ReadyPlanet.com
dot
dot
พระรัตนตรัย และ ครูบาอาจารย์
dot
bulletสมเด็จองค์ปฐม
bulletหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
bulletพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ
bulletดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
dot
รายการคุยไปแจกไป
dot
bulletรายการคุยไปแจกไป
dot
ข่าวสารประชาสัมพันธ์
dot
bulletข่าวสารประชาสัมพันธ์
dot
กิจกรรมบ้านสวนพีระมิด
dot
bulletค่ายบ้านสวนพีระมิด
bulletภาพและคลิปวิดิโอจากบ้านสวนพีระมิด
dot
บทความที่น่าสนใจ
dot
bulletบทความที่น่าสนใจ
bulletคู่มือหนีกรรมผิวพรรณ
bulletคำสารภาพบาป และ ประสบการณ์กฏแห่งกรรม
dot
International Version (ภาคภาษาต่างประเทศ)
dot
bulletEnglish Articles (บทความภาษาอังกฤษ)


อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์  บ้านสวนพีระมิด


รายการคุยไปแจกไป 1 ก.ค. 2555 ตอน ธรรมบำบัด เนื่องในวันนมัสการครูบาอริยชาติ อริยจิตโต ที่บ้านสวนพีระมิด article

รายการคุยไปแจกไป  ออกอากาศ 1 กรกฎาคม 2555
ตอน "ธรรมบำบัด เนื่องในวันนมัสการครูบาอริยชาติ อริยจิตโต ที่บ้านสวนพีระมิด"
(ความยาว: 1 ชั่วโมง 57 นาที)



 

หมายเหตุ:

  1. บ้านสวนพีระมิด ได้รับอนุญาตจาก YouTube ที่จะนำเสนอคลิปรายการคุยไปแจกไป อย่างเต็มรายการ โดยเริ่มตั้งแต่คลิปรายการออกอากาศของวันที่ 5 ธันวาคม 2553 เป็นต้นไป โดยไม่มีข้อจำกัดเวลาต่อหนึ่งคลิปอีกต่อไป ขอทุกท่านร่วมอนุโมทนากับ YouTube ที่มอบความสะดวกนี้ให้กับทุกๆท่านครับ
  2. ขอรบกวนเพื่อนๆทุกท่านแจ้งผลการรับชมคลิปรายการคุยไปแจกไปให้ทราบด้วยครับ เพื่อการปรับปรุงแก้ไขในโอกาสต่อไป สำหรับเพื่อนๆที่มีปัญหาการรับชม เช่น คลิปกระตุก คลิปขาดๆหายๆ โหลดช้า ไม่มีเสียง และอื่นๆ กรุณาช่วยแจ้งอาการ และความเร็วอินเตอร์เน็ตของท่าน(ถ้าทราบ) ในช่องแสดงความคิดเห็นทางด้านล่างให้ด้วยนะครับ ขอขอบพระคุณอย่างสูงครับ
  3. สมาชิกเท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ (สมัครสมาชิกที่นี่)

 




รายการคุยไปแจกไป

รายการคุยไปแจกไป ตอนที่ 290 (พิเศษ) ตอน อาจารย์อุบล คนหลอกลวง ??? หรือ อาจารย์อุบลคนจริง article
รายการคุยไปแจกไป 29 มิ.ย. 2557 (ตอนที่ 289) ตอน ธรรมะบำบัดสัญจร กาญจนบุรี อดีตตำรวจหายเบาหวาน รร.ฟาร์อีสอินน์ นิ่ว 1 ซม. หลุดออก ไม่ต้องผ่า article
รายการคุยไปแจกไป 15 มิ.ย. 2557 (ตอนที่ 288) ตอน ธรรมะบำบัดสัญจร อ.ปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ บำบัดพระ และแม่ชี หาย 100% article
รายการคุยไปแจกไป 8 มิ.ย. 2557 (ตอนที่ 287) ตอน รับบารมีพระศรีอาริย์ เป็นพาร์กินสัน ก็หาย กราบก็หาย คุณพยาบาล เข้าใกล้ก็หาย article
รายการคุยไปแจกไป 1 มิ.ย. 2557 (ตอนที่ 286) ตอน ค่าย 21 ปรามาสสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เกือบเอาชีวิตไม่รอด article
รายการคุยไปแจกไป 25 พ.ค. 2557 (ตอนที่ 285) ตอน ธรรมะบำบัดที่ จ.สระแก้ว และลพบุรี รับบารมีพระศรีอาริย์ แค่เดินผ่านก็หาย article
รายการคุยไปแจกไป 18 พ.ค. 2557 (ตอนที่ 284) ตอน ธรรมะบำบัดที่หาดใหญ่ และเชียงใหม่ รับบารมีพระศรีอาริย์ แค่เดินผ่านก็หาย article
รายการคุยไปแจกไป 11 พ.ค. 2557 (ตอนที่ 283) ตอน ธรรมะบำบัดที่หาดใหญ่ รับบารมีพระศรีอาริย์ แค่เดินฝ่านก็หาย article
รายการคุยไปแจกไป 4 พ.ค. 2557 (ตอนที่ 282) ตอน ธรรมะบำบัดที่ปัตตานี รับบารมีพระศรีอาริย์ แค่เดินผ่านก็หาย article
รายการคุยไปแจกไป 27 เม.ย. 2557 (ตอนที่ 281) ตอน ธรรมะบำบัด ชายเป็นอัมพฤกษ์ article
รายการคุยไปแจกไป 20 เม.ย. 2557 (ตอนที่ 280) ตอน กิจกรรม ค่าย 20 หล่อ สวย รวย สุข 12-15 เม.ย. 57 article
รายการคุยไปแจกไป 13 เม.ย. 2557 (ตอนที่ 279) ตอน บำบัดทางไกล ด้วยขวดอภิญญา หายทันที article
รายการคุยไปแจกไป 30 มี.ค. 2557 (ตอนที่ 277) ตอน พระ ทำคุณไสย มนต์ดำใส่นักเรียน / เส้นทางของเชื้อเอดส์ ที่พึงระวัง article
รายการคุยไปแจกไป 23 มี.ค. 2557 (ตอนที่ 276) ตอน โสเภณี นอกซ่อง article
รายการคุยไปแจกไป 16 มี.ค. 2557 (ตอนที่ 275) ตอน ธรรมะบำบัด ปลดปล่อยวิญญาณ จากการทำบาป ผิดศีล article
รายการคุยไปแจกไป 9 มี.ค. 2557 (ตอนที่ 274) ตอน ธรรมะบำบัด พระที่สงสัยว่าถูกทำคุณไสย article
รายการคุยไปแจกไป 2 มี.ค. 2557 (ตอนที่ 273) ตอน ธรรมะบำบัด หญิง ไหล่ติด ยกแขนไม่ขึ้น ชาย ปวดเอว ปวดขา เดินลำบาก article
รายการคุยไปแจกไป 23 ก.พ. 2557 (ตอนที่ 272) ตอน ธรรมะบำบัด หญิงเคยมีอาชีพขายปู ปลา กุ้งหอย ปัจจุบัน ปวดทั้งตัว article
รายการคุยไปแจกไป 16 ก.พ. 2557 (ตอนที่ 271) ตอน ธรรมะบำบัด หญิงเป็นโรค พาร์กินสัน article
รายการคุยไปแจกไป 9 ก.พ. 2557 (ตอนที่ 270) ตอน ธรรมะบำบัด หญิงพิการ พูดไม่ชัด เดินไม่ตรง article
รายการคุยไปแจกไป 2 ก.พ. 2557 (ตอนที่ 269) ตอน ธรรมะบำบัด ผู้ประสบอุบัติเหตุ ทำให้สมองช้า พูดไม่ชัด เดินไม่ตรง article
รายการคุยไปแจกไป 26 ม.ค. 2557 (ตอนที่ 268) ตอน ขอบคุณ อ.อุบล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ช่วยชีวิตลูกน้อย ให้ฟื้นจากความตาย article
รายการคุยไปแจกไป 19 ม.ค. 2557 (ตอนที่ 267) ตอน พระอยู่ที่ใจ ไม่ใช่เครื่องแบบ article
รายการคุยไปแจกไป 12 ม.ค. 2557 (ตอนที่ 266) ตอน คบคนดี ชีวีก็มีสุข คบคนไม่ดี ชีวีก็มีทุกข์ article
รายการคุยไปแจกไป 5 ม.ค. 2557 (ตอนที่ 265) ตอน ทุกชาติ ศาสนา อยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม เหมือนกัน article
รายการคุยไปแจกไป 29 ธ.ค. 2556 (ตอนที่ 264) ตอน ละอัตตา ไม่ถือตัวถือตน ก็พ้นทุกข์ จากโรคภัยที่เบียดเบียนได้ article
รายการคุยไปแจกไป 22 ธ.ค. 2556 (ตอนที่ 263) ตอน ผิดศีลมาก ผีร้ายเข้าตัวเองมาก article
รายการคุยไปแจกไป 15 ธ.ค. 2556 (ตอนที่ 262) ตอน เก่งอย่างเดียว ยังไม่พอ ต้องสร้างบุญหนุนนำ ให้ประสบความสำเร็จในชีวิต article
รายการคุยไปแจกไป 8 ธ.ค. 2556 (ตอนที่ 261) ตอน กฎแห่งกรรม ทำให้ทุกข์ article
รายการคุยไปแจกไป 1 ธ.ค. 2556 (ตอนที่ 260) ตอน วิบากกรรม จากหนี้แผ่นดิน article
รายการคุยไปแจกไป 24 พ.ย. 2556 (ตอนที่ 259) ตอน วิบากกรรมที่เคยทำมา พาให้ทุกข์ article
รายการคุยไปแจกไป 17 พ.ย. 2556 (ตอนที่ 258) ตอน ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ชีวิตก็พ้นทุกข์ มีความสุขแน่นอน article
รายการคุยไปแจกไป 10 พ.ย. 2556 (ตอนที่ 257) ตอน ขออภัย สำนึกผิด ไม่คิดทำอีก เจ้ากรรมนายเวรให้อภัย ก็พ้นทุกข์ article
รายการคุยไปแจกไป 3 พ.ย. 2556 (ตอนที่ 256) ตอน จิตที่มุ่งมั่น ศรัทธาที่เต็มเปี่ยม ส่งผลให้พ้นทุกข์ สุข สำเร็จ แน่นอน article
รายการคุยไปแจกไป 27 ต.ค. 2556 (ตอนที่ 255) ตอน ขอความเมตตาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต้องมีจิตศรัทธา และรักษาศีล article
รายการคุยไปแจกไป 20 ต.ค. 2556 (ตอนที่ 254) ตอน สำนึกกรรม ที่ทำชั่วในอดีต เจ้ากรรมนายเวรให้อภัย ก็พ้นทุกข์ article
รายการคุยไปแจกไป 13 ต.ค. 2556 (ตอนที่ 253) ตอน ปลดปล่อยวิญญานแค้น ด้วยบุญ article
รายการคุยไปแจกไป 6 ต.ค. 2556 (ตอนที่ 252) ตอน วิบากกรรม จากการทำแท้ง article
รายการคุยไปแจกไป 29 ก.ย. 2556 (ตอนที่ 251) ตอน มินิค่าย "อุทิศบุญกรรมทำแท้ง" คิดดี พูดดี ทำดี ชีวีมีสุข article
รายการคุยไปแจกไป 22 ก.ย. 2556 (ตอนที่ 250) ตอน บุญย่อมรักษา ผู้รักษาศีล article
รายการคุยไปแจกไป 15 ก.ย. 2556 (ตอนที่ 249) ตอน ปฏิบัติตนอย่างไรให้รอดพ้น คุณไสย มนต์ดำ article
รายการคุยไปแจกไป 8 ก.ย. 2556 (ตอนที่ 248) ตอน อยากหลุดพ้นบ่วงกรรมที่ทำมา ต้องสำนึกผิด และไม่คิดทำอีก article
รายการคุยไปแจกไป 1 ก.ย. 2556 (ตอนที่ 247) ตอน ล้างมนต์ดำ คุณไสย์ ด้วยบารมี พีระมิด รุ่นพระนางเนเฟอร์ตารี article
รายการคุยไปแจกไป 25 ส.ค. 2556 (ตอนที่ 246) ตอน บารมี พีระมิด รุ่นพระนางเนเฟอร์ตารี article
รายการคุยไปแจกไป 18 ส.ค. 2556 (ตอนที่ 245) ตอน บวงสรวง รวมพระบารมี ท่านรามเสสที่2 และ พระนางเนเฟอร์ตารี article
รายการคุยไปแจกไป 11 ส.ค. 2556 (ตอนที่ 244) ตอน พลังบารมีวัตถุมงคล บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 4 ส.ค. 2556 (ตอนที่ 243) ตอน สำนึกบาปกรรมที่ทำมา และจะไม่ทำอีก ก็ปลดเปลื้องทุกข์ได้ ทันที article
รายการคุยไปแจกไป 28 ก.ค. 2556 (ตอนที่ 242) ตอน บวงสรวงอาราธนาบารมี ท่านรามเสสที่ 2 article
รายการคุยไปแจกไป 21 ก.ค. 2556 (ตอนที่ 241) ตอน ศรัทธาจริงๆ ปาฏิหาริย์ก็เกิดจริงๆ article
รายการคุยไปแจกไป 14 ก.ค. 2556 (ตอนที่ 240) ตอน สำนึกบาป สารภาพกรรม ทำให้พ้นทุกข์ article
รายการคุยไปแจกไป 7 ก.ค. 2556 (ตอนที่ 239) ตอน วิญญาณที่ทุกข์ทรมาน รับบุญ อ.อุบล ไปสุคติภูมิทันที article
รายการคุยไปแจกไป 30 มิ.ย. 2556 (ตอนที่ 238) ตอน ศรัทธาแรงกล้า ปาฎิหาริย์เกิดทันที article
รายการคุยไปแจกไป 23 มิ.ย. 2556 (ตอนที่ 237) ตอน ไปนิพพาน ง่ายที่สุด มนุษย์ทำให้ยากเอง article
รายการคุยไปแจกไป 16 มิ.ย. 2556 (ตอนที่ 236) ตอน อ.อุบล สามารถถ่ายโอนพลัง ให้หัวหน้าสาขาบ้านสวนพีระมิดได้ article
รายการคุยไปแจกไป 9 มิ.ย. 2556 (ตอนที่ 235) ตอน พลังมหัศจรรย์ อ.อุบล บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 2 มิ.ย. 2556 (ตอนที่ 234) ตอน สาขาบ้านสวนพีระมิด ช่วยบำบัดผู้คน ได้ตามที่ อ.อุบล อนุญาต article
รายการคุยไปแจกไป 26 พ.ค. 2556 (ตอนที่ 233) ตอน ผู้ที่ได้รับมองหน้าที่จาก อ.อุบล ก็ช่วยคนอื่นได้เหมือน อ.อุบล article
รายการคุยไปแจกไป 19 พ.ค. 2556 (ตอนที่ 232) ตอน เมตตาบารมี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทุกพระองค์ ในทุกสถานที่ ที่ อ.อุบลไปเยือน article
รายการคุยไปแจกไป 12 พ.ค. 2556 (ตอนที่ 231) ตอน ธรรมะบำบัดสัญจร สัมผัสเมตตาบารมี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ article
รายการคุยไปแจกไป 5 พ.ค. 2556 (ตอนที่ 230) ตอน เมตตาบารมี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ ในวันเปิดสาขาบ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 28 เม.ย.. 2556 (ตอนที่ 229) ตอน เชื่อมั่น ศรัทธา รักษาศีล จึงสัมผัสเมตตาบารมี จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ article
รายการคุยไปแจกไป 21 เม.ย.. 2556 (ตอนที่ 228) ตอน พลังมหัศจรรย์ บารมีพระนางเนเฟอตารี article
รายการคุยไปแจกไป 14 เม.ย. 2556 (ตอนที่ 227) ตอน พลังมหัศจรรย์ วัตถุมงคล บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 7 เม.ย. 2556 (ตอนที่ 226) ตอน ปฎิบัติตน ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า และศรัทธา บ้านสวนฯ ก็พบปาฎิหาริย์ได้ article
รายการคุยไปแจกไป 31 มี.ค. 2556 (ตอนที่ 225) ตอน สาขา บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 24 มี.ค. 2556 (ตอนที่ 224) ตอน มหัศจรรย์ วัตถุมงคล บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 17 มี.ค. 2556 (ตอนที่ 223) ตอน ต้องมีศรัทธา รักษาศีล เมื่อใช้วัตถุมงคล บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 10 มี.ค. 2556 (ตอนที่ 222) ตอน พลัง บารมี และอานุภาพ วัตถุมงคล บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 3 มี.ค. 2556 (ตอนที่ 221) ตอน สร้างบุญที่บ้านสวนพีระมิด สุขทั้งชีวิตโลกนี้ และโลกหน้า article
รายการคุยไปแจกไป 24 ก.พ. 2556 (ตอนที่ 220) ตอน ชดใช้กรรมในอดีตชาติ และปัจจุบันชาติ ด้วยการสร้างบุญ ที่บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 17 ก.พ. 2556 (ตอนที่ 219) ตอน "พระบรมธรรมบิดา ท่านพ่อดตาจินิน รัก เมตตา ให้อภัย ทุกคนเสมอ" article
รายการคุยไปแจกไป 10 ก.พ. 2556 (ตอนที่ 218) ตอน สัมผัสบารมี พระบรมธรรมบิดา (ท่านพ่อดตาจินิน) ด้วยตนเอง ที่บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 3 ก.พ. 2556 (ตอนที่ 217) ตอน "ท่านพ่อ ดตาจินิน ผู้ให้กำเนิดทุกสิ่งในจักรวาล" article
รายการคุยไปแจกไป 27 ม.ค. 2556 (ตอนที่ 216) ตอน เมื่อจิต เชื่อมั่น ศรัทธา ก็รับอภิญญาได้ โดยง่าย article
รายการคุยไปแจกไป 20 ม.ค. 2556 ตอน ทำอาหารธรรมดา ให้เป็นอาหารอภิญญา article
รายการคุยไปแจกไป 13 ม.ค. 2556 ตอน พิสูจน์ อภิญญาบารมี ด้วยตนเอง ณ บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 6 ม.ค. 2556 ตอน ธรรมะกับทางรอด เตรียมกายเตรียมใจสู้ภัยพิบัติ article
รายการคุยไปแจกไป 30 ธ.ค. 2555 ตอน กิจกรรมธรรมะบำบัด ปลดล็อกกรรม ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ตอนที่ 2 article
รายการคุยไปแจกไป 23 ธ.ค. 2555 ตอน กิจกรรมธรรมะบำบัด ปลดล็อกกรรม ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม article
รายการคุยไปแจกไป 16 ธ.ค. 2555 ตอน รับกรรมเพราะทำเอง ไม่ใช่มรดกกรรม, ศรัทธาจริงใจ ก็หายได้จริงๆ article
รายการคุยไปแจกไป 9 ธ.ค. 2555 ตอน ธรรมะบำบัด ม.ราชภัฏนครปฐม, สำนึกในอกุศลกรรม ทำให้พ้นทุกข์ article
รายการคุยไปแจกไป 2 ธ.ค. 2555 ตอน มหากฐิน บ้านสวนฯ ณ วัดคลองไทร พัฒนาการปาฏิหาริย์ บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 25 พ.ย. 2555 ตอน อานิสงส์ บุญธรรมทาน, อพยพ สู่โลกอวกาศ, สมาธิสร้างอัจฉริยะ article
รายการคุยไปแจกไป 18 พ.ย. 2555 ตอน ส่งคุณพ่อสำเภา วาระนุช สู่นิพพาน พระผู้สร้าง อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ผู้อยู่เบื้องหลังรหัสจักรวาล อ.อุบล ช่วยด้วย article
รายการคุยไปแจกไป 11 พ.ย. 2555 ตอน มโนกรรม นำพาให้ทุกข์ จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี แค่มองก็หายทุกข์ได้ article
รายการคุยไปแจกไป 4 พ.ย. 2555 ตอน สร้างบุญเต็มกำลัง ก็เกิดผลปาฏิหาริย์ ขัดบัญชาสวรรค์ ปาฏิหาริย์ก็ไม่เกิด article
รายการคุยไปแจกไป 28 ต.ค. 2555 ตอน บารมีพระศรีอาริย์ อานุภาพ จี้ 3 ร่มโพธิ์ศรี article
รายการคุยไปแจกไป 21 ต.ค. 2555 ตอน อานุภาพ จี้สฟิงซ์ 3 ร่มโพธิ์ศรี อานิสงส์ กิจกรรมกลุ่ม บุญแรงกายที่บ้านสวนฯ article
รายการคุยไปแจกไป 14 ต.ค. 2555 ตอน ค่าย 13 ชมบารมีพระศรีอาริย์ พบปาฏิหาริย์มากมาย article
รายการคุยไปแจกไป 7 ต.ค. 2555 ตอน คุณไสยพ่ายบารมีพระศรีอาริย์ ผู้มีความกตัญญู ย่อมพบปาฏิหาริย์ ที่บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 30 ก.ย. 2555 ตอน การอาราธนาบารมีพระศรีอาริย์ ที่พบปาฏิหาริย์ทันที ที่บ้านสวนพีระมิด & กทม. article
รายการคุยไปแจกไป 23 ก.ย. 2555 ตอน เพราะกรรมใด จึงทำให้เจ็บปวดบ่อย และยากจน article
รายการคุยไปแจกไป 16 ก.ย. 2555 ตอน พิธีบวงสรวง อาราธนาบารมี พระศรีอาริย์ สถิตย์ ณ บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 9 ก.ย. 2555 ตอน บารมีพระศรีอาริย์ ทรงบันลือสีหนาท ทุกกาลสถานที่ article
รายการคุยไปแจกไป 2 ก.ย. 2555 ตอน ธรรมบำบัด แบบฉับพลันทันที ศรัทธาก็ได้ผล ไม่ศรัทธาก็ไม่มีผล ณ ม.มหิดล และ บ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 26 ส.ค. 2555 ตอน ธรรมบำบัดแบบเห็นผลฉับพลันทันที ณ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน ม.มหิดล ชมบารมีพระศรีอาริย์ ที่บ้านสวนฯ article
รายการคุยไปแจกไป 12 และ 19 ส.ค. 2555 (ออกอากาศซ้ำ) ตอน อานุภาพจี้องค์เทพสฟิงซ์ และเสื้อบ้านสวนพีระมิด article
รายการคุยไปแจกไป 5 ส.ค. 2555 ตอน สารภาพบาปกับองค์เทพสฟิงซ์ เห็นผลฉับพลันทันที เหมือนสารภาพกับ อ.อุบล article
รายการคุยไปแจกไป 29 ก.ค. 2555 ตอน ผลของกรรมรวมตัว เล่นคุณไสย+หมกมุ่นในกาม ละเมิดกฎบ้านสวนพีระมิด article



[1] 2 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 1 (142766)

ครูบาอริยชาติ พูดถึงท่านอ.อุบลว่า ท่านเป็นผู้นำพาญาติโยม สร้างบารมี คุณงามความดี เพื่อค้ำชูพระพุทธศาสนา

อาจารย์แม่เป็นผู้ที่มีความสามารถพิเศษ ได้รับบารมีจากองค์พระปฐม จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บ เพราะได้รับพลังจากเบื้องบนโดยตรง ถือว่าเป็นผู้นำบุญที่ดี

 

แหม่..เห็นพ่อใหญ่ธนา เขยิบมานั่งข้างหน้า ถือไมค์ ชนิดาก็แอบลุ้นอยู่ว่า จะต้องมีคำถามอะไรเด็ดๆให้ติดตามแน่ๆ...สงสัยต้องลุ้นตอนต่อไปหรือเปล่าคะเนี่ย...

 

 

เริ่มการใช้ธรรมะบำบัดเคสแรก ด้วยการบำบัดคุณป้าท่านนึง ซึ่งพูดติดอ่างมา9ปี พูดไม่ชัด ฟังไม่รู้เรื่องเลย แต่พอเริ่มไต่สวนกรรม ใช้รหัส"อ.อุบลช่วยด้วย" ก็ดีขึ้น แต่พอเจอไม้ตาย กราบท่านอาจารย์ปั๊บ..พูดเสียงดัง ฟังชัดทันที ขนแขนสแตนด์อัพอย่างแรง เห็นผลกันชัดๆเลยค่ะ

 

ท่านนายกฯ สืบ ก็มาเล่า ประสบการณ์ของตนเช่นกันว่า ตอนไปปฏิบัติธรรมที่บ้านไร่ปลายตะวัน วันนั้นแค่เพียงท่านอาจารย์อุบลยกมือแผ่พลังให้ อาการปวดขาปวดเอวมากๆ ก็หายไปทันทีเลย เหลือเชื่อ เจ้าตัวเอง ก็แทบไม่เชื่อเช่นกัน..นึกว่าเป็นการ"อุปทาน"..

 

ได้ดูรายการเทปนี้แล้ว...พอเห็นภาพผู้คนเข้ามาบ้านสวนฯกันอย่างคับคั่งแล้ว พอจะนึกภาพบ้านสวนฯในอนาคตออกแล้วนะคะ ว่าจะประมาณไหน

 

นี่แค่เพียงช่วงเริ่มต้นนะคะเนี่ย ผู้คนยังมาเยอะขนาดนี้แล้ว ต่อไปสงสัยจะแทบไม่มีที่ให้เดินแน่ๆเลยนะคะ ดีค่ะคนมาได้เยอะเท่าไหร่ โอกาสที่โลกนี้จะมี"คนดี"เพิ่มขึ้นก็มีมากเท่านั้น..

คุณ บุญศิริ อดีตประมงจังหวัดนครราชสีมา สารภาพบาปกรรมที่เคยทรมาน ทำร้ายร่างกายสัตว์มาแล้วทุกชนิด และทำมาเยอะมาก เพราะเรียนมาด้านการประมงต้องทดลอง ศึกษาจากชีวิตสัตว์

 

และหนึ่งกรรมที่ส่งผลชัดเจนที่สุด คือฉีดสารบางอย่างไปที่ ต่อมใต้สมองของปลา ผลกรรมจึงมาเกิดกับคนที่เรารัก คือ ภรรยา มีกระดูกงอกที่หัว ซึ่งจะปวดคอหันไม่ได้

 

แต่พอท่านประมงสารภาพบาปเสร็จ ก้อนนั้นก็หาไม่เจอ แล้วอาการปวดคอก็หายไป 90% พอปฏิบัติตามสองขั้นตอนที่เหลือ อาการก็ "หายร้อยเปอร์เซ็นต์"ค่ะ

 

ส่วนท่านประมง จำได้ขึ้นใจว่า เคยตีจิ้งเหลนที่หลังมาสามตัว จึงมีอาการปวดหลัง พอเล่าอาการก็หายเยอะแล้ว พอทำครบทุกขั้นตอน อาการก็หายหมดเช่นกันค่ะ

 

ส่วนท่านนายกฯ แซวว่า ยืนอยู่ตั้งนานแล้ว จะขอกราบท่านอาจารย์บ้าง พอกราบเสร็จอาการปวดเอวหายเกือบหมด แต่ยังมีเหลือบ้าง ให้ท่านอาจารย์ได้ไต่สวนกรรม ซึ่งอาจารย์ก็ถามตรงๆว่า แอบเก็บสาวไว้กี่คน ท่านก็ตอบแบบกล้าหาญเลยว่า สองคน

 

หลังจากนั้นอาการปวดก็หายทันที แล้วท่านนายกฯก็สารภาพบาปกรรมใหญ่ที่เคยทำมา ทั้งมีส่วนในการทำแท้ง เคยฆ่าคนในหน้าที่มาแล้วนับไม่ถ้วน  จึงทำให้ท่านนายกฯเป็นโรคเบาหวาน และอีกหลายๆโรคที่จะตามมา

 

ท่านนายกฯบอกว่า ท่านก็อยากจะสารภาพบาปมานานแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปสารภาพกับใคร กับพระ กับชี ก็คงจะไม่หาย 

คุณป้าอีกท่านนึง มาเล่าประสบการณ์ตอนที่พบท่านอ.อุบลครั้งแรกที่บ้านไร่ปลายตะวัน ที่เคยมีอาการแผลตึงจากการผ่าตัดไม่สามารถก้มกราบลงถึงพื้นได้ แต่พอน้อมจิตกราบท่านอาจารย์อย่างบริสุทธิ์ใจก็ไม่รู้สึกเจ็บ หรือตึงแผลแต่อย่างใด

 

และที่สำคัญการกราบอาจารย์ยังส่งผลถึงจิตใจให้ดีขึ้นด้วย คุณป้าศรัทธาท่านอาจารย์อย่างเต็มร้อยโดยไม่ลังเลสงสัยเลย เพราะกราบแล้วหายทันที โดยที่ไม่ได้รู้จักท่านอาจารย์มาก่อนเลย

 

แถมคุณป้าก็มั่นใจในรหัส"อ.อุบลช่วยด้วย" นำไปใช้ทุกวันอย่างเชื่อมั่น ศรัทธาและมั่นใจ โดยใช้ไล่หนู ไล่แมลง ฯลฯ แล้วก็ได้ผลซะด้วย...

 

แล้วก็มาถึงช่วงบำบัดรวมด้วยการเช็คกรรมจากอาการต่างๆ

ปวดหัว เกิดจาก ตีหัวปลา หัวหมา หัวแมว หัวสามี ภรรยา ลูก

ปวดคอปวดไหล่ เกิดจาก เป็นคนที่ขี้เกียจชอบนอน คนที่เคยทำแท้ง เคยแนะนำให้คนอื่นไปทำ ให้คำปรึกษา ให้เงินคนไปทำแท้ง

ปวดแขนนิ้วล็อค เคยใช้มือฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ เคยชก เคยใช้มือตีลูกตีหลาน

ปวดหลัง เคยตีงู ฆ่างู ตีหลังหมู หมา กา ไก่ ตีสามี ภรรยา ตีลูก และเป็นคนขี้เกียจสันหลังยาว

ปวดขา ปวดเข่า เคยหักขากบ ขาเขียด เคยตีลูก เมีย ภรรยา ที่ขา เคยเตะคนอื่นๆที่ขา หรือหันเท้าไปทางพระ

ธรรมะจากหลวงพ่อฤาษีลิงดำ แสดงธรรมเรื่อง จิตเป็นทุกข์ เพราะไปยึดกับตัณหาสามอย่าง

กามตัณหา ความอยากในกาม รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ภาระขันธ์ห้าของตัวเราคนเดียวก็ทำให้ทุกข์พออยู่แล้ว ยังจะหา"ขันธ์ห้า"ของคนอื่นมาเป็นคู่ครอง มาเป็นปัญหาให้ตนต้องทุกข์หนักขึ้นไปอีก

ภวตัณหา ตัณหาที่เกิดจากความเห็นผิด เห็นว่าโลกเที่ยง ยั่งยืน แต่พอเห็นทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเสื่อมสลายไป จึงเป็นทุกข์

วิภวตัณหา ตัณหาที่ทำให้เห็นผิดคิดว่า ตายแล้วเป็นสูญ ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก จึงไม่อยากตาย เมื่อไม่อยากตาย ก็เลยเป็นทุกข์

จะสลายตัวตัณหาได้ ต้องใช้มรรคแปด โดยย่อเหลือ ศีล สมาธิ ปัญญา ขอเพียงแต่มีความรัก เมตตา กรุณา ก็เป็นปัจจัยให้ศีลบริสุทธิ์ มีใจที่อยากจะสงเคราะห์คนและสัตว์ให้มีความสุข ตัดโลภะได้ เมื่อรักแล้ว ก็โกรธ พยาบาทใครไม่ลง  

พอศีลบริสุทธิ์ จิตก็สงบมีสมาธิ เมื่อมีสมาธิก็จะเกิดปัญญาได้ในที่สุด

.......................................

กราบขอบพระคุณเบื้องบนทุกๆพระองค์ ท่านอาจารย์อุบล อ.มงคล คุณท็อป ที่เมตตาผลิตรายการอันประเสิรฐ เพื่อแสดงถึงกฏของกรรมให้คนได้ศึกษาและเข้าใจได้อย่างชัดเจน และขอบคุณคุณเพชร คุณมาร์ค ที่มาอัพโหลดให้ได้ชมอย่างรวดเร็วทันใจ ค่ะ

............................

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-02 03:26:58


ความคิดเห็นที่ 2 (142775)

 ขอบคุณคุณชนิดานะคะที่ช่วยสรุปให้อย่างรวดเร๊ว

ตัวเองดูไปหลับไป ไว้ต้องดูใหม่

ผู้แสดงความคิดเห็น อรศรี ชุติเนตร (aurasri05-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-01 17:46:28


ความคิดเห็นที่ 3 (142777)

คุณชนิดาเนี่ยเป็นเสือปืนไวตัวจริงเลยนะคะ

มิหนำซ้ำ

เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วนทีเดียวเชียว

ขออนุโมทนาด้วยค่ะ

*********

ตอนนี้เดินทางกลับมาถึงบ้านโดยสวัสดิภาพแล้ว

และ

อยากดูรายการวันนี้จัง

แต่จอดำค่ะ

รบกวนคุณมาร์คนิดนึงนะคะ

ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธัญญาภรณ์ พุกภัย พิสมัย (สีนวล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-01 22:01:15


ความคิดเห็นที่ 4 (142778)

รายการคุยไปแจกไปที่ออกอากาศในวันนี้ ได้เห็นนักการเมืองรวมถึงนักฆ่ามาที่บ้านสวนพีระมิดมาต้อนรับครูบาอริยชาติที่บ้านสวนฯ เห็นอย่างชัดเจนว่าท่านครูบาฯมีบารมีมากจริงๆ

ผู้มีชื่อเสียงในทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองระดับชาติ ระดับท้องถิ่น เศรษฐี คนทั่วไป หรือแม้แต่นักฆ่าก็ยังมาเลย ว้าว..แบบนี้ไม่ธรรมดาซะแว้วว

ต่างคนต่างกรูกันมากราบท่านครูบาฯแบบชนิดที่ทำให้พวกเราอดปลื้มใจไปด้วยไม่ได้

แต่ผมก็สงสัยอยู่อย่างว่า ทำไมครูบาอริยชาติท่านถึงได้มีลูกศิษย์ลูกหาอยู่ทุกวงการเลย นักการเมืองมากมาย ผู้กว้างขวางในสังคมก็เยอะมาก นี่ยังมีนักฆ่าอีก อืม...ทำไมหนออ   

และย้อนมาถึงตัวท่านอาจารย์อุบลเองผมก็ทราบว่าเป็นหลานสาวนักการเมืองมีชื่อดังสุดๆและเป็นผู้กว้างขวางที่ทุกคนได้ยินแล้วต้องยกนิ้วในความเป็นคนจริงของท่าน

เพราะจำได้ว่าในประวัติของท่านอาจารย์อุบลนั้นเคยคิดฆ่าคนมาก่อน ทำให้สงสัยมั่กๆว่า แล้วท่านอาจารย์รู้จักนักฆ่าด้วยเหรอครับ เขาจ้างวาน หรือคิดค่าจ้างกันยังไงเท่าไหร่ อยากรู้จริงๆครับ ผมขอถามประดับรอยหยักในสมองด้วยก๊าบ

และไหนๆก็ถามแว้วว ขอถามให้สุดๆไปเลยว่า อืม..มีบ้างไหมครับนักฆ่าหรือคนที่เคยฆ่าคนมาก่อนเนี่ย เขาจะสามารถฆ่าคนเพื่อไถ่โทษ เพราะเพิ่งดูขุนเดชจบไปง่ะกั๊บ พระเอกเขารักชาติบ้านเมืองเขาเลยฆ่าคนเลวที่ทำลายชาติ ก็เลยสงสัยว่ามีไหมครับ นักฆ่าที่สามารถฆ่าคนเพื่อไถ่บาปกั๊บบ..

ขอเหลาแถมอีกเรื่องหนึ่ง เพราะเมื่อวานนี้ได้มีโอกาสติดตามท่านอาจารย์อุบลไปที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในอยุธยา ซึ่งท่านอาจารย์ได้รับเชิญให้ไปเป็นวิทยากรบรรยายธรรมะ

เกิดไรขึ้นรู้มะครับ...รู้แล้วอย่าช๊อคนะ เพราะผมเห็นกับตาว่านักฆ่าที่อายุยังน้อยอยู่ในช่วงอายุยี่สิบปีเอง กลับฆ่าคนอย่างเลือดเย็นเกือบครึ่งร้อยชีวิต นี่เฉพาะที่ตายนะครับ

และที่บาดเจ็บจนสลบคาที่ และบาดเจ็บแต่หลบหนีไปได้อีก อะจ๊ากก..ไม่อยากจะคิดเลย 

แต่สิ่งที่ทำให้ผมตกตะลึงคือ นักฆ่าคนนี้กลับมาสยบต่อหน้าท่านอาจารย์อุบล ยอมเปิดปากสารภาพบาปทุกอย่าง แบบว่ายอมแล้วว...กลัวแล้ว ทุกข์ทรมานกับผลของกรรมเหลือเกิน

ทุกวันนี้นักฆ่าผู้นี้ผ่าตัดสมองไปแล้วถึง4ครั้ง ครั้งหน้าเดือนสิงหาคมต้องผ่าตัดสมองแบบสดๆไม่ฉีดยาชา และเสียค่าผ่าตัดครั้งละ 120,000 บาท แต่ละครั้งที่ไม่ได้รักษา จะปากเบี้ยว ตาเหล่ หน้าตาพิกลพิการ ทุกข์แสนสาหัส

ตอนนี้กลัวการผ่าตัดสมองแบบสดๆที่สุด นี่แหละผลของกรรมที่เคยทำกับคนอื่นมา ตีหัวเขาตายมามากมาย

เรียกว่าฆ่าคนมาเท่าไหร่ก็ตาม อหังการมาแค่ไหนก็เถอะกลับมาสยบต่อหน้าท่านอาจารย์อุบล ร้องขอความเมตตาให้ช่วยรักษาอาการเจ็บปวดที่หัว ไม่อยากทุกข์ทรมานอีกแล้ว

พูดแล้วขนลุก เพราะเห็นหน้าตานักฆ่าผู้นี้ก็รู้ว่าทุกข์เจ็บปวดแค่ไหน และแววตามีความหวังแค่ไหน เพราะพยายามจะหลบเลี่ยงในตอนแรกไม่ตอบคำถามท่านอาจารย์ทั้งๆที่ก็รู้ว่าท่านอาจารย์รู้ทุกอย่างหมดแล้ว สุดท้ายทนความทุกข์ไม่ไหวก็ยอมสยบทุกอย่าง ปิดบังอะไรท่านอาจารย์ไม่ได้เลย

อยากให้ทุกคนได้เห็นกับตาเจงๆเลยครับ อดใจรอหน่อยนะครับได้ชมกันแน่นอน

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 12:07:10


ความคิดเห็นที่ 5 (142780)

คณธนา มาคุยเรื่องมือปืน นักฆ่า ช่วงนี้ เราเจอนักฆ่ามากจริงๆ 

ส่วนครูบาท่านเมตตาสูง ทุกคนอยากพึ่งบารมีท่าน ดังนั้นลูกศิษย์ท่าน

จึงมีทุกวงการ มีทั้งนักการเมือง พ่อค้า ผู้มีอิทธิพล ที่ต้องการพึ่งบารมีท่าน

ต้องการให้ท่านช่วยบรรเทาทุกข์ พอคนเข้าไปหาท่าน ก็มักจะติดใจในอัธยาศัย

และอารมณ์ขันของท่าน ท่านยังบอกพวกเราว่า ถ้าใครอยู่ใกล้ท่านแล้วเครียดนะ

พิจารณาตัวเองได้เลย ซึ่งก็จริงนะ ท่านทำให้คนรอบข้างท่าน สนุกสนานตลอด

 

ส่วนนักฆ่า ก็มาศรัทธาท่านเหมือนคนทั่วไปที่เคารพรักท่าน แล้วคนเหล่านี้

เขามีความสุขเพราะท่านเมตตาไม่เลือก ยิ่งคนไหนทุกข์มาก บาปมาก ท่านยิ่งต้อง

เมตตามาก และคนเหล่านี้ก็รักท่านแบบมอบกายถวายชีวิต พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อท่าน อันนี้ดูจากพลังศรัทธาที่เห็น

 

เดี๋ยวมาโม้ต่อนะ ใช้ไอแพทพิมพ์ไม่ถนัด ต้องไปเปลี่ยนเครื่องก่อนนะ ผิดเพียบ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ (Pamelasoap-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-02 22:56:41


ความคิดเห็นที่ 6 (142781)

ได้อ่านที่่ท่านอาจารย์และพ่อใหญ่ธนา

มาเปิดประเด็น เรื่องนักฆ่า วัยเยาว์

ที่เพิ่งมาเปิดเผยตัว

และสารภาพบาปอย่างละเอียด

ต่อหน้าท่านอาจารย์อุบลที่อยุธยา

แล้วน่าสนใจมากๆค่ะ

 

แล้วก็อยากชม..มากๆค่ะ

เพราะถ้าวัยยี่สิบต้นๆ

แต่ฆ่ามาแล้วนับครึ่งร้อยศพ

ฉะนั้น เค้าคนนี้ต้องเริ่มอาชีพ

อันโหด***มนี้ ตั้งแต่วัยรุ่นแน่ๆเลย

 

 

รวมถึง ลูกศิษย์ลูกหา

ที่มาติดตาม และตามติดรับใช้

ท่านครูบาอริยชาติ

ก็มีทุกวงการจริงๆด้วยค่ะ

แม้กระทั่งนักฆ่า

ก็มาพึ่งบารมีท่านครูบาฯเช่นกัน

 

อ่านๆดูแล้ว เหมือนมีนัยยะอะไร

ที่ต้องพิจารณาอีกแน่ๆค่ะ

เพราะท่านครูบาฯเพิ่งมาพบ

ท่านอาจารย์ที่บ้านสวนฯ

แล้วก็มาพร้อมกับเหล่าศิษย์

จากทุกวงการซะด้วย ...

