ReadyPlanet.com
dot
dot
พระรัตนตรัย และ ครูบาอาจารย์
dot
bulletสมเด็จองค์ปฐม
bulletหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
bulletพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ
bulletดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
dot
รายการคุยไปแจกไป
dot
bulletรายการคุยไปแจกไป
dot
ข่าวสารประชาสัมพันธ์
dot
bulletข่าวสารประชาสัมพันธ์
dot
กิจกรรมบ้านสวนพีระมิด
dot
bulletค่ายบ้านสวนพีระมิด
bulletภาพและคลิปวิดิโอจากบ้านสวนพีระมิด
dot
บทความที่น่าสนใจ
dot
bulletบทความที่น่าสนใจ
bulletคู่มือหนีกรรมผิวพรรณ
bulletคำสารภาพบาป และ ประสบการณ์กฏแห่งกรรม
dot
International Version (ภาคภาษาต่างประเทศ)
dot
bulletEnglish Articles (บทความภาษาอังกฤษ)


อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์  บ้านสวนพีระมิด


รายการคุยไปแจกไป 8 ก.ค. 2555 ตอน บ้านสวนพีระมิดสัญจร ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ article

รายการคุยไปแจกไป  ออกอากาศ 8 กรกฎาคม 2555
ตอน "บ้านสวนพีระมิดสัญจร ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ"
(ความยาว: 1 ชั่วโมง 57 นาที)



 

หมายเหตุ:

  1. บ้านสวนพีระมิด ได้รับอนุญาตจาก YouTube ที่จะนำเสนอคลิปรายการคุยไปแจกไป อย่างเต็มรายการ โดยเริ่มตั้งแต่คลิปรายการออกอากาศของวันที่ 5 ธันวาคม 2553 เป็นต้นไป โดยไม่มีข้อจำกัดเวลาต่อหนึ่งคลิปอีกต่อไป ขอทุกท่านร่วมอนุโมทนากับ YouTube ที่มอบความสะดวกนี้ให้กับทุกๆท่านครับ
  2. ขอรบกวนเพื่อนๆทุกท่านแจ้งผลการรับชมคลิปรายการคุยไปแจกไปให้ทราบด้วยครับ เพื่อการปรับปรุงแก้ไขในโอกาสต่อไป สำหรับเพื่อนๆที่มีปัญหาการรับชม เช่น คลิปกระตุก คลิปขาดๆหายๆ โหลดช้า ไม่มีเสียง และอื่นๆ กรุณาช่วยแจ้งอาการ และความเร็วอินเตอร์เน็ตของท่าน(ถ้าทราบ) ในช่องแสดงความคิดเห็นทางด้านล่างให้ด้วยนะครับ ขอขอบพระคุณอย่างสูงครับ
  3. สมาชิกเท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ (สมัครสมาชิกที่นี่)

 




รายการคุยไปแจกไป

รายการคุยไปแจกไป ตอนที่ 290 (พิเศษ) ตอน อาจารย์อุบล คนหลอกลวง ??? หรือ อาจารย์อุบลคนจริง article
รายการคุยไปแจกไป 29 มิ.ย. 2557 (ตอนที่ 289) ตอน ธรรมะบำบัดสัญจร กาญจนบุรี อดีตตำรวจหายเบาหวาน รร.ฟาร์อีสอินน์ นิ่ว 1 ซม. หลุดออก ไม่ต้องผ่า article
รายการคุยไปแจกไป 15 มิ.ย. 2557 (ตอนที่ 288) ตอน ธรรมะบำบัดสัญจร อ.ปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ บำบัดพระ และแม่ชี หาย 100% article
รายการคุยไปแจกไป 8 มิ.ย. 2557 (ตอนที่ 287) ตอน รับบารมีพระศรีอาริย์ เป็นพาร์กินสัน ก็หาย กราบก็หาย คุณพยาบาล เข้าใกล้ก็หาย article
รายการคุยไปแจกไป 1 มิ.ย. 2557 (ตอนที่ 286) ตอน ค่าย 21 ปรามาสสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เกือบเอาชีวิตไม่รอด article
รายการคุยไปแจกไป 25 พ.ค. 2557 (ตอนที่ 285) ตอน ธรรมะบำบัดที่ จ.สระแก้ว และลพบุรี รับบารมีพระศรีอาริย์ แค่เดินผ่านก็หาย article
รายการคุยไปแจกไป 18 พ.ค. 2557 (ตอนที่ 284) ตอน ธรรมะบำบัดที่หาดใหญ่ และเชียงใหม่ รับบารมีพระศรีอาริย์ แค่เดินผ่านก็หาย article
รายการคุยไปแจกไป 11 พ.ค. 2557 (ตอนที่ 283) ตอน ธรรมะบำบัดที่หาดใหญ่ รับบารมีพระศรีอาริย์ แค่เดินฝ่านก็หาย article
รายการคุยไปแจกไป 4 พ.ค. 2557 (ตอนที่ 282) ตอน ธรรมะบำบัดที่ปัตตานี รับบารมีพระศรีอาริย์ แค่เดินผ่านก็หาย article
รายการคุยไปแจกไป 27 เม.ย. 2557 (ตอนที่ 281) ตอน ธรรมะบำบัด ชายเป็นอัมพฤกษ์ article
รายการคุยไปแจกไป 20 เม.ย. 2557 (ตอนที่ 280) ตอน กิจกรรม ค่าย 20 หล่อ สวย รวย สุข 12-15 เม.ย. 57 article
รายการคุยไปแจกไป 13 เม.ย. 2557 (ตอนที่ 279) ตอน บำบัดทางไกล ด้วยขวดอภิญญา หายทันที article
รายการคุยไปแจกไป 30 มี.ค. 2557 (ตอนที่ 277) ตอน พระ ทำคุณไสย มนต์ดำใส่นักเรียน / เส้นทางของเชื้อเอดส์ ที่พึงระวัง article
รายการคุยไปแจกไป 23 มี.ค. 2557 (ตอนที่ 276) ตอน โสเภณี นอกซ่อง article
รายการคุยไปแจกไป 16 มี.ค. 2557 (ตอนที่ 275) ตอน ธรรมะบำบัด ปลดปล่อยวิญญาณ จากการทำบาป ผิดศีล article
รายการคุยไปแจกไป 9 มี.ค. 2557 (ตอนที่ 274) ตอน ธรรมะบำบัด พระที่สงสัยว่าถูกทำคุณไสย article
รายการคุยไปแจกไป 2 มี.ค. 2557 (ตอนที่ 273) ตอน ธรรมะบำบัด หญิง ไหล่ติด ยกแขนไม่ขึ้น ชาย ปวดเอว ปวดขา เดินลำบาก article
รายการคุยไปแจกไป 23 ก.พ. 2557 (ตอนที่ 272) ตอน ธรรมะบำบัด หญิงเคยมีอาชีพขายปู ปลา กุ้งหอย ปัจจุบัน ปวดทั้งตัว article
รายการคุยไปแจกไป 16 ก.พ. 2557 (ตอนที่ 271) ตอน ธรรมะบำบัด หญิงเป็นโรค พาร์กินสัน article
รายการคุยไปแจกไป 9 ก.พ. 2557 (ตอนที่ 270) ตอน ธรรมะบำบัด หญิงพิการ พูดไม่ชัด เดินไม่ตรง article
รายการคุยไปแจกไป 2 ก.พ. 2557 (ตอนที่ 269) ตอน ธรรมะบำบัด ผู้ประสบอุบัติเหตุ ทำให้สมองช้า พูดไม่ชัด เดินไม่ตรง article
รายการคุยไปแจกไป 26 ม.ค. 2557 (ตอนที่ 268) ตอน ขอบคุณ อ.อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ช่วยชีวิตลูกน้อย ให้ฟื้นจากความตาย article
รายการคุยไปแจกไป 19 ม.ค. 2557 (ตอนที่ 267) ตอน พระอยู่ที่ใจ ไม่ใช่เครื่องแบบ article
รายการคุยไปแจกไป 12 ม.ค. 2557 (ตอนที่ 266) ตอน คบคนดี ชีวีก็มีสุข คบคนไม่ดี ชีวีก็มีทุกข์ article
รายการคุยไปแจกไป 5 ม.ค. 2557 (ตอนที่ 265) ตอน ทุกชาติ ศาสนา อยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม เหมือนกัน article
รายการคุยไปแจกไป 29 ธ.ค. 2556 (ตอนที่ 264) ตอน ละอัตตา ไม่ถือตัวถือตน ก็พ้นทุกข์ จากโรคภัยที่เบียดเบียนได้ article
รายการคุยไปแจกไป 22 ธ.ค. 2556 (ตอนที่ 263) ตอน ผิดศีลมาก ผีร้ายเข้าตัวเองมาก article
รายการคุยไปแจกไป 15 ธ.ค. 2556 (ตอนที่ 262) ตอน เก่งอย่างเดียว ยังไม่พอ ต้องสร้างบุญหนุนนำ ให้ประสบความสำเร็จในชีวิต article
รายการคุยไปแจกไป 8 ธ.ค. 2556 (ตอนที่ 261) ตอน กฎแห่งกรรม ทำให้ทุกข์ article
รายการคุยไปแจกไป 1 ธ.ค. 2556 (ตอนที่ 260) ตอน วิบากกรรม จากหนี้แผ่นดิน article
รายการคุยไปแจกไป 24 พ.ย. 2556 (ตอนที่ 259) ตอน วิบากกรรมที่เคยทำมา พาให้ทุกข์ article
รายการคุยไปแจกไป 17 พ.ย. 2556 (ตอนที่ 258) ตอน ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ชีวิตก็พ้นทุกข์ มีความสุขแน่นอน article
รายการคุยไปแจกไป 10 พ.ย. 2556 (ตอนที่ 257) ตอน ขออภัย สำนึกผิด ไม่คิดทำอีก เจ้ากรรมนายเวรให้อภัย ก็พ้นทุกข์ article
รายการคุยไปแจกไป 3 พ.ย. 2556 (ตอนที่ 256) ตอน จิตที่มุ่งมั่น ศรัทธาที่เต็มเปี่ยม ส่งผลให้พ้นทุกข์ สุข สำเร็จ แน่นอน article
รายการคุยไปแจกไป 27 ต.ค. 2556 (ตอนที่ 255) ตอน ขอความเมตตาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต้องมีจิตศรัทธา และรักษาศีล article
รายการคุยไปแจกไป 20 ต.ค. 2556 (ตอนที่ 254) ตอน สำนึกกรรม ที่ทำชั่วในอดีต เจ้ากรรมนายเวรให้อภัย ก็พ้นทุกข์ article
รายการคุยไปแจกไป 13 ต.ค. 2556 (ตอนที่ 253) ตอน ปลดปล่อยวิญญานแค้น ด้วยบุญ article
รายการคุยไปแจกไป 6 ต.ค. 2556 (ตอนที่ 252) ตอน วิบากกรรม จากการทำแท้ง article
รายการคุยไปแจกไป 29 ก.ย. 2556 (ตอนที่ 251) ตอน มินิค่าย "อุทิศบุญกรรมทำแท้ง" คิดดี พูดดี ทำดี ชีวีมีสุข article
รายการคุยไปแจกไป 22 ก.ย. 2556 (ตอนที่ 250) ตอน บุญย่อมรักษา ผู้รักษาศีล article
รายการคุยไปแจกไป 15 ก.ย. 2556 (ตอนที่ 249) ตอน ปฏิบัติตนอย่างไรให้รอดพ้น คุณไสย มนต์ดำ article
รายการคุยไปแจกไป 8 ก.ย. 2556 (ตอนที่ 248) ตอน อยากหลุดพ้นบ่วงกรรมที่ทำมา ต้องสำนึกผิด และไม่คิดทำอีก article
รายการคุยไปแจกไป 1 ก.ย. 2556 (ตอนที่ 247) ตอน ล้างมนต์ดำ คุณไสย์ ด้วยบารมี พีระมิด รุ่นพระนางเนเฟอร์ตารี article
รายการคุยไปแจกไป 25 ส.ค. 2556 (ตอนที่ 246) ตอน บารมี พีระมิด รุ่นพระนางเนเฟอร์ตารี article
รายการคุยไปแจกไป 18 ส.ค. 2556 (ตอนที่ 245) ตอน บวงสรวง รวมพระบารมี ท่านรามเสสที่2 และ พระนางเนเฟอร์ตารี article
รายการคุยไปแจกไป 11 ส.ค. 2556 (ตอนที่ 244) ตอน พลังบารมีวัตถุมงคล บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 4 ส.ค. 2556 (ตอนที่ 243) ตอน สำนึกบาปกรรมที่ทำมา และจะไม่ทำอีก ก็ปลดเปลื้องทุกข์ได้ ทันที article
รายการคุยไปแจกไป 28 ก.ค. 2556 (ตอนที่ 242) ตอน บวงสรวงอาราธนาบารมี ท่านรามเสสที่ 2 article
รายการคุยไปแจกไป 21 ก.ค. 2556 (ตอนที่ 241) ตอน ศรัทธาจริงๆ ปาฏิหาริย์ก็เกิดจริงๆ article
รายการคุยไปแจกไป 14 ก.ค. 2556 (ตอนที่ 240) ตอน สำนึกบาป สารภาพกรรม ทำให้พ้นทุกข์ article
รายการคุยไปแจกไป 7 ก.ค. 2556 (ตอนที่ 239) ตอน วิญญาณที่ทุกข์ทรมาน รับบุญ อ.อุบล ไปสุคติภูมิทันที article
รายการคุยไปแจกไป 30 มิ.ย. 2556 (ตอนที่ 238) ตอน ศรัทธาแรงกล้า ปาฎิหาริย์เกิดทันที article
รายการคุยไปแจกไป 23 มิ.ย. 2556 (ตอนที่ 237) ตอน ไปนิพพาน ง่ายที่สุด มนุษย์ทำให้ยากเอง article
รายการคุยไปแจกไป 16 มิ.ย. 2556 (ตอนที่ 236) ตอน อ.อุบล สามารถถ่ายโอนพลัง ให้หัวหน้าสาขาบ้านสวนพีระมิดได้ article
รายการคุยไปแจกไป 9 มิ.ย. 2556 (ตอนที่ 235) ตอน พลังมหัศจรรย์ อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 2 มิ.ย. 2556 (ตอนที่ 234) ตอน สาขาบ้านสวนพีระมิด ช่วยบำบัดผู้คน ได้ตามที่ อ.อุบล อนุญาต article
รายการคุยไปแจกไป 26 พ.ค. 2556 (ตอนที่ 233) ตอน ผู้ที่ได้รับมองหน้าที่จาก อ.อุบล ก็ช่วยคนอื่นได้เหมือน อ.อุบล article
รายการคุยไปแจกไป 19 พ.ค. 2556 (ตอนที่ 232) ตอน เมตตาบารมี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทุกพระองค์ ในทุกสถานที่ ที่ อ.อุบลไปเยือน article
รายการคุยไปแจกไป 12 พ.ค. 2556 (ตอนที่ 231) ตอน ธรรมะบำบัดสัญจร สัมผัสเมตตาบารมี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ article
รายการคุยไปแจกไป 5 พ.ค. 2556 (ตอนที่ 230) ตอน เมตตาบารมี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ ในวันเปิดสาขาบ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 28 เม.ย.. 2556 (ตอนที่ 229) ตอน เชื่อมั่น ศรัทธา รักษาศีล จึงสัมผัสเมตตาบารมี จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ article
รายการคุยไปแจกไป 21 เม.ย.. 2556 (ตอนที่ 228) ตอน พลังมหัศจรรย์ บารมีพระนางเนเฟอตารี article
รายการคุยไปแจกไป 14 เม.ย. 2556 (ตอนที่ 227) ตอน พลังมหัศจรรย์ วัตถุมงคล บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 7 เม.ย. 2556 (ตอนที่ 226) ตอน ปฎิบัติตน ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า และศรัทธา บ้านสวนฯ ก็พบปาฎิหาริย์ได้ article
รายการคุยไปแจกไป 31 มี.ค. 2556 (ตอนที่ 225) ตอน สาขา บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 24 มี.ค. 2556 (ตอนที่ 224) ตอน มหัศจรรย์ วัตถุมงคล บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 17 มี.ค. 2556 (ตอนที่ 223) ตอน ต้องมีศรัทธา รักษาศีล เมื่อใช้วัตถุมงคล บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 10 มี.ค. 2556 (ตอนที่ 222) ตอน พลัง บารมี และอานุภาพ วัตถุมงคล บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 3 มี.ค. 2556 (ตอนที่ 221) ตอน สร้างบุญที่บ้านสวนพีระมิด สุขทั้งชีวิตโลกนี้ และโลกหน้า article
รายการคุยไปแจกไป 24 ก.พ. 2556 (ตอนที่ 220) ตอน ชดใช้กรรมในอดีตชาติ และปัจจุบันชาติ ด้วยการสร้างบุญ ที่บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 17 ก.พ. 2556 (ตอนที่ 219) ตอน "พระบรมธรรมบิดา ท่านพ่อดตาจินิน รัก เมตตา ให้อภัย ทุกคนเสมอ" article
รายการคุยไปแจกไป 10 ก.พ. 2556 (ตอนที่ 218) ตอน สัมผัสบารมี พระบรมธรรมบิดา (ท่านพ่อดตาจินิน) ด้วยตนเอง ที่บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 3 ก.พ. 2556 (ตอนที่ 217) ตอน "ท่านพ่อ ดตาจินิน ผู้ให้กำเนิดทุกสิ่งในจักรวาล" article
รายการคุยไปแจกไป 27 ม.ค. 2556 (ตอนที่ 216) ตอน เมื่อจิต เชื่อมั่น ศรัทธา ก็รับอภิญญาได้ โดยง่าย article
รายการคุยไปแจกไป 20 ม.ค. 2556 ตอน ทำอาหารธรรมดา ให้เป็นอาหารอภิญญา article
รายการคุยไปแจกไป 13 ม.ค. 2556 ตอน พิสูจน์ อภิญญาบารมี ด้วยตนเอง ณ บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 6 ม.ค. 2556 ตอน ธรรมะกับทางรอด เตรียมกายเตรียมใจสู้ภัยพิบัติ article
รายการคุยไปแจกไป 30 ธ.ค. 2555 ตอน กิจกรรมธรรมะบำบัด ปลดล็อกกรรม ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ตอนที่ 2 article
รายการคุยไปแจกไป 23 ธ.ค. 2555 ตอน กิจกรรมธรรมะบำบัด ปลดล็อกกรรม ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม article
รายการคุยไปแจกไป 16 ธ.ค. 2555 ตอน รับกรรมเพราะทำเอง ไม่ใช่มรดกกรรม, ศรัทธาจริงใจ ก็หายได้จริงๆ article
รายการคุยไปแจกไป 9 ธ.ค. 2555 ตอน ธรรมะบำบัด ม.ราชภัฏนครปฐม, สำนึกในอกุศลกรรม ทำให้พ้นทุกข์ article
รายการคุยไปแจกไป 2 ธ.ค. 2555 ตอน มหากฐิน บ้านสวนฯ ณ วัดคลองไทร พัฒนาการปาฏิหาริย์ บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 25 พ.ย. 2555 ตอน อานิสงส์ บุญธรรมทาน, อพยพ สู่โลกอวกาศ, สมาธิสร้างอัจฉริยะ article
รายการคุยไปแจกไป 18 พ.ย. 2555 ตอน ส่งคุณพ่อสำเภา วาระนุช สู่นิพพาน พระผู้สร้าง อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ผู้อยู่เบื้องหลังรหัสจักรวาล อ.อุบล ช่วยด้วย article
รายการคุยไปแจกไป 11 พ.ย. 2555 ตอน มโนกรรม นำพาให้ทุกข์ จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี แค่มองก็หายทุกข์ได้ article
รายการคุยไปแจกไป 4 พ.ย. 2555 ตอน สร้างบุญเต็มกำลัง ก็เกิดผลปาฏิหาริย์ ขัดบัญชาสวรรค์ ปาฏิหาริย์ก็ไม่เกิด article
รายการคุยไปแจกไป 28 ต.ค. 2555 ตอน บารมีพระศรีอาริย์ อานุภาพ จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี article
รายการคุยไปแจกไป 21 ต.ค. 2555 ตอน อานุภาพ จี้สฟิงซ์ 3 ร่มโพธิ์ศรี อานิสงส์ กิจกรรมกลุ่ม บุญแรงกายที่บ้านสวนฯ article
รายการคุยไปแจกไป 14 ต.ค. 2555 ตอน ค่าย 13 ชมบารมีพระศรีอาริย์ พบปาฏิหาริย์มากมาย article
รายการคุยไปแจกไป 7 ต.ค. 2555 ตอน คุณไสยพ่ายบารมีพระศรีอาริย์ ผู้มีความกตัญญู ย่อมพบปาฏิหาริย์ ที่บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 30 ก.ย. 2555 ตอน การอาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ ที่พบปาฏิหาริย์ทันที ที่บ้านสวนพีระมิด & กทม. article
รายการคุยไปแจกไป 23 ก.ย. 2555 ตอน เพราะกรรมใด จึงทำให้เจ็บปวดบ่อย และยากจน article
รายการคุยไปแจกไป 16 ก.ย. 2555 ตอน พิธีบวงสรวง อาราธนาบารมี พระศรีอาริย์ สถิตย์ ณ บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 9 ก.ย. 2555 ตอน บารมีพระศรีอาริย์ ทรงบันลือสีหนาท ทุกกาลสถานที่ article
รายการคุยไปแจกไป 2 ก.ย. 2555 ตอน ธรรมบำบัด แบบฉับพลันทันที ศรัทธาก็ได้ผล ไม่ศรัทธาก็ไม่มีผล ณ ม.มหิดล และ บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 26 ส.ค. 2555 ตอน ธรรมบำบัดแบบเห็นผลฉับพลันทันที ณ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน ม.มหิดล ชมบารมีพระศรีอาริย์ ที่บ้านสวนฯ article
รายการคุยไปแจกไป 12 และ 19 ส.ค. 2555 (ออกอากาศซ้ำ) ตอน อานุภาพจี้องค์เทพสฟิงซ์ และเสื้อบ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 5 ส.ค. 2555 ตอน สารภาพบาปกับองค์เทพสฟิงซ์ เห็นผลฉับพลันทันที เหมือนสารภาพกับ อ.อุบล article
รายการคุยไปแจกไป 29 ก.ค. 2555 ตอน ผลของกรรมรวมตัว เล่นคุณไสย+หมกมุ่นในกาม ละเมิดกฎบ้านสวนพีระมิด article



[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (143017)

กราบขอบคุณท่าอาจารย์อุบล อาจารย์มงคล คุณเพชร คูณมาร์ค เวปมาสเตอร์ และชาวคณะที่ติดตามท่านอาจารย์ไปมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ

ท่านอาจารย์และคณะเดินทางถึงมหาวิทยาลัย ท่านกล่าวสวัสดีทุกๆคน แล้วท่านก็เริ่มบำบัดด้วยการถามนักศึกษาว่าท่านใดมีอาการปวกหัว คอ บ่าไหล่ บ้าง ท่านถามอาการตั้งแต่หัว จรดเท้า

ท่านอาจารย์บอกว่า ท่านไม่ใด้มากับคนเท่านั้น ท่านมากับเพื่อนอีกมากมายเป็นแสนโกศที่เรามองใม่เห็น ใครอยากเห็นพระพุทธเจ้า ขอให้อธิฐานจิต ขอให้สัมผัสใด้  ด้วยการเกิดอาการปิติ ขนลุก ตัวเย็น ท่านอาจารย์บอกว่า ผู้ไดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา

เริ่มด้วยการสมาทานศีล5

ข้อหนึ่ง เว้นจากการฆ่าสัตว์  ฆ่าคน แล้ว คุณไอซ์เคยฆ่าคนมา 5คน ตอนอายุ17ปี  19  20 20 22ปี ด้วยการทำแท้งครั้งแรก ตั้งครรภ์หกเดือน ไปทำแท้งคลีนิกเถื่อนผลคือมดลูกเน่ามีกลิ่นเหม็นมากค่ะ

