กราบเรียน :  ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล คุณท็อป

เรื่อง : ขออนุญาตเข้าบ้านสวน

วันที่ต้องการเข้าบ้านสวนพีระมิด :  วันจันทร์ ที่ 12 พฤษภาคม 2557 เวลา 19.00 น. - วันอังคาร ที่ 13 พฤษภาคม 2557

จำนวน : 1 คน ชื่อ  นายภัคณัฐฎ์  ธรณ์วรรธ์ธนา

จังหวัด : สระบุรี

สถานที่ทำงาน :    -

การค้างคืน : -

วัตถุประสงค์ :  รับบารมีพระศรีอาริย์  , เตรียมค่าย 21 ,ร่วมบุญแรงกาย และบุญอื่นค่ะ

รถยนต์ : รถอีซูซุ นข 4466 สระบุรี

การรับประทานอาหาร : รับประทานอาหารที่บ้านสวนและนำวัตถุดิบไปร่วมทำบุญค่ะ

  จึงเรียนมาเพื่อขออนุญาต กราบขอบพระคุณด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ

  กราบเรียน :  ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล คุณท็อป

เรื่อง : ขออนุญาตเข้าบ้านสวน

วันที่ต้องการเข้าบ้านสวนพีระมิด :  วันอังคาร ที่ 13 พฤษภาคม 2557

จำนวน : 1 คน ชื่อ  นางสำอางค์  สมิตะสิริ

จังหวัด : สระบุรี

สถานที่ทำงาน :    -

การค้างคืน : -

วัตถุประสงค์ :  รับบารมีพระศรีอาริย์  , เตรียมค่าย 21 ,ร่วมบุญแรงกาย และบุญอื่นค่ะ

รถยนต์ : รถอีซูซุ นข 4466 สระบุรี

การรับประทานอาหาร : รับประทานอาหารที่บ้านสวนและนำวัตถุดิบไปร่วมทำบุญค่ะ

  จึงเรียนมาเพื่อขออนุญาต กราบขอบพระคุณด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ

 กราบเรียนท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล และ คุณท๊อป

กราบขออนุญาตท่านพ่อดตาจินิน สมเด็จองค์ปฐม ท่านเวสสุวรรณ สิ่งศักดิ์ทุกพระองค์ที่คุ้มครองบ้านสวนพีระมิด

เรื่อง  ขออนุญาตเข้าบ้านสวนพีระมิด ในวันอังคารที่ 13 พฤษภาคม 57

ชื่อ  อุษณีย์ เอกสุทธิ์  ชื่อเล่น แนน  อยู่จังหวัดสมุทรสาคร

สถานที่ทำงาน  บริษัท จีอาร์เรฟเวอนิว   ตำแหน่งพนักงานขาย

การค้างคืน     ไม่ค้างคืน

วัตถุประสงค์  สร้างบุญแรงกายถวายเป็นพุทธบูชา ทั้งสังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน เตรียมค่าย 21 : รับบารมีพระศรีอาริย์ ป้องกัน ถอดถอนและประหารมาร อสูร ซาตาน 

การเดินทาง  โดยรถยนต์  ฮอนด้า ทะเบียน ญฉ  8057 

การรับประทานอาหาร   ขออนุญาตรับประทานอาหารที่บ้านสวนพีระมิด

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา และกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล คุณท๊อป และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์แห่งบ้านสวนพีระมิด

