กราบ คุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล
และ สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ
ขอน้อมกราบ ต่อ พระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ ท่านดตาจินิน และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด
ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป
ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร เวปมาสเตอร์
วันนี้ ได้ดูคลิปของวันที่ 20 มกราคม 2556
"ทำอาหารธรรมดา ให้เป็นอาหารอภิญญา"
ขอขอบคุณ หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ที่ได้มาสัมภาษณ์ คุณแม่อุบล ที่บ้านสวนพีระมิด ในเรื่อง รหัสจักรวาล อาจารย์อุบลช่วยด้วย และ จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี แค่มองก็หายเจ็บป่วยได้ โดยมีจุดมุ่งหมายที่ปรารถนาให้ทุกคนพ้นทุกข์ทั้งปวง
ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม วันที่ 14 ธันวาคม 2555
คุณแม่อุบล ได้กล่าวบรรยายให้นักศึกษาและผู้สนใจที่มาร่วมในงานได้รับฟังว่า เราสามารถปิดนรกทั้ง 5 ขุมได้ โดยการไม่ผิดศีลทั้ง 5 ข้อได้แล้ว เรายังมีนรกขุม 6 นั้นคือ อบายมุขทั้ง 6 คือ ดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน ดูการละเล่น(ติดละคร ติดหนัง ติดเกมส์) เล่นการพนัน(หวย) เกียจคร้านการทำงาน คบคนชั่วเป็นมิตร ทำให้เราไม่สามารถปิดนรกขุม 6 ได้
นรกขุม 7 คือ การผิดศีลทั้ง 5 ข้อและยังผิดอบายมุขทั้ง 6 ด้วย
นรกขุม 8 คือ คนที่ฆ่าพ่อฆ่าแม่ อยากให้พ่อแม่ตายไวไว ทำให้สงฆ์แตกแยกกัน ฆ่าพระอรหันต์ ทำร้ายพระพุทธเจ้า ตั้งแต่ทำให้พระองค์แค่ห้อพระโลหิต คิดไม่ดีต่อผู้ทรงศีล ทรงธรรม คิดไม่ดีต่อพระพุทธเจ้า (อนันตริยกรรม) พูดไม่ดี คิดไม่ดี ทำไม่ดี ต่อ พระพุทธเจ้า ต่อพระเจ้าอยู่หัว ต่อผู้เผยแพร่พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ต้องไปนรกขุม 8 มีเพื่อน คือ พระเทวทัต ซึ่งเคยทำร้ายพระพุทธเจ้า อิจฉาริษยาพระองค์ โดยมีลางบอกเหตุ คือ มีความทุกขเวทนา ทั้งการเงิน การงาน ทางร่างกาย จิตใจทุกด้าน ไม่สามารถคลี่คลายได้ แม้นจะปิดนรกทั้ง 5 ขุมได้
พระเจ้าอชาตศัตรู ได้เข้ามาเฝ้าพระพุทธเจ้า และ ได้ฟังธรรมะของพระพุทธเจ้า มีความซาบซึ้งใจ และ เสียใจที่ปลงพระชนม์พระราชบิดาของพระองค์ ซึ่ง พระพุทธเจ้า ท่านทรงสรรเสริญว่า คนที่ทำผิดแล้ว สำนึกผิดได้เป็นสิ่งประเสริฐ แต่ พระพุทธเจ้าไม่สามารถช่วยพระเจ้าอชาตศัตรูได้ เพราะ พระเจ้าอชาตศัตรู ท่านได้ฆ่าพระบิดา เมื่อ พระเจ้าอชาตศัตรูเสด็จกลับแล้ว พระพุทธเจ้า ท่านได้ทรงตรัสต่อเหล่าพระภิกษุสงฆ์ว่า พระอชาตศัตรู มาฟังธรรมและเข้าถึงพระธรรม ถ้าไม่ฆ่าพระราชบิดา ก็จะได้เป็นพระโสดาปฏิผลได้ในวันนี้ แต่ เพราะ ทำอนันตริยกรรมมา จึงไม่สามารถเป็นพระโสดาบันได้ ต้องไปใช้กรรมในอเวจีมหานรก
