สวัสดีค่ะ อ. อุบล

     แมวอยากจะเล่าประสบการณ์ ในการไป บ้านสวนปิรามืด ให้กับผู้ที่เข้ามาชม  www. baansuanpyramid.com ได้อ่านกัน

ครั้งแรก  ได้รับการชักชวนจากเพื่อนคุณอา ว่าไปนั่งสมาธิกัน เป็นบ้านสวน ซึ่งสนใจ เพราะตรงกับ วันวิสาขบูชา พอดี

ไปต้าง 1 คืน ซึ่งคืนนั้น  อ.อุบล ได้นำในการเวียนเทียน และนั่งสมาธิ เป็นอะไรที่แมว สัมผัสได้คือ  อ.อุบล ส่ง ดอกไม้

ธูป เทียน ให้ ได้มี อาการ ขนลุก ไปทั้งตัว รวมถึงขนหัวด้วย จากนั้น อ.อุบล ก็ช่วยสำหรับบุคคลที่มีปัญหาต่าง ๆ เป็นการ

เห็นครั้งแรก  ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยได้เห็น หรือรู้จัก บ้านสวนปิรามิดมาก่อนหน้านี้เลยค่ะ  วันนั้น แมว มีอาการปวดหลัง ซึ่งปวดเป็น

ประจำ ได้ไปช่วยใช้แรงงานโดยการ กวาดใบไม้ ตัดกิ่งมะม่วง ขุดตอ  ช่วยทำอาหารในครัว ขุดดิน อาการที่ปวดหลังอยู่

ก็หาย ซึ่งก็ไม่ได้เข้าไปบำบัดกับ อ.อุบลเลย

ครั้งที่ 2  สัปดาห์ต่อมา แมวได้พาแม่ซึ่งป่วย หลายจุดด้วยกัน แต่วันนั้น ได้ขอความช่วยเหลือจาก อ.อุบลในเรื่องของ

อาการปวดหลัง ที่คุณหมอ ว่าเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และปัญหาในใจของแมวคือ แม่เป็นคนที่ไม่เชื่อ หรือ

ศรัทธา  (สวดมนต์ยังไม่เป็นเลย) และในวันนั้นได้พาแม่ไป ได้ขอแม่อยู่ 2 ข้อคือ ให้แม่เชื่อว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง และ

จะไม่ลบหลู่สิ่งศักดืสิทธิ์ ซึ่งแม่ก็รับปาก แม่ได้พบ อ.อุบลเพื่อบำบัด อ.ถามแม่ว่า เคยตีงู หรือใช้ให้คนอื่นตีใช่หรือไม่

แม่บอกว่า ใช่ อ.อุบล ถามแม่ว่าเคยตีลูกด้วย ให้ไปใช้แรงงานที่หนัก ให้ไปผสมปูน ก่อนหน้านั้นพาไปขุดตอมาแล้ว

พอแม่ออกมา แม่ได้มายกมือไหว้แมว ( เล่นเอาแมวตกใจ) แม่บอกว่า  แม่ขออโหสิกรรมที่แม่เคยตีลูกนะ

จากนั้นก็พาแม่เดินไปเพื่อจะไปผสมปูน ตามที่ อ.อุบล บอก แม่ก็พูดขึ้นมาพร้อมกับน้ำตาคลอ ว่าแม่ปวดหลังจนจะเดิน

ไม่ไหวอยู่แล้วแม่จะไหวหรือลูก ก็บอกแม่ไปว่าอดทนนิดนะ เดี๋ยวแมวช่วยแม่เอง พอเดินไป ขั้นตอนการผสมปูน

ได้เสร็จแล้วในวันนั้น แล้วเราจะทำอย่างไร หันซ้าย หันขวา ไปเห็นกองทราย ก็เลยอนุญาติถามคุณลุง (ช่าง) ว่า

ให้แม่หนูไปขนทรายมาไว้ สำหรับพรุ่งนี้ได้ไหมคะลุง  แล้วคุณลุงตอบว่า ได้เลย

ได้พาแม่ไปขนทราย และนำแม่สวด ท่อง ขออโหสิกรรมเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ( แม่ท่องไม่หยุด )

จนทรายเต็มรถ บอกให้แม่พอแล้ว แม่ไม่พอโกยทรายใส่รถเข็นจนพูน แล้วก็ช่วยกันเข็นเอาทรายไปเท ตรงที่ผสมปูน

แล้วหันมาถามแม่ว่า ไหวไหม ดีขึ้นไหม แม่เรียกชื่อ แมว...... แม่ดีขึ้นมาก......จริงนะแม่......ดีขึ้นประมาณกี่ % แม่บอกว่า

เกิน 70% ลูก ถ้าอยางนั้นเดี่ยวเราไปรายงาน อ.อุบลกัน ว่าดีขึ้นมากแต่ยังไม่หายดี อ.อุบล ก็ได้บำบัดให้แม่หาย

แมวได้ถามแม่ว่า เชื่อหรือยังว่า พระพุทธเจ้า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง  แม่พยักหน้ารับ และบอกว่า ให้ไปรับแม่มาด้วย

ถ้าแมวไปที่บ้านสวนปิรามิดอีก  และแม่ได้ตื่นแต่เช้าในวันรุ่งขึ้น เพื่อใส่บาตรค่ะ และตอนนี้แม่ไม่ปวดหลังไม่ต้อง

ใส่ Support อีกจากวันนั้นมา

          แมวขอกราบขอคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ /  อ.อุบล และไม่ขอลืมบุญคุณในครั้งนี้ ที่สิ่งศักดิ์สิทธ์ / อ.อุบลได้ช่วยให้แม่หายเจ็บ ปวด ได้ค่ะ

สวัสดี ครับ อ.อุบล ผมได้พาพ่อและแม่ไปพบอาจารย์ เมื่อวันที่5/6/10 ซึ่งพ่อก็มีอาการปวดหัวเข่าซึ่งท่านก็อายุ74ปีแล้ว ตอนแรกผมก็

ไม่ได้บอกว่าอาจารย์เป็นใคร พ่อและแม่ก็นึกว่าเป็นพระ แต่ในใจของผมก็อยากให้ท่านทั้งสองหายและดีขึ้นเพราะทนเห็นพ่อเดินลำบาก

พอไปถึงก็ลงทะเบียนและปฐมนิเทศน์ พอได้ฟังก็ชอบในสิ่งที่อาจารย์พูด คืออาจารย์เป็นผู้ชี้แนะช่องทางแต่จะสำเร็จในการรักษาและ

บำบัดหรือไม่อยู่ที่จะให้ความร่วมมือและศรัทธาของผู้มาพบเอง พอทานข้าวเสร็จก็ได้ทำงานตามได้มอบหมาย แต่ก็ทำตามกำลัง

เพราะอาจารย์บอกเหนื่อยก็พักหายเหนื่อยก็ทำต่อ หลังจากนั้นไม่นานอาจารย์ก็เรียกพ่อไปพบ อาจารย์ก็ถามว่าอาการเป็นยังไงพ่อ

ก็บอกว่าหายปวดและดีขึ้นมาก อาจารย์ก็บอกว่าอยากหายขาดหรือเปล่าพ่อก็บอกว่าอยากหาย อาจรย์ก็แนะว่าให้ไปผสมปูนและขน

ปูนอีก พ่อก็ไปทำตามที่อาจารย์แนะ ส่วนแม่อาการค่อนข้างหนักอาจารย์ก็แนะว่าอาการของไตวายรื้อรังน่าจะเป็นได้แค่บรรเทา

อาจารย์ก็บอกว่าแนะว่าให้ไปซื้อสบู่เพื่อจะช่วยชำระร่างกายเหมือนกับการฟอกไตอีกทางหนึ่ง และให้ดื่มนำพลังแร่ปิรามิดช่วยอีก

หลังจากกลับมาอีกวันผมก็ถามพ่อว่าเป็นยังไงบ้าง ท่านก็บอกว่าไม่ปวดอีกแล้วและก็โทรไปบอกลูกๆว่าพ่อไม่ปวดขาอีกแล้ว

ส่วนแม่ก็ยังรอดูอาการก็หวังว่าขอให้สิ่งศักดิ์สิดต์ที่บ้านสวนปิรามิดและบารมีของอ.อุบล คงจะช่วยให้อาการของแม่ดีขึ้น ทุกกๆวันผม

ยังถามอาการของพ่อและแม่ว่าเป็นยังไง ท่านก็บอกว่าพ่อไม่มีอาการปวดขาอีกเลยส่วนแม่ก็ได้แต่ขอบคุณ พ่อก็บอกเป็นบุญนัก

ที่ได้พบอาจารย์ ส่วนตัวผมเองก็หายปวดข้อเข่าขวาตอนที่ไปช่วยขุดตอต้นมะม่วงอาจารย์ยังอวยพรว่าขอให้หายขาดนะผมยังจำ

ติดหูอยู่จนทุกวันนี้ และผมยังได้สมัครเข้าค่ายหนีความจนกับบ้านสวนปิรามิดเพราะยังไม่เคยเข้าค่ายของที่นี่ เพราะชีวิตเหมือนกับว่า

แบกรับภาระเยอะเหลือเกิน ไหนจะหนี้ของตัวเองที่เกิดจากต้องดูแลครอบครัว และภาระต้องจ่ายค่าฟอกไตแม่มานานเป็น10ปี ทั้งๆ

ที่ไม่ได้ขี้เกียจแต่ก็ได้แค่พอและติดลบอยู่บ้างเท่านั้นเอง ซึ่งพอได้ยินว่ามีการเข้าค่ายหนีความจนผมอยากร่วมมากครับ เผื่อจะข้อชี้แนะ

ให้ผมหนีความจนได้สักที และผมอยากสารภาพกับอาจารย์อีกอย่างครับว่า ผมพีมดีดทีละตัวแต่ผมจะพีมให้ได้เพราะผมสัญญากับ

อาจารย์แล้วว่าจะพีมเผยแพร่ทางอินเตอร์เนตในวัน(5/6/10)ที่พาพ่อและแม่ไปพบอาจารย์ ทุกวันผมคอยเปิดเนตรอการตอบรับจาก

ทางบ้านสวนปิรามิด ผมอยากเข้าค่ายแก้จนจริงๆครับ ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะ  ดิฉัน  อิสรีย์  ภักดึอมรพันธ์  บ้านเลขที่  536  ถนนเลี่ยงเมือง  อำเภอเมืองจังหวัดยโสธร 35000 โทร.  0819543996

ขอยืนยันมาอีกทีค่ะ ว่ามาเข้าค่ายเพื่อหนีจนจริงๆค่ะ ในวันที่  25-27  มิถุนายน  2553  ดูรายการทุกวันอาทิตย์ และวันจันทร์

กราบขอบพระคุณค่ะ

สวัสดิค่ะ อ.อุบล

         หนูกับสามีได้มีโอกาสดีที่ได้มาทำบุญที่บ้านสวนพีระมิดแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญด้วยแรง เช่น ตักปูน ร่อนดิน ขุดตอ กวาดสถานที่ปฏิบัตธรรม  ล้างขัดห้องน้ำ และได้นำสิ่งของมาร่วมทำบุญหลายอย่างรวมทั้งทำโรงทานผัดหมี่โคราชกับเฉาก๋วย ทำบุญที่นี้แล้วรู้สึกมีความสุขสบายใจอย่างบอกไม่ถูก อยากจะมาทำบุญทุกสัปดาห์   และที่สำคัญได้แนะนำคนที่เจ็บป่วยมาบำบัดกับ อ.อุบล แล้วเค้าดีขึ้นเราก็พลอยมีความสุขไปด้วย รวมถึงพ่อแม่ตัวเอง ปู่กับย่าด้วย เสียงตอบรับจากทุกคนว่ามาที่นี่แล้วได้บุญจริง ๆ และอยากมาอีก ถ้ามีโอกาสพวกเค้าจะมาใช้แรงสร้างพีระมิดอีก ขอขอบคุณ อ.อุบล และขอกราบสิ่งศักดิ์ที่บ้านสวนพีระมิดที่เมตตาช่วยชี้ทางและตักเตือนใจให้ปฏิบัติแต่สิ่งที่ดี  ๆ  ให้พบแสงสว่างของชีวิต

สวัสดีครับ อ.อุบล

          วันนี้ผมกับพ่อได้ไปมาทำบุญที่บ้านสวนปิรามิด ก็ได้ช่วยกันทำงานหลายอย่างอาทิเช่น ลากกื่งไม้แล้วก็