     ได้มีโอกาสร่วมบุญวันพระใหญ่ "วันวิสาขบูชา + รับบารมีพระศรีอาริย์แค่เดินผ่านก็หาย"วันอังคารที่ 13 พ.ค.2557 ช่วงเช้าช่วยกันปรับพื้นที่ด้านหน้าเพื่อปูกระเบืิ้อง และวางกระถางต้นมะเขือการ์ตูน ช่วงบ่ายท่านอาจารย์อุบล ได้เมตตาบอกการที่เราอาจรับคุณไสย์ มนต์ดำ วิธีป้องกันคุณไสย์ มนต์ดำทุกรูปแบบที่สิงสู่ในตัวคน เช่น การมองตากัน ทางการสัมผัสร่างกาย การรับประทานอาหารร่วมกัน การนิยมชมชอบหรือชื่นชม เป็นสิ่งที่เราต้องพึงระวัง ไม่ใช่คิดว่าเรามีอาจารย์ดีเมื่อถูกคุณไสย์มนต์ดำก็ให้อาจารย์ช่วย เราต้องรู้จักวิธีป้องกันตัวเองด้วย นอกจากนี้ยังได้ทำน้ำทิพย์ และลูกอมอภิญญา ซึ่งพิเศษสุดขวดน้ำทิพย์นี้นำได้แตะกับขวดน้ำอื่น ๆ ก็เป็นน้ำทิพย์เช่นเดียวกันสามารถใช้ได้ถึง 14 มิ.ย.57 และท่านอาจารย์อุบลได้มอบเทวดาให้อีก 99,999 องค์ กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุก ๆ พระองค์ อาจารย์มงคล คุณท๊อป คุณธนา และลูกบ้านสวนทุกท่านครับสาธุ สาธุ สาธุ

มนต์ดำ คุณไสย มีจริงหรือ ? ถ้าเจอกับท่าน จะแก้ไข หรือป้องกันอย่างไร 

ชายหนุ่มลูกบ้านสวน ต่อสู้กับมนต์ดำอย่างโชกโชน จนได้ประสบการณ์ที่มีประโยชน์ จึงมาเล่าสู่กันฟัง ไม่ให้คืนอื่นต้องมาเจออย่างเขาอีก

ปัจุบันคนสมัยใหม่ ในยุค ไอ ที ยุควิทยาศาสตร์ครองเมือง ไม่มีใครเชื่อว่า มนต์ดำ คุณไสย มีจริง ไม่รู้กันเลย ใครได้ยินคำนี้ ก็จะบอกว่า หัวโบราณ ไม่มีอยู่จริงหรอก ใครเชื่อก็หาว่า งมงาย เป็นไปไม่ได้ที่จะมีขึ้นในยุคสมัยใหม่เช่นนี้ แต่ชาวบ้านสวนพีระมิด รู้จัก และ ซาบซึ้งกับ เรื่องนี้ดี มันไม่ใช่เรื่องงมงาย แต่มันมีอยู่จริง เกิดขึ้นแล้ว กับคนในบ้านสวนพีระมิด  ในวันวิสาขะบูชาที่ผ่านมา 13 พค. 57  เป็นวันดี ที่ท่าน อ.อุบล ได้เมตตาจัดกิจกรรมทำบุญขึ้น โดยมีการทำบุญแรงกายกันตอนเช้า และ ช่วงบ่าย ก็มาทำการ ถอนมนต์ดำคุณไสยกัน โดยให้ลูกบ้านสวนคนนั้น ได้เป็นผู้เล่าประสบการณ์ดังกล่าวให้ฟัง เพื่อให้พวกเราที่กำลังโดนมนต์ดำ คุณไสย อยู่ หรือ ที่จะเกี่ยวข้องต่อไปในอนาคต ได้เฝ้าระวัง ได้รู้ทัน กลโกง ของผู้ทำมนต์ดำ เราจะได้ไม่ต้องรับมันเข้ามาในชีวิตอีก  เพราะคนที่โดนมนต์ดำ จะมีจิตใจตกต่ำ เศร้าหมอง มีแต่ทุกข์ บางทีก็เกิดเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ฐานะการงาน การเงิน ก็ย่ำแย่ ยากจนลงทุกวัน