 

ที่เขียนนี่ ก็ยังพิจารณา

อะไรไม่ออกหรอกนะคะ

เดี๋ยวรอท่านอาจารย์

มาขยายความก่อน

เพราะตอนนี้ ชนิดายังมองเห็น

แค่ภาพกว้างๆเท่านั้น

 

อนุโมทนาล่วงหน้านะคะอาจารย์

..........................................

ยินดีกับเจ๊สีนวลด้วยนะคะ

ที่เดินทางกลับถึงฝรั่งเศสแล้ว

ด้วยความปลอดภัย

ว่าแต่...คลิปก็ดูได้ปรกตินะคะ

ลองอีกทีนะคะ

.....................................

หวังว่า บทสรุปที่ชนิดาเขียนมา

จะเป็นประโยชน์บ้างนะคะ

เพราะตอนที่ดู

ก็ค่อนข้างดึกแล้วเหมือนกัน

ง่วงๆเหนื่อยๆ แต่ก็พยายามสรุป

เนื้อหารวมๆออกมาก่อน

จึงไม่ได้เจาะประเด็นใดเป็นพิเศษ..ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-02 04:13:42


ความคิดเห็นที่ 7 (142783)

เมื่อคืน

อาทิตย์ 1 ก.ค.55

คิดว่าทุกคนคงเหนื่อยกลับไป

 

เพราะ

ช่วงนี้ พวกเราต้อง

เร่ง

ทำความดี ทำบุญกัน อย่างหนัก

 

เพราะชีวิตที่ผ่านมา

พวกเราทำบาป

ทำชั่วกันมามากแล้ว

เดี๋ยวจะ

ตะกายขึ้นจากขุมนรกไม่ทัน

 

วันเสาร์

อ.อุบล ได้รับเชิญ

ให้ไปบรรยาย ที่มหาวิทยาลัย

แห่งหนึ่งที่อยุธยา

มีนักศึกษาปี 1 และ ปี 3 เข้าฟัง

350 กว่าคน + คณาจารย์

อีกจำนวนหนึ่ง

 

ซึ่งอาจารย์ท่านชมรายการ

ตอน อ.อุบล ไปนอกสถานที่

บ้านไร่ปลายตะวัน

เลยมาเชิญ เอาหนังสือเชิญมา

วันที่ครูบามานั่นแหละ

 

ทีแรกว่าจะไม่ไป

เพราะเรามีกิจกรรมมาก

 

และ

อ.อุบล

ไม่เคยรับเชิญนอกสถานที่

ที่บ้านไร่ปลายตะวันนั้น

ไม่ใช่รับเชิญ

แต่

พวกเราไปตามหา

พระศรีอาริย์

กัน

แล้วมันเป็นเหตุบังคับ

เป็นแผนของเบื้องบนที่ต้องไป

ช่วยคนหมู่มาก

ที่ไปปฎิบัตธรรม เกือบ 500

รวมทั้งพระ + ชี

ที่มีทุกข์ แต่มาปฎิบัติธรรม

แล้วก็ยังทุกข์

 

พระพุทธองค์

ทรงต้องการให้แสดงศีล 3 ชั้น

ให้ธรรมะของพระองค์

ทรงบันลือสีหนาท

ก็เลย

จำต้องทำแบบเต็มใจนะ

 

อะไรที่พระพุทธองค์

ทรงบัญชา

จะทำด้วยความเต็มใจหมด

เพราะ

ปัญญาเราน้อย

เราจะอาศัยพระปัญญาบารมี

ท่านเท่านั้น

 

หลายคนสงสัย

ว่าทำไม คนอื่นทำมั่ง ไม่ได้หรือ

ก็เคยบอกนะว่า

 

ไอ้ที่บอกว่า

ทำไม่ได้ น่ะ เคยลองทำ

แล้วหรือยัง

ก็เห็นบอกว่า ยังไงก็ทำไม่ได้หรอก

 

อ้าว

แล้วพระอภิญญาล่ะ

ต้องทำได้ซี

 

พวกผมก็ยังไม่เคยเห็น

ท่านใดทำเลย

 

ก็ยุ่งอีก

หาคำตอบอีก

 

เราก็อยากรู้ว่าจะมีใคร

รู้

หรืออธิบายได้

 

มีคนหนึ่ง

บอกว่า คำที่ทำได้นะ

1.ต้องมีหน้าที่ ก่อนมาเกิดแล้ว

2.ต้องเป็นสายเลือด เครือพันธุ์

ที่ท่าน(........)ไว้ใจ

3.หน้าที่ใคร ก็หน้าที่มัน

 

เอา

ว่ากันไป เรารับฟัง

 

อ้าวบ่นทำไมเนี่ย

 

ไหนจะมาคุยเรื่องนักฆ่า

ตอบ พ่อใหญ่ธนา

และ

คุณชนิด

โม้ยาวเลย

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-02 23:24:51


ความคิดเห็นที่ 8 (142784)

เป็นอันว่า

ที่รับเชิญเนี่ย

เพราะ อาจารย์ทีมาเชิญ

เป็นคนคุ้นเคยกัน 1 และเหตุผล

ในการเชิญของท่าน 1

 

ท่านบอก

ปกติ

เชิญพระ ชี วิทยากรดังๆ

 

แต่นักศึกษา

บอก จะหลับ มันเบือ

จะนอนฟัง

 

ก็เลยคิดว่า

ต้องเชิญ อ.อุบล

(สงสัยว่า ชอบความแปลก

ตื่นเต้น เร้าใจ ไม่เหมือนใคร)

 

นักศึกษาส่วนใหญ่

ไม่เชื่อว่านรก สวรรค์ มีจริง

เห็น อ.เคยเชิญไฟนรกขึ้นมาได้

อยากให้ลองให้พวกนี้

เจอดูบ้าง

ฯลฯ

 

เราก็ถาม อ.ที่มาเชิญว่า

ต้องการอะไร จากการเชิญ

อ.อุบล ไปบรรยาย

 

ต้องการ ความจริง

แบบ จะ จะ เห็น สด สด

เพราะ

พวกนี้ ก้าวร้าว

ชอบความรุนแรง

ตีกัน รุมกระทืบ กระทั่ง อ.

 

ไม่สงสารพ่อแม่

ไม่ตั้งใจเรียนหนังสือ

แต่

มาหลงมายา

จนกู่ไม่กลับแล้ว

 

ถ้างั้น

ของชอบ ของเสด็จพ่อเลย

 

เป็นอันว่า

ฟังเหตุผลแล้ว

ยาวกว่านี้นะ แถมตอนคุย

คุยต่อหน้า

เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ

ท่านบอก

 

ข้าจะให้เอ็งไป

ไม่ต้องคิดเยอะ ไปเถอะลูก

พ่อจะส่งบริวารไปก่อน

ไปเคลียพื้นที่

จัดฉาก

จัดนักแสดงประกอบฉาก

ตามที่ อ.เขามาบอกลูก

 

ถึงเวลา

พวกนี้ จะรู้จักพ่อ

จะรู้จักพระพุทธเจ้าเอง

 

ลูกพ่อ

จงนำพระธรรม

อันงดงามของพระพุทธองค์

ไปแสดง

ให้บันลือสีหนาท

 

พ่อจะจัดการ

ฉากการแสดงทุกอย่าง

ไว้รอเอง ลูกแค่ไป

เท่านั้น เหนื่อยหน่อยนะลูก

พ่อเห็นใจ แต่การเหนื่อยของลูก

จะไม่เหนื่อยเปล่า

จะได้ช่วยชาวโลก ให้พบแสงธรรม

 

ยิ่งพวกเด็ก

มันยังเป็นไม้อ่อน

มันดัดไม่ยากเหมือน

พวกผู้ใหญ่ แก่อยู่นาน หรอกลูก

 

เจ้าค่ะ

เสด็จพ่อ ลูกจะทำ

โดยไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อยเจ้าค่ะ

 

แล้วเมื่อเจ้าไปถึง

จงกล้าหาญชาญชัย ที่จะ

ประกาศว่า

เจ้ามากับใคร ไม่ได้มาเพียงแค่

กับคนเท่านั้น

 

โห

แล้วเขาจะเชื่อหรือเจ้าคะ

 

เอาอีกแล้ว

คิดแทนพ่ออีกแล้ว

 

เจ้าค่ะ

ลูกเป็นคนโง่

ก็จะคิดได้ แบบ คนโง่ๆ

อีกแล้วเจ้าค่ะ

 

จำได้ไหมลูก

เราตกลงกันว่ายังไง

 

จำได้เจ้าค่ะ

 

ทวนซิ

 

ทำตามคำสั่งทุกอย่าง

โดยไม่ต้องโต้แย้ง ไม่ต้องคิดแทน

แล้วเสด็จพ่อ + พระพุทธองค์

จะทรงแสดงหลักฐาน

ตามมารองรับเอง

เจ้าค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-02 23:18:41


ความคิดเห็นที่ 9 (142785)

สัปดาห์นี้

พระพุทธองค์+และเสด็จพ่อ

ทุกพระองค์ในอดีตชาติ

ทรงต้องการให้ อ.อุบล

แสดงตน

ว่าเป็นลูกท่าน

เป็นสายเลือดของท่าน

มา

ในกาลก่อน

 

จึงให้ทำงานหนักมาก

ทั้งรับเชิญบรรยายนอกสถานที่

ทั้งมีแขกต่างประเทศมา

ทั้งมีแขกผู้ใหญ่มา

พร้อมกัน

ในสัปดาห์นี้ จนแทบจะ

อยากแยกร่างได้

หลายๆร่าง

เลยหละ

 

(อ้าว เสด็จพ่อ ได้ยินเราคิดอีก

แล้วบอกว่า.......)

 

คราวนี้

ก็มาคุยเรื่อง นักฆ่า

มือปืนเสียที เพราะ พ่อใหญ่

ตั้งคำถามเรื่องนี้

แรงนะ

 

แล้วมันก็

จี้จุด จริงๆ เลยนะเนี่ย

พ่อใหญ่

 

แถมรู้ประวัติ

อ.อุบล ไปไกลกว่าใครอีก

 

อุส่าห์ไม่บอกประวัติแล้วนะ

ยังจะมา สู่รู้ เอ้ย แสนรู้

เอ้ยม่ายช่าย ขออภัย

พ่อใหญ่ธนา

ยังจะมาทำเป็น รู้ อีกแน่

 

อ.ที่มาเชิญไปบรรยาย

บอกว่า คณะบดี+คณาจารย์

นักศึกษา ถามหา ประวัติ วิทยากร

อ.ท่านนี้เลยบอกว่า

ไม่มี

 

ไม่ต้องอ่านประวัติท่านหรอก

เอาไว้มาเจอ ค่อยรู้เอง

ก็แล้วกัน

555

 

ดูท่านไม่สนใจ

ประวัติ อัน ..... ของ อ.อุบล เลย

จะว่าไปแล้ว พ่อใหญ่ รู้จริงนะ

เพราะ

อ.อุบล คนนี้

มีประวัติ เกี่ยวข้องกับ

นักฆ่า

มาทั้งชีวิตเลยหละ

 

จึงริอ่าน

คิดฆ่าคน แล้วไม่ใช่แค่คิด

แต่ได้ลงมือทำแล้วด้วย

 

เอ้า

ยังไม่เข้าเรื่องคำถาม

เรื่องลูกศิษย์ครูบาเลย

 

เมื่อคืนจะตอบ

ก็ ง งู ง ง่วง เลยเอา

ไอแพต

ไปนอนเขียน เขียนไม่หนัด

หลับดีฝ่า คร๊อก ฟี้

 

ตื่นขึ้นมาค่อย

มาโม้ตอนเช้า ว่างั้นเถอะ

 

กว่าจะเข้าเรื่อง

เล่นเอา คนถาม กลับไป

นอน

ก่อนดีกว่า ค่อยมาใหม่

อิ อิ อิ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-02 23:24:02


ความคิดเห็นที่ 10 (142786)

ก่อนตอบ

 

เรื่อง ทำไม ครูบา

ท่านมีลูกศิษย์

ที่เป็นนักฆ่า ผู้มีอิทธิพล ต่อ

นะพ่อใหญ่+คุณชนิดา

 

ขอกระซิบนิดว่า

ผู้ติดตามครูบา คนใกล้ชิด

ที่เห็นทุกช๊อตนั้น

เป็น "เส" นะ ยังหนุ่ม หน้าตาดี๊ ดี

จะคอยรับใช้ใกล้ชิดเลย

 

ถ่ายรูปทุกรูป

จะเห็น เส ท่านนี้ตลอด ลองดูนะ

-----------

คราวนี้

ขอย้อนมาหา

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ท่านก็มีศิษย์ทุกวงการ

 

โดยเฉพาะ

นายกิ่ม ที่หลวงพ่อ

เขียนถึง

ในหนังสือ ตอบปัญหาธรรม

 

หลวงพ่อบอกว่า

นายกิ่ม มารับใช้ ใกล้ชิดท่าน

วันหนึ่ง นายกิ่มตาย

ท่านไปเป็นประธานงานศพ

 

พอท่านกำหนดจิตดู

เพื่อจะอุทิศบุญให้

ปรากฎว่า ท่านไม่เห็น นายกิ่ม

เห็นแต่วิญญาณอื่น

มารอรับบุญ เป็นแสน

 

ท่านเลย

ขอเสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ

ผู้มีอำนาจคุมวิญญาณ

ขอโอกาสก่อน

เพราะ

นายกิ่มคนนี้

มีบุญคุณกับท่าน ตอนเขา

ยังไม่ตาย

 

เสด็จพ่อ

ท้าวเวสสุวรรณ

เป็นนายบัญชีใหญ่

ผู้เดียวในมหาจักรวาล

ที่มีอำนาจ ในการ อนุญาต

หรือไม่

 

ที่จะให้นำวิญญาณ

ขึ้นมา

 

แล้วเสด็จพ่อ

ให้ผู้คุม 2 คน เอาโซ่

ล่ามคอนายกิ่มมา

 

หลวงพ่อถาม

นายกิ่มไม่ตอบ ได้แต่ก้มหน้า

หลวงพ่อจึงถามผู้คุม

 

ผู้คุมบอกว่า

นายกิ่ม ทำกรรมหนัก

(ฆ่าคน อันนี้ อ.อุบล รู้เอง)

บุญใด ที่ลูกทำให้

นายกิ่มโมทนาไม่ได้เลย

 

หลวงพ่อจึงถาม

แล้วบุญอะไร นายกิ่มจึงจะ

โมทนาได้

 

ผู้คุมบอกว่า

บุญกรรมฐานเท่านั้น

 

แล้วจะไปเอาจากไหน

ญาติเขาก็ไม่มีใคร

ทำได้ เอาจากฉันได้ไหม

 

จากท่านนั่นแหละ

มากที่สุด ผู้คุมบอก

 

ถ้างั้นนายกิ่มคอยโมทนานะ

บุญที่ฉันพึงได้เพียงใด

ให้นายกิ่มได้รับ

เท่ากับที่ฉันได้ เท่านั้น

 

นายกิ่มก้มกราบ

ครั้งที่ 1-2 ร่างกายเหมือนเดิม

คือผอมโซ มีแต่กระดูก

หน้าเศร้าหมอง

ไม่พูด

 

แต่

พอกราบครั้งที่ 3

รัศมีกายนายกิ่มสว่างไสว

กลายเป็นเทวดา

ทันที

 

อันนี้

เล่าให้ฟังตามที่

หลวงพ่อบอกว่า

 

นายกิ่ม

แกเป็นคน ต้นคด ปลายตรง

 

ตอนมาเจอท่าน

นายกิ่ม เป็นคนดีแล้ว

แต่ก่อนหน้านั้น

ฉันไม่รู้

 

--------------

เห็นไหมว่า

นายกิ่ม ก็เป็นนักฆ่า

ที่คงจะรู้ตัวดีกว่า

ชาตินี้ ยังไง ก็ไม่พ้นนรก

 

มาเกาะบุญบารมีหลวงพ่อ

ฤาษีลิงดำไว้ดีกว่า

 

แล้วก็เป็นจริง ดังว่า

 

พอนายกิ่มตาย

หลวงพ่อก็ช่วยนายกิ่มได้

เพราะนายกิ่ม

เคยมาปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อ

--------

คราวนี้

มาดูหลวงพ่อเสงี่ยม บ้าง

อ.อุบล ก็เป็นศิษย์ใกล้ชิด

ที่เป็น นักฆ่า มาเหมือนกัน

 

แล้ววันที่

ไปช่วยหลวงพ่อครั้งหนึ่ง

ก็ไปเจอ นักฆ่า มืออาชีพ

ที่หลวงพ่อแนะนำ

และบอกว่า

คนนี้ จะขายไร่มะขามหวาน

เขาฆ่าคนมามาก

หันเข้าวัด หลังพบหลวงพ่อ

 

พอวันหนึ่ง

หลวงพ่อ ถูกรังแก

 

เขาบอก

เขาขอฆ่า เพื่อครูบาอาจารย์

อีกสักครั้ง เพราะ ยังไง

ไอ้ที่ฆ่ามาแล้วนั้น

มันก็ต้องตกนรกอยู่แล้ว

 

แต่ตอนก่อนนี้

ฆ่า เพื่อ สนอง ความบ้า

ตัวเอง

 

เพื่อต้องการ

ให้คนกลัวเกรง ในความเก่ง

 

แต่ครั้งนี้

จะขอฆ่า เพื่อ ถวายไถ่บาป

ให้แก่ครูบาอาจารย์

ที่ให้แสงสว่าง แก่ชีวิต

 

โดยไม่คิดห่วง

ว่าตัวเองต้องตกนรกแล้ว

ขอให้ได้ ฆ่า เพื่อทำดี

บ้างสักครั้ง

 

อันนี้เขาพูดกับ

อ.อุบล เลยนะ

 

ครั้งแรก เขาไม่รู้ว่า

อ.อุบล เป็นศิษย์หลวงพ่อ

เขาคิดว่า เป็นคนที่

ไปทำร้ายหลวงพ่อ

 

เขาเตรียม ยิง อ.อุบล

แต่เขาบอก

เพื่อไม่ให้ผิดตัว ไปถามประวัติ

ยายคนนี้สักหน่อย

 

ซึ่งเรื่องที่เขาจะฆ่านี้

หลวงพ่อไม่รู้เห็นด้วย

เขาคิดเอง

 

นักฆ่านี่นะ

เขารอบคอบมาก

เขาจะไม่บอก ไม่ถามใคร

แต่งานนี้ ไม่รู้เป็นไง

ดันไปถามหลวงพ่อเสงี่ยม

 

ว่า

ยายคนนั้นมันเป็นใคร

(หมายถึง อ.อุบล)

 

หลวงพ่อตอบว่า

เป็น

แก้วตา และ ดวงใจ

ของหลวงพ่อ

 

เท่านั้นแหละ

ตาสมหวัง แกหงายท้องเลย

 

แกรีบวิ่งมาหา

มาขอโทษ

 

ขอโทษทำไม

ในเมื่อเราไม่รู้จักคุณสักหน่อย

 

ขอโทษ

ที่ผมคิดฆ่า เกือบยิงผิดตัว

 

ไหนเห็นหลวงพ่อบอก

คุณล้างมือแล้วไง

 

ล้างแล้ว

แต่ครั้งนี้ จะทำเพื่อ

หลวงพ่อ ทำเพื่อไถ่บาป

 

ตอนนั้น

เราไม่คุ้นเคยกับแก

รู้แค่ที่หลวงพ่อเคยเล่า

ส่วนใหญ่

เราสนใจไร่มะขามมากกว่า

 

---------

กลับมาหา

ครูบาอริชาติ

นะพ่อใหญ่ + คุณชนิดา

 

อ.อุบล

เห็น นักฆ่า มือปืน

ผู้มีอิทธิพล

ที่เข้ามาห้อมล้อมศรัทธาท่านแล้ว

 

รู้ได้ทันทีว่า

บารมีท่านมาก

 

ทุกคนต้องการ

พึ่งใบบุญท่านทั้งนั้น

 

แล้วท่านก็

เมตตาทุกคนจริงๆ

 

แล้วก็เลยทำให้

คิดถึงหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

หลวงพ่อเสงี่ยม

 

ว่า

ทุกคนที่เคยบาป

เคยชั่ว หรือ ชั่วอยู่

ก็อยากมีความสุข อยากพ้นทุกข์

อยากหนีนรก

 

ถ้ารู้ว่า

ใครมีบุญบารมีสูง

ก็อยากไปเป็นศิษย์

 

และ

เมื่อเข้าไปเป็นศิษย์แล้ว

ก็จะเป็นศิษย์

ที่พร้อมมอบกายถวายชีวิต

ถ้ามีใคร มาหยาม

มาล่วงเกิน ครูบาอาจาริย์ของเขา

 

พวกนี้

เขาจะมีแนวคิด

เหมือนกับคุณสมหวัง

คือ

ฆ่าคนดี ยังฆ่ามาแล้ว

แต่นี่ ฆ่าคนชั่ว ฆ่าเพื่อครูบาอาจารย์

ทำไมจะฆ่าอีกครั้งไม่ได้

 

อันนี้

คุยเรื่อยเปื่อยนะ

พ่อใหญ่ธนา + พี่มหา

อ.อุบล

เห็นว่า หมู่นี้ ทำไม

ต้องมาเจอแต่ นักฆ่าทั้งนั้น

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-02 23:22:56


ความคิดเห็นที่ 11 (142787)

ส่วนที่ถูกพาดพุง

 

ถึงเบื้องหลัง

อ.อุบล

คนชั่ว และ บาปหนา

คนนี้

 

พ่อใหญ่

ไปสืบมาจากไหน

หรือว่า อยากวัดรอยเท้า

ดูก่อนตัดสินใจ

 

ว่า

อ.อุบล

มีใครอยู่เบื้องหลัง

 

อ.อุบล

ไม่สน เรื่อง เบื้องหลัง นะ

สนแต่เรื่อง ตัว ต่อตัว

ซึ่งซึ่งหน้า นะพ่อใหญ่

 

เพราะ

ญาติ อ.อุบล ที่พ่อใหญ่

ไปรู้มานั้น ท่านไม่ใช่พวก

สุนัขลอบกัดนะ

ท่านมีศักดิ์ศรี เป็นคนจริง

 

คุณพ่อ

เคยเล่าว่า สมัยท่าน

เลี้ยงสัตว์นะ ท่านเลี้ยงไว้มาก

เป็นพันๆ ตัวนะ ทำอะไร

ทำใหญ่โต

 

ก็มีคนไปขโมยสัตว์ท่าน

 

ท่าน ก็รู้ว่า ใคร

 

ท่านก็เลยไปเตือน

ด้วยตัวเอง ว่า ให้เลิกซะนะ

เดี๋ยวจะหาว่า ไม่เตือน

 

ไอ้คนลัก

มันเห็นท่านไปเตือน

มันก็หัวเราะเยาะ แล้วก็ทำอีก

 

ท่านเจอลูก

ท่านก็ฝากไปบอก

พ่อมึงด้วยนะ ให้เลิกซะ

กูให้โอกาสอีกครั้งเดียว

 

มันก็ย่ามใจ

นึกว่า ท่านไม่มีน้ำยา

ได้แค่พูด แค่นี้เอง มันก็ทำอีก

 

คราวนี้

ไปเจอกันบนอำเภอนะ

 

ท่านก็บอกว่า

กูเตือนมึง 2 ครั้งแล้วใช่ไหม

ครั้งนี้ กูจะเตือนมึง

ด้วยไอ้นี่

เปรี๊ยงๆๆๆๆ

 

คาที่ มอบตัว ไม่หนี

 

อันนี้

เขาเรียก นักเลงโบราณ

 

แล้วญาติพี่น้อง

อ.อุบล ส่วนใหญ่ ก็เป็น

ทหาร แล้วก็ทหารที่ผ่าน

การออกรบมาแล้ว

จะมีความชำนาญ ในการฆ่า

ทั้งนั้น ดังนั้น พ่อใหญ่

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า

ทำไม

เมื่อก่อนนี้ อ.อุบล

ถึงได้คิดฆ่าคนง่ายนัก

 

แล้วคนที่คิดฆ่านะ

มีอยู่ 2 คน ที่วางแผนแล้ว

เคยเล่าออกทีวี ในเวปก็มีนะ

แต่อาจจะไม่ได้บอก

เหตุผล

ในการคิดฆ่า

 

คนที่ 1

เป็นผู้หญิง ที่เข้ามา

พูดจาโจมตี บริษัทของ อ.อุบล

เพราะ คนนี้ เราให้ออก

ก็เลยแค้น

 

นี่คือ

เหตุผล ในการฆ่า

ครั้ง ที่  1 นะ

 

ส่วนมือปืนนั้น

อ.อุบล อยู่ในยุทธจักรนี้มา

คือเรียกว่า คบหมด

อย่างตำรวจ วิสามัญนี่นะ

เข้าใจเขาเลย

 

คนหนึ่ง

ที่เป็นมือปราบปืนทอง

ที่สนิทกันนะ

ก็ถามเค้าว่า ที่ฆ่าๆ มาเนี่ย

กลัวบาปไหม

 

เขาบอก

เค้าฆ่าแล้ว เค้าต้องทำบุญ

อุทิศให้ทุกคน

 

แล้วทำไมต้องฆ่า

 

 

เขาบอกว่า

ไม่ฆ่าไม่ได้หรอก

เพราะพวกนี้ มันเหลือขอ

 

มันเป็นพวกอันธพาล

สันดานหยาบ ไม่กลับใจ

ทำยังไงก็แก้ไม่ได้แล้ว

ต้องฆ่าอย่างเดียวเท่านั้น

 

จับมันมา

ก็มีคนมาประกันมันออกไป

มันก็ทำชั่วใหม่ วนเวียน

 

มันเกินจะดัดสันดาน

 

เอาพวกมัน

ไปเข้าค่ายทหาร

เอาไปติดคุก เอาไปฟัง

ธรรมมะ

มันไม่เข้าไปในกบาลมันเลย

 

จึงต้องฆ่าอย่างเดียว

 

แล้ววิธีฆ่าทำยังไงคะ

 

จับก่อน

พวกนี้ มันกลัวพี่มาก

อ้าวมันรู้หรือคะ

 

มันรู้ดี

ว่าถ้าพี่ จับ เมื่อไหร่

สิ่งที่มันกลัวที่สุด

คือ กลัวไปไม่ถึงโรงพัก

 

ทำไมคะ

อ้าว ถ้าถึงโรงพัก

มันรู้ว่า มันรอด

แต่

ถ้าไม่ถึงโรงพัก แปลว่า

มันต้อง ลงถัง

 

ถังอะไรคะ

 

ถังน้ำมัน 200 ลิตร

เผาจนไม่เหลือกระดูก

 

โห

พ่อแม่เค้าเอาเรื่องไหม

พวกนี้ พ่อแม่มันก็เลว

เอาไม่อยู่เหมือนกัน

ถ้าเอาเรื่อง ก็เผา ด้วยกันเลย

 

ถ้ามีอะไรบอกพี่นะ

 

แล้วพี่จะตามยังไง

ถึงจะไม่ผิดตัวคะ

 

พี่ท้าให้หนี

ที่เดียว ที่พี่ไม่ตามคือ

หนีไปในน้ำ

 

ทำไมคะ

 

พี่รออยู่บนบก

 

นอกนั้น

ยังไม่เห็นมีใครหนีพี่ได้

ยังไม่เห็น มีใคร ผิดตัว

 

พี่ทำเองหรือว่า

สั่งลูกน้องคะ

 

เราเป็นหัวหน้า

ต้องนำลูกน้อง

 

อย่างถีบประตูนี่นะ

พี่เป็นคนถีบ

เวลาล้อมจับนะ

 

แล้วจับเป็นหรือจับตายคะ

 

งานจับเป็น พี่ไม่ค่อยชอบ

แต่บางครั้ง ต้องจับเป็นก่อน

 

เอามาฆ่า

ที่อื่น ไม่ฆ่าในบ้าน

 

ยกเว้น

มันหนีเข้าป่า

อันนี้ ฆ่าในที่กบดานมันเลย

 

ไปหม่ำก่อนนะ

มีคนมาตามแย้ววว

อยากฟังต่อป่าว

 

บอกแล้ว

ไม่ใช่คนประวัติดี

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-02 23:22:12


ความคิดเห็นที่ 12 (142788)

เกือบไปซะแว้ววท่านอาจารย์อุบลของเรา นี่แสดงว่าคุณสมหวังนี่รักและเทิดทูนบูชาหลวงพ่อเสงี่ยมอย่างถวายหัวเลยนะครับ

ใครที่จ้องจะมาดูหมิ่นทำลายหรือมารังแกทำให้หลวงพ่อเสงี่ยมระคายเคืองแม้แต่น้อย คุณสมหวังนี่เอาตายแน่ๆ คิดแล้วเสียว อะจึ๋ยย...

นี่ขนาดหลวงพ่อเสงี่ยมท่านเป็นพระอริยสงฆ์ที่มีลูกศิษย์ลูกหารักเทิดทูนใจถึงขนาดกล้าฆ่าคนเพื่อไถ่บาป ปกป้องหลวงพ่อยังขนาดนี้เลย

แล้วนี่ครูบาอริยชาติ ท่านเป็นพระสุปฏิปันโนซึ่งโด่งดังไปทั่วประเทศไทยและหลายๆประเทศ มีลูกศิษย์ระดับบิ๊กๆที่คนทั้งประเทศรู้จักกันหมด แถมผมก็ดันเห็นนักฆ่าที่เป็นผู้กว้างขวางมากราบท่านในวันที่มาบ้านสวนฯอีก

ไม่อยากจะคิดเล๊ยย ไม่รู้ว่าในอดีตหรือปัจจุบันนี้มีใครคิดล่วงเกินท่านครูบาอริยชาติบ้างไหม แค่คิดก็ขนลุกแล้วครับเพราะนักฆ่าระดับพระกาฬซึ่งมอบกายถวายชีวิตให้แก่ท่านครูบานั้นคงมีมากมาย และหากเขาต้องการฆ่าคนไถ่บาปเหมือนกับที่คุณสมหวังทำล่ะ... อูยยย เสียวท้ายทอยแทน

รีบๆมาต่อนะครับท่านอาจารย์ กำลังลุ้นอยู่ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 12:08:46


ความคิดเห็นที่ 13 (142789)

อะจ๊ากก...อ่านแล้วลุ้นระทึกสุดๆ นึกไม่ถึงเลยครับว่าท่านอาจารย์ในอดีตนั้นจะรู้จักนักฆ่าระดับพระกาฬ แถมรู้ลึกลงในรายละเอียดได้ขนาดนี้

ที่สำคัญผมเองน่ะสู่รู้มาแค่คร่าวๆแค่นั้นครับว่า ท่านอาจารย์เป็นหลานสาวนักการเมืองที่มีชื่อเสียงดังมากๆแถมท่านเป็นคนจริง มีบารมีมาก แต่ไม่เคยทราบประวัติในความเด็ดเดี่ยวของท่านแบบนี้มาก่อนเลย

ส่วนมือปราบปืนทองที่ท่านอาจารย์เล่ามานี้ อ่านแล้วขนหัวลุกเลยครับ แต่อย่างว่าครับ มืออาชีพระดับนี้แล้วผมว่าพลาดยากครับ ทำงานรอบคอบ ลุยแหลกประมาณแรมโบ้ที่ต้องแหลกสะบั้นจนกระทั่งงานสำเร็จ

มาต่อเร็วๆนะครับ กำลังลุ้นสุดๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 12:07:34


ความคิดเห็นที่ 14 (142790)

เมื่อวันเสาร์

น้องผู้หญิง นักศึกษา

ที่ฆ่าคนมาครึ่งร้อย ตีเขาสลบอีก

เป็นร้อย

 

แล้วบาดเจ็บหนีไปได้

อีกเป็นร้อย

 

อันนี้

เสด็จพ่อบอก

ยังไม่ใช่ตัวเลขจริงหรอกนะ

แต่ก็เอาเถอะ ยังรับว่าฆ่า

 

แต่กว่าจะรับ

ก็ลีลาอยู่นาน เห็นไหมว่า

เธอถอยกรูดเลย

ตอน อ.อุบล ถามว่า

อยากผ่าตัด หรือ ไม่อยาก

เธอบอก ผ่าที 120000

 

แล้วเคยสลบไป 3 วัน

หลังผ่า

 

ครั้งนี้

ต้องผ่าสด เย็บสด

ทุกอย่างสดหมด 15 ส.ค.55 นี้

 

อ.อุบล

บอกเธอว่า

ถ้าอยากผ่า ก็ไม่ต้องพูด

 

ถ้าไม่อยากผ่าค่อยพูด

เธอโบกไม้โบกมือ

 

อ.อุบล

เลย หันไปช่วยคนอื่น

ที่ปวดหัวก่อนเธอ

อีก 5-6 คน

หายหมด เธอมีโอกาส

ถามใจตัวเองระหว่างนั้น

ว่า

อยากหายเหมือนคนอื่นไหม

เขาหายกันเดี๋ยวนี้ ต่อหน้า

แล้วเราล่ะ

 

โอกาสอยู่ข้างหน้าแล้ว

เราจะเก็บไว้เป็นความลับต่อไป

หรือว่า

ยอมเปิดปาก

 

แต่มันลำบากใจนะ

เพราะ

มันเป็นเรื่องร้าย ที่ทุกคน

ไม่เคยรู้ ครูอาจารย์ เพื่อนฝูง

ไม่มีใครรู้ รู้แต่ว่า

เธอป่วย ต้องผ่าสมอง

 

แต่

ไม่เคยรู้ว่า

เบื้องหลัง การผ่าสมอง

ดูดเอาสมองออกนั้น

เธอทำอะไรใครเขาไว้

 

พ่อแม่เธอ

ยังไม่รู้เลย ว่าลูกฆ่าคน

มาเป็นร้อย เป็นพัน

 

วันอาทิตย์

ก่อนลากลับบ้าน

คุณอมรบอกว่า มีเด็ก จนท

เสื้อชมพู ที่มาบริการ

แอบถามคุณอมรว่า

 

อ.อุบล

รู้หมดทุกอย่าง

เลยเหรอคะ

(ประมาณนี้นะ ต้องให้น้องมร

มาเล่าเอง เพราะได้ยินเอง)

 

แต่ละคน

คุณอมรวิเคราะห์ว่า

มีอาการเดียวกันกับ

คนที่

เจอ อ.อุบล ที่บ้านสวน

 

คือ

กลัว สั่น ถอยกรูด

 

พวกนี้

มีผีเกาะอยู่เต็มไปหมด

 

แล้วสิ่งหนึ่ง

ที่ อ.อุบล ต้องทำตาม

คำสั่งเสด็จพ่อ

คือ

 

พูดว่า

 

วันนี้

อ.อุบล

ไม่ได้มากับคนเท่านั้น

 

ซึ่งต้องพูด

อย่างองอาจ เพราะ

ท่านบอกว่า ลูกพ่อจริง

ต้องพูดต่อหน้าสาธารณะได้

แล้วคอยดูผล

ว่าคนฟัง เป็นยังไง

 

อันนี้

ก็ต้องให้คนที่ไปด้วย

มาช่วยเหลาต่อ

นะจ๊ะ

 

ว่าคนฟัง

เขาเชื่อกันไหม

นักศึกษา + คณาจารย์

เขามีปฎิริริยายังไง

 

หลังจากฟังว่า

อ.อุบล

ไม่ได้มากับคนเท่านั้น

แต่มากับ

พระพุทธเจ้า

ท้าวเวสสุวรรณ

ท้าวมหาราช

พระอินทร์ พระพรหม

พยายม นายนิรยบาล

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วจักรวาล

อีก แสนโกฎ

ที่มาวันนี้

 

โอ้

นี่ถือเป็นการ

โม้

ครั้งยิ่งใหญ่เลยนะนี่

 

อาจโดนโห่นะ

ถ้าไม่มีหลักฐานเป็นรูปธรรม

 

แต่

คนโง่อย่าง อ.อุบล

จะไปเอาหลักฐานมาจากไหน

ในเมื่อหลอกคนไปวันๆ

555555555

จริงป่ะ

พ่อใหญ่ธนา

อ้ายมร

น้องป้อม น้องเอิ้น

น้องไอซ์ หนูแมว

บอกซิว่า

มีหลักฐานไหม

ว่า

อ.อุบล ไปกับใครบ้าง

 

5555

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-02 23:18:17


ความคิดเห็นที่ 15 (142791)

อ.อุบล

แกเป็นคน หลอกลวงนะ

แถมเพ้อเจ้อ งมงาย ไร้สาระด้วย

 

ตอนอยู่บนรถ

ระหว่างที่ เดินทางไป

ก็บอกกับ อ.ที่มารับว่า

วันนี้ จะมาคน เป็นลม ล้มทรุดลง

เหมือนกับวันที่ อ.อุบล

ไปสวนจิตรลดา

 

เอ

แล้วมีไหมน้า

เหตุการณ์นี้น่ะ

 

แถมยังโม้ไว้อีกว่า

 

วันนี้

เบื้องบน

ไปเคลียพื้นที่ไว้แล้ว

 

อ.อย่าได้กังวล

เดี๋ยวท่านจัดให้ทุกอย่าง

ที่เป็นปัญหา

(55555)

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-02 23:17:24


ความคิดเห็นที่ 16 (142793)

ว่าคนฟัง

เขาเชื่อกันไหม

นักศึกษา + คณาจารย์

เขามีปฎิริริยายังไง

 

หลังจากฟังว่า

อ.อุบล

ไม่ได้มากับคนเท่านั้น

แต่มากับ

พระพุทธเจ้า

ท้าวเวสสุวรรณ

ท้าวมหาราช

พระอินทร์ พระพรหม

พยายม นายนิรยบาล

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วจักรวาล

อีก แสนโกฎ

ที่มาวันนี้

--------------------

ตอนแรกนั้นท่านอาจารย์ถามว่าวันนี้ทุกคนอยากเห็นพระพุทธเจ้ากันไหม

ผมก็สังเกตเห็นว่าทุกคนหน้าตาประมาณว่าจริงเหรอ และดูตื่นเต้นไม่น้อยเลย ก็พากันตอบว่า อยากครับ/ค่ะ

ผมเข้าใจว่าตอนนั้นทุกคนคงอยากพิสูจน์จริงๆและคงอยากรู้ว่ามีจริงไหม เพราะเรียนมาแต่เด็ก แล้วสวรรค์ นรก พระพุทธเจ้าจะมีจริงไหนน๊ออ...

และยิ่งพอท่านอาจารย์บอกว่าไม่ได้มาคนเดียวแต่มากับทุกๆพระองค์ดั่งที่ท่านอาจารย์บอกไว้

ผมเห็นอากัปกิริยาของทุกคนเปลี่ยนไป คือเงียบสนิท เริ่มแบบว่า มองกันเขม็งที่ท่านอาจารย์เลย

สักพักก็เริ่มมีเสียงบ่นกันระงมว่า ขนลุกอ่ะ ขนลุกไปหมดเลย แบบว่าสัมผัสบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้เต็มๆ

บางคนก็ทำหน้าทำตาแบบว่าสุดๆคือเห็นได้เลยว่าน้องๆเขาตื่นเต้น และมีสีหน้าที่บ่งบอกได้เลยว่าจิตเขาเปิดและเชื่อสิ่งที่ท่านอาจารย์พูด

ยิ่งท่านอาจารย์เมตตาใช้ธรรมะบำบัดให้น้องๆที่ออกมาหายกันต่อหน้าต่อตาแบบทันที

น้องๆที่หายแล้วก็กลับเข้าไปนั่งที่ ต่างยืนยันกับเพื่อนๆว่า หายจริงๆว่ะ หายจริงๆ เพื่อนๆที่รุมเร้าต่างพากันทำหน้าทำตาแบบว่า เจอของจริงเข้าแล้ว

จากตอนต้นที่น้องๆบางคนเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง พอเห็นว่าทุกคนหายจริงๆและทันที

ยิ่งท่านอาจารย์ย้ำหลายครั้งว่า พระองค์ใดเสด็จมาด้วย และพระองค์ใดบ้างที่ทำให้น้องๆหาย

น้องๆพากันขนลุกเกรียวกราว รำพึงกันเสียงดังระงมไปหมด บางคนก็รู้สึกปิติใจ บางคนก็ทำหน้าทำตาแบบว่าศรัทธาสุดๆ

ทีนี้ละครับ ท่านอาจารย์ถามว่าทำบาปกรรมไรมาบ้าง ทุกคนต่างพากันตอบแบบไม่ลังเลใจเลย ส่งเสียงตอบกันแบบไม่อายใคร ไม่มีกั๊ก ไม่เหลือลายของความซ่าส์เลย

เห็นภาพนั้นแล้วปลื้มใจเลยครับ เพราะว่าน้องๆทุกคนได้เห็นพระพุทธองค์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ด้วยสัมผัสทางกาย ทางใจด้วยตนเองแบบชัดเจนที่สู๊ดด...สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 12:09:10


ความคิดเห็นที่ 17 (142794)

พอดีวันนั้นผมนั่งอีกแถวหนึ่งก็ได้ยินอาจารย์ที่มารับทีมบ้านสวนฯ เล่าให้ท่านอาจารย์ฟังเรื่องเด็กตีกัน ตีกระทั่งครูบาอาจารย์

สงสัยตีกันไม่เว้นกระทั่งวันพระ วันโกน ไม่สนใจว่าใครทั้งนั้น ใครขวางทาง ไม่กินเส้น คงตีเขาหมด

ไอ้เราก็นั่งฟังก็รู้สึกว่า โอ้โห ระดับมหาวิทยาลัยแล้วยังมีแบบนี้กันอีกเหรอเนี่ยย อุเหม่...

