ได้ชมเทปตอนล่าสุดแล้วค่ะ
ต้องขอบอกว่า
เบื้องบนล้ำลึกและล้ำเลิศสุดๆอีกแล้วค่ะ
เพราะได้นำเคสของคุณป้าสุดใจ
ที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
โดยมีก้อนแข็งๆ(เป็นหิน)ที่คอ
รวมทั้งมีอาการคอตึงจนหันคอแทบไม่ได้
รวมถึง อาการมือบวม
โดยใช้อาการเหล่านี้
มาพิสูจน์ทุกๆคำถามจากลูกบ้านสวนฯ
ในการค้นหาความจริง
ในเรื่องต่างๆที่เรายังค้างคาใจ
เพราะแน่นอนว่า คุณป้าสุดใจ
ไม่รู้เรื่องอียิปต์
ไม่รู้เรื่องพระนางเนเฟอร์ตารี่
ไม่รู้เรื่องพระศรีอาริย์ และฯลฯ
เรียกได้ว่า
ไม่รู้และไม่มีข้อมูลใดๆ
เกี่ยวกับคำถามที่ถูกถามเลยซักข้อ
แต่คุณป้ามาทำหน้าที่เป็นแค่
"ดัชนีแสดงคำตอบ"
จากท่านพ่อดตาจินินเท่านั้น
เพราะพวกเราไม่สามารถมองเห็น
และ ไม่สามารถสื่อสารโดยตรงกับท่านพ่อได้...
ซึ่งคำถามและคำตอบโดยสรุป มีดังต่อไปนี้
พระนางเนเฟอร์ตารี่ ได้กลับชาติมาเกิด
เป็นท่านอ.อุบล...จริง
พระนางเนเฟอร์ตารี่ จะกลับชาติมาเกิดเป็น
พระศรีอาิริย์ ... จริง
ท่านอ.อุบล มีหน้าที่
มาเพื่อรวมศาสนาทุกศาสนาเป็นหนึ่งเดียว ... จริง
เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ
ได้ถ่ายโอนอำนาจสิทธิ์ขาดให้กับท่านอาจารย์ ....จริง
(เรื่องนี้ อยู่ที่ช่วงนาทีที่ 48โดยประมาณ)
(ขออธิบายเพิ่มเติมค่ะ...ท่านอาจารย์จะมีหน้าที่เหมือนกับท่านท้าวเวสสุวรรณ คือ เป็นนายแห่งผี เป็นนายบัญชีพระกาฬใหญ่ เป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย และ เป็นผู้คุมทั้งสามโลก )
..................................................
ช่วงนาทีที่ 55 โดยประมาณ
ท่านอาจารย์ได้พูดถึงเรื่อง
ท่านพ่อดตาจินิน เคยคาดหวังว่า
ศาสดาทุกศาสนา
จะทำให้ ผู้คนมีความสุขพ้นทุกข์ได้
แต่เมื่อเวลาล่วงเลยมากว่าสองพันกว่าปี
มนุษย์กลับมีแต่ความทุกข์
และ ทำผิดศีลกันมากขึ้นๆ
จนแทบจะหาทางออกให้กับชีวิตไม่ได้
ฉะนั้น ท่านพ่อเห็นว่า
แนวทางเดิมๆใช้ไม่ได้ผลแล้ว
ฉะันั้นท่านพ่อจึงเห็นว่า
การมีศาสดาเป็นพระ เป็นนักบวช
เหมือนที่ผ่านๆมานั้น
ยิ่งทำให้คนเข้าถึงธรรมได้ยากขึ้น
เพราะคนส่วนใหญ่อาจจะมีความเข้าใจผิดๆไปว่า
การปฏิบัิติธรรมนั้น ไม่ใช่เรื่องของคนธรรมดา
แต่เป็นเรื่องของพระ
ที่นุ่งเหลืองห่มเหลืองซะมากกว่า
ฉะนั้น ผู้นำศาสนาคนใหม่
จะต้องเป็นคนธรรมดาเหมือนคนทั่วๆไป
คือกลมกลืนกันได้
เป็นคนประเภทเดียวกัน
อยู่ใน ระดับเดียวกัน
แต่การปฏิบัตินั้น
ให้เน้นยกที่จิตเป็นสำคัญ
ไม่ใช่เครื่องแบบทางกาย..
ท่านอาจารย์ได้อธิบายว่า
ท่านพ่อดตาจินิน ไม่ใช่พระพุทธเจ้า
ไม่ใช่องค์พระปฐม
ไม่ใช่พระศรีอาริย์
แต่ท่านสร้างพระเหล่านี้มาทั้งหมด
แต่ท่านพ่อบอกว่า
ท่านเป็นเพียงคนธรรมดา
ที่มีจิตใจหลุดพ้นจากกิเลสตัณหาทั้งปวง
ในจิตของท่านมีแต่ความรัก ความเมตตา
และปรารถนาให้ทุกสรรพชีวิตและเหล่าวิญญาณ
พ้นจากความทุกข์ทั้งปวง
ท่านพ่อเห็นว่า เมื่อพระพุทธเจ้าและศาสดา
เสด็จลงมาจุติแล้ว
ใช้แต่ความเมตตาเป็นส่วนใหญ่
แต่ไม่ใช้ฤทธิ์
ซึ่งพระพุทธเจ้าก็ทรงไม่สรรเสิรญการใช้ฤทธิ์
แต่ท่านพ่อเห็นว่า การใช้"ฤทธิ์"
ก็มีความจำเป็น เพราะสามารถใช้จัดการ
กับคนชั่วทั้งหลายให้คิด
เปลี่ยนแปลงแก้ไขตนได้..
ฉะนั้น ท่านพ่อจึงลงมาเพื่อปฏิวัติ
วิธีการเก่าๆเหล่านี้ใหม่ทั้งหมด
โดยให้ผู้นำคนใหม่
ใช้ทั้งความรักความเมตตา
แล้วก็ใช้"ฤทธิ์" ควบคู่กันไป
และมีอำนาจเบ็ดเสร็จเสร็จสรรพมากกว่าเดิม
แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงคำสอนใดๆเลย
เพียงแต่ พิสูจน์หลักธรรมคำสอนเดิมๆเหล่านั้น
ให้เห็นเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้นเท่านั้นเอง
ซึ่งต่อไป ก็ไม่ต้องใช้คำว่า "ศาสนา"อีกต่อไป
อาจจะใช้คำว่า "กฏของธรรมชาติ"แทน..
................................
อิอิ ง่วงแล้ว...
วันนี้ขอสรุปประเด็นมาแค่นี้ก่อนนะคะ
แต่ขอเน้นและย้ำกับทุกๆท่านอีกครั้งว่า
ไม่ควรพลาดชม..รายการตอนล่าสุดนี้ เด็ดขาด
เพราะการอ่านธรรมทานที่ผ่านๆมา
ทำให้เราได้รู้เนื้อหารวมๆว่า อะไรเป็นอะไร
แต่การชมรายการด้วยตัวท่านเอง
จะทำให้ท่าน"เข้าใจ" ในทุกๆเรื่อง ชัดเจนยิ่งขึ้น
เพราะนี่เป็นการสื่อสารจากเบื้องบน
ถึง"จิต" คุณโดยเฉพาะ....
|