ทอนกิ่งไม้ไว้ทำฟืน ขุดตอไม้ ช่วยกันทำโครงไม้ไผ่ในการที่จะหล่อทำปิรามิด วันนี้ก็น่ามีคนมาร่วมทำบุญแรงงาน

ราวๆ50คนเห็นจะได้ ในระหว่างที่ทำงานก็มีสิ่งปฏิหารย์หลายอย่าง เช่นหายหายจากอาการที่เป็นทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น

เป็นมาตั้งนานแต่ไม่ใช่จะเกิดขึ้นกับทุกๆคนนะครับ อาจารย์บอกว่าขึ้นอยู่กับแรงศรัทธาของแต่ละคน บางคนก็หาย

ตอนที่ให้อาจารย์บำบัด บางคนไม่หายเลยก็มี แต่ส่วนตัวผมนั้นหายตั้งแต่วันแรกเลยครับตอนขุดตอไม้ วันนี้ก็ได้

มีโอกาสพบกับเพื่อนร่วมแรงทำงานบุญที่มาพร้อมกันในครั้งแรก  คือคุณสมชายที่มาจากจ.นครปฐมพี่เขาเล่าว่า

อาการที่เป็นตั้งหลายโรคหายเกือบจะหมดจนคนแถวบ้านถามว่าไปทำอะไรมา บางคนก็เชื่อบางคนก็หาว่างมงาย

แต่ตอนนี้พี่เขาต้องอยู่ต่ออีก8วันเพราะสัญญาว่าถ้าหายต้องทำงานใช้แรง9วัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าจะสัญญาอย่างไร

ผมก็ดีใจนะครับที่ได้เห็นหลายๆคนที่หาย ผมคิดว่าสถานที่บ้านสวนปิรามิดแห่งนี้น่าจะเป็นแสงสว่างให้กับหลายๆคน

ที่มืดมิดมานานไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ การงานการเงินและอีกหลายๆอย่างซึ่งแตกต่างกันไป

         สุดท้ายนี้ขอกราบขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธืที่บ้านสวนปิรามิด และอ.อุบลที่ชี้แนะสิ่งที่ดีๆที่เป็นเหตุเป็นผล ควร

ที่ทุกๆคนจะนำไปปฏิบัติ ผมขอสนับสนุนว่าถ้าพี่ๆที่ไม่เคยไปเยี่ยมบ้านสวนควรจะไปเป็นอย่างยิ่ง พี่ๆจะได้รับ

คำสอนบทใหญ่และปฏิหารย์ ถ้าพี่ๆทุกคนพูดความจริงกับอาจารย์

บ้านสวนพิรามิดบ้านแห่งแสงสว่าง

ฉบับที่ 1

สวัสดีครับอาจารย์อุบล

              ผมโชคดีที่ได้ชมรายการคุยไปแจกไปของอาจารย์อุบลโดยบังเอิญวันนั้นประมาณเดือนกุมภาพันธ์  2553  ผมกดรีโมททีวี  อยากจะดูรายการอะไรก็ได้ที่มีสาระ  เพราะว่าดุหนังดูละครเบื่อแล้ว  ผมเปิดไปช่อง mvtv-ban ( บางกอกทูเดย์ ) ก็เจออาจารย์อุบบลพอดี  อาจารย์กำลังพูดกับท่าน ดรง อาจอง  ชุมสาย ณ อยุธยา  เกี่ยวกับภัยพิบัติของโลกเรา  ผมเรียกอาจารย์ชนารัตน์มาดูรายการด้วยกัน  อาจารย์คุยกับผู้มาบำบัดโรคต่างๆ  ยิ่งทำให้ผมสนใจมากขึ้นนั่งดูไม่ลุกไปไหนเลย  อาจารย์ใช้หลักคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าใครทำผลกรรมอะไรไว้ย่อมได้รับผลกรรมที่ทำนั้น  หรือที่เรียกว่ากฏแห่งกรรม  ทุกคนที่มาหาอาจารย์อุบลเมื่อยอมรับผิดว่าได้ทำกรรมอะไรไว้ (กรรมชั่ว )และรับสัจจะว่าจะไม่ทำชั่วอีก  จะทำแต่ความดี (กรรมดี ) หรือทำบุญ  เมื่ออุทิศบุญกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวร  ทุกคนหายจากเจ็บป่วยทันที  ผมและอาจารย์ชนารัตน์มีความรู้สึกว่าทึ่งมากๆ เมื่ออาจารย์บอกว่าเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ  ผมจึงหายสงสัยไม่มีอะไรค้างอยู่ในใจ เพราะว่าผมและอาจารย์ชนารัตน์เคารพนับถือหลวงพ่อฤาษีลิงดำมากได้ไปทำบุญที่วัดหลวงพ่อเป็นประจำ  ผมมีความรู้สึกศรัทธาอาจารย์อุบลมาก  อาจารย์เป็นผู้มีความเสียสละมากมีเมตตาธรรมสูงมากช่วยเหลือคนให้หลุดพ้นจากความทุกข์  ชี้แนะแนวทางให้คนทำแต่ความดี(กรรมดี ) บ้านสวนพิรามิดจึงเป็นบ้านแห่งแสงสว่างให้กับทุกเพศทุกวัย ผมและอาจารย์ชนารัตน์ได้มาหาอาจารย์อุบลที่บ้านสวนพิรามิดครั้งแรกเมื่อวันเสาร์ที่  8  พฤษภาคม  2553  เมื่อผมมาถึงบ้านสวนพิรามิดเหมือนผมมาอยู่ในแดนสวรรค์ ฉบับนี้ขอจบแค่นี้ก่อนนะครับ  ขอให้อาจารย์อุบลและครอบครัวมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บไม่ป่วยมีบุญบารมีเพิ่มขึ้นทวีคูณ

                                                  อาจารย์สมยศ  สมถะธญการ  อุทัยธานี

                                                                  14  มิถุนายน  2553

            หนูก็เป็นอีกคนหนึ่งค่ะที่พบแสงแห่งธรรม  ผู้ซึ่งถูกกรรมปิดตาบังใจต้องทุกข์ใจและนอนร้องไห้  นอนไม่หลับทุกวันเป็นเวลาเกือบ 1 ปี  จนกระทั้งวันที่ดูรายการคุยไปแจกไป  ตอนที่อาจารย์ทำพิธียกเสาเอก ( ขออภัยถ้าหนูเรียกไม่ถูก ) หนูเกิดความศรัทธาพร้อมทั้งตั้งจิตอธิฐานขอให้ได้เดินทางมาพบอาจารย์อุบล  คิดว่าที่นี้แหละที่จะทำให้จิตใจสงบได้  หายจากโรคภัยต่างๆ  ซึ่งเป็นความตั้งใจที่จะหาทางพ้นทุกข์มานานแล้ว  จึงได้ชวนอาจารย์สมยศมาที่บ้านสวนพิรามิด  แล้วก็เกิดปาฏิหาริย์จริงๆเมื่อได้เข้าบำบัดกับอาจารย์อุบลและรู้ว่าเจ้ากรรมนายเวรมีจริงและมีมากมายเสียด้วยที่ต้องมาเป็นอย่างนี้แต่ที่ปาฏิหาริย์สุดๆก็คือโรคกรดไหลย้อน( เป็นมา 1 ปีเต็มรักษามาแล้ว เหมือนมันไม่หาย ยังมีอาการแสบร้อนที่คอตลอดเวลา กลืนน้ำลายไม่ลง ) มันหายได้ในวันเดียวหลังจากขุดตอ  ปลูกต้นโพธิ ขนดิน  ทำทุกอย่างที่อาจารย์อุบลบอกก่อนกลับก็ได้ยกมืออธิฐานขอพรให้หายไม่ต้องกลับมาเป็นอีก 

            เมื่อกลับบ้านไม่มีอาการแบบนั้นอีก นอนหลับจิตใจก็สบายขึ้น  หนูมีความเชื่อว่ากรรมมีจริงไม่ต้องรอชาติหน้า  เจ้ากรรมนายเวรของใครของมัน  มันรอเวลาอยู่แล้ว จึงตั้งจิตอธิฐานว่าจะปฏิบัติธรรม  ไปพร้อมๆกับการใช้กรรมและหนีกรรม

                                                               ชนารัตน์  สิงห์ไพลาศ  อุทัยธานี

                                                                          14  มิถุนายน  2553

ขออนุโมทนาบุญกับการบอกเล่าเรื่องราวดีๆจากทุกท่านที่ดวงตาเห็นธรรมด้วยนะคะ

ไอ้เราก็ไฟในจิตก็ติดๆดับๆ เวลาจิตสว่างจะอ่านหรือฟังอะไรก็เข้าใจได้ง่าย ถึง"บางอ้อ"ได้เร็ว

อ๋อ..มันเป็นเช่นนี้เช่นนี้เอง  แต่พอถึงเวลาจิตมืดบอดงี่เง่า โง่เขลาขึ้นมา ก็ควบคุมได้ยากเหมือนกัน

เพราะจิตแว่บไปคิดเรื่องนู้นเรื่องนี้ตลอด.... เฮ้อ... อ่อนใจกับตัวเองเหมือนกัน

ยินดีในบุญกับทุกท่านอีกครั้งนะคะ

เรียน  อ.อุบล

          ดิฉันได้รู้จักบ้านสวนพีระมิด โดยคำบอกเล่าของพี่ขาย ซึ่งตอนแรกก็ยังรู้สึกโง่ง และเห็นเป็นเรื่องที่แปลก และพี่ชายก็แนะนำให้เข้าไปดูใน web ของบ้านสวนพีระมิด และเข้าไปศึกษาและอ่านเรื่องราวต่าง ๆ ที่ทุกคนแสดงความคิดเห็น และบ้างท่านก็เล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ประสบพบเจอะ รวมทั้งเข้าไปอ่านเกี่ยวกับเรื่องที่ อ.ได้เขียน  ไม่รู้เกิดแรงบันดาลใจอะไร จึงโทรไปหาพี่ชายและถามมีความรู้สึกอยากไป ซึ่งตอนแรกไม่รู้ว่าพี่ชายเคยมาแล้ว และจังหวะดีที่พี่ชายจะไปพอดี และพี่ชายก็แปลกใจ ว่ารู้ได้อย่างไรว่าจะไป และพอไปถึงแล้ว ก็ไปทำบุญด้วยแรงกาย และกำลังทรัพย์ ทำทุกอย่างที่ทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการขุดต้อไม้ กวาดใบไม้ และรู้สึกดี และได้อีกประมาณ 2 ครั้ง และครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2553 มีความประทับใจในการร่วมแรงร่วมใจในการทำโครงเพื่อสร้างพี่ระมิด มองเห็นแล้วรู้สึกอิ่มบุญ และรู้สึกว่าตัวเองจะต้องทำตัวให้ดีกว่านี้ และจะต้องดีตลอดไป และขอบารมีองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าและบางรมีของ อ. อุบล ช่วยให้ดิฉันและครอบครัวมีความสุข สมหวังตลอดไป และการให้เป้นให้ที่ดี่สุด 

สวัดดีค่ะ อ.อุบล

                 วันนี้หนูได้โทรมาแจ้งกับบ้านสวนพีระมิดว่า คุณพ่อคุณแม่รวมทั้งคุณพ่อคุณแม่อาจารย์จรูญ  มีความตั้งใจที่จะมาร่วมสร้างบุญมหาพีระมิดกับบ้านสวนพีระมิดเป็นเวลา 1 สัปดาห์  เริ่มวันเสาร์ที่ 19  มิ.ย.นี้ ทุกท่านที่มาบำบัดกับ อ.อุบล  อาการดีขึ้นมากและศรัทธา อ.อุบลมาก ทึ่งในปาฏิหารมีจริง  หนูกับสามีอยากมาทำบุญที่บ้านสวนทุกสัปดาห์ ถ้าไม่ติดภาระกิจที่ทำงาน  ที่บ้านสวนแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เรามาแล้วกลับไปเราจะคิดหรือจะทำสิ่งใดจะทำให้ระลึกถึงคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและสิ่งศักดิ์ที่บ้านสวนพีระมิดและอ.อุบล คอยเตือนใจให้คิดให้ทำแต่สิ่งที่ดี ๆ ทำให้จิตใจมีความสุข  ทำอะไรก็ระลึกถึงหรือขอบารมีพระพุทธเจ้าช่วยและช่วยได้ทุกครั้งทำให้รู้สึกว่าเรามีสิ่งศักดิ์คุ้มครองเราตลอดเวลา   ขอให้เราทำแต่ความดี

