กราบคุณแม่อุบล และ คุณพ่อมงคล

                       และ ขอสวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน ครับ

                       ขอน้อมกราบ ท่านพ่อดตาจินิน พระพุทธองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ องค์สฟิงซ์ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                       ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านด๊อกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                       ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร เวปมาสเตอร์

                        วันนี้ได้ดูคลิป ของวันที่ 3 มีนาคม 2556

             "สร้างบุญที่บ้านสวนพีระมิด สุขทั้งชีวิตโลกนี้ และ โลกหน้า"

             ขอขอบคุณ หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ที่มาสัมภาษณ์ คุณแม่อุบล ที่บ้านสวนพีระมิด ในเรื่องรหัสจักรวาล อาจารย์อุบลช่วยด้วย และ จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี  แค่มองก็หายเจ็บหายป่วยได้

             คลิปวันนี้ เป็นคลิปธรรมทานจากคุณพี่อมร ซึ่งได้มาบอกกล่าวให้เราลูกหลานบ้านสวนฯ และ ผู้มีจิตศรัทธาและเชื่อมั่นในเรื่องกฎแห่งกรรม ได้ทราบถึงกฎธรรมชาติ เรื่องของการพลัดพราก ความเศร้าเสียใจในการจากไปของคนอันเป็นที่รัก(คุณเหมี่ยว) และ พระเมตตา และ ความรัก ที่ท่านพ่อดตาจินิน ได้ทรงประทานให้กับคุณพี่อมร

                       คุณพี่อมร ประสบอุบัตเหตุทางรถยนต์ และ คุณพี่เหมี่ยวเสียชีวิต ซึ่ง คุณพี่อมร ก็ได้เข้าทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ด้วยอาการกระดูกคอเคลื่อน ปอดมีอาการฉีกขาด และ เนื้อเยื่อที่หุ้มหัวใจมีอาการเลือดออก ซึ่ง จะทำให้เลือดคลั่งและบีบรัดหัวใจ อาจจะเป็นสาเหตุทำให้หัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิตได้

                       ระหว่างที่ คุณพี่อมร ทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาล คุณพี่อมร ก็ไม่ได้ทานยาอะไร แต่ได้ใช้น้ำทิพย์ในการฉีดพ่นที่ใบหน้า และ ตามร่างกาย ซึ่ง คุณพยาบาลก็ประหลาดใจ คิดว่าเป็นน้ำแร่

             ซึ่งในทางการแพทย์ อาการคุณพี่อมร นั้น ถือว่าหนัก เพราะ ผลของเอ๊กซเรย์ และ การทำเอ็มอาร์ไอ เยื่อหุ้มหัวใจมีอาการเลือดออก ปอดหายไปข้างหนึ่ง กระดูกที่คอมีการเคลื่อน ต้องมีตัวประคองที่คอ มีอาการของการมีไข้ เพราะ อุณหภูมิร่างกาย ขึ้นถึง 39 องศา

              แต่ เมื่อถอดตัวประคองคอออก คุณพี่อมร ก็สามารถเคลื่อนไหวคอได้เหมือนปกติ ร่างกายก็ไม่ร้อน แม้นมีอุณหภูมิที่วัดได้ว่ามีไข้ และ ก็ไม่มีอาการของเลือดที่จะคั่งที่เยื่อหุ้มหัวใจ

              และ เมื่อจะทำการย้ายโรงพยาบาล มารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลที่จังหวัดนครนายก แพทย์ที่โรงพยาบาลเดิมก็แค่ลงความเห็นทางการแพทย์ว่า ประสบอุบัติเหตุ มีแผลที่ขา เท่านั้น และ ขณะที่ทำการเคลื่อนย้ายโดยรถตู้ของคุณพี่แมว คุณพี่อมร ก็ไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดทางร่างกายขณะทำการเคลื่อนย้าย คุณแม่อุบล ท่านได้บอกกล่าวว่า คุณพี่อมรได้รับความรักและความเมตตาจากท่านพ่อดตาจินิน และ ค่ารักษาพยาบาล ในเบื้องแรก ก็ได้รับทราบว่า เป็นเงินทั้งสิ้น 25,000 บาท แต่เมื่อจะออกจากโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาล ก็คิดเงินแค่ 15,000 บาท เท่านั้น

