ReadyPlanet.com
dot
dot
พระรัตนตรัย และ ครูบาอาจารย์
dot
bulletสมเด็จองค์ปฐม
bulletหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
bulletพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ
bulletดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
dot
รายการคุยไปแจกไป
dot
bulletรายการคุยไปแจกไป
dot
ข่าวสารประชาสัมพันธ์
dot
bulletข่าวสารประชาสัมพันธ์
dot
กิจกรรมบ้านสวนพีระมิด
dot
bulletค่ายบ้านสวนพีระมิด
bulletภาพและคลิปวิดิโอจากบ้านสวนพีระมิด
dot
บทความที่น่าสนใจ
dot
bulletบทความที่น่าสนใจ
bulletคู่มือหนีกรรมผิวพรรณ
bulletคำสารภาพบาป และ ประสบการณ์กฏแห่งกรรม
dot
International Version (ภาคภาษาต่างประเทศ)
dot
bulletEnglish Articles (บทความภาษาอังกฤษ)


อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์  บ้านสวนพีระมิด


010 พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร article

นางพัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร (นางสาวเพชรสุรางค์ เจริญศิลป์) (แหวน)
อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ (ไม่เคยไปเข้าค่าย และยังไม่เคยสารภาพออกทีวีคะ)

