ReadyPlanet.com


ท่านแน่ใจหรือว่า ได้พบพระศรีอาริย์แล้ว


"ผู้ใดเห็นธรรม

ผู้นั้นเห็นพระศรีอาิริย์"

 

ฉะนั้น ตราบใดที่ยังมอง

ไม่เห็นสัจธรรม

ก็อย่าเพิ่งแอบอ้างว่าตน

"ได้พบพระศรีอาริย์แล้ว"นะคะ

........................................

 

 

สงสัยว่า

ทีมค้นหาพระศรีอารืย์

จะหมดแรงข้าวต้มแล้วกระมัง

 

เฮ่อ

เราจะหากันเจอไหมเนี่ย

ก็มัวแต่มาสงสัยคนใกล้ตัวอยู่เนี่ย

 

แล้วคนอื่นล่ะ

ที่ค้นหาพระศรีอาริย์

ได้ความว่ายังไงก็มาเล่า

มาเขียน

แบ่งปันประสพการณ์กันมั่งนะ

เผื่อว่า

จะพอมีหวังกันบ้าง

 

เพราะ

พระพุทธปฐมฯ

ท่านบอกว่า เวลาเหลือน้อย

ลงทุกขณะแล้ว

 

อย่ารอแต่

ทีมพ่อใหญ่ธนา ทีมนี้เลย

เพราะทีมนี้ ไม่ค่อยค้นหา มัวแต่

ยัดเยียดข้อหาพระศรีอาริย์

ให้กับคนที่ตนสงสัย

คนเดียวเลย

 

ให้ตั้งทีมอื่นด้วย

 

เช่น

คุณอัญ+คุณเอก

 

พ่อทศวรรษ

 

คุณอดิศักดิ์

 

คุณชนิดา

 

อ.อภิชัย + คุณแหลน

จะคนละทีมก็ได้นะ

 

น้องนัท

 

น้องกัณฑ์

 

ทีมคุณกุหลายด้วยนะ

 

แล้วก็อีกหลายๆทีม

 

 

เร็วๆ ไวๆ

 เร่งช่วยกันตามหา

พระศรีอาริย์

 

แล้วเอาผู้ต้องสงสัย

ว่าจะเป็นพระศรีอาริย์

มาเทียบเคียงคุณสมบัติ

ที่ผู้รู้บอกไว้

 

โดย

ใช้หลักกาลามสูตร

เท่านั้น ในการพิสูจน์

พระศรีอาริย์

 

เผื่อว่าเจอไว

ภัยพิบัติจะได้ไม่ต้อง

เกิด หรือ ไม่รุนแรง

 

หรืออย่างน้อย

ประเทศไทย จะรอดมากที่สุด

 

มาเร่งรีบช่วยกัน

อย่ามัวแต่อ่าน อย่ามัวแต่

อนุโมทนา

 

ขอตั้งทีมพิเศษ

 

ยายแก้ว

กัญภัทร์ เฟื่องฟู

เป็นทีมสำคัญ เรื่องค้นหา

พระศรีอาริย์

ยายแก้วจะได้หายสนิทสักที

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com)


บอกตามตรงค่ะว่า

หลังจากอ่านข้อความนี้

จากท่านอาจารย์หลายๆรอบแล้ว

ก็พยายามคิดทั้งวันว่า

ท่านพยายามจะบอกอะไร

เพราะยังไงๆ ท่านก็ยัง

เน้นและย้ำให้"พวกเรา"

ไปค้นหาพระศรีอาิริย์ อยู่ร่ำไป

ทั้งๆที่เราก็มั่นใจว่า เราพบแล้ว

และจะไม่ไปค้นหาที่ใดอีก

 

 

ฉะนั้น ชนิดาก็อยากจะ

เชิญชวนทุกๆท่าน

มาร่วมเดินทาง

ค้นหาพระศรีอาริย์ร่วมกัน

ด้วย"ใจ"...จริงๆอีกทีนะคะ

 

 

เพราะ กระบวนการค้นหาด้วยวิธีนี้

จะทำให้ท่าน

ไ้ด้พบพระศรีอาิริย์

พระองค์จริงแน่นอน

 

 

 



ผู้ตั้งกระทู้ ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2012-06-10 04:56:04


<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 [5] 6 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 401 (1623609)

 ต้องกราบขออภัยท่านอาจารย์อุบลด้วยครับ เรื่องที่หลวงพ่อดำท่านกล่าวถึงพระศรีอาริย์นั้น กระผมไม่ทราบจริงๆ แต่เคยได้ดูคลิปวีดีโอที่หลวงพ่อดำท่่าน บรรยายหลายครั้ง ท่านยืนยันว่าต่อไปเราจะเข้ายุคศิวิไล ให้เราทั้งหลายเป็นผู้รอดจากภัยที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะในปี 55-56 นี้ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ยุทธนา ยานุทัย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-10 23:53:03


ความคิดเห็นที่ 402 (1623612)

 

พวกเราลองบอกความรู้สึก
ของใจหน่อยได้ไหม ว่า
ก่อนเดือน กันยายน 55 นี้
เรามีสิทธิ์ที่จะพบพระศรีอาริย์หรือไม่
ถ้าไม่ จะเป็นไปตามคำทำนายหรือไม่
.......................................................
ลูกรู้สึกว่า เรามีสิทธิ์ได้พบพระศรีอาริย์ก่อนเดือนกันยายน 55แต่ท่านอาจให้รับรู้ได้เฉพาะกลุ่ม เฉพาะคน
ส่วนภัยพิบัติที่กำลังจะเกิด พระศรีอาริย์ท่านคงได้วางแผนช่วยเหลือเอาไว้แล้ว ให้ผู้ที่มีศีลมีธรรมได้รอดปลอดภัย ให้ผู้คนที่เคยทำบาปกลับใจเป็นนักบุญ ได้อยู่ในยุคใหม่ได้     เพื่อที่พระองค์จะนำพาผู้คนเหล่านี้เข้าสู่พระนิพพาน
 
ลูกได้ตามหาพระศรีอาริย์   ตามที่ท่านอาจารย์อุบลแนะนำแล้วค่ะ
      ทุกครั้งที่นั่งสมาธิแล้วเอ่ยนามของท่าน......   แล้วถามว่าท่านคือพระศรีอาริยเมตไตรยใช่ไหมค่ะ   ก็จะปรากฏอาการตัวโยกทุกครั้ง ทุกครั้งที่ถามก็จะเป็นเหมือนเดิม    และในจิตก็รับรู้ว่า ใช่แล้ว ใช่แล้ว ใช่แล้ว
ย้อนกลับไปเมื่อวันวิสาขบูชา   ท่านอ.อุบล ได้บอกว่า
คืนนี้ขอให้ฝันถึงพระศรีอาริยเมตไตรยนะจ๊ะ             รุ่งเช้าลูกก็ฝันถึงท่านค่ะ
หลังจากนั้นก็ฝันถึงท่านบ่อยมาก
จากเหตุการณ์นี้ทำให้ลูกมั่นใจว่า ลูกได้พบท่านแล้วค่ะ
ขอให้ท่านเมตตาให้ลูกมีดวงตาเห็นธรรม เห็นพระองค์
ด้วยจิตด้วยเทอญ
         
 
ใครก็ได้ที่อยากพบพระศรีอาริย์ ขอถามหน่อยเถอะว่า ถ้าได้เจอท่าน ได้รู้ว่าท่านอยู่ที่ไหน แล้วพวกเราจะทำอะไรกันต่อไป
..........................................
1)        กราบท่านด้วยความเคารพอย่างสูงสุด
2)        น้อมรับคำสั่งสอน คำชี้แนะ ทุกๆอย่าง มาปฏิบัติให้
ได้ ตั้งมั่นอยู่ในทาน ศีล ภาวนา   และทำความดีให้ยิ่งๆ
ขึ้นไป   เพราะท่านจะนำพาพวกเราเข้าพระนิพพาน
3)        ขอให้ท่านเมตตา ให้ได้รับใช้ ได้ช่วยงานของท่าน  
ตามกำลังสติปัญญาและความสามารถที่มี   เท่าที่ลูก
สามารถจะทำได้ และจะพยายามอย่างดีที่สุดค่ะ
 
ท่านอาจารย์อุบลค่ะ ขอให้พระศรีอาริย์เปิดเผยพระองค์เร็วๆนะคะ 
ผู้แสดงความคิดเห็น ปาริชาติ เฟื่องไพบูลย์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-11 00:01:48


ความคิดเห็นที่ 403 (1623627)

พวกเราทุกคนในนี้ ก็กำลังลุ้น

ให้ องค์พระศรีอาริย์ปรากฏกาย

เร็วๆนี้เช่นกันค่ะ คุณครูยุ้ย

 

เพราะดูสถานการณ์รอบๆตัวแล้ว

ไม่ปลอดภัยเลย มีข่าวระทึกใจให้เห็นทุกวัน

 

แถมวันนี้ชนิดานั่งดู ซีรีส์อเมริกันช่องSci fi

เปิดไปเจอช่วงภาพเหตุการณ์

ภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดแล้ว

น่ากลัวจริงๆ ถ้าของจริงมา

บอกได้คำเดียวว่า

คงจะทำใจได้ลำบากจริงๆ

 

เริ่มจากเมฆบนท้องฟ้า

จะจับตัวกันเป็นก้อนขนาดใหญ่มาก

หลังจากนั้นอากาศจากร้อนๆอุ่นๆอยู่

ก็จะเริ่มเย็นลงๆ จนติดลบ มีหิมะตก

และฝนน้ำแข็ง ขนาดเท่าเสาตึก

ก็ตกลงมาทำลายชีวิตผู้คนและทรัพย์สิน

 

แต่คนดีที่สมควรรอด

ก็จะมีอะไรดลใจให้หนีไป

ถูกที่ถูกทางและถูกจังหวะมากๆ

คือ ถ้าเป็นคนเลว อยู่ห่างกันช่วงตัว

ก็ตายไปแบบเหมือนถูกเล็งไว้แล้ว

ยังไง ก็ไม่ผิดตัว

 

คือตอนเราอ่านคำทำนายต่างๆ

ก็เพียงคิดๆตาม แต่พอมาดูเป็นหนัง

แล้วมันใช่จริงๆค่ะ ว่า

ถ้าเป็นคนดี หนียังไงก็รอด...

 

แบบว่า ดูซีรีส์เรื่องนี้แล้ว

ก็ภาวนาขอให้

องค์พระศรีอาริย์มาปราฏกาย

ได้ทันเวลา ด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ

 

และที่สำคัญ ก็ภาวนาว่า

ขอให้มีผู้คนมาสนใจตามหา

พระศรีอาริย์กันเยอะๆด้วยค่ะ สาธุ

 

 

กราบอนุโมทนากับทุกๆธรรมทาน

จากท่านอาจารย์

และทุกๆข้อมูลจากทุกๆท่านด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-11 06:18:41


ความคิดเห็นที่ 404 (1623850)

 

และฝนน้ำแข็ง ขนาดเท่าเสาตึก

ก็ตกลงมาทำลายชีวิตผู้คนและทรัพย์สิน

!!!!!!!!!!!!!!!

ฝนน้ำแข็งท่านอ.แม่อุบลเคยเมตตาบอกแล้ว

ก้อนเล็กสุด ขนาดเท่าตู้เย็น

หากใครมีทรัพย์พอที่จะเปลี่ยนหลังคาบ้านได้

ก็ขอให้เปลี่ยนเป็นหลังคาแบบที่มุงวิหาร

บ้านสวนฯหลังใหม่

สังกะสีแบบใหม่ อ่ะค่ะพี่อ๋อยเรียกไม่ถูก

มุงให้ลาดที่สุด หากฝนน้ำแข็งตกลงมา

จะได้ไหลผ่านปรื้ดโลด

หลังคากระเบื้องหน่ะ ไม่มีเหลือ

ว่าแต่ คนสร้างหนังเรื่องนี้มีข้อมูลคล้ายกับที่

ท่านอ.แม่อุบลพูดทุกอย่างเลยค่ะ คุณชนิดา

น่ากลัวจริงๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-13 13:29:25


ความคิดเห็นที่ 405 (1623954)

 พวกเราลองบอกความรู้สึก

ของใจหน่อยได้ไหม ว่า
ก่อนเดือน กันยายน 55 นี้
เรามีสิทธิ์ที่จะพบพระศรีอาริย์หรือไม่
ถ้าไม่ จะเป็นไปตามคำทำนายหรือไม่
 
***************************
 

 

มิ้มคิดว่า ก่อนเดือนกันยายนนี้พวกเรามีสิทธิ์ได้พบพระศรีอาริย์ค่ะ แต่จะได้พบและรู้ได้เฉพาะคน เฉพาะกลุ่ม  ตามที่พวกเราได้ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย เพื่อพิสูจน์ว่าใครเป็นพระศรีอาริย์

 

แต่พระองค์จะยังไม่ปรากฏตัวอย่างเป็นทางการ  ตราบใดที่ยังไม่มีหลักฐาน ข้อมูลต่างๆเป็นเครื่องยืนยันอย่างแน่ชัด  ตามความคิดของมิ้มนะคะ  ก็เพื่อป้องกันคนปรามาสไม่ให้คนปรามาสต้องบาปหนัก

 

เมื่อไหร่ก็ตามที่มีหลักฐานเครื่องยืนยัน อย่างชัดแจ้ง ครบถ้วน  พระองค์ท่านคงจะยอมรับ ปรากฏตัวอย่างเป็นทางการ  เพราะพระองค์ก็คงเป็นห่วงทุกชีวิตบนโลกใบนี้มากๆเหมือนกัน

 

ถึงแม้พระองค์ท่านจะยังไม่ได้ปรากฏพระองค์อย่างเป็นทางการ  แต่พระองค์ท่านก็คงวางแผนและทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือผู้คนซึ่งเป็นบัวเหล่าที่พ้นน้ำพอจะช่วยได้  ให้คนบาปกลับตัวเป็นนักบุญ เพื่อจะได้รอดจากภัยพิบัติ  เข้าสู่ยุคใหม่  และพาพวกเรากลับบ้านนิพพาน

 

ถ้าไม่มีหลักฐานมายืนยัน  พระองค์ท่านคงไม่ปรากฏพระองค์  อีกทั้งผู้คนก็ไม่ละจากบาปมาสร้างความดี  ภัยพิบัติที่รุนแรงก็คงจะเกิดขึ้นตามคำนาย  ส่วนกลุ่มคนบางกลุ่มที่รู้และได้พบพระศรีอาริย์  และได้เปลี่ยนตัวเองเลิกสร้างบาปมาสร้างบุญ จะปลอดภัยได้รับผลน้อยกว่าค่ะ

 

มิ้มเองก็ขออธิษฐานขอให้พระองค์ท่านปรากฏตัวโดยเร็วเถิด  เพราะไม่อย่างนั้นผู้คนก็จะตายมหาศาล  โลก และจักรวาลคงได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก 

มิ้มคิดว่าหากมีเหตุการณ์ใดที่ทำให้พระองค์ได้ปรากฏตัวให้ทุกคนได้เห็นอย่างไม่มีข้อสงสัย  เพื่อให้มนุษย์ได้รู้ว่าโลกเรากำลังจะเข้าสู่ยุคใหม่  ถ้าหากต้องการรอด  เค้าต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง  คงจะมีผู้คนที่ยอมเปลี่ยนตนเองมากขึ้น

 

แต่การที่พระองค์ท่านจะปรากฏพระองค์เป็นที่รับรู้  กระจ่างกันทั่วโลก  ก็คงต้องมีเหตุการณ์บางอย่าง  หรือภัยพิบัติที่รุนแรงเกิดขึ้นก่อนหรือเปล่าคะ  ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นเลยค่ะ ไม่อยากให้มีการสูญเสีย

ทำอย่างไรได้ละคะ ผู้คนไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตนเองเลิกสร้างบาปมาสร้างบุญ  และพวกเราก็หาหลักฐานมายืนยันให้ผู้คนได้รับรู้ว่าพระศรีอาริย์ท่านมาแล้ว  เรากำลังจะเข้าสู่โลกยุคใหม่แล้ว     

 

ขอให้พระองค์ท่านปราฎพระองค์ก่อนเดือนกันยายนนี้เถิดค่ะสาธุ  พระองค์เป็นความหวังเดียวที่จะช่วยทุกชีวิตบนโลกใบนี้ และจักรวาลแห่งนี้ค่ะ  

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-13 21:33:07


ความคิดเห็นที่ 406 (1623956)

 ใครก็ได้ที่อยากพบพระศรีอาริย์ ขอถามหน่อยเถอะว่า ถ้าได้เจอท่าน ได้รู้ว่าท่านอยู่ที่ไหน แล้วพวกเราจะทำอะไรกันต่อไป

***********
 

ลูกจะกราบพระองค์ท่าน  และขอเป็นข้ารองพระบาทติดตามรับใช้พระองค์ท่านทั้งกายหยาบกายละเอียด 


จะพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองละความชั่ว  ทำความดีทุกอย่างที่พระองค์ท่านสอนให้ได้มากที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้

 

เพื่อจะได้ติดตามพระองค์ท่านกลับบ้านนิพพานค่ะ ลูกไม่อยากกลับไปอยู่ในนรกอีกแล้วค่ะมันทรมานน่ากลัวเหลือเกิน สาธุค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-13 21:35:26


ความคิดเห็นที่ 407 (1623959)

 วิธีรับใช้พระศรีอาริย์

หนูจะทำอย่างไรจ๊ะ หนูมิ้ม

************************

ใครพอจะตอบได้บ้างว่า

ระหว่างธรรมจักร กับ จักรพระศรีอาิริย์นี่

มีอานุภาพต่างกันอย่างไร

ช่วยบอกหน่อยนะจ๊ะ ขอบคุณ อนุโมทนาล่วงหน้าจ้า

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-13 21:42:46


ความคิดเห็นที่ 408 (1623991)

 สงสัยนอนกันหมดแล้ว

ไม่มีใครมาตอบ

เยยยยย

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-14 02:01:06


ความคิดเห็นที่ 409 (1623993)

                                                                   ใครพอจะตอบได้บ้างว่า

ระหว่างธรรมจักร กับ จักรพระศรีอาิริย์นี่

มีอานุภาพต่างกันอย่างไร

.....................................................

ลูกขอตอบตามภูมิที่มีอยู่ผิดถูกอย่างไรอาจารย์ช่วยชี้แนะด้วยค่ะ

ธรรมจักร น่าจะหมายถึง พระธรรม คำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

และธรรมจักรจะมีวงล้อต่างๆ กัน มีตั้งแต่ 8 12 14  16หรือมากกว่า

แล้วแต่ผู้ทำ และก็มาใส่ความหมายตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ซึ่งถ้ามี 8 ก็น่าจะหมายถึง อริยมรรค8 

หรืออาจจะแปลว่า วงล้อแห่งธรรม หรือ ธรรมจักรกัปปวัตตนสูตร


ส่วนจักรของพระศรีอารีย์นั้น น่าจะมีไว้ คอยกำจัด พวกมีกิเลสหนา ทืฏฐิหนา


ส่วนอานุภาพ น่าจะทำหน้าที่ต่างกัน 

ธรรมจักร ใช้สั่งสอน จักรของพระศรีอารีย์ใช้ปราบสิ่งไม่ดี

คงต้องใช้ควบคู่กันไปสอนแล้วไม่ดีก็ต้องกำจัดออกไป

เพื่อให้เหลือแต่สิ่งดีๆ 


 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปุณญิสา พูลชื่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-14 02:52:52


ความคิดเห็นที่ 410 (1624116)

ใครพอจะตอบได้บ้างว่า

ระหว่างธรรมจักร กับ จักรพระศรีอาริย์นี่

มีอานุภาพต่างกันอย่างไร

.....................................................

จากที่เคยอ่านข้อมูลที่ท่านอาจารย์

เคยเขียนเกี่ยวกับอานุภาพ

ของธรรมจักรมาบ้าง

 

ในความเข้าใจของชนิดา

ชนิดาคิดว่า ทั้งธรรมจักร

และ จักรแก้วของพระศรีอาริย์

 

ก็คืออาวุธคู่กาย

ของพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์

 

ที่เป็นเสมือน อาวุธที่คอยป้องกันคนดี

และทำลายความชั่ว หรือหมู่มาร

ให้ราบคราบสิ้น ได้ด้วย สัจธรรม คำสอน

ความเมตตา และ ความดี

 

 

ซึ่งอานุภาพของธรรมจักรและจักรแก้ว

น่าจะคล้ายๆกัน

 

แต่ จักรแก้ว อาจจะไม่ได้อยู่กับที่นิ่งๆ

เพื่อตั้งรับกับหมู่มาร

แต่อาจจะถูกใช้เป็นยาน(ญาณ)พาหนะ

เพื่อยกกองทัพธรรม

ออกไปปราบหมู่มารทั่วทั้งจักรวาล

ให้ราบคราบสิ้นด้วย

 

โดยมีองค์พระมหาจักรพรรดิ

เป็นผู้นำทัพในการรบทุกครั้งค่ะ

...........................................

พี่อ๋อยจ๊า ทุกซีนที่ชนิดาได้ดู

ในซีรีส์เรื่องนั้น เหมือนๆกับ

ที่่ท่านอาจารย์ได้เขียนไว้หมดเลยค่ะ

 

ทั้งผู้คนจะขับรถหนีไปในทิศทางเดียวกัน

แล้วก็ไปหยุดจอดออกันบนถนน

 

แล้วคนเลวก็เริ่ม

ออกมาเบียดบังทำร้ายกัน

ด้วยความหิว ความหนาว

เป็นภาพที่โหดร้ายและสะเทือนใจจริงๆค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-14 17:18:37


ความคิดเห็นที่ 411 (1624132)

 วิธีรับใช้พระศรีอาริย์

หนูจะทำอย่างไรจ๊ะ หนูมิ้ม

หนูขอตอบตามกำลังสติปัญญาอันน้อยนิดของหนูค่ะท่านอาจารย์

       ภารกิจสำคัญของพระศรีอาริย์ คือ พระองค์จะมาทำให้คำสอนของพระพุทธองค์ที่ผิดเพี้ยนไปกลับมาถูกต้องบริสุทธ์ดังเดิม

 พระองค์จะมาปราบอธรรมซึ่งก็คือกิเลส ความชั่วในใจมนุษย์

ทำให้มนุษย์ได้รู้ถึงกฎแห่งกรรรม เปลี่ยนตนเองจากคนบาปให้เป็นคนบุญ

เพื่อจะได้รอดจากภัยพิบัติ และทำให้ภัยพิบัติเบาบางลง หรือ ทำให้ภัยพิบัติไม่เกิดขึ้น

พระองค์ท่านจะมาพาพวกเราเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์ และพาพวกเรากลับบ้านนิพพานค่ะ

วิธีรับใช้พระศรีอาริย์

 

       ภารกิจสำคัญของพระศรีอาริย์เหมือนกับที่ท่านอาจารย์อุบลกำลังทำอยู่เลยค่ะ 

หนูขอรับใช้พระองค์ท่านด้วยการเป็นกลจักรเล็กๆ 

 

ที่ช่วยเผยแพร่ธรรมของพระพุทธองค์ โดยการเขียนธรรมทาน  หรือเล่ากฎแห่งกรรมที่ตัวเองได้รับมาจากการกระทำผิดศีล  ว่ามีผลอย่างไร  เพื่อให้ผู้คนที่เข้าอ่านได้รู้กฎแห่งกรรม ไม่ทำบาปผิดศีลเหมือนหนู เปลี่ยนแปลงตนเองจากคนบาปให้เป็นคนบุญ  เพื่อเค้าจะได้พ้นทุกข์รอดเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์ 

      

ตอนนี้หนูก็กำลังแจกคู่มือหนีกรรมผิวพรรณ  เพื่อให้ผู้คนที่ได้อ่านได้รู้กฎแห่งกรรมจะได้เปลี่ยนแปลงตนเองมารักษาศีล 5 

 

เผยแพร่รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย  เพื่อเป็นการช่วยผู้คนให้เค้าพ้นทุกข์  และรอดชีวิตจากภัยพิบัติ

        

จงรักภักดีและปกป้อง 3 สถาบัน คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์  หากใครลวงจาบจ้วง ใส่ร้ายป้ายสี ไม่นิ่งเฉย อธิบายทำให้ผู้คนเข้าใจทั้ง 3 สถาบันให้ถูกต้อง

 

ถ้าสะดวกหนูจะไปร่วมบุญที่บ้านสวนพีระมิด   ขอไปร่วมสร้างพระชำระหนี้แผ่นดิน  และใช้แรงกายร่วมบุญอื่นๆ

 

เพราะภัยพิบัติที่เกิดขึ้นก็เพราะคนเป็นหนี้แผ่นดิน  หนี้สงฆ์ ซึ่งเป็นกรรมหนัก ทำให้เกิดภัยพิบัติ    การทำความดีสร้างบุญเป็นการเพิ่มพลังบวกให้กับโลก  ทำให้ภัยพิบัติเบาบางลงค่ะ

      

หนูเองจะพยายามรักษาศีล 5  ทรงพรหมวิหาร 4 ทำความดีทุกอย่าง   เพื่อที่จะได้รอดอยู่ติดตามรับใช้พระองค์ท่าน  ไม่หลุดไปอยู่นรก  นี่คงจะเป็นสิ่งที่หนูจะทำได้ในการรับใช้พระศรีอาริย์ค่ะท่านอาจารย์ 

      

หนูกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์เป็นอย่างสูงค่ะ  ที่ถามคำถามนี้

เป็นการกระตุ้นเตือนให้รู้ว่าหนูควรจะทำอย่างไรที่จะเรียกว่าได้รับใช้พระองค์ท่าน  ได้ติดตามพระองค์ท่านกลับบ้านนิพพานค่ะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-14 20:00:33


ความคิดเห็นที่ 412 (1624153)

 พ่อใหญ่ธนา

หายไปไหนน้า ไม่เห็นเข้ามากระทู้นี้เลย

หรือว่า พ่อใหญ่

ไม่สนใจพระศรีอาริย์แล้วนะเนี่ย

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-14 22:14:58


ความคิดเห็นที่ 413 (1624198)

                        ใครพอจะตอบได้บ้างว่า

ระหว่างธรรมจักร กับ จักรพระศรีอาิริย์นี่

มีอานุภาพต่างกันอย่างไร

**********************************

จากที่เคยอ่านและศึกษาจากอ.แม่มา

ธรรมจักรเป็นอาวุธประจำกายพระพุทธเจ้า

ที่พระองค์ทรงใช้เผยแพร่ธรรม

เพื่อช่วยให้ผู้คนพ้นทุกข์

แต่จักรแก้วนี่น่าจะเป็นยานพาหนะคู่พระองค์รึป่าวค่ะ

ว่าแต่สิ่งสิ่งของบ้านสวนแต่ละอย่าง

ถ้าเปรียบเทียบอานุภาพ วิธีใช้

และเป้าหมายของการใช้แล้ว 

คล้ายๆกับแก้ว 7 ประการเลยค่ะ

เมื่อนำมาเทียบดู

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 04:37:16


ความคิดเห็นที่ 414 (1624264)

 ใครพอจะตอบได้บ้างว่า

ระหว่างธรรมจักร กับ จักรพระศรีอาิริย์นี่

มีอานุภาพต่างกันอย่างไร

-----------------------------------------------------------------------------------

ตามความเข้าใจของอัญ อานุภาพของ

ธรรมจักรเปรียบเสมือน พระธรรมคำสอน

ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงโปรดสัตว์ทั้งหลายทั่วไป

ส่วนจักรพระศรีอาริย์ นั้น ก็เป็นพระธรรมคำสอน

ที่เปรียบเหมือนอาวุธที่มีไว้ปราบมาร ผู้มีกิเลสหนามากเป็นพิเศษ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 12:49:04


ความคิดเห็นที่ 415 (1624274)

 ใครพอจะตอบได้บ้างว่า

ระหว่างธรรมจักร กับ จักรพระศรีอาิริย์นี่

มีอานุภาพต่างกันอย่างไร

***

ผมเดาว่า ธรรมจักร  น่าจะหมายถึงพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์

เหมือนล้อเกวียนที่นำพาเราไปสู่ทางพ้นทุกข์

คือ "มรรคมีองค์ 8"

เหมือนรถเกวียน ที่มี 4 ล้อเปรียบเสมือน"อริยสัจ 4"

รถเกวียนจำเป็น ต้องมี 4 ล้อ เพราะ ให้รถทรงตัวอยู่ได้

เหมือนการเดินมรรค คือ ต้องเดิน"ทางสายกลาง"

ส่วน จักรของพระศรีอาริย์  น่าจะเปรียบเสมือน  คอยปราบกิเลสมารในใจคนและปกป้องอันตรายจากคนไม่ดี

ส่วนผู้ที่ถูกคัดเลือกก็เป็นผู้ที่จะเดินหน้าต่อไปในยุคใหม่

เพราะตามที่เข้าใจ ว่าหน้าที่ของท่านในยุคนี้คือเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ และนำพาคนเข้าสู่นิพพาน

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 13:56:28


ความคิดเห็นที่ 416 (1624280)

ใครพอจะตอบได้บ้างว่า

ระหว่างธรรมจักร กับ จักรพระศรีอาริย์นี่

มีอานุภาพต่างกันอย่างไร

************************

คิดว่าอนุภาพไม่ได้ต่างกัน ขึ้นอยู่กับวิธีการใช้ในแต่ละโอกาสมากกว่าค่ะ

"จักร" ก็หมายถึง "ธรรมจักร" ก็หมายความว่า หากคนใดที่มีกิเลสหนามาก มีทิฎฐิมานะหนามาก ต้องใช้จักรปราบปราม คือ "ธรรมจักร"  คนใดที่มีกิเลสน้อยก็ให้ใช้ "พระขรรค์" เคาะหรือให้ถู หรือขูดก็หาย

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลา บุตรโส (อัญ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 14:16:23


ความคิดเห็นที่ 417 (1624354)

ใครพอจะตอบได้บ้างว่า

ระหว่างธรรมจักร กับ จักรพระศรีอาริย์นี่

มีอานุภาพต่างกันอย่างไร

...........................................

