ReadyPlanet.com


ร่วมตามหาพระศรีอาริย์ อย่างเป็นรูปธรรมและพิสูจน์ได้ ก่อนภัยพิบัติใหญ่จะมา


เนื่องจากมีกระทู้เกี่ยวกับพระศรีอาริย์หลายกระทู้ ส่วนใหญ่จะเป็นคุณสมบัติและข้อมูลต่างๆตามแหล่งต่างๆมากมาย ซึ่งคิดว่าข้อมูลต่างๆมากเพียงพอแล้ว แต่เรายังขาดการค้นหาอย่างจริงจังเท่านั้น

ผมขออนุญาติตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพื่อร่วมค้นหาพระศรีอาริย์อย่างเป็นรูปธรรม และเป็นแบบวิทยาศาสตร์ สามารถพิสูจน์ได้ โดยเป็นแบบฉบับของบ้านสวนพีระมิดเอง

ในงานค่าย13ที่เพิ่งเสร็จสิ้นไป เราทราบจากท่านอาจารย์อุบลแล้วว่า ขณะนี้เราอยู่บนทาง 2 แพร่ง

1) เราไม่สนใจตามหาพระศรีอาริย์ แต่เรามุ่งเน้นทำความดี และในวันเกิดภัยใหญ่เราจะรอดเข้าสู่ยุคใหม่ ซึ่งจากแหล่งข้อมูลต่างๆคนทั้งหลายจะเสียชีวิตประมาณ 90%

2) ช่วยกันตามหาพระศรีอาริย์ให้เจอเร็วที่สุด หากเจอพระองค์ท่านก่อน พระองค์ท่านจะพาพวกเราเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์ ภัยใหญ่จะไม่เกิด แต่จะเกิดเป็นหย่อมๆเพื่อล้างคนไม่ดีออกไป

จากข้อมูลข้างต้น ลูกบ้านสวนฯในค่าย13ต่างพร้อมใจกันเลือกที่จะ ตามหาพระศรีอาริย์ให้เจอโดยเร็วที่สุด

ดังนั้นจึงขอเรียนเชิญทุกท่าน ร่วมกันตามหาพระศรีอาริย์อย่างจริงจัง เป็นรูปธรรมโดยใช้ปัญญาและพิสูจน์ได้ ดังในกิจกรรมกลุ่ม Workshopในค่าย13นี่เอง 



ผู้ตั้งกระทู้ ธนา อรุณภิญโญพล กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2012-10-08 15:54:39


<< ก่อนหน้า 1 [2] 3 4 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 101 (1633915)

 น้องมิ้มคะ

เมื่อคืนนี้ ได้คุยกับพ่อใหญ่ธนา

ถึงเรื่องอาการขนลุก ซึ่งพ่อใหญ่มีความเห็นว่า อาการนี้

ไม่อาจสรุปได้ว่า เกิดจากการใช่ หรือ ไม่ใช่

พ่อใหญ่ให้เหตุผลว่า

บางที คนปวดอึ ก็ขนลุกได้นะ

*********************

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่ชี้แนะค่ะ  จริงๆด้วยค่ะ 

ปวดอึ ก็ขนลุกจริงๆๆด้วยค่ะ 5555 หนูรู้สึกตลกตัวเองมากๆเลยค่ะ ^__^

ตอนที่นั่งคิด พิจารณาคุณสมบัติของพระศรีอาริย์ ก็นำสิ่งที่ตน และบุคคลต่างๆ ได้

สัมผัสบารมีของพระองค์ ที่มาสถิตผ่านกาย วาจา ใจ ของท่านอาจารย์อุบล

ลืมคิดเรื่อง ขนลุก ร้องไห้ ไม่สามารถสรุปได้ว่า ใช่ หรือ ไม่ใช่

เพราะเราสามารถมีอาการเหล่านี้ได้จากการทำกิจกรรมต่างๆ 

และการได้ชมบารมีพระศรีอาริย์ก็ทำให้เราได้พ้นทุกข์ต่างๆ การขนลุก ร้องไห้

ก็ไม่ใช่อาการของการสิ้นทุกข์  กราบขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ

+++++++++++++

ท่านคงแสดงอะไร

ที่พวกเราไม่คาดคิดอีก

เพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้พวกเรา

รับรู้ว่า

คุณสมบัติพระองค์

ต้องทำสิ่งใดได้อีกบ้าง

แล้วให้พวกเรารวบรวมบันทึกจดจำไว้

เพื่อพิสูจน์

บุคคลที่คิดว่า

น่าจะเป็นพระศรีอาริย์

จะต้องทำได้ดังเช่นที่พระองค์แสดง

ผ่านกาย วาจา ใจ อ.อุบล

โดยไม่ต้องอาราธนาบารมีพระองค์

ถ้าเป็นองค์จริง

+++++++++++++

 

พระองค์

ให้เอาปรากฎการ

อาราธนาบารมีพระองค์มา

แล้วใครรับสัมผัสอะไรได้ อะไรหาย

เป็นที่ตั้ง เป็นหลักในการค้นหา

*********************

กราบขอบพระคุณในพระเมตตาของพระศรีอาริย์ และท่านอาจารย์อุบลเจ้าค่ะ

ลูกจะเร่ง รวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม ปรากฎการณ์ อาราธนาบารมีของพระศรีอาริย์

แล้วบุคคลที่ได้รับสัมผัส ว่าเกิดผลอะไรกับเค้าบ้าง

เพื่อ จะได้เป็น รู้ว่าคุณสมบัติทั้งหมดของพระศรีอาริย์ ว่า

ท่านสามารถทำอะไรได้บ้าง

จะได้ไปตามคนที่มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับพระศรีอาริย์

ที่ท่านอาจารย์อุบลอาราธนา มาสถิตที่ กาย วาจา ใจ ค่ะ

เเละจะได้เร่งดำเนินการพิสูจน์ ตรวจสอบ ต่อหน้าสาธารณชนต่อไปค่ะ สาธุู^__^

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 22:16:52


ความคิดเห็นที่ 102 (1633918)

ปัจจุบันสำคัญที่สุด เชื่อในสิ่งที่ตนเองสัมผัสดีกว่าครับ ขอบพระคุณในปัญญาที่พระองค์ท่านและท่านอาจารย์มอบให้ครับ กราบ กราบ กราบ

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

พี่อยากบอกว่า

สวด.ด.ด.ด ยอด.ด.ด..ด น้องชาย

เชื่อในสิ่งที่ตนเองได้รับ สัมผัสได้ ตามแนวทางของผลสรุป

ตามตำราพิจารณาด้วยเหตุและผลด้วยปัญญา

ความน่าจะเป็น และอยากบอกอีกนิส อ่ะค่ะว่า ...

ย้อนอดีต นิดนึงว่าระยะเวลา ของผลที่ได้รับ และสัมผัสได้

ต้องมี อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยไม่เปลี่ยนแปลง

และต้องมีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ด้วยน๊า

ขอฝากตรงนี้ไว้ ให้พิจารณาอีกนิดคร๊าบ.บ.บ พี่น้อง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 22:21:26


ความคิดเห็นที่ 103 (1633921)

 ละ ลด เลิก

กิเลส ความงก ความโลภ

งมงายกับเงิน+งาน

 

จนลืมความตาย ลืมบุญหรือเปล่า 

++++++++++++++++++++

กราบขอบพระคุณในความเมตตาของท่านอาจารย์เป็นอย่างสูงค่ะ
ตั้งเเต่ได้ไปค่าย 13 ได้รู้หลายสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น และหน้าที่ที่ต้องทำ
ทำให้ มิ้ม ตัดสินใจ ตัดสิ่งภายนอกหลายอย่างออก
และหันมาเร่งสร้างบุญ เร่งทำหน้าที่
กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่เมตตาลูกมาโดยตลอดค่ะ สาธุ ^__^
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 22:28:12


ความคิดเห็นที่ 104 (1633922)

 พระองค์

ให้เอาปรากฎการ

อาราธนาบารมีพระองค์มา

แล้วใครรับสัมผัสอะไรได้ อะไรหาย

เป็นที่ตั้ง เป็นหลักในการค้นหา

อย่าหลงทาง จะเสียเวลา

 

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

 ตัวอัญเองไม่ค่อยมีอาการเจ็บป่วยใด ๆ  

จะมีบ้างก็ปวดหัว ปวดตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นบางครั้ง

แต่สิ่งที่ตัวอัญเองสัมผัสได้คืือ แค่ได้เข้ามาในเขตบ้านสวน

อาการเจ็บปวดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็หายทันที  

ยิ่งได้อยู่ใกล้ ท่าน อ.อุบล ด้วยแล้ว 

 จิตเบิกบาน มีความสุขโล่งเบา อย่างบอกไม่ถูกค่ะ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 22:32:42


ความคิดเห็นที่ 105 (1633923)

น้องมิ้มคะ

เมื่อคืนนี้ ได้คุยกับพ่อใหญ่ธนา

ถึงเรื่องอาการขนลุก ซึ่งพ่อใหญ่มีความเห็นว่า อาการนี้

ไม่อาจสรุปได้ว่า เกิดจากการใช่ หรือ ไม่ใช่

พ่อใหญ่ให้เหตุผลว่า

บางที คนปวดอึ ก็ขนลุกได้นะ

*********************

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่ชี้แนะค่ะ  จริงๆด้วยค่ะ 

ปวดอึ ก็ขนลุกจริงๆๆด้วยค่ะ 5555 หนูรู้สึกตลกตัวเองมากๆเลยค่ะ ^__^

5555555+++

ไม่ได้แอบดูนะคะ  มันเห็นเอง

ว่า

ค่ายฯ 13 ที่ผ่านมาเนี่ย

มีคนปวดอึบ่อยอ่ะค่ะ

หลายคนด้วยเด้

55555555555555++

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 22:38:23


ความคิดเห็นที่ 106 (1633930)

 

·        คุณนก (สุรดา) ขอร่วมตามหา
สมเด็จพระศรีอาริยเมตไตรย์ดังนี้ครับ            
 
ช่วยกันค้นหาคุณสมบัติพระศรีอาริย์ ว่ามีอย่างไรบ้าง
1.                   ปราบมาร ช่วยให้ผู้คน ลด ละ เลิก ความโกรธ ความหลง ความโลภ (มารที่อยู่ในตัวคนนั่นเอง) ละความอยาก ได้ อยากมี อยากเป็น
2.                   นำพาผู้คนพ้นทุกข์ (พระนิพพาน) บอกให้คน รักษาศิล หมั่นให้ทาน ทำใจให้สะอาด สว่าง สงบ เลิกทำบาปทั้งปวง
 
·                     ช่วยกันแจ้งหรือเสนอว่าใครบ้าง
ที่น่าเข้าข่ายว่าเป็นพระศรีอาริย์
1.                   พระศรีอาริย์ไม่จำเป็นว่าต้องเป็น หญิง หรือชาย เด็ก หรือคนแก่ พระหรือเณร เป็นใครก็ได้ ที่ช่วยให้ผู้คนพ้นทุกข์ ช่วยให้พวกเขาเหล่านั้นอยากถึงฝั่งคือพระนิพพาน
2.                   ถ้าเรารู้ว่าคุณสมบัติของพระศรีอาริย์ว่าเป็นอย่างไรแล้ว เราก็ต้องทำตามคำสั่งสอนของท่าน เช่น ลด ละ เลิก โกรธ หลง โลภ รักษาศิลให้บริสุทธ์ ทำใจให้สะอาด สว่าง สงบ ลดการเบียดเบียนผู้อื่น เลิกทำบาปทั้งปวง เมื่อนั้นเราก็จะเจอพระศรีอาริย์เอง เพราะท่านได้เข้ามาอยู่ในใจของพวกเราแล้วทุก ๆ คน
ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 22:47:43


ความคิดเห็นที่ 107 (1633937)

ตามที่ท่านอ.อุบลได้เคยบอกไว้

สมเด็จพระศรีอาริยเมตไตรย์

ท่านทรงพระเมตตาเป็นอย่างยิ่ง

ดังพระนามของพระองค์ท่าน

 

ซึ่งการเสด็จมาครั้งนี้ ท่านมิได้มาตรัสรู้

แต่มาเพื่อเผยแพร่พระธรรมคำสอน

ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เพื่อช่วยโลกให้พ้นภัย

เพื่อนำชาวโลกเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์

ยุคที่มีแต่ความสุข ไม่มีโรคภัย

ผู้คนเป็นหนุ่มเป็นสาว มีสุขภาพแข็งแรง

 

ยุคของพระองค์ท่าน

ทุกศาสนาจะรวมเป็นหนึ่งเดียว

เพราะทุกคนล้วนเป็นคนดี

 

ดังนั้น คุณสมบัติของพระองค์ท่าน

จึงต้องเป็นผู้ที่ไม่แบ่งแยกศาสนา

เป็นผู้ที่สอนให้ทุกคนมีความเมตตา

มีความรักให้แก่กันโดยไม่มีเงื่อนไข

จึงจะรวมทุกเชื้อชาติที่แตกต่างกันให้เป็นหนึ่งเดียวได้

 

พระองค์ท่านจะต้องทราบถึงพลังของจักรวาล

จึงจะสามารถช่วยให้ผู้คนกลับมาเป็นหนุ่มเป็นสาว

มีสุขภาพแข็งแรง และมีจิตใจที่ดีงามได้

 

ดังนั้น หากผู้ใดที่มีคุณสมบัติดังกล่าว

ก็เชื่อได้ว่าได้พบพระองค์ท่านแล้วครับ

โดยพิสูจน์ได้จากอาการที่เราสัมผัสได้

ด้วยความสุข ความพ้นทุกข์ที่เราได้รับ

เมื่อได้พบพระองค์

 

แต่การที่เราจะสามารถสัมผัสได้อย่างแท้จริงนั้น

เราจะต้องสร้างคุณสมบัติที่จะอยู่ในยุคของท่าน

นั่นคือ มีความเมตตาปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์

อย่างไม่มีข้อแม้ มีศีล 5 และกรรมบท 10

และปรารถนาไปสู่พระนิพพานนั่นเองครับ

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณธนาเจ้าของกระทู้

และธรรมทานจากทุกท่านครับ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 23:18:40


ความคิดเห็นที่ 108 (1633938)

 พระองค์

ให้เอาปรากฎการ

อาราธนาบารมีพระองค์มา

แล้วใครรับสัมผัสอะไรได้ อะไรหาย

เป็นที่ตั้ง เป็นหลักในการค้นหา

อย่าหลงทาง จะเสียเวลา

***

ผมคิดว่า การรับสัมผัสที่หายทันที นี่ เป็นสิ่งที่สัมผัสได้จริง ไม่ต้องอิงตำราเลย และไม่ผิดหลักกาลามสูตรด้วยครับ แต่เรื่องแบบนี้ ในชีวิตก็เพิ่งเคยเห็นที่บ้านสวน และ เวลาที่ท่านอาจารย์ไปนอกสถานที่และอารธนาบารมี เท่านั้น

ส่วนพวกเราเวลาจะขอบารมีท่านก็ต้องอารธนาก็ต้องกล่าวเต็มๆว่า"ขออารธนาบารมีพระศรีอาริย์ที่อาจารย์อุบลเป็นผู้อารธนา"ก่อนทุกครั้ง แต่ คนที่อารธนาพระศรีอาริย์โดยตรงที่เห็นก็มีแค่ท่านอาจารย์อุบลคนเดียวเท่านั้น (ที่เคยเห็นนะครับ)

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 23:18:54


ความคิดเห็นที่ 109 (1633943)

จากความเห็นที่92

ถ้าตอนนี้ไม่มีหลักฐานใดๆ หรือตำราต่างๆ มาให้ค้นหาอ้างอิงในการตามหาพระศรีอาริย์ เราก็จะใช้ปัญญานำในการค้นหาโดย ใช้หลักกาลามาสูตรนำทาง เห็นผลเป็นวิทยาศาสตร์ได้ ในการกำหนดคุณสมบัติในการตามหาพระศรีอาริย์ ดังนี้

1.เห็นการเปลี่ยนแปลง กับตนเอง โรคภัย ไข้เจ็บ ด้านจิตใจ ที่เคยเป็นมา เมื่อได้รับบารมี อยู่ใกล้พระศรีอาริย์ ก็จะหายเห็นผลทันที

2.เห็นการเปลี่ยนแปลงกับทุกๆ คน ที่ได้เข้าใกล้พระองค์ หรือได้รับบารมีจากพระองค์ คนที่เป็นโรคภัยไข้เจ็บทั้งกายภายนอกและภายในก็จะหาย สามารถสัมผัสรับรู้ได้ทันที เช่น คนขาโก่ง เดินขาลาก เป็นแผล เลือดไหล ฯลฯ ก็จะหายฉับพลันทันที

3.คนที่ปรามาสพระองค์ก็จะได้รับภัยต่าง ๆ หรือรับผลอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่ทุกคนที่พบเห็นสามารถรับรู้ได้โดยทันที

4. ทุกคนที่ได้รับพระบารมี หรือเข้าใกล้พระองค์จะรับรู้และสัมผัสการเปลี่ยนแปลงทันทีได้ด้วยตัวของตัวเอง

 

5.สามารถพิสูจน์ตัวปลอมได้ทันที เพราะผลในสสี่ข้อข้างต้นจะไม่สามารถจะทำได้ หรือไม่สามารถพิสูจน์ออกมาให้สาธารณะชนประจักษ์ได้เลย

(อย่าเข้าใจผิดว่าเป็น อ.อุบลนะครับ ถ้าเป็นองค์จริงไม่ต้องอาราธนาบารมี และเกิดผลทุกที่ทุกเวลาที่พบพระองค์ แต่ อ.อุบล ต้องพบผู้คนมากมาย และลูกบ้านสวนมากมายเช่นกัน ไม่ได้มีผลตลอดเวลา)

--------------------------------------

 

เราต้องเดินหน้า

หาองค์จริงต่อไปไม่หยุด

 

พร้อมเหตุผล

หลักฐานสนับสนุน

คุณสมบัติ

-----

พระองค์

ให้เอาปรากฎการ

อาราธนาบารมีพระองค์มา

แล้วใครรับสัมผัสอะไรได้ อะไรหาย

เป็นที่ตั้ง เป็นหลักในการค้นหา

อย่าหลงทาง จะเสียเวลา

 

อันนี้รับสารมา

ก็เลยเป็นนางไปรษณีย์

มาบอกจ้า

------

ขอขยายความเหตุผลที่ผมนำเอา เหตุผลข้อ1-5 ของความคิดเห็นที่92 มาเป็นคุณสมบัติในการตามหาพระศรีอาริย์ คือ อ.อุบลอาราธนาพระศรีอาริย์ผ่านกายวาจาใจยังทำให้คนมีทุกข์โรคภัยต่างๆ หายได้อย่างฉับพลันทันทีได้ ไฉนเลย ผมเลยเอา เหตุผลในข้อ1-5 เพื่อเป็นคุณสมบัติตามหาพระศรีอาริย์ พระองค์จริง

สมมุติว่าเราเดินทางไปที่ใดสักที่หนึ่งซึ่งไปอยู่ใกล้พระองค์ก็จะเกิดเหตุการณ์ตามข้อ1-5 หรือข้อใดข้อหนึ่งทำให้เราสัณณิฐานในวงแคบขึ้นว่าพระองค์อยู่บริเวณใด ซึ่งจะนำพาไปเพื่อพบพระองค์ง่ายขึ้น

ผู้แสดงความคิดเห็น จุมพล บัวโต ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-11 23:37:53


ความคิดเห็นที่ 110 (1633953)

ท่านห่วงลูกหลาน

จอมหลักการ แต่ไม่เอาหลักจริง

ความจริงที่เกิดขึ้นเห็นกันต่อหน้า

ต้องใช้ปัญญาตรงนี้

ท่านบอกนะ

พออ่านประโยคนี้แล้วก็รู้เลยว่า

ถูกตำราหลอกจนหลงทาง

คุณสมบัติของพระศรีอาริย์ที่เคยอ่านเคยฟังมาต้องเก็บเข้ากรุไปก่อนเลย

คุณสมบัติพระศรีอาริย์คืออะไรย่อมต้องมาสัมผัสด้วยตัวเองในงานชมบารมีพระศรีอาริย์เท่านั้นคนเขียนตำราเกี่ยวกับพระศรีอาริย์คงไม่เคยเจอพระศรีอาริย์แน่ๆ

