ReadyPlanet.com


ยุคพระศรีอาริยเมตไตร ควรใช้ปัญญาพิจารณาครับ มิได้มีเจตนาให้ข้อมูลที่บิดเบื่อน


 

หนทางอยู่รอดในวิกฤติปัจจุบันและอนาคต
ที่ผู้มีบุญไม่ประมาท จะไม่มองข้าม

พระจักรพรรดิ

พุทธทำนาย

ชี้หนทางอยู่รอดจากภัยพิบัติ โรคภัย วิกฤติเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบันตลอดจนโลกามหาวินาศในอนาคตอันใกล้ ผู้เผยแผ่ได้ร่วมมือกันทำหนังสือมีความจริงไม่เฟื้อฝันนี้แจกฟรี ไม่เรี่ยไรเงินทองของมีค่าแอบแฝง ไม่เพื่อชื่อเสียง ไม่สนับสนุนบุคคลหรือกลุ่มคนใด นอกจากเกิดสิ่งดีงามแก่คนทั่วไป ผู้ไม่ประมาทมีโอกาสหลุดพ้นจากบ่วงมาร ความสุขที่ไม่ยั่งยืน ความหลอกลวง สิ้นสุดความเหน็ดเหนื่อย ความทุกข์ ความยากจน เกิดอริยะปัญญารู้ความจริงที่ไม่ทราบกันมาก่อน เพราะในทุกชาติศาสนาบ่งไว้ว่า ในยุคพระจักรพรรดิหรือพระศรีอารย์นั้นทุกคนบนโลกจะเป็นอริยบุคคล มีความสุขกันอย่างแท้จริง ท่านผู้มีบุญสามารถทำสำเนาหนังสือนี้แจกฟรีให้ผู้สนใจ ย่อมเป็นกุศลเกิดผลบุญยิ่งแก่ท่านเนื่องจากเป็นการช่วยชีวิตของคนจำนวนมาก

มารให้ความสุขมนุษย์แต่ซ่อนความทุกข์ไว้เบื้องหลัง มารนั้นขัดขวางสันติสุขที่แท้จริง

พุทธประวัติ / พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค ๓. มหาปรินิพพานสูตร: ชี้ เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าตรัสรู้ พญาวัสวดีมารผู้ใจบาปได้ทูลอาราธนาให้พระผู้มีพระภาคเสด็จปรินิพพาน แต่พระพุทธองค์ทรงห้ามว่า ตราบใดภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา สาวกของตถาคตยังไม่เจริญมั่นคง ศาสนาของตถาคตยังไม่แผ่ไพศาล ตราบนั้นตถาคตจะยังไม่ปรินิพพาน แต่มาบัดนี้มารได้กราบทูลว่าพุทธบริษัท ๔ ได้เจริญแพร่หลาย พระศาสนามั่นคงสมดังมโนปณิธานแล้ว จึงทูลอาราธนาพระพุทธองค์เสด็จปรินิพพาน มารได้กราบทูลถึง 3 ครั้ง ซึ่งครั้งสุดท้ายพระผู้มีพระภาคตรัสว่าจะเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานต่อจากนี้ไปอีก ๓ เดือน ที่จริงแล้วพระผู้มีพระภาคสามารถทรงดำรงอยู่ได้ตลอดกัปเพื่อประโยชน์สุขของชนเป็นอันมากถ้าพระอานนท์ทูลขอ แต่พระอานนท์ถูกมารเข้าดลใจ แม้ครั้งที่ ๓ ที่พระพุทธองค์รับสั่ง พระอานนท์ก็มิอาจรู้ทันจึงไม่ทูลขอให้พระผู้มีพระภาคทรงดำรงอยู่ต่อ เรื่องมารพยายามทำลายพระพุทธศาสนายังมีอีก เช่น ดลใจนางจินจมานวิกาทำอุบายว่าตั้งท้องกับพระพุทธองค์หรือพระเทวทัตที่พยายามปรงพระชนชีพพระพุทธองค์ มารหลอกคนให้หลงผิดด้วยความสุขและโลกธรรมที่ไม่จีรัง  และดลใจผู้ขาดกุศลปัญญามองข้ามพุทธทำนายและพระจักรพรรดิซึ่งเป็นทางเดียวที่จะปราบมารผู้เป็นใหญ่ฝ่ายอกุศลธรรมได้ และสร้างสวรรค์ขึ้นบนโลกมีสันติสุขที่แท้จริงขึ้นแทน

ท่านทราบหรือไม่

เกี่ยวกับพุทธทำนาย ปาสาทิกสูตร: อดีต ปัจจุบัน อนาคต ที่จริง มีประโยชน์ ตถาคตย่อมรู้กาลที่จะตอบปัญหาในเรื่องนั้นๆ แต่ถ้าไม่มีประโยชน์ ไม่เป็นจริง ตถาคตจะไม่ทรงพยากรณ์ ฉะนั้นเหตุการณ์ในปัจจุบันที่เป็นไปตามพุทธทำนายชี้ให้เห็นว่า พระผู้มีพระภาคตรัสในเรื่องปาสาทิกสูตรเป็นความจริงที่พิสูจน์ได้

เรื่องมิได้ตรัสบอกมีมากกว่า

สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคประทับ ณ ป่าไม้ประดู่ลาย ใกล้กรุงโพสัมพี พระองค์ทรงหยิบใบประดู่ลายขึ้นมาหน่อยหนึ่ง แล้วตรัสถามภิกษุว่า ใบประดู่ลายเล็กน้อยที่เราถือไว้กับใบที่อยู่บนต้นประดู่ลาย อย่างไหนจะมากกว่ากัน ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่าใบที่อยู่บนต้นมีมากกว่า พระผู้มีพระภาคจึงตรัสว่า เรื่องที่เราตรัสรู้แล้ว แต่มิได้บอกท่านทั้งหลายก็มีมากกว่า แต่เรื่องเหล่านั้นไม่เป็นไปเพื่อความดับทุกข์ ไม่เป็นไปเพื่อนิพพาน เราจึงไม่บอกท่าน ข้อสังเกต พระจักรพรรดิหรือพระศรีอารย์จักต้องแก้ปัญหาของมนุษย์ในเรื่องของโลกธรรมและความหลอกลวงนำไปสู่อกุศลกรรม ซึ่งเศรษฐกิจและสังคมเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะต้องปรับใหม่ให้มนุษยโลกสามารถอยู่ร่วมกันได้ด้วยสันติสุขมีสันติภาพตลอดไป คนเรายังไม่เคยเห็นสิ่งนี้กันมาก่อน ดังนั้นสิ่งที่พระพุทธเจ้าโคดมยังไม่ตรัสเพราะไม่เป็นประโยชน์แก่บรรพชิต จะถูกเปิดเผยโดยพระศรีอารย์

เทพและมาร

พระผู้มีพระภาคไม่ปฏิเสธเรื่องเทพและมารดังแสดงไว้เช่น ธชคฺคสุตฺตํและพระองค์ตรัสไว้ในพระสูตรจักรพรรดิสิงห์ราชว่า พระศรีอารย์เป็นผู้สอนเทพและมนุษย์ เป็นผู้รู้ทั้งสามโลกคือสวรรค์ โลกมนุษย์และนรก ดังนั้นเมื่อพระศรีอารย์เปิดเผยและพิสูจน์ข้อเท็จจริงดังกล่าว คนจะไม่กล้าทำเลวทำชั่ว

มนุษยโลกจะมีสันติสุขตลอดไป พ.ศ. 2552/7-1 ที่ ปณ. 70 ถนนติวานนท์ จังหวัดนนทบุรี 11000

 

 

วัตถุประสงค์:    

หนังสือนี้ไม่ใช่โฆษณาชวนเชื่อ สร้างสถานการณ์ ปลุกระดมทำให้ตื่นตระหนกหลงผิด แต่โปรดใช้วิจารณญาณด้วยเหตุผล รู้ผิดชอบ มีที่มาที่ไป เตรียมแก้ปัญหาก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้ เพื่อรอดจากวิกฤติและมหาวินาศของโลก

ทางอยู่รอด:  

พ.ศ. 2541 สมิทธ ธรรมสโรช เตือนคนไทยในช่วง 10 ปีให้ระวัง "สึนามิ" แต่กลับได้รับคำด่าแทน พ.ศ. 2547 เกือบสามแสนคนตายไปเพราะไม่สนใจ ไม่เตรียมตัว อวดดี ไม่รู้พิษ สึนามิมาก่อน เราก็อาจเห็นมหันตภัยโลกในอีก 3 ปีที่แผ่นดินจะหาย น้ำจะท่วมใหญ่ชนิดจำไม่ได้ว่าบ้านตนอยู่ตรงไหน พลัดพรากจากครอบครัวเพื่อนฝูง ทรัพย์สมบัติที่สร้างสมกันมาถูกทำลาย หรือเราจะรอดจากวิกฤติเลวร้ายในปัจจุบันและมหันตภัยโลกที่คืบเข้ามา เกิดความสุขที่แท้จริงขึ้นแทน ถ้าเรามีสติละทิ้งความประมาทในสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสพยากรณ์ซึ่งตรงกับคำทำนายโลกอื่นๆด้วย

ปัญหาขณะนี้:    

คนส่วนมากต้องผจญกับความเป็นอยู่ที่มีความยากลำบาก เสี่ยงกับภัยอันตรายรอบด้าน ความปลอดภัยไม่มี และเหตุสภาวะเศรษฐกิจและสังคมที่ตกต่ำ ทำให้คนส่วนมากมีความเห็นแก่ตนเพิ่มมากขึ้นจนลืมไปว่าเรามิใช้อยู่บนโลกนี้ตามลำพัง มนุษย์ทำบาปมากกว่าทำบุญ เอาเปรียบแม้แต่ธรรมชาติหรือ จนทำให้ธรรมชาติเองก็ตอบสนองมนุษย์ด้วยภัยพิบัตินานาชนิดเช่นที่กำลังเกิดขึ้นและจะรุนแรงยิ่งขึ้น

ข้อควรพิจารณา:

1. คนในสมัยก่อนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แบ่งปันช่วยกันอย่างบริสุทธิ์ใจ ในปัจจุบันคนมีน้ำใจหาได้ยากโดยเฉพาะคนเมืองหลวงใช้ชีวิตกับการอิงสังคม อยู่กันแบบตัวกูของกูโอนเอียงไปกับสื่อและกระแส มีความสุขโดยยึดเงินเป็นพระเจ้า หาชื่อเสียงเกียรติยศ มองแต่สิ่งใกล้ตน เห็นแก่ตนและครอบครัว ลืมคิดว่าชีวิตนั้นไม่จีรัง การทำลายส่วนรวม เช่น ทำลายป่าได้ที่ดินได้เงินมาเพื่อไม่กี่คน แต่ทำลายทั้งเศรษฐกิจชาติและสภาพแวดล้อมโลก เกิดเป็นภัยพิบัติกลืนชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น บาปเกิดจากความเห็นแก่ตนแก้ไม่ได้ บาปที่มนุษย์สร้างใหญ่นักจะแก้ได้อย่างไรกัน ผู้ก่อบาปจะถูกลงโทษมากกว่าที่คาดคิด อย่าคิดว่าบาปไม่มีหรือจะหนีบาปด้วยการทำบุญได้ นึกไหมว่าทำบุญเป็นบาปมีถมไป                                                                                                                                                      
2.
การถืออำนาจ ขาดความยุติธรรม แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น แบ่งแยกเอาเปรียบกัน ฆ่ากัน ข่มขืนกัน ขาดศีลธรรม หาทางร่ำรวยสร้างชื่อเสียงเกียรติยศจนลืมจริยธรรมอันดี ไม่เห็นคุณค่าของส่วนรวม เมื่อคนเราไม่เคารพซึ่งกันและกัน แล้วพรุ่งนี้จะอยู่กันได้อย่างไร นึกถึงชาวบ้านที่ยากไร้แต่ที่มีภูมิปัญญาดี เขาต้องใช้เวลา อาศัยประสบการณ์ลองผิดลองถูก มีบางคนเอาภูมิปัญญาชาวบ้านมาต่อยอด ดัดแปลงหาผลงานผลกำไรให้ตนโดยไม่ตอบแทนชาวบ้าน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงช่วยเหลือชาวบ้านให้อยู่ดีกินดีโดยไม่หวังประโยชน์จากชาวบ้าน พ่อหลวงทรงมีพระเนตรยาวไกลเห็นว่า เมื่อประชาชนทั่วไปมีสุขประเทศชาติก็จะอยู่รอด เราเห็นพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านหรือยัง นี่แหละพ่ออันเป็นพลังหนึ่งของแผ่นดินที่แท้จริง

3. เรากำลังมองข้ามสิ่งดีมีค่าที่สามารถต่อยอดเห็นผลได้ในระยะสั้นๆ ตัวอย่างง่ายๆเช่น คนกินปูไข่ทำความพึงพอใจให้ตน แต่ถ้าเขาปล่อยให้ปูไข่กำเนิดลูกปูแล้ว เราจะได้ผลประโยชน์นับร้อยเท่าพันเท่า โชคดีที่มีคนเช่นลุงจาง ฟุ้งเฟื่อง ชาวบ้านน้ำเค็ม จ.ชุมพร อายุ 69 ปี ที่เห็นว่าชาวประมงจับปูม้าไปขายจนแทบไม่มีปูให้จับ จึงคิดทำธนาคารปูขึ้นจนสำเร็จ คือ ทำที่พักพิงให้แก่แม่ปูม้าครรภ์แก่ รอให้วางไข่ก่อน จึงนำแม่ปูไปขาย แล้วปล่อยลูกปูสู่ทะเลแต่ก่อนหน้าความสำเร็จนี้ ลุงจางต้องฝ่าฟันอุปสรรค์ แม้แต่เพื่อนฝูงบางคนเห็นว่าลุงจางโง่ เพราะถ้าความคิดนี้ดีทางราชการคงทำไปนานแล้ว ลุงจางทำไปทำไมเสียเวลาแทนที่จะเอาปูไข่ไปขายเอาเงินจะดีกว่า ถ้าท่านมีความตั้งใจ บริสุทธิ์ใจแล้วจะช่วยให้ทำสิ่งดีงามสำเร็จได้ในวันใดวันหนึ่งเช่นกัน

4. ผู้ที่ทำผลประโยชน์เพื่อส่วนรวมหาได้ไม่ง่าย บุคคลเหล่านี้เหมือนผู้ปิดทองหลังพระ มีความพอเพียงเป็นที่ตั้ง เป็นผู้ร่ำรวยทางจิตใจ มีความสุขใจอย่างแท้จริงถึงแม้เขาจะไม่มีเงินทองมากมาย คนส่วนมากคิดว่าความร่ำรวย มีชื่อเสียงจะเป็นหนทางการอยู่รอด นึกบ้างหรือไม่ว่าคนรวยไม่น้อยที่ฆ่าตัวตาย บ้างก็หาความสุขให้ตนจนครอบครัวเดือดร้อน บ้างก็ติดอยู่กับอบายมุขไม่สามารถหาความสุขที่แท้จริงให้ตนได้นั้นก็มีอยู่มากมาย 

5. มีภาพยนตร์หลายเรื่องเกี่ยวกับสงครามล้างโลก หรือมหาภัยที่ทำลายมนุษยโลก เขาสร้างไปตามพุทธทำนายหรือคำทำนายของศาสนาอื่นๆ ที่บอกไว้ หรือ อะไรทำให้เราอยากรู้อยากเห็นมนุษยโลกถูกทำลาย ผู้อ่านพุทธทำนายจะทราบถึงคนในสมัยนี้ว่าอยู่กันด้วยความเห็นแก่ตน แต่พุทธทำนายก็ชี้หนทางการอยู่รอดได้โดยจะมีพระโพธิสัตว์สองพระองค์ผู้บังเกิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน จะมาช่วยมนุษย์ให้เป็นคนดีมีศีลธรรม เกิดความสุขที่แท้จริงขึ้นตลอดไป แต่ถ้าคนเรายังยึดมั่นถือดีในความคิดตนไม่สนใจในสิ่งดีงามนี้ โลกามหาวินาศจะเกิดขึ้นแทนผู้คนล้มตายมากกว่าครั้งใดๆ   

คิดอีกครั้ง:    

