กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล
และ สวัสดี เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกๆท่าน ครับ
ขอน้อมกราบ ต่อ พระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ องค์สฟิงซ์ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด
ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป
ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร
คืนนี้ ได้ชมคลิปของวันที่ 21 ตุลาคม
"อานุภาพ จี้สฟิงซ์ 3 ร่มโพธิ์ศรี อานิสงค์ กิจกรรมกลุ่ม บุญแรงกายที่บ้านสวนฯ"
คลิปนี้ คุณแม่อุบล ได้ให้แต่ละกลุ่มมาเล่าสรุป การ work shop ที่ได้รับหัวข้อไปทำ และ รายงานผลการทำมา
กลุ่มที่ 1 พี่เหมี่ยว เป็นตัวแทนกลุ่ม ออกมาบอกเล่า work shop ที่เกี่ยวกับ"ปัญหาผิวพรรณ"
ซึ่ง คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า ปัญหาผิวพรรณ นั้นเกิดขึ้นได้จากที่เราไม่ชอบทำความสะอาดสถานที่ ทำสถานที่ให้ความสวยงาม และ มีปัญหาเรื่องความโกรธ
ซึ่งปัญหาผิวพรรณ นั้น คุณแม่ได้กล่าวว่า แก้ไขได้ด้วย การเลิกโกรธ บริจาคเสื้อผ้า ถวายไตรจีวร ล้างห้องน้ำ รักษาห้องครัวให้สะอาด
พี่เหมี่ยวได้สรุปว่า ระหว่างที่ทำกิจกรรมเรื่องกรรมผิวพรรณนั้น ก็ให้สวดคาถาพระศรีอาริย์ และ ขอบารมีของพระศรีอาริย์ ที่คุณแม่เป็นผู้อาราธนามาใช้ร่วมกัน
โดยไปทำความสะอาดบริเวณองค์พีระมิดองค์ใหญ่หลังบ้านของคุณแม่ และ จัดตกแต่งให้สวยงาม
หมอแป้น เป็นฝ้า หน้าดำ ภายในหนึ่งชั่วโมง ที่ทำความสะอาดอยู่ หน้าที่เป็นฝ้าและดำ ก็ค่อยๆหายดำ หายฝ้า
คุณศักดิ์ ที่มีอาการปวดแสบ ปวดร้อน คันตามร่างกาย หน้าดำ ก็หายคัน หน้า ที่ดำ ก็ขาวขึ้น
คุณเจี๊ยบ ผิวที่หัวเข่าที่ดำ ทำงานผ่านไปหนึ่งชั่วโมง หัวเข่าก็เริ่มขาวขึ้น
พี่เหมี่ยว ที่มีอาการแขนแห้ง คัน แขนก็เริ่มนิ่ม
พี่ผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ที่มีอาการเป็นโรคสะเก็ดเงิน รอยตรงตีนผมที่เป็นโรคสะเก็ดเงินก็หาย
น้องกระต่าย ที่คันตรงแขนขวา ก็หาย ซี่งคุณแม่อุบล ได้กล่าวว่า น้องกระต่าย เคยชอบฆ่าแมลง ก็เลยต้องมีกรรมในเรื่องการคันผิวหนัง
กลุ่มที่ 2 พี่อ้อย เป็นตัวแทนของกลุ่ม ออกมาสรุป ในหัวข้อ"กรรมผิวพรรณ"
โดย ไปทำความสะอาดห้องน้ำด้านหน้าที่องค์พีระมิดที่พัก(ใกล้เวที) และ เก็บย้ายกระเบื้องใต้บันได เขี่ยปูนให้เรียบ ทำความสะอาดชั้นสองที่พัก ล้างถังเก็บน้ำในห้องน้ำ
พี่อ้อย มีปัญหา คันที่คอ เป็นสิว1เม็ด กระฝ้าที่ใบหน้า ทำงานผ่านไปหนึ่งชั่วโมง สิวฝ้ากระ ที่ใบหน้าก็หายไป
