบขนกัญชาอัดแท่งขึ้นรถโดยไม่บอกเราเพิ่งมารู้ทีหลัง ดีที่ไม่โดนตำรวจจับไม่อย่างนั้น เสียผู้
เสียคนแน่ ข้อหามียาเสบติดในครอบครอง หนังสือพิมพ์พาดหัวข่าว "จับอาจารย์มหาวิทยาลัยแอบขนกัญชาอัดแท่ง" เกือบไป...แว็วครับ  
นี่คือสิ่งที่ผมเคยกระทำผิดศีล มัวเมาลุ่มหลงในวังวนของอบายมุขซึ่งสิ่งที่เคยกระทำผ่านมาเป็นสิ่งที่ไม่น่าให้อภัย มานึกๆดูแล้วเราทำไปได้อย่างไร แต่ก็ยังได้รับความเมตตาจากท่านอาจารย์อุบลและสิ่ง
ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายให้ปิดนรกขุม ๗ อีก สัญญาว่าจะไม่ขอกลับไปกระทำเช่นนั้นอีก 
ผมขอขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ให้โอกาสผมได้ปิดนรกขุม ๗ ขอบพระคุณครับ อภิชัย ภิรมย์รักษ์
ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-11-25 22:51:23


ความคิดเห็นที่ 29 (1671736)

ตามหาพระศรีอาริย์

ผมได้มีโอกาสได้รู้จักสุภาพสตรีท่านหนึ่งมาได้ปีกว่าๆแล้วครับ

ท่านเกิดเมื่อปี ๒๕๐๐ ซึ่งตรงกับกึ่งหนึ่งของพุทธกาลพอดี
ท่านเป็นผู้หญิงที่ฉลาด ทันสมัย มีเมตตา 
ผมเจอท่านครั้งแรกท่านตาดุชมัด 
มองมานี่เราต้องหลบเลยทีเดียว
และเมื่อรู้จักท่านมากขึ้นเห็นจริยวัตร และกิจกรรมต่างๆที่ท่านทำ
เห็นความเสียสละตนเอง สละสังคมที่ท่านชอบ
มาสร้างบ้านส่วนตัวที่อยู่ไกลลิบกลางท้องทุ่ง
เพื่อมาจัดทำเป็นสถานที่สำหรับช่วยเหลือผู้คนจากทั่วทุกสารทิศ
ที่มีความทุกข์ ความเดือดร้อน ทั้งทางกาย ทางใจ
ด้วยการใช้ธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาบำบัดผู้คน
ให้รู้จักกฏแห่งกรรม รู้เหตุแห่งกรรมที่ตนกระทำ
รู้จักศีลห้า รู้จักอบายมุข รู้จักบาปบุญคุณโทษ อย่างถ่องแท้
แล้วเราจึงจะปลดทุกข์ที่เป็นอยู่ได้อย่างถูกจุด
แบบฉับพลันทันทีแบบไม่ต้องรอดูผลชาติหน้าครับ
ท่านสอนให้เราเข้าใจโดยทันที แบบเห็นกันจะๆ
เดินทางไปช่วยเหลือผู้คนทั่วทุกที่โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ท่านชอบทำบุญ ทำทานทุกชนิด 
ท่านสอนให้ผู้คนรู้จักนิพานและชักชวนให้ไปนิพานกัน
ท่านสอนให้พวกเราไม่ตื่นกลัวภัยพิบัติ
ให้เตรียมพร้อมและรับมืออย่างมีสติ
และให้พวกเราช่วยเหลือผู้อื่นให้ได้ในยามที่ภัยมา
ด้วยพระบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธ์ทั่วทั้งจักรวาล
ที่ท่านอาราธนาได้มาไว้ในวัตถุมงคลเพื่อคุ้มครองทุกคน
ถ้าพิจารณาด้วยสิ่งที่เห็นและปํญญาอันน้อยนิดที่มี
ผมเชื่อว่าท่านต้องเป็นคนพิเศษที่ได้รับมอบหมายมา
ให้ทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้คนโดยเฉพาะ
ด้วยองค์ประกอบหลายๆอย่างดังที่ได้กล่าวมาแล้ว
ท่านมีคุณสมบัติทุกด้านใกล้เคียงกับท่านผู้หนึ่งที่เรากำลังตามหา
คือ " พระศรีอริยเมตไตย์ "
ภัยพิบัติเกิดแน่นอน ๆ ๆ
พวกเราประสบกับเหตุการณ์ภัยธรรมชาติหลายครั้งแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นซึนามิที่ภาคใต้ น้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมา 
ดินถล่ม แผ่นดินทรุดตัว  หรือคลื่นความร้อนจากดวงอาทิตย์ 
แต่นี่เป็นเพียงการได้รับคำเตือนล่วงหน้า
เพื่อให้เตรียมพร้อมกัยภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น
ซึ่งผมเชื่อว่าจะต้องหนักหน่วงกว่าที่ผ่านมาหลายเท่า
หรือเราอยากจะให้ประเทศไทยของเราประสบกับภัยพิบัติ
ดูจากตัวอย่างประเทศฟิลิปปินส์เพื่อนบ้านของเรา
ที่กำลังประสบกับภัยพิบัติอยู่ทุกวันนี้
ขอให้ช่วยกันหาพระศรีอาริย์ให้พบ
ผมคิดว่าถึงผมจะหาท่านไม่พบ
แต่ผมพบอาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์
ผู้หญิงธรรมดาที่มีคุณสมบัติคล้ายพระศรีอาริย์มากที่สุด
 
ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-11-25 22:52:55


ความคิดเห็นที่ 30 (1671737)

 ธรรมทานวันเสาร์ที่ 16 พ.ย.56

เรื่องธรรมทานของคุณแจ๊สจากเพชรบุรี
ที่เราได้ฟังมามีลุ้นระทึกหลายเรื่อง
เริ่มจากเรื่อง "คิดว่าแน่" อันนี้ผมตั้งชื่อเอง
คุณแจ๊สเป็นแฟนพันธ์แท้บ้านสวนพีระมิดทางทีวี
โดยการดูรายการคุยไปแจกไปมา ๓ ปี
เรื่องราวก็มีอยู่ว่า 
คุณแจ๊สได้รับมรดกบ้านและที่ดินพร้อมของแถมด้วย
 คือ มีผีแถมมาด้วยครับ
เรียกได้ว่าไม่เกรงกลัวใครเดินโชว์ให้ได้ยินเสียงกันทั้งวันทั้งคืน
คุณแจ๊สและครอบครัวก็เก่งนิไม่ยักกลัว
หรือกลัวจนไม่รู้จะกลัวยังไงแล้ว ทนมาได้ตั้ง ๗ ปี 
ทนไม่ทนเปล่าลุยกับผีด้วย อาจารย์คนไหน หลวงพ่อองค์ไหน
อยู่ที่ไหนไม่ว่าจะดังหรือเก่งกล้าสามารถเพียงใด
คุณแจ๊สเชิญมา นิมนต์มาปราบผู้แบบทั่วสารทิศ
ผลปรากฏว่าเอาไม่อยู่ ทนทายาททั้งผีท้ั้งคน
ผีก็ไม่ยอมไป คนก็สู้ไม่ถอย เรียกได้ว่าคู่นี้สูสีครับ
ยิ่งนานวันผีก็ยิ่งเล่นหนักขึ้นทำเอาคนในบ้านเจ็บป่วยออดๆแอดๆ 
เสียเงินเสียทองรักษากันไม่ว่างเว้น
จนกระทั่งเมื่อคุณแจ๊สไปร่วมกิจกรรมธรรมะบำบัด 
ได้บูชาพีระมิดรุ่นพระนางเนเฟอร์ตารี 1 องค์ 
วันแรกที่นำพีระมิดเข้าบ้าน 
มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น
มันเหมือนมีอะไรบางอย่างพุ่งออกจากบ้าน
ไปชนกระจกในบ้านแตกเป็นรูโบ๋ 
ซึ่งคุณแจ๊สยังเก็บหลักฐานไว้อยู่เลย 
และในช่วงหลังจากนั้นในช่วงสามถึงเจ็ดวันแรก
ก็มีเสียงอะไรบางอย่างมากระทบกระแทกฝาบ้าน
เหมือนมีตัวอะไรจะพยายามเข้าบ้านให้ได้ 
ท่านคิดว่าเป็นอะไรที่พยามเข้ามา
ใช่ตัวที่พุ่งออกไปตอนคุณแจ๊สเชิญพีระมิดเข้าบ้านมั๊ย
สิ่งนั้นคงกลัวพีระมิดพระนางฯสุดๆ
จึงพุ่งออกแบบหางจุกตูดแบบนั้น
กระจกกระเจิกไม่สนใจทั้งนั้น 
อยู่ไม่ไหวแล้วจ้า...อะจ๊าก...
มันคงคิดไปหนีไป  มันอะไรกันเนี๋ย??????
คราวนี้เจ้ามนุษย์คนนี้ไปเอาอะไรมาสู้กับเรา
หรือมันเห็นอะไรถึงเผ่นแน๊บไปขนาดนั้น
ไม่รู้มาก่อนว่าพระนางเนเฟอร์ตารีไล่ผีเป็นด้วย
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเสียงก็เงียบหายไป 
เป็นครั้งแรกในรอบเจ็ดปีที่คุณแจ๊สและครอบครัวได้พบกับความสงบ
จนกระทั้งวันนี้ไม่มีเสียงเดินให้ได้ยินอีกเลย
แล้วมันหนีไปอยู่ที่ไหนแล้วเนี๋ย 
เจ๋งจริงเลยครับนี่แค่พีระมิดรุ่นพระนางเนเฟอร์ตารีองค์เดียวนะ
ยังไม่ได้จัดเต็มครบทุกรุ่น
ถ้าไม่อย่างนั้นจะหาว่าสวยไม่เตือน(อันนี้คุณแจ๊สคิดในใจครับ)
ฟังแล้วหายง่วงเลยครับคุณแจ๊ส
(เรื่องของคุณแจ๊สยังไม่หมดเท่านี้นะครับ โปรดติดตามตอนต่อไป)
..............
เรื่องต่อไปของคุณแจ็สเรื่อง "ติดเกาะ"
เรื่องจริงเลยนะ 
ที่มาของเรื่องมีอยู่ว่า
เมื่ออาทิตย์ที่แล้วที่เพชรบุรีมีฝนฟ้าคะนองอย่างหนัก  
ต้นไม้ล้มระเนระนาด
บ้านคุณแจ็สนี่เหมือนถูกใครมาเขย่าแทบจะพังทะลาย
คุณแจ๊สวิ่งหนีออกจากบ้านแบบไม่คิดชีวิต
(ผมว่าคุณแจ๊สวิ่งหนีเหมือนตัวอะไรสักอย่างก่อนหน้านี้)
วิ่งไปนึกขึ้นมาได้ว่าบ้านเรามีพีระมิด
รุ่นพระนางเนเฟอร์ตารีและรุ่นมวลสารบ้านสวนฯ 4 องค์ นี่หว่า
เลยวิ่งกลับบ้านดีกว่าอาจจะรอดดีกว่าอยู่ข้างนอก
พอเหตุการณ์สงบลงจึงได้ออกมาดู
เห็นบ้านคนอื่นรอบบ้านตัวเอง
เกิดน้ำท่วมสูงระดับเอวคนสูงระดับอกตนเตี้ย
ขึ้นอยู่กับขนาดความสูงของแต่ละคน
ชาวบ้านเดือดร้อนกันไปทั่ว
แต่ได้เกิดปรากฏการณ์ที่น่ามหัศจรรย์ขึ้น
เมื่อคุณแจ๊สมามองบ้านตัวเองน้ำไม่ท่วม
ดูบ้านเป็นเหมือนเกาะที่มีนำล้อมรอบ
ทั้งๆที่บ้านคนอื่นก็อยู่ระดับเดียวกัน
คุณแจ๊สเล่าไปก็อดที่จะตอบย้ำไม่ไดว่า "นี่เรื่องจริงนะเนี๋ย"
ทำเอาพวกเราอดหัวเราะกันไม่ได้
โถ โถ..ชาวบ้านเค้าเดือดร้อนกันเรามาขำกันซะนี่
แต่.."นี่เรื่องจริงนะเนี๋ย" 
เหตุการณ์นี้เหมือนกับที่บ้านของพี่ต้อย
ที่เจอพายุเทอร์นาโดที่รัฐนิวเจอร์ซี่ ประเทศสหรัฐอเมริกา 
ที่บ้านของพี่ต้อยไม่เป้นอะไรเลย มีเพียงกิ่งไม้เล็กๆหักไม่กี่กิ่ง
แต่บ้านอื่นรอบๆพังบ้าง มีต้นไม้ใหญ่โค่นล้มลงมาบ้าง
เพราะพี่ต้อยใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยและมีพีระมิดรุ่นท้าวเวสสุวรรณอยู่ในบ้าน
จึงปลอดภัยจากภัยพิบัติทั้งปวง
ขอให้ทุกท่านจงมีศรัทธาที่บริสุทธิ์ ปฏิหารย์จึงจะเกิด 
สาธุ สาธุ สาธุ กับธรรมทานของคุณแจ๊สครับ
"นี่เรื่องจริงนะเนี๋ย"
ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-11-25 22:53:56


