ReadyPlanet.com
dot
dot
พระรัตนตรัย และ ครูบาอาจารย์
dot
bulletสมเด็จองค์ปฐม
bulletหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
bulletพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ
bulletดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
dot
รายการคุยไปแจกไป
dot
bulletรายการคุยไปแจกไป
dot
ข่าวสารประชาสัมพันธ์
dot
bulletข่าวสารประชาสัมพันธ์
dot
กิจกรรมบ้านสวนพีระมิด
dot
bulletค่ายบ้านสวนพีระมิด
bulletภาพและคลิปวิดิโอจากบ้านสวนพีระมิด
dot
บทความที่น่าสนใจ
dot
bulletบทความที่น่าสนใจ
bulletคู่มือหนีกรรมผิวพรรณ
bulletคำสารภาพบาป และ ประสบการณ์กฏแห่งกรรม
dot
International Version (ภาคภาษาต่างประเทศ)
dot
bulletEnglish Articles (บทความภาษาอังกฤษ)


อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์  บ้านสวนพีระมิด


254 อารดา (น้องแมะ) article

จดหมายจากคุณอารดา (น้องแมะ)
จ.       สุโขทัย

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2553
                        สวัสดีค่ะ อ. อุบล และ อ. มงคล ขอขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ทำให้ ตื่น ครั้งแรกที่ดูรายการของอาจารย์ ไม่รู้ ไม่เข้าใจ   แต่...ในปัจจุบันนี้รู้แล้วค่ะ เพราะอะไรอาจารย์พยายามจะช่วยทุก ๆ คน ในโลกมนุษย์ให้พ้นทุกข์ และทุก ๆ คน ในโลกนรกให้พ้นจากความทุกข์ หนูเข้าใจที่อาจารย์จะทำ แต่...อธิบายไม่ถูก
                        หนูอยากกลับบ้านมาก แต่กลับไม่ได้ หนังสือยังไม่ได้เรียน หนูจะขอมาเป็นลูกศิษย์ อ. อุบล และ อ. มงคล และขออยู่ทำงานเพื่อหาค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เป็นค่าเดินทางกลับบ้าน และเมื่อมีค่าใช้จ่ายพอแล้ว ก็จะอยู่คอยช่วยเหลืออาจารย์ทั้งสองอยู่ข้างหลังนะคะ
                        ในปัจจุบันนี้ก็ดูแลพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนๆ   และไปช่วยอาจารย์ทุก ๆ อย่างเท่าที่จะทำได้ หนูโง่ โคตรโง่มานาน แถมยังอวดเก่ง อวดรู้ อวดฉลาด แต่ ต่อไป จะฉลาดขึ้นแล้วค่ะ
                        สุดท้ายนี้ ขอให้อาจารย์ทั้งสองมีสุขภาพที่แข็งแรง เพื่อคอยช่วยเหลือคน ที่มีความทุกข์ คนโง่ และขอบารมีพระพุทธเจ้าทั้งหมด สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด ครูบาอาจารย์ทุก ๆ ท่านทั้งหมด คอยคุ้มครอง อ. อุบลและ อ. มงคล ให้มีความสุขตลอดไป
                                                                        ด้วยความเคารพและนับถือ
                                                                                    น้องแมะ
 
        สิ่งที่ไม่คาดคิดและสัมผัสได้ โดยไม่รู้สึก คือ พลัง   เมื่ออยู่ที่บ้านสวนพีระมิด ในครั้งแรก แต่ ไม่รู้ โง่ อยู่ตั้งนาน แต่ยังดีนะที่ยังฉลาด แต่ก็ฉลาดแบบโง่ ๆ   อวดรู้ อวดเก่ง  แต่สุดท้ายก็มีความรู้สึกว่า มีความสุขมาก ทำให้เกิดความศรัทธาเกินร้อย และแถมเป็นของขวัญเพื่อให้มีกำลังใจ อยากแต่...จะทำความดี และขอให้เป็นแบบนี้ตลอด จะได้มีกำลังใจ ว่ายังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คอยช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา
        ได้เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายที่บ้านสวนพีระมิด แต่เพราะความโง่   ทั้ง ๆ ที่อาจารย์คอยบอกอยู่ตลอดเวลา   ความรู้สึกช้าไปนิด แต่ก็ไม่สาย แรกเลยตำพริก....ครกใหญ่มากในชีวิตที่เคยตำมา   นี่เป็นครั้งแรกที่เริ่มรู้สึกตัว....แต่ก็ยังโง่.....แล้วเช็ดตู้เย็น......ก็รู้สึกได้สัมผัสพลัง....แต่ก็ยังโง่อีกตามเคย   แล้วทำไมไม่ง่วงนอน นอนพักผ่อนน้อยก็ไม่อ่อนเพลีย ก็ยังโง่อีก โง่แล้วโง่เล่า เมื่ออาจารย์ถามว่าง่วงไหม   ก็ตอบอาจารย์ว่าไม่ง่วง ก็ยังโง่อีก จนมานวดให้อาจารย์ ความรู้สึก   ความคิด ปัญญามา นิด ๆ หน่อย ๆ ก็โอ้อวดเก่ง จนมาถึงเวลา .....ที่อาจารย์มาทักอีก ที่นี้เหมือนเด็กน้อย ร้องไห้กลับบ้าน....อยากกลับบ้าน แต่...ไม่รู้ไปทางไหน พ่ออยู่ไหนไม่รู้ รู้เพียงว่าอยากกลับมาก ไม่อยากอยู่แล้ว และจะไม่แวะชมเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ แล้ว ใจคิดถึงบ้านมาก ความรู้สึกได้ตอนกอดอาจารย์ แล้วร้องไห้เหมือนเด็กน้อยเพิ่งตื่นนอนใหม่ ๆ ยัง งง ๆ ไม่รู้อะไรเลย ร้องไห้อย่างเดียว คิดถึงบ้านมาก อยากกลับบ้าน คิดถึงพ่อ พ่ออนุญาตให้กลับทุกคนเลย แล้วให้กลับด่วน เพราะจะมีอันตราย ....ช่วยตามทุก ๆ คนกลับด้วย....กลับบ้านด้วยกัน พ่อให้มาตามทุก ๆ คนกลับบ้าน ช่วงที่ยืนกอดอาจารย์ร้องไห้อยู่ ในความรู้สึกตอนนั้น รู้สึกเสียใจที่ทุก ๆ คนไม่อยากกลับบ้าน เราก็จะเอาแต่ใจตัวเอง   เลยร้องไห้ นั่งทุบตีกับพื้น ถ้าใครเห็นสภาพนี้ คงคิดว่าบ้า....จนอาจารย์ บอกว่า ให้กลับบ้านได้ คิดถึงพ่อ คิดถึงบ้าน ก็กลับบ้านได้ คิดถึงอาจารย์ค่อยมาใหม่   อาจารย์ให้ไปอาบน้ำแต่งตัวกลับบ้านได้ ดีใจ อยากจะชวนทุก ๆ คนกลับ แต่ไม่มีใครกลับ ควบคุมสติไม่ได้ ทุก ๆ คนมอง คงคิดว่าเสียสติ ฟุ้งซ่าน ใช่ ค่ะ ณ เวลานั้น ฟุ้งซ่านเพราะอยากจะชวนทุก ๆ คนกลับบ้านด้วยกัน จะกลับแบบโง่ ๆ โง่แล้วโง่อีกโง่ซ้ำโง่ซาก จนมานั่งรถกลับกรุงเทพฯ กับอาจารย์ อาจารย์ทั้งสองมีความเมตตา กรุณามาก ระหว่างนั่งรถกลับ ก็ยังบอกจะอยู่ เพราะว่าโง่ไม่สิ้นสุด จนมาถึงกรุงเทพฯ ได้ สติกับปัญญา แต่ก็ยังไม่ชัด จนลงรถนั่งรถมาถึงที่พัก มานั่งอ่านคู่มือหนีกรรมผิวพรรณอีกครั้ง ความตั้งใจจะอ่านให้ครบ 9 ครั้ง การอ่านครั้งนี้ครั้งที่ 8 ถึงได้ตาสว่างโล่งโถงเลย เพราะว่ารู้วิธีหาทางกลับบ้านได้ คืนแรกที่อยู่กรุงเทพฯ ได้เกิดปัญญาอีก   ได้เข้าใจคำว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ถ้าไม่มีอาจารย์คอยช่วย คงไปอยู่ตามส้วมที่คนเขาไม่ชอบ เป็นเพราะว่าจิตยังไม่สะอาด จิตสกปรก คอยแต่มุดอยู่ในห้องน้ำ ถ้าไม่มีอาจารย์   คงไม่เข้าใจ คำว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น แน่ ๆ เลย เราต้องตื่นอยู่ตลอดเวลา อาจารย์สอนแล้วสอนอีก สอนซ้ำ ๆ ซาก ๆ ซ้ำไปซ้ำมา ตอนนี้เข้าใจแล้ว 
                        ยังไม่หมดนะค่ะ อยู่ ๆ ที่ไปบ้านอาจารย์ จะไปปิดไฟ ไปโดยไม่ขออนุญาต โดนอาจารย์ดุ ตกใจมากกลัว ก็รีบบอกอาจารย์   ว่า จะมาปิดไฟที่ห้องคอมฯ... อาจารย์ก็ใจดีปิดไฟให้ ที่กรุงเทพฯ นะ อาจารย์ปิดไฟให้ เพราะบอกอาจารย์ไปอย่างนั้น ก็มองดูไฟ ก็ปิดจริง ๆ ที่กรุงเทพฯ แต่...อาจารย์มาเปิดตรงข้างอีก    ก็ บอกอาจารย์ว่าแสบตา... อาจารย์คงเหนื่อยหน่อยนะคะ มีลูกศิษย์แบบนี้   ลูกศิษย์คนนี้ อนุญาตให้อาจารย์ ดุ ด่า ว่ากล่าว ตักเตือน ชี้แนะ สั่งสอน ทำทุก ๆ อย่างเลยตามใจของอาจารย์   จะขอให้อาจารย์ฝึกอย่างหนักเลยค่ะ เอาแบบเร่งด่วน ทันใจวัยรุ่น ไม่รู้ร่นไหนนะคะอาจารย์ ลูกศิษย์คนนี้จะทำให้อาจารย์ปวดหัวก็ขออภัยด้วย ไม่รู้จักกาละเทสะ และไม่มีสัมมาคารวะด้วย มารยาทก็ไม่มี อาจารย์ก็อบรมสั่งสอน ตามใจอาจารย์เลย คืนนั้นแทบจะไม่ได้นอน แต่ก็ไม่เพลีย ก็มาช่วยในครัว ที่นี้ตำพริก มีหอมแดง คิดว่า จะตำอย่างเดียว เพราะอาจารย์อยู่ในมโนภาพตลอด ว่า สิ่งใดที่สกปรกมาก ๆ งานไหนที่หนักมาก ๆ ตรงนี้แหละสมาธิอย่างดี ตำไปภาวนาไปก็แสบตา   ก็เกิดอีกครั้งจะทำให้แสบมาก แล้วก็หาย แล้วก็แสบ ให้เรารู้สึก โอ....