ข้อสอง เว้นจากการลักทรัพย์  ทำให้คนอื่นเสียทรัพย์  ชอบของฟรี

ข้อสาม เว้นจากการประพฤติผิดในกาม ผิดลูกผิดเมีย ชิงสุกก่อนหาม  คุณอมร ใด้ออกมาบอกว่าเคยชิงสุกก่อนแต่งงาน คุณป้อม เคย ชิงสุกก่อนหาม เที่ยวกลางคืน เข้าอาบอบนวด ผ่านหญิงมาประมาณ 500คน ท่านอจารยใด้กล่าวถามนักศึกษาว่าน้องเอิ้น เคยผ่านมากี่คน นักศึกษาชายตอบถูกที่1000คน อาจารย์เลยให้รางวัลด้วยการให้เลือกเอาระหว่าง เงินหนึ่งร้อยบาท หรือหายจากการปวดหลัง  น้องเลือกที่เอาให้หายจากการปวดหลัง  และน้องก็หายปวด และสัมผัสใด้ว่าพระพุทธเจ้ามีจริง ถึงมองไมเห็นแต่สัมผัสใด้ค่ะ น้องผักกาด ใด้ถาม น้องเอิ้นว่าที่ผ่านมาเป็นหญิงหรือชายค่ะ และน้องเอิ้นตอบว่าชาย ท่านอาจารย์ใด้ให้น้องผักกาดออกมาแล้วให้รางวัลด้วยถามว่า มีอาการเจ็บป่วยบ้างใหม  น้องผักกาดมีอาการ เจ็บคอเวลากลืนน้ำลายค่ะ และเสียงแหบ  แล้วอาการเจ็บของน้องใด้หาย ที่90% แล้วเหลือปากกับลิ้นเคยทำกรรมด้วยการเลียไอติมถ้วย  ด้วยการมีแฟนเป็นหญิงประมาณสี่สิบกว่าคนตอนปลาย ทุกครั้งที่มีแฟนที่มีเจ้าของอยู่แล้วจะมีสิวหนึ่งเม็ดที่หน้า และตอนนี้น้องมีสิวหลายเม็ดคงมีหลายคน พอสารภาพหมดหมด อาการเจ็บคอก็หาย100%และอาการเสียงแหบก็หาย

ข้อสี่เว้นจากการพูดโกหก หลอกลวงกะล่อน ต่อแหล

ข้อห้า เว้นจากการดื่มน้ำเมา เหล้า เบียร์ ไวร์ หมาก ยาดอง

สาเหตุของการเกิดมาผิดเพศ คือเคยทำลายเพศมาก่อนเช่นทำหมันสัตยว์ พูดเยอะเย้ยถากถางคนที่เป็นกะเทย ตุด มาก่อน ว่าเขาเราก็เป็นเองค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น รุ่งสุภารัตน์ รุ่งเรือง(ภา) (parungrueang-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-08 14:04:41


ความคิดเห็นที่ 2 (143018)

ขอบคุณค่ะที่เมดดาสมาชิกลูกบ้านสวนหน้าจอนะค่ะ

 ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น กมลวรรณ์ ตาสาโรจน์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-08 13:55:35


ความคิดเห็นที่ 3 (143019)

  หยกได้ดูรายการนี้แล้ว   เห็นโทษของการล้อเพื่อน

หยกจะไม่ทำอีกแล้วครับ 

แต่ก่อนเห็นเพื่อนหัวฟู  แล้วก็อดล้อไม่ได้

เรียกเพื่อนว่า  "ยายฟู"  

เห็นเพื่อนอ้วน  ก็เรียกว่า  อีเลฟเฟ่น

เห็นน้องดำและอ้วน  ก็เรียกน้องว่า  "หมูดำ"

เห็นเพื่อนฟันเหยิ่น  ก็เรียกว่า  "บีเวอร์"

  เห็นโทษของการทุบหัวปลา 

ตบหัวเพื่อน  ว่าทำให้ปวดหัว 

และรังเกียจเพื่อนในหลาย ๆ เรื่อง

เช่น  เพื่อนเป็นประจำเดือน  เลอะกระโปรง  หยกก็รังเกียจ

เห็นเพื่อนไม่เข้าใจที่ครูสอน  แต่หยกเข้าใจ  ก็ว่าเพื่อนโง่

ทั้งหมดที่ว่ามานี้  หยกเข้าใจว่าอยู่ว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ

แต่หยกมองในด้านลบ  ทำให้เพื่อนกลายเป็นคนน่ารังเกียจ

หยกจะไม่ทำอีกแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น พลวัตร นภาพรรณราย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-08 14:06:49


ความคิดเห็นที่ 4 (143020)

ธรรมทานวันนี้โดนใจนักศึกษา

ที่สุด โดยนึกไม่ถึง

จากเหตุการณ์ที่ไม่เคยพบ

ไม่เคยเห็นมาก่อน

แต่จะเป็นอุทาหรณ์

เตือนใจ เตือนสติ

นักศึกษาที่ได้อยู่ใน

เหตุการณ์

ต่อไปจะทำจะคิด

ต้องตั้งสติ

ไม่คิด ไม่ทำ อะไร

โดย

ขาดสติ

ให้ผิดศีล 5

จะได้ไม่เกิดกรรมจากการผิดศีล 5

อีกต่อไป

นักศึกษาก็จะมีสติ

ก่อนคิด ก่อนทำ ก่อนพูด

ขออนุโมทนาบุญ

และขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์

และท่านอ.อุบล

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วัชรินทร์ เกษมณี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-08 14:46:12


ความคิดเห็นที่ 5 (143021)

      เห็นภาพบรรยากาศของการบรรยายธรรมะ

ของท่าน อ. อุบล  นึกว่าเป็นรายการคอนเสิร์ต

สนุกสนานครื้นเครง  เป็นกันเอง  เป็นธรรมชาติ

แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ช่างเหนือธรรมชาติ  เหนือการคาดหมายจริง ๆ

ทุกอย่างถูกจัดสรรมาอย่างลงตัว 

     เพียงแค่เรื่องปวดหัวอย่างเดียว  เราก็ได้รู้รับธรรมะ

ทั้งเรื่องการกระทำผิดด้วยตัวเอง  แนะนำให้ผู้อื่นทำผิด

และการวางเฉยเมื่อเห็นผู้อื่นกระทำผิด

     เห็นน้องกชกร  ได้ระบายความอัดอั้นตันใจ

ที่เก็บไว้นานปี  ตั้งแต่พาเพื่อนไปทำแท้ง  ว่าชีวิตน้องเค้า

ไม่เคยมีความสุขเลย  เพื่อน ๆ ก็ดูถูกเหยียดหยาม

เพื่อน ๆ รังเกียจ พูดอะไรไม่มีใครเชื่อ  มันเป็นทุกข์จริง ๆ 

และเมื่อ ท่าน อ. อุบลได้อุทิศบุญให้กับจิตวิญญาณ

ที่เกาะเกี่ยวอยู่กับตัวน้องเค้า  แล้วเค้ารู้สึกมีความสุข

สบายใจ  ประทับใจมากค่ะ

    ส่วนน้องผักกาด  ก็กล้าหาญมาก

สารภาพผิดในมาดหล่อ ๆ ซึ่งเป็นที่ประทับใจ

วัยสะรุ่น  ซึ่งได้ทำผิดศีลข้อสาม

ด้วยการใช้ปากและลิ้นเลียไอติมถ้วย

แต่ละลีลาของนักแสดง  ต้องยอมรับค่ะว่า

กินขาด  ด้วยเราไม่ค่อยได้เห็น

นักแสดงที่วัยรุ่น แบบนี้  เป็นการเรียนรู้ธรรมะ

ด้วยความสนุกสนานจริง ๆ

    สิ่งที่ประทับใจ  คือ  เห็นภาพที่สะท้อนความรู้สึก

ของน้อง ๆ  โดยผ่านดารานักแสดง

ทำให้รู้สึกว่า  น้อง ๆ เค้าเป็นไม้อ่อนที่ดัดง่าย

เพียงแค่ ท่าน อ. อุบล มาชี้แนะทางสว่าง

น้อง ๆ เค้าก็เห็นทางไปแล้ว  ถ้าสถาบัน

การศึกษาหลาย ๆ แห่ง  ได้รับเมตตา

เช่นนี้  อนาคตของชาติรุ่งเรืองแน่ค่ะ

    กราบขอบพระคุณเทวดาประจำตัวท่าน อ. อุบล

ท่าน อ. อุบล และครอบครัว  ทีมลูกบ้านสวน

ที่ติดตามไปช่วยเหลือท่าน อ. อุบล  ดารานักแสดง

ทุกท่าน  และเวปมาสเตอร์บ้านสวนของเรา

สาธุ  สาธุ  สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-08 14:56:17


ความคิดเห็นที่ 6 (143022)

ต่อนะค่ะ

ใครที่มีอาการเจ็บป่วยออกมาด้านหน้าค่ะ  มีนักศึกษาออกมาหลายคน มีอาการปวดหัว  หน้ามืด ไมเกรน 

น้องคนที่หนึ่ง  ปวดหัวเป็นก้อนเลือดในสมองค่ะเป็นผู้หญิง ผ่ามาแล้วสี่รอบ และจะผ่าอีกรอบเดือนสิงหาคมนี้  มีอาการปากเบี้ยว ค่าใช้จ่ายครั้งละ 120,000บาท เคยทำกรรมมาทำร้ายคนด้วยมือ ขวด ไม้ เหล็ก ตีหัวคนจนสลบ เลือดอาบ 

คนที่สอง น้องกชกร เคยพาเพื่อนไปทำแท้ง สองครั้ง แนะนำเพือนทำแท้ง สองครั้ง ผลคือปวดหัว ปวดหลังมีปัญหากับเพื่อน เพื่อนดูถูก เหยียดหยาม 

คนที่สาม ปวดหัวเคยมีเพื่อนมาปรึกษาเรื่องทำแท้งแต่ไม่ห้าม ส่งผลการไม่ห้ามเป็นบาปอย่างมาก

พอนักศึกษา สารภาพบาปเสร็จอาการเจ็บป่วยก็หาย  หายโดยยืมบุญท่านอาจารยอุบล ถ้าอยากหายขาดให้ไปขอบคุณสิ่งศักดิ์ที่บานสวนพีระมิดนะค่ะ (ยกเว้นน้องคนแรกนะคะ น่าจะมีภาคสองค่ะ)

น้องกชกรใด้กล่าวขอบคุณสำนึกผิด และบอกว่าจะรักษาศีลห้า ก็เกิดอาการเป็นลม เนื่องจากใด้ออกเล่าเรื่องของตนเองเป็นธรรมทาน ทานที่ยิ่งใหญ่

ตลอดเวลาที่รับชมรายการเกิดปิติ ขนลุก น้ำตาไหลตลอดเลยค่ะ

กราบขอบพระคุณ สมเด็จพ่อองค์ปฐม องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านเท้าเเวสสุวรรณ พระอาจารย์ฤๅษีลิงดำ และสิ่งศักดิ์สิทธ์ทุกๆๆพระองค์แห่งบ้านสวนค่ะตลอดจนท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวค่ะ สาธุ

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น รุ่งสุภารัตน์ รุ่งเรือง(ภา) (parungrueang-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-08 15:28:34


ความคิดเห็นที่ 7 (143023)

ต่อนะค่ะ

ใครที่มีอาการเจ็บป่วยออกมาด้านหน้าค่ะ  มีนักศึกษาออกมาหลายคน มีอาการปวดหัว  หน้ามืด ไมเกรน 

น้องคนที่หนึ่ง  ปวดหัวเป็นก้อนเลือดในสมองค่ะเป็นผู้หญิง ผ่ามาแล้วสี่รอบ และจะผ่าอีกรอบเดือนสิงหาคมนี้  มีอาการปากเบี้ยว ค่าใช้จ่ายครั้งละ 120,000บาท เคยทำกรรมมาทำร้ายคนด้วยมือ ขวด ไม้ เหล็ก ตีหัวคนจนสลบ เลือดอาบ 

คนที่สอง น้องกชกร เคยพาเพื่อนไปทำแท้ง สองครั้ง แนะนำเพือนทำแท้ง สองครั้ง ผลคือปวดหัว ปวดหลังมีปัญหากับเพื่อน เพื่อนดูถูก เหยียดหยาม 

คนที่สาม ปวดหัวเคยมีเพื่อนมาปรึกษาเรื่องทำแท้งแต่ไม่ห้าม ส่งผลการไม่ห้ามเป็นบาปอย่างมาก

พอนักศึกษา สารภาพบาปเสร็จอาการเจ็บป่วยก็หาย  หายโดยยืมบุญท่านอาจารยอุบล ถ้าอยากหายขาดให้ไปขอบคุณสิ่งศักดิ์ที่บานสวนพีระมิดนะค่ะ (ยกเว้นน้องคนแรกนะคะ น่าจะมีภาคสองค่ะ)

น้องกชกรใด้กล่าวขอบคุณสำนึกผิด และบอกว่าจะรักษาศีลห้า ก็เกิดอาการเป็นลม เนื่องจากใด้ออกเล่าเรื่องของตนเองเป็นธรรมทาน ทานที่ยิ่งใหญ่

ตลอดเวลาที่รับชมรายการเกิดปิติ ขนลุก น้ำตาไหลตลอดเลยค่ะ

กราบขอบพระคุณ สมเด็จพ่อองค์ปฐม องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านเท้าเเวสสุวรรณ พระอาจารย์ฤๅษีลิงดำ และสิ่งศักดิ์สิทธ์ทุกๆๆพระองค์แห่งบ้านสวนค่ะตลอดจนท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวค่ะ สาธุ

 

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น รุ่งสุภารัตน์ รุ่งเรือง(ภา) (parungrueang-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-08 15:33:20


ความคิดเห็นที่ 8 (143028)

   จากที่น้องกชกร เป็นตัวแทนกล่าวคำขอบคุณสิ่งศักดิ์

ได้สักประเดี๋ยว  แล้วเป็นลม

เพราะเป็นธรรมทานที่ยิ่งใหญ่ วิญญาณที่เกาะมากับนักศึกษา

   พุ่งตรงกันมามโทนาบุญกับน้องเค้า

   เสด็จพ่อบอกว่าวิญญาณอยู่เต็มห้องประชุม

   ท่านอาจารย์ถามว่าใครที่ทำแท้ง แนะนำ รู้เห็น ให้รับมา

   ซึ่งยังมีบางคนตอบไม่เต็มเสียง ด้วยความกลัวท่านอาจารย์ให้ตอบเสียงดัง

   เพราะวิญญาณเขาต้องการบุญ ที่เราสำนึกผิด กล้าทำก็ต้องกล้ารับ

   

   ปรกติผมจะดูรายการผ่าน Internet  

ระบบ TV จานดำเขาจะล็อกช่องFAN TV ให้ดูกัน

   ผมเลยขอปรับไปช่อง BANGKOK ทูเดย์

เพื่อให้พนักงานบ้านพักทราบถึงการผิดศีล

   ผ่านรายการ บุญที่ผมได้จากการบอกกล่าวแจ้งให้ชมรายการนี้

   ขออุทิศให้เทวดารักษาอาจารย์อุบล สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์

และครอบครัวอาจารย์

   อีกทั้งเวบมาสเตอร์ 

    สาธุ  สาธุ  สาธุ

   

ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์เงิน อุดมศิริ (ตาโต๊ะ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-08 19:17:41


ความคิดเห็นที่ 9 (143029)

กราบนมัสการสมเด็จองค์ปฐม  ท่านท้าวเวสสุวรรณสิ่งศักดิ์สิทธ์แห่งบ้านสวนพีระมิด    กราบสวัสดีท่านอ.อุบล อ.มงคล ค่ะ

หัวข้อบรรยาย ทุกข์ที่สุดทำอย่างไรจะหลุดได้                                                        

ท่าน อ.กล่าวสวัสดีทุกๆคน ท่าน อ.สง่างามมากค่ะ ท่านใช้ธรรมบำบัด   ท่านอ.เชิญพิสูจน์อย่าเพิ่งเชื่อ ท่านอ.เกริ่นนำ ท่านไม่ใด้มากับคนเท่านั้น  นศ.เชื่อเรื่องผีมีจริง สิ่งศักดิ์มีจริง พระพุทธองค์มีจริง ท่านมากับเพื่อนอีกมากมายเป็นแสนโกศที่เรามองใม่เห็น มีใครอยากเห็นพระพุทธเจ้าบ้าง ขอให้อธิษฐานจิต สัมผัสใด้   ใคนขนลุกบ้าง(มียกมือ) แล้วที่ไม่ขนลุก (เพราะไม่มีขน...อย่างฮา)การเกิดอาการปิติ ขนลุก                                                                        ท่านอ.กล่าว ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา                                                                 ท่าน อ.ถาม ธรรมะ คืออะไร  ......เงียบ ใครไปวัดบ้าง มียกมือ..ไปกินข้าววัดหรือ

ท่านอ.สมาทานศีล5

1.ไม่ฆ่าสัตว์ ฆ่าคน มีตัวอย่าง คุณไอซ์เคยฆ่าคนมา 5คน  เรียกเสียงฮืออาเริ่มตั้งแต่ตอนอายุ17ปี  ก็รุ่นราวเดียวกับ นศ. มีใครอายุเท่าไหร่บ้าง ที่ไม่ยกมือ นี่พวกหมดอายุ (ฮา) เธอทำแท้งครั้งแรก แต่มีครั้งต่อไปถึง 5 ครั้ง ไปทำแท้งคลีนิกเถื่อนผลคือมดลูกเน่ามีกลิ่นเหม็นมากค่ะ

2.ไม่ลักทรัพย์ ทำให้คนอื่นเสียทรัพย์  ใครทำบ้าง มียกประปราย                           ชอบของฟรี ยกกันพรึบ ข้อนี้ไปนรก ขุม 2                                                          ท่าน อ.กล่าวว่า เด็กๆ ก็ลักยางลบ ดินสอเพื่อน เคยไหม  โตหน่อยก็ลักของเพื่อน  ผู้ใหญ่ข้าราขการเอาของที่ทำงานกลับบ้าน (ลืมมาคืนคุณธนาบอกทำบ่อย) นักการเมืองลักหิน ลักปูนโกงกินประเทศ                                           

3. ไม่ประพฤติผิดในกาม ผิดลูกผิดเมีย ชิงสุกก่อนหาม

คุณอมร ใด้ออกมาบอกว่าเคยชิงสุกก่อนแต่งงาน  (จิ๊บๆ กลับไปนั่งที่)

คุณป้อม  ผิดศีลข้อ3 มี 3 รูปแบบเคย ชิงสุกก่อนหาม เที่ยวกลางคืน อาบอบนวด เอาพี่เอาน้อง เอาเพื่อน ทำแต้ม 500คน (มีเสียงฮืออา)

ต่อไปน้องเอิ้น มากกว่าเมื่อกี้ ให้ทายว่ากี่คน นศ.ชายตอบถูกที่1000คน ท่านอ.เลยให้รางวัลด้วยการให้เลือกเอาระหว่าง เงินหนึ่งร้อยบาท หรือหายจากการปวดหลัง น้องก็หายปวด และรู้สึกแปลกใจที่หายทันที

มีใครจะถามพี่เอิ้นบ้าง  สาวหล่อ(น้องผักกาด) ถาม ที่ผ่านมาเป็นหญิงหรือชาย          (ชายครับ)  ท่านอ.ให้รางวัล มีอาการเจ็บป่วยอะไร  สาวหล่อ เจ็บคอ เอ้าหาย แต่ยังเสียงแหบอยู่ แล้วเธอล่ะไปทำอะไรมา  กินไอติม กินไอติมแท่งนี่น่ะ ไม่ใช่ ไอติมถ้วย (โอ๊ย พิมพ์ไปนี่เราลายครามจริงๆ เด็กๆใช้ชีวิต...แล้วทำแต้มที่เท่าไหร่ 40 ปลายๆ ยิ่งกินถ้วยที่มีเจ้าของยิ่งชอบ มิน่าเล่าถึงได้มีสิวขึ้น เด็กเห็นจริงด้วยทุกครั้งที่มีแฟนที่มีเจ้าของอยู่แล้วจะมีสิวขึ้น และด้านนี้สิวเป็นแถบคงมีหลายคน พอสารภาพหมดหมด อาการหาย                                                                                                                            4.ไม่โกหก หลอกลวงกะล่อน ตอแหล คำหยาบ นินทา ส่อเสียด (นศ.ตอบเสียงดังมาก )
5.ไม่ดื่มน้ำเมา เหล้า เบียร์ ไวร์ หมาก ยาดอง

นศ.นับถือพุทธ ทำศีลผิดมาทั้ง 5 ข้อ แต่ไม่เคยรู้ว่าละเมิดศีลจะมีความผิดอย่างไร          การผิดศีล ไม่ต้องทำเอง แค่ยุยง ยินดี หรือสมน้ำหน้า การแช่งก็ล้วนผิดศีล                 หญิงไม่สวย หรือชายไม่หล่อ เกิดผิดเพศ กระเทย ตุ๊ด แต๋ว ล้วนแต่ทำลายเพศมาก่อนเช่นทำหมันสัตว์ ให้เงินค่าทำหมัน หรือละเมิดผู้อื่น เช่นล้อเลียน อ้วนดำ นมโต          การที่สวยหล่ออยู่แล้ว ก็มีสิทธิ์ มีสิวผ้า ไม่สวยได้ถ้าทำบาป ที่มีทั้ง การพูด คิด กระทำ  ท่านอ.เริ่มบำบัดต่อ ใครปวดหัว ปวดไหล่ให้ออกมา  มี นศ.ออกมา 6-7 คนมีที่น่าสนใจมี 2คน                                                                                                  คนแรกค่อนข้างท้วม หลุกหลิก บอกผ่าสมองมา 4 ครั้ง ครั้งละ แสนสอง หมอนัดผ่าอีก ไม่ยอมพูดไปทำอะไรมา งั้นยืนคิดก่อน... ไปไต่สวนคนอื่น ล้วนทุบหัวปลาช่วยแม่ทำกับข้าว ตบหัวเพื่อน ท่าน อ.ให้ขอโทษเพื่อนขอพระพุทธองค์ ให้หาย          ท่านยังเมตตา นศ.ที่ผ่าสมอง  ให้สารภาพตาม เป็นไง ตีหัว มีไหม      เริ่มพูด มี ยอมรับเฮไปกับผู้ชายผิดศีลทุกข้อ  ..แล้วเชื่อพระพุทธเจ้ามีจริงไหม....ตอบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง     งั้นเอาไปหายปวดหัวครึ่งเดียว เพราะคุณไม่ศรัทธาพระพุทธองค์                                                คนที่2   รูปร่างผอมเพรียว ปวดหัวร้าวมากลางหลัง เป็นมา 6 ปี สารภาพพาเพื่อนไปทำแท้ง บอกกลัวท่าน อ. มาก ท่านเมตตากอด นศ.บอกว่า พูดไม่ออก หายปวดหัวชนิดถอนรากถอนโคน  ถือเอาหนูเป็นธรรมทาน น้อง นศ.ร้องไห้ เพราะสงสารเพื่อน พาไป 2 ครั้งแนะนำไป 2 ครั้ง แต่สิ่งที่ได้รับมีแต่เพื่อนเหยียดหยาม ดูถูก ทั้งที่จริงใจกับเพื่อน ต่อไปหนูจะไม่ทำอีก หนูจะรักษาศีลห้า                                                                  การโกหกจะโกหกใครก็ได้ แต่ไม่มีสิทธิ์โกหกตัวเอง และพุทธองค์ได้เมตตาปลดปล่อยจิตวิญญาณที่เกาะเกี่ยวอยู่ กราบสาธุค่ะ                                                      สุดท้ายก่อนก่อนหมดเวลายังมีเรื่องตื่นเต้น ท่านอ.ให้ นศ.ขอบพระคุณพระพุทธองค์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอตัวแทนพูดกล่าวขอบคุณ นศ.บายมือไปที่น้องคนที่พาเพื่อนไปทำแท้งพูดกล่าวขอบคุณ ได้ไม่กี่ประโยคก็ซีดออ่นแรงเป็นลมเพื่อนประคองไปนั่ง ทุกคนเงียบทาน อ.บอกว่าไม่เป็นไร เป็นเพราะท่านท้าวเวสสุวรรณแสดงฤทธิ์ เนื่องจากในที่นี้ยังมีวิญญาณเด็กที่ถูกทำแท้งที่มารอบุญ ไหนใครเคยทำแท้งบ้างเงียบกริบไม่มีเสียงแล้วที่แนะนำเพื่อน รวมถึงทำแท้งก็ส่งเสียงมาเพราะเขารอบุญอยู่ ท่านเมตตาไปประครองน้อง นศ.ให้ลุกจากเก้าอี้และนำมาเป็นธรรมทาน

                                                                                     กราบอนุโมธนา  ...สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น สุระณี สิริมานุวัฒน์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-08 19:32:13


ความคิดเห็นที่ 10 (143033)

ต้องติดตามตอนหน้า. เรื่องคำสารภาพของน้องนักฆ่า

ซึ่งเธอใช้เวลาตัดสินใจนาน. จึงต้องนำออกอากาศ ต่อตอนหน้า

ด้วยเวลาไม่พอที่จะนำเสนอในตอนนี้. เพราะไม่อยากตัดตอนใดทิ้งจ้ารอหน่อยนะจ้ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-09 06:32:53


ความคิดเห็นที่ 11 (143035)

