กราบคุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล
และ สวัสดี เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกๆท่าน ครับ
ขอน้อมกราบต่อ พระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ องค์สฟิงซ์ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด
ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป
ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร
วันนี้ ได้ดูคลิป ของวันที่ 28 ตุลาคม
"บารมีพระศรีอาริย์ อานุภาพ จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี"
เป็นคลิปของ "กิจกรรม ธรรมบำบัดแบบเห็นผลแบบพลันทันที ชมพระบารมีพระศรีอาริย์" เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2555
ขอขอบคุณ คุณธนา อรุณภิญโญพล และ ด๊อกเตอร์จิ๋ม (ด๊อกเตอร์ ชัชวลี กะลัมพะเหติ) ที่ ท่านทั้งสองเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดกิจกรรม เพื่อให้ คุณแม่อุบล ได้เผยแพร่ธรรมะและ คำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ที่บ้านสวนฯ
โดย คุณแม่อุบล ได้กล่าวตอนเริ่มกิจกรรมว่า การทำบุญ ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้ท่านได้เห็นนั้น ก็มีได้หลายทาง คือ โดยการบริจาคทรัพย์ บริจาคสิ่งของ การใช้แรงกาย และ การมีใจพลอยยินดี(การร่วมอนุโมทนา) โดยที่ประตูจิตต้องเปิด เพื่อรับธรรมะเข้าไปในจิตใจ
โดยท่านได้ยกตัวอย่าง ของพี่คนหนึ่งที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ที่พี่เค้ามีปัญหาในเรื่องเป็นสะเก็ดเงินที่ใบหน้าและตามแขน และร่างกาย เมื่อมาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ แค่ 1 ชั่วโมง สะเก็ดเงิน บริเวณที่ใบหน้าก็หาย 100 % และ ตามร่างกายก็หายประมาณ 90%
คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า จะเกิดภัยพิบัติทั่วโลก ไม่ว่า จากน้ำท่วม ภูเขาไฟระเบิด ไฟไหม้ เกิดสึนามิ และ ภัยจากสัตว์ร้ายต่างๆ ในราววันที่ 21-22 ธันวาคม 2555 ซึ่งลูกบ้านสวนฯ ต่างก็มั่นใจว่า ตนเองจะรอดพ้นจากภัยพิบัติในครั้งนี้ได้ โดยการใช้ระหัส"อาจารย์อุบลช่วยด้วย"
ในการทำกิจกรรมครั้งนี้ คุณแม่ได้จัดหัวข้อของปัญหาที่ลูกหลานบ้านสวนฯ ประสบและและมีปัญหา เป็น 20 หัวข้อ และลูกหลานบ้านสวนฯ จะแบ่งกลุ่มออกเป็น 20 กลุ่มๆ ละ 8-9 คน ให้ไปใช้แรงกายตามปัญหาที่ตนเองประสบและทุกข์ทรมาน
