กราบสวัสดีครับ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล

                     สวัสดีครับ พี่น้องทุกท่าน

                     ขอน้อมกราบต่อพระบาทท่านพ่อดตาจินิน สมเด็จองค์พระปฐมฯ พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อเสงี่ยม ท่านพระอาจารย์รัตน์ ท่านท้าวเวชสุวรรณ องค์พีระมิด และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านสวนพีระมิด

                     ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่อุบล คุณพ่อมงคล ท่านดอกเตอร์อาจอง และ ขอขอบคุณ คุณท๊อป

                     ขอขอบคุณ คุณมาร์ค และ คุณเพชร เวปมาสเตอร์

                      คืนนี้ ได้ชมคลิปรายการคุยไปแจกไป ของ

                      ตอนที่ 290 (พิเศษ)

              "อาจารย์อุบลคนหลอกลวง??? หรือ อาจารย์อุบลคนจริง" 

                            ที่บ้านสวนพีระมิด จ.นครนายก

              ค่าย 22: เตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ 28-29 มิ.ย. 2557

              คุณธนาได้บอกกล่าวในการเปิดค่ายในวันนั้นว่า บ้านสวนพีระมิด เป็นบ้านพักส่วนตัวของคุณแม่อุบล แต่เปิดเป็นสถานที่พิสูจน์กฎแห่งกรรม เผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่สถานที่รับรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้ผู้คนแต่อย่างใด และ เป็นการทำบุญเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

                คุณแม่อุบล ได้บอกกล่าวต่อลูกหลานที่มาร่วมกิจกรรมเข้าค่ายในวันนั้นว่า คนที่สำนึกผิด คิดได้ แก้ไขเปลี่ยนแปลงตนเอง ไม่กลับไปทำผิดซ้ำอีก ก็หายป่วยได้ เพราะ สามารถดับเหตุแห่งทุกข์ได้

                 "ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ  ถ้าเหตุดับ ผลก็ดับได้"

                คุณแม่อุบล ได้ยกตัวอย่าง ท่านผู้พิพากษาคนหนึ่ง ที่มารับบำบัดด้วยธรรมะของพระพุทธเจ้า ด้วยเรื่องที่มีอาการตาพร่ามัว สายตาเอียง ซึ่งท่านผู้พิพากษาคนนี้ ท่านได้ยอมรับว่า ตอนเด็กๆนั้นเคยแอบถ้ำมองเพื่อนบ้าน เคยแอบดูหน้าอกของผู้หญิงอื่นๆที่ไม่ใช่ภรรยาตนเอง เคยดูหนังโป๊ เมื่อท่านสารภาพความไม่ดีของตนเอง อาการตาพร่ามัว สายตาเอียง ปรากฎว่าหายเป็นปกติ

                  คุณแม่อุบลได้บอกกล่าวต่อลูกหลานบ้านสวนฯว่า คุณแม่ไม่กลัวความเสียหาย อะไรทั้งสิ้น ที่มีรายการข่าวรายการหนึ่ง เสนอข่าวบ้านสวนฯไปในทางลบ บิดเบือนความจริง

                   เพราะ พระพุทธองค์ ท่านทรงบอกว่า ความเสียหาย ความเลวของบุคคลนั้น เกิดจากตัวเองทำ(ความประพฤติของตัวเรา) ไม่ใช่เกิดจากคำพูดของผู้อื่น

                   คุณแม่อุบลได้บอกว่า มีเด็กวัยรุ่นผู้หญิงคนหนึ่ง ได้เข้ามาด่าในเวปบ้านสวนฯ ซึ่งลูกบ้านสวนฯทุกคนก็ทราบว่า หญิงวัยรุ่นคนนี้ ชื่อเสียงเรียงนาม นามสกุลใด เมื่อลูกบ้านสวนฯได้กล่าวตำหนิวัยรุ่นคนนี้ ก็เกิดความแค้นต่อบ้านสวนฯ จึงมาเขียนโพสในเนทฯว่า บ้านสวนฯโกหกหลอกลวง และ ทำการข่มขู่บ้านสวนฯ และ ลูกหลานบ้านสวนฯ ว่าจะทำการฟ้องบ้านสวนฯ และ ทุกคนที่ว่ากล่าวตำหนิต่อหญิงวัยรุ่นคนนี้ ซึ่งคุณแม่อุบลและลูกหลานบ้านสวนฯ ก็เชิญให้ฟ้องได้เลย เพราะ หญิงคนนี้ เป็นวัยรุ่นที่ชอบการเขียนถ้อยคำหยาบคาย ลามก และ ชอบยุแหย่ให้ผู้คนในเวปยอดนิยมแห่งหนึ่ง มาเขียนโจมตีเวปบ้านสวนฯ แต่คนในเวปก็บอกหญิงวัยรุ่นคนนี้ว่า ถ้าบ้านสวนฯก่อความเสียหายให้ตนเองๆ ก็ควรจะไปฟ้องร้องต่อศาล ไม่ใช่มาหาแนวร่วมในเวปแห่งนี้

