กราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด อาจารย์อุบล ครอบครัว และลูกหลานบ้านสวนทุกท่านค่ะ

ขออนุญาตินำพากลุ่มผู้ศรัทธาท่านอาจารย์อุบล เข้ารับธรรมะบำบัด ร่วมกิจกรรม เพื่อมุ่งเน้นการปลดล๊อคความจน คุณไสยมนต์ดำที่รับมาแบบทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว และเพื่อพิสูจน์อานุภาพของวัตถุมงคลบ้านสวนพีระมิดที่ใช้ร่วมกับธรรมะบำบัด แบบเห็นผลฉับพลันทันที สำหรับอาการเจ็บป่วย เช่น ปวดแขน ปวดขา ปวดหลัง หลังโก่งโค้งงอ เบาหวาน หัวใจ ตาต้อ เจ็บลิ้น ลิ้นแห้ง และ ฯลฯ

กราบขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด อาจารย์อุบล คุณธนา และลูกหลานบ้านสวนทุกท่านที่ให้โอกาสค่ะ

 กราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด ท่านพ่อดตาจินิน พระปฐมบรมธรรมบิดา อาจารย์อุบล คุณธนา ดร.จุ๋ม ดร.จิ๋ม หัวหน้าสาขาทุกท่าน และลูกหลานบ้านสวนทุกคนค่ะ

เจนนี่ได้เดินทางไปร่วมกิจกรรม เห็นบรรยากาศในห้องดูคลาสสิค หรูหรา มีความพร้อมเรียบร้อย อลังการ ไม่มีที่ติ ทั้งการต้อนรับ รอยยิ้ม แรกก้าวเท้าเข้าสู่บรรยายกาศความหรูหรา เหมือนสถานที่อันทรงเกียรติจริงๆค่ะ

ขออนุญาตเล่าถึงบางเคสในช่วงธรรมะบำบัด..มีอยู่เคสหนึ่งชื่อคุณชูฝัน พิสุทธิจินดาที่กรณีเจ็บขาและแม้แต่วัตถุมงคลก็ช่วยไม่ได้ เมื่อท่านอาจารย์อุบลได้ไต่สวนกรรมแล้วปรากฏว่าเข้าข่าย อนันตริยกรรม คือ แม้จะขอร้อง เรียกร้อง อ้อนวอน ต่อสิ่งศักดิ์สิทธื์ หรือใช้รหัส อาจารย์อุบลช่วยด้วยก็ไม่เกิดประโยชน์ หรือวัตถุมงคลใดๆไม่สามารถช่วยได้ เพราะเป็นกรรมหนัก คือปรามาสพระพุทธเจ้า(ถือว่าการปรามาสท่านอาจารย์อุบลเป็นการปรามาสพระพุทธเจ้าด้วยเพราะพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ได้ลงมติให้ท่านอาจารย์อุบลเป็นตัวแทนของท่าน ทั้งกาย วาจา และใจ ของท่านอาจารย์อุบลเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า)

พอเคสนั้น(คุณชูฝัน)ยอมรับว่าเคยปรามาสท่านอาจารย์อุบล ที่ได้ฟังเรื่องราวการรักษาของท่านอาจารย์อุบลมา แต่ยังไม่เคยได้เจอหน้า เจอตัวจริง หรือสัมผัสบารมีท่านอาจารย์อุบลเลย แต่กลับให้ความคิดและลบหลู่ว่าอาจารย์อุบลคงหลงไปที่ให้คนใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย... แต่พอสำนึกและขอขมาท่านอาจารย์อุบลด้วยความจริงใจแล้วและท่านอาจารย์อุบลได้เมตตาให้อภัยแล้วนั้น ผลปรากฎว่า ขาที่เจ็บอยู่มีอาการดีขึ้น 80% ทันที หลังจากนั้นได้สำนึกและขอขมาต่อพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ลงมติ ว่า ได้มอบหมายให้ท่านอาจารย์อุบลเป็นตัวแทนของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์นั้นจริง ปรากฏว่าอาการเจ็บปวดที่เหลือหายไปหมดสิ้น...อย่างฉับพลันทันที...