ใช่เลย มาช่วยกันตำพริกอีกแล้ว ทั้งวันไม่เคยง่วง ทำให้รับรู้โดยที่ไม่ได้ตั้งตัวเลย ขนาดท้องร้องหิวข้าวนะคะ เพราะว่าจะต้องทำงานให้เสร็จก่อน เห็นคนงานเขาทำงานกันตั้งแต่เช้า   ต้องรอกินทีหลังเจ้าของบ้าน เอาความรู้สึกนี้เป็นคนงานบ้าง   ว่าหิว ต้องทน ปรากฏว่า ไม่หิวข้าว   ขอบคุณค่ะที่คอยช่วยเหลือทุกครั้งเลย ถ้าเราทำความดีเมื่อใด จะมาช่วยทุกครั้ง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนที่เราไปรดน้ำต้นไม้ แต่ เกรงใจกลัวเจ้าของบ้านจะได้ยินเครื่องปั๊มน้ำมันดัง ก็ไปรดน้ำต้นไม้ ปรากฏว่าปั๊มน้ำไม่ดัง รดไปได้สักพัก คนงานเขาตื่นมา ก็มาเข้าห้องน้ำ ที่นี้ ปั๊มดังเลย  
                        เมื่อกลับถึงบ้านสุโขทัย เกิดขึ้นที่บ้านอีก ก็เปิด VCD ของยานนี เพราะว่าเพิ่งซื้อมาจากกรุงเทพฯ ช่วงที่เปิดมามีใครอยู่บ้าน เอาล่ะเปิดดังสุด ๆ ฟังแล้วผ่อนคลาย ฟังอยู่หลายรอบ ก็ไม่ได้อยู่หน้าจอ TV หรอกนะค่ะ จะเดินไปโน่นไปนี่ตลอด ที่นี้หลานชายมา ก็จะออกไปซื้อก๋วยเตี๋ยว แต่ในใจก็นึกว่า เออ เดี๋ยวไปปิด TV ก่อน เดี๋ยวพ่อจะมากินข้าว พี่ชายจะมากินข้าวกลางวันกัน ปรากฏว่าเดินมาในบ้านทุกอย่างปิดหมด หน้าจอ TV เป็นสีฟ้าไม่มีภาพ สายต่อไปเครื่องเสียงลำโพง ตัวที่เปิดขยายเสียงหยุด เอาอีกแล้ว อาจารย์ค่ะก็รู้สึกดีใจมีความสุข เดินยิ้มไปร้านก๋วยเตี๋ยว เพราะตั้งใจว่าจะไปซื้อก๋วยเตี๋ยวให้พ่อกินกลางวัน และเมื่อเวลาหัวค่ำ ก็เดินเอากล้องไปถ่ายอะไรเล่น อยากจะพิสูจน์ ก็ขออนุญาตแล้ว ก็เอากล้องจะถ่ายดวงจันทร์ ความเป็นจริงดวงจันทร์มีไม่เต็มดวง แต่ในกล้องที่ยังไม่กดชัดเตอร์ ถ่ายนะ   จะเต็มดวงและขยับมาให้ดูใกล้นะคะในกล้อง แต่ความจริงแล้วดวงจันทร์ก็มีไม่เต็มดวง แถมยังไม่เคลื่อนไหว ก็ทำแบบนี้อยู่หลายครั้ง เพื่อความแน่ใจและมั่นใจ ดีใจค่ะ ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่าง โดยเฉพาะชาวต่างดาว ในความรู้สึก คิดว่าคงเป็นเพราะชาวต่างดาว มาแสดงให้เห็น ก็อยากจะเป็นแบบนี้อีก เพื่อเป็นรางวัลเป็นของขวัญ ทำให้มีความสุข คือว่ามันอธิบายไม่ถูกค่ะ ว่ามีความสุขแบบไหน ที่ได้รับรู้ สัมผัส เห็น แบบนี้ค่ะอาจารย์ 
                        ถ้าจำไม่ผิดนะคะอาจารย์   ตอนที่อาจารย์ให้เขียนลงในกระดาษในวันเข้าค่าย ว่า..สิ่งที่เราปรารถนาคืออะไร ถ้าจำไม่ผิดนะ อยากได้ความสุข ความสงบ และนิพพาน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นกิเลส ก็กิเลสอยากมีความสุข กิเลสอยากมีความสงบ กิเลสอยากนิพพาน ตอนนี้ได้มาถึงนี้แล้ว จะไม่ขออะไร เฉย ๆ แล้วค่ะ นิพพานก็เฉย ๆ และตั้งหน้าตั้งตาทำความดีอย่างเดียว เพื่อเอาไปคอยช่วยเหลือทุก ๆ คน ที่เขามีความทุกข์ 
                        ถ้าทุกคนบนโลกนี้ มีแค่ครึ่งหนึ่งอย่างที่ ดร. อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ว่า ทุก ๆ อย่างคงไม่ยุ่งวุ่นวาย และจะไม่เกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงถึงวันนี้
 
 
16 พ.ย. 53                   12.32 น.