คนเราเลือกเกิดไม่ได้ เกิดมาก็ไม่มีอะไรติดตัว อยู่ได้ไม่นานนักก็ตายจะเอาอะไรติดตัวไปไม่ได้อีกเช่นกันนอกจากความดีความเลว คนส่วนมากมองข้ามสิ่งสำคัญนี้ คิดเพียงเอาตัวเองรอด และเห็นว่าการทำดีมีแค่ศักดิ์ศรีแต่ทำชั่วได้ดีมีมากมาย
มีใครคิดบ้างว่าการอยู่รอดของคนเราด้วยความสุขใจ ไม่ใช่ความร่ำรวย แต่ความพอเพียงและการพึ่งพาอาศัยสามัคคีไม่เอารัดเอาเปรียบ เมื่อไม่ประมาทและช่วยกันจะเป็นพลังยิ่ง เหมือนแขนงไผ่ลำเดียวใช้ประโยชน์ได้ไม่มาก แต่นำแขนงไผ่หลายอันมามัดรวมกันทำเป็นแพช่วยทั้งคน ม้าข้ามแม่น้ำได้สำเร็จ
เศรษฐกิจพอเพียงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ทรงแนะเพื่อความอยู่รอดของชนทุกชั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงเปิดศูนย์พันธุ์พืชเพื่อเกษตรไทยยั่งยืน ผู้มีที่ดินมีเงินทองควรช่วยให้ชาวไร่ชาวนาคนยากจนมีที่ทำมาหากิน หาวัตถุดิบในบริเวณนั้นมาใช้ประโยชน์ แม้แต่มูลหมูมูลคนก็ทำเป็นแก็สใช้ได้ รัฐบาลควรสร้างถนน ส่งน้ำเชื่อมต่อกัน ใช้พลังจากดวงอาทิตย์จากลมให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งรัฐจะได้สิ่งตอบแทนมูลค่ามหาศาลกลับคืนมา ชาวบ้านก็ต้องทำกันช่วยกันเป็นสหกรณ์ เมื่อได้ผลผลิตก็แบ่งคืนให้ผู้มีพระคุณที่ลงทุนให้การทำมาหากินเกิดขึ้นโดยถ้าแต่ละฝ่ายไม่โลภเห็นแต่ประโยชน์ตน ไม่ช้าความอยู่รอดก็จะแผ่ขยายไปทั่วแผ่นดิน
แต่ถ้าเรายังมีมารร้ายปิดบังดวงตาบริสุทธิ์ ยุแหย่ให้หลงไปในทางผิด คนชั่วมีมากขึ้นแล้ว มหันตภัยย่อมเกิดขึ้นล้างความสกปรกของมนุษยโลกแบบไม่ปราณี ถึงเวลาหรือยังที่เราต้องขจัดมารไปจากดวงจิต โปรดอย่าคิดแค่ นี่นั่นของกู”  คิดบ้างว่าประเทศชาติให้เรามีที่อยู่ที่กิน เราจะตอบแทนอะไรแก่ประเทศชาติได้บ้าง
พระพุทธเจ้าทรงเป็นห่วงผู้คนในกึ่งพุทธกาลหรือเวลาปัจจุบัน จึงได้ตรัสพุทธทำนายชี้หนทางไว้เตือนสติผู้ไม่ประมาทเห็นประโยชน์ได้ด้วยตนเอง

พุทธทำนาย:        

จากเอกสารแจกฟรีของ สุริยัน โรหิตเสถียร พ.ศ. 2538 และของ รศ.ดร.พิชัย โตวิวิชญ์ ภาควิชาเคมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. 2540  สรุปได้ว่า คณะธรรมทูตไทยผู้ไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและต้นศรีมหาโพธิ์ที่ประเทศอินเดียได้คัดลอกพุทธทำนายมาจากศิลาในสวนมฤคทายวันเมื่อ พ.ศ. 2484 ซึ่งบ่งถึงพระพุทธเจ้าก่อนเสด็จปรินิพพานทรงเป็นห่วงผู้คนในกึ่งพุทธกาล จึงตรัสกับพระอานนท์ ดูกรอานนท์ ยักษ์หิน (คนเลวคนชั่ว) ถูกสาปกลับตื่นขึ้นมาอาละวาดยิ่งนัก เริ่มแต่ศาสนาตถาคตล่วงได้ 2485 ปี หรือประมาณ พ.ศ. 2533 ในปัจจุบัน (พ.ศ.ไทยเร็วกว่าความเป็นจริงประมาณ 48 ปี) ไฟจะลุกลามไหม้วัดวาอาราม (ศาสนาอื่นเข้ามาเผยแพร่แทน พระสงฆ์ไม่อยู่ในวินัย) คนบ้านจะเข้าป่า (คนเมืองจะรุกป่า จับจองหาประโยชน์) สัตว์ป่าจะเข้ากรุง (สัตว์ป่าบุกรุกหาของกินในถิ่นผู้คนอาศัย)  เมืองหลวงจะร้อนเป็นไฟ มหาสมุทรจะชอกช้ำ (สภาวะสิ่งแวดล้อมเสียหายเพราะฝีมือมนุษย์) สงครามต่างๆเช่นการแบ่งแยก ยาเสพติดจะทั่วทิศ ทหารจะเป็นเจ้า ข้าวจะขาดแคลน ทั่วแคว้นจะอดอยาก (ผู้คนยากจนขึ้น) พลูหมากจะหมดเปลือง (ติดสินบนผู้มีอำนาจ) ปราชญ์เปรื่องจะสูญสิ้น (ผู้มีปัญญาความรู้จะถูกกด)  ราชตระกูลอำมาตย์ ราษฎรทุกคนจะพากันถืออำนาจไม่เป็นธรรม ไม่เคารพหลักธรรม เชื่อถือถ้อยคำของคนโกง คนกล่าวเท็จ คนประจบสอพลอได้รับการเชื่อถือ ผู้ดีมีศีลประพฤติชอบไม่มีเสียง (อธรรมจะถือโอกาสถืออำนาจ แต่ฝ่ายธรรมไม่มีโอกาสเผยแผ่สิ่งดีงาม) จะเกิดจลาจลวุ่นวาย เด็กไม่อยู่ในโอวาทของพ่อแม่ ทำตามความคิดของตน ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง  (เมืองหลวงจะมีแต่สิ่งเลวทราม ความเสื่อมต่างๆจะเกิดขึ้นมากมาย อบายมุขและกามรมณ์จะเกิดเพิ่มมากขึ้น ศีลธรรมจะลดน้อยถอยลง)

                                พระผู้มีพระภาคตรัสต่อถึงทางสองแพร่ง สรุปเพื่อความเข้าใจคือ           

1. พระโพธิสัตว์สองพระองค์คือพระมหาเถรโพธิสัตว์และพระธรรมมิกราชหรือพระจักรพรรดิหรือพระศรีอารย์ จะเกิดขึ้นก่อนและโดยประมาณ พ.ศ. 2555 คนจะรู้จักเริ่มวิถีชีวิตใหม่ จากที่เคยแข่งขัน ทำลายกัน กลับมาสู่ยุคพระศรีอารย์ที่สอนผู้คนให้ประพฤติปฏิบัติในศีลธรรมอันดี ช่วยเหลือกัน ไม่เอารัดเอาเปรียบ ไม่ข่มเหง  
ไม่อิจฉาพยาบาท ไม่เบียดเบียนแข่งขัน ไม่ประทุษร้ายกัน บุคคลจะมีเมตตา กรุณา ชีวิตจะมีความสุขที่แท้จริง



ผู้ตั้งกระทู้ ธรรมนูญ นาคสุข (naksuk4-at-hotmail-dot-com) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-09-21 22:33:53


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1573803)

 

ผู้คนจะบำรุงพระธรรม ธรรมจะชนะอธรรม พระสงฆ์จะอยู่คู่บ้านเมืองต่อไป การงานของมนุษย์จะสำเร็จด้วยอริยศาสตร์ (ซึ่งตรงกับที่ศาสนาอื่นๆได้ระบุไว้) หรือถ้าผู้คนไม่สนใจในพระโพธิสัตว์แล้วจะเกิดข้อ 2 แทน

2.  พ.ศ. 2556 มหันตภัยโลกจักเกิดขึ้น พระผู้มีพระภาคตรัสว่า "ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ ... แผ่นดินอธรรมจะถล่มเป็นทะเล" แล้วมนุษยโลกจะเหลือเท่าไร อย่าพึ่งประมาทเพราะพระพุทธองค์ตรัสตรงกับมายันและนาซ่า

   


ที่อเมริกากลาง 1500 ปีก่อนพุทธศักราชเป็นยุคศรีวิไลของชาวมายัน ซึ่งมายันได้ทำนายวันสิ้นโลกว่าจะเกิดใน พ.ศ. 2555 นักวิทยาศาสตร์ของ NASA ได้บ่งว่าธันวาคม ปีเดียวกันนี้ จะเกิดการระเบิดของดวงอาทิตย์ที่รุนแรงสูงสุดมีผลร้ายต่อมนุษย์ (ภาพยนตร์ "2012" ฉาย พ.ย. 2552 ควรให้ความรู้ได้ชัดเจน) พ.ศ. 2560 "เมืองมนุษย์จะมืด 7 วัน 7 คืน โลกดิ่งสู่หายนะ เวลานี้พวกอธรรมไร้ศีลธรรมจะถูกทำลายหมดสิ้น ผู้ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรมและยึดถือคำสอนของตถาคตจะพ้นภัย"

พระมหาเถรโพธิสัตว์:

ในส่วนนี้พระผู้มีพระภาคตรัสถึงพระมหาเถระโพธิสัตว์จะเกิดใน พ.ศ. 2502 (จากการวิเคราะห์ข้อมูลและเหตุผลความจริงของพระมหาเถรโพธิสัตว์ก็คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช พ่อหลวงที่รักและเคารพยิ่งของปวงชนชาวไทย) ซึ่งในเวลานั้นพ่อหลวงทรงแสดงความเป็นพระโพธิสัตว์ขึ้นแล้ว สำหรับ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี ได้ทำนายและบันทึกไว้ คือรัชการที่ 9 เป็นถิ่นกาขาวอันหมายความถึงความบริสุทธิ์มีศีลธรรม กาขาวตรงข้ามกับกาดำ ซึ่งกาดำเปรียบเสมือนความมืดมิด ความเลว กิเลสต่างๆ และในรัชการที่ 10 จะเป็นศรีวิไล สำหรับความจริงจะเป็นอย่างไร ก็ต้องรอดูต่อไป
พระมหาเถรโพธิสัตว์จะอุปถัมภ์พระธรรมมิกราช โดยพระโพธิสัตว์ทั้งสององค์นั้นจะจัดการบำรุงศาสนาของตถาคตเป็นเอกยิ่ง ในครั้งนี้เป็นศรีวิไล ซึ่งตรงกับคำทำนายของหลวงพ่อโต

พระธรรมมิกราช: พ.ศ. 2515 – 2534 พระธรรมิกราช (ผู้ชนะมารด้วยธรรม) จะเกิดขึ้น ซึ่งท่านอินทรา คนไทยในพุทธศาสนา มีถิ่นฐานอยู่ในสหรัฐอเมริกาได้อธิฐานบุญใน พ.ศ. 2534 และรู้อมตธรรมในเดือนมกราคม พ.ศ. 2535 หลังค้นหามากว่า 40 ปี ได้ด้วยตนเอง จึงนับว่าพระธรรมมิกราช ได้เกิดขึ้นแล้ว และในปีนี้เองที่หลักฐาน บ่งถึงโลกเริ่มเปลี่ยนแปลงผิดปกติมาถึงปัจจุบันดังที่คนทั่วโลกทราบดีว่าโลกป่วย ซึ่งตรงตามที่พระพุทธเจ้าโคตมหรือโคดมตรัส ดูได้จากบทมหาปรินิพพาน

ศาสนาพุทธเป็นเอก: พระโพธิสัตว์สองพระองค์จะอยู่ ณ เบื้องทิศตะวันออกของมัชณิมประเทศ (หรือกล่าวว่าเป็นไปในภาคกลางของประเทศเขตชมพูทวีปทางตะวันออกที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข เมืองดังกล่าวคือกรุงเทพมหานครของประเทศไทย) ประมาณ พ.ศ. 2561 – พ.ศ. 2562 (อีก 8-9 ปีจากปัจจุบัน) ผู้มีบุญทั้งสองพระองค์นั้นจะเสด็จเข้าบำรุงพระพุทธศาสนาให้เที่ยงแท้เป็นเอกหรือเป็นที่ 1 ได้สำเร็จ (ปัจจุบันพุทธศาสนาอยู่ในอันดับที่ 5 คริสต์ศาสนาอยู่อันดับ 1) สมณชีพาหมณ์จะเสด็จมา 84,000 รูป (เป็นการอุปมาหรือเปรียบเทียบว่ามีมากมาย)
ตถาคตสงสารสัตว์ เวลาพลโลกยังเหลือน้อยเต็มที คำทำนายของตถาคตนี้ ยังให้สัตว์ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วเชื่อหรือไม่เชื่อ ไม่เล่าให้ผู้ใดรู้กันต่อๆ ไป นับว่าเป็นกรรมแห่งสัตว์ ต่างสิ้นสุดกันตามกาลเวลา (พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าคนนั้นเห็นแก่ตัวเพียงไร ทั้งมีความประมาทมีบาปเป็นของตน ขาดบุญกุศล จึงไม่บอกเล่าสิ่งดีงามกันต่อๆไป นับว่าเป็นกรรมของสัตว์เหล่านั้นเอง)

เผชิญมหันตภัย:  ภูมิอากาศโลกในปัจจุบันผิดปกติ เกิดภัยพิบัติและวิกฤติเลวร้ายต่างๆขึ้นในปัจจุบัน ขณะนี้สหประชาชาติบ่งถึงเศรษฐกิจโลกหดตัวอย่างต่อเนื่อง สร้างความเดือดร้อนแก่มนุษย์และสัตว์ไปทั่วนั้น ควรมีสองสาเหตุใหญ่ที่เราควรพิจารณา คือ
1.
นักวิทยาศาสตร์บ่งว่ามนุษย์บ่อนทำลายโลกมาช้านาน และถึงเวลาแล้วที่โลกตอบสนองมนุษย์ด้วยภัยพิบัติสารพัดทิศและโรคภัย หรือเนื่องจาก
2.
นักศาสนาศาสตร์บ่งตามตำนานและคำทำนายว่ามนุษย์ทำเลวมากกว่าทำดี บ่อนทำลายธรรมชาติมุ่งแต่หาผลประโยชน์ให้ตน จึงทำให้สวรรค์ลงโทษมนุษย์ด้วยภัยพิบัติ โรคภัยและวิกฤติเลวร้ายต่างๆ
สาเหตุที่ 1 หรือที่ 2 ที่ทำให้โลกเกิดวิปริตนั้น จากการพิจารณาว่าถ้าเป็นเรื่องของธรรมชาติโดยตรงก็ไม่ควรมีตำนาน เช่น ของพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ ที่มีคำทำนายนับพันๆปีชี้บ่งไว้ก่อนถึงการที่เทพผู้อยู่เบื้องบนได้ลงโทษมนุษย์เข้ามา                                                                                                                                  6
เกี่ยวข้องกับการเกิดภัยพิบัติสารพัดทิศ เกิดโรคร้าย เกิดวิกฤติต่างๆขึ้นในปัจจุบัน จากหลักฐานรูปธรรมเหล่านี้คือคำสอนที่เขียนไว้สามารถเห็นได้จับต้องได้ และสามารถนำมาประกอบการพิจารณาในขณะนี้ด้วยเหตุผลว่า ตำนานและคำทำนายที่บ่งบอกไว้นั้นมีความถูกต้องเที่ยงตรง ดังนั้นการที่โลกวิปริตทำให้มนุษยโลกได้รับความเดือดร้อนไปทั่ว ก็ควรเป็นเรื่องที่สวรรค์ลงโทษมนุษย์ ซึ่งพุทธพยากรณ์และคำทำนายจากตำนานที่แจกจ่าย เช่นในไทยและจากใบลานสี ประเทศลาวที่กล่าวสรุปว่า เหล่าเทพเทวดาผู้คุ้มครองรักษาเหล่ามนุษย์ได้กราบทูลพระอินทร์ (ท้าวสักกะ) ว่า มนุษยโลกในกาละเวลานี้ได้ทำบุญเพียง 3 ส่วน แต่ทำความชั่วถึง 10 ส่วน เมื่อเป็นเช่นนี้พระอินทร์จึงลงโทษมนุษย์ไว้ 9 ข้อคือ
1.
จะให้เกิดพายุรุนแรงแผ่นดินก็ไหวรุนแรง 
2.
จะให้เกิดสารพิษต่างๆ (เช่นอากาศในน้ำในอาหารเป็นพิษ)
3.
จะเกิดไฟไหม้
4.
จะเกิดโรคร้ายต่างๆ
5.
จะเกิดน้ำท่วม
6.
จะเกิดอดข้าว ปลาอาหาร (วิกฤติเศรษฐกิจ)
7.
จะเกิดฟ้าผ่ารุนแรง (นาซ่า และนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงคาดว่าอาจมีโอกาสเกิดขึ้นรุนแรงในปี ค.ศ. 2012) 
8.
จะเกิดอาฆาตฆ่าฟันกันเอง (เช่นการแตกแยกของคนไทย)
9.
จะเกิดร้อนมากหนาวมาก (ภูมิอากาศผิดปกติ)
เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในกึ่งพุทธกาลหรือในปัจจุบันนี้ และจะหยุด เปลี่ยนจากร้ายเป็นดีได้ก็เมื่อพระศรีอารย์ปรากฏพระองค์ต่อผู้คนทั้งหลาย
ผู้ที่ติดตามข่าวจะทราบว่าจาก พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา ได้เกิดภัยพิบัติใหญ่สร้างความเสียหายมากมายให้กับมนุษยชาติ มีทั้งน้ำท่วม แผ่นดินไหว ไฟไหม้ เป็นต้น เกิดขึ้นต่อเนื่องมาโดยตลอด ประเทศสหรัฐอเมริกาผจญกับภัยพิบัติมากมายจนไม่มีเงินที่จะช่วยเหลือผู้ประสบภัย โรคภัยร้ายแรงเช่นโรคเอดส์และหวัดสายพันธ์ใหม่เกิดขึ้นอีก สร้างความสูญเสียทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมซ้ำเติมวิกฤติเศรษฐกิจที่มีอยู่ให้เลวร้ายยิ่งขึ้น เราคงไม่เข้าใจเรื่องนี้ดี จนกว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับตนหรือครอบครัวของตน และต่อไปจะร้ายกว่าที่มนุษยโลกคิดถึ