เหตุการณ์นี้จึงเป็นสาเหตุที่เจนนี่ได้มองย้อนดูตัวเองทันที ว่าตนเอง เข้าข่าย อนันตริยกรรม แล้ว ที่ได้เคยปรามาสท่านอาจารย์อุบล ค่ะ

เจนนี่ขอสารภาพความผิดที่เคยละเลย พูดพล่อยๆโดยไม่คิด  พูดเพื่อความสะดวกเพื่อให้สถานการณ์มันจบๆไป โดยไม่คิดนึกถึงผลที่จะตามมา เมื่อช่วงเดือนมิถุนายน หรือกรกฎาคม ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสนำเอกสารของบ้านสวนพีระมิดไปให้ท่านอาจารย์ณภัทรดิศ ผู้สอนศาสตร์พลังจิตและการแพทย์หลังนวยุค (เจตนาอยากจะให้ท่านได้ทราบเรื่องวิธีการรักษาคนของท่านอาจารย์อุบลโดยเห็นผลแบบฉับพลันทันที) และได้เอาเอกสารให้ท่านเก็บไว้ เพื่อจะได้อ่านและทำความเข้าใจเอง

หลังจากนั้นประมาณ 1 อาทิตย์(อาจจะจำผิดไปได้) มีรุ่นพี่ ชื่อพี่แนน เข้ามาคุยเรื่องของท่านอาจารย์อุบล เจนนึ่นึกในใจว่าพี่แนนคงต้องเห็นเอกสารหรือได้คุยกับท่านอาจารย์ณภัทรดิศ แล้วแน่นอน(แต่จากที่ได้สัมผัสกับท่านอาจารย์ณภัทรดิศ ท่านเป็นคนมักน้อยสันโดษ ละความโลภ ปฏิบัติธรรมกรรมฐานทุกวันไม่ว่างเว้น และเป็นตัวอย่างในความเพียรวิริยะในการปฏิบัติตนแก่ลูกศิษย์ แม้แต่ตอนเอาเอกสารให้ท่านดูท่านก็ไม่ได้กล่าวพาดพิงถึงท่านอาจารย์อุบลเลย มีแต่เกริ่นประโยคว่า "เจนนี่อย่าเชื่อแม้แต่อาจารย์เองนะ ให้ใช้ปัญญาพิจารณาเอง ")

พี่แนนแนะนำว่าเป็นห่วงเจนนี่ กลัวว่าจะหลงผิดไปเชื่อเรื่องวัตถุมงคลของท่านอาจารย์อุบล (จำไม่ได้แล้วว่าพูดอะไรค่ะประมาณบอกว่าวัตถุมงคลมันไม่ช่วยอะไรให้เชื่อในคำสอนและทำตามพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเท่านั้นพอ)

ในเวลานั้นเลยรับปากพี่แนนไปแบบให้เหตุการณ์มันจบๆไป(รับปากไปก่อน รับปากส่งเดชไป)เพื่อให้พี่แนนรู้สึกสบายใจ โดยพูดว่า  "ค่ะพี่ เจนนี่จะไม่เช่าปิระมิดบ้านสวนค่ะ " และกอดพี่แนนเหมือนเป็นที่เข้าใจข้อตกลงกัน เหมือนให้รู้ว่าไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ จะไม่ทำให้พี่แนนเสียใจหรอกค่ะ

แต่ความเป็นจริงก็เช่าทั้งปิระมิด และวัตถุมงคลต่างๆ ติดตามกิจกรรมของบ้านสวนอยู่เนืองๆ เพราะทั้งธรรมะและวัตถุมงคลของท่านอาจารย์อุบล ทำให้ชีวิตดีขึ้น นิสัยที่ไม่ดีเปลี่ยนเป็นดีขึ้น จากที่ผิดศีลทุกข้อก็เพียรพยายามจะทำให้ถูกศีล และติดตามบ้านสวนพีระมิดมาโดยตลอด และปรารถนาอยากจะเป็นสาขาบ้านสวนพีระมิด และด้วยเพราะเหตุพูดโดยไม่สำนึกคิด ไม่พิจารณา นี่เอง ทำให้ปัจจุบันนี้ ยังไม่พร้อมทั้งการเงินและความ สามารถ ที่จะเป็นสาขาบ้านสวนพีระมิดได้เลย ผลของกรรม อนันตริยกรรม นี้นี่เองค่ะ