เพราะถ้าเจอแล้วก็ไม่ต้องมาหากัน

ผมเคยเข้าชมพระบารมีของพระศรีอาริย์ที่อ.อุบลอัญเชิญมาเพียงครั้งเดียว

ไปด้วยอาการปวดไท้ทอย หัวเข่าลั่น ปวดส้นเท้า

หลังจากเข้าใกล้ท่านอาจารย์อาการปวดไท้ทอยดีขึ้น90%

ที่ยังหายไม่หมดเพราะยังมีจิตที่ยังคิดปรามาสอยู่ศรัทยังไม่100%เต็ม

อาการหัวเข่าลั่นดีขึ้นคือ นั่งยองเพียง3ครั้ง ครั้งที่4ไม่ดังแล้ว

ที่ดีขึ้นหน่อยแต่ยังหายไม่หมดเพราะจิตยังฝักใฝ่ในเรื่องลามกอยู่แต่ก็คิดน้อยลงกว่าแต่ก่อนนิดเดียว

อาการปวดส้นเท้าสารภาพต่อหน้าอ.อุบลบนเวทีแล้วหาย

แต่ลงมาบังคับจิตไม่อยู่คิดอีกเลยปวดอีก

สรุปคือ คุณสมบัติของพระศรีอาริย์ที่ท่านเมตตาประทานมาให้ผมได้ประจักษ์ในตอนนี้คือ

1.ทำให้อาการเจ็บป่วยหายได้เมื่อเข้าใกล้รัสมีพระบารมี

2.ท่านไม่ให้ท้ายคนเลว ถ้ายังชั่วอยู่ต่อถึงรับพระบารมีก็ยังไม่หาย

ส่วนบุคคลที่เข้าข่ายว่าจะมีคุณสมบัตินี้ ตั้งแต่เกิดมาเคยเจอแค่ท่านเดียว

ครั้งหนึ่งเคยมาสารภาพบาปกับอ.อุบล อาการเจ็บปวดต่างๆก็ดีขึ้น แต่ที่แค่ดีขึ้นไม่หายเพราะสารภาพยังไม่หมดและยังเลิกทำไม่ได้อย่างเด็ดขาด

 ผมยังไม่สรุปนะครับว่าเป็นอ.อุบล เพียงบอกว่าเคยมีประสบการณ์ดีขึ้นฉับพลันแบบนี้กับอ.อุบลท่านเดียวเท่านั้น

 แม้ท่านอ.อุบลจะบอกว่าพลังที่ลงมาบำบัดเป็นพลังจากเบื้องบน อาจารย์เป็นเพียงสื่อกลาง

แต่ทำไมเบื้องบนต้องเลือกท่านอาจารย์อุบลเท่านั้นล่ะน่าคิดจริงๆข้อนี้

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชิม วัชระ เลิศวิทยากรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 00:10:33


ความคิดเห็นที่ 111 (1633969)

ใครก็ได้

ช่วยก๊อป

หลักกาลามสูตร 10

มาวางหน่อยได้ไหมคะ

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 00:36:50


ความคิดเห็นที่ 112 (1633971)

กาลามสูตร คือ พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตติยนิคม แคว้นโกศล (เรียกอีกอย่างว่า เกสปุตติยสูตร หรือเกสปุตตสูร]) กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ มีอยู่ 10 ประการ ได้แก่

  1. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา
  2. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา
  3. อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ
  4. อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา
  5. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา
  6. อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา
  7. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล
  8. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน
  9. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้
  10. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน
ผู้แสดงความคิดเห็น ชิม วัชระ เลิศวิทยากรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 00:46:53


ความคิดเห็นที่ 113 (1633972)

ลูกยังไม่ได้สรุปครับว่าเป็นอ.อุบล

อ.อบล ก็คือ อ.อุบล ไม่ใครอื่น

ลูกเพียงขอยกเหตุการณ์ที่เคยพบเจอทั้ง2เหตุการณ์เปรียบเทียบกัน

คือเหตุการณ์ ชมบารมีพระศรีอาริย์

กับ เหตุการณ์สารภาพบาปออกรายการ คุยไปแจกไป

มีปรากฏการณ์ที่เหมือนกันคือ คน อาการป่วย ดีขึ้น หรือ หาย โดยฉับพลันทันที

พิสูจน์ได้แบบเป็นรูปธรรมครับ 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชิม วัชระ เลิศวิทยากรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 00:52:51


ความคิดเห็นที่ 114 (1633978)

 

กาลามสูตร คือ พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ เกสปุตตสูร])

กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน

ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณา

ให้เห็นจริงถึงคุณโทษ หรือดี ไม่ดี ก่อนเชื่อ

มีอยู่ 10 ประการ ได้แก่

  1. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา
  2. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา
  3. อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ
  4. อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา
  5. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา
  6. อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา
  7. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล
  8. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน
  9. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้
  10. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน
ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 01:32:17


ความคิดเห็นที่ 115 (1633984)

สัปดาห์ที่จะถึงนี้

คือ 13-14 ต.ค.55

 

อ.อุบล

จะขออาราธนาบารมี

พระศรีอาริย์

มาอีก

 

รูสึกลึกๆว่า

ท่านคงแสดงอะไร

ที่พวกเราไม่คาดคิดอีก

เพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้พวกเรา

รับรู้ว่า

คุณสมบัติพระองค์

ต้องทำสิ่งใดได้อีกบ้าง

แล้วให้พวกเรารวบรวมบันทึกจดจำไว้

เพื่อพิสูจน์

บุคคลที่คิดว่า

น่าจะเป็นพระศรีอาริย์

จะต้องทำได้ดังเช่นที่พระองค์แสดง

ผ่านกาย วาจา ใจ อ.อุบล

โดยไม่ต้องอาราธนาบารมีพระองค์

ถ้าเป็นองค์จริง

 

พระองค์

ก็คงไม่ต้องการปกปิด

แต่ต้องการให้เกิดการยอมรับ

โดยประทานบารมีมาก่อน

มาสร้างศรัทธาก่อน

สร้างความเชื่อมั่นก่อน

 

โดย

ให้พวกเรานี่แหละ

สัมผัสได้เองจริงๆด้วยตัวเอง

เวลาพูดกับใคร จะได้ยืนยันได้ว่า

เจอกับตัวเองจริงๆ

หายจริงๆ

 

ก็ของจริง ก็ต้องจริง

ของปลอม ก็ต้องไม่เกิดผลจริง

............................................

เสาร์ อาทิตย์นี้ ลูกบ้านสวนฯ

คงจะได้ค้นพบคุณสมบัติ

เพิ่มเติมของพระศรีอาริย์

ที่พวกเราควรรู้

 

โดยอิง"หลักจริง"

มิใช่อิง"หลักการ"อีกต่อไปแล้วนะคะ

เพราะว่า   ของจริง ยังไง ก็ต้องจริง สาธุ


จะว่าไป

พวกเราน่าจะไปถามเด็กๆดูนะคะว่า

เค้าจะรู้ได้ยังไงว่า

"บุคคลใด

คือพระศรีอาริย์พระองค์จริง หรือ ปลอม"

 

รับรองว่า คำตอบที่ได้

อาจจะ"ง่าย"และ"ตรง"

กว่าที่พวกเราคิดเย๊อะเลย อิอิ

 

ช่วงนี้เห็นแต่ละคนเครียดๆ

กับการตามหาพระศรีอาริย์กันไปโหน่ย

 

ชนิดาก็เลยคิดเล่นๆขำๆว่า

ทำไมเราไม่ถามกายทิพย์ของพระองค์

ที่ท่านอาจารย์อัญเชิญมา

แล้วก็ถามตรงๆไปเลยว่า

กายเนื้อของพระองค์อยู่ที่ไหนค่ะ

พวกเราจะได้ไปพบทันที

อิอิ แบบนี้หาคำตอบได้ง่ายดี

 

จ๊ากก...กราบขออภัยไร้สาระไปหน่อย...

 

 

งั้น ทำตามวิธีที่ท่านอาจารย์

แนะนำดีที่สุดค่ะ

 

แต่ชนิดาก็คิดเหมือนกันนะคะว่า

ถ้าเกิดไม่มีใครกล้า

มาพิสูจน์เลยแม้แต่คนเดียว

 

พวกเราต้องวางแผนสำรอง

เผื่อไว้ด้วยรึเปล่าคะ

เพราะอย่างที่พ่อใหญ่ธนาว่า

ตอนนี้"บุคคลเหล่านั้น"

โดนมรสุมจนหนีหายไปหมดแล้ว...  

..................................

ขอให้ทุกท่าน มาช่วยกันคิด

ช่วยกันออกความคิดเห็นนะคะ

เพราะในมุมเล็กๆของความคิดของเรา

มักจะมี"สิ่งที่น่าสนใจ"ซ่อนอยู่เสมอ

บางทีตัวเราเองก็อาจจะไม่รู้ตัว..ก็ได้

 

แต่ชนิดาก็มีความสงสัยอย่างหนึ่ง

คล้ายๆกับคุณ อดิศักดิ์ เหมือนกันนะคะว่า

 

จะมีใครอีกบ้างไหม๊

ที่สามารถอัญเชิญบารมีของพระศรีอาริย์

แล้วทำให้ผู้คนสัมผัสบารมี

พระองค์ได้อย่างชัดเจนเช่นนี้

 

เพราะถ้าพูดตามตรงแล้ว

พวกเราก็ไม่ได้ยึดติดที่"ตัวบุคคล" อยู่แล้ว

แต่เรายึดกับ"ผลจากการหายป่วย หายจน"

ที่ได้รับมากกว่า..อยู่แล้วนี่นา

 

คือถ้ามีคนสามารถอาราธนา

บารมีพระองค์ได้ซัก100คน

แล้วแต่ละคนก็กระจายกำลัง

ไปปลดเปลื้องทุกข์ให้คนอื่น

ตามพื้นที่ต่างๆ

ดูแล้วก็น่าจะง่ายกว่ากันเยอะนะคะ

 

 

แต่ในความเป็นจริงแล้ว

จะมี"ผู้ใดอีก"ที่สามารถอัญเชิญ

บารมีพระองค์ได้..เช่นนี้ ???



 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 03:49:52


ความคิดเห็นที่ 116 (1633985)

 (นายพิชัย  ภูกิ่งพลอย)

เราจะตามพระศรีอาริย์ได้อย่างไร

ตอนแรกเราต้องรู้ว่าพระศรีอาริย์มีคุณสมบัติอย่างไร คือ ท่านจะมี

ความเมตตา พุทธานุภาพ และจะสร้างสันติให้มีความสุข เราต้องเอา

ของหนึ่งมาพิจารณา

1.ความเมตตา : ลองใช้ความเมตตาต่อคนทุกคน สัตว์ทุกตัว ว่าที่เขา

ทุกข์อยู่ให้ได้ใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วยช่วยให้ได้รับบารมีพระศรีอาริย์

โดยการตัดความอยากของเราออก

2.พระอานุภาพ : ให้เราลองใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วย ขอบารมีพระศรีย์

มาคุ้มกายเวลาพูดเรื่องธรรมะเวลาจะช่วยเรื่องคนเจ็บป่วยเรื่องการเงิน

การงาน เรื่องอบายมุข

3.สร้างสันติสุข : ก็เมื่อทำได้ 2 ข้อ ข้างต้นแล้วทุกคนจะมีแต่ความ

สุข หายจากความแก่ หายจน หายโรคภัยไข้เจ็บพ้นทุกข์

หลักการณ์พิสูจน์เราก็ประมวลตามข้อ 1 - 3 เช่น

1.คือแต่ก่อนเราไม่มีเมตตาผู้อื่นหลายเรื่องแต่เดี๋ยวนี้เราเอาเมตตา

มุทิตา อุเบกขา เขาไปช่วยคนตามคำสอนของพระศรีอาริย์แล้วก็ได้ผล

ปกติแต่ก่อนผมพูดธรรมะกับใครๆก็ไม่ชอบจะฟังผมพูดหาว่าเราเป็นบ้า

แต่เดี๋ยวนี้เราพูดด้วยความเมตตานิ่งกว่าเดิมไม่รุ่มร้อนกับคำพูดคนอื่น

จนทำให้เขาเหล่านั้นอยากฟังธรรมะจากผมแล้วก็ได้ช่วยเหลือเขา

เหล่านั้นเรื่องอ.อุบลช่วยด้วยและตอนนี้คนเริ่มเข้าใจและเริ่มใช้แล้ว

ต่อจากนี้ก็ติดตามเรื่อยๆถ้ามีโอกาสเพราะผมก็อยากให้เกิดความอยาก

2.เรื่องพุุทธานุภาพ  เรื่องที่ผมคิดก็ได้ผล คือมีอยู่เรื่องหนึ่งคือเมื่อวาน

นี้ 10 ต.ค 55 ผมได้ไปส่งอาหารวัวนม ได้พบกับเจ้าของฟาร์มปกติ

ได้พูดกับเขาเกี่ยวกับธรรมะเขาก็ไม่ฟังเรา แต่วันนี้พอพูดกับเขาเขา

กลับฟังเขาบอกว่าเขาไม่มีเงินเหลือเลย แล้วเราก็แนะนำว่า ตอนนี้

เรามีหญ้าสดเพื่อจะมาขายให้เพื่อช่วยลดต้นทุนจะได้มีเงินเหลือเพราะ

อาหารสำเร็จแพง อาหารสำเร็จกก.ละ 10-11 บาท แต่หญ้าบวง

กก.ละ 2 บาท โปรตีนก็ใกล้เคียกันคือทดแทนกันได้แต่เขาก็บอกว่า

เข้าใจแต่ไม่มีเงินสดที่จะซื้อเราแต่เขาก็แนะนำให้เราไปติดต่อสหกรณ์

ให้ขายผ่านสหกรณ์เพราะสหกรณ์เครดิตได้แต่ถ้าผมไปติดต่อคงจะ

นานและอีกนานกว่าจะได้รับอาหารราคาถูกจากผม ผมจึงมีความคิด

ว่าให้เขาเอามูลวัวมาขายให้ผมแล้วผมก็จะเอาให้แทนเงินที่ซื้อแต่ผม

ก็ยังไม่มีออเดอร์เลย จึงหมดปัญญาแค่ได้แต่คิดเท่านั้น แต่พอดีรุ่งเช้า

11ต.ค55ผมได้เอาไข่ไปขายช่วยภรรยาพอจอดรถขายไข่ก็มีคนสั่ง

มูลวัว 200 กระสอบ ปกติขาย 30 บ./ถุง แต่วันนี้เขาต้องการขาย

40 บ./ถุง ก็ยังได้ขาย จะพิสูจน์ได้ว่าผมแค่คิดบารมีพระศรีอาริย์

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ช่วยเราได้  แล้วเราก็พิสูจน์ตามคำสอนของใครล่ะ

และเรื่องพิสูจน์และการตามหาก็คงจะทำไปเรื่อยๆเพื่อเป็นหลักฐาน

เพื่อพิสูจน์ว่าคนที่ให้คำสอนเหล่านี้คือพระศรีอาริย์

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 04:01:57


ความคิดเห็นที่ 117 (1633986)

 พวกเราต้องวางแผนสำรอง

เผื่อไว้ด้วยรึเปล่าคะ

เพราะอย่างที่พ่อใหญ่ธนาว่า

ตอนนี้"บุคคลเหล่านั้น"

โดนมรสุมจนหนีหายไปหมดแล้ว...   

..................................

คุณชนิดาคะถ้าบุคคลเหล่านั้นเจอมรสุมแค่นี้แล้วหนีหายกันไปหมด

เขาคงจะไม่ใช่พระองค์ท่านตัวจริงแน่ๆคะ...

น่าจะเป็นเจ้าลัทธิเจ้าตำรา

ตามที่ดร.จิตราท่านเคยเตือนเราว่า "อย่าหลงในตัวบุคคลมากกว่า"

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 04:03:15


ความคิดเห็นที่ 118 (1633991)

ขออาราธบารมีพระศรีอาริย์เมตไตรที่ท่านอ.อุบล

อันเชิญมาสถิตย์ที่บ้านสวนพีระมิดโปรดช่วยลูกด้วย

ช่วยให้น้อยตามพระหาพระองค์พระศรีอาริย์

ที่เป็น

กายเนื้อจริง ๆ ได้ ณ บัดนี้ ด้วยเทอญ

สาธุ สาธุ สาธุ

(ใช้วิธีนี้ค่ะ)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 04:33:45


ความคิดเห็นที่ 119 (1633992)

หลักกาลามสูตร

เป็นหลักแห่งความเชื่อไม่ให้เชื่อแบบงมงาย โดยไม่ใช้ปัญญา

พิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษดีไม่ดีโดยไม่ได้พิสูจน์ก่อนเชื่อ

มี 10 ประการ คือ

1.อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟัง ๆ กันมา

2.อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อ ๆ กันมา

3.อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ

4.อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา

5.อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา

6.อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา

7.อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล

8.อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฏีของตน

9.อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้

10.อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นางยุวรัตน์ พันธุวงษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 04:40:47


ความคิดเห็นที่ 120 (1634012)

คุณชนิดาคะถ้าบุคคลเหล่านั้นเจอมรสุมแค่นี้แล้วหนีหายกันไปหมด

เขาคงจะไม่ใช่พระองค์ท่านตัวจริงแน่ๆคะ...

น่าจะเป็นเจ้าลัทธิเจ้าตำรา

ตามที่ดร.จิตราท่านเคยเตือนเราว่า "อย่าหลงในตัวบุคคลมากกว่า"

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 04:03:15

 

 

ทองแท้

ต้องไม่แพ้ไฟ

 

ของจริงแล้วไซร้

ต้องไม่กลัวการพิสูจน์

 

ยิ่งต่อหน้าคนเยอะ

แค่ไหน

 

คนจริงต้องยิ่งชอบ

เพราะ

ทอง ย่อม เป็นทอง

 

เพชร

ย่อมเป็นเพชร

 

ต้องกล้าหาญมั่นใจ

คือ

บันลือสีหนาทในทุกกาล

สถานที่นั่นเองค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 08:46:39


ความคิดเห็นที่ 121 (1634021)

 

สาธุ สาธุ สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น ภัคณัฐฎ์ ธรณ์วรรธ์ธนา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 09:14:07


ความคิดเห็นที่ 122 (1634022)

 

พระองค์


ให้เอาปรากฎการ


อาราธนาบารมีพระองค์มา


แล้วใครรับสัมผัสอะไรได้ อะไรหาย


เป็นที่ตั้ง เป็นหลักในการค้นหา


***************************


คุณสมบัติของพระศรีอาริย์

ที่พอจะสรุปรวบรวมได้เพิ่มเติมจากข้อมูลของตัวเอง มีดังนี้ค่ะ


1.ท่านต้องเป็นบุคคลที่มีกายเนื้อ แต่มีฤทธิ์มาก

จนสามารถทำให้คนหายโรคภัยไข้เจ็บ

หายพิการได้ในฉับพลันทันที


2.ท่านต้องเป็นบุคคลที่ทำให้เราหายจน

มีสภาพคล่องทางการเงินภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว


3.ท่านจะเป็นผู้ที่ปฏิวัติการเมือง

การปกครองทุกอย่าง โดยไม่เสียเลือดเนื้อ

โดยใช้หลักพรหมวิหาร 4


4.ท่านจะนำพาทุกชาติในโลกให้เป็นหนึ่งเดียว

ไม่แบ่งแยก เชื้อชาติ ศาสนา ไม่มีเส้นแบ่งพรมแดน


5.ท่านจะทำให้มนุษย์ทุกคนเลิกเบียดเบียน เลิกเข่นฆ่า

โดยทำให้คนหันมาทานมังสวิรัตแทนเนื้อสัตว์ได้


6.ท่านจะทำให้คนชั่วหมดไปจากสังคมโลก


โดยคุณสมบัติดังกล่าว เป็นสิ่งที่พวกเรา

ล้วนอยากให้เกิดขึ้น เรียกว่าหาเอาจาก

สิ่งที่เราอยากให้เป็นก่อนค่ะ

ซึ่งเมื่อตีโจทย์ในการตามหาพระองค์ท่านแล้ว

ก็คือเราต้องหาบุคคลที่สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้

คราวนี้ก็ต้องมาดูแล้วค่ะ

ว่ามีใครบ้างที่เข้าข่ายตามคุณสมบัติที่แต่ละท่านว่ามา

แล้วรวบรวมรายชื่อเสนอให้พิสูจน์


แต่ตุ้ยก็ยังสงสัยจุดนึงค่ะ คือถ้าเราได้รายชื่อ

บุคคลที่เข้าข่ายแล้ว เราสามารถ

แจ้งชื่อท่านเหล่านั้นทางเว็บไซต์ได้เลยหรือเปล่าคะ 

หรือว่า ให้เราเก็บไว้ก่อนค่ะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 09:18:14


ความคิดเห็นที่ 123 (1634034)

พระองค์


ให้เอาปรากฎการ


อาราธนาบารมีพระองค์มา


แล้วใครรับสัมผัสอะไรได้ อะไรหาย


เป็นที่ตั้ง เป็นหลักในการค้นหา

..................