การวิเคราะห์:     พระผู้มีพระภาคและนอสตราดามุส บ่งว่ามนุษย์จะอยู่บนโลกได้ก็อีก 2000-3000 ปี (หรือประมาณ 2500 ปี หรืออีก กึ่งพุทธกาล) จากปัจจุบัน และโลกจะูถูกดึงเข้าไปรวมกับพระอาทิตย์ในอีก 2000-3000 ปีต่อมา (ซึ่งในช่วง 2000-3000 หลังนี้) สิ่งมีชีวิตก็อยู่กันไม่ได้แล้ว) และทั้งสองได้บ่งว่าพระธรรมมิกราชหรือพระศรีอารย์จะปรากฏในเวลาปัจจุบัน ฉะนั้นเรื่องการปรากฏของพระศรีอารย์ในเวลานี้ จึงมีความเป็นไปได้อย่างมาก และเรื่องราวยังตรงกับหลักฐานของศาสนาอื่นๆ เกี่ยวกับการมาของผู้ที่พวกเขารอคอยในปัจจุบันเช่นกัน โดยแต่ละศาสนาก็มีชื่อเรียกพระธรรมมิกราชต่างๆกันไปตามภาษาของเขา ซึ่งพระศรีอารย์ก็คือพระจักรพรรดิ์ของโลกที่ทุกศาสนายอมรับ ฉะนั้นนี่ก็คือพระจักรพรรดิของโลก

แต่พระสงฆ์ บางรูปสอนผู้คนโดยไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า พระศรีอารย์จักบังเกิดขึ้นมาช่วยมนุษย์ใน พ.ศ. 5000 (อจ. มหาวิรัช ป.๙ ได้กรุณาสรุปว่า เรื่องพระศรีอารย์จะมาปรากฏเมื่อ 5,000 ปี หลังจากที่พระผู้มีพระภาคเสด็จปรินิพพานนั้น ไม่มีปรากฏอยู่ในหลักฐานทางพระพุทธศาสนาใดๆ นอกจากว่าพระพุทธศาสนาจะจรรโลงไปจนถึง พ.ศ. 5,000 ซึ่งเรื่องนี้มีอยู่ในสังคายนาครั้งที่ 1 โดยกระทำขึ้นหลังจากพระผู้มีพระภาคเสด็จปรินิพพานแล้ว 3 เดือน พระมหากัสสปเถระประธานและผู้สอบถาม พระอุบาลี พระอานนท์ และพระอรหันต์ 500 รูป) ดังนั้นพุทธทำนายเรื่องพระพุทธศาสนาจะยืนยงไปถึง พ.ศ. 5,000 จึงตรงกับเรื่องในการสังคายนาครั้งที่ 1 สำหรับเรื่องพระศรีอารย์จะมาปรากฏเมื่อ พ.ศ. 5,000 นั้นอาจเป็นไปได้ที่เกจิอาจารย์ท่านใดอาจได้รจนาขึ้นมาภายหลังอย่างเช่น เรื่องของพระมาลัยเป็นต้น คำถามมีอยู่ว่าพระศรีอารย์เป็นพระจักรพรรดิผู้ที่ทุกศาสนายอมรับว่าเป็นผู้นำสันติสุข ไม่ใช่พระศาสดา ฉะนั้นพระศรีอารย์จึงไม่จำเป็นต้องสอนพระศาสนาใหม่ ่ ดังนั้นพระพุทธทำนายจึงเป็นเรื่องมีเหตุผลและมีที่มาที่ไป และอีกประการหนึ่ง ในสมัย พ.ศ. 5000  จะไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่บนโลกแล้วพระศรีอารย์จะมาทำไม เพื่ออะไร สำหรับที่มีอยู่ในพระไตรปิฎกว่าพระเมตไตรยจะปรากฏขึ้นเมื่อผู้คนมีอายุได้ 80000 ปีนั้น เป็นเรื่องมีพิรุธมาก คือบุตรจะต้องมีอายุเป็นสองเท่าของผู้ให้กำเนิดซึ่งผิดจากกฎธรรมชาติ 

                        คำถาม:  พุทธทำนายและพระศรีอารย์มีที่มาที่ไปเป็นเหตุผลคือ           

1.      ทำไมเหตุการณ์บ่งในพุทธทำนายถึงตรงกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน    มีหลักฐานรูปธรรมประกอบได้

2.      ผู้สลักอักษรบนศิลาต้องทราบข้อมูลของผู้มีญาณล่วงรู้เหตุการณ์ในอนาคต แล้วผู้มีญาณนั้นควรเป็นพระพุทธเจ้าหรือไม่

3.      ทำไมเหตุการณ์ในปัจจุบันถึงตรงกับข้อมูลในมหาปรินิพพานว่าด้วยการตรัสรู้ของพระโพธิสัตว์(พระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 5) ที่บ่งบอกถึงแผ่นดินไหวใหญ่ ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงผิดธรรมชาติติดต่อกัน

4.      ทุกศาสนามีหลักการสอนผู้คนต่างกัน แต่ทำไมพุทธทำนายถึงบ่งบอกเหตุการณ์ตรงกันหรือสนับสนุนกันกับคำทำนายของศาสนาอื่นๆ และยังตรงกับคำทำนายของนอสตราดามุสอีกด้วย

5.      อสิตะดาบสทำนายสิทธัตถะกุมารว่าถ้าครองราชย์จักเป็นจักรพรรดิครอง 4 คาบมหาสมุทร แต่ถ้าออกผนวชจะเป็นศาสดาเอกของโลก เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะออกผนวชตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ดังนั้นจักรพรรดิควรมีจริง สังเกตว่าทำไมท่านอินทราผู้รู้อมตธรรมที่ไม่มีผู้ใดทราบมาก่อนถึงเสียสละทรัพย์และความสุขตนไม่ใช่เพื่อเป็นจักรพรรดิ แต่เพื่อหาทางให้คนทั่วไปพิสูจน์ความจริงตามหลักวิทยาศาสตร์มาโดยตลอดกว่า 17 ปีและกล้าแสดงว่าเพื่อจะหยุดภัยพิบัติ โรคภัย วิกฤติต่างๆ และสร้างความสุขที่แท้จริงให้มนุษยโลกถ้าพิสูจน์ความจริงของท่าน แต่ถ้ามนุษย์ไม่สนใจสิ่งดีงามนี้ สิ่งเลวร้ายจักเกิดขึ้นแทนไม่หยุดซึ่งก็เป็นจริง เสียดายที่ไม่มีผู้สนใจ ไม่พิสูจน์ความจริง

6.      ทำไมเหตุการณ์ตามตำนานอายุนับพันๆปีของศาสนาต่างๆ ถึงสนับสนุนกันในเรื่องพระศรีอารย์จะปรากฏในปัจจุบัน และเหตุการณ์ตามตำนานนั้นๆ ได้เกิดขึ้นจริงในเวลาใกล้เคียงกัน เช่น วัวขาวของชาวอเมริกันอินเดียน (เกิด พ.ศ. 2537วัวแดงของชาวยิว (เกิด พ.ศ. 2539) ดาวพระเคราะห์เข้าแถว (เกิดพ.ศ. 2543)    พระจันทร์สีแดง (เกิด พ.ศ.2543) เป็นต้น (ดูภาพเหตุการณ์ได้ที่ The Last Day: Event(s) ใน www.selfwisdom.net) เรื่องที่กล่าวมาไม่รวมถึงภัยพิบัติ แผ่นดินไหวใหญ่ และสิ่งอื่นๆอีกที่มีอยู่ในคำทำนายด้วย ทำไมเหตุการณ์ที่เกิดได้ยากยิ่งเหล่านี้ถึงได้เกิดขึ้นในปัจจุบัน สวรรค์กำหนดเรื่องเช่นนี้หรือไม่
บางท่านคิดว่าวิบัติของเศรษฐกิจและสังคมเคยเกิดขึ้นแล้ว แต่โปรดสังเกตว่าเหตุการณ์เลวร้ายนี้ไม่เคยเกิดขึ้นคล้องจองกับภัยพิบัติสารพัดทิศ

ความคิดเห็นที่ 2 (1573804)

 

1.      โรคภัยและเป็นไปทั่วโลกเช่นในขณะนี้มาก่อน มีใครบ้างคิดได้ว่ามหาภัยมาอยู่ใกล้ตัวแล้ว
คนเราจะอยู่ด้วยความเชื่อ  มีความยึดมั่นถือมั่นโดยไม่รู้อะไรจริงอะไรเท็จ สิ่งเหล่านี้อาจเป็นเหตุให้เกิดการแตกแยกได้ ฉะนั้นควรหรือไม่ที่จะร่วมมือร่วมใจ สนับสนุนให้พิสูจน์ความจริงของพุทธทำนายขึ้น ซึ่งมิได้เสียหายอะไร แต่จะทำให้ผู้คนมีโอกาสเห็นสิ่งที่พิสูจน์เป็นจริงได้และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ถ้าพุทธทำนายและคำทำนายของศาสนาที่สำคัญๆของโลกเป็นจริง ก็จะเป็นประโยชน์แก่คนทั้งโลกนี้และโลกหน้า (ถ้าเราเชื่อว่าตายแล้วไม่สูญ)

การหาความจริง: 

มีผู้อ้างตนเป็นพระศรีอารย์มากมายทั่วโลกในปัจจุบัน ใครคือพระศรีอารย์พระองค์จริง เราสามารถพิสูจน์ความจริงได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ดังนี้

1.      ใช้สื่อทีวีประสานการพิสูจน์ข้อเท็จจริงไม่ผิดเพี้ยน เห็นภาพและได้ยินเสียง เพื่อความเป็นธรรมในการพิสูจน์ความจริงแก่ทุกฝ่ายและประชาชน

2.       เชิญผู้ที่คิดว่าตนเป็นพระศรีอารย์ส่งหลักฐานให้ผู้ทรงคุณวุฒิทั้งพระและฆาราวาส ตรวจสอบเบื้องต้นเพื่อส่งผู้ที่สมควรนำมาพิสูจน์แสดงหลักฐานความจริงต่อหน้าผู้คนในทุกชาติ ศาสนาทางทีวีเพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาใดๆ

3.      พระศรีอารย์จริงจะไม่ใช้ความเชื่อ ไม่มีอิทธิฤิทธิ์ แต่จะใช้ กาลามสูตรของพระพุทธเจ้าโคตม คือใช้ความจริงที่มีหลักฐานรูปธรรม ตามตำนานของศาสนาต่างๆและคำทำนายโลกที่เป็นที่ยอมรับคือ ผู้รู้อนาคตกาล เช่น พระพุทธเจ้าโคตมหรือโคดม พระบาทสมเด็จพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช  สมเด็จพระพุฒาจารย์พรหมรังสี (หลวงพ่อโต) มาลาคิ พอล อิแซ ไม ค่า และนอสตระดามัส เป็นต้น ได้กล่าวถึงผู้นำสันติสุขหรือพระศรีอาริย์พระองค์จริงจะสามารถพิสูจน์คำทำนายให้เป็นรูปธรรมได้ ยกเป็นตัวอย่าง เช่น

3.1 มีชื่อ นามสกุล และมีคุณสมบัติบ่งบอกชัดเจนพอประมาณ 3.2 เกิดที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย
3.3
เวลาเกิดในช่วงสงครามที่เอาชนะได้ด้วยไฟบรรลัยกัลป์หรือระเบิดปรมาณู คือสงครามโลกครั้งที่สอง
3.4
ที่อยู่ในปัจจุบันของพระศรีอารย์ เป็นบ้านอยู่บนยอดเขาหลายลูก ซึ่งบ้านดังกล่าวอยู่ในเมืองเล็กที่ล้อมรอบอยู่ภายในเมืองใหญ่อีกที
3.5
เป็นผู้มีความรู้ในสาขาต่างๆทั้งทางโลกและสวรรค์ แสดงให้เห็นเป็นจริงได้
3.6
เป็นผู้รู้ศาสนาต่างๆโดยถ่องแท้ แสดงให้ผู้คนทั่วไปเห็นจริงได้
3.7
เป็นผู้สามารถชี้และแสดงมารที่แท้จริงได้ และยังสามารถปราบมารได้ด้วยพระธรรม
3.8
เป็นผู้รู้แจ้งด้วยตนเองและพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ได้

ผู้ที่สามารถแสดงข้อเท็จจริงตามข้อที่กล่าวมาได้ย่อมมีบุคคลเดียว และท่านผู้นั้นควรใช่พระศรีอารย์ คำทำนายบ่งว่าการปรากฏตนของพระศรีอารย์เพื่อความสุขของคนทั่วโลกจักปรากฏขึ้นตลอดไป ภัยพิบัติและโรคภัยทั้งหลายจักสงบลง

ภาคผนวก:       

ผู้เปิดใจกว้างมีเหตุผล ไม่ยึดความคิดเฉพาะตนเป็นหลัก โปรดพิจารณา

1.      ทำไมต้องพิสูจน์ความจริง เพื่อให้พระศรีอารย์ปรากฏตน:  เนื่องจากพระศรีอารย์ไม่มีอิทธิปาฏิหาริย์ การแสดงธรรมต้องเป็นไปตาม กาลามสูตรซึ่งเป็นหลักการทางวิทยาศาสตร์ ศาลยุติธรรม โดยเป็นวิธีเดียวที่จะสร้างสันติสุขที่แท้จริงขึ้นได้

2.      พระศรีอารย์เป็นพระพุทธเจ้า (ผู้รู้เองโดยชอบ) พระองค์ที่ 5 ตามที่พระพุทธเจ้าโคดมได้ตรัสไว้ และมีอะไรอีกที่ตรัสหรือที่ตำนานอื่นๆบ่งไว้:      

2.1 พระศรีอารย์เป็นพระพุทธเจ้าแต่ไม่ใช่นักบวช ไม่มีสาวกจึงไม่เป็นพระศาสดา พระศรีอารย์ปรากฏขึ้นเพื่อบำรุงพระพุทธศาสนาให้เป็นเอกของโลก
2.2
พระศรีอารย์ใช้คำตรัสสอนของพระพุทธเจ้าโคดมเพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้คนทั้งหลาย ดังนั้นศาสนาของพระศรีอารย์จึงไม่มี ตำนานบ่งถึงพระศรีอารย์เปรียบเสมือนลูกแกะที่ผู้มีบาปเอาไปบูชายัญเพื่อไถ่บาปเขาเหล่านั้น พระศรีอารย์สละแล้วซึ่งครอบครัว ทรัพย์สมบัติ ลาภ ยศ สรรเสริญ เป็นผู้ติดดิน ไม่มีผู้คนสนใจเหมือนต้นไม้เหี่ยวแห้งบนแผ่นดินปราศจากน้ำแล้วใครเล่าที่จะช่วยได้
2.3
ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าผู้คนจะไม่สนใจพุทธทำนาย ทั้งนี้เพราะปกติมนุษย์จะมีเทพหรือมารดลใจให้ทำในสิ่งที่ดีหรือเลว มารจะส่งเสริมความชั่วความฉิบหายเพื่อรักษาให้มารอยู่รอดได้ ดังนั้นมารจึงดลใจผู้ขาดคุณธรรมให้ไม่สนใจพุทธทำนายและพระจักรพรรดิซึ่งเป็นสิ่งดีงามที่มารกลัวมากเพราะจะทำลายมารได้ พุทธทำนายเปรียบเสมือนเส้นผมบังภูเขา ที่มารดลใจให้คิดไปว่าพุทธทำนายเป็นเรื่องไร้สาระ นอกจากผู้มีกุศลเกิดผลบุญย่อมเห็นพุทธทำนายเป็นสิ่งดีมีค่ายิ่ง
ถึงเวลาหรือยังที่เราจะรู้ทันมาร กำจัดมารออกไปจากจิตใจ อัญเชิญเทพเข้ามาปกป้องตน รักษาความดี เกิดความเมตตา กรุณาแทนความเห็นแก่ตน หาทางช่วยกันเผยแผ่หาข้อเท็จจริงเพื่อความอยู่รอดจากมาร และสร้างสิ่งดีงามเกิดคุณธรรมขึ้นแก่ตนและผู้คนในทุกชั้นวรรณะทั้งในเวลานี้และอนาคต

สรุป:                    