ความคิดเห็นที่ 31 (1671738)
มินิค่าย ปลดล๊อคกรรม "ชำระหนี้แผ่นดิน" ๒๓-๒๔ พ.ย. ๕๖
ผมชื่อ นายอภิชัย ภิรมย์รักษ์ อายุ ๔๙ ปี
อาชีพ เป็นอาจารย์ ภาควิชาศิลปไทย คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์
มหาวิทยาลัยศิลปากร
มินิค่าย ปลดล๊อคกรรม "ชำระหนี้แผ่นดิน" ๒๓-๒๔ พ.ย. ๕๖
ค่ายนี้พวกเรา "ครอบครัวภิรมย์รักษ์" เตรียมตัวกันเต็มที่ครับ
รวมพลกันได้ครบ ประกอบด้วย คุณย่า ผมและแหล๋น ภรรยา และลูก ณัฐ วิน บัว 
รวมทั้งสามารถชวนเพื่อนที่ สถาบัน AITมาได้อีกสามคน
เดินทางถึงบ้านสวนพีระมิดตอนแปดโมงกว่าๆ
ผู้คนก็คึกคักแล้วครับหลายๆท่านไปนอนคอยตั้งแต่วันศุกร์
ยื่นเอกสาร ขนข้าวของมาร่วมบุญ เสร็จสรรพก็รอเวลาเปิดงาน
หนี้แผ่นดินมีอะไรบ้างครับ
โอ...ถ้าจะแจกแจงกันหละก็ผมคิดว่า
ผมติดหนี้แผ่นดินตั้งแต่เกิดออกมาลืมตาดูโลกเลยแหละครับ
ถ้าเคยเกิดมาหลายชาติแล้วก็คงจะติดหนี้แผ่นดินทุกๆชาติครับ
เพราะเราเกิดมาบนผืนแผ่นดินไทยภายใต้ร่มเศวตฉัตรแห่งนี้
คุณของแผ่นดินทดแทนไม่หมดครับสูงล้นท่วมหัว
เราติดหนี้แผ่นดินอย่างไร หลายๆคนอาจจะนึกไม่ถึง
เช่น เราสร้างบ้านอาศัยบนแผ่นดินไทยนี้เราก็เป็นหนี้แผ่นดินแล้วครับ
หรือ ขับรถอยู่บนถนนหนทางทิ้งขยะ ถ่มน้ำลาย เด็ดดอกไม้ข้างทาง
ทำลายทรัพย์สินสาธารณะ ติดป้ายประกาศเกลื่อนถนน 
หรือบางคนมักง่ายฉี่ อุจจาระ ข้างทางเป็นต้น
สำหรับผมในฐานะที่เป็นข้าราชการคนหนึ่งติดหนี้แผ่นดินเยอะมากเลยครับ
เข้าทำงานสาย กลับบ้านเร็ว ทำหน้าที่ของตนเองไม่เต็มที่
เกียจคร้าน เบื่อหน่าย ในการทำงาน ใช้เวลาราชการไปทำธุระส่วนตัว
ถลุงใช้น้ำใช้ไฟฟ้า ในหน่วยงานอย่างไม่ประหยัด 
มีความเห็นแก่ตัวเห็นแต่ประโยชน์ของตัวเอง
มีความโลภ มีกิเลส ตระหนี่ถี่เหนียว 
เอาวัสดุ อุปกรณ์ กระดาษ ดินสอ ปากกา ไปใช้อย่างสิ้นเปลือง
 นำคุรุภัณฑ์ของหลวง คอมพิวเตอร์ เครื่องถ่ายเอกสาร หมึกพิมพ์ กล้องถ่ายรูป
ไปใช้เป็นของส่วนตัว เอางานส่วนตัวไปถ่ายเอกสารของหน่วยงาน
เวลามีโครงการ ก็ต้องตบแต่งเอกสาร เขียนเอกสารเท็จ ทำใบเสร็จไม่ตรงตามราคาจริง
นำเงินโครงการไปใช้จ่ายส่วนตัว  หลบเลี่ยงการเสียภาษี จ่ายภาษีไม่ครบ 
ถ้ารวมแล้วก็เป็นเงินหลายแสนแล้วครับ
ชีวิตส่วนตัวที่ผ่านมามีความทุกข์จากการมีหนี้สินล้นพ้นตัวหลายล้านบาท
หาเงินพิเศษได้เท่าไรไม่เคยเหลือเก็บ ต้องมีเรื่องให้ใช้จ่ายจนหมด
ขโมยขึ้นบ้าน ของหาย  มีสิ่งของรถยนต์เสียหายให้ต้องซ่อมแซมเสมอ
ครอบครัวไม่ได้อยู่ร่วมกัน มีบ้านแต่ไม่ได้อยู่
การได้เข้าร่วมมินิค่ายเพื่อปลดล๊อคกรรมหนี้แผ่นดินในครั้งนี้
เป็นความเมตตาจากท่านอาจารย์อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์อย่างสูงสุด
เพราะความผิดที่ผมทำมาคงไม่มีโอกาสได้ชดใช้ได้หมด
ต้องติดหนี้แผ่นดินไปอีกนานอีกไม่รู้กี่ชาติ
ถึงแม้ว่าจะได้รับโอกาสจากท่านอาจารย์อุบลให้สร้างท่านพ่อดตาจินิน
เพื่อชำระหนี้แผ่นดิน ผมก็ยังไม่มั่นใจว่าบาปที่เคยทำมาในชาตินี้
และบาปที่เคยทำมาทุกๆชาติจะมากขนาดไหน
และเมื่อได้เข้าร่วมมินิค่ายแล้วก็มีความสุขใจ สงบ สร้างบุญอย่างเต็มกำลัง
ถึงอย่งไรก็ตามชีวิตที่เหลือนับจากนี้ไป
ขอตั้งจิตที่ตั้งมั่นว่าจะอุทิศตนเองและใช้ความรู้ความสามารถของตน
ในการทำประโยชน์ให้กับแผ่นดิน สร้างบุญทุกบุญ 
ช่วยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่คู่แผ่นดินไทยตลอดไป
ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-11-25 22:55:02