ขอเสนอคุณสมบัติพระศรีอาริย์แบบง่ายๆนะครับ

1.ท่านสามารถทำให้ผู้คนหายเจ็บป่วยได้

2.ท่านสามารถทำให้ผู้คนหายยากจนได้

3.ท่านสามารถทำให้ผู้คนบรรลุธรรมได้

ลองใช้คุณสมบัติทั้ง3ข้อนี้เบื้องต้นก่อนครับ แล้วประกาศตามหาผู้ที่มีคุณสมบัติครบทั้ง3ข้อ มาร่วมพิสูจน์

อาจจะมีบางข้อมูลว่าพระศรีอาริย์ต้องปิดบังตนเองเพราะฝ่ายมารจ้องทำลาย แต่ท่านอาจารย์ได้บอกแล้วว่าเพชรย่อมเป็นเพชรครับ และท่านคงไม่กลัวหมู่มารหน้าไหนหรอกครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชวนินทร์ กฤตธกร (ก็อต) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 09:55:26


ความคิดเห็นที่ 124 (1634061)

 

 แต่ในความเป็นจริงแล้ว

 จะมี"ผู้ใดอีก"ที่สามารถอัญเชิญ

บารมีพระองค์ได้..เช่นนี้ ???

++++++
 
เรื่องนี้น่าคิดมากเลยนะคะ พี่ชนิดา  เพราะว่า
เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับ พี่อมร ตอนที่พี่อมรอาราธนาบารมีพระศรีอาริย์
ให้พระองค์ท่านมาช่วยในตอนที่่นิ้วบวม
ตอนเเรก ไม่เกิดผล
 

เเต่ เมื่อ กล่าวว่าขออาราธนาบารมี พระศรีอาริย์ที่ท่านอาจารย์อุบล 

 

อาราธนามาสถิตที่กาย วาจา ใจ ของท่านอาจารย์อุบล

 

ก็เกิดผลอัศจรรย์ให้นิ้วที่บวมหาย

 


เเต่ถึง อย่างไร มิ้มก็จะไปรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม
คุุณสมบัติพระศรีอาริย์ต้องทำอะไรได้บ้าง
ผู้รับสัมผัสบารมี เกิดผลอะไรกับเค้าบ้าง
หายฉับพลันทันที หรือ หาย พ้นทุกข์หรือดีขึ้นในเวลาอันสั้น
คือ
หายป่วย หายจน พ้นทุกข์ สมหวังในเรื่องที่ปรารถนา
บรรลุธรรม เปลี่ยนเเปลงตนเองเป็นคนดี
เพียงเเค่ได้เดินผ่านหรือได้เข้าใกล้พระองค์
 
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่มีใครในโลกนี้ทำได้เเน่นอน
นอกจากพระศรีอาริย์เพียงผู้เดียวเท่านั้น

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประภาสิริ ถาวร (มิ้ม) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 11:35:55


ความคิดเห็นที่ 125 (1634075)

 ขอเพิ่มคุณสมบัติอีกหน่อยนึงน่ะครับ

1.วาจาสิทธิ์ หากท่านกล่าวสิ่งใด สิ่งนั้นต้องเป็นจริงโดยแท้ครับ
2.อีกอย่างนึงในความเห็นผมก็คือ ท่านน่าจะแยกความแตกต่างของคนที่ทำดี กับ ทำชั่วให้เห็นอย่างชัดเจน เช่น รวย-จนสวย-อัปลักษณ์ สุขภาพดี-ป่วย เป็นต้น คนที่ไม่รักษาศีลจะได้เห็นผลกับตา แล้วเขาทั้งหลายจะได้เปลี่ยนตัวเองอย่างฉับพลัน
ความเห็นด้านอื่นๆ
1.ตอนนี้ท่านกำลังทำอะไรอยู่น่ะ..
   ท่านอาจจะกำลังสอนคนอยู่ หรือเตรียมพร้อมในด้านต่างๆเช่นบุคคลากร หรือในด้านต่างๆอยู่หรือเปล่าน่ะ หรือเป็นไปได้ไหม๊ครับ ว่าท่านยังไม่รู้ตนเอง ว่าท่านเป็นใคร หรือรู้..แต่ไม่สนใจ เพราะท่านต้องการ ช่วยเหลือคน-สัตว์-จิตวิญญาณ-เทวดา ให้พ้นทุกข์ ให้หลุดพ้น โดยท่านเองไม่สนใจนามสมมุติ คือท่านสนใจหน้าที่ช่วยเหลือเป็นหลัก ดังนั้นถ้าหากเรา ไปเชิญ ไปถาม ท่านก็อาจไม่ตอบรับ เพราะไม่ตอบโจทย์ท่าน....แฮะๆ ฟุ้งซ่านอีกล่ะ     
ผู้แสดงความคิดเห็น กฤษณะ สิงห์ป้อม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 13:16:18


ความคิดเห็นที่ 126 (1634145)

เด็กชายพอเจตน์ สุดจิตต์ (น้องบิ๋กซัน)

ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นค่ะ

น้องบอกว่าจะตามหาพระองค์โดย

ขอพระบารมีพระศรีอารีย์ที่ท่านอาจารย์อุบลเป็นผู้อาราธนาอัญเชิญ

หากท่านผู้นี้ .....คือพระศรีอารีย์ขอให้ข้าพเจ้ามีอาการหายเจ็บป่วยในฉับพลันทันทีครับ

น้องคิดว่าคุณสมบัติของพระศรีอารีย์คือท่านที่ทำให้เราหายป่วยในฉบับพลันทันที และท่านจะไม่บอกเรื่องของพระองค์ ท่านจะไม่หลงตัวเอง  ท่านจะเมตตากับทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ และผี

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 19:32:28


ความคิดเห็นที่ 127 (1634151)

                                                                         ท่านห่วงลูกหลาน

จอมหลักการ แต่ไม่เอาหลักจริง

ความจริงที่เกิดขึ้นเห็นกันต่อหน้า

ต้องใช้ปัญญาตรงนี้

ท่านบอกนะ

********

บางครั้งก็คิดเหมือนกันนะค่ะ เปิดเวบนู๋เวบนี้เพื่อที่จะหาข้อมูลเกี่ยวกับพระองค์ท่าน

แต่บางครั้งอาจจะคิดและมองลึกจนเกินไปมัวแต่ไปเชื่อตำราที่เขียนๆต่อกันมา

เชื่อตามคำบอกเล่ามากเกินไป 

เพราะทั้งทีบ้านสวนเราก็เห็นปรากฏการณ์หลายๆอย่างที่เกิดขึ้น

น่าจะเอาสิ่งที่เห็นด้วยตาและสัมผัสด้วยใจมาเป็นเครื่องพิสูจน์และวิเคราะห์

หาพระศรีอาริย์พระองค์จริง กันต่อไปค่ะ ต่อไปหนูต้องใช้หมองให้มากกว่านี้แล้วค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น วรางคณา พุฒศรี(มะเหมียว) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 20:21:19


ความคิดเห็นที่ 128 (1634160)

กำหนดคุณสมบัติของพระศรีอาริย์ว่าควรเป็นอย่างไรบ้าง

จากสิ่งที่ได้สัมผัส คิดว่าพระองค์ มีส่วนเกี่ยวข้องและหน้าจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กับพระเจ้าจักพรรดิ

สิ่งที่เห็น คือ

 1.ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ท่านมีความรักความเมตตาให้กับคนทั้งโลก ทุกชาติ ศาสนาเท่าเทียมกันหมด ท่านรักได้ แม้กระทั่ง ศรัตรูที่ คิดร้าย ทําลายท่าน และทุ่มเทแรงกาย แรงใจ เพื่อสั่งสอน ขัดเกลาจิตใจผู้คนที่หลงผิด จนสามารถเปลี่ยนแปลงตนเองได้ โดยใช้หลักธรรม ว่าด้วยทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ เมื่อเหตุดับ ผลก็ดับ

2.ท่านให้ บุญฤทธิ์ กับทุกคนได้ และก็ใช้ได้ผล โดยมิได้เลือก บุคคลหรือตัวตนผู้ใดผู้หนึ่ง แล้วก็ให้แสดงความกตัญญู โดยให้บอกคนอื่นต่อด้วย ไม่ให้เห็นแกตัว นี้คือการสอนที่ทรงพระปรีชายิ่ง

3.เมื่อนึกถึงท่าน เอาจิตน้อมนึกถึงหน้าของท่าน สิ่งที่ต้องการก็ได้สมปรารถนา อย่างเช่นเจ็บป่วย หรือต้องการความช่วยเหลือในกรณีต่างๆ

4.เดินผ่านท่าน อาการเจ็บป่วยก็หายฉับพลันทันที เป็นที่ประจักมาแล้วมากมาย เช่น ปากเป็นปานแดงบวมเจ่อมาตั้งแต่เกิด พอเดิินผ่านท่าน ปากก็บางลง และสีก็เป็นธรรมชาติปกติอย่างหน้าอัศจรรย์

5.กราบท่านด้วยจิตที่นอบน้อมศรัทธา อาการเจ็บป่วยก็หายทันที

6.ท่านใชัธรรมฤทธิ์  โดยมติพุทธานุญาตจากสมเด็จองค์พระปฐม และเบื่องบนทุกพระองค์ ให้ใช้วัตถุมงคลต่างๆ ได้ รักษาโรค และบําบัดทุกข์ ต่อผู้คน แต่ละอย่างจะมีอานุภาพต่างๆกัน ปรากฎให้เห็น สะท้านโลกมาแล้วมากมาย เช่น ป้าพร หูหนวก หูตึงพูดไม่ได้ยินมานาน พอได้จี้องค์เทพสฟิงซ์บําบัด  โดยขอบารมีพระศรีอาริย์        อาการก็หาย หูได้ยินเป็นปกติ อย่างเหลือเชื่อ  และน้องรินเดินขาผิดรูปมาตั้งแต่เกิด ก็หาย เดินได้เป็นปกติเช่นกัน  

7.พลังอานุภาพ นับวันยิ่งจะมากขึ้นทวีคูณ ไม่มีสิ้นสุด ที่พระองค์ท่าน ประทานให้กับลูกหลาน ในทุกสถานะที่ศรัทธาพระองค์ท่าน เป็นสิ่งที่ไม่มีที่ใด สามารถให้ได้ขนาดนี้

อรคิดว่า ตอนนี้ พระศรีอาริย์ท่านลงมาช่วยเต็มๆแล้วค่ะ ดูจากปรากฎการณ์ ต่างๆที่เกิดขึ้น และเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆในบ้านสวนพีระมิด  ท่านกําลังนําพาพวกเราที่ ศรัทธาและเชื่อว่าพระองค์มีจริง เข้าสู่ยุคใหม่ ท่านแสดงให้เห็น ได้จากการหายทุกข์ หายเจ็บ หายจน บางคนก็สวยขึ้น หล่อขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อันนี้จะรู้ได้และพิสูทจได้ เฉพาะตนมีให้เห็นจริงๆ ท่านเคยบอกว่า ภัยพิบัติไม่เกิดก็ได้ หากทุกคนบนโลกเชื่อพระพุทธเจ้า และพร้อมที่จะเปลี่ยน โดยรักษาศีลเป็นหลักและมีสมาธิเป็นที่ตั้ง จากนั้น ปัญญาก็จะตามมาเอง ผู้ที่เปลี่ยนตัวเองไม่ได้ ก็ต้องรับผลกรรมตามเหตุนั้นๆ และอรก็เชื่อที่สุดว่าพระศรีอาริย์ ท่านสถิตอยู่ในหัวจิตหัวใจ ของลูกหลาน ที่ศรัทธาพระองค์ท่าน อย่างเต็มกําลัง     

   

ผู้แสดงความคิดเห็น อร อุ่นศรี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-12 21:24:16


ความคิดเห็นที่ 129 (1634188)

ทองแท้

ต้องไม่แพ้ไฟ

 

ของจริงแล้วไซร้

ต้องไม่กลัวการพิสูจน์

 

ยิ่งต่อหน้าคนเยอะ

แค่ไหน

 

คนจริงต้องยิ่งชอบ

เพราะ

ทอง ย่อม เป็นทอง

 

เพชร

ย่อมเป็นเพชร

 

ต้องกล้าหาญมั่นใจ

คือ

บันลือสีหนาทในทุกกาล

สถานที่นั่นเองค่ะ

..............................

สาธุ สาธุ สาธุ

เพราะคนที่"ใช่"

ก็ต้อง"ใช่"

จะให้คิดเป็น"ไม่ใช่"

มันก็คง"ไม่ใช่"เรื่อง


แต่อย่างไร

ก็จะตามหา...ต่อไป

จนกว่าจะถึงเวลาที่"ใช่"ค๊า

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-13 00:32:09


ความคิดเห็นที่ 130 (1634200)

พวกเราน่าจะไปถามเด็กๆดูนะคะว่า

เค้าจะรู้ได้ยังไงว่า

"บุคคลใด

คือพระศรีอาริย์พระองค์จริง หรือ ปลอม"

**********************

ความคิดเห็นของพี่ชนิดา

ขอสนับสนุนด้วยค่ะ

เด็ก ๆ มักมีความคิดเห็นที่มีมุมมอง

แตกต่างไปจากผู้ใหญ่ คิดตรง ๆ

คิดง่าย ๆ ฟังแล้วเข้าใจได้ทันที

ผู้แสดงความคิดเห็น ดาเรศ เจริญศิลป์ (วิว) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-13 08:24:37


ความคิดเห็นที่ 131 (1634212)

 

 พระองค์

ให้เอาปรากฎการณ์

อาราธนาบารมีพระองค์มา

แล้วใครรับสัมผัสอะไรได้ อะไรหาย

เป็นที่ตั้ง เป็นหลักในการค้นหา

อย่าหลงทาง จะเสียเวลา

-----------------

ท่านห่วงลูกหลาน

จอมหลักการ แต่ไม่เอาหลักจริง

ความจริงที่เกิดขึ้นเห็นกันต่อหน้า

ต้องใช้ปัญญาตรงนี้

ท่านบอกนะ

 

----------------------------

หลักกาลมาสูตร

-------------------------------

ตามเหตุผลข้างบนนี้ทำให้คิดขึ้นมาทันทีคือ

1.พระองค์บารมีมิอาจจะประมาณได้

2.การเกิดของพระองค์มาแบบไหน

ถ้าเป็นกายเนื้อจริง

การเกิดนั้นมีขั้นตอนการเกิดอย่างไร เช่น

2.1 เกิดแบบธรรมดาทั่วไปเกิดจากครรภ์มารดา

ตั้งท้อง 9 เดือน

แล้วใครเล่าจะเป็นพระมารดา และมีคุณสมบัติของพระมารดาอย่างไร

ถ้าพระองค์เกิดมาอายุมากพอประมาณแล้ว

พระองค์ไม่เคยพบผู้คนใดๆ เลยหรือ

พระองค์จะอยู่ในที่ๆไม่มีใครรู้เลยหรือ

 ถ้ามีผู้คนผ่านพบพระองค์จะไม่ได้รับสัมผัสพิเศษใดๆ เลยหรือ

ถ้าได้พบจะไม่มีการรับรู้เล่าเหตุการณ์ต่างๆ ต่อๆ กันมาเลยหรือ

กลุ่มชนในหมู่บ้านน้ั้นๆ

จะไม่ได้รับทราบถึงสัมผัสพิเศษ

ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงของหมู่บ้านนั้นเลยหรือ

2.2เกิดเป็นกายเนื้อโดยครอบร่างกาย

ใช้ร่างกายเนื้อของผู้มีคุณธรรม มีศีล มีบารมี

โดยไม่ต้องเกิดจากครรภ์มารดา 9 เดือน

แล้วจะเป็นใครจะพิสูจน์ได้อย่างไร

การพิสูจน์ใช้หลักกาลมาสูตร

และ

-----

 

พระองค์

ให้เอาปรากฎการณ์

อาราธนาบารมีพระองค์มา

แล้วใครรับสัมผัสอะไรได้ อะไรหาย

เป็นที่ตั้ง เป็นหลักในการค้นหา

อย่าหลงทาง จะเสียเวลา 

-------------

พิสูจน์ออกมาให้เป็นวิทยาศาสตร์

ให้สารธารณะชนยอมรับได้

เราหลงยึดติดรูปแบบการเกิดมาของพระองค์

เป็นอุปสรรคในการค้นหาพระองค์หรือไม่

 

ผู้แสดงความคิดเห็น จุมพล บัวโต ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-13 10:37:49


ความคิดเห็นที่ 132 (1634263)

 

2.กำหนดคุณสมบัติ

ที่เข้าใจง่ายๆ ตัดสินได้ง่ายๆ

ใช้ภาษาง่ายๆ อย่าใช้ศัพท์วิชาการ

มากนัก ให้เด็กและ คนเรียนน้อย

เข้าใจ ร่วมรับรู้ได้ด้วย

 

 

ขอร่วมเสนอคุณสมบัติเพื่อพิสูจน์หาพระศรีอาริย์ตัวจริงด้วยคนคะ

 

1. ใครเข้าใกล้พระศรีอาริย์ตัวจริง จะต้องหายป่วยทันที

2. ใครเอ่ยชื่อพระศรีอารย์ตัวจริงด้วยความเคารพ จะหายป่วยทันที

3. ใครเพียงนึกถึงหน้าท่านก็จะหายป่วยทันที

4. ใครเอ่ยชมท่านด้วยใจจริง จะหายป่วยทันที

5. ใครคิดไม่ดีกับท่าน จะได้รับเคราะห์กรรมทันที

    (อาจปวดหัวขึ้นมาทันทีก็ได้)

6. ใครว่าร้ายให้ท่าน จะได้รับเคราะห์กรรมทันที

    (อาจเจ็บคอ เจ็บปาก หรือไอ ขึ้นมาทันทีก็ได้)

7. คนที่คิดว่าเป็นพระศรีอาริย์คนไหน แตะตัวคนป่วยแล้วหายได้ทันที

    คนนั้นเป็นตัวจริง

8. คนที่คิดว่าเป็นพระศรีอาริย์คนไหน ยกมือ แผ่ไปทางคนป่วย

    แล้วหายได้ทันที  คนนั้นเป็นตัวจริง

9. กราบคนที่คิดว่าเป็นพระศรีอาริย์คนไหน แล้วหายป่วยได้

    คนนั้นเป็นพระศรีอาริย์ตัวจริง

 

      ฯลฯ

 

สมมุติว่าในวันงาน เราสามารถเชิญคนที่คิดว่าเป็นพระศรีอาริย์

มาได้สัก 5 ท่าน ก็ให้แต่ละท่านนั่งห่าง ๆ กัน

มีป้ายชื่อติดไว้ด้านหน้า

แล้วก็ให้ผู้ที่ไปร่วมงาน ทุกคน ลองทำตามบทพิสูจน์ในแต่ละข้อ

กับคนที่เข้าข่ายเป็นพระศรีอาริย์ไปทีละข้อ เพื่อเปรียบเทียบผล

แล้วจดผลจากทุกคน ว่าหายหรือไม่ รวมเป็นคะแนน แล้วลงผลดีมั้ยคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-13 17:31:13