 
คำสารภาพบาป
          ขอสารภาพว่าหนูเป็นคนโง่ เลว ชั่ว ที่ได้ทำผิดศีลมาครบทุกข้อ แต่คิดว่าตัวเองไม่ผิด (บางข้อ ในอดีต) ด้วยความเมตตา คำสั่งสอนจากอาจารย์อุบล ปัจจุบันเริ่มฉลาดมาบ้างจึงสำนึกผิดทุกประการและไม่กล้าทำอีก ตั้งใจจะรักษาศีลให้ได้และทำแต่ความดี ตามอาจารย์อุบลทุกประการ
                ขอเริ่มจากศีลข้อ ๑ งดเว้นการฆ่าสัตว์ (ปาณาติปาตา เวรมณี) ถ้าเป็นการฆ่า อันนี้กรรม ใหญ่ ๆ ไม่ค่อยมากเพราะไม่เคยฆ่าคนหรือสัตว์ใหญ่ ที่จงใจก็มีสั่งมาทำเป็นอาหารให้ตนเองและครอบครัว กุ้ง หอย ปู ปลา ไก่ หมู วัว ควาย สัตว์ทะเล ก็เคยซื้อกินตามที่มีขายทั่วไป ที่ลงมือฆ่าเองก็มีจะเอาไม้ช็อตยุงในบ้าน ฆ่ามด เผาใบไม้ทำให้สัตว์ต่าง ๆ ตามพื้นดินตายไปด้วย เอาน้ำฉีดใส่ปลวก รังปลวก ที่ไม่ได้ตั้งใจก็มีเผลอไปเหยียบมด แมลง หอย สัตว์เล็ก ๆ ตามพื้น เวลาล้างห้องน้ำ เอาน้ำยาไปโดนสัตว์เล็กในห้องน้ำ และราดน้ำ คิดว่ามันคงตาย เคยขับรถทับแมวตาย 1 ตัว เคยเตะไล่แมวที่บ้านเพราะรำคาญ เคยตีลูกเพราะความขี้โมโหของตัวเอง และเคยทำร้ายจิตใจหมาที่เลี้ยงไว้ ไม่ค่อยได้ใส่ใจมัน จนมันหนีออกจากบ้าน และอีกสองตัวที่เลี้ยงไว้ ก็ได้ทอดทิ้งมันไปทำงานที่อื่น ปล่อยให้มันอยู่บ้านเองและให้พ่อแม่เอาอาหารไปให้มัน รู้สึกผิดมากและรู้ว่ามันคงเสียใจ คิดถึงเรามาก และกรรมอื่น ๆ อีกที่นึกไม่ออก
                ศีลข้อที่ ๒ งดเว้นการลักขโมย (อทินนาทานา เวรมณี) ข้อนี้ทำผิดไว้เยอะมาก เกิดจากกิเลสความโลภ ความอยาก แล้วไม่ยับยั้งใจตัวเอง ตกเป็นทาสของมัน หนักที่สุดคงเป็นชอบขอเงินแม่เกินความจริง เพราะอยากได้เงินไปกิน เที่ยว ชื้อของ จึงโกหกแม่ขอเกินที่ต้องจ่าย แล้วก็มีแอบโอนเงินแม่ไปให้คนอื่นก่อนแล้วแอบโอนคืนที่หลัง เคยอยากได้ตุ้มหู แต่ไม่อยากจ่ายตังค์ เลยซื้อสองอันแต่จ่ายอันเดียว ขโมยชัด ๆ เลย เคยเอาหนังสือและสื่อของเล่น สมุด กระดาษ อุปกรณ์ต่าง ๆ ของหลวงมาใช้ส่วนตัว เพราะแม่เป็นครูและเอามาให้ใช้ บางทีก็อยากได้เอง หลายครั้งที่ไม่ซื่อสัตย์เรื่องเงิน สมัยเรียนตอนทำโปรเจก เขียนต้นทุนเกินความจริงร่วมกับอาจารย์และเพื่อนเพื่อขอทุนมาทำ เคยยืมของของเพื่อนมาใช้แล้วไม่ได้เอาไปคืนทั้งหนังสือ เครื่องคิดเลข วงเวียน รองเท้า บางทีเพื่อนลืม ฝากไว้ในรถ ที่บ้านบ้าง ก็ไม่ได้เอาไปให้ (ไม่ได้อยากได้ของ แต่ขี้เกียจเอาไปคืน คิดว่าเรื่องเล็กน้อย แต่ก็คงบาป) เคยขายของแล้วกำลังจะทอนเงินให้ลูกค้า ลูกค้าไปก่อนก็ไม่ได้เรียก และอีกหลาย ๆ เรื่องที่นึกไม่ออก ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลก็ส่งผลให้ไม่มีสภาพคล่องทางการเงินเท่าที่ควร
