กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล
และ ขอสวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ
ขอน้อมกราบต่อพระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หสวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ องค์สฟิงซ์ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด
ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป
ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร เวปมาสเตอร์
คืนนี้ ได้ดูคลิปของวันที่ 13 มกราคม 2556
"พิสูจน์ อภิญญาบารมี ด้วยตนเอง ณ บ้านสวนพีระมิด"
ขอขอบคุณ หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ที่ได้มาสัมภาษณ์ คุณแม่อุบล ที่บ้านสวนพีระมิด ในเรื่อง จี้สฟิงซ์ แค่มองก็หายเจ็บหายปวดได้
คุณแม่อุบล ท่านได้กล่าวให้ลูกหลานบ้านสวนฯ ได้ฟังว่า อานิสงค์ของการรักษาศีล5 และ การปิดนรกทั้ง 5 ขุม ได้ ท่านจะได้เป็นพระโสดาปฏิมรรค
คุณแม่ได้สอบถาม ท่านอาจารย์ที่สอนวิชาพุทธศาสนา ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐมว่า นิพพาน แปลว่าอะไร
ท่านอาจารย์ ท่านก็ได้ตอบแบบวิชาการว่า คือการดับกิเลส ละความโลภ โกรธ หลง และ ทำให้จิตให้สงบ
คุณแม่อุบล ได้กล่าวว่า นิพพาน คือการพ้นทุกข์ทั้งปวง และ กล่าวว่า ท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้กล่าวไว้ว่า ใครที่ปรารถนาจะไปนิพพาน สามารถไปได้ทุกคน ยกเว้นแต่คนโง่ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้บอกว่า ท่านเป็นพระที่เลว เป็นพระที่ระยำ เป็นพระที่บ้า ท่านเล่าความไม่ดีของตนเองให้เป็นธรรมะทานให้คนอื่นได้ฟัง และ ท่านได้เขียนประวัติของตนเองไว้ในหนังสือ ประวัติของฉันและมโนมยิทธิ ท่านไม่ปรารถนาให้ใครมาเขียนประวัติของท่านตอนที่ท่านมรณภาพ ไม่ต้องมาอ่านประวัติตอนงานศพของท่าน เพราะว่า ท่านบอกว่า คนที่ตายไปแล้วไม่มีใครเอาความไม่ดีมาบอกกล่าวให้ใครฟังหรอก ทุกคนที่ตายไปแล้วเป็นคนดี ทำแต่ความดีทั้งนั้น ถึงแมัน ตอนมีชีวิตจะเป็นคนไม่ดีอย่างไร
คุณแม่อุบล ได้บอกกล่าวต่อไปว่า ท่านด๊อกเตอร์อาจอง ก็ให้นิยามของคำว่านิพพานว่า คือ ความจริง ผู้ใดที่กล้าพูดความจริงอย่างหมดเปลือก จะพ้นทุกข์ทั้งปวง และ ไปถึงนิพพานได้
คุณแม่อุบลได้กล่าวว่า เมื่อป่วยก็เป็นทุกข์ เมื่อจนก็ทุกข์ ให้หาสาเหตุแห่งทุกข์ และ ดับหาทางดับทุกข์
