กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล
และ สวัสดี เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ
ขอน้อมกราบต่อ พระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ องค์สฟิงซ์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด
ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป
ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร เวปมาสเตอร์บ้านสวนพีระมิด
เย็นนี้ ได้ดูคลิป ของวันที่ 23 ธันวาคม 2555
"กิจกรรมธรรมะบำบัด ปลดล๊อกกรรม ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม"
ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล ที่นำเพลงอวยพรปีใหม่ ให้กับลูกหลานบ้านสวนฯ เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ปี 56 ใน ตอนเริ่มรายการ ครับ
ความรัก ความเมตตา ความปรารถนาที่อยากให้ทุกคนบนโลกนี้ ได้พ้นจากความเจ็บความปวดทางร่างกาย ทางจิตใจ หลุดพ้นจากปัญหา การงาน การเงิน ความรัก ด้วยการให้ค้นหาเหตุแห่งทุกข์ และ เชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม รักษาศีล ทาน ภาวนา และ นำคำสอน และ ธรรมะ ของพระพุทธองค์มาเผยแพร่ให้ลูกหลานบ้านสวนฯ และ ผู้คนมาโดยตลอด
ผม ที่เป็นลูกหลานบ้านสวนฯ ก็รู้สึกสำนึกในความรักและความเมตตาของ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล และ คุณท๊อป มาโดยตลอด ก็ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งสากลโลก สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด อำนวยอวยพรให้ คุณแม่ และ ครอบครัว"ศุภาเดชาภรณ์ " มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ เป็นร่มไม้ชายคาให้ลูกหลานบ้านสวนฯ และ ผู้คนทั่วโลก เพื่อ การเผยแพร่ พระธรรม คำสอน ของพระพุทธองค์ ตลอดกาลนาน ครับ
ขอขอบคุณ หนังสือบางกอกโพสต์ ที่มาสัมภาษณ์ คุณแม่อุบล ที่บ้านสวนพีระมิด ในเรื่อง รหัสจักรวาล "อาจารย์อุบลช่วยด้วย" และ จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี แค่มองก็หายเจ็บป่วยได้ทันที ซึ่งเริ่มออกอากาศ วันพุธ ที่ 7 พ.ย. 55
ขอขอบคุณ สำนักวิทยบริการ ร่วมกับ สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ที่เรียนเชิญ คุณแม่อุบล ได้ไปบรรยายธรรมะที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ครับ
โดย รศ. เบญจรัตน์ สีทองสุก ได้กล่าวในรายงานของการจัดกิจกรรมการบรรยาย ในครั้งนี้ว่า ท่าน รศ.เบญจรัตน์ ได้เคยมาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯมาก่อน และ ได้เป็นผู้นำ นำบุคคลากรของมหาวิทยาลัย มาทำกิจกรรม ที่บ้านสวนฯ และ ผลปรากฎว่า บุคคลากรที่ได้มาพิสูจน์ในเรื่องกฎแห่งกรรม และ ทราบเหตุแห่งทุกข์ และ สำนึกผิดของการกระทำของตนเอง และ ไม่กระทำผิดอีก ก็หายเจ็บหายปวด หลุดพ้นจากความทุกข์ทางการเงิน การงาน เป็นจำนวนมาก