 

 


ธนิต อยู่โพธิ์ เรียบเรียง

.....................................................................................................................
ก่อนจะพูดถึงเรื่องธรรมจักร ข้าพเจ้าขอทบทวนฟื้นความจำเรื่องพุทธประวัติแก่บรรดาท่านพุทธศาสนิกชน ซึ่งยังคงจำกันได้ดีว่า ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะประสูตินั้น มีพระคัมภีร์ทายลักษณะบอกไว้ว่า ท่านผู้ประกอบด้วยลักษณะของมหาบุรุษ 32 ประการ ย่อมมีคติเป็น 2 คือ ถ้าอยู่ครองฆราวาส จักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ถ้าออกบรรพชา จักได้เป็นพระพุทธเจ้า

พระเจ้าจักรพรรดิ มีสมบัติเป็นอย่างไรบ้าง ? เราลองพิจารณากันดู ตามคัมภีร์พระพุทธศาสนากล่าวไว้ว่า พระเจ้าจักรพรรดิมีสมบัติสำคัญ เรียกว่ารัตนะ มี 7 อย่างคือ จักรแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว แก้วมณี นางแก้ว ขุนคลังแก้ว และขุนพลแก้ว ใน 7 อย่างนี้ จักรแก้วเป็นของสำแดงพระบรมเดชานุภาพสำคัญที่สุด และดูเหมือนจักรแก้ว หรือจักกรัตนะนี้แหละ ที่ เป็นเหตุให้ได้เชื่อว่าเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ จักกรัตนะ หรือจักรแก้ว หรือล้อแก้วนี้ ตามพระคัมภีร์บาลีบอกไว้ว่ามีกำพันซี่ มีกง มีดุม บริสุทธิ์ด้วยอาการทุกอย่าง เมื่อจักกรัตนะบังเกิดแก่พระราชาองค์ใด พระราชาองค์นั้นก็เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ท่านพรรณาไว้ว่า วันที่จักกรัตนะปรากฎนั้น เป็นวันเพ็ญอุโบสถ พระราชาทรงสรงพระเศียรและรักษาอุโบสถศีล เสด็จประทับอยู่บนราชอาสน์ ณ ประสาทชั้นบน แล้วจักรรัตนะก็ลอยจากจักกทหะ ในภูเขาวิบุลบรรพต มาปรากฎเฉพาะพระพักตร์ให้ทรงประจักษ์ว่า พระองค์เป็นราชาจักรพรรดิแล้ว พระเจ้าจักรพรรดิก็จะเสด็จลุกจากราชอาสน์ ทรงทำอุตตราสงค์ แล้วทรงหยิบพระสุวรรณภิงคารด้วยพระหัตถ์ซ้าย ทรงประพรมน้ำในพระสุวรรณภิงคารลงบนจักกรัตนะด้วยพระหัตถ์ขวา แล้วมีพระราชดำรัสว่า จักกรัตนะอันเจริญจงหมุนไป จักกรัตนะอันเจริญจงนำชัยชนะให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป แล้วจักกรัตนะนั้นก็หมุนไปทางทิศบูรพา หมุนไปทางทิศทักษิณ หมุนไปทางทิศปัศจิน หมุนไปทางทิศอุดร จักกรัตนะหมุนไปทางทิศใด พระเจ้าจักรพรรดิพร้อมด้วยจัตุรงคเสนาก็เสด็จตามไปด้วย จักกรัตนะหยุดอยู่ ณ ประเทศใด พระเจ้าจักรพรรดิกับจัตุรงคเสนาก็พักอยู่ ณ ประเทศนั้นด้วย

 

(ซ้าย) ภาพสิงโตรองรับธรรมจักร เหนือบัวหัวเสา บนเสาศิลาอโศก ขุดพบที่ตำบลสารนาถ เมืองพาราณสี

(ขวา) ภาพจำหลักเป็นดอกบัว และเสาธรรมจักร ที่กำแพงศิลาพระมหาสถูปสาญจี จะเห็นดอกบัวตูมสองดอกชูก้านออกมาจากฐานเหนือบัวคว่ำคล้ายรูประฆังคว่ำ แสดงให้เห็นว่า ยอดเสาศิลาอโศก ภาพซ้าย เมื่อยังสมบูรณ์ดีอยู่ ก็จะมีธรรมจักรประดิษฐานอยู่เหนือหัวสิงโตทั้งสี่ เช่นใน รูปขวา

บรรดาพระราชาผู้เคยเป็นปฏิปักษ์อยู่ในทิศนั้น ๆ ก็เข้ามาเฝ้าถวายการต้อนรับถวายความภักดี ยอมอยู่ใต้พระบรมเดชานุภาพ พระเจ้าจักรพรรดิก็พระราชทานโอวาทด้วยศีลห้า (ซึ่งเรารู้จักกันดีแล้ว) เมื่อจักกรัตนะนำชัยชนะไปทั่วปฐพี มีมหาสมุทรเป็นแดนโดยรอบแล้ว ก็นำเสด็จกลับมายังราชธานี* จักกรัตตะหรือล้อแก้วนี้ในคัมภีร์อรรถกถา** พรรณานาขยายความออกไปอีกยืดยาว แต่พอสรุปกล่าวไว้ว่าจักกรัตนะนั้นมีรูปเหมือนล้อรถ ดุมเป็นแก้วอินทนิล ตรงกลางดุมส่องแสงซ่านออกเป็นวงกลมเหมือนพระจันทร์ทรงกลดรอบดุมเป็นแผ่นเงิน มีซี่กำล้วนแล้วด้วยแก้ว 7 ประการ ทั้งพันซี่ กำแต่ละซี่มีลวดลายประดับต่าง ๆ กัน ส่วนกงล้อเป็นแก้วประพาสสีสุกใส วงนอกของกงทุกระยะของกำ 10 ซี่ที่สอดเข้าไปนั้น มีท่อแก้วประพาฬติดอยู่ขอบนอกของกงทุกระยะ รวม 100 ท่อ เมื่อจักกรัตนะหมุนไปในอากาศท่อแก้วประพาฬเหล่านี้ จะกินลมเกิดเป็นเสียงไพเราะดุจเสียงปัญจดุริยางคดนตรี บนท่อแก้วประพาฬแต่ละอันมีเศวตฉัตรห้อยเฟื่องดอกไม้แก้วมุกดา เมื่อจักกรัตนะหมุนเวียนไปจะปรากฎคล้ายวงล้อ 3 อัน หมุนอยู่ภายในของกันและกัน

แต่เท่าที่เห็นทำรูปกันไว้ ก็ทำเป็นอย่างล้อรถหรือล้อเกวียนนั่นเอง (ดูรูปขวามือ เพื่อเปรียบเทียบ)

เมื่อได้พูดถึงจักกรัตนะ หรือล้อแก้ว ซึ่งเป็นสมบัติส่งเสริมพระบรมเดชานุภาพสำคัญยิ่งของพระเจ้าจักรพรรดิ มาโดยสังเขปเช่นนี้ ก็พอจะนึกเห็นกันได้ว่า พระเจ้าจักรพรรดิก็คือผู้ทำให้จักรหรือล้อหมุนไป ซึ่งในบางพระสูตรยังกล่าวเป็นตำนานไว้อีกว่า พระราชาจักรพรรดิ ผู้ประกอบด้วยธรรมทรงเป็นธรรมราชา เป็นผู้ทำให้จักรหมุนไปโดยธรรม จักรนั้นอันสัตว์มนุษย์ไร ๆ ผู้เป็นปรปักษ์ (ต่อพระเจ้าจักรพรรด) จะหมุนไม่ได้

เมื่อพระสิทธัตถะราชกุมารไม่ต้องพระประสงค์สมบัติจักรพรรดิ และทรงประปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้า จึงเสด็จออกบรรพชาและทรงบำเพ็ญเพียร จนได้ตรัสรู้ "พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ" พระองค์ก็เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือที่เราเรียกกันเป็นคำสามัญว่า "พระพุทธเจ้า" พระพุทธเจ้าได้โปรดประทานเทศนาเป็นครั้งแรกแก่พระภิกษุปัญจวัคคีย์ คือพวกพระภิกษุ 5 องค์ ณ อิสิปตนะมิคทายวัน ในเมืองพาราณสี เมื่อวันอาสาฬหปุณณมี คือวันเพ็ญเดือน 8 เทศนาครั้งแรกนี้เรียกกันว่า "ปฐมเทศนา" และเรื่องที่พระพุทธเจ้าทรงใช้เป็นปฐมเทศนานั้น เรียกว่า "ธรรมจักรกัปปวัตนสูตร" แปลง่าย ๆ ก็ว่าพระสูตรว่าด้วยเรื่องพระพุทธเจ้าทรงหมุนล้อแห่งธรรมหรือธรรมจักร

..............................................................
* ดู - มหาสุทสฺสนสุตฺต ทีฆนิกาย มหาวคฺค
** สุมงฺคลวิลาสินี ทุติยภาค น. 289 - 290


 

 

จากข้อมูลที่หามาได้พจน์คิดว่า ธรรมจักรกับจักรของพระศรีอาริย์น่าจะมีอนุภาพเหมือนหรือคล้ายกันค่ะ คือมีไว้ปราบอธรรม เพียงแต่ธรรมจักรเป็นอาวุธของพระพุทธเจ้าและพระจักรแก้วเป็นอาวุธของพระเจ้าจักรพรรดิค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น พรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 19:00:07


ความคิดเห็นที่ 418 (1624402)

 

 


ธนิต อยู่โพธิ์ เรียบเรียง

.....................................................................................................................
ก่อนจะพูดถึงเรื่องธรรมจักร ข้าพเจ้าขอทบทวนฟื้นความจำเรื่องพุทธประวัติแก่บรรดาท่านพุทธศาสนิกชน ซึ่งยังคงจำกันได้ดีว่า ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะประสูตินั้น มีพระคัมภีร์ทายลักษณะบอกไว้ว่า ท่านผู้ประกอบด้วยลักษณะของมหาบุรุษ 32 ประการ ย่อมมีคติเป็น 2 คือ ถ้าอยู่ครองฆราวาส จักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ถ้าออกบรรพชา จักได้เป็นพระพุทธเจ้า

พระเจ้าจักรพรรดิ มีสมบัติเป็นอย่างไรบ้าง ? เราลองพิจารณากันดู ตามคัมภีร์พระพุทธศาสนากล่าวไว้ว่า พระเจ้าจักรพรรดิมีสมบัติสำคัญ เรียกว่ารัตนะ มี 7 อย่างคือ จักรแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว แก้วมณี นางแก้ว ขุนคลังแก้ว และขุนพลแก้ว ใน 7 อย่างนี้ จักรแก้วเป็นของสำแดงพระบรมเดชานุภาพสำคัญที่สุด และดูเหมือนจักรแก้ว หรือจักกรัตนะนี้แหละ ที่ เป็นเหตุให้ได้เชื่อว่าเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ จักกรัตนะ หรือจักรแก้ว หรือล้อแก้วนี้ ตามพระคัมภีร์บาลีบอกไว้ว่ามีกำพันซี่ มีกง มีดุม บริสุทธิ์ด้วยอาการทุกอย่าง เมื่อจักกรัตนะบังเกิดแก่พระราชาองค์ใด พระราชาองค์นั้นก็เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ท่านพรรณาไว้ว่า วันที่จักกรัตนะปรากฎนั้น เป็นวันเพ็ญอุโบสถ พระราชาทรงสรงพระเศียรและรักษาอุโบสถศีล เสด็จประทับอยู่บนราชอาสน์ ณ ประสาทชั้นบน แล้วจักรรัตนะก็ลอยจากจักกทหะ ในภูเขาวิบุลบรรพต มาปรากฎเฉพาะพระพักตร์ให้ทรงประจักษ์ว่า พระองค์เป็นราชาจักรพรรดิแล้ว พระเจ้าจักรพรรดิก็จะเสด็จลุกจากราชอาสน์ ทรงทำอุตตราสงค์ แล้วทรงหยิบพระสุวรรณภิงคารด้วยพระหัตถ์ซ้าย ทรงประพรมน้ำในพระสุวรรณภิงคารลงบนจักกรัตนะด้วยพระหัตถ์ขวา แล้วมีพระราชดำรัสว่า จักกรัตนะอันเจริญจงหมุนไป จักกรัตนะอันเจริญจงนำชัยชนะให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป แล้วจักกรัตนะนั้นก็หมุนไปทางทิศบูรพา หมุนไปทางทิศทักษิณ หมุนไปทางทิศปัศจิน หมุนไปทางทิศอุดร จักกรัตนะหมุนไปทางทิศใด พระเจ้าจักรพรรดิพร้อมด้วยจัตุรงคเสนาก็เสด็จตามไปด้วย จักกรัตนะหยุดอยู่ ณ ประเทศใด พระเจ้าจักรพรรดิกับจัตุรงคเสนาก็พักอยู่ ณ ประเทศนั้นด้วย

 

 

 

 

(ซ้าย) ภาพสิงโตรองรับธรรมจักร เหนือบัวหัวเสา บนเสาศิลาอโศก ขุดพบที่ตำบลสารนาถ เมืองพาราณสี

(ขวา) ภาพจำหลักเป็นดอกบัว และเสาธรรมจักร ที่กำแพงศิลาพระมหาสถูปสาญจี จะเห็นดอกบัวตูมสองดอกชูก้านออกมาจากฐานเหนือบัวคว่ำคล้ายรูประฆังคว่ำ แสดงให้เห็นว่า ยอดเสาศิลาอโศก ภาพซ้าย เมื่อยังสมบูรณ์ดีอยู่ ก็จะมีธรรมจักรประดิษฐานอยู่เหนือหัวสิงโตทั้งสี่ เช่นใน รูปขวา

บรรดาพระราชาผู้เคยเป็นปฏิปักษ์อยู่ในทิศนั้น ๆ ก็เข้ามาเฝ้าถวายการต้อนรับถวายความภักดี ยอมอยู่ใต้พระบรมเดชานุภาพ พระเจ้าจักรพรรดิก็พระราชทานโอวาทด้วยศีลห้า (ซึ่งเรารู้จักกันดีแล้ว) เมื่อจักกรัตนะนำชัยชนะไปทั่วปฐพี มีมหาสมุทรเป็นแดนโดยรอบแล้ว ก็นำเสด็จกลับมายังราชธานี* จักกรัตตะหรือล้อแก้วนี้ในคัมภีร์อรรถกถา** พรรณานาขยายความออกไปอีกยืดยาว แต่พอสรุปกล่าวไว้ว่าจักกรัตนะนั้นมีรูปเหมือนล้อรถ ดุมเป็นแก้วอินทนิล ตรงกลางดุมส่องแสงซ่านออกเป็นวงกลมเหมือนพระจันทร์ทรงกลดรอบดุมเป็นแผ่นเงิน มีซี่กำล้วนแล้วด้วยแก้ว 7 ประการ ทั้งพันซี่ กำแต่ละซี่มีลวดลายประดับต่าง ๆ กัน ส่วนกงล้อเป็นแก้วประพาสสีสุกใส วงนอกของกงทุกระยะของกำ 10 ซี่ที่สอดเข้าไปนั้น มีท่อแก้วประพาฬติดอยู่ขอบนอกของกงทุกระยะ รวม 100 ท่อ เมื่อจักกรัตนะหมุนไปในอากาศท่อแก้วประพาฬเหล่านี้ จะกินลมเกิดเป็นเสียงไพเราะดุจเสียงปัญจดุริยางคดนตรี บนท่อแก้วประพาฬแต่ละอันมีเศวตฉัตรห้อยเฟื่องดอกไม้แก้วมุกดา เมื่อจักกรัตนะหมุนเวียนไปจะปรากฎคล้ายวงล้อ 3 อัน หมุนอยู่ภายในของกันและกัน

แต่เท่าที่เห็นทำรูปกันไว้ ก็ทำเป็นอย่างล้อรถหรือล้อเกวียนนั่นเอง (ดูรูปขวามือ เพื่อเปรียบเทียบ)

เมื่อได้พูดถึงจักกรัตนะ หรือล้อแก้ว ซึ่งเป็นสมบัติส่งเสริมพระบรมเดชานุภาพสำคัญยิ่งของพระเจ้าจักรพรรดิ มาโดยสังเขปเช่นนี้ ก็พอจะนึกเห็นกันได้ว่า พระเจ้าจักรพรรดิก็คือผู้ทำให้จักรหรือล้อหมุนไป ซึ่งในบางพระสูตรยังกล่าวเป็นตำนานไว้อีกว่า พระราชาจักรพรรดิ ผู้ประกอบด้วยธรรมทรงเป็นธรรมราชา เป็นผู้ทำให้จักรหมุนไปโดยธรรม จักรนั้นอันสัตว์มนุษย์ไร ๆ ผู้เป็นปรปักษ์ (ต่อพระเจ้าจักรพรรด) จะหมุนไม่ได้ 

เมื่อพระสิทธัตถะราชกุมารไม่ต้องพระประสงค์สมบัติจักรพรรดิ และทรงประปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้า จึงเสด็จออกบรรพชาและทรงบำเพ็ญเพียร จนได้ตรัสรู้ "พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ" พระองค์ก็เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือที่เราเรียกกันเป็นคำสามัญว่า "พระพุทธเจ้า" พระพุทธเจ้าได้โปรดประทานเทศนาเป็นครั้งแรกแก่พระภิกษุปัญจวัคคีย์ คือพวกพระภิกษุ 5 องค์ ณ อิสิปตนะมิคทายวัน ในเมืองพาราณสี เมื่อวันอาสาฬหปุณณมี คือวันเพ็ญเดือน 8 เทศนาครั้งแรกนี้เรียกกันว่า "ปฐมเทศนา" และเรื่องที่พระพุทธเจ้าทรงใช้เป็นปฐมเทศนานั้น เรียกว่า"ธรรมจักรกัปปวัตนสูตร" แปลง่าย ๆ ก็ว่าพระสูตรว่าด้วยเรื่องพระพุทธเจ้าทรงหมุนล้อแห่งธรรมหรือธรรมจักร

.............................................................. 
* ดู - มหาสุทสฺสนสุตฺต ทีฆนิกาย มหาวคฺค
** สุมงฺคลวิลาสินี ทุติยภาค น. 289 - 290 


 

 

จากข้อมูลที่หามาได้พจน์คิดว่า ธรรมจักรกับจักรของพระศรีอาริย์น่าจะมีอนุภาพเหมือนหรือคล้ายกันค่ะ คือมีไว้ปราบอธรรม เพียงแต่ธรรมจักรเป็นอาวุธของพระพุทธเจ้าและพระจักรแก้วเป็นอาวุธของพระเจ้าจักรพรรดิค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น พรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 19:00:07
ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-15 23:20:23


ความคิดเห็นที่ 419 (1624432)

ใน 7 อย่างนี้ 

จักรแก้วเป็นของสำแดง

พระบรมเดชานุภาพสำคัญที่สุด 

 

และ ดูเหมือนจักรแก้ว

หรือจักกรัตนะนี้แหละ

ที่ เป็นเหตุให้ได้เชื่อว่า

เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ

 

จักกรัตนะ หรือจักรแก้ว หรือล้อแก้วนี้

ตามพระคัมภีร์บาลีบอกไว้ว่า

มีกำพันซี่ มีกง มีดุม

บริสุทธิ์ด้วยอาการทุกอย่าง 

เมื่อจักกรัตนะบังเกิดแก่พระราชาองค์ใด

พระราชาองค์นั้นก็เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ

...........................

รับทราบค่ะ... เห็นอาจารย์

เน้นข้อความบางส่วนเป็นสีแดง

แสดงว่า มีนัยยะซ่อนอยู่

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 07:10:38


ความคิดเห็นที่ 420 (1624476)

พระศรีอาริย์ยุคก่อนกึ่งพุทธกาล

 

 เมื่อพระเมตไตรย์โพธิสัตว์จุติลงมานั้น นางประทุมผู้ภรรยาเจ้าบริสุทธิ์กุมารได้ฝันตอนใกล้รุ่งว่า พระอาทิตย์เสด็จอุทัยไขรัศมีแล้วกระจ่างสว่างขึ้นมาเหนือยอดเขายุคนธร ลอยละลิ่วมาในอากาศ แล้วลอยเลื่อนลงมาตรงปากของนาง นางมีความโสมนัสยินดี ได้กลืนกินดวงสุริยาเทพบุตรกับทั้งราชรถไว้ในนาภี ครั้นรุ่งเช้านางจึงเล่าความฝันให้สามีฟัง บริสุทธิ์กุมารฟังความก็ดีใจว่าจะได้บุตรสมปรารถนา


จนถ้วน 10 เดือนในเดือนยี่ ขึ้น 15 ค่ำ เป็นวันดี เมตไตรย์เทวบุตรก็ประสูติจากครรภ์มารดา ในครั้งนั้นบังเกิดมหามหัศจรรย์ทั่วทุกทิศานุทิศ พื้นพสุธาอันหนาแน่นถึงสองแสนสี่หมื่นโยชน์สะเทือนเลือนลั่น มหาสมุทรใหญ่น้อยก็ตีฟองระลอกกระฉอกฉาน เทพยดาในเมืองสวรรค์ก็เป่าสังข์ โปรยดอกไม้หอมฟุ้งตลบอบอวล

เมื่อพระโพธิสัตว์เจริญวัยได้ 18 ปี ออกช่วยมารดาทำไร่นา และช่วยขับไล่นกไม่ให้มาจิกข้าวในนา ฝ่ายนกทั้งหลายเมื่อเห็นพระโพธิสัตว์ขับไล่ ก็พากันร้องบอกต่อ ๆ กันไปว่า

“ พวกเราทั้งหลายอย่ากินข้าวนานี้เลย ท่านเป็นพระโพธิสัตว์มาเกิดและท่านจะได้ตรัสเป็น พระชินศรีสัมพุทโธในอนาคต”

เมื่อนกกระจาบทั้งหลายได้ยินดังนั้น ก็ไม่ลงกินข้าวในนาของพระโพธิสัตว์

วันหนึ่งพระโพธิสัตว์ไปเฝ้านา เห็นฝูงปลาในบึงเป็นอันมาก คิดจะตกปลา จึงเอาเหยื่อเกี่ยวเบ็ดแล้วหย่อนลงในน้ำ พลางเปล่งอุทานวาจาว่า

“ ดูกร ปลาทั้งหลาย ปลาตัวใดเคยเป็นอาหารของเรามาก่อน ก็จงกินเหยื่อเบ็ดนี้ ถ้าปลาตัวใดไม่เคยเป็นอาหารของเรามาก่อน ก็อย่ากินเหยื่อเบ็ดนี้เลย เบ็ดนี้แหลมคมนัก มันจะเกี่ยวปากได้รับความเจ็บปวด”

ฝูงปลาทั้งหลายเมื่อได้ฟังอุทานวาจาเช่นนั้นก็เกิดความสงสัยว่า ผู้ใดหนอมากล่าววาจาเช่นนี้ ได้เที่ยวมาช้านานแล้ว ไม่เคยได้ยินสัจวาจาที่เป็นธรรมะดังนี้เลย หรือว่าจะเป็นหน่อพระชินศรีบรมโพธิสัตว์ สร้างโพธิสมภารเพื่อประโยชน์จะได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตภายภาคหน้า ฝูงปลาทั้งหลายจึงร้องบอกแก่กันและกันว่า 
“ ดูกร เราท่านทั้งปวง อย่ากินเหยื่อที่เบ็ดนี้เลย เป็นเบ็ดของโพธิสัตว์ ซึ่งตั้งสัจจาธิษฐานปรารถนาจะให้จิตบริสุทธิ์ จึงได้กล่าววาจาเป็นคำซื่อตรงดังนี้”

บรรดาปลาทั้งหลายเมื่อทราบความจริง ก็ทำเมินไม่เข้าไปกินเบ็ดของพระโพธิสัตว์

ขณะนั้นมีปลาดุกตัวหนึ่งได้ฟังคำห้ามจึงพูดกับปลาทั้งปวงว่า
“ ดูกรท่านทั้งปวง ชายคนนี้ประสงค์จะสร้างพระ บารมีโพธิสัตว์สมภาร ปรารถนาจะได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าในภายหน้า เรานี้ก็ได้ชื่อว่าตัวดีอาจจะให้ชีวิตเป็นทานได้ ด้วยปรารถนาจะสำเร็จพระโพธิญาณในภายหน้า”

เมื่อพูดเช่นนั้นปลาดุกตัวกล้าก็พุ่งเข้าไป ฉวยคาบเบ็ดของพระโพธิสัตว์แล้วลากไป พระโพธิสัตว์รู้ว่าปลาติดเบ็ดแล้วก็ตวัดขึ้นไป ปลาดุกมีความเจ็บปวดก็ร้องด้วยวาจาภาษาคนว่า

“ โปรดก่อนเจ้าข้า อย่าวัดแรงนัก เจ็บเหลือทนแล้ว จงวัดค่อย ๆ เถิด”

ปลาหมอตัวหนึ่งได้ฟังดังนั้นจึงร้องบอกว่า

“ ปลาดุกเอ๋ย เจ้าศรัทธากล้าตายแล้วจะร้องไปทำไม จงอุตส่าห์แข็งอกแข็งใจทนเอาเถิด จะได้สำเร็จแก่พระนิพพาน”

เมื่อพระโพธิสัตว์และมารดาได้ยินปลาพูด เป็นภาษาคน ก็คิดฉงนว่าจะเป็นนิมิตอันหนึ่งอันใดหนอ จำจะนำเหตุการณ์นี้ไปถามนักปราชญ์ดูว่าดีร้ายประการใด ทั้งสองจึงชวนกันกลับบ้านจัดแจงหาธูปเทียนดอกไม้หมากพลู แล้วพากันไปวัด หมอบกราบท่านเจ้าคุณผู้ใหญ่ ผู้แตกฉานในพระไตรปิฎก ท่านพิจารณาเรื่องราวแล้วเข้าใจทันทีว่า เด็กหนุ่มคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ เห็นจะเป็นหน่อพระชินสีห์โพธิสัตว์เป็นแน่แท้ ครั้นจะทายทักออกไปตามที่คิดก็เกรงว่ากิติศัพท์จะฟุ้งซ่านมากไป ไม่เป็นการสมควร จำจะทำนายโดยโวหาร พอให้หายข้องใจ จึงกล่าวว่า

“ ดูกร อุบาสิกา บุตรของท่านเราเห็นว่าไม่ สมควรที่จะอยู่ในเพศฆราวาส ถ้ากระไรก็ให้บรรพชาบวชเป็นสามเณรเสียเถิดจะประเสริฐกว่า”

ผู้เป็นมารดาได้ฟังก็ดีใจ มอบถวายบุตรชายให้ บวชเป็นสามเณรในวันเวลานั้น ฝ่ายสามเณรศรีอาริย์ก็อุตส่าห์เล่าเรียนพระไตรปิฎกจนแตกฉานทั้ง 3 ประการ คือรู้ในพระสูตร พระวินัย และพระปรมัตถ์

นับแต่พระโพธิสัตว์ศรีอาริย์บรรพชาเป็นสามเณร ท้าวสักกะพร้อมด้วยอัปสรเทพกัญญา เป็นต้นว่านางสุชาดา นางสุนันทา นางสุจิตรา และนางสุธรรมา ต่างก็ลงมาปรนนิบัติเตรียมน้ำสรงตลอดจนผ้าสบงจีวร ให้สามเณรได้รับความสะดวกสบายทุกประการ โดยที่ไม่มีใครรู้เห็นการมาของทวยเทพเหล่านั้นเลย

สามเณรศรีอาริย์บำเพ็ญอยู่จนถึงอายุ 20 ปี
ก็ ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ จำพรรษาอยู่ ณ. วัดไลย
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 13:36:34


ความคิดเห็นที่ 421 (1624480)

 วัดไลย ปัจจุบันนี้อยู่ตำบลเขาสมอคอน

อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี

 

ตำนานเกี่ยวกับวัดไลย์ที่วัดนี้มีพระพุทธรูปอยู่องค์หนึ่ง ประชาชนเลื่อมใสศรัทธามาก คือพระศรีอาริย์ โดยมีตำนานเล่าเกี่ยวกับพระศรีอาริย์นี้ว่า ชายแก่คนหนึ่งชื่อว่ามณฑา หมั่นทำบุญรักษาศีลภาวนาอยู่เป็นนิจ เพื่อจะได้มีอายุยืนให้ถึงสมัยพระศรีอาริย์มาโปรดโลกมนุษย์ ก่อนจะตายแกได้สั่งญาติไว้ว่าให้เอาศพแกไว้7วันแล้วค่อยเผา เมื่อเฒ่ามณฑาตายไป ด้วยบุญกุศลที่แกสร้างสมไว้ พระอินทร์จึงเป็นผู้มารับวิญญาณและแจ้งแกว่าพระศรีอาริย์มาเกิดเป็นมนุษย์แล้วและบวชเป็นพระอยู่วัดไลย์ แต่ไม่รู้ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร

 

พระอินทร์จึงมอบดอกบัวหนึ่งดอกแก่เฒ่ามณฑา เพื่อนำไปกราบพระศรีอาริย์ แล้วส่งวิญญาณแกกลับสู่ร่าง เฒ่ามณฑาฟื้นขึ้นมาแล้วเล่าเรื่องไปพบพระอินทร์ให้ญาติพี่น้องฟัง และรีบไปวัดไลย์ เมื่อไปถึงพระกำลังสวดปาฏิโมกข์อยู่ในโบสถ์ แกจึงนั่งรออยู่ที่บันไดโบสถ์พร้อมกับพนมมือชูดอกบัวขึ้นถวาย พระได้เดินออกจากโบสถ์ทีละรูป แต่ไม่มีพระองค์ใดรับดอกบัวเลย เนื่องจากพระมองไม่เห็นดอกบัว เห็นเพียงเฒ่ามณฑานั่งพนมมืออยู่ เมื่อพระออกจากโบสถ์จนหมดแล้ว เฒ่ามณฑาจึงถามเณรว่า พระวัดนี้หมดแล้วหรือ เณรบอกว่ายังมีอีกรูปหนึ่งชื่อพระศรี วันนี้อาพาธไม่ได้ลงโบสถ์ แกจึงรีบไปหาพระศรีที่กุฏิเพื่อถวายดอกบัว


พระศรีเห็นดอกบัวก็รีบลุกขึ้นรับ เฒ่ามนฑารู้ทันทีว่าเป็นพระศรีอาริย์ยังความปลาบปลื้มปิติให้แก่เฒ่ามณฑาเป็นอย่างยิ่ง จึงขออยู่รับใช้พระศรีอาริย์ โดยพระศรีอาริย์ไม่ให้แกเล่าเรื่องที่พระศรีอาริย์ลงมาเกิดในโลกมนุษย์และบวชเป็นพระอยู่วัดไลย์ให้แกรู้ อยู่ต่อมาพระศรีย์ก็ถึงแก่มรณะภาพ พระภิกษุสามเณรและประชาชนผู้มีจิตศรัทธาจึงร่วมกันหล่อรูปพระศรีอาริย์แต่ทำอย่างไรก็ไม่เสร็จ พระอินทร์จึงแอบมาหล่อให้ในเวลาเพลที่ภิษุสามเณรไปฉันเพล เมื่อกลับจากฉันเพลก็เห็นรูปหล่อพระศรีอาริย์เสร็จเรียบร้อยแล้วเป็นที่อัศจรรย์

 

ที่มา  http://www.arayun.com/phasri_main.htm  ,

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B9%8C#.E0.B8.9E.E0.B8.A3.E0.B8.B0.E0.B8.A8.E0.B8.A3.E0.B8.B5.E0.B8.AD.E0.B8.A3.E0.B8.B4.E0.B8.A2.E0.B9.80.E0.B8.A1.E0.B8.95.E0.B9.84.E0.B8.95.E0.B8.A3