          วันเสาร์ที่19 ที่จะถึงนี้หนูกับ อ.จรูญ มีความตั้งใจที่เป็นนเจ้าภาพอาหารกลางวันที่บ้านสวนพีระมิด  โดยจะทำราดหน้าเส้นใหญ่มังสวิรัติ กับเฉาก๋วย  แค่เล่าก็รู้สึกอิ่มบุณอิ่มใจแล้วคะ

เรียนอาจารย์อุบล

               ดิฉันชื่อกษมล  แก้วมณี  และนายจีรพงษ์  แก้วมณี  ได้เดินทางไปบ้านสวนพระมิดพร้อมครอบครัวปลัดนก ดิฉันได้ให้เงินไป10,000บาทเพื่อสร้างพีระมิดแต่บัดนี้พลังศรัทธาหมดแล้วขืนสร้างไปก็ไม่ได้บุญจึงขอเงินคืนกรุณาโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย  สาขานครชัศรี จังหวัดนครปฐม  บัญชีออมทรัพย์เลขที่  733 - 1- 06948 - 9  ขอขอบคุณอาจารย์ที่ช่วยทำให้ดิฉันมีสติมา  ปัญญาเกิด   ดวงตาเห็นแสงธรรมส่องเข้าไปในใจขจัดความโง่ออกไปได้รู้สึกสงสารปลัดนกมากที่ดิฉันทำให้เธอต้องร้อนใจถูกแช่งชักหักกระดูก  ทั้งๆที่มีเมตตากับผู้ที่มีทุกข์เป็นกัลยาณมิตรที่ดีน่าจะได้บุญเพราะเป็นกุศลจิตแต่กลับถูกว่าเป็นบาปดิฉันพูดความจริงเรื่องการปวดสะบักหลังกลับถูกตำหนิว่าพูดไม่รู้เรื่องเป็นครูได้อย่างไรฉลาดจังน่าสงสารเด็กพูดกระทบกระเทียบเยาะเย้ยถากถางตัวดิฉันว่าโง่ก็ไม่สนหรอกแต่ดูถูกอาชีพครูนี่ทนไม่ได้ต้องกราบขอโทษคุณครูทุกท่านดิฉันพูดความจริงว่าปวดสะบักหลังมานานมากเป็นสิบปีเป็นๆหายๆไม่ได้ปวดทุกวันอาจารย์ถามว่าแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าบำบัดแล้วเกิดอะไรขึ้นคำตอบไม่เหมือนคนอื่นที่บอกว่าหายเมื่อมาบ้านสวนฯหายเมื่อมาพบอาจารย์หายเมื่อไปขุดตอ หายตอนอาจารย์เอามือลูบสารพัดที่เป็นคำตอบที่สามารถนำไปออกอากาศช่องบางกอกทูเดย์ได้แต่ของดิฉันไม่ใช่ไม่เหมือนคนอื่นแต่มันเป็นเรื่องจริงดิฉันไปด้วยความศรัทธาที่เปี่ยมล้นมีเงินไปหมื่นกว่าบาทตั้งใจสร้างพีระมิดเพราะสร้างที่ปฏิบติธรรมถือว่าเป็นบุญใหญ่สามีไต่สวนกรรมแล้วสารภาพสำนึกผิดแล้วแต่ก็ไม่ช่วยให้พูดชัดขึ้นเพื่อนที่ไปด้วยกันกลัวถูกตำหนิทำบุญค่านำปิรามิดยี่สิบบาทก็ไม่ได้รับความสนใจที่จะบำบัดแต่คนที่บริจาคเยอะๆก็ลูบแล้วลูบอีกดิฉันเองตอนค่ำรู้สึกปวดตอนที่พาสามีไปให้เงินพออาจารย์ลูบก็ต้องบอกว่าหายเพราะถ้าไม่พูดก็จะถูกหาว่าพูดไม่รู้เรื่องอีกแต่จริงๆแล้วมันก็ปวดเหมือนเดิมสามีก็พูดไม่ชัดเหมือนเดิมทั้งๆที่อาจารย์พยายามหลายครั้งก็แล้วแต่ศรัทธาของใครก็ของคนนั้น

สวัสดีค่ะ...อ.อุบล และท่านผู้อ่าน www. baansuanpyramid.com

แมว ..ได้ไปที่บ้านสวนฯ แล้วเป็นครั้งที่ 3 ได้พาบุคคลใกล้ตัวไปพบ อ.อุบล เพื่อบำบัดความทุกข์ 

และได้มาอ่านพบ กระทู้ของ คุณกษมล แล้วต้องขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ และข้อความที่คุณเขียน

แมวขอยืนยัน นะคะ ว่า ทำบุญน้อย จะไม่ได้รับความสนใจ จาก อ.อุบล เพราะ ไม่เป็นความจริง

ดิฉันไปครั้งแรกไม่ได้ ทำบุญด้วยปัจจัย ด้วยซ้ำ ก็ได้รับความเมตตา...

ครั้งที่ 2 พาแม่ไปบำบัดกับ อ.อุบล ก็ได้รับความเมตตา ทั้งๆ ทำบุญไปเพียง 99 บาท แม่หายจากการปวดหลังเนื่องจาก

หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท...ไม่ต้องทำการผ่าตัดแล้ว ก็ไม่ทราบเหมือนกันนะคะ...ว่าเกิดอะไรขึ้น!  สงสัยเส้นประสาทแม่ยังคงดีอยู่...

ขอให้ความเมตตาที่ อ.อุบลมีให้ส่งผลกับไปยังอ.อุบลและครอบครัวด้วยนะคะ....แมว

สวัสดีครับ

ผมชื่อ สมชาย เทศสมบูรณ์ อยู่ จ.นครปฐม ป่วยเป็นโรคปวดขา ปวดเอว ปวดเข่า ปวดตามข้อ เป็นมาสามปี รักษามาหลายที่ คลีนิคที่บ้านโป่ง โรงพยาบาลคลีนิคที่นครปฐม ส่วนใหญ่บอกว่าข้อเข่าเสื่อม โรคเก้าท์  หมอแผนโบราณก็ไปหามาแล้ว ทั้งบีบ ทั้งจับเส้น แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่แย่ลง บังเอิญเปิดทีวีดูรายการคุยไปแจกไป ของท่านอาจารย์อุบล ดูแล้วเกิดความศรัทธา เชื่อมั่นว่าถ้ามาบำบัดต้องหาย ผมเหมือนเกิดใหม่ ตั้งแต่วันแรกที่ผมมาหาอ.อุบล วันเสาร์ที่ 5 มิ.ย. 53 ทำการบำบัด หลังจากบำบัดเสร็จ อาการที่เคยเป็นอยู่ ก็ดีขึ้นตามลำดับ จากที่ผมต้องกินยาแก้ปวด เช้า 4 เม็ด เย็น 4 เม็ด ก่อนนอน 4 เม็ด เดี๋ยวนี้ผมหยุดกินยา และหายปวดแล้ว หลังจากที่ผมมาเล่าเรื่องความชั่ว และการกระทำบาปของเรา

ขอให้ท่านที่จะไปบ้านสวนพีระมิด ขอให้พูดความจริง อย่าโกหก คุณโกหกอาจารย์ท่านก็รู้ แต่ท่านจะพูดหรือไม่พูดเท่านั้นแหละ

ผมไม่เคยรู้จักอาจารย์มาก่อน เมื่อนั่งคุยกับอาจารย์ อ.อุบลยังรู้เลยว่า ลูกอัณฑะผมบวม มีปัญหา เพราะเวรกรรมที่ผมเคยข่มขืน ชอบเรื่องกามา  ผมยอมรับครับ อาจารย์พูดจริงทุกอย่าง

ถ้าคุณคิดว่าคุณเป็นคนดี มีศรัทธาในพระพุทธเจ้า เชิญครับที่บ้านสวนพีระมิดของท่านอาจารย์อุบล รับรองหายแน่นอน แต่ถ้าคุณคิดจะมาลองเผื่อหาย  จะมาทดลองไม่ต้องมานะครับ เพราะคุณจะเป็นมากกว่าเก่า อาจารย์ไม่ได้เรียกร้องเงินทองนะครับ แล้วแต่คุณจะทำบุญ

ขอให้โชคดีกันทุกคนนะครับ และหายจากโรคที่เป็นอยู่กันทุกคนนะครับ

ขอองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจงคุ้มครองทุกท่านนะครับ

ขอให้โชคดี ร่ำรวยทุกท่านนะครับ

สมชาย  เทศสมบูรณ์

เรียน คุณกษมล แก้วมณี

ก่อนอื่นขอแสดงความเห็นใจคุณ ที่ไปบ้านสวนพีระมิด แล้ว ไม่พบปาฎิหารย์เหมือนคนอื่น

ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะ อ.อุบล บอกไว้ตลอดว่า คนที่ไป มีทั้งหาย ไม่หาย ดีขึ้น แย่กว่าเดิม

ขึ้นอยู่ที่กรรมเวรของเรา  ศรัทธาของเรา  ทรัพย์ที่เรานำไปทำบุญ บริสุทธิ์ หรือเปล่า เนื้อนาบุญบริสุทธิ์หรือเปล่า

เพราะถ้าครบ 3 อย่าง ต้องมีอานิสงส์ทันทีในวันนั้น นี่คือสิ่งที่ อ.อุบลแกพร่ำบอกทั้งทาง ที.วี และ เปิดเทปให้คน

ที่ไปฟัง  และ เท่าที่ไปหลายครั้ง  ที่มีความเห็นแตกต่างกบคุณโดยสิ้นเชิงคือ อ.อุบล จะไม่สนใจเงิน ใคร

ถ้าแกอยากได้เงิน  แกคงรีบขายเครื่องสำอาง  ดีกว่า  มาช่วยคน  เหนื่อยด้วย  นั่งทั้งวัน  พูดทั้งวัน  ต้องเลี้ยงอาหาร

คนที่ไป  แจกโน่นนี่  และที่น่าเห็นใจ อ.อุบล คือ  คนที่ไม่เคารพกติกาการบำบัด  ไม่ให้ความร่วมมือ  ไม่ยอมรับ

บาปกรรม  ความชั่วของตัวเอง  คิดว่าจะไปให้ อ.อุบล ตบ หรือที่คุณเรียกว่าลูบคลำ  แล้วจะหาย  จะรวย

อ.อุบล เขาก็บอกตลอดว่า  อ.ไม่ใช่หมอ  รักษาใครไม่ได้  ไม่เป็น  ไม่ใช่หมอดู  พูดไม่เข้าหูใคร 

ไม่เอาใจใคร  และ ที่พูดตรงกันหมด  แต่ ไม่ตรงกับคุณคือ 

1.อ.อุบล จะมีวินัยสูง  คนไม่เคารพกติกา

แกไม่บำบัด  เช่น ไม่เคยดูรายการไปก่อน  ไปเพราะมีคนชวนไป แกจะว่าคนพาไปด้วยซ้ำ ว่าทำไมไม่ให้เขาดู

รายการไปก่อน  ไม่งั้นก็ไม่เข้าใจ  อ.อุบล เขาคงเหนื่อยกับการต้องพูดกับคนที่ไม่รู้ว่า  เขาทำอะไร  

2.อ.อุบล เวลาบำบัด  จะขอบารมีพระพุทธเจ้า  จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยช่วยเหลือ ทั้งพระพุทธเจ้า  หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

พระอินทร์  พระพรหม  ท้าวเวสสุวรรณ มนุษย์ต่างดาว เท่าที่ผมจำได้  และ ท่านเหล่านี้ก็มาแสดงฤทธิ์เสมอ

3.อ.อุบล จะรู้ความคิดของคน  รู้กรรม  รู้หลายอย่าง  แต่ถ้าเราไม่ยอมรับ  การบำบัด ไม่เคยมีใครหาย หรือได้ผล

นอกจากพระพุทธองค์จะแสดงฤทธิ์  ก็จะเห็นกันต่อหน้าทุกคน

4.ที่ว่า คนทำบุญมาก อ.อุบล จะลูบคล่ำนาน  เท่าที่คุณเล่ามา  คุณให้เงินตั้ง 1 หมื่น ทำไมเขาไม่ลูบคุณนาน