คุณแม่อุบล ได้บอกกล่าวต่อนักศึกษา ว่า นรกขุม 5 ขุม 6 พอจะช่วยได้ แต่ นรกขุม 7 และ ขุม 8 นั้น ไม่สามารถที่จะช่วยได้โดยสิ้นเชิง เพียงแต่ช่วยให้ได้รับความบรรเทาเบาบางได้เท่านั้น
โลกันต์นรก คือ นรกสำหรับคนที่ทำผิดศีลข้อใดข้อหนึ่งเกิน 2-3 ครั้ง ผิดศีลหลายๆข้อพร้อมกัน เช่น ไปลักขโมยวัวควาย แล้วก็บอกว่าไม่ได้ลัก(ผิดศีลข้อ2 และ ยังมาผิดศีลข้อ 4) หรือ ผิดศีลข้อเดียวแต่หลายๆครั้ง โดย คุณแม่ได้ยกตัวอย่างของ คุณป้อม ที่ทำผิดศีลข้อ3 มาเกือบห้าร้อยครั้ง ทำให้อาการเจ็บป่วยไม่หายอย่างสิ้นซาก แม้นผลการตรวจทางการแพทย์จะบอกว่าหาย แต่ ในความรู้สึกของตนเองนั้น ยังมีอาการเหล่านั้นอยู่ ซึ่งเป็นสัญญาณของโลกันต์นรก
คุณแม่ได้กล่าวต่อไปว่า มีคนมาสอบถามว่า ทำไมเกจิอาจารย์ที่เก่งๆหลายๆท่าน ทำไมท่านทำให้คนหายทันทีไม่ได้ คุณแม่บอกว่า คุณแม่ไม่ทราบ แต่ ถ้าถามว่า ทำไมคุณแม่อุบล สามารถทำให้คนที่เจ็บคนที่ปวดหายได้ทันที คุณแม่ตอบได้ เพราะ คุณแม่ทำตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า และ ไม่ปิดกั้นความรู้จากทุกศาสตร์ ไม่เลือกความรู้ของศาสดาของศาสนาใดๆ เคารพศาสดาของทุกศาสนา ไม่ปิดกั้นวิชาความรู้ใดๆที่จะทำให้มีความสุข และ พ้นทุกข์ได้ รวมศาสตร์ของทุกศาสนามาใช้ประโยชน์ รวมความรู้ของครูบาอาจารย์ทุกคนที่ทำให้เจริญรุ่งเรืองนำมาใช้ แม้นความรู้ของพีระมิด องค์สฟิงซ์ ซึ่งมีอาจารย์ท่านหนึ่งได้กล่าวถึง ความลับของพีระมิด องค์สฟิงซ์ ในยุคอิยิปต์ ยุคไอยคุปต์ ว่า ผู้ใดมีจิตใจเปิดกว้าง รับศาสตร์ทุกศาสตร์ที่สร้างสรรค์ในจักรวาล ผู้นั้นจะพบความลับของจักรวาล คุณแม่ได้กล่าวต่อไปว่า ถ้าเราไม่ยอมรับศาสตร์ใหม่ๆใดๆเลย เท่ากับว่าเราปิดกั้นตัวเราเอง เราก็ไม่ได้รู้ในสิ่งที่ควรรู้ คุณแม่จึงต้องเปิดใจรับศาสตร์ใหม่ๆ ความรู้ของศาสดาของศาสนาอื่นๆไม่ว่า คริสต์ ซิกซ์ อิสลาม และ ทุกศาสตร์ที่ทำให้เรามีความสุขและพ้นทุกข์ได้ คุณแม่ยังได้ยกตัวอย่างว่า เราเป็นนักเรียน ยังต้องเรียนหลายวิชา ทำไมเราไม่เรียนแค่วิชาใดเพียงวิชาเดียว เพราะ การที่เรามีความรู้กว้างขวาง เมื่อเราจะนำความรู้มาใช้ เราก็สามารถใช้ประโยชน์ ได้คล่องตัว และ ประกอบอาชีพอะไรก็ได้ เรารอบรู้ เก่งทุกด้าน ทำอะไรได้หมด พระพุทธเจ้า ท่านไม่ได้ทรงสอนให้เราปิดกั้น ให้ศึกษาแต่ธรรมะ พระธรรมที่ท่านทรงรวบรวมไว้ คุณแม่อุบล