ในปัจจุบัน ภัยพิบัติ โรคภัย ความโหดร้าย วิกฤติเศรษฐกิจและสังคม ได้เกิดขึ้นรุนแรงทั่วโลกตรงตามพุทธทำนายมาครึ่งทางแล้ว ส่วนที่เหลือที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นั้นย่อมมีโอกาสเป็นจริง มนุษย์จะต้องเลือกทางเดินเอง ทางแรก ผู้คนจะต้องสนใจพุทธทำนายและผลักดันสื่อทีวีให้หาความจริงในเรื่องพระโพธิสัตว์ทั้งสองเพื่อจะนำพาให้มนุษยโลกอยู่ดีมีความสุขทั่วหน้า นอกจากไม่ยากจนแล้วคนเลวคนชั่วจะไม่มี เกิดยุคศรีวิไลขึ้น อีกทางหนึ่งถ้าผู้คนไม่สนใจความจริง สัตว์โลก ทรัพย์สินจะถูกทำลายล้าง โดยแผ่นดินจะแตกแยกจมหาย น้ำจะท่วมโลก คนทั่วโลกรู้จักวันนี้ว่า วันโลกามหาวินาศ สิ่งเช่นนี้เคยเกิดขึ้นก่อนประวัติศาสตร์ของมนุษย์    ดังนั้นการที่จะเกิดขึ้นอีกย่อมเป็นไปได้ วันโลกามหาวินาศมีบ่งอยู่ไม่เฉพาะในพุทธทำนาย แต่คำทำนายโลกในภาษาและศาสนาอื่นๆได้บ่งเช่นเดียวกัน เราจะรอวันนี้โดยไม่ทำอะไรกันหรืออย่างไร หรือต้องการเป็นทาสของมารทั้งชาตินี้และชาติหน้า

การเข้าใจพุทธทำนาย พระโพธิสัตว์ และยุคศรีวิไลให้ทะลุปรุโปร่งตั้งแต่เริ่มทราบนั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้ นอกจากท่านมีความรู้พื้นฐานในเรื่องนี้ดีอยู่ก่อน เหมือนอยู่ชั้นประถมแล้วจะกระโดดไปศึกษาขั้นมหาวิทยาลัยเป็นสิ่งยากยิ่งถ้าไม่ได้เรียนชั้นมัธยม ดังนั้นเราควรมีความเชื่อในพุทธทำนายก่อนว่าได้ชี้ถึงสิ่งดีมีประโยชน์แก่บุคคลและส่วนรวม แล้วเราร่วมมือร่วมใจพิสูจน์ข้อเท็จจริง ย่อมเกิดความเข้าใจดีขึ้นได้  

อ้างอิง:             

ท่านสามารถศึกษาเรื่องพระศรีอารย์และข้อมูลเกี่ยวข้องได้ เช่นจาก

1.      หนังสือที่คณาจารย์มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกได้เขียนในเรื่องพระศรีอารย์โดยใช้ชื่อ Messiah หรือ Mettreya ที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลกเป็นหลักเช่น

1.1    World Scripture โดยคณาจารย์จากทั่วโลก นำโดย ศ. เกียรติคุณ Ninian Smart มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ที่ซานต้าบาบาร่า สหรัฐอเมริกา
1.2   Mettreya
พิมพ์โดย มหาวิทยาลัย Princeton สหรัฐอเมริกา และมหาวิทยาลัย Cambridge ประเทศอังกฤษ ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับ Mettreya โดย ศ. Joseph M. Kitagawa มหาวิทยาลัยชิคาโก สหรัฐอเมริกา

2.      พระไตรปิฏกเรื่องมหาปรินิพพาน การตรัสรู้ของพระโพธิสัตว์
จักกวัตติสูตร จากเรื่องอนาคตวงศ์ และพระสูตรจักรพรรดิสิงห์ราช

3.      ข้อมูลพระศรีอารย์ที่ www.selfwisdom.net

4.      Web pages ยอดนิยมของโลกเรื่อง Messiah หาดูได้ที่ Google โดยค้นหา “Nostradamus prediction 2009” แล้วดูเอกสาร “2008-2009 NOSTRADAMUS Prophecies and …” และ ค้นหา “Messiah at present time” แล้วดูเอกสาร “QUALIFICATION Of THE TRUE MESSIAH“

5.      จากข้อ 2 หน้า 5 ใช้ Google หา “Mayan apocalypse prophecy” และ “NASA solar 2012” เพื่อดูพยากรณ์ของมายันปี พ.ศ. 2555 และ NASA ชี้ผลจะกระทบต่อมนุษยโลกจากการระเบิดครั้งยิ่งใหญ่ของดวงอาทิตย์ในปี พ.ศ. 2555

 

หากข้อมูลนี้ ผิดพลาดบางประการเพียงใด ข้าพเจ้าก็ขอกราบประทานอภัย ต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์รวมถึงผู้มีพระคุณทุกท่านด้วย ข้าพเจ้ายังเป็นผู้มีความรู้น้อยด้อยปัญญา จงอดโทษให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด หากข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์เพียงใด แก่ศาสนาและสาธุชนทุกท่าน ก็ขอบุญกุศลนี้จงถึงแก่ผู้อ่าน และ เจ้ากรรมนายเวร เทพ พรหม เทวดา รวมถึงผู้มีพระคุณทุกท่าน ขอท่านจงมีส่วนแห่งบุญนี้และขอบุญนี้จงส่งผลให้ข้าพเจ้าได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาตินี้ด้วยเถิด

ผู้แสดงความคิดเห็น ธรรมนูญ นาคสุข (naksuk4-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-21 22:58:16


ความคิดเห็นที่ 3 (1573808)

 

คำทำนายวันสิ้นโลก - ภัยพิบัติล้างโลก - วันสิ้นสุดของโลก 2012
(Civilization’s end
หรือ Apocalypse หรือ End Time 2012)

เรื่องนี้มีที่มาที่ไป ไม่ให้เชื่อตื่นตกใจ หรือ หลงงมงาย
แต่ควรศึกษาพิจารณา ทำไมถึงตรงกับพุทธทำนาย "แผ่นดินถล่มเป็นทะเล"
ก่อนทุกอย่างจะสายเกินแก้

หลักฐานแสดงความเป็นไปได้ที่พระจักรพรรดิจะปรากฏในปัจจุบัน

 

นิตยสาร TIME ฉบับที่ March 23, 1992 ลงบทความเกี่ยวกับการปรากฏของ Messiah หรือ พระจักรพรรดิ หรือ พระศรีอารย์ และคาดว่าพระจักรพรรดิเป็นคนอเมริกัน ซึ่งใกล้เคียงที่ท่านอินทราคนไทย นับถือพุทธที่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา

 

ผู้นำทางคริสต์ศาสนาเช่น Pope John Paul the second และ Billy Graham คาดหวังการมาปรากฏของพระจักรพรรดิในปัจจุบัน เหตุเนื่องจากเหตุการณ์วิปริตของโลกในปัจจุบัน ทั้งแผ่นดินไหว น้ำท่วม คล้องจองกับคำทำนายในคัมภีร์

เนื่องจากคำทำนายและตำนานต่างๆ บ่งบอกว่าพระจักรพรรดิจะปรากฏในปัจจุบัน จึงทำให้มีหลายบุคคลในหลายประเทศอ้างตนเป็นพระจักรพรรดิหรือชื่อที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างเช่น

 

ผู้อ้างตนเป็นพระจักรพรรดิในประเทศอังกฤษ

ในประเทศไทยมีผู้อ้างตนเป็นพระจักรพรรดิ หรือพระศรีอารย์หลายท่าน ฉะนั้นทางยุติธรรมคือการพิสูจน์ความจริง

สำหรับท่านอินทราไม่แสดงตน แต่ส่งข้อมูลไปยังบุคคลและลงบทความสั้นๆในหนังสือพิมพ์ซินซินนาติ เมื่อ พ.ศ. 2540 ว่าจักรพรรดิเป็นที่ยอมรับในศาสนาและลัทธิที่สำคัญของโลก และถ้าพิสูจน์ความจริงของท่านแล้ว น้ำท่วมและภัยพิบัติสารพัดทิศที่เกิดขึ้นอย่างผิดปกติไปทั่วโลกนั้นจะหยุดลง เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของเทพ

 

ท่านอินทราและเพื่อนสนิทอีก 2-3 คนได้พยายามทุกวิถีทางให้มีการพิสูจน์ความจริงของท่านขึ้นเพื่อหยุดภัยพิบัติ โรคภัยและสิ่งเลวร้ายต่างๆ มาตั้งแต่ พ.ศ. 2535 จนถึงปัจจุบัน ดังเช่น ท่านอินทราและเพื่อนสนิทได้ส่งหนังสือไปยังสื่อทั้งหนังสือพิมพ์และทีวีทั่วโลกอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี และยังส่งหนังสือให้ผู้นำของประเทศ เช่นประธานาธิบดีประเทศสหรัฐอเมริกา โดยส่งไปยัง The White House และที่บ้านประธานาธิบดีที่ Texas ในวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2540 แต่ไม่ได้รับคำตอบใดๆ ในวันที่ 28 เดือนปีเดียวกัน ที่ Texas ได้เกิดพายุหมุนรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา (The deadliest tornadoes) คนตายไป 32 คน และเมืองนั้นไม่มีอยู่อีกต่อไป Small-town subdivision: “It’s not there anymore” ตามที่แสดงอยู่ในหน้าต่อไป  ปัจจุบันนี้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาประสบปัญหาด้านเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆที่เกิดขึ้นมากมายและรุนแรงในทุกๆปี

 

อินทราส่งหนังสือถึงประธาธิบดีประเทศสหรัฐอเมริกา (มีรายเซ็นผู้รับ) ขอให้ช่วยจัดการพิสูจน์ความจริงก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป แต่ท่านอินทราก็ไม่ได้รับความสนใจประการใด ในปัจจุบันนี้ประเทศสหรัฐอเมริกาประสบภัยพิบัติ

 

มากมายจนไม่มีเงินจ่ายช่วยประชาชนอย่างที่เคย (ดู http://www.selfwisdom.net/true%20messiah/afl.htm ประกอบ)

เป็นที่น่าสนใจว่าที่อื่นๆประสบภัยพิบัติต่างๆ แต่เมืองซินซินนาติ (Cincinnati)ที่ท่านอินทราอยู่มีแต่สิ่งดีงาม

 

นิตยสาร TIME: พ.ศ. 2535 มีพายุเป็นประวัติการณ์ และ
Cincinnati Enquirer: March
พ.ศ. 2540 เมืองใกล้เคียงซินซินนาติประสบภัยพิบัติ แปลกที่ซินซินนาติไม่เป็นไร ที่เป็นเช่นนี้ถือว่าโชคดี

เป็นที่น่าสังเกตว่าท่านอินทราไม่มีอิทธิปาฏิหาริย์ใดๆ แต่มีเหตุการณ์มากที่แสดงว่าสวรรค์กำลังช่วยให้ท่านอินทรา

 

ได้รับการพิสูจน์ความจริง เพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้คนทั่วไป

นิตยสาร TIME บ่งถึง เริ่มต้นจากปี พ.ศ. 2534 ที่โลกป่วยและเป็นมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน ซึ่งตรงกับพุทธทำนาย และยังตรงกับปีที่ท่านอินทราอธิฐานบุญในปี พ.ศ. 2534 และในเดือนมกราคม พ.ศ. 2535 ท่านได้รู้อมตธรรม

 

TIME ฉบับ July 8, 1996

ทำไมเหตุการณ์ทางธรรมชาติที่แปลกๆได้เกิดขึ้น ถ้าพิจารณาให้ลึกซึ้ง ไม่น่าจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เพราะไม่ได้เกิดขึ้นเพียงหนสองหน แต่ได้เกิดขึ้นมากมายเหมือนกับจะดูเหมือนว่ามีอะไรบังคับให้เกิดขึ้น ถ้าคำทำนายต่างๆพิสูจน์เป็นความจริงแล้ว สวรรค์น่าจะเป็นตัวการที่ทำให้สิ่งแปลกๆทางธรรมชาติเกิดขึ้น เพื่อประจักพยานในการมาปรากฏของพระจักรพรรดิ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธรรมนูญ นาคสุข (naksuk4-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-21 23:16:12


ความคิดเห็นที่ 4 (1573810)

 

ความจริงที่เราหนีไม่พ้น กำลังคืบใกล้เข้ามาทุกทีๆ คิดกันให้ดี ถึง

คำทำนายวันสิ้นโลก - ภัยพิบัติล้างโลก - โลกาวินาศ 12-2013)
(Civilization’s end
หรือ Apocalypse หรือ End Time 2012-2013

พระจักรพรรดิรู้วิธีหยุดโลกาวินาศได้ แต่ผู้คนต้องหาความจริงใน
พระจักรพรรดิ (พระศรีอารย์) ที่มีองค์จริงขณะนี้ หาข้อเท็จจริงได้ตามหลักฐาน

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้
มีพระสงฆ์ไม่น้อยทำลายพระพุทธศาสนาเพราะขาดกาลามสูตร สอนผู้คนผิดๆ

วัตถุประสงค์ของหนังสือนี้ เพื่อหาทางให้ผู้คนทั้งหลาย ได้พิสูจนฺข้อเท็จจริงของพระจักรพรรดิหรือพระศรีอารยที่์มีองค์จริงในขณะนี้ เพื่อพระจักรพรรดิจะสามารถออกมาเพื่อหยุดวิกฤติของ ชาติ และนำผู้คนเข้าสู่ยุคทองที่มีสันติสุขตลอดไป เรื่องพระจักรพรรดินี้ พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้แล้ว และมีอยู่ในศาสนาที่สำคัญๆของโลก ที่กล่าวไว้เหมือนๆกัน

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ว่า "ตถาคตสงสารสัตว์ เวลาพลโลกยังเหลือน้อยเต็มที คำทำนายของตถาคตนี้ ยังให้สัตว์ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วเชื่อหรือไม่เชื่อ ไม่เล่าให้ผู้ใดรู้กันต่อๆ ไป นับว่าเป็นกรรมแห่งสัตว์ ต่างสิ้นสุดกันตามกาลเวลา" (พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าคนนั้นมีความประมาทมีบาปเป็นของตน ขาดบุญกุศล จึงไม่บอกเล่าสิ่งดีงามกันต่อๆไป ย่อมนับว่าเป็นกรรมของสัตว์เหล่านั้นเอง)

ด้วยความตั้งใจยิ่ง ที่จะช่วยประเทศชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยใจจริง และด้วยบารมีของพระจักรพรรดิ ทำให้้ผมได้เห็นพระไตรปิฎก ๓/๒๐ ที่สำคัญ ว่าด้วยการมาปรากฏของพระศรีอารย์ในปัจจุบันเพิ่มเติม ในสันติสุข-3 ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าโคตม ตรัสอย่างไรเกี่ยวกับพระมหาเถระโพธิสัตว์ หรือ พระมหาโพธิสัตว์ (พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร. 9) และ พระธรรมมิกราช (พระจักรพรรดิ) สำหรับพระจักรพรรดิ ที่จะปรากฏในเวลาปัจจุบันนี้ พระพุทธเจ้าโคตมทรงตรัสอย่างไร มีหลักฐานอะไรสนับสนุน
---------------------------------------------------------------------------------------

พระไตรปิฏกกัณฐ์ที่ ๓/๒๐ พระศรีอารย์ นี้มีข้อมูลไม่น้อย ที่ตรงกับพุทธทำนายบนศิลาในเขตมหาวิหารสวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย และตรงกับข้อมูลอื่นๆ ที่ได้นำไปลงไว้แล้วในเวบ metteya.org (ไม่รวมข้อมูลจากศาสนาอื่นๆ) จึงได้นำข้อมูลที่เพิ่มมาใหม่นี้ มาเผยแพร่ต่อให้สาธุชนได้ทราบ เพื่อเราจักได้พยายามช่วยกันเปิดเผยความเป็นจริงในเรื่องพระจักรพรรดิว่า ที่แท้จริงแล้วพระจักรพรรดิมาปรากฏในปัจจุบัน ไม่ใช่ พ.ศ. 5000 ตามที่เคยฟังตามกันมาโดยไม่มีหลักฐานที่เป็นเหตุผล ไม่มีมีที่มาที่ไปยืนยันข้อเท็จจริง 

คนไทยจะได้มีโอกาสพิสูจน์ความเป็นจริงเรื่องพระจักรพรรดิ และความเป็นจริงจะนำพระศรีอารย์ปรากฏองค์ เพื่อจะได้มาผู้คนช่วยชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ และสร้างสันติสุขที่แท้จริงขึ้นบนโลก ในเวลาปัจจุบันนี้

ขออนุโมทนาผู้เป็นเจ้าของข้อมูลพระไตรปิฏกกัณฐ์ที่ ๓/๒๐ พระศรีอารย์ ไว้ ณ ที่นี้
ที่มา พลน้อย สาชิกเวบพลังจิต

พระไตรปิฏกกัณฐ์ที่ ๓/๒๐ พระศรีอารย์ คือพระจักรพรรดิกึ่งพระศาสนานี้ มาจากใบลานเก่าที่วัดแถวบ้าน ใบลานนี้เก่ามากตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๙๘ ขอยืมพระท่านที่วัดมา scan และส่งคืนวัดไปแล้ว รับรองว่าเป็นของจริงแน่นอน ยังมีต้นฉบับที่ scan อยู่ครับและเท่าที่ทราบ

ยุคศรีวิไล อันใกล้นี้ -เป็นยุคที่พระศรีอารย์ จะปกครองโลกนี้ทั้งหมด (ตรงตามพระพุทธทำนาย และพระสูตร

อื่นๆ และที่ทุกๆศาสนาบ่งไว้) ยุคกาขาว - จะหมดในปี 2555 นี้ ดู link ด้านล่างนี้นะครับ

พระไตรปิฏกกัณฐ์ที่ ๓/๒๐ พระศรีอารย์ คือพระจักรพรรดิกึ่งพระศาสนานี้

http://board.palungjit.com/f13/%E0%B...89-194845.html
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พลน้อย : 30-03-2010 เมื่อ 10:16 AM
---------------------------------------------------------------------------------------
ของเดิม  01-07-2009, 05:48 PM       ที่มา พลน้อย สมาชิกพลังจิต
http://board.palungjit.com/f13/%E0%B...89-194845.html

พระไตรปิฏกกัณฐ์ที่ ๓/๒๐ พระศรีอารย์ คือพระจักรพรรดิกึ่งพระศาสนานี้

    อยู่บนใบลาน : พระศรีอารย์เทศนา ๒๐กัณฐ์

    โดย :อจ.ธวัช เฟื่องประภัสสร์ ปธ.๙ สำนักวัดเบญจมบพิตร

    ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา : นายรวล รุ่งเรืองธรรม พ.ศ.๒๔๙๘ (สงวนลิขสิทธิ์)     สำนัก พิมพ์ โรงพิมพ์อักษรเจริญทัศน์
   
๑๙๕ เสาชิงช้า ถ.บำรุงเมือง พระนคร กรุงเทพฯ

    พระศรีอารย์ กัณฐ์ที่๓
   
มิตตกถา การคบเพื่อน

        สตฺ โถ ปสวโต มิตฺตํ มาตา มิตฺตํ สเก ฆเร
   
สหาโย อตฺถชาตสฺส โหติ มิตฺตํ ปุนปฺปุนํ
   
สยํ กตานิ ปุญฺญานิ ตํ มิตฺตํ สมฺปรายิกนฺติ

    บัดนี้ จะแสดงพระธรรมเทศนาเรื่องพระศรีอารย์ ต่อจากกัณฐ์ก่อน เพื่อเป็นเครื่องเจริญศรัทธาประดับปัญญาแห่งท่านทั้งหลาย ก็การที่ท่านมาประชุมกันฟังธรรมในวันนี้ ก็ได้ชื่อว่าได้กระทำคุณงามความดีหรือที่เรียกว่าบุญกุศล อันนับว่าเป็นเพื่อนที่ดี สามารถติดตามท่านไปในภพหน้า ...