ความหลงผิด ทำให้คนเราตัดสินใจผิด

คิดว่า ทำความชั่ว เป็นเรื่องเท่ห์ กว่าจะรู้ว่า

ความชั่วนั้นมันกลับมาทำร้ายตนเอง ก็สายไปแล้ว

ต้องถูกผ่าสมองไปแล้ว และจะต้องผ่าไปเรื่อยๆ ไม่มีกำหนด

เจ้าตัวไม่เคยคิดเชื่อมโยง กับสิ่งที่ทำไว้กับคนอื่นเลย

ไม่เคยรู้ว่า วิญญานเจ้ากรรมตามทุกลมหายใจ

ตามไปอยู่ในทุกอวัยวะที่ตนทำร้ายผู้อื่น

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-09 06:34:19


ความคิดเห็นที่ 12 (143036)

ถึงบ้านกันรึยังจ๊ะ

ส่งเสียงหน่อยจ้า

หรือว่าราตรีสลบจ้ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-09 06:35:03


ความคิดเห็นที่ 13 (143037)

อนุโมทนาบุญกับทุกๆธรรมทานด้วยนะครับ

กรรมนี้ช่างน่ากลัวจริงๆครับ แหมเสียดายนะครับที่เรื่องราวของน้องนักฆ่ายังไม่ได้ออกอากาศครบในสัปดาห์นี้

ไงสัปดาห์หน้าผมว่าหากทุกคนได้ดูแล้วอาจจะอึ้งไปเลยกับวีรกรรมที่น้องเขาทำและผลกรรมที่น้องเขาได้รับ มันช่างน่ากลัวเสียจริงๆครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-08 23:59:09


ความคิดเห็นที่ 14 (143041)

ได้ชมคลิปแล้วค่ะ

อนุโมทนากับท่านอ.อุบล

และทีมลูกบ้านสวนฯ

รวมถึงน้องๆชาวเทคโนราชมงคลฯ

ทุกๆคนอีกครั้งด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

 

ได้สัมผัสกันเต็มๆ

ถึงฝีมือการแสดงธรรมระดับ

ท่านอาจารย์อุบลนั้น

รับประกันคุณภาพจริงๆ

ทั้งฮา ทั้งสนุก ทั้งสุข

ทั้งเศร้า เคล้าน้ำตา จริงๆ

 

ยิ่งพอถึงตอนน้อง กชกร

ออกมาสารภาพบาป

และถ่ายทอดความทุกข์

ที่ฝังลึกในรากใจแล้ว

 

ขอบอกว่า นอกจากจะน้ำตาท่วมจอแล้ว

น้ำตายังทะลุจอ ออกมาท่วมตา

คนดูเต็มๆอีกด้วย

เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก

ทั้งเศร้าไปกับน้องเค้าด้วย

 

แต่อีกใจนึง ก็ปลื้มปิติ ดีใจ

ที่เห็นน้องเค้าพ้นทุกข์ได้

ต่อหน้าต่อตาจริงๆ สาธุ

 

คือเห็นหน้าน้อง กชกร แล้ว

หน้าตาใสซื่อบริสุทธิ์มากๆ

คือคนแบบนี้นะ ชนิดาว่า

ทำบาปไม่ค่อยขึ้นหรอก

เพราะผลกรรม ไม่ว่าจะเล็ก จะใหญ่

จะตามมาส่งผลให้เห็นชัดๆแบบรวดเร็ว

เพื่อ ให้ได้ฉุกคิดแน่ๆ

แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

 

เพราะบางคน กว่ากรรมจะส่งผล

ก็หลายสิบปี ก็เลยประมาทชะล่าใจ

ทำบาปกรรมซ้ำซ้อนไปเรื่อยๆ

ไม่มีสำนึก...แต่น้องกชกร

ถึงแม้จะสำนึกผิด คิดแก้ไข

แต่กำลังบุญก็ยังไม่พอ 

จนต้องมาเจอ กับท่านอ.อุบล

จึงได้"หลุดพ้น"

 

เสียดายที่ยังไม่ได้ชม

การสารภาพแบบเต็มๆปาก

เต็มๆเวอร์ัชั่นของน้องนักฆ่า

 

ขอบคุณค่ะอาจารย์

ที่ไม่ตัดส่วนใดออกเลย

เพราะทุกๆนาทีที่ถ่ายทำมา

มีคุณค่ายิ่งใหญ่มากๆ

ก็รอติดตามตอนต่อไป

ด้วยใจจดจ่อค่ะ ...

 

อนุโมทนากับทุกๆธรรมทาน

จากทุกๆท่านด้วยค่ะ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-09 07:10:35


ความคิดเห็นที่ 15 (143042)

 ต้องขออภัยอีกครั้ง.  อ้ออีกหลายครั้งค่ะ

ที่ต้องสงวนการชมคลิปนี้ไว้เฉพาะสมาชิกเท่านั้น

รวมทั้งคลิปที่ คุณพ่อ. ดร.อาจอง มาบรรยาย ค่าย12. 

ก็จะไม่นำมาให้ชมทางเวปนี้. เพราะ การเตือนภัยครั้งนี้

ถือเป็นการเตือนลูกหลาน. คนใน จริงๆ. เป็นการบอกเตือนที่

ชัดเจน. ตรง. มากที่สุดกว่าการบรรยายทุกครั้ง

ตลอดจนการตอบคำถามแต่ละเรื่อง ที่เจาะลึก

ดังนั้นจึงเป็นคลิปสงวน รู้ได้เฉพาะคนที่เข้าค่ายเท่านั้น

และอาจนำบางตอนออกอากาศ. ในรายการคุยไปแจกไป ค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-11 01:00:08


ความคิดเห็นที่ 16 (143043)

 ขอประกาศแจ้งเตือน. บุคคลที่จะลิ้งค์คลิปนี้ไปที่อื่น

ต้องได้รับอนุญาตก่อนเท่านั้น. การฝ่าฝืนและละเมิดผู้อื่น

ย่อมได้รับผลกรรม. ดังที่ได้เห็นตัวอย่างในคลิปนี้แล้ว

และหลายเหตุการณ์ที่เกิดให้เห็นตัวอย่างมาแล้ว

รวมทั้งที่ได้เกิดกับชีวิตพวกเราแต่ละคนมาจนตลอดชีวิต

แต่ไม่รู้ ไม่เคยคิด ว่ามันเกิดเพราะเราล่วงละเมิดผู้อื่น

จึงต้องมีรายการบ้านสวนพีระมิด มาให้แต่ละคนใช้ปัญญา

ชมแล้วดูแล้วนำมาคิดดู ว่าเป็นได้ไหม ไม่ต้องเชื่อเลย

แล้วก็ตัดสินใจเลือกทางเดินต่อไปเอง ด้วยปัญญาของเราเอง

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-11 00:58:43


ความคิดเห็นที่ 17 (143045)

 บางคนที่มาบ้านสวนตั้งนาน. เกาะเวป มานาน แต่พระธรรมอันงดงามของพระพุทธเจ้า ไม่สามารถแทรกซึมเข้าไปในใจได้เลย

ทั้งนี้. ให้ดูความทุกข์ในชีวิต. ดูปัญหา อุปสรรค. ว่ามันเหมือนเดิม หรือเปลี่ยนแปลงคลี่คลาย

 แล้วก็ดูคนอื่นที่เขามาพร้อมเรา มาก่อนเรา ทีหลังเรา เป็นยังไง เราอยากเป็นอย่างใคร แล้วลองดูใหม่อีกครั้งว่า ที่เราเป็นอย่างเขาไม่ได้ เพราะมีอะไรที่เราไม่ทำหรือทำไม่ได้อย่างเขา  เราจะใช้วิธีเพียรทำดีอย่างเขา. หรือว่าเราจะใช้วิธีทำให้เขาเป็นอย่างเรา. ด้วยการทำลายความดีของเขา. ซึ่งหลายคนก็ใช้วิธีนี้กัน แต่ก็ยังไม่เห็นเลยว่ามีใครได้ดีจริงๆ แล้วก็ยังไม่เห็นใครคิดได้จริงๆว่า. ที่เราทำอย่างนี้มา. เราดีได้ หรือได้ดีเท่าเขาหรือไม่. แล้วเขาตกต่ำลงมาเท่าเราหรือไม่ เวลานี้

เขาเป็นอย่างไร. เราเป็นอย่างไร. เราใช้เวลาแต่ละนาทีทำอะไร. แล้วเขาล่ะ แต่ละนาทีทำอะไร. ดูได้ไม่ยากหรอกจ้า ดูจากหลักฐานผลงานที่ปรากฏ. แล้วเอามาวัดรอยเท้ากันดู. ว่าเราจะดำเนินชีวิตด้วยวิธีเดิมๆต่อไป. แล้วก็เป็นอย่างเดิม. หรือว่าจะลองเปลี่ยนวิธีดูใหม่ เผื่อว่าจะพบสิ่งใหม่ๆเข้ามาบาง แต่ถ้าคิดว่า ชีวิตตอนนี้

ดีสุดแล้ว สุขที่สุดแล้ว. เงินก็พอแล้ว งานก็ดีแล้ว สุขภาพก็ดีแล้ว ความรัก ครอบครัวดีพร้อมหมดแล้ว ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ที่สำคัญไม่ต้องการทำดี จะทำอย่าง

เดิมนี้ต่อไป. มันลองเสียแล้ว มันฝังเข้าไปในสายเลือดเสียแล้ว ไม่แก้แล้ว ก็ตามใจ. และต้องให้เอาวิธีี่ท่านใช้แล้วเป็นสุข พบความสำเร็จนี้ มาช่วยสังคมไทยก็จะดี

ผู้คนจะได้มีวิธีเลือก. ต่างคนต่างชอบ ทางใครทางมัน. เราอย่ามาเสียเวลาเดินไปด้วยกันอีกเลย. ถามหน่อยเถอะไม่ฝืนใจบ่าฃหรือที่ไม่ชอบ แต่ทำเป็นชอบหรือ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-11 00:56:37


ความคิดเห็นที่ 18 (143046)

 ตอนนี้ีแต่คนมาหา มาบ่นให้ฟังว่า สังคมเสื่อมทราม. เด็กสมัยนี้ไม่เชื่อครู ไม่เชื่อพ่อแม่. ก้าวร้าว. โหด***ม. ขี้เกียจ ไม่ช่วยทำงาน

ทำอะไรไม่เป็น. พ่อแม่ทุกข์ใจ. ขอให้ อ.อุบล ช่วยทำอะไรหน่อยซี

อ๊าว. นี่ลูกคุณนะจะยกให้เป็นหน้าที่อ.อุบล หรือไร

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-11 00:52:34


ความคิดเห็นที่ 19 (143047)

 



หนูยังไม่ได้เข้าไปดูคลิปนี้เลยค่ะ
แต่ด้วยเนื้อเรื่องที่พวกเรารับรู้มาบ้างแล้ว
ชวนให้ติดตามแบบพลาดไม่ได้จริงๆ

แต่ตอนนี้ขอนำธรรมทานเมื่อ
วันเสาร์ที่ 7 ก.ค.55 
มาฝากพี่น้องบ้านสวนดังนี้ค่ะ
สัปดาห์นี้ท่าน อ.อุบลได้
อนุญาติให้ลูกบ้านสวนขาประจำ
สามารถนำพ่อแม่ ญาติพี่น้องมาบำบัดได้
โดยได้รับอนุญาติเป็นกรณีพิเศษ
ซึ่งก็มีไม่มากค่ะที่พาญาติมา
หลังจากเราได้สร้างบุญด้วยแรงกาย
กันมาทั้งวันแล้ว
สัปดาห์นี้ได้ร่วมกันสร้างวิหาร 3 ชั้น
ซึ่งตอนนี้เร่งสร้างเพื่อให้ทันเวลา

ช่วงพิธีการตอนค่ำ
พี่ธนาได้พูดถึงเรื่องที่ว่า
ต่อไปนี้ลูกบ้านสวนเรา
นอกจากมาสร้างบุญแล้ว
ต้องทำหน้าที่ของตัวเองด้วย
ต้องกอบกู้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ด้วย
อย่าเหมือนเด็กที่โรงเรียนอยุธยา
ที่เขาเพิกเฉย นิ่งดูดาย
เมื่อเพื่อนทำกรรมชั่ว
มิใช่เข้าเว็บมาเพื่อเพียงแต่คอย
อนุโมทนากับเขาอย่างเดียว

เมื่อท่าน อ.อุบลมาถึง
ผู้ที่ออกไปพูดคนแรกคือ
คุณพ่อของน้องโจ อดีตลูกบ้านสวน

"เงินใส่บาตรวิระทะโย สำคัญไฉน"
 
พ่อน้องโจ มาขอขมาและขอบคุณ
ว่าที่ผ่านมาคุณพ่อ เจ็บป่วย
จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
เพราะก่อนหน้านี้ได้มาสร้างบุญที่บ้านสวน
และตั้งใจว่าจะเอายอดขาย 10% 
มาทำบุญกับบ้านสวน
เก็บไว้ได้ประมาณ 7000 บาท
แต่ก็มีเหตุให้เอาเงินนี้ไปใช้
และคิดว่าจะเอามาใส่คืนภายหลัง
อีกทั้งน้องสาวที่อยู่ต่างประเทศ
ก็โอนเงินมาให้ใช้
แต่แทนที่ตนจะนำเงินใสคืน
เงินทำบุญ
กลับเอามาใช้จ่ายจนหมด

หลังจากนั้น 2 วัน 
พ่อน้องโจก็กินข้าวไม่ได้เลย
เริ่มคันตามเนื้อตามตัว
ไปหาหมอ เปลี่ยนหมอ
เปลี่ยนยามาหลายตัว
ก็ไม่หาย หมอก็ไม่รู้ว่า
เป็นโรคอะไร
บอกแต่ว่าแพ้นู่นแพ้นี่
พ่อน้องโจคันอยู่ได้เดือนกว่าๆ
ก็ตัดสินใจนำเงินบุญที่เอาไปใช้
โอนเงินมาทำบุญกับบ้านสวน
ในวันที่ 16 หลังจากนั้นอีก 10 วัน
พ่อน้องโจก็ฝันว่า
ให้มันทรมานแค่นี้พอแล้ว

ทำให้พ่อน้องโจคิดได้ว่า
นี่คงเป็นผลกรรมที่ตน
เอาเงินบาตรวิระทะโยมาใช้เป็นแน่
ซึ่งทำให้ลุงไม่มีเรี่ยวมีแรง
เดินแทบไม่ไหว
มาสร้างบุญก็ไม่มีแรงเลย
กินก็ไม่ได้จนร่างกายผ่ายผอม

และในขณะที่คุณลุงเล่าเรื่องราว
ทั้งหมดต่อหน้าท่าน อ.อุบล
ก็รู้สึกว่ามีแรงขึ้น ดีขึ้นกว่า 80%
ขาที่ชาดีขึ้น เหตุเพราะอธิษฐาน
ไว้ว่าจะนำเงินรายได้จากการขับรถ
มาทำบุญ แต่ก็มาผิดสัจจะ
จึงทำให้ขาไม่มีแรงทำมาหากิน
ไม่มีแรงเหยียบคันเร่ง
(กฎแห่งกรรมช่างแยบยลจริงๆ)

ในขณะที่คุณลุงเจ็บป่วย
ก็ได้ใช้ทั้งองค์พีระมิดวางบนตัว
ใส่เสื้อบ้านสวน
ใช้เคริ่องรางของขลังทุกอย่าง
แต่ก็ใช้ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง
ซึ่งท่าน อ.อุบลได้บอกไว้ว่า
ต่อให้เรามีเครื่องรางของขลัง
มากมายเพียงใด
แต่ถ้าผิดศีล สิ่งศักดิ์ก็คงช่วยเราไม่ได้

เดี๋ยวมาต่อช่วงบ่ายค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-09 09:49:12


ความคิดเห็นที่ 20 (143049)

 ขอเล่าธรรมทาน เสาร์นี้บ้างครับ

เงินที่อฐิษฐานทำบุญแล้ว นำไปใช้ เกิดผลอย่างไร

     เนื่องจาก คุณพ่อน้องโจ ที่มาในครั้้งนี้เพื่อขอขมาสิ่งศักดิ์์สิทธิ์ ท่านอาจารย์อุบล ที่นำเงินที่ใส่บาตรวิระทะโยไปใช้ จนได้รับผลกรรม จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด

     ในช่วงที่ คุณพ่อน้องโจ ทำอาชีพขับรถรับจ้าง แล้ว ตั้งใจว่าจะ แบ่งเงิน 10 เปอร์เซนต์ มาสร้างบุญกับบ้านสวน แต่ นำไปใช้จนหมด เพราะความจำเป็น

     จนกระทั่งน้องสาวโอนเงิน จากต่างประเทศ มาให้ไว้ไปเที่ยวสงกรานต์ แต่พ่อน้องโจ แทนที่จะเอาเิงินมาใช้คืน แต่กลับเอาไปใช้จนหมดทำให้เกิดเคราะห์กรรม

     สักพักน้องโจ ก็มีอาการคัน ไปตรวจที่โรงพยาบาล หมอก็ไม่สามารถวินัจฉัยได้ว่าเป็นโรคอะไร เพราะ ผลเลือดทุกอย่างปรกติหมด พ่อน้องโจก็ เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ พอใช้ ปิรามิด จึงช่วยให้หลับได้บ้าง

     หลังจากนั้นมีคนที่เป็นร่างทรง เห้งเจีย มาทักว่า เกิดจากกรรมที่เอา เงินที่ตั้งใจจะเอามาทำบุญกับบ้านสวนแล้ว เอาไปใช้ และไม่เอามาคืน ถ้าไม่เอามาคืนอาจจะถึงตายได้

     พอรู้อย่างนี้ พ่อน้องโจก็ ตั้งใจจะมาขอขมา แล้ว พ่อน้องโจก็ได้ฝันว่า มีคนมาพูดว่า ทรมานมันแค่นี้พอแล้ว เมื่อรู้เหตุ ทั้งหมด พ่อน้องโจก็ตั้งใจมา ทั้งๆ ที่สภาพ ไม่สมบูรณ์ 100 เปอร์เซนต์ มีอาการเหนื่อยง่าย ขาชา เหมือนเดิม

     ช่วงที่ขอขมา และสารภาพบาป อาการทุกอย่างก็ดีขึ้นไม่ว่าจะเป็น อาการขาชา ไม่มีแรง เบื่ออาหาร กรรมทุกๆอย่างไม่ว่าจะเคยใช้เท้าแทนมือ ใช้เท้าถีบภรรยา หันเท้าไปทาง พีระมิดรุ่นบุปผามาลี บวงสรวงสมเด็จองค์ปฐมฯ กรรมมารวมตัวกัน กับ กรรมในครั้งนี้

ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย แล้วขายที่ได้

อาจารย์ณี ได้ออกมาขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ช่วยให้ขายที่ได้ 18 ล้านบาท แต่ก็ต้องแบ่งคนอื่นๆด้วย

วิบากกรรม จากความตะกละ ทำให้เป็นหนี้สงฆ์

     เรื่องนี้เป็นเรื่องของผมเอง เหตุเกิดเมื่อช่วงที่มีงาน ค่าย 12 แล้ว เจ้าภาพ ทำิพิซซ่า มาเลี้ยง ที่โรงทาน แต่ ด้วยความตะกละ จึงหยิบมาทาน โดยที่ไม่สอบถาม หรือได้รับการชวน จากเจ้าภาพ ก่อนว่า อนุญาติ ไหม เพราะ ต้องนำ พิซซ่า นั้นไปเลี้ยงแขกคนอื่น แม้จะได้รับการชวน จากคนที่ช่วยเจ้าภาพทำ แต่ ไม่ได้เป็นการให้โดยตรงจากเจ้าของ เลย ถือว่าคราวนี้ ผิดทั้ง หนี้สงฆ์ คือ นำของที่จะนำมาทำบุญมาทานก่อน และ ผิดข้อหาลักทรัพย์ รู้สึกว่าตัวเองผิดมาก ที่ไปกินของคนอื่นโดยที่เขาไม่เต็มใจ ทำให้เสียหายมาถึงครูบาอาจารย์อีก ทั้งๆ ที่เราก็มาบ้านสวนบ่อย

     ถือว่า เป็นบทเรียน ใ้ห้มีความรอบคอบ ในการจะหยิบอะไรมาทานควรจะได้รับการชักชวน ที่เต็มใจ จากผู้ให้ เพื่อให้เขาได้รับบุญ ที่เต็ม และ ไม่เป็นบาปกับผู้รับ

     อีกทั้งฃ่วงที่บำบัดรวม ก็ทำให้ คุณก้อยที่เป็นเพื่อนเรา เจอบาปไปด้วยเพราะ เราหยิบ มา 3 ชิ้น เอามาเผื่อคนอื่น ทำให้เพื่อนต้องรับเคราะห์ไปพร้อมๆ กับเราอีก คุณก้อยก็มีอาการปวดขา แต่บำบัดแล้วไม่หาย แล้วพี่แหล๋นก็ทาน พิซซ่า ก็โดนเคราะห์์กรรมตรงนี้ด้วย ส่วนตัวเองก็มีอาการเจ็บคอ แต่ไม่หาย แต่ก็จะพยายาม ชำระหนี้สงฆ์ ไปเรื่อยๆ และ ทำสร้างความดีเพื่อ ไถ่บาปตรงนี้

     ขอกราบขอขมาท่านอาจารย์อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ และ ต้องกราบขอโทษทางเจ้าภาพ ด้วยนะครับ ที่ ทำตัวไม่เหมาะสม ตะกละ ทำให้เสื่อมเสียภาำพรวม โดยที่เราเป็นต้นเหตุเอง คนเดียว

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-09 13:37:54


ความคิดเห็นที่ 21 (143051)

 



ธรรมะเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 7 ก.ค (ต่อ)

พีระมิดคือเครื่องขยาย
ถ้าทำความดี ความดีก็ขยายตาม
ตรงกันข้าม ถ้าทำชั่ว
ก็ชั่วเป็นร้อยเท่าพันทวี
พีระมิดมีพลังมนต์ขลัง
ผู้ใดได้เกี่ยวข้อง
ยากที่จะถอนตัว

พ่อน้องโจได้สารภาพต่อว่า
เคยใช้เท้านี้ทำนู่นนี่นั่น 
เคยเตะเมีย
อาการทั้งหมดที่เป็น
จึงหาย 100%

และตอนนี้หากใครปรามาศ
ท่าน อ.อุบล
เบื้องบนท่านไม่ให้ขอขมาแล้ว
คุณจะต้องไปเช่าสื่อ
ลงประกาศขอขมาเอาเอง
ต่อไปถ้าท่านอาจารย์
จะไปบรรยายที่ไหน
จะใช้ชื่อหัวข้อการบรรยายว่า
 
"การพิสูจน์ผลกรรมแบบฉับพลันทันที"

และรูปทรงของพีระมิด
ก็คือสัญลักษณ์แทนองค์พระพุทธเจ้านั่นเอง
เวลาที่ท่านนั่งสมาธิ
โครงสร้างก็จะเป็นรูปสามเหลี่ยม
จึงเป็นสิ่งที่ว่าทำไมการทำสมาธิ
ด้วยท่านั่งขัดสมาธินี้จึง
ทำให้จิตเป็นสมาธิเร็วที่สุด

และ ท่าน อ.อุบลได้สรุปไว้ว่า
ใกล้ถึงวันที่เราจะเปลี่ยนยุคแล้ว
เราต้องไม่ปล่อยให้ใครมาละเมิด
ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
หากเรานิ่งเฉย
เวลาเราเจอเคราะห์กรรม
ก็จะมีแต่คนเพิกเฉยเรา
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ช่วย
พวกที่ยังเพิกเฉยอยู่
อาจได้เจอเคราะห์กรรมก็ได้

ขอกราบพระบาทพระพุทธองค์
สิ่งศักดิ์สิทธิทุกพระองค์
และท่าน อ.อุบลและครอบครัว
ที่ให้ธรรมมะ และปัญญา
รวมทั้งจิตสำนึก กราบขอบพระคุณค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-09 17:15:28


ความคิดเห็นที่ 22 (143053)

 สาธุ อนุโมทนาบุญกับอาจารย์แม่และญาติธรรมทุกท่านค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ลักษมณ แรงฤทธิ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-09 18:25:47


ความคิดเห็นที่ 23 (143054)

โมทนาบุญกับธรรมทานน้องตุ้ย    น้องเอิ้น  และทุกท่านค่ะ

 น้องกชกร นี่แค่พา และแนะนำเพื่อนทำแท้งเป็นถึงขนาดนี้ โชคดีของน้องที่เจอท่านอ.อุบล แล้วก็ได้สำนึกจากใจจริงแค่  2-3 ช.ม. ก็บรรลุธรรมแล้ว?

แล้วเราละเกาะเวปมาตั้งนานเปลี่ยนได้แค่นี้หรือ?