กลุ่มที่ 1 พี่เหมี่ยวเป็นหัวหน้ากลุ่ม ออกมาสรุปผลการปฏิบัติ โดย คุณแม่ให้ลูกกลุ่มขึ้นมาบนเวที และ พูดถึงปัญหาที่ตนเองประสบและผลของการใช้แรงกาย และ ปัญหาของตนเองเป็นอย่างไรบ้าง
เป็นกลุ่มที่ปัญหาเรื่องผิวพรรณและการเงิน ไปใช้แรงกายในการทำความสะอาดหน้าบ้านสวนฯ โดยพี่เหมี่ยวได้กล่าวว่า ได้ขอให้ลูกกลุ่มได้ใช้ระหัส"อาจารย์อุบลช่วยด้วย" ระหว่างที่ใช้แรงกายในการทำความสะอาด โดยให้จิตมีความระลึกถึงอาจารย์อุบลตลอดเวลา
พี่พร ซึ่งมีปัญหาหน้าเป็นฝ้าดำ เมื่อไปถอนหญ้า ตัดกิ่งไม้ เก็บขยะไปทิ้ง ประมาณ 1 ชั่วโมง ฝ้าที่เป็นก็จางหายไปเกือบ 70 %
น้องวิน มีปัญหาหน้าแดง แก้มแดง จมูกปูด ทำงานไม่ถึงชั่วโมง หน้าก็เริ่มเป็นสีชมพู จมูกที่ปูดก็ยุบลง หายไปเกือบ 50-60%
คุณนิลลดา มีปัญหาผิวหน้ามัน รูขุมขนกว้าง เหงื่อออกง่าย เป็นสิวง่าย ทำงานประมาณ 1 ชั่วโมง รูขุมขนที่กว้างก็ตื้นกระชับขึ้น สิวก็จางลงไป 70 %
คุณยาย ที่ปัญหาเรื่องตาไม่สว่าง ก็ใช้แรงกายแล้วตาก็สว่างขึ้น
คุณน้องผู้หญิง ที่มีปัญหาเรื่อง ผดผื่นคัน สิวเสี้ยนดำ มาเกือบ 3 ปี ก็ดีขึ้น
คุณพี่ผู้หญิงที่เป็นคุณครูเอกชน มีปัญหาผิวหน้า ผิวหน้าก็ผ่องใสขึ้น เกือบ 90%
คุณพี่ผู้หญิง ที่มีปัญหาเรื่องสิวที่แข็ง ก็ใช้ระหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยร่วมกับการใช้แรงกาย สิวก็อ่อนตัวลง หายไปเกือบ 90 %
คุณพี่ผู้หญิงที่ปัญหาเป็นฝ้าหน้าแดง มาเกือบ 10 ปี เมื่อใช้แรงกาย หน้าก็เริ่มไม่แดง หายไปเกือบ 70 %
คุณพี่ผู้หญิงที่เป็นกระ เป็นมาแต่เด็กๆ ก็หายเกือบ 90 %
คุณพี่ผู้หญิงที่มีปัญหาปวดหลัง หันหลังไม่ได้มา 3 เดือน ก็อาการดีขึ้น 90 %
กลุ่มต่อมา มีพี่อ้อยเป็นหัวหน้ากลุ่ม ได้ออกมาบอกกล่าวว่า ได้ไปทำวิหารทาน โดยการขนดินไปทำตรงโรงทานเก่า มีลูกกลุ่มที่หายทันที 100 % 3 คน
มีป้าเพียร ซึ่งปวดหัว ปวดคอ ทำงานไป 30 นาที ก็หาย จากการไปขุดดิน
ป้าลาย มีปัญหาเป็นต่อมไทรอยด์ มา 4 ปี กลืนข้าวจะเจ็บคอ ทำงานไป หนึ่งชั่วโมงครึ่ง ไปทานข้าว ก็ไม่มีอาการเจ็บคออีกเลย
หนูเล็ก มีปัญหาปวดคอ ปวดไหล่ ปวดขา ทำงานแค่ครึ่งชั่วโมง ขาก็ดีขึ้น 100% ไหล่ดีขึ้น 90 %
คุณยาย ที่ปวดคอปวดไหล่ ดีขึ้น 50 % ตาที่โปนหนังตาปิด ทำงานไปครึ่งชั่วโมง หนังตาก็เปิด ตาก็ไม่โปน หายไปเกือบ 90 %
คุณเกวิกา มีปัญหาปวดหัว ปวดร่างกายซีกขวา มา9 ปี ก็ดีขึ้น70% ขณะที่เล่าบนเวที ก็หายไปเกือบ 90 %