 

**************************

เห็นว่าเว็บนี้มีการนำชื่อวัด อำเภอ ตำบล มาลงไว้ด้วยค่ะ จึงน่าจะตามหาข้อมูลพระศรีอาริย์ได้บ้างค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 13:44:41


ความคิดเห็นที่ 422 (1624492)

 

ตำนานเกี่ยวกับวัดไลย์ที่วัดนี้มีพระพุทธรูปอยู่องค์หนึ่ง ประชาชนเลื่อมใสศรัทธามาก คือพระศรีอาริย์ โดยมีตำนานเล่าเกี่ยวกับพระศรีอาริย์นี้ว่า ชายแก่คนหนึ่งชื่อว่ามณฑา หมั่นทำบุญรักษาศีลภาวนาอยู่เป็นนิจ เพื่อจะได้มีอายุยืนให้ถึงสมัยพระศรีอาริย์มาโปรดโลกมนุษย์ ก่อนจะตายแกได้สั่งญาติไว้ว่าให้เอาศพแกไว้7วันแล้วค่อยเผา เมื่อเฒ่ามณฑาตายไป ด้วยบุญกุศลที่แกสร้างสมไว้ พระอินทร์จึงเป็นผู้มารับวิญญาณและแจ้งแกว่าพระศรีอาริย์มาเกิดเป็นมนุษย์แล้วและบวชเป็นพระอยู่วัดไลย์ แต่ไม่รู้ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร

 

พระอินทร์จึงมอบดอกบัวหนึ่งดอกแก่เฒ่ามณฑา เพื่อนำไปกราบพระศรีอาริย์ แล้วส่งวิญญาณแกกลับสู่ร่าง เฒ่ามณฑาฟื้นขึ้นมาแล้วเล่าเรื่องไปพบพระอินทร์ให้ญาติพี่น้องฟัง และรีบไปวัดไลย์ เมื่อไปถึงพระกำลังสวดปาฏิโมกข์อยู่ในโบสถ์ แกจึงนั่งรออยู่ที่บันไดโบสถ์พร้อมกับพนมมือชูดอกบัวขึ้นถวาย พระได้เดินออกจากโบสถ์ทีละรูป แต่ไม่มีพระองค์ใดรับดอกบัวเลย เนื่องจากพระมองไม่เห็นดอกบัว เห็นเพียงเฒ่ามณฑานั่งพนมมืออยู่ เมื่อพระออกจากโบสถ์จนหมดแล้ว เฒ่ามณฑาจึงถามเณรว่า พระวัดนี้หมดแล้วหรือ เณรบอกว่ายังมีอีกรูปหนึ่งชื่อพระศรี วันนี้อาพาธไม่ได้ลงโบสถ์ แกจึงรีบไปหาพระศรีที่กุฏิเพื่อถวายดอกบัว


พระศรีเห็นดอกบัวก็รีบลุกขึ้นรับ เฒ่ามนฑารู้ทันทีว่าเป็นพระศรีอาริย์ยังความปลาบปลื้มปิติให้แก่เฒ่ามณฑาเป็นอย่างยิ่ง จึงขออยู่รับใช้พระศรีอาริย์ โดยพระศรีอาริย์ไม่ให้แกเล่าเรื่องที่พระศรีอาริย์ลงมาเกิดในโลกมนุษย์และบวชเป็นพระอยู่วัดไลย์ให้แกรู้ อยู่ต่อมาพระศรีย์ก็ถึงแก่มรณะภาพ พระภิกษุสามเณรและประชาชนผู้มีจิตศรัทธาจึงร่วมกันหล่อรูปพระศรีอาริย์แต่ทำอย่างไรก็ไม่เสร็จ พระอินทร์จึงแอบมาหล่อให้ในเวลาเพลที่ภิษุสามเณรไปฉันเพล เมื่อกลับจากฉันเพลก็เห็นรูปหล่อพระศรีอาริย์เสร็จเรียบร้อยแล้วเป็นที่อัศจรรย์

 

ที่มา  http://www.arayun.com/phasri_main.htm  ,

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B9%8C#.E0.B8.9E.E0.B8.A3.E0.B8.B0.E0.B8.A8.E0.B8.A3.E0.B8.B5.E0.B8.AD.E0.B8.A3.E0.B8.B4.E0.B8.A2.E0.B9.80.E0.B8.A1.E0.B8.95.E0.B9.84.E0.B8.95.E0.B8.A3

 

 

**************************

เห็นว่าเว็บนี้มีการนำชื่อวัด อำเภอ ตำบล มาลงไว้ด้วยค่ะ จึงน่าจะตามหาข้อมูลพระศรีอาริย์ได้บ้างค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ 
ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 15:13:17


ความคิดเห็นที่ 423 (1624494)

โธ่

หนูตุ้ย เอ้ย อุส่าห์ดีใจ

นึกว่า จะได้ไป ตามหา

พระศรีอาริืย์

ที่ลพบุรี

 

แต่อ่านจนจบ ที่ไหนได้

พระศรีอาริย์ มรณะภาพแล้ว

เหลือแต่รูปปั้น

 

แล้วทีนี้

จะตามยังไงล่ะ

เราต้องการพบพระองค์

แบบเป็นคนจ้า

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 15:19:00


ความคิดเห็นที่ 424 (1624502)

 

รับทราบค่ะ... เห็นอาจารย์

เน้นข้อความบางส่วนเป็นสีแดง

แสดงว่า มีนัยยะซ่อนอยู่

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 07:10:38

สีแดง  
ที่ระบายไว้นั้น
เป็นการระบายไว้
จากต้นฉบับ ที่ก๊อปมาค่ะ
คุณชนิดา จ๋า
ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 16:07:16


ความคิดเห็นที่ 425 (1624507)

  ลองเข้าไปอ่าน

"ห้องสนทนา คำถามถึง อ.อุบล"

ดูนะจ๊ะ

 

ที่่พ่อใหญ่ธนา

ถามไว้นานแล้ว พึ่งได้มาตอบจ้า

 

มี 2 กระทู้ ค่ะ

1.กระทู้บน คือ เชิญถามปัญหา

2.กระทู้ถัดมา คือ พฤติกรรมคนที่มาบ้านสวน

 
ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 16:23:36


ความคิดเห็นที่ 426 (1624510)

 

สีแดง  
ที่ระบายไว้นั้น
เป็นการระบายไว้
จากต้นฉบับ ที่ก๊อปมาค่ะ
คุณชนิดา จ๋า
.............................
รู้สึกว่า เมื่อคืนตอนที่อ่าน
ข้อความในคห.ที่418 ของคุณพจน์
เห็นว่าตัวอักษรเป็นสีดำทั้งหมด
 
แหม่..คิดว่าตัวเองเช็คดีแล้วนะคะ
ที่ไหนได้ แป่ว....
สงสัยจะง่วง โง่ ไร้สติ

กราบขอบพระคุณค่ะอาจารย์
อายจัง...อิอิ
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-16 16:27:27


ความคิดเห็นที่ 427 (1624609)

 วิธีรับใช้พระศรีอาริย์

หนูจะทำอย่างไรจ๊ะ หนูมิ้ม

คงต้องเริ่มขัดเกลาและต่อสู้กับกิเลสในใจตนเองพร้อมกับรักษาศีลของตนเองให้บริสุทธิ์ก่อนคะหลังจากนั้นก็ช่วยให้ผู้อื่นที่ยังเดินทางผิด ตื่นตัวขึ้นมาโดยเอา ผลของกรรมที่ตนเองได้รับจากการทำผิดศีลเป็นธรรมทานให้เห็นผลของกรรม เพื่อให้บุคคลเหล่านั้นเกิดปัญญาและตระหนักถึงผลของการทำผิดศีล

 

พร้อมกับนำธรรมะพระพุทธองค์ที่สื่อผ่านท่านอ.ไปบอกต่อและใช้จี้สฟิงซ

ไปช่วยเหลือผู้คนให้พ้นจากความทุกข์เพื่อให้เขาเห็นทางสว่างและกลับตัวกลับใจมาเป็นคนปกติ (ศีล)คะ

*******************************

ใครพอจะตอบได้บ้างว่า

ระหว่างธรรมจักร กับ จักรพระศรีอาิริย์นี่

มีอานุภาพต่างกันอย่างไร

ช่วยบอกหน่อยนะจ๊ะ ขอบคุณ อนุโมทนาล่วงหน้าจ้า

คิดว่าเหมือนกันคะ เพราะธรรมจักรของพระพุทธองค์คือ พระธรรมอันดีงามที่จะทำให้ชีวิตหลุดพ้นและห่างกันจากความเลว ซึ่งถ้าผู้ใดได้น้อมนำมาปฎิบัติชีวิตจะมีแต่ความสุขทั้งทางกายและใจ พร้อมกับมีปัญญา

 

เนื่องจากพระศรีอาริย์เป็นผู้ที่ได้มอบกาย ถวายชีวิตแด่พระพุทธองค์

และยังเป็นผู้ที่มีความมั่นคงแต่เพราะธรรมของพระพุทธองค์เป็นที่สุด

ดังนั้น

จักรพระศรีอาริย์นั้นน่าจะเป็นตัวแทนธรรมจักรของพระพุทธองค์ที่พระศรีอาริย์

นำมาใช้ในการกอบกู้ในยุคสมัยของพระองค์

อานุภาพของธรรมจักรกับจักรพระศรีอาริย์ย่อมไม่แตกต่างกันคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-17 07:13:56


ความคิดเห็นที่ 428 (1624807)

บัดนี้

เราทั้งหลาย ที่ไปที่่มหิดล

เมื่อ 17 ส.ค.55

ต่างก็ไ้ด้ประจักษ์แก่สายตาพวกเราแล้ว

ว่า

บารมีพระศรีอาริย์

มีจริงหรือไม่

อย่างไร  โดยที่

อ.อุบล

ได้ขออาราธนาบารมีแห่งพระองค์

ทรงโปรดประทานให้

มาสถิตย์

ในกาย วาจา และใจ

ของ อ.อุบล

 

และ

ขอพุทธานุุญาต

พิสูจน์พระบารมี อันกรียงไกร

ต่อหน้าสาธารณณณะชน

 

แม้ว่า

ผู้คนทั้งหลาย

จะมองไม่เห็นพระองค์

(บางคนที่ได้มโนอาจเห็นก็ได้)

 

 แต่ขอพระองค์ทรงประทาน

สัตรังสี รัศมี 7 ประการ

ผ่านมายังกายา ข้าพระพุทธเจ้า

 

หากแม้ผู้ใดเข้ามาใกล้

ข้าพระพุทธเจัา

ขอให้ทุกข์โศก โรคภัย หายทันที

แม้ไม่มีการสารภาพบาป

ก็ตาม

 

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

 

แล้วก็มีการพิสูจน์

โดยให้คนที่ยังมีอาการเหลืออยู่

หรือ ที่ยังไม่หาย มาพิสูจน์

พระบารมีพระองค์

แล้วก็ได้เห็นประจักษ์

ว่า

แต่ละคน ดีขึ้น ทันที 

ซึ่งก่อนหน้านั้นได้บำบัดแล้ว

แต่ยังไม่หาย

และ

เห็นผล เกิดผล โดยทั่วกัน

 

 มีคนหนึ่ง

ซึ่งขอกราบ ซึ่งการกราบนี้

อ.อุบล

ได้นัดแนะ

กับพ่อใหญ่ธนา

ไปอย่างดิบดีแล้วว่า

อย่าพูดถึงเด็ดขาด

 

เพราะ

อ.ไม่ชอบ

มัีนไม่เป็นวิทยาศาสตร์

 

แต่หญิงคนนี้

กราบ บนเวที แบบที่ อ.อุบล

ไม่ได้ตั้งหลัก

 คือ ขอกราบ แบบจู่โจม

แล้วหาย ทันที

 

เหมือนกับ ว่า อ.อุบล

ต้องทนในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ

ต้องวางอัตตา

 

ซึ่งก็ได้บอกผู้ฟังไปว่า

สิ่งที่ อ.อุบล ไม่ชอบที่สุด

คือ

การกราบ

  ไม่ต้องการเป็นคนสำคัญ

ดูเหมือนยิ่งถูกทดสอบ อัตตา

(ว่า อ.อุบล จะนึกถึงตัวเอง หรือ

นึกถึง ความสุขของผู้อื่น

โอ้ย ช่วย อ.อุบล ด้วย ใครก็ได้ ช่วยที )

 

เพราะ

มีผู้ต้องการ กราบ มากมาย

 

จน ดร.วิชิต ท่านก็เลย

ให้ทำได้ตามอัธยาศัย ท่านคงอยากดู

ให้สุดสุดไปเลย

ไหน ไหน ก็ทำกันมาถึงขั้นนี้แล้ว

เลยกลายเป็นว่า

ขัดบัญชาไม่ได้ ถ้าเบื้องบน

ท่านกำหนดมา อย่าเสนอหน้ามา

โต้แย้ง ประมาณนี้เลย

(หนูไม่อยากเป็น อ.อุบล เลยค๊า)

 

 คงเหมือนกับ

รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย

ที่พยายามปกปิด มานานนับปี

 

แต่ในที่สุดก็็ต้องยอมเปิดเผย

เพื่อให้ผู้คนทั้งหลาย

ได้ใช้ปลดเปลื้องความทุกข์

ช่วยปัญหาที่วิกฤติ ฉุกเฉิน ทั้งเจ็บป่วย

การงาน การเงิน ครอบครัว ทุกปัญหา

ไม่ว่า

ในความจริง หรือ ในความฝัน

 

แม้หาที่จอดรถไม่ไ้ด้

สุดแต่ใครจะอยากใช้ แต่้ต้องไม่ผิดศีล

ไม่ผิดกฎหมาย  

 

แต่เรื่อง

กราบนี่

ยังไง ก็ยังรับไม่ได้อยู่ดี

แต่ทำไม เบื้องบน ทรงมีเงื่อนไขเช่นนี้

ก็ไม่ทราบ

หรือว่า ใครทราบ ช่วยเมตตา ตอบที

 

อ.อุบล

ขอความช่วยเหลือจากท่านบ้าง

 

ถือว่า

ที่ท่านใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย นั้น

ก็มาช่วย อ.อุบล ด้วย ก็แล้วกัน

ด้วยการ

ช่วยชี้แนะหน่อย ว่า ทำไมต้องมี

 

เงื่อนไข กราบ อ.อุบล แล้วหาย

ทำไม ไม่ให้กราบ พระ หรือ คนอื่น

หรือ ผู้ทรงศีล ท่านอื่น

(ยังไงก็ไม่ชอบ)  

 

ในที่สุดแล้ว

การพิสูจน์ว่า

พระศรีอาริย์มีจริงหรือไม่

ก็มีผลพิสูจน์ยืนยันแล้ว

ว่า

พระศรีอาริย์

มีจริง แน่นอน แต่พระองค์

จะเสด็จมาอย่างเป็นทางการ

ให้ผู้คนเห็นพระวรกาย

เมื่อไหร่นั้น

ยังไม่สามารถบอกได้

 

ซึ่งอันที่จริง

 

ก็คือ

ยังไม่เคยถามพระองค์ท่าน

มากกว่า

 

แต่ที่กล้าอาราธนาบารมี

มาปรากฎต่อสารธารณชนนั้น

เพราะ พระองค์ ทรงปรากฎให้ อ.อุบล

ได้ชมพระบารมีพระองค์

 

ซึ่งก็ยังแปลกใจ

ว่าเราค้นหา ท่านมาตลอด

แต่ไม่เคยขอชม

ทิพย์...บารมี

ของพระองค์เลย

 

แต่

ในที่สุด อ.มงคล เป็นผู้

แนะนำว่า

ทำไม

ไม่อาราธนาบารมี

พระศรีอาริย์มาปรากฎบ้างล่ะ

เห็นอาราธนาแต่ บารมีพระพุทธเจ้า

และ เทพ เทวดา ลองดูสิ

 

วันที่ อ.มงคลบอก

ก็เป็นวัน พฤหัสแล้ว

วันศุกร์ก็ต้องไป มหิดลแล้ว

 

ก็เลยถือว่า

เราไม่ได้ลองอาราธนา

ที่บ้านสวนหรือ

ที่ไหนมาก่อนเลย สด สด ในงานเลย

 

ครั้งแรกเลย

 

ก็วัดกันไปเลย

ว่า

เราตามหาท่านนี้ ท่านมีจริง

หรือ

ว่าเราบ้า งมงาย

เอาให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย  

 

ซึ่ง อ.อุบล ก็เป็นคนนิสัยไม่ดี

ได้คืบจะเอาศอก

 

ตอนนี้

ก็เริ่มวางแผน ว่า จะหาทาง

ตามหาท่านต่อไป ว่าตกลงแล้ว

ท่านจะมาปรากฎเมื่อใด

แบบไหน อย่างไร

ใครคิดยังไงก็มาคุยกันนะจ๊ะ

 

ถ้าไม่มีใครสนใจ ก็จะได้เลิกเขียน

ไปคุยกับพ่อใหญ่ธนา

และ

เฉพาะกับคนที่สนใจดีกว่านะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-18 19:53:57


ความคิดเห็นที่ 429 (1624811)

 

เสียดายที่หมอไม่มีโอกาศได้ไปร่วมในงานแสดงธรรมทานของอาจารย์อุบล ก็ได้แต่คอยฟังข่าวการที่อจ. อุบลได้อารธนา พระศรีอาริยเมตตรัยมาผ่านทางกายวาจาใจ ของอาจารย์ได้จริงและเห็นผลเป็นอัศจรรย์

สำหรับปุถุชนอย่างเราๆท่านๆคงจะยากที่จะบอกได้ว่าใครคือพระศรีอาริยเมตตรัย การที่เราจะตามหาพระศรีอาริยเมตตรัยได้ก็ต้องคอยปฏิบัติตามคำสั่งสอนของอจ.อุบลผู้จะนำพาพวกเราให้ก้าวสู่หนทางแห่งการพ้นทุกข์

 รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยนี่น่าจะเป็นแก้วสารพัดนึก นะคะเพราะสามารถช่วยได้เกือบทุกเรื่อง

ส่วนที่ว่ากราบอาจารย์อุบลแล้วหายนี่ก็คงเพราะอาจารย์อุบลมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ อยู่ล้อมรอบมากมายแม้ว่าเราจะมองไม่เห็นนั่นเอง  สาธุ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ๋ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-18 20:31:56


ความคิดเห็นที่ 430 (1624814)

แต่เรื่อง

กราบนี่ ยังไง ก็ยังรับไม่ได้อยู่ดี

แต่ทำไม เบื้องบน ทรงมีเงื่อนไขเช่นนี้ ก็ไม่ทราบ

หรือว่า ใครทราบ ช่วยเมตตา ตอบที

 ++++++++++++++++++++++++++++++

ไม่ทราบเจ้าค่ะ แต่อยากตอบท่านอาจารย์ ตามความรู้สึกของตัวเอง หนูคิดว่า คือการแสดงความเคารพสูงสุด แต่การกราบนั้นต้องกราบด้วยใจที่เคารพนบนอบบูชาและสำนึกในพระมหาเมตตา จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สื่อผ่านท่านอาจารย์ โดยมองไม่เห็นด้วยตาเนื้อ ยกเว้นคนที่ได้มโนมยิทธิเท่านั้นค่ะ ยิ่งท่านอาจารย์คือสมบัติของพระพุทธเจ้า คนที่กราบท่านอาจารย์ก็เหมือนกับได้กราบพระพุทธเจ้าที่ทรงประทับที่ศรีษะท่านอาจารย์ตลอดเวลา พอกราบท่านอาจารย์ปุ๊บ อาการเจ๊บป่วยที่เป็น ก็หายปั๊บ จึงเป็นสิ่งยืนยันได้ว่าพระพุทธองค์ทรงประทับอยู่จริงๆค่ะ สาธุ 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-18 21:45:05


ความคิดเห็นที่ 431 (1624818)

กราบนี่ ยังไง ก็ยังรับไม่ได้อยู่ดี

แต่ทำไม เบื้องบน ทรงมีเงื่อนไขเช่นนี้ ก็ไม่ทราบ

หรือว่า ใครทราบ ช่วยเมตตา ตอบที

.....................................

ผมขอตอบด้วยความรู้สึกส่วนตัวครับ ทุกครั้งที่กราบท่านอาจารย์มีความรู้สึกว่าเสมือนได้กราบสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้กราบพระธรรมอันงดงามของพระองค์ กราบท่านอาจารย์แล้วมีความสุขครับ กราบด้วยความศรัทธา เชื่อมั่น ในคุณความดีของท่านอาจารย์ที่หาประมาณมิได้ครับ

 

ซึ่ง อ.อุบล ก็เป็นคนนิสัยไม่ดี

ได้คืบจะเอาศอก ตอนนี้ ก็เริ่มวางแผน ว่า จะหาทาง ตามหาท่านต่อไป ว่าตกลงแล้ว ท่านจะมาปรากฎเมื่อใด แบบไหน อย่างไร

ใครคิดยังไงก็มาคุยกันนะจ๊ะ

.........................

ผมคิดว่าตอนนี้ท่านก็ได้ปรากฏพระองค์แล้วครับ แต่เป็นกายทิพย์ ส่วนกายเนื้อพระองค์คงจะเปิดเผยหลังจากเกิดภัยพิบัติครับ หรือตอนนี้พระองค์อาจจะอยู่ใกล้กับเราเพียงแค่เส้นผมบังภูเขารึเปล่าครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชวนินทร์ กฤตธกร (ก็อต) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-18 22:54:05


ความคิดเห็นที่ 432 (1624819)

  

แต่เรื่อง

กราบนี่ ยังไง ก็ยังรับไม่ได้อยู่ดี

แต่ทำไม เบื้องบน ทรงมีเงื่อนไขเช่นนี้ ก็ไม่ทราบ

หรือว่า ใครทราบ ช่วยเมตตา ตอบที

*****************************************

แม้นผู้คนที่ไม่เคยได้ยินเรื่องราวการกราบแล้วหาย

ก็ยังมากราบท่านอ.แม่ เลยค่ะ

หนูว่าเค้าอาจจะสัมผัสได้ว่าอ.แม่ไม่ใช่ผู้คนธรรมดา

แต่เป็นผู้ที่มีบุญบารมีมากๆ และมีเมตตามาก

ส่วนท่ี่เบื้องบนเลือกอ.แม่มานั้น

ที่ไม่เลือกพระ เลือกชี หนูว่าอาจมีหลายเหตุผล

แต่เหตุผลหลักๆคงเพราะเบื้องบนท่านมองเห็นแล้ว

ว่าอ.แม่เป็นใคร มาจากไหน

และสมควรแก่การกราบมากแค่ไหน

การแต่งขาว หรือบวชเป็นพระ ชี

ก็ไม่ได้การันตีว่าบุคคลนั้นจะสมควรแก่การกราบไหว้เสมอไป

เพราะเห็นเดี๋ยวนี้ออกข่าวเยอะแยะเลยค่ะ

เรื่องพระผิดศีล อยู่กับสีกาบ้าง สวดมนต์แบบร็อคบ้าง

ดูแล้วยังรู้สึกว่าอยากจะกราบคนธรรมดาเสียยิ่งกว่าพระอีกค่ะ

เพราะการที่เราจะกราบพระ เราก็กราบเพราะเป็นพระ

แต่ถ้าจะให้กราบบุคคลคนธรรมดาที่ไม่ใช่บุพการีของเราแล้ว

อย่างน้อยเราจะต้องมั่นใจว่าบุคคลคนนั้นเขาดีจริงๆ

สมควรแก่การกราบไหว้จริงๆ

ซึ่งการกราบนั้นหนูว่าเบื้องบนท่านก็ไม่ได้บังคับมา

ว่าต้องกราบอ.แม่

แต่การกระทำของอ.แม่

ทำให้พวกเรารู้สึกอยากกราบเองค่ะ

ฮิฮิ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-18 23:07:34


ความคิดเห็นที่ 433 (1624821)

กราบนี่ ยังไง

ก็ยังรับไม่ได้อยู่ดี

แต่ทำไม เบื้องบน

ทรงมีเงื่อนไขเช่นนี้ ก็ไม่ทราบ

หรือว่า ใครทราบ ช่วยเมตตา ตอบที

.....................................

ผมขอตอบด้วยความรู้สึก

เท่าความรู้ที่มี

การกราบพระของเราทั้งหลาย

ก็ทำกันมาเรื่อยจวบจนปัจจุบัน

เชื่อว่าทุกคนก็ขอพระในสิ่งที่ตัวเอง

อยากได้ อยากหาย

แต่แล้วปัจจุบันไม่ได้รับ

ผลในทันที

มาจนวันนี้มีอาจารย์แม่

มาปลุกจิตสำนึก

คนที่กราบแล้วหาย

ศรัทธาแท้จะติดตาม

การกระทำของอาจารย์

ทำตามอย่าง

อย่างนี้เข้าทาง

พุทธศาสนา

อยูยาวนานถึงห้าพันปี

แต่จะมีบุคคลอีกกลุ่มหนึ่ง

ที่ยังไม่เชื่อ

สงสัยมีจริงหรือ

อันนี้จะดึงดูดคนกลุ่ม

เหล่านี้ให้ลองพิสูจน์

เมื่อตัวเองหายก็เข้าทาง

 

สรุปแล้วอาจารย์ก็คงจะสอน

เหมือนที่อาจารย์พร่ำบอก

ลูกๆ บ้านสวน

ให้กลับมาเป็นคน

ปกติ

และให้พบทางกลับบ้านนิพพาน

หรือง่ายๆ คือพระธรรม

ไม่ได้อยู่ที่วัตถุ

แต่ธรรมเกิดขึ้นจากการปฏิบัติที่ถูกต้อง

 

ประมาณนี้ครับ

กราบ กราบ กราบ

ทุกๆ พระองค์

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-18 23:25:51


ความคิดเห็นที่ 434 (1624828)

 

บัดนี้

เราทั้งหลาย ที่ไปที่่มหิดล

เมื่อ 17 ส.ค.55

ต่างก็ได้ประจักษ์แก่สายตาพวกเราแล้ว

ว่า

บารมีพระศรีอาริย์ มีจริงหรือไม่

อย่างไร  โดยที่

อ.อุบล

ได้ขออาราธนาบารมีแห่งพระองค์

ทรงโปรดประทานให้

มาสถิตย์

ในกาย วาจา และใจ

ของ อ.อุบล

 

และ

ขอพุทธานุุญาต

พิสูจน์พระบารมี อันกรัยงไกร

ต่อหน้าสาธารณณณะชน

แม้ว่า ผู้คนทั้งหลาย จะมองไม่เห็นพระองคื

(บางคนที่ได้มโนอาจเห็นก็ได้)

 

 แต่ขอพระองค์ทรงประทาน

สัตรังสี รัศมี 7 ประการ

ผ่านมายังกายา ข้าพระพุทธเจ้า

 

หากแม้ผู้ใดเข้ามาใกล้พระพุทธเจัา

ขอให้ทุกข์โศก โรคภัย หายทันที

แม้ไม่มีการสารภาพบาป ก็ตาม

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

 

แล้วก็มีการพิสูจน์

โดยให้คนที่ยังมีอาการเหลืออยู่

หรือ ที่ยังไม่หาย มาพิสูจน์ พระบารมีพระองค์

แล้วก็ได้เห็นประจักษ์ ว่า แต่ละคน ดีขึ้น ทันที  

และ หาย โดยทั่วกัน

.....................................

กราบพระบาทองค์พระศรีอาริย์

ที่เมตตามาปรากฏกายทิพย์

โดยให้ทุกๆคนที่ไปในงานวันนั้น

ได้สัมผัสบารมีของพระองค์

ได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่สุด

โดยหายและดีขึ้นทันที จากอาการที่เป็น

สาธุ สาธุ สาธุ

 

แล้วก็กราบอนุโมทนา

กับธรรมทานจากท่านอาจารย์ด้วยค่ะ

เพราะว่าเรื่องนี้

ท่านอาจารย์ก็มาเขียน

ให้พวกเรา

ได้ตั้งข้อสังเกตก่อนถึงวันงานซะอีก


นั่นก็แสดงให้เห็นว่า

ท่านอาจารย์อุบลได้อาราธนาบารมี

แห่งองค์พระศรีอาริย์จริง

และพระองค์ก็ได้เสด็จมาจริงๆ

โดยมีกาย วาจาและใจอันบริสุทธิ์

ของท่านอาจารย์

เป็นสื่อผ่าน ให้ทุกคนได้สัมผัส

บารมีอันสูงส่งและเปี่ยมไปด้วยความเมตตานี้

 

อ่านแล้วก็ทำให้นึกถึง

คำถามที่ท่านอาจารย์เคยให้พวกเรา

ใช้ความรู้สึกทางใจตอบว่า

พวกเราจะได้พบพระศรีอาริย์

ก่อนกันยานี้หรือไม่

ซึ่งหลายๆท่านก็ได้คำตอบคล้ายๆกันว่า

พวกเรามีโอกาสที่จะได้พบ

การปรากฏกาย(ทิพย์)ของพระองค์แน่

แต่จะเป็นการรู้ได้เห็นได้

เฉพาะตนหรือเฉพาะคนเท่านั้น 

 

แหม่...จะว่าไป แต่ละคน

ทำนายได้แม่นไม่เบา เลยนะคะเนี่ย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-18 23:49:05


ความคิดเห็นที่ 435 (1624831)

กราบนี่ ยังไง

ก็ยังรับไม่ได้อยู่ดี

แต่ทำไม เบื้องบน

ทรงมีเงื่อนไขเช่นนี้ ก็ไม่ทราบ

หรือว่า ใครทราบ ช่วยเมตตา ตอบที

.....................................