เบื่อตัวเองจังทางโลกก็ยุ่ง ครอบครัว  ลูก ญาติพี่น้อง ฯลฯ 

              ทางธรรมก็ไม่พัฒนาเลยตาย

ครั้งนี้จะเป็นอะไรไป  แต่ยังติดตรงที่ยังไม่ได้ทำหน้าเต็มที่ นำธรรมของพระพุทธองค์ไปบอกให้คนที่เรารักได้ทั้งหมดเลย

กราบพระบาทพระปฐมบรมธรรมบิดา พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์  ท้าวมหาราชทั้งสี่  ท้าวเวสสุวรรณ  พระยายมราช   นายนิรยบาล    หลวงปู่ปาน  หลวงพ่อฤาษีลิงดำ  ท่านดตาจินิน มนุษย์ต่างดาว ทุกดวงดาว สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านสวนพีระมิด

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งจักรวาล  ท่านอ.อุบล และครอบครัวศุภาเดชาภรณ์ ที่หนูมีปัญญาแค่นี้ หนูจะไม่ล้มเลิก 

กราบขอบพระคุณค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-09 19:11:12


ความคิดเห็นที่ 24 (143056)

 น้องเอิ้น 

ขออนุโมทนานะจ๊ะ ที่ยอมรับผิด ยอมรับความจริง

คนในสังคมที่มีทุกข์ เจ็บป่วย ยากจน บ้านแตก หาทางออกในชีวิตไม่ได้ ที่ไม่เคยคิดว่า

เราทำผิดอะไร ยังมีอีกเยอะ  คนจำนวนมากไม่เคยเข้าใจเรื่องหนี้สงฆ์  หนี้แผ่นดิน การผิดศีล ซึ่งสิ่งเหล่านี้

มีอยู่ในทุกศาสนา ไม่เฉพาะศาสนาพุทธเท่านั้น  ซึ่งก็คือการ ไม่ละเมิดผู้อื่น หรือ เป็นผู้มีใจสูง หรือ มีสามัญสำนึก นั่นเอง

 

ถ้ามนุษย์เรา มีเพียงสามัญสำนึก ปกติ พื้นฐาน ซึ่งอาจเรียกได้หลายอย่าง เรียกว่า  มีศักดิ์ศรีก็ได้  หรือ ซุปเปอร์อีโก้ ก็ได้  หรือ

เรียกว่า ความละอาย ก็ได้  หรือ เรียกว่า เทวธรรม ก็ได้  หรือ หิริ  โอตตัปปะก็ได้

ถ้าใครมีอยู่ประจำใจ เราก็จะไม่ละเมิดใคร  ไม่อยากได้ สิ่งที่เขาไม่ได้ให้เราด้วยควาามเต็มใจ บ้านไม่ต้องมีประตูหน้าต่างก็ได้

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-11 00:50:45


ความคิดเห็นที่ 25 (143058)

อนุโมทนาในธรรมทานของทุกๆคนด้วยนะครับ

เบสเห็นเพื่อนๆกล้าออกมารับสารภาพความผิดที่ทำมาแล้ว ดีใจจริงๆครับ

ที่เด็กไทยกล้าหาญขนาดนี้

ที่พวกเขาทำมา อาจจะไม่รู้ว่าผิด แต่เมื่อพวกเขารู้แล้ว เขาก็ตั้งใจกลับตัวมารักษาศีล 5

ตอนที่น้องคนหนึ่งบอกว่า หนูจะรักษาศีล 5 ค่ะ เบสรู้สึกมีความสุขมากๆ แบบบอกเป็นคำพูดไม่ได้เลยจริงๆ

ที่เห็นน้องๆ และเพื่อนๆ กลับตัวมาเป็นคนดี ไม่ใช่ทำเพื่อใคร แต่ทั้งหมดนั้น ทำเพื่อตนเอง

เพราะเมื่อเขาทำผิดศีล เขาก็ต้องมาปวดหัว มาเจ็บตัวเอง เมื่อเขารู้สาเหตุแล้ว เขาจึงตัดสินใจไม่ทำอีก ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ายกย่องมากๆเลยครับ

เพราะเขารู้จักที่จะรักตนเอง และอีกไม่นานพวกเขาก็จะรักผู้อื่นด้วย

และถ้ามีคนแบบนี้เยอะๆ โลกเราคงจะมีแต่ความรัก

และอาจจะไม่ต้องมีประตูบ้านก้ได้ครับ

เพราะทุกคนรักผู้อื่นเหมือนรักตนเอง

แล้วพวกเขาจะไปทำลายผู้อื่นได้อย่างไร

เหมือนกับที่อาจารย์กล่าวว่า

 

 

 

ถ้ามนุษย์เรา มีเพียงสามัญสำนึก ปกติ พื้นฐาน ซึ่งอาจเรียกได้หลายอย่าง เรียกว่า  มีศักดิ์ศรีก็ได้  หรือ ซุปเปอร์อีโก้ ก็ได้  หรือ

เรียกว่า ความละอาย ก็ได้  หรือ เรียกว่า เทวธรรม ก็ได้  หรือ หิริ  โอตัปปะก็ได้

ถ้าใครมีอยู่ประจำใจ เราก็จะไม่ละเมิดใคร  ไม่อยากได้ สิ่งที่เขาไม่ได้ให้เราด้วยควาามเต็มใจ บ้านไม่ต้องมีประตูหน้าต่างก็ได้

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-09 21:41:02


ความคิดเห็นที่ 26 (143060)

 เมื่อไม่นานมานี้  มีนายตำรวจ เป็นผู้กำกับอยู่นครปฐม

พาลูกชายมาบ้านสวนพีระมิด  จะเอาลูกมาให้ อ.อุบล ช่วยแก้ไข (ดัดสันดาน)

เพราะว่า ลูกชายเป็นคนขี้ขโมยมากกกก แก้ไม่หาย (ตำรวจแก้ไม่ได้ แล้วใครจะแก้) 

มีใครอยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นบ้าง

 

นี่คือภาพสะท้อนสังคมไทย

แม้แต่นายตำรวจ ระดับ ผู้กำกับ ยังจัดการกับลูกคนเดียวไม่ได้

แล้วจะไปช่วยแก้ปัญหา โจร ขโมย ได้อย่าไร  แล้ว ที่นักเรียนเกเร ตีกัน เราก็คงต้องหันมาดู

พ่อแม่ พี่น้อง วงศ์ตระกูล ไม่รู้ว่า ตีกันให้ลูกดูบ้างรึเปล่า เด็กมันเห็นที่บ้านทำประจำ ก็เลยคิดว่า เป็นเรื่องปกติ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-11 00:48:11


ความคิดเห็นที่ 27 (143061)

อนุโมทนาบุญกับทุกๆธรรมทานด้วยนะครับ เรียกว่าเดี๋ยวนี้ธรรมทานบ้านสวนฯเจ้มจ้นขึ้นทุกวันๆ ทั้งนอกและในสถานที่ ทำเอาพี่น้องต้องติดตามกันอย่างไม่ละสายตาเลย

เรื่องของเด็กๆนี่สำคัญมากนะครับ เพราะเด็กเยาวชนคืออนาคตของชาติ แต่ก็เป็นที่น่าเห็นใจมากนะครับที่เด็กไทยสมัยใหม่ต่างขึ้นชื่อว่านับถือศาสนาพุทธ แต่ไม่รู้ว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร

ดูอย่างเด็กที่อยุธยาจะพบว่ามีความกล้าหาญมากในการแสดงความเห็น แม้ว่าสิ่งเหล่านั้นจะเป็นสิ่งที่เขากระทำผิด แต่ดูเหมือนเขาก็รู้สึกว่ามันไม่ได้ผิดไรนักหนาเลย แต่เริ่มมาเอะใจตรงที่ผลที่เกิดขึ้นกลับเป็นไปตามที่ท่านอาจารย์อุบลบอกไว้ทุกประการ

เอาล่ะสิ มันเริ่มหวั่นๆแล้วสินะว่าที่ทำๆมาบาปทั้งน้านน ป๊าดด คนนี้สารภาพบาปก็หาย คนนั้นก็หาย งั้นเอามั้ง 5555

ธรรมทานแต่ละอย่างที่เกิดขึ้นในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้ต่างสะท้อนปัญหาเด็กวัยรุ่นในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

หากวัยรุ่นไทยได้มารับรู้สิ่งเหล่านี้ และเห็นผลกรรมที่เกิดขึ้น ผมมั่นใจว่าน้องๆคงเริ่มเข้าใจธรรมะพระพุทธเจ้าได้อย่างถูกต้องและคงปรับเปลี่ยนตัวเองเหมือนน้องๆที่อยุธยาอย่างแน่นอน

ไงก็ติดตามชมเทปวีดีโอคำสารภาพบาปของน้องนักฆ่า 40กว่าศพตอนต่อไปในอาทิตย์หน้าด้วยนะครับ มันส์หยด เสียวศีรษะแทนน้องเขาแน่นอนก๊าบบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล (nirvana_time-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-09 22:42:05


ความคิดเห็นที่ 28 (143062)

ช่วงนี้ผมมีคำถามคาใจนิดหน่อยครับท่านอาจารย์ เผอิญเห็นผู้ไม่ค่อยจะหวังดี หรือหวังดีแต่ประสงค์ร้าย เข้ามาเยี่ยมเยียนเว็บบ้านสวนฯ เราอยู่มากมายทีเดียว แถมยังขุดเอาคำหยาบคายที่ไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาเหล่านั้นขุดมาจากไหนกัน อ่านแล้วก็ให้ละเหี่ยใจนึกไปถึงบุพการีที่เคยอบรมบ่มนิสัยให้ลูกหลานเป็นคนดี แต่กลับฉุดใจตัวเองลงไปต่ำเสียเหลือเกิน

อยากจะกราบเรียนถามท่านอาจารย์นะครับ ว่าบุคคลเหล่านั้นเขาเข้ามาได้อย่างไรครับ แล้วเว็บมาสเตอร์ผู้ใจบุญของเราก็ใจดีกับเขาด้วยล่ะซิ...เราจะมีมาตรการอะไรสำหรับบุคคลผู้ไม่ประสงค์ดีเหล่านั้นมั้ยครับ คือผมสงสารเค้านะครับ กลัวจะจมดิ่งจนกู่ไม่กลับแม้แต่ชาติไหนๆ เลยก็เป็นได้ครับ 

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธิ์(สุรสิทธิ์ ศรประสิทธิ์) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-09 22:44:48


ความคิดเห็นที่ 29 (143063)

 

 

                       กราบอนุโมทนาบุญกับท่านอาจารย์อุบลและน้องๆม.เทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิและทีมลูกบ้านสวนทุกท่านค่ะ

                การที่น้องน.ศ.ออกมาสารภาพบาปเรื่องพาเพื่อนไปทำแท้งและน้องรู้สึกผิดบาป และสำนึกว่าต่อไปจะไม่ทำอีกและจะรักษาศิลห้าให้ครบทุกข้อ

                น้องยอดเยี่ยมมากเลยค่ะ กล้าหาญที่จะออกมาพูดและรู้สึกดีใจมากที่น้องเค้าได้พ้นทุกข์ในวันนั้น ดูแล้วน้ำตาไหลไปด้วยเลยค่ะน้องเค้าช่างมี

                บุญที่ได้หลุดพ้นจากความทุกข์ ใช้เวลาไม่กี่ชม.ก็บรรลุธรรมแล้วดูแล้วน่ายกย่องมากที่สุด แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ชมน้องนักฆ่าสารภาพบาป..

                อาจารย์สอนว่า"อย่าเพิกเฉย อย่านิ่งดูดายเมื่อเห็นคนทำกรรมชั่ว"แต่ อาจารย์คะเราจะทำอย่างไรดีถ้าเราเตือนหรือแนะนำการทำความดีแล้ว

                กลับถูกเค้าพูดไม่ดีตอบด้วยถ้อนคำไม่สุภาพต่อไปเราควรจะเตือนเขาอีกไหมคะ..หรือว่าควรวางเฉยจะบาปไหมคะ..ขอบพระคุณค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลี สิงห์แก้ว (Unchalee1416-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-09 22:54:53


ความคิดเห็นที่ 30 (143067)

 เอ จะตอบคุณสิทธิ์(พี่มหา) หรือคุณอัญชลีก่อนดีนะ

ตอนนี้แค่เอาน้ำจิ้มไปก่อนนะ เพราะพิมพ์ไม่ค่อยถนัด เนื่องจากใช้ไอแพดพิมพ์

เดี๋ยวถ้าใช้เครื่องปกติ มีคีย์บอร์ดใหญ่ จะตอบได้เต็มที่หน่อย นี่ไม่ทันใจวัยโจ๋เลย ตัวหนังสือก็ขยายไม่เป็นจ้้า

 

เอาเป็นว่า ตอบคุณอัญชลีก่อนก็แล้วกันนะ

การที่เราไปเตือนใครแล้ว เค้าพูดไม่ดีใส่ เราควรเตือนต่่อไปหรือไม่ หรือ จะเฉย

ครั้งพุทธกาล พระพุทธเจ้า เวลาแสดงพระธรรม จะใช้บุคลาธิษฐาน คือ ยกตัวอย่างบุคคล ให้เห็นจริง

อย่างจะสอนเรื่อง กามราคะ อศุภกรรมฐาน ก็เอาศพนางสิริมา หญิงงามเมืองที่สวยที่สุด มาสอนพระ ซึ่งไ่ม่สอนตรงๆ

แต่ทรงมีลีลา ในการสอน พระพุทธเจ้า จะทรงใช้บุคลาธิษฐาน สอนคน ทำให้บรรลุมรรคผล ในเวลาอันสั้น ดังนั้น หากคุณอัญชลี  จะสอนเด็ก วิธีนี้  ก็ให้ลองดูใหม่นะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-11 00:44:03


ความคิดเห็นที่ 31 (143068)

 ก่อนตอบพี่มหา

ขอถามพี่มหาหน่อยก็แล้วกัน ในฐานะเป็นเจ้าของธุรกิจ เป็นวิศวกร เป็นผู้มีภูมิธรรม เป็นผู้ใฝ่ดี

ขอถามหน่อยเถอะว่า  ๑.  พี่มหา อยู่บ้าน เคยพูด คำว่า มึง กู  หรือ คำต่ำๆ หยาบคาย กับคุณพ่อ คุณแม่ หรือ พี่เกสรไหมคะ

๒.ถ้าพี่มหา จะเลือกคู่ครอง หรือเลือกลูกน้องเข้ามาร่วมงาน พี่่มหาจะเลือกคนพูดคำหยาบ ไม่มีมารยาท หรือเลือก คนสุภาพ คนมีสามัญสำนึกคะ

๓.พี่มหาเคยไปประเทศไหนบ้างคะ ที่เขาวางของไว้ขาย มีที่ใส่เงินวางไว้ ให้ผู้ซื้อ หยอดเงินเอง ไหมคะ ทำไมเขาทำไ้ด้ แล้วทำไมประเทศเราทำไม่ได้คะ

๔.ทำไมบ้านคนไทย ต้องมีรั้ว มีประตูหน้าต่าง มีเหล็กดัด มีกุญแจ มีสัญญาณกันขโมย ในขณะที่บางประเทศ ไม่มีรั้ว ไม่ต้องล๊อกบ้านเลย

อย่างบ้านพี่่ต้อย ที่เมกานี่นะ เขาไม่ปิดบ้านเลยค่ะ คือไม่ล๊อกประตูเลย อ.อุบล เคยไปกับเพื่อน ยังนึกเลย โห ถ้าเมืองไทย นะ ขนาดมีเหล็กดัด มีสัญญาณ

กันขโมย มันยังเข้าไปได้เลย  แล้วอย่างนี้ พี่มหาตอบหน่อยได้ไหมว่า  ใครเลว ระหว่างเจ้าของบ้าน กับคนเข้าไปในบ้านเขาน่ะ

แล้วระหว่าง คนที่เขาไม่เข้าบ้านคนอื่น ทั้งที่เขาไม่ได้ปิดบ้านล่ะ เขาโง่หรือว่า เขาเป็นอย่างไร พี่มหาตอบก่อน นะ แล้ว อ.อุบล จะมาตอบพี่มหาแน่นอนจ้า

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-11 00:39:36


ความคิดเห็นที่ 32 (143069)

 พี่มหาครับ

อย่างบ้านสวนพีระมิดเนี่ย

พี่มหาก็เห็นแล้ว ว่าเราอยู่กันอย่างไร

น้อยคนนัก ที่จะเข้ามา ถ้าเป็นคนสำนึกดี เข้าไม่ทำ

แต่ที่เห็นเข้ามาบ้านสวนเป็นประจำ โดยไม่สนใจ ว่าเจ้าของบ้าน

จะอนุญาต หรือไม่ ก็เห็นมีแต่ หมา แมว ไก่่ป่า  คือ เรียกว่า เห็นมีแต่พวกสัตว์เท่านั้น

จนหลายคนแปลกใจ  ว่าเป็นไปได้ไง หรือว่า ใกล้ยุคศิวิไลแล้ว  หรือ พี่มหาว่าไง ทั้งที่ แถวนี้ ดงโจร

พี่มหาเอง ก็เคยเห็น คนขโมยรถคุณแต๋๋น มาพุ่งเข้าป่า หน้าบ้านสวนใช่ไหม แต่บ้านสวน กลับ สงบสุข เรียบร้อยดี เพราะอะไรจ๊ะ

การที่คนไปขโมยรถดีแต๋น ในสวนเค้าได้ ใครเลวระหว่างคนขโมย กับเจ้าของสวน แล้ว การที่คนไม่มาขโมยของบ้านสวน ใครดี ระหว่างเจ้าของบ้าน กับคนไม่ขี้ขโมย  พี่มหาจ๋า  ตอบหน่อยนะ  หรือใครก็ได้มาช่วยกันตอบ หรือแสดงความเห็นหน่อยจ้า เดี๋ยวให้รางวัล หายปวด เพี้ยงๆๆๆ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-11 00:41:45


ความคิดเห็นที่ 33 (143070)

 บุญกุศลที่ อาจารย์อุบล ออกสัญจร ณ, มหาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิครั้งนี้ นักศึกษาคงคุยกันไปอีกนานหลายปี

ขอกราบกุศลในธรรมทานด้วย สาธุค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กรองแก้ว เมธาธนสกุล (krongkaew4031-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-10 00:22:57


ความคิดเห็นที่ 34 (143071)

 การที่คนไปขโมยรถดีแต๋น ในสวนเค้าได้ ใครเลวระหว่างคนขโมย กับเจ้าของสว

++++++++++++++++++++++++++++++++++

เบสคิดว่าคนขโมยเลวแน่นอนครับ เพราะว่าถ้าไม่เลวแล้ว

ยังไงก็ไม่มีทางขโมยของที่คนอื่นเค้าไม่ให้หรอกครับ

ยังไงก็ต้องเลวแน่นอน

 

 แล้ว การที่คนไม่มาขโมยของบ้านสวน ใครดี ระหว่างเจ้าของบ้าน กับคนไม่ขี้ขโมย

++++++++++++++++++++++++++++++++++

เบสคิดว่าดีทุกคนนั้นแหล่ะครับ

เพราะคนดียังไงเขาก็จะไม่อยากได้ของคนอื่นที่ไม่ใช่ของของตนเอง

โดยต้องคิดว่าถ้าเป็นบ้านเราล่ะ จะเป็นยังไง

เราอยากให้คนอื่นมาขโมยของบ้านเราหรือป่าว  ตอบได้เลยว่าไม่มีใครอยากหรอกครับ

ดังนั้นเราก็ไม่ควรที่จะไปขโมยของบ้านใคร หรือที่ใดก็ตาม

 

แล้วระหว่าง คนที่เขาไม่เข้าบ้านคนอื่น ทั้งที่เขาไม่ได้ปิดบ้านล่ะ เขาโง่หรือว่า เขาเป็นอย่างไร

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++

คนแบบนี้เบสว่าไม่ได้โง่นะครับ
แต่เขาน่ายกย่องมากๆตังหากล่ะครับ
เพราะเขาคิดถึง ใจเขาใจเรา ทีของเรายังไม่อยากให้ใครมาละเมิดเลย
ก็ต้องคิดว่าชาวบ้านเขาก็คิดแบบเดียวกับเรานั่นแหล่ะ
เบสคิดว่าคนแบบนี้เป็นคนที่มีมารยาทดีและมีจิตใจที่สูงส่งมาก
เพราะเขาให้เกียรติตนเอง และให้เกียรติผู้อื่น
ไม่ว่าจะอยู่คนเดียว หรืออยู่หลายคน
ไม่ว่าในที่แจ้ง หรือในที่ลับตา
 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-10 00:41:07


ความคิดเห็นที่ 35 (143072)

                   ลูกขอกราบเบื้องพระบาทสมเด็จองค์พระปฐมบรมพุทธบิดา  พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์

                                   เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ องค์เทพสฟิงค์ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

                                         ท่านอาจารย์อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุก ๆ พระองค์เจ้าค่ะ

     ลูกขออนุญาตินำชีวิตตนมาเล่าเพื่อเป็นธรรมทานถึงคุณไสยและปาฏิหารย์กับการที่ได้รู้จักกับบ้านสวนพีระมิด

                                                          และการได้พบอาจารย์อุบล

ชีวิตก่อนไปรู้จักบ้านสวนพีระมิด

มีสิ่งผิดปกติในครอบครัวสามีมีนิสัยเปลี่ยนไปทั้งคำพูด การกระทำ อารมณ์ฉุนเฉียวใส่ เป็นมาหลายปีค่ะ เราก็ไม่รู้ว่าเค้าเป็นอะไรทำไมถึงเป็นแบบนี้ แต่ก็อดทน พอมาปี 2553-2554 เริ่มมีปัญหาเรื่องการเงินเข้ามาอีกทั้ง ๆที่เราไม่มีหนี้ และก็ขายดี ต้องเบิกเงินสะสมของครอบครัวออกมา หลายเดือนติดต่อกัน ต้องเบิกเป็นหลักล้าน จนเราก็เครียดมาก ๆ ไม่รู้จะทำอย่างไรบอกใครก็ไม่ได้ไม่มีใครเชื่อว่าเงินจะหมุนไม่ทัน และเราก็ไม่รู้เป็นอะไร กลัวสามีมาก บางครั้งเค้าเรียกก็กลัว จิตมีแต่ความกังวลตลอดเวลา มีคนเตือนให้ระวังมีคนจะทำคุณไสยใส่เรา และก็มีคนทักเราว่าเราโดนคุณไสยแต่เค้าไม่กล้าช่วย เพราะคนที่ทำมีวิชาถ้าเค้ารู้เค้าจะไปจัดการคนที่ช่วยเรา 

เริ่มรู้จักบ้านสวนพีระมิด 

        เริ่มรู้จักบ้านสวนพีระมิดประมาณเดือนเมษายน 2555 เริ่มอ่านคู่มือหนีกรรมผิวพรรณจากที่น้องคนหนึ่งนำมาให้ เราก็ชอบทำบุญอยู่แล้วก็ฝากน้องไปทำบุญสร้างองค์พระปฐมและทำบุญห้องน้ำ เริ่มต้นก็อยากใช้ครีมพาเมล่า และก็เริ่มฝากน้องซื้อมาให้ใช้ พอได้อ่านถึงอานิสงค์ของการแจกคู่มือหนีกรรมฯ จิตอยากพ้นจากความทุกข์ ก็เริ่มต้นแจกในเดือน พฤษภาคม 2555กลางๆเดือน ร้านก็เริ่มขายดีขึ้นกว่าเดิม มีลูกค้าหน้าใหม่เข้ามาให้เราได้แจกเรื่อย ๆและลูกค้าเก่าที่ไม่มาซื้อนานมากก็กลับมาให้เราได้แจกคู่มือหนีกรรมผิวพรรณ โดยที่เราแจกนั้นเราก็ได้เขียนรหัส " อาจารย์อุบลช่วยด้วย​ " ให้แก่ผู้ที่ได้รับคู่มือทราบด้วยว่าหากเค้าใช้รหัส มีความศรัทธาและขอในสิ่งที่ไม่ผิดศีลธรรมท่านจะพ้นภัยและสมหวัง และก็อวยพรให้ผู้ที่ได้รับคู่มือนี้โชคดี

        ตอนแรกที่เริ่มแจกคู่มือหนีกรรมผิวพรรณก็โดนสามีว่าเหมือนกันค่ะ เหมือนว่าเอาอะไรมาแจก ไม่ดูแลลูกค้า มาแนะนำคู่มือหนีกรรมแทนที่จะขายของ ก็แอบบๆแจก ว้นหนึ่งพี่สาวของสามีได้มาที่บ้านและเราได้แจกให้เค้าไปหนึ่งชุด ต่อมาอีกไม่กี่วันเค้าก็มาหาแม่ของสามีที่พักกับเรา มาร้องไห้ มาขอขมากรรมที่ทำกับแม่ของตนเองเราได้เห็นภาพนั้นก็ซาบซึ้งใจไปด้วยและพี่สาวแฟนก็บอกว่าที่มาวันนี้ก็เพราะได้อ่านคู่มือหนีกรรมผิวพรรณที่เราให้ไปนั่นแหละ ตอนแรกที่เราแจกเพราะอานิสงค์ของการแจกคู่มือฯ แต่พอพี่สาวแฟนพูดแบบนี้เราก็ต้องกับไปอ่านคู่มือหนีกรรมฯของอาจารย์อุบลอีกครั้ง ต้องมีอะไรดีี ๆในนี้อีกที่เราอ่านแบบผ่าน ๆ ต้องมาอ่านซ้ำค่ะ สามีก็ทราบว่าพี่สาวมาขอขมาแม่เพราะคู่มือหนีกรรมฉบับนี้ เค้าก็ไม่ว่าเราแล้วที่เราจะแจก เพราะเค้าก็คงจะสัมผัสได้ถึงลูกค้าที่เข้ามาซื้อของมากขึ้นด้วย