จึงได้เป็นคนที่ค้นพบความลับของจักรวาล และ ได้นำมาแสดงให้เห็นในวันนี้ โดยอยู่บนพื้นฐานของพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งกล่าวไว้ว่า ถ้าเหตุดับ ผลก็ย่อมดับ และ นำมาตีความ เช่น ถ้าเราปวดหัว เราไปหาหมอ หมอให้ยาแก้ปวดมาทาน อาการปวดหัวก็หายได้ แต่เป็นการหายแค่ช่วงสั้นๆ แล้วก็กลับมาเป็นอีก แต่ที่บ้านสวนฯ อาการปวดหัว นั้น อาจจะเกิดจากการที่เราเคยทำร้ายศีรษะของผู้อื่น (ตีหัวเพื่อน ตีหัวสัตว์) หรือ เคยคิดไม่ดีกับผู้อื่น คุณแม่บอกว่า ทุกคนสามารถนำไปบำบัดด้วยตนเองพร้อมอุปกรณ์ชนิดต่างๆของบ้านสวนฯ และ สมาทานศีล5ทุกวัน และ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ก็ให้ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย หรือ ด้วยวิธีการอื่นๆ ที่ได้แสดงให้ดูไว้แล้ว สำหรับฐานะการเงิน ให้ทำทาน และ ใส่บาตรวิระทาโย(ใช้อุปกรณ์ใดๆก็ได้ที่หาได้ ไม่ว่า ขัน ถุงพสาสติก) โดยการหยอดเงินลงไปทุกวันมากน้อยแล้วแต่ละคน เมื่อรวบรวมได้พอสมควรก็ให้นำไปทำบุญ และ ให้อธิษฐานว่า"ปัจจัยนี้ ขอสร้างบุญสังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน และ ทานใหญ่น้อยทุกทาน ให้อานิสงค์ผลบุญนี้ให้เทวดาผู้รักษาตัวของข้าพเจ้า และ เทวดาผู้รักษากิจการค้า อาชีพ อาคาร บ้านเรือน เรือก นา ไร่สวนของข้าพเจ้า เจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้าที่ติดตามมาทุกภพทุกชาติ จนถึงชาตินี้"
จะทำให้มีสภาพคล่องทางการเงิน เป็นอัศจรรย์ แต่ คุณแม่ได้บอกกล่าวเพิ่มเติมว่า เงินที่ตักบาตรวิระทาโยนี้ ห้ามนำไปใช้โดยเด็ดขาด เพราะ เป็นเงินที่้ต้องนำไปทำบุญเท่านั้น
คุณแม่ได้ แสดงวิธีการทำน้ำพลังพีระมิด ให้ลูกหลานได้ชม โดยการนำน้ำธรรมดา ใส่ขวดและนำองค์พีระมิดจำลองในรุ่นต่างๆ ของบ้านสวนฯ มาวางไว้ 4 จุดล้อมขวดน้ำไว้ เพียงครู่เดียว คุณแม่บอกว่า ถ้าไม่มีองค์พีระมิดจำลอง ก็สามารถนำกระดาษมาทำเป็นพีระมิดได้ แต่ ต้องวางขวดน้ำไว้อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
แต่ถ้าเป็นน้ำที่ล้อมรอบด้วยองค์พีระมิดจำลองของบ้านสวนฯ แค่วางเพียงชั่วครู่ ก็มีผลแล้ว แต่เมื่อวางไว้นานๆ โมเลกุลของน้ำจะเล็กลงเรื่อยๆ คุณแม่ได้ให้พี่ผู้หญิงที่มีอาการคันมือ เมื่อกำมือนานๆ มาลองทามือด้วยน้ำพลังพีระมิด ปรากฎว่า อาการคันมือเมื่อกำมือนานๆ หายทันที และ พี่ผู้หญิงที่มีอาการปวดหัวเข่ามาเกือบ 2 เดือน มาทาเข่าด้วยน้ำพลังพีระมิด ปรากฎว่า อาการปวดหัวเข่าหายทันที
ที่บ้านสวนพีระมิด