แต่ผมทำแค่ 99 บาท แถม 1 บาท เป็น 100 แต่ อ.อุบล ก็ตบ เหมือนๆ คนอื่น  แต่ผมก็หายจริง  ถ้าไม่หายจริง

ผมก็คงไม่โง่เสียเวลาไปบ่อย ๆ หรอก

คราวนี้ผมขอถามคุณหน่อยนะ  ช่วยตอบหน่อย 

1.ก่อนไปบ้านสวนพีระมิด  คุณเคยดูรายการ คุยไปแจกไปหรือไม่  กี่ครั้ง  ตั้งใจดูตั้งแต่ต้นจนจบหรือไม่

2.ที่คุณบอกว่าไปด้วยศรัทธา  คุณศรัทธาใคร  เพราะอะไร

3.คุณเคยรู้จัก อ.อุบล มาก่อนหรือไม่

4.อ.อุบล เคยเชิญชวนคุณไปหาหรือไม่

5.อ.อุบล เคยบอกคุณว่า  จะรักษาให้คุณหายหรือไม่

6. คุณเคยเจ็บป่วยไปหาหมอที่คลีนิค หรือ โรงพยาบาลหรือไม่  ผลการรักษาเป็นอย่างไร 

7.เท่าที่คุณเล่า  เป็นมานาน  ทำไมไม่หาย  ไปหาหมอ  ตามไปขอเงินค่ารักษาคืนหรือเปล่า

8.คุณจะคืน  หรือ  ชดใช้ ค่าเสียเวลา  ค่าอาหาร  น้ำพีระมิด ฯลฯ ค่าที่คุณเข้าไป บ้าน อ.อุบล โดยไม่ได้รับเชิญอย่างไร

9.อ.อุบล ถามเรื่องกรรมที่ทำให้คุณป่วย  ว่าอย่างไร 

10.ขณะนี้  มือทั้งสองข้างของคุณ  มีอาการอย่างไร  ข้อนี้คือ สิ่งที่ผมเป็นห่วงคุณที่สุด  เพราะ ผมเห็นคนที่ไป

บำบัดเรื้อง ปวดมือ  กำมือไม่ได้  หรือ มือพิการ เกิดจากการเขียนข้อความอันเป็นเท็จบ้าง  เขียนว่าคนอื่นบ้าง

ผมจะคอยคำตอบจากคุณว่า  มือ ของคุณเป็นอย่างไร  อ้อ  แล้วก็  มีอาการปวดหัว  แน่นหน้าอก  ปวดเมื่อย

เนื้อตัวบ้างหรือยัง  ถ้าไม่มีถือว่า ปาฏิหารย์  แต่ถ้ามี  คุณเริ่มเป็น  คุณคงทราบดีว่า อาการนี้  ไม่เคยมีใครรักษาหาย

ผมเห็นทุกคนที่ไป บ้านสวนพีระมิด  ต้องสารภาพบาปกับ อ.อุบล เท่านั้น  นี่ผมเห็นต่อหน้า  เห็นกันทุกคน

ที่ออก ทีวี ก็มี  ที่ผมเห็น แต่ไม่ได้ออกทีวีก็มี

     ผมว่ากรรมที่คุณเป็นก็มากพออยู่แล้ว ทั้งคู่  อย่าก่อกรรมให้เพิ่มปัญหาใหม่เลยครับ  เพราะคุณกำลังต่อสู้อยู่กับ

สิ่งที่คุณมองไม่เห็น  ที่คุณเห็น อ.อุบล น่ะ  เป็นเพียงแค่ตัวแทนครับ  แต่ผู้อยู้เบื้องบน  เบื้องหลัง อ.อุบล นั้น

คุณไม่เห็น  แต่ผมเห็นครับ  และ  ท่านเห็นคุณตลอดเวลา  รู้ความคิดคุณ  รู้ว่าคุณทำอะไร  คิดอะไร  อยู่ที่ไหน

กำหนดชะตาชีวิตคุณ  ตามกรรมดี  กรรมชั่วของคุณ 

     ผมถือว่าคุณโชคร้าย  ที่ไม่รู้ว่าคุณโชคดี  ที่ได้ไปบ้านสวนพีระมิด  แล้วได้รับคำตำหนิจาก อ.อุบล

เพราะทุกคนที่ไป  ต้องเจ็บปวดกับสิ้งที่ อ.อุบล พูด  และ บอก  และหันกลับไปส่องกระจกมองดูตัวเอง  แล้วยอมรับ

ได้ว่าจริงเท่านั้นแหละครับ  จึงจะพ้นทุกข์ได้

     ผมเป็นห่วงคุณครับ  อยากให้คุณหาย  และ  ละความโกรธได้  คุณจะได้พบพระพุทธองค์ครับ ถ้าคุณเห็นธรรม

                                         ศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำครับ

เห็นด้วยกับศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำค่ะ

ดิฉันก็เป็นศิษย์หลวงพ่อค่ะ

ขอแนะนำให้คุณ กษมล  แก้วมณี  ไปฝึกมโนมยิทธิ ที่ซอยสายลม กรุงเทพ หรือวัดท่าซุงค่ะ

คุณจะรู้เห็นวิบากกรรมของตนเอง  และ  รู้ว่าการที่เรารู้ตัวเราว่าโง่  คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าสรรเสริญว่า

คนนั้นเป็นคนฉลาด  แต่ถ้าใครรู้สึกว่าตนเองฉลาด  ท่านว่าคนนั้นโง่ใหญ่ เหมือนเทวทัต

ดิฉันไปบ้านสวนพีระมิด เพราะ อ.อุบล บอกว่า  รับเฉพาะคนโง่  ชั่ว  และบาปหนา เหมือนอาจารย์

ฉะนั้น  คุณคงไปผิดที่  หรือไม่ ก็ไม่เคยดูรายการก่อนไป  ก็จะจูนกับอาจารย์ อ.อุบล ไม่ติด

เหมือน อ.อุบล เป็นเครื่องส่ง  เราเป็นเครื่องรับ  แต่ถ้าเราไม่ทำตัวเป็นเครื่องรับ  เครื่องส่งก็ยังคงส่ง

แต่เราจะรับไม่ได้ 

ดิฉันขอยืนยันว่า  ปาฏิหารย์ บ้านสวนพีระมิด ที่ดิฉันได้พบ  เป็นเรื่องจริง 

ยิ่งตอนทำกิจกรรมใช้แรงกาย  ยิ่งได้พบ  คุณได้ออกแรงบ้างหรือไม่  เพราะทุกคนที่ออกแรงทำบุญที่บ้านสวน

ด้วยความเต็มใจ  จะมีอาการปิติ  ขนลุก  หายปวด  หายเมื่อย  ตามองเห็นชัดขึ้น  โดยไม่ต้องพบ อ.อุบล

พวกเราจะคุยกัน เวลาทำกิจกรรมด้วยแรงกาย  และ ไม่รู้สึกว่าเหนื้อย  แค่นี้ก็ปาฏิหารย์แล้วค่ะ

ของคุณ ออกแรงทำอะไรบ้างคะ  แล้วมีความรู้สึกอย่างไร 

ดิฉันมีปัญหาหลายอย่าง ทั้งปวดหลัง  ไหล่  เอว  ขา  มึนหัว  ปวดสะบัก  เดี๋ยวนี้หายหมดแล้วค่ะ

ขอยืนยันว่า  ถ้าทำด้วยศรัทธา จริงๆ หายจริงๆ ค่ะ

คงไม่มีใครโง่ ไปบ้านสวนพีระมิด เพื่อไปหลอกคนอื่น ว่าตัวเองหาย  ทั้งๆ ที่ไม่หายหรอกค่ะ

บ้านสวนพีระมิด อยู่ทั้งไกล  ทั้งลึก  ทั้งหายาก  ติดต่อ อ.อุบล ก็ยาก  พบก็ยาก  ขายของก็ยาก

คุยโทรศัพท์ก็ยาก พูดก็น้อย  ทุกคนที่ไป ก็ดั้นด้นไป จากที่ไกลๆ เพื่อจะไปพูดออกที.วี โกหกว่าหาย

ดูเหมือนว่า  คุณจะดูถูกเหยียดหยาม  ว่าพวกที่พูดนี่โง่  โกหก  อยากดัง  หรือคะ

ลูกหลวงพ่อ

สวัสดีค่ะ  ดิฉัน  ทิพย์ประภา สามี นายธีรเมศร์และลูกสาว ด.ญ.ธิยารัตน์ สวัสดิ์ปัญญาคุณ อยู่บ้านเลขที่  261 ม.2 ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ  จ.สมุทรปราการ  10560 โทร.  0851309485

ขอยืนยันมาอีกทีค่ะ ว่ามาเข้าค่ายเพื่อหนีจนจริงๆค่ะ ในวันที่  25-27  มิถุนายน  2553

กราบขอบพระคุณค่ะ

ดิฉันก็เคยไปบ้านสวนพีระมิดค่ะ

แต่ดิฉันไม่หายขาด  แต่ดีขึ้นมาก  เพราะยังทำตามสัจจะไม่ครบค่ะ

ยืนยันว่า บ้านสวนพีระมิด ของจริง

คนจริง คน กทม.

ขอแสดงความยินดี..กับ..พี่สมชายด้วยนะคะ

แล้วพบกันที่บ้านสวนฯ นะคะ

สวัสดีค่ะ่อาจารย์อุบล

ดิฉันเคยดูรายการ"คุยไปแจกไป"เพียงครั้งเดียวก็สนใจและศรัทธามาก เลยมาดูซ้ำในเว็ปไซต์อีก เวลานี้ดิฉันเป็นโรคSLEอาการของโรคจะออกที่ผิวหน้า จะเป็นผื่นแดงตลอดเวลาบางครั้งจะอักเสบ,คัน รักษามา6-7ปีแล้วอาการก็เหมือนเดิม ตอนนั้นอยากไปที่บ้านสวนฯมากแต่ด้วยสาเหตุหลายๆอย่างที่ยังไม่มีโอกาสไป จึงได้สั่งซื้อเครื่องสำอางค์พาเมล่ามาใช้ดูก่อนเพราะคิดว่าพาเมล่าต้องช่วยเรื่องผิวหน้าของดิฉันได้แน่นอน เวลานี้ดิฉันรู้สึกว่าผื่นแดงที่หน้าดิฉันจางลงในเวลาไม่ถึงเดือนเลย และดิฉันก็มีโอกาสไปบ้านสวนฯมาแล้ว 2 ครั้ง ไปช่วยทำงานที่บ้านสวนฯหลายอย่างทำแล้วเป็นสุขค่ะเพราะเราทำด้วยใจ และจะไปอีกค่ะ ต้องไปทาสีพีระมิดสัญญากับอ.อุบลไว้ ถามเบอร์สีกับลุงช่างมาเรียบร้อยแล้วค่ะ   อยากให้ทุกท่านที่มีความทุกข์เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บไปบ้านสวนฯดูนะคะแล้วท่านจะพบกับความสุขค่ะ

ขอบคุณอ.อุบลมากค่ะ

เรียน  อาจารย์อุบล

                   ต้องขอโทษอาจารย์อุบลด้วย ที่ไม่เคารพกติกาการรักษา และมีส่วนทำให้อาจารย์ต้องเหนื่อยมากขึ้นเพราะปกติแล้วจะไม่อยากสร้างภาระให้อาจารย์เลย โดยเห็นว่าวันหนึ่งๆ อาจารย์ก็แทบจะไม่ได้หยุดพักอยู่แล้ว และยังแอบเป็นห่วงอาจารย์อยู่เสมอ         มีอะไรที่พอจะช่วยหยิบจับได้ก็อยากจะช่วยแบ่งเบาบ้างเพราะเล็งเห็นในความเสียสละ และความตั้งใจของอาจารย์ที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน 