  เมื่อชำระจิตของตนให้ ปราศจากกิเลสเครื่องเศร้าหมองทั้งปวง เช่นนั้นแล้ว ย่อมมีจิตผ่องใสไม่ขุ่นมัว ดุจน้ำอันใสสะอาดปราศจากมลทินฉะนั้น เมื่อปฏิบัติและหยั่งทราบชัดลงเช่นนั้น จิตย่อมหลุดพ้นจากอาสวกิเลส เป็นสมุจเฉทประหาร บรรลุมรรคผลนิพพาน อันเป็นเอกันตบรมสุข โดยเหตุนี้ สีล สมาธิ ปัญญา จึงนับว่าเป็นข้อปฏิบัติส่วนปรมัตถปฏิปทา ด้วยประการฉะนี้.

    บัดนี้จะ ได้แสดงเรื่องพระศรีอารย์สืบต่อไป ดำเนินความว่า เมื่อมหายักษ์ได้สมาทานศีลอยู่ตราบเท่าอายุขัยแล้วก็กระทำกาลกิริยา ตายไปบังเกิดเป็นบุรุษคนหนึ่ง มีกำลังร่างกายแข็งแรง อาศัยอยู่ ณ เชิงเขาแห่งหนึ่ง หาเลี้ยงชีพด้วยการปลูกผักพืชพรรณต่างๆ เขาที่บุรุษอาศัยอยู่นั้นก็เป็นเขาลูกเดียวกันกับเขาที่สมเด็จพระพุทธองค์ เคยเสด็จไปสรงน้ำ และได้ทรงตากผ้าชุบสรงไว้ และได้มีฝูงลิงพากันมาถ่ายมูตรคูถ ทำให้เปรอะเปื้อนนั่นเอง .....

    อเถก ทิวสํ อยู่มากาละวันหนึ่ง บุรุษอริยเมตไตรยนั้นได้ออกมาตรวจตราดูไร่แตงโมของตนซึ่งกำลังมีผลดกอยู่ เต็มไร่ ขณะที่ออกมายืนดูอยู่นั้นก็ได้เห็นฝูงลิงพากันมาลักแตงโมกินเป็นอาหาร บุรุษหนุ่มจึงวิ่งไล่กวดฝูงลิงเพื่อให้หนีไป

    บังเอิญ วันนั้น สมเด็จพระบรมศาสดามาถึงไร่แตงโมของบุรุษอริยเมตไตรย ประทับยืนอยู่ ณ สถานที่แห่งหนึ่ง บุรุษหนุ่มได้วิ่งไล่ลิงไปถึงสถานที่ที่พระพุทธองค์ประทับยืนอยู่นั้น และได้เหยียบเอาพระฉายา เงาขององค์

พระบรมศาสดาโดยมิทันได้สังเกต

    ครั้นบุรุษหนุ่มเหลียวไป เห็นพระพุทธองค์ก็เกิดมีความเลื่อมใสเป็นกำลัง ตรงเข้าไปถวายอภิวาทแล้วจึงนำแตงโมจากไร่ของตน ๗ ผลด้วยกัน น้อมนำเข้าไปถวายพระองค์ แต่ว่าแตงโมผลหนึ่งนั้นไม่บริสุทธิ์ เพราะมีรอยหนูเจาะกัดกินเสียก่อน .....

    เมื่อพระพุทธเจ้าทรงรับผล แตงโมจากบุรุษหนุ่มอริยเมตไตรยแล้ว จึงได้ตรัสพยากรณ์ว่า ดูก่อนบุรุษ กุศลผลทานที่ท่านได้นำเอาแตงโม ๗ ผลมาถวายแก่ตถาคตนี้ (พระจักรพรรดิองค์จริงที่มีชีวิตอยู่ขณะนี้ มีหลักฐานพิสูจน์ความจริงได้) จะเป็นปัจจัยให้ท่านได้บังเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิราชอันประเสริฐในระหว่าง กลางแห่งศาสนาของตถาคต และท่านจะได้ช่วยยกย่องศาสนาของตถาคตให้รุ่งเรืองสืบไป ก็แต่ว่า ผลกรรมที่ท่านได้เหยียบเงาของตถาคตนั้นก็ดี ผลกรรมที่ท่านนำแตงโมไม่บริสุทธิ์ มีรอยหนูเจาะมาถวายตถาคตนั้นก็ดี ผลกรรมนั้นจะส่งให้ท่านบังเกิดเป็นมนุษย์มีรูปร่างน่าเกลียดน่ากลัว ที่ศีรษะของท่านจะมีรอยแผลเป็น ดุจรอยหนูเจาะแตงโม ครั้นต่อมา ท่านจึงจะกลับมีผิวพรรณผ่องใส มีร่างกายงามผุดผ่องดุจสีทอง

    เมื่อพระ พุทธองค์ได้ตรัสพยากรณ์จบลงแล้ว ฝ่ายบุรุษหนุ่มศรีอริยเมตไตรยก็ได้สมาทานศีล อำนวนทานจนตราบเท่าอายุขัย ครั้นสิ้นชีพแล้วก็ได้ไปบังเกิดเป็นโอรสของพระราชา มีพระนามว่า อชิต กุมารเมื่อเจริญวัยก็ได้เล่าเรียนศิลปวิทยา แล้วได้ออกบรรพชาในสำนักของพระพุทธเจ้า ได้เรียนพระไตรปิฎกจนแตกฉานเชี่ยวชาญ และได้บำเพ็ญสมณธรรมอยู่จนตราบเท่าอายุขัย เมื่อแตกกายทำลายขันธ์แล้ว ได้จุติไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิตเทวพิภพ

    ใน คัมภีร์อนาคตวงศ์ได้กล่าวไว้ว่า เมื่อใกล้ศาสนาของพระบรมศาสดาของเราจะเสื่อมโทรม พระศรีอารย์บรมโพธิสัตว์จะได้จุติจากสวรรค์ลงมาเสวยพระชาติเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิ ช่วยยกย่องพระศาสนาให้รุ่งเรืองสืบต่อไป (พระจักรพรรดิองค์จริงที่มีชีวิตอยู่ขณะนี้ มีหลักฐานพิสูจน์ความจริงได้)

    ในพระ คัมภีร์ได้กล่าวต่อไปว่า ในกาลเมื่อพระศรีอารย์จะได้จุติจากสวรรค์ลงมาเกิดเป็นสมเด็จพระเจ้า จักรพรรดิราชนั้น ท้าวเธอจะมาประทับอยู่ในปราสาทราชวังอันใหญ่โต ณ ปราสาทที่ท้าวเธอประทับอยู่นั้น จะมีเทวดา๕หมื่นองค์มาคอยพิทักษ์รักษา นอกจากพวกเทวดาแล้ว ยังมียักษ์อีก๕หมื่นตน พร้อมทั้งพระยานาคและพระยาครุฑ รวมทั้งบริวารอีกมากมาย ต่างก็จะพากันมาเฝ้าปราสาท

    พระราชวัง ของพระศรีอารย์นั้น จะมีประตู๘๐ประตู แต่ละประตูจะมีฝูงเทพยดาและยักษ์คอยเฝ้าอยู่ทุกๆประตู ประชาชนที่จะผ่านเข้าประตูพระราชวังของท้าวเธอได้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่ตั้งอยู่ในศีลธรรม ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ประพฤติแต่การสุจริต ส่วนผู้ที่ประพฤติทุจริตจะไม่สามารถผ่านเข้าไปภายในได้

ในบริเวณปราสาทนั้นเล่า ก็จะสว่างไสวไปด้วยดวงประทีป รุ่งเรืองด้วยแสงแก้ว ๙ ประการ (พระจักรพรรดิองค์จริงที่มีชีวิตอยู่ขณะนี้ อาจจะแสดงความจริงได้) กลางคืนกับกลางวันนั้นก็จะแลดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ต่างกันแต่ว่าตอนกลางวันสว่างด้วยแสงอาทิตย์ ส่วนกลางคืนจะสว่างด้วยแสงจันทร์และแสงแก้วมณี เป็นที่น่าดูน่าชมยิ่งนัก .....

รอบปราสาทของพระองค์ จะมีต้นกัลปพฤกษ์ ๑,๖๐๐๐ ต้น อาณาเขตของปราสาทนั้นจะกว้างขวางหลายโยชน์ จะเป็นที่อยู่ของประชาชนพลเมือง ซึ่งล้วนแต่มีจิตใจเป็นกุศลทั้งหมด บ้านเมืองจะร่มเย็นเป็นสุขด้วยประการฉะนี้

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พลน้อย : 30-03-2010 เมื่อ 10:02 AM
---------------------------------------------------------------------------------------

โปรดค้นดูใน พระไตรปิฏก ๒๐ กัณฐ์  พระศรีอารย์

องค์พระเมตไตรย ต้องบุรพกรรม (โลกนี้ล้วนเป็นมายาสมมุติ อย่าได้ .....

กาลต่อมา ในชาติหนึ่งที่พระเมตไตรยมาเกิดเป็นมนุษย์ชาวไร่ กระทำไร่เลี้ยงชีวิตอยู่ริมภูเขา .....
ขณะที่เมตไตรยกระทาชายวิ่งไล่ขับฝูงลิงที่ลงมากินแตงโมใน ไร่นั้น ก็เลยวิ่งเลยถลำ ..... พระสงฆ์ถึงแม้จะเรียนรู้จนจบพระ ไตรปิฎกสักร้อยครั้งพันครั้ง ...

http

ผู้แสดงความคิดเห็น ธรรมนูญ นาคสุข (naksuk4-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-21 23:20:19


ความคิดเห็นที่ 5 (1573812)

 

2,500 ปี จะเกิดสิ่งเหล่านี้ (ทรงเล่าให้แก่พระอานนท์) ...

แล้วต่อมา ภายหลัง (พ.ศ.2560 [หมายเหตุ พ.ศ. ไทยเร็วไปกว่าความเป็นจริงประมาณ 48 ปี]) ไปแล้ว ที่ธรรมชาติร่อนตะแกรงครั้งสุดท้ายสิ้นสุด พุทธศาสนิกของพระองค์ในดินแดนสุวรรณภูมิเหลือรอดอยู่เพียง 25% ในจำนวนนี้ที่มีชีวิตอยู่ในสภาพคนบ้าอยู่มากมาย ที่เสียสติไประหว่างพิบัติภัยของโลกเกิดขึ้น  แล้วองค์พระศรีอริยเมตไตรย จึงจะเสด็จมาช่วยฟื้นฟูสังคยานาพระพุทธศาสนา ให้คืนกลับสู่รูปรอยที่ถูกต้อง (อันเกิดจาก ข้าศึก ยักษ์ มาร มาแย่งชิงบิดเบือนคำสอน ให้ต่างไปจากสัมมาทิฐิ ยากแก่ผู้ที่จะนำไปปฏิบัติตาม ที่พระพุทธองค์ทรงทำนายให้แก่พระอานนท์ฟัง)

ให้คืนกลับมาอีก ครั้งหนึ่ง ในยุคของชาวศิวิไลซ์ ให้พุทธศานา เป็นอันดับหนึ่งของโลก มีผู้นำมายึดถือปฏิบัติตามมากที่สุด ยังความเจริญรุ่งเรืองอันไพศาล แก่ดินแดนสุวรรณภูมิ ทั้งทางโลกและทางธรรม สืบไป จนสิ้นยุดสมัย 5,000 ปี
By data_n 2009-12-28 08:20:26 [IP : 113.53.38.xxx]
ตอบ 8
---------------------------------------------------------------------------------------

เรื่องต่อไปนี้ หาข้ออ้างอิงที่สมบูรณ์ไม่ได้ และเป็นไปในรูปนิทานธรรมะ ซึ่งประกอบไปด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ ท่านเป็นผู้พิจารณาเอาเอง

พระศรีอาริยเมตไตร (พระอชิตเถระ) นิทานธรรมะ. ... พัน พระองค์มีพระราชโอรสประมาณพันพระองค์ พระราชโอรสผู้ใหญ่นั้น ทรงพระนามว่า อชิตราชกุมาร เจ้าอชิตราชกุมารนั้น ...
www.junjaowka.com/webboard/showthread.php?t=25342 -

พระศรีอาริยเมตไตร (พระอชิตเถระ)
เป็นเรื่องที่ขาดที่มาที่ไป ยกขึ้นมากล่าวโดยไร้ข้ออ้างอิง

เป็นใจความว่า เมื่อศาสนาพระตถาคตครบ ๕๐๐๐ ปีแล้ว ฝูงสัตว์ก็มีอายุถอยลง คงอยู่ ๑๐ ปีเป็นอายุขัย ครั้งนั้นแล จะบังเกิดมหาภัยเป็นอันมาก ....

ปางเมื่อองค์สมเด็จพระบรมโพธิสัตว์ศรีอาริยเมตไตรยเจ ้าเสด็จออกบรรพชานั้น ฝูงเทพยดา อินทร์ พรหม ยม ยักษ์ และ มนุษย์ นาค ครุฑ คนธรรพ์ทั้งหลาย กระทำสักการบูชา ทั้งพระยาบรมจักรพรรตราธิราชเจ้าผู้ประเสริฐ ก็พร้อมด้วยแสนสาวสนมในทั้งปวง และโยธาหาญ หมู่จตุรงค์องค์พยุหะเสนาอเนกนับมิได้ เสด็จไปที่ใกล้แห่งสมเด็จพระบรมโพธิสัตว์ ....

องค์พระศรีอาริยเมตไตรยเจ้าผู้ทรงพระภาคมีประเภทเ ป็นอันงามนั้น
-
พระองค์มีพระวรกายสูงได้ ๘๘ ศอก
-
พระองค์ใหญ่กว้างได้ ๒๕ ศอก
-
ตั้งแต่พระบาทถึงพระชานุมณฑลมีประมาณ ๒๒ ศอก
-
ตั้งแต่พระชานุมณฑลขึ้นไปถึงพระนาภีประมาณ ๒๒ ศอก
-
ตั้งแต่พระนาภีขึ้นไปถึงพระรากขวัญทั้ง ๒ ประมาณ ๒๒ ศอก
-
ตั้งแต่พระรากขวัญขึ้นไปถึงพระเศียรเกล้า ที่สุดยอดพระอุณหิส เปลวพระพุทธรัศมีนั้น ประมาณ ๒๒ ศอก เสมอกันทั้ง ๔ส่วน
-
พระรากขวัญทั้ง ๒ แต่ละอันนั้นยาวได้ ๕ ศอก
-
อันว่าพระหัตถ์ทั้ง ๒ ซ้าย-ขวานั้น ยาวได้ ๔๐ ศอก ( เข้าใจว่าความยาวจากหัวไหล่ถึงปลายนิ้วมือแต่ละข้าง ยาวได้ ๔๐ ศอก .... พีรจักร ) ....

