ReadyPlanet.com
dot
dot
พระรัตนตรัย และ ครูบาอาจารย์
dot
bulletสมเด็จองค์ปฐม
bulletหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
bulletพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ
bulletดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
dot
รายการคุยไปแจกไป
dot
bulletรายการคุยไปแจกไป
dot
ข่าวสารประชาสัมพันธ์
dot
bulletข่าวสารประชาสัมพันธ์
dot
กิจกรรมบ้านสวนพีระมิด
dot
bulletค่ายบ้านสวนพีระมิด
bulletภาพและคลิปวิดิโอจากบ้านสวนพีระมิด
dot
บทความที่น่าสนใจ
dot
bulletบทความที่น่าสนใจ
bulletคู่มือหนีกรรมผิวพรรณ
bulletคำสารภาพบาป และ ประสบการณ์กฏแห่งกรรม
dot
International Version (ภาคภาษาต่างประเทศ)
dot
bulletEnglish Articles (บทความภาษาอังกฤษ)


อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์  บ้านสวนพีระมิด


คนค้นกรรม (เขียนโดย คุณณฐพลสรรค์ เผือกผาสุข) article

(บทความนี้ได้รับการอนุญาตจากคุณณฐพลสรรค์ เผือกผาสุข ให้เผยแพร่ในเว๊ปไซด์ baansuanpyramid.com เพื่อเป็นธรรมทานแก่ผู้สนใจตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2553  ต้นฉบับของบทความนี้คัดลอกมาจากเว๊ปไซด์พลังจิต ที่ http://board.palungjit.com/f8/คนค้นกรรม-231089.html  ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาต่อคุณณฐพลสรรค์ เผือกผาสุข มา ณ ที่นี้ด้วยครับ)

 

คนค้นกรรม
 


เช้าวันนั้นตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตีห้า ตื่นมายังรู้สึกง่วงอยู่เลยนอนต่อ หูได้ยินเสียงเพลงจากเครื่องขยาย เลยลุกขึ้นไปดูที่ถนนใหญ่ปากซอยหน้าบ้าน เห็นรถจำนวนมากจอดอยู่หลายสิบคัน รถที่จอดเป็นของผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่งใจก็คิดว่า จะไปดีไหมหนอ รถจะติดรึเปล่าหนอ นั่งกินกาแฟ โต๋เต๋ไปมาสักพัก ได้เวลาอาบน้ำ ออกจากห้องน้ำรู้สึกสดชื่น ได้กำลังใจ เอาล่ะว่ะไปก็ไป ระหว่างทางรถไม่ติดแฮะ เพลงในรถก็เพราะถูกใจ บรรยากาศสองข้างทางก็สดชื่น ขับรถเรื่อยมา ผ่านป้ายบอกทางมาสองป้าย พอถึงป้ายที่สาม ก็เลี้ยวรถเข้าไปจอด
ถึงแล้วครับ “บ้านสวนพีระมิด”

พอลงจากรถมา ก็มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเข้ามาทัก ผมถามว่า“อาจารย์อยู่ไหมครับ” คนที่มาทักตอบว่า “อยู่ค่ะ” จากนั้นก็พาไปลงทะเบียน กรอกประวัติต่างๆ พอกรอกเสร็จก็ไปยื่นให้อาจารย์ ได้ยินอาจารย์พูดว่า “คนนี้ต้องรอบ่าย” ตัวผมเองไม่ใส่นาฬิกามาร่วมสิบปีแล้ว เลยรู้ว่านี้คงจะใกล้เที่ยงแล้ว

ระหว่างที่รอไม่รู้จะทำอะไร เลยเดินเตร็ดเตร่ไปเรื่อย ที่นี่อากาศบริสุทธิ์ดี แม้วันนั้นค่อนข้างร้อน แต่พอมีลมพัดมาทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้น เจ้าหน้าที่คนเดิมมาเตือนว่า ให้อยู่ใกล้ๆอาจารย์เผื่ออาจารย์จะเรียก ผมโชดดีครับ
วันนี้มีคนมาหาอาจารย์แค่ ๔ คน และผมก็เป็นคนที่ ๔ นับว่าวันนี้เป็นวันของผม “ฟ้าเปิดครับ”

ผมรออยู่สักครู่อาจารย์ก็เรียกชื่อผม ผมเข้าไปไหว้ หลังจากได้เห็นอาจารย์มาหลายครั้งทางทีวี วันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นอาจารย์ใกล้ๆ อาจารย์เป็นคนร่างค่อนข้างเล็ก ผิวขาว ไว้ผมม้า นัยน์ตาสีสนิมเหล็ก บุคคลิกดูเป็นคนคล่องแคล่ว พูดจาชัดเจน ฉะฉาน ตรงไปตรงมา ดูเป็นคนมีวินัยสูง ผู้หญิงอายุ ๕๐ ต้นๆคนนี้ ดูน่าจะอายุสัก ๔๐ ไม่รู้เธอทำบุญด้วยอะไร

ผมถามอาจารย์ว่า ระหว่างที่รอผมจะทำอะไรได้บ้าง อาจารย์แนะนำว่า ให้ไปช่วยเหลาไม้ไผ่ การเหลาไม้ไผ่นั้น ก็เพื่อนำไปทำพื้นสถานปฏิบัติธรรม สถานที่นี้ถูกสร้างเป็นรูปพีระมิดมีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยม มุมหลังคาด้วยจาก พื้นขัดแตะด้วยไม้ไผ่ มีสองชั้น โครงสร้างเกือบทุกอย่างทำด้วยไม้ไผ่ ผมดูแล้วรู้สึกชอบ ดูเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมดี บริเวณรอบๆบ้านสวนพีระมิดนั้น ไม่ค่อยมีบ้านคน โดยส่วนตัวเห็นว่า น่าจะเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่สัปปายะที่หนึ่ง

เวลาล่วงเลยมาบ่ายสองโมงกว่า จึงได้คุยกับอาจารย์อย่างเป็นทางการ อาจารย์ถามว่า ได้ข่าวจากที่ไหนและมาที่นี่ด้วยสาเหตุอะไร ผมเองได้ดูรายการ “คุยไปแจกไป”ทาง MVTV ช่องบางกอกทูเดย์ ได้ดูมาหลายครั้งแล้ว ตอนแรกที่ดูคิดว่า เป็นการขายเครื่องสำอางแบบขายตรง ดูๆไป เอ๊ะ....ผู้หญิงคนนี้พูดธรรมะได้ดี ตรงจริตผม สิ่งที่อาจารย์พูดออกมา เป็นเรื่องที่ผมเคยรับรู้ เคยอ่านมาบ้างแล้ว ต่อมาจึงรู้ว่าอาจารย์เป็นศิษย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ผมเองก็มีหนังสือของหลวงพ่อฤาษีลิงดำอยู่มาก หนังสือธรรมะเล่มแรกที่ผมอ่านอย่างจริงจังก็เป็นหนังสือของหลวงพ่อเหมือนกัน การได้พบอาจารย์ครั้งนี้ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเคยทำบุญร่วมกันมา