                   เนื่องจากช่วงนี้หลานชายป่วยมาหลายวันแล้ว จึงต้องวุ่นๆเข้าออกโรงพยาบาลอยู่ ไม่มีโอกาสได้เข้ามาลงทะเบียนเข้าค่ายหนีความจนฯ รุ่น 2 เดิมทีตั้งใจว่าจะสมัครเข้าค่ายกับน้องสาว และจะมาทอดปาท่องโก๋เลี้ยงผู้มาเข้าค่ายตอนเช้าด้วย จึงไม่ทราบว่าปิดรับสมัครหรือยัง เพราะอาทิตย์ที่ผ่านมาไม่ได้ดูรายการ  พึ่งมีโอกาสได้เห็นความคิดเห็นต่าง ๆ วันนี้  ยอมรับว่าตกใจพอสมควร ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นผู้มาสร้างปัญหาให้อาจารย์เสียเอง จริง ๆแล้วไม่ได้ติดใจอะไร ที่แรกที่ได้ยินอาจารย์พูดก็ตกใจบ้างแต่ตอนท้ายอาจารย์ก็ได้อธิบายว่า ที่ต้องการให้ผู้ที่มารักษาได้ดูรายการก่อนเพราะจะได้เข้าใจง่ายต่อการรักษา อาจารย์เหนื่อยมาก เข้าใจดี 

                   ยังมีความหวังดี และห่วงใยเหมือนเดิม ถ้าหากว่าไม่ติดภาระกิจใดๆก็จะเข้าไปเยี่ยมเยือนที่บ้านสวนพีรามิดนะคะ  ( อยากเห็นสวนมะลิ กับ สวนฟักทองว่าเป็นอย่างไรบ้าง )

เรียนคุณลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ และคุณลูกหลวงพ่อ

จริงๆแล้วดิฉันไม่อยากเขียนเพราะกลัวว่าจะมีคนมองต่างมุมกันทำให้ไม่สบายใจก่อนหน้าที่ดิฉันจะเขียนในกระทู้ที่ 10ดิฉันได้คุยกับครูคนหนึ่ง(ขอสวงวนนาม)ไม่อยากให้เธอเดือดร้อนอีกดิฉันขอคำปรึกษาถามความรู้สึกกับเธอคุยกันอย่างละเอียดนานพอสมควรเธอบอกว่าไม่ให้ดิฉันโกรธคุณโกรธคุณก็ทุกข์คนเดียวอาจารย์อุบลไม่รู้เรื่องเลยแกพูดแล้วก็ไม่เก็บมาคิดดิฉันก็บอกว่าในฐานะที่เป็นครูเหมือนกันก็ปรึกษาเฉย ๆไม่ได้โกรธแค้นอะไรแค่ต้องการเงินที่ตั้งใจจะสร้างพีระมิดคืนเท่านั้นเพราะไม่สบายใจทำไปก็ไม่ได้บุญดิฉันคิดว่าพีระมิดยังไม่ได้สร้างขอเงินคืนก็ไม่น่าเสียหายอะไรครูคนนี้ยังบอกว่าคุณให้เลขบัญชีกับสามีของอาจารย์ก็ได้เขาหยิ่งพอที่จะไม่เอาเงินของคุณดิฉันบอกว่าจะเขียนเป็นจดหมายใส่ซองมาไม่อยากเขียนในกระทู้เดี๋ยวคนบางคนอาจจะรู้สึกไม่ดี เธอกลับต่อว่าดิฉันอีกว่ามีคนอย่างคุณนะซิประเทศชาติถึงล่มจมเหมือนเวลาเลือกสส.ก็ไม่ไปเลือกปล่อยให้คนเข้าไปโกงกินบ้านเมืองเพราะคิดว่าช่วยอะไรไม่ได้ดิฉันก็ขอตอบคำถามโดยรวมแล้วกันนะคะจริงๆวันนั้นเขียนกระทู้ยาวมากบรรยาความรู้สึกที่ดีตอนไปถึงเนื่องจากดิฉันก็เคยไปปฏิบัติธรรมที่วัดท่าซุงประมาณ สามปีติดต่อกันก็เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเหมือนกันแต่ดิฉันต้องหยุดห่างมานานแล้วเนื่องจากรับราชการไม่มีเวลาต้องดูแลพ่อที่อายุ  90 กว่าแล้วสามีก็ช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้จึงสวดมนต์ส่งเสียงตาม CDตอนขับรถไปทำงานและตอนกลับบ้านและก็พยายามทำความดีทุกวันดิฉันศรัทธาหลวงพ่อและลูกศิษย์หลวงพ่อทุกคนดิฉันศรัทธาในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเหมือนคุณแต่ดิฉันรู้สึกตอนก่อนไปทานกลางวันอยากทำบุญกับอาจารย์เพราะได้ฟังว่าไม่ควรกินหรือใช้ของใครฟรีๆดิฉันไม่มีแบงค์ย่อยจึงเดินไปที่อาจารย์แล้วถามว่าอาจารย์คะเอาเงินในบาตรทอนได้ไหมคะอาจารย์กำลังพูดกับใครไม่รู้จำไม่ได้หันกลับมาใช้สายตาไม่ค่อยสบอารมณ์บอกว่าได้ดิฉันใส่แบงค์1,000แล้วหยิบคืนแบงค์ร้อยห้าใบเพื่อเป็นค่าอาหารส่วนสามีดิฉันใส่กล่องไป100เพื่อเป็นค่าอาหารและเข้าห้องสุขาคนละครั้งจ่ายเงินทำบุญพิมพ์เล่มเล็ก100แล้วไปช่วยขุดตอหลุดไปหนึ่งต้นแล้วไปขุดอีก้นแต่แดดร้อนมากจึงทำได้ไม่นานตอนคำอาจารย์ถามว่าใครทำไม่เต็มที่ดิฉันก็ยกมือสารภาพเพราะทนไม่ไหวไม่เคยออกทำงานกลางแดดนานๆส่วนอาการปวดดิฉันเคยไปหาหมอที่ศิริราชตอนเริ่มเป็นใหม่ๆแต่ก็ไม่ได้รักษามานานแล้วรักษาองตามอาการทายาบ้างนวดแผนไทยบ้างบางครั้งปวดทีก็ทากันทีบอกอาจารย์ว่ามันไม่ได้ปวดทุกวันแต่ไม่อยากปวดอีกจึงมาหาอาจาย์ก็ตอบว่าแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าบำบัดแล้วเป็นอย่างไรดิฉันก็ไม่รู้จะตอบยังไงในใจก็คิดว่ามันก็เลิกปวดตลอดชีวิตไงแต่ก็กลัวอาจารย์ไม่พอใจก็ไม่ได้พูดอาจารย์ก็เลยว่าพูดไม่รู้เรื่องดิฉันไม่โกรธเลยถ้าอาจารย์ว่านางกษมลนี่โง่จริงๆแต่พอไปเกี่ยวข้องกับอาชีพครูก็เลยต้องขอโทษคุณครูทั้งหลายด้วยดิฉันโง่คนเดียวรับได้ค่ะอาจาร์บอกว่าดิฉันสั่งฆ่าไก่ตอนแรกก็นึกไม่ออกเพราะปกติสัตว์ที่ตายเพราะดิฉันเกิดจากความประมาทไม่ตั้งใจแต่พอนึกถึงไก่ไหว้ตอนตรุษจีนก็นึกได้ยอมรับแต่โดยดียังนึกชมว่าอาจารย์รู้จริงวันนั้นมีเพื่อนไปด้วยเขาพูดเรื่องเงินค่านำและเรื่องพี่สาวเขาเป็นมะเร็งที่ไตแล้วถูกเชิญให้ออกมาเพราะไม่ได้ทำบุญดิฉันเขียนรวบรัดบางคนอาจคิดว่าดิฉันคิดเองเพื่อนฝากมาคะดิฉันไม่เคยคิดว่าคนที่ไปโง่เพราะไม่งั้นดิฉันก็โง่ด้วยซิถึงไปแต่พูดตามความจริงที่รู้สึกเช่นนั้นก็ขอโทษทุกคนด้วยที่ทำให้ไม่สบายใจดิฉันจะสวดมนต์ขอบารมีของพระพุทธองค์และหลวงพ่อฤาษีลิงดำช่วยให้ดิฉันได้เงินคืนจะนำไปทำบุญที่วัดท่าซุงทุกบาททุกสตางค์ดิฉันคิดว่าดิฉันเคยเป็นสายบุญของท่านเพราะก่อนที่ไปปฏิบัติธรรมเคยขับรถหลงไปที่วัดโดยไม่ได้ตั้งใจและก็มีคนมาชวนไปปฏิบัติธรรมก่อนมาบ้านสวนนี้ก็ไปถวายสังฆทานมาแฟนเล่าให้ฟังว่าสมัยคุณพ่อเขามีชีวิตอยู่หลวงพ่อเคยมาที่บ้านและเคยไปเยี่ยมแม่สามีป่วยที่โรงพยาบาลพระมงกุฎตอนนี้ก็ยังมีอาการปวดสะบักบ้างบางเวลาค่ะดิฉันไม่ได้ลบหลู่เบื่องบนพระพุทธองค์ท่านทรงมีพระเมตตามากมายมหาศาลท่านคงไม่ทำอะไรหรอกค่ะพระพุทธองค์สอนให้ถือศีลห้าดิฉันพูดความจริงไม่พูดประชดประชันให้ใครได้อับอายดิฉันขอจบก่อนนะคะจะต้องไปดูแลคุณพ่อแล้ว

เรียนคุณลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำและคุณลูกหลวงพ่อ

เมื่อตอนเย็นเขียนกระทู้ตอบไปแต่พอกลับมาอ่านก็มีบางส่วนที่อยากเพิ่มเติมเวลาเขียนไม่ได้เว้นวรรคตอนเวลาอ่านบางทีอาจจะทำให้สื่อความไม่ตรงกันและมีเขียนผิดเช่นอีกต้นกลายเป็นอีก้นไม่ได้เจตนาค่ะดิฉันก็ขอขอบคุณในความห่วงใยที่คุณทั้งสองมีให้   ดิฉันก็ไม่ได้หวังให้อาจารย์อุบลรักษาเหมือนเวลาเราไปหาหมอแต่ดิฉันอยากรู้ว่ามันเป็นกรรมที่เกิดจากการทำชั่วอะไรต่างหากและเมื่ออาจารย์ถามเรื่องฆ่าไก่ดิฉันก็รับสารภาพแต่โดยดีตามที่เล่าให้ฟังดิฉันไม่ได้คิดว่าเงิน10,000ที่จ่ายไปนี้เป็นค่ารักษานะคะเพราะอาจารย์ไม่ใช่หมอดิฉันทราบค่ะแต่เป็นเงินที่คิดจะสร้างปิรามิดเมื่อเปลี่ยนใจที่จะไม่สร้างดิฉันจึงขอคืนเพื่อนำไปทำบุญอย่างอื่น    ดิฉันได้ดูเว็บก่อนไปค่ะแต่เนื่องจากดิฉันใช้เน็ตแบบใช้บัตรเติมเงินจึงไม่สามารถดูช่วงคุยไปแจกไปได้เพราะมันช้ามากเปิดดูแล้วก็ขาดๆหายๆดิฉันต้องขอโทษอีกครั้งเพราะไม่รู้ว่าเป็นเหตุที่ทำให้ครอบครัวปลัดนกต้องเดือดร้อนถูกอาจารย์ตำหนิที่ชวนดิฉันไปปกติจะไม่อยากทำให้ใครต้องเดือดร้อนอยู่แล้วแต่ดิฉันรู้ว่าเป็นสายหลวงพ่อฤาษีลิงดำก็เต็มร้อยแล้วค่ะถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่ใช่อาจารย์อุบลก็ตามศรัทธาก็เกิดแล้วดิฉันไม่รู้จักอาจารย์ว่าเป็นใครแค่รู้ว่าเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเท่านั้นดิฉันทราบว่าอาจารย์ช่วยคนโดยไม่ได้เรียกร้องเงินทองก็ยิ่งรู้สึกว่าอาจารย์ได้สร้างบารมีคุณทั้งสองคงมีบุญมากกว่าดิฉันจึงพบปาฏิหารดิฉันก็ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะดิฉันดูแลพ่อดูแลสามีมานานคงมีบุญบ้างเหมือนกันที่ทำให้ดิฉันทำผลงานคศ.3ผ่านและทุกคนเมื่อรู้ว่าสถานที่ใดมีสิ่งดีๆก็จะแนะนำกันทั้งนั้นเพราะคบกันมานานและ   ชื่นชมที่ดิฉันไม่ทอดทิ้งดิฉันทำงานคนเดียวในบ้านแต่ก็ไม่เคยท้อรู้ว่าคงมีกรรมมากก็ยอมรับและไม่รู้ว่าเกิดจากอะไรจึงมาที่นี่ค่ะคงครบทั้งสิบข้อแล้วนะคะทั้งสองกระทู้ที่เขียนมา  ส่วนอาการปวดหัวแน่นหน้าอกไม่เคยเป็นค่ะดิฉันคงไม่เคยใช้สมองคิดที่จะทำร้ายจิตใจใครจึงไม่มีกรรมในส่วนนี้คงไม่ใช่ปาฏิหารย์หรอกค่ะในชีวิตนี้เกิดมามีแต่คศ.3และเคยขอบารมีหลวงพ่อช่วยตอนพ่อดิฉันเข้าโรงพยาบาลเมื่อหลายปีก่อนและทำให้ดิฉันได้ไปฝึกมโนมยิษทิที่นั่นเท่านั้นค่ะที่ปาฏิหารย์ส่วนมือก็ยังทำงานได้ปรกติค่ะแต่เลิกตีสุนัขที่บ้านที่ชอบฉี่ใส่ล้อรถตามสัจจะที่ให้ไว้กับอาจารย์ค่ะทุกวันนี้ก็พยายามพูดกับเขาดีๆเขาก็ฉี่น้อยลงส่วนข้อที่พูดว่าคนอื่นๆบอกว่าหายตอนที่อาจารย์เอามือลูบนั้นดิฉันสังเกตอาการที่พวกเขาแสดงออกมาเหมือนไม่กล้าที่จะพูดมากกว่าเพราะคนเหล่านั้นอาจจะบุญน้อยจึงไม่หายเหมือนดิฉันขอย้ำนะคะว่าไม่เคยคิดว่าคนเหล่านั้นโง่หรืออยากดังอยากออกทีวีเลยค่ะสุดท้ายนี้ถ้ายังมีอะไรที่ทำให้ไม่สบายใจก็ขออโหสิกรรมไว้ด้วยนะคะยังไงก็ลูกศิษย์หลวงพ่อเหมือนกันถึงแม้ว่าจะเคยฝึกมโนมยิษทิแต่ก็ไม่สามารถรู้ได้หรอกค่ะว่ามีวิบากกรรมอะไรเพราะบารมียังไม่ถึงขั้นนั้นแต่ก็เชื่อว่าอาจารย์เห็นจริงๆค่ะแต่สิ่งที่ได้มาก็คือลดความตระหนี่ขี้เหนียวลงมากแต่ก่อนอย่าว่าแต่หมื่นเลยร้อยก็นานๆทำครั้งและก็ใจเย็นลงเยอะมากแล้วไม่อย่างนันดิฉันคงไม่สามรถดูแลคนแก่และคนป่วยในเวลาเดียวกันได้แน่เพื่อนยุให้ดิฉันเอาเรื่องถ้าไม่ได้เงินคืนเขาจะเป็นพยานให้เพราะเห็นดิฉันให้เงินแต่ดิฉันบอกว่าอย่าทำอย่างนั้นเลยดิฉันไม่อยากสร้างกรรมต่อไปแต่ถ้าเราไม่เต็มใจเงินนี้ก็ไม่บริสุทธิ์อยู่แล้วอาจารย์เขาคงไม่อยากติดค้างกับดิฉันหรอกดิฉันไม่ทำคนอื่นเขาก็ทำกันเยอะแยะ