คุณแม่อุบลได้ให้ ลูกหลานบ้านสวนฯ ที่ได้มาใช้แรงกายที่บ้านสวนฯ นำอาหาร ขนม ลูกอม มามอบให้คุณแม่ แค่คนละหนึ่งชิ้น คุณแม่บอกว่า เป็นการให้เพื่อเป็นการทำบุญคุณให้กับคุณแม่ เวลาที่ท่านท้าวเวชสุวรรณ ท่านสอบถามว่า ทำไมต้องให้การช่วยเหลือคนๆนี้ คุณแม่จะได้บอกได้ว่า คนนี้มีบุญคุณต่อคุณแม่ โดยการให้ลูกอม 1 ชิ้นต่อ คุณแม่ และ ท่านท้าวเวชสุวรรณ ท่านจะได้พิจารณาวินิจฉัยการช่วยเหลือได้
และ คุณแม่อุบลได้กล่าวว่า การมอบอาหารต่อคุณแม่ในมื้อนี้ ขอให้อาหารที่ลูกหลานบ้านสวนฯ ได้จัดเตรียมไว้ที่บ้าน จงเป็นอาหารอภิญญาด้วย และ ให้นำไปคิดเป็นปัญญากรรมฐานด้วยว่า ทำไมการให้อาหารเพียงน้อยนิด กับ คุณแม่อุบล แต่มีอานิสงค์มากมายได้อย่างนี้) และ ต่อมา คุณแม่ได้ให้ลูกหลานลองทานลูกอมของเพื่อนๆ ว่าจะหายเหนื่อยจากการทำงานในช่วงกลางวันหรือไม่
คุณธนา และ คุณอมร ได้ออกมาบอกเล่าว่า ในการทำงานใช้แรงกายในครั้งนี้ ปรากฎว่า ไม่ได้รับอันตรายหรือรับบาดเจ็บอะไรเลย ถึงแม้นว่า การทำงานครั้งนี้ น่าจะเกิดอันตรายหรือได้รับบาดเจ็บก็ตั้งหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นเลย เหมือนมีอะไรมาปกป้องป้องกันไว้ให้ และ เมื่อ คุณแม่อุบล บอกให้นอน ก็นอน เมื่อลุกขึ้นมาทำงานก็รู้สึกมีแรง ไม่เหนื่อย
คุณแม่ได้บอกกล่าวเพิ่มเติมว่า การไปทำบุญในสถานที่ต่างๆนั้น จะมีบุญอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท คือ
บุญที่ทำแล้วเท่าทุน คือ ไปทำบุญ แล้ว เราไม่ไปทำสถานที่สกปรกเลอะเทอะ
บุญที่ทำแล้วได้กำไร คือ ไปทำบุญ แล้ว เมื่อเราเห็นสถานที่เค้าสกปรก มีคนทิ้งเศษขยะ เราก็ทำการช่วยเก็บกวาดให้
และ บุญที่ทำแล้วขาดทุน คือ ไปทำบุญ แล้ว เราก็ไปทิ้งขยะ ทำให้สถานที่เค้าสกปรก
คุณแม่ได้ให้ลูกหลานบ้านสวนฯ ออกมาบอกกล่าวว่า เมื่ออมลูกอมของตนเอง หรือ ที่เพื่อนๆให้แล้ว เป็นอย่างไรบ้าง
พี่แมว บอกว่า อมลูกอมแล้ว รู้สึกสดชื่น ตาสว่าง
ดร.จิ๋ม อมโอเล่แล้ว ตาสว่าง หายง่วง ฝ่าเท้าที่เจ็บก็เบาขึ้น
พี่ผู้หญิง อมโอเล่แล้ว รู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้น
น้องผู้ชาย อมลูกอมแล้ว มีเรี่ยวแรง แผลที่โดนมีดดายหญ้าฟันถูกที่หน้าขาแข้ง คุณแม่อุบลนำน้ำอภิญญาล้างแผลให้ ก็มีแค่อาการคันที่แผลเท่านั้น
คุณตุ้ย อมลูกอมแล้ว ก็หายปวดหัว
ดร.จุ๋ม ก็หายคันคอ
คุณเอิ้น รู้สึกสดชื่น อาการที่โดนปูนกัดมือก็หายเกือบ 90%
พี่แก้ว จิตใจเบาสบาย
พี่ผู้หญิง หายปวดฝ่ามือ
พี่อ้อย ตาสว่าง อาการที่ปวดท้องก็หาย
พี่ผู้หญิง บอกว่ารู้สึกโล่งเบาสบาย ตาสว่าง
พี่เหมี่ยว หายแสบ หาคัน จากการที่โดนหนามเกี่ยวตอนดายหญ้า
พี่ผู้หญิง ที่เคยกำมือไม่ได้ ก็กำมือได้ หายปวดนิ้วมือ
น้องกระต่าย หายง่วง รู้สึกสดชื่น