ท่านกล่าวว่า คนเราต้องมี หิริโอตัปปะ(เทวธรรม) ธรรมที่ทำให้คนเป็นเทวดา คือ ละอายต่อการทำบาป และ เกรงกลัวต่อผลของบาป เพราะ ถ้าเป็นเทวดาเมื่อหมดอายุขัย ก็ไม่พ้นการเกิด ต้องกลับมาเกิดเป็นคนอีก ถ้าเป็นพรหม ก็ยังคงมีการเวียนว่ายในวัฎจักรสงสาร ยกเว้นแต่เป็นชั้นดุสิตบุรี ซี่งรอการตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปฎิบัติจนเข้าสู่พระนิพพาน ซึ่งความตายเป็นสิ่งที่เที่ยงแท้แน่นอน แต่ตายเมื่อไรนั้นไม่แน่นอน ให้เรารักษาศีล5 ปรารถนาพระนิพพาน คิดว่าเราเกิดมาแล้วต้องตายกันทุกคน จะได้เป็นพระโสดาปฎิผลกันทุกคน ได้ไปสวรรค์ ไปพรหม อย่างแย่ที่สุด ก็กลับมาเกิดเป็นคน แต่จะไม่มีทุกข์ มีความมั่งคั่ง สมปรารถนาทุกประการ
คุณทัศนีย์ได้ออกมาบอกกล่าวว่าได้ทำworkshop และ บรรดาสมาชิกในกลุ่มต่างก็มีผลที่เกิดขึ้นกับตนเอง คือ
คุณเหมียวนั้นไม่มีปัญหาอะไร
คุณจิตงาม นั้นออกมาบอกกล่าวว่า ตนเองขากรรไกรค้าง เมื่อทำกิจกรรมทั้ง 2 วันสำเร็จแล้ว อาการที่ขากรรไกรค้างก็ดีขึ้น ทำให้อ้าปากได้กว้างขึ้นกว่าเดิม และ เมื่อได้ทานลูกอมอภิญญา อาการก็ดีขึ้นจนถึงเกือบ 70 %
คุณแม่อุบล ได้กล่าวถึงน้องฟลุ๊คที่เป็นเอดส์มาตั้งแต่เด็ก และ น้องเค้าได้กดไลท์ในเฟสบุ๊คของบ้านสวน และ ได้ทำการสารภาพบาปตามแบบบ้านสวนฯ ทำให้ผลการตรวจเลือด ออกมาเป็นค่าปกติ
คุณทัศนีย์ ได้บอกกล่าวว่า ตนเองเป็นนิ้วล๊อค ต้องทานยาคลายเส้น ต้องฉีดสเตอรอยด์ และได้สารภาพว่า เคยฆ่าเต่า ฆ่าตะพาบน้ำ โดยการนำไปเผาแล้วตัดคอ ฆ่าอีเห็นโดยการจับใส่กรงแล้วเอาไปถ่วงน้ำให้ตาย เคยฆ่ากระรอก เพื่อมาทำเป็นอาหาร เมื่อได้รับการอมลูกอม ทำให้นิ้วที่ล๊อกหายล๊อกและนิ้วหายบวม
ที่บ้านสวนพีระมิด คุณแม่อุบลให้ลูกหลานบ้านสวนฯ หยิบเอาลูกอมไปคนละ 3 เม็ด และ ให้นำมามอบคืนให้คุณแม่อุบล คนละ 1 เม็ด(เพื่อทำเป็นตัวส่ง) ให้เก็บไว้ที่ตนเอง 2 เม็ด เม็ดหนึ่งให้ทำเป็นตัวรับ และ อีกเม็ดเพื่อทำลูกอมอภิญญาบารมีด้วยตนเอง โดยไม่ต้องตั้งจิตอธิษฐานใดๆทั้งสิ้น เพราะ ลูกหลานบ้านสวนฯ ต่างก็เคยฝึกทำกสินมาแล้ว ฝึกทำทานให้เต็มกำลังมาแล้ว ได้ฝึกการรักษาศีลมาแล้ว ให้ใช้ผลของการที่ได้รับการฝึกมาในการทำลูกอมอภิญญา
เมื่อ คุณแม่ได้ให้แกะลูกอมที่ตนเองถือไว้และทำอภิญญาด้วยตนเอง ปรากฎว่า ทุกคนต่างออกมารายงานผลว่า
คุณเต้ อมแล้วอาการที่เย็นที่ศีรษะ ก็มีความอบอุ่น อาการปวดหัวก็ดีขึ้น
พี่อ้อย หายปวดคอ หายปวดแขน
พี่ผู้ชาย หายจากการหนาวที่เกิดจากความเย็นของแอร์
คุณธนา ก็หายจากการไอ ที่เกิดจากความเย็นที่ได้รับจากแอร์
คุณเหมียว ที่มีอาการปวดปัสสาวะ จนขนลุก เมื่อทานลูกอม ก็หายจากอาการปวดปัสสาวะ
คุณก้อย เสียงที่แหบ เจ็บคอ อมแล้วดีขึ้น ไม่ไอหลังจากอมลูกอม และ ยอมรับว่าตนเองเคยผิดศีลข้อ 4
คุณอัญ หายหนาว ร่างกายอบอุ่นขึ้น
คุณตุ้ย อมลูกอมแล้วหายหนาว อบอุ่นขึ้น
คุณเบส ร่างกายอบอุ่นขึ้นเมื่อได้อมลูกอม