คุณก้อย มีสิว บวมแดงและมีสิวเสี้ยน ก็หาย
คุณอัญ เป็นสิว แต่ทำงานได้1ชั่วโมง ก็ต้องไปทำงานครัว แต่เมื่อได้รับพระบารมีของพระศรีอาริย์ สิวที่เป็นก็หาย
คุณเบญ เป็นสิวตรงคาง เป็นกระ ที่หลังมือทั้งสองข้างก็จางหายไป20% เมื่อได้รับพระบารมีพระศรีอาริย์ก็หายหมด
คุณเปลว เป็นด่างขาวที่มุมปากทั้งสองข้าง และ ที่ปลายนิ้วมือทั้งสองข้าง จางหายไป 90%
ซึ่งพี่อ้อย ได้บอกกล่าวว่า เป็นอานิสงค์ที่เกิดจากการทำความสะอาดห้องน้ำ จัดสถานที่ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย อย่าทำให้ห้องครัวรก น้ำแข็งหมด ก็ควรจะหามาเติมให้เต็ม อย่าทิ้งไม้ไอติมลงที่พื้น อย่าทิ้งเศษกระดาษของฮอลล์ที่อมไปแล้ว ทิ้งลงพื้น
คุณแม่ได้บอกกล่าวเพิ่มเติมว่า คนดี คนสะอาด คนมีระเบียบวินัย เค้าเดินผ่านไปตรงไหน สถานที่ก็จะสะอาด จะมีระเบียบ คนที่ไม่รักษาความสะอาด ไม่มีระเบียบวินัย (คนที่ชอบทิ้งขว้างสิ่งของ)จะเป็นคนที่มีปัญหา มีอุปสรรค และ ฐานะการเงินจะแย่
กลุ่มที่ 3 "ปัญหาผิวพรรณ เจ็บป่วยด้านอื่นๆ" คุณญา เป็นตัวแทนของกลุ่มออกมาสรุป
ให้จัดตกแต่งและทำความสะอาดห้องน้ำด้านหลังบ้านของคุณแม่ ทำให้มีระเบียบเรียบร้อย
คุณวิน มีปัญหาปวดหัว หายปวดหัวประมาณ 70 % ยอมรับว่า ทำงานไม่เต็มที่
คุณญา มีปัญหาปวดหัว ขณะทำก็มีอาการปวดหัว แต่ เมื่อทำเสร็จก็หายปวดหัว
คุณสมจิตร คันที่แขนมาเกีอบ 7 ปี ในระหว่างที่ทำก็เกิดอาการคันมากๆ ก็พยายามทำ จนหายคัน
คุณแหม่ม ปวดหัว ทำไปก็หายปวดหัว
คุณทัศนีย์ ปวดหลัง หน้ามืด มีอาการวูบ ก็หาย
คุณญา ได้เล่าให้ฟังว่า ระหว่างที่ลากตู้สำรองไฟฟ้า ก็โดนไฟฟ้าดูด แต่โชคดีที่ระหว่างทำงานก็สวดคาถาพระศรีอาริย์ไปด้วย และ พี่แหม่มช่วยใช้ระหัส" อาจารย์อุบลช่วยด้วย" ทำให้มีอาการแค่บวมนิดหน่อย เมื่อใช้จี้สฟิงซ์ช่วย อาการที่บวมก็ยุบหายไป ก็ยอมรับว่า ไม่ค่อยชอบเขียนธรรมทาน
ช่วงอานุภาพของ จี้สฟิงซ์ 3 ร่มโพธิ์ศรี
คุณแม่ ได้ให้ลูกหลานที่มีอาการเจ็บปวดออกมาทดลองอานุภาพของจี้
ลุงเบิ้ม ที่มีอาการของการปวดไหล่ซ้าย เนื่องจากการไปตัดหญ้า
ให้คล้องจี้ 3 องค์ ของคุณธนา นับถึง 20 ก็ไม่หาย
ให้คล้องจี้สฟิงซ์ 3 ร่มโพธิ์ศรี 3 องค์ นับไปได้แค่ 9 ก็หายปวด
คุณป้อม ที่มีอาการตาแดงและแฉะ และมีอาการคัน
ลองห้อย 4 องค์จี้สฟิงซ์ นับถึง 20 อาการคันดีขึ้น 70 % แต่ตาที่แดงไม่หาย
คุณแม่ ให้ลองถือ องค์จี้สฟิงซ์รุ่น3ร่มโพธิ์ศรี 3 องค์ นับถึง 7 อาการคันหาย
นับถึง 20 ตาที่แดงดีขึ้นและแต่หายตาแฉะ
คุณแม่ก็ให้ลองเอาจี้ แตะที่ตา นับถึง 20 ตาที่แดงดีขึ้นเรื่อยๆ ให้สวมจี้ร่มโพธิ์ศรี ทั้ง3องค์ ก็หาย