นอกจากเรื่องธรรมะแล้ว อาจารย์มักจะกล่าวถึง ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ศ.ดร.นพ.เทพพนม เมืองแมน อยู่บ่อยครั้ง บุคคลทั้งสองเป็นคนที่ผมชื่นชอบให้ความยอมรับ คงไม่ต้องบอกนะครับว่า ผมชอบอ่านเรื่องอวกาศ ยานอวกาศ จักรวาลอื่นๆ และมนุษย์ต่างดาว นอกจากจะกล่าวถึงแล้ว ยังไปสัมภาษณ์บุคคลทั้งสองหลายครั้ง ทุกครั้งที่สัมภาษณ์ บุคคลทั้งสองจะกล่าวถึงธรรมะของพระพุทธเจ้า อันหลังนี้เป็นสิ่งที่ผมชอบที่สุด
ยังครับยังมีอีก ผมชอบอ่านเรื่องพีรามิดมาตั้งแต่เด็ก สนใจพลังพีระมิดเป็นอย่างมาก อาจารย์จะพูดถึงพลังของพีรามิดในรายการที่อาจารย์จัดอยู่เสมอๆ ทำให้ผมชอบ ติดตามรายการนี้อยู่บ่อยๆ

สิ่งที่ผมเล่ามานั้น เป็นเพียงเหตุผลสนับสนุนให้ผมมาพบอาจารย์ แต่ไม่ใช้จุดประสงค์ที่มาในครั้งนี้ รายการคุยไปแจกไปของอาจารย์ จะนำภาพและเสียงการสัมภาษณ์ของผู้เป็นโรคต่างๆมาออกอากาศเป็นประจำ ผู้ป่วยหลายรายหายจากอาการป่วย บางรายก็อาการดีขึ้น สิ่งที่ทำให้หายป่วยหรือดีขึ้นไม่ได้เกิดจากการรักษา อาจารย์ไม่ใช่หมอ แต่เกิดจากการทำบุญและปฏิบัติธรรม ตามที่เคยเล่ามาแล้วอาจารย์กำลังสร้างสถานปฏิบัติธรรม อาจารย์จะให้ผู้ป่วยขนดินใส่รถเข็น ๙ เที่ยว เพื่อนำไปสร้างอาคารปฏิบัติธรรม และรับคำสัตย์ตามที่อาจารย์จะกำหนด เช่น ถือศีล ๕ อย่าทำหรือให้ทำบางเรื่อง ทุกเรื่องล้วนเป็นการปฏิบัติตามหลักคำสอนของพุทธศาสนาทั้งสิ้น หรือถ้าใครต้องการโชดลาภต่างๆให้ไปเหลาไม้ไผ่ ๙ ลำ ที่เล่ามานี้เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น

การปฏิบัติธรรมแล้วหายจากโรคได้ เป็นสิ่งที่ผมสนใจ ตัวผมเองถือศีล เจริญกรรมฐานอยู่แล้ว ถึงแม้จะกระพร่องกระแพร่ง ลุ่มๆดอนๆไปบ้าง อย่างน้อยก็มีจิตฝักใฝ่ในธรรมอยู่

ผมเล่ามานานพอสมควร คราวนี้ถึงตอนสำคัญเสียที อาจารย์ดูประวัติของผมแล้ว พูดว่า โรคที่คุณเป็นอยู่นี้ เกิดเพราะมันมีเหตุ และถามว่า เชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้าไหม ที่ว่า “สิ่งใดล้วนเกิดแต่เหตุ ถ้าดับเหตุได้ ก็จะไม่เกิด” ผมตอบว่า เชื่อ อาจารย์พูดต่อว่า โรคที่คุณเป็นอยู่นี้ ที่มันเป็นเพราะมันมีเหตุ ถ้าเราดับเหตุได้แล้วโรคจะหายไป ผมนิ่ง อึดอัด ลังเล ไม่รู้จะตอบอย่างไร อาจารย์เห็นผมไม่ตอบก็เลยพูดว่า “ งั้นคุณก็ไม่เชื่อคำสอนของพระพุทธเจ้าซิ” ผมเลยยืนยันไปอีกครั้ง “เชื่อครับ”“ในหลักการผมเชื่อ แต่ยังสงสัยในรายละเอียด”

ความจริงแล้ว ก่อนที่จะมาหาอาจารย์ ผมมีความลังเลอยู่บ้าง เนื่องจากโรคที่ผมเป็นอยู่เป็นโรคที่รักษาไม่หาย เป็นมาหลายสิบปี จู่ๆจะหายไปเฉยๆได้อย่างไง เลยทำให้ศรัทธาไม่เต็มร้อย และอีกส่วนหนึ่งเป็นการอยากลองพิสูจน์ พื้นฐานนิสัยของผมชอบปรามาส สมณะ ชี พราหมณ์ ไม่เชื่อใครง่ายๆ เพราะอ่านหนังสือมาเยอะ มีทิฏฐิสูง และที่ผ่านมาแทบจะไม่เจอเรื่องอิทธิฤทธิ ปาฏิหารย์เลย ด้วยเหตุนี้ทำให้ผมลังเลที่จะตอบ

อาจารย์กล่าวต่อไปว่า คุณพลาดน่ะ ถ้าคุณมีศรัทธาเต็มร้อย คุณจะหายเลย นี่คุณมาลอง

เอาล่ะครับ ตอนนี้จะเป็นการบอกถึงสาเหตุของการเป็นโรคต่างๆที่ผมได้แจ้งให้อาจารย์ทราบก่อนหน้านี้แล้ว โรคที่ผมเป็นอยู่ คือ ภูมิแพ้,หัวใจ,กระเพาะ,ริดสีดวง,ปวดเข่า,ไขมันสูง ผมจะไล่ไปทีละโรคนะครับ


