กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล
และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกๆท่าน ครับ
ขอน้อมกราบ ต่อ พระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ ท่านดตาจินิน และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด
ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป
ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร
คืนนี้ ได้ชมคลิป วันที่ 14 ตุลาคม
"ค่าย 13 ชมบารมีพระศรีอาริย์ พบปาฎิหาร์ยมากมาย"
ขอชื่นชม ต่อการแสดงของลูกบ้านสวนฯ ครับ เพราะ เป็นการแสดงที่ทุกท่านร่วมใจร่วมแรงในการแสดง เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูต่อ คุณแม่อุบล และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด ครับ
ลูกบ้านสวน ที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ได้ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองยอมรับ ว่า เมื่อมีลูกบ้านสวนฯ คนหนึ่ง มาบอกกล่าวถึงเรื่องบ้านสวนพีระมิด ตนเองไม่เคยเชื่อ ไม่ศรัทธา แต่เมื่อได้ใช้ระหัส ก็มีความเลื่อมใส แต่ก็ใช้ไม่ค่อยได้ผลทุกครั้ง
ซึ่ง คุณแม่อุบล ได้บอกกล่าวว่า เมื่อ ไม่ศรัทธา ก็มักจะใช้ระหัสไม่ได้ผล หรือ เมื่อใช้ได้ผลแล้ว ก็ไม่ยอมบอกต่อ ก็สามารถใช้ได้เพียง 3 ครั้ง แล้วต่อไปก็จะใช้ไม่ได้ผลอีกเลย และ ไม่ต้องไปตามจิก ตามว่า กับ กลุ่มบุคคลที่เค้าไม่ศรัทธา ต่อ คุณแม่อุบล และ บ้านสวนพีระมิด และ ก็ปรามาสคุณแม่อุบล เพราะ ในปัจจุบัน นี้ ก็ยังมีผู้คนที่ยังรักษาศีลห้า ได้กันทุกคน แสดงว่า ผู้คนเหล่านี้ เค้าก็ไม่ได้ศรัทธา หรือ เชื่อในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า กันทุกๆคน แล้วทำไมเค้าจะไม่ปรามาสคุณแม่อุบล ปล่อยให้เค้ากระทำไป ไม่ต้องสนใจ
คุณแหวน ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองนั้น รักและศรัทธาต่อคุณแม่อุบล ไม่ว่า คุณแม่บอกกล่าวอะไร พี่แหวนเค้าก็เชื่อ และนำไปปฎิบัติ แม้น แฟนคุณแหวน ห้ามคุณแหวนไม่ให้มา คุณแหวนก็ยอมที่จะโกหกแฟน เพื่อจะมาบ้านสวนฯ
คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า หน้าที่ของคุณแม่ นั้น เกิดมาเพื่อช่วยคนอื่น และการทำบุญ ไม่อยากให้เราต้องเบียดเบียนผู้อื่น ให้พยายามทำอะไร ด้วยกำลังของตนเอง