พี่ผู้ชาย ก็หายตามัว ที่เกิดจากการทำงานกลางแดด
พี่ผู้หญิง อมซูกัสแล้ว เสียงใสขึ้น รู้สึกโล่ง
พี่ผู้หญิง รู้สึกสดชื่น สายตาดีขึ้น หายปวดหัว
พี่ผู้หญิง หายปวดมือ
คุณอัญ หายปวดตึงศีรษะ หายแสบหายคันจากการโดนหญ้าบาด
คุณพี่ผู้หญิง หายแสบมือจากการไปดายหญ้า
อาจารย์นีย์ หายปวดหลังเท้า รู้สึกสดชื่น
อาจารย์พัน ศีรษะรู้สึกซู่ หายปวดข้อเท้า
ลูกหลานบ้านสวนฯ พูดมาถึงตอนนี้ คุณแม่ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า นิสัยคนไทย เวลาได้รับสิ่งอัศจรรย์ ก็ไม่รู้สึกประหลาดใจ ไม่คิดค้นคว้า หาความเป็นไปได้ ไม่สอบถามว่า เกิดขึ้นได้อย่างไร แล้วทำได้อย่างไร ที่ทำให้ตนเองหายเจ็บหายปวดได้
คุณอมร ก็หายจากอาการที่มือตึง ที่เกิดจากการทำงานดึงเหล็ก ดึงแผ่นปูพื้นในช่วงใช้แรงกาย และ ได้กล่าวบอกว่า เมื่อก่อน พี่อมรไปทำบุญที่ไหน ก็อยากได้ของกลับไปบ้านเยอะ อยากได้วัตถุมงคลของครูบาอาจารย์ แต่เมื่อมาบ้านสวนฯ ก็ไม่คิดอยากได้อะไรตอบแทน
คุณแม่อุบลได้กล่าวว่า อยากให้ทุกคนคิดพิจารณา ถึงการให้อะไรต่อใคร อยากให้มีความคิดแบบ ให้แบบที่รู้จักการให้ บอกให้ทำอะไรก็ให้ทำ
คุณมิ้ม ได้ออกมาบอกกล่าวว่า มีความสุข ตาสว่าง มือที่ถูกปูนกัดมือก็ดีขึ้น มือที่โดนหญ้าบาดก็ดีขึ้น เพราะ เชื่อมั่นว่า คุณแม่อุบลเป็นเนื้อนาบุญอันประเสริฐ เพราะ ทำบุญแล้ว เห็นผลทันที
คุณธนา ออกมาบอกกล่าวว่า มีความรู้สึกซ่านขึ้นที่ศีรษะ มือที่ตึงปวดจากการลากแผ่นปูพื้น ก็กำมือได้ปกติ และ รู้สึกปิติยินดีที่เห็นอภิญญาที่คุณแม่ได้บอกกล่าว และ แสดงให้เห็นเกี่ยวกับอภิญญา ซึ่ง คุณธนาคิดว่า ต้องเป็นอริยะสงฆ์ ครูบาอาจารย์ที่เก่งเท่านั้นที่ทำได้ แต่เมื่อมาเห็นด้วยตาตนเอง ด้วยการสร้างบุญ กับ คุณแม่อุบล แล้วท่านเป็นสะพานบุญเชื่อมให้ ทำให้บุญที่ฝากไว้ พระพุทธองค์ เทพพรหมองค์อินทร์ ส่งมอบให้กับเราได้
ปรากฎการณ์ของอานุภาพบารมีของจี้รุ่นต่างๆ ของบ้านสวนฯ ที่มีบารมี แค่มองก็หายเจ็บหายปวดได้
ขอขอบคุณ รายการ "รู้ค่าพลังงาน" ที่ออกทางช่อง 3 ที่นำเสนอการนำขยะเปียก ที่บ้านสวนฯ มาทำเป็นไบโอแก๊ส โดยการหมักในถังหมัก แล้วได้ก๊าซมาใช้หุงต้ม และ ได้น้ำหมักมาเป็นปุ๋ย ช่วยลดภาวะโลกร้อนได้
ขออนุโมทนาบุญ กับลูกหลานบ้านสวนฯ ที่ไปใช้แรงกาย ปัจจัย สิ่งของ กับ บ้านสวนพีระมิด ครับ
ขอกราบต่อธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในเรื่องสมถะภาวนา เพราะ ทุกกอง ต่างก็เจริญแล้วมีผลเสมอกัน คือ มีจิตเป็นสมาธิ และ จริต6 นั้นคือ ราคจริต โทสจริต โมหจริต วิตกจริต สัทธาจริต และ พุทธิจริต
สาธุ สาธุ สาธุ
|