ตอนนี้สำนึกผิดแล้วค่่ะ และขอขมาต่อพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด และท่านอาจารย์อุบล ที่บอกว่ารักและเคารพ ศรัทธาอาจารย์ แต่ไม่ลุกขึ้นมาปกป้อง และต่อสู้เพื่อผู้มีพระคุณและบุญคุณ ปากบอกว่ารัก ใจไม่หนักแน่น และการกระทำยิ่งเลวร้าย ไม่พูดฉะฉาน กลับพูดอ้อมค้อมบิดเบือน ไม่พูดชัดเจนต่อสู้ปกป้องสิ่งที่รับและสัมผัสจากท่านอาจารย์อุบล(ที่ท่านอาจารย์เป็นผู้ปฏิบัติตนเองเป็นตัวอย่างของผู้คน เป็นผู้มั่นคงในศีล มีความเมตตากรุณา เป็นผู้ที่ถูกเลือกให้นำพาผู้คนไปสู่ความพ้นทุกข์ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ที่แท้จริง) แต่กลับปล่อยเหตุการณ์ให้ผ่านไป โดยไม่ฉุกคิด ไม่มีปัญญาเลย.

ข้าพเจ้าณฐชญา พูนจินดารุ่งเรือง ขอกราบขอขมาต่อท่านอาจารย์อุบล ที่ข้าพเจ้าได้หมิ่นอานุภาพวัตถุมงคลและท่านอาจารย์ด้วยการมองข้ามความสำคัญ ไม่ใช้คำพูดปกป้องท่านอาจารย์เลย และขอขมาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ส่งท่านอาจารย์มาเป็นตัวแทนท่าน แต่ข้าพเจ้าได้หลงผิด ไม่เคารพปกป้อง คือความไม่ซื่อสัตย์ต่อท่านอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ค่ะ ได้โปรดให้อภัยข้าพเจ้าณฐชญา พูนจินดารุ่งเรือง และโปรดบังคับกระแสจิตของข้าพเจ้า ให้คิด พูด ทำ ในทางที่ดี มีคุณธรรมด้วยเทอญ. สาธุ สาธุ สาธุ กราบ กราบ กราบ

ธรรมทาน จากเดอะทราเวลลอร์ เพื่อเป็นอุทธาหรณ์ต่อพวกเราชาวไทย ว่า มีคนนินทาคนที่เรารัก แล้วไม่ห้าม ผลกรรมจะเป็นอย่างไร

ผู้ปฏิบัติงานใน ห้องสมุด ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ชื่อ ทัศนประไพ  เพ็งพินิจ (คุณอี๊ด)  อายุ 58 ปี  คนนึงที่ มหาวิทยาลัยเกษตรก็มาร่วมงานด้วย มีอาการจุก ๆ ที่คอ เหมือนกับมีลมที่คอ  สารภาพว่าเคย ฆ่า และเบื่อหนู มาเป็นสิบ ๆ ตัว  ทำมา 3 ปีแล้ว  นอกนั้นก็เคยเถียงพ่อแม่ และเคยพูดโกหก  เคยร่วมนินทาราชวงศ์ หรือได้ยินคนนินทาก็ไม่ห้าม กรรมดังกล่าว ที่ทำกับบุพการี และ พระเจ้าแผ่นดินจัดเป็นอนันตริยกรรม พอเขาสารภาพก็หายทันที
พระพุทธเจ้าท่าน สอนให้ดูความชั่วของตัวเอง เท่านั้นอย่าไปสนใจคนอื่น การจะทำผิดดูได้ที่
1. ผิดศีลด้วยตัวเอง
2.บอกให้คนอื่นไปทำชั่ว
3. ยินดีที่คนอื่นทำผิดศีล
    การไปยินดี คือนินทาว่าร้ายคนอื่น หรือเห็นคนอื่นทำชั่วแล้วไม่ห้าม ก็จัดอยู่ในข้อ 3 นี้เช่นกัน
ปัจจุบันในสังคมไทยมีการ ลบหลู่ดูหมิ่น ราชวงศ์กันมาก หรือ เห็นคนพูดลบหลู่ก็ไม่ห้าม ทำให้ผลกรรมนี้ตกกับพวกเราโดยทั่วถึง คือ บ้านเมืองไม่สงบ มีม๊อบมาครองเมือง  บ้านเมืองระส่ำระสาย  ดังนั้นพวกเราต้องปกป้องในหลวงของเรา อย่าให้ใครมาลบหลู่ท่านได้  หรือบางพวก ก็ทำเป็นว่ารักในหลวงเหลือเกิน แต่การกระทำมิได้เป็นอย่างคำพูดเลย กลับทำให้บ้านเมืองยุ่งเหยิง ระส่ำระสายจนทุกวันนี้ ดูอย่างคุณอี๊ดต้องมีอาการจุกคอมานาน ก็เพราะเธอเห็นคนทำบาปแล้วไม่ห้าม เห็นคนว่าร้ายในหลวงแล้วไม่ห้าม  ถ้าคุณเห็นคนอื่นมาว่าร้าย คนที่คุณรักที่สุด เช่น พ่อ แม่ คุณจะทนฟังได้หรือ ในทำนองเดียวกัน ในหลวงก็เป็นที่รักและเคารพของเรา เรายังดูดายได้  ไม่ใช่แต่คุณอี๋ดหรอกมีอีกหลายๆ คน โดยเฉพาะผู้เขียนเอง ก็เป็น คือ ร่วมวงนินทาราชวงศ์ เห็นเขานินทาก็ไม่ห้าม

