อนุโมทนาค่ะอาจารย์ เพิ่งจะดูจบ แหม..อาจารย์ตั้งชื่อตอนได้ดึงดูดใจสาวๆจริงๆเลยนะคะ
"สวยด้วยกรรมฐาน" อยากจะบอกว่าเนื้อรายการ60นาที มีเนื้อหาครบถ้วนมากๆ
ทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับกรรมฐาน ทางลัดสู่นิพพานด้วยการเจริญพรหมวิหาร4
เรื่องการอุทิศบุญที่เกิดจากการทำกรรมฐานของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
แล้วยังได้ความรู้เกียวกับเรื่องปราณ มโนธาตุ และวิธีการวัดค่าความเป็นบวกด้วยเครื่องฮาโดะอีก
เดี๋ยวขอสรุปเรื่องกรรมฐานก่อนนะคะ (เขียนช้า....เดี๋ยวลืม...ฮิฮิ)
กรรมฐานมี สองระดับ คือ
1. สมถกรรมฐาน ก็คือ การหาที่ตั้งของจิต เพื่อทำให้จิตมีสมาธิไม่ฟุ้งซ่าน ซึ่งการฝึกสมถกรรมฐาน จะได้อานิสงค์ คือ ความสงบ แต่ยังไม่สามารถตัดกิเลสหรือนิวรณ์ได้สิ้นซาก ได้เพียงแต่"ระงับ"เท่านั้น ฉะนั้น การปฏิบัติเพียงสมถกรรมฐาน จึงยังไม่สามารถก้าวข้ามสู่ความหลุดพ้นได้
2. วิปัสสนากรรมฐาน คือ กรรมฐานที่ประกอบด้วยการพิจารณา เช่นพิจารณาอาการที่เกิดขึ้นทั้งทางกายและทางใจในปัจจุบันขณะ เมื่อฝึกพิจารณาความเป็นจริงที่เกิดขึ้นบ่อยๆก็จะเกิดปัญญา ซึ่งการฝึกกรรมฐานขั้นนี้สามารถตัดเวรหนีกรรม และทำให้ตัดกิเลสและนิวรณ์ได้อย่างสิ้นซาก และก้าวสู่พระนิพพานได้...ในที่สุด...สาธุ...
อาจารย์เปรียบการฝึกสมาธิ ก็เหมือนกับการเดินขึ้นบันไดเป็นขั้นๆ
ซึ่งการที่เราจะ"ยกจิต"ให้สูงขึ้นได้แบบง่ายๆ ต้องเริ่มด้วยการ"ละวาง"ทุกสิ่งทุกอย่าง
ที่เรามีและทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเป็นให้ได้เสียก่อน เช่น ลาภ ยศ ชื่อเสียง เงินทอง ฯลฯ
(แหะ แหะ มีการว่าแอบเด็กนอก(คอก)ซะด้วย) มิเช่นนั้น ก็เหมือนกับคนแบกน้ำหนักเยอะๆ
ไว้ตลอดเวลา ฉะนั้น ถ้าไม่ยอมทิ้่งเปลือกเหล่านั้นทิ้งเสีย
ก็คงจะหาความสว่างและสงบในสมาธิไม่เจอได้ง่ายๆ..เช่นกัน...
ขอสรุปแค่นี้ก่อนนะคะ เริ่มงงกับตัวเองเหมือนกัน
งั้นขอตอบคำถามของอาจารย์ก่อนนะคะ ที่ว่า "คิดว่า กรรมฐาน มันยากไหม"
ฮึ่ม คิดว่า กรรมฐานเนี่ยไม่ยากหรอกค่ะอาจารย์ แต่ที่มันยาก คือไม่ยอมฝึก
หรือฝึกก็ไม่บ่อย หรือไม่มากพอ ซึ่งก็อาจจะมีเหตุและปัจจัยหลายๆอย่าง
ทั้งความมุ่งมั่นไม่มากพอ มีวิบากกรรมหรือเจ้ากรรมนายเวรมาเป็นตัวขัดขวาง
หรือไม่ก็"วิธีที่ตนฝึกอยู่นี้" ไม่ตรงกับจริตของตัวเอง..
อันนี้ถ้าอาจารย์จะเมตตาแนะนำทางปฏิบัติที่ถูกต้องให้
ก็จะกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะอาจารย์ เพราะปัญหาของตัวเอง
ปัญหาหลักคือ ความขี้เกียจและความขี้กลัวค่ะ ปรกติก็เป็นคนกลัวผี กลัวความมืดอยู่แล้ว
ถ้ามีอะไรวูบๆวาบๆมา ก็จะอุปทานมาก่อน ก็เลยไม่พัฒนาไปไหนซักที
เคยคิดจะเปลี่ยนมาลองฝึกมโนมยิทธิ ภาวนา นะมะ พะธะ แต่ก็ยังจับทางไม่ถูก
เพราะถ้าฝึกเอง โดยไม่มีครูผู้สอน คอยกำกับ แล้วจะให้"จิต"ดำเนินไปอย่างไร
หรือว่า ภาวนาไปเรื่อยๆ จนจิตสงบ แล้วก็คอยดูว่าจิตจะไปไหนอย่างไรหรือคะอาจารย์..
ถ้ามีอาการเวทนาเกิดขึ้นก็พิจารณาไป...ใช่ไหม๊คะ..
อนุโมทนาล่วงหน้ากับคำตอบค่ะอาจารย์
แหะ แหะ จบห้วนๆซะงั้น... ง่วงจัง... |