ความคิดเห็นที่ 133 (1634292)

ทุกข้อที่หนูแหวนกล่าวพวกเราล้วนเคยได้สัมผัสมาทั้งนั้นเลยค่ะ

เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยค่ะ ใช่เลย

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-13 20:57:30


ความคิดเห็นที่ 134 (1634449)
ผู้แสดงความคิดเห็น ภัคณัฐฎ์ ธรณ์วรรธ์ธนา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-15 11:12:04


ความคิดเห็นที่ 135 (1634452)

อนุโมทนาสาธุกับทุกธรรมทานครับ

ขอให้ทุกท่านวางใจเป็นกลาง อย่าได้ปักใจและว่ายัดเยียดให้ผู้ใดเป็นพระศรีอาริย์ในขณะนี้เลย เพราะว่าพวกเรากำลังช่วยกันตามหาพระองค์ท่านตามหลักกาลามสูตร

ซึ่งตอนนี้เริ่มชัดเจนถึงวิธีการตามหาและพิสูจน์พระองค์ท่านแล้ว ซึ่งล้วนเป็นวิธีการง่ายๆที่เราพบเห็นมาก่อนหน้านี้แล้วที่บ้านสวนพีระมิด

1.ท่านอาจารย์อุบลอาราธนาพระบารมีพระองค์ท่านมา แล้วใช้วิธีการใดที่แสดงถึงพระบารมีพระองค์ท่านว่ามีจริง เราก็ใช้วิธีการนั้นพิสูจน์ คือ

ไม่ว่าผู้ใดจะเป็นพระองค์จริงก็ตามแต่ เพียงแค่เราเดินผ่านท่านเราก็จะต้องหายทันที อย่างนี้เป็นต้น

2.การที่จะเชิญผู้ใดมาทำการพิสูจน์ว่าเป็นพระศรีอาริย์นั้นคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆอย่างแน่นอนเนื่องด้วยเหตุผลหลายประการ แต่เพิ่งได้ปัญญาจากการฟังท่านอาจารย์ให้ข้อคิดในเรื่องบางเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆจากธรรมทานของลูกบ้านสวนฯบางท่าน 

แต่ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องนี้ อยากขอความเห็นทุกท่านเช่นกันว่า ท่านคิดว่าหากไม่เชิญบุคคลที่เราสงสัยมา เราจะมีวิธีการพิสูจน์ได้อย่างไรว่าบุคคลที่เราคาดว่าน่าจะเป็นพระศรีอาริย์นั้น ใช่หรือไม่ใช่

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-15 11:27:56


ความคิดเห็นที่ 136 (1634456)

เห็นหลายๆท่านอ้างอิงถึงตำราต่างๆมากมายที่เราได้เคยศึกษากันมา รวมทั้งผมก็เช่นกันที่ศึกษาเรื่องพระศรีอาริย์มาบ้าง ก็พอทราบจากแหล่งข้อมูลต่างๆว่า

พระศรีอาริย์จะเสด็จลงมาเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ ไม่ใช่พระพุทธเจ้า หรือ ท่านเป็นพระอนาคามีบ้าง

ตามหลักกาลามสูตร สอนให้เราใช้ปัญญาและพิสูจน์อย่างฉลาด ที่สำคัญผมคิดว่า พระพุทธองค์สอนให้พวกเราอยู่กับปัจจุบันครับ

มีหลายๆอย่างที่เป็นความลับของจักรวาลที่มนุษย์ขี้เหม็นอย่างพวกเราไม่สามารถล่วงรู้ได้ แต่พวกเราก็พยายามค้นหา ตามศักยภาพของตนและคนอื่นๆที่เราเชื่อถือ

แต่ตอนนี้เป็นยุคของการใช้ปัญญา สำหรับผมแล้วขอวางตำรา ความรู้ต่างๆที่เคยได้ยิน ได้อ่านมาทุกอย่างลงและขออยู่กับปัจจุบันที่เห็น และพิสูจน์ตามสิ่งที่เป็นจริงที่เกิดขึ้น

ผมไม่ขอปิดกั้นตัวเองสำหรับโอกาสในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆที่ควรจะได้รับเพราะการถูกตีกรอบจากสิ่งที่เคยเรียนรู้หรือฟังมามากมาย ท่านล่ะครับ คิดเห็นว่าอย่างไร

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-15 11:34:52


ความคิดเห็นที่ 137 (1634458)

 

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภัคณัฐฎ์ ธรณ์วรรธ์ธนา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-15 11:42:51


ความคิดเห็นที่ 138 (1634464)

ตอนนี้ลูกบ้านสวนตามหาพระศรีอาริย์ให้เจอจะได้ไม่เกิดภัยพิบัติ

ถ้าเจอพระศรีอาริย์แล้วภัยพิบัติก็จะเกิดขึ้นในที่มีคนไม่รักษาศีล

ขาดคุณธรรมจะล้มตาย  ตอนนี้แค่ทำตาม

ท่าน อ. อุบลบอกเพราะท่านเป็นผู้อาราธนาพระศรีอาริย์

มาที่บ้านสวนพีระมิด  เหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ทำ workshop

ที่บ้านสวนแล้วเกิดปาฏิหารย์ คนที่ปากเป็นขาว ๆที่มุมปากก็หาย

หน้าที่เป็นฝ้าก็จางหาย  เป็นสิวบวดก็ยุบ  ไฟช็อดก็ไม่บาดเจ็บ

ลวดตำมือก็หายปวด  เพราะนึกถึงอาจารย์อุบลช่วยด้วย

แล้วทำงานไปตามปกติแล้วก็ให้ท่องคาถาพระศรีอาริย์

ปวดหลังมาก ๆ ท่องคาถาพระศรีอาริย์ 9 จบ ก็หายปวดแล้ว

แล้วถ้าเราท่องคาถาพระศรีอาริย์วันหนึ่งครบ 99 จบ สิ่งที่ดี ๆ

จะเกิดขึ้นกับเราแน่นอน และต้องรักษาศีล 5 ด้วยนะจ๊ะ

แต่ถ้าเกิดปัญหาสิ่งใดก็แล้วแต่ เช่นอยู่ในบ้านดี ๆ

มีงูเลื้อยเข้ามา ไม่ต้องรอช้าเรียกอาจารย์อุบลช่วยด้วย

งูเลื้อยไปไหนไม่ได้หมดแรง เราก็ไม่ถูกกัดนะจ๊ะ

คุณเหมี่ยวเจอของจริงมาแล้วจ้า  นี่ขนาดยังไม่เจอพระศรีอาริย์

แค่เรียกอาจารย์อุบลช่วยด้วยทุกอย่างก็ผ่านตลอดแล้วค่ะ

 


 

ผู้แสดงความคิดเห็น วิลาสินี ศิลารัตน์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-15 12:25:44


ความคิดเห็นที่ 139 (1634516)

อยากขอความเห็นทุกท่านเช่นกันว่า ท่านคิดว่าหากไม่เชิญบุคคลที่เราสงสัยมา เราจะมีวิธีการพิสูจน์ได้อย่างไรว่าบุคคลที่เราคาดว่าน่าจะเป็นพระศรีอาริย์นั้น ใช่หรือไม่ใช่

   (จากคุณธนา)

      ก่อนตอบคำถาม ก็คงต้องบอกว่า  ตำราต่าง ๆ ที่ตัวเอง

ได้อ่านมา  อ่านแล้วก็สับสน  วนเวียน  เหมือนพายเรือในอ่าง

คงต้องถึงเวลา  วางตำราแล้วใช้ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ๆ

มาพิสูจน์กัน  มันน่าจะง่ายขึ้น

     จากบารมีพระศรีอาริย์ที่ท่าน อ. อุบล ได้อาราธนามา

ให้พวกเราได้สัมผัสกันอย่างชัดเจน 

ดังนั้นเราก็ควรนำเหตุการณ์เหล่านี้  มาเพื่อพิสูจน์พระศรีอาริย์

     ตอบคำถามค่ะ  ถ้าเราเชิญผู้ที่คิดว่าน่าจะเป็นพระศรีอาริย์

วิธีพิสูจน์  คือ

   - เดินผ่านพระองค์ท่าน  หรือเข้าใกล้  อาการเจ็บป่วยหายได้

ทันที

     - ช่วยเหลือผู้พิการให้หายได้ทันที

    - ใครปรามาสพระองค์  ก็ได้รับผลนั้นทันที

     ขอยกตัวอย่างการปรามาส  พระศรีอาริย์  ที่ผ่านมาได้

ไปเยี่ยมบ้านที่ศรีสะเกษ  และได้พูดถึงยุคพระศรีอาริย์  บอกว่า

ยุคของพระองค์ท่านมาถึงแล้ว  ให้พวกเรารักษาศีลกันให้

บริสุทธิ์  คุณตา (พ่อตัวเอง) ก็พูดว่า อานอะไร  อานรถรึ

(ปกติคุณตาก็จะชอบพูดเหมือนให้ตลก) ตัวเองใจหล่นไปอยู่

ตาตุ่มแล้ว ก็บอกคุณตาว่า  ถึงยุดพระศรีอาริยะเมตไตรแล้ว

แล้วคุณตาก็เดินจากไป ตกกลางคืน  คุณตาไอมาก

นอนไม่ได้  เป็นอยู่  5  วัน  ถึงดีขึ้น  นี่ขนาดไม่ได้ตั้งใจ

ที่จะปรามาสพระองค์ท่านยังหนักขนาดนี้  แล้วแบบตั้งใจล่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-15 16:41:36


ความคิดเห็นที่ 140 (1634641)
ผู้แสดงความคิดเห็น ภัคณัฐฎ์ ธรณ์วรรธ์ธนา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-16 08:05:33


ความคิดเห็นที่ 141 (1634643)
ผู้แสดงความคิดเห็น ภัคณัฐฎ์ ธรณ์วรรธ์ธนา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-16 08:06:47


ความคิดเห็นที่ 142 (1634662)
ผู้แสดงความคิดเห็น ภัคณัฐฎ์ ธรณ์วรรธ์ธนา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-16 08:54:28


ความคิดเห็นที่ 143 (1634734)

พระพุทธองค์จึงทรงแสดงกาลามสูตร ว่าด้วย วิธีปฏิบัติต่อสิ่งที่ตนสงสัย

หรือหลักความเชื่อ 10 ประการ เป็นหลักตัดสิน คือ 

 

1. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามๆ กันมา 

2. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบๆ กันมา 

3. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ 

4. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์ 

5. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก 

6. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการอนุมาน 

7. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล 

8. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้ากันได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว 

9. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ 

10. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้ เป็นครูของเรา

 

 

ดังนั้น พระสูตรนี้ท่านมิได้ห้ามมิให้เชื่อ

แต่ให้เชื่อด้วยมีปัญญาประกอบด้วย

มิฉะนั้นความเชื่อต่างๆ จะไม่พ้น "ความงมงาย"

และไม่พึงแปลความเลยเถิดไป

ว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนไม่ให้เชื่อสิ่งเหล่านี้

และให้เชื่อสิ่งอื่นนอกจากนี้แต่พึงเข้าใจว่า

แม้แต่สิ่งเหล่านี้ซึ่งบางอย่างก็เลือกเอามาแล้วว่า..

เป็นสิ่งที่น่าเชื่อที่สุด ท่านก็ยังเตือนไม่ให้ปลงใจเชื่อ

ไม่ให้ด่วนเชื่อ ไม่ให้ถือเป็นเครื่องตัดสินเด็ดขาด

ยังอาจผิดพลาดได้ ต้องใช้ปัญญาคิดพิจารณาให้ดีก่อน 

 

********************************

เห็นด้วยกับคุณพี่แมวค่ะ และมีข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ

 

ทำไมต้องพิสูจน์ความจริง เพื่อให้พระศรีอารย์ปรากฏตน:  เนื่องจากพระศรีอารย์ไม่มีอิทธิปาฏิหาริย์ การแสดงธรรมต้องเป็นไปตาม “กาลามสูตร” ซึ่งเป็นหลักการทางวิทยาศาสตร์ ศาลยุติธรรม โดยเป็นวิธีเดียวที่จะสร้างสันติสุขที่แท้จริงขึ้นได้ 

 

1. พระศรีอารย์เป็นพระพุทธเจ้า (ผู้รู้เองโดยชอบ) พระองค์ที่ 5 ตามที่พระพุทธเจ้าโคดมได้ตรัสไว้ และมีอะไรอีกที่ตรัสหรือที่ตำนานอื่นๆบ่งไว้:

* ข้อความที่ท่านอาจารย์อุบลบอก คือ 

     - ต้องการเพียงให้ผู้คนที่ทุกข์ ได้มีโอกาสพบแสงสว่างทางพ้นทุกข์ เหมือนที่เราเคยประสบมาก่อนเท่านั้นเอง

     - และสิ่งที่ต้องการ มีเพียงสิ่งเดียวคือ นิพพาน (พ้นทุกข์ทั้งปวง)

  

2.1 พระศรีอารย์เป็นพระพุทธเจ้าแต่ไม่ใช่นักบวช ไม่มีสาวกจึงไม่เป็นพระศาสดา พระศรีอารย์ปรากฏขึ้นเพื่อบำรุงพระพุทธศาสนาให้เป็นเอกของโลก 

* ข้อความที่ท่านอาจารย์อุบลบอก คือ

     - อ.อุบล ก็เช่นกัน ไม่ใช่คนสำคัญ หรือยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะ จะไม่มีวันยิ่งใหญ่กว่าพระพุทธเจ้า เพราะ ธรรมะทั้งหมด          เอาของท่านมาทั้งนั้นไม่ได้คิดเอง

 

2.2 พระศรีอารย์ใช้คำตรัสสอนของพระพุทธเจ้าโคดมเพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้คนทั้งหลาย ดังนั้นศาสนาของพระศรีอารย์จึงไม่มี ตำนานบ่งถึงพระศรีอารย์เปรียบเสมือนลูกแกะที่ผู้มีบาปเอาไปบูชายัญเพื่อไถ่บาปเขาเหล่านั้น พระศรีอารย์สละแล้วซึ่งครอบครัว ทรัพย์สมบัติ ลาภ ยศ สรรเสริญ เป็นผู้ติดดิน ไม่มีผู้คนสนใจเหมือนต้นไม้เหี่ยวแห้งบนแผ่นดินปราศจากน้ำแล้วใครเล่าที่จะช่วยได้ 

* ข้อความที่ท่านอาจารย์อุบลบอก คือ

     - ดังนั้นการที่ใครเชื่อ อ.อุบลแล้วพ้นทุกข์ก็ถือว่า ท่านทำตาม คำสอนพระพุทธเจ้า ที่ อ.อุบล เพียงแค่เอามาบอก ดังนั้น ความดี ต้องเป็นของ พระพุทธเจ้า ไม่ใช่ของ อ.อุบล อย่ามั่วแล้วการที่ใครไม่เชื่อ อ.อุบล ก็ถือว่า เป็นกรรมของท่านนี่เอง  ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า "ตถาคต เป็นแต่เพียง ผู้บอก" ส่วนใครจะทำตาม เชื่อตามหรือไม่ไม่เกี่ยวกับพระองค์ท่าน

 

2.3 ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าผู้คนจะไม่สนใจพุทธทำนาย ทั้งนี้เพราะปกติมนุษย์จะมีเทพหรือมารดลใจให้ทำในสิ่งที่ดีหรือเลว มารจะส่งเสริมความชั่วความฉิบหายเพื่อรักษาให้มารอยู่รอดได้ 

 

ดังนั้นมารจึงดลใจผู้ขาดคุณธรรมให้ไม่สนใจพุทธทำนายและพระจักรพรรดิซึ่งเป็นสิ่งดีงามที่มารกลัวมากเพราะจะทำลายมารได้ พุทธทำนายเปรียบเสมือนเส้นผมบังภูเขา ที่มารดลใจให้คิดไปว่าพุทธทำนายเป็นเรื่องไร้สาระ นอกจากผู้มีกุศลเกิดผลบุญย่อมเห็นพุทธทำนายเป็นสิ่งดีมีค่ายิ่ง 

ถึงเวลาหรือยังที่เราจะรู้ทันมาร กำจัดมารออกไปจากจิตใจ อัญเชิญเทพเข้ามาปกป้องตน รักษาความดี เกิดความเมตตา กรุณาแทนความเห็นแก่ตน หาทางช่วยกันเผยแผ่หาข้อเท็จจริงเพื่อความอยู่รอดจากมาร และสร้างสิ่งดีงามเกิดคุณธรรมขึ้นแก่ตนและผู้คนในทุกชั้นวรรณะทั้งในเวลานี้และอนาคต

 

ข้อความนี้ก๊อปมาจาก Metteya.org. ค่ะ

ส่วนความคิดเห็นที่ท่านอาจารย์เขียนอยู่ที่ความเห็นที่ 79 

เป็นความคิดเห็นจากผู้เขียนเอง เห็นว่าน่าสนใจจึงนำมาเกี่ยวโยงกัน แต่ก็ต้องใช้หลักการามสูตรในการคิดเป็นหลักนะคะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชุติมณฑน์ ใจดี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-16 15:11:52


ความคิดเห็นที่ 144 (1634735)

พระพุทธองค์จึงทรงแสดงกาลามสูตร ว่าด้วย วิธีปฏิบัติต่อสิ่งที่ตนสงสัย

หรือหลักความเชื่อ 10 ประการ เป็นหลักตัดสิน คือ 

 

1. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามๆ กันมา 

2. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบๆ กันมา 

3. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ 

4. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์ 

5. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก 

6. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการอนุมาน 

7. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล 

8. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้ากันได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว 

9. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ 

10. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้ เป็นครูของเรา

 

 

ดังนั้น พระสูตรนี้ท่านมิได้ห้ามมิให้เชื่อ

แต่ให้เชื่อด้วยมีปัญญาประกอบด้วย

มิฉะนั้นความเชื่อต่างๆ จะไม่พ้น "ความงมงาย"

และไม่พึงแปลความเลยเถิดไป

ว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนไม่ให้เชื่อสิ่งเหล่านี้

และให้เชื่อสิ่งอื่นนอกจากนี้แต่พึงเข้าใจว่า

แม้แต่สิ่งเหล่านี้ซึ่งบางอย่างก็เลือกเอามาแล้วว่า..