โรคภูมิแพ้
อาจารย์ถามว่า รู้ไหมว่าไปทำอะไรมาถึงเป็น ผมไม่ทราบและนึกไม่ออกว่า กรรมอะไรที่ทำให้เป็นโรคภูมิแพ้ อาจารย์ถามว่าเคยฉีดยาฆ่าแมลงไหม ผมนึกออกทันที ตอนเด็กๆเคยพ่นยาฆ่ายุง ฆ่ามด ฆ่าแมลงตัวเล็กๆอีกหลายอย่าง อาจารย์บอกว่าให้ผมบอกมาให้หมด เค้าจะได้อโหสิกรรมให้ อาจารย์เห็นเค้ามากับคุณหลายอย่าง สุดท้ายก็สรุปว่า ยาที่คุณพ่นคุณฉีดใส่แมลงนั้น ส่งผลให้คุณเป็นโรคภูมิแพ้

โรคที่สอง “หัวใจ”
อาจารย์ถามผมอีกด้วยคำถามเดิมว่า รู้ไหมว่าไปทำอะไรมาถึงเป็น ผมก็ตอบเหมือนเดิมคือไม่ทราบ
“คุณไปทำร้ายผู้หญิงจนเค้าเกือบจะฆ่าตัวตาย” ผมยอมรับว่าผมหักอกผู้หญิงมาหลายคน ไม่ต่ำกว่า ๕ คน และอาจจะมีที่ไม่ได้ตั้งใจอีกจำนวนหนึ่ง แต่เรื่องที่จะฆ่าตัวตายนั้น ผมไม่ทราบ ความเจ้าชู้ของผมเป็นสิ่งที่ผมรู้ตัวมากที่สุด และจำได้ไม่ลืม อาจารย์ยังบอกอีกว่า “คนหลังๆเค้าเป็นฝ่ายทิ้งคุณเอง” ผมประหลาดใจมาก อาจารย์รู้ได้อย่างไร มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ

โรคที่สาม “กระเพาะ”
อาจารย์พยายามให้ผมนึกหาสาเหตุเอาเอง แต่ผลก็นึกไม่ออก อาจารย์เลยถามว่า เคยวางยาพิษคนไหม
ผมตอบว่าไม่เคย แล้วถ้าเป็นสัตว์ล่ะ อ้อ...ผมนึกออกแล้ว ผมเคยวางยาเบื่อหนู คุณรู้ไหมว่า มันกินเข้าไป มันจะรู้สึกอย่างไร มันจะทรมานมาก มันทรมานอย่างไร คุณจะต้องทรมานอย่างนั้น

โรคที่สี่ “ริดสีดวง”
ตอนแรกก็นึกไม่ออกว่าไปทำอะไรมา แต่ก็แว๊บขึ้นมาว่า ตอนเป็นเด็ก เคยเอาไม้ไปแยงก้นแมว
อาจารย์บอกว่าใช่ อาจารย์เห็นภาพไม้อยู่ที่ก้นผม ท่านใดที่เคยเป็นริดสีดวงทวาร คงรับรู้อาการถ่ายเป็นเลือด
ว่าเจ็บแสบแค่ไหน

โรคที่ห้า “ปวดเข่า”
โรคนี้ผมรู้สาเหตุมานานแล้ว ตอนเด็กๆผมซนมาก รู้ว่าแมวมีเก้าชีวิต เลยทดสอบดู ผมจับแมวโยนลงหน้าต่างหลายครั้ง จนแมวขากระเพรก อาจารย์พยักหน้ายอมรับคำพูดของผม และพูดเสริมว่า คุณยังเอาไม้ไปตีขาหมาอีก ผมยอมรับว่าเคยทำ อาการปวดเข่าของผมมีมาประมาณ ๓๐ ปีแล้ว กรรมมันตามผมเร็วมาก
เรื่องทำกรรมกับแมวยังมีอีกเรื่อง ที่ยังไม่ได้บอกอาจารย์ คือ ตอนเป็นเด็ก ผมชอบดึงลิ้นแมวออกมาเล่น กรรมที่ดึงลิ้นแมวนี้ ทำให้ผมต้องถูกหมอดึงลิ้นออกมา เพื่อตรวจลำคอ เนื่องจากผมเป็นภูมิแพ้ ทำให้เจ็บคอบ่อย จนต้องตัดต่อมทอนซิลทิ้ง ปัจจุบันถ้าผมไปหาหมอเฉพาะโรค ก็จะถูกดึงลิ้นออกมาตรวจเป็นประจำ ดูซิครับกรรมมันรุมเล่นงานผมอย่างเป็นทีม

โรคที่หก “ไขมันในเส้นเลือดสูง”
โรคนี้อาจารย์เฉลยให้ว่า เกิดจากผมเคยเอาอาหารบูดเน่าไปให้คนกิน ผมตอบว่า ถ้าเป็นหมาแมวผมเคย
แต่ถ้าเป็นคนผมไม่แน่ใจ จำไม่ได้ นึกไม่ออก

โดยปรกติแล้ว ผมเป็นโรคต่างๆมากกว่าที่แจ้งไป เรียกได้ว่า เป็นตั้งแต่หัวจรดเท้า จนผมก็ไม่รู้ว่าผมเป็นอะไร เรื่องนี้อาจารย์เอ่ยปากขึ้นมาก่อนที่ผมจะบอก แปลกใจเหมือนกันอาจารย์รู้ได้อย่างไง
อาจารย์แถมให้ผมอีกอย่าง อาการปวดหลังที่เป็นอยู่ เกิดจากผมไปตีหลังงู และไปตีหลังหมา ผมยอมรับว่าเคยไปตีทั้งหลังงูและหลังหมา
ยังมีอีกอย่างครับ เนื่องจากผมมีทิฏฐิสูงมาก ผมถามอาจารย์ว่า ทำไมผมจึงลดทิฏฐิไม่ได้(ชอบปรามาสพระรัตนตรัย) “คุณเคยลบลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์เอาใว้” ใช่ครับผมทำแบบนั้นอยู่เสมอ ผมเป็นกังวลกับเรื่องนี้มาก การชอบลบลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะทำให้ผมไม่ประสบความสำเร็จในทางธรรม

มาถึงไฮไลต์ครับ อาจารย์พูดสรุปว่า “คุณอยากหายภายในกี่วัน” ผมก็อ้ำอึ้ง ลังเล บอกไม่ถูก ตามฟอร์มเดิม ด้วยศรัทธาที่ไม่เต็มร้อย ทำให้ผมคิดในใจว่าจะหายจริงเหรอ ความรู้สึกนี้ดูเหมือนว่าอาจารย์จะรับรู้ได้
สุดท้ายก็คิดถึงเลข ๑๕ เลยบอกอาจารย์ไปว่าอยากหายภายใน ๑๕ วัน “คุณได้สิทธิ์นั้น” อาจารย์กล่าวอย่างมั่นใจ
ผมได้ยินอาจารย์พูดอย่างนั้น ผมก็ งงๆ คิดถึงรายการทีวีช่องหนึ่ง
อาจารย์พูดต่อว่า สิ่งที่คุณต้องการคุณก็ได้ไปแล้ว ตอนนี้อาจารย์จะขออะไรจากคุณบ้าง รับปากได้ไหม

