กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล
และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ
ขอน้อมกราบ พระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ องค์สฟิงค์ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด
ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป
ขอขอบคุณ คุณมารค์ และ คุณเพชร
คืนนี้ ได้ชมคลิป วันที่ 29 กรกฎาคม แล้วครับ
ขอขอบคุณธรรมทาน จาก คุณโชค (คุณณัฐธนัญท์ ทวีโชคเดชานนท์) จาก กรุงเทพฯ ทำธุรกิจเกี่ยวกับทอง และ ไฟแนนซ์
พี่เค้ามากราบขอขมา และ ขอขอบคุณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด และ คุณแม่อุบล ด้วยเรื่องที่ พี่เค้ามีอาการของปัสสาวะไม่ออก ติดขัด ร่างกายแทบระเบิด
เนื่องจาก การเล่นคุณไสย และ ทำเสน่ห์ต่อผู้หญิง เพื่อประโยขน์ต่อตนเองในเรื่องกามารมณ์ ไปทำบุญ และ ไปกราบต่อองค์หลวงปู่ที่เคารพนับถือ ก็ยังไปอธิษฐาน ขอให้เจ้าน้องชาย(อันเป็นที่รัก) ให้แข็งแรง และ เป็นที่ติดใจของอิสตรีที่ได้ร่วมสัมพันธ์ทางเพศ
และ ยอมรับว่า เิริ่มเรียนวิชาทางไสยศาสตร์ ตั้งแต่อายุยังน้อย และ เริ่มทดลองใช้วิชาเหล่านี้ ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ กับ ผู้หญิงรุ่นพี่ และ ครูฝึกสอน ทึ่ตนเองต้องตาต้องใจ แต่ตอนนั้นแค่การสัมผัสภายนอก
แต่ เริ่มมีการสัมผัสทางร่างกายอย่างลีกซึ้ง ตอนที่เรียน มัธยมปีที่ 5 กับผู้หญิงอย่างน้อย 5 คน และ ทางความคิด และ ทางวาจา ก็ประมาณ 40 คน และ ปัจจุบันก็ยังมีอิสตรีที่ยังมีความสัมพันธ์ เพียงแค่ 3 คนเท่่านั้น
ตอนที่รู้สึกตัวเองว่าป่วย ก็ยังทำงานที่จังหวัดนครปฐม ต้องขับรถกลับมารักษาตัวที่กรุงเทพฯ แค่ขอมาอยู่ใกล้ๆ พ่อแม่ และ ญาติพี่น้อง แต่ก็พยายามใช้ระหัส"อาจารย์อุบลช่วยด้วย"
เข้ารับการวินิจฉัยจากโรงพยาบาล ในครั้่งแรก แพทย์ลงความเห็นว่า เป็นเนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะ ต้องเข้ารับการผ่าตัด ได้รับการใส่สายสวนปัสสาวะ บนขาหยั่งในห้องผ่าตัดย่อย โดยถูกแวดล้อมไปด้วย คุณหมอ และ พยาบาลผู้หญิง พี่โชค ก็รู้สึกอายมากๆ และ ก็เกิดอาการอุจจาระแตก ด้วยความกลัวในการใส่สายสวนปัสสาวะ และ ความเจ็บปวดในการถูกใส่สาย (คุณแม่อุบล ก็เลยสอบถามว่า แล้วตอนแกะเสื้อผ้าผู้หญิง รู้สึกอายไหม)
แต่ พี่โชค ก็ไม่ยอมรับการผ่าตัด ขอออกจากโรงพยาบาลเพราะ พี่โชคคิดได้ถึงเรื่องที่ตนเองก่อไว้ แและ คงเป็นกรรมที่ตนเองทำตั้งแต่ยังเยาว์วัยต่อผู้หญิง จึงได้พยายามมาที่บ้านสวนพีระิมิด เพื่อขอขมาและสารภาพผิด แต่มาด้วยการผิดกฎ ไม่ได้ขออนุญาต จึงได้มีเพื่อนๆ ที่บ้านสวนพีระมิดได้แจ้งให้ทราบ ุ ถึงเรื่องกฎระเบียบ