อ.อุบล

แมว..ขอเป็นกำลังใจค่ะ

กราบเรียน อ.อุบล ที่นับถือ

ผมไม่ทราบว่า อ.อุบล จะจำผมได้หรือไม่  ผมเคยโทร.หา อ.เมื่อประมาณ 1 เดือนกว่า  บอกว่าขอฝากตัวเป็นศิษย์

ผมเป็นนักกฏหมาย และทำรายการ ที่.วี. แต่ติดตามดูรายการของ อ.แล้วศรัทธา ผมเป็นศิษย์มีอาจารย์เหมือนกัน

รวมทั้งหลวงพ่อฤาษีลิงดำ แต่ผมยังบารมีไม่ถึง อ.อุบล พอจะนึกออกไหมครับ  แต่ไม่เป็นไร เพราะ อ.คงมีคนติดต่อ

มากในแต่ละวัน  ผมดูแล้ว อ.ไม่น่าจะมีเวลาพักผ่อนเลย  อ.คือผู้เสียสละ  จะมีคนสักกี่คนที่จะทำเพื่อผู้อื่นได้ขนาดนี้

ผมอยู่ในวงการที.วี ผมรู้ดีว่า  ค่าใช้จ่ายในการทำรายการสูงมาก ดังนั้นเขาจึงเช่าเวลาและผลิตรายการเพื่อธุรกิจ

มีโฆษณาขั้นรายการ  เพื่อให้มีรายได้มาเลี้ยงรายการ  แต่ของ อ.อุบล ไม่มี  และสินค้าตัวเองก็ไม่ค่อยจะขาย

ไม่โอ้อวดสรรพคุณ ไม่ขายง่ายๆ  ไม่ชวนใครซื้อ  ซึ่งผมทึ่งมาก  ผมไม่เคยเห็นใครทำ 

          วันนั้น อ.บอกผมว่า  ทำเพียงแค่เป็นค่าใช้จ่ายในการทำรายที ที.วี เพื่อสร้างธรรมทาน  และ อ.ไม่ต้องการเกิดอีก

เพราะการเกิดเป็นคนไม่เห็นสนุกเลย  ผมบอก อ.ว่า  ผมก็มีทุกข์  โดยเฉพาะกับวิชาชีพ  ผมต้องฝืนใจตนเอง

อ.บอกให้ผมทำคดีเฉพาะช่วยคนถูก  จะได้ไม่ต้องไปนรก เพราะต้องโกหกตอแหล  คอยช่วยลูกความทีเป็นฝ่ายผิด

อ.บอกไม่ให้ผมเลิก อาชีพนี้  แต่ให้ทำอาชีพนี้ให้เป็นแบบอย่าง คือทำแต่สิ่งที่จริง

          จากวันนั้นผมก็ยังไม่เคยได้คุยกับ อ.อีก เพราะเคยโทร.หลายครั้งก็ติดต่อไม่ได้  คิดว่า อ.คงยุ่ง และสัญญาณ

อาจไม่ดี เพราะผมทราบจากรายการ  ที่ดูทางเวป  ผมเลยดูรายการ ติดตามทั้งที.วี และเวป

          บังเอิญมาเห็นกระทู้การกล่าวหา อ. แต่ผมไม่ทราบ อ.อ่านหรือยัง  เพราะยังไม่เห็น อ.ตอบ

ถ้าบังเอิญ อ.มาอ่าน  ผมขอไถ่บาปในชีวิตนักกฏหมาย ที่เคยทำคดีให้ผู้ที่ผิด  โดยขอทำคดีนี้ ให้ อ.อุบล

ผมขอล้างบาป  และขออานิสงส์ที่ได้ช่วยคนดี  ผมจะทำด้วยใจบริสุทธิ์  ไม่คิดค่าตอบแทน ทำให้ อ.อุบล

ซึ่งเป็นเนื้อนาบุญที่บริสุทธิ์ ในความรู้สึกของผม  ผมจำที่ อ.พูด ได้  ว่าถ้าบริสุทธิ์ครบ 3 อย่าง อานิสงส์

เกิดทันที  ผมอยากหนีนรกครับ  ถ้า อ.อุบล ตกลง  ผมจะเข้าไปพบ  พร้อมทั้งนำสำนวนฟ้องไปให้ อ.อ่านก่อน

ขอให้มอบอำนาจคดีนี้ให้ผมนะครับ อ.  ผมไม่ได้ต้องการดังนะครับ  แต่การเขียนข้อความของบุคคลดังกล่าว

ถือเป็นการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา  เป็นคดีอาญาครับ 

          ผมทราบว่า อ.มีเมตตาสูง  แต่การสั่งสอนลงโทษคนโง่ที่อวดฉลาด  ก็ถือเป็นเมตตาเหมือนกันนะครับ อ.

ถ้า อ.มอบหมายคดีให้ผมจัดการครูผู้นี้  อ.จะได้ทำงานรับใช้พระพุทธเจ้า  พระเจ้าอยู่หัวได้โดยไม่มีเรื่องรำคาญใจครับ

ด้วยความเคารพอย่างสูง   /สำนักงานกฎหมาย

บ้านสวนพิรามิดบ้านแห่งแสงสว่าง

ฉบับที่  2

ปาฏิหาริย์มีจริง

สวัสดีครับอาจารย์อุบล

          ผมอาจารย์สมยศและอาจารย์ชนารัตน์  ต้องขอขอบคุณอาจารย์อุบลอย่างสูงที่อาจารย์ชี้แนะแนวทางการบำบัดทุกข์และขอบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุมธเจ้า  ทำให้ผมหายปวดหลังที่เป็นมา  20  ปี  เมื่อผมได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของอาจารย์และได้ทำบุญที่บ้านสวนพิรามิด ผมหายปวดหลังทันที  เมื่อทำบุญด้วยแรงกายเสร็จแล้ว นับว่าเป็นปาฏิหาริย์ครั้งแรกที่ผมได้พบ ปาฏิหาริย์ครั้งที่ 2 ผมได้บูชาสปริ้งและพิรามิด  9  องค์  ( 9 สี ) เพื่อบูชาในคืนนั้นในระหว่างที่ผมเข้านอนมีความรู้สึกว่ามีผู้มาเยี่ยมที่บ้านผมเยอะมากเข้าใจว่าเป็นมนุษย์ต่างดาว  ปาฏิหาริย์ครั้งที่  3  ในระหว่างที่ผมนั่งสมาธิผมได้รับความเมตตาจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผมได้รับฉัพพรรณรังสีทุกวัน  ทำให้ผมสบาบเนื้อสบายตัวจิตใจแจ่มใสงานต่างๆที่ทำได้รับความร่วมมือจากครู  นักเรียนเป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อก่อนไม่เป็นอย่างนี้  ปาฏิหาริย์ครั้งที่ 4 ในระหว่าที่อาจารย์บำบัดทุกข์ให้ผู้ที่มาหาอาจารย์ผมจำวันที่ไม่ได้  จำได้ว่าเป็นวันเสาร์ เพราะผมกับอาจารย์ชนารัตน์ไปทำบุญที่บ้านสวนพิรามิดได้  7 ครั้ง  ผมนั่งหลับตา ผมเห็นธรรมจักรขนาดใหญ่ มีความสว่างมากหมุนอยู่ที่ด้านหน้าตรงอาจารย์นั่งอยู่ และผมได้น้อมจิตลงกราบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ทำให้ผมขนลุกทั้งตัว  เมื่อผมทำบุญที่บ้านสวนผมพบแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต  จิตใจแจ่มใสมากขึ้นหน้าตาสดใสมากขึ้น  บุญบารมีทั้งหมดที่เกิดขึ้น  ผมขออุทิศให้อาจารย์อุบลและครอบครัว จงประสบความสำเร็จในการปฏิบัติธรรมและเข้าสู่นิพพานได้ในชาตินี้

                                                                             อาจารย์สมยศ  สมถะธัญการ

                                                                                                 อุทัยธานี

                                                                                        23  มิถุนายน  2553

ปาฏิหาริย์มีจริงขอสนับสนุนเพราะเห็นจริง

                     ครั้งนี้ไม่ได้ทำการบำบัดเพราะเห็นว่าอาจารย์คงเหนื่อย อาจารย์ทักชื่อ อาจารย์สมยศ  อาจารย์ชนารัตน์  มีความรู้สึกว่าทำไมอาจารย์มีความจำดีมาก ลงมือทำงานเหมือนเดิมขอพรให้หายจากอาการที่เหลือ  ก่อนกลับขอพรอีกครั้ง

                     พบปาฏิหาริย์ครั้งที่ 2 เมื่อส่องกระจกเห็นต้อที่ตาเหลือจุดนิดเดียว  หนูดีใจมากขอขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์และอาจารย์ที่ทำให้หนูได้พบกับความสุข  มาปฏิบัติและทำความดี ทำบุญ 2ครั้งได้ผลมาเท่านี้  แต่ทำไม่ดีมามากเท่าไรไม่รู้  จะให้หายในทันที  เบื้องบนคงอมยิ้มกับความโลภของหนู  จริงอย่างที่อาจารย์อุบลว่า  ทำชั่วไว้ข้ามภพข้ามชาติ  แล้วจะมารักษาให้หายในวันเดียว  ความดีก้ไม่ทำ ศีลก้ไม่รักษา( หนูพูดถึงตัวเองนะค่ะ ) หนูจึงลองปฏิบัติด้วยการกำหนดลมหายใจให้มันเป็นระบบระเบียบที่ถูกต้อง ก็ดีค่ะมีสมาธิมากขึ้น 