                      คุณแม่อุบลได้ยกตัวอย่างของคนที่มารับธรรมะบำบัดในโรคที่วงการแพทย์ไม่สามารถทำการรักษาได้ คือ

                      คุณหมอฝน และ คุณหมอต้อย ซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็ง โดยคุณหมอฝนได้เดินทางไปที่สาขาอุบล(อาจารย์เดือน) เพื่อรับธรรมะบำบัดในการรักษามะเร็งขั้นที่สาม เพราะ คุณหมอฝนเป็นพยาบาลที่เป็นคุณครูสอนหมอสอนพยาบาลในเรื่องมะเร็ง แต่พอคุณหมอฝน เป็นมะเร็ง ปรากฎว่า วงการแพทย์ทำการรักษามะเร็งของคุณหมอฝนไม่ได้ ซึ่งหมอฝนต้องรอความตาย จึงตัดสินใจเดินทางมารับธรรมะบำบัดที่สาขาของอาจารย์เดือน เพราะ มะเร็งของคุณหมอฝนนั้นเป็นระดับสามแล้ว เริ่มลามจากกระดูกซี่โครงซี่ที่สองไปยังซี่ที่สาม

                      เมื่อ คุณหมอฝนได้มาสัมผัสวัตถุมงคลแห่งบ้านสวนฯ อาการบวม อาการปวดที่ใต้รักแร้ ก็ค่อยๆเริ่มหายปวด ก้อนที่เคยบวม ก็ค่อยๆยุบตัวลงไปเรื่อยๆ เมื่อคลำดูก็ไม่เจอ

                      หลังจากนั้น ก็เดินทางไปทำการตรวจที่โรงพยาบาล โดยบอกว่าขณะที่ไปทำอุลต้าซาวน์ ก็ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยก่อน ระหว่างที่ทำอุลต้าซาวน์ ปรากฎว่าต่อมน้ำเหลืองที่เคยบวม 4 จุดเมื่อปีก่อนหน้านั้น ก็ตรวจหาไม่เจอ คงเหลือแต่ร่องรอยของแผลเป็นที่เคยบวมเท่านั้น

                      เมื่อผลตรวจทางการแพทย์ออกมา ผลของการเป็นมะเร็งเป็นลบ(ไม่มีข้อบ่งชี้ว่าเป็นมะเร็ง) ผลเลือดก็เป็นลบ คุณหมอก็สงสัยว่าไปทำอะไรมา จึงหายจากการเป็นมะเร็งได้ ซึ่งแท้ที่จริงแล้วเป็นการบำบัดด้วยธรรมะของพระพุทธเจ้า ด้วยการสัมผัสวัตถุมงคลบ้านสวนฯ และ การใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยร่วม

                      คุณหมอฝน บอกว่า เป็นความรู้สึกที่ทำให้มั่นใจว่าตนเองไม่ตายแล้ว เพราะ อาการบวม อาการปวดก็หาย และ ยังหายจากการเป็นมะเร็งด้วย จึงกล้าพูดกล้าบอกต่อผู้คนได้เต็มที่ เพราะ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเองว่าหายได้ด้วยการบำบัดด้วยธรรมะของพระพุทธเจ้า และ ยินดีและเต็มใจในการกราบรูปของคุณแม่อุบล ได้สัญญาว่า จะมาขอทำบุญด้วยแรงกายที่บ้านสวนพีระมิดที่จังหวัดนครนายก

