กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล
และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ
ขอน้อมกราบพระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ ท่านดตาจินิน และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด
ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป
ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร
เย็นนี้ ได้ดูคลิปของวันที่ 4 พฤศจิกายน 2555
"สร้างบุญเต็มกำลัง ก็เกิดผลปาฎิหาริย์ ขัดบัญชาสวรรค์ ปาฏิหาริย์ก็ไม่เกิด"
การแบ่งกลุ่ม ทำ workshop
กลุ่ม คุณกุหลาบ ได้ไปทำความสะอาดวิหารเรือนไม้ไผ่
น้องผู้หญิง ซึ่งมีปัญหาเรื่องเกลื้อน มาเกือบ 3 เดือน ทำงานเสร็จ เกลื้อนก็หาย
พี่ผู้หญิงที่มีปัญหา ผดผื่น คันตามมือ ก็หาย100%
น้องผู้หญิงที่มีปัญหา คันมือ ใช้ระหัส"อาจารย์อุบลช่วยด้วย" ทำงานเพียง 30 นาที ก็หายคันมือ
พี่ผู้หญิง ที่มีปัญหาเรื่องคันและเป็นฝ้า มาเกือบ สองสามเดือน ทำงานไปประมาณชั่วโมงกว่าๆ ฝ้าก็จาง หน้าไม่คัน
พี่ผู้หญิง ที่มีปัญหาปวดหัวไหล่ เมื่อทำงานเสร็จ หายปวดไปเกือบ เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ เมื่อออกมาพูด ก็หายเป็นปกติ
คุณครูมิ้ม หน้าเป็นสิว มีรอยแดง ระคายเคืองที่ใบหน้า เมื่อทำงานเสร็๋จ สิวก็แห้ง หายไปเกือบ เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์
พี่ผู้หญิง มีปัญหาเป็นภูมิแพ้ ผื่นแดง คันมาก เป็นมาเกือบสี่ปี ต้องทายามาตลอด ไม่ทานยาก็มีอาการ ทำงานแค่ครึ่งชั่วโมง ก็หายจากปัญหาต่างๆ
คุณแม่อุบล ได้กล่าวเพิ่มเติมให้ฟังว่า ปัญหาผิวพรรณ สาเหตุเกิดจาก ระงับความโกรธไม่ได้ เคยฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อย เช่น ยุง แมลงต่างๆ ปากร้าย ปากจัด ทำผิดศีลข้อสี่ โกหกปลิ้นปล้อนตอแหล
ปัญหาการเงิน เกิดจากการลักทรัพย์ ไม่ชอบทำบุญ เอาของวัดกลับบ้าน ชอบของฟรี เอาของที่ทำงานกลับไปใช้ที่บ้าน
ให้แก้ที่ต้นเหตุ ให้ทำบุญ ก็จะสามารถปลดกรรมได้ แต่ ถ้าทำแต่บาปก็ไม่มีทางปลดล๊อคได้
กลุ่มต่อมา ได้ไปขุดดิน
พี่ผู้หญิง ที่ปวดขา เมื่อทำงานเสร็จ ก็หายปวดขา
คุณป้าถนอม ปวดเข่า สี่ห้าปี ปวดไหล่ปวดสะโพกมาสักหนึ่งปี ทำงานเสร็จก็หายปวด
คุณป้า ปวดขามาหนึ่งปี มาขุดดิน ก็หายปวด
คุณป้า ปวดขา ปวดเอว ปวดสะโพก ขุดดินแล้ว อาการปวดที่ขาหาย แต่เท้ายังปวดอยู่ คุณแม่บอกกว่า คุณป้าเคยถีบผัว ถีบลูก เมื่อยอมรับ อาการที่ปวดขาก็หาย