เป็นสิ่งที่น่าเชื่อที่สุด ท่านก็ยังเตือนไม่ให้ปลงใจเชื่อ

ไม่ให้ด่วนเชื่อ ไม่ให้ถือเป็นเครื่องตัดสินเด็ดขาด

ยังอาจผิดพลาดได้ ต้องใช้ปัญญาคิดพิจารณาให้ดีก่อน 

 

********************************

เห็นด้วยกับคุณพี่แมวค่ะ และมีข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ

 

ทำไมต้องพิสูจน์ความจริง เพื่อให้พระศรีอารย์ปรากฏตน:  เนื่องจากพระศรีอารย์ไม่มีอิทธิปาฏิหาริย์ การแสดงธรรมต้องเป็นไปตาม “กาลามสูตร” ซึ่งเป็นหลักการทางวิทยาศาสตร์ ศาลยุติธรรม โดยเป็นวิธีเดียวที่จะสร้างสันติสุขที่แท้จริงขึ้นได้ 

 

1. พระศรีอารย์เป็นพระพุทธเจ้า (ผู้รู้เองโดยชอบ) พระองค์ที่ 5 ตามที่พระพุทธเจ้าโคดมได้ตรัสไว้ และมีอะไรอีกที่ตรัสหรือที่ตำนานอื่นๆบ่งไว้:

* ข้อความที่ท่านอาจารย์อุบลบอก คือ 

     - ต้องการเพียงให้ผู้คนที่ทุกข์ ได้มีโอกาสพบแสงสว่างทางพ้นทุกข์ เหมือนที่เราเคยประสบมาก่อนเท่านั้นเอง

     - และสิ่งที่ต้องการ มีเพียงสิ่งเดียวคือ นิพพาน (พ้นทุกข์ทั้งปวง)

  

2.1 พระศรีอารย์เป็นพระพุทธเจ้าแต่ไม่ใช่นักบวช ไม่มีสาวกจึงไม่เป็นพระศาสดา พระศรีอารย์ปรากฏขึ้นเพื่อบำรุงพระพุทธศาสนาให้เป็นเอกของโลก 

* ข้อความที่ท่านอาจารย์อุบลบอก คือ

     - อ.อุบล ก็เช่นกัน ไม่ใช่คนสำคัญ หรือยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะ จะไม่มีวันยิ่งใหญ่กว่าพระพุทธเจ้า เพราะ ธรรมะทั้งหมด          เอาของท่านมาทั้งนั้นไม่ได้คิดเอง

 

2.2 พระศรีอารย์ใช้คำตรัสสอนของพระพุทธเจ้าโคดมเพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้คนทั้งหลาย ดังนั้นศาสนาของพระศรีอารย์จึงไม่มี ตำนานบ่งถึงพระศรีอารย์เปรียบเสมือนลูกแกะที่ผู้มีบาปเอาไปบูชายัญเพื่อไถ่บาปเขาเหล่านั้น พระศรีอารย์สละแล้วซึ่งครอบครัว ทรัพย์สมบัติ ลาภ ยศ สรรเสริญ เป็นผู้ติดดิน ไม่มีผู้คนสนใจเหมือนต้นไม้เหี่ยวแห้งบนแผ่นดินปราศจากน้ำแล้วใครเล่าที่จะช่วยได้ 

* ข้อความที่ท่านอาจารย์อุบลบอก คือ

     - ดังนั้นการที่ใครเชื่อ อ.อุบลแล้วพ้นทุกข์ก็ถือว่า ท่านทำตาม คำสอนพระพุทธเจ้า ที่ อ.อุบล เพียงแค่เอามาบอก ดังนั้น ความดี ต้องเป็นของ พระพุทธเจ้า ไม่ใช่ของ อ.อุบล อย่ามั่วแล้วการที่ใครไม่เชื่อ อ.อุบล ก็ถือว่า เป็นกรรมของท่านนี่เอง  ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า "ตถาคต เป็นแต่เพียง ผู้บอก" ส่วนใครจะทำตาม เชื่อตามหรือไม่ไม่เกี่ยวกับพระองค์ท่าน

 

2.3 ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าผู้คนจะไม่สนใจพุทธทำนาย ทั้งนี้เพราะปกติมนุษย์จะมีเทพหรือมารดลใจให้ทำในสิ่งที่ดีหรือเลว มารจะส่งเสริมความชั่วความฉิบหายเพื่อรักษาให้มารอยู่รอดได้ 

 

ดังนั้นมารจึงดลใจผู้ขาดคุณธรรมให้ไม่สนใจพุทธทำนายและพระจักรพรรดิซึ่งเป็นสิ่งดีงามที่มารกลัวมากเพราะจะทำลายมารได้ พุทธทำนายเปรียบเสมือนเส้นผมบังภูเขา ที่มารดลใจให้คิดไปว่าพุทธทำนายเป็นเรื่องไร้สาระ นอกจากผู้มีกุศลเกิดผลบุญย่อมเห็นพุทธทำนายเป็นสิ่งดีมีค่ายิ่ง 

ถึงเวลาหรือยังที่เราจะรู้ทันมาร กำจัดมารออกไปจากจิตใจ อัญเชิญเทพเข้ามาปกป้องตน รักษาความดี เกิดความเมตตา กรุณาแทนความเห็นแก่ตน หาทางช่วยกันเผยแผ่หาข้อเท็จจริงเพื่อความอยู่รอดจากมาร และสร้างสิ่งดีงามเกิดคุณธรรมขึ้นแก่ตนและผู้คนในทุกชั้นวรรณะทั้งในเวลานี้และอนาคต

 

ข้อความนี้ก๊อปมาจาก Metteya.org. ค่ะ

ส่วนความคิดเห็นที่ท่านอาจารย์เขียนอยู่ที่ความเห็นที่ 79 

เป็นความคิดเห็นจากผู้เขียนเอง เห็นว่าน่าสนใจจึงนำมาเกี่ยวโยงกัน แต่ก็ต้องใช้หลักการามสูตรในการคิดเป็นหลักนะคะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชุติมณฑน์ ใจดี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-16 15:12:38


ความคิดเห็นที่ 145 (1634736)

พระพุทธองค์จึงทรงแสดงกาลามสูตร ว่าด้วย วิธีปฏิบัติต่อสิ่งที่ตนสงสัย

หรือหลักความเชื่อ 10 ประการ เป็นหลักตัดสิน คือ 

 

1. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามๆ กันมา 

2. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบๆ กันมา 

3. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ 

4. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์ 

5. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก 

6. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการอนุมาน 

7. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล 

8. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้ากันได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว 

9. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ 

10. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้ เป็นครูของเรา

 

 

ดังนั้น พระสูตรนี้ท่านมิได้ห้ามมิให้เชื่อ

แต่ให้เชื่อด้วยมีปัญญาประกอบด้วย

มิฉะนั้นความเชื่อต่างๆ จะไม่พ้น "ความงมงาย"

และไม่พึงแปลความเลยเถิดไป

ว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนไม่ให้เชื่อสิ่งเหล่านี้

และให้เชื่อสิ่งอื่นนอกจากนี้แต่พึงเข้าใจว่า

แม้แต่สิ่งเหล่านี้ซึ่งบางอย่างก็เลือกเอามาแล้วว่า..

เป็นสิ่งที่น่าเชื่อที่สุด ท่านก็ยังเตือนไม่ให้ปลงใจเชื่อ

ไม่ให้ด่วนเชื่อ ไม่ให้ถือเป็นเครื่องตัดสินเด็ดขาด

ยังอาจผิดพลาดได้ ต้องใช้ปัญญาคิดพิจารณาให้ดีก่อน 

 

********************************

เห็นด้วยกับคุณพี่แมวค่ะ และมีข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ

 

ทำไมต้องพิสูจน์ความจริง เพื่อให้พระศรีอารย์ปรากฏตน:  เนื่องจากพระศรีอารย์ไม่มีอิทธิปาฏิหาริย์ การแสดงธรรมต้องเป็นไปตาม “กาลามสูตร” ซึ่งเป็นหลักการทางวิทยาศาสตร์ ศาลยุติธรรม โดยเป็นวิธีเดียวที่จะสร้างสันติสุขที่แท้จริงขึ้นได้ 

 

1. พระศรีอารย์เป็นพระพุทธเจ้า (ผู้รู้เองโดยชอบ) พระองค์ที่ 5 ตามที่พระพุทธเจ้าโคดมได้ตรัสไว้ และมีอะไรอีกที่ตรัสหรือที่ตำนานอื่นๆบ่งไว้:

* ข้อความที่ท่านอาจารย์อุบลบอก คือ 

     - ต้องการเพียงให้ผู้คนที่ทุกข์ ได้มีโอกาสพบแสงสว่างทางพ้นทุกข์ เหมือนที่เราเคยประสบมาก่อนเท่านั้นเอง

     - และสิ่งที่ต้องการ มีเพียงสิ่งเดียวคือ นิพพาน (พ้นทุกข์ทั้งปวง)

  

2.1 พระศรีอารย์เป็นพระพุทธเจ้าแต่ไม่ใช่นักบวช ไม่มีสาวกจึงไม่เป็นพระศาสดา พระศรีอารย์ปรากฏขึ้นเพื่อบำรุงพระพุทธศาสนาให้เป็นเอกของโลก 

* ข้อความที่ท่านอาจารย์อุบลบอก คือ

     - อ.อุบล ก็เช่นกัน ไม่ใช่คนสำคัญ หรือยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะ จะไม่มีวันยิ่งใหญ่กว่าพระพุทธเจ้า เพราะ ธรรมะทั้งหมด          เอาของท่านมาทั้งนั้นไม่ได้คิดเอง

 

2.2 พระศรีอารย์ใช้คำตรัสสอนของพระพุทธเจ้าโคดมเพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้คนทั้งหลาย ดังนั้นศาสนาของพระศรีอารย์จึงไม่มี ตำนานบ่งถึงพระศรีอารย์เปรียบเสมือนลูกแกะที่ผู้มีบาปเอาไปบูชายัญเพื่อไถ่บาปเขาเหล่านั้น พระศรีอารย์สละแล้วซึ่งครอบครัว ทรัพย์สมบัติ ลาภ ยศ สรรเสริญ เป็นผู้ติดดิน ไม่มีผู้คนสนใจเหมือนต้นไม้เหี่ยวแห้งบนแผ่นดินปราศจากน้ำแล้วใครเล่าที่จะช่วยได้ 

* ข้อความที่ท่านอาจารย์อุบลบอก คือ

     - ดังนั้นการที่ใครเชื่อ อ.อุบลแล้วพ้นทุกข์ก็ถือว่า ท่านทำตาม คำสอนพระพุทธเจ้า ที่ อ.อุบล เพียงแค่เอามาบอก ดังนั้น ความดี ต้องเป็นของ พระพุทธเจ้า ไม่ใช่ของ อ.อุบล อย่ามั่วแล้วการที่ใครไม่เชื่อ อ.อุบล ก็ถือว่า เป็นกรรมของท่านนี่เอง  ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า "ตถาคต เป็นแต่เพียง ผู้บอก" ส่วนใครจะทำตาม เชื่อตามหรือไม่ไม่เกี่ยวกับพระองค์ท่าน

 

2.3 ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าผู้คนจะไม่สนใจพุทธทำนาย ทั้งนี้เพราะปกติมนุษย์จะมีเทพหรือมารดลใจให้ทำในสิ่งที่ดีหรือเลว มารจะส่งเสริมความชั่วความฉิบหายเพื่อรักษาให้มารอยู่รอดได้ 

 

ดังนั้นมารจึงดลใจผู้ขาดคุณธรรมให้ไม่สนใจพุทธทำนายและพระจักรพรรดิซึ่งเป็นสิ่งดีงามที่มารกลัวมากเพราะจะทำลายมารได้ พุทธทำนายเปรียบเสมือนเส้นผมบังภูเขา ที่มารดลใจให้คิดไปว่าพุทธทำนายเป็นเรื่องไร้สาระ นอกจากผู้มีกุศลเกิดผลบุญย่อมเห็นพุทธทำนายเป็นสิ่งดีมีค่ายิ่ง 

ถึงเวลาหรือยังที่เราจะรู้ทันมาร กำจัดมารออกไปจากจิตใจ อัญเชิญเทพเข้ามาปกป้องตน รักษาความดี เกิดความเมตตา กรุณาแทนความเห็นแก่ตน หาทางช่วยกันเผยแผ่หาข้อเท็จจริงเพื่อความอยู่รอดจากมาร และสร้างสิ่งดีงามเกิดคุณธรรมขึ้นแก่ตนและผู้คนในทุกชั้นวรรณะทั้งในเวลานี้และอนาคต

 

ข้อความนี้ก๊อปมาจาก Metteya.org. ค่ะ

ส่วนความคิดเห็นที่ท่านอาจารย์เขียนอยู่ที่ความเห็นที่ 79 

เป็นความคิดเห็นจากผู้เขียนเอง เห็นว่าน่าสนใจจึงนำมาเกี่ยวโยงกัน แต่ก็ต้องใช้หลักการามสูตรในการคิดเป็นหลักนะคะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชุติมณฑน์ ใจดี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-16 15:12:38


ความคิดเห็นที่ 146 (1634739)

ข้้อความมันออกมาซำ้ทำไงดีค่ะ ส่งอันเดียวแต่อยู่มันก็ค้างคิดว่าส่งไม่ได้ เลยกดส่งซ้ำ เลยมา 3 หน้าเลยค่ะ

แล้วเข้าไปยกเลิกจะเอาหน้าเดียวก็ยกเลิกไม่ได้ค่ะ ต้องขอโทษด้วยค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชุติมณฑน์ ใจดี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-16 15:22:26


ความคิดเห็นที่ 147 (1634755)

 คุณสมบัติของพระศรีอาริย์

 1. เป็นชายหรือหญิงก็ได้

 2.  รวมทุกศาสนาให้เป็นหนึ่งเดียว

 3.  ทำให้ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยหายเป็นอัศจรรย์  

 4.  ให้คนและสัตว์ในโลกนี้รักกัน ไม่เบียดเบียนทำร้ายซึงกันและกันทั้งทางกาย

       วาจา ใจ

 5.  ปรามาสไม่ได้  

 6.  มีวาจาสิทธิ์  

  7. ให้รักษาศีล 5 เลิกสร้างกรรมชั่วและอบายมุขทุกอย่าง 

 8.  พระองค์ท่านมาพร้อมด้วยบุญฤทธิ์และ ธรรมฤทธิ์   

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-16 15:58:13


ความคิดเห็นที่ 148 (1634790)

 



แต่ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องนี้ อยากขอความเห็นทุกท่านเช่นกันว่า ท่านคิดว่าหากไม่เชิญบุคคลที่เราสงสัยมา
เราจะมีวิธีการพิสูจน์ได้อย่างไรว่าบุคคลที่เราคาดว่าน่าจะเป็นพระศรีอาริย์นั้น ใช่หรือไม่ใช่

 
*********************
 
 
ตุ้ยเองมีความคิดว่าการที่จะเชิญท่านเหล่านั้น
มาออกทีวีเพื่อพิสูจน์นั้นดูจะเป็นการยากค่ะ
เพราะท่านคงไม่อยากให้ผู้คนมาสนใจท่านมาก
และส่วนตัวท่านก็ไม่สนใจ
ในข้อหาที่พวกเรายัดเยียดให้ท่านอยู่แล้ว
(หากท่านเป็นตัวจริง)
ทางทีดีเราอาจรวบรวมรายชื่อบุคคลที่เข้าข่าย
แล้วใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วย ถามไปเลย 
เหมือนที่ท่าน อ.อุบลเคยบอกให้เราพิสูจน์
จากนั้นเมื่อได้ผู้ที่เข้ารอบสุดท้ายแล้ว
ทางทีมงานก็ต้องขอเข้าพบท่าน
เพื่อพิสูจน์ตามขั้นตอนต่อไปค่ะ

ซึ่งถ้าท่านเป็นพระองค์จริง
ท่านก็คงจะให้ความร่วมมือแน่นอน
เหมือนทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-16 18:30:48


ความคิดเห็นที่ 149 (1634930)

 

 

 

 นัชญ์คิดว่า  ใจสำคัญกว่ากาย

การค้นหาก็ให้เน้นโดยใช้ใจเป็นที่ตั้ง

 ใช้ใจค้นหาคือว่า

หากไปเชิญทุกท่านที่อาจจะใช่มาพิสูจน์ออกโทรทัศน์

เพื่อพิสูจน์หากายของพระพุทธเจ้า

นัชญ์ก็คิดเหมือนคุณตุ้ยคือแต่ละท่านอาจจะไม่ยอมมา

แต่ให้ใช้ใจค้นหาคือ

 

ข้อความจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ  ทุกแหล่ง

อ่านมากกว่า 1 ครั้ง ก็จะได้เข้าใจมากกว่าเดิม

อ่าน 10 ครั้งก็เข้าใจเพิ่มมากกว่าอ่าน 9 ครั้ง

อ่าน 1000 ครั้ง ก็เข้าใจเพิ่มมากกว่า 999 ครั้ง

ขออนุโมทนาในทุกท่านที่น้อมจิตคิดตาม

ในการไตร่ตรองวิเคราะห์ข้อความจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด

 

โดยน่าจะมีการแต่งตั้งคณะผู้ทำงาน 

ผู้ที่มีฤทธิ์ ผู้ที่มีอภิญญา  ในทางธรรม

และผู้ที่มีความสามารถในทุกสาขาวิชาในทางโลก

เป็นคณะผู้ค้นหาว่า ใครบ้างที่จะมีบุญญฤทธิ์ในการ

อาราธนาพระบารมีขององค์พระศรีอาริย์ได้

และก็ให้คณะผู้ทำงานขอเข้าพบ

ท่านที่เป็นเป้าหมายแต่ละท่าน

เพื่อทำการค้นหาและค้นพบพระบารมีของพระองค์

ว่ามาจากเป้าหมายท่านใด

 

 

 

 

ผิดถูกประการใด 

ก็ขออภัยล่วงหน้ามา ณ ที่นี้ด้วย

หากนัชญ์ทำให้ทุกท่านเข้าใจผิดค่ะ

 

  

กราบพระบาทองค์พระศรีอาริย์ผู้มาจุติ

กราบพระบาทเหล่าพระอนาคามีผู้ติดตาม

องค์พระศรีอาริย์ทุกท่าน

ผู้แสดงความคิดเห็น ภัคณัฐฎ์ ธรณ์วรรธ์ธนา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-17 08:20:16


ความคิดเห็นที่ 150 (1635024)

สาธุๆๆอนุโมทามิ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-17 17:31:03


ความคิดเห็นที่ 151 (1635030)

ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์อุบลที่มีเมตตาในการอาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ให้ลูกหลานบ้านสวนได้สัมผัสและรับรู้ พร้อมกับนำคำตักเตือนของพระองค์ท่านมาเตือนไม่ให้ทุกคนหลงทางในการจะตามหาพระศรีอาริย์ ขอให้การตามหาพระศรีอาริย์ของทุกคนได้สัมผัสได้จากคำสอนของอาจารย์อุบลในครั้งนี้ด้วยเทอญ และลูกก็จะขอระลึกถึงพระบารมีของพระองค์ท่านที่มีให้กับทุกคนไว้ในใจตลอดเวลา กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น กนกกร แดงเอม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-17 17:49:41


ความคิดเห็นที่ 152 (1635100)

คุณสมบัติพระศรีอาริย์

ในความคิดของผม

พระศรีอาริย์เป็นผู้ที่มีจิตใจงดงามมากๆเกินคำบรรยาย

พระองค์จะรักทุกๆคนแม้นจะเป็นคนที่ต่อต้านพระองค์ก็ตาม

พระองค์จะไม่โกรธใครเลย  มีแต่พระเมตตาล้วนๆ

ส่วนผู้ที่ต่อต้านพระศรีอาริย์ต่างก็จะแพ้ภัยตัวเองไปเอง

พระศรีอาริย์จะนำพาความสุขทั้งทางกายและทงใจมาสู่ทุกคน

พระองค์จะเช็ดน้ำตาของความเศร้าหมองความทุกข์ของทุกคนที่เปิดจิตรับและเปลี่ยนตัวเอง

พระองค์จะเน้นศีล  ทาน  ภาวนา

จะเป็นผู้ที่นำพาทุกคนที่น้อมรับคำสอนและมีจิตใจที่ดีเข้าสู่ยุคใหม่โดยที่ไม่ต้องมีภัยพิบัติใดๆ

โดยการนำเอาพระธรรมของพระพุทธเจ้ามาใช้และแสดงกฏของกรรมให้กระจ่าง

พระองค์จะเทศน์สอนแบบตรงไปตรงมา

ผู้ใดฟังธรรมแล้วน้อมจิตตามคือในขณะนั้นมีศีลบริสุทธิ์

ก็จะบรรลุธรรมตามบุญวาสนาบารมีที่ได้สร้างมา 

พระองค์จะไม่ยอมรับพระองค์เองเมื่อยังไม่ได้พิสูจน์ตามหลักกาลามสูตรของพระพุทธเจ้า 



ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-17 23:18:08


ความคิดเห็นที่ 153 (1635104)

ขอบารมีพระศรีอาริยเมตไตร, สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บ้านสวนพีระมิดทุกพระองค์,
อาจารย์อุบล ช่วยปกปักษ์รักษาประเทศไทยให้ปลอดภัยด้วยค่ะ

พอดีได้อ่านข้อมูลจาก เว็บไซต์พลังจิต ซึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นจึงนำมาให้ทุกท่านรับทราบอีกทางหนึ่งค่ะ ซึ่งมี 2 clip vdo

clip แรก โดย ดร.สมิทธ, อ.ปราโมทย์ และ ดร.ก้องภพ

http://board.palungjit.com/f178/คลิป-15-9-55-รายการชั่วโมงเตือนภัย-ดร-สมิทธ-อ-ปราโมทย์-ดร-ก้องภพ-359387.html

clip สอง โดย พระอาจารย์รัตน์, ดร.ก้องภพ อยู่เย็น, ดร.สมิทธ ธรรมสโรจ และ ดร.เทพพนม เมืองแมน (ผ่านSkype)

http://board.palungjit.com/f178/คลิปการเสวนาเรื่อง-คาดการพิบัติภัยไทยกับการเตือนภัยและสร้างที่หลบภัยครั้งสุดท้าย-359801.html

คลิป.. การเสวนาเรื่อง "คาดการพิบัติภัยไทยกับการเตือนภัยและสร้างที่หลบภัยครั้งสุดท้าย"

วันอังคาร ที่ 18 กันยายน 2555 ห้องศาลาแดง โรงแรมดุสิตธานี

หัวข้อการเสวนา

๑. การสลับขั้วสนามแม่เหล็กโลก

๒. การเคลื่อนตัวเลื่อนองศาทางภูมิศาสตร์ของโลก (Pole Shift)

๓. การเพิ่มปริมาณของน้ำในโลกและน้ำจะท่วมโลกหรือไม่?