ความคิดเห็นที่ 32 (1671739)

 ธรรมทาน”ปลดล๊อคกรรมหนี้แผ่นดิน”๒๓-๒๔ พ.ย. ๕๖

เปิดงานตอนเก้าโมงเช้าครับลูกบ้านสวนขาประจำมากันพร้อมหน้าครับ
เพราะคราวนี้เป็นกรรมที่หนักอึ้ง พวกเราไม่อยากเป็นพวกหนักแผ่นดินครับ
ปลดล๊อคกรรมหนี้แผ่นดิน นี้หนักกว่ากรรมหนี้สงฆ์อีกครับ
ต้องใช้กำลังใจมากกว่า ทำได้ยากกว่า ต้องใช้กำลังใจตั้งแต่ก่อนจะมา
แทบทุกคนจะถูกเจ้ากรรมนายเวรขัดขวางสารพัด ต่างๆนานา
ตั้งแต่อาการเบื่อหน่าย หมดกำลังใจที่จะมาสร้างบุญ มีธุระต่างๆ มีอุปสรรค์ขัดขวาง
ไม่ให้มาแต่ไม่มีใครเอาสมอบกมาโปรยตามถนนเหมือนขัดขวางม๊อบจากภาคใต้
ที่ขัดขวางไม่ให้มาก็คือ ผีหนี้แผ่นดิน นั่นแหละครับ
ต้องขอเจรจากับผีถ้าอยากรับบุญบ้านสวนฯ ก็ขอให้ยอมปล่อยให้มา
จะได้มาสร้างบุญและรับบุญด้วยกัน ยื้อไว้ก็ไม่มีประโยชน์
ต้องรวบรวมกำลังใจกันชนิดเต็มร้อย
บุญที่จะมาสร้างกันก็ คือ สร้างพระชำระหนี้แผ่นดิน ซึ่งไม่มีที่ไหน
นอกจากที่บ้านสวนฯแห่งนี้ นอกจากนี้ก็มีบุญแรงกาย มาช่วยกันสร้างมหาพีระมิด 
บุญทำเกษตร บุญสัฆทาน และก็ทำบุญด้วยปัจจัย 
เพื่อให้กิเลสและความโลภต่างๆลดลงบ้าง
ได้ตั้งแต่ ๑ บาทจนถึงเท่าไรก็ได้ครับ ตามกำลังทรัพย์ที่มีและไม่เบียดเบียนตนเอง
ธรรมทานแรกก็เริ่มด้วยกรณีของคุณสุดถนอม แก้วลา(เบ)ครับ
เก็บตกจากที่สาขา ๑๕ จัดธรรมะบำบัดสัญจรที่สถาบันเอไอที
พอดีมินิค่ายคราวนี้ คุณเบและลูกสาว ได้เข้าร่วมด้วย
คุณเบ เป็นคนลาว เธอเป็นนักศึกษาปริญญาเอกที่สถาบันเอไอที
มาอยู่เมืองไทยได้๑๔ปีแล้วพูดไทยชัด 
คุณเบเป็นมะเร็งที่ต่อมไทรอยด์ มา ๕ ปีแล้ว ไปหาหมอมาหลายรพ.แล้ว
บ้างก็บอกว่า ไม่เป็นมะเร็ง บ้างก็บอกว่าเป็นมะเร็ง  
สุดท้ายเธอก็ทำการรักษาด้วยตัวเองโดยการควบคุมอาหาร
ไม่ทานเนื้อสัตว์ กินยารักษาไทรอยด์ 
เจาะชิ้นเนื้อไปตรวจ ส่วนมากเป็นทางวิทยาศาสตร์ 
เธอมีก้อนแข็งๆที่ลำคอด้านขวาขนาดเท่าไข่นกกระทา
ตอนเห็นครั้งแรกที่เอไอทีจะเห็นได้ชัดเจนมาก
อยากรู้มั๊ยครับว่าเธอไปทำกรรมอะไรมา
เมื่อาจารย์อุบลถามว่าไปทำอะไรมา
ในตอนแรกเธอยังไม่มีใจน้อมรับ
เนื่องจากว่าไม่เห็นว่าจะเกี่ยวกันยังไง
เธอบอกว่าตอนอายุ ๑๒-๑๓ ที่บ้านเลี้ยงนกกระทาเยอะมากเพื่อเป็นอาหาร