                                สวัสดีค่ะ อ. อุบล และ อ. มงคล     ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง กับคุณครูบาอาจารย์ทุก ๆ ท่าน ที่ทำให้ลูกศิษย์คนนี้ คนโง่ ๆ โง่แล้วโง่อีก โง่แบบหาที่ติได้เสมอ คือว่าดีใจจนนึกไม่ออก เอาเป็นว่า ส่งเครื่องปั่นมาช่วยพี่เตี้ย ไปก่อน  เดี๋ยวกลับไปที่บ้านสวนฯ จะเป็นคนตำเอง ของฝากจากสุโขทัย อาจารย์ช่วยบอกพี่เตี้ยด้วย ไส้เมี่ยงมีแต่ของเก่าเลยไม่ซื้อให้ คอยกินวันหลังก็แล้วกันนะจ้ะพี่เตี้ย รบกวนกรุณาด้วยนะคะ ให้ทุกคนช่วยกัน สาธุ ค่ะ จะได้ด้วยกันค่ะ ที่มาทำงานที่บ้านสวนฯ ทุก ๆ คนเลยค่ะ ดีใจมากค่ะเลยลืมเมล็ดดอกไม้   แล้วผ้าขี้ริ้วไว้เช็ดอะไรก็ได้ เตรียมไว้แล้ว แต่เพราะรีบจึงลืม 
                        มีเรื่องราวเกิดขึ้นทุกวัน แหม เป็นคนดีช่วงนี้ รีบอยากจะทำนะ แต่ ก็พยายามให้ได้มากที่สุด อยู่ที่บ้านตัว ขี้เกียจ เกียจคร้านเย๊อะ ต้องขอรบกวนอาจารย์ ไปอยู่ใกล้ ๆ อาจารย์ พ่อ แม่ ทุก ๆ คนรู้แล้ว เพราะว่าตอนมาครั้งที่เข้าค่ายกฐินไม่ได้บอกใคร ตอนนี้ท่านทั้งสองอนุญาตให้ไปช่วยอาจารย์ได้เสมอ จะช่วยทุก ๆ คน ให้พ้นทุกข์ เหมือนที่อาจารย์ทั้งสอง กำลังช่วยทุก ๆ คน อยู่ในขณะนี้
                        แล้วก็อาหารเจ้าบิ๊ก ถ้าบิ๊กไม่กินก็ให้เป็นอาหารของสุนัข (หมา) แมว ที่ลูกศิษย์ได้เลี้ยงไว้ ตั้งแต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ถ้าผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยค่ะ ขอให้มีความสุขยิ่ง ๆ ขึ้น
                        และขอฝากสมุดเล่มนี้ไว้กับอาจารย์ทั้งสองก่อนนะคะ เดี๋ยวกลับไปจะได้เขียนต่อ
                                                        สวัสดีอีกครั้งนะคะ
                                                        ด้วยความเคารพอย่างสูง
                                                        น้องแมะ
 
 
        กราบสวัสดีอาจารย์ทั้งสองค่ะ มาอีกแล้วค่ะ อยากจะบอกให้ อ. อุบล และ อ. มงคล รับทราบวันนี้นะคะ ลูกศิษย์คนนี้ ในความคิดนะคะ อยากช่วยพี่ชายคนนี้ เขาไม่มีครอบครัว เหมือนเป็นเสาหลักในบ้าน ให้กับ พี่ น้อง   ก็ให้ยืมเงิน แต่ก็มีดอกนะคะ ทุก ๆ คนก็เต็มใจให้ แต่พี่ชายคนนี้เป็นคนขี้เหนียว ประหยัด...สุด ขอแทนตัวเองว่า “หน” นะคะ หนูรู้ว่าเขาผิดศีลข้อ 2  เพราะเวลาเขาไปทำงาน จะมีของติดไม้ติดมือมาด้วยทุกครั้ง เขาจะหยิบขโมยของจากที่ทำงานมาเป็นประจำ เหมือนกับหนูนี่แหละ อาจารย์ค่ะ เงินเขาก็มี แต่เขาไม่เคยออกค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ไม่เคยให้พ่อ แม่ใช้ ไม่ช่วยเหลือครอบครัว ไม่ใช่นินทานะคะ เล่าให้ฟังเฉย ๆ   เมื่อเช้าก็นั่งล้างจาน อุทิศบุญให้เทวดาประจำตัวเขาตลอด ในสมองคิดว่าอยากจะช่วยพี่บ้าง จะเอาเงินของพี่ชายคนนี้ ออกมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายภายในบ้าน เขาจะได้บุญบ้าง แล้วก็ลองขอเงินเขา ก็คิดว่าถ้าเขาไม่ให้ก็ไม่เอา   แต่เขาให้ก็จะเอา มาซื้อของให้ทุก ๆ คนได้กินได้ใช้บ้าง อยากทราบเป็นการช่วยเหลือเขาทางอ้อมหรือเปล่า คือว่า จะเอาเงินเขามาทำบุญบ้าง อยากช่วยพี่มาก พอดีหนูอ่านหนังสือตอบธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำว่า ภรรยาขโมยเงินสามีมาทำบุญกับหลวงพ่อจะบาปไหม หลวงพ่อตอบว่าไม่บาป เพราะว่าสามี ภรรยาเป็นคนคนเดียวกัน แต่หนูกับพี่ชายไม่ใช่สามี ภรรยา แต่.. เป็นพี่ชายกับน้องสาว หนูคิดว่าไม่บาปนะ เพราะหนูมีเจตนาดี  อยากช่วยพี่ชาย แต่...