ท่าน รศ. เบญจรัตน์ ได้กล่าวว่า จุดมุ่งหมายของการเชิญ คุณแม่อุบล มาบรรยายธรรมะ ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ เพื่อ ให้บุคคลกรในหน่วยงาน เป็นคนดี คนเก่ง มีคุณธรรม มีจริยธรรม มีความซื่อสัตย์ ดำรงชีวิตอยู่ในกรอบของศีลธรรม อุทิศตนให้ส่วนรวม ทำให้องค์กรและประเทศรุ่งเรือง และ ให้ผู้คนที่ร่วมกิจกรรม มีความรู้ ความเข้าใจ วิธีการดำเนินชีวิตในกรอบศีลธรรม ให้ทราบและเข้าใจ การกระทำของมนุษย์ที่มีผลกระทบต่อธรรมชาติ และ ได้รับการปลดล๊อกกรรม โดยใช้ธรรมะบำบัด ในการแก้ปัญหา ที่ประสบ และ เตรียมกาย เตรียมใจ สู้ภัยพิบัติ
ท่านอธิการบดี ของ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ได้กล่าวเปิดงานว่า ท่านได้เคยชมรายการ "คุยไปแจกไป" ของ คุณแม่อุบลมาก่อน และ รู้สึกชื่นชม ในตัวคุณแม่อุบล เพราะ คุณแม่ได้บอกกล่าวในรายการว่า ตนเองเป็นคนที่เคยทำความผิด ความไม่ดีมาก่อน ให้ผู้อื่นได้รับทราบ และ ค้นพบ เหตุแห่งความทุกข์ของตนเอง และ ท่านอธิการบดี ก็มีความยินดีที่ คุณแม่มาบรรยายธรรมในครั้งนี้ เพราะ ท่านอธิการบดี เคยบวชช่วงสั้นๆ มาถึง 3 ครั้ง เพื่อทำให้จิตใจสงบ และ ท่านเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม
คุณแม่อุบล ได้กล่าวว่า คุณแม่ ก็ไม่เคยคิดจะออกมาบรรยายธรรมะ นอกสถานที่ เพราะ การเผยแพร่ธรรมะที่บ้านสวนฯ ก็มีสิ่งที่ต้องทำมากมาย แต่ เพื่อลูกหลานบ้านสวนฯ และ มวลมนุษย์ คุณแม่ก็อยากให้ผู้คนได้พบหนทางแห่งการพ้นทุกข์ โดยการพิสูจน์กฎแห่งกรรม โดยต้องมี คุณธรรม จริยธรรม และ ธรรมะอยู่ในจิตใจ
คุณแม่ได้ สอบถามผู้มาร่วมกิจกรรมในวันนั้นว่า มีใครทุกข์จากการเจ็บป่วยทางกาย ทางใจ ทุกข์จากปัญหาทางการงาน การเงิน และ ทุกข์จากความรัก ก็มีผู้คนจำนวนมากที่ต่างยกมือขึ้น ในแต่ละปัญหาของตนเอง
คุณแม่ได้ บอกกล่าวว่า ก่อนหน้านั้น คุณแม่ก็ตามหาพระศรีอาริย์ ก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติ แต่ก็ยังตามหาไม่พบ
คุณพ่อมงคล จึงได้เสนอความคิดว่า ทำไม คุณแม่ไม่อาราธนาบารมีของพระศรีอาริย์ คุณแม่จึงได้พิสูจน์ว่า ถ้าพระศรีอาริย์มีจริง ก็ขอบารมีของพระศรีอาริย์ มาสถิต ณ กาย วาจา ใจ ของคุณแม่ ในวันที่ไปทำการเผยแพร่ธรรมะ ที่ มหาวิทยาลัยมหิดล และ ทำให้ ผู้ที่เจ็บป่วย ด้วยการทำการบำบัดด้วยวิธีต่างๆ แล้วไม่หายเจ็บหายปวด ขึ้นมาบนเวที เพื่อสัมผัสพระบารมีของพระศรีอาริย์ ที่มาสถิต ณ กาย วาจา ใจ ของ คุณแม่อุบล และ หายเจ็บหายปวดได้ ซึ่ง ทุกคนที่ได้สัมผัสพระบารมีของพระศรีอาริย์ ต่างก็หายกันถ้วนหน้า บ้างก็แค่รออยู่ในแถว หรือ แค่เดินผ่านคุณแม่อุบล ที่ได้อาราธนาพระบารทีของพระศรีอาริย์ มาสถิต ณ กาย วาจา ใจ ของคุณแม่ บนเวที