ศีลข้อที่ ๓ งดเว้นการละเมิดกาม(กาเมสุมิจฉาจารา เวรมณี) ข้อนี้คงเป็นกรรมหลัก ๆ และหนักที่สุดในชีวิต เพราะความโง่ และประมาทในชีวิต ไม่คิดถึงจิตใจคนอื่น เห็นแก่ตัว ไม่มีความคิด และคิดว่าไม่ผิด เพราะเรายังไม่แต่งงาน สมัยวัยรุ่นเคยคุยกับผู้ชายพร้อมกันหลายคน และคิดแบบโง่ ๆ ว่าผู้ชายทำได้ ผู้หญิงก็ทำได้สิ (ตัวอย่างคือพ่อที่เจ้าชู้มาก) และบางครั้งคิดว่าเขาโง่เอง เราไม่ผิด โห เลว จริง ๆ เคยทำให้ผู้ชายเสียใจมาหลายคนบางครั้งก็ตั้งใจ บางครั้งก็ไม่ได้ตั้งใจ บางคนเพิ่งมารู้ทีหลัง ว่าเขาต้องมาร้องไห้เพราะเราทุกวันเป็นปี ๆ ต้องเรียนจบช้าไปหนึ่งปี เพราะไม่อยากเจอเราจึงต้องดรอปไป อีกคนก็มีส่วนให้เขาเรียนไม่จบทั้งที่อยู่ปีสุดท้าย อีกคนคิดว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาต้องย้ายไปทำงานที่ประเทศอื่น อันนี้คือหนัก ๆ ส่วนย่อย ๆ ก็มีอีก เคยคุยกับคนที่เขามีแฟนแล้ว อันนี้ตอนแรกไม่รู้มาก่อนเลย แต่ตอนหลังพอรู้ก็ไม่ได้คุยอีก แต่คิดว่าคงทำให้แฟนเขาเสียใจด้วยก็เป็นบาปกรรมนั่นแหละ เคยทำร้ายจิตใจผู้ชายด้วยคำพูดแรง ๆ ไล่เขา ด้วยความรำคาญ ทั้งที่เขาไม่ได้ผิดอะไร และได้รับอุบัติเหตุเพราะอยากมาหาเรา (รู้ทีหลังจากเพื่อน) สรุปแล้วคือ ไม่ได้จริงจังกับใครเพียงคนเดียว ไม่มั่นคง โลเล ปัจจุบันก็ได้รับกรรมในข้อนี้บ้างแล้ว เช่น สามีชอบโกหก แอบมีคนอื่น ไม่ค่อยใส่ใจเรา ทำให้เราต้องทุกข์ใจ ลูกก็ซนมาก ๆ ต้องเหนื่อยกับการมีครอบครัว การงานไม่ประสบผลสำเร็จ และกรรมที่ยังมาสนองไม่ถึงอาจเป็นโรคหัวใจและอื่นๆ ตามที่คนเจ้าชู้ทั้งหลายเคยมาสารภาพกันมา
ศีลข้อที่ ๔ งดเว้นการพูดเท็จ (มุสาวาทา เวรมณี) การโกหกมันก็สืบเนื่องมาจากที่ทำผิดในข้ออื่น ๆ นั่นเอง โกหกแม่ โกหกพ่อ โกหกครู โกหกเพื่อน โกหกแฟน โกหกคนอื่น ๆ อีกมาก เวลาโกรธ โมโห ก็พูดจาไม่ดีกับคนอื่น ด่า ว่า คนอื่น เคยตะคอกใส่แม่ พูดกระแทกแดกดันพ่อแม่ พี่ ญาติ เพื่อน เป็นคนพูดแรงไม่คิดถึงจิตใจคนอื่น คนที่ทำผิด คนที่เราไม่ชอบ ก็ไปว่าให้เขา ไม่ได้ดูตัวเองเลยทั้งที่เราก็ไม่ดีเหมือนกัน เคยพูดว่าให้คนอื่นเกินความจริง เพราะไม่ชอบคนนั้น พูดให้คนไม่ชอบกัน เคยนินทาคนอื่น พูดเพ้อเจ้อ พูดส่อเสียด ประชดประชัน กระแทกแดกดันให้คนอื่นเสียใจ ขี้บ่น จุกจิก น่ารำคาญ เคยด่าลูก ด่าหมา ด่าแมว ด่าสัตว์ต่าง ๆ ที่สร้างความรำคาญให้เรา  และคงพูดไม่ดีอื่นๆ อีกมาก
ศีลข้อที่ ๕ งดเว้นการเสพสุราเมรัย (สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานา เวรมณี) สมัยวัยรุ่นเคยเที่ยวกลางคืน ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ มีเงินเท่าไหร่ก็เอามาแต่งตัว ไปเที่ยว เฮฮากับเพื่อน จะสอบอยู่แล้วก็ยังไป โง่มาก ๆ เลยตอนนั้น เมาจนอ้วกแตกในรถก็มี เมาแล้วพูดไม่หยุดก็มี เวลาที่เราผิดศีลข้อนี้มันก็ยังพาลให้เสียไปอีกหลาย ๆ ข้อด้วย เสียเงิน เสียเวลา สมองก็เสีย อยากไปดื่มเอง แต่ชอบหาข้ออ้าง ว่าเพื่อนชวน ไม่ไปก็ไม่ดี กรรมนี้ก็ได้ส่งผลแล้ว ทำให้ความจำไม่ดี ไม่มีสติ ขี้หลงขี้ลืม ความจำสั้น ชอบคิดวนไปวนมา ขอแถมด้วยเ รื่องการพนันก็เคยเล่น แทงบอล ซื้อหวย บ้าง แต่น้อยมาก
นอกจากกรรมทางกายที่ได้ผิดศีลมาครบทั้ง ๕ ข้อแล้ว ยังมีกรรมทางใจที่เคยคิดไม่ดีต่อผู้อื่นอีกมากมาย ทั้งกับ พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ เพื่อน และคนอื่นๆ อีกมากมายด้วยคะ เคยทำให้พ่อแม่หนักใจ เป็นเด็กไม่ดี ดื้อ โกรธ ขี้โมโห เอาแต่ใจ เคยกระทืบเท้า ปิดประตูกระแทกใส่พ่อ แม่ พี่ และคนอื่น ๆ เลวครบสูตรเลยคะ
 