ด๊อกเตอร์จิ๋ม ไอ ปวดหลัง ปวดขา
ให้คล้องจี้ 3 องค์ รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี
นับถึง 20 อาการไอดีขึ้น 80 % ไม่มีอาการคันที่ในคอ
อาการปวดหลัง นับถึง 20 ดีขึ้น 50% แต่เมื่อผ่านไป ก็ดีขึ้นถึง 70 % พอผ่านไปอีกประมาณ 50 วินาที อาการปวดหลังก็หายเลย
อาการปวดขา เริ่มเดินดีขึ้น เดินแล้วตัวไม่โยก ไหล่ตรงขึ้น ขาเริ่มตรง อาการปวดขาก็หาย
เมื่อ คุณแม่ให้ลอง 9 องค์ ก็เดินเริ่มคล่องขึ้น ฝ่าเท้าเจ็บน้อยลงไปเกือบ 70%
เมื่อลองที่ 20 องค์ โดยให้ถือไว้ ไม่มีอาการเจ็บที่ฝ่าเท้า เท้าเริ่มแนบไปกับพื้นได้
หมอแป้น อาการปวดหลังก็หาย เมื่อห้อยจี้รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี
คุณอมร ที่มีอาการพูดได้ช้า ติดขัด ต้องนึกก่อนพูด คุณแม่ ให้ลองพูดว่า "อาจารย์อุบลช่วยด้วย" ติดต่อกันไปหลายๆ ครั้ง หลังจากนั้น ให้ห้อยจี้ รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี และให้พูดอีก ก็ปรากฎว่า เริ่มพูดคล่องดีขึ้น และ ให้ลองเล่าเรื่องคุณลุงที่มีอาการเป็นอัมพาต คุณอมรก็เล่าได้อย่างไม่ติดขัด
กลุ่มที่ 4 ซึ่ง คุณเบส ได้รับโจทย์ที่คุณแม่อุบล ได้สอบถามว่า
"มีคน ที่เค้าเข้ามาที่บ้านสวนฯ และ แสดงตนเองว่า เค้าเคารพรัก อาจารย์อุบล และ แสดงตนเองว่า ตนเป็นนักปฏิบัติ จนมีคุณวิเศษ อวดอ้างว่าตนเอง สามารถสื่อสารกับเบื้องบนได้ ขอเบอร์โทรศัพท์ของท่าน และ พูดจาให้ลังเลสงสัยอาจารย์อุบล และ บ้านสวนฯ ได้แอบติดต่อชักชวนท่านว่าเบื้องบนคัดเลือกท่านให้ทำงานลับให้ท่านอาจารย์อุบล"
ท่านคิดว่า คนอย่างนี้ เป็นคนอย่างไร
และ ท่านจะทำอย่างไรถ้ามีคนเชื่อและทำตาม
และ คิดว่าคนๆนั้นเป็นคนอย่างไร
และ ในฐานะที่ท่านเป็นลูกบ้านสวนฯ ท่านจะจัดการคน คนนี้อย่างไร
คุณเบสได้ตอบว่า
คนๆนี้ คงเข้ามาหาผลประโยชน์จากบ้านสวนฯ เป็นคนเสแสร้ง หลอกลวง คิดจะทำลายชื่อเสียงของอาจารย์อุบล และ บ้านสวนฯ และ ทำให้ลูกบ้านสวนฯแตกความสามัคคี แสดงตนอยากมีความโดดเด่น
จะจัดการคนๆนี้ โดยใช้ระหัส "อาจารย์อุบลช่วยด้วย" ให้เค้าแสดงพฤติกรรมที่แท้จริงออกมา และ มาแจ้งบอกเล่าให้อาจารย์อุบล ได้ทราบ
สำหรับ คนที่เชื่อเค้าและทำตาม แสดงว่า คนที่เชื่อเค้านั้น มีจิตใจที่ไม่มั่นคง มีความโลเล เป็นคนจับปลาสองมือ ขาดปัญญาที่จะไตร่ตรอง ไม่ใช้หลักกาลามสูตร เชื่อคนง่าย ไม่มีความศรัทธาที่แท้จริงต่ออาจารย์อุบล สงสัยอาจารย์
คุณธนา ก็ขอสอบถามว่า ถ้าเค้า คนนั้น อาจจะอ้างว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำนั้น ทำเพื่ออาจารย์อุบล และ บ้านสวนฯละ จะทำอย่างไร