    ท่านพ่อดตาจินิน ส่งคุณอี๊ดมาให้เตือนพวกเรากัน   
    มนุษย์เราสนใจที่จะช่วยตัวเองเท่านั้นแหละ เวลามีทุกข์จึงตะเกียกตะกายหาที่พึ่งกัน  เหมือนคนที่จะมาหา อ.อุบลเช่นกัน ถ้าเขาไม่ทุกข์ก็ไม่มีวันที่จะมาหา
    ตัวอย่างใกล้ ๆ ที่เราเห็นอย่างบ้านสวนพีระมิด มีผู้คนหลั่งไหลมาหาอ.อุบล เพราะอยากหาย อยากรวย ทำเป็นรักอาจารย์ แต่ไม่ทำที่ อ.บอก ยังผิดศีล ทำตัวกร่าง เป็นใหญ่ คับบ้าน พูดจาทำให้อ.อุบลเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่ก็มาอยู่ใกล้ ทำให้ลูกบ้านสวนแตกสามัคคี  ตอนนี้ท่านท้าวเวสสุวรรณ ได้ไล่พวกนี้ออกไปแล้ว  ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่พวกเราควรจำไว้
   
    

การปรามาสสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จัดเป็นอนันตริยกรรม
    คุณชูฝัน พิสุทธิ์จินดา  มีอาการปวดน่อง  เธอสารภาพว่า มีมโนกรรมในทางไม่ดี คิดว่า และรำคาญ คนที่เดินช้าๆ เคยใช้เท้าปิดพัดลม ใช้เท้าเขี่ยผ้าเช็ดพื้น
วางพีระมิดความรักของสองพระองค์บนมือ        อาการดีขึ้น  20%
(พีระมิดสำหรับคนนึกกรรมตัวเองไม่ออก)
วางพีระมิด บารมีคู่ บนมือ                           ไม่มีอาการเปลี่ยนแปลง
    สารภาพต่อว่า เคยคิดไม่ดี เคยปรามาส อ.อุบล โดยทำร่วมกับ อาจารย์ของเขา คือ ดร.ณัฐ ภัทรกิจ  โดยคิดว่า อ.อุบล หลงไป คิดว่า การสารภาพบาป จะทำให้อาการที่เจ็บป่วยหายไป ไม่น่าเป็นไปได้  ซึ่งจริง ๆ แล้ว หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยบอกไว้ว่า  การสารภาพบาปนั้น ชาวพุทธ ทำมาก่อนชาวคริสต์เสียอีก  ทำตั้งแต่การที่พระปลงอาบัติกัน
    ทีแรกคุณชูฝัน ก็ไม่เชื่อว่า สารภาพแล้วจะดีขึ้น  แต่เขาเคย line สารภาพบาปกับ อ.รัฐชญา ปรากฎว่า อาการดีขึ้น จึงเริ่มเชื่อ และมาหา อ.อุบล  แต่จากการที่เขาปรามาส อ.อุบลนั้น เป็นกรรมหนัก จึงบำบัดไม่หาย ต้องขอขมาเท่านั้น  พอขอขมาแล้ว อาการดีขึ้นแต่ยังไม่หาย อ.อุบลเลยให้ ขอขมากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุก ๆ พระองค์ด้วย ได้แก่ ท่านพ่อดตาจินิน พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ องค์ปฐม เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ พระอินทร์ พระพรหม พระยายม เพราะท่านเหล่านี้ได้ส่ง อ.อุบล มาเป็นตัวแทนในการทำหน้าที่ อันยิ่งใหญ่ ที่จะช่วยคนในคร้้งนี้  พบว่าอาการของเขาหาย 100%
    คุณชูฝันต้องไปบอกต่อ โดยไปบอกเรื่องดังกล่าว กับ ดร.ณัฐ ครูอาจารย์ของเขาโดยเร็ว ก่อนที่สิ่งไม่ดีในชีวิต จะเกิดขึ้นกับเขา