ครั้งที่สอง ก็ได้รับความช่วยเหลือจาก พี่แมว (คุณประวีณา พี่ใหญ่ใจดีของลูกบ้านสวนพีระมิด) ทำการแจ้งขออนุญาตให้ในเวปบ้านสวนฯ จึงได้ทำการเข้ามาขอขมาและขอขอบคุณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนฯ และ คุณแม่อุบบลได้
วันที่พี่โชค เช้ามาขอขมาและขอบคุณ นั้น พี่โชค ก็ยังมีถุงปัสสาวะพกติดตัวมาด้วย ก็ยอมรับด้วยความเป็นลูกผู้ชายว่า ไม่เคยเข้าใจในเรื่องบ้านสวนฯ และ การปฎิบ้ติในการเผยแพร่ธรรมะ ของคุณแม่อุบล แต่ไม่เคยปรามาสต่อคุณแม่ แต่เชื่อมั่นในการประพฤติปฏิบัติของตนเอง ที่ได้รับการสั่งสอนจากครูบาอาจาย์ของตนเอง
แต่ เมื่อพี่โชคได้รับความทุกข์ทรมานจากความเจ็บป่วยของตนเอง และ ได้ทดลองใช้ระหัส อาการที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์คนแรก เมื่อไปพบแพทย์อีกคนหนึ่ง กลับได้รับการวินิจฉัยว่า เป็นแค่เรื่องของต่อมลูกหมากอักเสบ ทานยาก็หาย แต่ยังคงต้องใช้สายสวนปัสสาวะ และ ทานน้ำมากๆ ฉี่ก็เริ่มใส ก็เอาสายสวนออก
เมื่อได้รับอนุญาตให้มาบ้านสวนฯได้ ก็เกิดการเพิ่มเอาหลานชายอีกคนมาบ้านสวนฯเพิ่ม โดยไม่แจ้งให้เพิ่มชื่อในเวปฯ พี่โชคตอนตีสาม ก็ต้องกลับไปโรงพยาบาล เพื่อใส่่สายสวนปัสสาวะอีกครั้ง เนื่องจาก ฉี่ติดขัด (คุณแม่ ได้แจ้งให้ทราบว่า เป็นเหตุที่ไม่ปฎิบ้ติตามกฎ และ ไปแทรกแซงกรรมของผู้อื่น)
พี่โชค ก็สารภาพการกระทำของตนเองทุกอย่าง โดยเฉพาะ การผิดศีลข้อ3 อาการเจ็บปวดก็หาย และ สัญญาว่าจะเปลี่ยนแปลงตนเอง เพื่อกระทำประโยชน์ต่อครอบครัว และ สังคม และ ขออนุญาตมาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ เมื่อพี่โชคมีโอกาสและเวลา และ คุณแม่ขอให้ไปเขียนธรรมทานให้ผู้คนทั่วไปได้อ่าน
และ ขอขอบคุณ ธรรมทาน จาก พี่ทรงชิน ปิยะธรรมวุฒิ จากกรุงเทพฯ ทำอาชีพ ขายพวงมาลัยดอกไม้
พี่เค้าเคยมาบ้านสวนพีระิมิด แต่ก็มาแบบผิดกฎ และสัญญากับคุณแม่อุบล ว่า จะ มาเล่าเรื่องของตนเองเป็นธรรมทาน ต่อลูกบ้านสวนพีระมิด แต่เกิดความอาย และ เกรงใจ เห็นว่า มีคนเยอะ ก็เลยกลับบ้าน ไม่ได้เล่าเรื่องเป็นธรรมทาน ตามที่ให้สัญญาไว้
ปรากฎว่า กลับไปบ้านแล้ว การค้าขายพวงมาลัยดอกไม้ ที่เคยขายได้ วันละ 6,000 บาท ก็ลดลงเหลือ 3,000 บาท และ ในที่สุดก็เหลือแค่ 300 บาท ก็เกิดความสำนึกว่า สิ่งที่ให้สัญญาไว้ แล้วไม่ทำตาม ก็เกิดผลในทางที่ไม่ดี ก็เลยทำการจุดธูป ขอขมาต่อ ท่านท้าวเวชสุวรรณ และ ต่อคุณแม่อุบล (คุณแม่ ท่านก็ถามว่า ต้องจุดกี่ดอก) พี่เค้าก็บอกว่า 16 ดอก และ ต้องหันมาทางทิศที่จังหวัดนครนายกตั้งอยู่ด้วย ควันธูปจะได้ลอยมาถึงบ้านสวนฯได้
พี่เค้าก็ยังเล่าให้ฟังว่า เมื่อคุณแม่พี่เค้าถามว่า ไม่ไปบ้านสวนพีระมิดหรือ พี่ก็บอกว่า แม่อย่าพูด ผมกลัว หลังจากนั้น ก็เกิดอาการ เจ็บตรงกราม ปวดหัว หนักตรงต้นคอ และ เสียงดังก๊อกแก๊กภายในหู ก็ต้องไปจุดธูปขอขมาอีกครั้ง อาการ ปวดต่างๆ ก็หายไปได้ คงเหลือแต่อาการดังในหู