เรื่อง กราบนี่ ชนิดาเคยคิด

พิจารณาอย่างหนักมากๆ

ตั้งแต่ คุณ ภาคิณ

กราบท่านอาจารย์แล้ว หายทุกโรค นั้น

เบื้องบนต้องการจะสื่ออะไร

ซึ่งตอนนั้นจนถึงตอนนี้

ก็ได้คำตอบชัดๆคำตอบเดิมว่า

 

เบื้องบนต้องการจะบอกให้พวกเรา

ได้รู้และควรจะตระหนักให้ดีว่า

 

ท่านอาจารย์อุบลผู้นี้

มีคุณความดีอันมหาศาล

และเป็นผู้มีจริยาวัตร

และการปฏิบัติตนทุกอย่าง

คล้ายคลึงกับพระพุทธเจ้า

 

ฉะนั้น อาจารย์จึงเป็นผู้ที่

สมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับ

การเคารพและกราบไหว้บูชา

เพื่อความเป็นมงคลแห่งชีวิต ไร้ทุกข์ ไร้โรคภัย

ของผู้ที่เป็นสาวกและลูกศิษย์ทุกๆคน 

 

และเหตุผลหลักอีกด้านหนึ่งก็คือ

เบื้องบนใช้การกราบนี้

เป็นบททดสอบอัตตา

ของท่านอาจารย์ตลอดเวลา

 

ซึ่งชนิดาคิดว่า ท่านอาจารย์

มักจะเจอบททดสอบ

มาอย่างหนักหน่วงตลอดเวลาอยู่แล้วนะคะ

และทุกๆเรื่องเลยก็ว่าได้

 

ชนิดาเคยอ่านเจอ

ธรรมทานของอาจารย์หมอท่านนึง

ท่านบอกว่า กว่าจะฝึก

ให้จิตว่าง(จากกิเลส)ได้

ก็ใช้เวลาพอสมควร

 

แต่มีวันนึง ระหว่างที่เดินไปในตึก

ก็มีคนยกมือไหว้ พอรับไหว้ปุ๊บ

ท่านกลับรู้สึกว่า

เหมือนมีแรงอัดตูมใหญ่ดันที่อกทันที

จากเหตุการณ์นั้น ท่านก็เลยเข้าใจ

คำว่า "อัตตา" ได้เป็นอย่างดี

 

เพราะเวลาที่มีคนให้ความเคารพเรา

จิตเราจะเริ่ม ยึดมั่นถือมั่น ทันที

ฉะนั้น เราจึงเห็นว่า "คนติดดี"ในสังคม

ที่เราเห็นอยู่ทั่วๆไป กลับ"ละ"อัตตา

ได้ยากกว่า คนเกเร

หรือ คนชั่วที่คิดกลับใจซะอีก

 

แต่สำหรับท่านอาจารย์

เราก็ได้เห็นว่า

ท่านอาจารย์ได้"ละ" ทุกอย่างแล้ว

เพราะท่านก็พูดเสมอว่า

ไม่ชอบให้คนมากราบเลยแม้แต่น้อย

 

นอกจากนี้ยังสละทั้งทรัพย์สิน

เวลา ความสุขส่วนตน

เปิดบ้านส่วนตัวให้คนแปลกหน้า

เข้าไปสร้างบุญ หรือหลายๆคน

ก็เข้าไปสร้างปัญหาให้อย่างมากมาย

 

แต่ท่านอาจารย์ก็มีเมตตา

กับทุกๆคน เท่าเทียมกัน

แต่อาจจะแสดงรูปแบบของความเมตตา

ต่างกันไปตามจริตของคน คนนั้น.. 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-19 00:07:43


ความคิดเห็นที่ 436 (1624834)

กราบเรียนท่าน อ.อุบล ท่าน อ.มงคล ที่เคารพรักและศรัทธายิ่ง

กิจกรรมธรรมะบำบัด ที่ ม.มหิดล ลูกได้เข้าร่วมกิจกรรมด้วย มี 4 ท่านที่น่ากล่าวถึง

1.คนที่มาคู่ใส่ขุดขาวทั้งคู่ ดูตั้งอกตั้งใจสารภาพความทุกข์ ยกมือและยืนทำตามท่านอาจารย์ดูสบายใจและอาการดีขึ้น

2.น้องโปรแกรมเมอร์จากสภากาชาดไทย มีอาการปวดเข่าเป็นจุดเด่น เพราะอยากหายตั้งแต่เริ่มรายการ ยกมือ ยืนขี้น ดีขึ้นเล็กน้อย แต่ยังลังเล อาการดีขึ้น พยายามจะทดสอบทุกขั้นตอนให้ตนเองหาย เรียกว่ามาแล้วต้องหาย แต่ยังปวดอยู่

3.ญาติคุณแก้ว แกบอกว่าตีขาหมาหักมาหลายสิบปีแล้ว มาปี49 ตกบันไดขาหัก ก็สำนึกได้ว่าใช่กรรมเวรนี้แน่นอน แกก็พยายามทำบุญใสบาตรให้หมาแต่ก็เดินไม่ถนัดเจ็บข้อเท้า ท่านอ.เรียกขึ้นเวทีให้สารภาพมีวิญาณหมาอยู่ตรงหน้า แกพูดกระตุกกระตักสำนึกจริงแต่ยังเจ็บขาอยู่และยังบอกปวดท้องอยู่ ทั้งโปรแกมเมอร์และญาติคุณแก้วอาการดีขึ้นแต่ไม่หาย ท่านอ.เรียกให้โปรแกมเมอร์ขึ้นเวทีลองเดินมาใกล้ๆจะหายไหม  บอกเดินมาปวด มาใกล้ชาท่านกล่าวได้อัญเชิญพระบารมีพระศรีอารย์ ใครปวดอะไรให้ขึ้นมา มีหลายท่านขึ้นไปรวมทั้งญาตคุณแก้วบอกปวดมดลูกขอกราาบท่านอาจารย์ และก้มลงกราบทันทีบอกว่าหาย จึงมีหลายท่านขอกราบบ้าง รวมทั้งโปรแกมเมอร์บอกว่าเข่าปวดหาย อย่างไรเสียต้องเจ้าตัวมาเขียนเองจะเหมาะสมที่สุด

4.จนท.เวชศาสตร์เขตร้อน ปวดไหล่ ปวดข้อมือขวา เล่นคอมส์ สารภาพได้ฆ่าหนูเพื่อการทดลอง การเรียน ราว 200 กว่าตัว มิได้มีเจตนา เป็นหน้าที่ มิได้คิดร้าย มีอาการหายดีขึ้นเพียงเล็กน้อย ต้องสำนึกเอาใจเขามาใส่ใจเรา จิตยังมีแงต้านอยู่ บอกในลักษณะว่าดื้อไปหน่อย   ท่าน ดร.วิชิตขอไมด์กล่าว แสดงความเห็นว่า การที่จิตใจเปิดต้องเปิดแบบมีปัญญาการที่จิตไม่เปิดทุกท่านมีสิทธิใช้วิจารณญาณ  ท่าน อ.อุบล บอกว่าทุกคนที่ไปบ้านสวนก็ไม่ได้หายทุกคน ท่านเน้นแล้วว่าใช้ ธรรมะ+สัจจธรรมบำบัด ซึ่งบางท่านก็นึกกรรมไม่ออกเป็นการยากมาที่ใครจะกล้ารับต่อสาธารชนว่าทำกรรมใดๆมา บางทีมองเป็นเรื่องเล็กน้อยใครๆ เขาก็ทำกัน โกงเวลา ไปสาย กลับก่อน อู้งาน ถ่ายเอกสาร เอากระดาษกลับบ้าน  อื่นๆ    เพราะถ้าเอาศีลห้ามาจับแล้ว ที่ว่าทำดี คือดีไปหมด เหลือทำผิดอีกเยอะแยะ ทั้งกายกรรม มโนกรรม วจีกรรม ต้องค่อยๆปรับตังเองตามธรรมทานที่ท่าน อ.พร่ำสอน ถีงแม้ลูกเองได้มีโอกาสได้ใกล้ชิดท่านอาจาย์บนเวที อาการเจ็บข้อมือซ้ายขวาดีขึ้น 90 % แต่กลับมาบ้านบิดข้อมือไปมายังเจ็บอยู่บ้างเพราะทำงานบ้าน แต่ลูกก็ได้รับความสุขใจค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น สุระณี สิริมานุวัฒน์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-19 01:14:15


ความคิดเห็นที่ 437 (1624868)

กราบนี่ ยังไง

ก็ยังรับไม่ได้อยู่ดี

แต่ทำไม เบื้องบน

ทรงมีเงื่อนไขเช่นนี้ ก็ไม่ทราบ

หรือว่า ใครทราบ ช่วยเมตตา ตอบที

.....................................

      เรื่องการกราบท่าน อ. อุบล แล้วหาย

จากอาการเจ็บป่วย  ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้

แต่ที่ผ่านมาที่กราบท่าน

เพราะเห็นในจริยาวัตร

อันงดงามของท่าน  รวมทั้งการนำธรรมะ

ของพระพุทธเจ้ามาสอนพวกเราแบบง่าย ๆ

ทำให้เข้าใจได้ดี  ทำให้เราอยากเป็นคนดี

และรู้วิธีที่จะเป็นคนดี  และเวลากราบท่าน

ก็จะกราบ  3  ครั้ง  เหมือนกราบพระ 

ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไม

ตัวเองถึงต้องกราบสามครั้ง

    จนกระทั่งท่าน อ. อุบล ได้มาบอกว่า

แค่กราบท่านก็หาย ก็เป็นสิ่งที่แสดงให้ทราบว่า

ท่าน อ. อุบล ต้องเป็นผู้ที่ปฏิบัติดี

จนมีบารมีมากล้น  ถึงจะสามารถทำให้

เกิดสิ่งนี้ได้  คิดแบบนี้ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-19 14:52:21


ความคิดเห็นที่ 438 (1624897)

กราบนี่ ยังไง

ก็ยังรับไม่ได้อยู่ดี

แต่ทำไม เบื้องบน

ทรงมีเงื่อนไขเช่นนี้ ก็ไม่ทราบ

หรือว่า ใครทราบ ช่วยเมตตา ตอบที

.....................................

เจี๊ยบขอเดาว่า ท่านอาจารย์บำเพ็ญบารมีมาหลายภพชาติ มีบารมีสูงส่ง แม้ชาตินี้ท่านอาจารย์ก็ได้ปฏิบัติตามธรรมะของพระพุทธองค์ และนำธรรมะของพระพุทธองค์ซึ่งสูงส่งเช่นมาเผยแพร่ ก็สมควรที่จะกราบไหว้ท่านอาจารย์ เพราะการกราบท่านอาจารย์ ได้บุญ 2 เด้ง ได้กราบทั้งผู้มีบารมี และพระธรรมอันงดงาม อีกทั้งเวลาที่ท่านอาจารย์ไปไหน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็อยู่กับท่านอาจารย์อุบลตลอด ผู้กราบก็ได้แสดงความเคารพสิ่งศักดิ์สิทธ์ทุกๆพระองค์ด้วย รวมทั้งเป็นการ ลดอััตตา ของผู้กราบด้วย ว่ายังจะมีอัตตาอยู่หรือไม่ ถ้าอยากจะหาย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-19 20:03:06


ความคิดเห็นที่ 439 (1624905)

 มีใครบ้าง

ที่ได้สัมผัส และ พิสูจน์บารมี

พระศรีอาริย์

มาแล้ว ด้วยตัวเอง ช่วยยืนยัันหน่อย ได้ไหมจ๊ะ

เผื่อว่า คนที่ยังไม่มีโอกาสสัมผัส

แต่อยากสัมผัสจะได้

มีความหวัง

มั่ง

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-19 21:15:21


ความคิดเห็นที่ 440 (1624922)

 ขอเล่าเรื่องตัวเองที่ได้พิสูจน์พระบารมีขององค์พระศรีอาริย์แบบสดๆ ร้อนๆ ในวันนี้(อาทิตย์ 19 ส.ค.55)นะครับ

สืบเนื่องจากท่านอาจารย์อุบล ได้กรุณาเปลี่ยนแปลงเวลาการให้ธรรมทานจากทุกคืนวันเสาร์ มาเป็นช่วงสายของวันอาทิตย์ ซึ่งเริ่มจากวันนี้เป็นต้นไป...

ขอตัดเหตุการณ์ไปในช่วงที่ท่านอาจารย์อุบลได้ขอพระบารมีขององค์พระศรีอาริย์มาให้ลูกหลานได้ชื่นชมและพิสูจน์กัน ซึ่งท่านอาจารย์ได้บอกให้ทุกคนดูอาการเจ็บป่วยของตัวเองก่อนและหลังอาราธนาพระบารมี...ตัวผมเองมีอาการเจ็บที่ข้อมือข้างขวา สืบเนื่องมาจากการยกกระท่อมเมื่อวานนี้ ซ้ำร้ายก็ไปผสมปูนอย่างหักโหมโดยไม่ดูสังขารตัวเองว่าปวดข้อมืออยู่...

พอถึงเวลาที่ท่านอาจารย์ได้อาราธนาพระบารมีขององค์พระศรีอาริย์ ผมเองก็มีอาการขนลุกขนพอง หลังจากนั้นก็ได้ตรวจดูอาการของข้อมือ ปรากฎว่า จากมือที่ไม่สามารถกำแน่นได้ก็กำได้ ความปกติกลับมาเกือบ 70%...

หลังจากนั้นท่านอาจารย์ก็เปิดโอกาสให้ลูกหลานได้เข้ามาสัมผัสพระบารมีขององค์พระศรีอาริย์อย่างใกล้ชิด ผมเองก็ลุกขึ้นไป พอใกล้จะถึงตัวท่านในระยะห่างไม่เกิน 1.5 เมตร...มือที่ไม่สามารถงอขึ้นได้ก็งอได้ อาการกลับมาเป็นปกติถึง 90%

ขอน้อมกราบขอบพระคุณองค์พระศรีอาริย์ และกราบขอบพระคุณเทวดาที่รักษาตัวท่านอาจารย์อุบลด้วยครับ

ยังมีอีกหลายท่าน ที่สัมผัสพระบารมีขององค์พระศรีอาริย์ โดยเฉพาะคุณพี่มงคล จากเชียงราย ที่สามารถมองเห็นองค์ท่านจนเกิดปิติร้องไห้...

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธิ์(สุรสิทธิ์ ศรประสิทธิ์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-19 22:02:59


ความคิดเห็นที่ 441 (1624923)

หนูขออนุญาตแสดงความคิดเห็นด้วยปัญญาอันน้อยนิด

ว่า ทำไมเบื้องบนถึงทรงมีเงื่อนไขให้คนกราบท่านอาจารย์ค่ะ 

การให้ผู้คนทั้งหลายที่มีทุกข์กราบท่าน

คงเป็นส่วนหนึ่งในหน้าที่ของอาจารย์ค่ะ

ที่พระพุทธองค์ทรงมีพระบัญชาลงมา

เพราะเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยคนให้หลุดพ้นได้ 

สามารถช่วยคนได้อย่างรวดเร็ว 

แค่คนๆนั้น มีความศรัทธาในท่านอาจารย์อย่างบริสุทธิ์ใจ

ก็ได้รับสิทธิ์พ้นเคราะห์กรรม

ที่ต้องเป็นท่านอาจารย์ เพราะ ในความรู้สึกของหนู

ท่านคือมนุษย์คนเดียว

ดวงจิตหนึ่งเดียวในจักรวาล 

ที่มีบารมีสูงสุดในช่วงหลังกึ่งพุทธกาลนี้

ดังนั้น ถ้าจิตเปิดรับ เชื่อมั่น ในความดีงามของท่าน

กราบท่านด้วยความจริงใจ 

แม้ไม่ได้พบท่าน แต่คิดถึง แล้วน้อมจิตกราบ

ก็สัมผัสถึงบารมีของท่านอาจารย์ได้ค่ะ

เหมือนได้รับพลังที่ทำให้มีความสุข

ที่ความสุขทางโลกเทียบไม่ได้ค่ะ สาธุ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-19 22:08:23


ความคิดเห็นที่ 442 (1624925)

 ปรากฎการณ์ "เหนือความคาดหมาย"

ได้เกิดขึ้น กับ ดร.จุ๋ม  ชนิดที่ ไม่มีใครคาดฝัน หลังจากที่ อ.อุบล ได้อาราธนา บารมีพระศรีอาริย์

มาให้พวกเราทั้งหลาย ได้สัมผัส พิสูจน์ พระบารมีแห่งพระองค์  นี่เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ อ.อุบล ทำในบ้านสวน ทำครั้งแรกจริงๆ

กลับทำนอกบ้านสวน คือ พิสูจน์ที่ ม.มหิดล เมื่อวันศุกร์ ที่ 17 ส.ค.55 โดยยตั้งสมมุติฐาน ตามที่ คุณพ่อ ดร.อาจอง เคยบอกไว้ว่า พระศรีอาริย์ จะมีพลังงาน ที่ผู้เข้าใกล้

สามารถสัมผัสได้เลย ท่านพูดอย่างนี้  ก็เลยขอพิสูจน์ ไม่ใช่การลองของโดยขาดความเคารพ ทั้งเคารพ ทั้งรอการเสด็จมา แต่ขอพิสูจน์ก่อนที่จะค้นหากันต่อไป ว่าพระองค์มีจริงหรือไม่  ซ่ึงก่อนหน้านี้ ทำไมเราถึงไม่เคยคิดพิสูจน์แบบนี้มาก่อนเลย แต่เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา อ.มงคล แนะนำให้ลองอาราธนาบารมีท่านดูสิ ในเมื่อพระองค์อื่น องค์พระปฐม ฯ ยังอาราธนามาได้เลย  ถ้าพระศรีอาริย์ท่านมีจริง ก็ต้องอาราธนาบารมีท่านได้เหมือนกัน แต่ อ.มงคล บอกวันพฤหัส วันศุกร์ ก็ต้องไปมหิดลแล้ว  ก็เลยมาเขียนบอกไว้ในเวป จะขอพิสูจน์บารมีพระองค์ท่าน ที่นั่น ดังนั้น ลูกบ้านสวน ก็ตาตั้ง กับปรากฎการณ์นี้ มากกว่า ปรากฎการณ์ อื่น  เพราะปรากฎการณ์ ปวดโน่นนี่แล้วหายทันที ลูกบ้านสวนเห็นกันเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าจะเทียบสิ่งที่พวกเราเห็นกันมาทั้งหมด กับที่มหิดล ต้องบอกว่า ที่ไปแสดง ท่ี่มหิดล นั้น เป็นแค่ขั้น อนุบาล ที่ที่เห็นที่บ้านสวนนั้น ถึงขั้นประถม มัธยม แล้ว ส่วนปรากฎการณ์ใหม่ แสดงบารมีพระศรีอาริย์ขั้นต้น นี้  จะต้องเรียกว่าขั้นไหนดี มหาวิทยาลัยรึเปล่าเนี่ย เพราะยังไม่เจอเคสโรคหนักๆ หรือว่า ยังไม่ได้ถามละเอียดก็ไม่ทราบ เพราะ ต้องรีบให้เดินผ่านไป ด้วยคนรอคิว มากขึ้น ตอนแรกก็แค่ ประมาณ 10 คน แต่พอคนนั้นหาย คนนี้หาย อ้าว ที่ไหนได้ มากันแน่นเวทีเลย แถมลงมา ยังมีคนบอกว่า ไม่กล้าขึ้น ทั้งที่อยากจะขึ้น เพราะเห็นคนเต็ม จนไม่มีที่จะยืน เลยอดเลย   สำหรับการอาราธนาบารมีพระศรีอาริย์มาปรากำที่บ้านสวนวันนี้ ก็เข้มกว่า ที่มหิดล เพราะ ไม่ต้องมาเดินผ่าน แค่นั่งอยู่กับที่ แล้วเริ่มอาราธนาบารมีพระองค์ เท่านั้นแหละ หายกันแล้ว บางคนก็ดีขึ้น ที่เวรี่ ช๊อค คือ ดร.จุ๋ม เพราะในการฝึกมโนยิทธิที่ผ่านมา ดร.จุ๋ม ไปไหนกะเค้าไม่ได้ เลย ไม่เห็นอะไรกะเค้าเลย แต่วันนีั้ ไม่ใช่แค่แขนที่ปวดมา นับสิบปี จากการฆ่าหนูทดลองมาเป็นพันตัวหาย แล้วยังได้เห็นแสดงสัตรังสี รัศมี 7 ประการ ของพระศรีอาริย์ด้วย โอ้ย ยินดี กับ ดร.จุ๋มมั๊กๆ เลยวันนี้ จริงๆแล้ว ยินดีกับทุกคน แต่พูดถึง ดร.จุ๋มก่อน เพราะไม่เคยสัผัสอะไรได้ กระทั่งปิติ แต่วันนี้พระศรีอาริย์ ทรงเมตตา ดร.จุ๋ม เป็นพิเศษ แบบ "จัดเต็ม"  อ.อภิชัย ก็เหมือนกัน หนูเหมี่ยว ต้อนอ้อ เอาเป็นว่า ทกคน พี่มหา พ่อใหญ่ธนา ก็ไม่เบา เล่ากันเองเด้อค่าเด้อ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-19 22:15:53


ความคิดเห็นที่ 443 (1624927)

ขวัญได้สัมผัสบารมีของพระศรีอาริย์ค่ะ

ตอนไปร่วมกิจกรรมธรรมบำบัดเมื่อวันศุกร์

ไม่ได้เจ็บป่วยอะไร แต่สังเกตใจตัวเองว่า

มันนิ่ง เบา มีสมาธิ ไม่เหมือนอยู่ที่อื่นค่ะ

นั่งอยู่หลังห้องประชุม ก็สัมผัสพระบารมีได้ค่ะ

จิตมีสมาธิ แม้ลืมตา ก็ทำสมาธิได้

เปรียบเทียบกับปกติ จะไม่ค่อยมีสติ ทำสมาธิยากค่ะ

ขอกราบขอบพระคุณ พระศรีอาริย์

และสิ่่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-19 22:23:48


ความคิดเห็นที่ 444 (1624933)

มีใครบ้าง

ที่ได้สัมผัส และ พิสูจน์บารมี

พระศรีอาริย์

มาแล้ว ด้วยตัวเอง ช่วยยืนยัันหน่อย ได้ไหมจ๊ะ

เผื่อว่า คนที่ยังไม่มีโอกาสสัมผัส

แต่อยากสัมผัสจะได้

มีความหวัง

มั่ง

...........................

ก่อนที่อ.อุบลจะอัญเชิญบารมีพระศรีอาริย์

ให้ทุกคนได้สัมผัส ท่านอาจารย์ได้ถาม

ปัญหาความทุกข์ของแต่ละคน

1.ผมมีอาการปวดที่ข้อมือข้างขวา

ซึ่งปวดมา2 สัปดาห์แล้ว

2.จิตใจไม่มั่นคงในพระธรรม

3.และมีปัญหาทางการเงิน

พออาจารย์ถามปัญหาครบทุกคนแล้ว

ก็อัญเชิญบารมีพระศรีอาริย์

ให้ทุกคนได้สัมผัส

สิ่งที่ผมสัมผัสได้คือ อาการปวด

ที่ข้อมือมีอาการดีขึ้น 80%

อาจารย์ได้ให้คนที่สัมผัสได้อออกไป

พุดถึงอาการต่างๆที่ทุกคนสัมผัสได้

ในระหว่างยืนต่อแถวก็เช็คอาการไปด้วย

ในขณะที่ขยับเข้าใกล้อาจารย์

อาการปวดดีขึ้น 90%

แต่พอได้นั่งข้างๆอาจารย์

อาการปวดแทบไม่เหลือเลย

ตอนกลับก็ได้สังเกตุดู อารมจิตของตัวเอง

รู้สึกจิตจะนิ่งๆ เรียบๆมีสติมากขึ้น

ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เป็นสิ่งมหัศจรรย์มาก

ทั้งๆที่ทุกคนยังไม่ได้สมาทานศีล

หรือทำอะไรเลย

แค่ขอบารมีพระศรีอาริย์

อาการปวด หรือปัญหาของเรา

ก็ดีขึ้นทันตาเห็น

ขอขอบคุณพระศรีอาริย์ และท่านอ.อุบล

ที่ไห้ผมได้รู้ซึ้งถึงบารมีของท่าน

พระศรีอาริย์

...................................

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อดิศักดิ์ โพธิสาร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-19 22:36:33


ความคิดเห็นที่ 445 (1624934)

ขออนุโมทนาบุญกับ ดร.จุ๋ม ด้วยครับ ที่ได้รับพระเมตตาได้เห็นแสดงสัตรังสี รัศมี 7 ประการ ของพระศรีอาริย์ ทรงเมตตา ดร.จุ๋ม เป็นพิเศษ แบบ "จัดเต็ม"

คงเป็นผลบุญที่ ดร.จุ๋ม เป็นแม่งานหลักตั้งใจจัดกิจกรรมธรรมะบำบัดสัญจร ชนิดที่เอาตัวเข้าแลกเพราะเชื่อมั่นใน อ.อุบล

แสดงว่านี้เราได้เข้าใกล้พระองค์เข้าไปทุกทีแล้วนะครับ ความหวังที่ขอให้พระองค์เมตตาช่วยยับยั้งภัยพิบัติคงมีโอกาสแล้วครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชวนินทร์ กฤตธกร (ก็อต) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-19 22:41:46


ความคิดเห็นที่ 446 (1624936)

 ดร.จุ๋ม ออกมาเล่า ว่า แขนที่ปวดมานาน นับ 10 ปี หายทันที พอ อ.เริ่มอาราธนาบารมี พระศรีอาริย์  ซึ่งตอนที่ ดร.จุ๋มเล่า ถึงอาการที่มีปัญหา ก่อนจะอาราธนาบารมีพระองค์มานั้น อ.อุบล ก็นึกถึง จนท.(ลืมตำแหน่ง) ที่มหิดล ซึ่งก็เป็นนักวิทยาศาสตร์ ที่ต้องฆ่าหนูมาเหมือนกัน เพื่อเป็นสัตว์ทดลอง ทางการศึกษา  ดร.จุ๋ม ก็บอกว่า ฆ่า เพราะต้องทดลองทำงานวิจัย ตอนเรียนปริญญาโท ตอนจบ รวมจำนวนหนูที่ฆ่า ทั้งหมด 1000 ตัวพอดี  ส่วน จนท.ที่มหิดล ฆ่ามาประมาณ 2-300 ตัว ซึ่งถือว่าน้อยกว่า ดร.จู่ม เกือบ 5  เท่า  ทำให้เขาปวดไหล่   ส่วน ดร.จุ๋ม ปวดข้อมือ  จิตของ อ.อุบล เกิดการเปรียบเทียบกันขึ้นมาเลย ว่า นักวิทยาศาสตร์ 2 คน ทำงานที่มหิดลเหมือนกัน คนหนึ่ง จบ ดร.จากเมืองนอก ก็คือ ดร.จุ๋มนี่แหละ ส่วนอีกคนไม่ทราบว่า จบระดับไหน ต้องลองถาม ดร.จุ๋มดูอีกที แต่ก็เป็นนักวิจัยเหมือนกัน

ถ้าเรามาดูน้ำหนักกรรม หรือ บาป   ดร.จุ๋ม ต้องมากกว่า แน่นอน ถ้าเราดูตามสัดส่วนการฆ่าหนู   คราวนี้ มาดูผลการบำบัด (แต่ดร.จุ๋ม ไม่เคยขอบำบัดเลย ไม่เคยบอก) แต่วันนี้ พระศรีอาริย์ทรงประทานพระบารมี แล้ว ให้ อ.อุบล ถามว่า ตั้งแต่มาบ้านสวน จนถึงวันนี้ ยังมีทุกข์ใด หลงเหลืออยู่ พระองค์จะทรงโปรดทุกคนที่มาวันนี้ บอกมาทุกเรื่องเลย ไม่ใช่แค่เจ็บป่วยทางกาย ปัญหาอื่นด้วย บางคนปัญหาสายตายาว สายตาสั้น วันนี้พอสัมผัสพระบารมี โอ้ย ไม่อยากเป็นคนเล่าเลย มาเล่ากันเองเถอ ขอพูดถึง กรณี ดร.จุ๋ม กับ จนท.ที่มหิดลก่อน  ว่า ดร.จุ๋ม บาปมากว่าแน่นอน แต่ทำไม ผลการบำบัด ดร.จุ่ม หาย  น้องคนนั้นไม่หาย  อ้อ จะเรียกว่า ผลการบำบัดไม่ได้ ต้องเรียกว่า  ดร.จุ๋ม เป็นผลมาจาก การน้อมจิตรับพระบารมีพระศรีอาริย์  แต่น้องคนนั้น ไม่เปิดรับ ยังคิดว่า ไม่มีเจตนาในการฆ่า ไมเป็นบาป เพราะต้องทดลอง ทำงานวิจัย คิดว่าตนเองไม่มีบาป  บอกว่าเคยทำสังฆทานให้ ทำบุญให้ แต่อาการปวดไหล่ก็ยังอยู่  ส่วน ดร.จุ๋ม ประตูจิตแห่งศรัทธา เกินร้อย ดังนั้น ขอให้ทุกท่าน ช่่วยกันวิเคราะห์ต่อหน่อยได้ไหม ว่า พระศรีอาริย์ ต้องการบอกอะไร กับ กรณี ดร.จุ๋ม กับ น้องที่ มหิดล ซึ่งผลออกมาต่างกัน คนหนึ่ง หาย  คนหนึ่ง ไม่หาย  ทั้งที่คนที่หาย ฆ่าหนูเยอะกว่า แถมทั้งสองคน ทำงานที่เดียวกัน แต่เวลาการหาย ห่างกัน ศุกร์ กับ อาทิตย์  ขอให้ทุกท่านที่ร่วมแสดงความเห็น ได้พบ และ ชมบารมีพระศรีอาริย์ ในเร็ววันนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-19 22:48:23


ความคิดเห็นที่ 447 (1624944)

กรณี ดร.จุ๋ม กับ จนท.ที่มหิดลก่อน ว่า ดร.จุ๋ม บาปมากว่าแน่นอน แต่ทำไม ผลการบำบัด ดร.จุ่ม หาย น้องคนนั้นไม่หาย

..........................................