คุณอัม ได้ออกมาจะบอกกล่าว แต่ พี่ก็ไม่สามารถบอกกล่าวได้ด้วยตนเอง เพราะ คุณอัม ท่านตื้นตันใจ ในความรัก และ ความเมตตาของคุณแม่อุบล มากๆ จะร้องไห้ คุณแม่อุบล จึงได้บอกกล่าวต่อลูกบ้านสวนฯว่า คุณอัม นั้น ในอดีตนั้น คุณอัม ต้องอยู่ใต้การควบคุม ไม่สามารถทำอะไรได้่ด้วยตนเอง จิตใจไม่เข้มแข็ง ทำอะไรต้องมีอุปสรรค เหมือน พระพุทธองค์ ตอนที่พระองค์ท่านบำเพ็ญเพียรบารมี ก็มีมารผจญ
แต่ คุณอัม ท่านมีจิตศรัทธา ในบ้านสวนฯ ท่านได้บริจาคเงิน เพื่อสร้างอาคาร 3 ชั้น ถึง สามแสนบาท และ ได้มาทำอาหารให้การเข้าค่ายทุกครั้ง ไม่ต้องการให้ประกาศให้ผู้ใดทราบ และ ในปัจจุบันนี้ คุณอัม ท่านก็มีจิตใจเข้มแข็ง และ มีความอ่อนน้อมถ่อมตัว(คนที่เป็นลูกบ้านสวนฯ ทุกท่าน ต้องรู้จัก คุณอัม เพราะ คุณอัม อัธยาศัยดี และ เป็นคนที่มักจะถ่ายทอดความรู้ในการประกอบอาหารเจ ให้กับลูกบ้านสวนฯ)
คุณเวียน เวียนมา (ชาวพม่า) เป็นแม่บ้านของ คุณอัม ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองกลัวฝนตกมากๆ ก็ใช้ระหัส ทำให้ฝนหยุดตก แดดก็ออก
คุณอ๋อย ออกมาบอกกล่าวว่า ใช้ระหัส ฝนก็หยุดตก และ ถูกสุนัขกัดตรงนิ้วมือ แต่ ปรากฎว่า กัดไม่เข้า มีแต่อาการชาๆเท่านั้น เพราะว่า ห้อยจี้สฟิงซ์
คุณกัลยาณี ออกมาบอกกล่าวว่า ใช้ระหัสขอให้ ตนเองได้นั่งด้านหน้ารถตู้ที่จะมาบ้านนา เพราะว่า มีสัมภาระมากมาย ก็ปรากฎว่า คุณกัลยาณี ได้นั่งด้านหน้ารถสมความปรารถนา
คุณครูมิ้ม ได้ใช้ระหัส ขอให้หายปวดหัว หายปวดท้องรอบเดือน ขออย่าให้ฝนตก และ ขอย้ายตำแหน่ง ก็ปรากฎว่าได้รับสมความต้องการ
แต่ คุณมิ้ม ได้บอกกล่าวเพิ่มเติม ว่า เคยขับรถชนคนตาย(คุณลุงเฉลียว) แต่ ตนเองไม่เคยสำนึกผิด และ ได้มาเข้าค่ายที่บ้านสวนฯ ได้รับความเมตตาจากคุณแม่อุบล ได้อุทิศบุญกุศลให้กับเด็กๆที่ถูกทำแท้ง และ วิญญาณของคนที่เสียชีวิต ก็ปรากฎว่า คุณมิ้ม ได้สำนึกเสียใจในการกระทำของตนเอง และ ได้เห็น ภาพกายแก้วของคุณลุงเฉลียว ที่ท่านได้อโหสิต่อคุณมิ้ม และได้ไปเสวยสุขในภพภูมิที่สูงขึ้นไป และ ไม่กี่วันต่อมา คุณมิ้มก็ได้รับการย้าย หลังจากที่รอคอยมาเป็นเวลา ถึง 3 ปี
และ ในการอำลาตำแหน่ง คุณมิ้มได้มีโอกาสพูดหน้าเสาธง ต่อหน้าครูบาอาจารย์ และ นักเรียน คุณมิ้ม ได้บอกกล่าวถึงเรื่องของตนเอง เรื่องระหัส เรื่องคู่มือผิวพรรณ และ เรื่องบ้านสวนฯ
น้องบัว ได้ออกมาบอกกล่าว ว่า ตนเองมีอาการปวดเมื่อย เรื่องการใช้ระหัสเพื่อช่วยหนูแฮมสเตอร์ ที่กำลังป่วย และ เรื่องการทำรายงานของตนเอง นึกเรื่องที่จะเขียนไม่ออก