พระศรีอาริยเมตไตรยเจ้า ตรัสแสดงพระสัทธรรมเทศนา
พระธัมมจักกัปปวัตตนสูตรนั้น มนุษย์และเทพยดาทั้งหลายได้ซึ่งธรรมาภิสมัย มรรคและผลธรรมวิเศษ ประมาณ ๓ แสนโกฏิฯ

---------------------------------------------------------------------------------------

ฉะนั้นที่พระสงฆ์ไม่น้อยสอนพุทธศาสนิกชนว่า พระศรีอารย์จะมาปรากฏเมื่อ พ.ศ. 5000 ไม่ควรเป็นจริง เพราะขาดหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้

แต่นี่ไม่ใช่ปัญหา ปัญหาอยู่ที่ว่า การบอกกล่าวให้คนไทยช่วยกันหาความจริงในเรื่องพระจักรพรรดิ ที่จะสามารถนำผู้คนช่วย ประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และนำผู้คนไปสู่สันติสุขโดยสันติวิธีได้ ปรากฏว่าหาคนไทยสนใจได้ยาก เพราะไม่มีใครเชื่อว่าพระจักรพรรดิ (พระศรีอาร

ย์) จะมาปรากฏในเวลาปัจจบัน นี่เป็นเพราะการสอนที่ผิดๆ เป็นผลที่มารมาปิดบังตา เป็นผลที่พุทธศาสนิกชนไม่รู้จักใช้กาลามสูตร เป็นไปตามที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสทำนายไว้แล้ว

สำหรับข้อเท็จจริงที่พระศรีอารย์จะมาปรากฏในกึ่งพุทธกาล หรือเวลาในขณะนี้ มีข้อมูลบ่งบอกไว้มาก และยังตรงกับศาสนาอื่นๆด้วย โปรดดูที่เวบ metteya.org เพิ่มเติม

เรื่องที่แบบมานี้ มี Ref. ไว้ให้ศึกษาต่อ ไม่มีการบิดบังข้อมูล
เรื่องเหล่านี้มิได้จะให้ท่านเชื่อ แต่ได้โปรดพิจารณาเอาเอง โดยใช้กาลามสูตรของพระพุทธองค์ เป็นเครื่องพิจารณาว่าสิ่งใดเป็นกุศลสิ่งใดเป็นบุญไม่เป็นโทษ สิ่งใดที่จะเป็นประโยชน์แก่ ขาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชน

ผู้แสดงความคิดเห็น ธรรมนูญ นาคสุข (naksuk4-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-21 23:21:09


ความคิดเห็นที่ 6 (1573903)

 

ขออนุโมทนาที่คุณธรรมนูญได้นำข้อมูลและหลักฐานอ้างอิงเกี่ยวกับพระศรีอารย์ มาให้ได้ศึกษาโดยละเอียด แต่ปัญหาคงจะไม่ใช่อยู่ที่ว่าใครคือพระศรีอารย์อย่างเดียวแต่มีนัยยะสำคัญ ที่ดูเหมือนจะเป็นการเร่งให้ผู้คนหันมาทำความดีให้มากๆเพื่อช่วยกันรักษาโลกของเราเอาไว้จากหล่ามารทั้งหลาย

ผู้แสดงความคิดเห็น วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-22 11:47:11


ความคิดเห็นที่ 7 (1573935)

ขออนุโมทนาบุญค่ะ สาธุ

เห็นด้วยกับคุณหมอวัฒค่ะ

การทำความดีทุกลมหายใจ

ฉะนั้นที่พระสงฆ์ไม่น้อยสอนพุทธศาสนิกชนว่าพระศรีอารย์จะมาปรากฏเมื่อพ.ศ. 5000ไม่ควรเป็นจริงเพราะขาดหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้แต่นี่ไม่ใช่ปัญหา ปัญหาอยู่ที่ว่าการบอกกล่าวให้คนไทยช่วยกันหาความจริงในเรื่องพระจักรพรรดิ ที่จะสามารถนำผู้คนช่วยประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และนำผู้คนไปสู่สันติสุขโดยสันติวิธีได้ปรากฏว่าหาคนไทยสนใจได้ยาก เพราะไม่มีใครเชื่อว่าพระจักรพรรดิ (พระศรีอารย์) จะมาปรากฏในเวลาปัจจบัน นี่เป็นเพราะการสอนที่ผิดๆ เป็นผลที่มารมาปิดบังตาเป็นผลที่พุทธศาสนิกชนไม่รู้จักใช้กาลามสูตรเป็นไปตามที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสทำนายไว้แล้ว สำหรับข้อเท็จจริงที่พระศรีอารย์จะมาปรากฏในกึ่งพุทธกาล หรือเวลาในขณะนี้มีข้อมูลบ่งบอกไว้มาก และยังตรงกับศาสนาอื่นๆด้วย โปรดดูที่เวบ metteya.org เพิ่มเติม 

พุทธพจน์ " ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา"

คงเพียงพอแล้วสำหรับการค้นหาความจริงต่างๆ ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น แอ๊ด อร่ามศรี สุวัตถิกุล (adda_bkk-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-09-22 14:30:59


ความคิดเห็นที่ 8 (1593133)

        "พระศรีอาริยเมตไตรย" เป็นพระนามของพระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 5 ต่อจากพระพุทธเจ้าโคดมในภัทรกัป (กัปอันประเสริฐของโลกเราที่มีพระพุทธเจ้าถึง 5 พระองค์) มีความหมายถึง ผู้บรรลุธรรมวิเศษอันดีงามที่เป็นเพื่อนแท้ของมนุษยโลก เรียกสั้นๆว่า "พระศรีอารย์" คือผู้บรรลุธรรมวิเศษ พระองค์มิใช่เป็นพระศาสดาหรือสอนศาสนาใหม่ แต่พระองค์เป็นพระจักรพรรดิ ตามศาสนาหลักของโลกยอมรับ (โดยเรียกชื่อพระองค์ตามภาษาของชนชาตินั้นๆ) และจะใช้ธรรมะเอาชนะอธรรม ตามตำนานของพุทธ อิสลามและขงจื้อได้บ่งไว้ว่าจะใช้ความรู้ที่ได้มาจากตนเอง (พระพุทธเจ้า) เพื่อสร้างสันติสุขที่แท้จริงแก่มนุษยโลก พระศรีอารย์จะจรรโลงพุทธศาสนาไปจนถึงปี พ.ศ. 5000 ซึ่งยุคพระศรีอารย์เป็นกฤดายุคหรือยุคทองที่มีคนดีมีศีลธรรมทั้งหมด เกิดสันติสุข มีสันติภาพและความยุติธรรม อย่างแท้จริงและทัดเทียมกัน

พระพุทธเจ้าตรัสพุทธทำนาย สรุปว่า

โลกจะเข้าสู่ยุคทองในปัจจุบันนี้ ซึ่งทางเข้ามีเพียงสองทางให้เลือกคือ

1. พระศรีอารย์นำมนุษย์เข้ายุคใหม่

หรือ

2. ถ้าคนไม่สนใจพระศรีอารย์ ก็จะเกิดโลกามหาวินาศขึ้นแทนเพื่อล้างคนบาป (ดู "2012") คนที่รอดตายจะกลัวบาป เพราะรู้แล้วว่าสวรรค์ควบคุมความประพฤติของมนุษย์ จึงกลับกลายเป็นคนดีมีศีลธรรมทั้งหมด และสอนคนรุ่นต่อๆมาให้เป็นคนดีตามจนถึงมนุษย์คนสุดท้ายในปี พ.ศ. 5000

--------------------------

ถ้าเป็นจริงดังพุทธธรรมนาย

ถ้าคนไม่สนใจพระศรีอารย์

ก็จะเกิดโลกามหาวินาศขึ้นแทนเพื่อล้างคนบาป

 

อาจารย์อุบล... ช่วยด้วย

พระศรีอารย์นำมนุษย์เข้ายุคใหม่ 

สาธุ สาธุ สาธุ

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจากาญจน์ ศุภศิริว้ฒนา(วิ) (aungpao-dot-benjy-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-18 10:08:34


ความคิดเห็นที่ 9 (1593429)

สาธุ สาธุ สาธุ ขอให้ได้พบพระศรีอาริย์

ด้วยเทอญ...สาธุ

อาจารย์แม่ อุบล ช่วยด้วย***เทอญ

ผู้แสดงความคิดเห็น กมลลักษณ์ โปษณกุล อ๊อด (aod5961-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-19 21:02:14


ความคิดเห็นที่ 10 (1594475)

ขอขอบพระคุณ

และอนุโมทนาบุญ

กับธรรมทานนี้ค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจพร เลามาสุวพันธ์ (benjaporn-dot-tam-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-01-26 13:13:40


ความคิดเห็นที่ 11 (1611860)
 

อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์
ตอนนี้
ยังมีใคร ค้นหา
ตามหา พระศรีอาริย์
กันอยู่รึเปล่าจ๊ะ
 
ถ้าเจอก่อนภัยพิบัติ
จะมีคนรอดมาก
เลยนะ
ผู้แสดงความคิดเห็นอ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) วันที่ตอบ 2011-11-27 20:26:59 IP :
 
ช่วงนี้ในหัวคิดแต่เรื่องกระทู้นี้ และมีกลุ่มคำที่โผล่ในหัวตลอดเวลา ผู้นำจิตทางวิญญาณ -->  นารีขี่ม้าขาว --> บ้านสวนพีระมิด-->     ฉัพพรรณรังสีพระพุทธเจ้า -->  เปลือก -->  ท่าน อ.อุบล --> พระศรีอาริยเมตไตรย์         มีความเกี่ยวข้องกันอย่างแยกกันไม่ออก เหมือนกับว่ากลุ่มคำเหล่านั้นมีบทสรุปอยู่ที่ตัวท่าน อ.อุบล  คงถึงเวลาแล้วค่ะที่พวกเราต้องช่วยกันพิสูจน์และตามหา พระศรีอาริยเมตไตรย์ ตามหลัก กาลามสูตร เสียที ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้นในไม่ช้านี้
      จากการใช้มโนมยิทธิ ที่เคยทูลถามสมเด็จพ่อองค์ปฐมถึงพระศรีอาริย
เมตไตรย์ แล้วทราบว่าคือท่าน อ.อุบลค่ะ และมีอาการรับสัมผัสเกิดปิติขนลุกไปทั้งตัวอย่างแรง 
 
 
เห็นว่าเว๊ปนี้น่าสนใจดีค่ะ
 
 
 

ลูกกราบขออนุญาติ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ   หากการที่ลูกโพสต์ข้อความนี้แล้วเป็นประโยชน์ต่อผู้คนที่ได้มาอ่าน ขอให้ลูกสามารถส่งข้อความนี้ได้ด้วยเถิดเจ้าค่ะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลา บุตรโส (อัญ) (anchala_23580-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-22 22:35:15


ความคิดเห็นที่ 12 (1611869)

 ขออนุโมทนากับธรรมทานของพี่อัญด้วยนะครับ ^ ^

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย (sarinalich-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-22 22:59:10


ความคิดเห็นที่ 13 (1611879)

กระทู้พระศรีอาริย์

กลับมา ฮ๊อต อีกครั้ง

เพราะ คนชื่อ กิติยา ศิวรักษ์ นะ

 

ยังมีอีกกระทู้นะ

ของพ่อ ทศวรรษ

อยู่ไหนก็ไม่รู้ จะได้เอามาเทียบดู

 

แล้วจะได้รู้ว่า

พระศรีอาริย์ตัวจริง

คือ

กิติยา ศิวรักษ์

 

เพราะ

เธอ เป็นผู้ทำให้

ผู้คนทั้งหลายสนใจ

ฉัพพรรณรังสี

ที่มีอยู่เฉพาะพระพุทธเจ้า

 

เธอคนเดียว

ที่ตั้งขอสังเกตุ

 

ดังนั้น

เธอน่าจะมาเพื่อ

ปรากฎตัว ว่า เธอ คือ

พระศรีอาริย์

นะ

ไม่เช่นนั้น

เธอคงไม่วนเวียน

อยู่ในเวปบ้านสวนพีระมิด

ทั้งที่เธอไม่เห็นด้วย

ในสิ่งที่บ้านสวนทำ

 

แล้วเธอก็สนใจแต่

ฉัพพรรณรังสี

ที่คุณพงษ์เดช บอกว่า

อ.อุบล ฉายฉัพพรรณรังสีให้

 

เท่านั้นแหละ

เป็นเรื่องเป็นราว เป็นข่าวใหญ่

 

เกาถูกที่คัน

 

ก็เลยหยุดไม่ได้

 

เพราะ

เธอต้องการให้

เรารู้ว่า เธอ คือ พระพุทธเจ้า

 

เพราะ

ฉัพพรรณรังสี

มีได้เฉพาะพระพุทธเจ้า

 

เธอไม่พอใจ

ที่เจ้าตัวเล็กบอกว่า

ฉัพพรรณรังสี มาจาก อ.อุบล

 

คราวนี้

พวกเรารู้แล้วหรือยัง

ว่าใคร

คือ

พระศรีอาริย์ตัวจริง

 

หรือ

พระพุทธเจ้า

พระองค์ต่อไป กันแน่

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-22 23:33:55


ความคิดเห็นที่ 14 (1611883)

เพราะ

เธอ เป็นผู้ทำให้

ผู้คนทั้งหลายสนใจ

ฉัพพรรณรังสี

ที่มีอยู่เฉพาะพระพุทธเจ้า

+++++++++++++++++++++++++++

จริงครับอาจารย์ ต้องขอบคุณเธอจริงๆนะครับที่มาเน้นย้ำ นั่งย้ำ นอนย้ำว่า ฉัพพรรณรังสีนั้นมีอยู่เฉพราะพระพุทธเจ้า

ซึ่งเธอเป็นเหมือนผู้ที่เปิด และทำให้หลายๆคนหันมาสนใจว่า ฉัพพรรณรังสีนั้นมีเฉพาะพระพุทธเจ้า แต่ท่านอาจารย์อุบลสามารถเปล่งฉัพพรรณรังสีได้

จุดนี้เองทำให้ทุกคนที่ยังไม่รู้ได้รู้ว่า แท้จริงแล้ว บุคคลที่พวกเราค้นหากันมานานแสนนั้นคือท่านอาจารย์อุบลครับ 


คราวนี้

พวกเรารู้แล้วหรือยัง

ว่าใคร

คือ

พระศรีอาริย์ตัวจริง

 

หรือ

พระพุทธเจ้า

พระองค์ต่อไป กันแน่

+++++++++++++++++++++++++++++

ทราบแล้วครับว่า พระศรีอาริย์ตัวจริง หรือพระพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป ก็คือ ท่านอาจารย์อุบลนั่นเอง

ซึ่งก็ต้องยิ่งขอบคุณ คนชื่อ กิติยา ศิวรักษ์  นะครับ

ที่อุส่ามาช่วยให้ลูกๆบ้านสวนและชาวโลกต่างได้รับรู้ว่า พระศรีอาริย์ก็คือ ท่านอาจารย์อุบลนั้นเอง

  

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย (sarinalich-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-22 23:53:32


ความคิดเห็นที่ 15 (1611912)

  จากการใช้มโนมยิทธิ

ที่เคยทูลถามสมเด็จพ่อองค์ปฐมถึงพระศรีอาริยเมตไตรย์

แล้วทราบว่าคือท่าน อ.อุบลค่ะ และมีอาการรับสัมผัสเกิดปิติ

ขนลุกไปทั้งตัวอย่างแรง 
 
****************
 
ขออนุโมทนากับธรรมทานของ
 
คุณอัญด้วยนะคะ
------------------------
 

คราวนี้

พวกเรารู้แล้วหรือยัง

ว่าใคร

คือ

พระศรีอาริย์ตัวจริง

 

หรือ

พระพุทธเจ้า

พระองค์ต่อไป กันแน่

-----------------

กราบอาจารย์แม่เจ้าค่ะ

ขอขอบคุณคุณกิตติยา  ศิวรักษ์

ที่ช่วยกระตุ้นให้พวกเรา มาช่วยกัน

ยืนยันว่าใครคือ

พระศรีอาริย์ตัวจริง

 

และ

เมื่อท่านปรากฎต่อหน้าผู้คนทั่วไป

 

จะพามนุษย์ผ่านกลียุคเข้าไปสู่ยุคทอง

โดยไม่เกิดโลกามหาวินาศ (2012) ขึ้น

 

เพราะตอนนี้ประเทศไทยจำลองอยู่ที่

บ้านสวนพีระมิด

ทุกคนเกรงกลัวต่อการทำบาป

 

เมื่อทุกคนหยุดสร้างกรรม

พลังงานด้านลบลดลง

มารที่สิิงอยู่ในจิตใจของแต่ละคน

ก็จะพ่ายแพ้โดยสิ้นเชิง

 

สาธุ สาธุ สาธุ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจากาญจน์ ศุภศิริว้ฒนา(วิ) (aungpao-dot-benjy-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-23 04:16:25


ความคิดเห็นที่ 16 (1611914)

คราวนี้

พวกเรารู้แล้วหรือยัง

ว่าใคร

คือ

พระศรีอาริย์ตัวจริง

 

หรือ

พระพุทธเจ้า

พระองค์ต่อไป กันแน่

..............................

ชัดเจนเลยค่ะอาจารย์

เดิมก็มั่นใจอยู่แล้ว

ยิ่งมาเจอข้อความของอาจารย์

ยิ่งมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์เต็มเลยค่ะ

 

ฉะนั้น ....

ถ้าผู้ใดต้องการพบพระศรีอาริย์

ก็ให้มาพบท่านอ.อุบล

แห่งบ้านสวนพีระมิดนะค๊า

 

สาธุ สาธุ ขอบคุณ

คุณ กิตติยา ด้วยเช่นกัน

ที่สละเวลามาทำให้พวกเรา

"ตื่น"ได้ทันกาล พอดี๊ พอดี

........................................