๔. การระเบิดของดวงอาทิตย์ CME คือต้นเหตุของพิบัติทั้งหมด ?

- การเตรียมการของประเทศสหรัฐอเมริกา

- การเตรียมการของประเทศสหราชอาณาจักร

- การเตรียมการของประเทศญี่ปุ่น

- การเตรียมการของประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน

- ทำไมต้องมีการเตรียมการปราบซอมบี้ในต่างประเทศ

- การสั่งโลงศพใส่ได้ ๓-๕ ร่าง มากกว่า ๒ ล้านโลงของ FEMA

- การสร้างที่หลบภัยใต้ดินในต่างประเทศ


การเตรียมการของสยามประเทศการเตรียมการรับมือพิบัติภัย

- เปิดเผยพื้นที่เสี่ยงภัยภายในประเทศ จากเหตุการแบบต่างๆ

- พื้นที่ปลอดภัยหรือโดนภัยน้อยที่สุด

- การเอาตัวรอด ให้ตลอดรอดฝั่งพ้นปี พ.ศ. ๒๕๖๐

- สถานที่หลบภัยสาธารณะ

- ตัวอย่างห้องหลบภัยใต้ดิน

- การจัดเป้ฉุกเฉิน

- การสื่อสารในขณะเกิดภัย

- การหลบเลี่ยวพายุกัมมันตภาพรังสี

- อาหารที่ช่วยลดความรุนแรงของรังสี

- การฝึกสมาธิช่วยสร้างสนามแม่เหล็กป้องกันตนเองได้หรือไม่?

วิทยากรที่ร่วมเสวนา

๑. พระอาจารย์รัตน์

๒. ดร.ก้องภพ อยู่เย็น

๓. ดร.สมิทธ ธรรมสโรจ

๔. ดร.เทพพนม เมืองแมน (ผ่านSkype)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ณัฐากาญจน์ จันทรเตมีย์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-17 23:33:27


ความคิดเห็นที่ 154 (1635177)

ผมได้ปัญญาบางอย่างจากท่านอาจารย์ หลังจากที่ได้คุยกับท่าน และเรื่องนี้สำคัญและจะช่วยให้เราตามหาพระศรีอาริย์ได้อย่างเป็นรูปธรรม

เมื่อซัก 1-2 สัปดาห์ก่อน พี่อมรได้ออกมาเล่าเรื่องการช่วยบำบัดคน ส่วนมากจะเป็นคนพิการ

ซึ่งการบำบัดของพี่อมรนั้นง่ายดายมากครับ พี่อมรและพี่เหมี่ยวใช้รูปของท่านอาจารย์อุบลเลย รูปใหญ่ที่ติดในบ้านนั่นแหละครับ

ใครอยากจะลองพิสูจน์กฏแห่งกรรม ก็สารภาพกับรูปท่านาอาจารย์นี่แหละ ซึ่งให้ผลที่อัศจรรย์ใจมาก คือ คนพิการเหล่านี้ หายหรือดีขึ้นในทันที จากที่เดินแทบไม่ได้ กลับมาเดินปร๋อในทันที โอ้วว สุดยอด

ทั้งนี้เพราะท่านอาจารย์อุบลได้อาราธนาอัญเชิญพระบารมีพระศรีอาริย์มาสถิต ในกาย วาจา ใจของท่าน ดังนั้นรูปท่านจึงมีพลังงานมหาศาล

ใครที่เคารพท่านอาจารย์อุบลอย่างจริงใจหรือเพียงคิดถึงท่านก็จะสื่อถึงและได้รับพระบารมีของพระศรีอาริย์เต็มๆไปด้วย

ดังนั้นการที่จะเชิญบุคคลใดๆมาพิสูจน์นั้นก็คงเป็นการยาก อย่างที่บอกแหละครับเพราะมีเหตุผลหลายๆประการ

แต่หากว่า บุคคลใดที่เป็นพระศรีอาริย์จริงๆ

1.หากเราเดินผ่านรูปท่าน ก็ต้องมีผลทันที เช่นหายจากอาการที่เป็นอยู่ในทันที

2.หรือหากไม่มีรูป แค่คิดถึงท่านผู้นั้น ก็ต้องมีผลทันทีเช่นกัน

สำหรับผมแล้ว มั่นใจสุดๆเลยครับ!!!วิธีนี้ เพราะเห็นตัวอย่างจากที่อมรและพี่เหมี่ยวช่วยคนและได้เห็นชัดๆมาแล้ว

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 12:11:04


ความคิดเห็นที่ 155 (1635182)

 โอโห ยอดเลยครับวิธีนี้

ต่อไปถ้าเราลองเอารูปขอคนที่เรา

คิดว่าต้องสงสัยมาให้พี่น้องบ้านสวนที่มีอาการบาดเจ็บ

แค่ลองเดินผ่าน ที่ละคนดีมัยครับ

ไม่เอาเรื่องอย่างอื่นเลยแค่อธิฐานว่าถ้า

ไปพระศรีอริยะขอให้อาการป่้วย

หายและบรรเทาลง จะดีมัยครับ

แต่ เอ้ เราคงต้องทำเรื่องขออนุญาติ

ท่านที่เราจะเอารูปเค้ามาทดสอบดูมัยน๊า

อันนี้ผมต้องขอความเห็นพี่ธนาช่วยจาดการละครับ

หุ หุ หุ ขอบคุณครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น พรพุทธ ศรีคุ้ม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 12:41:48


ความคิดเห็นที่ 156 (1635194)

 

นัชญ์ ก็ขอเห็นด้วยกับคุณธนาอีก 1 คนด้วยค่ะ

นัชญ์ว่า มันเป็นไปได้มากที่สุดเลยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภัคณัฐฎ์ ธรณ์วรรธ์ธนา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 13:48:00


ความคิดเห็นที่ 157 (1635208)

      ผมไม่ทราบสิ่งที่ผมทำ เกี่ยวข้องกับการตามหาพระศรีอาริย์หรือไม่ พี่น้องลองอ่านดูครับ...........

ผมชื่ออมร  ภรรยาผมชื่อเหมี่ยว ครับผมอยู่โคราช ผมและภรรยา ได้ใช้จี้บำบัดผู้ป่วยหลายคนครับ เป็นไข้ ปวดหัว ตัวร้อน ปวดขา อุบัติเหตุ ฟกช้ำ ผึ้งแตนต่อย ใช้จี้สฟิงซ์ และรหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ได้ผลดีมาก ทุกครั้งครับ

มีผู้ป่วยอีกหลายคนที่ป่วยมานานแขน ขาพิการ เดินแบบนกเพนกวิน บางคนก็เดินขาลาก บางคนเดินงอเข่าไม่ได้   การบำบัดผมไม่ได้คิดว่าจะต้องบำบัดความพิการเขาเลยนะครับ บำบัดอาการปวดขา ปวดข้อ ปวดกระดูกทำนองนั้นที่เขาบอกว่า ปวด พอบำบัดเสร็จ ความพิการกลับหายได้เป็นปรกติช่างอัศจรรย์จริงๆ  งงทั้งคนป่วยและคนบำบัด ยิ่งคุณเหมี่ยว พอบำบัด เห็นคนพิการเดินได้ปรกติ ไม่รู้ดีใจแบบไหน ปากคอสั่นพูดเสียงสั่นเครือ พูดอะไรไม่ถูกทำต่อไม่เป็น ลืมจี้ซะงั้น

ได้แต่ชี้ไปที่รูปถ่ายอาจารย์อุบล แล้วพูดเสมอว่า ไม่ต้องสนใจพวกฉัน ฉันไม่ได้ทำให้แก่หายด๊อก นี่คือ ครูบาอาจารย์ของฉัน ที่ทำให้แก่(ท่าน)หาย

แล้วให้คนที่หายไปไปกราบรูปอาจารย์อุบลที่ติดหลาอยู่หน้าบ้าน พอกราบรูป ขอบคุณเสร็จ ยิ่งทำให้เขามีอาการดีขึ้นมาก เดินไปมายิ่งเป็นปรกติ  คนอื่นๆที่พิการก็ให้ทำอย่างนี้เหมือนกัน ที่พิการแล้วหายมี สี่รายครับ หายจริงอย่างอัศจรรย์ใจครับ

อย่างรายที่สี่เป็นอัมพฤกษ์ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่จู่ ก็ทำให้ผมนำรูปที่แขวนลงมาให้เขากราบที่พื้น ทั้งที่รู้ว่า ลุงงอเข่าไม่ได้  ได้แต่บอกให้ลุงฝืนหน่อย  ผมไม่ได้คิดเลยสักนิดว่า จะต้องบำบัดความพิการที่ขาไม่รู้คิดได้ไงให้เขาคลุกเข่ากราบรูปอาจารย์อุบล คิดเพียงว่า ต้องนั่งคลุกเข่ากราบ ไม่ใช่ยืนกราบ ผลปรากฏว่า ลุงงอเข่าได้ ลุกขึ้นยืนแล้วเดินอย่างคล่องแคล่ว ทั้งที่ไม่เคยทำอย่างนี้ได้เลยตั้งแต่เป็นอัมพฤกษ์

ผมว่าพี่น้องเราต้องสงสัยแน่แน่ ผมก็สงสัยครับ ว่า เพียงกราบรูปอาจารย์อุบล ก็สามารถบำบัดคนพิการได้ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ผมก็ยิ่ง งง เพราะอาจารย์อุบลไม่ได้บอกวิธีให้ผมเลย (แสดงว่าผมนี่ หัวล้านเกินครูใช่ไหมครับ กราบขอโทษอาจารย์อุบลครับ)  ยิ่งคุณเหมี่ยว จะเริ่มการบำบัดทุกครั้งจะแนะนำ อาจารย์อุบล นี่คือครูบาอาจารย์ของเรา ก่อนทุกครั้ง  เท่าที่ผมสังเกตเห็น แล้วการบำบัดก็ราบรื่นดีทุกครั้ง

เดินผ่านอาจารย์อุบลแล้วหาย - กราบขอบคุณอาจารย์อุบล ก็หายป่วยได้ - กราบรูปอาจารย์อุบลก็สามารถหายจากความพิการได้ เกี่ยวข้องกับโจทย์การตามหาพระศรีอาริย์ของท่านใดบ้าง หรือท่านเห็นเป็นอย่างไรครับ

ส่วนผมและภรรยา ..ได้แต่ งึด งึดหล้าย หลาย

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 15:20:53


ความคิดเห็นที่ 158 (1635220)

สาธุ สาธุ สาธุ

และขออนุโมทนากับคุณอมรและคุณเหมี่ยว

และผู้ที่ได้รับการบำบัดทุกท่านด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภัคณัฐฎ์ ธรณ์วรรธ์ธนา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-18 16:20:12


ความคิดเห็นที่ 159 (1635374)

 

เดินผ่านอาจารย์อุบลแล้วหาย - กราบขอบคุณอาจารย์อุบล ก็หายป่วยได้ - กราบรูปอาจารย์อุบลก็สามารถหายจากความพิการได้ เกี่ยวข้องกับโจทย์การตามหาพระศรีอาริย์ของท่านใดบ้าง หรือท่านเห็นเป็นอย่างไรครับ
++++
ขอมีส่วนร่วมด้วยค่ะ  หนูว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง
 
กับการตามหาพระศรีอาริย์เป็นอย่างยิ่งค่ะ
 
และเห็นด้วยกับคุณธนา  เพราะพอมานึกดู
 
หลังจากมีจี้สฟิ้งซ์  ต่อมาท่าน อ. อุบล
 
ได้มีอุกรณ์ในการสารภาพบาป  คือรูปท่าน
 
อ. อุบล  หนูว่า ทุกอย่างเกี่ยวข้องกันมากที่สุดค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-19 11:59:52


ความคิดเห็นที่ 160 (1635376)

เห็นดีด้วยมาก  ๆ คะ

ที่จะใช้วิธี นำรูปของท่าน หรือเพียงนึกถึงหน้าท่าน

มาเป็นบทพิสูจน์ เพราะบารมีท่านย่อมแผ่ไปทั่วไพศาลอยู่แล้ว

 

และคนทุกคน ไม่ว่าอยู่ส่วนไหนของโลก

ก็สามารถร่วมพิสูจน์ ร่วมตามหาพระศรีอารย์ได้จริง

 

ขออนุโมทนากับวิธีดี ๆ แบบนี้ด้วยนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-19 12:04:45


ความคิดเห็นที่ 161 (1635388)

เห็นด้วยคะ ที่ว่าควร เอารูปอาจารย์ให้ดูด้วย เพราะดูเป็นรูปธรรมดี

คนไข้มักจะทำหน้างงๆว่าแล้วจี้องค์เทพสฟิงซ์คืออะไร เขาไม่ค่อยจะเข้าใจ

สำหรับคนป่วยที่อาการดีขึ้น คุณอมรน่าจะถ่าย วีดีโอเอาไว้เป็นหลักฐานเปรียบเทียบให้ดู

ขออนุโมทนา ที่คุณอมร และคุณเหมี่ยวสามารถช่วยคนไข้ได้

สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ๋ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-19 13:18:48


ความคิดเห็นที่ 162 (1635433)

ข้อความนี้ผมคัดลอกมาจากเฟสผมเองครับ  พอดีมีพี่คนหนึ่งมาโพสต์เอาไว้ใต้ข้อความที่ผมชวนให้ตามหาพระศรีอาริย์

ท่านเปิดเผยตัวแล้วแต่ต้องเป็นคนที่แสวงหาจริงๆถึงจะได้รับรู้ ท่านไม่ใช่พระ แต่เป็นคนธรรมดาๆเหมือนทุกๆคน ขอให้หาเจอนะ

ท่านอายุ 29 แล้วล่ะครับ ตอนนี้กำลังทำบางอย่างเพื่อหยุดภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นด้วยทุกสิ่งที่ท่านมี มีอาจารย์คอยชี้นำทางท่านอยู่กับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่รับรู้แล้ว

ภาพที่ทุกคนรู้จักส่วนใหญ่จะเป็น มีจักรมีแก้วสารพัด รูปลักษณ์

งดงาม มีบริวารมากมายมีคุณสมบัติที่เหนือกว่าธรรมดา มันเป็น

จินตภาพที่ทุกคนสร้างขึ้นเพื่อรอรับท่านด้วยความสูงส่งในบุญ

ญาธิการ แต่ในความเป็นจริงที่ผมสัมผัสกับท่านมันแตกต่าง ผม

จะเล่าให้ฟังครับ ท่านเป็นคนที่มีภาพลักษณ์เรียบง่ายมาก เรียน

หนังสือ ทำงาน ขับรถ เล่นกีฬา มีเพื่อนฝูงที่ดี เหมือนคนปกติทุก

อย่างและสิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจนอยู่ในระบบของความคิดของ

เขาต่างหาก ความคิดที่สูง ความคิดที่จะช่วยเหลือผู้อื่น ช่วย

เหลือโลกให้พ้นภัย ความคิดที่ปล่อยวางจากความคิดลบต่างๆ

เขามีความสงสัยตัวเองมาตั้งแต่เกิดว่าเกิดมาทำไม เกิดมาเพื่อ

อะไร พยายามหาคำตอบที่ถูกต้องให้กับตนเอง วันนึงตอน

ประมาณเจ็ดขวบ เขาสัญญากับตัวเองว่า เขาจะเป็นคนดีที่สุดใน

โลกแล้วเขาก็ได้พบกับศีล 5 เขาจึงได้นับถือมานับแต่บัดนั้น เขา

รู้สึกว่ามันง่ายมากกับสิ่งที่เรียกว่าศีล 5 นี้ ชีวิตเขาสงบขึ้นมีสมาธิ

มองเห็นในความเป็นไปรอบตัวได้เห็นความเป็นจริง เห็นความ

เป็นไปในสังคม เขาพยายามจะบอกสิ่งนี้ให้กับคนรอบข้าง แต่

กลายเป็นว่ามันไม่ง่ายเลยผู้คนรอบข้างไม่สนใจไหลลงต่ำลง

เรื่อยๆแบบที่เขาก็รั้งไว้ไม่ได้ เขาก็เศร้าพอสมควรล่ะ แต่ก็ยังมี

คนส่วนนึงที่พอเข้าใจในสิ่งนี้ จนวันนึง อ้อ หากคิดว่าเขาเป็น

มนุษย์ธรรมดามันก็ใช่ แต่เขาธรรมดามาจนเป็นธรรมชาติ จึง

สามารถติดต่อกับอารยธรรมอื่นที่อยู่ภายนอกโลกได้ เขาเปรียบ

เสมือนตัวแทนของมนุษย์ในการเจรจากับระบบของจักรวาลใน

การตัดสินชะตากรรมของโลก ซึ่งตอนนี้เขาเลือกแล้วว่าจะขอ

โอกาสให้มนุษย์โลกแก้ไขอีกสักครั้ง เขากำลังทำภารกิจบาง

อย่างที่สำคัญมากกับคนกลุ่มหนึ่งที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ถ้ามี

คำถามว่าทำไมรู้เรื่องราวละเอียดขนาดนี้ จริงๆแล้วเขาไม่ชอบ

คำว่าพระศรีเลยเขาปล่อยวางจากคำนั้นไปแล้ว เขาตอนนี้

ปัจจุบันเป็นคนธรรมดา มีชื่อจริง ชื่อเล่น คุยกันด้วยคำพูด

ธรรมดาปกติเหมือนเพื่อนๆ พี่น้องกันสนุกสนานไม่มีถือตัวใดๆ

ทุกคนที่มาพบเขาส่วนใหญ่ จะมีความคิดอยากเจออยากพบมา

ก่อน ซึ่งถ้ามีจิตตั้งใจจริง ไม่ต้องมาหาครับ เขาจะไปหาเอง ยินดี

ที่ได้รู้จักนะครับ^^

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-19 22:06:23


ความคิดเห็นที่ 163 (1635457)

ทำไมพี่อมรกับพี่เหมี่ยวทำได้

แล้วทำไมเราทำไม่ได้

เราต้องไปเรียนรู้จากพี่อมรพี่เหมี่ยว

พอเราทำได้

ก็ไปสอนต่อวิธีทำให้คนอื่นทำได้

ต้องรบกวนพี่อมรพี่เหมี่ยวมาทำ WORK SHOP

รึยังไง

แต่อาจารย์ก็แสดงวิธีให้ดูแล้วนิ

แต่เราก็ยังทำไม่ได้

รึยังทำไม่ครบสูตร

เลยไม่ได้เจอพระบารมีพระศรีอาริย์

ด้วยตัวเอง

หรือถ้าเราอันเชิญพระบารมีพระศรีอาริย์

ให้ได้เหมือนอาจารย์ ก็แสดงว่าเราเจอพระศรีอาริย์

โอ้ พระเจ้า ผมขอเป็นควายต่อไปละกัน มึนตึบ

สรุปยัง งง อยู่ดี

ผู้แสดงความคิดเห็น เกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-20 04:37:31


ความคิดเห็นที่ 164 (1635502)