น้องบัว เกิดอาการขนลุก ปากที่เคยคล้ำดำก็ดีขึ้น
คุณจ๋าว มือที่เคยแห้ง ก็มีเหงื่อออกมา
คุณเจี๊ยบ มีอาการคอตึง คอแข็ง
คุณแม่อุบลได้บอกกล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อป้องกันความสงสัยว่า เราจะเอาอะไรใส่ในลูกอม ที่เราแจกให้เพื่อนๆของเรา ก็ให้ลูกหลานบ้านสวนฯ แนะนำให้เพื่อนๆของตนเอง ได้นำลูกอมของเค้ามาเอง ให้ลูกหลานบ้านสวนแค่ถือไว้ในมือเท่านั้น แล้วส่งมอบคืนให้เค้านำไปอมเป็นลูกอมอภิญญา
เมื่อ คุณแม่ได้ให้นำลูกอมที่ได้รับการเชื่อมญาณจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และจากคุณแม่ ลองไปอมดูว่ามีอาการอย่างไรบ้าง
พี่อ้อย มีอาการขนลุกจนถึงศีรษะ ร่างกายเบาโล่ง สบายไม่มีความกังวลอะไรอีกเลย
พี่ผู้ชาย ออกมาบอกว่า ตนเองมีความรู้สึกหนักแน่น และ มีความมั่นใจเพิ่มขึ้น
น้องผู้ชายอีกคน ก็ออกมาบอกว่า ตนเองมีพลังงานอยู่ที่ศีรษะ
น้องผู้ชายอีกคน ก็ออกมาบอกว่า ตนเองขนลุก รู้สึกปิติ แขนที่ปวดก็หายไป
คุณแหล๋น มีอาการเลือดลมไหลได้สะดวก ร่างกายอบอุ่นขึ้น รู้สึกตัวเบาขึ้น
พี่ผู้หญิงอีกคน ก็ออกมาบอกว่า ตนเองรู้สึกเบาที่ศีรษะ ใจเต้นแรงขึ้น รู้สึกปิติยินดี
คุณตุ้ย มีอาการขนลุก เบาโปร่งโล่ง เหมือนได้นั่งสมาธิมา
คุณมะเหมี่ยว หายคันคอ หายคันจมูก
ดร.จิ๋ม บอกว่า ทานเม็ดแรก ตาก็สว่างขึ้น เม็ดที่สองทำให้ตัวรู้สึกเบา สบายใจ หายปวดหลัง หายปวดเท้า
คุณอัญ รุ้สึกว่ารสชาติของลูกอมนุ่มอร่อย ตัวเบา ตาสว่าง หน้าสว่างยิ่งขึ้น
อาจารย์พัน ได้ออกบอกกล่าวว่า เม็ดแรกรู้สึกซ่า ลูกอมเม็ดที่สอง ทำให้จิตสงบนิ่งยิ่งขึ้น
อาจารย์นีย์ เกิดอาการขนลุก ร่างกายอุ่นขึ้น เมื่อทานเม็ดที่สองก็ยิ่งอุ่นขึ้น แขนเหมือนมีพลังหมุนเวียน
คุณจ๋าว เม็ดแรกทำให้มีเหงื่อออกที่มือ แต่เม็ดที่สอง ทำให้เหงื่อแห้ง ร่างกายอบอุ่น
พี่แก้ว ออกมาบอกว่า หายหนาว เม็ดที่สอง ร่างกายอุ่นขึ้น มือที่เคยชาก็หายชา อาการปวดที่ขมับก็ดีขึ้น
คุณอัญ ออกมาบอกว่า เสียงที่แหบก็ดีขึ้นอีก
คุณทัศนีย์ ทานเม็ดแรก ร่างกายอบอุ่น ทานเม็ดที่สอง นิ้วที่ล๊อกก็ไม่ล๊อกแล้ว กำมือได้
คุณเจี๊ยบ คอหายแข็ง ร่างกายมีพลัง ร่างกายอบอุ่นขึ้น
คุณสมจิตร ทานเม็ดแรก หายปวดหัว ทานเม็ดที่สอง รู้สึกโล่งโปร่งสบาย
คุณพี่ผู้หญิง ทานเม็ดแรก ขนลุก หายเจ็บจิ๊ดๆ เม็ดที่สอง เกิดอาการขนลุก ตัวที่เคยเอี้ยวไม่ได้ ก็เอี้ยวตัวได้แล้ว
คุณตุลย์ ทานเม็ดแรก ขนลุก ทานเม็ดสอง ขนลุกทั้งตัว ตัวเบา จิตนิ่ง ร่างกายอบอุ่น