                     ปาฏิหาริย์ครั้งที่  3  หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จคุณอัมมาทักว่า  น้องผิงบอกว่าจำพี่คนนี้ได้( หมายถึงตัวหนู) หน้าพี่เขาดีขึ้นมาก  หนูรู้สึกดีใจมากเพราะตั้งแต่หน้าตัวเองเปลี่ยนไปไม่เคยดูกระจกอีกเลย ขอขอบคุณน้องผิงที่ให้กำลังใจ  หนูกลับไปทำงานด้วยความสุขและตั้งใจจะปฏิบัติธรรมตลอดชีวิต  

                     ปาฏิหาริย์ครั้งที่  4  อาจารย์สมยศพาไปบูชาหลวงพ่อฤาษีลิงดำ  หลวงพ่อปานมาบูชาที่บ้าน หนูอธิฐานจิตขอเป็นลูกสาวของหล่วงพ่อทันทีไม่มีการลังเลใจ ขอปฏิบัติธรรมตลอดชีวิต  รวมทั้งกินมังสวิรัติ ทั้งที่หนูนั่งสมาธิมาปีกว่า      ไม่เคยเห็นองค์หลวงพ่อมาในจิตที่นั่งสมาธิเลย  แต่มาวันนี้หนูกลับเห็นองค์หลวงพ่อ และเห็นองค์สมเด็จ                           พระพุทธชิราช  น้ำตาหนูไหลมาเอง  หลวงพ่อคงเมตตาหนู หนูดีใจมากคิดว่าคนเราก็มีเท่านี้ถ้าดวงตาไม่เห็นธรรมความสุขก็คงไม่เกิด

                     ปาฏิหาริย์ครั้งที่  5  หนูจะนั่งสวดมนต์แล้วต่อด้วยการนั่งสมาธิประมาณครึ่งชัวโมงนั่งได้สักพักหนูได้ยินเสียง  เหมือมีคนเดินอยู่รอบๆตัวหนูแต่ไม่กล้าลืมตาก็นั่งต่อไปโดยไม่ได้คิดอะไรมาก  พอนั่งเสร็จก็มาถามอาจารย์สมยศว่าเดินขึ้นไปห้องพระหรือ  อาจารย์สมยศตอบว่าเปล่า สิ่งที่ได้ยินนั้นคงรอคำตอบอยู่ หนูเชื่อแล้วว่าการที่เราตั้งใจทำดีไม่ต้องมีคนเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เห็นหนูเชื่อ แต่มักจะมีบททดสอบมาให้หนูได้เจอบ่อยมาก   

                     ปาฏิหาริย์ครั้งที่  6  หนูขอขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์  องค์สมเด็จพระพุทธชินราช  สมเด็จองค์พระปฐม  หลวงพ่อฤาษีลิงดำ  หลวงพ่อปาน หลวงปู่สุข  อีกหลายองค์ที่หนูไม่ได้เอ่ยนามท่าน และที่ขาดไม่ได้เลยถ้าไม่มีอาจารย์อุบลที่คอยพร่ำสอนทุกครั้งที่มาปฏิบัติ  ขอขอบคุณอาจารย์ค่ะ  ขอขอบคุณอาจารย์สมยศที่ให้กำลังใจและเป็นแรงผลักดันให้การปฏิบัติธรรมเริ่มต้นด้วยดีและให้ความรักครอบครัวที่อบอุ่นมีความสุข ทำให้หนูมีสมาธิในการนั่งสมาธิมากขึ้น นักเรียนเชื่อฟัง 

                      ขอขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์  อาจารย์อุบลที่ช่วยเปิดตาและเปิดใจให้คนมีกรรมเห็นธรรม

                                                                                                ชนารัตน์  สิงห์ไพลาศ (ครูน้ำ )

                                                                                                            อุทัยธานี

                                                                                                    23  มิถุนายน  2553 

ขออนุโมทนาบุญกับอ.สมยศและอ.ชนารัตน์ ด้วยนะคะ

น่าชื่นชมจริงๆ ถ้า"แม่พิมพ์ของชาติ" ทุกท่านดวงตาเห็นธรรม คนที่โชคดีที่สุดก็คือ "นักเรียน"

เสาร์-อาทิตย์ น่าชวน"นักเรียน"กลุ่มเล็กๆ ไปทำบุญ(ด้วยแรง)ที่บ้านสวนพีระมิด นะคะ เมื่อเด็กๆรู้สึกดี เค้าก็จะได้ไปชักชวน"ผู้ปกครอง" ต่อ

สังคมที่มี"คนดวงตาเห็นธรรม" จะได้ขยายใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ.........

lสวัสดีครับ อ.อุบล

            ผมขอเป็นกำลังใจกับทุกๆบุญที่ อ.อุบลได้ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ทั้งหลายและช่วยชี้แนะผมให้เลื่อมในพระพุทธเจ้า

มากขึ้นอีก ละบาปตั้งตนให้อยู่ในศีลธรรม หันมาเริ่มทานเจลดการเบียดเบียนสัตว์ จิตใจสงบมากขึ้น เพราะผมคิดว่าผม

ยังต้องการคำชี้แนะของอ.อุบล เพราะสิ่งที่อาจารย์ชี้แนะเป็นเป็นเหตุเป็นผล ผมไปที่บ้านสวนปิรามิดมา 3ครั้งแล้วครับ

ทุกวันนี้พ่อผมหายปวดหัวเข่า ทั้งๆที่หมอบอกเป็นเกาว์ และยังศรัทธาอาจารย์ชวนไปบ้านสวนไม่ปฎิเสธเลยครับ

และยังพูดถึงอาจารย์บ่อยๆ ส่วนแม่ก็เชื่อในการชี้แนะของอาจารย์ ผมขอสัญญาว่าจะพาพ่อและแม่ไปพบอาจารย์

เมื่อมีโอกาส และจะชักชวนเพื่อนๆให้ดูรายการของอาจารย์เพื่อให้เข้าใจในเนื้อหาของรายการ แล้วถึงไม่ลำบากใน

การบำบัดของอาจารย์

                    ในท้ายนี้ผมขอให้อาจารย์และครอบครัว ซึ่งในวันที่ 25 มิถุนายนป็นวันเกิดของอ.อุบล มีความสุขมากๆ

สุขภาพแข็งแรง เป็นผู้ชี้แนะช่วยเหลือของผู้มีทุกข์ทั้งหลายต่อไป ผมพงษ์เดช ชาวไทย พ่อและแม่ขออวยพรอาจรย์

ด้วยความจริงใจและศรัทธาในความกรุณาของอ.อุบล

                                                                           ขอขอบพระคุณอ.อุบล มากครับ

ขอแสดงความคิดเห็นในทางพูทธศาสนาสักเล็กน้อยนะครับ   พูทธบัญญัติแสดงไว้หลายกรรมหลายวาระแต่ที่พอจะนำมากล่าวอ้างสรุปได้คือ การห้ามอวดอุตริ ในอดีตและปัจจุบันพระสงฆ์เคยประพฤติและต้องอาบัติ ปุถุชนทั่วไปสิ่งใดที่เขาห้ามสิ่งนั้นเสมือนแรงกระตุ้นให้อยากกระทำอยากลอง พระองค์ใดให้หวยผู้คนจะเข้าหา หมอดูทายทักสิบคนทายถูกสามคนก็บอกว่าทายแม่น ที่กล่าวมาพอสังเขปเพื่อจะบอกว่าพระให้หวยนั้นประพฤติผิดพระวินนัย หมอดูก็คือคนโกหก แต่ผู้คนส่วนใหญ่ก็ยังงมงายเพราะกิเลสและตัณหาบังตา มนุษย์มีกรรมเป็นของตน กรรมคือการกระทำมีทั้งดีและชั่ว การกระทำมาจากจิตที่มีกุศลและอกุศล ศาสนาเสื่อมถอยลงทุกวันเพราะลัทธิพิธีกรรมมีมีมากขึ้น และถ้าถามว่าลัทธิพิธีกรรมเกิดขึ้นได้อย่างไรขอตอบเองว่า ความโลภทั้งผู้เป็นเจ้าของลัทธิและผู้เข้าร่วม

ท่านทั้งหลายควรมีสติ  ลองมองคนรอบข้างที่ใกล้ชิดท่าน นับตั้งแต่พ่อแม่ลูกเมียพี่น้องและคนใกล้ชิดที่เคารพนับถือว่าเขาเหล่านั้นอยู่อย่างสุขสบายเท่าเราหรือไม่ เราสามารถสงเคราะห์บุคลเหล่านี้ให้มีควาสุขมากกว่าที่เป็นอยู่ได้หรือไม่ และเคยมาบ้างหรือเปล่าทำเป็นประจำหรือเปล่า หลายท่านอาจจะยังไม่เคยคิดก็ขอให้ลองคิดและลองทำดู ความสุขจากการสรรเสริญเป็นความสุขชั่วขณะ ความสุขทางใจที่เห็นผู้อื่นมีความสุขจะยั่งยื่นและเป็นกุศล

การอวดอุตริ  คือการอวดอ้างในสิ่งที่ไม่มีอยู่ในตน  แต่ถ้าสิ่งนั้นมีอยู่ในตน  พระพุทธองค์ท่านให้แสดง  และพระพุทธองค์

ท่านจะแสดงฤทธิ์เสมอ  ในการปราบมาร  และเพื่อให้ผู้ที่กำลังหลงผิด  กลับใจ  ให้รู้ว่า  วิชากรรมฐานขั้นสูงทั้ง 4 หมวด

นั้น มีผลจริง  มิฉะนั้นพระพุทธองค์คงจะไม่รับรองผลไว้  ว่าใครฝึกกองไหน  เอาจริง  ได้จริงทุกคน

      ดังนั้น  การอวดรู้  แต่รู้ไม่จริง  ท่านถือว่า  อวดอุตริ  อวดโง่ 

     วิชาพุทธศาสนา  คือ วิชาวิทยาศาสตร์  คนขี้เกียจไม่ศึกษาเอาจริง  แม้เป็นพระ  แม้อยู่วัด  ห่มขาว  ก็ไม่มีวันได้พบ

ยิ่งถ้า  จิตอุดมด้วยกิเลส  รุ่มร้อน  ริษยา ด้วยแล้ว  คงไม่พ้นต้องไปอยู่กับเทวทัตแน่นอน

      เราทำไม่ได้อย่างเขา  ก็อย่าไปอิจฉาเขา  ถ้าอยากทำได้  ก็เร่งฝึกฝน  พระพุทธองค์ยืนยันว่า ทำได้ทุกคน ถ้าเอาจริง  และ  ถ้าไปใช้เพื่อส่งเสริมให้คนทำความดี  ละความชั่ว  พระองค์ทรงสรรเสริญ  ไม่ถือเป็นการอวดอุตริ

แต่ถือเป็นสมาบัติ  ตามหลักสูตรที่ท่านสอนไว้  และ ท่านปรารถนาให้คนพิสูจน์  อย่าเอาความรู้สึก และ นิวรณ์

ไปตัดสินใครเลย  คนรู้จริงเขารู้ทัน ว่า  ริษยา...และ  ที่แท้ก็ยังเข้าไม่ถึงกรรมฐานสักกองเดียว

                                                                             ชาวบ้านธรรมดา

คนที่ศึกษาธรรมมะ  มีทั้งคนดี  คนชั่ว

คนดี  ก็จะเห็นสิ่งที่ดี  ว่าดี    เห็นสิ่งที่ชั่ว  ว่าชั่ว

ส่วนคนชั่ว  ก็จะเห็นสิ่งที่ดีว่าชั่ว  สิ่งที่ชั่ว  ว่าดี

เพราะเหตุนี้เอง  โลกจึงต้องเกิดการล้างโลก  เพราะคนชั่ว  ก็ชอบอวดอ้างว่าตนมีธรรมมะ  เป็นผู้รู้  ดูมีหลักการ

แต่ไม่เคยใช้ความรู้และหลักการ  ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่นเลย  มีแต่คอยติฉิน  นินทา  ว่าร้ายคนอื่น  คอยแทงข้างหลัง

ไม่กล้าเปิดเผยตัวเอง  ไม่ลงทุน  ลงแรง  แทงอย่างเดียว

          แต่คนจริง  เขาจะเปิดเผยตัวเอง  เสียสละ  ทำเพื่อผู้อื่น  ทำให้ผู้อื่นพ้นทุกข์  ก็ไม่หาว่าเขางมงาย