ข้อแรก ถือศีลห้าอย่างเคร่งครัด อย่าส่งเสริมให้คนทำผิดศีล ไม่ยินดีเมื่อเห็นคนทำผิดศีล
ข้อสอง ทำทานให้มากขึ้น ไม่มีปัจจัยก็ให้อนุโมทนาเอา อนุโมทนาไม่ต้องออกเสียงก็ได้
“ที่ผ่านมา คุณทำทานก็จริง แต่ใจไม่มีศรัทธา ทำไปอย่างนั้นเอง ทำให้ได้บุญไม่มาก” อาจารย์พูดเปรยขึ้นมา
ผมก็ยอมรับว่าเป็นจริงตามที่พูด ประหลาดใจครับ อาจารย์รู้ความในใจของผมได้อย่างไง อันนี้เป็นเรื่องลับของผมไม่มีใครรู้นอกจากผม
ข้อสาม ทำสมาธิวิปัสสนาทุกวัน
ข้อสี่ ช่วยออกแรงสร้างสถานปฏิบัติธรรมที่นี่ แต่ต้องทำติดต่อกัน ๓ วัน อย่างน้อยเดือนละครั้ง
ข้อห้า นำเรื่องที่คุยกันวันนี้โพสต์ขึ้นอินเตอร์เน็ต พร้อมแจ้งชื่อที่อยู่และเบอร์โทร

ผมพยักหน้าแทนการรับปาก พยักหน้านี่ทำได้ใช่ไม๊ ทำได้ครับ ผมรับปากอย่างเต็มใจ ในใจผมตอนนั้นคิดอย่างลำพองตนว่า ปฏิบัติธรรมง่ายๆอย่างงี้ ผมสบายอยู่แล้ว ปรกติก็ทำอยู่ อาการประมาทและชอบทนงตนของผมมันมีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่รู้จะละนิสัยแย่ๆอย่างนี้ได้เมื่อไหร่

วันที่ผมไปหาอาจารย์เป็นวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๓ อาจารย์รับปากผม ว่าภายใน ๑๕ วันผมต้องหายจากทุกโรคที่ผมเป็นอยู่ แต่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ดังนั้นวันที่ ๒๘ มีนาคมนี้ ผมต้องหายจากทุกโรค
หลังจากผ่านวันที่ ๒๘ มีนาคมไปแล้ว ผมต้องไปหาอาจารย์อีกครั้ง และผมจะมาเล่าให้ฟังอีกครั้ง

มาถึงตรงนี้ หลายคนอาจสงสัยว่า อาจารย์มีอำนาจวิเศษอะไรถึงรู้เรื่องกรรมได้ ขอตอบว่า อาจารย์ขอบารมีพระพุทธเจ้า และบารมีของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ รวมทั้งการรักษาโรคก็เช่นกัน อาจารย์ไม่ใช่หมอ อาจารย์ขอบารมีพระพุทธเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านนับถือมาช่วยรักษา อยากรู้เรื่องอาจารย์มากกว่านี้ ต้องไปพบท่านที่ บ้านสวนพีระมิด ผมจะแนบแผนที่ไว้ในท้ายบทความนี้

ผมจั่วหัวเรื่องไว้ว่า “คนค้นกรรม” มันมีที่มาครับ ลีลาและท่วงทำนอง ที่อาจารย์จะบอกถึงสาเหตุหรือที่มาของกรรมต่างๆนั้น อาจารย์จะไม่บอกตรงๆ จะถามก่อนว่า เคยทำเรื่องนั้นเรื่องนี้ไม๊ หากไม่รู้ก็จะบอกใบ้ให้บางอย่าง จนคนนั้นถึงบางอ้อ ความรู้สึกของผมมันเหมือน การสืบสวน สอบสวนของตำรวจ และอีกอย่างความอยากรู้อยากเห็นของผม มันเหมือนการค้นหาอะไรบางอย่าง เมื่อคิดจนถึงที่สุดแล้ว มันเลยถูกสรุปออกมาเป็น
“คนค้นกรรม” แต่ขอออกตัวแทนอาจารย์ก่อนว่า อาจารย์ไม่ใช่ตำรวจ ปรกติอาจารย์จะเป็นคนน่ารัก เป็นกันเองกับทุกคน ถึงแม้บางครั้งอาจพูดดุไปบ้าง แต่ก็ดุเพราะประสงค์ดี ดุได้งามครับ


ข้อมูลของอาจารย์
อาจารย์อุบล ศุภเดชาภรณ์ ปัจจุบันเป็นผู้ดำเนินรายการ “คุยไปแจกไป” ออกอากาศทาง MVTV ช่องบางกอกทูเดย์ ทุกวันอาทิตย์ เวลา ๑๕.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. ออกอากาศซ้ำคืนวันจันทร์ เวลา ๒๔.๐๐ – ๐๒.๐๐ น.
สอบถามได้ที่ โทร. 081-820-8468, 081-919-6705, 084-346-2881, 089-962-3271

ข้อมูลผู้เขียน
นายณฐพลสรรค์ เผือกผาสุข
ปัจจุบันอยู่ บ้านเลขที่ 69/2 หมู่ 10 ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 30320
โทร. 089-823-6122
e-mail
nathaponson@gmail.com หรือ nathaponson@yahoo.co.th

ข้อมูลในการเขียนครั้งนี้เป็นการกล่าวโดยสรุป มิได้ตรงกับที่คุยกันทีเดียว เนื่องจากระหว่างที่คุยกันผู้เขียนไม่ได้อัดเสียงเอาไว้ แต่ยังคงเนื้อหาที่ถูกต้องเอาใว้ หากผิดพลาดประการใด ผู้เขียนขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
 