        ลูกบ้านสวนท่านหนึ่ง ที่เป็นกำลังสำคัญของบ้านสวนพีระมิด เป็นผู้ช่วยท่านอาจารย์อุบล เพื่อให้กิจกรรมธรรมะบำบัด ได้ดำเนินไปอย่างราบรื่น รวมทั้ง ประสานงานในการทำกิจกรรมต่างๆ ของบ้านสวนฯ ตั้งแต่การทำบุญแรงกาย ในการเกษตร ก่อสร้าง สร้างองค์พระ และอื่นๆ มองภาพรวม เขาเป็นคนที่มีทุกอย่างเพียบพร้อม เป็นคนมีธรรมะในใจ มีความรู้ทางธรรมมากพอ ที่จะถาม ตอบ กับท่าน อ.อุบล  คนอย่างนี้เป็นเป้า ให้มาร มารก่อกวน  จึงมีคนไม่ดี ที่คอยอิจฉา อ.อุบล อยากล้มล้าง งานเผยแพร่ธรรมะของบ้านสวนพีระมิด เมื่อปลายปี 56 ที่ผ่านมา  คนที่คอยคิดร้ายต่อ อ.อุบล ได้เปิดโฉมหน้าออกมา ทีละคน จนในปัจจุบัน เราพบแล้ว 4 คน คนเหล่านี้ เป็นปีศาจในร่างมนุษย์ ซึ่งจะขอเรียกเขาเหล่านี้ว่า มาร  คนแรกที่ ชาวบ้านสวนพีระมิดพบคือ มารปากดำตู หรือ ยัยปาริชาติ ชมภู  คนที่ 2 ชื่อ ยัยซิ้มตู หรือบุญศิริ คนที่ 3 ชื่อ ยัยหมาเรื้อนตู หรือ ปวีณา แค้มป์ คนที่ 4 ชื่อยัยกร่างตู หนึ่ง เจิดหทัย (ข้อสังเกตที่ได้เห็นก็คือ ชื่อของมารทั้งสี่ มีการลงท้ายด้วยคำว่า ตู เนื่องมาจากว่า เราเชื่อว่าคนเหล่านี้ เป็นผู้ที่ถูกจอมมารสูตู จากต่างดาว ใส่จิตวิญญาณ มารที่จะทำชั่วมาตั้งแต่เกิด พอได้จังหวะที่คนเหล่านี้ทำชั่ว ผิดศีล ยีน หรือ DNA ที่ฝังไว้จะแสดงฤทธิ์ เพื่อมาทำร้ายคนดี)

ในที่นี้จะได้เน้นไปที่ ความเลวร้ายของยัยซิ้ม บุญศิริ ก่อน คนนี้เป็นพยาบาล ทำงานต่างประเทศ เคยมีส่วนรู้เห็นในการทำแท้ง นับไม่ถ้วน เขามีสามี ชื่อ วีระ เป็นนักธุรกิจ เจ้าของสนามกอล์ฟ เจ้าของโรงแรมที่พัทยา เข้ามาบ้านสวนฯ โดยทำตนเป็นคนพิเศษ เอารถพักแรมคันใหญ่มาจอดที่บ้านสวนฯ และทำตัวเหนือคนอื่น ๆ ไม่เคยไปทำบุญด้วยแรงกาย ไม่ศรัทธาบ้านสวน เขาเคยเห็นคนที่มาบำบัดกับ อ.อุบล เช่น ก้อนเนื้อที่คอ ยุบไปต่อหน้าต่อตา แต่ก็บอกว่ายังไม่เชื่อ ไม่ได้ศรัทธาอะไร แต่มาเกาะ ยัยซิ้ม เป็นมารตัวเป้งในการทำมนต์ดำคุณไสย  วันหนึ่งเขาเชิญอาจารย์ไป บรรยายธรรมะให้คนที่อเมริกาฟัง โดยพูดคล้าย ๆ ว่าจะเป็นเจ้าภาพ ออกค่าเดินทางให้ แต่จริง ๆก็เปล่า อ.อุบล ออกเงินเอง

ก่อนไปอเมริกา ตอนที่เขาเชิญ อ.อุบล และคณะไปทีสนามกอล์ฟที่นครปฐม   เขาได้พยายามทำมนต์ดำใส่ ชายลูกบ้านสวน โดยเรียกมานั่งคุยกันสองคน จ้องหน้า ไม่ให้ชายคนนั้นหลบตาไปไหน และ พยายามคุยกันแค่ 2 คน แม้ อ.อุบล จะพยายามมาขัดจังหวะ โดยลากเก้าอี้มานั่งด้วย ก็ไม่ได้ผล เขาก็จะจ้องตากันตลอดไม่ให้คลาดสายตาเลยทีเดียว ยิ่งคุย ยิ่งมอง มนต์ดำยิ่งเข้า จนเขาไปหลงรักนางเลย  พอขึ้นเครื่องไปอเมริกา นางก็สานมนต์ต่อ โดยพยายามนั่งใกล้กันตลอด จนแขนสีกัน เอามือลูบขา