อย่างไรก็ต้องรบกวนอาจารย์ทั้งสองด้วยนะคะ ว่า จะบาปหรือไม่บาป
        ตอนนี้หนูพยายามจะช่วยทุก ๆ คน ที่เรารู้จัก เวลานี้สอนหลาน ๆ ให้ฝึกสมาธิกับเรื่องทำความดี เช่น เก็บขยะในวัด สอนให้ไหว้พระ สอนให้เขารู้ว่ามีเทวดาอยู่ข้างบน ว่าถ้าใครทำความดีเขาจะจดเอาไว้ ถ้าใครทำความชั่วก็จดเอาไว้ ถ้าตายไปความดีมีมากกว่าความชั่ว ก็ให้อยู่บนสวรรค์ และถ้าใครมีความชั่วมากกว่าความดี อยู่ในนรก ตอนสอนหลานๆ   ก็เข้าใจนะ เพราะว่าหนูเป็นคนนำให้หลาน ๆ ทำตาม
        และที่ดีใจสุด ๆ นะคะอาจารย์ แม่....เขาก็เข้าใจ หนูอธิบายให้แม่ฟังเขาก็เข้าใจ อย่างวันนี้ไปทำความดี เช่น ซื้อเครื่องปั่นและขนม ก็มาบอกให้แม่ว่า ได้ซื้อเครื่องปั่นและขนมของฝากให้อาจารย์ ให้แม่โมทนา สาธุ แม่ก็ทำ และไปไหว้พระแม่ย่า บอกแม่ว่าไปขอขมาขอโทษแม่ย่า ว่าลูกหลานคนนี้สำนึกผิดแล้ว ลูกหลานคนนี้จะมาขอบพระคุณ ขอขมาพระแม่ย่า ว่ามีบุญคุณกับลูกหลานมาก ถ้าไม่มีแม่ย่า ลูกคงไม่มีแผ่นดินอยู่ และไม่ได้มาเกิดเป็นหลานท่าน หนูเป็นคนสุโขทัย ลูกพ่อขุนราม หลานพระแม่ย่า อ้าว หนูลืมไป ขอบพระคุณและขอขมากับพ่อขุนเลย เดี๋ยวหนูไปช่วงลอยกระทงทีเดียวเลยค่ะ งานลอยกระทงสุโขทัย หนูจะได้ขอขมา ขอบคุณต่อแม่คงคาที่ได้ให้ชีวิต มาตลอด เอาน้ำมาใช้ทุก ๆ วัน ใช้ชำระล้างสิ่งสกปรก ใช้ดื่ม ใช้ประกอบอาหาร เดี๋ยวหนูก็ลอยกระทง เพื่อเป็นการแสดงถึงความกตัญญู ต่อพระแม่คงคา
        แล้วเมื่อวานนี้ก็ไปตักข้าวเปลือกในยุ้งฉาง บ้านนอกเรียกว่ายุ้งข้าว คือที่เก็บข้าวเปลือก ปกติจะไม่ทำหรอกนะคะอาจารย์ ถึงทำก็ทำแบบไม่เต็มใจ เพราะว่าแม่ใช้ แม่กับหนู (ก่อนมาบ้านสวนฯ) แค่แม่อ้าปากจะพูดนะ อารมณ์หนูขึ้นสูงมาก แต่เดี๋ยวนี้ รัก และห่วงใยกัน แปลก....จริง เพราะหนูรู้ว่ามันบาป   หรือรู้ว่านรกมาคอยรับเลย รีบทำแต่สิ่ง ดี ดี ให้แม่กับพ่อ ซึ่งเป็นพระในบ้าน ให้ลูกหลานได้กราบไหว้ ในระหว่างที่ตักข้าวเปลือกก็นึกขึ้นได้ โอ้ เราลืมอีกแล้ว พระแม่โพสพ ก็ยกมือไหว้ แม่พระโพสพ ว่าลูกขอกราบขอโทษ ขอขมา ลูกอกตัญญู อะไรทำนองนี้แหละอาจารย์ บุญคุณอันใหญ่หลวงที่ลูกได้มีชีวิตถึงทุกวันนี้ ถ้าไม่มีพระแม่โพสพเราคงไม่มีข้าวกิน แล้วก็ขอบคุณคนที่ทำนาด้วย ในระหว่างตักข้าวเปลือกอยู่ ข้าวเปลือกจะไหลเพราะว่าเราตัก ส่วนที่ถูกตักก็จะมีข้าวไหลมาแทนที่เก่า หนูกลัวมันจะไหลลงมามาก ก็บ่นรำพึงรำพรรณกับตัวเองว่า โอ๊ โอ๊ โอ๊ อย่าไหลนะคะ แม่หนูเขาอุตส่าห์กวาดให้เป็นกองใหญ่ เราบ่นแค่นี้นะอาจารย์ ข้าวมันหยุดไหลทันทีเลยค่ะ   และในระหว่างที่ตักข้าวเปลือกอยู่นะคะ คายของข้าวเปลือกมันฟุ้ง หนูจะจาม ปกติการจามมันจามยาว อย่างเช่น ฮัดเช่ย.... แต่ไม่ทันได้ออกคำแรกหมด ก็หยุดจามทันที หนูก็รีบขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หนูชอบมากการทำความดี มันเท่ห์ดี มันโก้ดี นะคะอาจารย์ ทำไมทุกคนไม่อยากจะทำ คงเหมือนหนูตอนที่โง่ ดับเบิ้ลโง่ โง่แล้วก็โง่ แบบโง่ โง่ ตอนนี้หนูเพิ่งเริ่มต้นฉลาด ใช่ไหมค่ะอาจารย์