และในหน้าหนาวนกก็จะตายมากเพราะไม่มีวัคซีนฉีดให้
จึงจำเป็นต้องฆ่าและนำมาเป็นอาหาร
วิธีการฆ่าแสนจะพิศดารคือเอานกมาใส่ระหว่างนิ้วทุกนิ้วข้างละห้าตัว
นิ้วก็จะหนีบอยู่ที่คดนกและเมื่อบีบตรงคอนกนกก็ตาย
ทำแบบนี้มา๒-๓ ปี ฆ่านกมาแล้วเกินพันตัว 
เธอบอกว่าตอนก่อนที่เธอจะบีบคอนก ก่อนตายนกเค้ามองหน้าด้วย
ตอนนั้นไม่รู้สึกผิดเพราะคิดว่าทำตามหน้าที่และเพื่อนำมาเป็นอาหาร 
พอมาอยู่เมืองไทยจึงรู้จักเรื่องศีลห้า
เมื่อมาเป็นมะเร็งที่ต่อมไทรอยด์ และมาสารภาพกับอาจารย์อุบลนั่นแหละ
เจ้ากรรมนายเวรเก่าทั้งหลายท่านจึงแสดงให้เห้น
การฆ่าของเธอก็มี นกกระทาเป็นพันตัว ไก่ กบ ปลา เพื่อเป็นอาหาร
และเมื่อนึกถึงกรรมของตนเองได้และสารภาพกับจี้และพีระมิด
ต่อมที่คอจึงแบนลงและไม่แข็งเป็นไตๆเหมือนตอนแรก
เมื่อผลที่เป็นอัศจรรย์ทันตาเห็นแบบสุดๆนี้ หมอก็รักษาไม่ได้
จากใจที่ไม่น้อมรับก็กลับมาเป็นศรัทธาที่เต็มเปี่ยม
เธอบูชาพีระมิดรุ่นพระนางเนเฟอร์ตารี รุ่นบ้านสวน รุ๋นความรักฯ
เมื่อใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ที่คอจะมีอาการกระตุกทุกครั้ง
เมื่ออาจารย์อุบลทำน้ำทิพย์ให้สามขวดพอเอามาแตะที่คอก็กระตุกเหมือนกัน
ถ้าเราจะพิสูจน์กันแบบวิทยาศาสตร์สไตล์นักศึกษาปริญญาเอก
เธอบอกว่าอาจารย์อุบลมีพลังงานที่ทำให้เกิดการหมุนเวียนได้
พวกเราแอบอมยิ้มกันใช่มั๊ยครับเพราะรู้ว่าอาจารย์อุบลท่านมีอะไร
ผมว่าผีนกกระทาเค้าคงดีใจมากที่ได้รับบุญ
เมื่อบูชารุ่นท่านท้าวเวสสุวรรณและรุ่นพระศรีอาริย์อาการที่คอไม่ค่อยกระตุกแล้ว
และใช้เครื่องสำอางเกสรบัวทาได้สามวันทุกคนทักกันหมดว่าหน้าใสไปทำอะไรมา
ตอนมาบ้านสวนคราวนี้อาการของคุณเบยังหายไม่หมด
ก้อนที่คอยังมีขนาดเท่าเดิมแต่อ่อนและยุบตัวลง
อาจารย์อุบลบอกว่ารู้มั๊ยว่าทำไมยังไม่หมด
เพราะ  แรกๆยังไม่ศรัทธา ยังทานเนื้อสัตว์ จำนวนผีที่เกาะอยู่มีเยอะ
แต่บุญที่ให้เค้ายังมีไม่พอ อาหารนิดเดียวจะกินพอได้อย่างไร
ยังชดใช้ค่าเสียหายยังไม่ได้เลย
สิ่งที่ช่วยได้คือบุญจาก ธรรมทาน จึงจะช่วยได้
หลังจากนี้ถ้าคุณเบต้องการให้ มะเร็งที่ต่อมไทรอยด์ หาย
เรามาดูกันว่าคุณเบจะเป็นอย่างไรครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-11-25 22:56:02