พอได้มาเห็นของจริงที่มหาวิทยาลัย ที่พอมาถึงพบว่าทางมหาลัยต้องล็อคประตูทางเข้าออกอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันไม่ให้นักเรียน นักศึกษา หลบออกไปจากห้องประชุม อืม..เกเรขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย

ยิ่งได้มาเป็นน้องนักฆ่าแล้ว ก็แปลกใจสุดๆเลยว่า น้องคนนี้มาได้อย่างไรกันเนี่ย เหมือนกับไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลยนะ เพราะวันนี้เพิ่งรู้ว่าการตีกันเป็นปัญหาใหญ่ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้

และสิ่งที่น้องนักฆ่าคนนี้ทำก็กลายเป็นธรรมทานที่สุดยอด เรียกความอึ้ง ทึ่ง เสียวในผลของกรรมที่น้องเขาทำมาอย่างชนิดไม่ต้องพูดไรมากมายเลย

คงคิดได้อย่างเดียวว่า ทุกกรณี ทุกตัวอย่างที่เกิดขึ้นในวันนั้นคือการเตรียมการของเบื้องบนอย่างลงตัวเท่านั้น อย่างอื่นเป็นไปไม่ได้แน่นอน สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 12:09:57


ความคิดเห็นที่ 18 (142795)

  กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล

ที่เมตตาสละเวลา  มาเขียนธรรมทาน

ให้พวกเราได้ทราบ  ได้พิจารณา

แต่ว่าช่วงนี้  มีแต่เหตุการณ์

ที่น่าตื่นเต้น  ลุ้นระทึกจริง ๆ ค่ะ

นักฆ่าที่อยุธยา  ตอนแรกที่เห็นเกริ่นนำ

หนูนึกว่าเป็นผู้ชาย  แต่พออ่านต่อ ๆ มา

นักฆ่านั้น  เป็นผู้หญิง  รอลุ้นอยู่ค่ะ

ว่าน้องเค้าจะสารภาพว่าอย่างไร

สาธุ  สาธุ  สาธุ  ค่ะท่านอาจารย์อุบล

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-02 12:19:23


ความคิดเห็นที่ 19 (142797)

อยากฟังต่ออีกค่ะอาจารย์

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธัญญาภรณ์ พุกภัย พิสมัย (สีนวล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-02 13:06:24


ความคิดเห็นที่ 20 (142798)

      กราบขอบพระคุณอ.อุบลมากครับ ที่พูดถึงนักฆ่า ผมก็เคยอุ้มคนไปฆ่าเหมือนกัน ชุดที่ไปทำงานด้วยกันประมาณ14-15คน เวลาค่ำบ้านเขาอยู่ห่างไกลกันเป็นป่าเขา แต่อยู่ข้างถนน ผมอยู๋ข้างล่างคอยดูรถ  หัวหน้าขึ้นไปบนบ้านประมาณ6คน ผมได้ยินเสียงถีบประตูเสียงลูกเมียเขาร้องไห้อ้อนวอนอย่าเอาสามีเขาไป  แล้วอุ้มมาขึ้นรถกะบะขับไปประมาณ6กิโลเมตรช่วงนั้นเป็นช่องเขาไม่มีคนอยู่อาศัยแล้วลากเขาลงมาจากรถเดินเข้าไปในช่องเขาห่างจากถนนประมาณ10เมตรแล้วหัวหน้าผมก็ไช้ปืนยิงที่หัวเขาตายแล้วเอานั่งยางรถยนต์แล้วเผา, ผมกับเพือนสองคนเป็นคนเก็บกระดูกที่เหลือเอาไปฝังที่อื่น ลูกขอกราบขอขมาต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และขอขมาต่อคนที่ลูกร่วมมือฆ่า โปรดอโหสิกรรมไห้ลูกด้วย ต่อไปลูกก็ไม่แน่ใจเหมือนกันถ้ามีใครมาล่วงเกินครูบาอาจารย์ที่ลูกเคารพนับถือ ลูกขอปกป้องครูบาอาจารย์เพื่อไห้ท่านได้สร้างบารมีต่อไปเพื่อจะได้เป็นประโยชน์ต่อคนส่วนมากแม้ลูกจะตกนรกก็ยอม                     

ผู้แสดงความคิดเห็น จรัล ยาตรา ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-02 17:16:52


ความคิดเห็นที่ 21 (142800)

 วันอาทิตย์    ก่อนลากลับบ้าน

คุณอมรบอกว่า มีเด็ก จนที่

เสื้อชมพู ที่มาบริการ   แอบถามคุณอมรว่า

 อ.อุบล     รู้หมดทุกอย่าง  เลยเหรอคะ

(ประมาณนี้นะ ต้องให้น้องมร

มาเล่าเอง เพราะได้ยินเอง)

 แต่ละคน   คุณอมรวิเคราะห์ว่า

มีอาการเดียวกันกับ     คนที่

เจอ อ.อุบล ที่บ้านสวน 

คือ     กลัว สั่น ถอยกรูด

 พวกนี้   มีผีเกาะอยู่เต็มไปหมด

 แล้วสิ่งหนึ่ง   ที่ อ.อุบล ต้องทำตาม

คำสั่งเสด็จพ่อ   คือ

 พูดว่า   วันนี้  อ.อุบล

ไม่ได้มากับคนเท่านั้น

 ซึ่งต้องพูด อย่างองอาจ เพราะ

ท่านบอกว่า ลูกพ่อจริง

ต้องพูดต่อหน้าสาธารณะได้

แล้วคอยดูผล   ว่าคนฟัง เป็นยังไง

+++++++++++++++++++++++++++

นักศึกษาหญิงที่ออกมาร่วมกิจกรรม ราว 6 คน 1ในจำนวนนั้น มีนักฆ่าหญิงประเภทเดี่ยวผสม และตลุมบอน  เธอจึงได้รางวัลประดับไว้ที่หัว ต้องฝ่าตัดสมอง เป็นการเชื่อมโยงสิ่งที่กระทำกรรมทำร้ายผู้อื่น  มีทั้งตาย กว่า 40 คน สลบ เดี้ยง สูญเสียอวัยวะ เธอคงนับไม่ได้ ไม่ถ้วน เป็นแน่ เพราะสิ่งที่เธอได้กระทำกับผู้อื่นได้รับความเจ็บปวด  จนทำให้ความเจ็บปวดนั้น เธอต้องเป็นผู้ลิ้มรสความเจ็บปวดนั้นเอง ถูกผ่าตัดสมอง เพื่อให้หายจากอาการทางสมอง แต่กลับผ่าแล้วเจ็บตัวฟรี ผ่าผิดที่ไม่ถูกจุด ต้องผ่าใหม่ และต้องผ่าสดเย็บสดทั้งหมด ฟังแล้วสยอง เธอบอกว่าเธอกลัวเข็ม กลัวมีผ่าตัดมาก และไม่รู้จะทนความเจ็บปวดนั้นได้หรือเปล่า หมอก็ยังไม่รับรอง  ว่าผ่าแล้วเธอจะอยู่ในสภาพปรกติเท่าปัจจุบันหรือเปล่า ถ้าเคลียดก็ยังมีอาการ ตาเหล่เอียง มือหงิกงอ หน้าผิดรูปปากเบี้ยว  เธออาจไม่ฟื้นจากการฝ่าตัดก็ได้

        เธอไม่กล้าที่จะบอกกับทุกคนว่า ได้ทำกรรมอะไรมา อ.อุบลบอกว่า อาจารย์รู้แล้วว่าเธอทำอะไรกับใครมา ต้องการให้เธอเป็นคนพูดเอง สีหน้าเธอเปลี่ยนไปคล้ายกับ ยอมจำนน ในสิ่งที่กระทำมา และผลกรรมที่ตนเองได้รับ ถ้าไม่พูด เธอต้องไปผ่าตัดสมองและต้องเตรียมจ่ายเงิน 120,000   เธอจึงเริ่มเปิดปากถึงการฆ่าด้วยการใช้อาวุธ ไม้ เหล็ก มีดปืน ขวด  สารพัดอาวุธตามแต่จะหาได้ มาประเคน ห้ำหั่นกัน ไม่สนใจว่าใครจะเป็นจะตาย เธอบากว่า นี่เพื่อนกูนะ มึงมาหยามเพื่อกูได้ไง  ดูเธอมีสัญชาติญาณที่พร้อมปกป้องเพื่อน ตายแทนเพื่อน พร้อมปกป้องคนที่ตนรัก หรือผู้มีพระคุณ 

        มนุษย์เรามันมีสัญญาณความกล้าบ้าบิ่นติดตัวมาด้วยอยู่แล้ว หากเหตุการณ์ที่เธอกำลังพิสูจน์เรื่อง เธอไม่ต้องผ่าตัดสมองแล้ว ดูเธอมีความหวังมากว่า เธอไม่ต้องการผ่าตัดสมอง และเธอยังบอกว่าไม่มีเงินที่จ่ายค่าผ่าตัด อาจารย์อุบล จึงเป็นที่พึ่งหนึ่งที่เธอต้องมาพบอาจารย์อุบลให้ได้  อาจทำให้เธอเกิดคิดได้ เกิดมีความศรัทธา เคารพรักในตัวอาจารย์อุบล พร้อมจะปกป้องครูบาอาจารย์  เมื่อครูบาอาจารย์มีใครมาละเมิด  ครูบาอาจารย์ใคร ใครก็รักก็หวง เพราะชีวิตชั่วเลวมา คุณค่ามันไม่มากพอ  ขอปกป้องครูบาอาจารย์เพื่อให้ท่านได้สร้างบารมีต่อไปจะดีกว่า อย่างน้อยเราก็ได้สร้างความดี สกัดกั้นคนเลวด้วยกันเพื่อปกป้องคนที่เราเคารพจะดีกว่า

-มีต่อ-

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) (amorn_possible-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-02 16:04:27


ความคิดเห็นที่ 22 (142801)

                ถึงตอนนี้ บรรยากาศ ในห้องเงียบทุกคนตั้งใจฟังตั้งใจ นักศึกษาหญิงรุ่นพี่กลุ่มหนึ่งถามผมว่า...  ทำไม อาจารย์อุบล รู้เรื่อง ใครๆ เสียทุกอย่างเลย ท่านรู้อะไรหมดทุกอย่างเลยหรือ 

ผมตอบน้องเขาว่า... อาจารย์อุบล ท่านรู้อะไรมากกว่า หมดทุกอย่างที่หนูว่าเสียอีก ไม่เชื่อคอยพิสูจน์ดูซิ  น้องผู้หญิงคนหนึ่งพูดเบา ๆว่า พูดดักไว้ปฏิเสธไม่ได้เลย บ้านสวนพีระมิด อยู่ที่ไหนคะ ถ้าจะไปต้องทำยังไงคะ น้องเขาจดเวปไซด์ไป และคงต้องตามหาอาจารย์ปัทมา งานสอนก็หนัก และต้องตอบคำถามลูกศิษย์อีก เยอะแยะ

ผมได้จดจำและสังเกตเห็นอาการกิริยาของผู้ที่เข้าใกล้อาจารย์อุบล เช่นก่อนการพูดสารภาพบาป และหลังจากที่มีอาการหายจากสิ่งที่ตนเองทรมานมาแล้ว มีอาการ ไม่กล้าเข้าใกล้ตัวอาจารย์อุบล แม้ว่าอาจารย์พยายามจะดึงตัวเข้ามาใกล้ ๆ เธอจะต้านไว้และสั่น จนเห็นได้ชัด ต่อมาเริ่มมีเสียงพูดสั่นเครือ ร้องให้ สะอึกสะอื้น ตัวโยกโอนเอน แทบจะล้มต้องประคองกันไว้ ผมมาบ้านสวนและเห็นเคส อย่างนี้ที่บ้านสวนก็มาก จนชินตา แล้วที่ ม.เทคโนราชมงคลธัญบุรี ก็เช่นกัน เป็นแบบเดียวกัน

แสดงให้เห็นว่าสิ่งศักดิ์ที่ติดตามตัวอาจารย์อุบล ได้แสดงฤทธิ์ให้เห็นสัมผัสได้ใน รวมถึงจิตวิญญาณที่เกาะเกี่ยวมา ไม่กล้าเข้าใกล้ตัวอาจารย์อุบล เมื่อรับบุญ จิตวิญญาณนั้นกรูเข้ามารับ จากไป ทำให้เธอไม่มีแรงต้านทาน เป็นลมล้มพับก็มีแรกๆ เคยเห็นเฉพาะที่บ้านสวนพีระมิดเท่านั้น เมื่อออกมาต่างสถานที่ เห็นสิ่งที่ไม่คาดคิดมากมายกว่าเสียด้วยซ้ำ เช่น เรื่องที่เป็นประเด็นต้องนำมาเพื่อเป็นหัวข้อการสนทนา มีบุคคลที่อาสาขึ้นมาเล่าประสบการณ์สารภาพบาปตนเองเคยทำกรรมที่เป็นปัญหานั้นอย่างถูกต้องถูกคน โดยไม่ได้จัดเตรียม ไม่รู้ว่าใครเคยประกอบกรรมอันใดมาก่อน ไม่ว่าการคนที่ถูกเลือกมาเล่าเรื่องการรู้เห็นการทำแท้ง เรามาบอกเรื่องราวทั้งหมดที่เธอประสบมาตรงจุด ราวกับว่าเธอดูรายการคุยไปแจกไปมาก่อนกว่า 9 ตอน ซะงั้น  ไม่ว่าจะเป็นการสารภาพบาป เข้าถึงอารมณ์ความทุกข์ น้ำตาพลั่งพลู ผมเองยังร้องไห้น้ำตาไหลเลย เธอบอกเคยพาคนไปทำแท้ง 2 ครั้ง แนะนำเพื่อนอีก 2 ครั้ง ทำให้เธอทุกข์ มาก  เธอบอกว่าสิ่งที่หนูทำมา หนูขอสัญญาว่าหนูจะไม่กลับไปทำอีก ต่อไปหนูจะรักษาศีล  หนูเชื่อแล้วว่า นรกมีจริง  ใครจะเป็นเหมือนหนูบ้าง  เพื่อนเหยียดหยาม  เราไม่เคยดีในสายตาของเพื่อนเลย แม้ว่าเราจะทุ่มเทความจริงใจให้กับเพื่อนจนหมดใจ แต่เราไม่เคยรับรู้และได้รับสิ่งนั้นกลับคืนมาเลย  นี่คือทุกข์ที่เธอแบกเอาไว้เป็นว่า 4 ปี ทำให้เพื่อน ๆ น้ำตาไหล

แล้วยิ่งการขอบคุณ เธอบอกว่า เธอรู้แล้วว่าสิ่งที่เธอทำมันทำให้เธอมีทุกข์ขนาดหนัก และเธอก็หายจากอาการปวดหัวปวดไหล  หนูขอขอขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอบคุณอาจารย์อุบล ที่ทำให้หนูหายปวดหัว ต่อไปหนูจะเป็นคนดี ตั้งใจรักษาศีล 5 ไม่ขอกลับไปทำอย่างเดิมอีก  ช่วงนี้เธอเริ่มตัวโยก ประคองตัวเองไม่อยู่เพื่อต้องพยุงเอาไว้  อาจารย์อุบลบอกว่ามีจิตวิญญาณที่เกิดจากการทำแท้ง อยู่ที่นี่ เยอะมากรออนุโมทนาบุญกับน้องที่ให้ธรรมทาน  จนอาจารย์อุบล ยื่นมือออกไปสัมผัสเธอ บอกว่า... หายนะลูก หายนะลูก เธอลุกขึ้นมา  ด้วยน้ำตานองหน้า   น้ำตาผมเองกลั้นไม่อยู่ครับ  เพราะว่าผมเคยรับสัมผัสนี้มาแล้ว บอกไม่ถูกเลยครับอารมณ์นี้ บอกว่า เป็นความปิติที่อยู่ในขั้วของหัวใจ

อาจารย์อุบล ได้อุทิศบุญส่งวิญญาณที่ถูกทำแท้งให้ขึ้นสวรรค์ ที่ได้รับบุญใหญ่เป็นธรรมทาน และอาจารย์ปัทมา ต้องนำคณะไปบ้านสวนพีระมิดเพื่อสร้างบุญให้กับดวงวิญญาณเหล่านั้นที่ได้ยืมบุญอาจารย์อุบลไปก่อน แล้วให้คณะนักศึกษาที่รู้เห็นการทำแท้งไปทำบุญที่บ้านสวนพีระมิดแทนบุญของอาจารย์อุบล

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) (amorn_possible-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-02 19:28:22


ความคิดเห็นที่ 23 (142802)

         ขอเล่าบ้างน่ะครับ พอดีผมก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย พูดถึงเรื่องน้องนักฆ่า ก็อย่างที่ท่านอ.อุบลและพี่ธนาเล่านั่นแหละครับ เห็นหน้าเด็กๆอย่างนั้น ไม่น่าเชื่อเรย....เอากันตั่งแต่อายุ19 20 เรยหรอนี่ นี่ขนาดแค่กลุ่มคนกลุ่มเดียว คณะเดียว แล้วถ้า ขยายวงกล้างของสังคมไปมากกว่านั้นล่ะ เป็นระดับจังหวัด ระดับประเทศ ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ โอ้ยไม่อยากจะคิด ที่เป็นข่าวอยู่ทุกวันนี้อีก เด็กเทคนิค+เทคโน ตีกัน ยิงกัน เป็นว่าเล่น ผมไม่แปลกใจแล้วละครับ อนาถใจ เนี่ยะ...อนาคตของชาติล่ะ

     มีน้องอีกคนนึงครับ เกี่ยวข้องกับการฆ่าเหมือนกันครับ คือน้องเค้ามีอาการปวดหัว ปวดคอ ลามมาจนถึงไหล่ ปวดมาก ตังค์ก็ไม่มีจะซื้อยากิน  แถมกินยาก็ไม่หายอีก เป็นมา6-7ปีแล้ว ก็ตั่งแต่อายุ13ปี ตอนนี้อายุ 19ปีแล้วครับ พอถึงคิวน้องเค้าบำบัด ผมก็แปลกใจ เอ๊ะ..ทำไมเด็กคนนี้ยืนตัวสั่น ไม่ยอมยืนใกล้ๆอาจารย์ ซึ่งอาจารย์ท่านก็ถามว่ากลัวอาจารย์หรอ น้องเค้าก็บอกว่ากลัว...กลัวทำไมล่ะ...ไม่รู้ (น้องตอบ) อาจารย์ท่านก็เรยพูดว่า ที่จริงหนูไม่ได้กลัวอาจารย์หรอก แต่ผู้ที่กลัวคือผู้อยู่ในตัวหนูล่ะจ๊ะ เท่านั้นแหละครับน้องๆนักศึกษาอีก 300 กว่าชีวิต ร้องกันเสียงหลงเรยครับ แต่ล่ะคนเริ่มหยุดคุยกัน เริ่มนั่งขยับมานั่งชิดกัน สายตาจับจ้องไปที่ท่านอาจารย์และน้องคนนั้น
    อาจารย์อุบล : " เชื่อหรือยัง ว่าอาจารย์ไม่ได้มาเฉพาะคน (อาจารย์ท่านหัวเราะต่อ ในขณะที่นักศึกษาทั้งหลายนั่งอึ้งไปเรย) "
     อาจารย์อุบล :" หนูไปทำอะไรมาจ๊ะ หนูอยากพูดอะไร... อยากบอกอะไร พูดเรยยย "
  นักศึกษา : " หนูเคยพาเพื่อนไปทำแท้งมาค่ะ" (พูดแบบเสียงหงอยๆ)
 อาจารย์อุบล : "  กี่คนจ๊ะ "
 นักศึกษา : " 2 คนค่ะ แล้วแนะนำเพื่อนอีก 2 คน รวมเป็น 4 คนค่ะ "
        พระเจ้าช่วย กล้วยทอด !! เพิ่งอายุ 13 ปี รู้จักการทำแท้งแล้วหรอเนี่ยะ!! พอผมมองไปที่กลุ่มนักศึกษาคนอื่นๆ ทุกคนตะลึง ไม่คิดว่าน้องเค้าจะกล้าพูด
     อาจารย์อุบล : " ตอนนี้มีจิตวิญญานเกาะอยู่ตรงเนี่ยะ 4 จิตวิญญาน "
          นักศึกษาทั้งหลาย ร้องกรี๊ดลั่น ส่งเสียงฮือฮา....แล้วเงียบลงอย่างฉับพลัน ตะลึงกับสิ่งที่ท่านอาจารย์บอก ตอนนี้หละครับ ทุกคนเงียบกริบ ที่นั่งชิดกันอยู่แล้วยิ่งนั่งกระทึบก็เข้ามาอีก บางคนอ้าปากค้างที่เดียวครับ อันนี้ไม่ได้โม้น่ะครับ จริงๆครับ
    อาจารย์อุบล : " งั้นต้องพิสูจน์ อาจารย์จะเอาบุญอุทิศให้จิตวิญญานทั้ง 4 ดวงนี้ "
       อาจารย์ท่านก็อาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า แล้วอุทิศบุญให้ หลังจากนั้นอาจารย์ท่านก็ถามน้องคนนั้นว่าเป็นยังไงบ้าง น้องเค้าก็เริ่มร้องไห้ แล้วพูดว่า
     นักศึกษา : " หนูมีความสุขมากกกกก จนบอกไม่ถูก หนูหายปวดหัวแล้วค่ะ หนูไม่เคยมีความสุขอย่างนี้มาก่อนเรยค่ะ (พูดไปก็ร้องไห้ไปด้วย) แต่ก่อนหน้านี้ทั้งป่วย ทั้งปวดหัว ใครๆก็ไม่รัก พูดอะไรไป..กะใครเค้า ก็ไม่มีคนเชื่อ มีแต่คนเกลียดหนู ด่าว่าหนู หาว่าหนูเป็นคนไม่ดี ทั้งๆที่หนูจริงใจ รักทุกคน แต่ไม่มีใครรักหนูเรยยย หนูเชื่อแล้วค่ะว่า พระพุทธเจ้ามีจริง สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง หนูขอสัญญาว่า หนูจะตั้งใจรักษาศีล5 ให้ได้ค่ะ.....(ยังพูดไปด้วยร้องไห้ไปด้วย)"
    บรรยากาศในตอนนั้น...ผมมีความปิติและมีความสุขมาก ที่ได้ยินประโยคนี้ออกมาจากปากของน้องนักศึกษาผู้นั้น....จนตัวผมเองกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ร้องไห้ออกมาด้วย พอหันไปมองทางอื่น ปรากฏว่านักศึกษาคนอื่นๆ ก็นั่งร้องไห้ไปตามๆกัน เป็นจำนวนมาก ช่างเป็นภาพที่ประทับใจเหลือกิน ส่วนลูกบ้านสวนคนอื่นก็นั่งร้องไห้กันทุกคน ไม่ว่าจะเป็นพี่แมว พี่ไอซ์ น้องเอริน และพี่อมร ทุกคนล้วนนั่งปาดน้ำตาด้วยความปลื้มปิติ กันทั้งสิ้น
     ผมขอค้างไว้เท่านี้ก่อนน่ะครับ ขอไปเช็ดน้ำตาแป็ปนึงครับ...เดี๋ยวมาเล่าต่อครับ   
ผู้แสดงความคิดเห็น กฤษณะ สิงห์ป้อม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-02 16:17:33


ความคิดเห็นที่ 24 (142803)

  อนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ธรรมทานด้วยค่ะ

คนอ่านก็พลอยน้ำตาไหลไปด้วย

นึกถึงภาพที่คุณป้อมเล่า  พอท่าน อ. อุบล

บอกว่ามีจิตวิญญาณเกาะอยู่ที่ตัวน้องเค้า

แล้วเพื่อน ๆ  ก็กระเถิบเข้ามานั่งใกล้ ๆกัน

แล้วก็ได้รับรู้ถึงสิ่งที่น้องเค้าสารภาพ 

หลังสารภาพบาป  น้องเค้าบอกว่ามีความสุขมาก

"หนูเชื่อแล้วค่ะว่า พระพุทธเจ้ามีจริง สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง หนูขอสัญญาว่า หนูจะตั้งใจรักษาศีล5 ให้ได้ค่ะ"

  อ่านแล้วมีความสุขกับน้อง ๆ ด้วย

เพราะนี่คือเยาวชนของชาติ  หากมีจิตสำนึก

ในการทำความดีกันเยอะ ๆ  ประเทศไทย

สงบสุขแน่นอนค่ะ  สาธุ  ด้วยนะคะ

     คุณป้อมขา  เช็ดน้ำตาไว ๆ นะคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-02 18:41:22


ความคิดเห็นที่ 25 (142804)

ขอโมทนาบุญในธรรมทานของทุกท่านด้วยค่ะ

ดีใจที่ท่านอาจารย์อุบลได้ไปแสดงธรรมนอกบ้านสวน

ให้นักศึกษาที่ไม่รู้จักนรกสวรรค์ บาป บุญ

ได้รู้ว่ามีจริง

เป็นบุญของเขาที่ได้พบท่านอาจารย์ ได้สารภาพบาป

และได้รู้ว่าที่เคยทำมาเป็นบาปที่ทำให้เจ็บป่วย

สาธุ สาธุ สาธุ

อยากให้นักเรียน นักศึกษาที่อื่นได้มีโอกาสแบบที่

นักศึกษาม.เทคโนราชมงคลอยุธยา ได้รับบ้าง

ประเทศชาติจะได้มีความหวัง

ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-02 20:50:48


ความคิดเห็นที่ 26 (142805)

 ขอเล่าประสบการนักฆ่า

         นักฆ่า ไม่มีป้ายแขวนคอเพื่อบอกสถานะความโหด***ม  เมื่อราวปี 2514 ผมได้อาศัยอยู่พื้นที่ที่เป็นฐานที่มั่นของ ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์(ผกค.) มีการกวาดล้างอย่างหนัก ของทหาร แม้แต่ ผกค.เองก็ต้องดักซุ่มโจมตี ฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมือง การฆ่ากันตาย เป็นเรื่องธรรมดา แยกไม่ออกเลยว่า ผู้ตายเป็นคนดีหรือไม่ และก็ไม่เคยจับผู้ต้องหาได้สักคนเดียวที่มีการฆ่าคน ช่วงนั้น ผมอายุราว 12 ปี มีคนตายที่ไหนก็จะไปดูเขา จนชินชา เรื่อง การตายการถูกฆ่าตาย จนมีหน่วยงานความมั่นคงมาฝึกพวกผมเกี่ยวกับการใช้อาวุธ เพื่อป้องกันตนเอง  อาวุธปืน ระเบิดมือ หาง่ายมาก M16,อาก้า กระบอกละ 1,500 บาท ลูกกระสุน ละ 8-15 บาท  ปืนพกสั้น 1,000 บาท ระเบิดมือ ลูกละ 100 บาท สมัยนั้นซ้อมยิงเป็นว่าเล่น เมื่อมีอาวุธในมือมันฮักเหิม ครับ  ระหว่างปี 2522 เริ่มสงบ คนเริ่มนิ่ง แต่ไม่สามารถแยกแยะคนดีคนเลวได้ มีการลักเล็กขโมยน้อย ขโมยถูกยิงทิ้งเลย ทางราชการให้โล่ห์เลยครับ   คนต่างพื้นที่ย้ายเข้ามาอยู่ในพื้นที่ มากขึ้น อยู่ไปก็สนิทกัน จึงได้รู้ว่าเป็นมือปืนรับจ้างหนีมากบดานที่นี่ ทำไร่ทำสวน ค้าขาย ตามปรกติ

ครั้งหนึ่ง ผมไปหาปลาคนเดียว ห่างไกลจากหมู่บ้านหลายกิโล ค้างคืนคนเดียว ก่อกองไฟไว้  มีลุงคนหนึ่ง ชื่อ เจิม  มาหาปลาเหมือนกัน เป็นคนบ้านเดียวกันกับผม มาอาศัยกองไฟที่ผมก่อ คลายหนาว แกเล่าชีวิตของแกให้ผมฟัง ว่า แกเป็นนักเลง เคยปล้นจี้ ลักขโมย และรับจ้างฆ่าคน  เล่าเทคนิคการฆ่า การสังหาร แต่ละเหตุการณ์ให้ฟัง อย่างออกรสชาติ ตั้งแต่การชี้เป้า การวางแผนฆ่า การหลบหนี แกบอกว่าการยิงแบบเผาขนแกชอบที่สุด  กว่าคนจะเห็นเราไปถึงไหนถึงหนึ่งแล้ว ผมชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ว่าคนเราทำไมไม่เคยบาดหมางใจกันทำไมต้องฆ่ากันด้วย ไม่รู้จักกันเสียด้วยซ้ำ ชักปืนมายิงกันได้  หลังจากที่คุยกันราว ตีสองแกบอกว่าจะไปกู้ข่ายดักปลา แล้วกลับบ้าน

ผมกลับถึงบ้านราว 8 โมงเช้า  เพื่อนบ้านมาบอกว่ามีคนถูกยิงตาย แกไปปล้นบ้านครูใหญ่  เขาจำเสียง ลีลาท่าทางของแกได้ ทั้งหมด มันคล้ายกับลูกชายแกมาก เวลาปล้นแกต้องดัดเสียง ไม่ให้คนเขาจำได้ ปล้นตอนหัวค่ำ แล้วหนีไปทำเป็นหาปลา แต่บังเอิญเสียงที่แกพูดดัดเสียงคล้ายเสียงของลูกชายตัวเอง ครูใหญ่ จึงจำเสียงได้แม่นยำ ไม่ผิดตัว เลยโดนทหารเกณฑ์เป็นลูกศิษย์ครูใหญ่ มาพักร้อน ตามล่ามาจบชีวิตหน้าบ้านตัวเอง

เหมือนเดิมครับผมไปดู คนตายนอนหงายผึ่ง ผมจำเสื้อกันหนาวแกได้ เมื่อคืนยังมาโม้ให้เราฟังอยู่เลย ใจหายเหมือนกันไฉนตายแล้ว 

 เป็นอันว่าทหารเกณฑ์ผู้มีความเคารพรัก ในครูบาอาจารย์ ต้องฆ่าลุงเจิม เพราะต้องการให้หยุดการก่อกรรมต่อไปอีก และไปย่ำยี่ครูบาอาจารย์ของเขา ทั้งที่ครูใหญ่บอกไม่เอาเรื่องเอาราว สงสารลูกชายเขา แต่ทหารเกณฑ์ต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด  จึงเป็นจุดจบของโจร ที่คิดว่าตนเองเก่ง ฉลาด

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) (amorn_possible-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-02 21:46:50


ความคิดเห็นที่ 27 (142806)

     พี่อมร...สมัยนี้กรรมตามทันรวดเร็วจริงๆเน๊อะพี่ ทำเค้าไว้ยังไง ได้รับผลอย่างนั้นจริงๆ และไม่ผิดตัวด้วยเนอะครับ ผมสงสัยจริงๆเรย ถ้าหากโจรเกิดกลับใจ โดยทันที แล้วตั้งใจทำแต่ความดีหนีความชั่วที่เคยทำไว้ ยังจะพอทันมั้ยครับเพ่ แต่ถ้าไม่กลับใจ เปลี่ยนจิตเปลี่ยนใจ สงสัยเป็นอย่างลุงเจิมแน่เรย แต่ลุงเจิมก็ยังดีน่ะที่ตายแบบไม่ทรมาน บางคนซิ ตายทั้งเป็น อู้ยย....คิดแล้วสยอง

ผู้แสดงความคิดเห็น กฤษณะ สิงห์ป้อม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-02 22:07:43


ความคิดเห็นที่ 28 (142810)

ตอนขากลับ มี อ.มาส่ง 2 ท่าน

ท่านถามว่า. ทำไมอยุธยาน้ำท่วมมาก กรรมอะไรคะ

เลยบอกว่า. พระพุทธเจ้าบอกว่า ผู้เคยลักทรัพย์ ต้องรับกรรม

ทำให้ทรัพย์ของตน ต้องเสียหาย ด้วยภัยจากน้ำ จากไฟไหม้ จากโจร

และการเจ็บป่วย

อ.ถามอีกว่า แล้วทำไมเราต้องมาอยู่ที่แบบนี้

ก็กรรมที่เราเคยทำไว้อีกนั่แหละค่ะ

คนทำกรรมแบบเดียวกัน จะถูกลิขิตให้ไปรวมกัน เจอเคราะห์กรรมแบบเดียวกัน

พระพุทธเจ้าจึงบอกว่า อย่าคบคนชั่วเป็นมิตร เพราะจะนำความเดือดร้อนมาให้

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-02 23:20:01


ความคิดเห็นที่ 29 (142811)

ตอนนี้ฝนตก เลยพิมพ์ทางไอแพท ช้า และไม่ถนัด

อยากบอกเรื่อง กรรมลักทรัพย์ ตอนนี้ (ทานเบื้องบน)

จะให้คนขี้ขโมย ออกมาแสดงตัว สมัยหนึ่ง อ.อุบล

เคยมีลูกจ้าง พนักงานหญิงคนหนึ่ง ขี้ขโมย และ

ก้าวร้าว ตัวเล็กๆ ผมหยิกใจดำ ผิวดำ เพื่อนร่วมงาน

จะรังเกียจเรื่องใจดำ มูมมาม ทานอาหารทีไรจะหารหล่นเต็มพื้น แล้วไม่เคยเก็บ

เธอขี้โขมยเป็นอาชีพ เจ้าคิดเจ้าแค้น คนนี้นะ อ.มงคล จะเอาเข้าคุกให้ได้

แต่หลวงพ่อเสงี่ยมขอไว้ บอกว่าเราจะมีมามากกว่าเก่า แต่เขาจะต้องรับกรรมอย่าง

หนัก ให้เขาออกไป แล้ววันหนึ่งเขาจะรู้เอง ว่ากรรมมีจริง แม้จะไม่ยอมรับ

เขาจะต้องทนทุกข์ตลอดชีวิต

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-02 23:20:34


ความคิดเห็นที่ 30 (142812)

อย่างนายก อบต.

ที่ออกอากาศวันนี้

ท่านก็เคยเป็นตำรวจมาก่อน

ท่านต้องฆ่า

ตามหน้าที่ วิสามัญฆาตรกรรม

ตามคิว

 

คงเหมือนกับที่

อ.อุบล เล่าถึง มือปราบปืนทอง

มีฆ่า ที่สนิทกับ อ.อุบล

ท่านจะสอน แนะนำทุกเรื่อง

 

อย่างเวลานัดเจอกัน

จะต้องเปลี่ยนที่นัดไปเรื่อยๆ

ไม่นัดที่เดิม

 

และ

การเจอกันแต่ละครั้ง

จะเปลี่ยนจุดนัดหมาย

ไม่น้อยกว่า 3-5 ครั้ง

 

เช่นถ้าบอกว่า

นัดหน้าโลตัสบ้านนา

 

พอเราใกล้ถึงหน้าโลตัสบ้านนา

ก็จะบอกว่า

เอาเป็นว่า เปลี่ยนเป็น

ซอยวัดป่าขะแล้วกัน

 

พอเราจะถึง

ก็จะเปลี่ยนเป็น

หน้า ร.ร.เขาเพิ่มนารีผลแล้วกัน

 

อย่างนี้เป็นต้น

 

แล้วการเผานี่นะ

ท่านบอกว่า

บางครั้ง ก็นั่งยาง

บางครั้ง ถังน้ำมัน 200 ลิตร

 

แต่ท่านบอก

ถังน้ำมันนี่

กระดูกกลายเป็นเถ้าเลย

ไม่เหลือซาก

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 00:49:01


ความคิดเห็นที่ 31 (142813)

กราบขอบคุณท่านอาจารย์อุบลที่มาเล่าธรรมทานให้ฟัง อ่านไปลุ้นไป ตื่่นเต้นมาก ตอนแรกเข้าใจว่าน่าจะเป็นผู้ชายที่เป็นนักฆ่า แต่เป็นแม่หญิงนี่เอง  ถือว่าเป็บุญของนักศึกษาเหล่านั้นที่ใด้พบท่านอาจารย์อุบล และใด้บำบัดทุกข์กับท่าน เกิดการหายป่วยแบบปาฎิหารย์กันทั่วหน้านะค่ะ

ขอบคุณคุณธนา คุณอมร คุณป้อม ที่มาร่วมเล่าเหตุการณให้ฟัง

ผู้แสดงความคิดเห็น รุ่งสุภารัตน์ รุ่งเรือง(ภา) (parungrueang-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 01:08:35


ความคิดเห็นที่ 32 (142814)

 กราบอนุโมทนากับอ.แม่และทุกๆท่านด้วยค่ะ

พูดถึงเรื่องนักฆ่าแล้วก็คิดถึงญาติตัวเองที่เป็นตำรวจ

ตอนหนูยังเด็ก เขาฆ่าคนมาเยอะ 

ฆ่าเพื่อปิดคดีบ้าง ฆ่าเพื่อผลงานบ้าง

บางทีก็เผานั่งยาง บางทีก็ยิง

บางทีก็ตีให้สลบแล้วเอาไปฝังทั้งเป็น

เยอะแยะมากมายสารพัดวิธีฆ่า

ใจนักฆ่านี่โหดจริงๆค่ะ

ทำได้ทุกอย่างจริงๆ

อ่านที่อ.แม่เล่ามาแล้วก็ไม่แปลกใจเลยค่ะ

ว่าทำไมลูกศิษย์ของหลวงพ่อเสงี่ยม

จึงคิดจะฆ่าคนที่คิดไม่ดีกับหลวงพ่อได้

ฆ่าเพื่อล้างแค้นยังฆ่ามาแล้ว

หากจะฆ่าเพื่อครูบาอาจารย์

คงไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไร

เพราะเรื่องแบบนี้คงเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยมากๆ

สำหรับนักฆ่ามืออาชีพ

แต่ไม่เคยทราบมาก่อนเลยค่ะ

ว่าอ.แม่จะรู้จักและสนิทกับนักฆ่าปืนทองและคนอื่นๆด้วย

ตอนอ่านคู่มือหนีกรรมผิวพรรณ

คิดว่าอ.แม่จะติดต่อคนกลางอีกที

ใจนักฆ่า เขาฆ่าได้หมดจริงๆ

ขอแค่รู้ตัว ว่าคนๆนั้นเป็นใคร

อ่านแล้วก็ขนพองสยองเกล้ากับวิธีที่เขาฆ่า

และคนที่โดนฆ่าจริงๆค่ะ

รับรู้ได้ถึงความทรมาน เจ็บปวด แบบแสนสาหัสเลยจริงๆ

***********************************************

อนุโมทนากับพี่ชนิดาด้วยค่ะ

ว่าแต่ยังไม่ได้ดูเลยค่ะ

เดี๋ยวต้องรีบหาเวลาดูมั่งแย้ว

ไม่ได้ทำการบ้านมาหลายหน้าแล้วเนี่ย อิอิ

 

คืนนี้ไม่ไหวแย้ว

ขอตัวก่อนนะค๊าาา

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 20:30:26


ความคิดเห็นที่ 33 (142815)

ได้อ่านธรรมทานที่ขยายความ

แบบละเอียดจากท่านอาจารย์แล้ว

พอจะเข้าใจแล้วค่ะว่า อะไรเป็นอะไร

และมีนัยยะสำคัญอะไรบ้าง

 

ซึ่งภาระกิจด่วนของท่านอาจารย์ในครั้งนี้

อ่านแล้วไม่้ต้องสงสัยเลยนะคะว่า

เบื้องบนจัดมาแบบเต็มๆ จริงๆ

 

เพราะ"นักฆ่าหญิง" ก็ยังมาปรากฏตัว

พร้อมกับสารภาพบาป

ทำให้พวกเราได้เห็นความคิด

และความรู้สึกของการเป็นนักฆ่าได้ชัดมากๆ

 

เพราะการฆ่านับร้อยชีวิตของเค้านั้น

ทำไป ด้วยเพียงเหตุผลเดียวจริงๆเลย คือ

"ฆ่า"เพื่อปกป้องคนที่ตนรัก 

และยึดถือกับคำว่า

ศักดิ์ศรีเต็มเปี่ยมหัวใจ อีกต่างหาก 

 

ประมาณว่า หยามกันไม่ได้เลย

ยังกะนักเลงสมัยก่อนแน่ะ

สงสัยน้องเค้าคงจะเป็น"นักรบเก่า"

กลับชาติมาเกิดแน่ๆเลย

สัญญาเดิมจึงได้ติดตัวมาเต็มๆแบบนี้

 

จะว่าไปพวกเราแต่ละคน

ก็อาจจะเป็น นักฆ่า มาก่อนก็ได้

ไม่ชาติใด ก็ชาติหนึ่ง หรือไม่ก็

อาจจะหลายๆชาติก็ได้

อย่างน้อยต้องเคยรบ เคยฆ่าคน

เพื่อประเทศชาติมาแล้วแน่ๆเลย ....เนอะ

 

คิดแล้วก็ สงสัยจะบาปกรรมล้นพ้นตัว

จริงๆเลยนะคะเนี่ย

 

 

ยิ่งได้อ่านธรรมทานที่เีขียนถึงฟีดแบค

ของน้องๆนักศึกษา ทั้งจากพ่อใหญ่ธนา

พี่อมร และสิงห์ป้อม เหลามาแล้ว

ยิ่งเห็นภาพต่างๆได้กว้างขึ้น ชัดขึ้น

 

และเป็นการยืนยัน

กับสิ่งที่อาจารย์ได้พูดไว้

ก่อนที่จะเดินทางไปถึง

ที่มหาวิทยาลัยนี้เสียอีก

 

แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะในที่สุด

ก็มีคนมาเป็นลม ล้มพับ

ต่อหน้าท่านอาจารย์จริงๆ

 

แต่อ่านที่พี่อมรและสิงห์ป้อม

เขียนถึงน้องที่มาสารภาพบาป

เรื่องที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำแท้งแล้ว

 

อึ้งจริงๆค่ะ เหมือน"จิต"ของเค้า

เปิดรับธรรมะอย่างเต็มร้อย

และเข้าใจหลักการทุกอย่าง

ที่ท่านอาจารย์กำลังแสดง"กฏแห่งกรรม"

แถมยัง มีสำนึกในบุญคุณ

แล้วกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์

และท่านอาจารย์ทันที

ที่หายจากทุกข์ อีกต่างหาก...