              เมื่อ มาทำการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาล ที่จังหวัดนครนายก แพทย์ก็บอกว่า ไม่รู้จะรักษาอะไรอีก มีแค่การล้างแผลที่ขาเท่านั้น และ อนุญาตให้คุณพี่อมรกลับบ้านได้

              แต่ ธรรมทานจากคุณพี่อมร ที่ได้รับจากการดูคลิปในตอนนี้ คือ การเตรียมตัวพร้อมสำหรับความตาย

              เพราะ คุณพี่อมร และ คุณพี่เหมี่ยว นั้น ตั้งแต่มาเป็นลูกบ้านสวน ทั้งสองท่าน ก็เตรียมพร้อมสำหรับความตาย เพราะ ต่างก็พูดคุยซึ่งกันและกัน ถึงเรื่องการพลัดพราก ไม่วันใดก็วันหนึ่ง นั้นคือ การนึกถึงความตายเป็นอารมณ์

             ซึ่ง คุณแม่อุบล ท่านได้กล่าวว่า ทางพระพุทธศาสนานั้นสอนให้คนเรา นึกถึงความตาย และ ให้เราค้นหาว่า เราเป็นใครมาจากไหน นั้นคือ เคยเกิดเป็นใครมาก่อน เรามาจากไหน นั้นคือ อยู่ที่ไหนมาก่อน มาเกิดทำไม นั้นคือ มีหน้าที่อะไร และ เราจะไปไหน

              ซึ่ง คุณพี่เหมี่ยว ท่านได้ไปนิพพานแล้ว เพราะ คุณงามความดีที่พี่เหมี่ยวได้กระทำ ที่พี่น้องบ้านสวนได้ช่วยอุทิศให้ และ บุญกุศลของคุณแม่อุบลได้อุทิศให้ เพราะ ยามมีชีวิต คุณพี่เหมี่ยว ได้มาทำบุญที่บ้านสวนฯ คุณพี่เหมี่ยว ท่านก็ทำด้วยการมีพรหมวิหาร4 

              คุณพี่อมร ท่านก็ได้บอกกล่าวว่า ตอนสูญเสีย คุณพี่เหมี่ยว ก็มีความโศกเศร้า เพราะ เคยอยู่ร่วมมาด้วยกัน แต่ ยอมรับต่อการพลัดพรากในครั้งนี้ และ ทราบว่า คุณพี่เหมี่ยว ท่านได้ไปนิพพานแล้ว ก็ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ และ พร้อมที่จะดำเนินชีวิต และ พร้อมก้าวต่อไป

              แต่ คุณแม่อุบล ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ถึงแม้นว่า คุณพี่อมรได้สูญเสียคุณพี่เหมี่ยวไป แต่ คุณพี่อมร กลับได้รับลูกชายทั้งสองกลับคืนมาสู่ครอบครัวอีกครั้งหนึ่ง เพราะ น้องแน่น และ น้องปราชญ์ ก็ได้กลับตัวกลับใจ มีความรับผิดชอบต่อตนเอง และ ครอบครัว หลังการจากไปของคุณพี่เหมี่ยว

               และ จากการที่กล้องคู่ชีพของคุณพี่อมร แตกหักเสียหายไปนั้น คุณพี่อมร ก็ได้คิดว่า เกิดจากการที่เคยใช้กล้องตัวนี้ ในการถ่ายภาพนู๊ดมาก่อน และ เกิดจากการที่จะถ่ายภาพได้ ก็มีการแตะต้องเนื้อตัวของผู้ถูกถ่ายด้วย คุณแม่อุบล ก็ได้ให้ข้อคิดเห็นว่า คุณพี่อมร อาจจะต้องทำอาชีพแค่การถ่ายเอกสาร เลิกการถ่ายภาพที่ไม่ถูกต้องตามศีลธรรม