           ทางบ้านสวนฯได้มีแหวนองค์เทพสฟิงค์มาให้ใส่บูชา เราก็ฝากน้องสั่งซื้อและได้บูชาองค์พีระมิดมาไว้ที่บ้าน ครั้งแรกที่ใส่แหวนองค์เทพสฟิงค์ น้องก็ถามว่าเรารู้สึกอะไรไหม เพราะน้องเค้าใส่ครั้งแรกจะรู้สึกขนลุกซู่ซ่า เราก็ตั้งใจสังเกตุ ก็บอกว่าไม่รู้สึกอะไร แต่พอพูดจบไม่ถึงหน่ึงนาทีก็รู้สึกร้อนวูบวาบจากปลายเท้าขึ้นมาทันที ถามลูกสาวว่าหนูรู้สึกแบบนี้ไหม ลูกบอกว่าไม่เห็นเป็นเลยค่ะ สงสัยแม่มีพลังงานไม่ดีเยอะมั้ง ตั้งแต่นั้นก็ใส่แหวนเฉพาะในเวลากลางวัน พอคืนหนึ่งรู้สึกยัไงไม่รู้ไปหยิบแหวนมาใส่นอนค่ะ พอใส่ปุ๊ปจะไปนอนก็รู้สึกว่าอึดอัดมากๆ นอนไม่ได้ จิตก็บอกเลยอึดอัดที่ใส่แหวนองค์เทพสฟิงค์นี่แหละ เราก็ยังไม่รู้ตัวมีมีวิญญาณที่เค้าส่งมาจัดการเรา เค้าทนไม่ได้ที่เราใส่แหวน ได้แต่คิดว่าสงสัยตัวเองคงจะไม่คุ้นกับการใส่แหวนแล้วนอนก็เลยไปถอดออก อีกสองวันถัดมาก็นำมาใส่นอนใหม่ กลางดึกจะลุกไปเข้าห้องน้ำ  ก็เตะแหวนที่หล่นที่พื้นค่ะทั้ง ๆ ที่เราก็ใส่นอนและไม่ได้ถอดออกมาวางเลย ( มีคนถอดให้เราเสร็จ )

          เราได้บูชาองค์พีระมิดรุ่นเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณเราได้รับแล้วก็นำมาตั้งที่ตู้หลังโต๊ะทำงานและในห้องนอน วันหนึ่งเราแค่คิดว่าท่านเป็นองค์พีระมิดเล็ก ๆ ธรรมดาจะมีพลังได้ขนาดที่ช่วยให้คนมีสุขภาพดีและมีพลังคุ้มครองได้หรือ แค่คิดเท่านี้ ตอนสายวันรุ่งขึ้นแม่บ้านที่เข้ามาทำงานใหม่ก็ลงมาหาและบอกเราว่าไม่กล้าเข้าไปทำความสะอาดในห้องนอนของเราเพราะเหมือนมีคนอยู่ มีคนอาบน้ำอยู่ เหมิอนมีคนคุยกันอยู่ในห้องนอนเรา ทั้ง ๆที่ไม่มีใครอยู่ทั้งนั้นลงมาทำงานกันหมดแล้ว ท่านแสดงให้เรารู้ทันทีว่าท่านดูแลอยู่จริง ตอนที่บูชาท่านมาก็ไม่ทราบหรอกว่าท่านได้มีบัญชาให้เร่งสร้างเพื่อช่วยคนที่ดดนคุณไสยค่ะ น้องบอกว่ามีอะไรดีเราก็ใหู้ชามาให้เราด้วย กราบ กราบ กราบแทบพระบาทสิ่งศักดิ์สิทธ์ทุกพระองค์ค่ะ

พบท่านอาจารย์อุบลครั้งแรก

          เราก็ยังคงแจกคู่มือหนีกรรมผิวพรรณไปเรื่อย ๆทุกวัน วันหนึ่งน้องเค้าต้องเข้าไปหาท่านอาจารย์อุบลและเราก็ได้มีโอกาสไปด้วยไปพบท่านอาจารย์ครั้งแรก ตอนแรกก็ไม่มีอะไร น้องก็นั่งคุยอยู่กับอาจารย์ เราก็นั่งถัดมา สักพักเราก็รู้สึกใจสั่นระริก รู้สึกกลัวอาจารย์มากกกกๆๆๆ แต่เราก็ดูว่าตัวเราไม่ได้กลัวนะ  แต่ทำไมจิตเราถึงสั่นกลัวอาจารย์มากขนาดนี้ กลัวจนน้ำตาคลอเบ้า แต่เราก็ดูว่าเราไม่กลัวอาจารย์แต่บังคับจิตไม่ได้ จิตที่อยู่ในกายเรากลัวท่านอาจารย์อุบลมากๆ น้องที่ไปด้วยกันหันมาก็ตกใจ พี่เป็นอะไรทำไมถึงจะร้องไห้ เราก็เลยเรียนท่านอาจารย์ ว่า

" อาจารย์คะทำไมหนูถึงกลัวอาจารย์มากคะ ทั้งๆ ที่หนูก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้กลัวอาจารย์แต่บังคับจิตตัวเองไม่ได้ค่ะ " 

อาจารย์ก็เมตตาตอบว่า " อ๋อ ข้างในเค้าเห็นกัน จิตที่อยูในตัวหนู เค้าเห็นข้างในของอาจารย์ "

" อาจารย์ขา หนูยังกลัวอาจารย์มากเลยค่ะ ห้ามตัวเองไม่ได้ "

อาจารย์เมตตาบอกว่าเราโดนคุณไสย ส่งวิญญาณมาบังคับกระแสจิตเราต้องเอาเราให้ตายซึ่งเราก็โดนมาหลายปีแล้วจนเข้ากระแสเลือดแล้ว สามีเราก็โดนด้วย  เพราะเค้าต้องการเงินจากสามีเรา อาจารย์ได้ให้บุญกับจิตวิญญาณที่มากับเรา อาจารย์ท่านมาแตะที่ตัวเราและพูดว่า " เอ้าใครที่มากับเค้านะให้มารับบุญที่เค้ามาทำให้นะ และให้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดีนะ " เราก็รู้สึกโล่ง โปร่ง ใจกลับมาเป็นปกติไม่สั่นกลัวอาจารย์เหมือนเมื่อกี้นี้เลย แค่เวลาแป๊บเดียวที่พบกับท่านอาจารย์อุบล กลับมาบ้านรู้สึกได้เลยว่าหน้าของตัวเองสว่างขึ้น

วันนั้นท่านอาจารย์อุบลก็ได้เมตตาบอกเราว่า "อาจารย์จะบอกเราอย่างหนึ่ง ถ้าบอกแล้วอย่าเสียใจนะ สามีหนูถ้าผู้หญิงคนนี้แย่งไปไม่ได้ เค้าจะต้องตายภายในปีนี้ หรือปีหน้า  " เราฟังแล้วก็ยังอึ้ง งงอยู่

วันนั้นท่านก็ได้เมตตาสอนว่า " หนูต้องอยู่กับความจริง เพราะนิพพานคือความจริง อยู่กับความหลอกลวง แล้วก็มีแต่ความทุกข์ " เรารู้เรื่องที่สามีต้องการบังคับ เอาเงินไปโดยอ้างเรื่องงาน เราก็ไม่กล้าพูดความจริง เพราะเราก็รู้เพราะมีซินแส และพี่ที่รู้จักก็เคยบอกแล้วว่าสามีอาจจะป่วยหนักอายุ ประมาณ 48 เพราะเอาเงินที่หามาได้ร่วมกันไปให้คนอื่น และเค้าจะหมดตัว  อาจารย์ก็บอกว่าให้เราพูดความจริงกับเค้า ถ้าพูดแล้วเค้ายังไม่ตื่นก็ช่วยไม่ได้ สิ่งที่เค้ายังทำอยู่และถ้าไม่หยุดจะเป็นอัมพาตไม่เกินปี 2562 

เรากลับจากพบอาจารย์เราก็ได้หาโอกาสพูดกับสามี ว่าเรารู้ในสิ่งที่เค้าทำหมดแล้วพี่ต้องหยุดแล้ว เราเห็นพี่เดินลงนรกเราก็ปล่อยให้พี่เดินลงไป ผู้หญิงที่พี่เข้าไปรู้จักเกี่ยวข้องอาจทำให้เกิดอันตรายถึงแกชีวิตได้เลยนะ สามีก็ยังไม่ยอมรับ...........แต่มีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

                 .............................................................................................ขออนุญาติพักและจะมาเล่าต่อถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ซึ่งก่อนที่จะพบท่านอาจารย์อุบลเราก็แจกคู่มือหนีกรรมผิวพรรณไปได้ 600 กว่าชุด ณ วันนี้ก็แจกไป 99 ชุดครั้งที่ 17 ค่ะ

หากการพิมพ์ธรรมทานนี้หากผิดพลาดไม่สามารถถ่ายทอดคำพูดท่านอาจารย์อุบลได้ละเอียดเพราะจำไม่ค่อยได้ ขอสิ่งศักด์สิทธิ์เมตตาให้อภัยด้วยเจ้าค่ะ           

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พิมพ์ทิชา สวัสดิ์เมธากุล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-10 00:45:26


ความคิดเห็นที่ 36 (143073)

 ขอถามพี่มหาเพิ่มเติมอีกข้อหนึ่งนะจ๊ะ

ในฐานะที่พี่มหา เคยมีคนแถวบ้าน คุณแม่พี่มหามาบ้านสวนพีระมิด โดยไม่ได้รับเชิญ

เอ้ย ม่าย ช่าย มาไม่ถูกกติกา มารยาทอันดีงาม แถมยังเดินเข้าไปในบ้าน อ.อุบล โดยไม่ได้ขออนุญาต

แกอ้างว่า ต้องการไปลา อ.อุบล ซึ่ง ไม่เคยมีใครทำกัน

พี่มหาตอบหน่อยเถิดเอาบุญ

ว่า เกิดอะะไรขึ้นหลังจากแกกลับบ้านไป เล่าให้ละเอียด หรือ ลิงค์กับที่พี่มหาเคยเขียนไว้ หรือ ก๊อปข้อความมาก็ได้จ้า

อย่างน้อยก็เป็นความเมตตา ให้โอกาส อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งรายนี้ ไม่ได้เริ่มต้นด้วยอาการคัน ใช่ไหมจ๊ะ  เท่าที่จำได้ ไม่มีสัญญานเตือนอะไรก่อนเลย

พี่มหา นอนแล้วหรือจ๊ะ หรือว่า มัวแต่ ไปดูน้องนักศึกษาอยู่นะ เลยไม่มาคุยกับ สว.ต่อเลย

ไ่ม่เป็นไร ใครจะมาช่วยกันรำลึกอดีต ตอนเพื่อนบ้านพี่มหา มาบุกรุกเข้าบ้าน อ.อุบล ใครจำได้ เชิญจ้า

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-11 00:32:24


ความคิดเห็นที่ 37 (143077)

 คนจำนวนมากไม่เคยเข้าใจเรื่องหนี้สงฆ์  หนี้แผ่นดิน การผิดศีล ซึ่งสิ่งเหล่านี้

มีอยู่ในทุกศาสนา ไม่เฉพาะศาสนาพุทธเท่านั้น

 ซึ่งก็คือการ ไม่ละเมิดผู้อื่น หรือ เป็นผู้มีใจสูง หรือ มีสามัญสำนึก นั่นเอง

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

หนึ่งก็เป็นคนหนึ่งคะที่ไม่แค่ได้ยินคำว่า "หนี้แผ่นดิน" มาก่อน

ตอนนี้เวลาเห็นน้องๆที่ทำงานหรือใครที่ทำผิดก็

พยายามเตือนเขา...เขาก็จะทำหน้างง ประมาณว่ามีด้วยหรือ

มานั่งคิดและมองดูตัวเรา...

จริงๆคำว่าหนี้แผ่นดินนี้ไม่ได้เป็นคำใหม่อะไรเลย ถ้าเรามีจิตสำนึก

แต่เพราะตนเองไม่มีจิตสำนึก 

************************

การที่คนไปขโมยรถดีแต๋น ในสวนเค้าได้ ใครเลวระหว่างคนขโมย กับเจ้าของสวน

คนขโมยคะ : เพราะเจ้าของสวนเขาจอดรถไว้ในอาณาเขตของตนเอง

ไม่ได้ไปเบียดเบียนหรือเอาเปรียบผู้อื่น

แต่คนขโมยกลับทำสิ่งที่ตรงกันข้าม

   ************************

 

แล้ว การที่คนไม่มาขโมยของบ้านสวน ใครดี ระหว่างเจ้าของบ้าน กับคนไม่ขี้ขโมย

   ดีเสมอกันคะ : เพราะคนไม่ขี้ขโมยรู้ว่าทรัพย์นั้นมิใช่ของตนเอง 

จึงไม่ละเมิดทรัพย์ของเจ้าของบ้าน

และเจ้าของบ้านก็วางทรัพย์ต่างๆไว้ในอาณาเขตของตนเองเท่านั้น

***********************

แล้วระหว่าง คนที่เขาไม่เข้าบ้านคนอื่น ทั้งที่เขาไม่ได้ปิดบ้านล่ะ เขาโง่หรือว่า เขาเป็นอย่างไร

แขกคนนั้นมิได้โง่ แต่เป็นผู้รู้จักคิด ถึงการอันใดควรมิควรคะ

เพราะรู้ว่าตนเองยังไม่ได้รับอนุญาติจะไม่ล่วงละเมิดเข้าไปในบ้าน

 

หนึ่งก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่รู้จักคิด และก็โง่คะ 

เพราะเคยไปถ่ายรูปหน้าบ้านอาจารย์โดยไม่ได้รับอนุญาติคะ

และก็ได้รับเมตตาจากคุณธนาตักเตือน

(จริงๆถ้าคุณธนาไม่เตือนก็ยังไม่รู้ตนเองว่าผิดอีกต่างหาก)

ซึ่งถ้าคุณธนาเพิกเฉย....หนึ่งก้ยังคงจะโง่ต่อไปโดยไม่รู้ตัวเองแน่ๆ

และก็จะได้รับผลกรรมหนักหนา

 

พิมพ์มาตรงนี้ทำให้รู้ว่าเรื่องของการที่เราเพิกเฉยต่อคนที่ทำผิด 

ถือว่าเราไม่มีเมตตากับเขาอย่างไร

 

แล้วก็มีครั้งหนึ่งที่เคยไปยืนกดดันคุณท็อปเพราะจะซื้อเสื้อ

หรือพีระมิดอ่ะคะ หรือ พาเมล่า

แล้วคุณท็อปไม่อยู่ก็ทำกริยาสอดรู้สอดเห็นไปชะเง้ออยู่หน้าบ้าน

ขอขมาคุณท็อปด้วยนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-10 05:36:17


ความคิดเห็นที่ 38 (143078)

ขอถามพี่มหาเพิ่มเติม

อีกข้อหนึ่งนะจ๊ะ

 

ในฐานะที่พี่มหา เคยมีคนแถวบ้าน

คุณแม่พี่มหามาบ้านสวนพีระมิด

โดยไม่ได้รับชิญ

เอ้ย ม่าย ช่าย มาไม่ถูกกติกา

มารยาทอันดีงาม

แถมยังเดินเข้าไปในบ้าน อ.อุบล

โดยไม่ได้ขออนุญาต

 

แกอ้างว่า ต้องการไปลา อ.อุบล

ซึ่ง ไม่เคยมีใครทำกัน

พี่มหาตอบหน่อยเถิดเอาบุญ

ว่า เกิดอะะไรขึ้นหลังจากแกกลับบ้านไป

เล่าให้ละเอียด

หรือ ลิงค์กับที่พี่มหาเคยเขียนไว้

หรือ ก๊อปข้อความมาก็ได้จ้า

 

อย่างน้อยก็เป็นความเมตตา

ให้โอกาส อีกครั้งหนึ่ง

ซึ่งรายนี้

ไม่ได้เริ่มต้นด้วยอาการคัน ใช่ไหมจ๊ะ  

 

เท่าที่จำได้ ไม่มีสัญญาณเตือน

อะไรก่อนเลย

 

พี่มหา นอนแล้วหรือจ๊ะ

หรือว่า มัวแต่ ไปดูน้องนักศึกษาอยู่นะ

เลยไม่มาคุยกับ สว.ต่อเลย

 

ไ่ม่เป็นไร ใครจะมาช่วยกันรำลึกอดีต

ตอนเพื่อนบ้านพี่มหา

มาบุรุกเข้าบ้าน อ.อุบล ใครจำได้ เชิญจ้า

เขียนโดย ท่านอ.อุบล

...........................................

สงสัยพี่มหาจะหลับไปแล้วนะคะ

ฉะนั้น ชนิดาขอนำข้อความ

ที่ีพี่มหาได้เคยเขียนไว้

มาให้สมาชิกท่านใหม่ๆ

หรือเก่าๆ ได้อ่านกันอีกครั้ง

 

เผื่อจะลืมเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญนี้ ไปแล้ว

เพราะการทำผิดกฏและกติกาของบ้านสวนฯ

อาจจะทำให้ตัวท่านเอง

หรือคนที่ท่านรัก "ถึงแก่ชีวิตได้"

 

ฉะนั้น ตัวเราเองต้องดูแลความประพฤติ

และทำตามกฏต่างๆของบ้านสวนฯ

ให้ได้อย่างเคร่งครัด

...............................................................................

 

ความเห็นที่ 28 (1529740)
แจ้งลบความคิดเห็น


 ขอนอบน้อมกราบแทบเท้าท่านเท้าเวสสุวรรณ ที่ได้โปรดเมตตาสื่อผ่านท่านอาจารย์อุบลให้ผมได้เล่าเรื่องอันเป็นธรรมทาน...

ก่อน อื่นขอแก้ข่าวนิดนึงครับอาจารย์...บุคคลที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียง คือคุณลุงคุณป้า ซึ่งอยู่บ้านตรงข้ามกับบ้านคุณแม่ผม ที่ จ.สงขลาครับ...ส่วนพี่เกสร อยู่ จ.ตรัง ครับผม

คุณ ลุงนิต และคุณป้ามลเป็นชาวสวนที่อยู่ในระดับเถ้าแก่...สิ่งที่สองท่านนี้ได้รับรู้ เรื่องบ้านสวนพีระมิด ก็คือคุณแม่ผมนั่งดูรายการคุยไปแจกไปอยู่ที่บ้าน ป้ามลก็เดินมาเห็นก็ขอดูด้วย แล้วอาทิตย์ต่อไปป้ามลก็ดูรายการเองที่บ้าน และลุงนิตก็สนใจมาดูด้วย เพราะลุงเองเป็นหลายโรครุมเร้า เช่นเบาหวาน ปวดตามร่างกาย ไส้เลื่อน เป็นต้น พร้อมทั้งเอ่ยบอกว่าอยากจะมาหาอาจารย์อุบล เพื่อรับการรักษา แต่ก็พยายามทำตามกฎสวรรค์ที่คิดว่าตัวเองทำได้ครบแล้ว...จากนั้นป้ามลก็เอ่ย ชวนลุงนิตขึ้นมาหาอาจารย์อุบล ด้วยหวังอยากจะให้สามีหายจากโรคทั้งหลายที่เป็นอยู่ (ป้ามลเป็นคนชวนนะครับ)

ก่อน ที่่ท่านจะมา คุณแม่ได้โทรหาผมให้รับทราบแล้ว ผมก็เฉยๆ และไม่ได้รับรู้การมาของลุงกับป้า เพราะคิดว่าถ้าสองท่านศรัทธาจริง ก็คงจะทำตามกฎสวรรค์ได้ครบถ้วนสมบูรณ์จริงๆ ถึงได้มา ส่วนจะครบจริงหรือไม่จริงนั้นก็เป็นกรรมของผู้ที่จะมารับการบำบัดเองเป็นผู้ รับเอง...ลุงกับป้าก็เดินทางมาถึงบ้านสวนฯ ในวันที่ 3 ธ.ค.53 ซึ่งเป็นวันแรกที่มีการเข้าค่ายรุ่น 7 และเป็นวันศุกร์ด้วย โดยหวังว่าจะได้มาร่วมกิจกรรม ทั้งๆ ที่ไม่ได้สมัครมาล่วงหน้าเลย...เท่านี้ก็คงเดากันได้แล้วใช่มั้ยครับ ว่าทำตามกฎหรือไม่

วัน ที่สองท่านมาถึง ผมก็อยู่บ้านสวนฯแล้ว แต่ก็ได้บอกไปว่า ไหนๆ มาถึงแล้ว ก็ให้หาอะไรทำโดยใช้แรงกายไปเรื่อยๆ ก็ได้ แต่ยังไงวันศุกร์ก็ไม่มีการบำบัด รวมทั้งอาทิตย์นี้ก็เป็นกิจกรรมเข้าค่ายด้วย...ทั้งสองท่านก็หาอะไรทำไปนิดๆ หน่อยๆ ด้วยหวังจะได้เจออาจารย์อุบล...และเมื่อได้เจออาจารย์แล้ว ก็พูดคุยสนทนาด้วยวาจาที่ผมฟังแล้วไม่ค่อยนอบน้อม รวมทั้งไม่ได้ให้ความเคารพอาจารย์ด้วยความศรัทธาจริง(ความคิดเห็นส่วนตัวที่ ได้ฟัง) สุดท้ายก็กลับบ้านลูกชายที่ปากเกร็ดไป ด้วยหวังว่าอาทิตย์ถัดไปจะมาเพื่อการบำบัดรักษาอีกครั้ง...

อาทิตย์ ถัดมาแกก็มาอีกครั้ง(11 ธ.ค.53) คราวนี้มาเพื่อบำบัดรักษาอาการของคุณลุง แต่ผมไม่ได้อยู่ด้วย และอาจารย์ก็ได้กรุณาเล่าให้ฟังว่า...วันที่มาอีกครั้งนี้ทั้งสองท่านไม่ได้ ใช้แรงกายอะไรเลย มานั่งรอเพื่อจะบำบัดกับอาจารย์ รวมทั้งเขียนสารภาพกรรมแบบขอไปที แค่เล็กๆ น้อยๆ อาจารย์สอบสวนกรรม ก็ใช้วาจาไม่ค่อยจะสุภาพ รวมทั้งย้อนกลับอาจารย์ด้วยท่าทีที่ไม่ค่อยจะยอมรับในกรรมของตัวเองที่เคยทำ มา สุดท้ายในเมื่อไม่มีกรรมอะไร ท่านอาจารย์ก็ไม่มีอะไรจะให้รักษาเช่นกัน...

เหตุการณ์ พลิกผันได้เกิดขึ้นเมื่อทั้งสองท่านกำลังจะกลับบ้าน คิดจะลาอาจารย์แต่ไม่เห็นตัวท่าน ก็เลยได้เดินไปที่บ้านอาจารย์หวังว่าจะใช้มารยาทของการไปลามาไหว้ ทั้งๆ ที่อาจารย์เคยกล่าวย้ำแล้วย้ำอีกว่า ถ้าจะกลับแล้วไม่เห็นอาจารย์ก็กลับได้เลย ไม่ต้องลา...ถึงกระนั้นลุงนิตก็มั่นใจเต็มที่ เปิดประตูบ้านซึ่งเป็นสถานที่ส่วนตัวของอาจารย์อุบล และไม่สมควรเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้าไปโดยไม่ขออนุญาติ !!!

หลัง จากที่ลุงนิตและป้ามล กลับไปบ้านที่ จ.สงขลา...พอกลับมาถึงบ้านได้แค่วันเดียว ป้ามลก็ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลด้วยอาการอ่อนเพลียโดยไม่มีสาเหตุ ทั้งๆ ที่ป้ามลไม่เคยเลยที่จะป่วยเข้าโรงพยาบาลและแกก็เป็นคนแข็งแรงมาตลอด...นอน โรงพยาบาลได้สองวัน ก็ออกมา...ออกมาอยู่บ้านได้วันเดียว ก็ต้องกลับเข้าโรงพยาบาลอีกด้วยอาการเดิมคืออ่อนเพลียไปเฉยๆ และคราวนี้ก็อยู่ถึงเจ็ดวัน จนแกต้องขอหมอกลับบ้าน เพราะยังไม่ทราบสาเหตุซะที...