คุณแม่ได้บอกกล่าวต่อน้องบัวว่า น้องบัวชอบดูการ์ตูน ไม่บอกระหัสต่อให้ผู้อื่น ไม่เขียนธรรมทาน ทำให้น้องบัวไม่ประสบผลสำเร็จในเรื่องการเรียน ดังนั้น การใช้ระหัสนั้น ต้องใช้ร่วมกับความดี
และ มีเพื่อนๆ พี่ๆ อีกหลายท่าน ได้ออกมาบอกกล่าว ถึง เรื่องการใช้ระหัส และ การใช้จี้สฟิงซ์
แต่ สิ่งหนึ่งที่ คุณแม่อุบล ได้บอกกล่าวต่อลูกบ้านสวนฯ นั้นคือ ความกตัญญู
จิตใจที่จะกระทำ กิจกรรมที่กระทำ เพื่อ คุณแม่อุบล นั้น คุณแม่ขอชื่นชมกับลูกบ้านสวนฯทุกคนที่มีส่วนร่วม คุณแม่บอกว่า คุณแม่นั้น ทำหน้าที่ในการนำธรรมะและคำสั่งสอนของพระพุทธองค์มาเผยแพร่ให้ทุกๆคนมีสิ่งดีๆในชีวิต
"ความกตัญญู เป็นเครื่องหมายของคนดี"
การทำ work shop ที่บ้านสวนพีระมิด
เป็นการระดมสมองของลูกบ้านสวนฯ ทุกคน ในการคิดและหาวิธีในการแก้ปัญหาเวลาเกิดภัยพิบัติ เพื่อ ช่วยตนเอง และ ผู้อื่น
เพราะ เวลาเกิดภัยพิบัติ ทุกคนไม่สามารถเดินทางมาบ้านสวนฯ และ มาพบและขอช่วยเหลือจากคุณแม่อุบลได้ เวลาเกิดเจ็บป่วยฉับพลันทันที จะทำอย่างไรในการช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น
พี่เหมี่ยว ตัวแทนของกลุ่ม ได้ออกมาบอกกล่าวว่า ได้ใช้จี้สฟิงซ์ร่วมกับพระบารมีของพระศรีอาริย์ ที่คุณแม่อุบลได้อาราธนามาสถิต ณ กาย วาจา ใจ ของคุณแม่
ทำให้ สมาชิกในกลุ่มถึง 3 คน หายทันที โดยไม่ต้องสารภาพบาปที่ตนเองกระทำ ขณะที่นั่งฟังเพื่อนสมาชิกในกลุ่มออกมาบอกล่าวการทำบาปของตนเอง
ป้าน้อย ปวดเข่า ก็ให้สารภาพบาปต่อจี้ อาการก็หายไป 60% ให้เล่าต่อ ว่าใช้ขาไปทำอะไรมาบ้าง เมื่อเล่าจนหมด อาการก็หายไปทันที โดยใช้แค่จี้เพียงหนึ่งองค์ร่วมกับพระบารมีของพระศรีอาริย์ที่อาราธนาโดยคุณแม่อุบล
แต่ เมื่อใช้จี้สฟิงซ์ร่วมกันถึง 14 องค์ คุณก๊อต ที่มีอาการตาบวมแดง ก็หายได้เกือบ 95% ซึ่งเป็นอาการที่เป็นปัจจุบัน และ สามารถเห็นผลได้ด้วยตาของตนเองของทุกคน ซึ่ง คุณก๊อต สารภาพเพิ่มเติมว่า เคยใช่้ตาดูหนังโป๊ และ ใช้ตาค้อนภรรยาตนเอง อาการที่บวมและแดงก็หายเป็นปกติ
คุณเจี๊ยบ ที่มีอาการคันที่หัวเข่า เกาจนหนังหนา และ เป็นมาเกือบ 7 ปี เมื่อใช้จี้สฟิงซ์ 14 องค์ ร่วมกับพระบารมีของพระศรีอาริย์ ก็ปรากฎว่า หายคัน และ อาการหนังหนาและดำ ก็นุ่มและขาวขึ้น อย่างเห็นได้ชัด เมื่อมาปรากฎกายบนเวที
คุณนพ ที่เจ็บคอ ที่เกิดจากการปรามาสคุณแม่อุบล และ ต่อว่าพ่อแม่ เมื่อขอขมาและขอโหสิ อาการก็ดีขึ้นถึง95% แต่เมื่อขอบารมีพระศรีอาริย์ ก็หายเป็นปกติ