เมื่อ มาบ้านสวนพีระมิด ก็มาใช้แรงกายเต็มที่ และได้มาขอขมา และ เล่าเรื่องตนเองเป็นธรรมทาน อาการที่ดังก๊อกแก๊กก็ทุเลาไป คุณแม่อุบล ให้ไปขอขมาต่อคุณแม่ของพี่เค้า อาการก็ดีขึ้น แต่ไม่หายขาด พี่เค้าก็ขอกราบต่อคุณแม่อุบล แต่พี่เค้ากราบแค่ครั้งเีดียว อาการก็ไม่หาย คุณแม่อุบลก็แนะนำว่า การกราบที่ถูกต้อง คือ การกราบสามครั้ง แต่เป็นกราบต่อพระพุทธองค์ และ กราบต่อพระธรรม คำสั่งสอน ของพระพุทธองค์ ไม่ใช่การกราบคุณแม่อุบล อาการที่ดังในหูก็หายขาด และ คุณแม่ได้แนะนำให้พี่เค้าไปเขียนเป็นธรรมทาน ใน facebook ของบ้านสวนฯ และ ในเวปบ้านสวนฯ สัก 99 ตอน
และ ขอขอบคุณ คุณแหล๋น (พี่อาจินต์) ที่มาบอกเล่าเรื่องของปาฎิหาริย์ของแหวนสฟิงค์ ครับ
ธรรมทานจาก พี่โชค และ พี่ทรงชิน คุณแม่ได้บอกกล่าวเพิ่มเติมว่า การกระทำของเรานั้น ไม่ใช่ว่า เป็นความทุกข์ทรมานเจ็บปวดจาก การที่คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า ทำอย่างนี้ แล้วจะเป็นอย่างนั้น
แต่เป็นเรื่องที่เกิดจากการกระทำของตัวเราเอง และ เป็นเรื่องกฎของกรรม แม้นแต่เรื่องที่คุณแม่ไม่ได้บอกกล่าว แต่เมื่อเป็นกรรมที่ไม่ดี เราก็ต้องรับกรรมของเราเอง คุณแม่ยกตัวอย่างว่า เรื่องที่เกิดจากตัวเรานั้น แม้นไม่ได้กระทำ หรือ คิด หรือ พูด ที่บ้านสวนพีระมิด ก็เป็นกรรมที่ต้องรับกรรม นั้นก็แสดงว่า กรรมไม่ดี ไม่ได้เกิดขึ้่นแต่เฉพาะที่บ้านสวนฯ หรือ ว่ากล่าวปรามาสต่อคุณแม่ เท่านั้น
และ การนับถือศาสนาใดๆ ก็ไม่ควรให้เป็นอุปสรรคต่อตนเอง และ ผู้อื่น เราเป็นพุทธ แต่เราก็สามารถให้ความเคารพนับถือศาสดาของศาสนาอื่นๆ ได้ และ ผู้นับถือในศาสนาใด ก็ย่อมอยู่ภายใต้กฎของกรรมอันเดียวกัน
ขอขอบคุณ พี่ประวีณา แคมป์ ที่ได้ช่วยแบ่งเบา ในการรับโทรศํพท์ และ ช่วยจัดส่งองค์พีระมิดจำลอง ให้กับลูกบ้านสวนฯ ครับ
และ ขอขอบคุณ ต่อการมาเขียนธรรมะทาน ของ คุณพี่ตาล พี่แหวน และ ระลึกคิดถึงพี่ชนิดา ครับ
ข้อเขียนของ คุณแหวน เป็นข้อเขียนที่ทำให้ผมเข้าใจถึงเรื่องการทำหน้าที่ของคุณแม่อุบล ครับ เพราะว่า คุณแม่ท่านนำคำสั่งสอนของพระพุทธองค์มาบอกกล่าวให้พวกเรา เมื่อเรานำไปประพฤติปฎิบัติ และ เป็นตัวอย่างที่ดี ทุกคนก็เห็นตัวอย่างที่ดี เค้าก็นำไปประพฤติ สังคมของเราก็น่าอยู่
และ ขอน้อมกราบต่อธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในเรื่องการปฎิบ้ติเืพื่ออยู่ในเขตความดี เขตของคนดี และ เมื่อเรามองว่า เราเป็นคนดี แสดงว่าเรายังเลว จงกล่าวโทษโจทย์ความผิดของตนไว้เสมอ เพราะ คำว่า พระ ต้องเป็นพระโสดาบันขึ้นไป
|