วันหนึ่ง คณะที่เดินทาง  ที่ไปช๊อบปิ้งกัน นางซิ้ม ซื้อเสื้อสีชมพูมาใส่ แล้ว บอก อ.อุบลว่าจะไม่ใส่เสื้อที่ยังไม่ซัก แต่นางก็ใส่จนได้ พอชายหนุ่มเห็น นางซิ้มใส่เสื้อ ก็เกิดอาการหลง เห็นกงจักรเป็นดอกบัว จากผมที่เหมือนไม้กวาด บานแฉ่ง คล้ายแม่มดเมดูซ่า  เขาก็เห็นเป็นเหมือนผมที่ตรงยาวสลวย เสื้อนั้นก็ชมว่าหวาน เซ็กซี่ จึงนับว่าเป็นการพูดโกหก ปากไม่ตรงกับใจ เพราะความจริง ยายซิ้ม หน้าตา น่าเกลียด ตัวอ้วน เหมือนผู้ชาย จะหวานไปได้อย่างไร

เหตุการณ์ต่อไปนี้ เป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริงกับ ชายลูกบ้านสวน ผู้โดนมนต์ดำ จากซิ้มตู ตอนที่ไปอเมริกา 

สัมผัส แตะตัว ลูบตัว  ชายที่ถูกมนต์ดำ จะมีอาการเบลอ หลง ไปเดินตามซื้มตู ละเลยหน้าที่ แทนที่จะดูแลครูบาอาจารย์ คือ อ.อุบล ที่ไปด้วยกัน กลับไปหลงหญิงแก่ อย่างโงหัวไม่ขึ้น  เขาจะคล้องแขนกัน นั่งชิด กัน เบียดกันในรถ แขนชิดแขน ทำให้มนต์ดำ ไหลสู่ตัวเต็มที่และง่ายดาย

ทางแก้  ถ้าเจอใครมาทำเช่นนี้กะเรา คือ คล้องแขน ถูกตัว เราต้องบอกไปตรง ๆ ว่าเราไม่ชอบ เพราะ มันเป็นมารยาทของสังคมไทยหรือ ที่หญิงกะชาย ที่ไม่ได้เป็นสามี ภรรยา หรือแฟน กัน จะมาเดินคล้องแขน ถ้ามีสติคิดได้เช่นนี้ เราก็จะรู้ว่า นี่ไม่ใช่ธรรมดาแล้ว อาจเป็นแผนอย่างหนึ่งที่มาร กำลังส่งมนต์ดำใส่เรา 

ชื่นชม ปลื้ม  การที่ชายหนุ่มคนนี้ไปชม ยัยแก่ซิ้มตู ที่อ้วนเผละ หน้าตาอับลักษณ์ คล้ายผู้ชาย ผมก็กระเซอะกระเซิง แต่เขากลับ ตอแหล ปากไม่ตรงกับใจ พูดชมเขา ว่าหวาน สวย เซ็กซี่ อันนี้ถือว่าผิดปกติ เข้าข่ายหลงรัก แบบไม่ดูตาม้าตาเรือ แสดงว่าเขารับมนต์ดำมาแล้ว  อาการน่าเป็นห่วง

จ้องหน้า พูดคุย  ชายลูกบ้านสวน ชอบไปคุยกับ ยายซิ้มตู สองต่อสอง หรือ แม้จะอยู่ท่ามกลางผู้คน ก็ทำท่าเสียมารยาท ไม่สนใจเข้าสังคมกับผู้อื่น จ้องตาอยู่กับยายซิ้มตู  ถ้าให้แก้ ทุกคนต้องฝึกนิสัยที่เวลาคุยกับใครอย่าไปจ้องตรง ๆ  แต่ให้มองไปรอบๆ มองดิน ฟ้า อากาศ หรือคนอื่น ๆ ด้วย มิฉะนั้น ถ้าจ้องจุดใดจุดหนึ่ง ก็จะรับมนต์ดำ อย่างจังเลย