ตอน ที่ป้ามลกลับมาจากโรงพยาบาลสองวันแรกนั้น แกก็โทรหาผม ถามว่าอาจารย์อุบลได้พูดอะไรถึงแกบ้าง ผมก็บอกไม่ทราบ แล้วก็ให้แกเล่าเรื่องการกระทำต่างๆ ที่แกมารักษา...ป้าก็ยังบอกว่าไม่ได้ทำผิดอะไร แต่เห็นว่าลุงเปิดประตูเข้าไปบ้านอาจารย์ เพื่อจะลากลับ...ผมก็นึกในใจว่า นี่คือสิ่งที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง...เลยโทรกลับไปถามคุณแม่ว่า ลุงกับป้าดูรายการครบจริงหรือไม่ คุณแม่ก็ไปถามก็ได้ความว่า ดูแต่ไม่ตลอดทั้งรายการ ครบ 3 ตอนแต่ช่วงโฆษณาลุงก็เดินไปเดินมา...

และ ก็มาถึงเหตุการณ์สำคัญอีกครั้ง...คือเมื่อประมาณราวๆ วันที่ 20 ม.ค.ผมจำวันที่ไม่ได้แน่นอน ป้ามลก็เข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง แต่คราวนี้ถึงขั้นเข้าห้อง ICU จนถึงวันนี้ 30 ม.ค.ก็ยังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล หมอวินิจฉัยเบื้องต้นว่าอาจจะเป็นมะเร็งตับ...มีความคืบหน้ายังไง จะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งครับผม 

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณสิทธิ์ (สุรสิทธิ์ ศรประสิทธิ์) วันที่ตอบ 2011-01-30 00:37:40
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-10 05:31:12


ความคิดเห็นที่ 39 (143079)

ต่อค่ะ

 

รายงานข่าวด่วน...

จาก ความคิดเห็นที่ 28...ที่ผมได้เขียนเรื่องเกี่ยวกับป้ามล ซึ่งเป็นคุณป้าบ้านใกล้เรือนเคียงกับบ้านคุณแม่ผมที่ จ.สงขลา...บัดนี้คุณป้ามล ได้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อคืนนี้(1 ก.พ.2554) เมื่อเวลาประมาณตีหนึ่ง

ป้า มลเป็นคนที่ทำบุญอย่างต่อเนื่อง และมีความศรัทธาในบ้านสวนพีระมิดเป็นอย่างมาก และทำบุญกับบ้านสวนฯ คราวละประมาณ 5,000 บาท แม้การมาบ้านสวนฯ ของป้ามล แกก็ไม่กล้าแม้กระทั่งการเข้าห้องน้ำ แกจะนั่งสำรวมด้วยจิตที่คอยระวังอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งไม่กล้าที่จะทานอาหารที่บ้านสวนฯ ด้วย คิดเพียงแต่ว่าจะไม่กระทำกรรมใดๆ กับบ้านสวนฯ อยู่ตลอดเวลา....แต่ด้วยความที่ตัวเองรักสามี คือลุงนิตย์ มากๆ คิดอยากจะให้สามีหายจากโรคต่างๆ โดยไม่ได้คิดถึงตัวเองว่าจะเผชิญกรรมใดๆ จึงได้ชวนสามีมาเพื่อจะรับการบำบัดรักษากับท่านอาจารย์อุบล ทั้งๆ ที่ทำตามกฎได้ไม่ครบถ้วน ซ้ำแล้วสามียังมาทำกรรมเพิ่มในบ้านสวนอีกโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นั่นคือ เปิดประตูเข้าไปในบ้านอาจารย์อุบลโดยพลการ

ข้าพเจ้า ขอขมาคุณป้าช่อพิมล สนิทมัจโร กรรมใดที่ข้าพเจ้าได้ล่วงเกินคุณป้ามล ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ทั้งที่ระลึกได้ และระลึกไม่ได้ ทั้งในอดีตชาติ และปัจจุบันชาติ ขอป้ามลได้โปรดอโหสิกรรมให้กับข้าพเจ้าด้วยเทอญ และขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้ทำดี แล้ว สำเร็จแล้ว ขอฝากบุญนี้ให้กับท่านท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งแล้วแต่ท่านจะบัญชาและเห็นสมควรส่งบุญของข้าพเจ้านี้ให้กับป้ามลด้วย เทอญ...สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น คุณสิทธิ์ (สุรสิทธิ์ ศรประสิทธิ์) วันที่ตอบ 2011-02-01 10:13:18

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-10 05:30:02


ความคิดเห็นที่ 40 (143080)

กราบท่านอาจารย์อุบลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบี้องบนทุก ๆ พระองค์

กราบอนุโมทนาบุญท่านอาจารย์อุบลและครอบครัวค่ะ และอนุโมทนาบุญทุก ๆ ท่านค่ะ

ดิฉันนางละม่อม ทองเจือ  ขอแสดงความยินดี  ดีใจ นักศึกษาผู้นำตัวอย่างที่ดีในสังคม ปฏิบัติศีล 5  สังคมจะได้อยู่อย่างสงบสุข

ดิฉันขอนำเสนอให้ผู้อำนวยการเปิดเวปไซต์บ้านสวนพีระมิด  ดูรายการคุยไปแจกไป จะได้เห็นชอบกราบเรียนท่านอาจารย์อุบล และคณะ มาแสดงธรรม ณ วิทยาลัย ในจังหวัดสงขลา หัวข้อการบรรยาย "การพิสูจน์ผลกรรมแบบฉับพลันทันที"    ครูละม่อมและลูกศิษย์จะได้สารภาพบาป จะได้พบกับความสุขในที่ทำงาน และที่บ้าน ค่ะ ครูและลูกศิษย์ มีศีล 5

ดิฉันขออนุญาตแนะนำเปิดรายการคุยไปแจกไป ให้ลูก เพื่อนครู  นักเรียน นักศึกษา ที่สนใจต้องการดูค่ะ

ดิฉันเกาะเวปมา ตั้งแต่เดือนเมษายน 2554 จิตใจสู้ มุ่งมานะ ปฏิบัติตามท่านอาจารย์อุบล  ระลึก จิตใจเกาะเกี่ยว ถึงท่านอาจารย์อุบลช่วยด้วย

ขอเล่าค่ะ ประมาณ 2 อาทิตย์  สามีและพี่สาว ไม่เข้าใจที่ละม่อม เปลี่ยนไป  ซื้อตั๋วเดินทางไปบ้านสวนพีระมิดเดือนเมษายน 2555 ทานมังสะวิรัติ ไม่ซื้อหวย ล็อตเตอรี่  และไม่ให้สามีขายเหล้า ขายเบียร์ บุหรี่  และไม่ช่วยหยิบขายด้วย จะหลบหนีอยู่หลังบ้าน และหาว่าละม่อม เล่นของเล่นผี   ตอนนี้จิตใจสู้กับสามีและพี่สาว ไม่ยอมฟัง ว่าละม่อมเถียง     ละม่อมสงสารสามีและพี่สาวมาก  วันอาทิตย์สามีและละม่อมไปหาพระที่บนเขาบ้านศรัทธา จังหวัดสงขลา                                                                                    

สามีถามพระอาจารย์ว่า ละม่อม ถูกของ เล่นของมั๊ย?                                      

 พระอาจารย์ตอบว่่า ไม่ถูกของ ไม่มีอะไร                                                    

 สามีถาม ละม่อม สวดมนต์ คาุถาเงินล้าน และ สวดคาถาท้าวเวสสุวรรณ                    

 พระอาจารย์ตอบว่า ดีสวดมนต์ คาถาเงินล้านเขาสวดกันเยอะ คาถาท้าวเวสสุวรรณดี ผีไม่เข้าใกล้  (สีหน้าสามีเริ่มคลายกังวล ว่าสวดได้)                                                            

 ละม่อม สงสารสามีมาก( ไม่ยอมฟังเหตุผลจากละม่อม เพราะเมื่อก่อนสวดคาถาเงินล้าน ตอนนั้นสวดด้วยความโลภ ไ้ด้เงินเป็นล้าน แต่ถูกโกงหมด  เหตุเพราะ ผิดศีลข้อ 2 และข้อ 4  ข้อ 5  สำนึกบาปได้ชัด จากแสดงธรรมะท่านอาจารย์อุบล  เพราะขายสินค้าขายตรง พูดให้เขาซื้อ อยากได้เงิน เชียร์ให้เขาซื้อ เชียร์ให้เขาสมัครสมาชิก ขายหวย ซื้อหวย ขายสินค้าขายตรงผสมเหล้า  ออกเงินกู้  เล่นแชร์บริษัทฟอกเงิน  เงินถูกโกงหมด)

คืนนี้ธรรมะตลอดรุ่ง  ค่อยเล่าต่อนะค่ะ  เตรียมตัวไปทำงานค่ะ 

กราบสวัสดีค่ะ

  

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ละม่อม ทองเจือ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-10 06:21:37


ความคิดเห็นที่ 41 (143081)

จาก คห.ที่ 32

เขียนโดย ท่านอ.อุบล

.....................................

 

พี่มหาเอง ก็เคยเห็น

คนขโมยรถคุณแต๋๋น มาพุ่งเข้าป่า

หน้าบ้านสวนใช่ไหม

แต่บ้านสวน กลับ สงบสุข

เรียบร้อยดี เพราะอะไรจ๊ะ

 

การที่คนไปขโมยรถอีแต๋น ในสวนเค้าได้

ใครเลวระหว่างคนขโมย

กับเจ้าของสวน

 

แล้ว การที่คนไม่มาขโมยของบ้านสวน

ใครดี ระหว่างเจ้าของบ้าน

กับคนไม่ขี้ขโมย

 

 พี่มหาจ๋า  ตอบหน่อยนะ

  หรือใครก็ได้มาช่วยกันตอบ

หรือแสดงความเห็นหน่อยจ้า

เดี๋ยวให้รางวัล หายปวด เพี้ยงๆๆๆ

.............................................

ทุกๆสถานการณ์น่าจะตอบได้รวมๆ

คือ คนดี คือ คนที่ไม่ล่วงละเมิด

ในพื้นที่ ทรัพย์สิน

หรือ สิทธิเสรีภาพของคนอื่น

 

ส่วนคนเลว ก็คือ คนที่ทำตรงกันข้าม

คือชอบล่วงละเมิดคนอื่น

ไม่เคารพกฏกติกา

ของสถานที่ ของคนอื่น 

 

ฉะนั้น ระหว่างคนที่ขโมยรถอีแต๋น

กับ เจ้าของสวน ใครเลวกว่า

ก็น่าจะตอบได้ คร่าวๆว่า

คนขโมยเลวกว่าเจ้าของสวน

 

เพราะคนขโมย ไปละเมิดทรัพย์สิน

ของเจ้าของสวนฯ


และที่บ้านสวนฯอยู่กันอย่างสงบสุข

เพราะคนส่วนใหญ่ในบ้านสวนฯ

ไม่ล่วงละเมิดกันเอง

ทุกคนต่างตั้งใจรักษาศีลห้า

และเชื่อในกฏของกรรม

 

จึงไม่คิดที่จะสร้างบาป

สร้างกรรมให้กับตัวเอง

 

ทุกคนจึงอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข

สบายใจ และไว้ใจกัน

ไม่ต้องกังวลว่าของจะหาย

หรือใครจะมาหยิบ

หรือ ขโมยของเราไป ทั้งสิ้น


............................................ 

 

แล้ว การที่คนไม่มาขโมยของบ้านสวน

ใครดี ระหว่างเจ้าของบ้าน

กับคนไม่ขี้ขโมย

 .................................................

ดีในระดับเดียวกัน

เพราะต่างฝ่ายต่างไม่ละเมิด

ซึ่งกันและกัน

...........................................

แต่จะสังเกตได้ว่า

คนที่ทำผิด ทำบาปส่วนใหญ่

มักจะคิดว่าตน"ไม่ผิด"

เพราะไม่คิดให้ถ้วนถี่

และมักจะคิดหาเหตุผล

เข้าข้างตัวเองเสมอว่า

ตนไม่ผิด หรือไม่ก็ คิดเอาเองว่า

ทำแบบนั้น แบบนี้คงไม่เป็นไรหรอก

 

ซึ่งตัวอย่างที่เราเห็นกันชัดๆ

ก็คือ คุณลุงนิต สามีของป้ามล

ที่เอาความคิดของตนเป็นใหญ่

แล้วก็ถือวิสาสะเดินเข้าไปบ้านอาจารย์

โดยไม่ขออนุญาตก่อน

 

แล้วก็มาถึงพ่อของน้องโจ

ที่คิดเองว่า ยืมเงินที่ใส่บาตร

วิระทะโยไปใช้ก่อน

คงจะไม่เป็นไรเช่นกัน

ที่ไ่หนได้ แต่ละอย่างนั้น

"บาปมหันต์" ทั้งนั้นเลย

 

วมถึงน้องๆนักศึกษาในคลิป

ก็ทำผิด ทำบาป กันอย่างชะล่าใจ

โดยไม่เคยรู้สำนึกเลยว่า

สิ่งที่ตนทำนั้นเป็นบาปกรรมอันใหญ่หลวง

ทั้งฆ่าคน พาเพื่อนไปทำแท้ง

ไปเป็นกิ๊กกับคนที่มีเจ้าของแล้ว

แต่กลับมองว่า เป็นเรื่องเท่ห์

หรือเป็นเรื่องสนุกไปซะอีก

 

นี่แหล่ะ ปัญหาของสังคม

ปัญหาของประเทศชาติ

ที่มีพื้นฐานมาจาก

การขาดจิตสำนึกที่ดี

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-10 06:23:36


ความคิดเห็นที่ 42 (143082)

อนุโมทนากับธรรมทาน

จากคุณ พิมพ์ทิชา ด้วยนะคะ

 

ชนิดาว่าคุณเก็บประเด็นได้ละเอียด

และจำได้แม่นนะคะ

เพราะเคยอ่านที่ท่านอาจารย์

ได้เขียนมาก่อน

จึงพอจะเทียบเคียงกันได้ว่า

คุณจำมาได้ไม่ผิดเพี้ยนหรอกค่ะ

ยินดีด้วยนะคะ ที่ชีวิตพบทางสว่าง

และมีความสุขขึ้นในทุกๆด้าน

หลังจากที่ได้พบท่านอ.อุบล

สาธุ

..................................

อนุโมทนากับธรรมทานจาก หนูตุ้ย

น้องเอิ้น คุณครูละม่อม

และทุกๆท่านด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-10 06:29:25


ความคิดเห็นที่ 43 (143083)

ป.ล. เพิ่งรู้ว่า กระดานสนทนาเข้าได้แล้ว แต่ต้องล็อกอินก่อน จึงจะเข้าไปอ่านได้...ค๊า

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-10 06:55:12


ความคิดเห็นที่ 44 (143084)

การที่คนไปขโมยรถดีแต๋น ในสวนเค้าได้ ใครเลว

ระหว่างคนขโมย กับเจ้าของสวน

  หนูคิดว่าคนขโมยรถเป็นเลว

 เพราะละเมิดเข้าบ้านผู้อื่น 

และขโมยทรัพย์ของเจ้าของบ้าน

ทำให้เจ้าของบ้านเสียหาย  และเดือดร้อน

           *******

แล้ว การที่คนไม่มาขโมยของบ้านสวน ใครดี

ระหว่างเจ้าของบ้าน กับคนไม่ขี้ขโมย  

   หนูคิดว่า ดีทั้งสองฝ่าย ทั้งเจ้าของบ้าน  และ

คนไม่ขโมยของ  เพราะไม่ละเมิดสิทธิ์ผู้อื่น

ทุกคนเคารพในสิทธิ์ของผู้อื่น 

เชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม  และที่สำคัญ

ทุกคนมีจิตสำนึกที่ดี 

แล้วระหว่าง คนที่เขาไม่เข้าบ้านคนอื่น

ทั้งที่เขาไม่ได้ปิดบ้านล่ะ

เขาโง่หรือว่า เขาเป็นอย่างไร

   หนูคิดว่า  เขาเป็นคนดี  มีจิตสำนึกที่ดี

เขาจึงไม่ละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น

ทั้ง ๆ ที่เขามีโอกาส  และเขาเกรงกลัวต่อบาป

ไม่ว่าจะอยู่ในที่ลับ  หรือที่แจ้ง  เขาก็ไม่ทำผิด

                *******

   อนุโมทนาบุญกับธรรมทานของทุก ๆท่านด้วยนะคะ

ทั้งน้องตุ้ย  น้องเอิ้น  คุณครูละม่อม  คุณพิมพ์ทิชา

และคุณชนิดา  ที่ได้นำข้อเขียนของคุณสิทธิ์

มาให้เราได้อ่านอีกครั้งค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-10 08:53:06


ความคิดเห็นที่ 45 (143087)

 การที่คนไปขโมยรถดีแต๋น

ในสวนเค้าได้

ใครเลวระหว่างคนขโมย

กับเจ้าของสวน 


คนไปขโมยย่อมเลวกว่าค่ะ
เพราะของเขาอยู่ในที่ดีๆ
แต่ตัวเองเดินเข้าไปที่ของเขา
แล้วทำการลงมือขโมย

*******

แล้ว การที่คนไม่มาขโมยของบ้านสวน
ใครดี ระหว่างเจ้าของบ้าน
กับคนไม่ขี้ขโมย  

ดีทั้งคู่ค่ะ ถ้าพวกเราต่างคน
ต่างไม่ละเมืดซึ่งกันและกัน
ไม่บุกรุกเข้าไปทำเรื่องชั่วบ้านคนอื่น 
เห็นของของคนอื่นที่ไม่ใช่ของเรา
ก็ไม่อยากได้ ถึงไม่มีใครรู้ใครเห็น
ก็ต้องไม่เอาของใคร
มีความเกรงกลัว
และละอายต่อบาป
บ้านช่องก็ไม่ต้องมีรั้ว
ประตู หน้าต่าง เหมือนที่ท่าน อาจารย์บอก
และเจ้าของบ้าน ก็มีคุณธรรม รักษาศีล 5
ภัยต่างๆ ทั้งจากดินน้ำลมไฟ
ก็คงทำอะไรเจ้าของบ้านไม่ได้
แถมยังมีชีวิตที่ปกติสุขดีทุกประการ
เพราะเป็นผู้รักษาศีล
ย่อมมีความเป็นปกติสุขดีค่ะ

*******
แล้วระหว่าง
คนที่เขาไม่เข้าบ้านคนอื่น
ทั้งที่เขาไม่ได้ปิดบ้านล่ะ
เขาโง่หรือว่า เขาเป็นอย่างไร

เขาเป็นคนฉลาดค่ะ
เพราะเขารู้ว่าสิ่งใดถูก
สิ่งใดผิด เขามีปัญญา
ที่จะคิดได้ว่าของสิ่งนี้ไม่ใช่ของเขา
สถานที่นี้ เป็นที่ส่วนตัว
ทรัพย์สินส่วนตัว เขาจะไม่ละเมิด
ไม่ว่าบ้านจะเปิดอาซ่าเอาไว้ขนาดไหน
เขาก็จะไม่เดินเข้าไป
ของทุกชิ้นวางไว้อย่างไร
ก็อยู่อย่างนั้น
เขามีความซื่อสัตย์
มีสัจจะกับตัวเองค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-10 09:22:39


ความคิดเห็นที่ 46 (143098)

 

                                                   

                                                                   "การที่เราเตือนใครแล้ว เค้าพูดไม่ดีตอบ เราควรเตือนต่อไปหรือไม่"

                                         กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์มากนะคะที่กรุณาเมตตายกเอาคำสอนของพระพุทธเจ้าขึ้นมาสอนดิฉันว่า

                                         พระพุทธเจ้า จะทรงใช้บุคลาอธิษฐานสอนคนทำให้บรรลุมรรคผลในเวลาอันสั้น จะน้อมรับใส่เกล้าค่ะ

                                         แม้ว่าจะสอนคนพวกนี้ยากแสนยากก็ตามก็จะพยายามทำความดีต่อไปให้ได้ค่ะถึงแม้ว่าจะโดนเขาย้อนกลับ                                   

                                         อย่างแสนสาหัสก็ตาม   กราบขอบพระคุณนะคะที่อาจารย์ให้แสงสว่างแก่อัญชลีค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลี สิงห์แก้ว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-10 13:15:10


ความคิดเห็นที่ 47 (143099)

 คุณอัญชลีคะ

การทำควาามดี เราไม่ทำเพื่อให้คนชม 

แต่เราจะทำเพื่อเป้าหมายเดียว คือ นิพพาน (พ้นทุกข์)

ถ้าเราทำความดี เพราะ อยากให้คนชม พอคนไม่ชม เราก็จะเลิกทำ หรือพอมีคนด่า เราก็เลิกทำอีก หรือไม่ก็ท้อแท้

แต่สำหรับ อ.อุบล ถ้าเรามั่นใจว่า ทำดีแล้ว แล้วยังมีคนด่า  อ.จะรู้เลยว่า เราเดินมาถูกทางแล้ว เพราะ เราจะสามารถแยกแยะ คนดี คนชั่ว ได้ด้วย

การทำดี นี่เอง  แล้วคนดี คนชั่ว ไม่มีป้ายแขวนคอก็จริง แต่ดูไม่ยาก ดูจากความคิด คำพูด การเขียน การกระทำ ถ้าคนศีลบริสุทธิ์ตำหนิติเตียนเรา พึงรีบแก้ไข

แต่ถ้าคนทุศีล ด่า ตำหนิเรา พึงรู้ไว้ ว่าเรา คนละพวกกับเขา  เรา ทำดี แล้วเขาเดือดร้อน แสดงว่า ผีเห็นผ้ายัน

เพราะความดีที่เราทำ ไม่ได้ไปทำบนที่ใส่หมวกของใคร แล้วถ้าเราเตือนเขาแล้ว เขารับไม่ได้ ก็หมดหน้าที่ของเรา เหมือนดังพระพุทธเจ้า ท่านไม่เตือน บัวเหล่าที่ ๔

ถ้ายังเอิญ คุณอัญชลี ไปเจอลัวเหล่าที่ ๔ ก็อย่าไปสนใจอีกเลยค่ะ อย่าทำตัวยิ่งใหญ่เหนือพระพทธเจ้าเลยค่ะ รอให้เป็นหน้าที่ของ ท่านเทวทัต ท่านอชาติศรัตรู

นายนิรยบาลเถอะค่ะ  เอาเวลาไป ยกจิต ของตัวเราเองบ้าง ช่วยบัวเหล่า ๓ บ้าง เหล่า ๒ บ้าง

ส่วนเหล่าที่ ๑  คงไม่ต้องช่วย เขาเห็นหัวข้อก็เข้าใจแล้ว บรรลุธรรมได้ง่าย

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-10 13:43:17


ความคิดเห็นที่ 48 (143101)

จ๊ะเอ๋...สวัสดีค่ะ

คือ

อยากบอกว่า

กระดานสนทนา

ใช้ได้เหมือนเดิมแล้ว

ขอให้ไปส่งความคิดเห็น

กันใน

วันนี้ ใครดูรายการ คุยไปแจกไปบ้าง

 

กันเหมือนเดิมดีกว่านะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-10 14:19:04


ความคิดเห็นที่ 49 (143102)

 

 

                                       1.       "การที่คนไปขโมยรถดีแต๋นในสวนเค้าได้ใครเลวระหว่างคนขี้ขโมยกับเจ้าของบ้าน"

                                             

                                                                        คนที่คิดจะขโมยของผู้อื่นเป็นคนเลวค่ะ

                                                        เพราะทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์แล้วยังทำให้เสียใจ  เสียความรู้สึก

                                                                         เป็นบาปติดตัวผิดศิลข้อที่สอง

                                                                        ถ้าผู้อื่นรู้ทำให้หมดคความเคารพเชื่อถือ

                                                                           เป็นที่เกลียจชังของสังคม

                                                                           (  ใช้ไอแพดพิมพ์ค่ะ)  

                                                                        ดีทั้งสองฝ่ายค่ะเพราะคนดีย่อมมีจิตใต้สำนึกดี        

                                                       

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลี สิงห์แก้ว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-10 14:20:43


ความคิดเห็นที่ 50 (143103)

ขออนุญาติ ขยายอักษรนะคะ

 คุณอัญชลีคะ

การทำควาามดี เราไม่ทำเพื่อให้คนชม 

แต่เราจะทำเพื่อเป้าหมายเดียว คือ นิพพาน (พ้นทุกข์)