คุณแม่อุบล ได้บอกกล่าวว่า ถ้าเราทำตัวให้เป็นคนปกติธรรมดา ทุกคนก็จะมีร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย ถ้าทำใจให้ปกติ ใจก็จะสงบ เมื่อ คุณแม่ถามถึงสิ่งเร่งด่วน ที่ทุกคนต้องการ ทุกคนก็อยากให้ร่างกายของตนเองปกติ
คุณแม่อุบล ได้กล่าวถึง ที่คุณธนา ได้สอบถามว่า ทำไมทำให้ผู้คนหายเจ็บหายปวดได้ แค่ พูด "หายนะลูก" ก็หายได้ แตะตัวก็หายได้ แค่เดินผ่านคุณแม่ที่อาราธนาพระบารมีพระศรีอาริย์ มา สถิต ณ กาย วาจา ใจ ของ คุณแม่ ก็หายได้ กราบคุณแม่อุบลก็หายได้ ต่อมาก็แค่กราบรูปของคุณแม่อุบลก็หายได้
คุณแม่อุบล ได้กล่าวว่า พระพุทธองค์ ท่านได้สอนว่า ถ้าคนเราทำบุญ ให้มีความบริสุทธิ์ 3 อย่าง คือ มีศรัทธาที่บริสุทธิ์ วัตถุทานที่บริสุทธิ์ และ เนื้อนาบุญที่บริสุทธิ์ อนิสงค์จะเกิดฉับพลันทันที ในวันนั้นเลย
คุณแม่ได้สอบถาม ผู้ที่มีอาการเจ็บปวดที่ขึ้นมาบนเวที ว่า มีความศรัทธาในตัวคุณแม่ไหม ซึ่ง แต่ละคนต่างก็มีความศรัทธา แตกต่างกัน ซึ่งก็มีผลทำให้ความเจ็บปวดหายแตกต่างกัน เมื่อ คุณแม่อุบล ได้ใช้ คำพูด"หายนะลูก" เช่น
พี่ผู้หญิงที่มีอาการมึนหัว ก็มีอาการโล่งขึ้นเกือบ 50% คุณแม่บอกว่าที่หายไม่หมด เนื่องจาก อาจจะเกิดจากการมีอนันตริยกรรม คือ การทำผิดศีลมากกว่า 5 ข้อ นั้นคือ การที่เคยทำร้ายหัวผู้อื่น ซึ่ง พี่ผู้หญิงก็สารภาพว่า เคยทุบหัวปลา แต่ไม่เคยตีหัวคน อาการมึนหัวก็ดีขึ้น
พี่ผู้หญิงที่มีอาการปวดแขน ก็ดีขึ้น เกือบ 30% เพราะ ยังไม่ค่อยศรัทธาเต็มร้อย
น้องนักศึกษาที่มีอาการเจ็บคอ เนื่องจากภูมิแพ้ ก็หายเจ็บคอ 100% เนื่องจากน้องเค้ามีความศรัทธาเต็มร้อย
น้องผู้ชายที่อยู่ข้างล่างเวที ก็หายเจ็บคอ เมื่อได้สาธุ (มีใจพลอยยินดี) กับ น้องผู้หญิงที่หายจากการเจ็บคอบนเวที
ต่อมา คุณแม่ได้สอบถามว่า มีใครที่เจ็บป่วยร่างกายแต่เป็นเจ็บภายนอกไหม และ เป็นอาการที่ยังเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้เท่านั้น
โดย คุณแม่ให้ใช้ รหัส "อาจารย์อุบลช่วยด้วย" ซึ่งใช้ในกรณีฉุกเฉิน เจ็บปวดทรมาน ซึ่งนำไปใช้ที่ใดๆก็ได้ โดยไม่ต้องใช้การบำบัดจากคุณแม่ซึ่งสามารถใช้ช่วยบรรเทาความเจ็บปวด แต่ ขอให้ใช้ด้วยความศรัทธา และ ลองใช้ด้วยการไม่ลบหลู่
พี่ผู้หญิงที่มีอาการปวดขา มาเกือบ 10 ปี ใช้รหัสแล้ว อาการปวดขาดีขึ้นเกือบ 50%
