กราบคุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล
และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ
ขอน้อมกราบต่อพระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ ท่านดตาจินิน และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด
ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป
ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร
คืนนี้ ได้ดูคลิป วันที่ 23 กันยายน 2555
"เพราะกรรมใด จึงทำให้เจ็บปวดบ่อย และ ยากจน"
ตอนเริ่มต้นรายการ คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า อยากให้ทุกคนที่มีจี้สฟิงซ์ ได้ทำการช่วยเหลือผู้คนให้ได้อย่างน้อย 99 ครั้ง ต้องทำการช่วยเหลือผู้อื่น จะได้รับอภิญญาที่ยิ่งใหญ่ และ อาจจะทำการช่วยเหลือผู้อื่นได้เหมือนคุณแม่อุบล
คุณแม่ได้สอบถามว่า มีใครบ้างที่ปัญหาทางการเงิน (มีหนี้สิน ขาดสภาพคล่องทางการเงิน)
คุณแม่ได้บอกว่า ที่เป็นเช่นนั้น เพราะว่า เรายังมีความเห็นแก่ตัว มีความตระหนี่ถึ่เหนียว มีความงก มีความอยากรวย มีความอยากแยะ ทำให้ไม่สมความปรารถนา ผิดศีลข้อสอง คือ ลักทรัพย์ มีเล่ห์เหลี่ยมในการค้าขาย ทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์โดยที่เค้าไม่ยินยอม เอาเปรียบผู้อื่น พระพุทธองค์ ท่านทรงสอนให้เรา ให้รู้จักการให้ทาน ให้การสงเคราะห์ผู้อื่น แต่บุญที่เกิดจากการสงเคราะห์สัตว์ เป็นบุญที่น้อย ให้สงเคราะห์คนที่มีบุญมากๆ อานิสงค์ของบุญก็จะได้มาก เหมือนการเก็บเงิน ถ้าเก็บเงินได้น้อย ก็ต้องใช้เวลาในการเก็บนาน
การทำบุญให้สัตว์ ก็ย่อมได้บุญน้อยกว่าการให้คน การให้พระสงฆ์ย่อมได้มากกว่าการให้กับคนธรรมดา แต่พระสงฆ์ที่พระพุทธองค์ทรงยกย่องว่าเป็นพระนั้น ต้องเป็นขั้นโสดาบัน คือ รักษาศีลห้าได้บริสุทธิ์ ปรารถนานิพพาน เชื่อว่าเกิดมาแล้วต้องตาย(คิดถึงความตายให้เป็นอารมณ์)
การผิดศีลข้อสอง คือ การเอาเปรียบผู้อื่น ชอบเอาของวัดกลับบ้าน ซึ่งจะทำให้เราติดหนี้สงฆ์ ซึ่งจะต้องทำการชำระหนี้สงฆ์ โดยการสร้างพระชำระหนี้สงฆ์หน้าตักกว้าง 4 ศอก ปิดทองให้ครบถ้วน แต่ ถ้าเราไม่สามารถสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ได้ ให้เราทำการชำระหนี้สงฆ์ ด้วยการนำเงินไปชำระหนี้สงฆ์ ไม่ต้องมาก แต่ให้ทำตลอดชีวิต ชำระไปเรื่อยๆ
การติดหนี้แผ่นดิน คือ การเลี่ยงภาษี เอาของหลวงมาใช้ส่วนตัว เบิกจ่ายเงินไม่ตรงความจริง ทิ้งขยะลงบนพื้นที่สาธารณะ ทำให้สถานที่สกปรก
ซึ่งคุณแม่ได้บอกว่า ถ้าเรามีสามัญสำนึก เรื่องต่างๆ เหล่านี้เราย่อมคิดได้ โดยแก้ไขที่ความประพฤติของเรา แก้ไขความมักง่ายของเรา
ท่านได้ยกตัวอย่างว่า การที่เรามาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ เราจะพยายามเลี่ยงงานที่ยากลำบาก งานที่ต้องทำงานท่ามกลางความร้อน พยายามทำงานในที่ร่มๆ งานสบายๆ คุณแม่บอกว่า แค่งานพื้นฐานง่ายๆ เรายังหลบเลี่ยง แล้วเราจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้อย่างไร