ขอนุญาติตอบครับ เพราะดร.จุ๋มได้เปิดประตูจิตแห่งศรัทธาต่อพระศรีอาริย์ ถึงแม้จะสร้างบาปมามากกว่า แต่ก็สำนึกในบาปนั้น พระองค์ทรงเมตตาให้ ดร.จุ๋มหายได้ครับ

ส่วนอีกท่านหนึ่งที่ไม่หาย ซึ่งทำบาปน้อยกว่าแต่เพราะประตูจิตไม่เปิดรับพระองค์ และคิดว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นไม่บาป เพราะเป็นการทดลอง ในเมื่อคิดว่าไม่บาป แต่ก็ทำสังฆทานให้ ทำบุญให้ แต่ก็ไม่หายปวดไหล่

ทำให้เกิดสงสัยแทนหนูที่ถูกฆ่าครับ ถ้าเกิดมีนักวิจัยที่มีชื่อเสียง มาขอฆ่าท่านเพื่อทำการทดลอง โดยให้เหตุผลว่าเพื่อประโยชน์กับงานวิจัย และประโยชน์กับคนส่วนใหญ่ท่านจะยอมหรือเปล่า โดยที่ไม่โกรธแค้น ไม่อาฆาต ไม่คิดว่าเป็นบาปครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชวนินทร์ กฤตธกร (ก็อต) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-19 23:23:35


ความคิดเห็นที่ 448 (1624947)

บารมี พระศรีอาริย์ แสงสัตรังสีรัศมี 7 ประการ

ปลื้มปิติเหนือคำบรรยายจริง ๆ 

ที่ได้มีโอกาสสัมผัส และ พิสูจน์บารมี ของพระศรีอาริย์ ที่บ้านสวนพีระมิด

อาทิตย์นี้ ท่าน อ.เมตตา ให้ลูกหลาน ได้สัมผัสบารมีของพระองค์ท่าน

โดยให้แต่ละคนบอกปัญหาที่มีก่อนจะอาราธนาบารมี

ตัวอัญเอง  ปัญหาที่มีคือสายตาสั้น โดยเฉพาะกลางคืนยิ่งเห็นไม่ชัด

ปัญหาอื่นไม่มี เพราะที่ได้รับความสุขทุกวันนี้ ก็เพียงพอ แล้ว

พอท่าน อ. อุบล อาราธนาบารมีของพระศรีอาริย์

อัญได้เห็นแสงสว่างจ้ามาก พุ่งตรงมาบริเวณหน้าผากแล้วหมุน ๆ ไปเรื่อย ๆ 

เกิดปีติอย่างมาก พอลืมตา ทุกอย่างที่เห็น มันแจ่มใส ชัดเจนมาก 

ขนาดยังไม่ได้ไปนั่ง ใกล้ ๆ ท่าน อ.อุบลเลย

ดีใจที่ตัวเองรับสัมผัสพระบารมีของพระองค์่้ท่านได้

ต้องยอมรับจริง ๆ ว่าปรากฎการณ์ ที่เห็นนั้นเป็น

บารมีของพระศรีอาิริย์ 1,000 เปอร์เซ็นต์ เลยจ้า

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-19 23:45:23


ความคิดเห็นที่ 449 (1624948)

พระศรีอาริย์ทรงต้องการแสดงให้เห็นว่า

ผู้ที่ทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น

ที่พระองค์จะทรงเมตตาช่วยให้พ้นทุกข์ได้

ดร.จุ๋ม เข้าใจเรื่องศีล เข้าใจว่าการฆ่าหนูทดลอง แม้ทำเพื่องานวิจัย เป็นประโยชน์ในทางโลก แต่ก็เป็นการกระทำที่ผิดปกติ เพราะไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ก็เป็นการเบียดเบียนทำลายชีวิต และ ดร.จุ๋ม ก็สำนึกผิด ไม่คิดจะทำอีก มีความเมตตา ซึ่งหมายถึงจิตเปิดรับพระธรรมของพระพุทธเจ้า จึงได้สัมผัสพระบารมีของพระศรีอาริย์ และหายเจ็บป่วยได้ เจ้ากรรมนายเวร หนู 1000 ตัว อภัยให้

สำหรับ จนท.มหิดล ไม่เห็นความสำคัญของการรักษาศีล ขาดความเมตตา ไม่สำนึกผิด ใจหนักอึ้ง ต่อต้านคำสอนของพระพุทธองค์ อย่างนี้เจ้ากรรมนายเวร หนู 200-300 ตัว แม้จำนวนน้อยกว่าของดร.จุ๋ม ก็คงไม่ให้อภัย ถึงทำบุญอุทิศให้ แต่ด้วยอารมณ์จิตแบบนี้ ก็ไม่เพียงพอและหนูก็คงไม่ต้องการ พระศรีอาริย์ท่านก็ไม่สามารถช่วยได้

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-20 00:10:43


ความคิดเห็นที่ 450 (1624952)

ดังนั้น ขอให้ทุกท่าน

ช่่วยกันวิเคราะห์ต่อหน่อยได้ไหม

ว่า พระศรีอาริย์ ต้องการบอกอะไร

กับ กรณี ดร.จุ๋ม กับ น้องที่ มหิดล

ซึ่งผลออกมาต่างกัน

คนหนึ่ง หาย  คนหนึ่ง ไม่หาย  

ทั้งที่คนที่หาย ฆ่าหนูเยอะกว่า

แถมทั้งสองคน ทำงานที่เดียวกัน

แต่เวลาการหาย ห่างกัน ศุกร์ กับ อาทิตย์

 

 ขอให้ทุกท่านที่ร่วมแสดงความเห็น

ได้พบ และ ชมบารมีพระศรีอาริย์

ในเร็ววันนะคะ

.................................

กราบอนุโมทนาค่ะอาจารย์

เห็นหลายๆท่านเข้ามาเขียน

ว่าได้สัมผัสและได้ชมบารมี

แห่งองค์พระศรีอาริย์ด้วยตัวเองแล้ว

ก็ยินดีด้วยจริงๆค่ะ

คงจะเป็นความรู้สึก

ที่ตราตรึงในใจพอสมควร

เพราะภาพที่เห็นคงจะติดตา

และเป็นการฝึกพุทธานุสติ

ที่ได้ผลที่สุดแน่ๆเลย


ถ้าเป็นไปได้

ชนิดาก็หวังว่าจะได้ชมบารมี

ของพระองค์ในเร็ววันนี้บ้างนะคะ


ส่วนกรณีของคุณด็อกเตอร์จิตใจดีอย่างพี่จุ๋ม

ที่หายจากอาการปวดข้อมือที่เป็นมานับสิบปี

แล้วหายทันที นั้น

คงจะไม่ต้องสงสัยเลยนะคะ

เพราะท่านอาจารย์ก็เมตตา

เขียนบอกบ้างแล้วว่า

 

เพราะคุณพี่จุ๋ม

น้อมจิตรับพระบารมีพระศรีอาริย์

ฉะนั้น เมื่อคุณพี่จุ๋มยอมเปิดประตูจิต

ให้พลังบุญเข้าไปในร่างกายและจิตใจได้

ความทุกข์ต่างๆก็คลายได้ทันที

เพราะเราทุกคนก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่า

พระศรีอาริย์มีหน้าที่

เพื่อมาปลดทุกข์ให้สัตว์โลกทุกชีวิตอยู่แล้ว สาธุ

 

และที่สำคัญ พี่จุ๋มก็ใฝ่ในธรรม

หมั่นทำบุญเป็นประจำ

แล้วก็เป็นคนที่อ่อนน้อมถ่อมตน

จิตใจดี มีเมตตาอีกด้วย

ฉะนั้นจึงไม่มีแรงต้านทานใดเลย


ส่วนน้องอีกคนที่มหิดล ไม่หาย

เพราะไม่เชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม

ไม่คิดว่าตนทำบาป

(แต่ก็ยังแอบไปทำสังฆทาน นะนั่น)

แสดงว่า น้องเค้าก็น่าจะคิดอยู่ว่า

อาจจะเป็นบาป

แต่ก็พยายามหาเหตุผล

มาลบล้างเพื่อให้ตัวเอง

รู้สึกสบายใจขึ้นเท่านั้นเอง

 

ส่วนเหตุผลหลักอีกอย่างที่ไม่หาย

ก็เพราะว่า ไม่มีความศรัทธา

ในตัวท่านอาจารย์อุบล

แล้วก็ไม่เชื่อว่า

อาการป่วยจะหายได้ทันที มันเป็นไปไม่ได้

 

ก็ตรงตามหลักกฏจักรวาล

จาก The Secretsเลยค่ะ

เมื่อคุณคิดและเชื่อแบบไหน

จักรวาลก็จะส่งประสบการณ์

ในแบบที่คุณต้องการมาให้

ตามที่ใจคุณร้องขอ...เลย 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-20 02:19:22


ความคิดเห็นที่ 451 (1624979)

 

ในวันที่ไปมหิดลนั้น
น้องผู้หญิงที่เป็นนักวิจัย ที่ฆ่าหนูมาหลายร้อยตัว
แต่ตัวเองไม่หายนั้น
น้องเขามั่นใจในตัวเองว่า
การที่ฆ่าหนูนั้นเป็นการวิจัย
ทำเพื่อผลการทดลองเป็นความรู้ช่วยผู้คน
ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของการยังไม่สำนึกในกรรม
แต่อยากจะหายปวดไหล่
ดังนั้นหากมีจิตต้าน ผลที่ได้ก็คือเหมือนเดิมค่ะ

เช่นเดียวกับนายฝรั่งของตุ้ยที่ไปด้วยในวันนั้น
คุณไมล์ ไม่เชื่อว่าการที่ตัวเองปวดหลัง
มาจากกรรม แต่คิดว่าเป็นเพราะเกิดจากอุบัติเหตุ
ทำให้ปวดหลัง ซึ่งในจิต คิดต้านอยู่ตลอด
เวลาท่าน อ.อุบลถามหรือให้ยกมือ
แกก็ไม่ค่อยอยากยก ขนาดให้พูด 
อ.อุบลช่วยด้วย ก็ไม่ยอมพูด
เคยทำกรรมนู่น นี่ นั่น มาหรือไม่
แกก็ไม่ยอมปริปาก 
ผลคืออาการปวดหลังมากขึ้นกว่าเดิม
จนแกเกือบทนไม่ได้ หน้าแดงไปหมด
และต้องขอตัวกลับก่อนเวลา

ในใจก็ได้แต่คิดสงสารแก 
แต่ก็ถือเป็นเรื่องของกรรมใครกรรมมันค่ะ
แต่ก็รู้สึกดีใจที่แกได้มางานนี้ 
อย่างน้อยแกก็ได้กลับไปคิดได้ว่า
สิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าผลที่ทำให้ปวดหลัง
อาจจะมาจากการขับรถชน-ทับสัตว์ต่างๆ
หรืออาจจะมาจากการหักอกภรรยาตัวเอง
ซึ่งทั้งชีวิตคงไม่เคยคิดว่ามันจะเกี่ยวกันได้
ในสายตาของชาวต่างชาตินะคะ
วันนี้แกก็คงได้ธรรมมะเรื่องกฎแห่งกรรม
ไปอย่างแน่นอนค่ะ


**************************

ขอให้ทุกท่าน ช่่วยกัน
วิเคราะห์ต่อหน่อยได้ไหม ว่า 
พระศรีอาริย์ ต้องการบอกอะไร
กับ กรณี ดร.จุ๋ม
กับ น้องที่ มหิดล 
ซึ่งผลออกมาต่างกัน
คนหนึ่ง หาย  คนหนึ่ง ไม่หาย  
ทั้งที่คนที่หาย ฆ่าหนูเยอะกว่า
แถมทั้งสองคน ทำงานที่เดียวกัน 
แต่เวลาการหาย ห่างกัน ศุกร์ กับ อาทิตย์  
ขอให้ทุกท่านที่ร่วมแสดงความเห็น ได้พบ
 และ ชมบารมีพระศรีอาริย์ ในเร็ววันนะคะ
 
ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์
 
**********************************

ส่วนเรื่องธรรมทานที่มหิดลที่ตุ้ยได้ข้อคิดมาคือ
มีทั้งคนที่เชื่อและไม่เชื่อ 
ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกค่ะเพราะสิ่งที่เห็น
เป็นเราก็เชื่อยากเหมือนกัน
โดยส่วนตัวมองว่า คนที่ไม่เชื่อ
ก็ต้องพิสูจน์นะคะ อย่าง ดร.วิชิต
ท่านบอกเลยว่าท่านไม่เชื่อปรากฎการณ์ตรงนี้
แต่ท่านเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม
คำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
และท่านก็ได้ทดลองไต่สวนกรรม
น้องคนที่ปวดแขนดู
ผลคืออาการเหมือนเดิม น้องยังปวดเหมือนเดิม
ซึ่งการไม่เชื่อของท่าน จึงต้องพิสูจน์
และอยู่บนพิ้นฐานของความเคารพ
โดยส่วนตัวรู้สึกยกย่องท่านมากค่ะ
ที่กล้าหาญเป็นตัวแทนตรงนี้
ซึ่งก็ต้องมีคนที่คิดเหมือนท่าน
แต่ไม่กล้าพูดออกมา

กลับมาถึงน้องนักวิจัยคนนี้
ที่ก็ดูยังไม่ค่อยเชื่อกับปรากฎการณ์นี้เท่าไร
ดูยังไม่ค่อยศรัทธา
แต่น้องเขาก็อยากจะหายเจ็บปวด
สารภาพว่าฆ่าหนูเพื่อการวิจัยไปหลายร้อยตัว
และก็มองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ผิดเพราะเป็นการฆ่าเพื่อวิจัย
คือสารภาพแต่ไม่ได้สำนึกในสิ่งที่ทำ 
ผลก็คือไม่หายค่ะ

มาถึง ดร.จุ๋ม ท่านก็เป็นนักวิทยาศาสตร์
เป็นนักวิจัยที่ฆ่าหนูมาเหมือนกัน แถมฆ่าเยอะกว่าด้วย
แต่ต่างกันตรงที่ท่านมีศรัทธาเต็มเปี่ยม
สร้างบุญทุกบุญแบบปิดทองหลังพระ
ไม่เคยโอ้อวด หรือบอกใครๆ ว่าทำนู่นทำนี่
และไม่เคยร้องขอ ไม่เคยบำบัด
ไม่เคยขอให้ตัวเองหาย
แต่เมื่อถึงเวลาและโอกาสที่ท่าน
ได้ชดใช้กรรมมาพอสมควรแล้ว
เบื้องบน สิ่งศักดิสิทธิ์ และที่สำคัญ
บารมีขององค์พระศรีอาริย์
ท่านได้เมตตา กับผู้ที่มีศรัทธา
ผู้ที่สร้างบุญอยู่เป็นนิจ
ดร.จุ๋มเป็นผู้ที่มีความศรัทธาอย่างเต็มเปี่ยม
เป็นผู้ที่ทำผิดแล้ว สำนึกในสิ่งที่ตนทำ
ในยุคของท่าน เพียงแค่คิด ปรารถนาสิ่งใด
หากเป็นเรื่องที่ดีงาม แม้ไม่ต้องพูดออกมา
เพียงแค่คิด เหมือนเนรมิตได้ คนที่ป่วยหายป่วย
คนที่ทุกข์ที่จน หายทุกข์ หายจน
จักรแก้วอันเป็นอาวุธประจำกายของท่าน
จะมาช่วยมนุษย์ที่มีความทุข์
และพร้อมจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเสมอค่ะ
 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-20 09:46:32


ความคิดเห็นที่ 452 (1624989)

พระศรีอาริย์ ท่านใช้ ธรรมจักร

หมุนไปเพื่อช่วยรักษาความทุกข์

ห้กับทุก ๆ คน อย่างเท่าเทียมกัน

แต่ผลที่ได้ต่างกัน เพราะ ประตูจิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

หากเราเปิดบ้านต้อนรับ เราก็ได้รับความสุข

หากเราปิดบ้าน ความสุขก็เข้ามาไม่ได้นั่นเอง

 

ดังนั้น ทุกคนได้รับสิทธิ์ พบความสุขนั้น อย่างเท่าเทียมกันแล้ว

อยู่ที่ตัวเรา จะอยากได้รับสุขนั้นหรือไม่ แค่ไหน

ถ้าไม่ยอมเปิดประตู ก็อยู่ในบ้านเดิมที่มีแต่ทุกข์แบบเดิม ๆ ต่อไป

 

ขอกราบ ในพระเมตตาของพระศรีอาริยเมตไตย

ที่นำแต่ความสงบสุข ร่มเย็น มาสู่มวลมนุษย์คะ

 

อนุโมทนากับท่านอ.อุบลและทุก ๆ ท่าน

ที่ได้รับสัมผัสพระบารมีจากพระองค์ท่านด้วยคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-20 10:43:21


ความคิดเห็นที่ 453 (1624991)

ดังนั้น ขอให้ทุกท่าน

ช่่วยกันวิเคราะห์ต่อหน่อยได้ไหม

ว่า พระศรีอาริย์ ต้องการบอกอะไร

กับ กรณี ดร.จุ๋ม กับ น้องที่ มหิดล

ซึ่งผลออกมาต่างกัน

คนหนึ่ง หาย  คนหนึ่ง ไม่หาย  

ทั้งที่คนที่หาย ฆ่าหนูเยอะกว่า

แถมทั้งสองคน ทำงานที่เดียวกัน

แต่เวลาการหาย ห่างกัน ศุกร์ กับ อาทิตย์

 

 ขอให้ทุกท่านที่ร่วมแสดงความเห็น

ได้พบ และ ชมบารมีพระศรีอาริย์

ในเร็ววันนะคะ

สำหรับเรื่องนี้ผมว่า เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญเลยทีเดียว เพราะใครที่ติดตามอ่านที่ท่านอาจารย์เขียนก่อนไปบรรยายที่ ม.มหิดล ก็จะรู้ว่าท่านอาจารย์จะอัญเชิญพระบารมีพระศรีอาริย์มาประทับที่กาย วาจาใจของท่าน เพื่อพิสูจน์ว่าพระศรีอาริย์มีจริงหรือไม่ ท่านเขียนไว้ว่า

คนไหนที่เป็นสาวกหรือศรัทธาในพระยาธรรมิกราช จักรนั้นก็จะหมุนไปเรื่อยๆ แต่หากคนไหนที่เป็นอริศรัตรูกับพระยาธรรมิกราช จักรนั้นก็จะหยุดหมุนในทันที หมุนต่อไปไม่ได้

ซึ่งหมายความว่า คนใดที่เคารพศรัทธาในพระธรรมคำสอนและเคารพบูชาพระศรีอาริย์ จักรก็จะหมุนไปเรื่อยๆ คำว่าจักรหมุนนั้นคือ หมุนไปเพื่อพัฒนากาย วาจา ใจของคนๆนั้นให้มีความเจริญ บริสุทธิ์ ดียิ่งๆขึ้นไป เรื่องโรคภัยไข้เจ็บนั้นคงเป็นเรื่องง่ายๆมากเลยที่จะหายในทันที

ส่วนคนไหนที่ไม่เชื่อในกฏแห่งกรรม ไม่เคารพในธรรมะพระพุทธเจ้าและไม่ศรัทธาในพระยาธรรมิกราชหรือเรียกง่ายๆว่าทำตนเป็นศรัตรูนั่นเอง จักรนั้นก็จะหยุดหมุน ช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย ดังที่เราเห็นแหละครับ คนที่ฆ่าหนูกลับไม่ได้สำนึกว่า นี่คือบาปกรรม กลับหาเหตุผลมาสนับสนุนตนเองว่า ที่ฆ่าไป ทำไปเพื่อศึกษามาช่วยคนอื่นเขา เรียกว่า ไม่ได้เอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่มีใครอยากถูกฆ่าหรอก แต่เราไปตัดสินใจแทนเขาเอง และไม่สำนึกในกรรมอันนี้ ผลจึงออกมาอย่างที่เห็นคือไม่หาย

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-20 10:51:12


ความคิดเห็นที่ 454 (1624997)

ว้าววววว...เมื่อบ่ายวันอาทิตย์คือเมื่อวานนี้ ผมได้รับประสบการณ์สุดวิเศษ เรียกว่า จำไม่ลืมเลย เพราะเกิดกับตัวเอง ซึ่งก่อนจะเล่าเรื่องขอสรุปก่อนเลยว่า

พระศรีอาริย์มีจริง 1,000,000 เปอร์เซ็นต์

ผมมีปัญหาทางสายตาคือ สายตาสั้น และมีปัญหาอีกอย่างคือผมบางบริเวณช่วงกลางศีรษะ

พอท่านอาจารย์ขออาราธนาพระบารมีพระศรีอาริย์มาประทับในกาย วาจา ใจของท่าน เพื่อให้ลูกหลานได้ชมพระบารมี และพิสูจน์ว่า พระศรีอาริย์มีจริงหรือไม่

แต่ครั้งนี้พิเศษกว่าที่ ม.มหิดล เพราะว่าพวกเราแค่นั่งไกลๆอยู่กับที่ไม่ต้องเดินเข้ามาใกล้ๆก็จะได้รับพระบารมีแบบจัดเต็ม แล้วหลังจากนั้นจะให้พวกเราได้มีโอกาสเดินเข้ามาใกล้ๆท่านอาจารย์เพื่อรับพระบารมีของพระศรีอาริย์ดูอีกทีว่าเป็นอย่างไร

พอท่านอาจารย์เริ่มอาราธนา ผมรู้สึกเหมือนมีพลังงานอะไรสักอย่างอยู่ข้างหน้า ทำให้ศีรษะของเราต้องเอียงเหมือนยื่นไปข้างหน้า จนผมรู้สึกได้เลย แต่ก็พยายามคุมและไม่สนใจ 

หลังจากท่านอาจารย์ขอบารมีเสร็จ ลืมตาขึ้นมา ในหัวก็รู้สึกโล่งขึ้นมา แต่ที่ผิดปกติไปจากเดิม ก็คือ 

สายตาผมมองเห็นได้ชัดแจ๋วขึ้นมาอย่างชนิดที่ว่า เหมือนในตาของเรามีไฟสว่างๆมาส่องเลยทีเดียว มองเห็นภาพคมชัดมากขึ้นถึงประมาณ 50-60% จากปัญหาสายตาสั้นที่มีเคยเป็นอยู่ 

โอว้...จอร์จ ผมถึงกับอึ้งเลย เพราะเกิดกับตัวเอง มองดูอะไรก็ชัดเจนขึ้น ตาสว่าง แจ๋วเลย เริ่มอ่านตัวหนังสือที่ไกลๆออก ป๊าดดด ของแท้ล้านเปอร์เซ็นต์ สาธุ

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายท่านเลย ที่ได้รับประสบการณ์สุดวิเศษเหมือนกัน เช่น

พี่สิทธิ์ ปวดที่มือ เพราะสังขารที่ร่วงโรย ทำงานหนัก จนปวดมือ อาการที่ปวดนั้นหายดีเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ จากที่รับบารมีระยะไกลก็ดีขึ้นจนชัดเจน และเมื่ออยู่ใกล้ๆท่านอาจารย์ก็หายเกือบหมด สาธุ

พี่สาวพี่แก้ว ที่ผมเห็นในงานที่ ม.มหิดล ท่านนี้มีก้อนเนื้อในท้อง ปวดท้องมานานหลายปีมาก แค่เข้าใกล้ท่านอาจารย์เพื่อชมบารมีพระศรีอาริย์ อาการปวดท้องนั้นหายเป็นปลิดทิ้งในทันที สาธุ

น้องต้นอ้อ ปวดขา เคืองที่ตาเพราะขนตาแหย่เข้านัยน์ตา ก็หายปวด หายเคืองตาในบัดดล ป๊าดด สาธุ

พี่มงคลจากเชียงราย ท่านนี้ถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ น้ำตาไหลออกมาแบบปิติสุดๆ ที่มองเห็นภาพพระศรีอาริย์ซึ่งในมือถือพระขรรค์แก้ว และจักรแก้ว

น้องเบส ที่มีอาการป่วยไม่สบายอยู่ ก็หายเป็นปลิดทิ้งในทันทีเช่นกัน

คุณพี่เบญจรัศมีจากภาคใต้หรือคุณพี่ทัศนีจากกรุงเทพนี่แหละครับ โทษทีครับจำไม่ได้เป๊ะๆ แกมีอาการปวดที่หลัง แกรู้สึกได้ทันทีเลยว่า มีพลังพุ่งกระจายออกไปจากบริเวณหลังที่ปวดอยู่ จนอาการดีขึ้น สัมผัสได้เลย

ดร.จุ๋ม จากแขนที่ปวดอยู่มานับสิบปี จากกรรมที่เคยฆ่าหนูมา 1,000 ตัวพอดีเป๊ะ(ดูจากบันทึกขณะศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัย) ก็หาย100%ในทันทีเลย และที่สำคัญ ดร.จุ๋มกลับได้ชมบารมีแบบชัดๆคือ เห็นแสงสว่างจ้าไปหมดเลย เรียกว่า อาจารย์ป้าหายแล้วเด้อค่ะ ได้ชมบารมีแบบจะๆอีกด้วย สาธุ

คุณอดิศักดิ์ บักหล่าน้อยแห่งลาซาล ก็มีอาการปวดที่มือ พอได้รับพระบารมีฯก็มีอาการดีขึ้นจนเกือบหายเลยทันที สาธุ

พี่เหมี่ยว หวานใจพ่อใหญ่เสิงสาง มีอาการนิ้วล็อค ก็ออกอาการกระดี้กระด๊าทันที เพราะว่านิ้วเหมี่ยวหายล็อคแล้วเด้อค่า พระศรีอาริย์มีจริงค๊า

พี่อร สาวตาคม นัยน์ตาแขก ก็มีอาการปวดคอ หมุนคอไม่ได้ หมุนได้นิดหน่อย นี่ก็เรียกว่าพอได้รับบารมีพระศรีอาริย์ อาการที่คอก็ดีจนหมุนได้ สบายใจแท้ๆ

อาจารย์ณี ที่มีอาการปวดเข่าขา ลุกนั่งไม่ค่อยสะดวก ก็มีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยทันทีที่ได้รับพระบารมีองค์พระศรีอาริย์

สิงห์ป้อม ก็ได้ชมพระบารมีฯ โดยรู้สึกว่าที่ศีรษะตนเองนั้นมีอะไรคล้ายๆวงกลมหมุนอยู่

อาจารย์อภิชัย ก็รู้สึกขนลุกไปหมดเลยเวลาที่ท่านอาจารย์อาราธนาพระบารมีพระศรีอาริย์

และอีกหลายๆท่านเลยครับ ที่ได้ชมและได้รับปาฏิหาริย์กันแบบจะๆ สาธุ

กราบแทบพระบาทขอบพระคุณพระพุทธองค์ สมเด็จพระศรีอาริยะเมตตตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วจักรวาล เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกๆพระองค์ ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว ที่เมตตาผมและทุกคนให้พ้นทุกข์อย่างฉับพลันทันที สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-20 11:35:12


ความคิดเห็นที่ 455 (1624998)

อนุโมทนากับคุณธนาด้วยคะ

ดีใจกับทุก ๆ ท่านอีกครั้งนะคะที่ได้ชมพระบารมี

ขององค์พระศรีอาริย์อย่างใกล้ชิด

แต่ละคนเรียกได้ว่า สุขสุด ๆ กันเลยนะคะ

โดยเฉพาะคุณมงคล ที่ได้มีโอกาสเห็นพระองค์ท่านเต็ม ๆ ตา

แค่คิดภาพตาม ก็ทราบแล้วว่า ทำไมถึงกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

ปลื้มใจด้วยจริง ๆ คะ

อนุโมทนาด้วยคะ สาธุ ๆ ๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-20 12:02:30


ความคิดเห็นที่ 456 (1625002)

วันนี้ได้เข้ามากระทู้...ท่านแน่ใจหรื่อว่า ได้พบพระศรีอริย์

และตัวเองก็ได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งเกี่วยกับ พระศรีอริย์ ในหนังสือเขียนไว้ว่า

 สัจธรรมคำสอนอันศักดิ์สิทธิ์

ขององพระศรีอริยเมตไตรย

ด้วยพระฤทธานุภาพแห่งองค์พระศรีอริยเมตไตรย  ซึ่งได้เสวยสุขบนสวรรค์  พระองค์ทรงเล็งเห็น

ความทุกข์ของมวลมนุษย์ชาติ  และด้วยพระมหาเมตตา อันหาที่สุดไม่ได้

ทรงแปลงพระวรกายมาช่วยชาวโลกมนุษย์ด้วยพระทัยที่เสียสละ

กล่าวคือทรงต้องการให้มนุษย์พ้นทุกข์  และมีความสุขที่แท้จริง

จึงทรงมอบธรรมะเพื่อเตือนความทรงจำ  และสอนมนุษย์ที่ต้องการหลุดพ้นจากทุกข์ 

และดำรงอยู่ในความสุขที่แท้จริง เพื่อเตรียมกายใจให้พร้อมที่จะพบกับแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง

ขององค์พระศรีอริยเมตไตรยในเพลาข้างหน้าที่จะมาถึงในอีกไม่นานนี้

โดยมอบหมายให้ผู้รู้ที่แท้จริงนำธรรมะมาบอกกล่าวและเผยแพร่ต่อไป

พออ่านจบทั้ง  16 ข้อ ก็ตรงกับที่ อ.อุบลท่านได้เผยแพร่อบรมสั่งสอนมา

และท่านก็สอนง่ายๆ เข้าใจง่าย(แต่ตัวเองก็ยังโง่อยู่อีกมาก)

1. ให้ตั้งหมั่นอยู่ในศีล 5  ให้ครบถ้วนบริบูรณ์

2.  ให้รักใคร่เมตตาปรานี  ต่อเพื่อนมนุษย์และสัตย์ (ข้อนี้ อาจารย์ท่านก็สอนและก็ตรง)

3.  ผู้เป็นลูกต้องรู้จักกตัญญูรู้คุณ  และเชื่อฟังพ่อแม่บังเกิดเกล้า  ถ้าลูกไม่กตัญญูรู้คุณพ่อแม่

ก็จะได้รับผลกรรมทันตา  เมื่อตายไปจะไปเกิดเป็นสัตว์

4.  ไม่พูดมากในสิ่งที่ไร้สาระ  เพ้อเจ้อส่อเสียดผู้อื่น  การพูดมากทำให้เกิดความผิดพลาด  เสียหายได้

การพูดเสียงดังและหยาบคาย ก้าวร้าวดุดัน แช่ง  ด่า สบถสาบาน  เป็นอัปมงคลแก่ตนเอง

ล้วนแต่จะกลับมาสนองตอบแก่ตนเองทั้งสิ้น

อ็อดเห็นว่าเป็นคำสั่งสอนที่ตรงกับท่านอาจารย์ได้นำมาสั่งสอนซึ่งตรงกันมาก

ก็เลยนำมาลงให้ได้อ่านและพิจารณาจ๊ะ

และที่เหลือจะมาพิมพ์วันหลังค่ะ(วันนี้ใช่เวลา 1 ชั่วโมงพอดี เพราะหายไปนาน)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กมลลักษณ์ โปษณกุล อ๊อด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-20 12:06:36


ความคิดเห็นที่ 457 (1625009)

อาจารย์อภิชัย

ก็รู้สึกขนลุกไปหมดเลย

เวลาที่ท่านอาจารย์อาราธนาพระบารมีพระศรีอาริย์

 

และอีกหลายๆท่านเลยครับ

ที่ได้ชมและได้รับปาฏิหาริย์กันแบบจะๆ สาธุ

กราบแทบพระบาทขอบพระคุณพระพุทธองค์ สมเด็จพระศรีอาริยะเมตตตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วจักรวาล เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกๆพระองค์ ท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว ที่เมตตาผมและทุกคนให้พ้นทุกข์อย่างฉับพลันทันที สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-20 11:35:12

 

กรณี

อ.อภิชัยนี่ ถือเป็น กรณีพิเศษ

เพราะ มัวแต่ไปทำพระบาทพระ

เดินทะเล่อ ทะล่า มาทีหลัง

ยังไม่รู้อีโหน่อีเหน่

ว่า

วันนี้ เขาทำอะไรกัน แต่ยอมรับว่า

อ.อภิชัย หัวไว แฟนใคร ป่าป๊าใครก็ไม่รู้

เพราะตอน อ.อภิชัยเดินเข้ามาในวิหาร

มีคนกำลังพูดพอดี ว่า ตนเอง

ยังมีทุกข์ใดอยู่บ้าง

 

แล้วก็โยนให้ อ.อภิชัยต่อเลย

เพราะคนอื่นเขาพูดกัน

ไปก่อนหน้าแล้ว

 

อ.อภิชัย

คงเดาว่า ให้บอกอาการ

เจ็บป่วย ปัจจุบัน

ก็เลยบรรยาย ซะ เยอะเชียว

 

ผม

ตอนนี้ ปวดแขน ปวดไหล่มาก

ไปทำงานปูน ปั้นพระมา

ปวดขา ขาบวมด้วย

555

อ.อุบล บอกว่า ปั้นพระเสร็จเมื่อไหร่

ก็หาย จาก ขาบวม เองแหละ

แต่วันนี้ ให้พิสูจน์

บารมีพระศรีอาริย์ก่อน

ไม่ต้องสารภารบาป ไม่ต้องนึกกรรม

ไม่ต้องทำอะไรเลย

รอรับสัมผัส อย่างเดียวเท่านั้น

(ดูแล้ว ทำ ย๊าก ยาก)

 

อ.อภิชัย

คราวนี้ ไม่มีข้อ สังสัย

เหมือนครั้งก่อนๆ เลย เต็มร้อย

เพราะ

ไม่ใช่แค่เห็น ไม่ใช่แค่ได้ยิน ใครเล่า

แต่เจอกับตัวเอง จะ จะ

ลูกผู้ชายตัวจริง นักวิทยาศาสตร์ตัวจริง

เข้าสิงห์ อ.อภิชัยเลย

 

ผมครับ

ขนลุก ตั้งแต่ อ.อุบล เริ่ม

พูดคำว่า ขออาราธนาบารมีพระศรีอาริย์

แล้วครับ ทั้งขนลุกซู่ ทั้งตัว ทั้งตัวเบา

โล่ง สบาย หายหมดเลยครับ

 

พระศรีอาริย์ มีจริงไหมคะ อ.