คุณยาย ที่ปัญหา ปวดหัว ปวดเข่ามา 2 ปี อาการก็ดีขึ้น 80 %
พี่ผู้หญิง ที่มีปัญหาเรื่องปวดหัว ปวดไหล่ ปวดท้อง มาเกือบ 2 ปี ทำงานไป 30 นาที ก็หายปวดท้อง ปวดไหล่ ก็หายไปเกือบ 70 % ปวดหัวก็หายไปเกือบ 50 % ขณะที่เล่าบนเวที ก็หายไปเกือบ 70 %
คุณยายที่มีปัญหาปวดไหล่ ปวดหลัง ปวดขา มาเกือบ 1 ปี ก็หายไปเกือบ 70 %
คุณยาย ที่มีปัญหาเรื่องการปวดคอ ก็หายไปเกือบ 50 %
คุณแม่อุบลได้บอกกล่าวให้ลูกหลานบ้านสวนฯ ได้รับทราบว่า กรรมที่ต้องรับทรมานจากการปวดหัว ปวดไหล่ ปวดตามร่างกายนั้น เกิดจากการที่เคยทุบหัวปลา ตีหัวหมา หัวแมว หัวผัว หัวลูก ใช้หัว ไปคิดไม่ดีต่อผู้อื่น อิจฉา ริษยา ชอบด่า ชอบว่าคนอื่น
ให้เลิกด่า และ เวลาทำงานใช้แรงกายก็อย่าไปกลัวป่วย กลัวเจ็บ ทำงานไม่เต็มที่ ไม่ต้องไปกลัวร้อน
กลุ่มต่อมา คุณอติศักดิ์ เป็นหัวหน้ากลุ่มออกมาสรุปว่า ลูกกลุ่มมีปัญหาเรื่องปวดเอว ปวดหลัง ปัญหาการเงิน
คุณยายสุจี ปวดหัวมาเกือบ 4 ปี ทำงานแค่ครึ่งชั่วโมง ก็หายปวดหัว 100 %
คุณแหม่ม ปวดหัว ปวดขา ปวดเอว มา 3-4ปี ปวดเอวก็ดีขึ้น
คุณยาย ปวดหัวเข่า มา 5 ปี ขุดดินครึ่งชั่วโมง ก็หายปวดเข่า
คุณลุง ปวดขาปวดเข่ามาเกือบ ปีกว่าๆ ขุดดินครึ่งชั่วโมง หายปวดเกือบ 100 %
คุณป้า ปวดขาปวดคอปวดเอว เมื่อออกมาเล่าบนเวทีก็หาย 100%
คุณพี่ผู้หญิง ปวดหัว ปวดต้นแขน ดีขึ้น50% เมื่อนั่งฟังธรรมทานคนอื่นๆ ก็หาย 100 %
คุณยาย ปวดแขน ปวดหลัง ปวดเอว เมื่อมานั่งบนเวทีก็หายหมด
คุณพี่ผู้หญิง มีอาการปวดเข่า ปวดหัว เมื่อมานั่งบนเวที ก็หายหมด
พี่ผู้หญิงอีกคนหนึ่ง มีปัญหาปวดเอว มีเรื่องของโรคหัวใจ ก็หายปวดเอว ตอนทำงาน ขณะที่ทำงานก็ไม่รู้สึกเหนื่อย
สรุป ลูกทีมกลุ่มนี้ เมื่อออกมาพูดบนเวที ทุกคนต่างก็หายจากอาการปวดต่างๆ 100 %
ช่วงที่คุณแม่ให้ลูกบ้านสวนฯ ได้สัมผัสพลังของ จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี
มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นม้ง ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองพูดไทยไม่ชัด คุณแม่ได้ให้ลองถือ จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี และให้ลองพูด ก็สามารถพูดไทยได้ชัดขึ้น และ พี่เค้าได้บอกกล่าวว่า ได้บูชาองค์พีระมิดจำลอง รุ่น มวลสารบ้านสวนฯ ไป และได้เอาไปใช้กับลูกที่เป็นปานแดงมาแต่ตั้งแต่อายุ 1 เดือน ก่อนหน้านั้น เคยพาลูกไปยิงเลเซอร์ 4 ครั้ง ตอนอายุได้ 4 เดือน ก็ไม่หาย ยิ่งยิงยิ่งบวม ให้ทานสเตอร์รอยด์ ก็ไม่อยากให้ลูกทาน แต่เมื่อใช้พีระมิดรุ่นมวลสาร ปานแดงของลูกก็หายได้