                   เมื่อมาบ้านสวนฯ ที่จังหวัดนครนายก คุณหมอฝนจึงมาทำการล้างห้องน้ำ กวาดใบไม้ที่บ้านสวนฯ ด้วยความสุขและเต็มใจทำ ซึ่งยอมรับว่าในชีวิตของคุณหมอไม่เคยทำมาก่อน มีแต่ชี้นิ้วใช้คนอื่นๆทำให้ตนเอง แต่เมื่อมาทำบุญด้วยแรงกายที่บ้านสวนฯ ตนเองทำอะไรต่างๆด้วยตนเองด้วยความสุขและเต็มใจทำ เพราะ เชื่อมั่นว่ายิ่งตนเองใช้แรงกายมากเท่าไร ตนเองก็หายไวขึ้นเท่านั้น

                     ด้วยเหตุนีั้ คุณหมอฝน จึงกล้าที่จะพูดความจริงกับนักข่าวที่จะมาขอพิสูจน์ความจริงที่บ้านสวนฯ ว่า คุณแม่อุบลเป็นคนจริงไม่ได้หลอกลวงใครๆ ไม่กลัวว่าจะมีใครมาฟ้องร้องคุณหมอฝน ในเรื่องที่กล่าวโกหกหลอกลวงใครๆ และ ก็บอกว่าไม่เคยมีความคิดในแง่ลบต่อคุณเดือนหัวหน้าสาขาอุบลราชธานี เพราะ คุณเดือนนั้นงามที่จิตใจ  เพราะ แค่โทรไปขอจะมารับธรรมะบำบัด คุณเดือนก็เต็มใจและให้ความมั่นใจต่อคุณหมอฝนว่า อาการเจ็บป่วยของคุณหมอฝนต้องหายอย่างแน่นอน

                      คุณแม่อุบลได้บอกกล่าวเพิ่มเติมว่า อย่ามองคนแค่ภายนอก แค่เครื่องแต่งกาย ให้มองคนที่ภายใน เพราะ คนเราจะเป็นคนอย่างไรนั้น อยู่ที่ความประพฤติการปฏิบัติ ไม่ใช่อยู่ที่เครื่องแต่งกาย การวางตัวพูดเนิบนาบ โกนหัวห่มเหลือง เพราะ การกราบไหว้พระที่แท้จริงนั้น ผู้กราบไหว้จะได้ความสุข ความเจริญ หายเจ็บหายจน เพราะ ถ้าคุณหมอฝนไม่เชื่อไม่ศรัทธาคุณแม่อุบล คุณหมอฝนก็คงต้องไปดาวดึงส์นานแล้ว

                        คุณแม่อุบลได้บอกกล่าวว่า เรื่องภัยพิบัตินั้น เกิดจากผี ที่เราฆ่าเค้า กินเค้า เค้ามีความโกรธ ความแค้นต่อเราที่เรากินเค้าฆ่าเค้า โดยการยกตัวอย่าง ของ น้องอุ๋ม ซึ่งปวดหัวมาเกือบ 15 ปี และ คุณแม่น้องก็ยอมรับว่า น้องเคยตัดหัวกุ้งเพื่อทำการวิจัย คุณแม่อุบลจึงทำการพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นผีกุ้งที่มาแก้แค้น โดยให้ผีออกจากร่างกายของน้องก่อน ปรากฎว่า อาการปวดหัวของน้องหายทันที

                        คุณแม่อุบลได้บอกกล่าวว่า พระพุทธองค์ไม่ได้ห้ามในการใช้ฤทธิ์เพื่อยังประโยชน์ แต่ทรงไม่สรรเสริญการใช้ฤทธิ์เพื่อลาภสักการะ

                       และ คุณแม่อุบลยังได้บอกว่า เวลาเราทำอะไรให้ใคร เราอย่าไปหวังผลประโยชน์อะไรจากคนที่เราทำให้เค้า ให้เราทำอะไรให้ใคร ก็ให้คิดอย่างเดียวว่า อยากให้เค้ามีความสุข

                       การทำบุญที่ได้รับอานิสงค์ทันทีนั้น ต้องประกอบด้วยความบริสุทธิ์ 3 ประการ คือ

                       1. ศรัทธาบริสุทธิ์ เราต้องมีจิตที่ผ่องใส ใจที่ว่างเปล่า ละวางความโลภ

                       2. วัตถุทานบริสุทธิ์  นั้นคือ เงิน ปัจจัย สิ่งของต้องมาด้วยความบริสุทธิ์ แต่ไม่มีเงิน ก็ให้ใช้แรงกายทำแทน

                       3. เนื้อนาบุญบริสุทธิ์ นั้นคือ คนที่เราจะสงเคราะห์ต้องรู้จักเลือกด้วย ให้สงเคราะห์คนดี คนที่บริสุทธิ์