งานการที่ไม่เคยทำ แต่ก็อยากลองทำ แต่ใช้ทรัพยากรของผู้อื่น เพราะ ถ้าของเสีย ก็ไม่ต้องกังวล เพราะ ไม่ใช่ของๆตนเอง ไม่ใช่เงินของตนเองซื้อหามา(ท่านได้ยกตัวอย่าง เรื่องการแกงส้ม แต่ใส่มะนาวมากเกินไป ต้องเททิ้ง ทำให้เสียของไปโดยใช่เหตุ ทำให้เกิดบาปกรรมโดยไม่รู้ตัว)
คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า หนี้แผ่นดินนั้นหนักกว่าหนี้สงฆ์ เพราะว่า ถ้าสร้างพระชำระหนี้แผ่นดิน ต้องสร้างพระสูง 10 ศอก แต่ถ้าแก้ด้วยหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ นั้นแก้ได้ นั้นคือ เราต้องหยุดการคอรัปชั้น หยุดลักทรัพย์ หยุดการชอบของฟรี หยุดการเลี่ยงภาษี และ ให้พยายามชำระหนี้แผ่นดิน โดยชำระไปเรื่อยๆ
คุณธนาได้สอบถามว่า มีเพื่อนๆบางคนที่ทำงานเอกชน องค์กรที่ไม่ใช่เป็นของรัฐ บอกว่า เค้าก็ทำงานเต็มที่ และ เชื่อว่า ไม่มีใครสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้น เงินที่เค้าได้รับมาก็ย่อมบริสุทธิ์
คุณแม่ได้บอกว่า ก็ต้องกลับไปดูว่า เค้าเหล่านั้น มีปัญหาการเงินไหม มีปัญหาเรื่องสุขภาพไหม ชีวิตเค้ามีอุปสรรคไหม
คุณแม่ได้บอกกล่าวสำหรับคนที่ทำการค้าขาย อย่าใช้เล่ห์กล เล่ห์เหลี่ยม อยากให้ลูกค้าซื้อของเยอะ ก็ต้องขายของที่ดีมีคุณภาพสมราคา อาจจะแพงหน่อย แต่ของที่มีคุณภาพสมราคา ใครๆก็ย่อมจะซื้อ
คุณแม่ได้สอบถามว่า มีใครมีปัญหาเรื่องสุขภาพไหม เพราะ คนที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพนั้น เกิดจากการที่เราเคยฆ่าสัตว์ ฆ่าคน(ทำแท้ง รู้เห็นเป็นใจ ยุยงส่งเสริมให้เค้าทำแท้ง)
และ การผิดศีลข้อสาม เจ้าชู้ มีกิ๊ก (ทำให้เกิดการปวดหลัง ปวดขา ปวดก้น เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นมะเร็งรังไข่ เป็นมะเร็งเต้านม)
ซึ่งคุณแม่ได้บอกว่า หลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เหนือกว่าทางการแพทย์ เพราะ รักษาได้ทุกโรค
เพราะ การผิดศีลห้า และ การยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข(ดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน ดูการละเล่น เล่นการพนัน เกียจคร้านการทำงาน คบคนชั่วเป็นมิตร) จะทำให้สุขภาพไม่ดี
อุปสรรคในการทำงาน เราต้องพยายามฝ่าฟัน ต้องยกจิตของเราให้สูงขึ้น จิตที่ก้าวข้ามหลุดพ้น ย่อมเป็นสุข
ผิดศีลข้อสี่ คือ เรายังชอบการสาระแนกับเรื่องของผู้อื่น เราไม่ยอมหันกลับมามองดูตัวเราเอง ไม่พัฒนาตัวเราเอง พูดหยาบคาย ชอบการโกหก ปลิ้นปล้อน พูดจาทำลายผู้อื่น
ผิดศีลข้อห้า เรายังดื่มเหล้า ซื้อให้ผู้อื่น ส่งเสริมให้ผู้อื่นดื่มเหล้า เพราะ
การผิดศีลข้อหนึ่ง ผิวพรรณไม่สวย ไม่หล่อ ไม่สวย
การผิดศีลข้อสอง ทำให้เรายากจน มีปัญหาทางการเงิน ปัญหาทางสุขภาพ
การผิดศีลข้อสาม ทำให้ลูกดื้อ ทำให้ลูกน้องกระดากกระเดื่อง สุขภาพก็แย่
การผิดศีลข้อสี่ ปากเหม็น พูดจาไม่มีคนเชื่อถือ เจ็บป่วย
