ข้าพเจ้านางเบญจรัตน์ สีทองสุก อายุ ๕๔ ปี
ผู้อำนวยการสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นรองศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม ขอสารภาพบาปเวรกรรมที่เคยทำไว้
กรรมที่ทำ
พระรัตนตรัย
- เคยปรามาสพระพุทธเจ้าว่า บำเพ็ญบารมรมาน้อยกว่าหลวงพ่อฤาษี ปัจจุบันสำนึกแล้วว่าเราเกิดมาใต้ร่มบารมีและพระเมตตาของพระองค์ท่านมาหลายชาติ ถ้าไม่มีท่าน เราจะได้เนื้อนาบุญที่ไหนที่ทำให้เราเป็นเช่นทุกวันนี้ คงนึกถึงพระนิพพานไม่ได้ และคงลำบากยากจนพิกลพิการ
- เคยปรามาสพระสงฆ์ คิดไม่ดี และกล่าวนินทาต่อพระสงฆ์ ที่เราคิดเองว่าประพฤติไม่เหมาะสมที่เห็นตามที่ต่างๆ หรือที่ได้ยินได้ฟังตามข่าวต่างๆ
- เคยนำของสงฆ์มาเป็นของตน คือไปเห็นต้นไม้ในวัดแล้วชอบเลยเก็บเมล็ดและต้นอ่อนกลับบ้านมาปลูก และตอนเด็กๆไปวัดแล้วพระให้ของกินกลับบ้าน
- เคยนั่งและนอน หันเท้าไปทางพระพุทธรูป รูปพระและหนังสือพระต่างๆ
- เอารูปพระไปทิ้งถังขยะ (ปฏิทินที่บอกวันพระเป็นรูปพระสีแดง)
พระบรมวงศานุวงศ์
- เอารูปพระมาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ปฏิทิน) ไปทิ้งถังขยะ ไปรองของ ฯลฯ
- เคยได้ยินคนพูดถึงพระบรมวงศานุวงศ์บางพระองค์ (สมเด็จพระบรมฯ เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ และทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ป ในทางที่ไม่ดี เชื่อตาม คิดไม่ดี ร่วมว่าร้ายนินทา นำไปบอกต่อ
คุณพ่อคุณแม่
- เคยเถียงต่อว่าต่อขาน โกหก ตะคอก และทำให้พ่อแม่เสียใจด้วยคำพูด เคยว่าท่านรักลูกไท้เท่ากันตอนเด็กๆ
- เคยหนีออกจากบ้านตอนเด็กๆ เพราะอยากรู้ว่าพ่อแม่จะตามหาหรือไม่
- เคยขโมยเงินไปซื้อขนมตอนเด็กๆ และเคยโกหกว่าเงินหายเพื่อขอเงินใหม่
- ทำหน้าบึ้ง ชักสีหน้า แสดงความไม่พอใจ ใช้สายตาต่อว่า (ค้อน)
- นินทาคุณพ่อให้คุณแม่ฟัง ให้พี่ฟัง คิดรำคาญอยากให้คุณพ่อไปอยู้วัดหรือที่อื่น ปัจจุบันคุณพ้อเสียชีวิตแล้ว
- เป็นเด็กดื้อ แสนงอน ขึ้โมโห โกรธง่าย เอาแต่ใจ
ลูกและสามี
- ทำร้ายร่างกาย เช่น ทุบตี หยิก เขกหัว
- ทำหน้าบึ้ง ชักสีหน้า แสดงความไม่พอใจ ใช้สายตาต่อว่า (ค้อน จ้องมอง ถลึงตา)