มีแน่นอนครับ ผมเจอเองแล้วครับ

555

อ.อภิชัย แฟนใคร ส่งเสียงหน่อย

วันนี้ นะจะบอกให้

แต่งตัววัยสะรุ่น น่าดูเลยหละ

เมียไม่มี  เอ้ย ม่าย ช่าย เมียไม่มา

(ครอบครัวร้าวฉาน คืองานของเรา)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-20 12:53:20


ความคิดเห็นที่ 458 (1625010)

หลังจากพิมพ์ข้อความเสร็จและได้ส่งไป จะกลับมาอ่านข้อความ

ปรากฎว่าข้อความหายไป ตกใจ คิดในใจว่าคงจะทำผิดอะไร

แต่ก็คิดว่าไม่ได้ทำผิดอะไร คิดว่าทำดีแล้วต้องเจอข้อความ

ก็อธิฐานขอให้ได้อ่านข้อความที่ตัวเองส่งไป

ก็ได้กดไปที่เลข 5 ก็ลองกดดูก็ได้อ่าน

และก็ได้อ่านธรรมทานที่ท่านอาจารย์เขียนถึงพระศรีอาริย์ว่าใครสัมผัสได้บ้าง

อ็อดเองก็อยากสัมผัสถึงพระองค์ได้บ้างก้ลองทำสมาธิ (หน้าคอม)

ปรากฎว่ารับสัมผัสพระองค์ได้ (ตัวโยกเล็กน้อย)เพื่อไม่ให้คิดว่าตัวเองคิดไปเอง

ได้ลองทำสมาธิถึงสามครั้ง อาการครั้งที่สามตั้งจิตอย่างดีไม่ได้คิดไปเอง

ตัวก็โยกอีก จึงแน่ใจว่าไม่ได้คิดไปเอง

กราบขอบพระคุณพระศรีอาริย์เมตไตรย์และท่านอาจารย์อุบล เทพพรมพเทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบล  สาธุ

กราบ กราบ กราบ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กมลลักษณ์ โปษณกุล อ๊อด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-20 13:02:24


ความคิดเห็นที่ 459 (1625073)

19 สิงหาคม  2555

      ลูกขอกราบขอบพระคุณพระศรีอาริย์ฯและท่าน อ.อุบลฯ                 

ที่เมตตา ลูกหลานบ้านสวนฯไดัให้สำผัส บารมีพระศรีอาริย์ฯ

กันถ้วนหน้าในวันนี้  ทำให้ทุกคนตื่นเต้นและมีความสุขกันทั่ว

หน้า ซึ่งก่อนที่ท่านจะส่งบารมีผ่านท่านอ.อุบลฯมานั้นท่านอ.อุบลฯ

ได้สอบถามลูกหลานถึงอาการเจ็บป่วย ของแต่ละคนว่ามีอาการ

เช่นไร กันบ้าง  ซึ่งตัวข้าพเจ้าเองนั้น  มีอาการ 3 อย่าง คือ   

1)  ที่บริเวณคอด้านหลังมีตุ่มและมีอาการคัน    

2)  บริเวณเข่าขวา จะมีอาการเจ็บเสียวเป็นบาางครั้ง 

3)  เวลานั่งแล้วลุกขึ้นไม่สะดวก  

         อาการต่างๆ  ที่กล่าวมาแล้วนั้น เมื่อท่าน อ.อุบลฯได้ขอบารมี

จากพระศรีอาริย์ฯ มาผ่านท่านแล้วแผ่มายังลูกหลานแล้วอาการต่างๆ

( ข้อ1-2) หายไป  ส่วน(ข้้อ3)ดีขึ้นตัวเบาลงค่ะ/

               ลูกขอกราบขอบพระคุณพระศรีอาริย์และ

                         ท่านอ.อุบลฯอย่างสูงค่ะ/

                                                       สาธุๆๆ



 
ผู้ตั้งกระทู้ กันต์สินี อัครวิชนนท์(นี/พันธ์) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2012-08-20 20:33:35

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-20 20:44:47


ความคิดเห็นที่ 460 (1625085)

ธรรมทาน 19 สค. 55 โดย ธารีรัตน์ (จุ๋ม)

พอดีเห็นกระทู้ใหม่คุณธนา เลยขอร่วม comment เรื่องตารางเวลาใหม่ ของสว.ที่ไม่ชอบนอนดึกค่ะ รวมทั้งธรรมทานวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ส้ปดาห์นี้ท่านอาจารย์เปลี่ยน    ตารางเวลาการสอนธรรมะใหม่ โดยให้ทำบุญใช้แรงกายให้เต็มที่ในวันเสาร์ แต่ช่วงกลางคืน อาจารย์จะออกมาสนทนาธรรมกับลูกหลานสัก 2 ชม. (9-11 pm) แล้วให้รีบนอนพ้กผ่อนให้เต็มที่ เช้าตรู่เมื่อตื่นนอน ให้ไปออกกำลังกายทำเกษตรจนถึง 9 am แล้วมาทานข้าว อาบน้ำให้เสร็จภายใน 10 am จากนั้นอาจารย์จะสอนธรรมะถึง 1 pm และ พัก 1 ชม. และสอนต่อ 2-4 pm จึงกลับบ้านได้

ดังนั้นทุกนาทีวันเสาร์จะเป็นเวลาทองจริงๆที่จะทำบุญแรงกาย เพราะวันอาทิตย์มีเวลาทำน้อยลง ชึ่งการปรับเปลี่ยนเวลานี้โดยส่วนต้ว เมื่อได้นอนหลับก่อนเที่ยงคืน เช้าวันอาทิตย์ตื่นขึ้นมาสดชื่นมาก ฟังธรรมตอน 10 โมง อย่างสดชื่น พี่น้องที่มาได้เฉพาะวันเสาร์ อาจต้องปรับแผนเวลากันบ้างเพิ่อการเรียนธรรมะจากท่านอาจารย์

ธรรมทานช่วงเช้าท่านอภิปรายถึง การจัดงานที่มหิดลต่อ แต่ขอข้ามไปถึงช่วงการอัญเชิญ บารมีพระศร๊อารย์ ผ่านอาจารย์อุบล ซึ่งท่านอาจารย์มงคล เป็นผู้แนะนำ และไปใช้แห่งแรกเลยที่มหิดล โดยท่านให้คนเจ็บป่วยที่อยากหายเดินขึ้นไปรับบารมีใกล้ๆท่านที่หน้าเวที แล้วบอกท่านทันทีว่าหายเจ็บปวดหรือไม่ งานนี้ผู้คนที่ไปฟังกันที่มหิดลบางท่าน บุญที่บริสุทธิ์ทำกับสาธารณประโยชน์ต่างๆ แทบจะไม่มี ไม่ต้องพูดถึงการทำบุญกับเนื้อนาบุญเช่น อจ.อุบล บ้านสวนพีรามิด เพราะบางคนไม่รู้จัก เรียกว่ามีบุญกันน้อยๆ มียกเว้นลูกบ้านสวนบางท่านเท่านั้น แต่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้คนทุกท่านที่เดินเข้าไปใกล้ หายเจ็บปวดกันทุกท่าน และได้นั่งลงกราบอาจารย์กันทุกคน เพราะเชื่อกันแล้ว ประสบกับตนว่าหายจริง

ดังนั้นกิจกรรมบ่ายวันอาทิตย์ท่านจึงอาราธนาบารมี พระศรีอารย์มาโปรดพวกเรากันอีก โดยให้ทุกคนขอว่าจะให้พระศรีอารย์โปรดความทุกข์เรื่องใดบ้าง โดยบอกที่ละคนสำหรับตนเองขอให้แขนขวาที่ปวดเรื้อรัง ปวดๆหายๆ อยู่ประจำ และเรื่องงานวิจัยซึ่งมักจะมีอุปสรรค กว่าจะสำเร็จใช้เวลานาน เมื่อท่านอธิษฐานและตนเองหลับตาลง ก้สัมผัสได้ถึงแสงสว่างเข่ามาที่ตาอย่างงายดาย ยังไม่ได้กำหนดสติใดๆ ต่อจากนั้นแขนขวาที่ปวดๆก็เบาลงอย่างมากๆ จนต้องลุกออกไปเรียนอจ.อุบลว่าหายแล้า เพราะรู้สึกชัดมาก

ต่อจากนั้นเกือบทุกท่านในห้องต้องทยอยกันไปเล่าเป็นธรรมทานเพื่อแสดงความกตัญญู ที่จำได้ก็เช่น คุณเหมี่ยวที่หายปวดข้อนิ้วมือ จิ๋มหายปวดหลัง ไหล่ อจ.อภิชัย หายปวดขา ปวดเข่า น้องริน หายปวดประจำเดือน อจ.นีย์ คุณแม่น้องริน ก็ลุกยืนนั่งได้คล่อง ท่านทำให้เห็นกันจะๆเลย คุณอดิศักดิ์พอดีนั่งใกล้ๆกัน หมุนข้อมืออยู่ตั้งนาน จนในที่สุดก็รับว่าหาย ต้องลุกไปบอก อจ.เป็นคนสุดท้าย

อจ.บอกว่านับต่อจากนี้ คนที่มาสร้างบุญจะสามารถสัมผัสบารมี พระศรีอารย์ได้ชัดขึ้นๆ สงสัยจะเห็นด้วยตาเนื้อมั้ง??

ขออนุโมทนาบุญ กับอาจารย์อุบล อ.มงคล และคุณท๊อป ที่ให้โอกาส ลูกหลานทุกท่าน
จุ๋ม

ผู้แสดงความคิดเห็น ธารีรัตน์ กะลัมพะเหติ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-20 12:49:26

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-20 21:46:35


ความคิดเห็นที่ 461 (1625104)

   อนุโมทนากับทุกท่าน  ที่ได้สัมผัส

พระบารมี  ของพระศรีอาริย์กันอย่างจะ จะ

คงจะเป็นความสุขที่เราไม่สามารถหาจากที่ไหน

ได้อีกแล้ว สาธุค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-20 22:56:52


ความคิดเห็นที่ 462 (1625117)

ถึงแม้จะยังไม่ได้สัมผัส

บารมีขององค์พระศรีอาริย์

ได้แบบชัดๆเหมือนทุกๆท่าน

 

แต่ชนิดาก็เชื่อว่า องค์พระศรีอาริย์มีจริง

ล้านล้าน เปอร์เซ็นต์ค่ะ

(แบบว่า เป็นพวกหูเบาอ่ะ)

 

และชนิดาก็มั่นใจว่า

ซักวันนึง ชนิดาจะสัมผัส

และได้พบพระองค์แน่ๆ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-21 03:59:52


ความคิดเห็นที่ 463 (1625118)

อ่านแล้วก็มีความสุขไปกับทุ กคนที่ได้สัมผัสพระบารมีของพระศรีอาริย์  และได้หายจากอาการเจ็บป่วย  ซักวันกุหลาบเองคงได้ไปสัมผัสบารมีของพระองค์บ้าง 

อนุโมทนา สาธุค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กุหลาบ รักสนิท ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-21 06:11:57


ความคิดเห็นที่ 464 (1625144)

ลูกขอกราบพระบาท

องค์พระศรีอริยเมตตรัย

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านสวนทุก ๆ พระองค์

ลูกปลื้มปิติกับลูกบ้านสวนทุก ๆ คน

สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

ที่ได้พลังบารมีจากท่าน

พระศรีอริยเมตตรัย

กันทุกคน

ลูกก็ปรารถนา

อยากได้รับพลังบารมีจากท่านพระองค์

ให้ลูกได้กราบพระในท่าเบญจางคประดิษฐ์

ได้ด้วยเถิดเจ้าค่ะ

กราบ กราบ กราบ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วัชรินทร์ เกษมณี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-21 10:40:49


ความคิดเห็นที่ 465 (1625149)

ช่างเป็นบุญแท้ๆที่อาจารย์อุบลสามารถอันเชิญพระบารมีของพระศรีอาริยเมตไตรย์มาบังเกิดปรากฏเป็นอัศจรรย์ต่อหน้าผู้คน

อนุโมทนากับทุกท่านที่มีโอกาศได้รับสัมผัสทิพย์โอสถและได้เห็นพระศรีอาริยเมตตรัยด้วยตาเนื้อคะ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ๋ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-21 11:06:59


ความคิดเห็นที่ 466 (1625260)

ดังนั้น ขอให้ทุกท่าน

ช่่วยกันวิเคราะห์ต่อหน่อยได้ไหม

ว่า พระศรีอาริย์ ต้องการบอกอะไร

กับ กรณี ดร.จุ๋ม กับ น้องที่ มหิดล

ซึ่งผลออกมาต่างกัน

คนหนึ่ง หาย คนหนึ่ง ไม่หาย

ทั้งที่คนที่หาย ฆ่าหนูเยอะกว่า

แถมทั้งสองคน ทำงานที่เดียวกัน

แต่เวลาการหาย ห่างกัน ศุกร์ กับ อาทิตย์

 

ขอให้ทุกท่านที่ร่วมแสดงความเห็น

ได้พบ และ ชมบารมีพระศรีอาริย์

ในเร็ววันนะคะ

.................................

ขอกราบอนุโมทนาค่ะท่านอาจารย์

ขออนุโมทนากับทุกๆท่านที่รับสัมผัสขององค์พระศรีอาริยเมตไตย    ได้ด้วยค่ะ สาธุ

กรณีของ ดร.จุ๋ม กับ น้องที่มหิดล พจน์คิดว่าที่ ดร.จุ๋มหายทั้งที่ได้ฆ่าหนูมา1,000 ตัว ซึ่งมากกว่าอีกท่านหนึ่งที่ฆ่าหนูมา 200-300 ตัว เป็นเพราะ ดร.จุ๋ม ประตูจิตเปิด เหมือนอย่างที่ท่านอาจารย์ได้เขียนบอกมาแล้วค่ะ และ ดร.จุ๋ม มีความเชื่อมั่น ศรัทธา ในตัวท่านอาจารย์ ในพระธรรมคำสอน และได้สำนึกผิดจริงๆ จึงทำให้รับสัมผัสได้ อาการที่เจ็บปวดที่เป็นทุกข์อยู่จึงหาย แต่อีกท่านที่รับสัมผัสไม่ได้ ทั้งที่น้องเค้าได้ฆ่าหนูมาน้อยกว่า ดร.จุ๋ม หลายเท่าก็เป็นเพราะประตูจิตไม่เปิด ไม่เชื่อ ไม่ศรัทธาและคิดว่าเป็นไปไม่ได้ รวมทั้งน้องเค้าไม่ได้สำนึกหรือรู้สึกว่าที่ฆ่าหนูนี้เป็นสิ่งที่ผิด บาป แต่อย่างไร (แต่จริงๆแล้วเค้าคงคิดบ้างแหล่ะค่ะว่าบาป ไม่งั้นคงไม่ไปทำสังฆทานให้หรอกค่ะ) แต่ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถึงจะมีโอกาสมีบุญได้ชมบารมีองค์พระศรีอารย์แต่ก็รับสัมผัสไม่ได้ อาจจะเป็นเหมือนบัวเหล่าที่ 4 หรือเปล่าคะ อย่างที่ท่านอาจารย์บอกว่าแม้แต่พระพุทธองค์ท่านยังมิทรงโปรดเลยค่ะ

ลูกขอน้อมกราบองค์พระศรีอาริย์ และขอให้ได้มีโอกาสชมบารมีของพระองค์ท่านในเร็ววันนี้ด้วยเถิดเจ้าค่ะ สาธุ กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น พรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-21 17:15:57


ความคิดเห็นที่ 467 (1625411)

ดังนั้น ขอให้ทุกท่าน

ช่่วยกันวิเคราะห์ต่อหน่อยได้ไหม

ว่า พระศรีอาริย์ ต้องการบอกอะไร

กับ กรณี ดร.จุ๋ม กับ น้องที่ มหิดล

ซึ่งผลออกมาต่างกัน

คนหนึ่ง หาย  คนหนึ่ง ไม่หาย  

ทั้งที่คนที่หาย ฆ่าหนูเยอะกว่า

แถมทั้งสองคน ทำงานที่เดียวกัน

แต่เวลาการหาย ห่างกัน ศุกร์ กับ อาทิตย์

 

 ขอให้ทุกท่านที่ร่วมแสดงความเห็น

ได้พบ และ ชมบารมีพระศรีอาริย์

ในเร็ววันนะคะ

.................................

 

เจี๊ยบขอตอบบ้างค่ะ ดร.จุ๋มทำบาปจากการฆ่าหนูเพื่อทำวิจัยในการเรียน 1000 ตัว ดร.จุ๋มสำนึกได้ถึงบาปที่ตัวเองทำมา ถึงแม้จะทำบาปเพื่อการเรียน การวิจัย แต่การฆ่าก็คือการฆ่า การทำลายชีวิตผู้อื่น คงไม่มีหนูหรือสัตว์หรือใครก็ตามแม้แต่ตัวของเราที่อยากจะตกอยู่ในสภาพนี้ เพราะนั่นหมายถึงการทำลายชีวิตของเขา ดังนั้นเจ้ากรรมนายเวรตั้ง 1000 ชีวิต ก็คงร้องขอความเป็นธรรมบ้าง ดร.จุ๋มสำนึกได้ถึงบาปกรรมที่ทำมา และมีจิตเปิดน้อมรับธรรมะของพระพุทธองค์อย่างหมดใจไม่มีข้อกังขาหรือสงสัยในคำสอนของพระพุทธองค์เลย ทำให้จักรแ้ก้วของพระศรีอารย์สามารถหมุนได้ตลอดไม่สะดุด ทำให้การบำบัดนั้นได้ผลเต็มคือหายจากโรคที่เป็นอยู่

ส่วนน้องคนนั้นฆ่าหนู 200-300 ตัว เพื่อทำวิจัยเช่นกัน แต่ไม่ได้สำนึกในการฆ่า คิดว่าหนูเกิดมาเพื่อให้คนฆ่าทำการวิจัย ไม่เป็นบาป หรือบาปน้อย มุมกลับถ้ามีใครคิดอย่างนั้นกับเราบ้าง ก็คงไม่บาปเช่นกัน เมื่อไม่สำนึกในการสร้างกรรม จิตไม่เปิดรับธรรมะของพระพุทธองค์ จักรแก้วก็คงไม่สามารถหมุนไปได้ การบำบัดก็เลยไม่ได้ผล 

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-21 20:58:18


ความคิดเห็นที่ 468 (1625415)

 สำหรับผู้ที่เคย

สัมผัสพระบารมีพระองค์แล้ว

แต่

ไม่ได้นำมาเขียนลง

เพื่อขอบคุณพระองค์ท่าน

และ

เผยแพร่ยืนยันการสัมผัสพระบารมี

ท่านจะไม่สามารถรับสัมผัส

พระบารมีพระองค์

ได้อีกต่อไป

แม้ว่า

จะได้เข้าร่วมพิธีก็ตาม

 

(ลองพิสูจน์ดูก็ได้)

*****************

หนูมโนมยิทธิไปเข้าเฝ้าพระศรีอาริย์ครั้งแรก ตอนพระปฐมบรมธรรมบิดาทรงมีพุทธานุญาตให้ใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วยให้พบพระศรีอาริย์ค่ะ ท่านทรงชุดพระเจ้าจักรพรรดิเป็นแก้วเพชร พระวรกายใหญ่มาก ทรงประทับห้อยพระบาท กายของขวัญเล็กนิดเดียว ถลาไปกอดพระบาทท่าน ดีใจมาก ร้องไห้ แล้วก็ได้ขอบารมีพระพุทธเจ้า ขอเห็นพระองค์ท่านในชาติปัจจุบัน ท่านสง่างามมากค่ะ 

แล้วตอนอ่านที่อาจารย์เขียนว่าเห็นพระศรีอาริย์ แบบขนาดเท่าองค์พระปฐมด้านหลังบ้านสวน ก็ได้เห็นพระองค์ท่านทันที แล้วก็ตอนพี่ก๊อต อ.อภิชัยมาเขียนถึงพระศรีอาริย์ ท่านก็ปรากฏให้เห็นทันทีค่ะ 

วันกิจกรรมธรรมบำบัดที่ม.มหิดล หนูเห็นพระศรีอาริย์ทรงประทับยืนข้างหลังติดอาจารย์ค่ะ คล้ายภาพที่หนูเคยเห็น ตอนหลวงพ่อบอกให้ตอบเกี่ยวกับฉัพพรรณรังสีค่ะ ที่กระทู้ พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์จะมาปราบอธรรม 

วันนั้น เห็นหลวงพ่อ เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ ท่านท้าวมหาราชทั้ง 4 สิ่งศักดิ์สิทธิ์เยอะมากเป็นแก้วเพชร โลกมนุษย์ดูสกปรกไปเลยค่ะ

แล้วก็เห็นแสงออกมาจากอาจารย์ สว่างมาก 

และหนูไม่รู้สึกปวด เจ็บป่วยอะไรเลยค่ะ

วันนี้ หนูเล่าให้พี่สาวฟังว่า ตอนกำลังอ่านคำว่าพระศรีอาริย์ในเว็บบ้านสวน

ท่านก็ปรากฏกายทิพย์ทันที แล้วก็สอนให้มีความเพียร ปฏิบัติให้ถึงฝั่ง 

(เป็นคำเตือนที่มีค่ามากค่ะ เพราะกำลังโดนกิเลสซัด เอาชนะไม่ได้ ชอบดูหนังมาก)

พี่สาวบอกว่า ฟังแล้วอาการปวดหัวเบาลงเลย สาธุ 

ขอกราบพระบารมีพระศรีอาริย์

กราบขอบพระคุณพระองค์ในพระเมตตาอันประมาณมิได้ค่ะ

ตั้งแต่มาเขียน ท่านทรงประทับอยู่ด้วยตลอดค่ะ กราบ กราบ กราบ

ถ้าหนูผิดพลาดประการใด ขอให้กดส่งไม่ได้ค่ะ สาธุ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-21 21:13:56


ความคิดเห็นที่ 469 (1625437)

 กราบนี่ ยังไง ก็ยังรับไม่ได้อยู่ดี

แต่ทำไม เบื้องบน ทรงมีเงื่อนไขเช่นนี้ ก็ไม่ทราบ

หรือว่า ใครทราบ ช่วยเมตตา ตอบที

*********************

เพราะท่านอาจารย์เป็นผู้ที่บุญบารมีสูงยิ่ง

และเป็นผู้ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งจักรวาล

เลือกให้ท่านอาจารย์อุบลมาทำหน้าที่ช่วยมนุษย์โลก

ที่มีแต่ความทุกข์ให้พบจากทุกข์  

โดยวิธีการ “กราบ” เป็นวิธีที่ง่าย และเป็นการแสดงความเคารพสูงสุด

เหมือนเป็นสิ่งที่บอกเป็นนัยยะว่า

ท่านอาจารย์คือ เนื้อนาบุญที่สมควรกราบไหว้อย่างยิ่ง

เป็นการบอกให้พวกเราได้รู้ว่า

เนื้อนาบุญผู้นี้คือผู้จะมาพาพวกเราพ้นทุกข์

อีกทั้ง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งจักรวาลก็อยู่กับท่านอาจารย์อุบลตลอดเวลา

การกราบท่านอาจารย์จึงถือว่าได้กราบ

ทั้งผู้มีบุญบารมีสูงสุดที่สิ่งศักดิ์ท่านเลือกแล้ว

และได้กราบพระพุทธองค์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งจักรวาลด้วยค่ะ

 

กรณี ดร.จุ๋ม กับ จนท.ที่มหิดลก่อน ว่า ดร.จุ๋ม บาปมากว่าแน่นอน แต่ทำไม ผลการบำบัด ดร.จุ่ม หาย น้องคนนั้นไม่หาย

************

 

พี่จุ๋ม ศรัทธาต่อท่านอาจารย์อุบลและเชื่อในกฎแห่งกรรมจริงๆ ประตูจิตจึงเปิด

รับพลังบุญบารมีจากพระศรีอาริย์เข้าไปในร่างกายและจิตใจ ทำให้หายเจ็บป่วยค่ะ

 

ส่วนจนท.ที่มหิดลไม่เชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม ไม่สำนึกในบาปที่ฆ่าหนู

และที่สำคัญที่สุดคือไม่ศรัทธาเชื่อท่านอาจารย์อย่างแท้จริงค่ะ 

ทำให้ประตูจิตปิดจึงไม่สามารถรับพลังบุญบารมีจากพระศรีอาริย์ได้ค่ะ  ทำให้ไม่หายป่วย

****************

ขออนุโมทนากับทุกท่านที่ได้ชมและสัมผัสบารมีพระศรีอาริย์อย่างใกล้ชิด

ทำให้ได้รับความสุข หายป่วยหายทุกข์ด้วยค่ะ  สาธุ 

อ่านไปรู้สึกปลื้มใจจริงๆค่ะ

+++++++

อนุโมทนากับน้องขวัญ และพี่ๆบ้านสวนทุกคนที่ได้เห็นบารมีพระศรีอาริย์

ด้วยตาเนื้อด้วยนะคะ  สาธุค่ะ

รู้สึกปลื้มปิติจริงๆค่ะ ^___^

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-21 23:57:19


ความคิดเห็นที่ 470 (1625446)

วันนี้ หนูเล่าให้พี่สาวฟังว่า

ตอนกำลังอ่านคำว่าพระศรีอาริย์ในเว็บบ้านสวน

ท่านก็ปรากฏกายทิพย์ทันที

แล้วก็สอน

ให้มีความเพียร ปฏิบัติให้ถึงฝั่ง

.................................

อนุโมทนากับน้องขวัญด้วยนะคะ

ที่ได้พบองค์พระศรีอาริย์

มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง

 

แถมพระองค์ยังเมตตามาสอนธรรม

และย้ำให้มีความเพียร

ในการปฏิบัติซะด้วย สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-22 02:14:02


ความคิดเห็นที่ 471 (1625482)



อนุโมทนากับน้องขวัญด้วยนะคะ

อ่านแล้วก็ปิติไปด้วยค่ะ

และคำสอนที่ท่านให้กับน้องขวัญนั้น

พี่เองรู้สึกเหมือนน้องเลยค่ะ

ว่ามีค่ายิ่งกว่าสิ่งใดในโลก 

และคงเป็นกำลังใจสูงสุด

ที่เราจะเร่งปฏิบัติตัวเองให้ถึงธรรมนะคะ


ส่วนของตัวเองก็ได้สัมผัสบารมีท่าน

เมื่อวันที่ไปธรรมสัญจรที่ ม. มหิดล

วันนั้นก็จับภาพพระเป็นพระองค์ท่าน

มือซ้ายถือพระขรรค์ มือขวาชูจักร

ลักษณะที่ตุ้ยจับภาพท่านจะตั้งพระขรรค์และจักร

ไม่ได้ห้อยลงนะคะ

 

วันนั้นก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร

จับภาพท่าน ตลอดการบรรยาย

และเพิ่งมารู้ตอนหลังว่าท่าน

อ.อุบลได้อัญเชิญบารมีของพระองค์มาด้วย

และก่อนหน้านั้น ตัวเองก็ได้เห็น

ในจิตนะคะ ไม่ใช่ตาเนื้อ

 

ในขณะที่ท่าน อ.อุบลได้บรรยายธรรมะไปนั้น

เห็นท่าน ยืนอยู่ด้านหลังท่าน อ.อุบล

พระวรกายประมาณ สัก 2 เมตรค่ะ ท่านยืนชิดอ.อุบล

ซึ่งตัวเองก็พยายามจะมองหาคุณเอิ้น

เพื่อจะถามว่าได้เห็นพระศรีอาริย์ (ในจิต) หรือไม่

แต่ก็ยังไม่ได้ถามกัน

จนตอนหลังก็ได้รู้ว่าคุณเอิ้นไม่ได้จับภาพท่าน

และจิตยังไม่เปิดเท่าที่ควร

จึงไม่ได้สัมผัสเหมือนกัน


นับเป็นพระเมตตาของท่านมากค่ะ 

ที่มาโปรด และทำให้ตัวเรารู้สึกว่า

เราต้องปฏิบัติธรรมให้เข้มกว่านี้

ให้สมกับที่เราได้เห็นท่านค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-22 09:34:11


ความคิดเห็นที่ 472 (1625494)

ได้สัมผัสพระบารมีของพระศรีอารยเมตไตยแล้วค่ะ

ไปร่วมงานที่ม.มหิดลได้เห็นปรากฏการณ์หลายอย่างตื่นเต้นจริงๆ

เรื่องกฏแห่งกรรมมาพบกับนักวิทยาศาสตร์

สารภาพบาปกรรมกับท่านอาจารย์อุบลแล้วอาการที่ป่วยอยู่

หายฉับพลันทันทีเล่นเอานักวิทยาศาสตร์ นักคอมพิวเตอร์

พิสูจน์กันถึงพริกถึงขิงยอมว่าแรงจริง ๆ

ท่านอาจารย์ของเราตอบได้ทุกคำถามพิสูจน์ได้ทุกข้อสงสัย

ในเวลาสั้นๆ ท่านอาจารย์สามารถพูดได้ครอบคลุมทุกเรื่อง

เช่นการทำบุญอย่างไรทำให้ได้อานิสงค์ฉับพลันทันที

ทำอย่างไรให้หายจนฯลฯ เมื่อวานได้เจอนักคอมพิวเตอร์ที่ปวดเข่า

ถามเค้าว่าเป็นอย่างไรบ้างเค้าบอกว่า

ปกตินอนกลางคืนถ้าพลิกตัวจะปวดเข่าจนต้องตื่นนอนไม่หลับ

แต่หลังจากพบท่านอาจารย์ที่ม.มหิดลแล้ว

นอนหลับสบายไม่ตื่นมาปวดเข่าอีกแต่ยังมีอาการชาอยู่

เค้าศรัทธาท่านอาจารย์มากจะรีบเข้าไปศึกษาเวบไซด์บ้านสวนฯ

แนะนำว่าให้ไปเขียนเรื่องที่พบที่ม.มหิดลเป็นธรรมทาน

อาการที่เหลืออยู่จะหายเลย

วันอาทิตย์ 19/8/55 ได้เห็นบารมีของพระศรีอารยเมตไตย

ขนตาล่างด้านซ้ายของต้นอ้อไม่ชี้ออกตามธรรมชาติ

มันแทงเข้าไปบาดกระจกตาตาจะอักเสบเป็นๆ หายๆ

 หลังจากท่านอาจารย์ได้ขอบารมีพระศรีอารยเมตไตย

ให้มาสถิตย์ในกาย วาจา ใจ ของท่านอาจารย์แล้ว

ใครที่เข้ามาใกล้จะได้รับบารมีให้หายจากโรคภัยที่เป็นอยู่

ปรากฎว่าขนตาล่างต้นอ้อไม่ติดกระจกตาแล้ว

มันเกิดระยะห่างระหว่างกระจกตากับขนตาประมาณครึ่งมิล

กลับมาบ้านอาการตาอักเสบน้อยลงขนตาไม่บาดกระจกตา

ขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล พระศรีอารยเมตไตย

เทวดาทุกพระองค์ที่คุ้มครองท่านอาจารย์อุบลค่ะ

เชื่อแล้วว่าพระศรีอารยเมตไตยมีจริง ๆ สาธุ...