อาจารย์เบญจรัตน์ ได้ออกมาบอกกล่าวว่า ทานเม็ดแรก ก็เกิดอบอุ่น หายหนาว เมื่อทานเม็ดสอง ตาสว่าง เนื้อตัวที่ปวดเมื่อยก็หายปวด ท่านได้ให้ความเห็นว่า อภิญญา5 สามารถเสื่อมได้ ถ้าเรามีความริษยา เห็นแก่ตัว มีความโลภ โกรธ หลง ซึ่ง คุณแม่อุบล ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ท่านเทวทัต ก็เป็นเช่นนั้น เพราะว่า นำอภิญญาไปแสวงหาลาภสักการะ
คุณธนา คอมีอาการโล่ง ตาสว่างขึ้น มีความร้อนทำให้เกิดความอบอุ่นในร่างกาย และ ให้ความเห็นว่า ไม่เคยคิดมาก่อนว่า จะได้เห็นอภิญญาด้วยตนเอง และ สาธารณชนทั้งหลายได้รับอภิญญาด้วยการรับการเชื่อมญาณ ได้จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และ จาก คุณแม่อุบล
ป้าเตือน ทานเม็ดแรก ตื่นเต้น สั่น ทานเม็ดสอง รู้สึกตัวพองโต อบอุ่น ร้อนๆ หนาวๆ ศีรษะใหญ่ขึ้น
คุณอมร ทานเม็ดแรกรู้สึกซ่า เม็ดสองไม่มีความซ่า ร่างกายอบอุ่น มีความเห็นต่ออภิญญาว่า งึด(อัศจรรย์ใจ) อยากคงสภาพที่ได้รับอภิญญาไว้ตลอดไป โดยต้องสำรวมกายวาจาใจ มีความถี่ถ้วนในเรื่องศีล และ อยากรักษาสิ่งที่ คุณแม่อุบลได้บอกกล่าวให้ประพฤติปฎิบัติ(รักษาศีล5ให้บริสุทธิ์)
คุณเหมียว ทานเม็ดที่สองไม่ปวดเกร็งจากการปวดฉี่่ ตัวเบา ไม่มีอาการร้อนที่ใบหน้า แม้นออกไปทำงานตากแดดมา
พี่แมว อาการที่ปวดน่อง ปวดขา ปวดข้อเท้า เมื่อทานเม็ดที่สองไปแล้ว อาการต่างๆ ก็หายเจ็บหายปวดไป พี่แมวให้ความเห็นต่ออภิญญาว่า ไม่เคยคิดเคยฝันว่าจะได้เห็น เกินความคาดฝัน ไม่เคยรู้จักอภิญญามาก่อน และ ไม่เคยคิดว่าจะได้อภิญญา
คุณแม่อุบล ได้บอกกล่าวว่า ลูกบ้านสวนฯ สามารถทำได้ทุกคน แต่จะแตกต่างกันในเรื่องความเข้มข้นในแต่ละคน เพราะ เกิดจากการทำบุญ ทำทาน และ การรักษาศีลได้เพียงไร
และ ปรากฎการณ์ของจี้ในแต่ละรุ่นของบ้านสวนฯ ก็มีอานุภาพที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ขอขอบคุณ รายการ"รู้ค่าพลังงาน" ที่ออกอากาศทางทีวี ช่อง3 ที่นำเสนอ การทำแก๊สด้วยการใช้ขยะเปียกหมักบ่มในถังหมัก ของ บ้านสวนพีระมิด ช่วยลดโลกร้อน เพราะ ไม่ได้นำขยะไปทิ้ง ยังได้ปุ๋ยหมัก จากการหมักขยะเปียกอีก
ขออนุโมทนาบุญ กับ เพื่อนๆ พี่ๆ ที่ได้ร่วมแรงกาย ปัจจัย สิ่งของ เพื่อบ้านสวนฯ ทำให้มีพืชผักในแปลงเกษตรที่งอกงามสวยงาม ปลอดสารพิษ และ การก่อสร้างรุดหน้าอย่างรวดเร็ว ครับ
ขอน้อมกราบต่อคำสอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ที่มาเทศน์สอนสั่งในเรื่อง "การเจริญเบื้องต้น" นั่้นคือ สมถะภาวนา และ วิปัสสนาภาวนา ทำให้จิตใจสงบ ใน นิวรณ์ 5 ประการ คือ สิ่งขวางกั้นจิตทำให้สมาธิไม่อาจเกิด นั้นคือ
1 .กามฉันทะ
2. ความโกรธ ความพยาบาท ความไม่พอใจ ขัดเคือง
3. ความง่วงเหงาหาวนอน
4. ความฟุ้งซ่านของจิต
5. ความสงสัยในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
สาธุ สาธุ สาธุ
|