ถ้าเห็นเพื่อน หรือคนรู้จักมีพฤติกรรมผิดปกติ ต้องพยายามเรียกสติ เขากลับมา โดยดึงตัวไปพูด เรียกสติ    ส่วนทางแก้อีกทางคือ ต้องอาศัย ความเมตตาของเพื่อนข้างๆ  ควรจะสังเกตเพื่อนของเราให้ดี ถ้าเขาเปลี่ยนไปมาก แบบขาวกะดำ แบบนี้ แสดงว่าต้องมีอะไรผิดปกติ แน่นอน เราควรแยกเขาออกจาก หญิงแก่ หรือใครก็ตามที่ประสงค์ร้ายใส่มนต์ดำ แล้วพูดเตือนเขาไปตรง ๆ ว่า ตอนนี้เธอกำลังทำอะไร เธอทำหน้าที่ถูกต้องแล้วเหรอ เธอมากับ อ.อุบล ทำงานกับ อ.อุบล รับเงินจากอาจารย์ เดินทางก็ใช้เงินอาจารย์ ทำไมไม่ดูแลท่าน ละทิ้งหน้าที่ไปดูแลหญิงแก่ คราวแม่ หน้าตาน่าเกลียดได้ยังไง  การเตือนตรงๆ เช่นนี้อาจช่วยดึงสติให้เขากลับมาได้

ผลกรรมที่ผู้ทำมนต์ดำใส่คนอื่นได้รับ

ยายซิ้มได้รับผลกรรมมากมาย คือ นางชอบเล่น การพนัน และเสียเงินไปกับการพนัน  เป็นหนี้สิน ร้อย ๆ ล้าน  ทรัพย์สิน เสียหายถูกทำลาย เช่น รถกอล์ฟ ที่โรงแรมในเมืองไทยถูกไฟไหม้  บ้านที่ญี่ปุ่น ถูกโจนปล้น ลูกสาว เจ็บป่วย ต้องผ่าตัดกราม  เหล่านี้เป็นความทุกข์ ที่ทำให้เจ้าตัว แก้ไม่ตก  และพอนางเห็น อ.อุบล ผู้มีบุญ ช่วยคนให้หายจากโรคได้  แถมยังรวย นางจึงอิจฉา ตาร้อน ทำมนต์ดำใส่คนบ้านสวน ฯ เพื่อหวังจะตัดกำลังของ บ้านสวนพีระมิด  ความอิจฉา ยิ่งทำให้รูปร่างหน้าตาของนาง อัปลักษณ์ มากยิ่งขึ้น

การแพร่มนต์ดำ จากคนเลว สู่คนดี หรือจากคนเลวด้วยกัน มิใช่เป็นสิ่งที่เพิ่งเกิดในยุคนี้ แต่มันมีมานาน หลายชั่วอายุคน ประสบการณ์จากบ้านสวน น่าจะมีประโยชน์ต่อ คนไทยในสังคม ที่มีแต่ความแก่งแย่ง สู้รบกัน จนคล้ายเกิดสงครามกลางเมืองกันไปแล้ว  ก็เพราะมนต์ดำนี้เป็นสาเหตุใหญ่ คนที่ผิดศีล จิตตก ก็จะยิ่งเพิ่มการรับมนต์ดำได้ง่ายยิ่งขึ้น มนต์ดำไม่ใช่กำจัดไม่ได้ ทำได้ ถ้าเรารู้วิธี และมีสติ ผู้ที่รู้ตัว และพยายามป้องกัน ไม่รับมาอีก พร้อมกับการสร้างความดี รักษาศีล เอาชนะความชั่วให้ได้ เขาก็จะปลอดภัยจากสิ่งเหล่านี้