เมื่อได้เขียนสารภาพแล้วก็รู้สึกสบายใจขึ้นคะ ตอนแรกยอมรับว่าไม่กล้า อายคะ แต่พอเห็นคนสารภาพกันเยอะแยะ ก็เริ่มรู้สึกว่า เออ มีพวกแฮะ แล้วก็คงไม่มีใครจะมานั่งจำความผิดของคนอื่นได้หมดหรอก แล้วที่สำคัญ ถ้าไม่สารภาพตอนเป็นคน ยังไงตายไปก็ต้องสารภาพอยู่ดี เพราะต้องจำนนด้วยหลักฐาน เแต่อันไหนที่นึกไม่ออกก็ขอให้เจ้ากรรมนายเวร อโหสิกรรมให้ด้วยนะคะ เพราะสำนึกผิดแล้วจริง ๆ และพยายามเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนดี รักษาศีล 5 ให้ทาน ทำสมาธิ       ละวางความโลภ โกรธ หลง ขอบารมีพระพุทธเจ้าให้ช่วยโน้มน้าวกระแสจิตของเราให้มีจิตหลุดพ้น มีดวงตาเห็นธรรม ถึงนิพพานได้ด้วยคะ
ทุกวันนี้หนูเริ่มมีความสุขขึ้นมากตั้งแต่ได้ดูรายการของอาจารย์ ได้ใช้พลังงานพีระมิด และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเอง หันมาทานมังสวิรัติ สวดมนต์ อุทิศบุญตามที่อาจารย์บอก รู้สึกได้ชัดเจนว่าเราปล่อยวางได้มากขึ้น กิเลสลดลง รู้ทันอารมณ์ตัวเองเร็วขึ้น ส่งผลให้ไม่มีปัญหากับคนรอบข้าง ลูกน่ารักขึ้นมาก คนรอบตัวก็ดีขึ้น จุดมุ่งหมายในชีวิตเปลี่ยนไป จากเมื่อก่อนอยากได้บ้าน อยากได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าทั้งครอบครัว อยากโน่น นี่ มากมาย แต่ตอนนี้ อยากหลุดพ้น เพราะรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน กว่าจะเกิด กว่าจะโต กว่าจะเรียนจบ ทำงาน มีลูก หาเงิน เยอะแยะไปหมด แล้วพอตายก็ต้องเริ่มแบบนี้ใหม่เรื่อย ๆ หนูอยากหยุดทุกอย่าง พอแล้วคะ ตอนนี้หนูหวังให้ลูกได้เข้าเรียนที่สัตยาไสย เพราะเน้นเรื่องความดี ลูกจะได้ไม่ต้องสร้างกรรมอีกต่อไป เป็นโรงเรียนประจำลูกจะได้ไม่ต้องมายึดติดกับเราเพียงคนเดียว หวังว่าเขาจะสามารถเข้าใจสัจธรรมได้โดยไม่ต้องเสียเวลาไปทำกรรมชั่วก่อนเหมือนแม่ แล้วเมื่อหนูละวางบ่วงนี้ลงได้บ้างแล้ว เวลาที่เหลือจะได้มีโอกาสมุ่งสู่พระพุทธศาสนาบ้าง ถ้าหนูกับลูกพอจะมีบุญเก่าอยู่บ้างก็คงจะมีโอกาสไปพึ่งบารมีของอาจารย์ แต่ถ้าไม่เป็นไปดังหวัง หนูก็จะใช้คำสอนและปฏิบัติตามหลักศาสนาพุทธประคับประคองชีวิตไปให้ดีที่สุดจนถึงวันตายคะ
 