คุณป้า ที่มีปัญหาปวดโคนแขน มาเกือบหนึ่งเดือน ปวดหัวเข่า ทำงานแล้วดีขึ้น แต่หัวไหล่ยังมีอาการขัดๆ คุณแม่สอบถามว่า เคยตีลูก ทุบหัวปลา เคยลักขโมยไหม หันเท้าไปทางพระไหม เมื่อยอมรับว่าเคยทำ อาการก็หาย
คุณป้า ที่มีปัญหาปวดเอว ปากเป็นฝ้าขาวๆ ไปขุดดิน ปัญหาปวดเอวดีขึ้น ปัญหาที่ปากก็ดีขึ้น คุณแม่บอกว่า ป้าด่าเก่ง โกหกเก่ง ก็เลยมีปัญหาเรื่องปาก
แต่กลุ่มนี้ คุณแม่ได้ บอกกล่าวว่า ทำงานไม่ค่อยเต็มที่ ยังกลัวร้อน กลัวเหนื่อย ลูกกลุ่มเลยได้รับผลไม่เต็มร้อย
หัวหน้ากลุ่ม ไม่เข้มแข็ง จึงไม่บรรลุเป้าหมาย ลูกกลุ่มก็ไม่ทุ่มเทกำลังใจในการทำงาน เลยรับผลที่ไม่ค่อยจะหาย
กลุ่มด๊อกเตอร์จิ๋ม ไปขุดดิน
คุณชัยรัตน์ ปวดหลัง ปวดคอ ทำงานไป ยี่สิบนาที ก็หายจากการปวด แต่มีปัญหาเรื่องไขมัน คุณแม่บอกว่า เลิกโกรธ ปัญหาเรื่องไขมัน ก็จะหายไปได้
คุณดวงเดือน มีปัญหาปวดหลัง มาสองสามปีแล้ว แต่เมื่อมาขุดดิน ไปสักสี่สิบนาที ก็หายปวด ทำงานก็ไม่เหน็ดเหนื่อย
คุณลุงชัน ปวดท้อง ชาขา ขุดดินแล้วก็ดีขึ้น พอออกมาเล่า ก็หายไปเกือบแปดสิบเปอร์เซ็นต์
คุณป้าสุพิน ปวดเอวมาเกือบสามปี ปวดคอ ปวดไหล่ มีลมในท้องทำให้ท้องบวม ทำงานแล้วดีขึ้น เมื่อออกมาพูด ปัญหาต่างก็หมดไป
คุณทัศนีย์ ปวดหลัง ปวดช่องท้อง ปวดทั้งตัว คุณแม่บอกว่า คุณทัศนีย์ทำกรรมแยะและหนัก เพราะ ฆ่าอีเห็น ฆ่ากระรอก ฆ่างู เคยทำแท้ง เมื่อเล่าแล้ว อาการก็ดีขึ้นเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์
คุณจั๊ม(น้องด๊อกเตอร์จิ๋ม) ปวดไหล่ เมื่อทำงานไปประมาณ สี่สิบนาทีก็หายปวดไหล่ แต่เล่าว่ามีอาการหายใจไม่ออก คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า ที่เป็นเช่นนั้น เพราะ ด๊อกเตอร์จิ๋ม ให้ คุณจั๊ม เอาจี้ไปทำกรอบ แต่เมื่อได้มาแล้ว และ พบด๊อกเตอร์จิ๋มแล้ว คุณจั๊ม ไม่ยอมถอดจี้องค์สฟิงซ์ของด๊อกเตอร์จิ๋มคืนให้ ทำให้เกิดอาการหายใจไม่ออก
ด๊อกเตอร์จิ๋็ม บอกว่า เมื่อมาใช้แรงกายและสวมจี้สฟิงซ์ รุ่น 3 โพธิ์ศรี ทำให้เดินตรงขึ้น และ รู้สึกว่า รองเท้าที่เคยสวมเดินของตนเองทุกครั้ง นั้น มีความรู้สึกว่า สูงขึ้น(คุณแม่บอกว่า กระดูกที่เท้าเริ่มยาวเท่ากับเท้าอีกข้างแล้ว)
พี่ผู้หญิง ที่มีปัญหาเรื่องปวดหัว ปวดหลัง ปวดหัว ก็หายเกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ปวดหลังไม่หาย คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า เคยตีลูก
คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า การปวดหัว ปวดไหล่ นั้น เกิดจากกรรมที่เคยฆ่าสัตว์ ทำแท้ง มีความคิดอยากให้คนอื่นตาย เคยใช้ยาฆ่าแมลง