เพราะทำอย่างเขาไม่ได้ 

          เวลานี้ประเทศไทย  ต้องการคนจริง  คนทำ  ไม่ใช่คนดีแต่พูดว่าคนอื่น  ซึ่งพระพุทธองค์ ท่านไม่ทรงสรรเสริญ

อยู่แล้ว  ท่านบอกว่า  คนดี  นี่เขาจะกล่าวโทษโจษความชั่วของตัวไว้เสมอ  เหมือน อ.อุบล

          ที่ช่วยเหลือคนจริง  ยากจน  ร่ำรวย  ช่วยหมด  เปิดเผย  อุทิศทั้งแรงกาย  แรงใจ  ทั้งๆ ที่ไม่ต้องทำอย่างนี้

ก็น่าจะอยู่ดีมีสุขกว่า   อยากให้มีคนอย่าง อ.อุบล มากๆ  คนจะได้มีความสุข  ละชั่ว  กลัวบาป  ไม่เบียดเบียนกัน

          ถ้ามีแต่พวกคอยแต่จ้องจับผิดคนอื่น  ประเทศของเราก็จะเดินถอยหลัง  มีแต่ความแตกแยก  และปัญหา

คนเขามีปัญญา  เราต้องส่งเสริม  และเราก็ต้องใช้ปัญญาดูว่า  เขาทำให้คนมีสุข  หรือมีทุกข์   งมงาม  หรือเห็นธรรม

อยากเป็นผู้รู้  ต้องรู้ให้จริง  การอ้างอิงคำสอนของพระพุทธองค์  ต้องอ้างให้ครบ  ซึ่งบางที  ที่อ้างไม่ครบ

ก็อาจเป็นเพราะรู้ไม่ครบ  ก็ได้  น่าสงสารชาวพุทธอีกจำนวนมาก  ที่นับถือศาสนา  แต่ไม่รู้คำสอนที่แท้จริงของพระพุทธองค์  

ขออนุโมทนาบุญกับ  อ.อุบล  ที่ทำให้  ชาวพุทธตื่นตัว  ฝึกฝนธรรมมะ  มโณยิทธิ  เพื่อให้รู้เห็นด้วยตนเอง

จะได้ไม่มาสงสัยว่า  สิ่งศักดิ์สิทธิ์  และ  พระพุทธองค์  มีจริงหรือไม่จริง  สิ่งที่ อ.อุบล  สื่อให้เห็นนั้น  เป็นอุทาหรณ์

สอนคนให้รู้ว่า  กรรมเวรมีจริง  คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นจริง  พิสูจน์ได้จริง

ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ  เมื่อเหตุดับ  ผลก็ดับ  อ.อุบล  พิสูจน์ตรงนี้  และ  เป็นปรากฎการณ์ที่ ทำให้พวกเราชาวพุทธ

เร่งทำดี  ละความชั่ว  เพื่อหนีนรก  หนีความทุกข์  และอยากรู้เห็นเหมือน อ.อุบล  ท่านบอกว่า ทุกคนฝึกได้

ตอนนี้ก็กำลังฝึกอยู่  และ ก็เริ่มเห็นจริงแล้ว  ว่าทุกสิ่งที่ อ.อุบล  นำเสนอนั้น.........ของจริงแท้แน่นอน

เชิญพิสูจน์ด้วยการปฎิบัติตามหลักสูตร ของพระพุทธองค์ แล้วจะได้พบจริงๆ แล้วจะอายมาก  จะรู้สึกเลยว่าโง่มานาน 

สมัยเรียนหนังสือมัธยมปลาย

ผมไปเป็นเด็กวัดปทุมคงคา  เพราะฐานะทางบ้านไม่ดี  อยากเรียนกรุงเทพ  แต่พ่อเป็นครูใหญ่  เงินไม่พอที่จะเช่าหอ

ก็เลยไปพึ่งวัด  กินข้าวก้นบาตร  จนเรียนจบมหาวิทยาลัย  เรียกว่าอยู่วัดหลายปี

แต่ผมไม่ได้ศึกษาธรรมะลึกซึ้งอะไรเลย  เพราะการอยู่วัดของผม  อยู่เพราะเป็นที่ซุกหัวนอน  เป็นที่กินฟรี

ได้เรียนโดยไม่รบกวนทางบ้านมาก  จึงเข้าไม่ถึงธรรม  หลวงพี่ท่านก็ดูแลผมดี  กวดขันเรืองระเบียบ การเรียน

ผมพึ่งมาเข้าใจธรรมะ  ของพระพุทธเจ้า  ตอนมาดูรายการ อ.อุบล  นี่แหละครับ  ผมอยากรู้  อยากเห็น

อยากเป็นเหมือน อ.อุบล บอก  ว่าทุกคมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน 

ขอขอบคุณ อ.อุบล  ที่เสียสละทั้ง  แรงกาย  แรงใจ  แรงทรัพย์  และความสุขส่วนตัว  เพื่อช่วยเหลือผู้หาทางออก

ในชีวิตยังไม่ได้  ผมอยากช่วยแบ่งเบา  แต่ก็ยังไม่มีความสามารถสักอย่าง

เงินก็ยังมีน้อย  ความสามารถก็น้อย  เวลาก็น้อย  แต่ศรัทธาเท่านั้นที่มาก

ขอเอาใจช่วยนะครับ  ขอให้ อ.อุบล  เข้มแข็ง  ชนะมารนะครับ

อยากให้มี อ.อุบล มากๆ

อยากให้คนชั่ว  สูญพันธุ์

ไม่อยากให้โลกนี้  มีคนขจี้อิจฉา

ไม่อยากให้คนชั่ว  มั่วสุมปะปนกับคนดี

เด็กวัดอาจจะเสียดายเงืนที่ญาตินำไปทำบุญ  แทนที่จะเอาไปให้ตนเอง ...ก็ได้นะ  ถึงได้  ออกอาการขนาดนี้

ที่จริงก็น่าเห็นใจ  ที่รู้สึกว่าตนเอง  ยังไม่รวย  ไม่มีเงินมากเท่า...  ก็เลยรู้สึกว่า  เอาไปทำบุญทำไมนะ  ทำไมไม่เอา

มาให้เรา  น่าจะดีกว่าเป็นไหนๆ  และต้องหาทางทำลาย  ผู้ที่ญาติตนไปทำบุญด้วย  น่าเห็นใจ  น่าสงสารมาก

คุณเด็กวัดคุณศึกษามาดีแล้หรือค่ะ.. ก่อนที่จะแสดงความรู้เท่าที่คุณมีออกมา ลองไปปฏิบัติให้ถึงซึ่งของจริงก่อนนะค่ะ

ดิฉันก็ยังปฏิบัติเข้าไม่ถึงซึ่งของจริงหรอกค่ะ เพียงแต่คิดว่าตังเองยังเลวอยู่ อ่านเจอในหนังสือหลวงพ่อตอนท่านยังอยู่

ท่าน

พูดเสมอว่าท่านยังเลวอยู่แต่เวลานี้ท่านไปพระนิพพานแล้ว อ.อุบลท่านก็พูดเสมอว่าท่านก็ยังเลวอยู่แต่ท่านทำเพื่อคนที่

มีทุกข์มาหาเพื่อคนส่วนมากเพื่อปลดทุกข์.. แล้วคุณหละ?..ทำอะไรเพื่อตัวคุณเองและคนอื่นหรือยัง.. ถ้ายังอย่าเพิ่ง

ติเตียนคนอื่น

ปฏิบัติให้ได้ไปให้ถึงซึ่งของจริงๆๆๆด้วยตัวของคุณเอง แล้วคุณจะรู้เองว่าสิ่งที่คุณไปรู้จักและเจอมา+กับอีหลายๆๆคน

ที่เขาศรัทธาและเลื่อมใสว่านั่นนะคือของจริงๆๆ.. รอให้คุณพิสูจนะคุณเด็กวัด....(แต่ใจยังไกลวัดอยู่)

ผู้ไปเยือนบ้านสวนพีระมิดตอนนี้  มีบุคคลทุกระดับชั้น  ล้วนแล้วแต่มีทุกข์ต่าง

กัน  มีทั้งพระ  ทั้งคนธรรมดา  และ  คนไม่ธรรมดา  น่าเสียดายมาก ที่รายการ

ของ อ.อุบล มีเวลาเพียง 2 ช.ม./สัปดาห์  มิฉะนั้น  เราคงจะได้เห็นผู้คนมาก

กว่านี้ออกในรายการ ที.วี.

          ถ้าใครไปบ้านสวนพีระมิดช่วง 1-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา  ก็จะเห็นว่า  คนที่

ไปบ้านสวนพีระมิดนั้น  มีบุคคลระดับสูงจำนวนมาก  มีทั้งนายทหารระดับ

พลเอก (ว่าที่จอมพล)  พล.อ.ท.  มีทั้งตำรวจยศสูง  มีทั้งผู้บริหารสถานศึกษา

(ผอ.จำนวนมาก)มีทั้งพระ  ระดับเจ้าอาวาส  พระครูปลัด  พระครู รองเจ้าคณะ

ตำบล ฯลฯ  อาจารย์ ระดับ ดร. นักศึกษาแพทย์  หมอ  ครอบครัวหมอ 

พยาบาล  ชาวต่างชาติ  หลายชาติ (เข้าค่ายรุ่น 2 มี ชาวอเมริกันมาเข้าด้วย)

ชาวไร่  ชาวนา  คนทำงาน  คนตกงาน  นักกฎหมาย นักธุระกิจ  พ่อค้า เถ้าแก่

               เรียกว่ามีทุกระดับ-ทุกสาขาอาชีพ

บุคคลทั้งหลาย  มาด้วยปัญหาสุขภาพบ้าง  การงาน  การเงิน ความรักบ้าง

         จะเห็นว่า  มนุษย์เราไม่ว่าจะสูงส่งแค่ไหน  ก็ยังมีทุกข์  แม้ว่าจะมีเงิน

ทอง  มียศฐาบันดาศักดิ์แค่ไหน  ก็หนีกรรมไม่พ้น

        บ้านสวนพีระมิด  จึงเป็นความหวัง ของผู้ที่มีทุกข์ทั้งหลาย  ดีใจ และ

สุขใจเหลือเกิน  ที่เห็นผู้ที่ไปแล้วหาย  บางคนก็หายทันทีต่อหน้าผู้คนที่คอย

เอาใจช่วย  บางคนดีขึ้น  บางคนก็ไม่หาย(ส่วนใหญ่ที่ไม่หายเพราะไม่เขียน

กรรมของตนเองไป  ไม่ยอมรับว่าเคยทำบาป  กำลังบุญไม่พอ  ไปแล้วไม่ใช้

แรงกาย  นั่งรอ อ.อุบล รักษา  บางคนก็อยู่ไม่ครบขั้นตอน กลับก่อนทำสมาธิ

ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญ คือหลังทำสมาธิ  อ.อุบล จะพาส่งเจ้ากรรมนายเวรด้วย

การอุทิศบุญที่ทำมาตลอดทั้งวัน คือ ทาน  ศีล  สมาธิ)

          ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่หาย  ดีขึ้น  และ ผู้ที่ยังไม่หาย จงอย่า

ย่อท้อ  ขอให้กลับไปตั้งหลักใหม่  คิดใหม่  ว่าเราทำกรรมอะไร  เขียนไปก่อน

จากบ้าน  แล้วตั้งใจไปทำบุญให้มากขึ้น  โดยเฉพาะที่ อ.อุบล เน้นย้ำคือ บุญ

ที่ทำด้วยแรงกาย  มีอานิสงส์มาก  ส่วนใหญ่  หายตั้งแต่ช่วงดายหญ้า  เลื่อย

ไม้  ผสมปูน  ขุดตอ  ก็มี  บางคนก็หายตอนเข้าไปนั่งใกล้ อ.อุบล ซึ่งแปลก

มาก  มีทุกครั้งที่เห็นเหตุการณ์  ตอนแรกนั่งรอยังปวดอยู่  พอเข้าไปใกล้ อ.

ก็หายเลย  มีเรื่องตื่นเต้นทุกครั้งที่เห็นเหตุการณ์  ดีใจเหลือเกินทีมี บ้านสวน

พีระมิด  โชคดีของคนไทย  ที่ได้รู้จัก