ขอขอบพระคุณพระพุทธเจ้า ที่ทรงมีเมตตาบัญญัติคำสอนให้พวกเราคนโง่ทั้งหลาย
ได้ตาสว่าง ขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพ พรหม เทวดา หลวงพ่อ ผู้ทรงศีล ทุกองค์ อาจารย์อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ที่เป็นสื่อสวรรค์ ช่วยชี้แนะและนำสิ่งดี ๆ มามอบแก่ลูก
ถ้ามีสิ่งใดที่หนูพอจะมีความสามารถ มีปัญญาแบ่งเบาภาระอาจารย์ได้ หนูยินดีทุกอย่างนะคะ และขอให้อาจารย์ชี้แนะหนูตลอดทุกภพ ทุกชาติไปตลอดจนเข้าถึงนิพพานได้นะคะ



คำสารภาพบาป และคำขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์

560 คุณหมอศิริพร ธนินทรานนท์ article
559 กันยภัทร เฟื่องฟู article
558 ศศิธร แก้วพิชัย article
557 นายมงคล ธงยศ article
556 พิบูลย์ คำศักดิ์ article
555 พรเพชร ทามนตรี article
554 ผดุงศักดิ์ มูลเชื้อ article
553 อารีวรรณ หิรัญเรือง article
551 ประไพ ศรีวิสิทธิกุล article
550 นนลณีย์ พงศ์วุฒิภรณ์ article
548 กัญญานี ถือธรรม article
547 วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ์ article
546 นรีพัฒน์ ภู่สาย article
545 เกสร ศรประสิทธิ์ article
544 กมลลักษณ์ โปษณกุล article
543 อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ article
542 สมจิต โพธิ์นิล article
541 อนุชิต กาลมัชฌิมา article
540 ธนากร โตสุวรรณ article
539 ไตรศักดิ์ ตันกูล article
538 เจริญ สินธนบูรณ์ article
537 เกรียงไกร สุดใจ article
536 อร่ามศรี สุวัตถิกุล article
535 อรัญญา คะโยธา (แอน) article
534 สุรชา มหาคุณอมร (เปลว) article
533 สายรุ้ง ศรีแตง article
532 วรินทร คัดชา (อุ๊) article
531 รุ่งสุภารัตน์ รุ่งเรือง article
530 เพชรดา วรรณรักษ์ article
529 พรรณี ศรีทะชะ article
528 ช่อแก้ว สารขวัญ article
527 สว่าง คงประโคน article
526 สมพร ขำนิ่ม article
525 รุ่งทิพย์ มุสิกรักษ์ article
524 ภัคจิรา ทามนตรี article
523 ประภาศรี อริยะอุดมกิจ article
522 ปนัดดา ฤกษ์ใหญ่ article
521 บุญเรือง ทะวงษา article
520 บงกชกร ละออจันทร์ article
519 ณัฐนันท์ พวงประโคน article
518 ชนกพร เอี่ยมชัย (แป้น) article
517 จีระวรรณ มูลสังข์ article
516 จันทิรา กาลมัชฌิมา article
515 จรัล มีศิลป์ (ปาน) article
514 กิ้น มิลิพันธ์ article
513 กันต์สินี อัครวิชนนท์ article
512 กอบกาญจน์ มะลอทอง article
511 เด็กหญิงวสุมา กาลมัชฌิมา article
510 เด็กหญิงเบญจมภร ครองยุติ article
509 เด็กหญิงกิรณา ครองยุติ article
508 เด็กชายธนาธิป มุสิกรักษ์ article
507 เด็กชายกิตติธัช กาลมัชฌมา article
506 ญาณิศา ครองยุติ article
505 อร อุ่นศรี article
504 สิริพร ศศิธรเวชกุล article
503 หงษ์สุดา นัตราพงษ์ article
502 พิชญ์นันท์ สุขวัจนี article
501 นิรมล นิมิตรมงคล article
500 วัณณิตา นันทะโรหิต article
499 จรรจิรา แก้วมณีรัตน์ article
498 สมคิด งามสมบัติ
497 รชยา ดำรงงามสมบัติ
496 พยอม ศรีนวล article
495 ปภาดา ธรรมนูญรัตน์
494 ธัญญารัตน์ พงศ์ศุภโรจน์ article
493 จิรพัชร์ ดวงมาลา (ป้าเตือน) article
492 เด็กหญิงศศรส สุวัฒนาพร article
491 จรัสศรี เที่ยงตรง article
490 กมลลักษณ์ โปษณกุล (อ๊อด) article
489 ประภา เงยวิจิตร article
488 อรวรรณ ยงยุทธ – สมิท article
487 พสิษฐ์ รัศมีจรัสฐากร article
486 สำราญ สหนาวิน article
485 วลัญช์ชิตา ชูนุ่น article
484 วิลาสินี ศิลารัตน์ article
483 ผกาพันธ์ ศรีสวัสดิ์ article
482 ณัฏฐ์นิธิมา แจ้งประจักษ์ article
481 ฉันทนา ชูนุ่น article
480 นรีพัฒน์ ภู่สาย article
479 กรศิริ ภู่สาย article
478 พร ปันธกา article
477 ผกาพรรณ ศรีสวัสดิ์ article
476 อมร ศิริมาศกูล article
475 สุรสิทธิ์ ศรประสิทธิ์ article
474 พงษ์เดช ชาวไทย article
473 ประพันธ์ ภู่สาย article
472 ใบ สิงห์นาคลอง article
471 เทวฤทธิ์ ท้าวคำ article
470 ทวี อิสระพายัพ article
469 ณัฐธีร์ รัศมีจรัสฐากร article
468 อัญชลา บุตรโส article
467 พญ. วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ์ article
466 วรินทร พดด้วง article
465 ศิริพร โฉมจันทร์ (ตุ้ย) article
464 วีรดา อยู่นวล article
463 ภารดี ลลิตกิตติกุล article
462 พรรณี ศรีทะชะ article
461 วินิตา สุธิวรา (ก้อย) article
460 ปาริชาติ เฟื่องไพบูลย์ article