บทความที่น่าสนใจ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทาน ส.ค.ส. ปีพุทธศักราช 2556 แก่ประชาชนชาวไทย
คลิปวิดิโอรายการโทรทัศน์ รู้ค่าพลังงาน ตอน บ้านสวนพีระมิด ผลิตก๊าซชีวภาพ 25 ต.ค. 2555 article
สารคดีสั้น "บ้านสวนพีระมิด และ รหัสแห่งจักรวาล" โดย เว็ปไซต์ นสพ.บางกอกโพสต์ 7 พ.ย. 2555 article
คลิปวิดิโอ "มนุษย์ใจโหด" article
คลิปวิดิโอ "สิงห์โตกินคน" แนะนำโดย คุณธนา อรุณภิญโญพล article
คลิปวิดิโอ "กงกรรมกงเกวียน" แนะนำโดย คุณธนา อรุณภิญโญพล article
คลิปวิดิโอ "งูยักษ์กินคน" แนะนำโดย คุณธนา อรุณภิญโญพล article
คลิปวิดิโอ "ม้าลาย" แนะนำโดย คุณธนา อรุณภิญโญพล article
คลิปวิดิโอ "จระเข้กินคน" แนะนำโดย คุณธนา อรุณภิญโญพล article
คลิปวิดิโอ "นาทีชีวิต" แนะนำโดย คุณธนา อรุณภิญโญพล article
คลิปวิดิโอ "ได้เวลาเอาคืน" แนะนำโดย คุณธนา อรุณภิญโญพล article
คลิปวิดิโอ "บึกบึน" แนะนำโดย คุณธนา อรุณภิญโญพล article
คลิปวิดิโอ "คุณจะเลือกเป็นควายแบบไหน" แนะนำโดย คุณธนา อรุณภิญโญพล article
คลิปวิดิโอ "กว่าจะมาเป็นอาหารจานโปรดของเรา" แนะนำโดย คุณธนา อรุณภิญโญพล article
คลิปวิดิโอ "โรงฆ่าสัตว์" article
คลิปวิดิโอ ความสุขของคนไทย เมื่อในหลวงเสด็จ ทุ่งมะขามหย่อง "ผืนแผ่นดินแห่งพระมหากรุณาธิคุณ" 25 พ.ค. 2555 article
พระราชดำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาสขั้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๕๕ article
คาถารวมอภิญญา "โสตัตตะภิญญา" article
คาถาคุ้มกันภัย (ปะโตเมตัง) article
การฝึกสมาธิ โดยการใช้แสงสว่าง ตามแนวทางของสัตยาไสบาบา article
ค้นหาความลับของชีวิต ผ่านสายตา ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน article
รายงานข่าวด่วน เรื่องป้ามล จากคุณสิทธิ์ 1 ก.พ. 2554
อ.อุบล เล่าเรื่องป้าเตือน หายทุกโรค
จดหมายรักถึงอาจารย์อุบล article
คลิปวิดีโอ จากงาน "เจาะลึกภัยพิบัติ พลิกวิกฤตให้เป็นทางรอด" article
ทุกคนในโลก-ไม่มีทุกข์นั้นไม่มี คำสอนสมเด็จองค์ปฐม article
ข่าวด่วนจาก อ.อุบล 28 พ.ย. 2553 article
ข่าวด่วนจาก อ.อุบล 27 พ.ย. 2553 article
สาส์นจาก อ.อุบล 9 พ.ย. 2553 article
ดร.สมิทธ กล่าวถึงในหลวง article
คำสารภาพของ ผอ.โกสิทธิ์ แตรสังข์ (ตอนที่3) article
ชาตินี้..เราเป็นอย่างนี้..เพราะอะไร ?? (โดย อ.ฉลอง จันทร์ทอง) article
คำสารภาพของ ผอ.โกสิทธิ์ แตรสังข์ (ตอนที่2) article
รวมบทเพลงบ้านสวนพีระมิด article
"การชำระหนี้สงฆ์" (แนะนำโดยคุณชนิดา เชิงสะอาด) article
บทเพลง"สร้างพระชำระหนี้สงฆ์" ประพันธ์โดย อ.ฉลอง จันทร์ทอง article
วิธีสร้างบุญบารมี พระนิพนธ์ใน สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (แนะนำโดยคุณปุ้ม ณฐพลสรรค์) article
ลําดับการทําบุญสูงสุด (แนะนำโดยคุณชนิดา เชิงสะอาด) article
พลังพุทธคุณ,พลังพีระมิด,พลังจิต,และพลังมโนมยิทธิ” สามารถทำให้คุณหายป่วยด้วยโรคกรรมได้ (เขียนโดยคุณโกสิทธิ์ แตรสังข์) article
การได้เกิดมาในภูมิมนุษย์ หาได้เกิดกันมาได้ง่ายๆ (แนะนำโดยคุณชนิดา เชิงสะอาด) article
"อย่ากลัว" โดยอาจารย์บุษกร เมธางกูร (แนะนำโดยคุณชนิดา เชิงสะอาด) article
มาทานมังสวิรัติลดกรรมกันเถอะ (แนะนำโดยคุณชนิดา เชิงสะอาด) article
บทเพลง มโนมยิทธิ (ประพันธ์โดยคุณโกสิทธิ์ แตรสังข์ ขับร้องโดยคุณฉลอง จันทร์ทอง) article
บทเพลงบ้านสวนพีระมิด (ประพันธ์และขับร้องโดยคุณฉลอง จันทร์ทอง) article
ดูการจัดกิจกรรมที่บ้านสวนพีระมิด (เขียนโดยคุณฉลอง จันทร์ทอง) article
ความมหัศจรรย์ของพลังพีระมิดที่เราคาดไม่ถึง (แนะนำโดยคุณชนิดา เชิงสะอาด) article
ประวัตินางวิสาขา (แนะนำโดยคุณณฐพลสรรค์ เผือกผาสุข) article
ปัญหาเรื่องเทวดา (แนะนำโดย คุณณฐพลสรรค์ เผือกผาสุข) article
หนังสืออินทร์ตก พุทธทำนายภัยพิบัติ (แนะนำโดย คุณณฐพลสรรค์ เผือกผาสุข) article
คนค้นกรรม 2 (เขียนโดย คุณณฐพลสรรค์ เผือกผาสุข) article



[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (133565)

สวัสดีครับ 

ได้เคยไปบ้านสวนของอาจารย์มาแล้วครั้งนึง  เป็นงานยกเสาเอกที่พิธีเริ่มตอนห้าโมงเย็น  แต่จำวันไม่ได้  ตั้งใจจะไปพบอาจารย์อีกครับ ยินดีกับทุกท่าน   ที่มีปัญหาป่วยไข้ทั้งทางกายและใจ  หลังได้มาพบท่านอาจารย์ เรื่องเจ็บไข้ได้ป่วยก็ทุเลาลงและหายขาดไป ซึ่งก็เป็นการยืนยันว่า  การไปพบท่านอาจารย์ที่บ้านสวน  ทำให้ท่านได้พบหนทางพ้นทุกข์  โดยมีอาจารย์อุบลเป็นสื่อกลาง  อนุโมทนาบุญต่อท่านอาจารย์ในคุณธรรมท่าน  ขอให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรงครับ

ด้วยความนับถือเป็นอย่างสูง

วรวรรธน์  ไชยพัชรทัศน์

ผู้แสดงความคิดเห็น วรวรรธน์ ไชยพัชรทัศน์ วันที่ตอบ 2010-04-06 12:44:51


ความคิดเห็นที่ 2 (133608)

สวัสดีค่ะ อาจารย์  ครอบครัวมีปัญหามากค่ะ ควร

ต้องไปสะเดาะเคราะห์ ที่ไหนค่ะ หรือทำไงดี ช่วยกรุณาออกทางรายการ วัน อาทิตย์

ถ้า ได้จะเป็นพระคุณมากๆ  ค่ะ

    เคารพ

ผู้แสดงความคิดเห็น กนก สีสดใส วันที่ตอบ 2010-04-14 21:45:17


ความคิดเห็นที่ 3 (133633)

อยากทราบว่าตัวแทนขายเครื่องสำอางค์พาเมล่า  สาขากรุงเทพฯ สามารถติดต่อได้ที่ไหนค่ะ

อยากซื้อให้คุณแม่ค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ศรีนันทนา (srinuntana-dot-jitaweesroj-at-rbs-dot-com)วันที่ตอบ 2010-04-21 12:31:53


ความคิดเห็นที่ 4 (133642)

เรียน คุณกนก สีสดใส

คุณต้องไปพบอาจารย์ด้วยตนเองที่บ้านสวนปิรามิดครับ จึงจะทราบว่าต้องทำอย่างไร  ด้วยใจที่เปิดรับ ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไร  นอกจากค่าเดินทางและความเชื่อว่าคุณต้องดีขึ้น แต่ก่อนไปก็ให้ศึกษารายละเอียดเกี่ยวอาจารย์และบ้านสวนปิรามิดใน webก่อนเพื่อทำความเข้าใจให้มากขึ้นครับ

ขอให้โชคดีและได้มาพบอาจารย์นะครับ 

อาจารย์จะรับบำบัดอีกครั้งเป็นเสาร์-อาทิตย์หน้าครับ  เสาร์ อาทิตย์นี้ ที่บ้านสวนมีกิจกรรมครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น วรวรรธน์ วันที่ตอบ 2010-04-23 11:29:47


ความคิดเห็นที่ 5 (134099)

ขออนุโมทนากับผู้เขียนด้วยค่ะ ขอให้ดีดีๆๆและโชคดีๆๆๆนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อรุณรัตน์ วันที่ตอบ 2010-07-04 04:52:45


ความคิดเห็นที่ 6 (138300)

โมทนาบุญกับผู้เขียนด้วยครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เอกราช รัตนวิจิตร วันที่ตอบ 2011-04-23 10:20:05


ความคิดเห็นที่ 7 (145233)

อย่าพูด อย่ารับปาก ถ้าพูด ถ้ารับปากแล้วไม่ทำ จะรับกรรมหนัก อนันตริยกรรม เหมือนดิฉัน

 

ดิฉันนางปรัธยาน์ภรณ์ สงค์รอด อยู่บ้านเลขที่ 267 หมู่ที่ 13 ตำบลบ้านดู่ อำเภอ เมือง จังหวัดเชียงราย ขณะนี้อายุ 60ปีเต็มดิฉันได้รับอนุญาต เข้าค่ายบ้านสวนพิระมิด ของท่านอาจารย์อุบล ศุภเดชาภรณ์  เป็นค่าย รุ่น 11 เป็นค่ายต้นปี 2555 ปีใหม่พอดี  ดิฉันมีความสุขจากการที่ได้ทำบุญ ได้ไปใช้แรงงาน ที่บ้านสวนพิระมิด  ซึ่งขณะนั้นเพิ่งเริ่มสร้างฐาน เพื่อสร้างองค์พระปฐม และค่ายนี้ ได้รับความเมตตาจากคุณพ่อ ท่าน ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา กรุณามาบอกเล่า  เตือนเรื่องภัยพิบัติด้วย  ดิฉันได้ทำบุญมูลนิธิ ดร.อาจองฯ สามพันบาท และตั้งใจจะโอนเงินไปตลอด นี่เป็นสัญญาที่ดิฉันตั้งใจและพูดบนเวทีต่อหน้าท่านอาจารย์อุบล และคุณพ่อ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา  เป็นการพูด และได้ผิดคำพูด

     แต่เมื่อเดินทางกลับเชียงราย ดิฉันก็โอนเงินไปบ้าง เว้นไปบ้าง เพราะลืมบ้าง แต่ที่สำคัญ การเงินเริ่มติดขัด ไม่เหมือนเดิม

 

เรื่องที่สอง ที่พูดแล้วไม่ทำ   เมื่อเข้าค่าย11แล้ว วันกลับพวกเราไปกราบลาท่านอาจารย์อุบลฯ ท่านได้ถามดิฉันว่า   ค่ายหน้า มาใหม(ที่จริง ท่านก็ไม่ได้สนใจหรอกว่า ใครจะมา ใครจะไม่มา เพราะทุกค่ายแน่น เต็มจนล้น ท่านถามด้วยความเมตตามากกว่า)  ดิฉันตอบด้วยความมั่นใจว่า ค่ะ ตั้งใจจะมาอีก  แต่ท่านเชื่อใหม ดิฉันกลับมาบ้านที่เชียงราย ดิฉันลืมๆๆๆที่พูดทั้งหมดไม่ได้ไปเข้าค่ายอีกเลย ไม่ได้ติดตามเฟสบุคของบ้านสวนอีกเลย   เป็นเวลาถึงสองปีกว่า

    จะขอเล่าว่าเมื่อกลับมาจากบ้านสวน ผลบุญครั้งนั้น ทำให้ดิฉันได้ขายบ้านมือสอง ที่ซื้อมา  ในราคา สองล้านห้า และขายได้ในราคา สามล้านสี่ ได้กำไร ประมาณ แปดแสน ดิฉันก็ยังลืม ลืมที่จะขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และท่านอาจารย์ อุบล สนิทเลย