                        และ การทำบุญที่จะช่วยให้เรารวยเร็วนั้นคือ

                        1.สังฆทาน คือการสงเคราะห์คณะบุคคล(ตั้งแต่4คนขึ้นไป) การทำสังฆทานนั้นทำให้คนทำสังฆทาน มีทรัพย์ไม่ฝีดเคือง มีสภาพคล่องทางการเงิน ไม่ใช่เป็นการทำเพื่ออุทิศส่วนบุญให้ญาติพี่น้องที่ล่วงลับของเราใดๆทั้งสิ้น

                        2. วิหารทาน คือการสร้างอาคาร วิหารต่างๆในเขตบุญ หรือ การใช้แรงกายในการก่อสร้างอาคารวิหารในเขตบุญ ก็ได้ถ้าไม่มีปัจจัย

                        3.ธรรมทาน คือการบอกเล่าธรรมทานของเราให้ผู้คนหยุดยั้งการกระทำที่ไม่ดีของตนเอง ที่เค้าได้ทราบว่าผลของการกระทำของเราทำให้เราทุกข์อย่างไร

                        4.อภัยทาน การให้อภัยต่อความผิด ความชั่วของผู้อื่นที่กระทำต่อเรา

                         คุณกิติพจน์ เป็นหัวหน้าสาขาที่จังหวัดสงขลา ออกมาบอกเล่าว่า เมื่อ4ปีก่อนนั้น ตนเองไม่เคยศรัทธาและเชื่อคุณแม่อุบลเลย ซึ่งก็ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างมากมาย เช่น เป็นกามตายด้าน เป็นอัมพฤกษ์ ขับรถชนบ้านคนอื่น เพราะ เคยนำเอาวัตถุมงคลที่ภรรยาตนเองบูชามาโยนทิ้งถังขยะ

                         แต่เมื่อได้พบคุณแม่อุบลครั้งแรก ตนเองก็มองดวงตาของคุณแม่อุบล ก็เห็นว่าดวงตาคุณแม่เป็นดวงตาของคนที่เป็นเทพ มีความเปล่งประกาย จึงได้ทำการกราบคุณแม่อุบลด้วยความรักความศรัทธา หลังจากนั้น เมื่อใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย อาการกามตายด้าน ก็หายทันที มีสุขภาพที่ดี ผิวพรรณขาวขึ้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์พาเมล่า

                         ปัจจุบันนี้ คุณแม่อุบล ท่านได้ทำการบำบัดผู้คนด้วยการให้พรต่อลูกหลาน โดยการบอกว่าหายนะลูก ปรากฎว่า ผู้หญิงคนหนึ่งมีอาการปวดเอวมาเป็นเวลานาน แต่เมื่อคุณแม่อุบลให้พรให้หายจากการปวดเอว ผู้หญิงคนนั้นก็หายปวดเอวทันที

                        คุณลุงท่านหนึ่ง ได้ให้สัมภาษณ์ต่อนักข่าวรายการข่าวของทีวีช่องหนึ่ง ในเรื่องความเชื่อ ความศรัทธาในตัวคุณแม่อุบล โดยบอกกล่าวต่อนักข่าวหญิงท่านนั้นว่า กิจกรรมธรรมะบำบัดของบ้านสวนฯนั้น คุณแม่อุบลไม่เคยคิดเงิน หรือ มีค่าใช้จ่ายอะไรทั้งสิ้น มาทำกิจกรรมก็มาแต่ตัว มีความศรัทธา มีความเชื่อ พกวินัยและการปฎิบัติตัวที่เหมาะสมกับการอยู่ร่วมกับผู้คนจำนวนมากมาย คุณแม่อุบลไม่เคยหลอกลวง ไม่เคยเรียกร้องเงินทองทรัพย์สิน หรือ ของขวัญของกำนัลใดๆทั้งสิ้น

                         มีแต่ลูกหลาน มาทำบุญด้วยแรงกาย ปัจจัยสิ่งของที่ตนเองเต็มใจและนำมาเพื่อลูกหลานคนอื่นได้กินได้ใช้เพื่อเป็นการทำบุญสังฆทานเท่านั้น ค่าน้ำค่าไฟค่าที่พัก คุณแม่อุบลใช้เงินทองของคุณแม่จ่ายเองคนเดียว

                        สาธุ สาธุ สาธุ