 

ชนิดาเริ่มมองเห็นภาพต่างๆ

ชัดขึ้นอีกสเต็ปแล้วว่า

ท่านอ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์

แห่งบ้านสวนพีระมิด ท่านนี้

ได้ใช้ความสามารถพิเศษของท่าน

เปลี่ยนจิตเปลี่ยนใจคนเลวหรือคนทั่วไป

ให้เป็นคนดีแบบทันที ได้อย่างไร

 

และมั่นใจว่า ศักยภาพอันยิ่งใหญ่

ในตัวของท่านอาจารย์

จะหยุดยั้งภัยพิบัติ ได้แน่นอน... 

เพราะธรรมะแบบตรง แรง

และสัมผัสกันได้ชัดๆแบบนี้

รับรองว่า จะขยายวงกว้างได้เร็ว...

เกินคาด แน่นอน

 

กราบอนุโมทนากับธรรมทาน

จากท่านอาจารย์

รวมถึงพ่อใหญ่ธนา พี่อมร สิงห์ป้อม

 

และประสบการณ์ตรงเรื่องราว

ของการฆ่า จาก คุณ จรัล ด้วยค่ะ

ทุกคำพูดที่ทุกท่านเขียน

มีพลังและหนักแน่นมากๆ

 

จะว่าไป คุณตาของชนิดา

ก็เป็นตำรวจเหมือนกัน

แต่ท่านเสียชีวิตไปสิบกว่าปีแล้วค่ะ

ไม่รู้ว่า ท่านเคยฆ่าใครมาบ้างหรือเปล่า

เพราะท่านเสียชีวิตจากโรคมะเร็งล้ำไล้

หรือ ถุงน้ำดี ประมาณนี้นะคะ

ก็น่าจะทรมานอยู่

 

แต่ในมุมที่เราเห็น ท่านเป็นคนดี มีเมตตา

ไม่ค่อยเอาเรื่องอะไรกับใครเลย

เห็น"ยอมๆหยวนๆ"คนอื่นแทบทุกเรื่องเลย...

 


ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 07:01:30


ความคิดเห็นที่ 34 (142816)

ไม่รู้ว่าอ่านเรื่อง"นักฆ่า"จนสยองรึเปล่า เพราะวันนี้อยู่ดีๆ ก็มีเรื่องชวนตื่นเต้นขนหัวลุก ลุ้นอยู่เหมือนกัน เพราะวันนี้เลิกงานดึกมาก ถึงบ้านประมาณเที่ยงคืน แต่พอขับรถเข้ามาเขตตึกที่อยู่ ก็มีเด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง ซึ่งแต่งตัวเหมือนคนที่เราเห็น(เป๊ะเลย) ที่ด้านหลังร้านขายยา(ของเรา)เมื่อตอนเย็น

 

เพราะชนิดาเอาขยะไปทิ้งแล้วก็เดินเข้าร้านทางประตูหลัง รู้สึกเหมือนเค้าจะเดินตามมา แต่เดินช้าๆ ชนิดาก็เลยปิดประตู แล้วก็วิ่งขึ้นชั้นบนส่องดูจากหน้าต่าง ก็เห็นเค้ายืนๆอยู่ ซักพักก็เดินออกไป

พอเลิกงานมา ก็เห็นคนยืนอยู่ที่ด้านหน้าของที่ทิ้งขยะหน้าตึก ก็ยังแปลกใจใช่คนเดียวกันเปล่า..หนอ เพราะเห็นหน้าไม่ชัด เห็นแต่ชุด

 

พอจอดรถเสร็จ เดินเข้ามาในตึกก็ยังเห็นอยู่ แถมมองมาที่พวกเราอีกต่างหาก พอขึ้นไปชั้นที่เราอยู่ แอบมองลงมา เหมือนเค้าก็มองตามอีก ชักแปลกใจและเริ่มกลัวแล้ว เพราะมองจากข้างล่างก็รู้ว่าเราอยู่ชั้นไหนห้องไหน

 

แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่เค้าจะมาตามเรา พอเข้าบ้านซักพัก คุณสามีจะออกไปเดินเล่่น เค้าบอกเด็กคนนั้นหายไปแล้ว..

เฮ้ย..อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น พอเราเข้าบ้านปุ๊บ เค้าก็ไป..ทันที

แต่ก็ไม่น่าจะมีอะไรหรอกนะคะ เพราะไม่มีเหตุผลใด ที่เค้าจะมาตามเรา หรือถ้าจะตามก็ไม่น่าจะมายืนมองโจ่งแจ้งแบบนี้

แต่ไงก็ยังแอบกลัวอยู่ดี โอ๊ย ว่าแล้วก็ไปนอนดีกว่า ลุ้นระทึกจนเหนื่อยเลย..อิอิ

 

แต่ไม่ว่าเค้าจะเป็นใคร ชนิดาก็อุทิศบุญให้เทวดาประจำตัวเค้าไป และขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงรหัส"อ.อุบลช่วยด้วย" ขออย่าให้คนพาลสันดานหยาบมาใกล้หรือข้องเกี่ยวกับชนิดาได้เถิด สาธุ สาธุ สาธุ

 

กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์และท่านอาจารย์อุบล ด้วยค่ะ

กราบ

กราบ

กราบ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 07:31:41


ความคิดเห็นที่ 35 (142817)

 ได้ฟังธรรมทานของเรื่องนักฆ่าแล้ว

และได้ดูคลิปรายการนี้ไปด้วย

รู้สึกประทับใจคำพูดของท่านนายกฯ

ที่เป็นอดีตนายตำรวจ

ที่บอกว่าไม่รู้จะไปสารภาพความชั่ว

ตัวเองกับใคร

สารภาพกับ พระ กับ ชี ก็ไม่หาย

แต่มาสารภาพกับอ.อุบลหาย

แถมพูดแบบน้อยใจว่า

เมื่อไรจะถึงคิวตัวเอง ที่จะได้กราบ

ท่าน อาจารย์สักที

เห็นแล้วก็ปลื้มใจกับท่าน

ที่ละวาง ตำแหน่งหน้าที่ของท่าน

ก้มลงกราบครูบาอาจารย์

แบบไม่เคอะเขินค่ะ

***

ส่วนเรื่องราวธรรมทานที่อยุธยาครั้งนี้

ได้ฟังแล้ว สิ่งแรกเลยคือ

ปลื้มใจมากๆค่ะ กับภารกิจ

ที่เบื้องบนท่านเมตตาลูกหลาน

และดีใจที่เห็นเด็กรุ่นใหม่

ได้พบทางสว่าง 

ได้หมดทุกข์

ยิ่งน้องๆ ที่เป็นเคสตัวอย่างทั้งหลาย

ที่ผ่านมา ชีวิตของเขา

คงมีแต่ความทุกข์ทรมาน

ทั้งร่างกาย และจิตใจ

แต่วันนี้ น้องๆ โชคดีมาก

ที่ได้มาเจอ ท่าน อ.อุบล 

ได้พบธรรมมะ ของพระพุทธเจ้า

เป็นธรรมะที่ไม่ต้องมานั่ง

พนมมือ นั่งสมาธิ สวดมนต์

แต่เอาชีวิตจริงมาแสดงให้เห็น

เรียกว่าไม่มีสคริปต์ 

เล่นจริง เจ็บจริง หายจริง

เหนืออื่นใด ทำให้เด็กๆ 

หันมารักษาศีล 5

เชื่อในเรื่องกฏแห่งกรรม

ี่นี่คือสิ่งที่มีค่ายิ่งที่สุดแล้วค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ (kondee25121-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 09:32:24


ความคิดเห็นที่ 36 (142818)

กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์และท่านอาจารย์อุบล ได้อ่านประวัตินักฆ่าซึ่งเป็นผู้หญิง  และโมทนากับคุณธนา  พี่อมร  คุณแมวและน้องป้อม   + คณะที่เดินทางที่อ.มหาวิทยาลัยที่จ. อยุธยา  ซึ่งเป็นการที่ดีมาก   เพราะนักศึกษาพวกนี้กู่ไม่กลับแล้ว  ที่พี่อมรพูดถึงมหาลัยเทคโนโลยีธัญญะ  ขอทราบรายละเอียด ? แต่ตอนนี้เจอ คือรับน้องใหม่วิศวบังคับให้กินเหล้า  พูดสองแหง่สองห้าม   มีแต่กิจกรรมเด็กไม่ได้ผักผ่อน  ตอนนี้ลูกสาวคอแดงยังไม่หายเลยตั้งแต่เปิดเรียนนมา   กิจกรรมอะไรมากจังจนเด็กไม่ได่อ่านหนังสือทบทวนการสอบภาคแรก  เคยคุยกับอ.คณะเศรษศาสตร์   เขาให้เราฟังเขาแล้วให้ลูกไม่ต้องเข้า แต่คนที่ไม้เข้ากิจกรรมจะอยู่ลำบาก  จนตอนนี้อ.หัวหน้าภาคไม่โทรมาอีกเลย     แค่เพลงที่ร้องก็ไม่เป็นมงคลชีวิต ร้องที่มหาลัยอย่ามาร้องที่บ้าน   พรุ่งนี้จะเริ่มกิจกรรมกีฬาอีกกิจกรรมหนึ่ง เวลาทำโทษรวมแล้วให้นั่งเป็นร้อยลูกสาวไม่ไหวล้มเพื่อนหามตอนนี้ยังไม่หายป่วยเลยเป็นห่วงสอบแล้วไม่แน่ใจว่าจะได้หรือเปล่าใช้รหัสอ.อุบล  ช่วยด้วย  แต่คอเขาแดงตลอดเพราะให้ตะโกนบางคนไม่ดังให้ทำใหม่ส่วนคนที่ตะโกนดังแล้วดังอีกหลายๆครั้งทำให้คอแดงตลอด   ตอนนี้มีความหวัง จะทำอย่างไรหนอจะถึงเด็กเทคโนธัญญะทุกคณะที่กำลังรับน้องใหม่ไม่จบแข่งกีฬาอะไรแค่แพ้ชนะยังไม่พอ  ถ้าต้องซ่อมใหม่ งง......จัง  ตอนนั้นก็เจอน้ำปลาเหม็นทั้งรถ  ยังมีอย่างนี้อย่อีกหรือ?

ผู้แสดงความคิดเห็น บุญภิบาล คงเขียว (ratmanee90-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 10:16:58


ความคิดเห็นที่ 37 (142819)

น้องนักศึกษา

ที่อยุธยา พึ่งมาเป็นนักศึกษาใหม่

วีรกรรมที่ก่อมานั้น จึงเป็นวีรกรรมที่ทำมาก่อน

ที่จะมาอยู่มหาวิทยาลัยแห่งนี้

 

เพราะนี่คืองานปฐมนิเทศก์

นักศึกษาใหม่

 

รองคณะบดี

ท่านออกมาแสดงความรู้สึก

ท่านยังบอกเลยว่า

นี่ไม่เคยเห็น

ไม่เคยรู้

มาก่อนเลย

 

ว่า

เกิดสิ่งเหล่านี้

กับนักศึกษามาก่อนแล้ว

 

และ

นักศึกษาก็ออกมา

สารภาพเอง หายเอง สดๆ

ต่อหน้าต่อตา

 

นี่เป็นเหตุการณ์จริง

ที่ท่านอัศจรรย์ใจมาก

 

ถ้าเป็นพวกเรา

ที่ไปกับ อ.อุบล ออกมาพูด

ท่านบอกว่า อาจคิดได้ว่า

เตี๊ยม เตรียม มาเพื่อจะพูด จะแสดง

 

แต่นี่

นักศึกษาเป็นเด็กของท่าน

ซึ่ง อ.อุบล ไม่เคยรู้จัก

ขนาดท่านยังไม่รู้เลย

 

แต่วันนี้

อ.อุบล มาเปิดเผย

ท่านบอกว่า ท่านทึ่งมาก

อยากให้ไปอีก

(ว่างั้นเตอะ)

 

คราวนี้

มาดูน้องนักฆ่าหญิง

อายุ 20 ปี

ที่มีวีรกรรมการฆ่ามา

กว่า ร้อย กว่า พัน

(อันนี้ น้องเขาไม่ได้พูด อ.อุบล พูดเอง อีกหน่อยเค้าจะรับเอง)

เหมือนตอนแรก

 

ที่เค้าไม่กล้าแม้แต่จะบอกว่า

ทำอะไรมาบ้าง

 

ได้แต่โบกมือ

หนูไม่พูดค่ะ (แต่ว่าหนูอยากหาย)

หนูไม่อยากผ่าตัดสด

วันที่ 15 สิงหาคม 55 นี้ค่ะ

 

หนูต้องใช้เงิน

แสนสองค่ะ

(120000)

 

หนูไม่อยากผ่าอีก

ก็ต้องพูด

 

ไม่อยากพูด

ก็ไปผ่าก็แล้วกัน

อ.อุบล ไม่เกี่ยว ไม่ได้ผ่าด้วย

แค่บอกวิธีให้เท่านั้น

-----------

 

ตลอดเวลาที่ผ่านมา

น้องเค้าไม่เคยรู้ว่า

การที่เค้าต้องผ่าสมอง

ซ้ำซาก

และหมอบอกต้องผ่าไปเรื่อยๆ

แถมดูดเอาสมองออก

เจ็บปวดทรมาน

นั้น

 

เกิดจากกรรม

ที่เค้าเคยทำร้ายคนอื่น

เคยตีหัวคนอื่น จนหัวแบะ

สมองไหล

เลือดอาบ ก่อนตาย

เขาชัก กระตุก ตาเหลือก

ตาเหล่

 

ตีเค้าจนหน้าเค้าเละ

บิดเบี้ยว ไปทั้งหัว ทั้งหน้า

ทั้งตัว

 

ก่อนตายแต่ละศพ

เขาชักกระตุก ทั้งตัว ก่อนสิ้นใจ

เค้าอาฆาตรไว้ เค้าจองเวร

 

น้องเค้าไม่รู้ ไม่เชื่อเรื่องนี้

ก็อย่างว่า

ถ้าน้องเค้ารู้ว่า

ที่ทำกับคนอื่นทั้งหมดทุกคน

ต้องมาเจอเองหมด

น้องเค้าคงไม่ทำ

 

แต่วันนี้

พอ อ.อุบล บอก

น้องเค้าบอกว่า เชื่อ 50 / 50

 

อ.อุบล

บอกว่า เชื่อแค่ไหน

ใจเปิดแค่ไหน สำนึกแค่ไหน

สารภาพแค่ไหน

ก็เอาผลไปเท่านั้น

(อย่าฝันหวาน ว่า อ.อุบล จะเสกให้หายได้)

 

ทีแรก

เค้าซ่าส์มาก

แบบว่า ข้าเก่ง ข้าแน่

 

ที่สำคัญ

ที่ฆ่า ที่บอกมาว่า

40 กว่าศพ และ สลบ อีกเป็นร้อย

หนีได้ ไม่สลบ แต่บาดเจ็บ

พิการอีกเป็นร้อยนั้น

 

ทุกกรรม ทุกวาระ

เธอลอยนวล

เรียกว่า ตำรวจ จับเธอไม่ได้

เธอจึงมั่นใจว่าเธอเก่ง

 

เธอทำมาตั้งแต่

อยู่มัธยม อยู่ ร.ร.สตรี ด้วยนะ

คิดดูสิ ก่อคดี ขนาดนี้

ตำรวจ จับไม่ได้

 

แล้วเธอก็ดีใจ

ที่ฆ่าคน ก่อคดี อุกฉกรรจ์

แต่ตำรวจไม่จับ หรือ ไม่รู้ตัวผู้ก่อเหตุ

 

วันนั้น

อ.อุบล ได้บอกเธอแล้ว

ว่า

ใครจะหนีตำรวจ หรือ หนีอะไรก็ได้

 

แต่

คุณไม่มีวัน

หนีตัวเองได้

 

คุณ

ไม่มีวันหนีกฎแห่งกรรมได้

 

นี่ไง

ตำรวจไม่จับ

แต่คุณไปมอบตัวเอง

กับพยายม นายนิรยบาล

ซึ่ง

ก็คือ หมอ พยาบาล นั่นเอง

 

เห็นไหม

หมอ ใช้อะไร รักษาคุณ

ใช้มีด ผ่าตัด

ใช้เข็มฉีดยา เข็มเย็บ

ใช้ยาเม็ด ยาน้ำ ยากิน ยาทา

ยาสลบ

 

ซึ่งในนรก

ก็มีบริวารเสด็จพ่อ

ทำหน้าที่อย่างนี้เหมือนกัน

แต่หนักกว่า

 

ที่คุณเจอ

เป็นแค่หนังตัวอย่าง

เป็นลางบอก ให้คุณรู้ว่า

ชาตินี้ คุณเจอ ตัวอย่างนรกก่อน

ตายไป

คุณเจอหนักกว่านี้ แน่นอน

 

หมอใช้มีดผ่าตัด

นายนิรยบาล ใช้หอก ดาบ

แหลนหลาว มีดกรรม เลื่อยกรรม

 

หมอใช้เข็มฉีดยา

นายนิรยบาล ใช้หอกแทง

 

หมอใช้ยาเม็ด

นายนิรยบาล ให้หินทราย

เผาไฟ กรอกปาก

 

หมอใช้ยาน้ำ

นายนิรยบาล ใช้น้ำทองแดง

เดือดพล่าน กรอกปาก

 

หมอใช้ยาสลบ

นายนิรยบาล ย่างสด

จนสลบ แล้วฟื้น ฟื้นแล้วตาย

วนเวียนอยู่ร่ำไป

 

หมอต้องตัด

อวัยวะบางส่วนทิ้ง

ดูดสมองออก

เจาะเลือดไปตรวจ

 

ยมบาล นายนิรยบาล

ก็ใช้เลื่อยกรรม มีดกรรม

ตัดอวัยวะ ให้ขาด ให้หลุด

ให้เจ็บปวด ทรมาน

จนตาย แล้วฟื้นมาต่อกันใหม่

แล้วโดนใหม่เรื่อยไป

 

เหมือนน้องคนนี้

ที่หมอบอก ต้องผ่าไปเรื่อยๆ

แต่ไม่รับรองผล

 

อ.อุบล

ถามว่า ถ้าไม่ผ่าจะเป็นอะไร

 

หนูจะตาเหล่

ปากเบี้ยว ตอนนี้ก็เบี้ยวอยู่ค่ะ

เห็นไหมคะ (จริงๆด้วย)

แล้วหน้าหนูจะเบี้ยว

มีหงิก

ทั้งตัวชักกระตุก

หนูมีอย่างเดียว ที่ปกติ คือใจ

หนูรู้ทุกอย่าง

 

แต่นอกนั้น

ทั่วทั้งร่างกายหนู

หนูควบคุมไม่ได้เลยค่ะ

จึงต้องผ่าค่ะ

 

ผ่าแล้วไม่หายเหรอ

 

ไม่หายค่ะ

 

หมอบอกต้องผ่าไปเรื่อยๆค่ะ

 

อ.อุบล

ฟังประมาณว่า

ต้องดูดเอาสมองออก

เพราะมันไปเบียดเส้นประสาท

ทำให้ร่างกายต้องเป็น

อย่างที่เธอบอก

 

แต่หมอแนะนำว่า

ให้ทำการผ่าสด

 

ที่ผ่านมาผ่าแบบ

วางยาสลบ

 

หมอบอก

มีทางเดียว ที่อาจจะ

ช่วยให้เธอไม่ต้องผ่าบ่อย

คือต้องผ่าสด

ทุกอย่างสดหมด

 

ไม่

แม้แต่ยาชา

 

คิดดูสิ

ผ่าเปิดสมองนะ

ผ่าสด ทำสด เย็บสด

 

หนูไม่รู้ว่าหนูจะทนไหวรึเปล่า

หนูไม่ชอบมีด ไม่ชอบการผ่า

 

อ้าว

หนูไม่ชอบ

แล้วตอนที่หนูทำคนอื่นล่ะ

เค้าชอบเหรอ

 

ตอนที่หนูทำคนอื่น

หนูไม่รู้สึกอะไรค่ะ

 

แต่ถ้า

มีดจะมาโดนหนู

หนูไม่ชอบค่ะ

 

จ้า

คิดได้นะ

 

แต่ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ชอบ

แต่เธอก็ยอมไปมอบตัว

ไปให้หมอกระทำต่อเธอ

เอง

จะด้วยความเต็มใจหรือไม่

แต่เธอก็ไปหาหมอเอง

 

หมอ

ไม่ได้มาง้อให้เธอไปหา

ไม่ได้มาขอร้องเธอ

 

แต่เธอ

ไปหาหมอเอง

ใช่ไหม

 

นี่ไง

กฏแห่งกรรม

 

ไม่เคยส่งผลผิดตัว

 

น้องคนนี้

หนีตำรวจได้ หนีอาญาแผ่นดินได้

แต่กลับเดินไป ชดใช้กรรม

ด้วยตัวเอง

 

ไปให้หมอ

ทำร้ายร่างกายเธอ

 

เหมือนที่เธอทำร้าย

ร่างกาย จิตใจ คนอื่น ทุกประการ

 

และ

อ.อุบล บอกเธอว่า

เธอต้องตายแน่

แต่ไม่ใช่ตอนนี้ เธอต้องเจอ

อ.อุบล ก่อน

 

เพราะ

เจ้ากรรม เขาต้องการ

ให้คนทั้งหลาย และ ตัวเธอ รู้

ว่า

ที่เธอเจออยู่นั้น

มันยิ่งกว่า คุก ยิ่งกว่า อาญาแผ่นดิน

ที่เธอคิดว่า เธอ หนีรอดแล้ว

 

แต่

ที่ไหนได้

เธอเองนั้นแหละ

กลับวิ่งเข้าไปหามันเต็มๆ

 

วันนั้น

เจ้ากรรมเค้ามีความสุขมาก

เขาหัวเราะเยาะ

ในความโง่เขลา ของเจ้าเด็กหญิง

นักฆ่า ผู้ยิ่งใหญ่

ที่ไม่เคยรู้เลย ว่า เค้าติดตามตัว

ตลอดเวลา

 

เค้าวางแผ่น

วิธีแก้แค้นเอาคืนไว้

แบบสาสม พร้อมดอกเบี้ย

 

โดย

ให้เธอต้อง

โดนหมอผ่าไปเรื่อยๆ

เท่ากับจำนวนที่เธอทำร้ายคนมา

 

นี่แค่ผ่า 4 หน

ครั้งที่ 5 กำลังจะหนักหน่วง

คือผ่าสด

 

การผ่าสด

ก็เป็นการชดใช้

ที่เธอทำคนอื่น ก็สดๆเหมือนกัน

 

เธอจะเห็นภาพ

ตอนทำร้าย ตี ฆ่าเขา ขึ้นมา

ณ เวลาที่เธอกำลัง

ผ่าสด

 

และในที่สุด

เธอจะมีทุกโรครุมเร้า

 

นอกจากผ่าสมองแล้ว

เธอต้องเป็นอัมพาต

พิการทุกอวัยวะ

ใช่ได้แต่ใจ เท่านั้น

 

เพื่อให้เธอ

เจ็บปวด ทุกข์ ทุรนทุรายที่สุด

 

มีใครอยากดู

ตัวจริง เสียงจริงไหม

 

วิธีเดียว

ที่ อ.อุบล และพวกเรา

จะช่วยบันเทากรรมเธอได้

คือ

การเผยแพร่เรื่องราวชีวิตเธอ

เป็นธรรมทาน ให้เร็ว ทั่วประเทศ

ก่อนวันหมอนัดผ่าตัด

เธอจึงจะได้รับการผ่อนผัน

จากเจ้ากรรมของเธอ

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 10:20:39


ความคิดเห็นที่ 38 (142820)

 

จากเหตุการณ์ที่ท่านอ.อุบลเล่าที่มหาวิทยาลัย และหลาย ๆ คนที่เล่ามา หนูคิดว่า

เราประสบความสำเร็จจากการใช้ธรรมบำบัดในครั้งนี้มาก คิดว่าถ้าเราใช้วิธีแบบนี้กับ

ที่อื่น ๆ ที่มีคนจำนวนมาก ๆ  ก็จะสามารถเปลี่ยนจิตใจคนได้มากขึ้น เรื่อย ๆ  แบบนี้สงสัย

ว่าภัยพิบัติอาจจะไม่เกิดขึ้นกับประเทศเรานะคะ หรือว่าเกิดขึ้นแต่ก็เบาบางลงได้มากแน่ ๆ เลย

อย่างที่ท่าน ดร.อาจอง บอกไว้ว่า ถ้ามีคนดีตั้งแต่ 50 % ขึ้นไป ภัยพิบัติก็จะไม่เกิด

ต้องขอขอบพระคุณท่านอ.อุบลค่ะ ที่ต้องทำงานหนักเพื่อช่วยผู้คนในโลกใบนี้

ผู้แสดงความคิดเห็น วีรดา อยู่นวล (mamlak-w-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 10:46:23


ความคิดเห็นที่ 39 (142821)

กราบนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์

ในบ้านสวนพีระมิด

กราบ  กราบ  กราบ

อ.อุบล  อ.มงคล

ได้อ่านธรรมทานของท่าน อาจารย์ อุบล

และท่านอื่น ๆ แล้ว

ปิติ และดีใจแทน เด็ก ๆ นักศึกษา

ที่อายุ 20  กว่าก็ได้พบแสงสว่าง

จากพระพุทธองค์ ผ่านทาง

ท่าน อ. อุบล

ได้มีโอกาสกลับตัวกลับใจ

ถ้าตั้งใจและปรารถนา

เราก็จะได้ทรัพยากรมนุษย์

ที่มีคุณภาพของสังคมไทย

อาจารย์คงเหนื่อยมากนะค่ะ

ขอเป็นกำลังใจและ

ขอบารมีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ลูกขอเบิกบุญ ศีล ทาน ภาวนา

กราบถวาย

แด่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ในบ้านสวนพีระมิด

และเทวดาที่รักษา อ. อุบล อ.มงคล และคุณท็อป

เพื่อเป็นพลังให้ท่านอ.อุบล ปฏิบัติภารกิจเพื่อ

ชาติ  ศาสนา  พระมหากษัตริย์ ต่อไปนะค่ะ

รัก และศรัทธา + คิดถึงจังเลยค่ะ

วัชรินทร์  เกษมณี

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วัชรินทร์ เกษมณี (pp_ketmanee-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 10:50:37


ความคิดเห็นที่ 40 (142822)

 

  ตั้งใจจะดูรายการ เลื่อนลงมาอ่านธรรมทาน

กราบขอขอบคุณท่าน อ.อุบล พระเมตตาสมเด็จองค์ปฐม

ท่านท้าวเวสสุวรรณและทุกเพราะองค์

ที่มีต่อเยาวชนของชาติ เป็นเหมือนลูกหลานของเรา

ความรักที่ท่านให้ยิ่งใหญ่นัก อ่านไปทั้งน้ำตา หัวเราะเพราะท่าน อ.

เขียนได้ตรง ตลก ตอนโต้แย้งกับท่านพ่อ

แต่เห็นปัญหาเยาวชนไทย พ่อ แม่ ครู ก็จัดการลำบาก

เพราะสังคมจากทุกทาง สร้างค่านิยม ให้เด็กเดินตาม

เพื่อการค้า

  กราบขอบพระคุณ ..ที่ทำให้เด็กได้เข้าถึงธรรม

เห็นทันทีกฎแห่งกรรมจะได้ใชัชีวิตได้ถูกต้อง

ผู้แสดงความคิดเห็น สุระณี สิริมานุวัฒน์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 11:25:44


ความคิดเห็นที่ 41 (142823)

 วิธีเดียว

ที่ อ.อุบล และพวกเรา

จะช่วยบันเทากรรมเธอได้

คือ

การเผยแพร่เรื่องราวชีวิตเธอ

เป็นธรรมทาน ให้เร็ว ทั่วประเทศ

ก่อนวันหมอนัดผ่าตัด

เธอจึงจะได้รับการผ่อนผัน

จากเจ้ากรรมของเธอ

ขอกราบขอบพระคุณ ธรรมทานจากท่าน อาจารย์ค่ะ

เพราะเมื่อวาน อัญได้มีโอกาส เล่าเรื่องนี้ให้กับน้องข้างบ้านฟัง

เพราะตัวเขาเองก็เพิ่งเกิดอุบัติเหตุแล้วพอไปตรวจรักษา

ก็ได้ของแถม คือไปเจอเป็นเนื้องอกที่ด้านหลัง

หมอต้องผ่าตัดเอาเนื้องอกออกไปตรวจ

ปัจจุบันก็ยังเดินไปไม่สะดวก ชาที่ปลายนิ้วมือ และจะปวดตัวมาก

ต้องกินยาแก้ปวดทุก ๆ 4 ชม. จึงแนะนำให้เขาใช้

"รหัส อ. อุบลช่วยด้วย" เวลาที่ปวด และ

ให้ไปดูรายการคุยไปแจกไป ใน เวป บ้านสวนพีระมิด 

 

ภารกิจที่่ ท่าน อ.อุบล เมตตา แสดงธรรมมะของ พระพุทธองค์

ทั้งที่ บ้านไร่ปลายตะวัน และ ปฐมนิเทศน์นักศึกษา ที่ อยุธยา

ให้ทุกคนสัมผัสได้เอง  ชนิด ตรง แรง สำนึกจริง หายจริง

ให้ทุกคนสำนึกกลัวบาปกลัวกรรมมากขึ้น

รู้สึกปลาบปลื้มใจอย่างมาก  ที่ทุก ๆ ท่าน

ได้พบหนทางพ้นทุกข์ ทั้ง กายและใจ  

ขออนุโมทนากับธรรมทานของทุก ๆ ท่านค่ะ สาธุ 

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 18:43:53


ความคิดเห็นที่ 42 (142824)

                               ลูกขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์

                                   ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล

                                          ที่ได้เมตตาลูกหลานทุกคนค่ะ

 

มีใครอยากดู

ตัวจริง เสียงจริงไหม

 

วิธีเดียว

ที่ อ.อุบล และพวกเรา

จะช่วยบันเทากรรมเธอได้

 

หนูขอยกมือสองมือหยากดูตัวจริง เสียงจริง

น้องนักฆ่าขนตางอนค่ะ

ไม่น่าเชื่อเลยค่ะว่า น้องเค้าเป็นผู้หญิง

แต่สามารถฆ่าคนได้หลายคน

และหนีกฎแห่งกรรมไม่พ้นไม่ต้องรอชาติหน้าค่ะ

ได้รับผลกรรมทันที ทำให้ทรมาณเหมือนตายทั้งเป็น

กฏของกรรมยุติธรรมที่สุดจริง ๆ ค่ะไม่มีผิดตัว

หนีอย่างไรก็หนีไม่พ้น

ถึงแม้จะหนีตำรวจ หนีกฎบ้านเมืองได้

แต่หนีกฏของกรรมไม่ได้จริง ๆ ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 12:37:45


ความคิดเห็นที่ 43 (142825)

                               ลูกขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์

                                   ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล

                                          ที่ได้เมตตาลูกหลานทุกคนค่ะ

 

มีใครอยากดู

ตัวจริง เสียงจริงไหม

 

วิธีเดียว

ที่ อ.อุบล และพวกเรา

จะช่วยบันเทากรรมเธอได้

 

หนูขอยกมือสองมือหยากดูตัวจริง เสียงจริง

น้องนักฆ่าขนตางอนค่ะ

ไม่น่าเชื่อเลยค่ะว่า น้องเค้าเป็นผู้หญิง

แต่สามารถฆ่าคนได้หลายคน

และหนีกฎแห่งกรรมไม่พ้นไม่ต้องรอชาติหน้าค่ะ

ได้รับผลกรรมทันที ทำให้ทรมาณเหมือนตายทั้งเป็น

กฏของกรรมยุติธรรมที่สุดจริง ๆ ค่ะไม่มีผิดตัว

หนีอย่างไรก็หนีไม่พ้น

ถึงแม้จะหนีตำรวจ หนีกฎบ้านเมืองได้

แต่หนีกฏของกรรมไม่ได้จริง ๆ ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 12:42:38


ความคิดเห็นที่ 44 (142827)

กราบอนุโมทนาในธรรมทานของท่านอาจารย์ครับ

ขอกราบเรียนถามนะครับ

ที่อาจารย์บอกว่า เคยคิดฆ่าคน และได้เริ่มลงมือแล้วนั้น  อยากทราบว่า ตอนนั้นท่านคิดอย่างไรจึงตัดสินใจที่จะฆ่าคน

และอารมณ์ในตอนนั้นเป็นอย่างไรครับ

ถึงขนาดที่ว่าสามารถตัดสินใจที่จะฆ่าคนได้

ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 19:18:32


ความคิดเห็นที่ 45 (142828)

 ที่อาจารย์บอกว่า เคยคิดฆ่าคน และได้เริ่มลงมือแล้วนั้น  อยากทราบว่า ตอนนั้นท่านคิดอย่างไรจึงตัดสินใจที่จะฆ่าคน

และอารมณ์ในตอนนั้นเป็นอย่างไรครับ

ถึงขนาดที่ว่าสามารถตัดสินใจที่จะฆ่าคนได้

*************************

คำถามโดนใจจริง ๆ ค่ะ น้องเบส

ยกมือ กราบเรียนถาม ท่าน อ.ด้วยคนค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อัญ - อนัญญา สุขถาวร ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 18:42:29


ความคิดเห็นที่ 46 (142829)

 กฏแห่งกรรม ไม่เคยส่งผลผิดตัว

ขนาดน้องชายไปซื้อเต่าให้พี่สาวท่ีไม่สบาย

แล้วสลักชื่อพี่สาว เอาไปใหพี่สาวอธิษฐาน น้องชายเอาไปปล่อยให้

คือเรียกว่า ทำด้วยความอยากให้พี่วาวได้บุญ

ต่อมา.  ชายผู้นีตาย ไปสำนักพยายมๆท่านถามว่า เคยทำบุญใดมา

เขานึกไม่ออก พยายมบอก ถ้านึกไม่ออก ก็ต้องไปนรกก่อน

เท่านั้นแหละ เต่าตัวนี้คลานออกมาเป็นพยานบุญเลย

ว่าช้าก่อน ชายคนนี้เคยปล่อยชีวิตเค้า. พยายมถามว่ามีอะไรยืนยัน

เต่าบอกว่า ที่ท้องฉันมีชื่อพี่สาวเขา.  อ้าวมีชื่อพี่สาวแล้วทำไมมาเกี่ยวกับชายคนนี้

ก็ชายคนนี้เป็นคนคิด เป็นคนออกเงิน จึงถือว่าชายคนนี้ช่วยชีวิตฉัน ไม่ใช่เจตนาของพี่สาว

พยายมจึงให้ชายคนนี้พ้นนรก.   

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 14:12:51


ความคิดเห็นที่ 47 (142830)

นับวันภาระการกอบกู้

ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

ของท่านอาจารย์

ยิ่งหนักและต้องเร่งขยายผลมากขึ้น

เพื่อให้ทันต่อภัยพิบัติครั้งสำคัญ

ที่จะเกิดในอนาคต

เพื่อช่วยคนให้รอดชีวิตมากที่สุด

ด้วยการสำนึกกรรมและเปลี่ยนแปลง

ตัวเองด้วยการรักษาศีล 5 อย่างเคร่งครัด

 

การที่ท่านอาจารย์บอกว่า

วิธีเดียวที่จะช่วยน้องนักฆ่า

ให้ไม่ต้องผ่าตัดโดยการบอกเล่า

เรื่องของเธอเป็นธรรมทานและเผยแพร่

ให้มากที่สุดก่อนวันที่หมอนัดผ่าตัด

คือ  15 สิงหาคม 55 นั้น

เหมือนท่านกำลังบอกหน้าที่สำคัญ

แก่พวกเราว่า การที่จะช่วยเหลือประเทศ

และช่วยเหลือโลกใบนี้ให้ทันก่อนภัยใหญ่นั้น

ก็โดยการช่วยกันเผยแพร่ธรรมะของบ้านสวนฯ

ออกไปให้เร็วและมากที่สุด หรือเปล่าครับ

 

ผมขอกราบเรียนถามเพิ่มเติม

จากน้องเบสด้วยครับว่า

คนที่โดนน้องเค้าฆ่าและทำร้าย

ใช่คนที่เคยฆ่าและทำร้ายน้องเค้ามา

ในชาติก่อนหรือเปล่าครับ

 

ถ้าใช่ เจ้ากรรมนายเวรเหล่านั้น

ก็น่าจะทราบว่าตนก็เคยทำเค้ามาก่อน

คิดแค้นกันไปมา ก็คงไม่หลุดกันทั้งคู่

หรือเปล่าครับ ท่านอาจารย์

 

กราบขอบพระคุณมากครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น โฆษิต ควรหาเวช (kosit-dot-koanhavej-at-nectec-dot-or-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 14:26:23


ความคิดเห็นที่ 48 (142831)

 ส่วนคำถามว่า ที่เคยคิดฆ่าคนนั้น อารมณ์ไหน

ไปอ่านคู่มือหนีกรรมผิวพรรณด้วยนะ. เขียนไว้หลายปีแล้ว

แต่อารมณ์หนึ่งที่คิดฆ่าก็เพราะว่า ไม่คิดพึ่งกฎหมายบ้านเมือง

มันไม่ค่อยยุติธรรม มันต้องมาเล่าการกระทำของคนชั่ว ซึ่งเล่าไป

คนฟังก็ไม่เข้าทั้งหมด และอาจมีจิตลำเอียง เบี่ยงเบนไป

ตามสติปัญญาและประสบการณ์. ที่สำคัญอารมณ์นั้นเรารู้ว่า

เราเอาคืนไม่ผิดตัว ไม่ต้องรอแจ้งความ. หาทนาย ซึ่งเรื่องมากยากนาน

อารมณ์นั้นประมาณนี้เลยนะ เอาแค่โป้งสองโป้ง ก็เรียบร้อย

ตอนนั้นหลวงพ่อห้ามไว้ก่อน พระพรหมไปฟ้องท่าน. ยังเคืองพระพรหมเลย

ดูเอาเถอะ อ.อุบล เอ้ย.   ต้องใหพวกเราถามชายคนมาค่ายสิบสอง

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 14:28:00


ความคิดเห็นที่ 49 (142832)

 ตอนรค่าย12 ก็มีนักฆ่ามาสารภาพ. ขายยาบ้าด้วย

ต้องหนีทั้งพวกเดียวกัน. ที่ต้องการฆ่าตัดตอน ต้องหนีทั้งตำรวจ

ชีวิตไม่มีสงบสุขเลยสักนาทีเดียว.  ห้าทุ่มกินข้าวที่หนึ่ง แล้วต้องไปนอนอีกที่หนึ่ง

หนีหัวซุกหัวซุน 20 ปี. แล้วกมาคิดไม่ดีกับ. อ.อุบล จนเกือบพิการ. เพราะเจ็บปวดทั้งตัว

จนลุกไม่ขึ้นกันยาฉีดยาไม่หาย. ต้องพกเข็มฉีดยา เพื่อฉีดยาเอง เกือบตาย

โอ้. อ.อุบล วนเวียนอยู่กับนักฆ่าระดับแนวหน้าทั้งนั้นเลย พึ่งมากลับใจตอนใกล้ตาย

กันทั้งนั้นเลย  ถ้ายังเดินได้ ก็ยังไม่สำนึก ใครอยู่ในเหตุการณ์นักฆ่ามาสารภาพ

ค่าย12  บ้าง ช่วยบอกความรู้สึกตอนฟังเขาถ่ายทอดอารมณ์หน่อยชีจ๊ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 15:12:24


ความคิดเห็นที่ 50 (142833)

      พูดถึงเรื่อง นักฆ่า ต่างๆ ที่ เป็นลูกศิษย์ ครูบาอริยชาติ หรือ ลูกศิษย์ ท่านอาจารย์ิอุบล ที่ได้รับความสุข จากการหายป่วย หายทุกข์ ไม่ว่าจะเป็น นักการเมือง หรือ ที่เคยเป็นอดีต นักฆ่าแลัว ถ้ารู้ว่าครูบาอาจารย์ของตน ถูก พวกชอบลอบกัด หรือพวกนักเลงคีย์บอร์ด ที่เก่งแต่อยู่หน้าคอม

     ถ้าได้เจอของจริง สงสัย คงกลัว จนฉี่ราดแน่เลย แต่จะโทษใครได้ล่ะครับ แกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง อยู่ดีดีไม่ชอบ แทนที่จะเอาเวลา ไปทำอะไรที่มันสร้างสรรค์ เป็นประโยชน์ให้กับประเทศชาติ น่าจะดีกว่า ถ้าคิดได้แล้วก็ ก็ ควรจะหยุดทำได้แล้ว 

ขอเล่าบรรยากาศ ที่ได้ไป ร่วมกิจกรรม ธรรมสัญจร วันนั้น บ้างครับ

"ธรรมมะ วันนี้จะเป็นอย่างไรค่ะ?"