คุณยายที่ปวดขา ปวดเอว ให้ถือจี้ ไว้แค่ 4วินาที อาการปวดต่างๆ ก็หายไป
คุณพี่ ที่มีอาการชาที่ขาที่เกิดจากการขาหัก ให้ถือจี้ เพียง 5 วินาที ขาก็หายชา
พี่ผู้หญิงที่ปวดหัว ให้ถือจี้ 9 วินาที ก็หาย
คุณยาย ที่ปวดเข่า ถือจี้ 3 วินาทีก็หาย
คุณยายที่ปวดหัว ให้ถือจี้ 7 วินาที ก็หาย
คุณยายที่ออกมาบอกว่า ตนเองพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง เมื่อได้ถือจี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี ก็พูดรู้เรื่องขึ้น ซึ่ง คุณแม่ได้บอกกล่าวให้ลูกบ้านสวนได้ทราบว่า เกิดจากการที่ด่าเก่ง ชอบบ่นชอบว่า ลูก และ สามี
ช่วงที่คุณแม่อุบล ได้อาราธนาพระบารมีของพระศรีอาริย์มาสถิต ณ กาย วาจา ใจ ของคุณแม่ เพื่อให้ลูกหลานบ้านสวนได้สัมผัสพระบารมีของพระศรีอาริย์
ซึ่งลูกหลานบ้านสวนฯ ส่วนมากที่นั่งข้างล่างเวทีที่ได้สัมผัสและชมพระบารมีของพระองค์ท่าน ก็หายจากอาการเจ็บป่วย
ส่วนลูกหลานที่ยังไม่หาย คุณแม่ได้ให้มาเดินผ่านคุณแม่ เพื่อได้สัมผัสพระบารมีของพระองค์ท่าน บนเวที ก็หายจากการเจ็บ การปวด
ช่วงที่คุณแม่ อยากให้มีการพิสูจน์ว่า การกราบรูปของคุณแม่อุบล ก็สามารถทำให้อาการเจ็บป่วยก็หายได้ โดยคุณแม่อุบล ได้ให้พี่เหมี่ยว ได้นำรูปของคุณแม่ ที่คุณเหมี่ยวได้นำไปช่วยผู้คนที่พิการที่ร้านของตนเอง ขึ้นมาตั่งไว้บนเก้าอี้ บนเวที และ ให้ลูกหลานบ้านสวนฯ ที่ยังเจ็บป่วยได้ขึ้นมาทดสอบ
คุณยายที่มีอาการเดินกะเผลก ให้ออกมาทดสอบการกราบรูปของคุณแม่บนเวที โดยให้พูดว่า"อาจารย์อุบลช่วยด้วย ให้ขาของลูกหายจากการปวดขา จากโรคอัมพาต" เมื่อกราบรูปของคุณแม่อุบล อาการปวดขาก็หายได้
คุณพี่ผู้หญิง ที่มีอาการปวดแขน ปวดขา ให้กราบรูปของคุณแม่อุบล ก็หายไปเกือบ 90 %
พี่ทัศนีย์ ที่ปวดนิ้ว ก็หายไป 40 % พี่บุญภิบาลที่ปวดบ่าทั้ง 2 ข้าง ก็หายไปเกือบ 99 %
คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า ลูกหลานที่อยากหายได้อย่างถาวร ไม่มีความเจ็บความปวด ให้เลิกฆ่าสัตว์ เลิกสั่งฆ่าสัตว์ เลิกรู้เห็นเป็นใจในการฆ่าสัตว์ เลิกกินเนื้อสัตว์ เพราะ วิญญาณของสัตว์เหล่านี้ เค้ามาเกาะเกี่ยวกับร่างกายของเรา และ อย่าบกพร่องในศีลห้า อย่าเอาข้าว เอาขนมของวัดกลับบ้าน ทำให้เราติดหนี้สงฆ์