                คุณแม่อุบล ท่านได้กล่าวว่า อยากให้ลูกหลานบ้านสวนฯ ได้ค้นหาปรากฎการณ์ของบ้านสวนฯ ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร อย่าไปสนใจต่อการแต่งตัวของท่าน ให้ความสนใจกับ ศีล สมาธิ ปัญญา และ วิมุติ(การหลุดพ้น)ของท่าน

                ซึ่ง คุณพี่อ้อย พี่เค้าได้บอกว่า พี่เค้าเข้าใจคำว่า รักแบบไม่มีเงื่อนไข จากการที่พี่ เห็นการปฎิบัติของคุณแม่อุบลในกรณี ของคุณพี่อมร 

                      คุณพี่แมว ก็มองข้ามการแต่งตัวและร่างกายของคุณแม่อุบล ให้ความสนใจในคำสอนและการบอกกล่าวของคุณแม่

                      คุณธนา ก็ให้ความสนใจ ต่อปรากฎการณ์ของบ้านสวนฯและ การค้นหาว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร

                      คุณพี่อมร ก็ให้ฝากความหวังต่อความเป็นผู้นำ ของคุณแม่อุบล ตั้งแต่ ครั้งที่ไปทำบุญที่วัดใหม่สันติธรรม ในครั้งที่ไปทอดกฐินกับคุณแม่อุบล เพราะ คุณแม่ท่านได้คัดค้าน ต่อการต่อยอดเงินของกฐิน ด้วยการบอกกล่าวผ่านไมโครโฟนว่า ทุกคนต่างก็ทำบุญกันอย่างเต็มที่แล้ว ไม่ควรจะทำการขอเงินเพื่อต่อยอดอีก

                       และ คุณแม่อุบล ยังได้บอกกล่าวว่า พระพุทธองค์ท่านได้กล่าวว่า พระอริยเจ้า เป็นที่จิตใจ นั้นคือ มีศีลห้าที่บริสุทธิ์ ปรารถนาพระนิพพาน (คือการหลุดพ้นจากความทุกข์) พ้นจากการเวียนว่ายจากวัฎสงสาร 31 ภพภูมิ ไม่ต้องการเกิดต่อไป

                       ที่บ้านสวนพีระมิด คุณแม่ได้ให้ลูกหลานบ้านสวนฯ ได้ทำการทำน้ำมโนธาตุ จากการที่ใช้จี้รุ่นท่านพ่อดตาจินิน แตะน้ำของตนเองที่นำมา และ ให้ดื่ม ทำให้ทุกคนมีจิตใจที่สบาย ไม่มีความกังวลต่อความทุกข์ใจจากปัญหาต่างๆ ของตนเอง

                       ขออนุโมทนาบุญ กับ เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่านที่ได้มาร่วมทำบุญที่บ้านสวนฯ ทั้งแรงกาย ปัจจัย สิ่งของ ครับ

                        ขอกราบต่อธรรมะ ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ในเรื่องการยึดต่อร่างกายของเรา ของผู้อื่น และ วัตถุธาตุ ให้เข้าใจว่า ของที่เป็นสิ่งใหม่ในวันนี้ ย่อมเป็นของเก่าในวันต่อไป และ มีการเสื่อมสลาย ทรุดโทรม ไม่มีอะไรทรงตัว ร่างกายมีการเจ็บ ป่วย เป็นของธรรมดา

                       ถ้าจิตยอมรับต่อความเป็นธรรมดา ไม่ฝืนกฎธรรมชาติ อารมณ์จิตก็ไม่เป็นทุกข์

                       สาธุ สาธุ สาธุ