ถ้าเราทำความดี เพราะ

อยากให้คนชม พอคนไม่ชม

เราก็จะเลิกทำ หรือพอมีคนด่า

เราก็เลิกทำอีก หรือไม่ก็ท้อแท้

แต่สำหรับ อ.อุบล

ถ้าเรามั่นใจว่า ทำดีแล้ว

แล้วยังมีคนด่า  อ.จะรู้เลยว่า

เราเดินมาถูกทางแล้ว เพราะ

เราจะสามารถแยกแยะ คนดี คนชั่ว

ได้ด้วยการทำดี นี่เอง  

แล้วคนดี คนชั่ว ไม่มีป้ายแขวนคอ

ก็จริง แต่ดูไม่ยาก

ดูจากความคิด คำพูด การเขียน

การกระทำ

ถ้าคนศีลบริสุทธิ์ตำหนิติเตียนเรา

พึงรีบแก้ไขแต่ถ้าคนทุศีล

ด่า ตำหนิเรา พึงรู้ไว้ ว่า

เรา คนละพวกกับเขา 

 เรา ทำดี แล้วเขาเดือดร้อน

แสดงว่า ผีเห็นผ้ายัน

เพราะความดีที่เราทำ

ไม่ได้ไปทำบนที่ใส่หมวกของใคร

แล้วถ้าเราเตือนเขาแล้ว

เขารับไม่ได้ ก็หมดหน้าที่ของเรา

เหมือนดังพระพุทธเจ้า

ท่านไม่เตือน บัวเหล่าที่ ๔

ถ้าบังเอิญ คุณอัญชลี ไปเจอ

บัวเหล่าที่ ๔ ก็อย่าไปสนใจอีกเลยค่ะ

อย่าทำตัวยิ่งใหญ่เหนือพระพทธเจ้า

เลยค่ะ รอให้เป็นหน้าที่ของ

ท่านเทวทัต ท่านอชาติศรัตรู

นายนิรยบาลเถอะค่ะ 

 เอาเวลาไป ยกจิต ของตัวเราเองบ้าง

ช่วยบัวเหล่า ๓ บ้าง เหล่า ๒ บ้าง

ส่วนเหล่าที่ ๑  คงไม่ต้องช่วย

เขาเห็นหัวข้อก็เข้าใจแล้ว

บรรลุธรรมได้ง่าย

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-10 13:43:17

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-10 14:23:19


ความคิดเห็นที่ 51 (143105)

 

 

                                              2.แล้วการที่คนไม่มาขโมยของในบ้านสวนใครดีระหว่างเจ้าของบ้านกับคนไม่ขี้ขโมย

                                                       ดีทั้งสองฝ่ายค่ะไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น มีจิตใต้สำนึกที่ดี

                                                               ไม่คิดอยากได้ของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง

                                                          เพราะที่บ้านสวนเป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์อยู่อย่างสงบสุข

                                                 รักษาศิลห้าเชื่อในกฏแห่งกรรม  นำธรรมะของพระพุทธองค์มาเแพร่ค่ะ

                                                

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลี สิงห์แก้ว (Unchalee1416-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-10 14:47:14


ความคิดเห็นที่ 52 (143107)

 

 

                                                3.แล้วระหว่างคนที่ไม่เข้าบ้านคนอื่นทั้งที่เขาไม่ได้ปิดบ้านล่ะเขาโง่หรือว่าเขาเป็นอย่างไร

                                                          คนแบบนี้สมควรแก่การยกย่องมากเพราะเขาไม่ได้ละเมิดสิทธิของผู้อื่น

                                                    มีมารยาททั้งต่อหน้าและลับหลังให้เกียรติตนเองและผู้อื่นแม้จะอยู่ในที่ลับตาคน

                                                                             หรือกลางที่โล่งแจ้งก็ตาม

                                                     ใครที่คิดเข้าบ้านผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยเฉพาะ บ้านสวนฯ อ.อุบล

                                                     โปรดอ่านธรรมทานเรื่องป้ามล และลุงนิตที่ีคุณสิทธิได้กรุณานำมาลงด้วยนะคะ

                                                                       ขอบพระคุณสำหรับธรรมทานทุกท่านด้วยค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลี สิงห์แก้ว (Unchalee1416-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-10 15:01:20


ความคิดเห็นที่ 53 (143115)

                   

                                                                กราบขอบพระคุณอาจารย์อุบลเป็นอย่างสูง                 

                  ที่กรุณาให้แสงสว่างแห่งชีวิตค่ะ ได้อ่านคำสอนของอาจารย์ รู้สึกปลึ้มปิติมากขนลุกไปทั่วกายเหมือนกับมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ไกล้ๆ

                       ดิฉันขอน้อมรับเอาคำสอนของพระพุทธองค์ไว้เหนือหัวเหนือเกล้า อาจารย์ได้เมตตาเอาธรรมะของพระพุทธองค์สอนว่า

                          "เราไม่ควรทำตัวยิ่งใหญ่เหนือพระพุทธเจ้ารอให้เป็นหน้าที่ของท่านเทวทัต,ท่านอชาติศรัตรู,นายนิรยบาลดีกว่า"

                                           เอาเวลาที่เหลืออยู่ไปยกจิตของเราไปช่วยบัวเหล่าสาม,เหล่าสองบ้างยังดีกว่า

                       น่าเสียดายเวลาที่เหลืออยู่ของพวกเขาเหล่านั้นเหลือเกินอดคิดไม่ได้ว่าเมื่อไหร่กันที่พวกเขาเหล่านั้นจะสำนึกในสิ่งที่ดีเสียที

               กราบพระบาทองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วจักรวาลและเทวดาที่รักษาอ.อุบลและอ.อุบลที่ทำให้ชีวิตลูกพบแสงสว่างแห่งชีวิตค่ะ

                                                ขอบคุณสำหรับธรรมทานทุกๆท่านด้วยค่ะและขอบคุณพี่แมวด้วยนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลี สิงห์แก้ว (Unchalee1416-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-10 16:12:09


ความคิดเห็นที่ 54 (143116)

 

การทำควาามดี เราไม่ทำเพื่อให้คนชม 

แต่เราจะทำเพื่อเป้าหมายเดียว คือ นิพพาน (พ้นทุกข์)

ถ้าเราทำความดี เพราะ

อยากให้คนชม พอคนไม่ชม

เราก็จะเลิกทำ หรือพอมีคนด่า

เราก็เลิกทำอีก หรือไม่ก็ท้อแท้

----------------------

 

ลูกกราบโมทนาในธรรมของอาจารย์แม่ค่ะ

ลูกขอยึดมั่น ตั้งมั่นในคำสอนของอาจารย์แม่

และ

หวังว่าสักวันหนึ่ง ญาติพี่น้องของลูก

จะได้เข้าใจในธรรมมะ อันงดงามของพระพุทธองค์

ผ่านกาย วาจา ใจ ของอาจารย์แม่

กราบ กราบ กราบ

ผู้แสดงความคิดเห็น เบ็ญจากาญจน์ ศุภศิริว้ฒนา(วิ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-10 16:15:31


ความคิดเห็นที่ 55 (143123)

กราบอนุโมทนากับท่านอ.อุบล อ.มงคล

และญาติธรรมบ้านสวนทุกท่านที่ได้ไปร่วมแสดงพระธรรม

ให้คณะครูอาจารย์ และน้อง ๆ นักศึกษา ให้ได้มีโอกาสเห็นธรรม

ได้ในเวลาอันรวดเร็วมาก อนุโมทนากับธรรมทานจากน้อง ๆ

และธรรมทานจากทุก ๆ ท่านในวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาด้วยคะ  

รอดูตอนต่อไปคะ กราบขอบพระคุณคะ

 

(แต่คือว่า  หนูยังเข้า กระดานสนทนาไม่ได้เลยคะ )

ผู้แสดงความคิดเห็น พัทธ์ธีรา วังกาวันมณเฑียร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-10 18:34:37


ความคิดเห็นที่ 56 (143124)

 

                                                จากคห.ที่  49 (143102)  เขียนโดย ข้าพเจ้า อัญชลี  สิงห์แก้ว  ขอแก้ข้อความนะคะ

                         ต้องกราบขอโทษผู้อ่านทุกๆท่านด้วยที่เอามือไปกดปุ่มไอแพดผิดเลยทำให้ข้อความที่เขียนไว้กระโดดทำให้ข้อความที่เขียนไว้สับสน

                                ขอแก้นะคะที่ถูกต้องคือ   1.  "การที่คนไปขโมยรถดีแต๋นในสวนเค้าได้ใครเลวระหว่างคนที่ขโมยกับเจ้าของบ้าน"

                                                  ขอตอบว่า    คนที่ขโมยของผู้อื่นเป็นคนเลวค่ะเพราะทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์

                                                       และทำให้ผู้อื่นเสียใจ  เสียความรู้สึก อีกทั้งทำแล้วยังเป็นบาปติดตัว

                                                              ผิดศิลข้อที่สอง ถ้าผู้อื่นรู้ทำให้หมดความเคารพเชื่อถือ

                                                                          เป็นที่รังเกียจของสังคม

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญชลี สิงห์แก้ว ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-10 19:58:17


ความคิดเห็นที่ 57 (143125)

  เหมือนกันค่ะคุณแหวน

พี่ก็ยังเข้ากระดานสนทนาไม่ได้ค่ะ

ใครที่เข้าได้แล้ว  รอด้วยนะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-10 20:19:06


ความคิดเห็นที่ 58 (143126)

 คุณแหวน ไม่ต้องร้องไห้นะ คนดี

เดี๋ยวคืนนี้ ก็เข้าไปกระดานสนทนาได้แล้วนะ รอหน่อยนะ

คุณมาร์คกำลังทำงานอยู่ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-11 00:26:39


ความคิดเห็นที่ 59 (143127)

  เดี๋ยวคืนนี้ ก็เข้าไปกระดานสนทนาได้แล้วนะ รอหน่อยนะ

คุณมาร์คกำลังทำงานอยู่ค่ะ

************************

เป็นกำลังใจให้คุณมาร์ค และอนุโมทนาบุญด้วยคะ

เคยเข้ามาเขียนธรรมทานสมาทานศีลที่เว็บเกือบทุกวัน

ห่อเหี่ยวมาอาทิตย์กว่าๆ เพราะรอกระดานสนทนาคืนชีพ

อ.อุบลช่วยด้วย ขอให้ user ของท่านอ.และลูกบ้านสวนไม่โดนแฮกอีกต่อไป


 

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-10 20:47:12


ความคิดเห็นที่ 60 (143132)

การทำควาามดี เราไม่ทำเพื่อให้คนชม 

แต่เราจะทำเพื่อเป้าหมายเดียว คือ นิพพาน (พ้นทุกข์)

ถ้าเราทำความดี เพราะ

อยากให้คนชม พอคนไม่ชม

เราก็จะเลิกทำ หรือพอมีคนด่า

เราก็เลิกทำอีก หรือไม่ก็ท้อแท้

-*-*-*-*-*-*-

ขอบคุณค่ะ อาจารย์

เพื่อพิสูจน์และสู้กับจิตของตัวเอง

ว่ามีความพร้อมที่เข้มแข็ง

พอหรือยังที่จะต้านกับ

ความอ่อนแอ และ

ความเลว ที่มีอยู่

ใน และ นอก

ตัวของเรา

คำตอบที่ได้คือ

ผล ของการตรวจวัด

ความดี - ความเลว

ของตัวเราเองค่ะ

รู้แล้วว่า

ต้องสู้ ต้องสู้จึงจะชนะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-10 22:36:54


ความคิดเห็นที่ 61 (143178)

เห็นมีคนขอเข้าบ้านสวน

ทั้งกระทู้นี้ และ กระทู้ที่คุณมาร์ค

เปิดไว้หน้า 1 ชั่วคราว เอาเป็นว่าใช้ได้

ทั้งสองกระทู้ก็แล้วกันนะ

 

ส่วนคนที่

เข้ามาเขียนไม่ได้

ก็ให้โทร.แจ้ง ใ

ห้เพื่อนที่เขียนได้ เขียนแทนก่อน

นะจ๊ะ

-------------

การปิดขุม 8 ไม่ง่าย

เพราะต้องใช้กำลังบุญมาก

 

ถ้าทำนิดหน่อยแล้วปิดได้

พระเทวทัติ คงไม่ต้อง

ตกขุมนี้ยาวนานขนาดนี้

 

ดังนั้น

ท่านที่ คิดจะปิดขุมนี้

ท่านได้รับโอกาสให้มาสร้างบุญ

ก่อนจะทำพิธีปิดตั้งหลายสัปดาห์

แต่ไม่รู้ว่าจะมีใครรู้ตัวรึเปล่า

ว่า

ตั้งแต่ ค่าย 12

เป็นต้นมา ท่านมเหสักขา

เก็บคะแนนบุญ

 

ส่วนท่านสุวรรณ

ก็เก็บคะแนนบาปเรื่อยมา

 

แล้วถึงวันปิด

ก็จะรู้เองว่า ตลอดชีวิต

ในชาตินี้

ทำความดี กับ ความชั่ว

อย่างไหน มากกว่ากัน

 

บุญ

ที่มาทำบ้านสวน

กับ

บาป ที่ทำกับ บ้านสวน

ชั่งดูแล้ว อย่างไหน มากกว่ากัน

 

ดังนั้น

ใครจะมาปิดขุมนี้

ต้องแบกความดี แบกบุญมา

ให้จงหนัก

 

ทั้งทางความคิด

ทางคำพูด การเขียน

หรือการกระทำ

 

บาปที่ทำให้ไปอเวจี

คือ

อนันตริยกรรม หรือ กรรมหนัก

1.ฆ่าพ่อ-แม่

(รวมทั้งผู้มีพระคุณที่เคยอุปการะเรามา)

(หรืออยากให้พ่อแม่ ผู้มีพระคุณตาย

หรือเถียง ทำร้ายร่างกาย จิตใจ

ตบตี ด่า ใส่ร้าย บิดเบือนความจริง

เกิน 2-3 ครั้งขึ้นไป)

 

2.ทำสงฆ์ให้แตกกัน

(ชอบยุแยงตะแคงรั่วพระ ชี หรือ คนในวัด

เข้าข้างคนนั้น ปั่นหัวคนนี้ หรือ นินทา

ใส่ร้าย พระอริยเจ้า พระอริยบุคคล

ด่า ว่า ใส่ร้าย ใส่ความ ผู้ทรงศีล ทรงธรรม

เกิน 2-3 ครั้งขึ้นไป ไม่ว่าจะด้วย

ทางความคิด คำพูด การกระทำ การเขียน

เข้าไปในเขตบุญแล้ว ปากเสีย สอดรู้สอดเห็น

สร้างความเดือดร้อนให้ พระโสดาบันขึ้นไป

ต้องขุ่นเคืองใจ ได้รับความเดือดร้อน

ทั้งกาย ทั้งใจ ทั้งวาจา ฯลฯ)

 

3.ทำร้ายพระพุทธเจ้า

ตั้งแต่ห้อพระโลหิต ขึ้นไป

(แม้ยังไม่ได้ฆ่า ทำเพียงน้อยนิด

ก็ต้องไปอเวจี

ถ้าทำมากกว่านี้ ไปโลกันต์)

 

พระพุทธเจ้านี่นะ

แตะต้องนิดเดียว ไปอเวจีเลย

อย่างพระเทวทัต อุส่าห์บำเพ็ญบารมีมา

จนได้อภิญญา แต่มาอิจฉาพระพุทธเจ้า

หาทางใส่ร้าย ทำลายชื่อเสียง

เอาหญิงไปยั่ว แต่งเรื่องโยนความผิดให้

ทำร้าย คิดร้าย ทำลาย ทุกวิธี

แต่พระพุทธเจ้าทรงเมตตา

พระเทวทัต ต้องไป อเวจี แม้กลับใจ

ตอนป่วยหนัก

ซึ่งระยะเวลา ที่พระเทวทัติ

มีโอกาสกลับใจ ตอนมีชีวิตดีๆนั้น

หลายปี แต่พระเทวทัติ กลับคิดอีกอย่าง

ว่า ตนดีกว่าพระพุทธเจ้า

ขนาดด่า ประนาม ชักชวนผู้คน

ให้มาร่วมลบหลู่พระพุทธเจ้า

ก็ยังไม่เห็นเป็นไร

จึงทำต่อไป จนกระทั่งล้มป่วย

จนเดินไม่ได้ ต้องมีพระที่เป็นพวก

หาม ไปหา พระพุทธเจ้า

ต้องการขอขมา

แต่ว่า

ธรนีสูบก่อน ระหว่างทาง

-------

สำหรับสาวกของพระพุทธเจ้า

ก็เช่นกัน พระอริยเจ้า ทุกพระองค์

ผู้ใดลบหลู่ ดูหมิ่น

ตั้งแต่ 2-3 ครั้งขึ้นไป ต้องลงอเวจี

เพราะถือว่า ทำหน้าที่

นำพระธรรมอันงดงามมาแสดง

------

อันนี้

เลยอยากชี้แจงให้ ผู้มาร่วมปิด

ทบทวนกรรมก่อนมา

จดมาด้วย ทำอะไรกับใครไว้

 

เคยสร้างความแตกแยก

ให้คนเข้าใจผิดกัน ในเขตบุญรึไม่

 

เคยทำอะไร กับพ่อแม่ ผู้มีพระคุณรึไม่

 

เคยทำอะไร กับคนมีบุญรึไม่

 

แล้วจะเลิกได้รึไม่

ถ้ากลับลำทัน บุญพอ ก็ปิดได้

 

จดไปให้ดีนะจ๊ะ

ขุมนี้ไม่ใช่เล็กน้อยเลย

ละเอียดอ่อนมากด้วย

 

ใครช่วยก๊อปไป

หน้าขออนุญาตชั่วคราว

หรือ

หน้าอื่นด้วยจ้า

ขอบคุณ

ค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-11 19:30:13

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-11 21:19:15


ความคิดเห็นที่ 62 (143179)

กรรมที่ทำให้

ต้องไปอเวจี นอกจาก

อนันตริยกรรมแล้ว

 

ก็ยังมีอีก ที่คนยังไม่เข้าใจ

คือ

1.คนที่ทำผิดศีล ข้อใดข้อหนึ่ง

เกิน 2-3 ครั้งขึ้นไป

เช่น

สิ่งที่ทำผิดศีลข้อเดียวก็จริง

แต่ทำเป็นประจำ

เช่นฆ่าสัตว์ ประจำ หรือ ครั้งละมากๆ

ทำแท้ง เกิน 2 ครั้ง แม้ปิดขุม 1

ก็ไม่หลุด

เพราะมีชื่ออยู่อเวจี

 

-ลักทรัพย์

ยักยอก ต้มตุ๋น หลอกลวง

เป็นหนี้แล้วไม่ใช้ ตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไป

ทำให้คนเขาเสียทรัพย์

โดยที่เขาไม่เต็มใจ เป็นหนี้ ไม่ใช้

หาอุบาย ได้ทรัพย์มา

หลอกลวง แม้ปิดขุม 2 แล้วก็

ไม่สามารถปิดได้ เพราะ ชื่ออยู่อเวจี

 

-ผิดในกาม หมกมุ่น แต่เรื่องลามก

ผิดประเวณี ขี้หึง 2-3 ครั้ง ขึ้นไป

แม้ว่าปิดขุม 3 ก็ปิดไม่ได้

เพราะมีชื่ออยู่อเวจี

 

-โกหก นินทา ใส่ร้าย

พูดคำหยาบ ส่อเสียด เพ้อเจ้อ

หลอกลวง บิดเบือนความจริง

2-3 ครั้งขึ้นไป

แม้ว่าปิดขุม 4 ก็ไม่สามาถหนีได้

เพราะมีชื่ออยู่ อเวจี

 

-ดื่มเหล่า - เบียร์

เครื่องดื่มที่มี แอลกอล์ฮอล์

เครื่องดองของเมา

 

ทั้งนี้รวมทั้ง

ดื่มเอง ใช้ให้คนอื่นซื้อ เลี้ยง

เลี้ยงคนอื่น เห็นคนอื่นดื่ม ไม่ห้าม

ขาย ช่วยขาย ส่งเสริมการขาย

มีใจยินดี ที่มีรายได้

จากการเกี่ยวข้องกับของมึนเมา

 

 

2.ทำผิดศีลตั้งแต่ 2 ข้อขึ้นไป

ในกรรมเดียวกัน

เช่น ขโมยไก่ แล้ว เอาไปฆ่า

เอาไปให้คนอื่นฆ่า เอาไปขาย

อันนี้ ทั้งขุม 2 ขุม 1 ดังนั้น ถือว่า

ทำกรรมครั้งเดียวกันเรื่องเดียวกัน

ผิดศีล 2 ข้อ ตีตั๋วด่วนไป อเวจีเลย

-ฆ่า แล้ว ข่มขืน

ก็ผิดข้อ 1 ไปขุม 1 ข่มขืน ขุม 3

แต่ทำวาระเดียวกัน ไปอเวจี

-ด่า ทำร้ายจิตใจ

แล้ว บอกไม่ได้ด่า

อันนี้ คนคงคิดว่า ไปขุม 4 เท่านั้น

ไม่ใช่นะ

ด่า(โกรธ) ถือว่าขาดเมตตา ขุม 1

ทำพร้อมกัน ไปอเวจี

-ไอ้โม่ง คลุมหน้า ไปปล้น

ไปบุกรุกบ้านคนอื่นเขา

ไอ้โม่ง ปิดหน้าตา ถือว่า มุสา ขุม 4

ปล้น ลักทรัพย์ ขุม 2

ทำร้ายร่างกาย ทำร้ายจิตใจ

เขาด้วย ขุม 1

อันนี้ ไปอเวจี อยู่นานหน่อย

 

แต่ถ้าทำบ่อยๆ

2-3 ครั้ง ขึ้นไป ไม่ต้องไปอเวจี

ดีใจได้เลย

ไปดินแดนพิเศษ ที่จัดไว้ให้

แขก วี.ไอ.พี.