 เป็นไปได้ไหมครับว่าพระศรีอาริย์ต้องเกี่ยวข้องกับอียิปต์

เกี่ยวข้องกับระมิด

เกี่ยวข้องกับองค์เทพสฟิงซ์

เกี่ยวข้องกับมนุษย์ต่างดาว

และจักรวาล

ขออนุโมทนาสาธุกับวิธีการเผยแผ่บารมีพระศรีอาริย์

ของพี่อมรและพี่เหมี่ยวด้วยนะครับ

และโจทย์ที่ยากมากคือ

อย่ายึดติดตัวบุคคล

แล้วพระศรีอาริย์จะมาในรูปแบบไหนกันครับ

เพราะกายทิพย์ของพระองค์ก็ปรากฏแล้ว

แต่กายเนื้อของพระองค์จะมาในรูปแบบใด


 

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-20 10:57:43


ความคิดเห็นที่ 165 (1635503)

                  ขอบคุณพี่อมรและพี่เหมี่ยวมากๆค่ะ

 บางที ก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะใช้วิธีใดบ้าง ช่วยบำบัดผู้คนได้หรือแม้แต่การบอกรหัส อาจารย์อุบลช่วยด้วย เวลาไปบอกใคร เขาก็จะงงๆว่า ไม่รู้ว่าอาจารย์อุบลเป็นใคร หน้าตายังไงนะ เผลอๆบอกไปยิ่งสงสัยกันไปใหญ่ไม่กล้าใช้รหัสซะงั้น บางคนไม่สงสัยก็ยกมือขอบคุณจนแทบรับไหว้ไม่ทันก็มี

      วิธีของพี่ทั้งสอง น่าจะช่วยให้การตามหาพระศรีอาริย์ง่ายขึ้น  ถ้าเราสงสัยคิดว่าใคร เราก็แค่เอารูปมาลองพิสูจน์ตามที่เราได้ศึกษากันมา น่าสนใจมากทีเดียว  ขอบคุณมากค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น จารุวรรณ จินดา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-20 11:02:09


ความคิดเห็นที่ 166 (1635640)

พระศรีอาริย์เปี่ยมไปด้วยพระเมตตา

เมื่อก่อนผมก็กินเนื้อสัตว์

พอได้ฟังคำสอนของท่านอาจารย์ก็ได้

ปฏิบัติตาม เพิ่งรู้สึกของการไม่เบียดเบียนชีวิต

การตัดวงจรการเบียดเบียน

ถ้าเราบอกทุกคนบนโลกให้ปฏิบัติตาม

สิ่งนี้ทำให้เกิดความรักความเมตตาได้แบบฉับพลันทันที

แต่ทุกคนจะทำตามหรือไม่ เราก็แค่บอก

ผมเดาว่าองค์พระศรีอาริย์ท่านก็คงอาจจะงดการกินเนื้อสัตว์

นี่อาจเป็นสัญลักษณ์อีกอันนึงของพระองค์ท่านก็เป็นได้

การตามหา น่าจะคือการเดินตามธรรม

แต่สำหรับองค์พระศรีอาริย์ท่านจะเน้นสอนอะไร

รักแบบไม่ให้มีเงื่อนใข ทำไยังไงก็ได้ให้เกิดสันติสุข

ความสงบสุขไม่เบียนเบียดก็เป็นธรรมอีกอย่าง

ที่พระองค์และเราทุกคนอยากให้เป็น

มีอะไรอีกที่เป็นธรรม เป็นเอกลักษณ์ เฉพาะองค์พระศรีอาริย์

ไม่ให้ติดในตัวบุคคล แต่ให้ติดในธรรม

"ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต"

ขอนอบน้อมกราบองค์พระศรีอาริย์

ด้วย กาย วาจา ใจ

กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น เกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-21 06:44:41


ความคิดเห็นที่ 167 (1635815)

หนูขออนุญาตแสดงความคิดเห็นด้วยคนค่ะ

การกราบรูปท่านอาจารย์อุบล หรือการสารภาพปาบกับรูปท่านอาจารย์อุบล

หรือกับอุปกรณ์ที่มีรูปท่านอาจารย์อุบล หรือจี้ที่เป็นรูปหน้าท่านอาจารย์อุบลแล้ว

หายป่วย ความทุกข์ต่าง ๆ คลี่คลายหรือหาย

หนูคิดว่ารูปท่านอาจารย์อุบลต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับภาระกิจการตามหาพระศรีอารีย์แน่นอนค่ะ

ลองเที่ยบกับตอนที่เราได้รับพระบารมีจากพระศรีอารีย์ที่ท่านอาจารย์อาราธนาอัญเชิญและ

ได้ให้ลูกหลานเดินผ่านท่านอาจารย์แล้วอาการเจ็บป่วยหาย ความทุกข์หาย

และได้มีคนพิสูจน์หลายคนแล้วว่ากราบรูปอาจารย์อาการเจ็บป่วยก็หายเหมือนกัน เช่นกรณี พี่เหมี่ยวกับพี่อมร ใช้เป็นประจำและได้ผลดี

ได้ลองกราบรูป หรือสารภาพปาบกับรูปหรือเหรียญหลวงปู่หลายองค์

อาการเจ็บป่วยก็ไม่หายเหมือนกราบรูปท่านอาจารย์ หรือสารภาพปาบกับอุปกรณ์ที่มีรูปท่านอาจารย์

และส่วนตัวหนูเองก็รู้สึกว่ารูปท่านอาจารย์ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับพระศรีอารีย์

แน่นอนค่ะ  เพราะเจอกับครอบครัวตัวเอง

ได้บูชาอุปกรณ์มาให้ทุกคนในครอบครัว และคุณแม่  1 องค์

และกรณีของคุณแม่จะเห็นชัดเจนที่สุดเพราะคุณแม่มีอาการทางร่างกายที่สามารถพิสูจได้

 คุณแม่เป็นโรครูมาตอยด์มา 30 ปี และมาดีขึ้นมากเมื่อมาทำบุญบ้านสวน

ตอนเช้าอากาศเย็นคุณแม่จะกำมือไม่ได้ต้องแช่น้ำอุ่นถึงจะกำมือได้

 พอคุณแม่สวมสร้อยที่มีอุปกรณ์ยังไม่ทันสารภาพปาบ

สามารถกำมือได้ หายตึง อย่างรวดเร็ว รู้สึกอุ่น ๆ ที่มือ

เหมือนได้รับพลังบุญจากท่านอาจารย์เลยค่ะ

ลูกขอกราบขอบพระคุณพระบารมีพระศรีอารีย์ เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์ ท่าอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล คุณท็อป และพี่แมวค่ะทีได้เมตตาจัดส่ง และได้เมตตาให้หนูได้บูชาวัตถุมงคลที่แสนวิเศษที่สุดค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-22 14:45:00


ความคิดเห็นที่ 168 (1635930)

เมื่อวันที่ 19 ต.ค.55

หมวดประวัติพูดว่า

 

ลูกพี่ผม

(เจ้าของบ้านไร่ปลายตะวัน)

บอกว่า

ลูกบ้านสวน

ต้องหยุดตามหาพระศรีอาริย์

แล้วจะได้เจอ

พระศรีอาริย์

เอง

 

เอ

ใครเข้าใจความหมาย

มาช่วยกัน เฉลย หน่อยเร้ววววว

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-23 00:21:37


ความคิดเห็นที่ 169 (1635935)

   หนูคิดว่าเขาคงจะหมายความว่า

ลูกบ้านสวน ไม่ต้องไปตามหา

พระศรีอาริย์ที่ไหนอีกแล้ว

เพราะเราได้พบพระศรีอาริย์แล้ว

ที่บ้านสวนพีระมิดแห่งนี้ค่ะ

กราบ  กราบ  กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-23 00:38:25


ความคิดเห็นที่ 170 (1635966)

 แหะๆ แอบคิดเหมือนพี่ตาลเลยค่ะ

หวังว่าสักวันพระองค์คงจะใจอ่อน

ยอมเปิดเผยพระองค์นะคะอ.แม่ อิอิ

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-23 04:23:01


ความคิดเห็นที่ 171 (1635979)

คงหมายความว่าไม่ต้องไปตามหา

พระศรีอาริย์เมตไตรย์

ที่นอกบ้านสวนพีระมิด

เพราะว่าท่านสถิตย์อยู่ ณ ที่นี้แล้ว

พระบารมีของท่านกระจายอยู่ทั่วทุกอนูของบ้านสวนฯ

ซึ่งทุกคนสามารถสัมผัสพระบารมีของพระองค์ได้

ด้วยการหายเจ็บ หายป่วย หายจน

และอีก ฯลฯ

หากศรัทธาพระองค์ท่านด้วยใจจริง

 

ซึ่งไม่มีที่ใดใดในโลกนี้สามารถกระทำเช่นนี้ได้

 

ลูกขอกราบ กราบ กราบ

ขอให้ลูกสัมผัสพระบารมีของพระองค์ได้ด้วยค่ะ

สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธัญญาภรณ์ พุกภัย พิสมัย (ฝรั่งเศส) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-23 07:34:22


ความคิดเห็นที่ 172 (1635988)

 ผมก็คิดเหมือนพี่ตาลครับ

พระศรีอาริย์

ต้องอยู่ที่บ้านสวนพีระมิดแน่ๆ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-23 08:42:11


ความคิดเห็นที่ 173 (1635989)

 หรือหมายความว่าพระศรีอาริย์จะทรงมีพระเมตตาให้ลูกบ้านสวนพีระมิดได้ชมพระบารมีและได้พบพระองค์ด้วยกายเนื้อในเร็วๆนี้ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-23 08:43:24


ความคิดเห็นที่ 174 (1636024)

ผู้คิดไม่รู้

ผู้รู้จะไม่คิด

หยุดตามหาข้างนอก(นอกกายใจตัวเอง)

เมื่อทุกอย่างนิ่ง จะรู้สึกเงียบสงบ

อยู่ที่กายที่ใจเรา

น่าจะเป็นปริศนาธรรมจากเบื้องบน

ทุกอย่างสำเร็จได้อย่างอัศจรรย์

ใจเป็นมหาเหตุ

เดาตามความโง่ที่มีครับ

เพราะผมก็ไม่รู้เหมียนว่าจะไปตามหาที่ใหน

คงแค่เพียงให้จิตตั้งมั่น

ไปกันใหญ่แล้ว

ก็คงประมาณนี้ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-23 11:09:17


ความคิดเห็นที่ 175 (1636028)

ผู้คิดไม่รู้

ผู้รู้จะไม่คิด

***********

2 ประโยคสั้น ๆ

แต่โดนสุด ๆ อ่ะค่ะ

และแล้ว

ลูกบ้านสวน

ต้องหยุดตามหาพระศรีอาริย์

แล้วจะได้เจอ

พระศรีอาริย์

เอง

อู้.ย.ยย.ย

ถูกใจเป็นที่ซู๊ด

แต่ตอนนี้เนี่ย.ยย.

อ.อุบล ช่วยด้วย

แมวคิดถึงพระองค์เป็นที่สุดค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-23 12:30:36


ความคิดเห็นที่ 176 (1636043)

เอางี้ดีมะครับ วันเสาร์ อาทิตย์นี้ นอกจากจะทำ Workshop แว้ว พวกเรามาตามหาพระศรีอาริย์กันเถอะครับ

ท่านใดที่รู้จักและเคารพครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆก็สามารถนำรูปครูบาอาจารย์ของตนเองมาร่วมกันพิสูจน์ได้นะครับ เผื่อว่าพวกเราจะได้พบพระศรีอาริย์กันโดยเร็วที่สุด

1.ท่านที่เจ็บป่วย หากกราบรูปครูบาอาจารย์ที่ท่านนับถือแล้วหาย ก็เรียกว่า โป๊ะเชะ เราเจอแว้ววว

2.หากไม่มีรูป เราก็แค่ระลึกถึงท่าน หากหายทันทีก็...กราบ กราบ กราบ

ส่งเสียงกันหน่อยก๊าบบพี่น้อง เสนอชื่อครูบาอาจารย์ที่ท่านคิดว่ามีคุณสมบัติหรือว่าน่าจะเป็นพระศรีอาริย์เพื่อจะได้ร่วมพิสูจน์กันในสัปดาห์นี้ก๊าบบ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-23 14:08:39


ความคิดเห็นที่ 177 (1636100)

ลูกบ้านสวน

ต้องหยุดตามหาพระศรีอาริย์

แล้วจะได้เจอ

พระศรีอาริย์

เอง

 

เอ

ใครเข้าใจความหมาย

มาช่วยกัน เฉลย หน่อยเร้ววววว

***

ผมเองก็ิึิคิดเหมือนกับทุกๆท่านแหละครับ

คาดว่าน่าจะใจตรงกันนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-23 19:34:14


ความคิดเห็นที่ 178 (1636125)

 

ลูกบ้านสวน

ต้องหยุดตามหาพระศรีอาริย์

แล้วจะได้เจอ

พระศรีอาริย์

เอง

 

เอ

ใครเข้าใจความหมาย

มาช่วยกัน เฉลย หน่อยเร้ววววว

*************

มั่นใจค่ะ ว่าลูกบ้านสวนทุกคน คิดเหมือนกันหมด

ว่า เราไม่ต้องร้องเพลง แล้วเราหากันจนเจอ....

เพราะ เราเจอแล้้ว

ได้รับพระเมตตาบารมีกันทุกอาทิตย์

ได้เห็นพระบารมีกันทุกคน

ไม่ต้องไปหาที่ไหน

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เพชรดา วรรณรักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-23 21:48:07


ความคิดเห็นที่ 179 (1636139)

 

ลูกบ้านสวน

ต้องหยุดตามหาพระศรีอาริย์

แล้วจะได้เจอ

พระศรีอาริย์

เอง

 

 

เห็นด้วยกับข้อความนี้ที่สุดคะ

ลูกบ้านสวน ต้องหยุดตามหาได้แล้ว

เพราะเราได้พบท่านมาตั้งนานแล้วไงคะ

ไม่น่าเชื่อว่าคนชั่ว ๆ อย่างเราจะมีบุญ

ได้พบแม่ ได้พบพระศรีอาริย์ได้เลย...

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-23 22:19:26


ความคิดเห็นที่ 180 (1636175)

 ลูกบ้านสวน

ต้องหยุดตามหาพระศรีอาริย์

แล้วจะได้เจอ

พระศรีอาริย์

เอง 

 

++++++++++++++

ยอมรับค่ะไม่เข้าใจความหมาย

ของท่านเจ้าของบ้านไร่ปลายตะวัน

แต่สิ่งที่เห็นคือลูกบ้านสวนฯ

ได้รับบารมีพระศรีอาริย์ ที่ท่าน อ.อุบล

เป็นผู้อาราธนาอัญเชิญ

แค่เดินผ่านก็หาย  คนพิการกราบรูปก็หาย

เรียกว่าหายเจ็บ หายจน กันถ้วนหน้า 

แล้วที่บ้านไร่ฯ หรือ ที่อื่นๆ ละ

ได้เจอพระองค์ท่านหรือยัง

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-24 01:03:49


ความคิดเห็นที่ 181 (1636193)

ลูกบ้านสวน

ต้องหยุดตามหาพระศรีอาริย์

แล้วจะได้เจอ

พระศรีอาริย์

เอง

 

เอ

ใครเข้าใจความหมาย

มาช่วยกัน เฉลย หน่อยเร้ววววว

..................................

ท่านเจ้าของบ้านไร่ฯ

ก็คงจะแอบสงสัยอยู่นะคะ

ถึงได้พูดออกมาแบบนี้

 

เพราะท่านคงพอจะรู้อยู่ว่า

ลูกบ้านสวนฯ ก็ได้พบ

ได้สัมผัสบารมีของพระศรีอาริย์

กันแบบเต็มๆ มาตั้งนานแล้ว

 

แล้วยังจะไปตามหา..พระองค์

ที่ไหนอื่นอีกเล่า

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-24 06:59:08


ความคิดเห็นที่ 182 (1636219)

                                               ลูกบ้านสวน

ต้องหยุดตามหาพระศรีอาริย์

แล้วจะได้เจอ

พระศรีอาริย์

เอง 

 

หนูไม่เข้าใจความหมายค่ะ

แต่ในความรู้สึกของหนูว่าลูกบ้านสวนได้พบพระองค์นานแล้วเหมือนกัน

และที่สำคัญพระองค์ก็อยู่กับลูกบ้านสวนตลอดเวลา (ถ้าเราคิดถึงพระองค์เอ่ยชื่อพระองค์)

ลูกขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบลค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-24 09:41:10


ความคิดเห็นที่ 183 (1636235)

หมวดประวัติบอกว่า

ลูกพี่ผม

(เจ้าของบ้านไร่ปลายตะวัน)

พูดว่า

ลูกบ้านสวนพีระมิด

ต้องหยุดตามหาพระศรีอาริย์

จึงจะได้เจอพระศรีอาริย์

 

โอ้ย

พูดเข้าใจยากเน๊าะ

ใครเข้าใจมั่ง

เนี่ย

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-24 11:04:37


ความคิดเห็นที่ 184 (1636239)

แบบผมเป็นคนอยากรู้อยากเห็นอะครับ ก็เลยโทรไปถามแม่หมอว่ารู้เรื่องนี้บ้างไหม

แม่หมอก็ทราบเรื่องนี้ดีก็เลยเล่าว่า....