ความคิดเห็นที่ 33 (1671740)

 ผมว่ามินิค่ายครั้งนี้เหมาะมากสำหรับพวกเรา

โดยเฉพาะ ข้าราชการ ครู อาจารย์ และผู้ทำการค้าและประชาชนคนไทยตาดำๆ
เมื่อเราติดตามข่าวสารบ้านเมืองเราอาจจะมีเคือง
เพราะนักธุรกิจ เศรษฐีที่รวยๆ ยังหลีกเลี่ยงภาษี ยังซุกหุ้นให้ลูกและคนใช้เลย
แถมทั้งทุกวิถีทางที่จะโกงชาติบ้านเมืองติดหนี้แผ่นดิน
สุดท้ายไม่มีแผ่นดินจะอยู่ต้องหนีหัวซุกหัวซุน
จงภูมิใจเถิดข้าราชการจนๆ ท่านเสียภาษีรายปีมากกว่าเศรษฐ๊หลายๆคนในประเทศนี้
เรากินก๊วยเตี๋ยวด้วยความสบายใจไม่มีใครมาไล่
ชะอุ๋ย..ขอประทานโทษ มันอดไม่ได้
กลับมาบ้านสวนฯดีกว่า
เริ่มจากคุณสุรพัฒน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนในจังหวัดยโสธร 
มีความทุกข์ปวดเข่าปวดใหล่ บอกว่าเล่นฟุตบอลมา
พอมายกบ้านในตอนเย็นอาการปวดต่างๆหาย
แต่ประวัติผอ.ท่านไม่ธรรมดานะครับ
มาสายเป็นปกติอ้างว่าไปตรวจงานที่เขต
วัสดุอุปกรณ์ กระดาษโรงเรียน ไฟฟ้า น้ำประปา ใช้เต็มที่
แถมชวนเพื่อนมาจัดปาร์ตี้สังสรรค์ในโรงเรียนอีก 
ประหยัดครับไม่ต้องเปลืองไฟฟ้า และสถานที่
เวลาจะต่อเติมบ้านตัวเองก็มาเอาไม้ที่โรงเรียนนี่แหละ
ทำใบเสร็จปลอมเพิ่มเงิน ขอผลประโยชน์จากผู้รับเหมา 
นี่มันผิดกี่ข้อแล้วครับนี่
ท่านคงสุขสบายนะครับเงินเดือนสูงแต่เหลือใช้นิดเดียว
ท่านมีหนี้เยอะเหมือนผมเลย แต่ผมไม่ชอบเพิ่มวงเงินกู้เหมือนท่าน
ก่อนหน้าที่จะมาบ้านสวนฯท่านคงไม่นึกหรอกครับว่า
กรรมเหล่าทำให้มีหนี้สินมากและปวดขา ปวดไหล่ จนปัจจุบัน  
เมื่อได้มาบำบัด โดยถือพีระมิดรุ่น ชำระหนี้แผ่นดิน 
 อาการก็ดีขึ้น พอได้อธิษฐานขอเพิ่มจำนวนเป็น 9 องค์  อาการก็หายหมดเลย
กลับไปท่านสัญญาว่าจะกลับไปบอกลูกน้องที่ทำงาน
จะไม่ปกป้องลูกน้องในทางที่ผิดและจะไม่ทำผิดอีก
ขออนุโมทนา สาธุ ให้ท่าน ผอ. ทำได้อ่างที่รับปากนะครับ
...............................
ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-11-25 22:56:53