     ช่วงระหว่างที่เดินทางไปนั้น อ.ปัทมา ทีเ่ป็นคนเชิญ ให้ท่านอาจารย์อุบล ไปให้ธรรมมะกับเด็กนักเรียน ที่ สถาบันราชมงคล วิทยาเขตสุวรรณภูมิ จ.อยุธยา อ.ปัทมาก็ พูดถึง ปัญหา ของเด็กนักเรียนไม่ว่าจะเป็น เรื่อง การตีกัน เรื่อง เพศสัมพันธ์ ก่อนวันอันควร ซึ่ง อ.ปัทมา ก็เกรงว่า เด็กๆ จะสงสัย เพราะ พวกเราที่ไปกันนั้น เด็กๆ เค้าก็จะคิดว่าเป็นหน้าม้า รึเปล่า

     แต่ ท่านอาจารย์ก็ได้บอกว่า เบื้องบน ท่านได้เลือก เด็กๆ ในนั้นไว้แล้ว ว่าใครจะเป็นผู้ออกมาให้ธรรมทาน ซึ่งอ.ปัทมา เองก็ยังงงๆ ว่าจะเป็นไปได้ยังไง แต่สุดท้ายก็เป็นจริงครับ เด็กๆ เปิดใจกันมาก หายป่วยกัน หายทุกข์ กันหมด เรียกได้ว่า เด็กๆ ถึงแม้จะมีพฤติกรรม ก้าวร้าว แต่ รู้สึก อิ่มใจมากครับ เพราะ ธรรมสัญจร ในครั้งนี้ เราจะได้ เยาวชน รุ่นใหม่ ที่ หันมารักษาศีล 5 กันอย่างหมดความสงสัย เพราะ แม้ไม่เห็น "พระพุทธองค์ ด้วยตา แต่ เด็กๆ สามารถ สัมผัสพระพุทธองค์ ด้วยใจ"

"เด็กๆ วัยรุ่น เดี๋ยวนี้เค้าเป็นยังไง"

     ครั้งแรกที่ไปถึง เด็กๆ รอกันอยู่ในหอประชุม ซึ่ง ถูกล๊อคกุญแจอยู่ ไอ้เราก็ คิดในใจ เด็กๆ พวกนี้ เฮ้วกันขนาดนี้เลยหรือเนี่ย

     เมื่อพวกเราไปถึงก็ จัดสถานที่ใหม่ ให้เหมาะสม กับการถ่ายทำ เนื่องจาก โซฟา ต่างๆที่จัดนั้น ค่อนข้างจะดู ไม่มีแสงเท่าไหร่ และ ดูไม่ใกล้ชิด กับเด็กๆ

     เด็กๆ ก็ ปูเสื่อรอ เพราะ คิดว่า ธรรมมะ ในวันนี้ น่าจะออกแนว นั่งสมาธิ วิปัสสนา ซึ่ง เด็กๆ บางคนก็ทำมาแล้วแต่ก็ยังไม่หลุดกรรมเสียที

     ในช่วงแรก พี่ธนา และ พี่ป้อม ก็ได้พูดถึงว่า บ้านสวนพีระมิดทำอะไร เพื่อให้เด็กๆ เข้าใจ กิจกรรมเกี่ยวกับบ้านสวนฯ คร่าวๆ

    ต่อมา ท่านอาจารย์อุบลก็ได้บอกว่า วันนี้ไม่ได้มาแค่กับคน แต่มากับพระพุทธองค์ เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ และเหล่าบริวารอีกเป็นล้าน โกฏิเด็กๆบางคน ทำหน้างง ทำหน้าสงสัย ต่อมา ท่านอาจารย์ได้ กล่าวถึง ศีล 5 ทีละข้อ และให้ทุกคนยกมือ แรกๆ เด็กๆ ก็ไม่กล้ายก แต่พวกเราก็ ยกกันเป็นปรกติ

"ทายถูก มีรางวัลให้"

     โดยศีล ข้อแรก เรื่องฆ่าคน ซึ่งพี่ไอซ์ ก็ถูกเรียกออกไป ว่า เคยฆ่าคน มาแล้ว 5 คน แต่วิธีการ ยังอุบไว้ก่อน

     แล้วก็ต่อมาด้วย การพูดทำร้ายคนอื่น ใครด่าว่าคนอื่น อ้วน ตัวเองก็ จะอ้วน ท่านอาจารย์ก็ได้ยกกรณี ที่ มีคนที่บอกว่า ทำตัวสำส่อน แบบนี้ ระวังเถอะ วันไหนที่ เป็นเอดส์ ขึ้นมาจะหัวเราะให้ฟันหักเลย สุดท้าย ตัวเองก็ ต้องเป็นเอง และเรื่อง คุณยายที่เคยล้อว่า นางมณโฑ นมโตข้างเดียว สุดท้ายก็ มานมโตเสียเอง แต่เป็น ทั้ง 2 ข้าง ทุกข์ทรมานสุดๆ 

     จนมาถึงศีล ข้อ 3 ใครเคยผิดให้ออกมา ก็มีพี่ อมร ชิงสุกก่อนห่าม แต่แต้ม ไม่สูง จึงถูกเชิญกลับ ต่อมาด้วย พี่ป้อม ด้วยสถิติ 500 ทำเอาเด็กๆ กริ๊ดกร๊าด อึ้งกันเป็นแถบๆ แต่ท่านอาจารย์ก็ได้บอกว่า ยังๆ แค่นี้ ยังไม่สูงมี สูงกว่านี้ ซึ่งผมเองก็ ถูกเรียกออกไป แต่ ยังไม่บอกแต้ม โดยให้เด็กๆ เล่นเกม ทายว่าผมได้กี่ แต้ม ใครทายถูกจะมีรางวัล

     บางคนก็ ว่า 600 ,800,900,1500 สุดท้ายมาจบลงที่น้องผู้ชายทายว่า 1,000 แต้ม พอพูดจบแค่นั้น เด็กๆ กริ๊ดกันลั่นห้อง ก็ได้ออกมา รับรางวัล โดยที่น้องเค้าเองก็มีอาการปวดหลัง ท่านอาจารย์อุบลก็ได้ถามว่า จะเอาหายปวดหลัง หรือ เอาเงิน 100 นึง น้องเค้าก็เริ่มลังเล ปรากฏว่า น้องเค้าเลือก เอาหายปวดหลัง พอท่านอาจารย์แตะหลังเท่านั้นล่ะ หายครับ น้องคนนี้ ที่แรกก็ยังงง ว่าเป็นไปได้ยังไง พอกลับไปนั่งที่ เพื่อนน้องคนนี้ก็ ต่างถามด้วยความสนใจ น้องผู้ชายคนนี้ก็ตอบว่า "หายจริงๆ" คราวนี้ เด็กๆ ในห้องต่าง ตื่นเค้น กับ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น

"วิบากกรรมจากการกินไอติม"

     ทันใดนั้นก็มีน้องผู้หญิงคนนึง ออกจะถูกทอมๆ สงสัยผม ว่า ที่ได้ 1,000 แต้ม น่ะ ผู้หญิง หรือผู้ชาย แหม เด็กสมัยนี้ เค้าช่างสงสัย และกล้าแสดงออกจริงๆ ท่านอาจารย์ก็ได้เรียกน้องผู้หญิงคนนี้ออกมา แล้ว ให้ผมตอบ ก็ ตอบว่า "ผู้ชายครับ" เด็กในห้องก็ิกริ๊ด กันใหญ่ แล้วท่านอาจารย์ ก็ ยิงคำถามมาว่า ผู้ชายกับผู้ชาย เค้า ทำำกันยังไง พอผมตอบ "ทางทวารหนัก"ครับ เด็กๆก็กริ๊ดกันอีก รู้สึกว่า ธรรมมะสัญจร คราวนี้ท่าทางจะโดนใจ วัยรุ่น จริง

     คราวนี้ก็น้องผู้หญิงคนนี้ก็จะได้รับรางวัลอีกคน ในฐานะ ที่กล้าแสดงออก ตั้งคำถาม ซึ่งน้องคนนี้ มีอาการ เจ็บคอ เสียงแหบ เพราะตะโกน ในงานรับน้อง แต่จริงๆ แล้วท่านอาจารย์ก็ได้บอก สาเหตุที่แท้จริง

    ซึ่งท่านอาจารย์ก็ได้ถามว่า เคยใช้ปากและลิ้น ทำอะไรที่ไม่ดีมามั่ง น้องเค้าก็ กล้าตอบ "หนูไปกินไอติมมาค่ะ" เพื่อนน้องคนนี้ก็เฮกันใหญ่ แล้วก็ บอกอีกว่า "ที่กินน่ะ ไม่ใช่ไอติมแท่งนะคะ แต่เป็นไอติมถ้วย ยิ่งเป็น ไอติมของคนอื่น ยิ่งอร่อยค่ะ" ท่านอาจารย์ก็ได้บอกว่า ทุกๆ ครั้งที่ไปกินไอติมของคนอื่น สิวจะขึ้น 1 เม็ด ใช่ไหม น้องคนนี้ ทำหน้าอึ้ง ประมาณว่า ท่านอาจารย์ รู้ได้ไง จากครั้งแรกที่ออกมา ทำท่าทางไม่เชื่อ ดูแข็งๆ กลับอ่อนลง ทันที คงคิดในใจว่า "เจอของจริงแล้ว" แล้วท่านอาจารย์ก็ให้รางวัลให้ หายเจ็บคอ โดยที่เมื่อก่อนกลืนน้ำลายแล้วจะเจ็บคอ ตอนนี้ไม่เจ็บ แุุถม เสียงที่แหบกลับดีขึ้น ต่อมา ในข้อ 4 และ ข้อ 5 เด็กๆ เริ่มมี Feedback ดีขึ้น ให้ความร่วมมือกันอย่างมาก 

     ต่อมา ก็ต่อด้วยกิจกรรมธรรมมะ บำบัด ซึ่งในคราวนี้จะใช้แค่ 2 อย่าง คือ

1.สารภาพบาป

2.ใช้รหัส อ.อุบลช่วยด้วย

"ฆ่าได้หยามไม่ได้ สุดท้ายก็หนีีไม่พ้น กฏแห่งกรรม"

     ซึ่งมีเด็กที่ออกมา ประมาณ 6 คน เริ่มต้น ที่คนแรก น้องผู้หญิงที่ ดูออกจะแนวลุยๆ แต่เป็นผู้หญิง ที่ไม่สบาย ต้องผ่าตัด สมอง ครั้งละ 120,000 ซึ่งผ่าไปแล้ว 4 ครั้ง ซึ่งในเดือนสิงหาคม นี้ก็ ถึงคิวผ่าอีก แต่ในครั้งแรก เธอไม่กล้าบอกว่าเธอ เคยใช้ทั้ง ไม้ เหล็ก ขวด ของแข็งต่างๆ ตีหัวคน มาแล้ว ที่ตายประมาณ 40 กว่าๆ และอีกเป็น 100 ที่ยังไม่รู้ชะตากรรม

     สาเหตุที่เธอทำก็คือไปตามเพื่อน รักเพื่อน ใครมาทำเพื่อนหนู หนูไม่ยอม แต่ เวลาที่เธอไปมีเรื่องนั้นก็ เอาจำนวนคนที่มากกว่า ไปตีกัน บางครั้ง ฝ่ายเธอ 20 อีกฝ่าย 10 โดยที่เธอ จะเล็งคนที่เป็นผู้หญิงเหมือนกันก่อน ถ้ามี

     ครั้งแรก เธอไม่กล้ารับ จึงข้ามไปที่น้องคนอื่น พอภายหลังเธอสารภาพแล้ว เพราะเห็นเพื่อนๆ ต่างหายจริง ใ้ห้เห็นจะๆ ซึ่งท่านอาจารย์ก็ ได้บอกกับเธอ ว่า อยู่ที่เธอเลือกเอง จะพูดความจริงเพื่อให้หาย หรือจะไปเสียเงินผ่าตัด ก็ได้ แต่ไม่หาย แน่นอน เพราะ กรรมที่เธอทำร้าย ผู้อื่น โดยตีหัวแล้ว บางคน ก็ ตาเหลือก เลือดออก แต่ยังไม่ตายในทันที ซึ่งเธอเองก็ต้องเป็นเหมือนกัน ถึงแม้จะผ่าก็ต้องผ่าตามจำนวนคน ที่ เธอทำร้ายมา ซึ่งน้องคนนี้มีผลข้างเคียงจากการผ่าตัด ทำให้ ปากเบี้ยวไม่เข้ารูป พอหลังจากเธอสารภาพแล้ว ให้เพื่อนๆ ในห้องดูว่า ปากเธอดูเปลี่ยนไปไหม ให้ข้อคิดเลยว่า "เราทำกรรมกับคนอื่นยังไง สักวันเราก็ต้องรับสิ่งที่เราทำมา"

"แค่แนะนำ ยังรับกรรมขนาดนี้"

     มาถึงน้องคนถัดมา ซึ่งน้องคนนี้ น่าสงสาร มากๆ ที่ต้องกรรม เพราะไป แนะนำ เพื่อน เรื่อง ทำแท้ง 2 ครั้ง และ บอกสถานที่ อีก 2 ครั้ง ทำใ้ห้เธอต้องรับกรรม คือ หนักที่บ่า ทำดีกับใคร ก็ไม่มีคนเห็นเหมือน มีอะไรมาทำให้คนเกลียดขี้หน้าทั้งๆที่ ให้เพื่อนแบบเต็มร้อย แถมบางครั้งเวลาเดินๆอยู่ ก็เหมือนมีคนเดินตาม

     สาเหตุก็เพราะ วิญญาณ เด็กที่ถูกทำแท้ง มาเกาะอยู่ที่หลังของเธอ จนเมื่อเธอสารภาพบาป มาทั้งน้ำตาด้วยความสำนึก จากใจ เธอระบายความรู้สึกของเธอ ทำเอา น้ำตาของทุกๆคนต่างไหล พี่แมวก็ขอกระดาษทิชชู่ เช็ดน้ำตาเพราะสงสาร และ ปลาบปลื้ม ตัวผมเองก็น้ำตาคลอ แต่พยายามคุมสติ แต่ก็ยินดีกับน้องเค้าด้วยจริงๆ ครับที่ในที่สุด เธอก็ได้หลุดกรรม เสียที ยิ่งพอ เธอหายจากอาการปวดหลังแล้ว เธอยิ่งร้องไห้หนัก ประมาณว่า ในที่สุดก็หลุดกรรมเสียที และตั้งใจ จะรักษาศีล 5 ไม่ทำผิดอีก ถือว่า น้องเขาได้ ชีวิตใหม่กลับมาจริงๆ 

     โดยที่ก่อนหน้านี้เธอเล่าว่า ได้ไป ปฏิบัติธรรม มาโดยตลอดแต่ ก็ไม่สามารถหลุดกรรมตรงนี้ได้ พอพูดถึงเรื่องทำแท้ง แรกๆ ไม่มีใครกล้ารับ พอท่านอาจารย์ได้บอกว่า "นี่แค่ แนะนำให้นะ" แล้วคนที่ลงมือทำจะขนาดไหน วิญญาณเด็ก จะคอยตามไปทำให้ ชีิวิตไม่พบความสุข เจออุปสรรคนานา โรคภัยไข้เจ็บ ตราบใดที่ยังไม่กล้ารับความจริง สักพัก น้องคนนี้ก็สลบไป ท่านอาจารย์ก็ได้บอกว่า ยังมีวิญญาณเด็กที่ถูดทำแท้งในนี้อีกมากต้องการบุญธรรมทานจากน้องคนนี้ ยังมีอีกหลายคนที่ทำแต่ไม่กล้ายอมรับ สักพัก พอท่านอาจารย์พูดถึง "ผลกรรม"เด็กในก็ต่างหวาดกลัว พากันยกมือกันแบบมืดฟ้ามัวดินเลย ส่วนเด็กอีก 4 คนก็สารภาำพแต่ อาจจะไม่หนัก เท่าน้อง 2 คนนี้

     บางคนปวดหลังพอทานยาก็หายสักที แค่ทุเลาลง พอเธอสารภาพบาปก็ หายป่วยทันที 

"ธรรมทานจากชีวิตจริง ของ พี่ๆ บ้านสวน"

     มาที่คนแรก พี่ไอซ์ ที่เกริ่นไว้ ตั้งแต่ทีแรก ว่า ฆ่าคนมา 5 คน ท่านอาจารย์ก็ได้ถามถึงวิธีการฆ่า พี่ำไอซ์ ก็ได้บอกว่า ทำแท้งมา 5 ครั้ง แล้วก็ผลกรรมที่ได้รับ ทำให้ไม่มีสภาพคล่องทางการเงิน เจ็บป่วย ปวดท้องอย่างหนักเวลามีประจำเดือน ก็เพราะ เคยทำแท้งมา จนเมื่อได้มารู้จักบ้านสวน และอุทิศบุญให้วิญญาณเด็กๆ เหล่านั้นทุกๆอย่างก็ดีขึ้น

    คนที่สองพี่ป้อม ผิดศีลข้อ 3 มาด้วย แต้ม 500 ผู้หญิงที่ผ่านมานั้นแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม

1.เอาเพื่อนเอาฝูง เอาพี่เอาน้อง

2.สถานที่เที่ยวกลางคืน

3.อาบ อบ นวด

จนได้รับ อานิสงส์คือ เป็นโรคหัวใจ บริวารไม่เชื่อฟัง เป็นหนี้จากการพนัน จนได้มารู้จักบ้านสวน ทุกๆ อย่างดีขึ้นหมด ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการเงิน สุขภาพ

     คนที่สาม คือผมเองครับ ที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย มาประมาณ 1,000 คน ไม่ป้องกันประมาณไม่เกิน 10 คน ผ่านทางอินเตอร์เนต และ ที่เที่ยวกลางคืน อานิสงส์ที่ได้รับก็ คือ ปัสสาวะขาดๆ ในช่วงแรกๆ ,ริดสีดวงทวารหนัก,เอดส์ และเล่าถึงว่า ความรู้สึกแรก ที่ทราบ คิดว่า ชีวิตนี้จบสิ้นแล้วไม่เหลืออะไรแล้วทั้ง อนาคต การเรียน การงาน เศร้าและ มักจะนอนร้องไห้คนเดียวเป็นประจำคิดว่าทำไมเราโชคร้ายขนาดนี้ เวลา ผ่านไป 2  ปี จากครั้งแรกที่ทราบ ภูมิคุ้มกันประมาณ 850 ค่อยๆลงมา 550-300-20

     เวลาผ่านไปร่างกายทรุดหนัก ติดเชื้อในปอด เข้า โรงพยาบาล ประมาณ 2 อาทิตย์ ใครๆ ก็คิดว่าไม่รอดแน่นอน ต้องอยู่คนเดียว ในห้อง พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน แวะเวียน มาเยี่ยมบ้าง แต่ทุกๆคนต่างก็มีหน้าที่ของตน ไม่มีเวลาจะมาอยู่กับเราตลอด

     เพื่อนบางคนที่เราไว้ใจกระจายข่าวออกไป ทำให้จากที่เมื่อก่อนเพื่อนเยอะ สุดท้ายก็เหลือไม่กี่คน ยิ่งทำให้เราทุกข์ไปอีก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากทำใจ  

     ตอนนั้น คิดถึงพระพุทธเจ้า ภาวนาพุทโธ ตลอดทั้งวัน ยกเว้นช่วงกินข้าว คิดว่าคงเป็นที่พึ่งสุดท้ายของคนใกล้ตายอย่างเรา จนในที่สุดก็รอดมาได้ แ้ล้วก็พักฟื้นอยู่หนึ่งปี เข้าไป ปฎิบัติธรรม ถือศีล 8 อยู่ร่วมปี คนที่วัดไม่ค่อยมีใครอยากนั่งทานข้าวด้วย เรียกง่ายๆ สังคมรังเกีบจไม่อยากอยู่ใกล้ๆ เพราะสภาำพตอนนั้นก็ ผอมและผิวดำเนื่องจากต้องทานยาป้องกันวัณโรต+เชื้อรา วันนึงกินยา ประมาณ 20 กว่าเม็ด ไม่นาน ติดเชื้อที่ตาทำให้ตาบอด ไปข้างนึง อีกข้างก็ มองได้แค่ 85 เปอร์เซนต์ เนื่องจากกรรม ดูหนังโป๊ คลิปโป๊ 

     พอร่างกายเริ่มกลับมาแข็งแรงก็กลับไปทำผิดศีลใหม่ เพราะคิดว่าที่ติดเชื้อเพราะไม่ได้ป้องกัน และห้ามใจตัวเองไม่ได้ ซึ่งในบางคนที่มีพลาดไม่ได้ป้องกัน เราก็เหมือนทำให้เขารับเคราะห์ไปกับเราด้วย หลังจากที่ได้มารู้จักบ้านสวน มีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนกรรมของตัวเองให้ได้ด้วยการรักษาศีล 5 จนในที่สุดสภาพร่างการก็กลับมาปรกติ ภูมิคุ้มกันตอนนี้ ประมาณ 600 กว่า 

     คิดว่าธรรมทานของ พี่ไอซ์ พี่ป้อม พี่เอิ้น คงเป็น อุทาหรณ์ให้น้องๆวัยรุ่นได้ตระหนักถึง การผิดศีลข้อ 3 ที่เด็กๆวัยรุ่น กำลังทำอยู่แ้ละึคิดว่ามันเป็นสิ่งที่สนุก น่าตื่นเต้น แต่ในวันที่ ผลกรรมตามทันจะเสียใจที่สุดอย่างที่พี่ๆ เป็นครับ

"ของฝากก่อนกลับ รหัสอ.อุบลช่วยด้วย"

     พอถึงช่วงท้ายเนื่องจากหมดเวลาแล้ว เด็กๆ จากครั้งแรกที่คิดว่าธรรมมะคราวนี้จะน่าเบื่อ กลับ เรียกร้อง อยากให้อยู่ต่อถึง 3 ทุ่มเลย แต่ก็เป็นไปไม่ได้

     สักพักพี่ธนาก็ได้ให้ของขวัญ ก่อนกลับ นั่นคือ "รหัส อ.อุบลช่วยด้วย" ให้เด็กไว้ใช้ ให้ช่วยได้ทุกเรื่อง ที่ไม่ผิดศีลธรรม และ ช่วยกันกระจายต่อ เพื่อให้ การใช้ เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น

     งานนี้ เรียกได้ ว่า กระแสตอบรับ ออกมาอย่างดี ทำให้เด็กๆวัยรุ่น ได้ทราบถึง บาปบุญคุณโทษและตั้งใจมารักษาศีล 5 เรียกได้ว่า คุณครู และเด็ก ต่างขออยากใ้ห้มี กิจกรรมแบบนี้อีก

ขออนุโมทนาและขอกราบขอบพระคุณสิ่งศิกดื์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ ท่านอาจารย์อุบล ที่ได้จัดกิจกรรม ธรรมมะสัญจร ในครั้งนี้

และ ขออนุโมทนากับธรรมทาน จากทุกๆท่านด้วยครับ   

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 16:59:03


ความคิดเห็นที่ 51 (142834)

 เมื่อคืนวาน.ตอนดึกสักตี3 กว่า ฝันว่าได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้.  ร้องดังมากจนเราตื่น

พอตื่นยังคิดว่า เอนี่มันฝันหรือว่าจริงเนี่ย.  เพราะนี่เป็นสัญญานว่า มีคนกำลังมีทุกข์

ตอนนี้วิญญานสัตสว์นรก. ผีพ่อแม่ปู่ย่าตายาย กำลังจะมาเตือนลูกหลาน

ที่ยังไม่เชื่อบาปบุญ. ถ้าไม่เชื่อ ก็จะเอาไปอยู่ด้วย ช่วยอบรม. เพื่อใหโลกลดกรรมลงบ้าง

อ.คงไม่มีความสามารถ หยุดยั้งภัยพิบัติได้หรอก ต้องปล่อยไปตามกฏของกรรม

ใครทำ ก็รังกันไป ตัวใครตัวมันนะจ๊ะ จะช่วยไดเฉพาะเครือพันธ์พระพุทธเจ้า

ที่มีบุญร่วมกันมา มีศรัทธาเต็มร้อยเท่านั้นจ้า

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 15:32:58


ความคิดเห็นที่ 52 (142835)

ใครอยู่ในเหตุการณ์นักฆ่ามาสารภาพ

ค่าย12  บ้าง ช่วยบอกความรู้สึกตอนฟังเขาถ่ายทอดอารมณ์หน่อยชีจ๊ะ

 

รู้สึกอึ้งเหมือนกันค่ะ

และพี่เค้าก็เก่งค่ะที่กล้าสารภาพ

และเค้าคงจะสุดทนกับชีวิตจริง ๆ  เหมือนตายทั้งเป็น

ลุกไม่ได้เดินไม่ได้ เป็นอัมพาต  และกินอาหารไม่ได้

ทีแรกอยากพิสูจน์รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยจะได้ผลจริงไหม

และพอใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วยได้ผล

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านเมตตา อาการดีขึ้นลุกขึ้นได้  

และอยากจะหาย และอยากมีชีวิตดีขึ้น

จึงได้มาสารภาพปาปกับท่านอาจารย์อุบล

เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบล

 และท่านอาจารย์อุบลมีเมตตาหาประมาณมิได้จริง ๆ ค่ะ

ถึงแม้จะทำปาบมากมาย แต่ถ้าคิดได้กลับตัวกลับใจ

ก็ได้รับความเมตตาจากท่านเสมอ

ตอนดูพี่เค้าสารภาพปาบรู้สึกซาบซึ้งในพระคุณ

เทวดาที่รักษาท่านอาจารย์อุบลทุกพระองค์

ท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล และคุณท็อปค่ะ

ที่ได้เมตตาให้โอกาสคนทุกคนได้ปลดเปลื้องทุก ทั้งทางกาย และทางใจ

ไม่มีที่ไหนที่ทำได้แบบบ้านสวนพีระมิด แบบท่านอาจารย์อุบลค่ะ

ลูกขอกราบขอบพระคุณค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น มยุรฉัตร สุดจิตต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 15:47:45


ความคิดเห็นที่ 53 (142836)

ยิ่งอ่านยิ่งเหมือนได้ทะลุอีกมิติหนึ่งเลยทีเดียว

น่าสนใจมากๆเลยนะครับ เหล่านักฆ่าทั้งหลายที่เป็นศิษย์ครูบาอาจารย์ต่างๆ ที่พร้อมจะฆ่าคนที่มาลบหลู่ครูบาอาจารย์ของเขา

ที่สำคัญฆ่าได้ไม่ผิดตัว ถึงขนาดบอกว่าไม่เคยพลาดยกเว้นหากไม่หนีลงน้ำ แต่ก็ยังจะล้อมไว้หมด อะจ๊ากกก

ผมชักสงสัยขึ้นมาอีกแล้วสิครับท่านอาจารย์ครับ ในอดีตที่ผ่านมาสมมติว่าเขาต้องการฆ่าคนจริงๆแต่หากว่าเขารู้แค่ชื่อหรือมีแค่รูปเท่านั้น หรือสมมติว่าเขารู้แค่อีเมล์หรือชื่อในสื่อออนไลน์ เช่น ทวิสเตอร์ ไฮ5 เฟสบุ๊ค แค่นั้น

พวกนักฆ่าเขาจะมีวิธีการค้นหาเป้าหมายหรือจัดการอย่างไรบ้างครับ นักฆ่ามือพระกาฬทั้งหลายเคยเล่าหรือท่านอาจารย์พอจะทราบบ้างไหมครับ

แบบว่าสงสัยว่าทำไมนักฆ่าทั้งหลายถึงทำงานไม่เคยพลาดเลย...เบื่อตัวเองเจงๆครับ ชอบสงสัย แต่ก็อยากรู้ง่ะก๊าบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 15:50:42


ความคิดเห็นที่ 54 (142838)

 ใครอยู่ในเหตุการณ์นักฆ่ามาสารภาพ

ค่าย12  บ้าง ช่วยบอกความรู้สึกตอนฟังเขาถ่ายทอดอารมณ์หน่อยชีจ๊ะ

*****

คุณคนนี้ เขาเป็นคนที่เคย ค้ายาบ้า หนีีตายทั้งจาก ตำรวจ และพวกเดียวกัน เพราะจะฆ่าตัดตอน ปิดปาก ซึ่งพวกเ้ค้าทำกันเป็นขบวนการ แต่ ก็ไม่ไว้ใจกันเอง
ฝ่ายภรรยา เป็นคนที่รู้จักบ้านสวน แต่ ฝ่ายสามีไม่ศรัทธา แถมยังปรามาสอีก ต้องทุกข์ทรมาน ราว 3 ปี เหมือนคนพิการ จะไปไหนทีก็ต้องฉีดยา เรียกได้ว่า ตายทั้งเป็นเลย
จนในที่สุดก็ได้มีโอกาสดูรายการแล้วก็อฐิษฐานว่า ถ้าจริง ขอให้ตัวเองลุกขึ้นมาดู รายการได้ เพราะ วันๆ เขาจะลุกนั่งก็ลำบาก เจ็บที่หลังเหมือนมีอะไรมาแทงที่หลัง ธุรกิจจะทำอะไรก็ล้มเหลวหมด เก็บเงินไม่อยู่ 
จนได้มาร่วมกิจกรรมธรรมบำบัดที่วัดใหม่สันติธรรม อาการก็หาย เหลืออีก นิดหน่อย จึงอยากมาเล่าธรรมทาน และกราบขอขมา ด้วยความสำนึกในบาปที่ตนเองทำไว้ จนได้รับโอกาสให้หาย
"มีความรู้สึกว่า คนเราทำไมต้องรอ ให้ทุกข์หนักๆ ก่อน แล้วจึงสำนึก ถ้าไม่เจอเคราะห์กรรมก็คิดไม่ออกเลย แต่คนเราก็ มักจะต้องเจอของจริง เจอ ผลกรรมจริงๆ ก่อนน่ะแหละ จึงสำนึกได้ แต่คนต่างๆ ที่มาแสดงธรรมทาน นั้น เขาก็เป็นตัวอย่างให้ดูแล้ว ว่า ถ้าสร้างเหตุแบบนี้ แล้วเจอ แบบนี้ แล้วทำไมจึงไม่เชื่อ"
ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) (weepasuth-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 16:03:34


ความคิดเห็นที่ 55 (142839)

 พ่อใหญ่ธนา. สงสัยอีกแล้ว.  บางอย่างบอกได้. บางอย่างเอาไว้เจอกันค่อยบอก

อย่างเรื่องรู้แค่ชื่อนี่นะ รูปนี่นะ ไม่ต้องกังวล

ยกตัวอย่างสมัย อ.อุบล ทำงานอยู่กับ พล ต ท กฤต. ปัจฉิมสวัสดิ์. นะ. ตอนนั้นทำเรื่อง

นักสืบ ตำรวจ ทนายความ. อ.อุบล เป็น ผอ.  

ยกตัวอย่างการตามคน สมัยก่อนไม่มีมือถือ. ไม่มีเน๊ต นะ. เราจะหาคนเป้าหมาย

จากทะเบียนกลาง. เริ่มตามที่นี่. ยังไงก็เจอ 

ขนาดผ่าตัดเปลี่วนหน้า ยังหาเจอเลย. ตอนนั้น ไม่ก้าวหน้าอย่างทุกวันนี้ด้วย

ยิ่งตอนนี้. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านช่วยอยู่เบื้องหลัง. ยิ่งง่ายใหญ่

เอาสักนิดนึงนะ. อย่างมือปราบปืนทองเนี่ย. เคยจับคนที่ป่วนเวป

ที่ไม่ใช้ชื่อตัวเองมาแล้ว. ขณะนั่งกินสุกี้อยู่ในห้าง.   เขามีวิธีที่แยบยล

อยากจับยาบ้า. ตำรวจยังต้องปลอมเป็นคนขาย คนเสพเลย. ต้องทำเป็นพวกเดียวกันก่อน

พ่อใหญ่เอ้ย.  อย่างอื่นค่อยเล่าใหฟังนะจ๊ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 16:13:07


ความคิดเห็นที่ 56 (142840)

นับวันภาระกิจของท่านอาจารย์ยิ่งมากและรีบเร่งขึ้นทุกวัน

ดีใจและปลื้มแทนทุกคนที่ได้มีโอกาสรับฟังธรรมะจากท่าน

อาจารย์โดยตรง ถ้าคนเหล่านี้เปิดจิตรับ และหันมาเปลี่ยนแปลง

ตนเองด้วยการรักษาศีล 5 กันมากขึ้นประเทศไทยและโลกใบนี้

คงมีแต่ความสงบสุขมาก ภัยพิบัติอาจจะเลื่อนออกไป หรือเบาบาง

ลงหรืออาจจะไม่เกิดเลยก็ได้ ถ้าคนในโลกนี้หันมาสร้างความดี

รักษาศีลกันมากขึ้น กราบอนุโมทนาบุญกับท่านอาจารย์อุบลและ

ครอบครัว เทวดารักษาท่านอาจารย์อุบลและครอบครัว และทุกท่าน

ที่ร่วมกิจกรรมธรรมะสัญจรค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น สมจิต โพธิ์นิล (shindo_ploy-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 16:15:17


ความคิดเห็นที่ 57 (142841)

 เมื่อวาน.  ให้คุณแมวอ่านหนังสือประวัติหลวงพ่อปาน

หน้า 29-31 เรื่องผีสาวอาละวาด.  ตอนหนึ่งหลวงพ่อเขียนเรื่อง

วิญญานคนที่หลวงพ่อเคยฆ่า มานอนคว่ำหน้าเรียงกัน 30 กว่าคน

ใหบุญอะไรก็ไม่เอา.  มันบอกจะคอยขัดขวางทางสำเร็จในญาน

แต่บังเอิญหลวงพ่อมีครูบาอาจารย์เก่ง จึงรอกมาได้ ลองอ่านดูนะ

แล้วจะรู้ว่า. ทำไมนักฆ่า ต้องเข้าหาอาจารย์เก่งจริงเท่านั้น

ไม่งั้น กำลังบุญ กำลังใจสู้วิญยาณเหล่านี้ไม่ได้หรอก

มันบังคับให้ทำแต่บาป. มันคอยขัดขวางทางบุญไว้หมด

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 16:30:04


ความคิดเห็นที่ 58 (142842)

ตอนนี้ฝนตก เลยพิมพ์ทางไอแพท ช้า และไม่ถนัด

อยากบอกเรื่อง กรรมลักทรัพย์ ตอนนี้ (ทานเบื้องบน)

จะให้คนขี้ขโมย ออกมาแสดงตัว สมัยหนึ่ง อ.อุบล

เคยมีลูกจ้าง พนักงานหญิงคนหนึ่ง ขี้ขโมย และ

ก้าวร้าว ตัวเล็กๆ ผมหยิกใจดำ ผิวดำ เพื่อนร่วมงาน

จะรังเกียจเรื่องใจดำ มูมมาม ทานอาหารทีไรจะหารหล่นเต็มพื้น แล้วไม่เคยเก็บ

เธอขี้โขมยเป็นอาชีพ เจ้าคิดเจ้าแค้น คนนี้นะ อ.มงคล จะเอาเข้าคุกให้ได้

แต่หลวงพ่อเสงี่ยมขอไว้ บอกว่าเราจะมีมามากกว่าเก่า แต่เขาจะต้องรับกรรมอย่าง

หนัก ให้เขาออกไป แล้ววันหนึ่งเขาจะรู้เอง ว่ากรรมมีจริง แม้จะไม่ยอมรับ

เขาจะต้องทนทุกข์ตลอดชีวิต

---------------------------------------------

อ่านแล้วเศร้าใจจังครับ เรื่องของคนเนรคุณ อกตัญญู กินเงินเดือนและอาศัยร่มใบบุญนายจ้างไม่พอ กลับเอานิสัยขี้ขโมยมาใช้กับนายจ้างอีก

ยิ่งพอรู้ว่าหน้าตา ลักษณะด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เห็นเลยว่าเป็นคนที่ทำผิดศีลทั้งในอดีตชาติและชาติปัจจุบันนี้ คนอารายง่ะ ลักกินขโมยกินแล้วยังกินมูมมามเลอะเทอะอีก

เร็วๆนี้ ว่างๆวันดีคืนดีผมก็เล่นอินเตอร์เน็ต ก็อ่านเจออดีตลูกจ้างคนหนึ่งออกมาแฉนายจ้างเพื่อระบายความแค้นที่สะสมในใจ

เหตุผลเพราะว่าตนเองโดนไล่ออกจากงานเพราะดันไปขโมยสร้อยเพชรของเจ้านายเข้า แต่โชคดีที่นายจ้างเขายังใจดีไม่เอาถึงขนาดไปเที่ยวห้องกรง

เท่าที่อ่านคิดว่าคงแค้นใจมากที่โดนจับได้ว่าตนเองขโมยสร้อยเพชร แถมโดนนายจ้างเขาไล่ออกจากงานด้วย

ก็เลยมาเขียนใส่ความ กรุเรื่องราวต่างๆขึ้นมาให้คนเข้าใจผิดอดีตนายจ้างตนเอง ยิ่งอ่านก็ยิ่งน่าสงสารครับ ยิ่งหากคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ไม่ใช้สติปัญญาอ่านดีๆก็คงหลงตะเลิดไปกับสาวขี้ขโมยคนนี้ด้วย เรียกว่า พวกนิสัยเดียวกันมักจะดึงดูดคนพวกเดียวกันให้ไปหลงเชื่อกันเอง 555

เห็นท่านอาจารย์เล่าเรื่องลูกจ้างเก่า พอดีเห็นว่าเรื่องที่ผมอ่านเจอก็เป็นแบบเดียวกันก็เลยนำมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่เพื่อนๆให้ระวังตัวคนบาปทั้งหลายให้ดี อย่าคบคนบาปเป็นมิตรกันเน้อออ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 17:30:50


ความคิดเห็นที่ 59 (142843)

 วันนดีคืนดี

พวกลูกจ้าฃขี้ลัก ขี้ขโมยนี้

จะนิ้วกุด.  มือด้วนชาตินี้. ถ้ายังไม่สำนึก

ตอนนี้ก็หนี้หัวโต ชีวิตตกต่ำย่ำแย่. เดี๋ยวจะเจอภัยจากน้ำท่วม

ไฟไหม้. โจรปล้น. เผลอๆไปเจอพวกขายยาบ้า

หลอกใช้เป็นเครื่องมือ. ให้โดนฆ่าตัดตอนแทน. เดี๋ยวก็จะแจ้นหาที่หลบภัย

แถมครอบครัวก็มีแต่คนป่วยด้วยโรคร้ายๆ. จะตายวันตายพรุ่ง

ยังไม่รู้ชะตากรรม. ยังไม่รู้ตัว. ว่าเงาหัวไม่มี. น่าสงสาร วันดีคืนดี

ไปมีเพื่อนเป็นพวกถูกหมายสั่งจับตาย.  จะพลอยโดนร่างแหไปด้วย

ซวยซ้ำซ้อนเข้าไปอีก. เดิมก็ทุกข์อยู่แล้วยังทุกข์ไม่พอหนอ วันดีคืนดี......