        และอีกเรื่อง โอ๊ย ขนหัวลุกอาจารย์ ก็ไอ้ความอยากรู้อยากเห็น ท้าทาย ลองดี ของหนูเอง หนูเอากล้องไปดู อยากดูอีก หลังจากที่คืนนั้นแล้ว ตอนเช้าก็ลองใหม่ อยากดูอีก ตอนแรกเขาให้ดูนะ แต่... เพราะเราดูเพื่อความสนุก สิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาปิดกล้องหนูทันที ไม่ไห้ดูจนบัดนี้ หนูเลยไม่กล้าดูอีก แต่ใจอยากดูทุกวัน เพื่อความรู้และเป็นกำลังใจค่ะ เหมือนเราทำอะไร เช่น หนูทำกับข้าวให้อาจารย์ แล้วอาจารย์ชมว่า อร่อย มันมีความสุขค่ะ เพราะว่าไม่เคยมีใครชมอย่างนี้ หนูเลยมีความสุข ก็เหมือนกับที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้มา ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นกับหนุ หนูมีความสุขมากเลย..ค่ะ
        และอีกเรื่องนะค่ะอาจารย์ หนูตื่นมานะ หนูรีบเปิดธรรมะ ที่ซื้อมาจากพี่อะไรจำไม่ได้ ที่แม่เขาไม่สบายแล้วเขาให้น้องชายเขาซื้อมาให้ หนูก็เปิดอย่างนี้ สลับกับบทสวดบ้าง เมื่อเช้านะคะอาจารย์ กำลังเปิดบทสวดพระคาถาชิณบัญชร ที่บ้านตอนเช้า หลานจะอาบน้ำก็จะใช้น้ำอุ่น ทีนี้เครื่องทำน้ำอุ่นมันดึงไฟ ก็จะทำให้ภาพมีเส้นเป็นคลื่น แต่เสียงปกติ หลานชายอายุ 3 ขวบ ก็ตื่นมา หนูก็ให้ไหว้พระในทีวี ในภาพจะมีสถานที่ มีรูปพระพุทธรูป ปรากฏว่าภาพปกติ ไม่มีคลื่น หนูก็เลยให้หลานชายวัย 3 ขวบไหว้ แล้วก็ชวนคุยว่าชอบไหม หลานบอกว่าชอบ หลานบอกว่าดอกไม้ หนูก็ถามว่าสวยไหม เขาก็บอกว่าสวย ดอกไม้นั้นเป็นดอกบัวค่ะอาจารย์ หนูดีใจมากค่ะที่หลานชอบ ปกติหลานคนนี้จะดู VCD แปลงร่างอย่างเดียว ปกติเด็กวัย 3 ขวบ จะเริ่มดู เทเลเท็บบี้ การ์ตูนเรื่องนี้ เขาจะสอนพูดซ้ำ ๆ อย่างเช่น เขาสอนเรื่องสี ก็จะพูดซ้ำ สีแดง   สีแดง  ช้าๆ เพื่อให้เด็กจำ  
        แต่หลานหนูคนนี้ ไม่ดูอะไรเกี่ยวกับเด็กวัยนี้ กลับดูแต่แปลงร่าง แล้วก็คิดว่าตัวเองเป็นตัวเอกของเรื่อง ....นั้น เสื้อผ้าจะต้องใส่เสื้อผ้า ที่มีรูปภาพเกี่ยวกับ VCD ที่เขาดู แต่....พอหนูเปิดบทสวด ซึ่งมีรูปภาพพระพุทธรูป รูปสถานที่ต่าง ๆ เขาก็นั่งนิ่งดูได้ หนูจะสอนเขาทำสมาธิแบบใช้แสงสว่างไม่ได้ เพราะเขายังไม่เข้าใจ แต่เขานั่งดูบทสวด ดูรูปประกอบก็เป็นสมาธิแล้วล่ะ หนูถึงดีใจ
        และหลานชายอีกคนอยู่ชั้น ป. 3 คนนี้หนูให้เขาทำสมาธิแบบแสงสว่างได้ เขาจำได้ แต่ว่าหนูต้องคอยบอก...ให้   เขาก็สามารถจินตนาการภาพแสงสว่าง และเคลื่อนไปตามจุดต่าง ๆ ของร่างกายได้ แต่...หลานคนนี้อยู่กันคนละบ้าน   และไม่ค่อยได้เจอกัน แต่....ถ้าเขาอยู่กับหนูนะ เขาคงได้ฝึกสมาธิแบบใช้แสงสว่างได้บ้าง ค่ะ
 
 
17   พฤศจิกายน 2553