คุณเบส ได้ตอบว่า จะดูว่าเค้าทำอะไรให้อาจารย์อุบล ไม่ใช่แค่พูด แต่ไม่ทำอะไรเลย และ จะไปถามอาจารย์อุบลว่า ที่เค้ากล่าวมานั้นจริงเท็จแค่ไหน ถ้าเป็นเรื่องจริง ทำไมอาจารย์อุบลไม่มาบอกเอง ทำไมเค้าต้องเป็นคนมาบอก
และ จะจัดการกับคนๆนี้ โดย ไปถามเค้าตรงๆ ว่า ต้องการอะไร ต้องการผลประโยชน์อะไร ทำแบบนี้ทำไม
คุณแม่อุบล ก็แซวว่า เค้าอาจจะบอกว่า ช่วยให้ไปนิพพาน และ คุณแม่ได้ถามต่อว่า คุณสมบัติของคนที่จะมาช่วยอาจารย์ต้องเป็นอย่างไร
คุณเบส บอกว่า ต้องจริงใจ ไม่ลังเลสงสัยอาจารย์
ถ้าเกิดเค้าบอกว่า ถ้ามีเค้า จะทำให้บ้านสวนฯดีขึ้น หรือ ว่ามีเค้า แล้วเค้าสามารถทำให้ดีขึ้น 100% ล่ะ
คุณเบส บอกว่า ไม่เชื่อ เพราะ บ้านสวนฯก็ดีอยู่แล้ว และ ไม่เชื่อว่า มีใครที่ทำไดัดีกว่าอาจารย์อุบลแล้ว ก็เหมือนกับคลิปที่เสือ ย่อมกินลูกควาย ไม่กินจ่าฝูงก่อน
คุณแม่ก็ถามต่อไปว่า ถ้าเป็นคนที่เค้าจะหลอกมาลวงเราละ จะรู้ได้อย่างไร
คุณเบสก็ตอบว่า ถ้าลูกบ้านสวนฯ คนนั้น เค้าเป็นคนลังเลสงสัย ไม่ศรัทธาในตัวอาจารย์ และ บ้านสวนฯ ก็ให้เค้าไปกับคนๆนั้น ที่มาหลอกมาลวงไปเลย ไม่ต้องมาอยู่ที่บ้านสวนฯ
คุณแม่ก็เลยกล่าวว่า คุณแม่ก็คิดว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็ไม่กังวล แต่ที่เห็นเป็นอยู่นั้น ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะว่า คนที่ไม่เชื่อไม่ศรัทธาในตัวคุณแม่อุบล นั้น เค้าก็ยังคงมาบ้านสวนฯ
คุณแม่ยังยกตัวอย่างว่า ถ้าคุณธนา เป็นคนป่วนบ้านสวนฯ และ ได้กำจัดคุณธนาไปแล้ว(ห้ามไม่ให้มาบ้านสวนฯอีก) แต่คนที่ไม่ได้ศรัทธาและไม่เคารพรักและไม่จริงใจยังคงมาบ้านสวนฯ อยู่
และ ก็เกิดมี คนใหม่ที่เค้าเข้ามาที่บ้านสวนฯและ ก็เริ่มป่วนอีกจะทำอย่างไร
ซึ่งคำถามของคุณแม่อุบล คำถามนี้ ลูกบ้านสวนฯ ทุกคนได้ยิน ก็ต้องคิดและตอบตัวเองให้ได้ก่อน
ขอขอบคุณ คุณพี่แมว ที่แบ่งเบาภาระ ในการรับและจัดส่งจี้สฟิงซ์และองค์พีระมิดจำลองรุ่นท่านท้าวเวชสุวรรณให้กับลูกหลานบ้านสวนฯ ครับ
ขออนุโมทนาบุญ กับ เพื่อนๆ พี่ๆ ที่ไปใช้แรงกายในการทำงานเพื่อบ้านสวนฯ
ขอน้อมกราบต่อธรรมะ ของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในเรื่อง ดีชั่วอยู่ที่ตัวเรา ประพฤติปฏิบัติ ไม่ได้อยู่ที่คำสรรเสริญเยินยอ หรือ คำติฉินนินทาของผู้อื่น
และ การฆ่าอะไรได้แล้ว ย่อมนอนเป็นสุข
การฆ่าอะไรได้แล้ว ย่อมไม่เศร้าโศก
ซี่งหลวงพ่อ ท่านได้ยกคำสั่งสอนของพระพุทธองค์มาว่า พระองค์ท่านทรงบอกกล่าวต่อพราหมณ์ผู้หนึ่งว่า "ฆ่าความโกรธ"
|