[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (134823)

ขอสารภาพเพิ่มเติมที่นึกออกได้คะ

- เคยคิดไม่ดี และกล่าวนินทาต่อพระสงฆ์ ที่เราคิดเองว่าประพฤติไม่เหมาะสม

    ที่เห็นตามห้างสรรพสินค้า  ตามวัด และตามข่าวต่าง ๆ

- เคยได้ยินคนพูดกล่าวบางสิ่งที่ไม่ดีเกี่ยวกับพระราชินิ และพระบรมวงศานุวงบางพระองค์

    และเชื่อตาม คิดไม่ดี และนินทา นำไปบอกต่อ และเผยแพร่รูปและคลิปที่ไม่เหมาะสม

- เคยลังเลในตัวอาจารย์อุบล ไม่มั่นใจในบ้านสวนพีระมิด 100% แต่ตอนนี้ไม่เป็นแล้วนะคะ

- เคยนั่ง และนอน หันเท้าไปทางพระพุทธรูป และหนังสือพระต่าง ๆ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แหวน วันที่ตอบ 2010-10-29 09:57:52


ความคิดเห็นที่ 2 (134863)

อนุโมทนาบุญกับคุณแหวนด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น kroonok วันที่ตอบ 2010-11-04 14:51:12


ความคิดเห็นที่ 3 (140653)

อนุโมทนาบุญกับคุณแหวนนะคะ

ชั่วชิวิตนี้ที่เกิดมาตั้งแต่จำความได้ก็เริ่มทำชั่วแล้ว คือเริ่มฆ่าสัตว์ แรกๆฆ่าเพื่อสนุกตามประสาเด็ก โตมาหน่อยก็เริ่มล่าและฆ่าเพื่อเป็นอาหาร ตอนนั้นยังไม่รู้บาปบุญคุณโทษ หรือถึงจะรู้ก็จำเป็นต้องฆ่าเพื่อเป็นอาหาร ถึงจะไม่ใช่อาหารก็เคยฆ่ามาแล้วเกือบทุกชนิดโดยเฉพาะสัตว์เล็กๆที่ไมมีทางสู้ ถ้าจะสาธยายคงหลายหน้ากระดาษ เอาเป็นว่าศีลข้อ 1 เป็นอันดับ 1จากทั้ง 5 ข้อที่ได้ละเมิดมาเป็นข้อที่ร้ายแรงที่สุด ที่บาปหนักสุดๆก็คือการฆ่าคน(ทำแท้ง)และรู้เห็นเป็นใจเป็นธุระพาไป ผลคือทำให้ชีวิตตกต่ำ ตกระกำลำบาก ทำกินไม่ขึ้น ชีวิตไม่ราบรื่นเจอแต่อุปสรรค

เริ่มรักษาศีลมา 10 กว่าปีแล้วเลิกฆ่าสัตว์ทุกชนิดอย่างเด็ดขาด นอกจากมองไม่เห็นไม่เจตนา แต่ก็ยังทานสัตว์เล็กบางชนิดก็จะพยามเลิกโดยเด็ดขาด

นับแต่นี้ไปก็จะสารภาพบาปไปเรื่อยๆต้องทยอยสารภาพ เพราะศีลทั้ง 5 ข้อที่ล่วงละเมิดมา มากมายจนไม่สามารถเขียนได้หมดภายในวันเดียว

ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ทั่วสากลโลก สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในบ้านสวนปิรามิด ท่านท้าวเวสสุวรรณ และอาจารย์อุบล ได้โปรดเมตตาอโหสิกรรมให้ลูกด้วยเถิดเจ้าค่ะ

ลูกสำนึกผิดแล้วในเวรกรรมที่ได้กระทำมาทั้งหมด ขอให้ลูกได้มีเวลาชดใช้หนี้เวรกรรม ให้หมดภายภพนี้ชาติด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธนันท์ รูปโฉม (pattanan_ya-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2011-10-20 02:55:05



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.