เวลาประมาณ ห้าทุ่มครึ่ง ณ   เวลานี้ อาจารย์ค่ะ กรุณาช่วยบอกให้รับรู้รับทราบ โง่อีกตามเคย ครูบาอาจารย์ ท่านเป็นใคร ที่มีความเมตตากรุณา ช่วยอบรมสั่งสอนเด็กโง่ เด็กดื้อ เอาแต่ใจตัวเอง ตอนแรกหนูกลัวมากเลยค่ะ ตกใจ ว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งตอนหลัง ท่านก็ชมหนู เขาถามว่า ชื่ออะไร หนูตอบว่า ชื่อ อารดา ท่านบอกว่าสวย หรืออะไรหนูจำไม่ได้อีกแล้ว ช่วงที่ท่านชมนะคะ รู้สึกว่ามีความสุขมาก อบอุ่น
อาจารย์ค่ะ หนูอยากจะช่วยที่วัด แต่... ก็เข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ ที่วัดเขายังขาดปัจจัย ค่าใช้จ่ายมากมาย เช่น การเลี้ยงน้ำช่วงบ่าย ๆ สำหรับพระ เณร ที่เรียนหนังสือ    จู่ ๆ ในความรู้สึกคิดอยากจะอ่านอะไร หมายถึงจะอ่านเอกสาร หรือหนังสืออะไรก็ได้ บังเอิญก็หยิบเอกสารนี้ขึ้นมา พออ่านยังไม่จบดี ก็นึกว่า โอ เราหาทางช่วยวัดได้แล้ว จึงมานั่งพิมพ์ แต่ระหว่างที่พิมพ์ ก็ยังวุ่นวาย ฟุ้งซ่าน ทั้งดีใจ ทั้งยินดี มีความสุข และอยากจะขอขอบพระคุณ ในบุญคุณทุกครั้งที่ทำให้มีปัญญา และสติ ถึงจะยังน้อยนิด แต่ก็สุขกาย  สุขใจ บุญคุณทุก ๆ สิ่ง ทุก ๆ อย่างทั้งหมด ที่....อธิบาลไม่ถูกค่ะ คือว่า ทั่วถ้วน คือเริ่มจากจุดเล็กๆ ไปถึงใหญ่  ทุกอย่างล้วนสัมพันธ์กันทั้งหมด ถ้ามองแบบไกล ๆ ทั้งหมดล้วนมาจากที่เดียวกัน เออ... อธิบายไม่ถูก เอาเป็นว่า หนู จะคอยช่วยอาจารย์ทั้งสองอยู่ข้างหลังก็แล้วกันค่ะ.....
สุดท้าย หนูไม่มีอะไร... แต่เป็นห่วงอาจารย์ทั้งสอง อาจารย์นอนดึก ๆ เกือบทุกวัน เวลาที่หนูเดินผ่านจะไปห้องน้ำ ยังได้ยินอาจารย์ทำงานอยู่ตรงหน้าคอมฯ     หนูอยากให้อาจารย์พักผ่อนบ้างค่ะ และหนูก็รู้ว่าอาจารย์ก็เป็นห่วงเป็นใยกับทุก ๆ คน ที่เข้ามาในบ้านสวนฯ อย่างเช่น ก็บอกพี่เตี้ย หรือคนอื่นที่เขาทำงานหนัก เหนื่อยทั้งวัน จริง ๆ อาจารย์ก็จะบอกให้นอนตื่นสายได้ เหนื่อยก็พัก หิวก็กิน
และคำพูดของอาจารย์ทุก ๆ คำ ล้วนแต่มีประโยชน์ พยายามจะช่วยทุก ๆ คน อาจารย์อยากจะทำแทนด้วยซ้ำ   แต่...ตนต้องพึ่งตนเอง หรือที่เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี ท่านได้กล่าวไว้ แต่อาจารย์ก็ใจดี ให้ยืมอยู่ตลอดเวลา และการให้ของอาจารย์ ไม่เคยเอาคืน มีแต่จะให้ ให้อย่างเดียว แทบจะไล่แจก ด้วยซ้ำ   เขาก็มีแต่จะเอาอย่างเดียว ไม่ยอมหาเองบ้างเลย ( หนูไม่ได้นินทานะ)
 
ขออนุโมทนากับคุณตาล ผู้พิมพ์บทความนี้



คำสารภาพบาป และคำขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์

560 คุณหมอศิริพร ธนินทรานนท์ article
559 กันยภัทร เฟื่องฟู article
558 ศศิธร แก้วพิชัย article
557 นายมงคล ธงยศ article
556 พิบูลย์ คำศักดิ์ article
555 พรเพชร ทามนตรี article
554 ผดุงศักดิ์ มูลเชื้อ article
553 อารีวรรณ หิรัญเรือง article
551 ประไพ ศรีวิสิทธิกุล article
550 นนลณีย์ พงศ์วุฒิภรณ์ article
548 กัญญานี ถือธรรม article
547 วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ์ article
546 นรีพัฒน์ ภู่สาย article
545 เกสร ศรประสิทธิ์ article
544 กมลลักษณ์ โปษณกุล article
543 อาจินต์ ภิรมย์รักษ์ article
542 สมจิต โพธิ์นิล article