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 18:01:49


ความคิดเห็นที่ 60 (142844)

ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานจากท่านอ.แม่อุบล และธรรมทานจากศิษย์บ้านสวนฯทุกท่านค่ะ เป็นบุญของทุกสถานที่ที่ท่านอ.แม่ได้นำธรรมของพระพุทธองค์ไปแสดง คงเป็นคนเดียวในโลกที่ทำได้แบบนี้แสดงกฏแห่งกรรมให้เห็นทันตา เพราะเวลาที่เหลืออยู่น้อย เบื้องบนท่านจึงต้องจัดให้มีธรรมสัญจร หากต้องอยู่แต่ที่บ้านสวนฯอาจจะไม่ทันกาลที่จะช่วยผู้คนให้ได้มากที่สุด ยิ่งเจาะกลุ่มนิสิตนักศึกษาให้เปิดใจรับธรรมะได้ จะขยายผลไปยังคนข้างเคียงได้ง่ายได้ผลเร็ว เพราะเด็กกลุ่มนี้เชื่อเพื่อนมากกว่าจะฟังคนในครอบครัว

กระแสตอบรับดีแบบนี้เดี๋ยวท่านอ.แม่ก็จะรับเทียบเชิญจากสถาบันต่างๆไม่หวาดไหวหรอกค่ะ

รู้สึกดีใจและปลื้มใจมากเหลือเกินค่ะที่ท่านอ.แม่อุบลไปปฏิบัติภารกิจที่สำคัญนอกบ้านสวนฯ

ขอกราบอนุโมทนาค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 18:52:40


ความคิดเห็นที่ 61 (142846)

            ถ้าหากยังไม่เริ่มใช้ปัญญา พิจารณาว่าสิ่งใดควรไม่ควร วันดีคืนดี คงได้ไปอยู่ในนรกล่ะเน้อ

อย่าคบมิตร ที่พาล สันดานชั่ว
จะพาตัว เน่าดิบจนฉิบหาย
แม้ความคิด ชั่วช้า อย่ากล้ำกราย
เป็นมิตรร้าย ภายในทุกข์ใจครัน
 ควรคบหา บัณฑิต เป็นมิตรไว้
จะช่วยให้ พ้นทุกข์สบสุขสันต์
ความคิดดี เลิศล้ำ ยิ่งสำคัญ
ควรคบกัน อย่าเขวทุกเวลา
ควรบูชา ไตรรัตน์ ขัตติเยศร์
ผู้วิเศษ ก่อเกื้อ เหนือเกศา
ครูอาจารย์ เจดีย์ที่สักการ์
ด้วยบุปผา ปฏิบัติ สวัสดิ์การ
( เลิกโง่ไวๆเด้อ )
*********************************************
       ต่อน่ะครับ
          ในขณะที่อาจารย์อุบลท่านแสดงธรรมเรื่องศีลข้อ3 อยู่นั้น ท่านก็เชิญลูกบ้านสวนฯออกไปเป็นตัวอย่าง 3 คน ก็มี..ผม พี่อมร และน้องเอิร์น อาจารย์ท่านถามพี่อมรว่า เคยผิดศีลข้อ3 ไหม๊ พี่อมรรับว่าเคยชิงสุกก่อนห่ามครับ 1 คน...เท่านั้นแหละ อาจารย์ก็เรยเชิญลงเวทีไปก่อน เพราะมีคนเจ๋งกว่านั้นอีก อาจารย์หันมาทางผม แล้วถามคำถามเดียวกัน ผมตอบท่านว่าประมาณ 500 คน ครับ พอสิ้นเสียงคำตอบ สาวๆมหาลัยกรี๊ดสนั่นๆเรยครับ สาวๆถึงกับตะลึงกับจำนวนที่ได้ยินครับ ยังไม่พอ..ท่านอาจารย์ท่านกล่าวต่อไปอีก มีเยอะกว่านี้อีกน่ะลูกบ้านสวนฯเนี่ยะ อาจารย์เชิญผมออกไป แล้วหันไปถามน้องเอริน์.... ประมาณ 1,000 คนครับ พอเอริน์ตอบเสร็จ..เสียงสาวๆเฮฮา..สนั่นหวั่นไหว ตะลึงจนกลบรัศมีของผมไปอย่างสิ้นเชิงเรยครับ ทีนี้..อาจารย์ท่านหันไปถามนักศึกษา...ว่ามีใครสงสัยจะถามถามอะไรไหม๊ ทีนี้...ก็มีน้องสาวหล่อท่านนึง ยกมือถามว่า 1,000 คนเนี่ยะ กะผู้ชายหรือผู้หญิงค่ะ น้องเอริน์ตอบผู้ชายครับ เท่านั้นหละ..เสียงเฮ ก็ดังขึ้นมาอีกรอบเรยครับ อาจารย์ท่านเรยเชิญน้องเค้าออกมาหน้าเวที แล้วบอกกับน้องคนนั้นว่า อาจารย์จะให้รางวัล...จะเอาอะไรหละ...ตอนนี้เจ็บไข้ได้ป่วย เหลือป่วย อะไรไหม๊ จะให้หายยยย...น้องเค้าก็บอกว่า หนูเจ็บคอแล้วก็ไม่มีเสียงค่ะ...อาจารย์ถามว่า ไปทำอะไรมา น้องเค้าบอกว่า หนูไปรับน้องมา รุ่นพี่ให้ตะโกนตลอด จนเดินถึงหอ ก็เรยเจ็บคอค่ะ
        น้องคนนี้เป็นประเภทสาวหล่อครับ...ผมสั้น หน้าตามีสิวเต็มหน้าเรยครับ อายุประมาน 19-20ปี่เนี่ยะล่ะครับ ดูจากกิริยาท่าท่างแล้ว น้องเค้าไม่ค่อยจะศัทธาและสนใจเท่าไหร่นัก ตามประสาเด็กๆ..หนุกหนาน อะไรประมาณนั้นน่ะครับ ...หลังจากนั้นอาจารย์ท่านเรยให้รางวัล..ขอให้หายเจ็บคอน่ะลูก...ปรากฎว่า สีหน้า แววตา ของน้องเค้าเปลี่ยนไปทันทีเรยครับ ประมาณว่าหายจริงๆ น้องเค้าพุดออกไมค์บอกเพื่อนๆเค้าว่า หายจริงๆเพื่อนคอนเฟริม์ +รอยยิ้มและแววตาที่เป็นไปด้วยความประหลาดใจ ว่าเปนไปได้ไงเนี่ยะ ส่วนน้องๆนักศึกษาคนอื่นก็อึ้งไปตามๆกัน กับคำยืนยันจากปากเพื่อนของเขา......หนูหายเจ็บคอแล้วค่ะ แต่ยังเสียงแหบอยู่ค่ะ อาจารย์ท่านเรยถามต่อครับ
   อาจารย์อุบล : ไปทำอะไรมาล่ะ ได้ใช้ปากใช้ลิ้นไปในทางที่ไม่ถูกต้องบ้างไหม๊ล่ะ
        น้องเค้าถึงกับอึ้งในคำถาม ประมานว่าอาจารย์ท่านรู้ได้ยังไงเนี่ยะ พร้อมกับอมยิ้มเล็กๆ
   นักศึกษา : เคยค่ะ เคยเลีย ไอติมค่ะ
        น้องๆนักศึกษาคนอื่นๆ เฮกันลั่นแบบว่าชอบใจวัยรุ่น
    อาจารย์อุบล : ทำมากี่คนล่ะ
    นักศึกษา : ประมาณ 40 คนค่ะ
      แถมบอกอีกว่า เลียไอติมของคนที่มีเจ้าของแล้ว ยิ่งอร่อยเข้าไปอีก....ปัดโธ่!!!  เธอพูดด้วยความภาคภูมิใจ
   อาจารย์อุบล : อ้าวสารภาพแล้ว ลองเช็คดูซิ หายไหม๊
   นักศึกษา : หายค่ะ เสียงเธอเริ่มดัง ใสขึ้น อย่างเห็นได้ชัด
    น้องๆนักศึกษาคนอื่นๆนั่งตะลึง ตาค้าง อ้าปากค้างไปตามๆกัน
    อาจารย์ท่านเรยพูดต่อไปอีก ทุกครั้งที่ไปเลียไอติมมา สิวจะขึ้นเม็ดนึง น้องคนนั้นรีบตอบกลับทันทีเรย ว่าจริงค่ะ อย่างนั้นเรยค่ะ หนูสังเกตุมานานแล้วค่ะ เป็นอย่างนั้นจริงๆ เป็นอันว่าทุกคนก็ได้แต่ตะลึงว่าอาจารย์ท่านรู้ได้งัย
      อาจารย์ท่านบรรยายธรรมทั้งหมดประมาณ 3 ชม. ซึ่ง 3 ชม.นี้เต็มไปด้วย ความตื่นเต้น ความสุข ความฮาผสมปรนแปรกันไป ซึ่งโดยเฉพาะชั่วโมงหลังๆนั้น ผมสังเกตุน้องๆนักศึกษาแล้วทุกคนมีความสนใจมาในการรับฟังการบรรยายธรรมในครั้งนี้ ซึ่งตอนท้าย ท่านอาจารย์บอกว่าจะกลับแล้วน่ะ แต่นักศึกษาตอบออกมาว่า ต่อถึง 3ทุ่มเรยค่ะ ซึ่งสะท้อนได้ถึงการรับรู้วาระจิตของเขาทั้งหลายที่เต็มไปความพร้อมที่จะเปลี่ยนจิตเปลี่ยนใจ อย่างมาก ผมเสียดาย...นี่ไปได้แค่ศีลข้อ3 เอง ยังไม่ครบ5ข้อเรย ยังตื่นเต้นได้ขนาดนี้  ที่จริงมีช็อตเด็ดช่วงท้ายอีกช็อตนึง...เอาไว้ให้น้องเอิรน์มาเหลาให้ฟังดีกว่าครับ
     หลังจากจบการบรรยายธรรม อ.ปัทมา ผู้ซึ่งเป็นผู้เชิญท่านอาจารย์อุบลมาบรรยายธรรมในครั้งนี้ ได้กล่าวอะไรบางอย่างให้นักศึกษาได้ฟัง ผมฟังแล้วรู้สึกดีใจไปกับท่านด้วย ท่านกล่าวแบบเสียงคลอๆ+น้ำตาคลอเบ้า ท่านพูดประมาณว่า ก่อนที่อาจารย์อุบลจะมาบรรยายนั้น อ.ปัทมา ได้ตั้งเป้าหมายว่า การบรรยายธรรมครั้งนี้ หากนักศึกษาเปลี่ยนจิตเปลี่ยนใจได้สัก 3 คน ก็ดีใจมากแล้ว แต่ที่ผมเห็นบรรยายกาศในวันนี้ ผมประเมิณจากเสียตอบรับ ของนักศักษาทั้งหลายที่อยากให้มีกิจกรรมแบบนี้อีก เป็นภาค2 3 ต่อไปเรื่อยๆ รวมกับ บรรยายกาศของความตั้งใจฟัง สนใจชนิดแบบว่าจดจ่อทุกคำพูดของท่านอาจารย์อุบล  แล้วก็ต่างยอมรับผิดในสิ่งต่างๆที่ท่านอาจารย์ถามในศีลทุกๆข้อ แล้วบอกว่าจะไม่ทำอีกนั้น ด้วยบรรยากาศแบบนั้น ตรงนั้น ผมเชื่อเหลือเกินว่า ไม่ใช่ 3 คนแล้วล่ะครับ นี่มันมากกว่า 80-90 เปอร์เซ็นขึ้นแล้วครับ ผมรู้สึกภาคภูมิใจ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการบรรยายธรรมในวันนี้ ผมเชื่อเหลือเกินว่า ผู้นำยุคใหม่ ได้ปรากฎตัวขึ้นแล้ว.......กราบขออนุโมทนาบุญกับท่านอาจารย์อุบลและลูกบ้านสวนฯทุกๆท่านครับ สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น กฤษณะ สิงห์ป้อม ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 19:40:48


ความคิดเห็นที่ 62 (142847)

เดี๋ยวนี้นักฆ่ายิ่งอายุน้อยลง ๆ ไปเรื่อย ๆ

วันนี้ก็มีข่าว (อีกแล้ว) เด็กอายุ 13 ฆ่าเพื่อน เพียงเพราะแค้นที่ถูกเพื่อนแกล้ง ถึงกับต้องเอาชีวิตกันเลย...

และยังมีเด็กนักเรียนเทคนิคเทคโนอีกเยอะ ที่จับกลุ่มกันคอยดักทำร้ายคู่อริ โดยไม่สนใจผู้คนรอบข้าง 

ไม่กลัวว่าใครจะเป็นจะตาย แต่ฉันต้องได้แก้เค้นให้เพื่อน เป็นผู้ชนะ ผู้ยิ่งใหญ่ น่าชื่นชม

ดูเหมือนฆ่าคนเป็นเรื่องปกติ แม้แต่ตำรวจก็ไม่กลัว ไม่สนใจกฎหมายเลยซักนิด

ดูแล้วเวลานี้ ไม่มีอะไรที่หยุดยั้งพวกเขาได้อีกแล้ว 

เรื่องนี้เลยรู้ถึงท่าน อ. อุบลที่ต้องมาปราบคนพวกนี้ซะที ก่อนที่จะมีแต่คนชั่วะยึดบ้านเมืองแทนคนดี

มาถึงเรื่องลักขโมยนี่เข้าตัว ก้อยเองก็ถือว่าเป็นมือวางอันดับต้น ๆ ของการจิ๊ก การขโมยมาสารพัด

ผลกรรมทุกวันนี้รวดเร็วทันใจดีจัง มีหนี้สินล้นพ้นตัว

มีเท่าไหร่ก็ไม่พอใช้ ทำงานมา 10 กว่าปีไม่มีอะไรเลยที่เป็นของตัวเองซ๊ากกะชิ้น

ถูกต้องเลยค่ะท่านอาจารย์ เมื่อไม่มีตังค์ ชีวิตก็ต้องตกต่ำตามไปด้วย

เมื่อปีที่แล้วน้ำท่วมใหญ่ ตามความคาดหมาย บ้านหนูก็ท่วมเหมือนกัน

แต่ก็ยังโชคดีอยู่มาก ที่มีท่านอาจารย์คอยตอกและย้ำให้สำนึกบาป เน้นให้รักษาศีล 5 

ทำให้เตรียมตัวได้ทัน ตั้งรับกับผลกรรมในสิ่งที่ตัวเองก่อเอาไว้

ไม่ทุกข์ร้อนกับภัยน้ำท่วมที่ได้รับ และสุดท้ายก็ผ่านมาได้ด้วยดี

ลูกสำนึกในบุญคุณของท่านอ.อุบล และครอบครัว

รวมถึงเทวดาผู้รักษาท่านอ.อุบล ทุก ๆ พระองค์ 

 

กราบ กราบ กราบ

 

 
 
 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อย วินิตา สุทธิวรา (vinita_goi-at-hotmail-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 19:52:23


ความคิดเห็นที่ 63 (142848)

มีแล้วค่ะคุณอ๋อย

ตอนนี้ มีสถาบันต่างๆ

ติดต่อเข้ามาหลายสถาบันแล้ว

 

สถาบันดังๆทั้งนั้นเลย

 

โอ้ย

แล้วจะเอาอะไร

ไปบรรยายให้เขาฟังล่ะเนี่ย

 

ยิ่งโง่ๆอยู่ด้วย

 

ใครก็ได้ช่วยที

 

หรือใครคิดว่า

มีความดี มากกว่า อ.อุบล

เดี๋ยว วันดี คืนดี

จะ

ขอส่งตัวแทนไป

ดีไหมจ๊ะ

 

ใครที่รู้ตัวว่าเก่ง

รู้ตัวว่าเป็นคนดี มีวิชา

มีภูมิธรรม ภูมิปัญญา มาช่วย

หน่อยเร้ว

 

แค่อยุธยา

ก็สยองกันทั้งคณะแล้วนะ

 

เจอทั้งนักฆ่า ร้อยศพ

อายุ 20 เอง

เป็นหญิงอีกต่างหาก

 

เจอทั้งทอม

ร่วมเพศกับหญิงด้วยกัน

มาเกือบ 50 คน

 

เจอทั้ง............ฯลฯ

 

แต่เสด็จพ่อ

ท้าวเวสสุวรรณ

ฝากบอกพวกเรานะ

ว่า

แต่ละคนที่ท่านเลือกออกมา

ให้พวกเรา

 

ไปพิจารณาธรรม

กันใหม่อีกหลายๆรอบ

 

อย่ามองข้ามแม้แต่คนเดียว

 

เสด็จพ่อบอกว่า

อุส่าห์เอาคนที่ปวดหัว

ออกมาหลายคน

เพื่อแสดงผล บอกสาเหตุ

 

วันนี้ท่านฝากถาม

ได้อะไรบ้าง

จากนักศึกษาคนหนึ่ง

ที่ปวดหัว

 

แล้วสารภาพบาป

ว่า

หนูมีเพื่อนมาปรึกษา

ว่าจะไปทำแท้ง

แต่หนูฟังเฉยๆ ไม่ได้ห้าม

 

แล้วพอเธอสารภาพ

อ.อุบล ก็บอกว่า

วันนี้ จะให้ทุกคน พบ

พระพุทธเจ้า

 

แล้ว อ.อุบล

ก็กราบทูลพระพุทธเจ้า

เสียงดังออกอากาศ

ให้ทุกคนได้ยิน

ว่า

 

พระพุทธองค์

องค์พระปฐมบรมธรรมบิดา

เจ้าขา

 

หากแม้นพระองค์

ทรงเสด็จมาจริงในวันนี้

โปรดแสดงปาฎิหาริย์

ให้อาการปวดหัวของน้องคนนี้

หายทันที

ถ้าการเพิกเฉย

ที่มีเพื่อนมาปรึกษาว่า

จะทำแท้ง

แล้วไม่ห้ามปราม

 

เป็นกรรม

เป็นบาป เป็นเหตุให้ปวดหัว

ขอให้หายทันที ณ บัดนี้

ด้วยเทอญ สาธุ

 

สิ้นเสียง สาธุ

เธอก็หายทันที

 

อันนี้

เสด็จพ่อฝากถาม

ได้อะไรบ้าง

 

จากธรรมทาน

ที่พระพุทธองค์ทรงเสด็จมา

แสดงปาฎิหาริย์ด้วย

พระองค์เอง

เรื่องนี้

 

การเพิกเฉย

ที่เห็นคนทำผิด ทำบาป

เป็นกรรม ด้วยหรือไร

 

พระพุทธองค์

ต้องการให้พวกเรา

ทำอะไรกัน

 

ใครรู้ช่วยบอกที

 

นะจ๊ะ

เพราะคนที่เพิกเฉิย

ในสังคมไทย

ที่

 

ธุระไม่ใช่

มากมายเหลือเกิน

 

ถ้าปวดหัว

มีปัญหา ชีวิต การงาน

การเงิน สุขภาพ

จะได้รู้ว่า

เราเคย เพิกเฉิย อะไรมาบ้าง

อิ อิ อิ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 19:48:16


ความคิดเห็นที่ 64 (142849)

กราบเรียน ท่านเจ้าของบ้านสวนพิรามิด ค่ะ

เรื่อง ขออนุญาติ เข้าบ้านสวนฯ

ในวันที่  6 - 9 กรกฎาคม 2555

จำนวน 1 คน คือ

ประวีณา  แค้มป์  ( แมว )

จากกรุงเทพฯ

วัตถุประสงค์  ร่วมบุญด้วยแรงกาย

การรับประทานอาหาร :  นำไปทานเองค่ะ

จึงเรียนมาเพื่อทราบและกราบขอบพระคุณค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 19:57:40


ความคิดเห็นที่ 65 (142850)

เห็นภาระหน้าที่ของท่านอาจารย์และลูกๆ บ้านสวนแล้ว

เป็นการหยุดกรรมได้ทันทีทันใด

เริ่มเขยิบใกล้เข้าไปเรื่อยๆ

(ใกล้อะไร ก็สายตาชาวโลกไง เห็นกันเต็มๆ จะๆ)

งานของท่านพระเทวทัตกับพระเจ้าอชาติศัตรู สุดยอด

จะมีหนักกว่านี้อีกไหมเนี่ย

รู้ตามแล้วเรายังสยองเลย

--------------

โลกใบนี้คงต้องฝากไว้กับท่านอาจารย์ อุบล

และลูกๆ บ้านสวนพีรามิด

กราบ กราบ กราบ

เบื้องบนทุกๆ พระองค์

ข้าพเจ้าจะพยายามน้อมนำทำทุกวิถีทาง

เพื่อช่วยให้เกิดความสงบสุข

เท่าที่กำลังตนจะกระทำได้

ผู้แสดงความคิดเห็น เกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น (kiattisp-at-scg-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 20:13:09


ความคิดเห็นที่ 66 (142851)

"ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา" 


ถ้าเราเพิกเฉยเมื่อเห็นคนอื่นทำชั่ว 

ทั้งที่เรารู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว

ก็เท่ากับว่าเราเห็นดีเห็นงามกับความชั่วนั้นด้วย

ในเมื่อเราเห็นด้วย ก็ยุติธรรมแล้วที่จะต้องได้รับโทษเท่า ๆ กับคนที่ทำบาปนั้น

ที่จริงในสังคมมีคนดีมากกว่าคนชั่ว แต่จะมีคนดีกี่คนที่จะลุกขึ้นมาปกป้องความดี

เหมือนกับตอนนี้ที่มีพวกคนชั่วที่คอยบ่อนทำลายชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

ทำให้ประเทศไทยต้องพบกับเหตุการณ์ภัยพิบัติที่ไม่เคยมีมาก่อน...
ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อย วินิตา สุทธิวรา (vinita_goi-at-hotmail-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 20:18:58


ความคิดเห็นที่ 67 (142852)

ผมชักสงสัยขึ้นมาอีกแล้วสิครับท่านอาจารย์ครับ ในอดีตที่ผ่านมาสมมติว่าเขาต้องการฆ่าคนจริงๆแต่หากว่าเขารู้แค่ชื่อหรือมีแค่รูปเท่านั้น หรือสมมติว่าเขารู้แค่อีเมล์หรือชื่อในสื่อออนไลน์ เช่น ทวิสเตอร์ ไฮ5 เฟสบุ๊ค แค่นั้น

พวกนักฆ่าเขาจะมีวิธีการค้นหาเป้าหมายหรือจัดการอย่างไรบ้างครับ นักฆ่ามือพระกาฬทั้งหลายเคยเล่าหรือท่านอาจารย์พอจะทราบบ้างไหมครับ

แบบว่าสงสัยว่าทำไมนักฆ่าทั้งหลายถึงทำงานไม่เคยพลาดเลย...เบื่อตัวเองเจงๆครับ ชอบสงสัย แต่ก็อยากรู้ง่ะก๊าบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล

 

ตอบพ่อใหญ่ธนา

คนขี้ฉงฉัย

 

เมื่อกลางวันที่ตอบไป

พิมพ์ไม่ค่อยถนัด เพราะไม่ได้ใช้

คีย์บอร์ด เลยพิมพ์ไม่หนุกเลย

 

คราวนี้

จะตอบแล้วนะ

เอาเรื่อง รู้ชื่อ รู้รูปก่อนนะ

อันที่จริง

รู้แต่ชื่อ สกุล ก็ตามได้แล้ว

 

สมัยก่อน

อ.อุบล ได้เข้าไปทำงาน

กับ

คุณพ่อที่นับถือ

ท่านนี้ท่านเป็นเจ้าภาพ

งานแต่งงานให้ อ.อุบล ด้วย

ท่านคือ

พล.ต.ท กริช ปัจฉิมสวัสด์

อดีต ผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ

ท่านเมตตา

สอนเรื่องกฎหมาย ให้ อ.อุบล

ท่านมีบริษัททนายความ

และ

ตั้งบริษัท ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส

ทางสังคมที่ถูกเอาเปรียบ

เช่น ไปติดต่อหน่วยงานรัฐ

แล้ว จนท. ไม่อำนวยความสะดวก

พูดไม่ดี  ไม่มีทนาย ที่ไว้วางใจ

ไม่มีตำรวจที่ให้คำปรึกษา

ในการต่อสู้คดี

 

แม้แต่

รถเสีย อยู่ที่ไหน ตอนไหน

เราก็มีรถลาก ไปช่วย โดยฉับไว

ซึ่งในบริษัท

จะมีตำรวจนอกราชการ

มีทนายความ มีนักวิชาการ

มาร่วมงาน

อ.อุบล ถูกท่านเรียกไปช่วยงาน

ก็เลยได้รับความรู้

มากมาย จากการ ทำงานส่วนนี้

 

ส่วนที่คุณธนาถาม

เรื่องรู้แค่ชื่อ สกุล นั้นจะตามอย่างไร

 

สมัยก่อน ที่ อ.อุบล

ไปช่วยงานท่านนั้น ยังไม่มีเน๊ต

ยังไม่มีมือถือแบบทุกวันนี้

ยังไม่มีเวปไซด์

 

มือถือคุณพ่อกริช

ท่านมี แบบเหมือนแบ๊ตตารี่รถยนต์เลย

แล้วก็มีกันไม่กี่คน เพราะมันแพง

 

การเช็คประวัติบุคคล

สมัยนั้น ก็จะไปเช็ค ที่ทะเบียนกลาง

 

หลังจากนั้น

การตามหาตัว ไม่ยากเลย

ตำรวจ สายสืบ เค้าชำนาญ

เค้ามีวิธีหาเบาะแส

 

ต่อให้ดำดินได้ ก็ตามเจอ

ยกเว้นชิงตายก่อนเท่านั้นแหละ

 

ยิ่งสมัยนี้

การสื่อสารไร้พรหมแดน

มีมือถือ เป็นสื่อ เป้าหมาย

 

มี........อีกหลายอย่าง

ที่ทางตำรวจ สายสืบเค้าเช็คได้

 

บางอย่าง

ต้องขอสงวนไว้นะ

พ่อใหญ่ธนา ไม่ควรนำมา

บอกในเวปนี้

เอาไว้เจอกันอาทิตย์นี้ค่อยบอกนะ

 

เพราะว่า

เป็นวิธีการของ

สายสืบใช้กัน ถ้านำมาบอก

ก็เท่ากับ ทำให้โจร รู้วิธีการไปด้วย

 

ซึ่งตำรวจ

ที่เก่งจริงๆ แล้วตั้งใจจริงน่ะ

เค้าทำได้ อยู่ที่ว่า จะทำหรือไม่

เท่านั้นเอง

 

ส่วนเรื่อง เฟสบุ๊ค

ไม่ต้องพูดถึงหรอก

เอาแค่ รู้ชื่อ ก็พอแล้ว

 

อันนี้ ทางโลกนะ

 

ส่วนทางกฎแห่งกรรมนั้น

พวกเราก็เห็นกัน

มาเยอะแล้ว

 

มีใครสักคนไหม

ที่รอดพ้น กฎแห่งกรรมไปได้

 

เบื้องบน

ท่านมีแผนที่แยบยล

 

ก่อนจะ

พิพากษาคนบาป

ก็ต้องให้ แสดงหลักฐาน

แสดงตน

ให้ผู้คน ได้รู้ ได้เห็น

เมื่อวันหนึ่งมาถึง

ทุกคนจะได้รู้ว่า

อ๋อ

ก็เพราะอย่างนี้นี่เอง

ถึงต้องเป็นอย่างนี้

 

ไอ้เรื่องที่

ทำดีฟรีๆ ไม่ได้ดี

 

ทำชั่วฟรีๆ

ไม่ได้ชั่วนั้น อย่าคิดเลย

 

อิมพอสซิเบิ้ล

 

ยิ่งทำชั่วมาก

ก็ยิ่งได้รับรางวัลชิ้นใหญ่มาก

 

ดูอย่างน้องนักฆ่า

นักศึกษา อยุธยา ที่เราไปเจอสิ

แม้เธอไม่เชื่อ

เรื่องกฎแห่งกรรม แต่เธอหนีได้ไหม

 

มันไม่เกี่ยวว่า

จะเชื่อ จะศรัทธา หรือไม่

ยังไงก็ต้องเจอ

ชัวร์...จ้า

พ่อใหญ่ธนาเอ๋ย

 

นอนไขว่ห้าง

สวดมนต์ ทำสมาธิ

ไปเลย

 

อ้อ

เตรียมตัว

ไปช่วยงานบรรยาย

นอกสถานที่ กับ อ.อุบล ด้วยนะจ๊ะ

อย่าลืมล่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 20:27:50


ความคิดเห็นที่ 68 (142853)

 

 

 

 

วันนี้ท่านฝากถาม

ได้อะไรบ้าง

จากนักศึกษาคนหนึ่ง

ที่ปวดหัว

 

แล้วสารภาพบาป

ว่า

หนูมีเพื่อนมาปรึกษา

ว่าจะไปทำแท้ง

แต่หนูฟังเฉยๆ ไม่ได้ห้าม

 

 

++++++++++++++++++ 

กราบท่านอาจารย์ครับ

เบสคิดว่าการที่เรารับฟังความเห็นจากบุคคลอื่นและรู้ว่าเขาคนนั้นกำลังจะไปกระทำความผิด

แต่ถ้าเราไม่ห้ามปรามนั้นก็ถือว่าเป็นความผิดแน่นอน

เพราะถือว่ารู้แล้วแต่ไม่ห้าม ไม่ทักท้วง

และยังถือว่าขาดเมตตาด้วย เพราะรู้ทั้งรู้ว่าถ้าคนนี้ไปทำ จะต้องลงนรกแน่นอน แต่ไม่ยอมตักเตือน

หรือให้ความเห็นที่ถูกต้องตามจริยธรรม

โดยถ้าถามว่าบาปจริงหรือไม่?  ก็สามารถบอกได้เลยว่าจริง เพราะมีหลักฐานคือ

 

 

หากแม้นพระองค์

ทรงเสด็จมาจริงในวันนี้

โปรดแสดงปาฎิหาริย์

ให้อาการปวดหัวของน้องคนนี้

หายทันที

ถ้าการเพิกเฉย

ที่มีเพื่อนมาปรึกษาว่า

จะทำแท้ง

แล้วไม่ห้ามปราม

 

เป็นกรรม

เป็นบาป เป็นเหตุให้ปวดหัว

ขอให้หายทันที ณ บัดนี้

ด้วยเทอญ สาธุ

 

สิ้นเสียง สาธุ

เธอก็หายทันที

 +++++++++++

การที่เธอหายนั้นเป็นหลักฐานยืนยันได้เลยว่า

การแค่ที่รับฟัง และนิ่งเฉยโดยไม่ได้ทักท้วงนั้น เป็นบาปเป็นกรรมจริง

ซึ่งเสด็จพ่อคงจะต้องการให้พวกเราเลิกพฤติกรรมเดิมๆ

ที่ว่าเห็นใครทำผิดแล้วไม่ทักท้วง ไม่ตักเตือน

คิดว่าไม่ใช่เรื่องของเรา 

แต่จริงๆแล้ว เป็นบาป และเป็นขาดเมตตาด้วย 

ซึ่งหากเราทักท้วง หรือบอกเขาเหล่านั้นในเรื่องบาปบุญคุณโทษ

เขาก็อาจจะไม่ทำบาป ซึ่งเป็นการไม่สร้างพลังลบให้กับโลก

และหากทุกคนคิดเช่นนี้ ก็อาจจะมีคนทำบาปน้อยลง 

และโลกนี้ก็อาจจะไม่ต้องเกิดภัยพิบัติขึ้นก้เป็นได้

 

 

 

 

 


ผู้แสดงความคิดเห็น พัฒนพงศ์ ปรับโตวิดโจโย ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 20:31:56


ความคิดเห็นที่ 69 (142854)

ผมคนหนึ่งครับ ที่ทำตัวเพิกเฉย

เรื่องตัวเองไม่ใช่ เพราะคิดว่าตัวเราเองยังเอาตัวไม่รอด

ต่อไป จะไม่เพิกเฉยอีกแล้ว

เห็นอะไรผิดเราจะพยายามเข้าไปเสนอหน้า

บอกถึงผลของกรรมและการกระทำที่ถูกต้อง

เพราะถ้าเราไม่ห้าม ก็เหมือนเราสนับสนุนให้ลูกหลานเราเป็น

คนเลวโดยไม่รู้ตัว

ช่วยกันเตือน คนเดียวอาจไม่เชื่อ

แต่เตือนกันทั้งบ้านทั้งเมือง เค้าคงจะรู้สึกว่าใครกันที่ผิดปกติ

แต่ตอนนี้รับหน้าจากเบื้องบนก่อน ช่วยกันเตือน อย่าเพิกเฉย

ก่อนอุเบกขา

อิ อิ เริ่มภูมิใจนิดๆ

เราก็ช่วยชาติได้ เย้

ผู้แสดงความคิดเห็น เกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น (kiattisp-at-scg-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 20:29:54


ความคิดเห็นที่ 70 (142855)

การเพิกเฉย

ที่เห็นคนทำผิด ทำบาป

เป็นกรรม ด้วยหรือไร

 

พระพุทธองค์

ต้องการให้พวกเรา

ทำอะไรกัน

 

ใครรู้ช่วยบอกที

 

นะจ๊ะ

เพราะคนที่เพิกเฉิย

ในสังคมไทย

ที่

 

ธุระไม่ใช่

มากมายเหลือเกิน

=========================

สาธุ

การเพิกเฉย แล้วคิดผิดว่าอุเบกขา

มีพรหมวิหารสี่

ไม่ไปยุ่งกับจริยาของคนอื่น

ก็ทำให้สังคมยุ่งเหยิงได้

ทำให้คนคิดชั่ว ทำชั่วเพิ่มขึ้น

เพราะคนที่ไม่เคยรู้ว่าที่ตนทำชั่วนั้น

ต้องใช้เวรใช้กรรม มากกกก เพียงใด

ผลของบาป ทำให้สังคมโดยส่วนรวมไม่น่าอยู่

ควรจะบอกคนที่ทำไม่ดีว่า ผลของความชั่วจะได้ผลอย่างไร

แต่ไม่ควรไปตำหนิติเตียนเขา

เพราะเราเคยทำมาก่อน...แต่ตอนนี้เรารู้แล้ว

ว่าทำอย่างนั้นมันไม่ดี

เราเลิกชั่วเลิกเลว ... หันมาถือศีล ๕

เพราะได้พบครูบาอาจารย์

ที่ชี้ให้เห็นความจริง

ไม่ควรเกรงใจ ไม่เออออไปกับเขา

ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 20:32:49


ความคิดเห็นที่ 71 (142856)

ขออนุโมทนากับธรรมทาน

ของ ท่าน อ.อุบล และทุก ๆ ท่านนะคะ

-*-*-*-*-*-*-*-*-

อ.อุบล ช่วยด้วย !!!

ขอ ฮา....ด้วยคนจร๊า

กรรม

ผลของกรรม

จากการที่ได้รับโอกาส

จากท่าน อ.อุบล ให้ได้

สัญจรไปกับท่านในการ

บรรยายธรรม ( แสดงกฏแห่งกรรม)

ไม่ว่าจะเป็นที่

บ้านไร่ปลาย

ซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกกรรม

อู้ย...รุ่นคุณลุง คุณป้า คุณตา คุณยาย

น้ำหมากกระจาย

จนมาที่

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี่ สุวรรณภูมิ

เยาวชนชองชาติ อายุ 17 - 22 ปี

จำนวนไม่แตกต่าง เป็นร้อย ๆ เช่นกัน

พอ อ.อุบล ถามว่า

มีใคร เจ็บป่วย นู่น นี่ นั่น

ก้อยกมือ กันไหว ๆ เหมือนกันเลยค่ะ

นี่แสดงว่า

กรรม ไม่ยกเว้นแม้แต่ เด็กหรือคนชรา

กรรมใด ใคร ก่อ กรรมนั้นสนองคนก่อกรรม

จริงแท้ แน่นอนที่สุด

ได้ยินได้ฟัง กับการผิดศิลแต่ละข้อ

จะเห็นได้ว่า เด็ก ๆ จะก่อกรรม

โดยที่ไม่สำนึกถึงบาป และผลของบาป

ในสถาบันการศึกษา..กลายเป็นแหล่ง

นักเลง + นักรัก

โอ้ย ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง

ฟังไป ก็คิดถึงลูกไป

หากปล่อยไปเช่นนี้ ประเทศชาติ

จะเป็นอย่างไร

จากการสังเกตุ ที่นักศึกษาทั้งหลายได้ฟัง

กฏแห่งกรรม แล้ว นั้น

ทำให้พวกเค้าได้มีโอกาส

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้

โดยได้รับเมตตา จากท่าน อ.อุบล

จากสีหน้า และแววตาที่ได้เห็น

ขนลุกค่ะ คิดว่า เปลี่ยนพฤติกรรม

ของเด็กได้แน่นอน ..สาธุ

หากสถาบันการศึกษา

สถาบันครอบครัว

เอาใจใส่

มีธรรมะของพระพุทธองค์

ในหัวใจ ปัญหาทั้งหลายก้อคงไม่เกิด

การยกพวกตีกัน เป็นค่านิยม

หรือประเพณี ของคนเก่ง ???

การเป็นทอม เป็นกระเทย

เป็นเสือผู้หญิงเสือผู้ชาย ที่ไล่ล่าแต้มกัน

ก็คงไม่เกิดกับสังคม

การสูญเสีย การทำแท้ง

ก็คงไม่มีให้เห็น..

สังคม ประเทศก็คงไม่เสื่อมเหมือนทุกวันนี้

เด้กสาว ที่เคยพาเพื่อนไปทำแท้ง

และรู้เห็นการทำแท้ง..

พอได้พูด ได้สารภาพ

ก็หาย ปวดหัว ปวดไหล่

แต่เธอ กลัว..อ.อุบล จนตัวสั่น

ถอยหลังหนี และสุดท้าย

เธอล้มลง ( เหมือนเป็นลม )

แสดงให้เห็นถึง อะไรที่แฝงอยู่กับเธอ

อย่างเห็นได้ชัด..

สาวทอม ที่ผ่านประสบการณ์

อย่างช่ำชอง เรื่อง ไอศครีม

สิว เต็มหน้า ไม่อยากบอกว่า

เพราะ ความสกปรก จิง ๆ

นักฆ่า...ผู้ลอยนวล ( กูเก๋า )

ช่างน่าสงสารที่สุด

เพราสภาพที่เป็นอยู่และสภาพอนาคต

ที่ต้องผ่าตัดสมอง ไปเรื่อย ๆ

และต้องผ่าตัดสด

อยากบอกว่า  ตายไปเลย ดีกว่า

สภาพ ตายทั้งเป็น

เป็นสาว..อยู่ในวัย กำลังสวย

ต้องมา ปากเบี้ยว ตาเข มือหงิกงอ

อนาคตอันใกล้ อาจเป็น อัมพาต

เป็นภาระ พ่อแม่ สังคมอีก

เป็นผลจาก การทำตัวเป็นนักเลง

ฆ่า..คนด้วยความโหด***

โดยไม่รู้สึก อะไรเลยนอกจาก กูเก่ง

และสุดท้าย เด็ก ๆ ก็ถึงกับสงบ นิ่ง อึ้ง

จากผลของกรรม ที่ท่าน อ.อุบล ชี้ให้เห็น

เอิ้น ดวงตาข้างขวา บอดสนิท

สิบเนื่องมาจาก เชื้อ เอดส์

กินจอประสาทตา...

นี่คือผลของการผิดศิล ข้อ 3

และบรรยากาศกำลังเป็นที่น่าสนใจ

เวลาก็หมดลงอย่างน่าเสียดาย

เด็ก ๆ บอกให้ อ.อุบล อยู่ถึง 3 ทุ่มก็ได้

555++ เด็กวัยรุ่น ชอบ และติดตาม

ลีลาการแสดงธรรม

ของ อ.อุบล มาก ๆ ไม่มีหลับ

ตาวาว ใสแจ๋ว

และเสียดาย เพราะเวลาหมดแล้ว

-*-*-*-*-*-*-*-

แล้วเรื่อง ...

วันดี คืนดี ที่ไม่สุขสมประสงค์

จากผลของการก่อกรรม

555+++ ผิดศิลข้อ 2

ธรรมทานเรื่องนี้ ทำให้คิดถึง

คำสอนของ อาจารย์ค่ะ

ว่า เราไม่ควรไปมองคนอื่น

เรามองตัวเรา และเปลี่ยนตัวเรา

ให้ได้ก่อน..