พี่ผู้หญิงที่มีอาการปวดนิ้วมือ ก็ดีขึ้น 50%(คุณแม่บอกว่าประตูจิตยังไม่เปิด) แสดงว่า ศรัทธายังไม่เต็มที่
พี่ผู้หญิงที่มีอาการปวดหัว และ แน่นหน้าอก อาการปวดหัวดีขึ้นตั้งแต่แรก แต่อาการแน่นหน้าอก เมื่อใช้รหัสแล้ว อาการก็หาย
คุณแม่อุบล ได้สาธิต การทำน้ำพลังพีระมิด โดยการนำพีระมิดจำลองในรุ่น บวงสรวงท่านท้าวเวชสุวรรณ รุ่นบวงสรวงพระปฐมบรมธรรมบิดา รุ่นมวลสารบ้านสวนพีระมิด รุ่นอาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ มาวางล้อมขวดที่ใส่น้ำเปล่าๆ เพื่อให้ลูกหลานบ้านสวนฯ ได้นำไปทำที่บ้านของตนเอง เพื่อดื่มกินล้างเซลล์ดำ กำจัดสิ่งไม่ดีในร่างกาย ทำให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ และ คุณแม่ได้บอกกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับคนที่ไม่มีพีระมิดจำลอง ให้ตั้งจิตคิดถึงคุณแม่ ก็สามารถทำน้ำพีระมิดได้
เมื่อ คุณแม่อุบล นำน้ำพีระมิด ที่ล้อมด้วยองค์พีระมิดจำลอง มาให้พี่ผู้หญิงทื่มีอาการกำมือแล้วคัน ทาที่มือที่มีอาการคัน ปรากฎว่า เมื่อทาน้ำพีระมิดแล้ว อาการคันก็หาย
พี่ผู้หญิงที่มีอาการปวดหัวเข่า เมื่อคุณแม่ให้เอาน้ำพีระมิดทาแล้ว อาการปวดหัวเข่าก็หายปวดได้
ขอขอบคุณรายการ "รู้ค่าพลังงาน" ที่ออกทางช่อง 3 ดำเนินรายการโดย ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ซึ่งได้เสนอนำ การนำขยะเปียกประเภทผักผลไม้ ที่จะเกิดการเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็น มาทำการหมักในถังหมัก ที่มีเชื้อแบคทีเรีย และ ทำให้เกิดเป็นก๊าซ ใช้ในการหุงต้มทำอาหาร ที่บ้านสวนพีระมิด และ นำน้ำหมักที่ได้ มาทำเป็นปุ๋ยใส่พืชผักได้
และ อานุภาพของจี้สฟิงซ์ แค่ถือในมือ ก็หายเจ็บ หายปวดได้
และ คุณแม่ได้กล่าวถึงอานุภาพของจี้สฟิงซ์ที่มีความพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ ตามลำดับ
ขอน้อมกราบ ต่อธรรมะของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ที่ท่านได้กล่าวถึง ความไม่อนิจจังของร่างกายของเรา ที่ธาตุดินเริ่มทรุดลงไปทุกวัน ซึ่งท่านได้กล่าวถึง ความแก่ 3 ประการ คือ
ความแก่บน คือ ผมหงอก หูฝ้า ตาฟาง ฟันหัก ฟันหลอ ซึ่งทุกคนก็ยอมรับได้
ความแก่ล่าง คือ เท้าเดินไม่ไหว ยันไม่อยู่ เดินเซไปเซมา ทุกคนยอมรับได้
แต่ ความแก่กลาง คือ ใจ เราไม่ยอมแก่ ทำให้ขาดสติสัมปชัญญะ ทำให้จิตไม่ระลึกถึงความตาย
หลวงพ่อกล่าวว่า ถ้าร่างกายเราเที่ยง เราก็ต้องเป็นเด็ก ตลอดไปได้ แต่ เพราะ ไม่เที่ยง รางกายนี้จะสุขหรือทุกข์ เมื่อไม่มีการทรงตัว
สาธุ สาธุ สาธุ
ขออนุโมทนาบุญ กับ เพื่อนๆ พี่ๆ ที่มาใช้แรงกาย สิ่งของ ปัจจัย ที่บ้านสวนพีระมิด ครับ
|