พี่...กันต์

หรือเรียกว่า โลกันต์นรก

-----------

ทุกกรรม

รวมทั้ง ทำเอง

ยุยงส่งเสริม ให้คนอื่นทำ

จ้างวาน ใช้อุบาย ให้คนอื่นทำ

สะใจ ยินดี ที่เห็นคนอื่นทำ

ผิดศีล ทำบาป ทำกรรม

ตนเอง

ต้องได้รับเสมือนหนึ่งทำเอง

 

สัญญาณคนจะไป

อเวจี

มีอาการดังนี้

 

-เจ็บป่วย รักษาไม่หาย

-ยากจน มีปัญหาเรื่องเงิน

-แตกแยก ร้อนที่อยู่

-ทุกข์ใจ ทุกข์กาย

-นอนไม่หลับ กินไม่ได้

-ร่างกายทรุดโทรม

-ไม่สำเร็จทั้งทางโลก+ทางธรรม

-วันๆ คิดทำ แต่บาปเพิ่ม

เพื่อให้มีที่ไป คือโลกันต์ ซึ่งหนักกว่าเดิม

-มีอาการร้อน ตามร่างกาย

ทำอย่างไรก็ไม่หาย

-ฝันร้าย ฝันเห็นไฟไหม้ เหวลึก ฯลฯ

-คัน รักษาไม่หาย

-เป็นโรคร้าย แบบไม่ตั้งตัว

ไม่มีทางรักษา

-คนในครอบครัว ประสบอุบัติเหตุ

-มีแต่เรื่องเสียเงิน มีแต่ความเดือดร้อน

-มีเงาดำ ติดตาม จนจิตหลอน

-มีความคิดลบ เห็นผิดไป จากทำนอง

ครองทำ ไม่อยากทำความดี

-เห็นความดี ว่าชั่ว เห็นความชั่ว ว่าดี

-ไม่มีความสงบใจ เร่าร้อน ทุรนทุราย

คิดร้าย เสมอ ฯลฯ

---------------------------------------

ขอให้ทุกท่าน

ที่มาอ่าน จงมีโอกาสหลุดพ้น

จากนรกขุมนี้

เพราะมีไฟ ที่ร้อน เปลวดำ

ไม่มีคำว่าหยุดการลงโทษเลยแม้แต่

วินาทีเดียว

มีเหล็กแหลมตรึงหัว

แขน ขา ลำตัว ไม่ให้ดิ้น

แล้วมีไฟเผา มีสิ่งทิ่มแทงร่างกาย

ตลอดเวลา ไม่มีหยุดพักเลย

 

ขออย่าไปกันเลยนะ

ถ้าไปนิพพานไม่ได้จริงๆ

ก็ไปสวรรค์กันเถอะ

 

เพราะ

ถ้ายังกลับมาเป็นคนอีก

พระพุทธเจ้า

ท่านบอกว่า ขาดทุน

 

การลงทุนนั้น ไม่มีกำไรเลย

 

ขอให้โชคดี หนีอเวจีได้

สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-11 19:59:18

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-11 21:19:59


ความคิดเห็นที่ 63 (143183)

อ.อุบลช่วยด้วย

ขอให้ user ของท่าน

อ.และลูกบ้านสวนไม่โดนแฮกอีกต่อไป


 

ผู้แสดงความคิดเห็น เจิดหทัย สุวรรณากาศ (หนึ่ง)

 

คุณหนึ่งคะ

ไม่ต้องภาวนาให้ USER

ของ อ.ไม่โดนแฮ๊ก หรอกค่ะ

 

เพราะว่า

พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า

 

เราแก้ไขใครไม่ได้หรอกจ้า

เราแก้ได้เฉพาะตัวเราเอง

 

ความหมายก็คือ

 

แม้แต่พระพุทธเจ้า

ท่านเป็นจอมอรหันต์ เป็นยอดสรรพัญญู

มีฤทธิ์อันประเสริฐ

 

แต่พระองค์

ก็ไม่อาจห้ามใครไม่ให้ทำชั่วได้

 

ไม่เช่นนั้น

พระองค์คงทรงห้าม

ไม่ให้มีคนชั่ว ได้ทั้งโลกแล้วหละ

 

ดังนั้น

เราไม่ต้องไปภาวนา

ไม่ให้มีคนชั่ว ไม่ให้มีคนเลว

หรอกค่ะ ไม่สำเร็จหรอก

 

ถ้าจะภาวนานะ

ก็ขอให้ภาวนาใหม่ว่า

ขอให้เวรกรรมที่เขาจะได้รับนั้น

จงเป็นกรรม ที่เป็นโอกาสทอง

ของชีวิตเขา

 

ให้เขาได้มีโอกาส

หลุดพ้นกรรม อนันตริยกรรม

ซึ่งต้องไปอเวจีที่เดียวกับ

พระเทวทัตนั้น

 

เป็นกรรมที่ทำให้

เขาสำนึกได้ เหมือนพระเทวทัต

ที่สำนึกได้อยู่ทุกวันนี้

แต่มันสายไปแล้ว

 

การทีเวปบ้านสวน

ถูกแฮ๊กได้นั้น

มันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย

และ

ไม่มีเจ้าของบ้าน เจ้าของเวป

ต้องไปนรก

มีแต่ทำให้เราได้พัฒนาขึ้นไป

มีแต่ทำให้ เรา เรียนรู้ ยิ่งขึ้นไป

เราต้องขอบคุณเขาด้วยซ้ำ

ที่ทำให้โฮส และ สังคม

สนใจพัฒนาระบบเวปไซด์ขึ้นไปอีก

 

และ

ทำให้คนหลายวงการ

จับตามอง ซึ่ง ก็คงไม่ค่อย

จะมีผลดี

ต่อผู้แฮ๊กเลย ไม่ว่าทางตรง

ทางอ้อม ไม่ว่าทางโลก ทางธรรม

 

รวมทั้งผู้ร่วมขบวนการ

ซึ่งมีผล ไปถึงครอบครัว

พ่อแม่พี่น้อง

ซึ่งไม่เคยรู้ว่าลูกหลานของตัว

ทำอะไรไว้ ก็จะได้รู้

 

บางคนเป็นนักศึกษา

บางคนทำงาน บางคนตกงาน

บางคน ป่วย ไม่สบาย แทบตาย

เข้ามาร่วมขบวนการ

บางคนหนีคดี จนไม่กล้าเอารูปลงเวป

บางคนอยู่หอพัก

บางคน ไม่มีบ้าน พวกโฮมเลส

กรรมที่มีอยู่เดิม

ก็เยอะอยู่แล้ว แล้วยังมาสร้างกรรม

ท้านรก กับบ้านสวน

ก็สมควรแล้วหละ ที่คนเหล่านี้

มารวมกัน

 

จะได้ไม่ต้องตามทีละคน

มาอยู่รวมกัน เป็นกลุ่มเป็นก้อน

เป็นพวง ง่ายดี จะตาย

 

รอดูกันต่อไปเถอะ

 

บางคนนะ

ปากเสีย จนกระทั่ง

ปากกระแทกโต๊ะบนบวม

เจ็บปวดจะตาย

ยังไม่รู้ตัวเลย ว่าเกิดจากอะไร

 

วันๆ ไม่เคยรู้ตัว

ว่า

มีใครเดินตามบ้าง ยังซ่าส์สุดตัว

ยังมั่วโลกีย์ ยังไม่มีสำนึก

 

เวลานี้

ขอให้ทุกคนสงสาร

และ

ขอบคุณคนเหล่านี้ที่แฮ๊กเข้ามา

เราลองคิดอย่างคนโง่ๆสิ

ว่า

ทำแล้วพวกนี้ได้อะไรบ้าง

 

 เราเสียอะไรบ้าง

 

ใครสุข ใครทุกข์

ถ้าเขาเก่งจริง เขาคงไม่ต้อง

ปกปิดหน้าตา

ไม่ต้องปกปิด ชื่อสกุล

มาใช้ชื่อคนอื่นหรอก

 

อย่างนี้หรือ

คือคนดี คนเก่ง

 

ทำไมไม่ทำอะไรให้เห็น

เป็นตัวอย่างที่ดี

 

ทำไม่ไม่จัดรายการ

ทำรายการโทรทัศน์แบบที่ตนเอง

คิดว่า จะดี กว่าบ้านสวน

 

หรือทำไม

ไม่เคย ทำดีกับ พ่อแม่ พี่น้อง

ให้เขาภูมิใจ กันบ้างเลย

 

แต่ละคน

ถ้าดูจากประวัติแล้ว

น่าสงสารทั้งนั้น

 

ส่วนมาก มีปมด้อย

ขี้ขลาด ชีวิตลำบาก ยากจน

 

บางคน

ยืมเงินใคร ไม่เคยใช้คืนเลย

 

บางคน

อยากดัง อยากเด่น

อยากเป็นคนสำคัญ อยากไปเมืองนอก

อยากเก่ง อยากเป็นฝรั่ง

แต่เอาเวลามานั่ง

อิจฉาบ้านสวนพีระมิด

 

คุณหนึ่ง

ไม่แปลกใจบ้างหรือว่า

 

คนที่ไม่ชอบบ้านสวน

แต่ว่า

เฝ้ามอง เฝ้าอ่าน เฝ้าดู

เฝ้า ทุกอย่าง ทุกฝีก้าว เฝ้าติดตาม

เฝ้าขนาดนี้ แสดงว่า

บ้านสวนพีระมิด

ต้องมีดีอะไร ที่คนพวกนี้

รับไม่ได้ ทนไม่ได้

ใจมันรุ่มร้อน อยากรู้ อยากเห็น

อยากเป็นอย่างเขา

 

เป็นไม่ได้ ใช้ชื่อเขา ก็ยังดี

 

เหมือนอย่างการ

โคลนนี่ง ที่ว่า โคลนได้แต่ตัว

แต่จิตใจโคลนไม่ได้

 

ไม่ว่าใช้ชื่อใคร

แต่พลังที่ส่งผ่านตัวหนังสือ

ก็สื่อถึงความต่างของใจอยู่ดี

 

คนพวกนี้

เป็นคนอ่อนแอ อันที่จริง

น่าสงสารมากที่สุด

 

ยิ่งเห็นการกระทำ

มันบอกที่มา ที่ไป ของเขาได้เลย

แล้วแต่ละคน ก็ทุกข์กันทั้งนั้น

 

แต่ละคน

ก็ต้องการความสุขกันทั้งนั้น

 

แต่ละคน

ก็ดิ้นรน กันทั้งนั้น

 

มีปัญหา

ทั้งครอบครัว การงาน

การเงิน สุขภาพ สังคม

จนสูญเสียความภูมิใจในตัวเอง

จึงต้องหาทางออก

 

ด้วยการระบาย

ความแค้น ใส่คนที่เขา

ไม่เอาเรื่อง คิดว่า เก่งที่ทำเขาได้

 

โดยเฉพาะ

ภูมิใจ ที่ทำกับคนที่ มีคนนับถือ

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่มีฤทธิ์ได้

 

เพราะเขาคิดว่า

มันจะทำให้เขา มีความดีมากกว่า

แต่เขาทำให้คน หมดความลังเลสงสัย

ว่าเขาจะมีความดีเหลือหรือไม่

ก็ตรง

เขาหยาบคาย

ไม่กล้าเผชิญหน้ากับใคร

ไม่กล้าใช้ชื่อ-สกุลจริง

 

ในขณะที่

คนที่ตนเองใส่ร้ายนั้น

เขามีตัวตน

เขาใช้ชื่อ สกุล จริง

เขาอวดใครได้ ไม่ต้องปิดบัง

 

เอ

หรือว่า หน้าเขา

สิวฝ้า จะขึ้นเยอะก็ไม่รู้เน๊าะ

เลยไม่กล้าให้ใครเห็น

 

แต่จะว่าไป

คนผิวไม่ดีนี่นะ น่าเห็นใจ

มันอายจริงๆนะ

 

อ.อุบล

เคยเป็นมาก่อน

มันหดหู่ มันไม่อยากถ่ายรูป

ไม่อยากเจอใคร ไม่อยากให้ใคร

เห็นหน้า อันนี้ น่าเห็นใจ

 

ส่วนที่ไม่ใช้ชื่อ

ก็เช่นกัน ชื่อสกุลนี้

มันสร้างวีกรรมกับใครไว้มั่ง

 

เดี๋ยวเขาตามเจอ

ละยุ่งเลย

 

คุณหนึ่ง

ภาวนาใหม่นะจ๊ะ

 

ภาวนาให้คนที่แฮ๊กเข้ามา

เวปบ้านสวนนี้

อย่าตกนรก ลึกกว่า อเวจี เลย

 

เพราะ

พระเทวทัติ ท่านกำลัง

หาคนไปแทนท่าน เพื่อแลกกับการ

ได้ขึ้นมาอย่างถาวร จ้า

อิ อิ อิ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-11 23:59:32


ความคิดเห็นที่ 64 (143185)

 

อีกกรรมหนึ่ง

ซึ่งเป็นกรรมหนัก เทียบเท่า

อนันตริยกรรม

คือ

 

นิยตมิจฉาทิฏฐิกรรม

 

คือ

อกุศลกรรมทำทำด้วยความเห็นผิด

ซึ่งสามารถนำไปสู่นรก

โดยแน่นอน

 

เป็นกรรมที่เป็นบาปหนักสุด

ตัดทางสวรรค์ ตัดทางนิพพาน

 

เป็นกรรมที่ให้ผล

คือ

ความเดือดร้อนไม่มีว่างเว้น

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-12 02:15:58


ความคิดเห็นที่ 65 (143198)

ขอเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองในวันเสาร์ที่ผ่านมาบ้างค่ะ

ที่ถือวิสาสะรับประทานพิซซ่าของคุณอัมและคุณเล็ก ก่อน
 
ทั้งที่เขาตั้งใจทำให้ท่านอ. อุบล ท่านดร. อาจอง
 
และน้อง ๆ โรงเรียนสัตยาไส ได้รับประทานก่อน ในค่าย 12
 
ทำให้เขาเสียความตั้งใจในครั้งนี้มาก เพราะความที่เราละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น
 
ซึ่งตัวเองก็ยังไม่รู้ตัวว่า ผิดมาก จนกระทั่งถึงช่วงบำบัดรวมในคืนของวันเสาร์ที่ผ่านมา
 
ตัวเองมีอาการปวดที่เข่าซ้าย ไม่ว่าจะสำนึกกรรมที่ตัวเองเคยลักขโมยมา
 
ใช้รหัส อ. อุบลช่วยด้วย จนกระทั่งก้มลงกราบท่านอาจารย์ อาการก็ยังไม่ดีขึ้น
 
จนกระทั่งท่านอาจารย์ได้เมตตา บอกถึงกรรมหนี้สงฆ์ที่ตัวเองได้กระทำไป
 
คือ กินอาหารที่บุคคลอื่น ตั้งใจจะถวายให้พระอริยเจ้า
 
ถึงแม้เราจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม แต่ก็เป็นกรรมที่หนักมาก
 
ความรู้สึกที่ได้รับในตอนแรกเสียใจ หดหู่ และอายกับความตะกละของตัวเอง
 
ทั้งที่พยายามระวังตัวในเรื่องแบบนี้แล้ว ก็ยังมีโอกาสพลาด
 
และไม่ได้คิดโทษเพื่อนเอิ้นเลยแม้แต่น้อย
 
บทเรียนในครั้งนี้สอนให้เราไม่ควรประมาทกับเรื่องที่คิดว่าเล็ก ๆ น้อย ๆ 
 
แต่สามารถพาให้เราตกนรกขุมอเวจีได้
 
ลูกกราบขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุก ๆ พระองค์, ท่านอ. อุบล
 
ขออภัยคุณอัม และคุณเล็ก เป็นอย่างมาก
 
กับการกระทำที่ผิดมหันต์ในครั้งนี้ด้วยนะคะ
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อย วินิตา สุทธิวรา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-12 12:36:40


ความคิดเห็นที่ 66 (143217)

คนพวกนี้

เป็นคนอ่อนแอ อันที่จริง

น่าสงสารมากที่สุด

 

ยิ่งเห็นการกระทำ

มันบอกที่มา ที่ไป ของเขาได้เลย

แล้วแต่ละคน ก็ทุกข์กันทั้งนั้น

 

แต่ละคน

ก็ต้องการความสุขกันทั้งนั้น

 

แต่ละคน

ก็ดิ้นรน กันทั้งนั้น

 

มีปัญหา

ทั้งครอบครัว การงาน

การเงิน สุขภาพ สังคม

จนสูญเสียความภูมิใจในตัวเอง

จึงต้องหาทางออก

 

ด้วยการระบาย

ความแค้น ใส่คนที่เขา

ไม่เอาเรื่อง คิดว่า เก่งที่ทำเขาได้

.....................................

กราบอนุโมทนาค่ะอาจารย์

ยิ่งอ่านเบื้องลึกเบื้องหลัง

ของชีวิตของคนเหล่านี้

แล้วยิ่งนึกสงสาร และหดหู่ใจจริงๆค่ะ

มันน่าเห็นใจจริงๆนะ

 

อย่างน้อยเค้าน่าจะเอาเวลา

ที่มีอยู่ไปทำมาหากิน

ให้มีเงินใช้ มีที่อยู่ดีๆ ไม่ดีกว่าหรือ

 

จะมาทุ่มเทเวลาสร้างบาป

ให้กับตัวเองไปทำไมนักหนา


เวลาที่พวกเค้าแฮ็คเข้ามาแต่ละครั้ง

และได้อ่านข้อความแต่ละคำ

ของพวกเค้าแล้ว มันสะเทือนใจจริงๆค่ะ

 

น้ำตาแทบล่วงทุกครั้ง

เคยคิดเหมือนกันว่า ถ้าเราไม่ตอบโต้

จะเป็นการช่วยให้พวกเค้า

ไม่ไปต่ำกว่านี้ไหมหนอ

 

แต่พอเห็นข้อความที่เค้า

เข้ามาย่ำยีเบื้องบนและท่านอาจารย์แล้ว

มันอดไม่ได้จริงๆค่ะ


ก็เลยต้องตอบโต้ไป

อย่างน้อยก็เป็นการชี้แจง

ให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่

แล้วพลัดหลงเข้ามาอ่าน

จะได้ไม่เข้าใจอะไรผิดๆไป


แต่เจอพวกเค้าทีไรนะ

เหอะ เหอะ แทบหมดแรงเลย

แล้วต้องรอให้พวกเค้าหยุดก่อนอีก

ถึงจะไปนอนได้ ดึกก็ดึก

เฮ้อ.. ทำบาปซ้ำซ้อนจริงๆเล๊ย คนพวกนี้...


คิดได้ซักทีเถอะนะ

ไม่รู้จะเขียนยังไงแล้วอ่ะ

.............................

อนุโมทนากับธรรมทาน

จากน้องก้อยด้วยนะคะ

เหตุการณ์นี้คงจะเป็นบทเรียนสอนใจ

ครั้งยิ่งใหญ่เลยนะคะ

แต่ดีนะ ที่น้องก้อยไม่คิด

ไปโทษน้องเอิ้นเลยแม้แต่น้อย .... 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-13 04:17:17


ความคิดเห็นที่ 67 (143218)

 

คนพวกนี้

เป็นคนอ่อนแอ อันที่จริง

น่าสงสารมากที่สุด

 

ยิ่งเห็นการกระทำ

มันบอกที่มา ที่ไป ของเขาได้เลย

แล้วแต่ละคน ก็ทุกข์กันทั้งนั้น

 

แต่ละคน

ก็ต้องการความสุขกันทั้งนั้น

 

แต่ละคน

ก็ดิ้นรน กันทั้งนั้น

 

มีปัญหา

ทั้งครอบครัว การงาน

การเงิน สุขภาพ สังคม

จนสูญเสียความภูมิใจในตัวเอง

จึงต้องหาทางออก

 

ด้วยการระบาย

ความแค้น ใส่คนที่เขา

ไม่เอาเรื่อง คิดว่า เก่งที่ทำเขาได้

.....................................

กราบอนุโมทนาค่ะอ.แม่

ไม่รู้ว่ากรรมที่พวกเค้าได้รับอยู่ ณ ตอนนี้

มันจะทำใ้ห้พวกเค้าคิดได้อยู่รึป่าวนะคะ

ว่าเกิดจากอะไร

บางคนก็รู้ทั้งรู้ 

ทั้งออกมาเล่าเรื่องตัวเองให้เพื่อนฝูง

ว่าคันยิกๆ เป็นขี้กลากเพราะปรามาส

แต่ก็ยังยืนยันที่จะปรามาสต่อไป

เ็ห็นแล้วมันอนาถใจจริงๆค่ะ

แต่พวกที่ไม่รู้ก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

เอาสนุก เอาความมันส์ เป็นที่ตั้ง

ทั้งที่ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ ตื้นลึกหนาบาง

ก็ไปร่วมวงกับเค้า

เห็นแล้วเพลียเลยค่ะ

เกินเยียวยาจริงๆค่ะ

****************************

อนุโมทนากับพี่ก้อยด้วยนะคะ

บทเรียนครั้งนี้คงจะเป็นครั้งยิ่งใหญ่

และทำให้เราคิดมากขึ้น

ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป

ในครั้งต่อๆไป

สาธุค่ะ

********************

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-13 07:33:09


ความคิดเห็นที่ 68 (143226)

ขออนุญาติเล่าเหตุการณ์หลังจากกลับจากค่าย 12 ค่ะ

ลูกสาวมีอาการคันที่แขนทั้งสองข้างอย่างมาก เกาจนแดงไปหมด ทั้ง ๆที่เค้าหายจากอาการภูมิแพ้ไปแล้วค่ะ ( หลังจากที่เริ่มทานมังสวิรัตแล้ว ) ก็ถามว่าหนูได้ทำอะไรผิดหรือเปล่าที่ได้ไปเข้าค่ายบ้านสวนฯ เค้าก็บอกว่า

        * หนูเล่นกันในห้องน้ำกับน้องทำให้น้ำที่อาบกระเด็นใส่ลงไปในถังที่มีคนจะอาบต่อ

        * เวลาล้างจานก็ไม่ล้างฟองน้ำให้สะอาด 2 ครั้ง

        * ไปเล่นบริเวณจอดรถของบ้านอาจารย์ ไปเล่นแมวที่อยู่บริเวณโรงจอดรถของท่านอาจารย์    อุบล

ก็ได้ให้เค้าขอขมากับจี้องค์เทพสฟิงส์วันรุ่งขึ้นเค้าก้หายคันค่ะ

ซึ่งการที่เค้าไปค่ายเป็นครั้งแรก ครั้งนี้และเพิ่งได้พบกับอาจารย์อุบล ตอนออกมาจากค่ายกลับมาบ้านก็พูดว่าคิดถึงอาจารย์อุบลค่ะ อาจารย์อุบลสวยมาก ( เค้าเห็นใน MV ภาพอาจารย์วันเกิดที่ลูกบ้านสวนทำให้ค่ะ ) โตขึ้นอยากสวยแบบอาจารย์ ทั้งที่เค้าก็โดนลงโทษแต่เค้าก็รู้ และยอมรับความผิด และยังชวนให้แม่พาไปอีกค่ะ ทั้ง ๆที่ตอนที่อยู่ในค่ายก็ไม่ได้เข้าไปใกล้ชิดอาจารย์สักเท่าไรแต่กลับมีจิตผูกพัน คิดถึงท่านอาจารย์

ส่วนตัวเองนั้นตอนแรกก็ถามน้องว่าเข้าค่ายต้องทำอะไรบ้าง หลังจากมาเข้าค่ายแล้วทำให้ทราบว่า การเข้าค่ายที่บ้านสวนก็คือการที่เราต้องปฏิบัติอยู่ทุกขณะจิต สำรวจใจของตนไม่ให้คิดลบ หรือคิดไม่ดีกับผู้อื่น เป็นการสำรวมจิตตลอดเวลา เพราะจิตของเราดั้งเดิมนั้นมันออกไปปรุงแต่งทันทีทุกครั้งที่ได้รับผัสสะกระทบ มีช่วงแรกที่เห็นภาพคุณธนาบนเวทีกับอารย์อุบล แล้วอาจารย์กระซิบกับคุณธนา จิตเห็นแว๊บมันปรุงอย่างรวดเร็ว ว่าเหมือนแฟน ..พอรู้สึกปั๊บทันทีไม่ใช่แบบนี้นะ ผิดแล้วมองกลับขึ้นไปบนเวทีใหม่อีกแว๊บ เห็นว่าเป็นความรู้สึกระหว่างแม่และลูก(ศิษย์)ที่ลูกมีความเคารพต่อ( อาจารย์)แม่มากกว่า จิตมันทำงานรวดเร็วมาก......จิตที่ขาดสติ จะอยู่ใต้อำนาจของมาร จะพาเราลงนรกได้ตลอดเวลาเลยค่ะ ตัวเราเองท่านอาจารย์เป็นผู้ช่วยส่งวิญญาณที่คอยควบคุมจิตเรา ( จากการที่โดนคุณไสย )แท้ ๆ จิตที่ขาดสติสัมปชัญญะ และจากการที่เราสั่งสมอกุศลในจิตกับความทุกข์ที่ได้รับ ทำให้จิตที่เคยชินกับการปล่อยให้จิตปรุงโดยไม่ควบคุม      ดังนั้นการที่เรามีโอกาสเข้าใกล้ท่านอาจารย์อุบลผู้มีบารมี เรายิ่งต้องสำรวม ตั้งใจมาก ๆ เเข้าใจกฏระเบียบสวรรค์เลยที่เดียวว่าท่านเมตตา มนุษย์ ทุกคน ต้องมีความเข้าใจก่อนจะไปบ้านสวน

    * ที่ตอนนี้หน้าของเรามีสิวผื่นแพ้ขึ้นตลอดเวลา ก็เป็นเพราะความคิดลบ อกุศลที่อยู่ในจิตเรา คิดโกรธ คิดแค้น คนที่ทำร้ายเรา ทั้ง ๆเราก็ไม่รู้จักเค้า แต่เค้ารู้จักเราดี และอีกสาเหตุเราใช้เครื่องสำองพาเมล่าของอาจารย์โดยไม่อ่านคู่มือหนีกรรมผิวพรรณให้ครบ 9 ครั้ง จิตเราสั่งสมความทุกข์ มานานแล้วค่ะ โดนคุณไสยโดยที่ไม่รู้ตัว

กราบขอขมาท่านอาจารย์อุบลด้วยความเคารพอย่างสูง ขอขมาต่อคุณธนาด้วยความนับถือขอเป็นบทเรียนแก่ทุกท่านที่เป็นศิษย์บ้านสวน

ขอกราบพระบาทองค์พระปฐมบรมพระบิดา ท่านท้าวเวสสุวรรณ องค์เทพสฟิงค์ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ที่ดูเเลรักษาท่านอาจารย์อุบล ครอบครัว และบ้านสวนพีระมิดด้วยความเคารพอย่างสูง

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พิมพ์ทิชา สวัสดิ์เมธากุล (phappy1991-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-14 17:20:31


ความคิดเห็นที่ 69 (143540)

กราบขอบพระคุณองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์

สิ่งศักดิ์ทุก ๆ พระองค์ ที่บ้านสวนพีระมิด

อ.อุบล

สำหรับธรรมทานในเรื่องนี้

โมทนาสาธุกับเจ้าของธรรมทานทุกท่านด้วยค่ะ

คลิปนี้ดูไปก็นั่งน้ำตาซึมไปด้วย

เพราะน้องเองก็มีส่วนแนะนำคนไป

รวมทั้งพาไปด้วย

ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจะขอรักษาศีลทุกข้อให้บริสุทธิ์

ตอนนี้ยังมีข้อมุสาที่ยังไม่บริสุทธิ์

ก่อนที่ลูกจะไปหาท่านอาจารย์อุบล

ลูกยังไม่มีโอกาสที่ได้ไปบ้านสวนเลย

ตั้งใจขอเหลือขจัดความชั่วของตัวเองให้หมดให้เหลือเพียงเศษ

เพื่อลูกจะได้ไปกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุก ๆ พระองค์

และ ท่านอาจารย์อุบล

ได้อย่างไม่ต้องละอายค่ะ



ผู้แสดงความคิดเห็น ธันย์วรินทร์ ศรีรักษา (thanva_chanit-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-08-07 19:48:33



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.