วันที่13พฤษภาคม2557 เป็นวันวิสาขบูชา ได้มีโอกาสไปทำบุญใหญ่ที่บ้านสวนพีระมิด อันเกิดจากความเมตตาของท่านอ.อุบลที่ได้จัดให้มีกิจกรรมเพื่อทำบุญในวันพระใหญ่ และให้ได้รับบารมีพระศรีอาริย์ แค่เดินผ่านก็หาย ครั้งแรกคิดว่าคงจะไม่ได้ไปร่วมบุญในครั้งนี้เนื่องจากที่ทำงานมีกิจกรรมประชุมผู้ปกครอง แต่ก็มาตัดสินใจกับสามีว่าเราควรจะไปร่วมบุญในวันพระใหญ่ดีกว่า เพราะหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบในทางโลกได้ทำเรียบร้อยแล้ว ควรจะไปทำบุญในวันพระใหญ่ซึ่งเป็นวันสำคัญทางศาสนาและท่านอ.อุบลก็ได้มีเมตตาจัดให้มีกิจกรรมดี ๆ ในวันนี้ จึงเตรียมซื้อสิ่งของต่าง ๆ เช่น ข้าวสาร ซอสปรุงรสต่าง ๆ        โอวัน ติน ขนมต่าง ๆ น้ำพริกตาแดง ถุงมือ เพื่อร่วมทำบุญ และเมื่อเดินทางไปถึงก็มีโอกาสได้ร่วมบุญแรงกาย โดยการไปช่วยปรับหน้าดิน ปูกระเบี้อง เพื่อตั้งกระถางต้นไม้ด้านหน้าบ้านสวนพีระมิดให้สวยงาม เป็นการจัดสถานที่เตรียมการเข้าค่ายรุ่นที่21 แต่ทำไปได้พักสักใหญ่ก็เกิดอาการเหมือนจะเป็นลม จึงตัดสินใจเดินกลับเข้ามาภายในบ้านสวนและตัดสินใจใช้แรงกายโดยการกวาดใบไม้บริเวณใต้ต้นมะม่วงด้านหน้าองค์พีระมิดทั้ง5พระองค์แทน และระหว่างที่กวาดใบไม้ก็ได้ฟังธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำไปด้วย ทำให้รู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก และก็คิดในใจเข้าข้างตัวเองว่าเบื่้องบนคงอยากจะให้มาใช้แรงกายและฟังธรรมะตรงนี้มากกว่า เพราะกวาดใบไม้บริเวณนั้นเป็นชั่วโมงกลับไม่มีอาการจะเป็นลมเหมือนกับที่เคยเป็นมาแล้ว 2ครั้ง และพอพักรับประทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว ท่านอ.อุบลได้มีเมตตาจัดกิจกรรมล้างคุณไสย์มนต์ดำโดยการเล่าเรื่องและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ทำให้รู้ว่าคุณไสย มนต์ดำและสิ่งไม่ดีได้เข้าไปในตัวของแต่ละคนอย่างไรบ้าง โดยยกกรณีตัวอย่างของลูกบ้านสวนผู้ที่อยู่ใกล้ชิดและร่วมเดินทางไปทำกิจกรรมธรรมะบำบัดสัญจรกับอาจารย์มากที่สุด ยังไม่สามารถรอดพ้นจากมารที่คอยทำลายล้างอาจารย์อุบลและบ้านสวนพีระมิดได้ ท่านอาจารย์อุบลจึงได้ใช้เรื่องที่เกิดขึ้นนี้เล่าเป็นธรรมทานเพื่อให้ทุกคนรู้ว่าคุณไสย์มนต์ดำเข้าได้หลายทางและมีวิธีป้องกันไม่ให้เข้าตัวเราได้อย่างไร เช่น 1.เข้าทางมองตากัน ก็ให้แก้โดยการไม่จ้องตาคนที่เราพูดด้วยตลอดเวลาให้พยายามมองรอบ ๆ สลับกับมองตาคนที่เราพูดด้วย 2.