ตัวอย่างของเรื่องที่มีการพิสูจน์ว่า มาร อสูร ซาตาน จากดาวสูตู เข้ามาสิงผู้คนให้มีอาการแปลก ๆ จริง
    เรื่องแรกจาก อ.พาน จ.เชียงราย ผู้ที่มาบำบัดชื่อ คุณสุมาลี  ตอนเขามามีอาการเหมือนคนเสียสติ ทำอะไรไม่ได้ มีความทุกข์คือ สามีมีเมียน้อย ผิดหวังในชีวิต ไปพึ่งร่างทรง ให้ช่วยทำให้สามีกลับมา แต่ก็ไม่จริงไม่สามารถช่วยให้สามีกลับมาได้ เสียเงินเป็นแสน ต้องไปอยู่กับร่างทรง ทำเรื่องอับอาย  คุณ สุมาลี มีอาการผิดปกติ ไม่มีสติ ไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไป เขาเปลี่ยนชื่อไปแล้ว 3 ครั้ง คิดว่าจะทำให้โชคดี แต่ก็เปล่าเลย
มีแต่ทุกข์  เที่ยวไปดูไพ่ยิปซีให้คนอื่น แม่ต้องขังไว้ ไม่ให้ออกไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น เขาไม่ยอม

ได้โทรฯไปแจ้งตำรวจว่า ถูกแม่กักขัง  ตำรวจก็มา ดีแต่แม่อธิบายความจริงให้ฟัง ในที่สุดแม่ต้องเอาคุณสุมาลี ไปอยู่ รพ.บ้า ชื่อ รพ.สวนปรุง  ตอนอยู่ รพ. เขาก็ได้มีโอกาสไปสวดมนต์ นั่งสมาธิ กับกิจกรรมที่ทาง รพ.จัดขึ้น เขาก็มีอาการดีขึ้น พอที่จะมาหา อ.อุบลได้ เขามาร่วมพิสูจน์ โดยเอาอาการเจ็บปวดของเขาเป็นหลักฐานในการพิสูจน์ ว่ามีมารจากดาว สูตู มาสิงเขาจริงมั๊ย เขามีอาการ ปวดนิ้ว ปวดเอว ปวดสะโพก พอนำพีระมิด รุ่นรับเสด็จองค์ปฐมไปจับ ร่วมกับการเสี่ยงทาย ว่าเป็นผี หรือมารจากดาวสูตู หรือไม่ ผลการเสี่ยงทาย เป็นจริงที่ มีมารจากดาวสูตูมาสิงเขาจริง

อีกรายหนึ่งคือ ผู้ที่มาบำบัดที่โคกเจริญ มีอสูรมาสิงอยู่ที่ นศ. RBAC ที่เป็นลูกสาวคนสุพรรณ ที่ศรัทธาอาจารย์อุบล ครอบครัวนี้เคยไปงานธรรมะสัญจรที่เมืองกาญจน์ เขาเคยเป็นโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อน 4 ข้อ พอกลับจากไปหาอ.อุบล พบว่าดีขึ้นจากการเคลื่อน 4 ข้อ เหลือ 2 ข้อ  กลับมาที่บ้านก็ปวดอีก เพราะเขาไม่ทำตามที่ อ.อุบลบอก เช่น เขายังทานเนื้อสัตว์อยู่ เขายังรักษาศีล 5 ไม่ครบ  พอได้ไปงานธรรมะสัญจรอีกครั้ง เขาก็มาสารภาพ อาการก็ดีขึ้น หาย 100%  เหลือแต่ลูกสาวของเขาซึ่งยังมีปัญหาอยู่ ซึ่งไม่กล้าเข้าบ้าน หน้าก็เป็นสิว และหน้ามัน พอมาในงานก็สารภาพ ว่าคิดไม่ดีกับ อ.อุบล ต่อ พระพุทธเจ้า ต่อ ดร.อาจอง  ทำการบำบัดด้วยพีระมิดพระนางเนเฟอร์ตารี ก็ไม่มีอาการเปลี่ยนแปลง  ต้องขอขมา อ.อุบล และพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ จึงจะหาย เพราะกรรมนี้จัดเป็นอนันตริยกรรม