   ผลกรรมที่ดิฉันได้รับ มากมาย จะเล่าต่อไป แต่ขอเล่าว่า ผลคือได้รับความเจ็บป่วย เจ็บปวดหลัง ทรมานมาก  เมื่อมีความทุกข์ทั้งร่างกายเจ็บป่วย ปวดหลัง ปวดเอว มาก รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หาย   จนไม่รักษายอมรับ ทรมานสุดๆ บางครั้งลุกเดินไปเหมือนคนพิการ  ที่ทุกข์หนักอีกคือ นำเงินไปลงทุนกับเพื่อน สองล้านกว่า เงินหายแซ่บ เรียกว่า"หมดเนื้อหมดตัว" ในส่วนเงินที่กำไรมาจากการขายบ้าน รวมทั้งทุน  มันเป็นความทุกข์ ที่พูดกับใครก็ไม่ได้ จนวันหนึ่ง  เมื่อต้นเดือน พฤษภาคม 57 นี่เองที่เกิด นึกคิดขึ้นมาได้ว่า เอ๊ะ เฟสบ้านสวนพิระมิดของเราหายไปไหน นานมาก  จึงค้นหา และสมัครสมาชิกใหม่ จึงได้ทราบว่า  ท่านอาจารย์ โปรดสัตว์ผู้ยากที่ทุกข์ทั้งกายและใจ ผ่านไปแล้วถึง 10 ค่าย 10 รุ่น (ถามตัวเอง เราหายหัว ไปไหน นี่ )

      ดิฉันรีบสมัคร มาเข้าค่าย21 รับพระบารมีพระศรีอาริย์   ดิฉันดีใจมากที่จะได้กลับไปกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บ้านสวนพิระมิดอีกครั้ง แต่ท่านเชื่อใหม ดิฉันก็ยังไม่รู้ว่า ตัวเองได้ทำอนันตริยกรรม ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยไม่รู้ตัวเลย นึกไม่ออกจริงๆ ก่อนไปเข้าค่ายดิฉัน จัดส่งเงินไปขอบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายอย่าง เช่น เข็มกลัดท่านพ่อท้าวเวสสุวรรณ  พิระมิดจำลองรุ่นต่างๆ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 16,000.00บาทแต่ท่านเชื่อใหมดิฉันยังรวมเงินผิด ไม่ได้ส่งค่าสบู่ไป ได้รีบส่งไปทันที ดีนะ ที่ส่งเงินไปบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และ มานั่งบวกอีกครั้ง ขาดความรอบคอบจริงๆ ถ้ากลับบ้านเลย จะผูกกรรม โกงสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยไม่รู้ตัว

      ท่านเชื่อใหม เพียงดิฉัน สมัครขอเข้าค่าย และขอบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากบ้านสวนพิระมิด  ยังไม่ได้รับการตอบรับ ยังไม่ได้รับกล่องไปรษณีย์เลย      ก็ได้มีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้น อย่างไม่น่าเชื่อ

        เรื่องมีอยู่ว่า พี่สะไภ้ ยืมเงินพี่สาวแฟนไปหนึ่งล้านหนึ่งแสน แล้วพี่สาวแฟนไม่กล้าทวง   เพราะเห็นพี่สะไภ้ทำเฉย ตอนหลังมาเล่าว่าขอเงินคืนแค่ล้าน อีกแสน ยกให้ พี่สะไภ้ก็ยังไม่คืนให้ บอกขอขายที่ได้แล้วจะคืนให้    ซึ่งไม่ทราบเมื่อไหร่เขาจะขายได้  พี่เขยบอกให้ดิฉันไปคิดวิธีทวง ถ้าได้เงินคืนจะให้ดิฉัน สามเปอร์เซนต์  ดิฉันตอบไม่เอาหรอก จะคิด จะทวงให้ ในที่สุดดิฉันก็ทวงเงินได้คืนหมด พี่สะไภ้โอนมาเข้าบัญชีดิฉันๆโทรบอกพี่สาวแฟนว่า มาเชียงราย จะเบิกถอนให้ เงินล้านบาทที่ได้มาเป็นช่วงเวลา  หลังจากสมัครเข้าค่าย ไม่กี่วัน    พี่สาวแฟนจะมาเชียงรายเดือนมิถุนายน  ดิฉันโทรบอกว่ามาเชียงรายจะเบิกให้ พี่สาวแฟนบอกว่า ไม่เป็นไร เอาไว้ใช้ก่อน (เหมือนจะรู้เลยว่าดิฉันกำลังย่ำแย่ แต่ไม่เคยบอกใคร แต่พี่ทราบว่าที่บ้านโรงรถและห้องน้ำบ้านหลังเล็กโดนพายุลูกเห็บ ต้องรื้อต้องซ่อมอีกหลายแสน)  นี่เป็นเพราะอะไร เงินตั้งล้านให้ยืมเฉยเลย    ดิฉันขอกราบขอบพระคุณ บารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพิระมิดและบารมีท่านอาจารย์อุบล อย่างยิ่งค่ะ ที่ช่วยปลดทุกข์ให้ค่ะ

     เมื่อได้ไปเข้าค่ายดิฉันอธิษฐาน อยากนอนบ้านพิระมิด ก็ได้นอนสมใจ เพราะบ้านว่าง เจ้าหน้าที่บอกนอนกันไปก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาว่ากันใหม่  แต่ส่วนใหญ่นอนที่ห้องประชุม เพราะสะดวก ท่านอาจารย์สร้างใหม่ มีห้องน้ำ มีแอร์ มีหมอน มีเสื่อ มีผ้าห่ม บริการเหลือเฝือ   นอนกันแสนสบาย  วันที่สอง ท่านอาจารย์อุบล ใจดี บอกนอนตื่นสายหน่อยก็ได้ เพราะวันนี้นอนดึก  เมื่อท่านอาจารย์ให้โอกาสสำหรับคนที่เจ็บปวด จากอาการป่วยอาการต่างๆในวันแรกนั้น ดิฉันได้สารภาพกรรม เพราะทำผิดศีลทุกข้อ รวมทั้งกรรมใหญ่เคยทำแท้งถึง สองครั้ง  ท่านอาจารย์เมตตาใช้พิระมิดรักษา จนอาการปวดหลังหายไปร้อยเปอร์เซนต์  แต่แปลกพอลงจากเวที  แรกๆอาการปวดหลังหายไป  แต่เกิดอาการใหม่ หนักกว่าเก่า คือ เจ็บปวดเหมือนมีมีดมาบาดที่รอบเอว ทรมานมาก ยิ่งท่านอาจารย์เดินทางมาที่ห้องประชุม ดิฉันยิ่งเจ็บปวดทวีขึ้น  แสบมาก อย่างไม่น่าเชื่อเป็นอาการที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย

      วันที่สองของการเข้าค่ายซึ่งเป็นหัวใจ ไฮไลท์ ของกิจกรรม คือรับบารมีพระศรีอาริย์แค่เดินผ่านก็หาย  ท่านอาจารย์อุบลฯ ได้กรุณาอัญเชิญ  พระบารมีสมเด็จพระศรีอาริย์  มาสถิตย์ที่กายท่านอาจารย์อุบล   ขณะที่ท่านกล่าวอัญเชิญดิฉันตื้นตันใจ บอกไม่ถูกค่ะนั่งก้มหน้าร้องไห้ไม่อายใคร มันกลั้นไม่อยู่จริงๆ แม้ตอนนี้ที่พิมพ์อยู่ยังร้องไห้เลยค่ะ  

      ท่านอาจารย์ให้เจ้าหน้าที่ช่วยจัดแถวให้  ผู้ร่วมกิจกรรมเดินผ่านท่าน ผู้คนที่เข้าค่าย 211 คนเขาหายจากอาการเจ็บป่วยอย่างอัศจรรย์  เพราะหายกันทันที ที่เดินผ่านท่านอาจารย์อุบล อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ต้องเชื่อ เพราะเมื่อท่านอาจารย์ถามว่า ใครหายร้อยเปอร์เซนต์ ยกมือขึ้น เขาก็ยกมือกันทันทีในแต่ละแถว ที่เดินผ่าน รวมแล้วถึงจำนวน  201 คน

      ในแต่ละแถวมีไม่กี่คนที่ยังไม่หายร้อยเปอร์เซนต์  เหลือเพียง 10คนซึ่งรวม ดิฉันด้วย  ที่ท่านอาจารย์อุบลฯ   ได้ช่วยอัญเชิญพิระมิดรุ่นพระบารมีพระศรีอาริย์ มาแตะขวดน้ำ หลายคนหายร้อยเปอร์เซนต์  เหลืออีกไม่กี่คนที่หาย ดีขึ้น 80%ซึ่งดิฉันอยู่ในจำนวนนี้ด้วย ที่หายดีขึ้นถึง 80%  เพราะในขณะนั้น ดิฉันนึกขึ้นมาได้ว่า ดิฉันผิดคำพูด ที่รับปากท่านอาจารย์ว่า จะมาเข้าค่าย12 นั่นเอง ( ดังที่เล่าไว้ข้างต้น)  ซึ่งท่านอาจารย์อุบล ฯ   ได้กรุณาให้ดิฉัน   ขอขมากรรมต่อท่าน   ซึ่ง ดิฉันได้ก้มลงกราบเท้าท่านอาจารย์ (จริงๆอยากกราบใกล้ๆห่างสักคืบ แต่ก็ได้กราบขอขมากรรมสมใจ แม้จะห่างไปนิด แต่เป็นการกราบเท้าขอขมากรรมท่าน  ด้วยความเต็มใจยิ่ง อิ่มใจยิ่ง) แล้วอาการก็ดีขึ้นแต่ไม่หายร้อยเปอร์เซนต์ ท่านอาจารย์ให้กลับไปคิดว่า ที่ยังนึกไม่ออกคืออะไร

    ดิฉันนึกไม่ออกจริงๆ ว่า อนันตริยกรรมอะไรหนอ ที่ดิฉันทำผิด ติดค้างอยู่  เมื่อนั่งเครื่องกลับเชียงราย คิดทบทวนตลอด  จึงนึกได้ ดิฉันคิดถึงความเมตตาของท่านอาจารย์อุบลฯ และความเมตตาของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ของบ้านสวนพิระมิด ที่มีต่อดิฉัน ท่านให้โอกาส ไม่ให้ไปตกนรก  ทำให้ดิฉันนึกได้ว่า น่าจะเป็นกรรมสำคัญ   นึกได้ว่า นั่นคือ กรณีผิดคำพูด   เรื่องจะร่วมทำบุญกับมูลนิธิ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยาเดือนละ สามพันบาท ไปตลอดชีวิต  (มูลนิธิ ของท่านดูแลเด็กนักเรียน ที่โีรงเรียนสัตยาไส ที่จังหวัดลพบุรี เป็นการสร้าง เยาวชน ให้เป็นคนดี) ที่ผ่านมาดิฉันโอนไปประมาณ ไม่น่าจะเกิน ห้าครั้ง แต่เมื่อมาคำนวณใหม่แล้ว    ก็ตัดสินใจโอนเงินไปเมื่อวันที่ 27พฤษภาคม 2557 เป็นเงินรวม 69,000.00บาท บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาทองหล่อ เลขบัญชี 042-246953-9 เวลาประมาณ 15:31:46 ก่อนหน้านั้น เพียงเดินเข้าธนาคารอาการเจ็บปวดที่เอว  ที่เหลือหายเบาตัวทันทีค่ะ

  ยังไม่หมดนะค่ะ  ดิฉันทำเรื่องโอนขณะที่เจ้าหน้าที่บอกว่าค่าโอนร้อยกว่าบาท จำไม่แม่นประมาณ 180บาท มั้งค่ะ   ดิฉันก็พูดขึ้นว่า พี่เคยโอนไปมูลนิธินี้   ที่นี่  ธนาคารไทยพาณิชย์ด้วยกัน ไม่เสียค่าโอน ค่ะ   เจ้าหน้าที่บอกเดี๋ยวนะค่ะ เธอถามไปที่ผู้หญิงอีกคนหนึ่ง สงสัยเป็นผู้จัดการสาขาตลาดบ้านดู่ เธอเดินเข้ามาคีย์ คอม แป๊ปเดียว บอกว่า ยกเว้นค่าธรรมเนียมให้แล้ว (แอบดีใจค่ะ) 

   อาการเจ็บปวดหายดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ กราบขอบพระคุณท่านพ่อดตาจินิน  สมเด็จองค์ปฐม  สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ สมเด็จพระศรีอาริย์ ท่านพ่อท้าวเวสสุวรรณ ท่านแม่พระนางเนเฟอร์ตารี  หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤษีลิงดำ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ ณ บ้านสวนพิระมิด กราบขอบพระคุณ ในความเมตตาของท่านอาจารย์อุบล ฯ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักษ์รักษาท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์มงคล คุณท๊อป ไว้ ณ ที่นี้ด้วย ค่ะ กราบ  กราบ  กราบ

      ขอนุญาต ย้ำว่า ทุกท่านโปรดนึกถึงเรื่องของดิฉันเป็นอุทาหรณ์ อย่าทำเป็นอันขาด ปาปหนักค่ะ ท่านจะได้รับผลกรรมอย่างนึกไม่ถึงค่ะ

         

ผู้แสดงความคิดเห็น ปรํธยาน์ภรณ์ สงค์รอด ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2014-05-30 18:43:58



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.