ซึ่ง คุณเหมี่ยว ได้บอกกล่าวเพิ่มเติมว่า การที่เราขอบารมีพระศรีอาริย์ นั้น ให้ทำด้วยใจที่เต็มร้อย ก็จะได้รับผลเต็มร้อย
น้องๆ ที่เป็นเด็ก ก็ได้ทำ work shop ได้ข้อสรุป ว่า ให้ใช้ระหัส ให้ใช้จี้สฟิงซ์ สารภาพบาปกับคุณแม่อุบล ใช้แรงกายทำงานที่บ้านสวนฯ อนุโมทนาหน้าจอ ดูคลิปให้ครบ 9 ตอน เขียนธรรมทานที่ได้รับความเมตตาจากบ้านสวนฯ ขึ้นมาเล่าธรรมทานบนเวที เลิกกินเนื้อสัตว์ รักษาศีลห้าด้วยครับ สัตว์ที่ยังไม่ตายก็ไม่ซื้อ
น้องมาร์ค มีอาการปวดหลัง และให้ น้องต้นกล้า ช่วยทำการบำบัด โดยการสารภาพบาป ว่า เคยตีหลังสุนัข ฆ่าไก่ ขโมยดินสอไม้บรรทัดของเพื่อน เมื่อสารภาพบาปหมด อาการปวดหลังก็หาย
คุณแม่อุบล ได้อาราธนาพระบารมีของพระศรีอาริย์มาสถิตย์ กาย วาจา ใจ ของคุณแม่ เพื่อให้ลูกหลานบ้านสวนฯที่มีอาการเจ็บปวดได้สัมผัสพระบารมีของพระองค์ท่าน
ลูกหลานบ้านสวนฯ ที่มีอาการ ปวดแขน ปวดขา ปวดหลัง ปวดเข่า เจ็บคอ ปวดนิ้วมือ ปวดหัว ขณะที่คุณแม่อุบลอัญเชิญพระบารมี บางคนก็หายเป็นปกติ บางคนที่ยังมีอาการปวดหลงเหลือ เมื่อ คุณแม่ ได้ให้เดินผ่านและบอกอาการที่ตนเองเจ็บปวด ปรากฎว่า เมื่อได้สัมผัสพระบารมี ขณะเดินผ่านคุณแม่ ก็หายเป็นปกติเกือบทุกคน แต่คนที่ยังมีอาการหลงเหลือ ส่วนมาก ก็เกิดจากการที่ เคยได้รับพระเมตตาจากพระศรีอาริย์ฯ แล้ว ไม่เคยไปเขียนธรรมทานในเวปฯ เพื่อขอบคุณต่อพระองค์ท่าน
คุณแม่อุบล ท่านมีเมตตา บอกกล่าวให้ลูกหลานบ้านสวนฯ ที่อาการเจ็บปวดยังไม่หายนั้น ให้ไปเขียนธรรมทานที่ตนเองได้รับพระเมตตาของพระศรีอาริย์ ให้ไปเขียนว่าตนเองได้รับพระเมตตาอย่างไรบ้าง และ อาการเป็นอย่างไรบ้าง
ขอกราบต่อธรรมะ ของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ที่หลวงพ่อ ท่านบอกกล่าวว่า ดีชั่วอยู่ที่ความประพฤติปฎิบัติของตัวเรา ไม่ได้อยู่ที่คำสรรเสริญเยินยอ หรือ คำติฉินนินทาของผู้อื่น ให้เราอยู่กับปัจจุบัน ทำปัจจุบันให้ดี สาธุ สาธุ สาธุ
ขอร่วมอนุโมทนาบุญ กับ เพื่อนๆ พี่ๆ ที่ได้ไปใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ ในการเทฐานของโรงทานเก่า และ งานเกษตร และ ร่วมแรงร่วมใจกันทำงานกิจกรรมเพื่อคุณแม่อุบล
ขอขอบคุณ คุณธนา คุณด๊อกเตอร์จิ๋ม และ คุณพี่แมว และ เพื่อนๆพี่ๆ อีกหลายๆท่าน ที่มีส่วนร่วม ในการทำงานของบ้่านสวนฯ เพื่อให้คุณแม่ได้เผยแพร่ธรรมะของพระพุทธองค์
|