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อังคณา สมมาก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-22 10:02:21


ความคิดเห็นที่ 473 (1625497)

 และพอดีเมื่อคืนได้ดู youtube 

ซึ่งเสนอเรื่องราวของพระศรีอาริยเมตไตร
ซึ่งได้ให้ความรู้เกี่ยวกับพระองค์ท่านได้ดีมากค่ะ
ลองเข้าไปดูกันที่ลิงค์นี้นะคะ 


 
 
ซึ่งใน MV ได้กล่าวไว้ว่า ...

พระศรีอริยเมตไตรย์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หน้า
พระศรีอริยเมตไตรย์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หน้า
พระองค์ทรงมีพระวรกาย ได้ลักษณะมหาบุรุษครบถ้วน 32 ประการ  
พระวรกายอันประเสริฐจะสูงได้ 22 วา
 
พระศรีอริยเมตไตรย์ ทรงมีลักษณะมหาบุรุษ ครบถ้วน 32 ประการ
 
พระศรีอริยเมตไตรย์ ก่อนจะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทรงมีพระนามว่า อชิตพราหมณ์ พระงอค์จะทรงมีพุทธบิดาพระนามว่า
สุพรหมพราหมณ์ ผู้สง่างาม พุทธมาดาผู้เป็นสุดยอดกัลยานี 
พระนามว่า พรหมวดีพราหมณี มีพระโอรสผู้องอาจฉลาดล้ำ
พระนามว่า พรหมวัฒนกุมาร 
พระอัครสาวกเบื้องขวาเชี่ยวชาญด้านปัญญา มีชือ่ว่า  พระอโสกเถระ
พระอัครสาวกเบื้องซ้าย เชี่ยวชาญด้านฤทธา มีชื่อว่า พระพรหมเทวเถระ
พระอัครสาวิกาเบื้องขวา เป็นเลิศด้านปัญญา มีชื่อว่า พระปทุมเถรี
พระอัครสาวิกาเบื้องซ้าย เป็นเลิศด้านฤทธา มีชื่อว่า พระสุมนาเถรี
 
พระศรีอริยเมตไตรย์ ทรงมีพระอัครสาวิกาเบื้องขวา และพระอัครสาวิกาเบื้องซ้าย
 
มีพระสีหเถระเป็นพระอุปัฏฐาก ท่านสุตทัตตคหบดี และท่านสังฆเศรษฐี
เป็นอุบาสกพุทธอุปัฏฐาก นางยสปวดี และนางสังฆาเศรษฐินี
เป็นพุทธอุปฐากฝ่ายมหาอุบาสิกา  มีต้นมหาโพธิ์พฤกษา คือ ต้นกากะทิง

 
 
สิ่งอัศจรรย์และบุคคลคู่บารมี คู่บารมีพระศรีอริยเมตไตรย์
จะบังเกิดขึ้นในยุคหน้านี้เอง
หากว่าเราประสงค์จะไปบังเกิดในยุคพระองค์
จงเว้นจากบาปอกุศลทั้งปวง และหมั่นสร้างสมแต่บุญกุศล
ทั้ง ทาน ศีล ภาวนา ให้ได้ตลอดเวลา แล้วตั้งความปรารถนา
ว่าขอให้เราได้ไปบังเกิดขึ้นในยุคของพระองค์

ยุคพระศรีอริยเมตไตรย์ เพื่อจะได้เห็นรัศมีออกจากพระวกายมหาบุรุษ
อันประเสริฐและงดงาม เพื่อจะได้เห็นรัศมีออกจากพระวกาย
ครอบคลุมหมื่นโลกธาตุตลอดเวลา จะได้ฟังพระสุรเสียงอันไพเรา
แสดงธรรมอันงดงามทั้งเบื้องต้น ท่ามกลาง เบื้องปลาย
และจะได้บรรลุธรรมในยุคของพระองค์ ตามกำลังแห่งบุญบารมี
อีกไม่นานเท่าใดแค่อีกหนึ่งอสงไขยเศษ หนึ่งอสงไขยเศษเท่านั้นเอง


*******************

และที่น่าสังเกตคือ ช่วง น.2.34 ที่กล่าวว่า

ยังทรงมีพระอัครสาวิกาเบื้องขวาชื่อว่า“พระปทุมเถรี”

“พระปทุมเถรี”  ขื่อคุ้นๆ ไหมคะ?
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-22 10:12:39


ความคิดเห็นที่ 474 (1625501)

กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                      และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ

                      สำหรับผม การกราบต่อ คุณแม่อุบล นั้น ผมถือว่า เป็นการกราบต่อ พระพุทธองค์ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ที่ลงมาโปรด และ เป็นการกราบต่อคุณแม่อุบล ที่ท่านนำคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ลงมาบอกกล่าวต่อพวกเรา และ บอกกล่าวการปฎิบัติอย่างง่ายๆ เพื่อการรักษาศีล ถือว่า คุณแม่ เป็นบุคคลที่ควรแก่การกราบ ครับ (ถึงแม้น คุณแม่ ไม่ได้ปรารถนาให้ใครมากราบ แต่สำหรับผม ขอกราบท่านทุกเช้า และ ก่อนนอน ครับ)

                      สำหรับ การที่ด๊อกเตอร์ จุ๋ม หายจากการปวด แต่ เจ้าหน้าที่อีกท่าน นั้น ไม่หายปวด ก็เกิดจาก ดวงจิตของแต่ละท่านเปิดหรือไม่เปิด(เชื่อว่าการกระทำของเรา เป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดกรรมหรือไม่) ครับ

                       สำหรับ ผม การค้นหาพระอริยเมตไตรย์ นั้น ผมค้นหาพบแล้ว สำหรับตัวของผมเอง ผมพบท่าน ที่บ้านสวนพีระมิด อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก และ ก็ได้น้อมนำคำสั่งสอนของท่านมาปฎิบัติในชีวิตประจำวัน ตักเตือนตนเองตลอดเวลา พยายามลดอัตตาของตนเอง และ สำนึกในความรักและความเมตตาของท่านตลอดเวลา 

                        สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-22 11:11:59


ความคิดเห็นที่ 475 (1625562)

                                        ดังนั้น ขอให้ทุกท่าน

ช่่วยกันวิเคราะห์ต่อหน่อยได้ไหม

ว่า พระศรีอาริย์ ต้องการบอกอะไร

กับ กรณี ดร.จุ๋ม กับ น้องที่ มหิดล

ซึ่งผลออกมาต่างกัน

คนหนึ่ง หาย  คนหนึ่ง ไม่หาย  

ทั้งที่คนที่หาย ฆ่าหนูเยอะกว่า

แถมทั้งสองคน ทำงานที่เดียวกัน

แต่เวลาการหาย ห่างกัน ศุกร์ กับ อาทิตย์

 

 ขอให้ทุกท่านที่ร่วมแสดงความเห็น

ได้พบ และ ชมบารมีพระศรีอาริย์

ในเร็ววันนะคะ

..................................

หนูคิดว่า พี่ดร.จุ๋ม เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม และยอมรับว่าตัวเองผิด

เจ้ากรรมนายเวณ จึงได้ให้อภัย

และที่สำคัญพี่ดร.จุ๋ม มีดวงจิตที่บริสุทธิเคารพและศรัทธา พระศรีอารีย์

ประตูจิตเปิด ทำให้สามารถรับพลังพระบารมีจากพระศรีอารีย์ได้ทำให้หายป่วยทันทีค่ะ

ส่วน จนท.ที่ม.มหิดล ไม่เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม คิดว่าตัวเองไม่ผิด

ไม่ยอมรับผิดในสิ่งที่ตัวเองทำ เจ้ากรรมนายเวณก็ยังไม่ให้อภัย

และที่สำคัญไม่เคารพศรัทธาพระศรีอารีย์ จึงไม่สามารถรับพลังบุญบารมีจากพระศรีอารีย์ได้ จึงทำให้ไม่หายป่วย

 

 กราบนี่ ยังไง ก็ยังรับไม่ได้อยู่ดี

แต่ทำไม เบื้องบน ทรงมีเงื่อนไขเช่นนี้ ก็ไม่ทราบ

หรือว่า ใครทราบ ช่วยเมตตา ตอบที

 

หนูขอตอบตามความรู้สึกของตนเองที่เคยได้มีโอกาสกราบท่านอาจารย์ค่ะ

เวลากราบท่านอาจารย์แล้วรู้สึกว่าโล่งเบาสบาย

เหมือนได้รับพลังบุญ และมีความสุขแบบบอกไม่ถูกค่ะ และก็ทำให้ผู้คนทั้งหลายอยากกราบท่านอาจารย์อุบล

และคิดว่าถ้าได้กราบท่านอาจารย์อุบล

เหมือนได้กราบพระพุทธเจ้า

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วจักรวาล

และที่สำคัญท่านอาจารย์อุบลเป็นผู้มีบารมีเสียสละทุกสิ่ง เพื่อผู้คนทั่วโลกและจักรวาล

ควรแก่การกราบไหว้และบูชาค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้มีโอกาสรับสัมผัสพระบารมีพระศรีอารีย์ ทำให้หายป่วย และความทุกหายไป

ได้รับแต่ความสุขกันถ้วนหน้าค่ะ สาธุ สาธุ ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-22 16:13:36


ความคิดเห็นที่ 476 (1625584)

วันนี้

พุธ 22 ส.ค.55

ดูข่าวน้ำท่วม "ภูเก็ต"

 

แล้วก็

ติดตามดู กระทู้ ธรรมชาติ....เอาคืน

แล้วก็รู้สึกขึ้นมาเองว่า

 

วันเวลา

ที่เราไม่ต้องการ มันมาถึงแล้ว

เคยมีผู้มาบอก อ.อุบล เรื่อง

"หลุมยุบ ดินยุบ"

ซึ่งตั้งแต่ได้รับการบอกเล่ามา

ก็เห็นข่าวมาตลอด แล้วก็อดคิดไปถึงเรื่อง

"ธรนีสูบ"พระเทวทัติ

เมื่อครั้ง พุทธกาล ไม่ได้

ราวกับว่าปรากฎการณ์ หลุมยุบ ที่เป็นข่าว อยู่หนาหู

ทั้งในประเทศไทย และ ต่างประเทศ

จะเป็นสัญญาณบอกเหตุในอีกไม่นานนี้

ว่า จะต้องเกิดกรณี

"ธรนีสุบ"

ผู้คนจำนวนมากมาย

ที่เห็นผิดไปจากทำนองครองธรรม

ไม่เชื่อคำสอนพระพุทธเจ้า

ลบหลู่พระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงส์

ล่วงเกินผู้ทรงศีล ทรงธรรม

 

เห็นว่า

การทำดี ถือศีล ประพฤติธรรม

เป็นเรื่อง น่าอับอาย เสียหาย

ทำให้เสื่อมเกียรติ ทั้งที่คนทั้งหลายเหล่า ก็มีทุกข์

หาทางออกไม่ได้  

พอได้ข่าวที่ไหนว่าจะช่วยให้ตนพ้นทุกข์ได้

ก็ดิ้นรนไป ด้วยใจปรารถนารักษาโรค

รักษาอาการเจ็บป่วย ความทุกข์ยาก

แล้วก็ไปอ้อนวอนขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ให้ช่วยเหลือ

 

เวลานั้น เวลาทุกข์

ยอมทำทุกอย่างได้ เพื่อให้หาย

แต่เมื่อหายแล้ว กลับอาย กลับไม่กล้าบอกใคร

ว่าสิ่ศักดิ์สิทธิ์ช่วย กลัวเขาหาว่าเรา งมงาย

แถมเจ้านายรู้ เรียกไปว่า

ทำให้เสียหายต่อสถาบันองค์กร

 

 โอ้

มิน่าเล่า

สภาวะโลกร้อน

ถึงต้องรีบเร่งเวลา เลื่อนเวลาเข้ามา

เพื่อจะจัดการกับ

คนที่คิดว่าตนเอง เป็นใหญ่

มีตำแหน่งหน้าที่สำคัญนี่เอง

เบื้องบนจึงทรงต้องการเรียกจิตสำนึก

ของผู้เนรคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่คิดคด ทรยศ หักหลัง

ด้วยการ ให้อาการทั้งหลาย ที่เคยหายแล้ว

กลับมาเป็นใหม่อีก พร้อมดอกเบี้ย

แล้วหมดสิทธิ์

พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไป

เพราะว่าเครดิตเสียแล้ว

 

ส่วนเจ้านาย

ผู้ลบหลู่ ตำหนิติเตียน

ก็จะต้องรับผลกรรมด้วยผมกรรมรวมตัว

ที่ไปขัดขวางการประกอบกรรมดี อีกทั้ง

กรรมที่ตนก่อไว้เอง

 

ซึ่งอาการจะหนักหนาสาหัสกว่า

ผู้ที่ตนไปแทรกแซงกรรม

แล้วไม่มีสิทธิ์ที่จะร้องขอความเมตตาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ด้วยประตูจิตเขาปิดตายแล้ว

 

บัดนี้

โลกกำลัง คัดแยก

คนดี กับ คนชั่ว ออกจากกัน

ด้วยการแสดงออก

ทางความคิด คำพูด การกระทำ

ของแต่ละคนเอง

 

 คนที่อแกล้งดี แต่ไม่ดีจริง

ต้องถูกกำจัดออกจากกลุ่มคนดีจริง

ด้วยเหตุแห่งการกระทำ

ของตนเอง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-22 18:35:37


ความคิดเห็นที่ 477 (1625616)

ขอกราบขอบพระคุณ ข้อเขียนของคุณแม่ ครับ

เพราะ สิ่งที่คุณแม่ได้เขียนและพร่ำเตือนเสมอ ว่า เมื่อเราได้รับความเมตตาจากพระพุทธองค์ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด ก็ควรบอกกล่าวต่อผู้คนไปตรงๆ อย่าอ้อมค้อม ว่าได้รับความเมตตาจากท่าน และ จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

สำหรับผม ผมเชื่อในเรื่องของพระคุณ และ บุญคุณ ครับ

เมื่อเราได้ตกทุกข์ ได้ยาก ไม่ว่า การงาน การเงิน เจ็บป่วย

เมื่อได้รับความช่วยเหลือให้พ้นจากห้วงความทุกข์ต่างๆ ก็ควรบอกกล่าวและสำนึกในพระคุณของคนที่ได้ช่วยให้เราพ้นห้วงทุกข์ แม้นท่านเหล่านั้น ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน หรือ คำสรรเสริญ แต่เราก็สามารถตอบรับต่อความเมตตาของท่านเหล่านั้นได้ โดยการทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม และ ประเทศชาติได้

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณากร ศิริกุลธรรมา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-22 20:50:31


ความคิดเห็นที่ 478 (1625675)

เห็นอาจารย์เขียนถึง

หลุมยุบ ดินยุบ หรือ ถนนยุบ แล้ว

 

ก็มาคิดเปรียบเปรย

และเข้ากันได้ดีมากๆ

ในเรื่องของคนที่ "ดีแต่เปลือก" นะคะ

เพราะดูภายนอกแล้ว

ก็ดูเป็นผืนดินที่เนียน เรียบ มั่นคงและแข็งแรง

แต่ที่ไหนได้ ข้างในกลวงโบ๋

เดี๋ยวพอเจอแรงกระแทกดันอย่างแรง

ก็กลายเป็น หลุมยุบ หลุมโตๆ

ประจาณ"จิตชั่วๆ"ของตัวเองชัดๆไปเลย

 

จะว่าไป ผลกรรมของคนที่ดีแต่เปลือก

แต่จิตเนรคุณผู้มีพระคุณและสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ด้วยการถูก"ธรณีสูบ" นั้น

ฟังๆดูแล้ว ก็เป็นการสะท้อนกรรม

ที่สะท้อนถึงสภาพจิตใจ

ของ คนเหล่านั้น ได้ลงตัวดีนะคะ

 

กราบอนุโมทนากับคำเตือนค่ะอาจารย์

จะพยายามดูแลจิตใจตัวเอง

ไม่ให้ทำดีติดอยู่แค่เปลือก

แต่จะพยายามให้ความดีนั้น

เลยเข้าไปถึงแก่นข้างในให้ได้ค่ะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-23 04:45:22


ความคิดเห็นที่ 479 (1625680)

เห็นท่านอาจารย์เมตตาเตือนแล้ว รู้สึกทราบซึ้งนักหนา เกจิท่านอื่นๆ ที่ได้พบเจอท่านไม่เห็นเตือนลูกศิษย์ลูกหาแบบนี้เลย  และทุกคนที่ไปหาก็ล้วนแล้วไปเพราะความอยากใน ลาภ ยศ สักการะทั้งสิ้น ดูแล้วรู้สึกหดหู่เหลือเกิน  พวกเค้าเหล่านั้นไม่รู้ว่าภัยใหญ่กำลังมา  พากันสนุกสนาน แต่ท่านอาจารย์พร่ำสอนให้ศิษย์เร่งทำความดี เพื่อความอยู่รอดปลอดภัย  นี่คือความ ห่วงใยที่หาที่สุดมิได้  กราบขอบพระคุณเหลือเกินค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น กุหลาบ รักสนิท ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-23 06:37:50


ความคิดเห็นที่ 480 (1625717)

 

การแสดง

"ธรรมบำบัด สัญจร"

ทุกสถานที่

ที่ อ.อุบล ออกไปแสดงธรรมนั้น

ถ้าเปรียบเทียบกับในบ้านสวนฯ

 

การแสดงนอกบ้านสวน

ถือเป็น

ขั้น อนุบาล 1 เท่านั้น

ในปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นให้เห็น

 

สำหรับปรากฎการณ์

ในบ้านสวนพีระมิดนั้น น่าจะเป็น

ขั้น ปฐม 1 แล้ว

 

ต่อไปนี้

การแสดง ธรรมบำบัด

ในบ้านสวนพีระมิด

จะต้องเลื่อนขั้นสูงขุ้นไปเรื่อยๆ

จาก ปฐม 1 ต้องเลื่อนไป

ปฐม 2-3-4-5-6

 

แล้วต่อด้วย

มัธยม และ มหาวิทยาลัย

 

ซึ่งแต่ละระดับ ก็ยังมี

ขั้นของมันอีก

ตะหาก

 

เช่นขั้น

มหาวิทยาลัย

ก็มี

ตรี  โท  เอก

 

แม้แต่ เอก ก็ยังมี

เอก เป็นธรรมดา กับ กิติมศักดิ์

 

ทั้งหมดทั้งปวง

ที่พวกเราได้เห็นได้สัมผัส

ถือว่าเป็นเพียง

ขั้น

เริ่มต้นเท่านั้น

ยังตื่นเต้นกันขนาดนี้

(มนุษย์ชอบความตื่นเต้นจริงๆ)

 

โอ้โห

นี่ถ้าเจอขั้น ปฐม 2 เข้าไป

สัปดาห์นี้ จะว่ายังไงเนี่ย

 

พระองค์ท่านตรัสว่า

ต่อไปนี้

ต้องเรียนให้เลื่อนชั้น

กันทุกสัปดาห์ ช้าไม่ได้แล้ว

 

มีเวลาเรียน

ถึงขั้นมหาวิทยาลัย

ไม่กี่สัปดาห์แล้ว

 

โห

แล้วจะได้เรียนกัน

ทั่วถึงหรือเจ้าคะ ลูกบ้านสวนจะ

มีโอกาสได้มาเรียนกัน

สักกี่คนเจ้าคะ

 

เท่าไหร่ก็เท่านั้น

นี่เป็นเรื่องของ วาสนาบารมี

แข่งกันไม่ได้ แต่ละคน

ต้องบำเพ็ญเอาเอง

และต้อง

เคยอธิษฐานบารมี

ติดตามตถคต จริงๆเท่านั้น

จึงจะได้มีโอกาสเรียนเลื่อนชั้น

อย่างรวดเร็ว

 

 

สัปดาห์นี้ เอาให้ได้

พระโสดาบัน

ก่อน

 

แต่ก็มีคนที่เขาได้ พระโสดาบันแล้ว

คนที่ได้แล้ว ถ้าเขาเข้าชั้นเรียน

สัปดาห์นี้ เขาจะได้เลื่อน

เป็นพระสกิทาฯ

เลย

 

จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

ก็เตรียม

อย่างที่เธอได้ประกาศ

ไปแล้วนั่นแหละ

ถูกแล้ว

 

วันเสาร์

สร้างบุญแรงกาย

ไว้เป็นเสบียง

 

วันอาทิตย์

สร้างบุญด้วยการฝึกจิตใจ

ให้พ้นกิเลส

 

ซึ่งต้องทำทั้ง 2 ส่วน

 

คนจะมีชีวิตอยู่รอดได้

ต้องมีความเข้มแข็ง

ทั้งร่างกาย+จิตใจ

จะตัดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้

 

ถ้าจะฝึกเฉพาะจิตใจ

 

ใจเข้มแข็ง

แต่ร่างกาย ไม่มีแรง

ต่อสู้กับ สภาวะ ที่มากระทบกาย

แบบฉับพลันทันที หรือ ถ้าต้อง

วิ่งหนีอะไรสักอย่าง

ใจไม่กลัวก็จริง แต่ขาไม่วิ่ง ไม่มีแรง

ก็ต้องตายเหมือนกัน

 

ถ้าเขาจะไปฝึกร่างกายที่อื่น

มาฝึกแต่จิตใจที่บ้านสวน

ได้หรือไม่

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

ได้เหมือนกัน

ก็ได้แบบ ที่ได้มาแล้ว

ตลอดชีวิตนั้นแหละ

 

ดูง่ายๆ

ทำบุญแรงกาย ที่อื่น

หายเจ็บป่วยไหม

 

ก็ต้องใช้ปัญญาต่อไปด้วยว่า

ไอ้งานอย่างนี้ ที่ไหนก็มีให้ทำ

แต่ทำที่อื่น ทำไมเหนื่อย ทำไมเพลีย

ทำไม ไม่หายเจ็บ หายไข้

อันนี้ตอบตัวเองก็ได้

 

แต่มาทำในบ้านสวน

ทำไมไม่เหนื่อย ไม่เพลีย เหมือนที่อื่น

 

แล้วทำไม หายเจ็บ หายไข้

กระทั่งโรคที่ร้ายๆ อย่างมะเร็ง

หรือโรคที่หมอรักษาไม่หาย

 

ผู้มีปัญญา

ต้องเอาตรงนี้

ไปคิดพิจารณาว่า

สถานที่ต่างกัน ผลมันต่างกัน

เพราะอะไร

 

เธอจงไปทบทวน

ที่หลวงพ่อของเธอเคยบอกไว้

ว่า สถานที่ สำคัญมาก

ที่ใดที่มีผู้ไปนั่งกรรมฐานแล้ว

สำเร็จอรหันต์ได้

ให้ไปใช้ที่ตรงนั้นนั่ง

อย่างเตียงพระนาคเสนเป็นต้น

มีผู้นั่งตรงนั้น

แล้วสำเร็จอรหันต์ตั้ง 7 คน

เพราะอะไร

 

พระอรหันต์ หรือ เทวดา

ท่านจะมาโปรด สถานที่ ที่ท่าน

อนุโมทนาบุญได้เท่านั้น

 

แล้วการ

จะทำให้เทวดา

เสด็จมาที่ใดสม่ำเสมอนั้น

ท่านต้องเห็นกองกุศลในเขตนั้น

เป็นปัจจัยสำคัญในการเสด็จมา

 

ดังนั้น

การทำบุญ

ต้องเลือกเขตบุญที่บริสุทธิ์ที่สุด

ถ้าต้องการบุญที่เห็นผลเร็ว

 

แต่

ตถาคตไม่ได้ห้าม

ไม่ให้ทำบุญในเขตบุญอื่น

ซึ่งทุกคนต้องทำความดีทุกสถานที่

เป็นนิสัย เพื่อให้ ทุกสถานที่

เป็นเขตที่บริสุทธิ์

 

โดยเฉพาะ

บ้าน ที่ทำงาน เรือกสวน ไร่นา

ของแต่ละคน

และฝึกให้ได้จนกระทั่ง

สถานที่อื่น ที่ไม่ใช่สถานที่ของตน

ก็ต้องทำความดีเป็นสิสัย

อันนี้ กองกุศลยิ่งใหญ่กว่า กองใดทั้งปวง

เพราะคนที่ทำอย่างนี้ได้ เทวดาจะ

ติดตามตัวผู้นั้นไปตลอดเวลา

แบบห้อมล้อมจนไม่มี

ที่ว่างเลย

 

อย่างกรณีที่เธอ

ออกแสดงธรรมบำบัดนอกสถานที่ได้

เพราะกองกุศลของเธอเข้มข้นแล้ว

ทั้งในบ้านของเธอ และ ตัวเธอ

เธอจึงสามารถออกแสดง

อนุศาสนีปาฏิหาริย์ ได้ทุกสถานที่

ที่ใด ที่เธอไป ก็จะมี เ

ทวดาทุกชั้นฟ้าชั้นดินเสด็จ

ตามเธอไปเพื่ออนุโมทนาบุญ

และ

ช่วยเธอแสดงฤทธิ์

***********

ถ้าผู้ใด

เป็นผู้มั่นคงในศีล

เทวดา จะไปสงเคราะห์เอง

ทำให้เป็นสถานที่เขตบุญเอง

เพราะเทวดา มีโอกาส โมทนาบุญได้

 

การที่พวกเธอทั้งหลาย

ต้องมาทำบุญแรงกายในบ้านสวนก่อนนั้น

เพราะบุญของพวกเธอน้อยนิด

จนไม่สามารถที่จะทำให้

เทวดาปรารถนาจะติดตามอนุโมทนา

 

ดังนั้น

เมื่อเธอรู้แล้วว่า

เขตบุญบ้านสวนพีระมิด

เป็นเขตบุญที่เทวดาทุกชั้นฟ้า

ชั้นพรหม นิพพาน ต่างเสด็จมา

อนุโมทนาบุญ ทุกบุญ

ด้วยเหตุว่า เจ้าของสถานที่ เขาจริงจัง

ตั้งใจมั่น ในการสร้างบุญ

เพื่อสงเคราะห์ผู้อื่น

 

ดังนั้น

สถานที่แห่งนี้

จึงมีบุญบริสุทธิ์ และเข้มข้นมาก

 

ผู้ใดที่เข้ามาร่วมบุญ

ไม่ว่าจะแรงกาย ปัจจัย สิ่งของ

จึงได้บุญมหาศาล กว่าการทำบุญ

นอกเขตบ้านสวนพีระมิด

และพิสูจน์ผลบุญ

ได้ทันที ดังที่พวกเธอ ได้พบเจอ

ด้วยตัวเอง และ เห็นมาแล้ว

 

ข้าพระพุทธเจ้า

เข้าใจแล้วพระพุทธเจ้าค่ะ

และ

ขอพุทธานุญาต

บอกแก่ผู้สงสัยเรื่องการ

ทำบุญ ใน และ นอก บ้านสวน

ก็ได้บุญเหมือนกัน

ได้หรือไม่ พระพุทธเจ้าค่ะ

 

 

 

 

 

ควรบอกอย่างยิ่ง

ก่อนที่ผู้ที่คิด และ พูดเช่นนั้น

จะเป็นภัยแก่ตนเอง

 

ด้วยความ ไม่รู้ หรือ อวิชา

ความไม่ปรารถนา ให้ผุ้อื่นพ้นทุกข์

ด้วยความจริงใจ ครอบงำ

จึงใช้ อวิชา

แสดงตน เป็นคนรู้ธรรม

ชักชวน ให้ผู้คน หลงผิด หลงทาง

ทั้งที่เขา เดินมา ถูกทางแล้ว

แต่บุคคล คนนั้น กลับบอกว่า

ที่เขาเดินมา นั้นผิดทาง

เป็นบาปมหันต์

ต่อผู้นั้น และ ผู้ที่ไปเชื่อ ไปคล้อยตาม

ซึ่งผลของบาปนั้น จะปรากฎ

ฉับพลันทันที

คือ

ความทุกข์ อุปสรรค ความเร่าร้อน

ความเจ็บป่วยของตนเอง

และคนที่ตนรัก

 

กราบพระบาท

พระพุทธองค์

องค์พระปฐมบรมธรรมบิดา

อย่างหาที่สุดมิได้

พระพุทธเจ้าค่ะ

 

เจริญพร

--------------------

คราวนี้

พวกเราคงรู้คำตอบแล้ว

ว่า

ทำไม อ.อุบล ให้ปรับเวลา

สร้างบุญทั้ง 2 วัน

อย่างเต็มอัตรา

 

ผู้ใดปรารถนา

จะเข้าชั้นเรียนกับ

พระปฐมบรมธรรมบิดาฯ

ทั้งภาคปฎิบัติ ภาคทฤษฎี

ก็เชิญจัดตารางชีวิต

ได้ตั้งแต่สัปดาห์นี้

เป็นต้นไป

ได้เลย

 

แต่ละสัปดาห์

จะเป็นตารางการฝึก

แบบต่อเนื่อง เพื่อเลื่อนชั้น

กันไปเรื่อยๆ จนกว่า

จะจบหลักสูตร

สูงสุด

ของพระศาสนา

คือ

นิพพาน

 

 

ผู้ใดต้องการ ก็เชิญสอบถาม

หรือ แสดง ความเห็น ได้อย่างเสรี

จ้า

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-23 10:20:52


ความคิดเห็นที่ 481 (1625845)

 ดังนั้น ขอให้ทุกท่าน

ช่่วยกันวิเคราะห์ต่อหน่อยได้ไหม

ว่า พระศรีอาริย์ ต้องการบอกอะไร

กับ กรณี ดร.จุ๋ม กับ น้องที่ มหิดล

ซึ่งผลออกมาต่างกัน

คนหนึ่ง หาย คนหนึ่ง ไม่หาย

ทั้งที่คนที่หาย ฆ่าหนูเยอะกว่า

แถมทั้งสองคน ทำงานที่เดียวกัน

แต่เวลาการหาย ห่างกัน ศุกร์ กับ อาทิตย์

 

ขอให้ทุกท่านที่ร่วมแสดงความเห็น

ได้พบ และ ชมบารมีพระศรีอาริย์

ในเร็ววันนะคะ

***

ผมคิดว่า ดร.จุ๋ม จิตเปิด และสำนึกในบาป ว่า การฆ่าหนู แม้จะทำด้วยเหตุจำเป็น แต่ก็เป็นบาป  แต่น้องอีกคนที่ฆ่าหนูแม้จะมีจำนวนน้อยกว่า แต่ไม่ได้สำนึกในบาป และไม่ได้ศรัทธา ประตูจิตไม่เปิด จักรแก้วก็เลยหยุดหมุนครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-23 21:53:33


ความคิดเห็นที่ 482 (1625895)

นี่เป็นเรื่องของ วาสนาบารมี

แข่งกันไม่ได้ แต่ละคน

ต้องบำเพ็ญเอาเอง

และต้อง

เคยอธิษฐานบารมี

ติดตามตถคต จริงๆเท่านั้น

จึงจะได้มีโอกาสเรียนเลื่อนชั้น

อย่างรวดเร็ว

.............................