- ใช้วาจารุนแรง ตะคอก พูดหยาบคาย พูดอาฆาต พูดส่อเสียด ต่อว่า กระแทกแดกดัน เพ้อเจ้อ โกหก นินทา ข่มขู่ ขี้บ่น จุกจิกน่ารำคาญ แสนงอน ขี้โมโหโกรธง่าย เอาแต่ใจ
- หยิบเงินของสามีโดยไม่บอก ประมาณ ๒-๓ ครั้ง (เพราะโมโหว่าสามียืมเงินแล้วไม่คืน)
ผู้อื่น
- เคยลักขโมยขนมจากร้านค้าตอนเด็ก เพราะคิดว่าเขาขายแพงเลยหยิบเกิน
- หยิบของผู้อิ่นไปเป็นของตัวเองโดยไม่ได้รับอนุญาต ชอบกินของฟรี
- มำหลักฐานการเงินไม่ตรงกับความจริง (ไปราชการ จัดอบรม สัมมนา ทำเอกสาร)
- นำของหลวงกลับบ้าน ปากกา กระดาษ หนังสือ ไม้บรรทัด ยางลบ ฯลฯ
- ไปทำงานสาย-กลับก่อนเวลาที่กำหนด
- ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาต่างๆ คัดลอกมาเป็นของตนเอง
- คุยโทรศัพท์ในเวลางาน พูดคุยในเวลาสวดมนต์ที่ผู้อื่นกำลังนั่งสมาธิ-สวดมนต์
- ทำหน้าบึ้ง ชักสีหน้า แสดงความไม่พอใจ ใช้สายตาต่อว่า (ค้อน จ้องมอง ถลึงตา)
- ใช้วาจารุนแรง ตะคอก พูดหยาบคาย พูดอาฆาต พูดส่อเสียด ต่อว่า กระแทกแดกดัน เพ้อเจ้อ โกหก นินทา ข่มขู่ เพื่อนร่วมงาน นักเรียน คนรู้จัก ใช้คำพูดให้ผู้อื่นเสียหาย เสียใจ
- ทางคามคิด ถึยงในใจ มีทิฐิมานะ (คิดว่าตนเองดีกว่าผู้อื่น) อาฆาต จำ แค้น
- เคยเล่นหวยใต้ดิน นาน ๒-๓ ปีครั้ง
- สมัยวัยรุ่นเคยเที่ยวกลางคืน ๒-๓ ครั้งและดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์แต่ไม่ชอบ
- ดคยถึยงและแสดงอาการไม่เคารพครูบาอาจารย์ และเคยแกล้งครูให้เป็นตัวตลกในสายตาเพื่อนนักเรียน (เอาเชือกไปผูกข้างหลังครู)
- เคยลังเลในตัวอาจารย์อุบล ไม่มั่นใจในบ้านสวนพีระมิด 100%
กรรมที่ทำกับสัตว์
- เคยขับรถชนหมา ๑-๒ ตัว นก ๒-๓ ตัว
- ฆ่ามด ปลวก ยุงแมลงต้นไม้ แมลงในดิน ไส้เดือน เอาไม้ช๊อตยุงในบ้าน หอยทาก ตะขาบ ห็บ หมัด แมงมุม แมลงสาบ งู ตั๊กแตน ไส้เดือน กิ้งกือ หนู จิ้งจก
- เคยตีหมาที่เลี้ง ขังกรง ล่ามโซ่ ใส่ตระกร้อที่ปาก
- เคยไล่แมวไม่ให้มัมมาอยู่ ไล่รังต่อ
- กินกุ้ง หอย ปู ปลา ไก่ กบ นก หมู วัว ควาย สัตว์ทะเล ฯลฯ เป็นอาหาร
- เคยทำร้ายให้เจ็บ หนู สุนัข มด ปลา ตะขาบ จิ้งจก และสัตว์อื่นๆ
- พูดข่มขู่ ต่อว่า อาฆาต สุนัข หนู แมลงสาบ มด ปลวก และสัตว์อื่นๆ
- คิดทำร้าย คิดฆ่า คิดอาฆาต สุนัข หนู แมลงสาบ มด ปลวก และสัตว์อื่นๆ