อนุโมทนากับคุณ ธรรมนูญ เจ้าของกระทู้

และ คุณอัญชลา ที่เข้ามาดันกระทู้นี้

เพื่อปลุกกระแส

ในการค้นหา "พระศรีอาริย์"อีกครั้งค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-23 05:16:33


ความคิดเห็นที่ 17 (1611952)

สิ่งที่คิดจากสมองน้อย ๆ ของหนู

1.อ.อุบลให้ถือศีล 5 ให้ได้ ศีล 5 ถ้าผิดแล้วผู้อื่นเดือดร้อน

2.อ.อุบลสอนและใช้หลักกาลามสูตร

3.คำสอนที่ผู้สอนปฏิบัติได้ และลูกศิษย์นำไปปฏิบัติก็เกิดผล (คำสอนที่ไม่สามารถทักท้วงได้)

4.อ.อุบลมีฉัพพรรณรังสีในตัวเอง

5.ปรากฎการณ์ที่ที่อื่นทำไม่ได้  คือหายทันที แต่ที่บ้านสวนทำได้

6.แค่กราบและสำนักกรรมได้ก็หายทันที

7.สอนให้รักผู้อื่นให้ได้ โดยปราศจากเงื่อนไข

8.อ.อุบลอธิฐานมาทำหน้าที่ กอบกู้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

9.อ.อุบลก็เกิดกึ่งพุทธกาลพอดี พ.ศ.2500

8.อ.อุบลเป็นผู้ค้นพบว่าเป็นโรคนี้แล้ว เกิดจากทำกรรมอะไรมา (อันนี้เหมือนได้ยินอ.พูด แต่ไม่ค่อยแน่ใจ) คิดว่าผู้ที่ทำได้น่าจะเป็นพระพุทธเจ้า ก็คือท่าน

9.อ.อุบลบำเพ็ญบารมีมาหลายชาติ ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถแสดงปาฎิหารย์ได้มากมาย

10.อ.อุบลสามารถฝึกกรรมฐานกับหลวงพ่อฤาษีตอนที่ท่านมรณะภาพไปแล้ว ไม่รู้ว่ามีใครเคยฝึกได้อย่างนี้หรือเปล่า (คือมีบารมีเก่าที่บำเพ็ญมาเยอะ)

11.นารีขี่ม้าขาว

12.ทำไมจึงใช้รหัส"อาจารย์อุบลช่วยด้วย" แล้วได้ผล คือ พุทโธ หรือ นะมะพะทะ ก็คือชื่อของพระพุทธเจ้า(ได้ยินหลวงพ่อฤาษีลิงดำพูด) (อ.อุบล ก็ คือชื่อของพระพุทธเจ้า)

ฯลฯ

อันนี้เป็นเพียงสิ่งที่หนูรู้สึกว่ามันเข้าหลักของพระศรีอาริย์ และที่สัมผัสได้ เป็นการเขียนตามความรู้สึก ไม่ค่อยสละสลวย เขียนตามความเข้าใจ

และหนูก็เข้าใจว่าท่านอ.อุบลคือพระศรีอาริย์ ที่หนูเคารพรักมากที่สุด

เป็นคนเดียวที่ทำให้หนูพยายามรักษาศีล 5 ให้ได้ ไปที่อื่นกลับมาก็ผิดศีลเหมือนเดิม แต่ไปที่นี่แล้วกลับมาจะระวังเรื่องการผิดศีลมาก และจะขอรับใช้ท่านตลอดไปจนชีวิตจะหาไม่

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วีรดา อยู่นวล (mamlak-w-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-05-23 10:16:35


ความคิดเห็นที่ 18 (1613712)

ขออนุญาตดำเนินการ

ตามนโยบายของท่านอาจารย์ค่ะ

................................................................

 

 

กาลามสูตร

เป็นหลักแห่งความเชื่อ

 ไม่ให้เชื่องมงาย

โดย

ไม่ใช้ปัญญาพิจารณา

ให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดี

ก่อนเชื่อ มี 10 ประการคือ

----------


1. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่
ฟัง ๆ กันมา

2. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อ ๆ กันมา

3. อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ

4. อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา

5. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา

6. อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา

7. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล

8. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน

9. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะ

มีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้

10. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูด

เป็น

ครูบาอาจารย์ของตน

 

ความเห็นของ

คุณเกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น

---------------------------------

 

ชอบ

เลยก๊อปมาให้อ่าน

ทบทวนอีกที

ควรก๊อปไปไว้ทุกกระทู้ด้วยนะนี่

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com)

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-06-04 00:54:26


ความคิดเห็นที่ 19 (1617605)

ทุกกระทู้

ที่ตามหาพระศรีอาริย์

พระพุทธองค์ ทรงให้เป็น

วาระเร่งด่วน

และ

ทรงเมตตา

บอกวิธีค้นหา แบบ ง่าย

ได้พบทุกคน

ไว้แล้ว อย่างยุติธรรม

ก่อนภัยพิบัติจะเกิด

 

พระพุทธองค์

ทรงรับสั่งว่า

คนทีได้พบพระศรีอาริย์

ก่อนภัยพิบัติ

จะรอด

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-06-26 09:32:51


ความคิดเห็นที่ 20 (1617659)

  พระพุทธองค์

ทรงมีพุทธบัญชามา

ว่า

อย่าหยุดตามหา

พระศรีอาริย์

 

เพราะ

คนที่จะรอด

 คือคนที่ได้พบ

พระศรีอาริย์ ก่อนแล้ว

เท่านั้น

 

--------------

วันนี้

ท่านได้ประทาน

บุญฤทธิ์แก้ว

 

ในการตามหาพระศรีอาริย์

ให้ทุกคนได้รู้ ได้พบ

พระศรีอาริย์

แต่

ให้รู้ได้เฉพาะตน

 

โดย

 

ใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย

เป็นเครื่องนำทาง

การค้นหา

แล้ว

การค้นหา

จะไม่ผิดพลาด

 

โดยให้ท่านที่

เคยใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย

แล้วได้ผลมาแล้ว

 

อธิษฐานว่า

อ.อุบล ช่วยด้วย

ขอให้ข้าพเจ้าได้พบ

พระศรีอาริย์

ณ บัดนี้ ด้วยเทอญ

 

คนที่ข้าพเจ้าคิดว่า

เป็นพระศรีอาริย์นี้ หากใช่

ขอให้ข้าพเจ้า

มีอาการ ดังนี้............(อธิษฐานเอง)

หากไม่ใช่ ให้มีอาการดังนี้....(คิดเอง)

 

แล้วการค้นหา

เมื่อพบแล้ว ไม่ต้องบอกใคร

ว่าชื่ออะไร เพราะว่า

เบื้องบนท่าน

บอกว่า

 

ยังไม่ถึงเวลาเปิด

 

แต่

ทุกคนมีสิทิ์รู้ได้

ตั้งแต่บัดนี้

 

ใครรู้ได้จริง

รอด

ได้อยู่ในยุคท่าน

เพราะ

คำทำนายก็บอกไว้แล้ว

ว่า

ถ้าพบพระศรีอาริย์ก่อน

ภัยพิบัติจะไม่เกิด

หรือเลื่อนไป หรือ เบาบาง

หรือ

เกิดเฉพาะที่ ล้างเฉพาะคนไม่ดี

 

ดังนั้น

คนที่ไม่สนใจพระศรีอาริย์

ท่านบอกว่า ภัยพิบัติต้องเกิด

ก็น่าจะหมายถึง

เกิดเฉพาะกับบุคคลนั้น

 

อย่าลืมนะ

เมื่อรู้แล้ว ว่าผู้ใด

เป็นพระศรีอาริย์ ไม่ต้องมาบอกใคร

ตรงๆ นะ อย่าเอ่ยชื่อท่าน

พูดถึงได้ แต่ อย่าบอกใคร ว่า

ท่านเป็นใคร ชื่ออะไร

 

เอาไว้

ถึงวันที่สวรรค์ให้เปิด

 

คุณพ่อ ดร.อาจอง

บอกว่า

พอเห็นปุ๊บ หรือ อยู่ใกล้ๆ

ก็จะรู้ได้ทันที

ว่า

นี่แหละ คนนี้ คือพระศรีอาริย์

 

ขอให้ทุกท่าน

ได้พบพระศรีอาริย์กัน

ถ้าท่านโชคดี ได้มาอ่านกระทู้นี้

ทันเวลา

 

อ.อุบล

ก็ปรารถนาพบท่าน

พระศรีอาริย์

เหมือนท่านทั้งหลาย

นั่นแหละ

 

แล้วการเสี่ยงทาย

ท่านบอก ต้องเสี่ยงทาย

หลายคน

แล้วไม่ต้องมาคิดว่า

อ.อุบล

จะเป็นพระศรีอาริย์

เพราะถ้าคิดเช่นนั้น จะทำให้ท่าน

หมดโอกาสพบ พระศรีอาริย์

 

พระพุทธองค์

ทรงรับสั่งว่า ทุกคนต้อง

ค้นหา พระศรีอาริย์ เพื่อใช้รหัส

อ.อุบล ช่วยด้วย

อย่างน้อย 3 คนขึ้นไป

ถ้าคำตอบ ยังเหมือนเดิม

ค่อยสรุปว่า

นั่นคือพระศรีอาริย์

 

ยิ่งมากคน

ที่ท่านสงสัยว่าจะเป็น

พระศรีอาริย์ ก็ยิ่งดี

เพราะนี่คือ การทดลอง แบบ

นักวิทยาศาสตร์

 

ขอให้ทุกท่าน

ได้พบพระศรีอาริย์เร็วๆ

 

ท่านบอกว่า

 

คนที่จะได้เป็นผู้นำ

ที่มีหน้าที่สำคัญ ที่จะต้อง

ช่วยพระศรีอาริย์

อยู่แนวหน้า

 

จะได้มาอ่านข้อความนี้

ก่อนใคร

เสี่ยงทายก่อนใคร

พบก่อนใคร

 

ส่วนผู้ตาม

ก็จะต้อง มาทีหลัง

พบทีหลัง รู้ทีหลัง

 

เมื่ออ่านแล้ว

ให้รีบส่งข่าวให้เพื่อนพ้อง

น้องพี่ อย่ารีรอ

 

คนที่เป็นผู้นำ

ต้องใจกว้าง ต้องนึกถึง

คนอื่นก่อนเสมอ

 

สวัสดีค่ะ

  อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-06-26 09:24:09 IP : 118.175.106.9

อย่าลืมว่าการใช้รหัส

อ.อุบล ชวยด้วย

ตามหา พระศรีอาริย์นั้น

 

ท่านต้องใช้

พิสูจน์กับครูบาอาจารย์

หลายคน อย่างน้อย 3 คน

 

หากท่านเสี่ยงทาย

เพียงคนเดียว

ถือว่า

การค้นหานั้น

เป็นโมฆะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-06-26 11:37:03 IP : 118.175.106.9

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจากาญจน์ ศุภศิริว้ฒนา(วิ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-06-26 12:58:44


ความคิดเห็นที่ 21 (1617773)

ลองอ่าน

พุทธทำนาย

ที่พระธรรมนูญ

นำมาลงไว้ ประกอบด้วยนะ

 

อ่านหลายๆครั้ง

อ่านหลายๆ ข้อมูล และ

ที่มาให้ละเอียด

 

เพราะ

มีประโยชน์ทั้งนั้น

 

อ่านแล้วก็ใช้ปัญญา

 

อย่าพึ่งคัดค้าน

ว่าไม่จริง

 

หรือ

อย่าพึ่งเชื่อว่าจริง

 

เพราะ

นั่นไม่ใช่วิธีของนักวิทยาศาสตร์

 

นักวิทยาศาสตร์

เค้าต้องมีการพิสูจน์ก่อน

มีการตั้งสมมุติฐานก่อน

แล้วค่อยตัดสิน

ว่า

จริง หรือ ไม่จริง

 

ถ้าใช้แค่

อารมณ์ ความรู้สึก

ความเห็นส่วนตัว ไม่มีการพิสูจน์

ปิดหู ปิดตา ปิดใจ ตัวเอง

อันนั้น นักวิทยาศาสตร์เค้าเรียกว่า

คนบ้า

 

อย่างคำถาม

ที่ได้ถามท่านว่า

 

คนที่เค้าหาย

แล้วมีคนบอกว่า พวกที่หาย

นี่นะ เป็นคน งมงาย

 

ก็เลยถาม

คุณพ่อ ดร.อาจอง

ว่า

ระหว่างคนที่หาย

กับคนที่ว่าคนหายงมงาย

 

ตกลง

ใครงมงายมากกว่ากัน

 

ท่านตอบว่า

 

คนที่ว่าคนอื่นที่เค้าหาย

นั่นแหละ ที่งมงาย

 

เพราะ

คนที่เค้าหาย

เค้าได้พิสูจน์แล้วด้วยตนเอง

 

แต่คนที่ว่าเค้า

ไม่ได้พิสูจน์ พูดโดยไร้เหตุผล

ถือว่า เป็นคนที่ งมงาย เอง

 

นักวิทยาศาสตร์

เค้าจะต้องพิสูจน์ก่อน

ค่อยแสดงความเห็น

และ

แสดงความเห็น

อย่างเปิดเผย พร้อมแสดง

วิธีพิสูจน์

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-06-26 21:25:02


ความคิดเห็นที่ 22 (1617793)

 

การหาความจริง: 

มีผู้อ้างตนเป็นพระศรีอารย์มากมายทั่วโลกในปัจจุบัน ใครคือพระศรีอารย์พระองค์จริง เราสามารถพิสูจน์ความจริงได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ดังนี้

 

1.      ใช้สื่อทีวีประสานการพิสูจน์ข้อเท็จจริงไม่ผิดเพี้ยน เห็นภาพและได้ยินเสียง เพื่อความเป็นธรรมในการพิสูจน์ความจริงแก่ทุกฝ่ายและประชาชน

 

2.       เชิญผู้ที่คิดว่าตนเป็นพระศรีอารย์ส่งหลักฐานให้ผู้ทรงคุณวุฒิทั้งพระและฆาราวาส ตรวจสอบเบื้องต้นเพื่อส่งผู้ที่สมควรนำมาพิสูจน์แสดงหลักฐานความจริงต่อหน้าผู้คนในทุกชาติ ศาสนาทางทีวีเพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาใดๆ

 

3.      พระศรีอารย์จริงจะไม่ใช้ความเชื่อ ไม่มีอิทธิฤิทธิ์ แต่จะใช้ กาลามสูตรของพระพุทธเจ้าโคตม คือใช้ความจริงที่มีหลักฐานรูปธรรม ตามตำนานของศาสนาต่างๆและคำทำนายโลกที่เป็นที่ยอมรับคือ ผู้รู้อนาคตกาล เช่น พระพุทธเจ้าโคตมหรือโคดม พระบาทสมเด็จพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช  สมเด็จพระพุฒาจารย์พรหมรังสี (หลวงพ่อโต) มาลาคิ พอล อิแซ ไม ค่า และนอสตระดามัส เป็นต้น ได้กล่าวถึงผู้นำสันติสุขหรือพระศรีอาริย์พระองค์จริงจะสามารถพิสูจน์คำทำนายให้เป็นรูปธรรมได้ ยกเป็นตัวอย่าง เช่น

 

3.1 มีชื่อ นามสกุล และมีคุณสมบัติบ่งบอกชัดเจนพอประมาณ 3.2 เกิดที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย

 

3.3 เวลาเกิดในช่วงสงครามที่เอาชนะได้ด้วยไฟบรรลัยกัลป์หรือระเบิดปรมาณู คือสงครามโลกครั้งที่สอง

 

3.4 ที่อยู่ในปัจจุบันของพระศรีอารย์ เป็นบ้านอยู่บนยอดเขาหลายลูก ซึ่งบ้านดังกล่าวอยู่ในเมืองเล็กที่ล้อมรอบอยู่ภายในเมืองใหญ่อีกที

 

3.5 เป็นผู้มีความรู้ในสาขาต่างๆทั้งทางโลกและสวรรค์ แสดงให้เห็นเป็นจริงได้

 

3.6 เป็นผู้รู้ศาสนาต่างๆโดยถ่องแท้ แสดงให้ผู้คนทั่วไปเห็นจริงได้

 

3.7 เป็นผู้สามารถชี้และแสดงมารที่แท้จริงได้ และยังสามารถปราบมารได้ด้วยพระธรรม

 

3.8 เป็นผู้รู้แจ้งด้วยตนเองและพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ได้

 

ผู้ที่สามารถแสดงข้อเท็จจริงตามข้อที่กล่าวมาได้ย่อมมีบุคคลเดียว

และท่านผู้นั้นควรใช่พระศรีอารย์ คำทำนายบ่งว่า

การปรากฏตนของพระศรีอารย์เพื่อความสุขของคนทั่วโลกจักปรากฏขึ้นตลอดไป

ภัยพิบัติและโรคภัยทั้งหลายจักสงบลง

 

ภาคผนวก:       

 

ผู้เปิดใจกว้างมีเหตุผล ไม่ยึดความคิดเฉพาะตนเป็นหลัก โปรดพิจารณา

 