541 อนุชิต กาลมัชฌิมา article
540 ธนากร โตสุวรรณ article
539 ไตรศักดิ์ ตันกูล article
538 เจริญ สินธนบูรณ์ article
537 เกรียงไกร สุดใจ article
536 อร่ามศรี สุวัตถิกุล article
535 อรัญญา คะโยธา (แอน) article
534 สุรชา มหาคุณอมร (เปลว) article
533 สายรุ้ง ศรีแตง article
532 วรินทร คัดชา (อุ๊) article
531 รุ่งสุภารัตน์ รุ่งเรือง article
530 เพชรดา วรรณรักษ์ article
529 พรรณี ศรีทะชะ article
528 ช่อแก้ว สารขวัญ article
527 สว่าง คงประโคน article
526 สมพร ขำนิ่ม article
525 รุ่งทิพย์ มุสิกรักษ์ article
524 ภัคจิรา ทามนตรี article
523 ประภาศรี อริยะอุดมกิจ article
522 ปนัดดา ฤกษ์ใหญ่ article
521 บุญเรือง ทะวงษา article
520 บงกชกร ละออจันทร์ article
519 ณัฐนันท์ พวงประโคน article
518 ชนกพร เอี่ยมชัย (แป้น) article
517 จีระวรรณ มูลสังข์ article
516 จันทิรา กาลมัชฌิมา article
515 จรัล มีศิลป์ (ปาน) article
514 กิ้น มิลิพันธ์ article
513 กันต์สินี อัครวิชนนท์ article
512 กอบกาญจน์ มะลอทอง article
511 เด็กหญิงวสุมา กาลมัชฌิมา article
510 เด็กหญิงเบญจมภร ครองยุติ article
509 เด็กหญิงกิรณา ครองยุติ article
508 เด็กชายธนาธิป มุสิกรักษ์ article
507 เด็กชายกิตติธัช กาลมัชฌมา article
506 ญาณิศา ครองยุติ article
505 อร อุ่นศรี article
504 สิริพร ศศิธรเวชกุล article
503 หงษ์สุดา นัตราพงษ์ article
502 พิชญ์นันท์ สุขวัจนี article
501 นิรมล นิมิตรมงคล article
500 วัณณิตา นันทะโรหิต article
499 จรรจิรา แก้วมณีรัตน์ article
498 สมคิด งามสมบัติ
497 รชยา ดำรงงามสมบัติ
496 พยอม ศรีนวล article
495 ปภาดา ธรรมนูญรัตน์
494 ธัญญารัตน์ พงศ์ศุภโรจน์ article
493 จิรพัชร์ ดวงมาลา (ป้าเตือน) article
492 เด็กหญิงศศรส สุวัฒนาพร article
491 จรัสศรี เที่ยงตรง article
490 กมลลักษณ์ โปษณกุล (อ๊อด) article
489 ประภา เงยวิจิตร article
488 อรวรรณ ยงยุทธ – สมิท article
487 พสิษฐ์ รัศมีจรัสฐากร article
486 สำราญ สหนาวิน article
485 วลัญช์ชิตา ชูนุ่น article
484 วิลาสินี ศิลารัตน์ article
483 ผกาพันธ์ ศรีสวัสดิ์ article
482 ณัฏฐ์นิธิมา แจ้งประจักษ์ article
481 ฉันทนา ชูนุ่น article
480 นรีพัฒน์ ภู่สาย article
479 กรศิริ ภู่สาย article
478 พร ปันธกา article
477 ผกาพรรณ ศรีสวัสดิ์ article
476 อมร ศิริมาศกูล article
475 สุรสิทธิ์ ศรประสิทธิ์ article
474 พงษ์เดช ชาวไทย article
473 ประพันธ์ ภู่สาย article
472 ใบ สิงห์นาคลอง article
471 เทวฤทธิ์ ท้าวคำ article
470 ทวี อิสระพายัพ article
469 ณัฐธีร์ รัศมีจรัสฐากร article
468 อัญชลา บุตรโส article
467 พญ. วัฒนา ชัยจำรูญพันธุ์ article
466 วรินทร พดด้วง article
465 ศิริพร โฉมจันทร์ (ตุ้ย) article
464 วีรดา อยู่นวล article
463 ภารดี ลลิตกิตติกุล article
462 พรรณี ศรีทะชะ article
461 วินิตา สุธิวรา (ก้อย) article
460 ปาริชาติ เฟื่องไพบูลย์ article



แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.