อย่าลักทรัพย์ อย่าทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์
อย่ามีกิ๊ก อย่าเป็นชู้กับสามีภรรยาของผู้อื่น
อย่าโกหกหลอกลวง ทำให้ฟันไม่ดี มีกลิ่นปาก พูดไม่ชัด อย่านินทา ว่าร้ายป้ายสี ส่อเสียด ตอแหล
อย่าดื่มเหล้า ซื้อเหล้าให้ผู้อื่น อย่าใช้ผู้อื่นไปซื้อเหล้า อย่าส่งเสริมให้ผู้อื่นดื่ม อย่าผิดอบายมุข ทั้ง6 คือ ดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน ดูการละเล่น เล่นการพนัน เกียจคร้านทำงาน คบคนชั่วเป็นมิตร
ถ้าอยากพ้นทุกข์ ให้เล่าเรื่องที่พบเห็นที่บ้านสวนฯ ให้ผู้อื่นฟังเพื่อเป็นธรรมทาน
บนเวที คุณป้าที่มีอาการที่คอบวมจากการเป็นไทรอยด์เป็นก้อน ตอนนี้บริเวณคอที่เป็นก้อนก็เล็กลงไปจนแทบมองไม่ออก คุณแม่ได้ให้คุณป้าถือจี้ รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี แค่ 28 วินาที ก้อนที่บวมก็หายสนิท เมื่อกลืนน้ำลายก็ไม่เจ็บปวดแล้ว
ขอกราบต่อธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ที่หลวงพ่อ ท่านได้บอกว่า การศีกษาวิชาความรู้ ให้มีความรู้และปฎิบัติให้ครบ เพราะ ถ้าเราปฎิบัติไม่ครบก็เกินวิสัยที่จะทำให้ดีได้ ซึ่งพระพุทธองค์ได้ตรัสว่า " ตถาคตเป็นเพียงผู้บอกเท่านั้น ไม่ใช่เป็นผู้ยกให้ใครเป็นอะไรได้ "
หลวงพ่อบอกว่า ให้ทำอะไร ก็ให้ทำตามก็มีผล ความดีความชั่วไม่ได้อยู่ที่คนสอน อยู่ที่ตัวเราเอง ฟังแล้ว ปฏิบัติหรือไม่ ให้กำหนดจิตให้เป็นสมาธิ รู้หายใจเข้า รู้หายใจออก ให้เป็นสมาธิ เพื่อตัดกิเลส กิเลส(โทสะ) ความโกรธ อย่าให้เกิดในจิต ฆ่าความโกรธ ก็นอนเป็นสุข นั่งก็เป็นสุข ตื่นก็เป็นสุข โกรธเค้า เค้าโกรธเรา ต่างก็เลว ต่างคนต่างไม่โกรธก็ดี การนินทา สรรเสริญเป็นธรรมดาของโลก การรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้หวังดีอาจจะกลายเป็นหวังร้าย สร้างความเสียหายต่อผู้มีกิเลส ให้ระมัดระวังอารมณ์ของความโกรธ ทำงานให้ครบถ้วนในปัจจุบัน ทำให้ดี ให้ถือคำว่าช่างมัน ใครชม ใครนินทาว่าร้าย ให้ใช้ว่าช่างมัน อยู่ที่การกระทำของตัวเรา
ขอขอบคุณ พี่แมว ที่แบ่งเบาภาระในการจัดส่งองค์พีระมิดจำลองรุ่นท่านท้าวเวชสุวรรณ และ จี้สฟิงซ์ให้ลูกหลานบ้านสวนฯ
ขออนุโมทนาบุญ กับ ลูกหลานบ้านสวนฯทุกท่านที่ได้ไปใช้แรงกายในการขุดดิน และ ทำงานการเกษตร ที่บ้านสวนพีระมิด ครับ
สาธุ สาธุ สาธุ
|