ความคิดเห็นที่ 34 (1671741)
ใครจะคิดว่าการเข้าค่ายคราวนี้
เด็กๆก็ติดหนี้แผ่นดินนะครับ กล้าหาญมาก 
เรามาดูกันว่าเด็กวัยรู่นเค้ามาสารภาพอะไรกัน
คนแรก น้องวินท์(อาชวินท์) นักเรียนชั้นม. ๖ ลูกชายคนที่สองของผมเอง
ติดหนี้แผ่นดินคือ ชอบขีดเขียนใช้ปากกา คัตเตอร์ 
เขียนโต๊ะที่โรงเรียนเกือบทุกตัว ประเภทมือบอนอยู่ไม่สุข
ทำให้โต๊ะที่โรงเรียนกลายเป็นศิลาจารึกบันทึกของเด็กมือซน
ชาร์ทแบตมือถือที่ โรงเรียนโดยใช้ไฟหลวง 
ใช้ wifiของ โรงเรียนไปเล่นเกม ไม่ได้ไปใช้หาความรู้ 
พ่อไม่รู้เลยนะเนี๋ย
แถมชอบแคะขี้มูกแล้วป้ายไว้ตามที่ต่างๆอีก
ทิ้งขยะลงท่อน้ำของโรงเรียน นั่งตรงไหนทิ้งขยะตรงนั้น 
เออ..ลมจับ  ลูกใครเนี๋ย ส่งไปเรียนหนังสือแท้ๆ
ผลปรากฏว่า น้องวินท์ไม่หายเป็นสิวสักที มีหลักฐานปรากฏอยู่ที่ใบหน้า
เพราะอาจารย์อุบลบำบัดให้ทุกรูปแบบแล้ว
ความจริงเพิ่งเปิดเผยคราวนี้เอง
ลูกชายสองคนมาสารภาพแต่ละทีเล่นเอาพ่อแม่ตั้งตัวแทบไม่ติด
คนที่สอง น้องกัน(กันต์สินี) นักเรียนชั้นม. ๑ 
ชอบลืมส่งใบงาน ชอบหนีเวร ทำความสะอาดชั้นเรียนตอนเย็น 
และใช้ wifiของโรงเรียนมาเล่นเกมเหมือนวินท์  
กรรมอันนี้ทำให้เธอมีความกังวลว่ามีผิวดำ
เพราะก่อนหน้านี้ไม่ดำเท่านี้ 
ตั้งแต่ไม่ทำเวรที่โรงเรียนนั่นแหละตัวก็ดำขึ้นเรื่อยๆ 
ไอยะ..ถ้าอย่างนี้ป้าๆลุงๆที่บ้านสวนฯคงโดดเวรกันเพียบเลย
ป้าๆ ไม่ใช่โดดทำเวรหรอกคะ ทำกรรมต่างหาก จ่อย....
ถึงแม้หนูจะชอบหลับในเวลาเรียนหนูก็ยังได้เกรด ๓.๘ เชียวนะ
มิน่าหละพวกลุงๆป้าๆ จึงชอบหลับในห้องเรียนตอนอาจารย์อุบลสอน คิ... คิ...
เป็นไงหละครับอายเด็กๆเค้ามั๊ย
ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-11-25 22:57:48


ความคิดเห็นที่ 35 (1671742)

 อาชีพผู้รับเหมาเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ชอบหลีกเลี่ยงภาษี

คุณนก(สุรดา  ศรีสุข) เป็นอีกผู้หนึ่งในการเข้าค่ายคราวนี้
เธอมีอาชีพเป็นผู้รับเหมาที่ดูแลงานต่อจากพ่อ 
คุณนกเล่าว่าหลีกเลี่ยงภาษีมาตลอด ๒๐ ปีที่ทำกับคุณพ่อ
ส่งเสริมการคอรับชั่นโดยการฮั้วประมูลกับหน่วยงานราชการ
เขียนเอกสารหลักฐานเท็จเพิ่มราคา ๕๐:๕๐ เปอร์เซนต์
เพื่อให้เกิดส่วนต่างให้หน่วยงานราชการ
บางครั้งก็ปลอมแปลงเอกสารราชการตราครุฑ เองพร้อมลายเซ็นต์
ความผิดนี้ถ้าอยู่ในหน่วยงานราชการก็ถูกลงโทษหนักขั้นไล่ออก
จ้างแรงงานต่างด้าวเถื่อน (ส่งเสริมแรงงานภายในประเทศจังเลยนะครับ)
ดูกฏหมายนะครับว่ามีบทลงโทษเช่นไร
ผลกรรมที่ได้ คือ คุณนกหาเงินได้มากขนาดไหนก็ไม่พอใช้
ตอนมีเงินก็ใช้จ่ายอย่างสนุกมือ
รับงานแต่ละครั้งก็ขาดทุนมาตลอดเพราะไม่มีความรู้ตีราคาผิด
ต้องยืมเงินนอกระบบ
ลูกน้องกระด้างกระเดื่องไม่เชื่อฟัง
มีหนี้สินประมาณ  5 ล้าน
พ่อแม่ทะเลาะกัน พ่อมีเมียน้อย ครอบครัวแตกแยก
ทางร่างกายคุณนกมีปัญหาผิวพรรณ มีสิวหนองและสิวหลุมที่หน้า   
นอกจากนี้คุณนกยังมีกรรม เกี่ยวกับกรรมทำแท้งด้วย 
และมีมโนกรรมที่แช่งอยากให้ลูกเมียน้อยตาย 
และเมื่อทุกข์จนถึงที่สุดคุณนกก็ควักเงินเกิบก้อนสุดท้าย
มาบูชาพีระมิดพระนางเนเฟอร์ตารีไป ๑๐ องค์
ผลปรากฏว่าชีวิตและการงาน การเงินก็ดีขึ้น
จึงมามาบูชาเพิ่มอีก ๑๐ องค์ได้รายได้เพิ่ม ๙ แสนกว่าบาท  
และหลังจากนั้นได้บูชาพีระมิด บารมีคู่ไป 
อีกเดือนได้รายมาอีก ๘ แสนบาทรวมสองเคือนก็ร่วมๆล้านกว่า
คุณนกได้บูชาพีระมิดรุ่นท่านรามเสสไป
ผลปรากฎว่าโฟร์แมนลูกน้องผู้ชายที่หือๆเงียบกริบ
เอ..อย่างนี้พีระมิดรุ่นท่านรามเสส ก็ไม่ใช่เฉพาะผู้ชายแล้วซิครับ
ดูจากกรณีคุณนก ฟันธงได้เลยครับว่าใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง
สำหรับส่งเสริมความเป็นผู้นำ จะได้ปกครองลูกน้องได้
 
ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-11-25 22:58:40


ความคิดเห็นที่ 36 (1671743)

 กรณีของคุณศิริชัยไม่น่าเชื่อนะครับว่า 

การที่เคยจับตะขาบเป็น ๆ มาใส่ในขวดเหล้าให้ตะขาบแข็งตาย 
ซึ่งเมื่อคืนวันที่ ๑๐ พ.ย. ตอนตีสอง 
คุณศิริชัยมีอาการไม่ต่างอะไรกับตะขาบในขวดเหล้าเลย
คือไม่มีแรงเดินไม่ได้ ได้แต่กำมือ พูดได้แต่เคลื่อนไหวตัวเองไม่ได้
นอกจากนั้นวจีกรรมที่คุณชัย เคยไปว่าแม่ยาย ที่เป็นอาการอัมพฤต
ว่าแกล้งไม่ยอมยกตัวขึ้น และทำไมถึงเดินขาลากแบบนี้  
ในที่สุดเมื่อถึงเวลาที่กรรมรวมตัวกัน
ก็ทำให้คุณชัยมีอาการแบบเดียวกับที่ว่าคุณแม่ยาย
เมื่ออาจารย์เดือนหัวหน้าสาขาบ้านสวนพีระมิดที่สารคาม
บำบัดให้เกือบสามชั่วโมงอาการจึงจะดีขึ้น 
จึงยอมถูกลากถูลู่ถูกังไปโรงพยาบาลที่ขอนแก่นเพราะตัวหนัก
และทำให้กระดูกเท้าแตก
หมอไม่สามารถจะช่วยได้
แต่ตลอดเวลาที่คุณชัยอยู่ที่โรงพยาบาลได้ภาวนา
รหัส "อาจารย์อุบลช่วยด้วย" และใช้วัตถุมงคลบ้านสวนฯทุกอย่าง
เป็นที่พึ่งสุดท้ายจนอาการหายเป็นปกติ
จนหมอและพยาบาลแปลกใจกับอาการที่หายเป็นปกติภายใน ๑๐ ชั่งโมง
แต่คุณชัยไม่กล้าที่จะบอกหมอและพยาบาลว่าหายเพราะอะไร
ไม่รู้ว่ากลัวอะไร อายหรือที่จะบอก สิ่งดีๆที่ตนได้รับ
มันฟังดูคล้ายกับคนเห็นแก่ตัว 
ไม่ซาบซึ้งในบุญคุณครูบาอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนก็เคารพสูงสุด
ที่ท่านเมตตาช่วยเหลือให้พ้นจากสภาพตายทั้งเป็นจากอาการอำมพาต
คุณชัยมีโอกาสที่จะได้สร้างบุญธรรมทานที่ยิ่งใหญ่
แต่ก็ไม่กล้าที่จะเผยแพร่สิ่งดีๆ ของบ้านสวนพีระมิด
ไม่กล้าบอกต่อให้ผู้อื่นใด้พ้นทุกข์บ้าง 
น่าเสียดายจริงๆครับโอกาสนั้นไม่มีอีกแล้ว
ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-11-25 22:59:39


ความคิดเห็นที่ 37 (1671744)

 " พวกเราถ้าไม่มีปัญหาก็จะไม่นึกถึงอาจารย์อุบล 

จะนึกถึงอาจารย์อุบลเป็นคนสุดท้าย "
อาจารย์ครับผมขอกราบขอโทษอาจารย์
ผมได้ยินอาจารย์อุบลท่านพูดประโยคนี้แล้ว
รู้สึกสะอึกอยู่ในใจ มันจุกอยู่ที่คอ
รู้สึกตนเองผิดมากที่ทำให้อาจารย์ต้องพูดประโยคนี้ออกมา
แต่มันเป็นความจริงที่สุด ผมยังมีความคิดที่เห็นแก่ตัว 
ต้องการแต่ประโยชน์ของตนเป็นที่ตั้ง 
ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
ยังมีเรื่องเดือดร้อน ยังมีเรื่องทุกข์ใจ
เรายังมาหวังพึ่งอาจารย์เพื่อขอความช่วยเหลือ
".....แล้วจะมาหาอาจารย์อุบลทำไม "
ผมทราบว่าอาจารย์และครอบครัวเสียสละความสุขของตนเอง
ทุ่มเทกำลังกายกำลังใจและกำลังทรัพย์
อย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย
แต่พวกเราก็ยังทำให้อาจารย์เสียใจ
ต่อแต่นี้ไปขอสัญญาว่าจะไม่ทำอะไร
ให้อาจารย์ต้องเกิดความรู้สึกแบบนี้อีก
ผมและครอบครัวภิรมย์รักษ์ รักและเคารพอาจารย์อย่างที่สุดครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น อภิชัย ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2013-11-25 23:00:43



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.