    อ.อุบล เป็นบุคคลสำคัญ เป็นคนที่ถูกเลือกโดย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วอนันตจักรวาล ให้มาทำหน้าที่สำคัญ ได้แก่ การเตือนภัยพิบัติ  การบอกกฎแห่งกรรม ให้ผู้คนรักษาศีล 5  การเผยแพร่รหัสจักรวาล อาจารย์อุบลช่วยด้วย เป็นต้น  การกระทำใดที่จะลบหลู่ดูหมิ่นจึงจัดเป็นอนันตริยกรรม
 

คุณแอน ปัทมวรรณ  วัชรวัฒน์ อายุ 35 ปี มีกรรมเกี่ยวกับการทำแท้ง  มีเงินเดือนดี แต่อยากลาออก  มีเงินเดือน ประมาณ 2 หมื่น ยังไม่รวม commission  มีอาการปวดต้นคอบ่อย ๆ  เคยใช้รหัสจักรวาล อ.อุบลช่วยด้วย เคยทำบุญอุทิศๆไปให้เด็กที่ถูกทำแท้ง อาการก็ไม่ดีขึ้น เขาทำแท้งมา 12 ปีแล้ว แต่มีอาการแบบนี้มาสักระยะหนึ่ง ประมาณ 5 ปีที่แล้ว คูณแอนเตยไปทำบุญให้ลูกที่วัด  หลวงพ่อที่วัด แนะนำให้ตั้งชื่อลูก  เพื่อเวลาทำบุญจะได้แผ่กุศลได้ถูกคน  เลยเรียกว่านตุล   น้องตุลดีใจมากที่แม่มางานธรรมะสัญจร  เขาฝากบอกแม่ และพวกเราทุกคนว่า เด็กที่ถูกทำแท้ง  จะทรมาณมาก เขารู้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าแม่จะทำแท้ง จะฆ่าขา  แต่เขาพูดห้ามไม่ได้  เขาทรมาณ  เจ็บปวด  จากการที่ แขนหลุด ขาหลุด พอตาย เขาไปเกิดไม่ได้  อายุของน้องตุล ต้องอยู่จน  80 ปี  น้องตุล น้อยใจว่าแม่ไม่ยอมบอกใครว่า น้องตุลเป็นลูก แม่น้องตุล พยายามทำบุญ กฐิน ผ้าป่า แต่บุญเหล่านี้ ผู้ให้จะได้รับบุญแต่ผู้เดียว และพระที่รับกฐินก็จะได้รับด้วย บุญธรรมทาน ที่เข้าไปเขียนกรรมชั่ว จึงจะทำให้เขาได้รับบุญ แม่น้องตุล ก็ไปเขียนธรรมทานใน web บ้านสวน แต่ยังไม่ยอมเขียนว่า เขาทำแท้ง เพราะอาย น้องตุลจึงยังไม่ได้รับบุญใดๆ
    แม่น้องตุล สำนึกผิด และไปอธิษฐานขอให้น้องตุล กลับมาเป็นลูกอีก  การบำบัดก็เลยไม่หายได้แค่ 80% เพราะน้องตุลไม่อยากมาเกิดอีกแล้ว  พอได้บำบัดใหม่ โดยถือพีระมิดพระนางเนเฟอร์ตารี แล้วขอส่งให้น้องตุลไปสู่นิพพาน จึงหายหมด
    การบำบัดนี้ อ.อุบลได้เมตตาให้ โดยขอใช้สิทธิ์ที่ท่านเป็นลูกสาว ท่านดตาจินิน ท่านท้าวเวสสุวรรณ พระอินทร์ พระพรหม พระยายม สมเด็จองค์ปฐม อาการต่าง ๆ จึงหาย คุณแอนต้องทำบุญธรรมทาน อย่างต่อเนื่อง บอกเล่าให้คนรู้ และบูชาพีระมิดเรื่อยๆ อย่างน้อยเดือนละ 1 องค์