ลูกจ้าง... ที่คิดว่า วันนี้ วันดี

นางจ้างเผลอ ก็มือไว อยากได้

พอถูกจับได้..ก็แค้นฟังหุ่น

จับประเด็น นี่ นั่น อ้าง

เพื่อปกปิด กลบเกลื่อน

รอยแผลของตัวเอง

ที่ไหนได้..แผล ปูด ออกอีก

แหมๆๆ  ของปลอม  ของจริง

คนสัมผัส เค้ารู้กันเองจร๊า

ว่า

อันไหนเป็นทอง

อันไหน เป็นขี้อ่ะจ๊ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 20:46:37


ความคิดเห็นที่ 72 (142858)

 การเพิกเฉย

ที่เห็นคนทำผิด ทำบาป

เป็นกรรม ด้วยหรือไร

 

พระพุทธองค์

ต้องการให้พวกเรา

ทำอะไรกัน

 

ใครรู้ช่วยบอกที

 

นะจ๊ะ

เพราะคนที่เพิกเฉิย

ในสังคมไทย

ที่

 

ธุระไม่ใช่

มากมายเหลือเกิน

***

เหมือนว่า เราเห็นเขาทำผิด แต่เรา เห็นดีเห็นงามกับเขา ที่เห็นเขาละเมิดศีล

ขาดเมตตาแม้เขาจะตกนรก แต่ก็ไม่ห้าม ทั้งๆ ที่มีโอกาส เพราะเขามาปรึกษา คิดว่าสังคมไทย กำลังขาดความเมตตา 

เหมือนเห็นคนกำลังจะฆ่ากัน แต่ก็ ไม่ห้าม เพราะจากที่ดูวัดต่างพูดถึงเรื่อง ศีล 5 รับมาทำได้บ้างไม่ได้บ้าง และความละเอียด ของศีล 5

คิดว่า กิจกรรม ธรรมมะสัญจร คราวนี้ คงช่วยเปลี่ยนแปลง ให้สังคมดีขึ้นโดยที่เด็กๆเหล่านี้ที่ได้รับฟังธรรมทาน จากท่านอาจารย์อุบล

แล้วนำไปใช้เมื่อเห็นคนผิดศีล เขาจะได้ ห้ามปราม เพราะเขาก็รู้แล้วว่า ถ้าไม่ห้ามเขาเองก็ต้องได้รับผลเหมือนน้องคนนี้ิ

อีกอย่างก็สะท้อนมาถึงพวกเราไม่ให้เพิกเฉย และทำหน้าที่ เผยแผ่ ธรรมมะที่ได้รับจากบ้านสวนให้ ขยายออกไปในวงกว้าง

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) (weepasuth-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 21:49:28


ความคิดเห็นที่ 73 (142859)

ไปเห็นข้อความนี้เข้า

เวลาเราเห็นคนทำอะไรผิด

แล้วปล่อยเขาทำ   ไม่สนใจทักท้วง

เขาก็จะเห็นว่า  เรายอมรับ

คนดี ๆ เฉื่อยกันหมด

สังคมเลยป่วย

การอยู่ร่วมชาติ เราก็เป็นเจ้าของประเทศ

เป็นคนในชาติร่วมกัน ซึ่งต้องทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด

... สังคมจึงจะเจริญ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เบญจรัตน์ สีทองสุก ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 22:36:50


ความคิดเห็นที่ 74 (142862)

           ขออนุโมทนากับธรรมทานของ

ท่าน  อ.อุบลและลูกบ้านสวนทุกคนนะคะ

ถ้ามีโอกาสอยากจะไปร่วม  ธรรมมะสัญจร

 กับ  อ.  อุบลและลูกบ้านสวนทุกคน

อยากจะช่วยแบ่งเบาภาระของอาจารย์บ้าง

แม้สักเพียงเล็กน้อยก็ยังดี

 เพื่อให้อาจารย์ได้พักและหายเหนื่อย

             ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์แม่ของเรา

ที่ได้ทำภารกิจอันหนักหน่วงเพื่อพวกเรามาตลอด

ขอกราบขอบพระคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์

สาธุ  สาธุ   สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลดาวัลย์ หอมเหล็ก (sanimsai-at-yahoo-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-03 23:15:33


ความคิดเห็นที่ 75 (142865)

การเพิกเฉย

ที่เห็นคนทำผิด ทำบาป

เป็นกรรม ด้วยหรือไร

 

พระพุทธองค์

ต้องการให้พวกเรา

ทำอะไรกัน

 

ใครรู้ช่วยบอกที

 

นะจ๊ะ

เพราะคนที่เพิกเฉิย

ในสังคมไทย

ที่

 

ธุระไม่ใช่

มากมายเหลือเกิน

***

อันนี้เห็นได้ชัดเจนเลยครับ ไม่ต้องที่ไหนหรอกครับ บ้านสวนฯนี่แหละครับ แม่ทัพออกศึกควบม้านำลิ่วแล้ว แต่เหล่าทหารทั้งหลายที่บอกว่ารักและศรัทธาในตัวแม่ทัพ กลับลืมคำสัญญา ลืมหน้าที่

ต่างคนต่างเข้ามาแสวงหาแต่บุญอย่างเดียว เขาคงลืมกันไปแล้วว่าบุญที่ยิ่งใหญ่นั้นคือบุญที่เกิดจากการใช้กำลังใจที่สูงทำสิ่งที่คนอื่นทำได้ยาก

ไม่ใช่การเข้ามาแสดงความคิดเห็นเพื่อหวังผลบุญเล็กๆน้อยๆ แต่หน้าที่เราคือการปกป้องและรักษาชาติ ศาสน์ กษัตริย์

ที่ผ่านมายิ่งเวลามีใครมารุกรานบ้านเรา พวกเรากลับพากันเฉยเมย เห็นคนอื่นทำผิด ย่ำยีบุคคลที่เราเคารพรัก ถึงรู้แต่ก็พากันนิ่งเฉย เข้ามาโกยบุญอย่างเดียว ไม่ลองตรึกตรองสิ่งที่แม่ทัพกำลังทำให้ดีๆ

สรุปว่าพวกเรารักตัวเองมากกว่ารักความถูกต้องรึเปล่า หรือว่าพวกเราต้องการแค่ได้มาบ้านสวนฯเพื่อที่จะได้มีความสุข หายโรค มีเงินมีทอง หรือต้องการทำหน้าที่รักษาชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และจะกลับบ้านพร้อมกัน โปรดคิดใหม่กันอีกทีเพราะที่ผ่านมาพวกเราหลายๆคนแสดงให้เห็นแล้วว่า ไม่ใช่ธุระ หรือกลัวนั่นกลัวนี่ แต่ปากก็บอกว่ารักอาจารย์อุบลและบ้านสวนฯ....

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-04 00:26:08


ความคิดเห็นที่ 76 (142866)

ตอนนี้

เบื้องบน กำลังห่วง

โลกชมพูใบนี้มาก

เพราะ เต็มไปด้วย พลังลบ

คนชั่ว คนผิดศีล ที่เป็นตัวเร่งเร้า

ให้แกนโลกต้องพลิก

 

ท่านจึงให้

พระเทวทัต พระเจ้าอชาติศัตรู

เร่งงาน แยกคนดี คนชั่ว ออกจากกัน

โดย เอาศีล เป็นตัวแยก

 

ไล่ตั้งแต่

ศีล ข้อ 1 จนถึง ข้อ 5

 

อย่างน้องๆอยุธยานี่นะ

น่ารักมาก

รู้จักศีล 5 แต่รักษาไม่ได้ สักข้อ

เขายอมรับอย่างองอาจ

 

พอเค้าเห็นว่า

ทุกข์ของเขา เกิดจากการ

ไม่รักษาศีลจริงๆ

 

เค้าก็ตั้งใจรักษาศีล

เพราะ

ทุกคนรักตัวเอง

 

แต่รักแบบเข้าใจผิดมาตลอด

 

คนที่ผิดศีล

ก็ผิด เพราะ คิดว่า

เป็นเรื่องไม่จริง ไม่จัง

จึงไม่สนใจรักษา

 

ในที่สุด

คนที่ผิดศีลไม่ว่าข้อใด

ก็เจอเคราะห์กรรมหมด

พอเห็นกับตา ทันทีทันใด

เขาก็กลับใจทันทีทันใดเหมือนกัน

 

ดังนั้น

คิดว่า คนส่วนใหญ่

ในสังคม ที่ยังผิดศีลกันอยู่

ชะล่าใจกันอยู่

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ เขาไม่รู้ ไม่เคยเห็น

เหตุการณ์ หายทันที มาก่อนในชีวิต

ยกเว้นคนที่เคยเห็นแล้ว

แต่ยังจะทำผิดอีก

อันนี้ ถือว่า กู่ไม่กลับแล้ว

หมดสิทธิ์รอดแล้ว

--------

 

วิธีแยกคน

ดี  และ ชัว ออกจากกัน

ของเบื้องบน โดยเอาศีลเข้ามาจับ

 

1.คนดี มีเมตตา ไม่ฆ่า ไม่ทำลายผู้อื่น ช่วยเหลือผู้อื่น

ส่วนคนชั่ว ไม่มีเมตตา นิยมการฆ่า

การทำลายล้างผู้อื่น

ไม่มีจิตอาสา ไม่ช่วยเหลือใคร

 

2.คนดี ไม่อยากได้ทรัพย์ผู้อื่น ที่เจ้าของเขา

ไม่เต็มใจให้ ไม่ใช้อุบาย ในการได้ทรัพย์

ไม่ลักขโมย ไม่หลอกลวง ให้ได้มาซึ่งทรัพย์

 

คนชั่ว ชอบลักทรัพย์ ชอบของฟรี

ชอบทำให้คนอื่นเสียทรัพย์โดยที่เขา

ไม่เต็มใจ ใช้อุบาย เล่ห์เหลี่ยมหากิน

หาประโยชน์ ในทางผิดกฏหมาย ศีลธรรม

 

3.คนดี ไม่ละเมิดศีลข้อ 3 ไม่หมกมุ่นในกาม

คนชั่ว ชอบแย่งชิงคนรักของผู้อื่น หมกมุ่น

ในกาม ละเมิดคนรัก คู่ครองผู้อื่น

ฝักใฝ่แต่เรื่องการสมสู่ลามก

 

4.คนดี จะมีวาจาจริง ไม่โกหก ไม่เพ้อเจ้อ

ไม่ใส่ร้าย ป้ายสี ไม่ชอบนินทา มีวาจาจริง

ไม่พูดคำหยาบ

 

คนชั่ว

มักโกหก หลอกลวง เพ้อเจ้อ ไร้ความรับผิดชอบ

ต่อคำพูด ข้อเขียน หยาบคาย ใส่ร้ายผู้อื่น

พูดไม่อยู่กับร่องกับรอย สร้างความแตกแยก

โดยใช้วาจา การเขียน เป็นเครื่องมือประกอบกรรม

 

5.คนดี ไม่ดื่มเหล้า เครื่องดองของเมา

คนชั่ว ดื่มเหล้า เครื่องดองของเมา สิ่งเสพติด

 

อันนี้

เบื้องบนท่านให้เอา

ศีล 5 มาแยกคน

 

แล้วการเป็นคนดี

ต้องไม่กลัว คนชั่วจะไม่รัก

 

เมื่อไหร่ที่

คนชั่วชม พึงรู้ไว้ว่า

เราต้องชั่วเหมือนเขา เขาจึงชม

 

เมื่อไหร่ที่

คนชั่วด่า จงภูมิใจว่า

เราเป็นคนละพวกกันแน่นอน

 

บางคน

พอมีคนด่า โอ้ยน่าสงสาร

เศร้าใจทุกข์ใจ

 

ก็ทำไมอยากให้

คนชั่วชมนักหนาเล่า

 

ทำความดี

ก็กลัวคนด่า

 

อ้าว

ถ้าโลกนี้มันมีแต่คนดี

เท่ากันหมด เราจะมานั่ง

ฉุดช่วยคนกันทำไม

เราก็คงต่างคน ต่างไปนิพพาน

แล้วละซี

 

พระพุทธเจ้า

ทรงตรัสว่า

 

คนดี ย่อมเห็น คนดี ว่าดี

ย่อมเห็นคนชั่ว ว่าชั่ว

 

ส่วนคนชั่ว

ย่อมเห็นคนชั่ว ว่าดี

ย่อมเห็นคนดี ว่าชั่ว

 

ดังนั้น

ทุกคนจงสำรวจตัวเองดู

 

ว่า

เรานี่ มีคนดีชม

หรือ ว่า มีคนชั่วชม

 

ถ้ามีคนชั่วชม

ให้พิจารณาตัวเองให้จงหนัก

ว่าเราเข้าข่าย ชั่ว มั่วอบายเหมือนเขา

 

เมื่อไหร่

มีคนชั่วด่าว่า

นั่นแหละ สัญญาณ

ของความดี แผ่รัศมีมากแล้ว

 

ถ้ายังไม่มีคนชั่วด่า

ให้พิจารณาตัวเองได้เลยว่า

ความดี ยังมีน้อยนิดเต็มที

ต้องรีบเร่งทำความดี

ให้มีคนชั่วด่า

ให้จงได้

 

คนไม่ดีจริง

ไม่ดัง ไม่เด่นจริง

คนชั่วจะมาสนใจทำไม

จะมาด่า ทำไม

เขาต้องกลัว ความดีของเรา

ซึ่งเขาทำไม่ได้เหมือนเรา

เขากลัวความดีเรา

จะไปทำลายล้าง ความชั่วของเขา

เขาจึงเดือดร้อน

 

ถ้าเราทำดีแล้ว

ไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อน

ให้ใคร

 

แต่มีคนเดือดร้อน

นั่นแสดงว่า สิ่งที่เขาทำนั้น

มันได้รับผลกระทบ

จากการทำความดีของเรา

 

เช่น

คนขายยาบ้า ค้ากาม

ขายหวยเถื่อน ทำผิดกฏหมาย

เขาย่อมไม่ชอบ

ให้ใคร ที่มีคนศรัทธา

แล้วบอกอะไร ให้ใครทำดีตาม

ก็ทำ

 

เขารับไม่ได้

มันเสียผลประโยชน์

มันกระเทือนรายได้ไงจ๊ะ

 

ดังนั้น

เมื่อตั้งใจจะเป็นคนดี

จงมองไปที่พระพุทธเจ้า

ทำไมท่านทำดี บริสุทธิ์ผุดผ่อง

โดยไม่ต้องเกรงใจใคร

 

ส่วนพระเทวทัต

ก็ทำชั่ว โดยไม่ เกรงกลัวบาป

 

แล้วสุดท้าย

เป็นยังไง ใคร อยู่ไหน

 

ถ้าความชั่ว

มันให้ผลดีจริง

ทำไม คนชั่ว จึงหลบ

อยู่ในมุมมืด ทำชั่วทำไมแอบทำ

 

ทำไมคนชั่ว

ที่ชั่วกันสุดขั้ว มีหน้าไหนบ้าง

ที่กล้าเปิดเผยตัวตน

ที่แท้จริง

 

แล้วอย่างนี้

คนที่เฉย ไม่เปิดเผยตน

 

จะจัดอยู่ในข่าย

คนแบบไหน

กันแน่

นะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-04 00:34:56


ความคิดเห็นที่ 77 (142867)

พ่อใหญ่ธนา

อย่าไปหนักอกหนักใจ

กับใครเขานักเลยจ้า

 

ตอนนี้

พ่อใหญ่ธนาอย่าลืมนะ

ว่า

มีภาระกิจ ตามหา คนที่ มีสัญญากันมา

ไม่ใช่มีหน้าที่ เคี่ยวเข็ญ คนที่

ไม่มีสัญญามากับเรา

 

คนที่มีสัญญาเดิมมา

พอเจอกัน พอเห็นปัญหา

มันรู้หน้าที่ขึ้นมาเอง

เรียกว่า

สัญญาเดิมมันปรากฎ

 

เราต้องตามหา

เพื่อนร่วมสัญญากับเรา

ซึ่งอยู่กัน กระจัดกระจาย ทั่วไป

ไม่ใช่แค่กระจุกอยู่บ้านสวน

 

ดังนั้น

ขอให้พ่อใหญ่

มองใหม่ พิจารณาใหม่

นะจ๊ะ

 

ว่า

คนที่มาบ้านสวน

ก็มีทั้ง

คนที่มีสัญญา และ ไม่มีสัญญา

 

คนที่มีสัญญา

จะกระโจนเข้าหา ภาระกิจ

ทันที ที่เห็น มันจะคิดขึ้นมาได้เอง

ไม่ว่า ปัญหาได กิจกรรมใด

มันจะเกิดแรงผลักดัน

จากจิตใต้สำนึกเอง

 

ส่วนคนที่ไม่มีสัญญา

อันนี้ เราต้องเข้าใจเขาด้วย

มันคิดไม่ออก คิดไม่ได้

ไม่ต้องเคี่ยวเข็ญ

เสียเวลา

ให้พ่อใหญ่ธนา ตัดทิ้งเลย

 

เดินหน้า

หาคนที่ใช่ แล้วฉุดช่วย

ให้ทันเวลา เท่านั้นพอแล้ว

 

ลองสังเกตดูเถอะ

ตอนนี้ ทุกอย่าง เข้มข้นหมด

กระแสการรวมตัว

ของคนดี และ คนชั่ว จะรุนแรง

และชัดเจนขึ้นทุกวัน

 

คลื่นพลังงานเดียวกัน

จะดึงดูดไปหากัน

ไปรวมกันเอง

 

ดังนั้น

พ่อใหญ่ไม่ต้องกังวล

คนที่มาบ้านสวน

ถ้าใช่ ยังไง ก็ต้องมีหน้าที่สำคัญ

 

ถ้ามาตั้งนานแล้ว

ยังจับจด ไม่เป็นโล้เป็นพาย

เอาดีอะไรไม่ได้

เดี๋ยวเขาก็ไปเอง

หรือถ้าไม่ไป เราก็ต้องเชิญไป

 

ถ้าคนที่ใช่

คนที่อธิษฐานมาทำหน้าที่

ร่วมกัน

จะจริงจังกับหน้าที่

จะมีความรับผิดชอบเอง

โดยไม่ต้องบอกซ้ำ

 

มันจะมีความ

โดดเด่น ขึ้นมาเอง

 

โดดเด่น

ไม่ใช่แอบแฝง

 

แอบแฝง

มันแฝงได้ไม่นานหรอก

 

ทำไม

อ.อุบล ยอมรับเชิญ

เพราะยังมีคนที่ใช่ อีกมากมาย

เห็นไหม เราประมาทเด็ก

วัยรุ่น ที่ทำผิดศีล ทุกข้อ

ที่ไหนได้ เค้ากลับใจ

ใน 2 ชั่วโมง

 

ถ้าคนจะใช่

ไม่ต้องเวลาเป็นเดือน

เป็นปีหรอกนะ

 

1 ชั่วโมง

หรือ 1 นาที ก็บรรลุธรรมได้

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-04 00:54:05


ความคิดเห็นที่ 78 (142868)

21 ธันวา 55

เหลือเวลาอีกกี่เดือนนะ

พ่อใหญ่ธนา

 

อ.อุบล

ตัดสินใจแล้ว

ว่า

จะไม่ทำภารกิจเพื่อ

ไม่ให้ภัยพิบัติไม่เกิด

 

แต่จะเปลี่ยนเป้าหมายใหม่

 

คือ

จะทำภารกิจเพื่อ

ค้นหา เฉพาะ คนที่ใช่

คนที่สมควรรอด

ได้เท่านั้น

 

และ

การจะมานั่งเคี่ยวเข็ญ

คอยบอกตอกย้ำ

ซ้ำซาก จะไม่มีอีกต่อไป

 

อะไรที่อยากรู้

ต้องคอยดู คอยเดา เอาเอง

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-04 01:00:05


ความคิดเห็นที่ 79 (142869)

กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาทุกธรรมทานจากท่านอาจารย์อุบลและทุกท่านค่ะสาธุ 

ได้นำเรื่องนักศีกษาที่ฆ่าคนกว่าร้อยกว่าพันคนไปเล่าและเขียนต่อค่ะ

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

อ่านเรื่องการเพิกเฉย ทำให้นึกถึงธรรมทานอันเก่าที่ท่านอาจารย์เขียนค่ะ เกี่ยวกับความหมายของการอุเบกขา

ว่าที่จริงเราควรมีใจเมตตา ช่วยเหลือผู้ที่มีทุกข์ ผู้ที่ทำผิด ตามกำลังที่เราจะสามารถช่วยได้

เมื่อเราทำด้วยกำลังใจเต็มแล้ว แต่เค้ายังมีทุกข์นั้นๆอยู่ ยังไม่กลับตัวกลับใจมาทำดี ก็ให้ถือว่าเป็นกรรมของเค้า 

นี่คือการอุเบกขา แล้วก็ถ้าจำไม่ผิด เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณบอกผ่านท่านอาจารย์ว่า

คนที่กำลังใจไม่เต็ม นิ่งเฉยขาดเมตตา ไม่กล้านำธรรมะของพระพุทธเจ้ามาช่วยเหลือบุคคลอื่น

หากรอดจากภัยพิบัติ ก็มีสิทธิ์ที่จะพิการ อวัยวะไม่ครบ นิ้ว แขน ขา ขาด ...

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

ขวัญก็เพิกเฉยมามาก

ซึ่งคงมีผลทำให้เมื่อก่อนปวดหัวไมเกรน

* ตอนเรียนมัธยม งกความรู้ ไม่แบ่งปันเพื่อน ทำเฉยหลายครั้ง ซึ่่งคิดว่าทำให้มีปัญหาเรื่องเรียนมากตอนเรียนป.ตรี แต่ปกติแทบไม่เจอเพื่อนงกความรู้ใส่เรา กฏแห่งกรรมแสดงผลได้หลายแบบจริงๆ

* เห็นผู้จัดการร้านอาหารใช้ไม้ตบแมลงวันตายหลายตัว ขวัญก็ นั่งมอง คิดว่าจะห้ามหรือไม่ห้ามดี เป็นเพราะอกุศลกรรมที่ขวัญทำมามากปิดกั้นปัญญาให้อายที่จะพูด แต่คุณพ่อที่นั่งข้างๆขวัญพูดเลยทำให้เค้าหยุดทำ 

* เอาเวลาว่างไปดูหนัง เที่ยวไร้สาระ แทนที่่จะเอาเวลาไปอยู่เป็นเพื่อนคุณย่าที่เป็นอัลไซเมอร์ คุยธรรมะ เปิดเสียงธรรมให้ฟัง (เคยบอกให้คุณย่าพูดว่าอาจารย์อุบลช่วยด้วย ผลคือคุณย่าอารมณ์ดี ยิ้มใหญ่เลย) หรือเอาเวลาไปเขียนธรรมทาน สร้างบุญให้มากเพื่อช่วยชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ช่วยให้ภัยพิบัติโลกเบาบางลง ฯลฯ

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ (krongkwanw-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-04 02:11:31


ความคิดเห็นที่ 80 (142870)

กราบขอบพระคุณธรรมทานจากท่านอาจารย์ค่ะที่ช่วยเตือนสติหนู

หนูไม่ตั้งใจรักษาศีลจริงจัง คงเป็นบัวเหล่าที่ 3 ที่ต้องฟังธรรมซ้ำหลายครั้งถึงจะเข้าใจแล้วนำไปปฏิบัติค่ะ

อ่านธรรมทานการแยกคนดีคนชั่วด้วยศีล ทำให้ได้สมาทานศีล วันนี้ยังไม่ได้สมาทานศีลเลยค่ะ

* ทุกวันนี้ยังขาดเมตตา ยังมีความไม่พอใจ ชอบนิ่งเฉย แม้แต่เห็นคนโกรธ ยังไม่ช่วยให้เขาคิดเลิกโกรธเลยค่ะ 

* มีมโนกรรมคิดเขียนข้อความเท็จ แต่เปลี่ยนใจไม่เขียนค่ะ 

* เพื่อนถามว่ามีเรื่องอะไรนินทาบ้าง แทนที่จะบอกว่าไม่ดี กลับบอกว่าตอนนี้ยังไม่มี เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปเจอเพื่อนหลายคนคงมี 

* ยังมีเผลอพูดใช้คำไม่สุภาพแทนเราและแทนอีกฝ่ายเล็กน้อย และมีมโนกรรม วจีกรรมเพ้อเจ้อ ไร้สาระ

ผู้แสดงความคิดเห็น ครองขวัญ วงศ์ดีประสิทธิ์ (krongkwanw-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-04 02:33:21


ความคิดเห็นที่ 81 (142871)

คนที่มีสัญญา

จะกระโจนเข้าหา ภาระกิจ

ทันที ที่เห็น มันจะคิดขึ้นมาได้เอง

ไม่ว่า ปัญหาได กิจกรรมใด

มันจะเกิดแรงผลักดัน

จากจิตใต้สำนึกเอง

--------------

กราบท่านอาจารย์

ผมขอน้อมรับดำเนินภาระกิจนี้

อย่างเปิดเผยเท่าที่กำลังตนมี

กราบ กราบ กราบ

ทุกๆ พระองค์

-------------

หมดเวลาแล้วจริงๆ

ช่วยกันสำนึกหน้าที่ให้เร็วไว

ใครอยู่องค์กรใด

ยังความเจริญ

ในธรรมให้เกิดขึ้นโดยเร็วพลัน

ด้วยการเปลี่ยนจิต

เปลี่ยนใจของเราเอง

ทำให้เค้าเห็นเป็นตัวอย่าง

ได้แค่ใหนไม่ว่ากัน

ตามบุญกรรม

ที่ทำมา

สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น เกียรติศักดิ์ โพธิ์อุ่น (kiattisp-at-scg-dot-co-dot-th) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-04 04:27:06


ความคิดเห็นที่ 82 (142872)

 กราบอนุโมทนาธรรมทานจากอ.แม่และทุกๆท่านด้วยค่ะ

ทุกเหตุการณ์เบื้องบนท่านจัดสรรค์มาแบบลงตัวมากๆเลยค่ะ

และเป็นวิธีที่รวดเร็วและสามารถเปลียนผู้คนได้ในเวลาอันรวดเร็วแน่ๆค่ะ

ต่อจากนี้อ.แม่และจิตอาสาทุกๆคนคงจะเหนื่อยกว่าที่เป็นอีกหลายเท่า

เพราะดูจากภารกิจแต่ละอย่างแล้ว

ทั้งผู้บรรยายธรรม+ผู้รับ คงต้องใช้กำลังใจที่สูงมากๆ

ตั้งแต่งานของหลวงพ่อเสงี่ยม - บ้านไร่ปลายตะวัน - เด็กๆนักศึกษาที่จ.อยุธยา

ธรรมะของพระพุทธองค์ที่สื่อผ่านอ.แม่เริ่มกระจายขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ

โดยไม่เลือกชนชั้นวรรณะ แต่จะคัดเลือกจากจิตที่เปิด และสามารถรับธรรมได้ง่าย

เพื่อไม่ให้เสียเวลา และเน้นช่วยผู้คนให้ได้มากที่สุด

ซึ่งอ่านจากที่พี่ๆแต่ละคนเล่าแล้ว

รับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของผู้ที่ได้รับธรรมนั้น

คิดว่าเกินกว่าครึ่งแน่ๆค่ะ

อ่านแล้วก็พลอยดีใจกับภารกิจอันยิ่งใหญ่ของอ.แม่

และพี่น้องทุกคนที่ได้ไปร่วมในครั้งนี้จริงๆค่ะ

และยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความหมายของคำว่า

ผู้นำในยุคใหม่ เพราะ ณ ตอนนี้ ยังไม่เห็นมีใครเลยค่ะ

ที่จะสามารถช่วยเปลี่ยนจิต ความคิด การกระทำของผู้คน

ในระยะเวลาอันสั้น

นอกจากอ.อุบล บ้านสวนพีระมิด

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-04 04:39:50


ความคิดเห็นที่ 83 (142873)

   การเพิกเฉย

ที่เห็นคนทำผิด ทำบาป

เป็นกรรม ด้วยหรือไร

 

พระพุทธองค์

ต้องการให้พวกเรา

ทำอะไรกัน

 

ใครรู้ช่วยบอกที

 

นะจ๊ะ

เพราะคนที่เพิกเฉิย

ในสังคมไทย

ที่

 

ธุระไม่ใช่

มากมายเหลือเกิน

***

กราบอนุโมทนาค่ะอ.แม่

การเพิกเฉย บางทีก็เหมือนการเห็นแก่ตัว

เพราะกลัวคนอื่นไม่รัก คิดว่าไม่ใช่เรื่องของเรา

กลัวคนไม่ชอบ กลัวคนเกลียด

บางครั้งจึงทำให้เรา

ไม่กล้าที่จะบอกความจริง บอกสิ่งที่ถูกต้อง

ซึ่งเปรียบเสมือนเราไม่ได้ทำร้ายแค่ผู้อื่น

แต่เรากำลังทำร้ายตัวเองด้วย

เราต้องกล้าที่จะทำสิ่งที่ถูกต้อง

กล้าที่จะปกป้องคนที่เราบอกว่ารัก เคารพ ศรัทธา

พ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ของเรา

บุญเป็นเพียงปัจจัยสำคัญ แต่ไม่ใช่เป้าหมาย

เปรียบเทียบเหมือนน้ำมัน ที่ทำให้รถวิ่งได้

แต่ไม่ได้ทำให้รู้ว่ารถจะวิ่งไปทางไหน

หากเราไม่ตั้งใจไปในทางที่ถูกต้องจริงๆ

เพราะฉนั้นการเพิกเฉย เราอาจคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ

แต่ถ้าทำบ่อยๆ มันก็จะค่อยๆมากขึ้น

จนเราอาจจะไม่รู้ตัวเลยก็ได้

ว่าสิ่งที่เราเป็นอยู่มันยังห่างไกลจากสิ่งที่ถูกต้องจริงๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น นันทนา แหกาวี ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-04 05:03:38


ความคิดเห็นที่ 84 (142874)

การเพิกเฉย

ที่เห็นคนทำผิด ทำบาป

เป็นกรรม ด้วยหรือไร

 

พระพุทธองค์

ต้องการให้พวกเรา

ทำอะไรกัน

 

ใครรู้ช่วยบอกที

 

นะจ๊ะ

เพราะคนที่เพิกเฉิย

ในสังคมไทย

ที่

 

ธุระไม่ใช่

มากมายเหลือเกิน

..................................

กราบพระบาทพระพุทธองค์

และ กราบอนุโมทนาในธรรมทาน

จากท่านอาจารย์อุบลด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

 

 

การแสดงธรรมที่อยุธยาในครั้งนี้

นอกจากพระพุทธองค์ต้องการ

จะให้ทุกคนได้รับรู้ทั่วกันว่า

การเพิกเฉย ที่เห็นคนทำผิด ทำบาป

นั้นเป็น"กรรม"อย่างแน่นอนแล้ว

 

เบื้องบนคงจะแสดงให้พวกเราได้เห็น

"พลังใจ" ของน้องนักฆ่าหญิง

ที่พร้อมทำทุกอย่าง

เพื่อคนที่ตนรัก และ เคารพ

แม้ทางนั้นจะต้องเสี่ยงกับความตายก็ตาม

 

แต่...คนที่ได้รับการขัดเกลา

จิตใจมาแล้วอย่างลูกบ้านสวนฯ...

ต้องนำพลังใจที่ยิ่งใหญ่นั้น

มาใช้ในทางที่ถูกต้อง ถูกตรง

และสร้างสรรค์สังคม

 

พร้อมปฏิบัติภารกิจทุกอย่าง

อย่างเต็มใจ ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

หรือย่อท้อต่ออุปสรรค

 

ไม่ใช่ เอาความกล้าบ้าบิ่นที่มี

ไปทำร้ายคนอื่น ทำ้ร้ายสังคม

ซึ่งในที่สุดแล้วก็คือ

การทำร้ายตัวเองอย่างรุนแรงที่สุด

อย่างน้องนักฆ่า หรอกนะคะ ...

 

เพราะเห็นกฏของกรรม กันแล้วชัดๆ

โดยให้ผลสะท้อนกลับมา

แบบชัด ตรง เป๊ะ

แถมด้วยดอกเบี้ยอีกต่างหาก

ฉะนั้น อย่าเพิกเฉย เมื่อเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ครูบาอาจารย์และพี่น้องของเรา

ถูกใครเขาเข้ามาทำย่ำยี

ไม่ว่าจะในบ้านหรือนอกบ้าน

 

ถ้าเห็น...จงกล้าที่จะแสดงจุดยืน

และแสดงความคิดเห็นของเราไปตรงๆ...

การเพิกเฉย เป็นบ่อเกิดของปัญหาทั้งปวง

ไม่ว่าจะระดับครอบครัว สังคม

และประเทศชาติ

 

ถ้าเรา"เพิกเฉย"จนชิน แสดงว่า

เราเป็น นักสะสมปัญหา

หรือขยันหนีปัญหา

มากกว่าที่จะกล้าเผชิญหน้า

เพื่อแก้ปัญหา....

 

ส่วนชนิดาก็ สะสมปัญหามาแล้วจนชิน

เพราะเพิกเฉยมาแล้วไม่น้อยค่ะ

 

ทั้งเพิกเฉยต่อการเผยแผ่

รหัส"อ.อุบลช่วยด้วย"อย่างจริงจัง

เพิกเฉยต่อการทำความดี

ไม่มีความกระตือรือล้น

 

เพิกเฉยกับความทุกข์ของคนอื่น

ไร้ความเมตตา

 

เพิกเฉย ที่จะอธิบายถึงโทษ

ของการกินเนื้อสัตว์ต่อคนทั่วๆไป

 

เพิกเฉยต่อ ความโกรธ

ปล่อยใจ ไปตามยถากรรม

ฯลฯ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-04 07:02:58


ความคิดเห็นที่ 85 (142875)

พยายามที่จะแกะรหัสลับ

ที่ดูซับซ้อน ซ่อนเงื่อน

อย่าง"วันดีคืนดี" อยู่

แต่ก็ยังแกะไม่ออกอยู่ดี อิอิ

เดี๋ยวรอติดตามตอนต่อไปดีกว่า

 

เมื่อได้อ่านธรรมทานเพิ่มเติม

จากท่านอาจารย์ สิงห์ป้อม

และ น้องเอิ้น แล้ว เพิ่งทราบว่า

การไปแสดงธรรมครั้งนี้

 

เหมือนมีการจัดเตรียมสคริปต์

มาอย่างลงตัวมากๆ

ทั้งๆที่ไม่ได้มีการเตรี๊ยม

หรือ เตรียมตัวอะไรกันไปก่อนเลย

 

แต่เห็นการจัดเรียงเนื้อหา

และถ้อยความที่อาจารย์พูด

ในการแสดงธรรมแล้ว

เพอร์เฟคมากๆค่ะ

 

โดยมีเกริ่นนำ คำว่า"นักฆ่า" ไว้ก่อน

โดยมีหน่วยกล้าตายอย่างหนูไอซ์

ตามด้วยผู้นำในการทำผิดศีลคนอื่นๆ

ทั้งพี่อมร สิงห์ป้อม น้องเอิ้น

แต่ละคนเรียกเสียงฮือฮา

กลายเป็น"ฮีโร่" ในบัดดล

เพราะมาพร้อมกับความกล้า

และความสำนึกเต็มหัวใจ

 

งานนี้ ผู้ที่ได้รับการคัดเลือก

ให้ไปทำภารกิจอันยิ่งใหญ่นี้

ร่วมกับท่านอาจารย์

 

ต้องบอกว่า ทุกๆท่านทำหน้าที่

ได้อย่างงดงามจริงๆค่ะ

 

นอกจากจะเป็น

"นักแสดงธรรมทาน"

ที่ดีเยี่ยมแล้ว

 

ยังเป็นการฝึก"ละ"ตัวตน

ขั้นสูงสุดอีกต่างหาก

 

ชื่นชมค่ะ และซักวัน

จะเดินตามรอย...ทุกๆท่านให้ได้

 

กราบอนุโมทนากับท่านอาจารย์

และพี่น้องทุกๆท่านด้วยค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชนิดา เชิงสะอาด/CHANIDA ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-04 06:58:39


ความคิดเห็นที่ 86 (142878)

สังคมเสื่อมทราม

เพราะ คนที่คิดว่า ตนเองดี

ไม่มีความกล้าหาญ

 

ความทุกข์

ทุกชนิด ในชีวิตแต่ละคน

เกิดจากความอ่อนแอ

ของจิตใจ

 

อ่อนแอในที่นี้

คือความขี้ขลาดหวาดกลัว

ไม่กล้าเผชิญความจริง

 

ไม่มีภาวะผู้นำ

แต่อยากเป็นผู้นำ

 

ซึ่งลักษณะของคนอ่อนแอ

เวลาอยู่กับคนหมู่มาก

จะไม่กล้าแสดงออก

หรือ

จะแสดงออก เพื่อปกปิด

ความอ่อนแอเท่านั้น

 

แต่

จะกล้าหาญ

ในที่ลับตา เพื่อ สนอง

ความไม่กล้า ความหวาดกลัว

 

ถ้าทำอะไรแล้ว

มีคนรู้ว่าตนเป็นใคร ไม่กล้า

 

 

คนที่ก้าวร้าว คือ คนที่อ่อนแอ

 

คนที่เข้มแข็ง เขาเข้มแข็ง

ที่มีใจกล้าหาญ แต่เขาจะอ่อนโยน

ไม่ก้าวร้าว หยาบคาย

เขาจะเคารพตัวเอง

ให้เกียรติตัวเองก่อน เป็นอันดับแรก

 

ซึ่งการเคารพตัวเอง

ก็คือ

การกระทำที่ตนเองรู้ผู้เดียวนั้น

ก็ยังเป็นการกระทำที่

สุภาพ อ่อนโยน

 

ส่วนผู้ที่คิดว่า

ตนเอง ดี หรือ ไม่ดี ก็ตาม

แต่ขาดความเชื่อมั่น

ขาดความกล้า

 

ลองคิดดูสิว่า

วันหนึ่ง ถ้าคุณต้อง เผชิญปัญหา

คุณจะเอาอะไรไปต่อสู้

กับปัญหา

 

หรือว่า

พอเจอปัญหา ก็หนี

 

ถ้าเป็นปัญหา

ของเราเอง เราจะหนีได้ไหม

 

พวกที่ชีวิตมีปัญหา

เพราะ

เป็นคนเพิกเฉย ดูดาย ในปัญหา

ของส่วนรวม

 

กรรม

จึงย้อนไปให้คนนั้น

ต้องเจอปัญหาส่วนตัวดูบ้าง

เพื่อให้

คิดให้ได้ว่า ทำไมเรามีปัญหา

แล้วจะหาใครช่วยแก้

 

ถ้าคนที่

ร่วมแก้ปัญหากับ

ผู้อื่น ผู้มีพระคุณ ส่วนรวม

 

รับรองว่า

ถึงเวลา ที่ตนมีปัญหา

จะมีคนยื่นมือเข้ามาช่วย

หรือไม่ก็

มีทางคลี่คลายเองเร็วพลัน

ด้วยอาณุภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยช่วย

 

เสด็จพ่อองค์อินทร์

ท่านเป็นท้าวตรีเนตร

หรือ

มีดวงตา ที่ 3

มีพระราชอาสน์ที่อ่อนนุ่ม

 

เมื่อใดที่คนมีบุญ

หรือคนดี ได้รับความเดือดร้อน

เก้าอี้ของท่านจะแข็ง

ขึ้นมาเอง

แล้วท่านจะทราบโดยพลัน

 

เสด็จพ่อองค์อินทร์

ก็จะใช้ตาที่ 3 เล็งแลลงมาดู

แล้วก็จะหาทางช่วย

คนมีบุญนั้นทันที

 

แต่ถ้า

คนทำบุญ แต่ใจดำ

ท่านก็ถือว่า เป็นคนที่แค่

ทำบุญ และ ทำบาป

ยังไม่จัดว่า

เป็นคนดี เป็นคนบุญ

ที่พระอินทร์ต้องหาทางช่วย

 

โม้ซะยาว

สรุปดีกว่านะตัวเอง

 

คนที่ช่วยคนอื่นเสมอ
(เลือกเนื้อนาบุญที่จะช่วยด้วยนะ)

 

เมื่อถึงครามีปัญหา

ก็จะมีผู้มีกำลังเหนือกว่า

มาช่วยเสมอ

 

ส่วนคนที่

ไม่มีน้ำใจเสมอ

นิ่งดูดายเสมอ เมื่อมีปัญหา

ก็จะไม่มีใครช่วย

ต้องเดียวดาย

 

หรือใครที่คิดช่วย

ก็มีแต่คนไม่มีกำลังความสามารถจริง

มาช่วย ก็เหมือน มาซ้ำเติม

ซะมากกว่า

 

ดังนั้น

ทำความดี ต้องมีปัญญา

ต้องรู้ว่า

กฎของกรรม มีจริงจริง

 

เราอยากเดียวดาย

หรือ

อยากมีคนคอยคุ้มภัยตลอด

ก็เลือก

ปฎิบัติกันเอาเองนะจ๊ะ

 

ไปละนะตัวเอง

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-04 09:10:19


ความคิดเห็นที่ 87 (142880)

ตอนนี้

คุณบุญศิริ

ไปเมกา และ ญี่ปุ่น

พยายามชวน อ.อุบล ไปญี่ปุ่น

-------------

พวกเราจำที่

คุณพ่อ ดร.อาจอง บอกได้ไหม

ว่ายังไง

เรื่องไปญี่ปุ่น

 

เราเคยเห็นมาแล้ว

ภัยพิบัติที่เกิดในญี่ปุ่นเป็นไง

 

เราเห็นภาพทาง ที.วี.