เข้าทางสัมผัส แตะเนื้อต้องตัวกัน ท่านอ.อุบลให้แก้โดยให้ลูกบ้านสวนทุกคนอย่ามีความเกรงใจคนไม่ดี ให้่กล้าพูดกล้าบอกกับคนที่มาแตะเนื้อต้องตัวเราว่าเราไม่ชอบให้ทำแบบนี้ เพราะคนเรามักจะมีความเกรงใจไม่กล้าบอกจึงทำให้สิ่งไม่ดีเข้ามาในตัวเราได้ 3.ทางการพูดชมเชย อาจารย์อุบลสอนว่า เวลาจะพูดจะชมใคร อะไรก็ตาม ให้ดูให้ดีว่าสิ่งที่ชมไปนั้นเป็นตามความเป็นจริงอย่างที่พูดไปหรือเปล่า ให้พูดชมอย่างมีสติ ตามความเป็นจริง 4.ทางกินอาหารร่วมกัน ให้แก้โดยพยายามอย่ากินอาหารร่วมกับคนที่คิดว่าไม่ดี 5.ทางการคล้องแขนกัน ให้แก้ด้วยวิธีการเช่นเดียวกับคนที่จะมาแตะเนื่อต้องตัวเรา  และที่สำคัญอาจารย์ท่านได้เมตตาล้างคุณไสย์มนต์ดำที่อยู่ในตัวของผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนแล้ว  และเตือนให้ทุกคนสังเกตุ  และอย่าไปรับมันเข้ามาในตัวอีก และท้่ายสุดที่สำคัญท่านอาจารย์สอนว่าให้มีเมตตาให้อภัยกับคนที่คิดไม่ดีทำคุณไสย์มนต์ดำใส่เรา อย่าไปอาฆาตพยาบาท เพราะคนพวกนั้นท้ายสุดก็ต้องได้รับผลกรรมตามที่เขาได้ก่อไว้เช่นกัน ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล อาจารย์มงคล คุณธนา และสิ่งศักดิสิทธิ์บ้านสวนพีระมิดทุกพระองค์ กราบ กราบ กราบ ท้ายสุดก่อนจะกลับบ้านได้มีโอกาสได้สนทนาและถามอ.อุบลว่าทำไมเวลามาใช้แรงกายที่บ้านสวนพีระมิดแล้วจึงเกิดอาการเป็นลมถึง 2ครั้ง และครั้งที่3 (วันนี้)เพียงแค่เกิดอาการจะเป็นอีก อาจารย์อุบลก็ได้มีเมตตาบอกว่าเคยเกี่ยวข้องกับการทำแท้งหรือไม่  ดิฉันจึงตอบอาจารย์ว่าเคยคิดโดยบอกหมอว่า "ยังไม่พร้อมจะทำอย่างไรดี" หมอก็ให้นามบัตรมา1ใบ แต่หลังจากออกมาจากโรงพยาบาลก็ไม่คิดจะทำ   แต่สุดท้ายลูกก็แท้งไปเอง โดยหมอบอกว่าโครโมโซมผิดปกติ ซึ่งอาจารย์ก็บอกว่าแค่เป็นเพียงมโนกรรมก็ถือว่าผิดเหมือนกับได้ทำไปแล้ว ดังนั้นลูกก็เหมือนอยู่กับตัวเรา ต้องการบุญ อาจารย์อุบลจึงให้ทำบุญให้ลูกที่แท้งไป โดยการบูชาพีระมิดรุ่นพระนางเนเฟอตาลีให้ลูกที่เราคิดจะทำแท้งเดือนละ 1 องค์ ซึ่งดิฉันก็ได้บูชาและตั้งใจจะบูชาตลอดไป เพื่อพระนางเนเฟอตาลีจะได้เมตตาให้ลูกได้อนุโมทนาและส่งไปสู่นิพพาน ซึ่งผลจากการผิดศีลข้อนี้ ทำให้ได้รับผลกรรม เช่น ลูกดื้อ ไม่เช่ื่อฟัง จึงขอให้เหตุการณ์ที่เกิดกับตนเอง เป็นธรรมทานให้กับทุกท่านที่คิดจะทำในสิ่งที่ไม่ดี จงเลิกคิดและอย่าได้ทำ เพราะผลที่ได้รับมันจะติดอยู่ในใจเราตลอดไป  ทุกวันนี้ยังคิดว่า ทำไมเราถึงได้คิดในสิ่งที่ไม่ดีไปอย่างนั้นได้อย่างไรกัน