กลุ่มของคุณป้อม มีปัญหาปวดหัว ปวดฟัน ปัญหาทางการเงิน ภูมิแพ้ ปวดหลัง มีความดันโลหิตสูง มีอาการเหนื่อยง่าย เวียนศีรษะ ซึ่ง คุณป้อมได้บอกกล่าวว่า ลูกหลานบ้านสวนฯ คนใดที่เคยรับปากกับคุณแม่ ว่าจะไม่ทำสิ่งอันเป็นเหตุให้เกิดทุกข์แล้ว กลับไปทำอีก อาการที่เจ็บป่วย ก็จะกลับมาเป็นอีก พร้อมกับ จะมีอาการหนักขึ้น
ช่วงรับบารมีของจี้สฟิงซ์ รุ่น 3 ร่มโพธิ์ศรี
พี่ผู้หญิง ซึ่งเป็นนักข่าวของTNN ได้ออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองปวดบ่า แต่ตนเองก็สวมจี้สฟิงซ์รุ่นพระบารมีพระศรีอาริย์ คุณแม่ได้สอบถามว่า เคยมีอาการจิตแวบไหม พี่เค้าก็ยอมรับ เมื่อให้มองจี้สฟิงซ์แค่ ห้าวินาที อาการที่ปวดก็หาย
พี่ผู้หญิง อีกคนหนึ่ง มีอาการปวดต้นคอ เมื่ออยู่ห่างจากคุณแม่ ดีขึ้น พอห่างประมาณ สองเมตรครึ่ง ก็ดีขึ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์ พอห่างประมาณ สองเมตร อาการดีขึ้น แปดสิบเปอร์เซ็นต์ เมื่อมานั่งใกล้ๆคุณแม่ก็ดีขึ้นถึง เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ พอมองจี้สฟิงซ์ แค่แปดวินาที ก็หายปวด
อาจารย์อภิชัย ซึ่งเคยมีอาการเท้าบวมและตึง บอกเล่าว่า เคยไปเขียนแบบที่วัดในประเทศอังกฤษ แต่ไม่ได้ขอขมาต่อพระประธาน ก่อนขึ้นไปวาดแบบ ขึ้นไปนั่งอยู่เหนือองค์ท่านเลย
ซึ่งคุณแม่ได้บอกว่า อาการเท้าบวมตึง จะหายได้ ต่อเมื่อ ทำการสร้างพระ ซึ่งอาการก็หายไประยะหนึ่งแล้ว แต่กลับมาบวมอีกครั้ง เกิดจากการที่ได้ไปทุบพระหัตถ์ของพระปฐมบรมธรรมบิดา และ ใช้เท้าเขี่ยผงปูนที่ร่วงหล่นจากการทุบพระหัตถ์ของพระองค์ท่าน ทำให้เท้าบวม มีอาการปวดที่ไหล่
แต่ตอนนี้ อาการเท้าที่่บวมยุบหายไปแล้ว
คุณพิมพ์ประพันธ์ เดินทางมาจากจังหวัดระยอง ออกมาบอกเล่าว่า ตนเองเป็นไตวายระยะสุดท้าย ต้องทำการฟอกเลือด อาทิตย์ละสองครั้ง แต่ดูรายการคุยไปแจกไป ก็เกิดศรัทธา อนุโมทนาหน้าจอ อาการก็ดีขึ้น มีโอกาสก็แวะมาบ้านสวนฯ และ เมื่อเข้ามาแล้ว รู้สึกปลื้มปิติ รู้สึกสดชื่น หายใจได้เต็มปอด เมื่อมาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ ก็เริ่มมีความหวัง ก่อนหน้านั้ิน เวลาทำงานรู้สึกเหนื่อย เมื่อมาทำงานที่บ้านสวนฯ ก็ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย หายใจได้ไม่ติดขัด มีเรี่ยวแรง
กลุ่มคุณก๊อต มีปัญหาเรื่องเจ็บป่วยหนัก ภูมิแพ้ มีปัญหาการเงิน ทำความสะอาดลานจอดรถ ทำงานเกษตร งานก่อสร้าง
พี่ดารา มีปัญหาความดันสูง ปัญหาการเงิน