นายของหมวดประวัติบอกว่า จะหาไรกันนักหนา จะรนกันไปทำไมนักหนาลูกบ้านสวน เดี๋ยวก็เจอเองแหละ ประมาณนี้ครับ 5555

ผมคิดว่าเวลาหมวดประวัติเล่าคงบอกเล่าแบบสรุปใจความครับ

ส่วนแม่หมอกุหลาบฟังแล้วก็บอกว่า "เชื่อใครเชื่อมันเน๊าะ" อะจ๊ากกกก

สำหรับผม ใครจะว่าอย่างไรก็ตามครับ ในเมื่อผมทราบว่าพระองค์ท่านสำคัญต่อชีวิตมวลมนุษย์ทั้งหมด หากเป็นไปได้ผมก็อยากพบพระองค์ท่านก่อนที่ภัยพิบัติใหญ่จะเกิด เพื่อที่พระองค์ท่านจะได้พามวลมนุษย์เข้าสู่ยุคใหม่ในทันที

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-24 11:19:24


ความคิดเห็นที่ 185 (1636338)

 

 

ช่วงนี้เห็นแต่ละคนเครียดๆ

กับการตามหาพระศรีอาริย์กันไปโหน่ย 

ชนิดาก็เลยคิดเล่นๆขำๆว่าทำไมเราไม่ถามกายทิพย์ของพระองค์

ที่ท่านอาจารย์อัญเชิญมาแล้วก็ถามตรงๆไปเลยว่ากายเนื้อของพระองค์อยู่ที่ไหนค่ะ

พวกเราจะได้ไปพบทันทีอิอิ แบบนี้หาคำตอบได้ง่าดี

----------------------------------------

โห... ชอบๆไอเดีย ของคุณชนิดา เชิงสะอาดจังค่ะ อาจินต์ก็แอบคล้อยตามอยู่เหมือนกันนะคะ อ่า..แต่เกรงจะโดนท่านอาจารย์อุบล เก๊าะกระบาลซะก่อนน่ะเจ้าค่ะ

 

ขอร่วมโมทนาบุญกับเจ้าของกระทู้ฮ็อตสุดหล่อด้วยค่ะ

 

กราบท่านอาจารย์อุบลเจ้าค่ะ

 

อาจินต์ ภิรมย์รักษ์

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กฤตยวรรณ ภิรมย์รักษ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-24 17:22:01


ความคิดเห็นที่ 186 (1636345)

การที่หยุดแล้วจะเจอผมคิดว่ามีนัยยะหลายแง่มุมครับ

เท่าที่ผมจะคิดได้นะครับ  ในมุมมองของผมนะครับ  หากผิดพลาดประการใดขออโหสิกรรมมา  ณ  ที่นี้ด้วยนะครับ

ประเด็นแรก  คือท่านเจ้าของบ้านไร่ปลายตะวันทราบแน่ชัดแล้วว่าพระศรีอาริย์คือใคร

ประเด็นที่สอง  ลูกบ้านสวนพีระมิดได้สัมผัสกับพระศรีอาริย์แล้วแต่ยังไม่รู้ว่าใครคือพระศรีอาริย์ และตามคำที่  ดร.จิตราบอกว่าอย่ายึดตัวบุคคล  นั่นก็เป็นโจทย์ที่แสดงว่า  เราต้องยึดหลักคุณธรรมของพระศรีอาริย์เป็นหลัก  ในการพิสูจน์  คือหลักฐานเชิงประจักษ์ที่เราได้สัมผัส  และได้พบเอง  และไม่ต้องยึดตัวบุคคล  แต่ให้เอาผลที่เราได้รับรู้ด้วยตัวเราเอง  มาตัดสิน  เพราะการทดลองซ้ำๆแล้วได้ผลเช่นเดียวกันคืออาการเจ็บป่วยหายนั้น  ก็เป็นหลักฐานที่เราพออนุมานได้  

ประเด็นที่สาม  การที่ให้หยุดตามหาพระศรีอาริย์  เพื่อให้ทุกคน  ได้กลับมาทบทวน  และตามหา  ค้นหา  ตัวของเราเอง  ว่าเราคือใคร  คือค้นหาตัวเอง  ตัวจริงของเราเอง  ที่ซ่อนในกายหยาบนี้  ให้พบ  ให้เจอ  ก่อนวันที่จะเกิดภัยพิบัติ  ที่กำลังคลืบคลานเข้ามา  เพื่อเราจะด้มีคุณสมบัติอันพร้อม  ครบถ้วน  ที่จะได้พบพระศรีอาริย์  ในเวลาอันเหมาะสม

หากผิดพลาดประการใด  ลูกกราบขออโหสิกรรม  มา  ณ  ที่นี้  ด้วยนะครับ  สาธุ

 

 แต่ที่สำคัญมากๆ  คือ  หากเราไม่ทราบแน่ชัด  ว่าพระศรีอาริย์คือใคร  ก่อนวันที่ภัยพิบัติจะเกิด  คนจะตายกันมาก  และหากตามหาพระศรีอาริย์พบก่อนวันภัยพิบัติ  ภัยพิบัติก็ไม่ต้องเกิด  จึงเป็นตัวเลือกที่เรา  ต้องเลือก  และไตร่ตรอง  อย่างรอบคอบ  คือหยุดตามหาแล้วจะพบ  หรือ  ตามหาต่อไป  อาจจะพบหรือไม่ก็ได้


 

ผู้แสดงความคิดเห็น คมกริช นามมงคุณ (เบลล์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-24 17:40:04


ความคิดเห็นที่ 187 (1636346)

งานบวงสรวง

อาราธนาบารมีพระศรีอาริย์

มาสถิตย์ในทุกอนูของบ้านสวนพีระมิด

ลืมกันแล้วหรือยังจ๊ะ

 

สัปดาห์นี้

จะมีสื่อมวลชน

มาทำข่าว โดยมาค้างด้วย

ทั้งเสาร์+อาทิตย์

 

เอ

พระศรีอาริย์

ท่านจะแสดงอะไร

ให้นักข่าวได้เห็นกันน๊อ

 

พวกเรา

ที่มาเสาร์+อาทิตย์นี้

ช่วยกันเดา

หน่อยจ้า

 

แต่อันที่จริง

ตอนนี้ มีนักข่าว มาฝังตัว

อยู่ในบ้านสวนฯ

ตลอดเลย

 

แต่

สัปดาห์นี้

ก็เป็นสื่อดังมาก

เสียด้วยซี จะเขินไหมเนี่ย

 

อ.อุบล ช่วยด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-24 17:54:28


ความคิดเห็นที่ 188 (1636356)

 พระศรีอาริย์

ท่านจะแสดงอะไร

ให้นักข่าวได้เห็นกันน๊อ

 

พวกเรา

ที่มาเสาร์+อาทิตย์นี้

ช่วยกันเดา

หน่อยจ้า

***

กราบเรียนท่านอาจารย์อุบลครับ

ต้องเป็นอะไร ที่เป็นเหตุการณ์โลกตะลึงแน่ๆ ครับ

แต่ในใจ อยากให้ พี่จิ๋ม หาย 100% จังเลย

ผมคิดว่าพี่จิ๋ม มีพัฒนาการที่ดีมาโดยตลอด

แต่ใจก็แอบหวังให้พี่เค้าได้ปลดล๊อกกรรมสักที

อ.อุบลช่วยด้วย ขอให้พี่ิจิ๋มหายด้วยเถิด

ส่วนคนที่เป็นนักข่าวที่รู้ๆ ไม่แน่ใจว่าใช่

คุณกรภัทรหรือเปล่าครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-24 18:44:43


ความคิดเห็นที่ 189 (1636420)

ผมขอเดานะครับว่าด้วยพระบารมี

น่าจะมีหลายคนที่พ้นทุกข์ ปลดล็อคได้ทันที และมีปรากฏการณ์พิเศษอื่น  ๆ ใหัทุกคนได้เห็นและสามารถนำภาพ นำเรื่องราวไปทำข่าวเผยแพร่ธรรมะของบ้านสวนฯได้อย่างชัดเจน เป็นรูปธรรม สามารถพิสูจน์ได้ว่าจริง  ซึ่งจะทำให้ประชาชนที่ได้รับฟังหรือรับชมข่าวได้ตื่นตัวกันเรื่องสมเด็จพระศรีอาริยเมตไตรย์ และช่วยกันตามหาพระองค์กันมากขึ้นครับ

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ทั้งสองและคุณท็อปเป็นอย่างสูง ที่เมตตาช่วยเหลือสัตว์โลกผู้ยากไร้มาโดยตลอดครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-25 00:05:46


ความคิดเห็นที่ 190 (1636433)

 แต่

สัปดาห์นี้

ก็เป็นสื่อดังมาก

เสียด้วยซี จะเขินไหมเนี่ย

+++++++++++++++

ก็สื่อเป็นของคู่กันกับดาราอยู่แล้วนี่ค่ะ

ตอนนี้ดาราเดินชนกันเต็มบ้านสวนไปหมด

มืออาชีพทั้งนั้น

ตั้งแต่ อั้มพัชราภา , ณเดช , ป๋อณัฐวุฒิ

มากันพร้อมหน้า

ไม่มีการเขินกล้องแน่นอนค๊า

ใครเป็นใครรายงานตัวกันเองเด้อ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-25 00:44:53


ความคิดเห็นที่ 191 (1636463)

 ลูกบ้านสวนพีระมิด

ต้องหยุดตามหาพระศรีอาริย์

จึงจะได้เจอพระศรีอาริย์

 อยากจะบอกหมวดประวัตินะคะ

ว่าจริงๆลูกบ้านสวนเขาก็มีความเชื่อกันลึกๆว่า

ใครคือกายเนื้อที่พระศรีอาริย์ท่านจะเสด็จมาครอบคลุม

เพียงแต่ท่านผู้นั้นไม่ยอมรับง่ายๆ

เพราะท่านคงอยากจะให้ลูกหลานได้พิสูจน์ตามหลักกามสูตร

ถ้าพิสูจน์ได้จริงๆแล้วและทำให้คนส่วนใหญ่ได้รับรู้จริงๆ

จะช่วยบรรเทาความรุนแรงจากเหตุเกิดภัยพิบัติต่างๆได้

 

การที่คนจะเชื่อว่าพระศรีอาริย์มีจริงนั้น

อย่างน้อยๆคนๆนั้นเขาก็เปิดจิตที่จะน้อมนำธรรมะเข้าสู่ใจของเขา

มีสำนึกเรื่องกฏแห่งกรรมและพยายามที่จะถือศีล 5

เพื่อเข้าสู่ยุคทองของพระศรีอาริย์ให้ได้เช่นกัน

 

ท่านผู้ที่ลูกหลานบ้านสวนเชื่อว่าเป็นกายเนื้อพระศรีอาริย์

ปัญญาของท่านสุดยอดจริงๆคะ

***************** 

ก็สื่อเป็นของคู่กันกับดาราอยู่แล้วนี่ค่ะ

ตอนนี้ดาราเดินชนกันเต็มบ้านสวนไปหมด

มืออาชีพทั้งนั้น

ตั้งแต่ อั้มพัชราภา , ณเดช , ป๋อณัฐวุฒิ

อิอิอิ….ว่าแต่คุณอัญนะเป็นใครคะ เดาไม่ถูกจริงๆๆ

แต่ที่รู้คือรู้สึกว่าคุณอัญขาวขึ้นจริงๆนะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-25 05:21:39


ความคิดเห็นที่ 192 (1636465)

 แต่

สัปดาห์นี้

ก็เป็นสื่อดังมาก

เสียด้วยซี จะเขินไหมเนี่ย

 

อ.อุบล ช่วยด้วย

*****************************************

ว่าแต่อ.แม่ก็เขินหรอคะ

หนูนึกว่าจะมีแต่ลูกๆบ้านสวนเขินแทนซะอีกค่ะ อิอิ

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-25 05:39:41


ความคิดเห็นที่ 193 (1636473)

พระศรีอาริย์

ท่านจะแสดงอะไร

ให้นักข่าวได้เห็นกันน๊อ

 

พวกเรา

ที่มาเสาร์+อาทิตย์นี้

ช่วยกันเดา

หน่อยจ้า

....................

อิอิ ไม่ได้ไปกะเค้าหรอกค่ะ

แต่ก็อยากร่วมด้วยช่วยเดา

 

ชนิดาว่า พระศรีอาริย์

ต้องสร้างปาฏิหาริย์

ที่สามารถเห็นความชัดเจน

ได้เป็นรูปธรรมที่สุดแน่ๆค่ะ

 

รายแรกน่าจะเป็น

คุณพี่จิ๋มอย่างที่น้องเอิ้นว่ามา

 

ซึ่งอาจจะหาภาพหลักฐานเพิ่มเติม

จากภาพfootageเก่าๆ

ที่ท่านอ.มงคล เคยถ่ายไว้

ตั้งแต่ พี่จิ๋มเริ่มมาทำบุญแรกๆ

และความเปลี่ยนแปลงเรื่อยมา

 

ชนิดาเคยเห็นหลายๆช็อต

ที่ท่านอ.มงคล ถ่ายภาพ Longshots

ที่เห็นท่าเดินและขาพี่จิ๋มเต็มๆ

 

จนมาถึงเทปรายการคุยไปแจกไปล่าสุด

ที่พัฒนาเกือบสูงสุดหลังจากที่

ได้รับพลังจากจี้สามร่มโพธิ์ศรี


ส่วนท่านอื่นก็อาจจะเป็น

กรรมผิวพรรณที่เห็นผลชัดๆ


หรือไม่ก็หนูอัญ

ที่ตอนนี้ผันตัวเองมา

เป็นพรีเซ็นเตอร์ โอโม่ ได้แล้ว

เพราะขาวเว่อร์ อิอิ

 

เออ หนูอัญก็ติดรูปถ่ายเก่าๆ

ที่close up เห็นหน้าเห็นสีผิวชัดๆ

เผื่อไปด้วยสิ จะได้ให้นักข่าว

ถ่ายเป็นภาพอินเสิร์ทได้

(เตรียมๆเผื่อไว้ ได้ใช้ ไม่ได้ใช้ อีกเรื่องนึง)

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-25 07:26:28


ความคิดเห็นที่ 194 (1636491)
ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-25 09:21:30


ความคิดเห็นที่ 195 (1636492)

สัปดาห์นี้

ก็เป็นสื่อดังมาก

เสียด้วยซี จะเขินไหมเนี่ย

 

อ.อุบล ช่วยด้วย

 

หนูคิดว่ากิจกรรม และปาฏิหาริย์ในอาทิตย์นี้คงไม่ธรรมอา

คงจะมีความวิเศษสุด ๆ ค่ะ

และคงเป็นแผนของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่านคงต้องการให้ผู้คน

หันมาสนใจพระศรีอารีย์มาก ๆ ให้ผู้คนสนใจปรากฏการณ์บ้านสวน ปาฏิหาริย์บ้านสวนมาก ๆ

และผู้คนจะได้รอดมาก ๆ ค่ะ

งานนี้คงต้องเกาะติดทุกสถานะการณ์ห้ามพลาดค่ะ

 

กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์

พระศรีอารีย์

และที่สำคัญท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวค่ะ

ที่ได้เมตตาผู้คนทั้งโลกค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-25 09:21:39


ความคิดเห็นที่ 196 (1636498)

 

กราบ กราบ กราบ ท่านอาจารย์อุบล 

 

ภัคณัฐฎ์  ธรณ์วรรธ์ธนา  นัชญ์

ขอไปรับบารมีพระองค์วันเสาร์อาทิตย์ด้วยเจ้าค่ะ

และ ขอเดาว่า

องค์พระศรีอาริย์  จะมีเมตตาแก่ผู้คน

แก่สิ่งมีชีวิตผู้โง่เขลา

โดยจะปรากฎเปิดเผยพระองค์

แก่ผู้คน แก่ สิ่งมีชีวิต แก่โลก

ในอันที่จะหยุดยั้งภัยพิบัติแก่ผู้คน แก่สิ่งมีชีวิต แก่โลก

ในรูปแบบที่ชาวโลกที่มักอ้างหลักวิทยาศาสตร์จะปฏิเสธ

และโต้เถียงโดยนำเหตุผลทางวิทยาศาสตร์เบื้องต้น

อันต่ำต้อย  มาหักล้าง

การปรากฎพระองค์ของพระศรีอาริย์ไม่ได้

 

แล้ว  นัชญ์ ก็สงสัยว่า  ถ้าหากมีพระสาวก

ได้กราบทูลอาราธนาอัญเชิญ องค์พระศรีอาริย์

ให้ปรากฎพระองค์  ณ บัดนี้ แก่ผู้คน แก่โลก

แก่สื่อมวลชน  และกระจายข่าวไปทั่วโลก

  ให้คนได้พบเห็น  ได้ค้นพบ พระศรีอาริย์ 

 

เหมือนที่  พระอานนท์  สามารถที่จะ

กราบทูลเชิญอาราธนาองค์พระพุทธเจ้า

ให้สามารถมีพระชนม์ชีพอยู่ได้อีกนานนั้น

(แต่พระอานนท์ ก็ไม่ได้ทูลเชิญ)

 

เหตุการณ์เช่นนี้สามารถจะเป็นจริงได้หรือไม่

 

เหตุการณ์ในอนาคตสามารถเปลี่ยนได้หรือไม่

หรือต้องเป็นตามที่ถูกกำหนดไว้

ที่ว่ามีสองทางเลือก

มีอีกหนึ่งทางได้มั้ยค่ะ

ที่จะไม่ต้องมีคนตาย

ให้คนที่จำเป็นต้องตายทุก ๆ คน

สามารถเปลี่ยนจิตใจให้มีจิตใจที่งดงามได้

โดยปาฏิหาริย์จากองค์พระศรีอาริย์

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วอนันตจักรวาล

 

อนาคตจะเปลี่ยนได้หรือไม่

หรือว่าอนาคตได้ถูกกำหนดไว้แล้ว

ให้มีเพียงสองทางเลือก 

เพราะนั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด 

เป็นทางออกที่ดีสำหรับโลกใบนี้ ที่ดีที่สุด

ในการเปลี่ยนจิตใจของผู้คนไม่ดีทั้งหลาย

นัชญ์สงสัยม้าก มาก  ค่ะ

 

กราบ กราบ กราบ  ท่านอาจารย์อุบล เจ้าค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภัคณัฐฎ์ ธรณ์วรรธ์ธนา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-25 09:45:41


ความคิดเห็นที่ 197 (1636538)

   อาทิตย์นี้พระองค์ท่าน  คงแสดงปาฏหาริย์

ที่ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็น  ตะลึง  จังงัง

ว่า  แบบนี้ก็มีด้วยหรือ และต่อจากนั้น  สื่อที่เข้ามาร่วม

สัมผัสกับเหตุการณ์ครั้งนี้  ก็จะได้เผยแพร่ข่าวเหล่านี้

ให้ไปอย่างรวดเร็ว  สิ่งนี้ก็คงเป็นอีกวิธีหนึ่ง

ในการตามหาพระศรีอาริย์  เพื่อให้คนได้พิสูจน์

ว่าพระศรีอาริย์มีจริง  และท่านได้มาช่วยพวกเราแล้ว

เมื่อมีคนตื่นตัว  ตามหาพระองค์ท่านมากขึ้น

และได้แนวทางจากบ้านสวนในการพิสูจน์

หลาย ๆ คนพิสูจน์แล้วและเป็นจริง  เมื่อนั้น

พระองค์ท่านคงมาปรากฏพระวรกายให้พวกเรา

ได้ชมพระบารมีอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

กราบ  กราบ  กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-25 13:05:06


ความคิดเห็นที่ 198 (1636551)

 เอ

พระศรีอาริย์

ท่านจะแสดงอะไร

ให้นักข่าวได้เห็นกันน๊อ

พวกเรา

ที่มาเสาร์ + อาทิตย์ นี้

ช่วยกันเดา

หน่อยจ้า

************

คิดว่าพระศรีอาริย์แสดงปาฏิหารย์

ให้คนพิการหายแบบอัศจรรย์

เจ็บป่วยทางกาย

หายแบบฉับพลันทันที


ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-25 13:58:11


ความคิดเห็นที่ 199 (1636611)

 เอ

พระศรีอาริย์

ท่านจะแสดงอะไร

ให้นักข่าวได้เห็นกันน๊อ

พวกเรา

ที่มาเสาร์ + อาทิตย์ นี้

ช่วยกันเดา

หน่อยจ้า

************

สำหรับนักข่าวผมไม่เขินหรอกครับ ก็แค่รีบไปตัดผมในวันนี้แว้วว 55555

งานนี้ก็แปลกอย่างตรงที่มี เจ้าหน้าที่หน่วยงานดูแลคนพิการมาร่วมงาน แถมมีสำนักข่าวดังยักษ์ใหญ่มาค้างคืนด้วย และมีอะไรพิเศษก่อนหน้านี้โชว์แบบแย็บๆไปบ้างแล้วคือ กรณีพี่จิ๋ม ป้าพร น้องลิน และท่านอื่นๆ

งานนี้ผมก็เดาๆเอาว่า คนพิการอาจมีเฮ น้ำตาร่วงเพราะอาจอดใจคิดถึงชีวิตเก่าๆที่กำลังเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงไม่ได้

เอ..หรือว่าพระองค์ท่านอาจมีจัดหนัก เด็ดกว่านี้อีกน๊าาาา???

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-25 17:51:48


ความคิดเห็นที่ 200 (1636613)

เอ

พระศรีอาริย์

ท่านจะแสดงอะไร

ให้นักข่าวได้เห็นกันน๊อ

พวกเรา

ที่มาเสาร์ + อาทิตย์ นี้

ช่วยกันเดา

หน่อยจ้า

************

หนูขอเดานะคะ ว่าช่วงนี้จี้รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรีกำลังฟีเวอร์ค่ะ

คิดว่าพระองค์จะทำให้ผู้คนหายเจ็บ หายป่วย หายพิการ

ผิวขาวใสขึ้น  อย่างฉับพลันทันที และเห็นเป็นรูปธรรม

เพียงแค่ได้สวมจี้รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี ด้วยจิตที่ศรัทธา เชื่อมั่น

แบบที่ว่าเห็นกันจะจะ ไม่ต้องมีเซ็นเซอร์ ไม่ต้องมีสแตนอิน

กันเลยทีเดียวค่ะ ให้เห็นเพื่อยืนยันกันไปเลยว่า

นี่คือยุคพระศรีอาริย์ ที่จะมีแต่ผู้คนที่สวย หล่อ ไม่เจ็บ

ไม่ป่วย ไม่จน มีแต่ผู้คนที่มีความสุขค่ะ

ชนิดที่ว่าสื่อต้องตะลึง อ้าปากค้าง จนต้องขานรับค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พรหมภัสสร กฤตธกร (พจน์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-10-25 17:55:15



<< ก่อนหน้า 1 [2] 3 4 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.