ที่น้ำกวาดทุกสิ่งทุกอย่างลงทะเล

 

เราดูกันเหมือนดูหนัง

เพราะมันไม่ได้เกิดกับเรา

 

ถ้าเราเพียงลองคิดเล่นๆ

ว่า

ถ้าบังเอิญ เราอยู่ในบ้าน ในรถ

ที่กำลังถูกน้ำกวาดต้อน

ลงทะเล เราจะเป็นไง

เราจะทำไง

 

อ้อ

จะไปทำอะไรได้

 

ต้องถามแค่ว่า

เราจะเป็นยังไง สภาพจิตใจ

ตอนนั้น  เราต้องตาย แน่ๆ

 

เรามีเวลากี่นาที

ก่อนหมดลมหายใจ

เราจะคิดทันไหมว่า

จะท่องคาถา หรือ ใช้รหัส

หรือจิตจับพระพุทธเจ้า ณ เวลานั้น

 

เคยถามหลวงพ่อเสงี่ยม

เรื่อง

คนที่มาตายพร้อมกัน

เช่น สึนามิ เครื่องบินตก

แผ่นดินไหว เพราะอะไรคะ

 

หลวงพ่อบอกว่า

เคยทำกรรมร่วมกันมา

 

ตอนนั้น นึกภาพไม่ออก

เลยถามหลวงพ่อว่า

อย่างพวกเจอสึนามิเนี่ย

ทำกรรมใดร่วมกันมา

 

หลวงพ่อบอก

ล่าสัตว์น้ำเหมือนกัน

 

พวกยากจน

ที่ไปเกิดในดินแดนแร้นแค้น

เหมือนกัน หรือ เกิดในประเทศไม่แร้นแค้น

แต่มีบางคน บางพวก แร้นแค้น

เหมือนกัน กระจายกันอยู่

เพราะอะไร

 

เพราะพวกนี้

ทำกรรมเดียวกัน คล้ายกัน

แต่กระจายกันอยู่กระจายกันทำ

เช่น อิจฉา ทำลายความดี

ของคนทำดี

อันนี้ กรรมรวมตัวเลย

 

ถ้าคนดีนั้น

ทำดีหลายส่วน หลายเรื่อง

คนที่ทำร้ายคนดีนั้น

ต้องรับผลของกรรมหลายเรื่อง

เช่น

ถ้าคนดีนั้น เขารักษาศีล

คนทำลายเขา ถือว่า ทำลายศีล

ดังนั้น ต้องป่วย อัปลักษณ์

เจ็บปวดร่างกาย ไม่มีสภาพคล่อง

ทางการเงิน การงานติดขัด

จิตใจไม่สงบ เกิดความแตกแยก

ในครอบครัว สังคมรอบตัว

จนหาทางออกไม่ได้

 

เป็นต้น

 

อันนี้

อ.อุบล เป็นคน

ขี้สงสัย เหมือนพ่อใหญ่ธนา

แต่จะสงสัยมากกว่าพ่อใหญ่ธนา

แล้วก็จะ ถาม ถาม ถาม

จนหลวงพ่อคง

เวียนหัว

แต่

ท่านก็ตอบทุกคำถาม

จนกว่าจะหมดความสงสัย

 

ถ้าไม่หายสงสัยนะ

ถามอยู่นั่นแหละ บางคำถาม

ถามแล้วถามอีก

ถ้ายังไม่หายข้องใจ

หรือว่า

มีคำถามต่อเนื่อง

 

จน อ.มงคล ตั้งฉายา

ให้ อ.อุบล ว่า

ทนายความ และ ผงซักฟอก

 

สรุปดีกว่า

ว่า

คนไทย ต้องเจอ

บททดสอบหนักหน่วง

อย่างญี่ปุ่น

 

จึงจะหันมาสามัคคีกันได้

 

ส่วนคนที่กลับใจไม่ได้

ก็ต้องไปแค้นต่อ ในทะเลลึก

ไปทำศึกกับ

สัตว์ประหลาด ตัวเท่าลูกควาย

 

เอวังก็มีด้วยประการ

ละฉะนี้แล

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-04 09:26:25


ความคิดเห็นที่ 88 (142881)

 



หากแม้นพระองค์

ทรงเสด็จมาจริงในวันนี้

โปรดแสดงปาฎิหาริย์

ให้อาการปวดหัวของน้องคนนี้

หายทันที

ถ้าการเพิกเฉย

ที่มีเพื่อนมาปรึกษาว่า

จะทำแท้ง

แล้วไม่ห้ามปราม

 

เป็นกรรม

เป็นบาป เป็นเหตุให้ปวดหัว

ขอให้หายทันที ณ บัดนี้

ด้วยเทอญ สาธุ


**************

อ่านแล้วเกิดปัญญามากเลยค่ะ
ได้รู้ว่ากฎแห่งกรรมนั้น ละเอียดอ่อน
ไม่มีข้อยกเว้น ไม่มีทางหนีพ้น
ท่าน อ.อุบลพร่ำสอนเรื่องศีล
พวกเรามายาวนาน
กรรมที่เราสร้าง
มีทั้งกายกรรม วจีกรรม 
และมโนกรรม
 
ซึ่งมโนกรรมนี้เอง
เป็นกรรมที่ทุกคนทำได้ง่าย
ทำได้เอง ตำรวจไม่จับ ไม่ผิดกฎหมาย
แต่ให้ผลทุกข์ทรมาน
ทั้งร่างกายและจิตใจ
บ้างปวดหัว บ้างทุกข์ใจ
จนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่

หัวข้อข้างต้น
ทำให้เชื่อมโยงกับเรื่อง
การอนุโมทนาบุญ
เพียงมีใจพลอยยินดีกับผู้อื่น
ในการทำความดี
เราก็ได้รับบุญนั้นแล้ว 90%
ตรงกันข้าม
หากเรามีใจพลอยยินดี
กับผู้ที่ทำกรรมชั่ว
หรือเพียงการฟังเขาพูด
การร่วมวงนินทา
การได้ยิน ได้ฟังคนกำลังจะทำชั่ว
แต่เรานิ่งเฉย 
 
นั่นคือมีผลเท่ากับ
เราเห็นดีเห็นงาม
ในการทำชั่วของเขาไปด้วย
เพราะเรารู้ เราเห็น
แต่เราไม่ห้ามปราม
และยังถือว่าเราขาดพรหมวิหาร 4 ด้วย
คือขาดความรัก ความเมตตา
เห็นเขากำลังจะเดินลงนรก
ก็ปล่อยเขาเดินไป
โดยที่เรารู้ เราเห็น
แต่มิได้ห้ามปราม
ชี้ทางสว่างให้เขา
ถือว่าเราใจร้าย ใจดำมาก
 
เพียงเพราะคำว่า
เกรงใจ กลัวเขาไม่รัก
กลัวเขาเกลียดเรา
อาย ละเมิดสิทธิ ฯลฯ ต่างๆนานา

สังคมไทยทุกวันนี้
เห็นเรื่องการทำผิดศีล
เป็นเรื่องปกติธรรมดา
เห็นคนถูกทำร้าย
ก็ยืนดูไม่ช่วย 
เมื่อถึงคราตัวเอง 
ก็คงมีแต่คนยืนดู
ไม่มีใครช่วยเหมือนกัน
 
เราลองมาเปลี่ยนจิตสำนึกตัวเอง
คิดว่าเราจะรักคนอื่น
ทุกคนล้วนเกิดมามีกรรมเป็นของตัวเอง
เราจะช่วยเหลือ
เราจะรักเขา
ทีนี้พอเห็นอะไร
เราก็อยากจะช่วย
อยากจะเข้าไปถามไถ่
มาลองเปลี่ยนจิตกันไหมคะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ตุ้ย ศิริพร โฉมจันทร์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-04 12:19:06


ความคิดเห็นที่ 89 (142882)

ธรรมทาน

จาก

น้องนักศึกษา

ม.เทคโนโยยีราชมงคล

สุวรรณภูมิ อยุธยา

 

คนที่ว่า

ปวดหัว ทรมาน

เหตุเพราะ กรรม เพื่อนมาปรึกษา

เรื่องจะไปทำแท้ง แล้วเฉย

ไม่ห้าม ไม่ยุ ธุระไม่ใช่

ก็เลยต้องปวดหัว ตัวเอง ไปจนตาย

ถ้าไม่ได้เจอกับ อ.อุบล วันนั้น

เพราะเขาก็ทานยาแล้ว

ไม่หาย ได้แค่บันเทา แล้วก็ปวดอีก

 

แล้วพวกเราล่ะ

ที่ทุกข์ อุปสรรค หลายอย่าง

มันไม่บันเทา ทั้งที่ทำบุญตลอด

มีไหม ที่ปัญหาเรา ยังแก้ไม่ได้

แล้วลองคิดซิ

เราเคยนิ่งเฉยดูดาย ทั้งที่ปัญหา

บางอย่างหลายอย่าง

เราช่วยผู้อื่นได้

แต่ไม่ช่วย

 

ก็เลยต้องรับกรรม

ไปตามระเบียบ

 

เคยไหมที่

1.เห็นคนทำลายสถาบันชาติ

หลายรูปแบบ แล้วเฉย ไม่มีส่วนปกป้อง

เช่น

-เห็นใครทำสกปรก ก็เลย

นอกจากไม่บอก แล้ว ยังไม่ช่วยเก็บ

ไม่ช่วยทำให้สะอาดขึ้น ไร้ความรู้สึก

-เห็นคนพูดคำหยาบ

ก็ไม่บอกให้เค้ารู้ว่า ถ้ายังพูดต่อไป

คุณจะป่วยหนัก รักษาไม่หาย

ด้วยโรคร้าย อย่างมะเร็ง หัวใจ สมอง

เส้นโลหิตในสมองแตก

โรคเครียด จนควบคุมไม่ได้ ไม่มียาช่วย

 

คนที่เฉย ไม่ทำหน้าที่

ก็เท่ากับเห็นดี กับคำหยาบนั้น

ก็ต้องปวดหัว เป็นมะเร็ง รับกรรม

แบบที่เขาต้องรับไปด้วย

 

การบอกกล่าว

ไม่ต้องกลัวเขาเกลียดเรา

เพราะยังไง เราก็ไม่ได้ทำเพื่อหวัง

คำชมเชย เราต้องทำ

เพื่อให้เขาพ้นทุกข์ โดยไม่คำนึงถึง

ให้เขารัก เขาชอบ

 

เขารักเรา แต่เขา ต้องทุกข์

แล้วเราจะสะใจหรือ

 

สู้ให้เขา ไม่รักเรา แต่เขา

พ้นทุกข์ ดีกว่าไหม

ในที่สุด

 

เมื่อเขาพ้นทุกข์

เราก็มีความสุขไปด้วย

 

อย่าคิดถึงตัวเองมากเกินไปกันเลย

คิดมาตลอดชีวิตแล้ว

ชีวิตมีอะไรดีมั่ง

 

แล้วยังไม่เปลี่ยนวิธีคิด

วิธีทำอีกหรือจ๊ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-04 09:40:01


ความคิดเห็นที่ 90 (142883)

2.เคยไหมที่ เห็นคนทำลาย

สถาบันศาสนา ก์เฉย ไม่หาทางปกป้อง

ไม่หาทางช่วย

คนที่ทำลายศาสนา เพราะในที่สุด

ผู้ถูกทำลาย ไม่ใช่ศาสนา

อย่างแน่นอน

 

ศาสนา

ไม่มีวันถูกทำลาย

เพราะกฎของกรรม ใครทำลายไม่ได้

 

แต่คนที่ทำลายความดี

ย่อมเป็นผู้ถูกทำลายเอง

 

แล้วใครทำลายเขา

ก็ตัวเขานั่นแหละ ที่ทำลายตัวเอง

 

เราควรสงสารใคร

สงสารพระพุทธเจ้า หรือว่าจะสงสาร

คนเหล่านี้ ที่ด้อยปัญญา

ทำร้ายตัวเอง โดยไม่รู้ตัวเลย

คิดว่า

ที่ทำอยู่นั้น คือการทำร้าย

แค่เพียงผู้อื่น

แล้วตัวเอง ไม่ต้องรับผล

 

โถ

บางคนเฝ้าดูรายการ

เฝ้าดูธรรมทาน อ่านกระทู้

แต่ธรรมะ ไม่เคยซึม เข้าไปเลย

ผ่านแค่หู แต่ไม่เข้าในใจ

 

เห็นเหตุการณ์ใด

ก็เห็นไป แต่ฉันจะ ทำร้ายตัวเอง

 

ไม่เคยเฉลียวใจ

ไม่ฉุกคิดเลย ว่าเรา ทุกข์ไหม

ป่วยไหม จนไหม มีปัญหาชีวิตไหม

 

แล้วทำไม

คนอื่นที่เขาทุกข์อย่างเรา

เขาพ้นทุกข์กันได้

เราไม่อยากเป็นอย่างเขาบ้างหรือไร

หรือว่า

ซาดิส จิตต่ำ จนนิยม

แต่เคราะห์กรรม

จนชาชิน

 

ถ้าความชั่ว

มันทำให้ได้ดีได้

 

ก็ทำชั่วมาตั้งนานแล้ว

ทำไมไม่ได้ดีสักที

 

แล้วจากนี้

จะเดินไปทางไหน

 

ไปทางชั่วอย่างเดิม

หรือ

จะเดินทางใหม่

 

น้องนักศึกษาอยุธยา

ก็ทำชั่วมาอย่างยาวนาน

ผิดศีล ทุกข้อครบ

แต่

ได้รับธรรมะ อันงดงาม

เพียงเวลาสั้นๆ

เขาเปลี่ยนจิตใจ เขาพ้นทุกข์ได้

ในบัดดล

 

แล้วคนที่ แก่ กะโหลก กะลา

แก่อยู่นาน ไม่อายเด็กนักศึกษา

ม.เทคโนโยยี อยุธยา

กันบ้างหรือไร

 

ที่อยู่มานาน

เกิดนานกว่า แต่หาทางออก

ในชีวิตไม่ได้

 

ต่อไป

ควรจะไปกราบเท้า

นักศึกษา ม.เทคโนโลยี สุวรรณภูมิ

อยุธยากันดีไหม

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.อุบล ศุภาเดชาภรณ์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-04 09:56:31


ความคิดเห็นที่ 91 (142889)

การเพิกเฉย

ที่เห็นคนทำผิด ทำบาป

เป็นกรรม ด้วยหรือไร

 

พระพุทธองค์

ต้องการให้พวกเรา

ทำอะไรกัน

 

ใครรู้ช่วยบอกที

 

นะจ๊ะ

เพราะคนที่เพิกเฉิย

ในสังคมไทย

ที่

 

ธุระไม่ใช่

มากมายเหลือเกิน

..................................

   กราบแทบพระบาทพระพุทธองค์

และอนุโมทนากับธรรมทาน

ของท่าน อ. อุบล ด้วยค่ะ

อ่านแล้วโดนตัวเองเต็ม ๆ เลยค่ะ

เราไม่กล้าบอก  เพราะมองว่าตัวเอง

ก็ยังเอาตัวไม่รอด แล้วจะไปบอกคนอื่น

ได้อย่างไร  บางครั้งเราก็ยังทำผิดอยู่

ก็จะเลือกบอกเฉพาะบางคน

ที่คิดว่าพอพูดกันรู้เรื่อง

ถ้าย้อนกลับมาพิจารณาความคิดของเรา

ก็จะรู้ว่าเรายังเห็นแก่ตัวมาก 

เรายังขาดเมตตาต่อผู้อื่น

เรายังขาดกำลังใจที่สูงส่ง

ที่บอกว่าจะขอทำหน้าที่

ในการปกป้อง  3  สถาบัน

เพียงแค่นำธรรมะ  ที่เราได้รับรู้

จากบ้านสวน  มาบอกกล่าว

เรายังไม่มุ่งมั่นเลย  ปล่อยมันไป

ตามยถากรรม 

     ได้อ่านธรรมทานจากท่าน อ. อุบล

และทุกท่านที่ได้ไปร่วมปฏิบัติหน้าที่

ร่วมกับท่าน อ. อุบล แล้ว

รู้สึกว่าตัวเองแย่มาก ๆ  ทำตัวไม่เหมาะ

กับที่เรียกตัวเองว่า  "ลูกบ้านสวน" เลยค่ะ

นับแต่วินาทีนี้  จะเห็นแก่ตัวน้อยลง 

จะรักคนอื่นให้มากกว่านี้

สาธุ   สาธุ  สาธุ

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ฉวีวรรณ นภาพรรณราย (ตาล) (cha2508-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-04 11:46:45


ความคิดเห็นที่ 92 (142892)

ขอย้อนกลับไปเรื่องที่ท่านอาจารย์เล่าถึงญาติของอาจารย์ที่เป็นนักการเมืองใหญ่ แถมเป็นคนจริง ยิ่งอ่านยิ่งรู้เลยว่าท่านของจริงล้านเปอร์เซ็นต์ บอกแล้วไม่เชื่อ จัดการขั้นเด็ดขาดเลย ฆ่าแล้วไม่หนีอีก

ยิ่งอ่านเรื่องที่ท่านอาจารย์รู้จักกับมือปราบปืนทอง และอีกหลายๆท่าน ยิ่งทำให้คนอย่างผมสงสัยอีกแว้ววว

คือผมอยากรู้จักประวัติท่านอาจารย์มากขึ้นแล้วสิครับ สงสัยอีกแว้วว..อยากรู้ง่ะ ว่าท่านอาจารย์ทำงานไรที่นอกเหนือจากช่วยผู้คนให้พ้นทุกข์อีกหรือเปล่าก๊าบเนี่ย และนอกเหนือจากนี้ท่านอาจารย์ยังรู้จักใครอีกเนี่ยก๊าบบ ยิ่งอ่านหัวใจอยากจะหยุดเต้น เพราะตื่นเต้นแทน...

อ้อ ผมยังรู้มาอีกว่าที่ผ่านมานี้มีพวกนักสืบราชการลับ หรือนักข่าว พากันมาหาท่านอาจารย์ อืมมมม...สงสัยเจงๆว่าเขามาหาท่านอาจารย์ทำไมกัน และทำไมเขาถึงรู้จักท่านอาจารย์กันมากมายแบบนี้ล่ะครับ มาคุยเรื่องอารายยกันนะ?

 

โอ้ ผมก็ปากดีไป ถามไม่ดูกาลเทศะเอาซะเลย หากสิ่งใดที่ผมเรียนถามเป็นการล่วงเกินหรือเป็นความลับที่ไม่สมควรถาม ผมก็กราบขออภัยท่านอาจารย์มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

 

ก็ท่านอาจารย์เล่นเล่าให้ฟังซะแบบลูกหลานหยุดอ่านไม่ได้แล้ว ผมก็ชอบสงสัยก็อยากถามง่ะก๊าบ

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-04 12:45:47


ความคิดเห็นที่ 93 (142893)

ขออีกสักข้อนะครับ อิอิ

ไหนๆก็ถามแว้ว ขออีกสักชุดหนึ่งก๊าบ

คืออย่างที่พวกเราเห็นๆกันแหละครับว่า นักเรียน นักศึกษา จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ เขาได้เห็นปาฏิหาริย์ที่เกิดกับตัวเอง คือหายจริง มีความสุขจริงแบบฉับพลันเลย

เรียกว่าเมื่อก่อนน้องๆเหล่านี้คงไม่เชื่อว่าบาปบุญ นรก สวรรค์มีจริง ตอนนี้คงเชื่อกันสุดหัวใจแล้ว

แต่ในทางตรงกันข้าม กลุ่มคนที่ปรามาสท่านอาจารย์อุบล คิดร้ายและคอยทำลายท่านอาจารย์ ซึ่งตอนนี้คิดว่าหลายๆคนคงมีชีวิตที่ทุกข์สาหัส เริ่มเจ็บป่วย มีปัญหามากมาย แต่เขาคงไม่รู้ว่าเกิดจากการคอยจ้องทำลาย ปรามาสท่านอาจารย์

แม้ว่าเขาเหล่านั้นจะไม่รู้ โดนหลอก หรือไม่ใช้ปัญญาไตร่ตรอง เชื่อคนชั่วก็ตามแต่ แต่สุดท้ายก็ต้องทุกข์หนักและอาจเสียชีวิตในเวลาต่อมาเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนให้พวกเราเห็นตัวอย่างมาแล้ว

หากพวกนี้มาหา

ท่านอาจารย์อุบล

เพราะเป็นโรคร้ายใกล้ตาย

ชีวิตทุกข์แสนสาหัส

หมดหนทางเยียวยา

และเริ่มรู้แล้วว่าเป็นเพราะ

คอยคิดทำลายและปรามาส

ท่านอาจารย์อุบล

คำถามคือ ท่านอาจารย์

จะช่วยเขาเหล่านี้ไหม?

อยากรู้ที่สู๊ดดดดด....

ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา อรุณภิญโญพล ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-04 12:53:07


ความคิดเห็นที่ 94 (142895)

 บอกซิว่า

มีหลักฐานไหม

ว่า

อ.อุบล ไปกับใครบ้าง

++++++++++++++++++++++++++++

    อีกมุมและอีกอารมณ์ ผมได้เห็นครับ

 ทุกข์ที่สุดทำอย่างไรจึงจะหลุดได้

        มีคนปวดหัวที่ออกมาเพื่อออกมาให้ธรรมทาน มีจำนวน 6 คน

คนแรก นักฆ่าสาว ที่ต้องรับกรรมที่ตามสนองเธออย่างรวดเร็ว เคยประสบอุบัติเหตุ ก็จะมีอาการมือเก็งหงิกงอ ปากเบี้ยว หน้าผิดรูป ตาเหร่ มีสติรับรู้แต่ไม่สามารถควบคุมอาการเหล่านั้นได้ ด้วยอาการปวดหัวถึงขั้นผ่าตัดสมอง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่หาย บางครั้งที่ผ่า ผ่าแล้วหาอะไรไม่เจอ เจ็บตัวฟรี ก็มี และผ่าตัดแต่ละครั้ง มีโอกาสที่จะไม่ฟื้น เนื่องจากการผ่าตัดสมองอาจไปถูกเส้นประสาท ทำให้เสี่ยงที่จะเป็นอัมพาต และมีอาการเหมือนตอนประสบอุบัติเหตุตอนแรก

แรก ๆ เธอไม่ยอมที่จะบอกว่าเธอทำอะไรมาบ้าง ได้แต่โบกไม้โบกมือ จะไม่พูด  ถ้าเธอไม่พูด เธอก็จะต้องไปผ่าตัด ต้องจ่ายเงิน 120,000 บาท และต้องมีอาการที่เธอเคยเป็นมาแล้ว หลังจากที่เธอเห็นตัวอย่าง เพื่อน ๆ กล้าบอกสารภาพกรรมที่เคยทำมา แล้วปวดหัว เพียงสารภาพ อาการปวดหัวนั้นหายไปทันที  ทำให้เธออยากหายไม่ต้องการให้หมอผ่าตัด จึงเริ่มเปิดปากด้วย..... จริงแล้วหนูไม่ใช่คนดีเลย รักษาศีลไม่ได้สักข้อเลยค่ะ เคยก่อกรรม ตบตีผู้อื่นจนเสียชีวิต ด้วยอาวุธ ไม้มีด เหล็ก ขวด  มีคนตายมากกว่า 40 คน และไม่ตายถึงขั้นพิการ นับร้อย ที่สลบ อีกนับไม่ได้  

เธอได้รับโอกาสในการพิสูจน์กรรมกำลังเล่นงานเธอ ต้องผ่าตัดอีกเป็นครั้งที่ 5 ราวเดือนสิงหานี้  เธออาจจะไม่ฟื้นมาก็ได้ เพราะเคยทำให้คนอื่นเขาสลบ หรืออาจตาย เพราะเราเคยทำให้คนอื่นตาย และเธอก็ต้องตายเช่นกัน เธอก็เชื่อว่า บาปกรรมมีจริง   อาจารย์อุบลจึงให้ใช้รหัสอาจารย์อุบลช่วยด้วย ขอให้หนูหาย ไม่ต้องผ่าตัด และให้บอกต่อไปเรื่อย เรื่องกรรมที่หนูทำมา แล้วจะไม่กกลับไปทำอีก หนูจะหายเป็นปรกติ สาธุ

 

คนที่สอง ปวดหัว จนถึงสันหลัง เคยพาเพื่อน 2 คนไปทำแท้ง และนำเพื่อนอีก 2 คน เธอมีความทุกข์ทั้งกายและใจมาเป็นเวลานาน ทั้งที่รู้ว่าทุกข์ทั้งหมดนั้นมาจากการรู้เห็นการทำแท้งทั้งนั้น เธอทำบุญ รวมถึงการปฏิบัติธรรมวิปัสสนา อาการทุกข์ก็ยังไม่ดีขึ้น เธอมีทุกข์สารพัดเธอจะพูดอะไร เพื่อนจะไม่สนใจแถมยังถูกเหยียดหยามสารพัด อยากตอบโต้ ได้แค่ตัวสั่นทำอะไรไม่ถูก ดูเธอมั่นใจมากและกล้ายืนยัน กล้าสารภาพในบาปที่ได้กระทำมา ว่า นับจากนี้ต่อไป จะไม่กลับไปทำอย่างนั้นอีก จะรักษาศีล 5 ให้ได้

อาจารย์อุบล ชื่นชมเธอเป็นคนกล้าหาญ  เป็นแบบอย่างให้กับเพื่อน สร้างธรรมทานอันยิ่งใหญ่ และได้ขอบารมีพระพุทธเจ้า เพื่อพิสูจน์สิ่งที่เธอรู้เห็นการทำแท้งมีดวงจิตวิญญาณอาฆาตแค้นเกาะติดตามเธออยู่ ทำให้เธอปวดหัว และมีทุกข์สารพัด เธอไม่กล้าเข้าใกล้อาจารย์อุบลเธอบอกว่าเธอกลัว และขนลุก เป็นวิญญาณที่เกาะเกี่ยวมากับเธอต้องการรับบุญจากอาจารย์อุบล และมาอนุโมทนากับนักศึกษาที่พูดเรื่องการผิดศีลด้วยการทำแท้ง

หากสิ่งที่เธอทำมาเป็นบาป นั้นจริง ให้เธอหายในทันทีด้วยเทอญ  

หายค่ะ เธอบอกทันที ว่าหนูมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก หนูเชื่อว่านรกมีจริง พูดด้วยปิติสุขน้ำตาไหลพราก  เพื่อนๆ ก็สุดที่จะกลั้นน้ำตาไว้ได้เช่นกัน

 

คนที่สาม ปวดหัว เหมือนกัน เคยมดฆ่ายุงเป็นกองเลย  เคยตบหัวเพื่อนกระชากผมเพื่อน ได้พิสูจน์ว่า การกระทำอย่างนั้นทำให้ปวดหัวจริงและเป็นบาปจริงหรือไม  หากจริงขอให้หายทันทีด้วยบารมีของพระพุทธเจ้าทรงแสดงฤทธิ์ เธอหายทันที่ครับ

คนที่สี่ ปวดหัว ด้วยเคยทุบหัวปลา ตบหัวเพื่อน คิดไม่ดี เพียงสารภาพและกล่าวขอโทษเพื่อน ทุกคนที่เคยตบหัว จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ตัวเองปวดหัว  ก็หายอย่างอัศจรรย์

คนที่ห้า เพื่อนมาเล่าให้ฟังว่าจะไปทำแท้ง  แต่เธอไม่ได้ห้ามหรือบอกเตือนเพื่อน อ.อุบลได้ให้พิสูจน์การไม่ได้เตือนและห้ามคนไปทำแท้งว่าจะเกิดผลเช่นไรเป็นกรรมบาปติดตัวหนักหรือไม่อย่างไร ซึ่ง อ.อุบล ยกตัวอย่าง ครั้งสมัยพระเทวทัต ขอพระพุทธเจ้าให้พระฉันมังสวิรัติ พระพุทธเจ้าไม่อนุญาต ได้บอกถึงการกินเนื้อสัตว์แล้วเป็นบาป เช่น

-      ไม่ให้ฆ่าสัตว์ไม่ให้ฆ่ามนุษย์ เป็นอาหาร

-      ไม่ให้ฉันเนื้อสัตว์ที่ลงมือฆ่าเอง  

-      เห็นเขาฆ่าได้ยินเขาฆ่า แล้วไม่ห้าม แล้วกินอาหารที่ประกอบด้วยเนื้อสัตว์นั้น

ย้อมมาดูที่นักศึกษาที่ฟังเพื่อนพูดว่าจะทำแท้ง แล้วไม่เตือนหรือห้าม ทำให้ตัวเองปวดหัว เกี่ยวข้องกัน จริงหรือไม่ ให้พิสูจน์อย่างเป็นวิทยาศาสตร์

โดยการอัญเชิญบารมีพระพุทธเจ้า ขอพระองค์แสดงฤทธิ์ แม้ว่าคนอื่นไม่สามารถเห็นพระพุทธองค์ ด้วยตา  แต่ขอให้นักศึกษาคนนี้สัมผัสได้ด้วยใจ  ด้วยการหายจากอาการปวดหัวโดยฉับพลันทันทีด้วยเทอญ สาธุ

เธอตอบทันทีว่า... “หายค่ะ”  แสดงให้เห็นว่าการไม่ห้ามหรือเตือน คนที่กำลังจะทำบาปนั้น เป็นบาปอย่างมหันต์

 

คนที่หก บอกว่าชอบตบหัวเพื่อน หลายคน  ซึ่งเพื่อนไม่ชอบแม้ว่าจะตบหยอกล้อกันเล่น แล้วเธอได้บอกขอโทษเพื่อน ที่เคยตบหัว แล้วเธอจะไม่ทำอีก   อ.อุบล ชี้ให้เห็นทันทีว่า การตบหัวเพื่อน กับการปวดหัว เกี่ยวกันหรือไม่ ถ้าเกี่ยวกันขอให้เธอหายปวดหัวโดยทันที ด้วยการขอบารมีพระพุทธเจ้า ให้เธอผู้นี้สัมผัสด้วยใจ หายจากอาการปวดหัว เพื่อพิสูจน์ว่า ตบหัวเพื่อนแล้วทำให้ปวดหัว จริงหรือไม่ ถ้าหากจริง ขอให้เธอหายเป็นปลิดทิ้งด้วยเทอญ

เธอบอก...”หายค่ะ” เธอบอกขนลุก โล่ง

      สิ่งที่ประจักษ์แก่สายตานักศึกษาและคณาจารย์ทั้งหมด มองเห็นเพียงการเปลี่ยนแปลงด้วยลักษณะท่าทางการดีใจ ความกังวลใจ และคำยืนยันว่าหายค่ะ หายครับ แต่ความรู้สึกทางใจที่ ที่เป็นสื่อพระบารมี สมเด็จองค์ปฐมบรมบิดา สัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ประทานมาแด่ผู้มีศรัทธา  จิตเปิดรับรู้เห็นบาปที่ทำกรรมที่ก่อ ทุกข์เราเป็นเช่นไร ทุกข์ของคนอื่นก็เหมือนกับเราเช่นกัน

นักศึกษาทั้ง 6 คน ได้ออกมาเป็นผู้บอกเหตุของตนที่เป็นบาป แม้ว่าบางคนอาจไม่ใช่ผู้กระทำ โดยตรง อาจรู้เห็น หรือแม้แต่ เห็น ได้ยิน เพื่อนจะไปทำบาป แล้วไม่ได้ห้าม ทำเพิกเฉย ธุระไม่ใช่ ก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นกรรมจะต้องได้รับผลของกรรมเช่นกัน

อาจารย์อุบล บอกท่ามกลางห้องประชุมว่า อาจารย์อุบลไม่ได้มาคนเดียว มาด้วยบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ท่านประทาน บุญฤทธิ์แก้ว ที่พระพุทธองค์ทรงประทานให้ ทุกคนจะได้สัมผัสจริงด้วยใจ ด้วยการหายจากอาการที่เรากำลังทุกข์อยู่ แล้วทุกคนก็ได้พิสูจน์อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ด้วยการรู้เหตุของทุกข์ แก้ไขที่เหตุจึงดับทุกข์ได้ และเปลี่ยนแปลงตนเองทันที จะต้องรักษาศีลห้า ไม่ไปสร้างกรรมสร้างเหตุแห่งทุกข์อีก

กราบขอบพระคุณอาจารย์อุบล อาจารย์มงคล และคุณท๊อป ที่เป็นผู้เสียสละ เป็นผูสร้างโอกาสให้เราได้ประกอบความดี พิสูจน์กฎแห่งกรรม กราบขอบพระคุณด้วยความนอบน้อมต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำตัว รักษาอาจารย์อุบลทุกพระองค์ ได้แสดงปาฏิหาริย์ สามารถสัมผัสและพิสูจน์ได้จริงจริง  สาธุ กราบ กราบ กราบ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-04 13:48:55


ความคิดเห็นที่ 95 (142896)

 ลูกจ้าง... ที่คิดว่า วันนี้ วันดี

นางจ้างเผลอ ก็มือไว อยากได้

พอถูกจับได้..ก็แค้นฟังหุ่น

จับประเด็น นี่ นั่น อ้าง   เพื่อปกปิด กลบเกลื่อน

รอยแผลของตัวเอง    ที่ไหนได้..แผล ปูด ออกอีก

แหมๆๆ  ของปลอม  ของจริง    คนสัมผัส เค้ารู้กันเองจร๊า

ว่า   อันไหนเป็นทอง   อันไหน เป็นขี้อ่ะจ๊ะ

+++++++++++++++

 

เรื่องของวันและเวลาที่ดี  ที่เป็นวันดี

ตอมผมเป็นเด็กพ่อเล่าให้ฟังเสมอ พ่อผมปลูกแตงโมขาย มีลูกจ้างมาทำงานด้วยประจำอยู่ สามคน หนึ่งในนั้นเป็นคนที่นิสัยไม่ดี ชอบวางเครื่องมือทิ้งไว้ไม่เก็บ แล้วมีคนขโมยไป พ่อให้นอนเฝ้าแตงโมกำลังสุก แกรู้เห็นเป็นใจกับขโมย  อยู่นานไปพ่อสังเกตเห็นและจับได้ว่า เป็นคนลงมือขโมยแตงโมของพ่อไปขายเอง พ่อจะเอาเรื่อง แต่แม่ขอไว้สงสารแม่เขาแก่มากไม่มีคนเลี้ยงดู พ่อบอกว่าอย่าริเป็นโจร เที่ยวลักขโมยเขา สักวันอาจโดนจับหรือถูกฆ่าตายก็ได้ อย่าทำอย่างนี้กับใครอีก พ่อเลยไล่กลับบ้านไป  จะมีลูกจ้างที่มาขอทำงานด้วย เข้าออกอยู่เรื่อย ๆ บางคนก็ขยันขันแข็ง ซื่อสัตย์ อยู่นานๆก็มี

        ผมเป็นเด็กบ้านนอก อายุราว 9 ปี ไปดูลิเกอีกหมู่บ้านหนึ่งไกลออกไป 5 กม.  กว่าลิเกจะเล่น นอนหลับก่อน จนลิเกเลิกราว ตีสอง  มีคนมาปลุก เดินกลับบ้านไม่ถูก หลงทางเดินตามทางกับความมืดจนสว่างไม่เห็นบ้านสักที่ เลยนั่งพักหมดแรงใต้ร่มไม้

บังเอิญมากคนที่ เป็นลูกจ้างพ่อ คนที่เคยขโมยแตงโมพ่อไปขาย มาเห็นผมเข้า เขาจำได้ เขาดูแลผมอยู่ สองวัน จึงพาผมให้กลับบ้าน พ่อแม่ผมดีใจมาก และขอบคุณเขา ที่เขาเป็นคนดีไม่เจ้าคิดเจ้าแค้น กลับตัวกลับใจสำนึกได้ว่าตัวเองก็ผิดจริงที่ลักขโมยของคนอื่น เป็นสิ่งที่ไม่ดีไม่สมควรทำ  และเขาก็ขอบคุณพ่อเช่น กันที่ทำให้ข้าวปลาอาหารที่พักอาศัย ได้เรียนรู้วิธีการปลูกแตงโมเป็นอาชีพติดตัว ตลอดจนได้รับคำบอกสอนของพ่อให้เป็นคนขยันหมั่นเพียรซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น  

 พ่อจะสรรเสริญเขาคนนี้ตลอด  จะพูดให้ลูกจ้างใหม่และลูกค้ามาซื้อแตงโมฟังบ่อยๆ ว่าเป็นคนกตัญญู รู้คุณ แม้ว่าครั้งหนึ่งจะเป็นขโมยของนายจ้างแล้วถูกจับได้ กลับตัวกลับใจเป็นคนดี จนผมนี้จำได้ไม่ลืมกระทั่งทุกวันนี้

หากผู้มีสันดานหยาบ เห็นแก่ได้มูมมาม ชอบลักขโมย เมื่อถูกจับได้  ถูกเปิดเผยความจริง  ถูกขัดขวางไม่ให้สร้างกรรมชั่วต่อไป จะมีความแค้นและสะสมความแค้น ไม่ขจัดออกคิดด้วยการหาเหตุของความจริงว่าเราได้กระทำถูกต้องหรือไม่ กิเลสหนาบังตา คิดได้เพียงว่าข้าทำถูก ข้าอยากได้ก็ต้องได้ ใครขวางข้าจะต้องเอาคืนทุกวิถีทาง

ผมยังโชคดีที่ ลูกจ้างของพ่อกลับตัวเป็นคนดีได้ ทั้งที่เขาน่าจะโกรธเกลียดเคียดแค้นพ่อมาก และผมหลงไปอยู่ในมือเขาแล้ว เขากลับลบล้างความชั่วในจิตเขาด้วยการดูแลผมแล้วนำมาส่งถึงมือพ่ออย่างปลอดภัยและกล้าสู้กับความจริงมาขอโทษสิ่งที่เกิดขึ้น ผมถือว่าวันนั้น คือวันที่ทุกคนโชคดี เป็นวันดี

ถ้าหากว่าลูกจ้างของพ่อ

ได้ก่อกรรมชำระแค้นที่ผม  ผมคงหมดโอกาส สำหรับวันดี ดี

ถ้าหากว่าลูกจ้างของพ่อ

ไม่ได้สำนึกในกรรมที่ตนได้ทำ

เพราะความอยากของตน 

ผมคงปราศจากวันดี ดี

ถ้าหากว่าลูกจ้างของพ่อ

ยังเป็นคนอกตัญญู ไม่รู้คุณคน

ผมคงไม่มี วันดี ดี

ถ้าหากว่าลูกจ้างของพ่อ

ยังไม่กล้าออกเผชิญความจริง 

คงไม่เหลือวันดี ดี สักวัน

ถ้าหากว่าลูกจ้างของพ่อ

ยังก่อกรรมด้วยแค้นฝังจิตฝังใจต่อไป

 ต่อให้เป็นวันดี หรือไม่ใช่วันดี

ก็ต้องลงนรกทั้งเป็น หนีไม่พ้นเหมือนกัน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กชายอมร (อมร ศิริมาศกูล) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-04 15:00:10


ความคิดเห็นที่ 96 (142899)

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ

สาธุ....สาธุ....สาธุ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น กมลวรรณ์ ตาสาโรจน์ (tangtin-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-04 14:23:44


ความคิดเห็นที่ 97 (142900)

                      ขอขอบคุณ ทุกๆธรรมทาน ครับ

        มีความสุข จริงๆครับที่ยังได้รู้จักบ้านสวน

จากผมคนเคย เห็นแเก่ตัว ชั่วมาก นิสัยแย่

ยังมีบุญเก่า กับเค้าบ้างที่ได้รู้จัก ท่านแม่ และครอบครัว

และพี่ๆ บ้านสวน ทำให้รู้ว่า ที่นี้ละที่ เรามีความสุข

ในการมีชิวิตอยู่แม้ รอบๆเรามีแต่ของ

เสื่อมโสม แต่ รสพระธรรมนี้ ชนะเลิส จริง สาธุครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น พรพุทธ ศรีคุ้ม (tae_tpk-at-hotmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-04 14:32:54


ความคิดเห็นที่ 98 (142910)

     ขอกราบขอบพระคุณ ในคำสอนของท่านอาจารย์อุบล ครับ รู้สึกว่าโลกของเรายังขาด การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ถ้าเราไม่ช่วยเหลือคนอื่น วันที่เราล้ม ก็ไม่มีใครมาช่วยเราเหมือนกัน คงต้องปรับปรุงตัวใหม่สักที   

ผู้แสดงความคิดเห็น วีร์พสุตม์ ลิ้มสกุลภักดี (เอิ้น) (weepasuth-at-gmail-dot-com) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-04 19:01:04


ความคิดเห็นที่ 99 (142911)

มีแล้วค่ะคุณอ๋อย

ตอนนี้ มีสถาบันต่างๆ

ติดต่อเข้ามาหลายสถาบันแล้ว

 

สถาบันดังๆทั้งนั้นเลย

 

โอ้ย

แล้วจะเอาอะไร

ไปบรรยายให้เขาฟังล่ะเนี่ย

 

ยิ่งโง่ๆอยู่ด้วย

**********************************

ขอกราบอนุโมทนาบุญกับภารกิจ

ของท่านอ.แม่อุบล

และคณะลูกศิษย์ที่ติดตามด้วยค่ะ

จะคอยเกาะหน้าจอนะคะ

ว่า สถานที่ลำดับต่อไปที่จะได้รับ

เมตตาในครั้งนี้

จะเป็นที่ใดน้อ

หากใครได้ฟังท่านอ.แม่บรรยายแล้ว

ส่วนใหญ่หนูเห็นแต่ละคนเหมือนโดนมนต์สะกด

ตัวติดเก้าอี้กันทั้งนั้น

ไม่ว่าจะเคยรู้จักท่านมาก่อน

หรือไม่ก็ตาม

หากแม้นได้พบหน้า

ได้ฟังที่ท่านอ.แม่พูด

ล้วนแต่เกิดอาการจุก

จนไปไหนไม่เป็น

ยอม

ศิโรราบอย่างง่ายดาย

ตั้งแต่เด็กที่เดินเตาะแตะ

ยันคนแก่

ที่เดินต้วมเตี้ยม

เก่งมาจากไหนก็ หมดลาย

ลูกขอกราบพระบาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ทุกพระองค์

ในพระเมตตาอันมิอาจประมาณนี้

ที่มีต่อมนุษย์ที่โง่บ้า

บาปหนา ปัญญาอ่อน

กราบขอบคุณฟ้า เบื้องบน

ที่ประทาน

ท่านอ.แม่อุบลมาเกิดบนแผ่นดินไทย

มาเพื่อช่วยบรรเทาทุกข์

ให้แผ่นดิน

กราบขอบคุณอาจารย์พ่อมงคล

น้องท้อปด้วยค่ะ

สาธุ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อย เพ็ญศิริ บุตรมนต์ ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-04 19:18:29


ความคิดเห็นที่ 100 (142912)

หากแม้นได้พบหน้า

ได้ฟังที่ท่านอ.แม่พูด

ล้วนแต่เกิดอาการจุก

จนไปไหนไม่เป็น

ยอม

ศิโรราบอย่างง่ายดาย

ตั้งแต่เด็กที่เดินเตาะแตะ

ยันคนแก่

ที่เดินต้วมเตี้ยม

เก่งมาจากไหนก็ หมดลาย

-*-*-*-*-*-*-*-

กด Like เลยค่ะ

อ.อุบล สง่างามมั๊ก ๆ

สวด.ด.ด.  ยอด.ด.ด.

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ประวีณา แค้มป์ ( แมว ) ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2012-07-04 19:29:58



[1] 2 ถัดไป >>


Copyright © 2010 All Rights Reserved.