พี่มงคล มีปัญหาภูมิแพ้ คันผิวหนังบริเวณเท้าขวา ปัญหาการเงิน
คุณยุวรัตน์ เป็นภูมิแพ้ มีปัญหาการเงิน
คุณจารุวรรณ เป็นไวรัสตับอักเสบบี มีปัญหาการเงิน
คุณก๊อต มีปัญหาการเงิน และ ปัญหาเรื่องปัญญา
คุณแม่ได้บอกกล่าวให้ฟังว่า เมื่อคุณแม่ได้บอกให้ทำอะไร ก็ไม่ค่อยอยากทำตามที่คุณแม่บอกให้ทำ นั้นก็คือ การขัดบัญชาสวรรค์ ทำให้ได้ผลตอบรับในเรื่องปัญหาต่างไม่ค่อยเต็มร้อยกันสักคน
คุณแม่ได้บอกว่า ท่านมเหสักขา ท่านทำหน้าที่ในการบันทึกบัญชีความดีของมนุษย์แล้วรายงานต่อพระอินทร์
ท่านท้าวเวชสุวรรณ ท่านทำหน้าที่ในการบันทึกความชั่วของมนุษย์ แต่ท่านก็มีความเมตตาในการตักเตือน เวลาที่เรากระทำสิ่งที่ไม่ดี ท่านก็ทำให้เราได้รับความเจ็บป่วย แล้วให้เราค้นหาสาเหตุ แล้วแก้ไขตนเอง
กลุ่มพี่อมร ได้รับเคสปัญหากรรมหนัก เจ็บป่วยหนัก
คุณทัศนีย์ ปวดหัว ปวดมือ
แม่เล็ก ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดหัว(คุณแม่บอกว่า ในอดีตชาติ แม่เล็กฆ่าคนมาแยะ)
แม่ทองดี ปวดหัว
คุณตาโต๊ะ มีปัญหาสายตายาว
คุณพิชัย มาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้คุณแม่ของพี่เค้า
คุณอมร ออกมาบอกกล่าวว่า มีปัญหาเคล็ดยอก ซึ่งไปพิจารณากรรมด้วยตนเอง ก็พบว่า ใช้ของแล้วไม่นำไปเก็บไว้ เมื่อนำของที่ตนเองนำออกมา ไปจัดเก็บให้เรียบร้อย ก็หายจากการยอก
สำหรับ คุณทัศนีย์ นั้น คุณแม่ได้บอกกล่าวว่า คุณทัศนีย์ ทำผิดศีลระดับจุลศีล แต่เป็นบาปที่ค่อนข้างหนัก เพราะ ไปฆ่าสัตว์ที่พระพุทธองค์ทรงห้ามไว้ คือ ฆ่าเต่า ฆ่าตะพาบ ฆ่าเสือ ฆ่าจระเข้ ฆ่าช้าง โดยพี่เค้าฆ่าเต่า โดยการเอาไฟเผา ฆ่าตะพาบ โดยการตัดคอแล้วเอาไปลวกน้ำร้อน ฆ่าอีเห็น โดยการจับใส่กรง แล้วเอาไปถ่วงน้ำให้ตาย จึงทำให้การปลดล๊อคกรรมยากกว่าคนอื่นๆ ทำให้อาการที่เป็นทรง และ บางครั้งก็เป็นมากกว่าเดิม แม้นมาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ
คุณแม่ยังบอกกล่าวว่า ความหงุดหงิด ทำให้เราจน และ มีปัญหาอุปสรรคไม่คลี่คลาย
และ กล่าวเพิ่มเติมว่า คนที่เค้ามีภาวะผู้นำนั้น จะดิ้นรนหางานทำ โดยไม่ต้องมีคนมาบอกกล่าวให้ทำ
แต่ คนที่ขาดภาวะผู้นำนั้น จะรอคำสั่ง จะไม่เริ่มต้นทำงานอะไรด้วยตนเอง และ เมื่อรับคำสั่งมาแล้ว ก็ทำแบบขอไปที ทำแบบไร้จิตวิญญาณ
กลุ่มอาจารย์พัน รับเคสปัญหา ขาดปัญญา
ซึ่งอาจารย์พัน ได้บอกกล่าวให้ฟังว่า ปัญญาเกิดจากการลงมือกระทำ แค่การดูแล้วไม่ลงมือทำ ไม่ก่อให้เกิดปัญญา ท่านยกตัวอย่าง