การผิดศีลข้อห้า เป็นประสาท เป็นอัลไซเมอร์ ความจำไม่ไดี เป็นบ้า มีปัญหาสุขภาพ
การผิดในเรื่องอบายมุข ก็ทำให้เจ็บป่วย ยากจต สุขภาพแย่
ดังนั้น การผิดศีลห้า และ การผิดในเรื่องอบายมุขจะก่อให้เกิดการเจ็บป่วย
คุณธนาได้สอบถามว่า ถ้านายบังคับให้ลูกน้องดื่มเหล้า ลูกน้องจะผิดศีลห้าไหม ในเมื่อลูกน้องก็ไม่อยากจะดื่ม แต่ขัดใจนายไม่ได้ กลัวตำแหน่งหน้าที่การงานไม่ราบรื่น
คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า เราต้องหันมาดูตัวเราเอง อย่าให้ใครมามีอิทธิพลเหนือจิตใจเรา เราต้องทำให้ผู้อื่น ได้รับทราบว่า เราจะไม่กระทำเรื่องที่ไม่ถูกไม่เหมาะสม เราต้องเข้มแข็ง และ เด็ดเดี่ยว ต่อสิ่งที่ไม่ดี การที่เรากระทำความผิด อย่าไปโทษผู้อื่น ให้โทษตัวเราเอง เพราะ ไม่มีใครมาง้างปากเราให้ดื่มเหล้า เอาปืนมาจ่อห้วเราให้เราดื่มเหล้า
คุณแม่ได้สอบถามว่า มีใครมีปัญหาอุปสรรคในการทำงานไหมเพราะ การที่คนเรามีปัญหาอุปสรรคในการทำงานนั้น เพราะว่า เราเคยไม่ชอบใจเพื่อนร่วมงาน ไม่อยากเห็นคนอื่นได้ดี เราต้องพยายามขจัดความคิดด้านลบออกไป(อย่าคิดไม่ดีต่อผู้อื่น) เราต้องมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีต่อเพื่อนร่วมงาน มีจิตเอื้อเฟื้อเกื้อกูลซึ่งกันและกัน อย่าเอาพฤติกรรมของคนอื่นมาใส่ในใจของเรา
สำหรับคนที่มีปัญหาครอบครัว ปัญหาความรัก นั้นเกิดจากการที่เราเคยขัดขวางความรักของผู้อื่น ไม่รักคนอื่นจริง(รักคนอื่นด้วยความบริสุทธิ์ใจ) เราต้องหัดคิดถึงข้อบกพร่องของเราเอง หัดยอมรับความผิดพลาดของผู้อื่น
คุณธนาได้สอบถาม ว่า มีเพื่อนๆบางคนสอบถามว่า ทำไมมาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ แล้ว ทำไมปัญหาการงาน การเงิน สุขภาพไม่คลี่คลายลงไป
คุณแม่ได้กล่าวว่า เค้ามาด้วยความอยาก ความอยากเป็นกิเลสคนที่เค้ามาแล้วมีแต่ให้ เค้าก็ย่อมได้รับผลที่ดี แต่คนมาบางคน วิธีปฏิบัติ ความคิดของเค้า ยังมีความสงสัยลังเล ความประพฤติยังไม่เหมาะสม การเสียสละ การแบ่งปัน การรีบทานก่อนผู้อื่น (คุณแม่ได้ยกตัวอย่าง ไข่สองฟอง แต่มีคนเป็นสิบ เราปฏิบัติอย่างไร) บ้างก็เข้ามาเพื่อทำมาหากิน หาลูกค้าในบ้านสวนฯ ซึ่งในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ท่านก็มีพระธรรมคำสั่งสอน แต่พระองค์ก็ได้แต่สอน บอกกล่าวให้ แต่ไปบังคับใครให้ปฏิบัติไม่ได้ ได้แต่บอก ทำหรือไม่ทำอยู่ที่ตัวของเราเอง
พี่ผู้หญิงคนหนี่้ง ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองเป็นความดันสูง เป็นไขมันในเลือดสูง ปวดท้อง ปวดขาข้างซ้าย แต่วันนี้ มีอาการปวดท้อง
คุณแม่ได้บอกว่า เพราะ ใช้ขาไปในสถานที่ไม่ดี ใช้ขาไปหาคนไม่ดี ซึ่งตอนที่ไปฟังธรรมะบำบัดที่มหาวิทยาลัยมหิดล ก็เคยสารภาพว่าขาเคยหัก เพราะไปตีขาสุนัขหัก และ อาการปวดก็หายไป เมื่อได้สารภาพและได้รับพระบารมีของพระศรีอาริย์ แต่ก็กลับมาปวดอีก เพราะ ยังไม่ได้สร้างบุญและอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร จึงมาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ อาการที่ปวดก็หายได้ เพราะว่า ได้เล่าธรรมทาน และ ได้มาใช้แรงกาย อุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวร
แต่ที่ยังมีอาการปวดท้อง เพราะ ยังไม่ได้เล่าธรรมทาน พี่เค้าก็สารภาพว่า เคยใช้ยาเบื่อหนู ฆ่างู ขอให้คุณพ่อฆ่างู ฆ่ากบ ยิงนกกระจอก ฆ่าปลาเป็นจำนวนมากมาย บอกให้คนไปตายซะ(เพราะโกรธที่เค้ามาทำให้ตื่นจากการนอน) ปรากฎว่าคนนั้นเกิดการตายจริงๆ
ซึ่งคุณแม่ได้บอกว่าสาเหตุดังกล่าวข้างต้น เป็นกรรมที่มารวมตัวกัน ทำให้เกิดอาการเจ็บปวด และ เมื่อสอบถามว่า เมื่อเล่าธรรมทานแล้ว อาการปวดเป็นอย่างไรบ้าง พี่ก็บอกว่า อาการปวดหายไปแล้ว คุณแม่บอกว่า เรื่องอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องทางไสยศาสตร์ ซี่งเป็นอวิชา(ความไม่รู้) แต่เป็นเรื่องที่คุณแม่พิสูจน์กฎแห่งกรรม ซึ่งการค้นหากรรมไม่เจอ หากรรมเจอแต่ไม่ครบ หากรรมครบ แต่ไม่สำนึกผิด ไม่เสียใจในการกระทำ ไม่รู้สีกว่าการกระทำนั้นเป็นสิ่งผิด และ บุญที่สร้างไม่พอ ก็ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง ในเรื่องของการเจ็บป่วย ปัญหาการเงิน การงาน
เพราะ การสร้างบุญธรรมทาน และ การทำบุญ(ด้วยปัจจัย แรงกาย สิ่งของ) ก็เหมือนเราทานข้าว ถ้าเราทานข้าวทุกวัน ร่างกายเราก็แข็งแรง แต่ถ้าเราไม่ทานสักอาทิตย์ เราอาจจะป่วย หรือ ตายได้
เจ้ากรรมนายเวรของเรา เค้าก็ต้องการบุญที่เราสร้างให้เค้า เป็นอาหาร ทำให้เค้าไม่ต้องมาทวงบุญกุศลจากเรา ถ้าเราหมั่นทำบุญ และ การทำบุญกุศล ทำให้ร่างกายเราแข็งแรง มีสภาพคล่องทางการเงิน มีความสุข มีดวงตาเห็นธรรม เพราะ เจ้ากรรมนายเวรไม่มาจองเวรเรา
คุณแม่บอกว่า คนเราทุกวันนี้ ไม่เห็นบุญคุณผู้อื่น ไม่รู้จักการขอบคุณ ไม่สำนึกในบุญคุณของผู้อื่น ที่เค้ากระทำให้เรา
เราต้องสำนึก และ ระลึกถึงบุญคุณของ
พระสงฆ์ เพราะ เป็นสาวกของพระพุทธองค์ และ เป็นสื่อนำพระธรรม คำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาเผยแผ่ให้เรา
พระธรรม เป็นแนวทางปฏิบัติ ให้เราเข้าถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระพุทธ เป็นผู้เสียสละ ค้นคว้าหากฎแห่งกรรม รวบรวมพระธรรมคำสั่งสอน ทำให้เราได้พบช่องทางในการหลุดพ้นจากความทุกข์ พบความสุข พบความสมหวัง
แม้นกระทั่ง บุญคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ท่านได้ทรงกระทำเพื่อปวงประชาของท่าน คนบางกลุ่มบางเหล่า ก็ยังไม่สำนึกในพระคุณของพระองค์ท่าน นับว่าเป็นบาปอันใหญ่หลวง
ขอขอบคุณ คุณธนา ที่เป็นสื่อกลางในการสอบถามปัญหาต่างๆ ของลูกบ้านสวนฯ ครับ
ขอขอบคุณ พี่แมว(พี่ประวีณา) ในการแบ่งเบาภาระ ในการช่วยจัดส่งองค์พีระมิดจำลองรุ่นท่านท้าวเวชสุวรรณ และ จี้สฟิงซ์ให้ลูกหลานบ้านสวนพีระมิด ครับ
ขอน้อมกราบต่อหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในเรื่องกสิณ
สาธุ สาธุ สาธุ
|