กราบพระบาทพระพุทธองค์

และกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ค่ะ

 

ได้อ่านแล้วก็รู้สึกยินดีกับพี่น้องทุกๆท่าน

ที่สั่งสมบุญบารมีมาอย่างถึงพร้อมแล้ว จริงๆค่ะ

 

ฉะนั้น พวกเราในฐานะชาวเกาะ

ก็ขอส่งแรงใจให้ทุกๆท่าน

มีพลังใจและพลังกายที่จะฝึกเลื่อนชั้น

ในแต่ละขั้นแต่ละสัปดาห์ด้วยนะคะ

 

เพราะสิ่งที่ทุกๆท่านกำลังทำอยู่นี้

มิได้ยังประโยชน์เพียงส่วนตนเท่านั้น

แต่ยังประโยชน์ต่อส่วนรวมอีกมากมาย


เพราะการฝึกในแต่ละสัปดาห์นั้น

ก็เป็นการรวมพลังกันสร้างกองบุญ

อันมหาศาลให้ชาวเกาะได้เกาะไปด้วย

 

ฉะนั้น ในฐานะชาวเกาะ

พวกเราจะปรับระดับจิตใจของตน

ให้สูงพอที่จะเกาะบุญท่านอาจารย์

และทุกๆท่านไปให้ได้

 

ด้วยการรักษาศีลให้บริสุทธิ์ ทำสมาธิ

และมีใจที่พลอยยินดีในบุญ

ของทุกๆท่านในแต่ละสัปดาห์

ด้วยจิตที่บริสุทธิ์จริงๆ

 

ยิ่งเห็นท่านอาจารย์มาติวเข้ม

เรื่อง การอนุโมทนาบุญแล้ว

ก็คิดอยู่เหมือนกันค่ะว่า

น่าจะมี"นัยยะ"อะไรซ่อนอยู่บ้าง

 

เพราะถ้าคิดๆดูแล้ว

ถ้าคนที่อยู่วงใน ก้าวไปได้ถึงนิพพาน

ฉะนั้น คนวงนอกอย่างเราๆ

ที่หมั่นฝึกจิต ปรับใจ

และน้อมจิตอนุโมทนาบุญ

ในทุกๆขั้นกับทุกๆคนแล้ว

 

ผลที่ได้อย่างน้อย

ก็ไม่น่าจะต่ำกว่า โสดาบัน นะคะ

(อันนี้ คิดเอาเองนะคะ)

แต่เท็จจริงจะเป็นอย่างไร

ก็ต้องลองฝึกกันเอาเอง..  

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-24 03:34:16


ความคิดเห็นที่ 483 (1626076)

                        วิธีรับพระศรีอาริย์  หนูทำอย่างไร

..........................................................................................................................................

หนูต้องขัดเกลาและสู้กับกิเลสที่อยู่ตัวเราอย่างเข็มข้น  พร้อมรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์  พรหมวิหาร 4   จากนั้นก็ช่วยเหลือคนที่ใกล้ชิดและทุกคนที่หลงผิด นำธรรมะของพระพุทธองค์ที่สื่ผ่านท่านอ.อุบล  ที่สื่อได้ตรง  สัมผัสกับตัวเองแล้วเห็นผลจริงนำไปบอกกล่าวกับคนที่พบเจอค่ะ

..............................................................................................................................

                                  ใครพอจะตอบได้บ้าง?

ระหว่างธรรมจักรกับจักรพระศรีอาริย์  มีอนุภาพต่างกันอย่างไร ?

............................................................................................................................

ธรรมจักรคือทำใช้กับชีวิตประจำวัน หรือมรรคมีองค์ 8  ความเห็นชอบ   การเจรจาชอบ   การกระทำชอบ  การเลี้ยงชีพชอบ    พยามยามชอบ  ตั้งสติชอบ   เห็นชอบ  ดำริชอบ

ส่วนจักรพระศรีอาริย์ มีอนุภาพไม่แตกต่างกันกับมรรคมีองค์ 8  ถ้าทำได้อย่างนี้แล้วนี่ก็ใกล้สว่างแล้วหรือประตูสวรรค์อยู่ไม่ไกลแล้ว หนูตอบตามสติปัญญาที่มีในขณะนี้ค่ะนอาจาริย์

 

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-24 13:13:09


ความคิดเห็นที่ 484 (1626155)

แต่ละสัปดาห์

จะเป็นตารางการฝึก

แบบต่อเนื่อง เพื่อเลื่อนชั้น

กันไปเรื่อยๆ จนกว่า

จะจบหลักสูตร

สูงสุด

ของพระศาสนา

คือ

นิพพาน

 

 

ผู้ใดต้องการ ก็เชิญสอบถาม

หรือ แสดง ความเห็น ได้อย่างเสรี

จ้า

------------------

กราบพระบาท

องค์สมเด็จปฐมบรมธรรมบิดา

กราบท่านอาจารย์อุบล

อ่านจากที่ท่านอาจารย์บอก

เลื่อนชั้นเรียนแล้ว

เรามันยังไม่ได้ไปถึงใหน

สอบตกซ้ำชั้นไม่ผ่านอนุบาลสักที

จนหัวจะขาวทั้งหัวอยู่แล้ว

หมดเลยเพื่อนๆ มาทีหลัง

เค้าแซงไปหมดแล้ว

แต่เรานึกหมดแรงมาซะงั้น

วาสนาแข่งยากจริงๆ

แต่ไม่เป็นไร

ทาก

เค้าไม่มีเท้า

แต่เค้าก็เพียรไปเรื่อย

ว่าแต่เรามัวแต่ช้า

กลับมาเกิดใหม่

อีกรอบ

เป็นอะไรก็ไม่รู้

คงยุ่ง

ดีไม่ดีลงนรกเสร็จเลย

 

ยังก็ขออนุญาตแอบดู

พี่ๆ เรียนไปก่อนละกัน

อาศัยครูพักลักจำ

ดีกว่าไม่ได้เรียนเลย

กราบ กราบ กราบ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-24 20:21:30


ความคิดเห็นที่ 485 (1626306)

 

เมื่อหลายวันที่ผ่านมา พจน์ได้เข้ามาอ่านธรรมทานในกระทู้นี้ เกี่ยวกับที่หลายๆท่านได้ชมบารมีพระศรีอาริย์ อ่านๆไปก็เกิดมีอาการขนลุกเป็นระยะๆ ค่ะ รู้สึกเป็นสุขใจค่ะ ถึงแม้ว่ายังไม่มีโอกาสได้ชมพระบารมีของพระองค์ก็ตาม

ลูกขอน้อมกราบแทบพระบาทองค์พระศรีอาริยเมตไตยเจ้าค่ะ กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น พรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-26 13:04:14


ความคิดเห็นที่ 486 (1626576)

ช่วงนี้ลูกบ้านสวนฯส่วนใหญ่

คงจะได้ชมบารมีแห่งองค์พระศรีอาริย์

บ่อยๆจนมั่นใจแล้วนะคะว่า

"ตนได้พบพระศรีอาริย์แล้ว"

 

ฉะนั้น ถ้าเจออะไร

ก็อย่ามัวแต่ลังเลสงสัยนะคะว่า

ใช่ หรือ ไม่ใช่ หรือ อุปทานหรือเปล่า 

 

เพราะว่า สิ่งที่แต่ละท่าน

ได้พบ ได้เห็น และได้สัมผัส

คงจะเป็นอะไรที่เฉพาะตัวจริงๆ

 

เพราะหลายๆคนอาจจะ

สัมผัสได้แตกต่างกันไป

แต่อย่างไรก็ตาม

สิ่งที่เราทุกคนต้องทำเหมือนกัน

(อย่างเคร่งครัดและสม่ำเสมอ)

ก็คือ ศีลห้า กรรมบถสิบ พรหมวิหารสี่

สมาธิ และวิปัสสนา 

ถ้าทำได้ครบรับรองว่า

ได้พบพระองค์แบบที่

ไม่ต้องมีความสงสัยมาเจือปนแน่ๆ

สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-28 03:02:08


ความคิดเห็นที่ 487 (1626981)

อ.อุบล

เป็นคนหนึ่ง ที่ขอยืนยันว่า

ได้พบพระศรีอาริย์แล้ว

อย่างแน่นอน

 

พบ

พระบารมีของพระองค์

 

พบ

กายทิพย์ของพระองค์

 

พบ

ความสุข สมหวัง

จากพระบารมีของพระองค์

 

พบ

ว่า ทำให้ ผู้คนที่ได้สัมผัส

พระบารมี หายเจ็บป่วย ฉับพลันทันที

ได้จริงค่ะ

 

ทุกอย่างพิสูจน์ผลได้

อย่างเป็นรูปธรรม สำหรับคนที่ได้

เข้าเฝ้ารับพระบารมี

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-29 17:18:46


ความคิดเห็นที่ 488 (1626984)

แค่ได้เจอท่านอ.แม่อุบลหนูก็นับว่าเป็นมงคลสูงสุดของชีวิตแล้วค่ะ แต่นี่พระบารมีพระศรีอาริย์สถิตย์ประทับที่บ้านสวนฯอีก ปิติมากเหลือเกิน จุกอะค่ะ ไม่เสียชาติที่ได้เกิดแล้วค่ะ และหากไม่มีท่านอ.แม่อุบล คงไม่เกิดสิ่งมงคลแบบนี้แน่ๆ หนูขอขอบพระคุณท่านอ.แม่อุบลค่ะที่ท่านใช้กายเนื้อของท่านพากเพียรทำทุกอย่างเพื่อวันนี้ค่ะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-29 17:51:11


ความคิดเห็นที่ 489 (1627059)

ชนิดาก็ค่อนข้างมั่นใจ

ในคำยืนยันของท่านอาจารย์

ว่าเป็นจริงทุกประการค่ะ

 

เพราะท่านอาจารย์มีคุณสมบัติ

สมบูรณ์พร้อมทุกอย่าง

ที่จะได้พบ องค์จอมจักรพรรดิ์

 

ส่วนชนิดาก็เพียงสัมผัสบารมีพระองค์

ได้ด้วยใจหรือความรู้สึกเท่านั้น

แต่ยังไม่ได้พบกายทิพย์ของพระองค์เลยค่ะ

 

แต่อย่างไรก็ตาม

แม้เพียงเท่านี้

ก็สัมผัสได้ถึงความสงบสุข

ทุกข์คลายได้ในบัดดล

เพียงแต่ต้องฝึกฝนจิตให้มั่นคง

เพื่อจะสามารถสัมผัสบารมี

ของพระองค์ให้ได้ตลอดเวลาเท่านั้นเอง...

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-30 03:22:31


ความคิดเห็นที่ 490 (1627126)

ขอเชิญชวน

ท่านทั้งหลายมารักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์กันเถอะ

เพราะว่าศีล 5 นี้ เป็นหัวใจของการเป็น

พระโสดาบันและพระสกิทาคามี

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ท่านว่าง่ายเหมือนหญ้าปากคอก

แต่ทำไมพวกเราถึงทำกันไม่ได้

เล็กเองก็เหมือนกัน

พยายามรักษามาเรื่อย ๆ

ยุงมดก็ไม่ฆ่า ลักทรัพย์ก็ไม่ได้ลักของใคร

ข้อกาเมฯไม่ได้ทำ ของมึนเมาก็ไม่ได้กิน

จะมาเสียเอาตอนที่เราเม้าส์เจ้านายนี่แหละ

มันอดไม่ไ้ด้นี่

ก็ท่านชอบคนปากหวาน ประจบสอพลอ

แล้วคนปากหวานก็มาหลอกเอาเงิน

ว่าจะเอาผลประโยชน์มาให้เท่านั้น เท่านี้ 

เสียเงินหลายแสน ได้กลับมาหลักหมื่นได้มั้ง

จ้างแม่บ้านมาก็ให้เ็ป็นเจ้านาย ส่วนตัวเองเป็นแม่บ้านแทน

ของกินก็เก็บจนหมดอายุแล้ว มาแจกให้พนักงานทาน

ชอบขายของเป็นชิ้นไม่มีส่วนลด

มากกว่าขายของเป็นล็อต ที่มีส่วนลด

พอพวกเรานำเสนออย่างนั้ำนก็ไม่เอา อย่างนี้ก็ไม่ดี

ว่าก็ว่าเถอะพนักงานเสนอว่าซ้าย

ท่านว่าขวาตาหลอด ๆ 

เฮ้อ

และแล้ววันนี้เราก็มี ศีล 5 ครบทั้ง 5 หมู่ อีกแล้ว

เพราะแม้ไม่ได้เม้าส์ออกเสียง แล้วเม้าส์เป็นตัวอักษรแทน 

หรือว่าศีล 5 ยังครบ

เพราะถือเป็นธรรมทานตัวอย่างคนที่ไม่รักในหลวง

5555
 

ผู้แสดงความคิดเห็น เยาวลักษณ์ เกิดมีทรัพย์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-30 14:56:49


ความคิดเห็นที่ 491 (1627203)

ปัทโธ่..คุณเยาวลักษณ์

เกริ่นซะสวยงามเลย

เชิญชวนให้ทุกคนรักษาศีลห้า

แต่มาตบท้ายด้วยการเมาท์เจ้านายซะงั้น

 

ว่าแต่..คุณเล็ก ทำกรรมอะไรมาน๊า..

ถึงได้มีเจ้านายที่ไม่อยู่ในโอวาทเช่นนี้

 

พอเสนอซ้าย

เจ้านายก็ฉแล่บออกขวา

 

ฉะนั้น คงต้องบอกได้แต่เพียงว่า

ทุกคนต่างมี"กรรม"เป็นของตน

ไม่ว่าดีหรือชั่วก็ตาม

เราจักต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น...

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-31 03:38:30


ความคิดเห็นที่ 492 (1627212)

 ในอาทิตย์ที่แล้วตอนที่ท่านอาจารย์ได้แสดงบารมีของพระศรีอาริย์ให้พวกเราได้เห็น โดยการบำบัด

ตอนนั้นวินก็อาการปวดที่ต้นขาทั้งสองข้าง และเเขนทั้งสองข้าง

ท่านอาจารย์ก็ได้เเสดงบารมีของท่านโดยทำให้คนที่มา

หลังจากที่อาจารย์เชิญบารมีของท่านวินก็ได้รู้สึกปิติ 

โดยหลังจากนั้นก็รู้สึกขนลุกมาเปนระยะๆ ตลอดจนจบพิธีวันนั้น

และขาทั้งสองข้างก็หายปวดประมาณ 70% และแขนก็หายปวด ประมาณ60%

หลังจากนั้นก็เชื่ออย่างสนิทใจ ว่า ท่านได้ใช้บารมีช่วยคนแล้ว

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาชวินท์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-31 07:26:50


ความคิดเห็นที่ 493 (1627214)

                                                                  ดังนั้น ขอให้ทุกท่าน

ช่่วยกันวิเคราะห์ต่อหน่อยได้ไหม

ว่า พระศรีอาริย์ ต้องการบอกอะไร

กับ กรณี ดร.จุ๋ม กับ น้องที่ มหิดล

ซึ่งผลออกมาต่างกัน

คนหนึ่ง หาย คนหนึ่ง ไม่หาย

ทั้งที่คนที่หาย ฆ่าหนูเยอะกว่า

แถมทั้งสองคน ทำงานที่เดียวกัน

แต่เวลาการหาย ห่างกัน ศุกร์ กับ อาทิตย์

 

ขอให้ทุกท่านที่ร่วมแสดงความเห็น

ได้พบ และ ชมบารมีพระศรีอาริย์

ในเร็ววันนะคะ

***

 

ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้ไปร่วมกับคณะธรรมะสัญจรที่มหิดลนะครับ  แต่จากการที่เข้าร่วมธรรมะบำบัดครั้งอื่นๆและจากการเข้าไปดูกระทู้ถามตอบของคนอื่นเพื่อมาเป็นแนวคิดให้กับตนเองแล้วนั้น  ที่ดร. จุ๋มหายนั่นก็คงเป็นเพราะการที่ ดร. จุ๋มมีจิตศรัทธาอย่างเปี่ยมล้น  เนื่องจาก ดร. จุ๋ม เป็นลูกบ้านสวนฯและได้สัมผัสบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านสวนฯมามาก ทำให้จิตเปิดเหมือนกับที่พี่เอิ้นว่า  แต่กับอีกคนหนึ่งที่ไม่หาย นั่นคเป็นเพราะว่าจิตของเขายังไม่ศรัทธาเป็น 100 เปอร์เซ็นต์  และอาจจะยังไม่สำนึกมากเท่าที่ควร ที่ไปฆ่าหนูไว้  ทำให้เหมือนแค่พูดๆ ไป  เหมือนอยากลองของว่าจะหายจริงไหม  อะไรประมาณนี้นะครับ  ผิดพลากประการใดก็ขอภัยด้วยนะครับ  ( กระทู้นี้ก็น้องณัฐเขียนนะครับ เดี่ยวสับสน ) 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-31 07:45:34


ความคิดเห็นที่ 494 (1627216)

                                                                                

แต่ละสัปดาห์

จะเป็นตารางการฝึก

แบบต่อเนื่อง เพื่อเลื่อนชั้น

กันไปเรื่อยๆ จนกว่า

จะจบหลักสูตร

สูงสุด

ของพระศาสนา

คือ

นิพพาน

 

 

ผู้ใดต้องการ ก็เชิญสอบถาม

หรือ แสดง ความเห็น ได้อย่างเสรี

จ้า

------------------

 

ขอกราบพระบาทพระพุทธองค์  และท่านอ.อุบลเป็นอย่างสูงครับ  ที่ท่านเมตตาต่อลูกบ้านสวนฯทุกท่าน  ที่ท่านจะจัดการฝึกการปฏิบัติทางธรรมให้แก่ลูกบ้านสวนฯที่ได้บ้านสวนฯในแต่ละอาทิตย์  ถือว่าท่านมีความเมตตาต่อพวกเรามากเลยนะครับ  เพราะท่านคงแลเห็นว่า การทำบุญนั้นต้องทำให้ควบคู่กันไป  จะทำเพียงบุญแรงกายเพียงอย่างเดียวนั้น ไม่ได้  ต้องทำบุญแบบภาวนา  ต้องฝึกตนให้เป็นผู้ตั้งมั่นในศีลในธรรมด้วย  และท่านมีเมตตาอย่างมากที่ปรารถนาที่จะให้ลูกบ้านสวนฯ ได้บรรลุธรรมขั้นต่างๆ สูงขึ้นไป  เพื่อเป็นประโยชน์ต่อตัวเราเอง  เพราะเวลาที่เหลือคงจะมีอีกไม่มากแล้ว  ขอกราบขอบพระคุณท่านอ.อุบลพระพุทธองค์และสิ่งศักดิสิทธ์ทุกๆพระองค์ในบ้านสวนพีระมิดด้วยครับ ( น้องณัฐเขียนนะครับ เดี่ยวอาจจะสงสัยว่าทำไมแม่ผมเขียนครับ  พอดีว่าคุณพ่อล็อคอินทิ้งไว้  ผมเลยมาเขียนก่อนไป รร.ครับ  ไปรร.ก่อนนะครับ จะสายแย้ววว   

 

 

 

 

 

 

 

 

  

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-31 07:52:38


ความคิดเห็นที่ 495 (1627278)

 นั่นซิค่ะ คุณชนิดา

เรานะนั่งตา... ลอย

เมื่่อไหร่ เงินเืดือนจะขึ้นหนอ..

อยากได้โบนง โบนัสกับเข้าบ้าง

ลงโฆษณาทีไร รอลุ้นยอดขาย

แต่ไหงยอดขายไม่เข้า

ยอดจ่ายกลับเพิ่มขึ้นทุกเืดือน แืทน

อุ๊ย... ไม่ได้ ๆ เข้ามาห้องพระศรีอาริย์ 

จะต้องคุยให้ตรงคอนเซ็ป

จากที่เล็กอ่านในเว็ปพลังจิต

(ขอพาดพิงหน่อยนึงนะค่ะ)

อ่านเรื่องของคุณบอล ในห้องอภิญญา

ซึ่งได้มโนมยิทธิแจ่มใสมาก

ก็ได้เล่าเรื่องพระศรีอาริย์

ว่าตอนไปฝึกที่ศูนย์พุทธศรัทธา

แล้วได้ไปเข้าเฝ้าท่าน

ซึ่งกายทิพย์ของท่านสวยงามมาก

แล้วได้ขอดูอดีตชาติของท่านแล้วเห็นว่า

ท่านคือหลวงปู่ทวด

ลูกหลานของท่านบางส่วน

ท่านได้ฝากหลวงพ่อฤาษีลิงดำไว้

ดังนั้นคนที่ฝึกมโนมยิทธิได้ บางส่วน

ก็จะมีความเกี่ยวเนื่องกับพระศรีอาริย์

อย่างเล็กไปฝึกมโนมยิทธิ

ทางครูก็สอนให้เราจับภาพพระที่เราชอบ

เราก็คิดว่าจะเอาภาพพระองค์ไหนดี

จับภาพพระแก้วมรกต ก็จับแล้วแต่ทรงตัวอยู่ไม่นาน

ระหว่างกลับบ้านก็คิดว่า

เราจะจับภาพพระองค์ไหนดีหนอ

คิดไปคิดมาทำไมเราไม่จับภาพหลวงปู่ทวด

ซึ่งมีความคุ้นเคยกับทุกคน

นึกถึงเมื่อไหร่ก็จำลักษณะของท่านได้

แล้วก็มาอ่านเรื่องที่คุณบอลเล่า

อ่านแล้วเรารู้สึกดีมาก

ถ้าเป็นท่านจริงพวกเราทุกคนก็ได้ใกล้ชิด

กับท่านเสมอมา ท่านไม่เคยไปไหนไกลเลย

สาธุ นี่เป็นเพียงเรื่องเล่าของเล็ก

เล็กยังไม่ได้พิสูจน์

เพราะมโนมยิทธิของเล็กยังมืดอยู่

ท่านผู้อ่านที่ได้อ่านแล้วโปรดใช้วิจารณญาณ

  และโปรดอย่าลบหลู่เป็นอันขาด

และถ้าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ไม่สมควร

ก็ขออย่าให้ส่งข้อความนี้ผ่าน

และถ้าเป็นเรื่องที่เปิดเผยได้

ใครที่ได้มโนมยิทธิแล้วยืนยันให้เล็กหน่อย

อยากรู้เหมือนกัน

 หรือต้องหาทางพิสูจน์เอาเอง

เฮ้อ ไม่รู้เมื่อไหร่ของเราจะมีสีสันเหมือนเขาบ้าง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เยาวลักษณ์ เกิดมีทรัพย์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-31 12:50:11


ความคิดเห็นที่ 496 (1627325)

  

                                           ดังนั้น ขอให้ทุกท่าน

ช่่วยกันวิเคราะห์ต่อหน่อยได้ไหม

ว่า พระศรีอาริย์ ต้องการบอกอะไร

กับ กรณี ดร.จุ๋ม กับ น้องที่ มหิดล

ซึ่งผลออกมาต่างกัน

คนหนึ่ง หาย คนหนึ่ง ไม่หาย

ทั้งที่คนที่หาย ฆ่าหนูเยอะกว่า

แถมทั้งสองคน ทำงานที่เดียวกัน

แต่เวลาการหาย ห่างกัน ศุกร์ กับ อาทิตย์

 

ขอให้ทุกท่านที่ร่วมแสดงความเห็น

ได้พบ และ ชมบารมีพระศรีอาริย์

ในเร็ววันนะคะ

 

ลูกเข้าใจค่ะว่า แตกต่างกันตรงที่ความสำนึกต่อบาป จากภูมิธรรมส่วนตัว ผนวกกับทัศนคติค่ะ  เห็นได้ชัดว่าท่าทีของผู้ที่ไม่หาย จากส่วนลึกๆ เค้ายังไม่ได้รู้สึก สำนึกว่าสิ่งที่เค้าทำมันเป็นบาปเลยสักนิด ว่าได้ทำลายชีวิตนึงไป แม้จะเป็นสัตว์ตัวเล็กๆ เค้ายังมีแย้งว่า ก็มันเป็นส่วนหนึ่งของงานเค้า ของการทดลอง วิจัยของเขา เห็นได้ชัด ว่าเขามีอัตตาสูงอยู่ มุ่งเน้นความสำคัญของผลสัมฤทธ์ของงานตนเอง โดยลืมใส่ใจไปว่า มันจะต้องแลกกับชีวิตนึง

 

แต่กับท่านที่หาย เค้าดูจะยอมละอัตตา แล้วเปิดจิต รับพระบารมีของ

พระศรีอาริย์นน่ะค่ะ จึงหายจากอาการเจ็บปวดที่มีอยู่ค่ะ

 

ขอบคุณท่านอาจารย์ค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-31 16:24:33


ความคิดเห็นที่ 497 (1627326)

                                                   กราบนี่ ยังไง ก็ยังรับไม่ได้อยู่ดี

แต่ทำไม เบื้องบน ทรงมีเงื่อนไขเช่นนี้ ก็ไม่ทราบ

หรือว่า ใครทราบ ช่วยเมตตา ตอบที

.....................................

ขอตอบค่ะท่านอาจารย์ขา เนื่องด้วยความรัก และศรัทธาสูงสุดมากๆ จึงแสดงออกด้วยการกราบ เช่นตัวหนูก็เช่นกัน ก็อยากกราบท่านอาจารย์ค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-31 16:31:49


ความคิดเห็นที่ 498 (1627329)

กราบเรียนท่านอาจารย์ อุบล 

ลูกได้อยู่ในเหตุการณ์วันธรรมทานที่ม. มหิดล ได้รับสัมผัสพระบารมีท่านพระศรีอาริย์ ขนาดที่ลูกนั่งอยู่หลังสุด ลูกรับทราบด้วยมีอาการเย็น ขนลุกซ่าๆเลยค่ะ แม้ท่านจะเมตตาแค่เป็นตัวอย่าง ระยะสั้นๆ แค่นั้น ลูกก็ปลาบปลื้ม ดีใจสุด ไม่เคยคิด ไม่เคยฝันว่าจะมีโอกาสนี้ในช่วงชีวิตของลูก  เพราะจากการได้ยินได้ฟัง จากผู้ใหญ่ จากการอ่าน เหมือนเป็นตำนาน ที่ไกลตัวลูกเหลือเกิน ดังนั้นสำหรับลูกแล้ว บารมีของท่านที่ได้เป็นเสมือนทิพย์ เสมือนปาฏิหารย์ ที่เดียวค่ะ  

จากนี้ไป  ตัวแปรจึงมีเพียงตัวเราเองว่าจะขัดเกลาตัวเองให้มีความดีบริสุทธิ์ เพียงพอ และทันกาล หรือไม่ ที่จะได้ชื่นชม และรับพระบารมี อันเปี่ยมด้วยเมตตาเจ้าค่ะ  


กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์เจ้าค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-31 17:06:21


ความคิดเห็นที่ 499 (1627353)

 แต่ละสัปดาห์

จะเป็นตารางการฝึก

แบบต่อเนื่อง เพื่อเลื่อนชั้น

กันไปเรื่อยๆ จนกว่า

จะจบหลักสูตร

สูงสุด

ของพระศาสนา

คือ

นิพพาน

ผู้ใดต้องการ ก็เชิญสอบถาม

หรือ แสดง ความเห็น ได้อย่างเสรีจ้า

-----------------------------------------

สองอาทิตย์แล้วที่หนูไม่สามารถได้มาบ้านสวนได้ เพราะว่าติดกิจกรรมที่โรงเรียน แต่หนูก็ได้รับฟังเรืองราวใหม่ๆที่ตื่นเต้นตั้งเยอะแยะ มากมายจากพี่ๆคุณแม่และคุณพ่อ สัปดาห์นี้หนูไปได้แล้วดีใจจัง หนูขออนุญาติไปชารจ์พลังบุญให้มากพอจะได้ขอร่วมชมพระบารมีของพระศรีอาริย์นะคะท่านอ.อุบล

บทเรียนที่ท่านอ.อุบลเตรียมไว้ให้ทุกท่านฟังดูแสนจะพิเศษและเป็นหนึ่งเดียวในโลกจริงๆนะคะ เพราะพ่อกับแม่บอกว่าพระศรีอาริย์ท่านยังไม่เคยปรากฎพระองค์บนโลกนี้เลย บทเรียนนี้จะพิเศษอย่างไรบัวจะขอติดตามนะคะ เด็กม.2 จะขอเรียนด้วยได้ไหมคะ  

บัวขอกราบโมทนากับธรรมทานของท่านอาจารย์ และของทุกๆท่านด้วยนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ

กราบสวัสดีค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กฤตยวรรณ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-31 21:10:11


ความคิดเห็นที่ 500 (1627496)

            

เข้ามาอวยพรค่ะ

 

ขอให้ท่านทั้งหลายได้พบ..

 

พระศรีอริยเมตไตรย

 

โดยเร็วพลันสมดังความปรารถนา

 

ด้วยอานุภาพแห่งความสว่างไสวจากพระองค์

 

รวมถึงวาจาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์  

 

จะทำให้ท่านทราบเมื่อพระองค์ท่านปรากฎค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ วงษ์กิ่ง (vava-8495-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-02 15:04:16



<< ก่อนหน้า 1 2 3 4 [5] 6 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.