1.      ทำไมต้องพิสูจน์ความจริง เพื่อให้พระศรีอารย์ปรากฏตน:  เนื่องจากพระศรีอารย์ไม่มีอิทธิปาฏิหาริย์ การแสดงธรรมต้องเป็นไปตาม กาลามสูตรซึ่งเป็นหลักการทางวิทยาศาสตร์ ศาลยุติธรรม โดยเป็นวิธีเดียวที่จะสร้างสันติสุขที่แท้จริงขึ้นได้

 

2.      พระศรีอารย์เป็นพระพุทธเจ้า (ผู้รู้เองโดยชอบ) พระองค์ที่ 5 ตามที่พระพุทธเจ้าโคดมได้ตรัสไว้ และมีอะไรอีกที่ตรัสหรือที่ตำนานอื่นๆบ่งไว้:      

 

2.1 พระศรีอารย์เป็นพระพุทธเจ้าแต่ไม่ใช่นักบวช ไม่มีสาวกจึงไม่เป็นพระศาสดา พระศรีอารย์ปรากฏขึ้นเพื่อบำรุงพระพุทธศาสนาให้เป็นเอกของโลก

 

2.2 พระศรีอารย์ใช้คำตรัสสอนของพระพุทธเจ้าโคดมเพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้คนทั้งหลาย ดังนั้นศาสนาของพระศรีอารย์จึงไม่มี ตำนานบ่งถึงพระศรีอารย์เปรียบเสมือนลูกแกะที่ผู้มีบาปเอาไปบูชายัญเพื่อไถ่บาปเขาเหล่านั้น พระศรีอารย์สละแล้วซึ่งครอบครัว ทรัพย์สมบัติ ลาภ ยศ สรรเสริญ เป็นผู้ติดดิน ไม่มีผู้คนสนใจเหมือนต้นไม้เหี่ยวแห้งบนแผ่นดินปราศจากน้ำแล้วใครเล่าที่จะช่วยได้

 

2.3 ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าผู้คนจะไม่สนใจพุทธทำนาย ทั้งนี้เพราะปกติมนุษย์จะมีเทพหรือมาร

 

ดลใจให้ทำในสิ่งที่ดีหรือเลว มารจะส่งเสริมความชั่วความฉิบหายเพื่อรักษาให้มารอยู่รอดได้

 

ดังนั้นมารจึงดลใจผู้ขาดคุณธรรมให้ไม่สนใจ

พุทธทำนายและพระจักรพรรดิซึ่งเป็นสิ่งดีงาม

 

ที่มารกลัวมากเพราะจะทำลายมารได้

 

พุทธทำนายเปรียบเสมือนเส้นผมบังภูเขา ที่มารดลใจ

 

ให้คิดไปว่าพุทธทำนายเป็นเรื่องไร้สาระ นอกจากผู้มีกุศลเกิดผลบุญย่อมเห็นพุทธทำนายเป็น

 

สิ่งดีมีค่ายิ่ง

 

ถึงเวลาหรือยังที่เราจะรู้ทันมาร กำจัดมารออกไปจากจิตใจ

อัญเชิญเทพเข้ามาปกป้องตน

 

รักษาความดี เกิดความเมตตา กรุณาแทนความเห็นแก่ตน หาทางช่วยกันเผยแผ่หาข้อเท็จจริงเพื่อความอยู่รอดจากมาร และสร้างสิ่งดีงามเกิดคุณธรรมขึ้นแก่ตนและผู้คนในทุกชั้นวรรณะทั้งในเวลานี้และอนาคต

 

 

ก๊อปมาจาก

คห พระธรรมนูญ นาคสุข

ให้อ่านกันอีกครั้ง

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-06-26 22:35:30


ความคิดเห็นที่ 23 (1617796)

พระผู้มีพระภาคตรัสต่อถึงทางสองแพร่ง

สรุปเพื่อความเข้าใจคือ           

 

1. พระโพธิสัตว์สองพระองค์

 

คือ

 

พระมหาเถรโพธิสัตว์

 

และ

 

2.พระธรรมมิกราช

หรือ

พระจักรพรรดิ หรือ พระศรีอารย์

 

จะเกิดขึ้นก่อนและ

โดยประมาณ

พ.ศ. 2555

 

 

คนจะรู้จัก

เริ่มวิถีชีวิตใหม่

จากที่เคยแข่งขัน ทำลายกัน

 กลับมาสู่ยุคพระศรีอารย์

ที่สอนผู้คนให้ประพฤติปฏิบัติในศีลธรรมอันดี

 

ช่วยเหลือกัน

ไม่เอารัดเอาเปรียบ ไม่ข่มเหง  
ไม่อิจฉาพยาบาท ไม่เบียดเบียนแข่งขัน

ไม่ประทุษร้ายกัน

 

บุคคลจะมีเมตตา กรุณา

ชีวิตจะมีความสุขที่แท้จริง

ผู้ตั้งกระทู้ ธรรมนูญ นาคสุข (naksuk4-at-hotmail-dot-com) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2011-09-21 22:33:53

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-06-26 22:49:21


ความคิดเห็นที่ 24 (1617975)

คุณพ่อ ดร.อาจอง

ท่านบอกว่า

ตอนนี้ พระศรีอาริย์ ยังเด็กอยู่

 

เอาละซี

 

 

ใครที่ชอบ แกล้งเด็ก

 

ตัวใคร ตัวมัน

เด้อค่าเด้อ

 

เพราะ

เห็นว่า จะซวย บรมซวย

ถ้าทำกับ พระศรีอาริย์

 

ใครเคยแกล้งเด็กมั่ง

รับมาซะดีดี

555

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-06-27 18:54:32


ความคิดเห็นที่ 25 (1627519)

 

ผู้ที่สามารถ

แสดงข้อเท็จจริงตามข้อที่กล่าวมาได้ย่อมมีบุคคลเดียว

และท่านผู้นั้นควรใช่

พระศรีอารย์

 

คำทำนายบ่งว่า

การปรากฏตนของ

พระศรีอารย์

เพื่อความสุขของคนทั่วโลกจักปรากฏขึ้นตลอดไป

 

ภัยพิบัติ

และ

โรคภัยทั้งหลายจักสงบลง

 

 ***********

สาธุ

ขอให้พระศรีอาริย์

โปรดเมตตา เสด็จมาโปรด

สัตว์โลก โดยเร็วพลัน

ให้ผู้คนได้เห็น

พระองค์

โดย

ไม่มีข้อโต้แย้ง

ด้วยเถิด

 

ข้าพระพุทธเจ้า

ขอมอบกายถวายชีวิต

รับใช้ รับบัญชา

ทุกกรณี

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-02 22:54:11


ความคิดเห็นที่ 26 (1627520)

 

สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคประทับ

 ณ ป่าไม้ประดู่ลาย ใกล้กรุงโพสัมพี

 

พระองค์ทรงหยิบ

ใบประดู่ลายขึ้นมาหน่อยหนึ่ง

แล้วตรัสถามภิกษุว่า

 

 ใบประดู่ลายเล็กน้อย

ที่เราถือไว้

กับใบที่อยู่บนต้น

ประดู่ลาย อย่างไหนจะมากกว่ากัน

 

 ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า

ใบที่อยู่บนต้นมีมากกว่า

พระผู้มีพระภาคจึงตรัสว่า

 

เรื่องที่เราตรัสรู้แล้ว

แต่มิได้บอกท่านทั้งหลายก็มีมากกว่า

แต่เรื่องเหล่านั้น

ไม่เป็นไปเพื่อความดับทุกข์

ไม่เป็นไปเพื่อนิพพาน

เราจึงไม่บอกท่าน

 

ข้อสังเกต

พระจักรพรรดิ

หรือพระศรีอารย์

จักต้องแก้ปัญหาของมนุษย์

ในเรื่องของโลกธรรม

และ

ความหลอกลวง

นำไปสู่อกุศลกรรม

 

ซึ่งเศรษฐกิจ

และสังคมเป็นปัจจัยหนึ่ง

ที่จะต้องปรับใหม่ให้มนุษยโลก

สามารถอยู่ร่วมกันได้ด้วยสันติสุข

มีสันติภาพตลอดไป

 

คนเรา

ยังไม่เคยเห็นสิ่งนี้กันมาก่อน

 

 ดังนั้น

สิ่งที่พระพุทธเจ้าโคดม

ยังไม่ตรัส

เพราะไม่เป็นประโยชน์แก่บรรพชิต

 

 จะถูกเปิดเผย

โดย

พระศรีอารย์

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-02 23:00:32


ความคิดเห็นที่ 27 (1627521)

ในยุค

พระจักรพรรดิ

หรือ

พระศรีอารย์

นั้น

ทุกคนบนโลก

จะเป็นอริยบุคคล

มีความสุขกันอย่างแท้จริง

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-02 23:03:12


ความคิดเห็นที่ 28 (1627523)

 

พระผู้มีพระภาค

ไม่ปฏิเสธเรื่องเทพและมารดั

งแสดงไว้

เช่น ธชคฺคสุตฺตํ

 

และ

พระองค์ตรัสไว้

ในพระสูตรจักรพรรดิสิงห์ราชว่า

 

พระศรีอารย์

เป็นผู้สอนเทพและมนุษย์

 

เป็นผู้รู้ทั้งสามโลก

คือ

สวรรค์  โลกมนุษย์  และ นรก

 

ดังนั้น

เมื่อพระศรีอารย์

เปิดเผย และ พิสูจน์

ข้อเท็จจริงดังกล่าว

คนจะไม่กล้าทำเลวทำชั่ว

 

มนุษยโลกจะมีสันติสุขตลอดไป

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-02 23:07:33


ความคิดเห็นที่ 29 (1627524)

ผู้อ่านพุทธทำนาย

จะทราบถึงคนในสมัยนี้ว่า

อยู่กันด้วยความเห็นแก่ตน

 

 แต่

พุทธทำนาย

ก็ชี้หนทางการอยู่รอดได้

โดย

จะมีพระโพธิสัตว์สองพระองค์

ผู้บังเกิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน

จะมาช่วยมนุษย์ให้เป็นคนดีมีศีลธรรม

เกิดความสุขที่แท้จริงขึ้นตลอดไป

 

 แต่ถ้าคนเรา

ยังยึดมั่นถือดีในความคิดตน

ไม่สนใจในสิ่งดีงามนี้

โลกามหาวินาศจะเกิดขึ้นแทน

ผู้คนล้มตายมากกว่าครั้งใดๆ   

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-02 23:11:43


ความคิดเห็นที่ 30 (1627525)

พระผู้มีพระภาค

ตรัสต่อถึงทางสองแพร่ง

สรุปเพื่อความเข้าใจ

         คือ           

 

 

1. พระโพธิสัตว์

สองพระองค์

คือ

พระมหาเถรโพธิสัตว์

และ

พระธรรมมิกราช

หรือ

พระจักรพรรดิ

หรือพระศรีอารย์

 

จะเกิดขึ้นก่อน

และ

โดยประมาณ พ.ศ. 2555

 

คนจะรู้จักเริ่มวิถีชีวิตใหม่

จากที่เคยแข่งขัน ทำลายกัน

กลับมาสู่ยุคพระศรีอารย์ที่สอนผู้คน

ให้ประพฤติปฏิบัติในศีลธรรมอันดี

ช่วยเหลือกัน ไม่เอารัดเอาเปรียบ

 

ไม่ข่มเหง

 ไม่อิจฉาพยาบาท

ไม่เบียดเบียนแข่งขัน ไม่ประทุษร้ายกัน บุคคลจะมีเมตตา กรุณา

 

ชีวิตจะมีความสุขที่แท้จริง

 
 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-02 23:16:26


ความคิดเห็นที่ 31 (1627526)

 

ผู้คนจะบำรุงพระธรรม

 

ธรรมจะชนะอธรรม

 

พระสงฆ์จะอยู่คู่บ้านเมืองต่อไป

 

การงานของมนุษย์จะสำเร็จ

ด้วยอริยศาสตร์

(ซึ่งตรงกับที่ศาสนาอื่นๆได้ระบุไว้)

 

หรือถ้า

ผู้คนไม่สนใจใน

พระโพธิสัตว์แล้วจะเกิดข้อ 2 แทน

 

 

2.พ.ศ. 2556

มหันตภัยโลกจักเกิดขึ้น

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

"ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ ... แผ่นดินอธรรมจะถล่มเป็นทะเล"

 

 แล้วมนุษยโลกจะเหลือเท่าไร

 

อย่าพึ่งประมาท

เพราะ

พระพุทธองค์ตรัส

ตรงกับ

มายันและนาซ่า

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-02 23:19:36


ความคิดเห็นที่ 32 (1627533)

ข้อสังเกต

พระจักรพรรดิ

หรือพระศรีอารย์

จักต้องแก้ปัญหาของมนุษย์

ในเรื่องของโลกธรรม

และ

ความหลอกลวง

นำไปสู่อกุศลกรรม

 

ซึ่งเศรษฐกิจ

และสังคมเป็นปัจจัยหนึ่ง

ที่จะต้องปรับใหม่ให้มนุษยโลก

สามารถอยู่ร่วมกันได้ด้วยสันติสุข

มีสันติภาพตลอดไป

 

คนเรา

ยังไม่เคยเห็นสิ่งนี้กันมาก่อน

 

 ดังนั้น

สิ่งที่พระพุทธเจ้าโคดม

ยังไม่ตรัส

เพราะไม่เป็นประโยชน์แก่บรรพชิต

 

 จะถูกเปิดเผย

โดย

พระศรีอารย์

..........................

กราบอนุโมทนาค่ะอาจารย์

จะเห็นว่ายุคนี้ทุกอย่าง

เริ่มชัดเจนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

 

เพราะพวกเราส่วนใหญ่

ก็ได้รับรู้ถึงองค์ความรู้ต่างๆที่สำคัญมากมาย

ซึ่งถือเป็นใบไม้นอกกำมือ

ทั้งความรู้เรื่องพลังพีระมิด องค์เทพสฟิงซ์

และวิธีการแก้ปัญหาสุขภาพ

สังคมและเศรษฐกิจ

ที่จะได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์

ถ้าทุกคนเชื่อมั่นและทำตามอย่างไม่ลังเลสงสัย

 

เพราะทุกสิ่งทุกอย่่างที่ท่านอาจารย์

ได้ถ่ายทอดให้พวกเราได้รู้

และเน้นย้ำให้ปฏิบัติมาโดยตลอดนั้น

 

อาจารย์ได้พิสูจน์และรู้แน่ชัดว่า

ได้ผลจริง...ด้วยตัวเองแล้ว

 

ความสันติสุขอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม ก็จริง

แต่ถ้าพวกเรา เห็น

แต่ไม่คิดจะยื่นมือ ไปเอื้อม

 

ก็ต้องทำใจให้ได้

ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ในปลายปีนี้

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-03 03:31:21


ความคิดเห็นที่ 33 (1627564)

 

คาถา

บูชาพระศรีอาริย์

------------------

เมตตานะ

ศรีอาริยะเมตโต

พุทธานะมะ 

สันติเกโล อนาคามิ

สาธุ สาธุ สาธุ

------------

ให้ท่องดูนะ

แล้วพยายามท่องให้จำได้

ก่อนวันบวงสรวงนะจ๊ะ

แล้วจะพบอะไรดีๆ

นะจะบอกให้

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-03 09:56:01


ความคิดเห็นที่ 34 (1627806)

ขอกราบพระบาทพระศรีอาริย์ในพระเมตตาอันมิอาจประมาณ กราบเท้าท่านอ.แม่อุบล ที่นำความเมตตาจากเบื้องบนมาสู่แผ่นดิน ประเทศไทย สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-04 19:34:40


ความคิดเห็นที่ 35 (1627852)

 ขออวยพรให้ท่านทั้งหลาย  

ได้พบ

พระศรีอริยเมตไตรย

เข้าสู่

ยุคแห่งความศิวิไลซ์

โดยเร็วพลัน

สมดังที่ปรารถนาทุกประการ

ด้วยเทอญ

ผู้แสดงความคิดเห็น วราภรณ์ วงษ์กิ่ง ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-04 22:26:02


ความคิดเห็นที่ 36 (1627871)

กาลามสูตร

เป็นหลักแห่งความเชื่อ

 ไม่ให้เชื่อ แบบ งมงาย

โดย

ไม่ใช้ปัญญาพิจารณา

ให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดี

โดยไม่ได้พิสูจน์

ก่อนเชื่อ มี 10 ประการคือ

----------


1. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่
ฟัง ๆ กันมา

2. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อ ๆ กันมา

3. อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ

4. อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา

5. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา

6. อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา

7. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล

8. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน

9. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะ

มีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้

10. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูด

เป็น

ครูบาอาจารย์ของตน

 

ความเห็นของ

คุณเกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น

---------------------------------

ถ้าได้พิสูจน์แล้ว

ยังไม่เชื่ออีก เรียกว่า "โง่"

บรมโง่ โค ตะ ระ โง่

จ้า

 

ชอบ

เลยก๊อปมาให้อ่าน

ทบทวนอีกที

ควรก๊อปไปไว้ทุกกระทู้ด้วยนะนี่

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (pamelasoap-at-yahoo-dot-com)

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-05 04:07:34


ความคิดเห็นที่ 37 (1629905)

ลูกจะท่องคาถาพระอริยเมตไตรยให้ขึ้นใจเป็นบุญจริงๆที่ได้เปิดกระทู้มาเจอสาธุสาธุสาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชุติกาญจน์ โนวรรณา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-09-18 15:02:04



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.