ถ้าเราไปทำแปลงเกษตร แล้วเห็นหญ้าขี้นและเป็นหญ้าที่ขึ้นยาวแล้ว ควรทำอย่างไร(ทำแบบใช้ปัญญา)
ก็ปรากฎว่า มีคนที่ทำโดยใช้ปัญญาได้แค่คนเดียวจากทั้งกลุ่ม
ซึ่งอาจารย์พัน ได้บอกกล่าวว่า การกำจัดหญ้าที่ถูกต้องนั้นคือ ทำการขุดให้เป็นดินก้อนใหญ่ แล้วพลิกกลับด้านเสีย ต้นหญ้าที่ยาวๆก็ตายแล้วเป็นปุ๋ย หรือ ทำให้ต้นหญ้าที่ยาวๆนั้นล้มลงไปก่อน แล้วนำดินที่ขุดมานั้นมากลบทับต้นหญ้า ก็ตายเป็นปุ๋ยไป
คุณแม่ได้บอกกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหานั้นเกิดจาก การสอนแล้วไม่ยอมทำตาม ขาดความกระตือรือร้นที่จะกระทำ คนเราทำงาน ต้องทำงาน อย่างมีเป้าหมาย ทำอะไรอย่าทำตัวอ้อยอิ่ง
อย่าทำตนเองให้เป็น น้ำที่ล้นแก้ว น้ำมันล้นนักก็เทออกเสียบ้าง อย่าทำตนเองเป็นคนฉลาด มีภูมิปัญญาสูง เค้าสั่งให้ทำอะไร ก็ทำไป ทำไปอย่างคนโง่ๆ รับคำสั่งมา ก็ทำไปก่อน
คุณธนา ออกมาสรุปถึงผลการทำงานของลูกหลานบ้านสวนฯ ว่า
มีความกระชุ่มกระชวยขึ้นมามากกว่าวันเสาร์ เนื่องจาก มีการเปลี่ยนฐาน แต่เวลาทำงานในแต่ละฐาน ขอให้รักษาเวลา อย่าทำช้า ทำให้กลุ่มอื่นๆต้องมารอ
มีความอึดในการทำงานมากกว่าเดิม เพราะ มีสุขภาพที่ดีขึ้น
ลูกทีม เริ่มรู้จักการเปลี่ยนฐาน ว่า หลังจากฐานนี้แล้ว จะไปฐานใดต่อ ซึ่งวิธีการมีผลต่อการเปลี่ยนแปลง เพราะ เห็นว่า เมื่อมีหลายฐานให้ทำ ก็สามารถทำงานได้ดีขึ้น กว่า การที่ให้ทำแค่ฐานเดียว ทำให้เหนื่อย เพราะ ลุ้นอยากให้งานเสร็จ
คุณแม่ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่ยังปลดล๊อคกรรมไม่ได้นั้น ก็ต้องพิจารณาว่า เมื่อไม่ทำตามที่บอกกล่าว ซึ่้งเป็นขัดต่อบัญชาสวรรค์ บอกให้ทำอย่างนี้ แต่อยากไปทำแบบที่ตนเองคิด ทำตามปัญญาของตนเอง ก็ไม่สามารถปลดล๊อคกรรมได้ ก็ได้เห็นแล้วว่า บางคนก็ปลดได้ บางคนก็ปลดไม่ได้
เมื่อเราปลดล๊อคกรรมของเราได้ เราก็จะได้พบพระศรีอาริย์ตัวจริง
เพราะฉะนั้น ให้ทำอะไร ก็ทำไป ทำไปอย่างคนโง่ๆ และ ให้มีวินัยในการทำงาน เป็นคนตรงเวลา
ขอขอบคุณ พี่ประวีณา(พี่แมว) ที่เป็นธุระในการจัดส่งองค์พีระมิดจำลอง รุ่นท่านท้าวเวชสุวรรณ และ จัดส่งจี้สฟิงซ์ให้กับลูกหลานบ้านสวนฯ
ขออนุโมทนาบุญ กับ ลูกหลานบ้านสวนฯในการทำงานในการจัดเตรียมพื้นที่ในการก่อสร้าง และ ทำงานเกษตร
ขอกราบต่อธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในการเทศน์เรื่องนิพพาน ซึ่งเป็นทางแห่งความสุขอย่างยิ่ง คำว่าสูญ ที่แปลว่า ว่าง และ การจะว่างได้นั้น ก็คือ ว่างจากโลภะ โทสะ โมหะ นั้นคือว่างจากกิเลสทั้งปวง
สาธุ สาธุ สาธุ |